Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ต้นสัก

ต้นสัก

Published by ธิติพร, 2020-06-25 01:17:08

Description: หนังสือรับรองการเป็นสวนป่า และให้ผู้ปลูกจัดทำรายการบัญชีไม้ (สป.15) ไว้ควบคุมการตัดไม้

Search

Read the Text Version

สกั สว่ นปลกู ปา่ ภาคเอกชน สำนักส่งเสรมิ การปลูกป่า กรมป่าไม้

คำนำ กรมป่าไม้ได้จัดทำเอกสารเผยแพร่ข้อมูลพันธ์ุไม้ฉบับนี้ขึ้นเพ่ือให้เกษตรกรผู้สนใจ ปลกู พันธุ์ไมส้ ัก นำไปใช้เป็นแนวทางปฏิบัตใิ นการตัดสนิ ใจเลือกพันธ์ุไม้ทีจ่ ะใช้ในการปลูก สรา้ งสวนปา่ ใหเ้ หมาะสมกับทด่ี นิ ของตนเอง โดยรวบรวมผลการศึกษาและผลงานวจิ ัยของ นักวชิ าการป่าไม้ ตลอดจนตวั อยา่ งการดำเนนิ การปลูกไม้ ออกเปน็ หวั ขอ้ หลกั ๆ ไดแ้ ก่ ลักษณะท่ัวไปของตน้ ไม้ ปจั จัยแวดล้อมทเ่ี หมาะสมต่อการเจริญเติบโต อตั ราการเจรญิ เตบิ โต ปจั จัยและข้ันตอนการบำรงุ รักษาสวนปา่ ที่มีผลต่อการเพิม่ ผลผลติ การลงทนุ และผลตอบแทน จากการปลกู ตน้ ไม้ เพ่ือสรา้ งรายได้จากการปลกู ตน้ ไม้ชนดิ นี้ อกี ทง้ั ยงั ช่วยเพมิ่ พน้ื ท่ปี า่ ไม้ ชว่ ยแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อน สว่ นปลูกป่าภาคเอกชน สำนักสง่ เสริมการปลกู ปา่ ในฐานะผรู้ บั ผดิ ชอบการสง่ เสรมิ ปลูกปา่ ภาคเอกชน จึงขอขอบคุณนักวิชาการปา่ ไมผ้ เู้ ขียนทุกทา่ นเปน็ อย่างยิง่ ทมี่ ีสว่ นชว่ ย ใหก้ ารส่งเสรมิ การปลูกป่าภาคเอกชนบรรลุผลสมั ฤทธม์ิ ากย่ิงข้นึ และหวงั วา่ จะไดร้ ับความ ร่วมมือในการเผยแพร่สาระข้อมูลอันเป็นประโยชน์แก่ผู้สร้างสวนป่าเพ่ิมมากยิ่งข้ึนในโอกาส ต่อไป สว่ นปลกู ป่าภาคเอกชน สำนักสง่ เสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ 2553 1

สารบัญ หนา้ 1 คำนำ 3 สัก 4 ลักษณะทั่วไป 6 พ้นื ท่ที ี่เหมาะสมกบั การปลกู 10 การขยายพันธแ์ุ ละการผลิตกล้า 13 การเตรียมพืน้ ทปี่ ลูก การปลูก และการดูแลรักษา 22 การเจริญเติบโตและผลผลติ 27 แต่ละชว่ งอายุของไมส้ กั 28 ข้อจำกัดของไม้สกั 29 ระเบียบ และกฎหมายทเ่ี กีย่ วข้องกบั สัก 31 การใชป้ ระโยชน์ไมส้ ัก ข้อเสนอแนะ 2

สัก Tectona grandis L.f. ชอื่ วทิ ยาศาสตร ์ Tectona grandis L.f. ชื่อวงศ์ LABIATAE ช่อื พนื้ เมอื ง สัก(ทว่ั ไป) , เคาะเยยี โอ(ละวา้ เชียงใหม่) , ปาย้ี(กาญจนบรุ )ี , ปีฮอื ปฮี ี เป้อย(ี แมฮ่ อ่ งสอน) , เส่บาย้(ี กำแพงเพชร) 3

ลักษณะท่วั ไป ไมส้ กั เปน็ ไม้ผลัดใบขนาดใหญ่ มีลำต้นเปลาตรง โคนต้นเป็นพูพอนเล็กน้อย ก่งิ ออ่ นเป็นรูปเหลย่ี ม เรือนยอดเป็นทรงพมุ่ ทรงกลมค่อนข้างทึบ ลำต้นมคี วามสูง ตงั้ แต่ 20 เมตร ขึ้นไป ลำตน้ เปลือกหนา สเี ทา หรอื นำ้ ตาลออ่ นแกมเทา เรยี บหรอื แตกเปน็ รอ่ งเลก็ ๆ ตามความยาวของลำตน้ ลักษณะเนื้อไม้สักจะมีสีน้ำตาลทอง (เรียกว่าสักทอง) ถึงสี น้ำตาลแก่ และมักจะมีเส้นสีน้ำตาลแก่แทรก (เรยี กวา่ สักทองลายดำ) เนื้อไม้มีเสี้ยนตรง เน้อื หยาบ แข็งปานกลาง เลือ่ ยไสกบ ตกแตง่ งา่ ยไม่คอ่ ยยืดหดหรือบดิ งองา่ ยเหมือนไม้ ชนดิ อ่ืน ใบ เป็นแบบใบเดี่ยว แตกออกจากกิ่งเป็นคู่ ๆ ตรงข้ามกัน แต่ละคู่ตั้งฉากสลับ กันไปตามความยาวของกิ่ง (opposite decussate) รูปใบเป็นรูปรี (elliptic) หรือรูป ไข่กลบั (obovate) ใบยาว 30-60 เซนติเมตร พ้ืนใบด้านบนและด้านล่างสากมือ ท้องใบ สีเขียวทที่ ้องใบของใบออ่ นเม่ือขย้แี ล้วจะมสี ีแดงคล้ายเลอื ดใบสักจะร่วงผลัดใบในฤดูแล้ง ประมาณเดอื นพฤศจกิ ายน-มกราคม และจะแตกใบใหม่ประมาณเดือนเมษายน-มิถุนายน ดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศคอื มที ัง้ เกสรตวั ผแู้ ละตัวเมยี ในดอกเดยี วกนั มขี นาด เลก็ กลบี ดอกสีขาวนวล ออกเป็นช่อขนาดใหญ่ บริเวณปลายกิ่ง สักจะออกช่อดอกช่อ แรกที่ปลายยอดสุดของแกนลำต้นก่อนกิ่งอื่นๆ ต่อไปจึงจะเกิดดอกที่ปลายยอดของกิ่ง ดอกบานเพียง 1 วนั หลังจากน้นั ดอกทีไ่ ด้รบั การผสมแล้วก็จะเปลี่ยนแปลงเป็นผลต่อไป ในชว่ งเดือนกรกฎาคม–ตลุ าคม ผลและเมล็ด เป็นรูปร่างค่อนข้างกลมขนาดเสน้ ผา่ ศูนย์กลาง 1-2 เซนติเมตร ผลหนึ่งๆ จะมีเมล็ด 1-4 เมลด็ โดยทัว่ ไปมกั จะเรียกผลสกั วา่ “เมลด็ สกั ” ซึ่งเม่อื แก่ จัดจะเป็นสนี ำ้ ตาล ผลเริ่มแก่ในเดือนพฤศจิกายน-มกราคม มขี นาดเสน้ ผา่ ศนู ย์กลาง 0.5 -2.0 เซนตเิ มตร เมลด็ มลี ักษณะเปน็ รูปทรงไข่ ขนาดยาวประมาณ 0.6 เซนติเมตร และ กวา้ งประมาณ 0.4 เซนติเมตร เรียงไปทางแนวตัง้ ของผลสกั แตล่ ะเมล็ดจะถกู ห่อหมุ้ ดว้ ย เปลอื กหมุ้ เมลด็ ทม่ี ีลกั ษณะบาง ๆ 4

ในดา้ นการใชป้ ระโยชน์ไมส้ กั ไดม้ กี ารแบง่ คุณลักษณะของไมส้ ักโดยพิจารณาจาก สีของเนือ้ ไม้ การตกแตง่ ความแข็ง ความเหนยี วของเน้อื ไมอ้ อกเป็น 5 ชนดิ คือ 1. สักทอง เนื้อไมเ้ ปน็ สีน้ำตาลทอง เสยี้ นตรงตกแตง่ งา่ ย 2. สกั หนิ เนื้อไมส้ นี ำ้ ตาลหรือสีจาง ตกแต่งงา่ ย 3. สักหยวก เนื้อไม้สีนำ้ ตาลอ่อนหรอื สีจาง ตกแต่งง่าย 4. สกั ไข ่ เนื้อไม้สีนำ้ ตาลเขม้ ปนเหลือง มไี ขปนยากแกก่ ารตกแต่งและทาสี 5. สกั ขค้ี วาย เนื้อไมส้ ีเขียวปนน้ำตาล น้ำตาลดำดเู ปน็ สเี ลอะๆ ซึง่ ลักษณะความ แตกต่างของเนอื้ ไม้ดังกล่าวน้ี เป็นเพยี งประสบการณข์ องผ้ทู ำไมเ้ ทา่ นน้ั ยงั ไมอ่ าจพิสจู นไ์ ด้วา่ มผี ลมาจากพันธุกรรม หรือเกิดจากสภาพแวดล้อมที่ มนั ขึน้ อยู ่ เชน่ ชนิดของป่า ดิน หนิ ปรมิ าณนำ้ ฝน ฯลฯ 5

พื้นทที่ ่ีเหมาะสมกับการปลกู ไมส้ กั มีถ่ินกำเนิดอยู่ในตอนใตข้ องประเทศอนิ เดีย พมา่ ไทย ลาว (ส่วน ที่ติดภาคเหนือของไทย) และอินโดนีเซีย สำหรับประเทศไทยนั้น ไม้สักจะขึ้นอยู่เป็น ส่วนใหญใ่ นปา่ เบญจพรรณทางภาคเหนอื และบางส่วนของภาคกลาง ไม้สกั ชอบขึ้นตามพ้ืนทที่ ่ีเปน็ ภเู ขา หรอื ตามพื้นราบแตด่ ินระบายน้ำไดด้ ี น้ำไม่ ทว่ มขงั ซึ่งอาจจะเป็นดินรว่ นปนทรายหรือดินที่มีความลึกมากๆ โดยเฉพาะดินที่เกิดจาก หินปนู ซ่ึงแตกแยกผพุ งั จนกลายเปน็ ดนิ ร่วนลึกไม้สักจะเจรญิ เติบโตดมี าก มักข้ึนอย่เู ป็น กลุ่ม ไม้สักล้วนๆ เป็นหย่อมๆ หรืออาจขึ้นปะปนอยู่กับไม้เบญจพรรณอื่นๆ เช่น ไมแ้ ดง ประด่ ู มะค่าโมง ชงิ ชนั ตะแบก ฯลฯ โดยมไี มไ้ ผช่ นิดต่างๆ เป็นไม้ชนั้ ล่าง 6

ปัจจยั สำคญั ตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของไมส้ กั ซง่ึ อาจใชเ้ ปน็ แนวทางในการพจิ ารณา คัดเลอื กพืน้ ท่ใี นการปลูกไมส้ ักพอสรุปได้ดังน้ี 1. ไม้สักจะเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ชุ่มชื้นมากกว่าที่แห้งแล้งปริมาณน้ำฝนที่ เหมาะแก่การเจริญเตบิ โตและมเี นือ้ ไม้งดงามของไมส้ กั อยู่ระหว่าง 1 ,000–2,000 ม ลิ ลเิ มตร ตอ่ ป ี และฝนไมท่ ง้ิ ช่วงนานเกินไปในระหว่างฤดูการเจริญเติบโต นอกจากนี้จะต้องมีช่วง ฤดูแล้งทช่ี ดั เจน 3-4 เดอื น 2. อณุ หภูมทิ ีเ่ หมาะแกก่ ารเจริญเตบิ โตของไม้สักอย่รู ะหว่าง 25 – 35 เซนติเมตร 3. ไมส้ ักเปน็ ไมท้ ่ชี อบแสงสว่าง ความเขม้ ของแสงท่ีเหมาะสม คือ 75 – 95 เปอรเ์ ซน็ ต์ ของปริมาณแสงกลางวนั ทไ่ี ด้รับเต็มที่ การปลูกไม้สักจึงไม่ควรปลูกในร่ม หรือใกล้ต้นไม้ ใหญ่ซึง่ อาจบดบังแสงแดดแก่ตน้ ทีป่ ลกู ได้ 4. ดินที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของไม้สัก คือ เป็นดินที่มีการระบายน้ำ ได้ดี ไม่เป็นดินดาน ดินค่อนข้างลึก ดินร่วนปนทรายหรือเป็นดินที่เกิดจากการผุสลาย ของหินปูนและมีค่า pH ประมาณ 6.5 – 7.5 สว่ นดนิ ทีไ่ มเ่ หมาะสมกับการปลูกไม้สัก คือ ดนิ เหนยี ว ดนิ ลูกรัง ดินทราย และทม่ี ีน้ำทว่ มขงั 5. สภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของไม้สัก โดยทั่วไปจะมี ความสูงจากระดบั น้ำทะเลไมเ่ กิน 700 เมตร เป็นพ้นื ท่รี าบถงึ ลาดชันเล็กนอ้ ยไมเ่ กนิ 15 เปอร์เซ็นต์ 77

การขยายพนั ธแ์ุ ละการผลติ กล้าเพื่อปลกู ก ารขยายพนั ธุ์ไมส้ ักอาจกระทำได้ท้งั โดยวิธีใช้เมลด็ และวิธีไม่อาศัยเมล็ด การใช้ เมลด็ ขยายพนั ธุเ์ ป็นวิธที ใ่ี ชป้ ฏิบัตโิ ดยท่วั ไปในการปลกู สรา้ งสวนป่า เพราะเป็นวิธที ี่ง่ายและ เหมาะสมสำหรบั ผลิตกลา้ หรือเหง้าสกั จำนวนมากๆ สง่ิ ทคี่ วรคำนึงกค็ ือ เมลด็ ทใี่ ช้ควรเกบ็ มาจากแมพ่ ันธหุ์ รือแหลง่ พนั ธุท์ ม่ี ีลกั ษณะดี หรอื ได้รับการปรับปรุงพันธุ์มาแล้ว เช่น แหล่ง เก็บเมล็ดพนั ธ์หุ รือสวนผลิตเมลด็ พันธ ์ุ เทา่ น้นั การขยายพนั ธุโ์ ดยใช้เมลด็ จะเริม่ ต้นด้วยการเกบ็ หรอื จดั หาเมล็ดพันธุ์มาเพาะ หว่านในแปลงเพาะ ขนาดกวา้ งประมาณ 1 เมตร ยาวประมาณ 20 เมตร หรอื ตาม สภาพพืน้ ท ่ี โดยใช้เมล็ด 1 ลิตร ต่อพืน้ ทแี่ ปลงเพาะ 1 ตารางเมตร โดยพยายามหวา่ น ใหเ้ มลด็ กระจายอย่างสม่ำเสมอ หรอื อาจจะหวา่ นเปน็ แถวในร่องบนแปลงเพาะซึ่งห่างกัน แถวละ 10 ซม. ก็ได้ แลว้ กลบเมล็ดด้วยหนา้ ดนิ หลังจากหวา่ นเสรจ็ กม็ กี ารดแู ลรกั ษา โดยการกำจัดวชั พืช ป้องกนั โรคและแมลง ลดิ ใบ และใส่ปุ๋ยตามความจำเปน็ 8

การผลิตเหง้าสกั เมอื่ กล้าไม้สักงอกและเจรญิ เตบิ โตอยใู่ นแปลงเพาะเปน็ เวลาประมาณ 1 ป ี แลว้ จึงถอนขึ้นมาตัดแต่งใหเ้ ปน็ เหงา้ โดยตัดส่วนของลำต้นออกให้เหลือตา 1-2 คู ่ หรอื ยาว ประมาณ 1-2 เซนติเมตร พรอ้ มทั้งตัดรากแขนงและปลายรากแก้วออก เหลือแต่ส่วน ของรากแก้วยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ซึ่งเมื่อตัดแต่งแล้วจะเรียกว่า “เหง้าสัก” สำหรับใชใ้ นการปลูกต่อไป ขนาดของเหง้าทเี่ หมาะสมสำหรับปลกู ควรมเี สน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง ตรงคอรากประมาณ 1-2 เซนตเิ มตร สำหรบั เหงา้ ขนาดเลก็ ควรนำไปปกั ชำในถงุ พลาสตกิ เพอื่ ให้แตกเปน็ ตน้ กล้า ก่อนแลว้ จึงนำไปปลกู ต่อไป การขยายพนั ธโ์ุ ดยไม่อาศัยเมล็ดนัน้ เปน็ วธิ ีการท่ีคอ่ นข้างจะยงุ่ ยาก ตอ้ งใชเ้ ทคนคิ และค่าใชจ้ ่ายค่อนขา้ งสงู วิธีน้ีประกอบดว้ ยการติดตา การปกั ชำ และการเพาะเลยี้ งเนื้อ เยอื่ (Tissue Culture) หากเป็นการขยายพันธจ์ุ ากต้นที่ได้รับการคัดเลือกหรือผา่ นขบวน การปรับปรงุ พันธม์ุ าแล้ว กจ็ ะได้กลา้ ไม้ท่ีมลี กั ษณะดีโตเรว็ และเมอื่ นำไปปลกู จะเจริญเติบ โตอย่างสมำ่ เสมอกนั ด ี มรี ูปทรงตามท่ตี ้องการ 99

การเพาะเล้ียงเนอ้ื เยอ่ื การเพาะเล้ียงเนือ้ เย่อื น่าจะเป็นวธิ ที ี่จะนำมาใชไ้ ดเ้ หมาะสมทส่ี ดุ เพราะไมเ่ กดิ ปญั หา การไมย่ อมรับกนั ของตน้ ตอกบั ก่ิงหรือตาท่นี ำมาตดิ เชน่ ทพ่ี บในการตดิ ตาและตอ่ กง่ิ และเพม่ิ จำนวนไดร้ วดเรว็ กว่าการปักชำมาก นอกจากนี้สวนป่าทไ่ี ดจ้ ะมกี ารเจริญเติบโตที่สม่ำเสมอ เพราะถา่ ยทอดลักษณะท่ีดีจากแมไ่ ม้มาทงั้ หมด แตเ่ มอ่ื ทำการเพาะเลย้ี งเนอ้ื เยอ่ื ไมส้ กั อยา่ ง จริงจงั เพ่ือเพม่ิ จำนวนไม้สักพันธดุ์ ีขน้ึ เร่อื ยๆ กลบั พบว่ามปี ัจจยั และอุปสรรคทีจ่ ะทำใหก้ าร ดำเนินงานอาจลม้ เหลวได้หลายประการ เชน่ อาการผิดปกติต่างๆ ของเนือ้ เยอ่ื ระหว่างการ เพาะเลี้ยง ตั้งแตเ่ รมิ่ ตน้ การทำความสะอาดเนอ้ื เย่อื การขยายพนั ธเุ์ พม่ิ จำนวนไปจนกระทัง่ ถงึ การยา้ ยปลูก อกี ท้งั การขยายพนั ธ์ไุ ม้ดว้ ยการเพาะเล้ียงเนอ้ื เยือ่ นน้ั ตอ้ งการความรคู้ วาม สามารถเฉพาะบุคคล ประสบการณ์ ความละเอียดอ่อน ใช้เวลาในการศึกษาวิจยั กอ่ น และ มคี ่าใช้จา่ ยค่อนขา้ งสงู เม่อื เปรียบเทียบกับการขยายพันธว์ุ ิธอี ื่น ๆ ดงั นน้ั ผวู้ างแผนการปลกู ปา่ จะตอ้ งมขี ้อมลู ในการตดั สนิ ใจ เลือกวิธีการขยายพันธไ์ุ มส้ ักทจี่ ะนำไปปลกู สรา้ งสวนปา่ อยา่ งถกู ต้องตอ่ ไป ทีม่ าภาพ: สถานีบำรุงพันธไุ์ ม้สัก อ.งาว จ.ลำปาง 10

การติดตา ทมี่ าภาพ: สถานผี ลิตเมลด็ พนั ธ์ุไม้ปา่ แมก่ า อ.เมอื ง จ.พะเยา 11

การปักชำ ที่มาภาพ: สถานผี ลิตเมล็ดพนั ธ์ไุ มป้ า่ แม่กา อ.เมอื ง จ.พะเยา 12

การเตรยี มพน้ื ทป่ี ลกู การปลกู และการดแู ลรักษา การคดั เลอื กพืน้ ท่ี การคัดเลือกพื้นที่สำหรับปลูกไม้สัก ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ที่เอื้ออำนวย ตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของไม้สัก ตามท่ีได้กล่าวไวใ้ นหวั ขอ้ พืน้ ท่ีทเ่ี หมาะสมกบั การปลูกให้มากท่ีสดุ 1133

การเตรียมพนื้ ที่ การปลกู สกั ในเชิงธุรกิจ ควรเตรียมพื้นท่ีปลกู โดยใช้เครื่องจักรกล เช่นรถ แทรกเตอร์ เกรดปรบั ทแ่ี ละไถบุกเบกิ 1 ครงั้ และไถพรวนสลบั อีก 1 คร้งั หากพื้นท่มี ี ขนาดใหญ ่ ควรแบ่งออกเป็นแปลงย่อย แปลงละประมาณ 50-100 ไร ่ โดยเกรดเป็น ทางตรวจการรอบๆ เพ่ือความสะดวกในการปฏบิ ตั งิ านและการดูแลรกั ษา เมือ่ เตรียมทีเ่ สรจ็ แล้ว ทำการปักหลักหมายปลูก โดยใช้ไม้ไผ่ผ่าซีกขนาดความ ยาวประมาณ 0.50-1.00 เมตร ปกั ตามระยะทีก่ ำหนดไว้ระยะปลูกที่เหมาะสมหากสภาพ พื้นทดี่ มี ากอาจปลูกระยะ 4 x 4 เมตร (100 ต้น/ไร่) สภาพดีปานกลาง ควรปลกู ระยะ 3 x 3 เมตร (178 ต้น/ไร)่ หรือ 2 x 4 เมตร (200 ต้น/ไร่) ส่วนในสภาพพื้นที่ ไม่ค่อยดี ควรปลูกใหถ้ ่หี น่อย คือ 2 x 2 เมตร (400 ตน้ /ไร)่ 14

การปลกู การปลกู สัก มวี ธิ ีปลกู และจดั การจะแตกต่างกบั การทำการเกษตร หรอื สวนผลไม้ สวนสักต้องใชเ้ วลาในการเกบ็ เกย่ี วผลผลติ นานกวา่ การทำการเกษตร สวนสกั มวี ตั ถปุ ระสงค์ เพื่อต้องการเนื้อไม้ ราคาไม้ขึ้นกับคุณภาพ ขนาด และอายุของต้นไม ้ สิ่งสำคัญในการ พิจารณาปลูกสัก คอื ความเหมาะสมของพื้นที่ การจัดการ รปู แบบการปลกู ขนาดของ พื้นที่ ค่าใช้จ่ายในการลงทุน ควรวางแผนให้เป็นระบบรอบหมุนเวียน ให้ตัดไม้ได้อย่าง ตอ่ เนือ่ ง ชว่ งเวลาทเ่ี หมาะสมสำหรบั ปลูกสักทีจ่ ะใหผ้ ลดที ่ีสดุ คือ ชว่ งต้นฤดูฝนหลังจากที่ มฝี นตกหนักและดนิ ชุ่มชืน้ เพยี งพอ (เดอื นพฤษภาคม) หลังจากปลกู แลว้ หากเกดิ ฝน ท้ิงชว่ ง กค็ วรรดนำ้ ชว่ ย จะทำใหเ้ ปอรเ์ ซน็ ตก์ ารรอดตายสงู และมกี ารเจรญิ เตบิ โตอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง วิธีการปลูกด้วยเหง้า กระทำโดยใช้เหล็กชะแลงกระทุ้งดินให้เป็นรูลึกเท่าความ ยาวของเหง้าสัก แลว้ นำเหงา้ ท่ีเตรยี มไวเ้ ลียบลงไปให้พอด ี กับระดับดิน หรือต่ำกว่าผิว ดินเลก็ น้อยใชช้ ะแลงอัดดินขา้ งรปู ลกู ใหแ้ นน่ เพอ่ื ใหเ้ หง้าฝงั แน่นกระชับอยใู่ นดนิ วธิ ปี ลกู ดว้ ยเหง้านี้เปน็ วธิ ีที่ง่าย เสียค่าใช้จ่ายถูกและยังทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตดีด้วย เพราะใน เหง้าสกั มกี ารสะสมอาหารไว้สำหรบั การเจรญิ เตบิ โต 1155

ก ารปลูกด้วยเหง้าควรคัดเลอื กเหงา้ ทมี่ ีขนาดเทา่ กนั ปลูกในบริเวณเดยี วกัน เพ่ือ ใหต้ ้นไมเ้ ตบิ โตอยา่ งสมำ่ เสมอมากท่สี ดุ ก ารปลูกด้วยกล้าชำถุง เหมาะสำหรบั การปลกู ในพื้นทไ่ี ม่มากนกั หากไดม้ ีการ คดั เลือกกลา้ เป็นอยา่ งดี ก็จะไดต้ ้นสกั ท่ีเจรญิ เติบโตเร็ว และสม่ำเสมอเช่นกนั การปลูก สักด้วยกลา้ นคี้ วรขดุ หลมุ ปลกู ขนาด 20 x 20 x 20 เซนตเิ มตร รองกน้ หลุม ดว้ ยปุย๋ คอก ปุ๋ยหมกั ป๋ยุ เคมี ผสมกับหน้าดนิ และเศษใบไม้ หรอื วชั พืช กล้าไมท้ ่นี ำไปปลกู ควรมี ขนาดสูงไม่นอ้ ยกวา่ 30 เซนตเิ มตร และไดร้ ับการทำใหแ้ กร่งเป็นอยา่ งดแี ล้ว เมอื่ ปลกู แล้วอัด ดนิ รอบๆ โคนต้นใหแ้ น่น หากทำการรดนำ้ ดว้ ยในชว่ งฝนทง้ิ ช่วงกจ็ ะทำให้ตน้ ไมเ้ จรญิ เตบิ โต ไดด้ ีขน้ึ ท่ีมาภาพ: สถานผี ลติ เมลด็ พันธ์ไุ ม้ปา่ แม่กา อ.เมอื ง จ.พะเยา 16

การวางแผนการปลกู สกั ใหเ้ ปน็ ระบบรอบหมุนเวยี นปลกู และตดั ฟัน กำหนดอายตุ ดั ฟนั สัก ประมาณ 25-30 ปี ทำการแบง่ พ้ืนท่เี ป็น 8-10 แปลง ปที ่ี 1 ปลกู แปลงท่ี 1 ทำการปลกู เพ่ิมในแตล่ ะปี จนครบเต็มพน้ื ท่ีในปที ี่ 8-10 ปี ปตี อ่ มากลบั มา ทำการตัดขยายระยะแปลงที่ 1 หรือทีป่ ลกู ไวป้ ที ่ี 1 ทสี่ ามารถตดั ตอ่ เนอ่ื ง ในแปลงถดั ไป ทกุ ๆ ปี หลงั จากตัดขยายระยะสามารถปล่อยให้มีการสืบพนั ธตุ์ ามธรรมชาติ จะช่วยลดตน้ ทุน การผลิตได้ พน้ื ท่ปี ลกู ไม้สัก และทำการเกษตร แบง่ พ้นื ที่ แปลง แปลง แปลง แปลง แปลง แปลง แปลง แปลง ปลูก ท่ี 1 ท่ี 2 ที่ 3 ท่ี 4 ที่ 5 ที่ 6 ที่ 7 ที่ 8 ทำการปลกู ปที ่ี 1 ปีที่ 2 ปที ี่ 3 ปที ี่ 4 ปีที่ 5 ปีที่ 6 ปีท่ี 7 ปที ่ี 8 ตัดขยายระยะครั้งท่ี 1 ปีที่ 9 ปที ี่ 10 ปีที่ 11 ปีท่ี 12 ปที ่ี 13 ปีท่ี 14 ปีท่ี 15 ปีท่ี 16 ตดั ขยายระยะคร้งั ท่ี 2 ปที ี่ 17 ปีท่ี 18 ปีท่ี 19 ปที ี่ 20 ปที ่ี 21 ปีท่ี 22 ปีท่ี 23 ปที ี่ 24 ตดั ครง้ั สดุ ทา้ ย ปีที่ 25 ปที ี่ 26 ปีท่ี 27 ปีท่ี 28 ปที ี่ 29 ปีที่ ปที ่ี ปีที่ ปญั หาการตดั สางขยายระยะ ของผู้ปลูกสวนป่า มีดงั นี้ 1. ขอ้ จำกัดดา้ นตลาดและใช้ประโยชน์ของไม้ตดั สางขยายระยะครัง้ แรก เนื่องจาก เปน็ ไมข้ นาดเลก็ มีราคาตำ่ 2. ปญั หาการเลือกซอื้ ไมข้ องพอ่ คา้ ผ้ปู ลกู สวนป่าปลอ่ ยให้พ่อค้าเขา้ ไปคดั เลือก ตัดไมเ้ อง ซ่ึงจะเลอื กเฉพาะไมท้ ีม่ ีลักษณะดี และขนาดใหญ่ออก เหลอื แต่ไม้ทม่ี ขี นาดเลก็ ไมส่ มบรู ณ์ มกี ารเติบโตชา้ ทำใหผ้ ลผลิตท่ีจะได้ในอนาคต ไม่คุม้ คา่ การลงทุน 3. ผปู้ ลูกขาดความรู้ และความเขา้ ใจเกีย่ วกับการเตบิ โตของตน้ ไมก้ บั ความหนาแนน่ ของต้นไม้ ทำใหเ้ กษตรกรไม่ตัดสางขยายระยะ ปลอ่ ยใหข้ น้ึ หนาแนน่ แข่งขันตามธรรมชาติ 17

การบำรงุ รักษา การบำรงุ รกั ษาตน้ สักท่ปี ลูกแลว้ ตอ้ งกระทำอยา่ งต่อเนอ่ื งโดย เฉพาะในช่วงแรกๆ เพื่อให้ตน้ ไม้มีการเจริญเติบโตดี รอดตายสูง ปราศจากโรคและแมลงทำลาย การบำรุง รกั ษาสวนไม้สักประกอบดว้ ย 1. การแผว้ ถางวชั พชื ควรกำจัดวัชพืชให้โล่งเตยี นตลอดเวลา เพ่ือลดการ แกง่ แย่งธาตุอาหารในดนิ และเบียดบงั แสงแดดซ่ึงจำเป็นต่อการเจรญิ เติบโต และยังช่วย ปอ้ งกนั ไฟปา่ อนั อาจจะเกดิ ขึน้ ในฤดแู ล้งไดด้ ว้ ย 2. การใส่ปยุ๋ ในพื้นที่ที่มีดนิ เลว ควรใส่ปยุ๋ เพ่อื เร่งการเจริญเติบโตในระยะแรกๆ โดยใส่ปุ๋ยสตู ร 15 - 15 - 15 หรอื 22 - 11- 11 ใส่ตน้ ไมป้ ีละ 1-2 ครงั้ โดยปแี รก ใส่ครั้งละ 25 กรมั /ต้น ปีท่ี 2 50 กรัม/ตน้ ปีที่ 3 75 กรัม/ต้น ปที ี่ 4-5 ประมาณ 100 กรมั /ต้น หากใชป้ ุ๋ยเคมรี ่วมกบั ปยุ๋ คอกหรือป๋ยุ หมักด้วย กจ็ ะทำใหโ้ ครงสร้างของดิน ดขี ้นึ 3. การป้องกันไฟปา่ โดยทำทางตรวจการและแนวป้องกนั ไฟรอบๆ แปลง และ ควบคมุ วัชพชื ซ่งึ เป็นเชอื้ เพลิงในบริเวณสวนให้โลง่ เตียนตลอดฤดูแลง้ เพราะหากเกดิ ไฟป่าใน สวนสกั จะทำให้ต้นไมท้ ่ียังเล็กอยูไ่ ด้รบั ความเสียหายได้ 4. การป้องกนั โรคและแมลง โรคระบาดในแปลงเพาะสกั สว่ นใหญแ่ ลว้ ไมค่ อ่ ยจะ ปรากฎทง้ั นเี้ พราะแปลงเพาะสักเปน็ แปลงเพาะแบบเปิด (open nursery) ได้รบั แสงสว่าง อยา่ งเต็มที ่ อย่างไรก็ตามในสภาพที่รอ้ นช้นื (hot and humid) หรือในสภาวะท่ีการ ระบายน้ำของดินไม่ดีหรือในกรณีที่มีการนำเอาดินติดเช้ือมาใส่กล้าสักโดยเฉพาะอย่างย่ิง ในระยะแรกงอก หรือระยะเร่ิมตง้ั ตัวอาจถูกทำลายโดยโรคเนา่ คอดนิ (damping-off) ได้ ซ่งึ ลำตน้ และรากจะถกู ทำลายโดยเชือ้ รา (fungi) ทีร่ ะดับดนิ ทำใหเ้ ห่ียวเฉาตาย ซึ่งการ รักษาอาจทำโดยทำลายกล้าในแปลงที่เกิดการระบาด หรือพ่นกล้าสักด้วยยาฆ่าเชื้อรา (fungicide) ต่าง ๆ ท่ีมีขายตามท้องตลาด 18

สัตว์และแมลงทำลายแปลงเพาะเมล็ดสกั และกล้าสกั ก็นบั ไดว้ า่ มคี วามสำคญั ตอ่ การเพาะเตรยี มกลา้ สกั สัตว์ประเภทกัดแทะ (rodents) จะมาขุดคุ้ยกนิ เมลด็ สกั ท่หี ว่าน ในแปลง และกัดแทะเหงา้ สกั ทีส่ ะสมอาหาร ส่วนแมลงทำลายกล้าสักส่วนใหญ่แล้วจะเป็น พวกกินใบหรอื ทำลายใบ (defoliator) ได้แก่ ตัวหนอนพวกผีเสื้อพวก Hyblaea puera ซึ่งจะกัดกินใบอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้อาจมีพวกตั๊กแตนทำลายใบ และไรแดง (red spider) ซึ่งจะดูดน้ำเลี้ยง(cell sap) ของใบและยอดอ่อนทำให้ใบเป็นสีเหลืองปน น้ำตาล ล ดความสามารถในการปรุงอาหารทำใหก้ ลา้ ไมห้ ยดุ การเจริญเติบโต แ มลงอีกจำพวก หน่งึ ซ่งึ ทำอันตรายตอ่ กลา้ สกั โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ในฤดแู ล้ง ไดแ้ กพ่ วกปลวก(termites) ซึ่งจะกัดกนิ รากแก้ว (tap-root) ของกลา้ สกั เปน็ อาหารทำให้กลา้ สักเสยี หายลม้ ตายได ้ ซง่ึ บางครง้ั ดูแล้วอาจไม่ทราบสาเหตถุ ึงการตายของกลา้ สกั เลย ถ้าไม่มีการถอนรากแก้วมาดู ซึง่ การกำจัดแมลงต่าง ๆ ดงั กล่าวอาจมกี ารฉดี พ่นยาฆา่ แมลง (insecticides) เมอ่ื กล้าสัก ถูกทำลาย มอดปา่ เจาะไม้สกั (Teak beehole borer: Xyleutes ceramicus Walker) เป็นหนอนผเี สื้อกลางคนื เจาะลำตน้ (stem borer) ซึ่งเป็นศัตรูที่สำคัญท่ีสดุ ของไมส้ ัก โดย เฉพาะทางภาคเหนอื ของประเทศไทย (ถนอม และคณะ, 2509 และ ฉวีวรรณ, 2533ก) และในสวนป่าจะถกู รบกวนมากกวา่ ปา่ ธรรมชาติ (Akinson, 1937) โดยตัวหนอนเจาะไช ไม้สักสดยนื ต้น แมว้ ่าจะไมท่ ำใหต้ น้ ไมต้ าย แตก่ ็เกิดรอยตำหนิถาวรท่ีเรยี กว่า “รูมอดปา่ (beehole)” ภายในเนื้อไม้ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว และมีความยาว ประมาณ 10 นิว้ (Beeson, 1961) ไม้สักทีถ่ กู มอดปา่ เจาะจะมคี ณุ ภาพ และราคาตกอย่าง มากซ่งึ ไมเ่ ปน็ ทป่ี รารถนาของผบู้ ริโภค ดงั น้นั วธี ีการทีด่ ที ส่ี ุดคือการปลูกสักผสมไม้ชนิดอื่น ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาการระบาดของมอดป่าเจาะต้นสักได้ หรืออาจมีการ ควบคุมโดยการใช้สารเคมีหรือใช้สารจุลินทรีย์ชนิดต่างๆ ควบคุม แต่เป็นการแก้ปัญหา เฉพาะหน้าเท่าน้ัน แนวทางในการแก้ปัญหาระยะยาวนั้น ได้มีการศึกษาวิจัยกันเรื่อยมา จนกระทั้งปีงบประมาณ 2535 จงึ มีการวจิ ยั เกี่ยวกับการปลูกผสมสัก ซึ่งสวนป่าของ องค์การอตุ สาหกรรมป่าไม้ดำเนนิ การปลกู ไว้เมือ่ พ.ศ.2527 โดยมีหลกั การเพอื่ ลดปรมิ าณ อาหาร และเพิม่ ความหลากหลายของแมลง ตัวห้ำ ตวั เบยี น เพื่อให้สามารถควบคุมกัน เองไดภ้ ายในสงิ่ แวดลอ้ มนั้น 19

5. การลดิ ก่ิง (pruning) การลิดกงิ่ เปน็ การตดั ก่งิ ที่อยชู่ ว่ งลา่ งของลำต้นเพ่ือเปน็ การปรับปรุงคุณภาพของลำต้นของต้นไม้ส่วนใหญ่ท่ีเป็นท่อนซุงให้ตรงเปลาปราศจากตา การลดิ กง่ิ ตน้ สกั ควรใช้เล่ือย เพอ่ื การลิดกิง่ โดยเฉพาะตัดกง่ิ ให้รอยตดั เสมอกับผิวของลำต้น แล้วใชส้ ีขาวหรือปูนขาวป้ายรอยตดั นน้ั เพ่อื ปอ้ งกันเชือ้ ราเขา้ ทำลาย ควรเร่มิ การลดิ กง่ิ ตัง้ แต่ ปีท่ี 2 ไปเรื่อยๆ แต่ในระยะแรกนค้ี วรเป็นกจิ กรรม รว่ มกบั การแผ้วถางวัชพชื จากโรงงาน ปีท่ี 4 จงึ เรมิ่ ลิดก่งิ อย่างจริงจัง โดยตดั กิง่ ลา่ งๆ ออกไมเ่ กนิ ร้อยละ 30 หรือ 1 ใน 3 ส่วน ของเรอื นยอด จากนัน้ ควรกระทำในชว่ งปีที่ 6-9 อีกครั้งหน่ึง ในปีใดปหี นง่ึ ตามความ เหมาะสมของอัตราความเจริญเตบิ โต การลดิ กง่ิ ควรกระทำจนถึงระดับความสงู 5 เมตร ซ่งึ เป็นความยาวของซงุ ท่อนแรก ผลการลดิ ก่งิ จะปรากฏเมื่อถงึ คราวต้นสกั โตไดข้ นาด ตัดมาใชป้ ระโยชน์ โดยทซี่ ุงทอ่ นแรกจะปราศจากตาขนาดใหญ่ ซง่ึ จะเปน็ การเพม่ิ ช้นั คุณภาพ ของท่อนซงุ อนั เป็นการเพมิ่ ท้ังคุณค่าและราคาแก่ไม้ คา่ ลงทุนลดิ กง่ิ ต้นหนงึ่ เพียงส่วนน้อย แต่ราคาทเี่ พิม่ ข้ึนของไม้ตน้ นัน้ เพ่มิ เปน็ หลายเท่าตามลกั ษณะคุณภาพไม้ 6. ไฟป่าและการป้องกัน ไฟป่าในฤดูแล้งทำความเสยี หายใหแ้ กต่ ้นสักมาก สวนสกั ทม่ี ีอายไุ มเ่ กนิ 5 ปี ควรระวงั ไฟไหมเ้ พราะจะมผี ลให้ตน้ สักชะงกั ความเจรญิ เติบโต แตกกง่ิ ก้านสาขามาก รูปทรงลำตน้ ไมส่ วยงาม วธิ ปี อ้ งกันคือ หลงั จากถางวัชพชื แล้ว ควรรบี กวาดใหอ้ อกหา่ งจากต้นสกั และทยอยทำการชงิ เผากำจดั วัชพชื ที่เปน็ เชื้อไฟ (prescribe burning) ไปเร่อื ยๆ โดยควรหลกี เลี่ยงการชงิ เผาในตอนกลางวันเพราะอากาศรอ้ นไฟจะไหม้ รนุ แรง และอาจลุกลามทำความเสยี หายแก่ต้นสกั ได้ 20

7. การตัดสางขยายระยะ (thinning) สวนสักทใี่ ช้ระยะปลกู 4x4 เมตร หรอื 100 ตน้ ตอ่ ไร่ ถ้ามีเปอรเ์ ซ็นตร์ อดตายถงึ 90 เปอรเ์ ซน็ ต์ เมอ่ื คา่ ความโตทางเส้นรอบวง (GBH) เฉลย่ี ของสวนสักถงึ 40 เซนตเิ มตร ก็เรมิ่ ทำการตัดขยายระยะได้ สำหรับไมท้ ่ี ตัดออกนจี้ ะเป็นรายไดเ้ บ้ืองต้นทเี่ กษตรกรไดร้ ับในการปลกู สรา้ งสวนป่าสกั และเพื่อเปดิ โอกาสให้ต้นไม้เจริญเตบิ โตไดเ้ ตม็ ที่ ปที ่ี เหตุการณ์ ระยะปลูก จำนวนต้น ตน้ ไม้ที่ตดั ตน้ ไม้ ปรมิ าตรท่ี ท่เี หลอื ตัดสาง 1 ปลกู 2x2 400 ในแปลง ขยายระยะ 5 ตดั สางขยายระยะ ครง้ั ท่ี 1 2x4 200 200 ออก 10 ตดั สางขยายระยะ ครง้ั ท่ี 2 200 15 ตัดสางขยายระยะ คร้งั ที่ 100 100 100 20 ตดั สางขยายระยะ ครง้ั ท่ี 2211

การเจริญเติบโตและผลผลติ แตล่ ะชว่ งอายขุ องไมส้ ัก ไม้สักจัดได้ว่าเป็นไมโ้ ตเร็วชนดิ หน่ึงเมือ่ เทยี บกับไมช้ นดิ อน่ื อีกหลายๆ ชนดิ โดย เฉพาะอยา่ งย่ิงการเจริญเติบโตในช่วง 10 ปีแรกจะเร็วมาก อย่างไรก็ตาม ไม้สักจะโต เร็วมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ทสี่ ำคัญ คือ (1) สภาพพ้นื ทีท่ ี่ปลูก รวมทงั้ การเตรียมพ้นื ท ี่ (2) การจัดการสวนป่ารวมทั้งการบำรงุ รักษาและ (3) คุณภาพของเมลด็ หรอื กล้าพนั ธ์ุที่ใช้ปลูก ในพ้นื ที่ทเ่ี หมาะสมและมีการจัดการสวนป่าเป็นอย่างดี ต้นสักอายุ 10 ปี จะ สูงเฉล่ียมากกวา่ 15 เมตรขึ้นไป และมีเส้นผ่าศูนยก์ ลางเฉล่ยี มากกว่า 15 เซนติเมตร มีผลผลิต (ไมท้ อ่ น) สงู กวา่ 13 ลูกบาศก์เมตรต่อไร ่ หลังจากนั้นการเจริญเติบโตทาง ความสงู จะลดลง แตค่ วามโตทางเสน้ รอบวงจะยังคงเพิ่มขน้ึ อีกเรื่อยๆ อายุ เส้นผา่ ศนู ย์กลาง ความสูงของไม้ช้ัน จำนวนตน้ พน้ื ทห่ี นา้ ตดั ไม้ ปริมาตรท่ที ำ (ปี) เพยี งอก (ซม.) เด่นและช้นั รอง (ม.) (ต้น/ไร)่ (ตร.ม./ไร่) เปน็ สินคา้ ได้ 2.39 (ลบ.ม./ไร่) 10 15.01 17.0 130 2.92 15 19.44 20.5 92 3.33 13.03 20 22.90 23.0 75 3.64 18.58 25 25.30 24.5 65 3.94 22.97 30 27.86 26.0 58 4.18 26.19 35 29.85 27.0 53 4.37 29.40 40 31.36 27.5 49 4.53 32.04 45 32.63 27.8 47 4.68 34.09 50 33.89 28.0 45 4.87 35.41 55 35.40 28.5 42 5.03 37.61 60 36.67 28.8 40 39.66 41.48 22

มณฑี (2536) ไดศ้ ึกษาขอ้ มลู จากฝ่ายอุตสาหกรรมปา่ ไม้ ภาคตะวันออกและ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และไดใ้ หแ้ นวทางในการจดั การและคดิ ผลตอบแทนจากการปลูก ไมส้ ักทองไวด้ ังนี้ 1. ปลูกไมส้ กั ทอง ระยะ 3x3 เมตร (ไรล่ ะ 178 ตน้ ) 2. ปีท่ี 6 พจิ ารณาตัดไมส้ ักทม่ี ีลักษณะไมด่ ี แคระแกรน คดงอ ออก 45 ต้น (25 เปอร์เซน็ ต)์ เพอ่ื ชว่ ยไมส้ กั ทอง ทมี่ ีลกั ษณะดีท่ีเหลอื ไวจ้ ำนวน 133 ต้น ใหโ้ ตเรว็ ข้ึน 3. ปีที่ 11 ตัดสางไมส้ ักทองออก 67 ตน้ (50 เปอร์เซ็นต)์ ไม้สักทองทีต่ ัดออก จำนวน 67 ต้น ปริมาตรตน้ ละ 0.16 ลกู บาศก์เมตร ปริมาตรรวม 10.7 ลูกบาศกเ์ มตร ขาย ลูกบาศก์เมตรละ 2,800 บาท เปน็ เงิน 29,960 บาท (ปี 2536 อ.อ.ป. ขายไม้ซุงขนาด เล็ก ราคาเฉลย่ี ลูกบาศกเ์ มตรละ 2,800-2,900 บาท) ซึ่งเป็นรายได้เสริมแก่ผปู้ ลูกในระยะ แรก 4. ปีท่ี 15 ตัดไมส้ ักทองออกทง้ั หมด 66 ตน้ ปริมาตรต้นละ 0.3 ลกู บาศกเ์ มตร ปรมิ าตรรวม 19.8 ลกู บาศก์เมตร ขายลกู บาศก์เมตรละ 7,714 บาท เปน็ เงนิ 152,737 บาท ดงั ตารางแสดงผลตอบแทนจากการปลูกสวนสักเชงิ ธรุ กจิ (เนื้อท่ี 1 ไร่ ระยะเวลา 15 ป)ี 23

ตารางแสดงผลตอบแทนจากการปลกู สวนสกั เชิงธุรกจิ (เน้ือท่ี 1 ไร่ ระยะเวลา 15 ป)ี รายละเอียด รวม ปีท่ี 1 ปีที่ 2 ปีท่ี 3 ปที ่ี 4 ปที ี่ 5 1. รายได:้ ปที ่ี 11 ตัดออก 67 ต้น ๆละ 0.16 ลบ.ม. ลบ.ม. ละ 2,800 บาท 29,960 ปีท่ี 15 ตัดหมด 66 ต้น ต้นละ 0.30 ลบ.ม. 7,714 บาท รายได้รวม 182,697 2. รายจ่าย: สำรวจรงั วดั พ้นื ที่ 15 15 เตรยี มพ้นื ท่ี 800 800 คา่ หลกั 30 30 ค่าปักหลกั 100 100 ค่ากลา้ สักและปลูก, ปลกู ซ่อม 1,135 1,065 70 กำจดั วชั พืช 2,100 300 300 200 200 100 ค่าปุย๋ และใส่ป๋ยุ 880 80 130 190 240 240 ป้องกนั ไฟ 1,500 100 100 100 100 100 ทำทาง ซอ่ มทางตรวจการ 800 100 50 50 50 50 สำรวจกำลงั ผลติ 225 15 15 15 15 15 ลดิ กิง่ 440 20 30 40 50 คา่ ตดั สางขยายระยะ 1,100 คา่ ตดั ไมค้ รั้งสุดทา้ ย 2,000 รายจ่ายรวม 11,125 2,605 685 585 645 555 3. ผลตา่ ง: รายได้-รายจ่าย รายได้ 182,697 รายจ่าย 11,125 2,605 685 585 645 555 กำไร (ขาดทุน) 171,572 2,605 685 585 645 555 ทีม่ า; มณฑี (2536)

หน่วย: บาท ปที ่ี 6 ปีที่ 7 ปที ่ี 8 ปที ี่ 9 ปีท่ี 10 ปที ่ี 11 ปที ี่ 12 ปที ี่ 13 ปที ี่ 14 ปที ี่ 15 29,960 152,737 29,960 152,737 100 100 100 100 100 100 100 100 100 100 100 100 100 100 100 100 100 100 100 100 50 50 50 50 50 50 50 50 50 50 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 60 60 60 60 60 100 1,000 2,000 425 325 325 325 325 1,265 265 265 265 2,265 29,960 152,737 425 325 325 325 325 1,265 265 265 265 2265 425 325 325 325 325 28,695 265 265 265 150,472 25

ตารางการเจรญิ เตบิ โตของไม้สัก ทางเส้นผ่าศนู ย์กลางระดับอก ทางความสงู ทางปรมิ าตร และความหนาแน่นของเปลอื กในระดบั อายุต่างๆ กัน อายุ เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางระดบั อก ความสูง ปรมิ าตร 2 x ความหนาเปลือก (ปี) (ซม.) (ม.) (ตร.ม.) (ซม.) 10 4.8 4.8 0.02 0.95 20 10.4 10.1 0.053 1.36 30 15.4 14.8 0.14 1.8 40 20.4 18.8 0.285 2.3 50 25.8 22.6 0.485 2.78 60 31.6 25.8 0.75 3.04 70 34.4 28.1 0.97 3.14 80 36.6 30 1.16 - 90 38.9 31.4 1.34 - 100 40.6 32.6 1.5 - 110 42.4 33.4 1.645 - 120 44 34 1.762 - 130 45.4 34 1.9 - 26

ขอ้ จำกดั ของไม้สัก การปลกู ไมส้ ักอาจจะมขี ้อจำกัดบางประการ ดังตอ่ ไปน้ี (1) ดา้ นสภาพพื้นท ่ี ไม้สกั ไมช่ อบพนื้ ทีล่ มุ่ ท่ีชืน้ แฉะ มีน้ำทว่ มขงั ดินระบายน้ำไมด่ ี เชน่ ดินเหนยี ว ดนิ ลูกรงั ดินดาน และดนิ ท่ีเป็นทรายจดั หรือดินตนื้ มากๆ (2) ดา้ นสภาพแวดลอ้ ม ไมส้ กั จะ เจริญเติบโตไมด่ ีในที่แหง้ แลง้ หรือมีฝนตก ไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในชว่ งฤดูการเจริญ เติบโต (3) การปลูกไมส้ กั ลว้ นๆ เปน็ ผนื ใหญ่ๆ อาจก่อใหเ้ กดิ โรคและแมลง เข้าทำลายได้งา่ ย เชน่ หนอนกินใบสกั และมอดปา่ เจาะไมส้ ัก เป็นต้น 27

ระเบียบ และกฎหมายท่ีเก่ียวข้องกบั สกั กฎหมายที่เก่ยี วขอ้ งกับการปลูกสัก ได้แก่ 1) พระราชบญั ญตั ปิ า่ ไม้ พ.ศ.2484 2) พระราชบัญญัตสิ วนปา่ พ.ศ.2535 3) พระราชบญั ญตั เิ ล่ือยโซ่ยนต์ พ ระราชบญั ญตั ิปา่ ไม้ พ.ศ.2484 ได้กำหนดสักเปน็ ไมห้ วงห้ามประเภท ก ไม่ วา่ จะขน้ึ ทใี่ ด เม่อื จะทำการตดั ตอ้ งมกี ารขออนุญาตและค่าภาคหลวง ซึ่งเมื่อรัฐบาลได้ สนบั สนุนและส่งเสริมใหป้ ระชาชนปลกู สวนปา่ จงึ ไดอ้ อกกฎหมาย คอื พระราชบัญญตั ิ สวนปา่ พ.ศ.2535 เพอื่ ให้ผู้ปลูกสวนปา่ สามารถตดั ไม้สกั เพ่อื ความสะดวก และไม่ ตอ้ งเสยี คา่ ใช้จา่ ย เพยี งแตม่ รี ะเบยี บ และข้นั ตอนในการปฏิบตั ิ โดยการขึน้ ทะเบยี นสวนป่า การแจ้งตัด การจดั ทำบญั ชไี ม้ พ ระราชบญั ญัตสิ วนป่า พ.ศ.2535 ประชาชนสามารถปลกู ตน้ สกั ในทข่ี องตนเอง ทม่ี กี รรมสิทธิ์ได้ สำหรับการตัดไมส้ กั หรอื การทำไม้ออก ผู้ปลกู ตอ้ งปฏิบัติตามพระราชบญั ญัติ สวนปา่ พ.ศ.2535 โดยการนำทดี่ ินทป่ี ลกู ไม้สักไปขึน้ ทะเบยี นสวนปา่ กรมป่าไม้จะออก หนังสอื รับรองการเปน็ สวนป่า และให้ผูป้ ลูกจดั ทำรายการบญั ชไี ม้ (สป.15) ไว้ควบคมุ การตัดไม้ และใช้สำหรบั แสดงเมือ่ นำไมเ้ คล่อื น พ ระราชบญั ญตั ิเลื่อยโซ่ยนต์ ประกาศมาใช้เพื่อป้องกัน และปราบปรามการ ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า โดยควบคุมการมีไว้ในครอบครอง และการนำเข้ามาในราช อาณาจักร ภาคเอกชนสามารถมีครอบครองได้ โดยขออนุญาต และขึ้นทะเบียนเลื่อย- โซ่ยนต์ กับพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐในแต่ละจังหวัด ซึ่งต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และข้ันตอนในการขออนุญาต 28

การใช้ประโยชน์ไม้สัก ไมส้ กั เป็นไม้ที่เราสามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ไดแ้ ทบ ทุกรูปแบบตามอายุและขนาดของไม้ที่ตัดออกมาจำหน่าย ต้ังแต่ ไม้ซุงขนาดใหญ่ เพื่อแปรรูปใช้ในการก่อสร้างอาคาร บ้านเรอื น เฟอร์นเิ จอร ์ ไม้ปารเ์ ก้ ไมอ้ ัด ไม้แกะสลกั ต่อเรือ ฯลฯ ไม้ซุงขนาดเล็กลงมาที่ได้จากการตัดสางขยายระยะใน สวนป่า ปีที่ 11 สามารถนำมาทำบ้านไม้ซุง (log home) ได้อย่างสวยงามและคงทนหรอื นำมาผ่าซีกทำเป็นไม้โมเสค วงกบ ประตู หน้าต่างได้ ซง่ึ เป็นทน่ี ยิ มกันมาก เนื่องจากไม้สกั มีเนื้อไม้ สวยงาม เห็นเส้นวงปีชดั เจน เนื้อไม้แขง็ ปานกลาง เลือ่ ยใสกบ ตกแต่งได้ง่าย มคี ่าความหนาแนน่ 642 กก./ลบ.ม. ค่าความถ่วง จำเพาะ 0.62 ค่าความรอ้ น 5,094 แคลลอร/่ี กรมั 2299

ไม้ซงุ ขนาดใหญ่ ไมซ้ งุ ขนาดเลก็ ไม้แปรรูป ปกี ไม้ เกา้ อไ้ี มส้ ัก ไม้ระแนง 30

ขอ้ เสนอแนะ (1) ควรเลอื กพ้นื ท่ีปลกู ที่มีความเหมาะสมกบั การเจริญเติบโตของไม้สักมากที่สุด เท่าทีจ่ ะมากได้ โดยเฉพาะอย่างย่งิ เรอื่ งของดินและการเตรียมพื้นที่ควรทำให้ประณีตที่สุด (2) ในทแ่ี หง้ แลง้ ฝนตกไมต่ รงตามฤดกู าล ควรมีระบบการรดน้ำดว้ ย (3) การปลูกสักในที่ดินผืนใหญ่ ควรแบ่งแปลงปลูกออกเป็นแปลงย่อยๆ โดย ปลูกไม้มคี ่าชนิดอ่นื ๆ เปน็ แนวกั้น เพ่ือลดความรนุ แรงจากโรคและแมลงทำอันตราย (4) ควรนำระบบวนเกษตรมาใช้ดว้ ย เพราะนอกจากจะชว่ ยใหต้ ้นสักเจรญิ เตบิ โต ดีขึน้ แล้ว ยังสามารถไดร้ ับผลผลิตจากพืชเกษตรท่ปี ลูกควบอกี ทางหน่งึ ดว้ ย (5) คา่ ใช้จา่ ยในการลงทุน การปลูกสักให้ผลตอบแทนคุ้มการลงทุน จำเปน็ ตอ้ งลดตน้ ทนุ การผลิต หรอื ให้ มคี ่าใชจ้ ่ายในการลงทนุ นอ้ ยท่ีสดุ ควรกำหนดกิจกรรมเกี่ยวกับการปลูกและบำรุงเท่าที่ จำเปน็ การคดั เลอื กพนื้ ท่ีท่เี หมาะสมกบั การเติบโตของสัก จะทำให้ได้ผลผลิตคุ้มค่าการ ลงทนุ และลดต้นทนุ การบำรงุ ดแู ล 3311

ที่ ผา่ นมาการปลูกสักของภาคเอกชน มีค่าใชจ้ า่ ยแตกตา่ งกัน ตง้ั แต่ 1,000- 10,000 บาทตอ่ ไร่ คา่ ใชจ้ ่ายส่วนมากเป็นคา่ กล้าไม้ คา่ ปลกู และกำจดั วชั พืช ในระหว่าง ปที ่ี 1 ถึง 3 ปีแรก หลงั จากนนั้ ค่าใช้จา่ ยน้อยลงมาก หรอื ไม่มีค่าใช้จา่ ย สามารถปลอ่ ยใหส้ กั เตบิ โตธรรมชาติ ค่าใช้จา่ ยอนื่ ๆ ได้แก่ การป้องกนั ไฟ การรดิ กงิ่ การตัดขยายระยะ ก ารปลกู สวนป่าต้องใชเ้ วลานาน หลายปีในการเกบ็ เกย่ี วผลผลิต การปลูกเตม็ พืน้ ท่ี ในระยะแรกตอ้ งใช้เงินทนุ จำนวนมาก ควรวางแผนค่าใช้จา่ ย จนตน้ ไม้เติบโตท่ีตัดฟันได้ ซ่งึ รายไดผ้ ลผลติ ไมท้ ีจ่ ะได้ราคาดี จะไดใ้ นรอบตดั ฟันท่ี 2 คือไมท้ อี่ ายุ 15 ปี ข้นึ ไป ผู้ปลูก สามารถทำการปลกู จากนอ้ ย ค่อยๆ ปลกู เพ่มิ 32

สนใจรายละเอียด ติดตอ่ ได้ที่ :- สว่ นปลกู ปา่ ภาคเอกชน สำนกั ส่งเสรมิ การปลูกป่า กรมป่าไม้ เขตจตุจกั ร กทม.10900 โทร. 0 2579 7725, 0 2561 4292-3 ตอ่ 5536 สำนกั จัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1-13 สำนักจัดการทรพั ยากรปา่ ไมส้ าขาทุกสาขา

สกั สว่ นปลกู ป่าภาคเอกชน สำนกั ส่งเสรมิ การปลูกป่า กรมปา่ ไม้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook