Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การสร้างภาพยนต์ฟรีแม็กกลิ้ง1

การสร้างภาพยนต์ฟรีแม็กกลิ้ง1

Published by ธัญสุดา สาระคู, 2018-07-28 07:26:10

Description: การสร้างภาพยนต์ฟรีแม็กกลิ้ง1

Search

Read the Text Version

การสร้างภาพยนตร์ฟรีแมก็ กลงิ่ จดั ทาโดย นายกิติศกั ด์ิ อสู่ ูงเนิน เลขท่ี 6 นายฤทธิชยั เรืองอยู่ เลขที่ 8 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 6/3 เสนอ อาจารยพ์ รชน รักษาพนั ธ์ โรงเรียนบา้ นกลางพิทยาคม



คานา รายงานเล่มนจี ้ ดั ขนึ ้ เพื่อเป็ นส่วนหนง่ึ ของวชิ าศิลปะเพือ่ ให้ได้ศกึ ษาหาความรู้ในเร่ืองการสร้างภาพยนตร์และได้ศกึ ษาอย่างเข้าใจเพอื่ เป็ นประโยชน์กบั การเรียน ผ้จู ดั ทาหวงั ว่ารายงานเลม่ นจี ้ ะให้ประโยชน์กบั ผ้อู า่ นและนกั เรียนทกี่ าลงั หาข้อมลู เร่ืองนอี ้ ยู่ หากผิดพลาดประการใดผ้จู ดั ทาขออภยั มา ณ ทนี่ ดี ้ ้วย



สารบญัความหมายของภาพยนตร์…………………………...........…..1เทคโนโลยภี าพยนตร์…………………………………………..2ประวตั ิ………………………………………………………….3การสร้ างภาพยนตร์……………………………………………5ขนั้ ตอนก่อนการผลติ …………………………………………..5ขนั้ ตอนการผลิต………………………………………………..6ขนั้ ตอนหลงั การผลิต…………………………………………..7บุคคลทเี่ ก่ยี วข้องในการสร้างภาพยนตร์…………………...8-10ขนั้ ตอนการเขียนบทภาพยนตร์…………………...………11-17ประโยชน์ของภาพยนตร์…………………………………..18-19หนงั ดงั ในอดตี ท่ีจะถกู นามาสร้างใหม…่ …………..…………20



1ความหมายของภาพยนตร์ ภาพยนตร์ หรอื หนัง คอื กระบวนการบนั ทึกภาพด้วยฟิ ล์ม แล้วนาออกฉายให้เห็นภาพเคลือ่ นไหวภาพที่ปรากฏบนฟิ ล์มภาพยนตร์หลงั จากผ่านกระบวนการถ่ายทาแล้วเป็ นเพียงภาพน่ิงจานวนมาก ทม่ี ีอริ ยิ าบถหรอื แสดงอาการเคลอื่ นไหวเปล่ียนแปลงไปทีละน้อยต่อเน่อื งกนั เป็ นช่วงๆ ตามเรอ่ื งราวทไ่ี ด้รบัการถ่ายทาและตดั ต่อมา ซึ่งอาจเป็ นเร่อื งราวหรือเหตกุ ารณ์ท่เี กดิ ขนึ้ จรงิ หรอื เป็ นการแสดงให้เหมอื นจริงหรอื อาจเป็ นการแสดงและสร้างภาพจากจินตนาการของผู้สร้างก็ได้ไม่ว่าจะเป็ นชนดิ ฟิ ล์มเนกาทฟี (negative) หรอื ฟิ ล์มโพซิทฟี (positive) ซึ่งได้ถูกถ่าย อัด หรือกระทาด้วยวิธใี ด ๆ ให้ปรากฏรูปหรอื เสียงหรือท้งั รูปและเสียง เป็ นเรือ่ งหรอื เหตกุ ารณ์ หรอื ข้อความอนั จกัถ่ายทอดรูปหรือเสียง หรอื ท้งั รูปและเสียงได้ด้วยเคร่อื งฉายภาพยนตร์หรือเครอื่ งอย่างอ่ืนทานองเดยี วกันและหมายความตลอดถึงฟิ ล์มซ่ึงได้ถูกถ่าย อดั หรอื ทาด้วยวธิ ใี ด ๆ ให้ปรากฏสี เพื่ออัดลงในฟิ ล์มชนิดดงั กล่าว เป็ นสาขาที่สร้างสรรค์ผลงานทางศลิ ปะในรูปของภาพเคล่อื นไหว และเป็ นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมบนั เทงิ

2 เทคโนโลยภี าพยนตร์ ภาพยนตร์ คือ ภาพน่ิง หลายๆ ภาพเรียงตดิ ต่อกันอย่างต่อเน่ือง ใช้หลักการท่เี รียกว่า การ เหน็ ภาพตดิ ตา และเม่ือนาเอาภาพน่ิงเหล่านัน้ มาฉายดูทลี ะภาพด้วยอตั ราความเร็วในการฉาย ต่อภาพเท่า ๆ กัน สายตามนุษย์จะยังคงรักษาภาพไว้ท่ี เรตนิ ่าเป็ นช่วงระยะเวลาสัน้ ๆประมาณ 1 ส่วน 3 วนิ าที ถ้าหากภายในระยะเวลาดงั กล่าวมีอีกภาพแทรกเข้ามาแทนท่ี สมองของคนจะ ทาการเช่อื มโยงสองภาพเข้าด้วยกัน และจะทาหน้าท่ดี งั กล่าวต่อไปเร่ือยๆ หากมีภาพต่อไป ปรากฏในเวลาใกล้เคียงกัน ในกรณที ่ภี าพแต่ละภาพท่มี องเห็น เป็ นภาพท่แี สดงให้เหน็ ถงึ ความ สอดคล้องในลักษณะของการเคล่ือนไหว เม่ือนามาเรียงต่อกันในระยะเวลากระชัน้ ชิด ภาพน่ิง เหล่านัน้ จะกลายเป็ นภาพเคล่ือนไหวท่ีต่อเน่ืองกันเป็ นธรรมชาติ ปัจจุบัน ความเร็วท่ใี ช้ในการ ถ่ายทาคือ 24 เฟรม ต่อ 1 วินาที ในยคุ ต่อมามีการพฒั นาภาพยนตร์สามมิติ โดยให้ผ้ชู มสวมใส่แว่นตาพิเศษเพ่ือให้ได้อรรถรสใน การชม โดยภาพท่เี หน็ มีมิตคิ วามลึกสมจริง ในปี พ.ศ. 2495 ภาพยนตร์อเมริกันเร่ือง Bwana Evil เป็ นภาพยนตร์สามมิตเิ ร่ืองแรกและล่าสุดในปี 2010 \"อวตาร\" เป็ นภาพยนตร์ท่มี ีคนเข้าชม ในระบบ 3 มิติเป็ นจานวนมาก

3ประวตั ิ ผ้ทู ่คี ิดประดิษฐ์ ต้นแบบของภาพยนตร์ขึน้ คือ โทมัส แอลวา อินดิสัน และผ้รู ่วมงานของเขาช่อืวลิ เล่ียม เคเนดี้ คิดสันภาพยนตร์ท่สี ามารถฉายภาพให้ปรากฏบนจอขนาดใหญ่ ได้พัฒนาสมบูรณ์ขนึ้ ในอเมริกาในปีพ.ศ.2438 โดยความร่วมมือระหว่างโทมัส อาแมท (Thomas Armat) ซี ฟรานซิส เจนกินส์ (C. FrancisJenkins) และเอดิสัน เรียกเคร่ืองฉายภาพยนตร์ชนิดนีว้ ่า ไบโอกราฟ (Bioghraph) ในเวลาต่อมาหลังจากนัน้ ภาพยนตร์ได้แพร่หลายไปในประเทศต่างๆ ท่วั โลก เกิดอตุ สาหกรรมการผลิตจาหน่ายและบริการฉายภาพยนตร์ขนาดใหญ่หลายแห่ง ทงั้ ในองั กฤษ ฝร่ังเศสและอเมริกา ภาพยนตร์ได้กลายเป็ นส่ือถ่ายทอดเหตุการณ์ ศิลปการบันเทิงและวรรณกรรมต่างๆ ท่ไี ด้รับความนิยมอย่างกว้างขวางตลอดมาภาพยนตร์เร่ืองแรกของโลก \"Arrival of a Train at La Ciotat\" ออกฉายท่กี รุงปารีส มีความยาว 50วินาที ออกฉายในปี 2438 ภาพจาก Arrival of Train at La Ciotat

4 ซ่ึงต่อมาก็มกี ารแบ่งประเภทของภาพยนตร์เป็ นประเภทต่างๆอกี ดงั นี้ 1.Action - เป็ นภาพยนตร์ ที่จะมฉี ากต่อสู้ การไล่ล่า ไล่ยงิ ระเบดิ เป็ นจุดขาย รวมถึงมฉี ากต่อสู้ ซึ่งบางทีอาจจะ มคี วามเหนือจริงอย่ดู ้วย 2.Adventure- ภาพยนตร์แนวผจญภัยเข้าป่ า ล่าขุมทรพั ย์ เจออุปสรรคมากมาย รวมถงึ ต้องมกี ารแก้สถานการณ์ ต่างๆ ซ่ึงเหมาะสาหรับคนท่ชี อบความท้าทาย 3.Animation-ภาพยนตร์แนวการ์ตูนซึ่งมที ้งั 2d และ 3d ซึ่งปัจจุบนั ได้รบั ความนยิ มเป็ นอย่างมากโดยเฉพาะเดก็ ๆ

5การสร้างภาพยนตร์ ขนั ้ ตอนก่อนการผลตินับเป็ นขนั ้ ตอนที่มีความสาคญั เป็ นอย่างยิ่งก่อนเริ่มทาการผลิตภาพยนตร์ ได้แก่การเตรียมข้อมลู การกาหนดหรือเค้าโครงเรื่อง การประสานงาน กองถ่ายกบั สถานท่ีถ่ายทาประชุมวางแผนการผลิตการเขียนสคริปต์ การจดั เตรียมวสั ดุ อปุ กรณ์การถ่ายทา อปุ กรณ์การบันทกึ เสยี ง ห้องบันทกึ เสียง ห้องตดั ต่อ อปุ กรณ์ประกอบฉากอปุ กรณ์แสง การเตรียม ทีมงาน ทกุ ฝ่ าย การเดนิ ทาง อาหาร ทพ่ี กั ฯลฯ หากจัดเตรียมรายละเอยี ดในขนั ้ ตอนนี ้ได้ดี ก็จะสง่ ผลให้ขนั ้ ตอนการผลติ ทาได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขนึ ้ ดงั นัน้ Pre Production เป็ นขนั ้ ตอนที่ผ้อู านวยการสร้างหรือนายทนุ หนงั ส่วนใหญ่ให้ความสาคญั เป็ น อนั ดบั หนงึ่ เน่ืองจากเป็ นขนั ้ ตอนที่มีสว่ นอย่างมากท่ีจะชีเ้ป็ นชีต้ ายได้ว่าหนังจะออกมาดหี รือไม่ช่วง พรี-โพร จะเป็ นช่วงทหี่ นังเร่ิมก่อเค้าเป็ นรูปเป็ นร่างจากเร่ืองทไ่ี ด้รบั การอนมุ ตั สิ ร้างจากนายทนุ

6 ขนั ้ ตอนการผลติ เป็ นขนั ้ ตอนการดาเนินการถ่ายทาภาพยนตร์(ออกกอง)ทมี งานผ้ผู ลิตได้แก่ ผ้กู ากบั ภาพยนตร์ ช่างภาพ ช่างไฟ ช่างเทคนิคเสยี ง ช่างศิลป์ ผ้แู ต่งหน้าทาผม ผ้ฝู ึกซ้อมนักแสดง รวมทงั ้ การบันทกึ เสียงตามท่ีกาหนดไว้ในสคริปต์ ขนั ้ ตอนนีอ้ าจมกี ารถ่ายทาแก้ไขหลายครงั ้ จนเป็ นทพ่ี อใจ (take) นอกจากนีอ้ าจจาเป็ นต้องเก็บภาพ/เสยี ง บรรยากาศทว่ั ไป ภาพเฉพาะมมุ เพิม่ เตมิ เพอื่ ใช้ในการขยายความ (insert) เพื่อให้ผ้ชู มได้เห็นและเข้าใจ รายละเอยี ดมากย่ิงขนึ ้

7 ขนั ้ ตอนหลงั การผลติเป็ นขนั ้ ตอนการตดั ตอ่ เรียบเรียงภาพและเสียงเข้าไว้ด้วยกนั ตามสคริปตห์ รือเนือ้ หาของเร่ือง ขนั ้ ตอนนี ้จะมีการใส่กราฟิกและเทคนิคพเิ ศษภาพ การเช่ือมต่อ ภาพ/ฉาก อาจมกี ารบันทกึ เสียงในห้องบนั ทกึ เสียง เพิม่ เติม อีกก็ได้ อาจมกี ารนาดนตรีมาประกอบ เรื่องราวเพอ่ื เพม่ิ อรรธรสในการรับชมย่ิงขนึ ้ขนั ้ ตอนนีส้ ว่ นใหญ่จะดาเนินการอย่ใู นห้องตดั ต่อ มเี ฉพาะ คนตดั ตอ่ (Editor) ผ้กู ากบั ภาพยนตร์และช่างเทคนิคทเี่ ก่ียวข้องเท่านัน้

8 บคุ คลทเ่ี ก่ียวของในขนั ้ ตอนการเตรียมงานสร้างภาพยนตร์ 1.ผ้อู านวยการผลติ (Producer) ผ้อู านวยการผลิตเป็ นผ้ทู ที่ าหน้าที่ในการควบคมุ การผลิตภาพยนตร์ทงั ้ หมด นบั ตงั ้ แตก่ ารวางแผน การถ่ายทา หลงั การถ่ายทา เพ่ือให้การผลติ ภาพยนตร์เป็ นไปอย่างราบรื่นและมคี วามสมบรู ณ์ที่สุด 2.ฝ่ ายกฎหมาย (Legal Department) ฝ่ ายกฎหมายทาหน้าทใ่ี นการทาสญั ญาต่างๆ ทีเ่ ก่ียวข้องกบั การผลิตภาพยนตร์ ซงึ่ ได้แก่การทาสญั ญาเช่าลิข สิทธ์ การเช่าเคร่ืองมอื อปุ กรณ์ต่างๆ การทาประกนั ภยั ฯลฯ 3.ผ้เู ขียนบทภาพยนตร์ (Script Writer) ผ้เู ขียนบทภาพยนตร์ ทาหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์ตามทไ่ี ด้รบั มอบหมายจนแล้วเสร็จ เมื่อเขียนบทเสร็จแล้ว ภาระหน้าที่ต่อไปก็คอื การแก้ไขบท เมื่อแก้ไขบทจนเป็ นท่ีพอใจของผ้วู ่าจ้างแล้วภาระหน้าท่ีของผ้เู ขียนบทก็หมด ไป 4.ผ้กู ากบั ภาพยนตร์ (Film Director) ผ้กู ากบั ภาพยนตร์ มหี น้าทใ่ี นการทาความเข้าใจบทภาพยนตร์ เลอื กทีมงาน เลือกนกั แสดง สถานท่ีถ่ายทา ภาพยนตร์ และเป็ นผ้ทู ่คี วบคมุ งานผลิตภาพยนตร์ทงั ้ หมดภายใต้การดแู ล ของผ้อู านวยการผลติ ภาพยนตร์ 5.ผ้ชู ่วยกากับภาพยนตร์ (Assistant Film Director) ผ้ชู ่วยกากับภาพยนตร์ โดยทวั่ ไปแล้วถ้าเป็ นกองถ่ายภาพยนตร์ทมี ใหญ่ๆ จะมผี ู้ช่วยกากบั ภาพยนตร์ 2-3 คน ซง่ึ มหี น้าที่แตกตา่ งกัน ผ้กู ากับภาพและผ้ชู ่วยกล้อง 6.ผ้กู ากับภาพ (Director of Photography) ผ้กู ากบั ภาพจะประสานงานกบั ผ้กู ากับภาพยนตร์ในการวางแผนการจัดแสงการออกแบบแสงและการวางมมุ กล้องเพ่อื การส่อื ความหมายด้วยภาพต่างๆ กองถ่ายหนงั ใหญ่ผ้กู ากบั ภาพนัน้ ส่วนใหญ่มกั จะเป็ นช่างกล้องด้วย

97.ช่างกล้อง (Camera Operator)ช่างกล้องจะประสานงานกับผ้กู ากบั และผ้กู ากบั ภาพในการถ่ายทาภาพยนตร์โดยการกาหนดการวางมมุ กล้องขนาดภาพ การสือ่ ความหมายด้วยภาพซง่ึ จะวางแผนลว่ งหน้าในขนั ้ ตอนเตรียมงานสร้างก่อนทีจ่ ะถ่ายจริง8.ผ้กู ากบั ศลิ ป์ (Art Director)ผ้กู ากบั ศิลป์ ทาหน้าท่ใี นการไปหาสถานท่ี ทถ่ี ่ายทา ร่วมกบั ผ้ทู าหน้าที่จดั หาสถานท่ถี ่ายทาภาพยนตร์ ผ้กู ากบัภาพยนตร์ ผ้ชู ่วยกากับ ธุรกิจกองถ่าย ฯลฯ การออกแบบสร้างฉากตามยคุ สมยั บรรยากาศตามเร่ืองราวในบทภาพยนตร์9.ผ้ชู ่วยกากบั ศลิ ป์ (Asst. Art Director)ผ้ชู ่วยผ้กู ากบั ศิลป์ ทาหน้าท่ีช่วยเหลอื ผ้กู ากบั ศิลป์ ในการออกแบบฉากท่ีได้รับมอบหมายจากผ้กู ากับศลิ ป์10.ฝ่ ายจัดหาอปุ กรณ์ประกอบฉาก (Properties Master)ฝ่ ายจดั หาอปุ กรณ์ประกอบฉากทาหน้าท่จี ดั หาอปุ กรณ์ประกอบฉากต่างๆเช่น จัดหา ตู้ โต๊ะ นาฬิกา ผ้าม่านฯลฯ ตามการออกแบบของฝ่ ายศิลป์11.ฝ่ ายสร้างฉากฝ่ ายสร้างฉากจะทาหน้าทส่ี ร้างฉากตามท่ฝี ่ ายศิลป์ ออกแบบ ภายในระยะเวลาท่กี าหนดก่อนที่จะมีการถ่ายทาภาพยนตร์12.ผ้เู ขียนสตรอรี่บอร์ด (Story Board Visualizer)ผ้เู ขียนสตรอร่ีบอร์ด จะทาหน้าที่แปลงบทภาพยนตร์ให้เป็ นภาพเขียน โดยกาหนด ขนาดภาพ มมุ กล้อง การจดัองคป์ ระกอบภาพ ฯลฯ เพอ่ื ให้ง่ายสาหรับการถ่ายทาภาพยนตร์ โดยทวั่ ไปแล้วการเขียนสตรอรี่บอร์ดนัน้ จะเขียนเฉพาะฉากที่ถ่ายทายากๆเท่านัน้ เช่น ฉาก ACTION ตา่ งๆซงึ่ ทมี งานท่เี ก่ียวข้องเช่น ผ้กู ากับภาพยนตร์ ช่างกล้อง ผ้กู ากับศิลป์ ฯลฯ พอเหน็ ภาพจากสตรอร่ีบอร์ดแล้วก็สามารถจะออกแบบทางานตามหน้าทข่ี องตนได้ทนั ที13.ผ้อู อกแบบเสอื ้ ผ้าเคร่ืองแต่งกาย (COSTUME DESIGNER)ผ้อู อกแบบเสอื ้ ผ้าเคร่ืองแตง่ กายทาหน้าทีอ่ อกแบบเสอื ้ ผ้าเคร่ืองแต่งกาย เคร่ืองประดบั ต่างๆ ของตวั ละคร โดยคานงึ ถงึ ยุคสมยั บคุ ลกิ ของตวั ละคร โดยก่อนทจ่ี ะออกแบบเสอื ้ ผ้าและเคร่ืองแตง่ กายนัน้ ผ้อู อกแบบนอกจะอา่ นจากบทภาพยนตร์อย่างละเอียดแล้ว จะต้องเข้าร่วมประชมุ กบั ผ้กู ากับภาพยนตร์ ผ้กู ากบั ศลิ ป์ เพ่อื ทราบแนวคิดและกาหนดแนวทางของการออกแบบโทรและอารมณ์ของภาพยนตร์ให้เป็ นไปในแนวทางเดยี วกนั14.ผ้จู ัดควิ เสอื ้ ผ้าเคร่ืองแต่ง (WARDROBE)ผ้จู ดั เสอื ้ ผ้าเคร่ืองแตง่ กาย ทาหน้าท่ีจดั ควิ เสอื ้ ผ้าเคร่ืองแตง่ กายของนกั แสดงให้เป็ นไปตามตารางการถ่ายทาภาพยนตร์ ตลอดจนดแู ลเสอื ้ ผ้าเครื่องแตง่ กายให้สามารถใช้งานได้ทนั ทที ี่ผ้กู ากบั ภาพยนตร์ต้องการ

10 15.ผ้จู ัดการจดั หาสถานท่ีถ่ายทาภาพยนตร์ (LOCATION MANAGER) บุคลากรตาแหน่งนีเ้พ่ิงมีในกองถ่ายภาพยนตร์ไทยในระยะเวลาท่ีไมน่ านมานี ้ เพราะก่อนหน้านีผ้ ้กู ากับ ผ้ชู ่วย กากับ และผ้กู ากบั ศลิ ป์ จะช่วยกันหาสถานทถ่ี ่ายทา แตเ่ พราะความไมส่ ะดวก เพือ่ ให้การจัดหาสถานท่ถี ่ายทา ภาพยนตร์เป็ นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขนึ ้ จึงกาหนดให้มตี าแหน่งนีข้ นึ ้ มา 16.ผ้คู ดั เลือกนักแสดง (CASTING) ผ้คู ดั เลอื กนักแสดง ทาหน้าทคี่ ดั เลอื กนกั แสดงตามบคุ ลกิ ของตวั ละครที่กาหนดไว้ในบทภาพยนตร์ ซง่ึ การ คดั เลือกนักแสดงนีผ้ ้คู ดั เลอื กนักแสดงจะต้องทางานร่วมกบั ผ้อู านวยการผลิต ผ้กู ากบั ภาพยนตร์ และผ้ชู ่วย กากับภาพยนตร์ เป็ นต้น 17.ผ้ฝู ึกซ้อมนกั แสดง (ACTING COACH) ผ้ฝู ึกซ้อมนักแสดง จะทาหน้าทหี่ ลงั จากทคี่ ดั เลอื กนักแสดงแล้ว บางกองถ่ายจะกาหนดให้มกี ารฝึกซ้อมนกั แสดง ก่อนทจ่ี ะมีการถ่ายทาภาพยนตร์ 2-3 เดอื น เพ่อื ให้นกั แสดงบางคนทย่ี ังไมม่ พี นื ้ ฐานทางการแสดงได้พฒั นา ตนเอง สามารถทจี่ ะแสดงภาพยนตร์ในขนั ้ ตอนการถ่ายทาได้อย่างราบร่ืน สาหรับนักแสดงท่มี ีประสบการณ์แล้ว ก็จะต้องมกี ารฝึกซ้อมการแสดงตามบทภาพยนตร์ เช่นเดยี วกัน 18.ธุรกิจกองถ่ายภาพยนตร์ ธรุ กิจกองถ่ายภาพยนตร์ทาหน้าท่ตี ดิ ตอ่ ประสานงาน ขอใช้ ขอเช่าสถานทีถ่ ่ายทา ภาพยนตร์ การตดิ ตอ่ นักแสดง การทางบประมาณค่าใช้จ่ายรายวนั การจ่ายเงินแก่นักแสดงทมี งานตลอดจนทาบัญชีการใช้จ่ายในแต่ละวนั เพอ่ื นาเสนอบริษัทบคุ ลากรเหล่านีจ้ ะต้องเข้ามาเตรียมงานทีบ่ ริษัท ก่อนท่จี ะลงมือสร้างภาพยนตร์ ซงึ่ ภาพยนตร์ บางเร่ืองจะใช้เวลาในการเตรียมงานประมาณ 1-3 เดอื น ทงั ้ นีข้ นึ ้ อย่กู ับความยากง่ายของภาพยนตร์แตล่ ะเรื่อง

11ขนั ้ ตอนการเขียนบทภาพยนตร์1.การค้นคว้าหาข้อมลู (research) เป็ นขนั ้ ตอนการเขียนบทภาพยนตร์อนั ดบั แรกทต่ี ้องทาถือเป็ นสงิ่ สาคญัหลงั จากเรา พบประเดน็ ของเรื่องแล้วจงึ ลงมอื ค้นคว้าหาข้อมลู เพ่ือเสริมรายละเอียดเร่ือง ราวท่ถี กู ต้องจริงชดั เจน และมีมติ ิมากขนึ ้ คณุ ภาพของ ภาพยนตร์จะดหี รือไมจ่ ึงอย่ทู ี่การค้นคว้าหาข้อมลู ไม่ว่าภาพยนตร์นัน้ จะมีเนือ้ หาใดก็ตาม2.การกาหนดประโยคหลกั สาคญั (premise) หมายถงึ ความคดิ หรือแนวความคิดท่งี ่าย ๆ ธรรมดา ส่วนใหญ่มกัใช้ตงั ้ คาถามวา่ “เกิดอะไรขนึ ้ ถ้า...” (what if) ตวั อย่างของ premise ตามรูปแบบหนงั ฮอลลวี ้ดู เช่น เกิดอะไรขนึ ้ถ้าเรื่องโรเมโอ & จเู ลยี ตเกิดขนึ ้ ในนิวยอร์ก คือ เร่ือง West Side Story, เกิดอะไรขนึ ้ ถ้ามนษุ ย์ดาวองั คารบกุ โลกคอื เรื่อง The Invasion of Mars, เกิดอะไรขนึ ้ ถ้าก๊อตซลิ ่าบุกนิวยอร์ก คอื เรื่อง Godzilla, เกิดอะไรขนึ ้ ถ้ามนษุ ย์ตา่ งดาวบุกโลก คือเร่ือง The Independence Day, เกิดอะไรขนึ ้ ถ้าเรื่องโรเมโอ & จูเลยี ตเกิดขนึ ้ บนเรือไททานิก คือเรื่องTitanic เป็ นต้น3.การเขียนเรื่องย่อ (synopsis) คอื เรื่องย่อขนาดสนั ้ ท่ีสามารถจบลงได้ 3-4 บรรทดั หรือหน่งึ ย่อหน้า หรืออาจเขียนเป็ น story outline เป็ นร่างหลงั จากท่ีเราค้นคว้าหาข้อมลู แล้วก่อนเขียนเป็ นโครงเร่ืองขยาย (treatment)4.การเขียนโครงเรื่องขยาย (treatment) เป็ นการเขียนคาอธิบายของโครงเรื่อง (plot) ในรูปแบบของเร่ืองสนั ้ โครงเร่ืองขยายอาจใช้สาหรบั เป็ นแนวทางในการเขียนบทภาพยนตร์ที่สมบูรณ์ บางครงั ้ อาจใช้สาหรบั ยื่นของบประมาณได้ด้วย และการเขียนโครงเรื่องขยายทด่ี ีต้องมปี ระโยคหลกั สาคญั (premise) ที่ง่าย ๆ น่าสนใจ5.บทภาพยนตร์ (screenplay) สาหรับภาพยนตร์บนั เทงิ หมายถึง บท (script) ซีเควนส์หลกั (masterscene/sequence)หรือ ซนี าริโอ (scenario) คอื บทภาพยนตร์ทม่ี ีโครงเร่ือง บทพดู แต่มคี วามสมบูรณ์น้อยกวา่ บทถ่ายทา (shooting script) เป็ นการเล่าเรื่องทไี่ ด้พฒั นามาแล้วอย่างมขี นั ้ ตอน ประกอบ ด้วยตวั ละครหลกั บทพดูฉาก แอค็ ช่ัน ซเี ควนส์ มีรูปแบบการเขียนทถ่ี ูกต้อง เช่น บทสนทนาอย่กู ่งึ กลางหน้ากระดาษฉาก เวลา สถานท่ีอย่ชู ิดขอบหน้าซ้ายกระดาษ ไมม่ ตี วั เลขกากับช็อต และโดยหลกั ทว่ั ไปบทภาพยนตร์หนึ่งหน้ามีความยาวหนึง่นาที

12 6.บทถ่ายทา (shooting script) คอื บทภาพยนตร์ท่ีเป็ นขนั ้ ตอนสดุ ท้ายของการเขียน บทถ่ายทาจะบอก รายละเอียดเพ่ิมเติมจากบทภาพยนตร์ (screenplay) ได้แก่ ตาแหน่งกล้อง การเช่ือมช็อต เช่น คทั (cut) การเลือน ภาพ (fade) การละลายภาพ หรือการจางซ้อนภาพ (dissolve) การกวาดภาพ (wipe) ตลอดจนการใช้ภาพพิเศษ (effect) อนื่ ๆ เป็ นต้น นอกจากนีย้ งั มเี ลขลาดบั ช็อตกากับเรียงตามลาดบั ตงั ้ แต่ช็อตแรกจนกระทงั่ จบ เร่ือง และ ขนาดภาพในการเขียน shooting script มีดงั นี ้ 6.1ภาพระยะไกลมากหรือระยะไกลสดุ (Extreme Long Shot / ELS) ได้แก่ ภาพท่ถี ่ายภายนอกสถานท่โี ลง่ แจ้ง มกั เน้นพนื ้ ท่ีหรือบริเวณทกี่ ว้างใหญ่ไพศาล เม่ือเปรียบ เทียบกบั สดั สว่ นของมนษุ ย์ท่ีมีขนาดเลก็ ภาพ ELS ส่วนใหญ่ใช้สาหรับการเปิ ดฉากเพอ่ื บอกเวลาและสถานท่ี อาจ เรียกวา่ Establishing Shot ก็ได้ เป็ นช็อตท่แี สดงความย่ิงใหญ่ของฉากหลงั Extreme Long Shot

136.2 ภาพระยะไกล (Long Shot /LS)ภาพระยะไกล เป็ นภาพทคี่ ่อนข้างสบั สนเพราะมีขนาดทไ่ี ม่แน่นอนตายตวั บางครงั ้ เรียกภาพกว้าง (Wide Shot)เวลาใช้อาจกินความตงั ้ แต่ภาพระยะไกลมาก (ELS) ถงึ ภาพระยะไกล (LS) ซง่ึ เป็ นภาพขนาดกว้างแต่สามารถเหน็ รายละเอยี ดของฉากหลงั และผ้แู สดงมากขนึ ้ เมือ่ เปรียบเทยี บกับภาพระยะไกลมาก หรือเรียกวา่ Full Shotเป็ นภาพกว้างเหน็ ผ้แู สดงเตม็ ตวั ตงั ้ แตศ่ ีรษะจนถึงส่วนเท้า Long Shot

14 6.3 ภาพระยะไกลปานกลาง (Medium Long Shot / MLS) เป็ นภาพทเ่ี ห็นรายละเอียด ของผ้แู สดงมากขนึ ้ ตงั ้ แต่ศรี ษะจนถงึ ขา หรือหวั เข่า ซงึ่ บางครงั ้ ก็เรียกวา่ Knee Shot เป็ นภาพทเ่ี หน็ ตวั ผ้แู สดงเคลือ่ นไหวสมั พนั ธ์กบั ฉากหลงั หรือเหน็ เฟอร์นิเจอร์ ในฉากนัน้ Medium Long Shot 6.4 ภาพระยะปานกลาง (Medium Shot /MS) ภาพระยะปานกลาง เป็นขนาดท่ีมคี วามหลากหลายและมชี ่ือเรียกไดห้ ลายชื่อเช่นเดียวกนั แต่โดยปกติจะมีขนาด ประมาณต้งั แต่หน่ึงในสี่ถงึ สามในสี่ของร่างกาย บางคร้งั เรียกวา่ Mid Shot หรือ Waist Shot กไ็ ด้ เป็นชอ็ ตท่ีใช้ มากสุดอนั หน่ึงภาพยนตร์ Medium Shot

156.5 ภาพระยะใกล้ปานกลาง (Medium Close-Up / MCU)เป็ นภาพแคบ คลอบคลมุ บริเวณตงั ้ แตศ่ ีรษะถงึ ไหลข่ องผ้แู สดง ใช้สาหรับในฉากสนทนาท่ีเหน็ อารมณ์ความรู้สกึทใี่ บหน้า ผ้แู สดงรู้สกึ เด่นในเฟรม บางครงั ้ เรียกวา่ Bust Shot มขี นาดเทา่ รูปปัน้ ครงึ่ ตวั Medium Close-Up6.6 ภาพระยะใกล้ (Close-Up / CU)เป็ นภาพที่เหน็ บริเวณศรี ษะและบริเวณใบหน้า ของผ้แู สดง มีรายละเอียดชดั เจนขนึ ้ เช่น ริว้ รอยบนใบหน้านา้ ตา สว่ นใหญ่เน้นความรู้สกึ ของผ้แู สดงท่ีสายตา แววตา เป็ นช็อตทน่ี ิ่งเงียบมากกว่าให้มีบทสนทนา โดยกล้องนาคนดเู ข้าไปสารวจตวั ละครอย่างใกล้ชิด Close Up

16 6.7 ภาพระยะใกล้มาก (Extreme Close-Up /ECU หรือ XCU) เป็ นภาพที่เน้นส่วนใด ส่วนหนึ่งของร่างกาย เช่น ตา ปาก เท้า มือ เป็ นต้น ภาพจะถกู ขยายใหญ่บนจอ เหน็ รายละเอยี ดมาก เป็ นการเพ่ิมการเล่าเรื่องในหนังให้ได้อารมณ์มากขนึ ้ Extreme Close-Up 6.8 มมุ สายตานก (Bird's-eye view) มมุ ชนิดนีม้ กั เรียกทบั ศพั ทท์ าให้เข้าใจ มากกวา่ เป็ นมมุ ถ่ายมาจากด้านบนเหนือศีรษะ ทามมุ ตงั ้ ฉากเป็ นแนวดิ่ง 90 องศากบั ผ้แู สดง เป็ นมมุ มองที่เราไม่ค้นุ เคยในชีวิตประจาวนั จึงเป็ นมมุ ทแี่ ปลก แทนสายตานกท่ีอย่บู น ท้องฟ้ า Bird's-eye view

177. บทภาพ (storyboard) คอื บทภาพยนตร์ประเภทหน่งึ ทีอ่ ธิบายด้วยภาพ คล้ายหนังสือการ์ตนู ให้เห็นความตอ่ เนื่องของช็อตตลอดทงั ้ ซีเควนส์หรือทงั ้ เรื่องมีคาอธิบายภาพ ประกอบ เสียงต่าง ๆ เช่น เสยี งดนตรี เสยี งประกอบฉาก และเสียงพดู เป็ นต้น ใช้เป็ นแนวทางสาหรับการถ่ายทา หรือใช้เป็ นวธิ ีการคาดคะเนภาพล่วงหน้า(pre-visualizing) ก่อนการถ่ายทาวา่ เม่ือถ่ายทาสาเร็จแล้ว หนงั จะมรี ูปร่างหน้าตาเป็ นอย่างไร ซง่ึ บริษัทของWalt Disney นามาใช้กบั การผลติ ภาพยนตร์การ์ตนู ของบริษัทเป็ นครงั ้ แรก โดยเขียนภาพ เหตกุ ารณ์ของแอค็ ชั่นเรียงติดต่อกนั บนบอร์ด เพ่ือให้คนดเู ข้าใจและมองเห็นเรื่องราวล่วงหน้าได้ก่อนลงมอื เขียนภาพ สว่ นใหญ่บทภาพจะมเี ลขท่ีลาดบั ช็อตกากับไว้ คาบรรยายเหตกุ ารณ์ มมุ กล้อง และอาจมเี สียงประกอบด้วย ตวั อย่าง Storyboard

18 ประโยชน์ของภาพยนตร์ การชมภาพยนตร์คือกิจกรรมการพกั ผ่อนอย่างหนึง่ เป็ นการใช้เวลาให้เป็ นประโยชน์ มหี นังมากมาย ท่ีเน้นให้ความสนกุ เป็ นหลกั เช่น หนงั ตอ่ สู้ หรือที่เราเรียกว่า หนังแอคช่ัน หนังตลก หรือหนังเพลง หนงั เหล่านีส้ ร้างมาเพอ่ื ให้ความบันเทงิ เป็ นหลกั นอกจากความสนกุ แล้ว เราอาจได้ความรู้ บทเรียน หรือ ประสบการณ์จากการดหู นงั เช่นหนงั ประวตั ิศาสตร์ตา่ งๆ ไมว่ ่าจะเป็ นเก่ียวกับเหตกุ ารณ์หรือสถานที่ อย่าง หนงั ชื่อ อเลก็ ซานเดอร์ มหาราชชาตินักรบ (Alexander) ที่เป็ นหนังชีวประวตั ิ หรือ ทรอย (Troy) ท่ี เล่าเก่ียวกบั ประวตั ิของเมอื งทรอยว่าล่มสลายได้อย่างไร นอกจากความรู้เร่ืองประวตั ศิ าสตร์แล้ว เรายงั ได้ เรียนรู้เรื่องของศิลปะและวฒั นธรรมอีกด้วย ยกตวั อย่างเช่น หากเป็ นหนงั ฝรั่ง เราก็จะได้เห็นสภาพ บ้านเมอื ง ศิลปะการออกแบบตกึ รามบ้านช่องต่างๆ หรือการดารงชีวติ ของคนอเมริกา วา่ พวกเขาเดินทาง และทางานกนั อย่างไร อาหารการกินเป็ นแบบไหน ใช้ชีวิตกันยังไง เทคโนโลยีความทนั สมยั พฒั นาไปถึง ไหนแล้ว ไปจนถึงข้อคิดบางอย่างทเ่ี ราจะได้ เช่น ทกั ษะในการเข้าสงั คม หรือแนวคดิ วิธีการแก้ไขปัญหา หนงั บางเร่ืองยังช่วยสะท้อนสภาพสงั คมได้อกี ด้วย เช่น ไดเวอเจนท์ (Divergent) หนงั ทถ่ี ่ายทอดเรื่อง ของสภาพสงั คมท่ีมกี ารแบ่งแยก เป็ นต้น

19 ภาพยนตร์เพ่ือฝึกฝนภาษา คนไทยดหู นังฝร่งั เพื่อศกึ ษาการใช้ภาษาองั กฤษ เช่นสาเนียง สานวนการพดูวธิ ีใช้คา เรียนคาศพั ท์แปลกๆ ทเ่ี ราอาจไม่เคยเหน็ หรือได้ยินมาก่อน เป็ นต้น ซง่ึ ไมใ่ ช่เฉพาะแคภ่ าษาองั กฤษเท่านัน้ แต่ทกุ คนที่ต้องการศกึ ษาภาษาทส่ี อง ไมว่ า่ จะภาษาญี่ป่ นุ จีน หรือฝรง่ั เศส ก็สามารถใช้ภาพยนตร์เป็ นตวั เลือกอีกทางหนึ่งได้ เพราะบางครงั ้ การเรียนรู้ผ่านตวั อกั ษร อาจจะน่าเบื่อและไม่น่าสนใจสาหรบั ใครหลายๆคน ดงั นัน้ การเรียนรู้ผ่านภาพเคลอ่ื นไหวจงึ น่าสนใจมากกวา่ (และได้ความเพลดิ เพลินด้วย) หนงั บางเรื่องยงั ช่วยสร้างแรงบนั ดาลใจให้กับผ้ชู ม ทาให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ นาไปต่อยอดเกิดเป็ นหนังสือนิยาย หนงั เร่ืองใหม่หรือภาพวาดสกั รูป ไปจนถงึ สินค้าหรือบริการใหม่ คณุ อาจได้ไอเดยี แนวคิดสาหรบั การทาธุรกิจทไ่ี ม่เคยมีใครคิดถงึ มาก่อนเลยก็เป็ นได้ แรงบนั ดาลใจทว่ี ่ายังหมายถึงกาลงั ใจอกี ด้วย สาหรับบางคนทีม่ ชี ่วงเวลาของชีวิตที่เลวร้าย

20 หนงั ดงั ในอดีตที่จะถกู นามาสรา้ งใหม่ วงการภาพยนตร์มกั วนเวยี นอย่กู ับหนงั ภาคต่อ หรือไมก่ ็หนังดงั ในอดตี ท่ีผ้สู ร้างและผ้กู ากับมกั จะนามาปัดฝ่ นุ ทาใหม่อีกครงั ้ แตก่ ระนนั ้ หนังทไ่ี ด้ขนึ ้ ชื่อว่าเป็ นหนงั movie remaking ก็อดไม่ได้ท่มี กั ถกู คนดเู ปรียบเทียบกบั ฉบับ ออริจินอล ถ้าไม่ฉีกจากเดมิ ไปเลย ก็คงมีแตเ่ สมอตวั ถ้าแย่มากก็คงมีแต่เสยี งก่นด่า แต่วงการฮอลลวี ดู ก็ไม่เคย เข็ดกับหนัง movie remaking สกั ที นี่คือ 5 หนงั ดงั ในอดีตท่ีจะถกู นากลบั มาสร้างใหม่ให้เราชมกันอกี ครงั ้ หน่ึง Jumanji (1995) หนังแฟนตาซขี วญั ใจเด็กท่ีนาแสดงโดยโรบิน วิลเลียมส์ และเคิร์สเตน ดนั สต์ (วยั 13 ปี ) สร้างจากนิทานชื่อ เดยี วกนั ท่ีวา่ ด้วยกระดานเกมโบราณต้องคาสาปทปี่ ลกุ สตั ว์ป่ านานาชนิดให้หลดุ ออกมาสร้างความปั่นป่ วน หนัง ทาเงินสงู ถึง 262 ล้านเหรียญสหรฐั ซง่ึ ถือวา่ เยอะมากในยคุ นนั ้ The Craft (1996) จากหนังทนุ ตา่ กลายเป็ นหนังคลั ต์ช่ือดงั ของวยั รุ่นแหง่ ยคุ 90s เล่าเรื่องของสี่สาวไฮสกูลท่ีมีเวทมนตร์คาถา เหมือนแม่มด พร้อมแจ้งเกิดดาราสาวเนฟ แคมป์ เบลล์

ขอจบการนาเสนอ ขอบคุณครับ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook