ระบบเครือข่ายและการสื่อสาร จดั ทาโดย นางสาวปริญญา บุญเงนิ นางสาวลกั ษณารีย์ เปี ยหมื่นไวย์ นางสาวปภาวรินทร์ แสงปัญญา
คานา ในปัจจุบนั โลกของเรามีการพฒั นาไปมากมีการติดต่อส่ือสารโดยใชว้ ธิ ีต่างๆมากมายซ่ึงสะดวกสะบายรวดเร็ว โดยการส่ือสารในสมยั น้ีจะใชเ้ ทคโนโลยใี นการส่ือสารเป็นส่วนใหญ่ปัจจุบนั จะใชค้ อมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ในการคานวณและเกบ็ ขอ้ มูลมีการควบคุมเอกสารทางผจู้ ดั ทาจึงไดอ้ ธิบายเร่ืองการสื่อสาร ประโยชน์ของเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์รวมถึงอธิบายองคป์ ระกอบหลกั พ้ืนฐานของระบบการสื่อสาร บทบาทของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์การส่งขอ้ มูลในปัจจุบนั จะตอ้ งอาศยั ตวั กลางในการสื่อสารแต่จะตอ้ งมีการแบ่งประเภทของเครือขา่ ยท่ีแบ่งตามพ้ืนที่ใหบ้ ริการของคอมพวิ เตอร์ การถา่ ยโอนขอ้ มูลของคอมพวิ เตอร์ซ่ึงทางผจู้ ดั ทาไดท้ าการคน้ ควา้ ขอ้ มูลต่างๆทาการสรุปและนาเสนอขอ้ มูล หากมีขอ้ ผดิ พลาดประการใดทางผจู้ ดั ทาขออภยั มา ณ ที่น้ีดว้ ย... จดั ทาโดย นางสาวปริญญา บุญเงิน นางสาวลกั ษณา เปี ยหมื่นไวย์ นางสาวปภาวรินทร์ แสงปัญญา
สารบญัเร่ือง หน้าบทบาทของการสื่อสารขอ้ มูลและเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ 1-5การส่ือสารขอ้ มูล 6-12สื่อกลางในการสื่อสารขอ้ มูล 13-19เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ 20-25โพรโทคอล 26-28อุปกรณ์การสื่อสาร 29-33ตวั อยา่ งการติดต้งั แลนภายในบา้ น 34
1 4.1 บทบาทของการสื่อสารขอ้ มูลและเครือข่าย คอมพวิ เตอร์ การติดตอ่ ส่ือสารขอ้ มูลสมยั ใหม่น้ี มีรากฐานมาจาก ความพยายามในการเช่ือมตอ่ ระหวา่ งคอมพิวเตอร์กบั คอมพวิ เตอร์ โดยอาศยั ระบบสื่อสารท่ีมีอยแู่ ลว้ เช่น โทรศพั ท์ ดงั น้นั การส่ือสารขอ้ มูลจึงอยใู่ นขอบเขตท่ีจากดั ต่อมาเม่ือมี การใชค้ อมพิวเตอร์มากข้ึน ความตอ้ งการในการติดตอ่ ระหวา่ งคอมพวิ เตอร์หลายเคร่ืองในเวลาเดียวกนั ท่ีเรียกวา่ ระบบเครื่อขา่ ย (Network) ไดร้ ับการพฒั นาใหด้ ีข้ึนเป็นลาดบั
21) การจดั เกบ็ ข้อมูลได้ง่ายและส่ือสารได้รวดเร็ว การจดั เกบ็ ขอ้ มูลซ่ึงอยใู่ นรูปของสญั ญาณอิเลก็ ทรอนิกส์สามารถจดั เกบ็ ไวใ้ นแผน่ บนั ทึกท่ีมีความหนาแน่นสูง แผน่บนั ทึกแผน่ หน่ึงสามารถบนั ทึกขอ้ มูลไดม้ ากกวา่ 1 ลา้ นตวั อกั ษร สาหรับการส่ือสารขอ้ มูลน้นั ถา้ ขอ้ มูลผา่ นสายโทรศพั ทไ์ ดด้ ว้ ยอตั รา 120 ตวั อกั ษรตอ่ วนิ าทีแลว้ จะส่งขอ้ มูล 200 หนา้ ไดใ้ นเวลา 40 นาที โดยท่ีไม่ตอ้ งเสียเวลามานง่ัป้อนขอ้ มูลเหล่าน้นั ซ้าใหม่อีก
3 2) ความถูกต้องของข้อมูล โดยปกติมีการส่งขอ้ มูลดว้ ยสญั ญาณทางอิเลก็ ทรอนิกส์ จากจุดหน่ึงไปยงั จุดอื่นดว้ ยระบบดิจิทลั วธิ ีการรับส่งน้นั จะมี การตรวจสอบสภาพของขอ้ มูลหากขอ้ มูลผดิ พลาดกจ็ ะมีการ รับรู้และพยายามหาวธิ ีการแกไ้ ขใหข้ อ้ มูลท่ีไดร้ ับมีความ ถูกตอ้ ง โดยอาจใหท้ าการส่งใหม่ หรือกรณีท่ีผดิ พลาดไม่มาก นกั ฝ่ ายผรู้ ับอาจใชโ้ ปรแกรมของตนแกไ้ ขขอ้ มูลใหถ้ ูกตอ้ งได้
43) ความเร็วของการทางาน โดยปกติสญั ญาณของไฟฟ้าจะเดินทางดว้ ยความเร็วเท่าแสง ทาใหก้ ารใชค้ อมพวิ เตอร์ส่งขอ้ มูลจากซีกโลกหน่ึงไปยงั อีกซีกโลกหน่ึงหรือคน้ หาขอ้ มูลจากฐานขอ้ มูลขนาดใหญ่ สามารถทาไดร้ วดเร็ว ความรวดเร็วของระบบจะทาใหผ้ ใู้ ชส้ ะดวกสบายอยา่ งยง่ิ เช่น บริษทั สายการบินทุกแห่งสามารถทราบขอ้ มูลของทุกเท่ียวบินไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ทาใหก้ ารจองที่นงั่ ของสายการบินสามารถทาไดท้ นั ที
5 4) ต้นทุนประหยดั การเช่ือมต่อคอมพวิ เตอร์ต่อเขา้ หากนั เป็นเครือข่ายเพอ่ื ส่ง หรือสาเนาขอ้ มูลทาใหร้ าคาตน้ ทุนของการใชข้ อ้ มูลไม่แพง เมื่อ เทียบกบั การจดั ส่งแบบวธิ ีอ่ืน นกั คอมพิวเตอร์บางคนสามารถส่ง โปรแกรมใหก้ นั และกนั ผา่ นทางสายโทรศพั ทไ์ ด้
6 4.2 การส่ือสารขอ้ มูล การส่ือสารขอ้ มูล (Data Communications) หมายถึงกระบวนการถา่ ยโอนหรือแลกเปล่ียนขอ้ มูลกนั ระหวา่ งผสู้ ่งและผรู้ ับ โดยผา่ นช่องทางสื่อสาร เช่น อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์หรือคอมพวิ เตอร์เป็นตวั กลางในการส่งขอ้ มูล เพอื่ ใหผ้ สู้ ่งและผรู้ ับเกิดความเขา้ ใจซ่ึงกนั และกนั โดยผา่ นทางส่ือกลางในการสื่อสารซ่ึงอาจเป็นส่ือกลางประเภทที่มีสายหรือไร้สายกไ็ ด้ โดยปกติ องคป์ ระกอบหลกั ของระบบส่ือสารขอ้ มูลมีอยู่ 5 อยา่ งไดแ้ ก่1. ข่าวสารหรือขอ้ มูล (message) 2. ผสู้ ่ง (sender)3. ผรู้ ับ (receiver) 4. สื่อกลาง (media)5. โพรโทคอล (protocol
7 1. ผู้ส่งข่าวสารหรือแหล่งกาเนิดข่าวสาร (source) อาจจะเป็นสัญญาณตา่ งๆ เช่นสัญญาณภาพ ขอ้ มูลและสี ยงเป็นตน้ ในการติดต่อสื่อสารสมยั ก่อนอาจจะใชแ้ สงไฟ ควนั ไฟ หรือท่าทางต่าง ๆ กน็ บั วา่ เป็นแหลง่ กาเนิดข่าวสาร จดั อยใู่ น หมวดหมู่น้ีเช่นกนั 2. ผู้รับข่าวสารหรือจุดหมายปลายทางของข่าวสาร (sink) ซ่ึงจะรับรู้จากสิ่งท่ีผสู้ ่งข่าวสาร หรือแหล่งกาเนิดขา่ วสาร ส่งผา่ นมาใหต้ ราบใด ท่ีการติดต่อสื่อสารบรรลุวตั ถุประสงค์ ผรู้ ับสารหรือจุดหมายปลายทางของขา่ วสารกจ็ ะไดร้ ับข่าวสาร น้นั ๆ ถา้ ผรู้ ับสารหรือ จุดหมายปลายทางไม่ไดร้ ับข่าวสาร ก็ แสดงวา่ การส่ือสารน้นั ไม่ประสบความสาเร็จ กล่าวคือไม่มีการ ส่ือสารเกิดข้ึนนนั่ เอง
83. ช่องสัญญาณ (channel) ในท่ีน้ีอาจจะหมายถึงสื่อกลางหรือตวั กลางที่ข่าวสารเดินทางผา่ น อาจจะเป็นอากาศ สายนาสัญญาณต่าง ๆ หรือแมก้ ระทงั่ ของเหลว เช่น น้า น้ามนั เป็นตน้ เปรียบเสมือนเป็นสะพานท่ีจะใหข้ ่าวสารขา้ มจากฝ่ังหน่ึงไปยงั อีกฝ่ังหน่ึง4. การเข้ารหัส (encoding) เป็นการช่วยใหผ้ สู้ ่งขา่ วสารและผรู้ ับข่าวสารมีความเขา้ ใจตรงกนั ในการส่ือความหมาย จึงมีความจาเป็นตอ้ งแปลงความหมายน้ี การเขา้ รหสั จึงหมายถึงการแปลงข่าวสารใหอ้ ยู่ในรูปพลงั งาน ท่ีพร้อมจะส่งไปในสื่อกลาง ทางผสู้ ่งมีความเขา้ ใจตอ้ งตรงกนั ระหวา่ ง ผสู้ ่งและผรู้ ับ หรือมีรหสั เดียวกนัการสื่อสารจึงเกิดข้ึนได้
9 5. การถอดรหัส (decoding) หมายถึงการท่ีผรู้ ับข่าวสารแปลงพลงั งานจากส่ือกลางให้ กลบั ไปอยใู่ นรูปข่าวสารที่ส่งมาจากผสู้ ่งข่าวสาร โดยมีความ เขา้ ในหรือรหสั ตรงกนั 6. สัญญาณรบกวน (noise) เป็นส่ิงท่ีมีอยใู่ นธรรมชาติ มกั จะลดทอนหรือรบกวน ระบบ อาจจะเกิดข้ึนไดท้ ้งั ทางดา้ นผสู้ ่งข่าวสาร ผรู้ ับข่าวสาร และช่องสัญญาณ แตใ่ นการศึกษาข้นั พ้ืนฐานมกั จะสมมติให้ ทางดา้ นผสู้ ่งข่าวสารและผรู้ ับข่าวสารไม่มีความผดิ พลาด ตาแหน่งท่ีใชว้ เิ คราะห์ มกั จะเป็นที่ตวั กลางหรือช่องสัญญาณ
10 4.2.1การส่ือสาร-วธิ ีการถ่ายโอนข้อมูล11. การถ่ายโอนข้อมูลแบบขนาน การถา่ ยโอนขอ้ มูลแบบขนาน ทาไดโ้ ดยการส่งขอ้ มูลออกทีละ 1 ไบต์ หรือ 8 บิตจากอุปกรณ์ส่งไปยงั อุปกรณ์รับอุปกรณ์ตวั กลางระหวา่ งสองเครื่องจึงตอ้ งมีช่องทางให้ขอ้ มูลเดินทางอยา่ งนอ้ ย 8 ช่องทาง เพอื่ ใหก้ ระแสไฟฟ้าผา่ นโดยมากจะเป็นสายสญั ญาณแบบขนาน2. การถ่ายโอนข้อมูลแบบอนุกรมในการถ่ายโอนข้อมูลแบบอนุกรม ขอ้ มูลจะถูกส่งออกมาทีละบิต ระหวา่ งจุดส่งและจุดรับ การส่งขอ้ มูลแบบน้ีจะชา้ กวา่ แบบขนาน การถา่ ยโอนขอ้ มูลแบบอนุกรมตอ้ งการตวั กลางสาหรับการส่ือสารเพียงช่องเดียวหรือสายเพียงคูเ่ ดียว ค่าใชจ้ ่ายจะถูกกวา่ แบบขนานสาหรับการส่งระยะทางไกลๆ โดยเฉพาะเม่ือเรามีระบบการส่ือสารทางโทรศพั ทไ์ วใ้ ชง้ านอยแู่ ลว้
11 4.2.2การส่ือสาร : วธิ ีการถ่ายโอน2 1. การสื่อสารแบบทางเดยี ว (simplex: SPX) เป็นการสื่อสารแบบทางเดียว มีทิศทางการไหลของ สัญญาณเป็นทิศทางเดียวกนั กล่าวคือ มีเพยี งอุปกรณ์ตวั เดียว เท่าน้นั ท่ีทาหนา้ ที่ส่งขอ้ มูล อุปกรณ์ตวั อ่ืนทาหนา้ ท่ีรับขอ้ มูล อยา่ งเดียว 2. การส่ือสารแบบสองทางครึ่งอตั รา (half duplex: HDX) เป็นการสื่อสารแบบสองทาง แต่ส่งไดท้ ีละทาง โดยแต่ ละสถานีทาหนา้ ที่ไดท้ ้งั รับและส่งขอ้ มูล เมื่ออปุ กรณ์ใดทา หนา้ ท่ีเป็นผสู้ ่ง อุปกรณ์ตวั อื่นจะทาหนา้ เป็ นผรู้ ับ ไม่สามารถ ส่งขอ้ มูลสวนทางกนั ได้
123. การสื่อสารแบบสองทางเตม็ อตั รา (full duplex: FDX) เป็นการสื่อสารแบบสองทาง แต่รับส่งไดพ้ ร้อม ๆ กนัหมายความวา่ สถานีท้งั 2 สถานี สามารถส่งและรับขอ้ มูลไดพ้ ร้อม ๆ กนั และตวั กลางท่ีใชท้ ้งั 2 ฝั่ง อาจใชร้ ่วมกนัหรือแบ่งแยกเป็นสายสาหรับรับ กบั สายสาหรับส่งกไ็ ด้การสื่อสารแบบน้ีมีประสิทธิภาพดีกวา่ แบบอื่น ๆ เพราะไม่เกิดการหน่วงเวลาในช่วงการเปล่ียนสถานะระหวา่ งผรู้ ับกบั ผสู้ ่ง
13 4.3 ส่ือกลางในการสื่อสารข้อมูล ตวั กลางหรือสายเช่ือมโยง เป็นส่วนท่ีทาใหเ้ กิดการ เชื่อมต่อระหวา่ งอุปกรณ์ตา่ งๆ เขา้ ดว้ ยกนั และอุปกรณ์ท่ียอม ใหข้ า่ วสารขอ้ มูลเดินทางผา่ นจากผสู้ ่งไปสู่ผรู้ ับ ส่ือกลางท่ีใช้ ในการส่ือสารขอ้ มูลมีอยหู่ ลายประเภท แต่ละประเภทมีความ แตกต่างกนั ในดา้ นของปริมาณขอ้ มูลท่ีส่ือกลางน้นั ๆ สามารถนาผา่ นไปไดใ้ นเวลาขณะใดขณะหน่ึง การวดั ปริมาณหรือความจุในการนาขอ้ มูลหรือท่ีเรียกกนั วา่ แบนด์ วิดธ์ (bandwidth) มีหน่วยเป็นจานวน บิต ขอ้ มูลต่อวนิ าที
14 4.3.1 สื่อกลางประเภทมีสาย1) สายคู่บดิ เกลยี ว (Twisted – Pair Cable) สายคูบ่ ิดเกลียวประกอบดว้ ยสายทองแดง ท่ีหุม้ ดว้ ยฉนวนพลาสติก หลงั จากน้นั กน็ าสายท้งั สองมาถกั กนั เป็นเกลียวคู่ เช่น สายคูบ่ ิดเกลียวท่ีใชก้ บั เครือข่ายทอ้ งถิ่น(CAT5) การนาสายมาถกั เป็นเกลียวเพื่อช่วยลดการแทรกแซงจากสญั ญาณรบกวนสายคูบ่ ิดเกลียวมีอยู่ 2รูปแบบ คือ สายคูบ่ ิดเกลียวแบบไม่มีชีลด์ และแบบมีชิลด์ สายคู่บิดเกลียวแบบไม่มีชีลด์ สายคูบ่ ิดเกลียวแบบมีชิลด์
15 สายคู่บดิ เกลยี วแบบมีชิลด์ ข้อดี ข้อเสีย 1) ราคาถูก 1) มีความเร็วจากดั 2) มีน้าหนกั เบา 2) ใชก้ บั ระยะทางส้ันๆ 3) ง่ายตอ่ การใชง้ าน สายโคแอกเชียล ข้อเสีย ข้อดี 1) มีราคาแพง 1) เชื่อมต่อไดใ้ นระยะไกล 2) สายมีขนาดใหญ่ 2) ป้องกนั สญั ญาณรบกวนไดด้ ี 3) ติดต้งั ยาก
16 สายไฟเบอร์ออปตคิข้อดี1) มีขนาดเลก็ น้าหนกั เบา2) มีความปลอดภยั ในการส่งขอ้ มูล3) มีความทนทานและมีอายกุ ารใชง้ านยาวนานข้อเสีย1) เส้นใยแกว้ มีความเปราะบาง แตกหกั ง่าย2) มีราคาสูง เม่ือเทียบกบั สายเคเบิลทว่ั ไป3) การติดต้งั จาเป็นตอ้ งพ่ึงพาผเู้ ช่ียวชาญเฉพาะ
17 4.3.2 ส่ือกลางประเภทไม่มีสาย สื่อที่ไม่ใชส้ าย ส่ือประเภทน้ีเป็นระบบตวั กลางท่ีส่งเป็น คล่ืนวทิ ยุ เช่น อากาศท่ีเราใชส้ ่งคล่ืนวทิ ยุ คล่ืนไมโครเวฟ (Microwave) รวมท้งั การส่ือสารผา่ นดาวเทียม 1. ดาวเทยี ม ข้อดี การส่งขอ้ มูลหรือการส่งสญั ญาณแบบดาวเทียมจะสามรถ รับ-ส่ง ขอ้ มูลไดเ้ ร็ว สะดวกต่อการติดตอ่ ส่ือสาร และสามารถส่ง ขอ้ มูลไดใ้ นระยะทางท่ีไกล ข้อเสีย การส่งสัญญาณขอ้ มูลทางดาวเทียมกค็ ือระบบดาวเทียม น้นั คลา้ ยกบั ไมโครเวฟ คือ อาจจะ ถูกกระทบโดยสภาพอากาศ ดงั น้นั มีการลา่ ชา้ ของสัญญาณในการส่งขอ้ มูลแต่ละช่วง ดงั น้นั การเชื่อมโยงขอ้ มูล จดั การกบั ปัญหาความล่าชา้
182. คล่ืนวทิ ยุข้อดี : ติดต้งั เพื่อเชื่อมโยงการติดต่อไดส้ ะดวก เพียงตอ่อุปกรณ์เครื่องรับ-ส่งวทิ ยกุ บั อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ แลว้ตรวจสอบความเรียบร้อยของระบบกส็ ามารถจะส่ือสารขอ้ มูลท้งั ภายในและภายนอกอาคารได้ข้อเสีย : มีอตั ราเร็วในการส่งขอ้ มูลต่า นอกจากน้ียงั ตอ้ งทาการขออนุญาตใชค้ วามถี่วทิ ยกุ บั กรมไปรษณียโ์ ทรเลขเสียก่อน สาหรับค่าใชจ้ ่ายในเร่ืองของอุปกรณ์ส่ือสารน้นัคอ่ นขา้ งจะมีราคาแพงกวา่ การสื่อสารดว้ ยสายสญั ญาณ
19 3. ไมโครเวฟ (Microwave) สญั ญาณคลื่นความถี่ประมาณ 100 เมกะเฮิรตซ์ เดินทาง เป็นเส้นตรง ทาใหส้ ามารถปรับทิศทางการส่งไดแ้ น่นอน การ บีบสัญญาณส่งใหเ้ ป็นลาแคบ ๆ จะทาใหม้ ีพลงั งานสูง สัญญาณรบกวนต่า การปรับจานรับและจานส่งสญั ญาณให้ ตรงกนั พอดี จะทาใหส้ ามารถส่งสัญญาณไดห้ ลายความถี่ไป ในทิศทางเดียวกนั ได้ โดยไม่รบกวนกนั 4, คลื่นอนิ ฟราเรดและคลื่นส้ัน นิยมใชส้ าหรับการส่ือสารระยะใกล้ คุณสมบตั ิของคล่ืน คือ เดินทางเป็นแนวตรง ราคาถูก และง่ายต่อการผลิตใชง้ าน แต่ไม่สามารถเดินทางผา่ นวตั ถุหรือส่ิงกีดขวางได้ เช่น รีโมท สาหรับควบคุมวทิ ยุ วดิ ีโอโทรทศั น์ เครื่องเล่นบงั คบั ตา่ ง ๆ เป็นตน้ สามารถใชค้ ล่ืนอินฟราเรดเพ่ือการสื่อสารในระบบ เครือขา่ ยทอ้ งถิ่น (LAN) ไดด้ ี
20 4.4 เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ ธรรมชาติมนุษยต์ อ้ งอยรู่ วมกนั เป็นกลุม่ มีการติดตอ่ สื่อสารระหวา่ งกนั ร่วมกนั ทางานสร้างสรรสังคมเพ่ือให้ ความเป็นอยโู่ ดยรวมดีข้ึน จากการดาเนินชีวิตร่วมกนัท้งั ในดา้ นครอบครัว การทางานตลอดจนสังคมและการเมืองทาใหต้ อ้ งมีการพบปะแลกเปล่ียนขอ้ มูลระหวา่ งกนั เม่ือมนุษยม์ ีความจาเป็นที่จะติดต่อสื่อสารระหวา่ งกนั พฒั นาการทางดา้ นคอมพิวเตอร์จึงตอ้ งตอบสนองเพอื่ ใหใ้ ชง้ านไดต้ ามความตอ้ งการ แรกเริ่มมีการพฒั นาคอมพิวเตอร์แบบ รวมศูนย์ เช่น มินิคอมพิวเตอร์ หรือ เมนเฟรม
21 1) เครือข่ายส่วนบุคคล หรือแพน ( Personal Area Network: PAN ) เป็นเครือข่ายท่ีใชส้ ่วนบุคคล เช่น การ เชื่อมต่อคอมพวิ เตอร์กบั โทรศพั ทม์ ือถือ การเช่ือมตอ่ พดี ี เอกบั เครื่องคอมพิวเตอร์ซ่ึงการเชื่อมตอ่ แบบน้ีจะอยใู่ น ระยะใกล้ และมีการเช่ือมต่อแบบไร้สาย 2) เครือข่ายเฉพาะที่ หรือแลน ( Local Area Network: LAN ) เป็นเครือขา่ ยที่ใชใ้ นการเชื่อมโยง คอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยใู่ นพ้ืนที่เดียวกนั หรือใกลเ้ คียงกนั เช่น ภายในบา้ น ภายในสานกั งาน และภายในอาคาร สาหรับการใชง้ านภายในบา้ นน้นั อาจ เรียกเครือขา่ ยประเภทน้ีวา่ เครือข่ายที่พกั อาศยั
223) เครือข่ายนครหลวง หรือแมน (Metropolitan AreaNetwork: MAN) เป็นเครือข่ายท่ีใชเ้ ช่ือมโยงแลนที่อยู่ห่างไกลออกไป เช่น การเชื่อมตอ่ เครือขา่ ยระหวา่ งสานกั งานท่ีอาจอยคู่ นละอาคารและมีระยะทางไกลกนั การเช่ือมตอ่ เครือข่ายชนิดน้ีอาจใชส้ ายไฟเบอร์ออพติก หรือบางคร้ังอาจใชไ้ มโครเวฟเชื่อมตอ่ เครือขา่ ยแบบน้ีใชใ้ นสถานศึกษามีช่ือเรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ เครือขา่ ยแคมปัส4) เครือข่ายวงกว้าง หรือแวน (Wide Area Network:WAN) เป็นเครือข่ายที่ใชใ้ นการเชื่อมโยงกบั เครือข่ายอื่นที่อยไู่ กลกนั มาก เช่น เครือข่ายระหวา่ งจงั หวดั หรือระหวา่ งภาครวมไปถึงเครือขายระหวา่ งประเทศ
23 4.4.1 ลกั ษณะของเครือข่าย 1) เครือข่ายแบบรับ-ให้บริการ หรือไคลเอนท์/เซิร์ฟเวอร์ (client-server network) จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีเป็น เคร่ืองใหบ้ ริการต่างๆ เช่น บริการเวบ็ และบริการ ฐานขอ้ มูล การใหบ้ ริการข้ึนกบั การร้องขอบริการจาก เคร่ืองรับบริการ 2) เครือข่ายระดบั เดยี วกนั Peer- to-Peer network: P2P network ) เคร่ืองคอมพวิ เตอร์สามารถเป็นไดท้ ้งั เครื่อง ใหบ้ ริการและเครื่องรับบริการในขณะเดียวกนั การใชง้ าน ส่วนใหญ่มกั ใชใ้ นการแบ่งปันขอ้ มูล เช่น เพลง ภาพยนตร์ โปรแกรม และเกม
24 4.4.2 รูปร่างเครือข่าย1) เครือข่ายแบบบัส ( bus topology ) เป็นรูปแบบท่ีมีโครงสร้างไม่ยงุ่ ยาก สถานีทุกสถานีในเครือขา่ ยจะเช่ือมต่อเขา้ กบั สายสื่อสารหลกั เพียงสายเดียวท่ีเรียกวา่ บสั (bus) การจดั ส่งขอ้ มูลลงบนบสั จึงไปถึงทุกสถานีได้2) เครือข่ายแบบวงแหวน (ring topology) เป็นการเชื่อมแตล่ ะสถานีเขา้ ดว้ ยกนั แบบวงแหวน สญั ญาณขอ้ มูลจะส่งอยใู่ นวงแหวนไปในทิศทางเดียวกนั จนถึงผรู้ ับ หากขอ้ มูลท่ีส่งเป็นของสถานีใด สถานีน้นั กร็ ับไว้ ถา้ ไม่ใช่กส็ ่งต่อไป ซ่ึงระบบเครือข่ายแบบวงแหวนน้ี
25 3) เครือข่ายแบบดาว (star topology) เป็นการเช่ือมต่อ สถานีในเครือขา่ ย โดยทุกสถานีจะต่อเขา้ กบั หน่วยสลบั สายกลาง เช่น ฮบั (hub) หรือสวติ ซ์ (switch) ซ่ึงทาหนา้ ท่ี เป็นศูนยก์ ลางของการเช่ือมตอ่ ระหวา่ งสถานีต่างๆ ที่ ตอ้ งการติดต่อกนั ของดีของการเชื่อมตอ่ แบบดาว 4) เครือข่ายแบบแมช (mesh topology) เป็นรูปแบบของ การเช่ือมต่อที่มีความนิยมมากและมีประสิทธิภาพสูง เน่ืองจากถา้ มีเส้นทางของการเชื่อมตอ่ คูใ่ ดคู่หน่ึงขาดจาก กนั การติดต่อสื่อสารระหวา่ งคู่น้นั ยงั สามารถติดตอ่ ได้
26 4.5 โพรโทคอล กฎกติกาหรือขอ้ ตกลงที่ใชเ้ ป็นมาตรฐานในการส่ือสารขอ้ มูลระหวา่ งผรู้ ับและผสู้ ่ง เรียกวา่ โพรโทคอล (protocol)ซ่ึงเป็นขอ้ กาหนดที่ใชค้ วบคุมการสื่อสารขอ้ มูลในเครือขา่ ยไม่วา่ จะเป็นวธิ ีการในการรับส่งขอ้ มูล รูปแบบของการรับส่ง อุปกรณ์หรือสื่อกลางในการรับส่งขอ้ มูล วธิ ีการตรวจสอบความผดิ พลาดของขอ้ มูล รวมถึงความเร็วในการรับส่งขอ้ มูล สาหรับโพรโทคอลที่ใชเ้ ป็นมาตรฐานในการส่ือสารแบบใชส้ าย และแบบไร้สาย ที่ใชก้ นั อยา่ งแพร่หลายเช่น
27 1. ทซี ีพ/ี ไอพี (Transmission Control Protocol/Internet Protocol: TCP/UP) เป็นโพรโทคอลที่ใชใ้ นการส่ือสารใน ระบบอินเทอร์เน็ต โดยมีการระบุผรู้ ับผสู้ ่งในเครือข่ายและ จดั การแบ่งขอ้ มูลเป็นชิ้นเลก็ ๆ ท่ีเรียกวา่ แพก็ เกต็ (packet) ส่งผา่ นไปในอินเทอร์เน็ต 2. ไวไฟ (Wireless Fidelity: Wi-Fi) มกั ถูกนาเอาไปอา้ งถึง เทคโนโลยเี ครือข่ายแบบไร้สาย ตามมาตรฐานIEEE 802.11 ซ่ึงใชค้ ลื่นวทิ ยคุ วามถี่ 2.4 GHz .เป็นส่ือกลางใน การติดต่อส่ือสาร ไวไฟเกิดจากการรวมกลุม่ กนั ของผผู้ ลิต อุปกรณ์ เพอ่ื ทดสอบวา่ อุปกรณ์ที่ผลิตข้ึนทางานไดต้ าม มาตรฐานของ IEEE 802.11
283. บลทู ูท (bluetooth) เป็นโพรโทคอลที่ใชค้ ล่ืนวทิ ยคุ วามถ่ี2.4 GHz ในการรับส่งขอ้ มูลโดยคลา้ ยกบั แลนไร้สาย ตามมาตรฐาน IEEE 802.15 มีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือใหผ้ ใู้ ชง้ านคอมพวิ เตอร์สามารถติดตอ่ สื่อสารกบั อุปกรณ์ต่อพว่ งไร้สายอื่นๆ4. ไออาร์ดเี อ เป็นโพรโทคอลใชเ้ ช่ือมตอ่ คอมพวิ เตอร์กบัอุปกรณ์ส่ือสารแบบไร้ระยะใกล้ และไม่มีสิ่งกีดขวาง โดยใชแ้ สงอินฟราเรดในการติดตอ่ สื่อสารและมีความเร็วในการส่งขอ้ มูลอยรู่ ะหวา่ ง 115 kbps ถึง 4 mbps ผา่ นพอร์ตไออาร์ดีเอ
29 4.6 อปุ กรณ์การส่ือสาร 1) โมเดม็ (moden) เป็นอปุ กรณ์ที่แปลงสญั ญาณดิจิทลั เป็นสัญญาณแอนะลอ็ ก และแปลงสญั ญาณแอนะลอ็ ก เป็นดิจิทลั เพ่ือใหข้ อ้ มูลส่งผา่ นทางสายโทรศพั ทไ์ ด้ โมเดม็ มีหลายประเภทแบ่งตามลกั ษณะการใชง้ านดงั น้ี 1.1) โมเดม็ แบบหมุนโทรศัพท์ (dial-up modem) เป็น โมเดม็ ท่ีใชต้ ่อเขา้ กบั ผใู้ หบ้ ริการอินเทอร์เน็ตผา่ นทาง สายโทรศพั ท์ การเชื่อมต่อใชว้ ธิ ีการหมุนโทรศพั ทต์ ิดตอ่ ไปยงั ผใู้ หบ้ ริการอินเทอร์เน็ตความเร็วในการส่งผา่ น ขอ้ มูลต่าประมาณ 56 kbps 1.2) ดจิ ิทลั โมเดม็ (digital modem) เป็นโมเดม็ ที่ใชร้ ับ และส่งขอ้ มูลผา่ นสายเช่ือมสญั ญาณแบบดิจิทลั การ เชื่อมต่อโมเดม็ แบบน้ีใชไ้ ม่จาเป็นตอ้ งหมุนโทรศพั ทไ์ ป ที่ผใู้ หผ้ บู้ ริการอินเทอร์เน็ต โดยโมเดม็ จะทาการเช่ือมตอ่ ใหอ้ ตั โนมตั ิเมื่อการใชง้ าน
30– ดเิ อสแอล (Digital Subscriber Line: DSL) เป็นโมเดม็ที่ไดร้ ับความนิยมในการใชง้ านในบา้ น และสานกั ขนาดเลก็ โดยสามารถรับและส่งขอ้ มูลดิจิทลั ดว้ ยความเร็วสูงกวา่ การเช่ือมตอ่ ผา่ นโมเดม็ แบบหมุนโทรศพั ท์ ตวั อยา่ งการติดต้งั อีเอสแอลโมเดม็– เคเบลิ โมเดม็ (cable modem) เป็นโมเดม็ ทาหนา้ ท่ีรับและส่งขอ้ มูลดิจิทลั จากคอมพิวเตอร์ผา่ นทางสายเคเบิลทีวี บางคร้ังเรียกวา่ รอดแบนดโ์ มเดม็ (broadbandmodem) สามารถรับและส่งขอ้ มูลไดส้ ูงเหมือนกบั ดีเอสแอลโมเดม็ ตวั อยา่ งการติดต้งั เคเบิลโมเดม็
31 2) การ์ดแลน (LAN card) เป็นอุปกรณ์ที่เช่ือมระหวา่ ง คอมพวิ เตอร์กบั สายตวั นาสญั ญาณทาใหค้ อมพิวเตอร์ สามารถรับและส่งขอ้ มูลกบั ระบบเครือข่ายได้ ในอดีต เป้นอุกรณ์เสริมท่ีใชต้ อ่ เพม่ิ เขา้ กบั เมนบอร์ดของเคร่ือง คอมพิวเตอร์ 3) ฮับ (hub) เป็นอุปกรณ์ท่ีรวมสัญญาณท่ีมาจาก อุปกรณ์รับส่งหรือเคร่ืองคอมพวิ เตอร์หลายๆ เครื่องเขา้ ดว้ ยกนั ขอ้ มูลที่รับส่งผา่ นฮบั จากเครื่องหน่ึงจะกระจาย ไปยงั ทุกสถานีที่ตอ่ อยบู่ นฮบั น้นั
324) สวติ ช์ (switch) เป็นอุปกรณ์รวมสัญญาณท่ีมาจากอุปกรณ์รับส่งหรือคอมพิวเตอร์หลายเครื่องเช่นเดียวกบั ฮบั แต่มีขอ้แตกตา่ งจากฮบั กลา่ วคือ การรับส่งขอ้ มูลจากอุปกรณ์ตวัหน่ึง จะไม่กระจายไปยงั ทุกจุดเหมือนฮบั5) อปุ กรณ์จดั เส้นทาง (router) เป็นอุปกรณ์ที่ใชง้ านในการเช่ือมโยงเครือขา่ ยหลายเครือขา่ ยเขา้ ดว้ ยกนั หรือเช่ือมโยงอุปกรณ์หลายอยา่ งเขา้ ดว้ ยกนั ดงั น้นั จึงมีเส้นทางการเขา้ ออกของขอ้ มูลไดห้ ลายเสน้ ทาง อุปกรณ์ปลายทาง
33 6) จุดเช่ือมต่อแบบไร้สาย (wireless access point) ทาหนา้ ที่คลา้ ยกบั ฮบั ของเครือขา่ ยแบบใชส้ ายเพอื่ ใช้ สาหรับติดตอ่ ส่ือสารระหวา่ งอุปกรณ์แบบไร้สาย ซ่ึง ขอ้ มูลจะถูกส่งผา่ นทางคล่ืนวทิ ยคุ วามถี่สูง
34 4.7 ตวั อย่างการติดต้งั แลนภายในบ้าน ตวั อยา่ งการติดต้งั แลนภายในบา้ น การติดต้งั แลนภายในบา้ นอยา่ งง่าย สามารถทาไดโ้ ดยเชื่อมตอ่คอมพวิ เตอร์อยา่ งนอ้ ยสองเคร่ืองเขา้ ดว้ ยกนั โดยผา่ นสวิตช์และทาการปรับการต้งั คา่ ของโพรโทคอลการส่ือสารท่ีเกี่ยวขอ้ ง เช่น ที่อยู่ ไอพีของคอมพวิ เตอร์แต่ละเคร่ือง จะทาใหค้ อมพิวเตอร์สามารถสื่อสารขอ้ มูลกนั ได้ และถา้ ตอ้ งการเชื่อมตอ่ แลนดงั กล่าวเขา้ กบั อินเทอร์เน็ต จะตอ้ งทาการเช่ือมต่อสวติ ชเ์ ขา้ กบั อุปกรณ์จดั เสน้ ทาง จากน้นั ผใู้ ชง้ านจะสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์จดั เส้นทางเขา้ กบั อินเทอร์เน็ตได้
บรรณานุกรม https://cplmjp47.wordpress.com/http://www.thaigoodview.com/node/43402
เสนอนางสาวพนิลดา นิลดี
Search
Read the Text Version
- 1 - 42
Pages: