ระบบเครือข่ายและการสื่อสาร

ระบบเครือข่ายและการสื่อสาร จัดทาโดย นางสาวพฤกษา ผ่านผิว นางสาวธัญสุดา สาระคู



คำนำ รายงานเลม่ นเี ้ป็นสว่ นหนงึ่ ของรายวิชาการจดั การระบบเครือขา่ ยและการส่ือสารข้อมลู ด้วยธรุ กิจด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อศกึ ษาและปฏิบตั เิ กี่ยวกบั พืน้ ฐานของการส่อื สารข้อมลู และเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์องคป์ ระกอบของการสอ่ื สารข้อมลู มคี วามรู้ความเข้าใจเกีย่ วกบั การสอื่ สารข้อมลู ระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์สามารถใช้งานในระบบเรือขา่ ยเห็นคณุ คา่ ในเร่ืองการสื่อสารข้อมลู บนระบบเครือขา่ ยและการศกึ ษาเกีย่ วกบัมาตรฐานการส่อื สารข้อมลู โครงสร้างของเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ โปรโตคอลระบบเครือขา่ ยบนอินเตอร์เน็ต หากรายงานฉบบั นีม้ ีข้อผิดพลาดประการใดทางผ้จู ดั ทาขออภยัมา ณ ท่ีนีด้ ้วย



สำรบญับทบาทของการสื่อสารข้อมลู และเครือข่ายคอมพวิ เตอร์….1การสอื่ สารข้อมลู ……………………………………..……2-4ส่ือกลางในการสื่อสารข้อมลู ………………………………5-6เครือข่ายคอมพิวเตอร์…......................................................7-8โพโทคอล…………………………………………………9-10อปุ กรณ์การส่อื สาร………………………………………11-12ตวั อย่างการติดตงั้ แลนภายในบ้าน………………………..13



1• 4.1 บทบาทของการส่ือสารข้อมูลและเครือข่าย คอมพวิ เตอร์ การติดตอ่ สอื่ สารเป็ นการพดู คยุ หรือส่งข่าวกนั ของมนษุ ย์ ซง่ึ อาจเป็ นการแสดงออกด้วยทา่ ทาง การใช้ภาษาพดูหรือผ่านทางตวั อกั ษร โดยสว่ นใหญ่เป็ นการสื่อสารในระยะใกล้ต่อมาเมอื่ เทคโนโลยกี ้าวหน้ามากขนึ ้ มีการพฒั นาอปุ การณ์อเิ ล็กทรอนกิ ส์สาหรบั ใช้ในการส่ือสาร ทาให้สามารถสือ่ สารได้ในระยะไกลและสะดวกรวดเร็วมากย่ิงขนึ ้ เชน่ โทรเลข โทรศพั ท์และโทรสาร

2 • 4.2 การส่ือสารข้อมูล หมายถงึ การแลกเปลยี่ นข้อมลู /ข่าวสารโดยผ่านทาง สือ่ กลางในการสอ่ื สารซง่ึ อาจเป็ นสอื่ กลางประเภทท่ีมีสายหรือ ไร้สายก็ได้องค์ประกอบพนื ้ ฐานของระบบส่ือสารข้อมลู ประกอบด้วย 1.ข้อมลู /ขา่ วสาร (data/message) คอื ข้อมลู หรือ สารสนเทศต่างๆ ทีต่ ้องการส่งไปยงั ผ้รู บั โดยข้อมลู /ข่าวสาร 2.ผ้สู ง่ (sender) คอื คนหรืออปุ กรณ์ทใี่ ช้สาหรับส่งข้อมลู / ขา่ วสาร ซง่ึ อาจเป็ นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โทรศพั ท์ 3.ผ้รู บั (receiver) คือ คนหรืออปุ กรณ์ ท่ใี ช้สาหรับรับข้อมลู / ข่าวสารที่ทางผ้สู ง่ ข้อมลู ส่ง 4.สื่อกลางในการสง่ ข้อมลู (transmission media) คอื สง่ิ ทท่ี าหน้าทร่ี ับสง่ ข้อมลู /ข่าวสารไปยงั จดุ หมายปลายทาง 5.โพรโทคอล (protocol) คอื กฎเกณฑ์ ระเบียบหรือข้อ ปฏิบตั ติ า่ งๆท่ีกาหนดขนึ ้ มาเพ่ือเป็ นฯข้อตกลงในการส่อื สาร ข้อมลู ระหวา่ งผ้รู ับและผ้สู ง่

34.2.1 สญั ญาณท่ีใช้ในการส่ือสาร แบ่งได้ออกเป็ น 2 ประเภทคือ สญั ญาณแอนนาลอ็ ก (analog signal) และสญั ญาณดิจทิ ลั (digital signal) สญั ญาณแอนนาล็อกและสญั ญาณดจิ ทิ ลั ทม่ี ีขนาดแอมพลิจดู (amplitude) ท่ีเปล่ียนแปลงตามเวลาและเป็ นคา่ ต่อเนอ่ื ง เช่น เสียงพดู และเสียงดนตรี ส่วนสญั ญาณดิจทิ ลั เป็ นสญั ญาณท่ีไมม่ คี วามตอ่ เนือ่ งทเ่ี รียกว่า ดสี ครีต (discrete) สญั ญาณดจิ ิทลั ถกูแทนด้วยระดบั แรงดนั ไฟฟ้ าสองระดบั เทา่ นนั้ โดยแสดงลกั ษณะเป็ น “0” และ “1” ซงึ่ ตรงกบั ตวั เลขฐานสอง

4 4.2.2 การถา่ ยโอนข้อมลู เป็ นการส่งสญั ญาณออกจากอปุ กรณ์ ส่ง ไปยงั อปุ กรณ์รับโดยจาแนกได้ 2 แบบ คอื 1)การถา่ ยโอนข้อมลู แบบขนานทาได้โดยการส่งข้อมลู ออกมาที ละหลายบิตพร้อมกนั จากอปุ กรณ์ส่งไปยงั อปุ กรณ์รบั ผ่าน ส่ือกลางนาสญั ญาณทม่ี ชี อ่ งทางส่งข้อมลู หลายชอ่ งทาง 2)การถา่ ยโอนข้อมลู แบบอนกุ รมในการถ่ายโอนข้อมลู แบบ อนกุ รม ข้อมลู จะถกู ส่งออกมาทลี ะบิต ระหวา่ งจดุ ส่งและจดุ รบั

5• 4.3 ส่ือกลางในการส่ือสารข้อมูล สาหรับการตดิ ต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์อาจใช้สายเชอ่ื มตอ่ ผ่านอปุ กรณ์เชือ่ มต่อหรืออาจใช้อปุ กรณ์เช่อื มตอ่แบบไร้สายเป็ นส่ือกลางในการเชื่อมต่อก็ได้4.3.1 สอ่ื กลางแบบใช้สาย1) สายคบู่ ดิ เกลยี ว (twisted pair cable) สายนาสญั ญาณแบบนแี ้ ตล่ ะคสู่ ายทเี่ ป็ นสายทองแดงจะถกู พนั บิดเป็ นเกลยี วสายค่บู ิดเกลียวมี 2 ชนดิ คือ1. สายค่บู ดิ เกลยี วแบบไม่ป้ องกนั สญั ญาณรบกวน2สายคบู่ ดิ เกลยี วแบบป้ องกนั สญั ญาณรบกวน หรือสายเอสทพี ี

6 2) สายโคแอกซ์ (coaxial cable) เป็ นสายนาสญั ญาณที่ เรารู้จกั กนั ดี โดยใช้เป็ นสายนาสญั ญาณทต่ี อ่ จากเสาอากาศ เคร่ืองรบั โทรทศั น์หรืสายเคเบลิ ทีวี ตวั สายประกอบด้วย ลวดทองแดงท่ีเป็ นแกนหลกั หนง่ึ เส้นห้มุ ด้วยฉนวนเพ่ือป้ องกนั กระแสไฟฟ้ าร่ัว 3) สายไฟเบอร์ออพตกิ (fiber-optic cable) ประกอบด้วยกลมุ่ ของเส้นใยทาจากแก้วหรือพลาสตกิ ท่มี ีขนาด เล็กประมาณเส้นผม แต่ละเส้นจะมีแกนกลาง สอื่ กลางแบบไร้สาย การส่อื สารแบบไร้สายอาศยั คลืน่ สามารถ นามาใช้ในการสือ่ สารข้อมลู มหี ลายชนดิ 1.อินฟราเรด ส่อื กลางประเภทนมี ้ กั ใช้กบั การสอื่ สารข้อมลู ทีไ่ ม่ มีสิง่ กดี ขวา 2.ไมโครเวฟ การสอื่ สารท่ีมคี วามเร็วสงู ใช้สาหรบั การเช่อื มต่อ ระยะไกลโดยการส่งสญั ญาณคล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้ า 3.คล่ืนวทิ ยุ เป็ นสือ่ กลางท่ใี ช้สง่ สญั ญาณไปในอากาศ โดย สามารถส่งในระยะทางได้ทงั้ ใกล้และไกล โดยมตี วั กระจาย สญั ญาณ

7• 4.4 เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ เครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ ( computer network)เป็ นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์ตอ่ พ่วงเข้าด้วยกนัเพอ่ื ให้สามารถใช้ข้อมลู ทรัพยากรร่วมกนั ได้1)เครือข่ายส่วนบคุ คลหรือแพนเป็ นเครือข่ายท่ใี ช้ส่วนบคุ คล2) เครือข่ายเฉพาะท่ี หรือแลน เป็ นเครือข่ายทใ่ี ช้ในการเช่อื มโยงคอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์ต่างๆ ที่อยใู่ นพนื ้ ทเี่ ดียวกนั หรือใกล้เคียงกนั3) เครือข่ายนครหลวง หรือแมน เป็ นเครือข่ายท่ใี ช้เช่ือมโยงแลนทีอ่ ยหู่ ่างไกลออกไป4) เครือข่ายวงกว้าง หรือแวน เป็ นเครือข่ายท่ีใช้ในการเชื่อมโยงกบั เครือขา่ ยอื่นทอ่ี ย่ไู กลกนั มาก

8 1) เครือข่ายแบบรับ-ให้บริการ หรือไคลเอนท์/เซริ ์ฟเวอร์ จะมี เคร่ืองคอมพิวเตอร์ทีเ่ ป็ นเคร่ืองให้บริการตา่ งๆ 2) เครือขา่ ยระดบั เดยี วกนั เครื่องคอมพวิ เตอร์สามารถเป็ นได้ ทงั้ เครื่องให้บริการและเคร่ืองรบั บริการในขณะเดยี วกนั การใช้ งานส่วนใหญ่มกั ใช้ในการแบ่งปันข้อมลู

9• 4.5 โพโทคอล การเชอื่ มตอ่ ระหว่างคอมพวิ เตอร์ และอปุ กรณ์เครือข่ายที่ผลิตจากผ้ผู ลิตหลายรายผ่านทางระบบเครือข่ายชนิดต่างๆ กนั ไม่สามารถเชื่อมต่อโดยตรงกนั ได้สาหรบั โพโทคอลท่ใี ช้เป็ นมาตรฐานในการสอ่ื สารแบบใช้สายและแบบไร้สาย ทใ่ี ช้กนั อยา่ งแพร่หลาย เชน่ ทีซีพี/ไอพี เป็ นโพโทคอลทใี่ ช้ในการสือ่ สารในระบบอนิ เทอร์เนต็ โดยมีการระบุผ้รู ับผ้สู ่งในเครือข่ายและจดั การแบ่งข้อมลู เป็ นชิน้ เลก็ ๆ ทเี่ รียกว่าแพ็คเก็ต

10 ไวไฟ มกั ถกู นาเอาไปอ้างถงึ เทคโนโลยีเครือขา่ ยแบบ ไร้สาย ตามมาตรฐานIEEE 802.11 ซง่ึ ใช้คลืน่ วิทยคุ วามถ่ี 2.4 GHz .เป็ นสอื่ กลางในการติดต่อสอื่ สาร ไวไฟเกิดจากการ รวมกลมุ่ กนั ของผ้ผู ลิตอปุ กรณ์ บลทู ธู เป็ นโพรโทคอลทีใ่ ช้คล่นื วิทยคุ วามถ่ี 2.4 GHz ในการรับสง่ ข้อมลู โดยคล้ายกบั แลนไร้สาย ตามมาตรฐาน IEEE 802.15 มีวตั ถปุ ระสงค์เพื่อให้ผ้ใู ช้งานคอมพิวเตอร์ สามารถตดิ ต่อสื่อสารกบั อปุ กรณ์ต่อพว่ งไร้สายอืน่ ๆ

11 • 4.6 อปุ กรณ์การส่ือสาร ทาหน้าทร่ี บั และสง่ ข้อมลู จากอปุ กรณ์สง่ และรับข้อมลู โดยมกี ารส่งผ่านทางส่ือกลางดงั กลา่ วมาแล้ว สญั ญาณท่ี สง่ ออกไปอาจอย่ใู นรูปแบบดจิ ทิ ลั หรือแบบแอนะล็อก 1) โมเดม็ (moden) เป็ นอปุ กรณ์ท่ีแปลงสญั ญาณดิจิทลั เป็ น สญั ญาณแอนะล็อก และแปลงสญั ญาณแอนะล็อกเป็ นดิจิทลั เพอื่ ให้ข้อมลู สง่ ผ่านทางสายโทรศพั ท์ได้ 2) การ์ดแลน (LAN card) เป็ นอปุ กรณ์ทเี่ ชอ่ื มระหวา่ ง คอมพิวเตอร์กบั สายตวั นาสญั ญาณทาให้คอมพวิ เตอร์สามารถ รับและส่งข้อมลู กบั ระบบเครือข่ายได้ 3) ฮบั (hub) เป็ ฯอปุ กรณ์ที่รวมสญั ญาณท่ีมาจากอปุ กรณ์ รบั สง่ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ เคร่ืองเข้าด้วยกนั 4) สวติ ช์ (switch) เป็ นอปุ กรณ์รวมสญั ญาณที่มาจาก อปุ กรณ์รบั ส่งหรือคอมพวิ เตอร์หลายเครื่องเช่นเดียวกบั ฮบั แตม่ ี ข้อแตกตา่ งจากฮบั

125) อปุ กรณ์จดั เส้นทาง (router) เป็ นอปุ กรณ์ท่ใี ช้งานในการเช่อื มโยงเครือข่ายหลายเครือขา่ ยเข้าด้วยกนั6) จดุ เช่ือมต่อแบบไร้สาย (wireless access point)ทาหน้าทค่ี ล้ายกบั ฮบั ของเครือขา่ ยแบบใช้สายเพือ่ ใช้สาหรบัติดต่อส่ือสารระหว่างอปุ กรณ์แบบไร้สาย ซงึ่ ข้อมลู จะถกู ส่งผ่านทางคลนื่ วทิ ยคุ วามถี่สงู

13 • 4.7 ตัวอย่างการตดิ ตงั้ แลนภายในบ้าน การตดิ ตงั้ แลนภายในบ้านอย่างงา่ ย สามารถทาได้ โดยเช่อื มตอ่ คอมพวิ เตอร์อยา่ งน้อยสองเครื่องเข้าด้วยกนั โดย ผ่านสวิตช์ และทาการปรับการตงั้ ค่าของโพรโทคอลการสือ่ สาร ท่เี กี่ยวข้อง เชน่ ท่ีอยู่ ไอพีของคอมพิวเตอร์แตล่ ะเครื่อง จะทาให้ คอมพิวเตอร์สามารถสอ่ื สารข้อมลู กนั ได้ และถ้าต้องการ เชอ่ื มต่อแลนดงั กล่าวเข้ากบั อินเทอร์เน็ต จะต้องทาการเชื่อมตอ่ สวิตช์เข้ากบั อปุ กรณ์จดั เส้นทาง จากนนั้ ผ้ใู ช้งานจะสามารถ เชอื่ มตอ่ อปุ กรณ์จดั เส้นทางเข้า กบั อินเทอร์เนต็ ได้โดยขอใช้ บริการจากผ้ใู ช้บริการอินเทอร์เนต็