กาญจนบุรี จัดทำโดย นางสาว รุ่งประภา กันถิน TG.3101 เลขที่ 3 วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนาเชี่ยงใหม่
กาญจนบุรี ความเป็นมาของกาญจนบุรีเท่าที่มีการค้นพบหลัก ฐานนั้น ย้อนไปได้ถึงสมัย ก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อ มีการค้นพบเครื่องมือหินในบริเวณบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี ล่วงมาถึงสมัย ทวารวดี ซึ่ง มีหลักฐานคือซากโบราณสถานที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี เป็นเจดีย์ลักษณะเดียวกับจุลประ โทนเจดีย์ที่ จังหวัดนครปฐม บ้านคูบัว จังหวัด ราชบุรี และเมืองอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี รวมทั้ง ค้นพบ โบราณวัตถุ เช่น พระพิมพ์สมัยทวารวดี จำนวนมาก สืบเนื่องต่อมาถึงสมัยพุทธศตวรรษที่ 16-18หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ค้นพบคือ ปราสาทเมืองสิงห์ซึ่งมีรูปแบบศิลปะแบบขอม สมัย บายน
สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ กาญจนบุรี
เขาช้างเผือก (Khao Chang Phueak) สถานที่แรกเรียกได้ว่าเอาใจสายปีนเขา สายเดินป่ารักการเดินทางแบบ adventure สุดๆไปเลย เขาช้างเผือก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีโดยจุดสตาร์ตของ การเดินทาง จะเริ่มจากบริเวณหลัง หมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก อำเภอ ทองผาภูมิ ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงในการ เดินขึ้นไปจนถึงจุดกางเต็นท์
เขาช้างเผือก (Khao Chang Phueak)
น้ำตกเอราวัณ (Erawan Falls) พักเขามาหาน้ำตกกันบ้างดีกว่า สถานที่ต่อไป คือ น้ำตกเอราวัณ หรือชื่อเดิมว่า“น้ำตกสะด่อง ม่องล่าย” เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งไม่ แพ้ที่ไหนในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ น้ำใส ไหลเย็นเห็นตัวปลา อีกทั้งสีน้ำของน้ำตกแห่ง นี้ยังมีสีสะท้อนแสงเป็นสีฟ้าอมเขียวมรกตอีก ด้วยการเดินขึ้นไปชมให้ครบทั้ง 7 ชั้นใช้เวลา รวมเกือบ 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่เมื่อเดินทาง มาถึงที่นี่แล้ว เพื่อชมความสวยงามของน้ำตก ให้เต็มที่ ก็ต้องเดินขึ้นไปถึงชั้น 7 ไม่งั้นจะ ถือว่ามาไม่ถึงน้ำตกเอราวัณ จุดไฮไลต์ของ น้ำตกแห่งนี้ อยู่ในชั้นที่ 7 เมื่อน้ำตกไหลลง มาจะมีลักษณะคล้ายกับเศียร 3 เศียร ที่รู้จัก กันในชื่อ ช้างเอราวัณ จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตก แห่งนี้นั่นเอง
น้ำตกเอราวัณ (Erawan Falls)
ลำคลองงู (Lam Khlong Ngu) สถานีต่อไปลำคลองงู เหล่าสายลุยหลายๆ คนอาจจะ คุ้นเคยกันมาบ้าง และสำหรับคนที่ไม่รู้จักมาก่อนก็อาจ จะคิดว่าเป็นแม่น้ำที่เต็มไปด้วยงูแน่ๆแต่ที่นี่ ลำคลอง งู คือ ถ้ำหินที่เกิดลำห้วยที่ไหลกัดเซาะของหินปูน ขนาดใหญ่ ทำให้มีถ้ำอยู่หลายแห่งอยู่ในนั้น รวมไป ถึงเสาหินที่มีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในโลกถึง 62.5 เมตรเสาหินนี้เกิดจากการทับถมกันของหินงอก หินย้อยมาเป็นเวลานานนับล้านปีจึงกลายมาเป็นหิน ขนาดยักษ์ได้เบอร์นี้ เรียกได้ว่าเป็นการเอาใจสาย ผจญภัยที่อยากเจอสถานที่ใหม่ๆ สุดๆ ในการเตรียม ตัวก่อนการเดินทางไปลำคลองงูนั้น ผู้เดินทางจะ ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ สำหรับการเดินป่าและการลุยน้ำ เพราะที่นี่เรียกได้ว่า คือสถานที่ที่ extreme สุดๆ
ลำคลองงู (Lam Khlong Ngu)
จุดชมวิวป้อมปี่ (Pom Pee View Point) เดินทางกันมาถึงสถานที่ที่ 4 กันแล้วนะคะ นั่นก็คือ จุดชมวิว ป้อมปี่ โดยคำว่า ป้อมปี่ เป็นชื่อเรียกที่เพี้ยนมาจากภาษากระ เหรี่ยงนั่นก็คือ “เปอปี่” แปลว่า ต้นอ้อ เนื่องจากในบริเวณนี้มีดง ต้นอ้อขึ้นมากมายเลยทีเดียวจุดชมวิวแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ใกล้อ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์จุดชมวิวป้อมปี่ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้ ภูเขา สายน้ำ บรรยากาศดีงาม ถูกใจสายรักธรรมชาติที่อยากมาพัก ผ่อนแน่นอน จนมีฉายาว่า เป็นปางอุ๋งของเมืองกาญกันเลยที เดียว สามารถมาท่องเที่ยวได้ทั้งปี แต่ช่วงที่เหมาะสมที่สุดคือ ช่วงปลายฝนและช่วงหน้าหนาว ความพิเศษของสถานที่แห่งนี้คือ เมื่อถึงฤดูน้ำลด เราจะมองเห็นก้านของกิ่งไม้ที่โผล่พ้นน้ำ เป็น ความสวยงามที่น่าสนใจและไม่ค่อยพบเห็นได้บ่อยนัก นักท่อง เที่ยวที่มาเยือนที่นี่ส่วนใหญ่จะนิยมมากางเต็นท์ค้างแรม
จุดชมวิวป้อมปี่ (Pom Pee View Point)
สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ กาญจนบุรี (Safari Park Open Zoo and Camp, Kanchanaburi) สถานที่สุดท้ายของวันนี้ รับรองว่าถ้าได้เห็นก็คงอุทาน เป็นเสียงเดียวกันว่า ไอต้าวว แน่นอน สถานที่นี้คือ สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ กาญจนบุรี ที่จะพาทุกคนไปเปิดโลกสัตว์ป่าที่น่ารักหลากหลาย สายพันธุ์ ที่มีด้วยกันทั้งหมดถึง 8 โซนและแต่ละจุดนั้น มีรั้วกั้นแบ่งแยกตามชนิดของสัตว์อย่างชัดเจน เอาใจ คนรักธรรมชาติและคนรักสัตว์สุดๆ ไปเลยกิจกรรมที่ เรียกได้ว่าเป็นไฮไลต์ของที่นี่นั่นก็คือ การได้ให้อาหาร แบบใกล้ชิดกับบรรดาน้องๆ ทางสวนสัตว์จะมีให้บริการ รถนำเที่ยวเป็นบัสคันเล็กเป็นเวลา 30 นาที โดยเรา สามารถให้อาหารสัตว์แต่ละตัวผ่านกระจกรถมินิบัสได้ เลย หรือ สามารถนำรถส่วนตัวของเราเข้าไปด้านในได้ เลย แต่ทางสวนสัตว์จะไม่รับผิดชอบหากมีรอยขีดข่วน ที่เกิดขึ้นจากสัตว์นะคะ เพราะกิจกรรมนี้จะใกล้ชิดกับ น้องสัตว์ได้เต็มที่แบบไม่มีรั้วกั้นกันเลย
สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ กาญจนบุรี (Safari Park Open Zoo and Camp, Kanchanaburi)
สถานที่ท่องเที่ยว ทางศิลปวัฒนธรรม
สะพานข้ามแม่น้ำแคว แลนด์มาร์คแรกๆ ที่ทำให้เราคิดถึงเมืองกาญจน์ ตรงที่แห่งนี้เป็นจุดเชื่อมโยงของประวัติศาสตร์ โลกในหน้าสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นอนุสรณ์ สงครามมหาเอเชียบูรพา ค่ะ ไฮไลท์ในการมาเที่ยวที่นี่ก็คือ การได้มาเดิน บนรางรถไฟบนสะพานข้ามแม่น้ำแควซึ่งมีระยะ ทาง 300 เมตร ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินบนรางรถไฟ ชมความงามของสองฝากฝั่งแม่น้ำแควได้ แต่ต้อง ระวังสัญญาณหากทีรถไฟผ่านมาด้วยค่ะ
สะพานข้ามเเม่นำ้เเคว
ด่านเจดีย์สามองค์ เป็นเขตสิ้นสุดชายแดนตะวันตกของ ประเทศไทย กั้นพรมแดนระหว่างไทยและ เมียนมาค่ะ ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยานั้นที่ แห่งนี้เคยเป็นช่องทางเดินทัพที่สำคัญใน การทำสงครามไทย–พม่า ในประวัติศาสตร์ อีกด้วย บริเวณด่านเจดีย์สามองค์นั้นจะมี จุดในเลือกซื้อสินค้าราคาถูกเป็นของฝาก ของที่ระลึก รวมถึงเป็นจุดที่เราสามารถยื่น เรื่องของผ่านแดนข้ามไปเที่ยววัดสวยๆ ฝั่ง เมียนมาได้อีกหลายแห่งเลยค่ะ เช่น วัดเสา ร้อยต้น วัดเจดีย์ทอง รวมไปถึง ตลาดพญา ตองซู ได้ค่ะ แต่ต้องกลับมาฝั่งไทยเราไม่ เกิน 18.00 น.
ด่านเจดีย์สามองค์
ปราสาทเมืองสิงห์ นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธศาสนสถานใน พุทธศาสนา นิกายมหายาน ซึ่งมี สถาปัตยกรรม และปฏิมากรรม คล้ายคลึงกับ ของสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์นัก สร้างปราสาทแห่งขอมนั่นเองค่ะ ภายใน บริเวณปราสาทเมืองสิงห์จะมีป้าย QR Code หลากหลายภาษาทั้ง ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และจีน อำนวยความสะดวก แนะนำ ประวัติศาสตร์ และสถานที่สำคัญต่างๆ ของ ปราสาทเมืองสิงห์ให้กับนักท่องเที่ยว เดินชม เดินเที่ยวกันได้ง่ายมากๆ เลยทีเดียว
ปราสาทเมืองสิงห์
เทศกาลงาน ประเพณีประจำจังหวัด
รำมอญ เป็นนาฏศิลป์ที่เก่าแก่ของคนมอญ และคง เหลืออยู่สืบต่อมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ลูกหลาน มอญรุ่นหลังๆ นี้ ยังคงได้รับการถ่ายทอด ศิลปะนี้ไว้ด้วยดีตลอดมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่เกาะเกร็ด พระประแดง และปทุมธานี ยังมีผู้ ที่รำมอญได้จำนวนมาก ซึ่งรวมทั้งมี วงปี่ พาทย์มอญ บรรเลงประกอบการรำ ก็ยังคงมี อยู่หลายวงเช่นกัน แต่ละวงล้วนมีฝีมือเยี่ยม ทางบรรเลงเพลงมอญกันทั้งสิ้น จะมีรำมอญ ในโอกาสมีงานมงคล งานสมโภชต่างๆ ตลอด จนงานศพโดยเฉพาะในงานศพพระสงฆ์ ชาว บ้านจะนิยมรำถวายหน้าศพเพราะถือว่าได้บุญ ในงานศพผู้อาวุโส หรือผู้ที่เป็นที่เคารพนับถือ ชาวบ้านจะมารำด้วยความเคารพเช่นกัน
รำมอญ
ประเพณีสรงน้ำพระ \"สงกรานต์มอญ\" จัดขึ้นในช่วงวันที่ 13 -15เมษยนของทุกปี ที่บริเวณวัดวังก์วิ เวการาม ช่วงเช้าชาวบ้านมากหน้าหลายตาจะพากันมาทำบุญ ตักบาตร์อย่างเนื่องแน่น มีการก่อเจดีย์ทรายขนาดใหญ่ การ รดน้ำพระสงฆ์มอญ และวันนี้ชาวมอญจะมีการแต่งตัวด้วย เสือผ้าแบบมอญที่สวยงาม มีกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน อย่างการละเล่นสะบ้าที่หาดูได้ยาก และมีอาหารพื้นบ้านแบบ มอญให้ชิมด้วยร่วมทำบุญใส่บาตรยามเช้า บนสะพานไม้ ที่ ยาวที่สุดในประเทศไทย ทดลองชิมข้าวแช่แบบมอญ ชมการ เล่นสะบ้า แข่งขันปีนเสาน้ำมัน ชื่นชมกับภาพชาวมอญที่เดิน ทูนถาดอาหารไว้บนศีรษะ เพื่อนำไปถวายพระ และส่งให้พ่อ แม่ที่ไปถือศีลอยู่ที่วัดตลอดเทศกาลในช่วงบ่ายของวันที่ เชิญ ร่วมพิสูจน์แรงศรัทธา และความเชื่อ ของชาวมอญ ที่พร้อมใจ กันนอนเรียงราย ให้พระสงฆ์เดินเหยียบไปบนหลัง เพื่อ ความเป็นศิริมงคล และขจัดปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ชม และร่วมพิธีสรงน้ำพระ ผ่านรางกระบอกไม้ไผ่ ที่นำมาผูกเรียง รายต่อ ๆ กัน รวมความยาวนับกิโล ณ บริเวณลานด้านหน้าเจ ดีย์พุทธคยา ก่อนปิดท้ายเทศกาล ด้วยการเล่นสาดน้ำ สงกรานต์ร่วมกันอย่างสนุกสนาน
ประเพณีสรงน้ำพระ \"สงกรานต์มอญ\"
กาญจนบุรี
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: