12/7/2560 สำนวนไทย วรรณวสิ า หาญสงคราม
1เกบ็ เบยี้ ใต้ถุนร้านเกบ็ เบีย้ ใต้ถุนร้าน หมำยถึง เกบ็ เลก็ ผสมนอ้ ย ทำอะไรที่ประกอบดว้ ยส่วนเลก็ ส่วนนอ้ ย โน่นบำ้ งน่ีบำ้ ง จนสำเร็จเป็นรูปเป็นร่ำงข้ึนมำขยายความ – สำนวนไทย คำวำ่ “เกบ็ เบ้ียใตถ้ ุนร้ำน” นิยมใชก้ บั คนหรือแสดงอำกำรท่ีชอบเกบ็เลก็ ผสมนอ้ ย ค่อยๆสะสม จนสำมำรถผสมเป็นสิ่งท่ีตอ้ งกำรได้ เช่น นำยนอ้ ย ตอ้ งกำรตบแต่งบำ้ นใหม่ แต่ไม่มีเงินมำกพอ จึงใชว้ ธิ ีค่อยๆทำ ค่อยๆปรับ ค่อยๆแต่งตำมกำลงั กำยและกำลงั เงินของตน จนในท่ีสุดกไ็ ดบ้ ำ้ นท่ีตกแต่งตำมควำมตอ้ งกำรของตน
2กบเลอื กนายสานวนสุภาษติ ” กบเลอื กนาย “ ควำมหมำย : หมำยถึง กำรช่ำงเลือก ช่ำงสรรหำเพอ่ื ที่จะใหไ้ ด้ในสิ่งท่ีตนหวงั หรือมีควำมตอ้ งกำร เป็นคนเลือกมำก แต่ทำ้ ยสุดกลบั ไดข้ องท่ีไม่ตอ้ งกำรหรือไม่มีค่ำอะไรเลยสานวนสุภาษติ ทค่ี ล้ายคลงึ กนั : เลือกนกั มกั ไดแ้ ร่
3กบในกะลาสานวนสุภาษติ ” กบในกะลา ” ควำมหมำย : สำนวนสุภำษิตน้ีหมำยถึงผทู้ ี่คิดวำ่ ตนมีควำมรู้มำก แต่ท่ีจริงแลว้ มีควำมรู้และประสบกำรณ์นอ้ ยมำก จำกดั อยใู่ นกรอบแคบๆเท่ำน้นั สำนวน สุภำษิต หรือคำพงั เพยที่คลำ้ ยคลึงกนั : ปัญญำแค่หำงอ่ึง
4กระต่ายตนื่ ตูมสานวนสุภาษติ ” กระต่ายตนื่ ตูม ” ควำมหมำย สำนวนน้ีหมำยถึงอำกำรตื่นตกใจในเหตุกำรณ์ที่สรุปข้ึนเองอยำ่ งไม่มีเหตุผล ต่ืนตกใจโดยไม่คิดถึงเหตุผลวำ่ เกิดอะไรข้ึนกนั แน่ ด่วนสรุปอะไร ง่ำยๆ สำนวนสุภำษติ ท่ีคลำ้ ยคลึงกนั : ตีตนไปก่อนไข้ สานวนสุภาษติ ทค่ี ล้ายคลงึ กนั : ตีตนไปก่อนไข้
5กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี คาพงั เพยทว่ี ่า ” กรุงศรีอยธุ ยาไม่สิ้นคนดี “ หลำยคนคงจะไดเ้ รียนวชิ ำประวตั ิศำสตร์ไทยกนัมำแลว้ และรู้วำ่ กรุงศรีอยธุ ยำเคยเป็นเมืองหลวงของไทยมำก่อน มีประวตั ิศำสตร์กำรสู้รบกบั อริรำชศตั รูมำหลำยคร้ังจนนบั ไม่ถว้ น และไม่วำ่ บำ้ นเมืองจะมีเหตุกำรณ์วนุ่ วำยเกิดศกึ สงครำม กจ็ ะ มีวรี บุรุษ วรี สตรีมำคอยปกป้ อง ฟ้ื นฟูบำ้ นเมือง ตวั อยำ่ งเช่น พระนเรศวรมหำรำช พระเจำ้ ตำก สินมหำรำช เป็นตน้ ตำมตำรำหลำยๆเล่ม ไดก้ ล่ำวถึงท่ีมำของคำพงั เพย ” กรุงศรีอยธุ ยำไม่สิ้น คนดี ” วำ่ สำนวนคำพงั เพยประโยคน้ีเป็นสำนวนเก่ำ
6 กลงิ้ ครกขนึ้ ภูเขาคาพงั เพยไทยทวี่ ่า ” กลงิ้ ครกขนึ้ ภูเขา “ บำงคนอำจแปลกใจวำ่ ทำไมไม่ใช้ “เขน็ ครกข้ึนภูเขำ”ซ่ึงจะไดย้ นิ กนั บ่อยพอสมควร น้นั จริงๆแลว้ ไม่ถูกตอ้ ง ตอ้ งใชค้ ำวำ่ “กลิ้งครก” ไม่ใช่ “เขน็ ครก”เพรำะครกมีลกั ษณะกลมตอ้ งพลิกเล่ือนไปจึงตอ้ งใชค้ ำวำ่ ” กลิง้ ” โคลงสุภำษิตประจำภำพในพระอุโบสถวดั พระศรีรัตนศำสดำรำมอธิบำยความหมายว่าตนต่ำยศศกั ด์ิ กลู วงศ์หมำยมุ่งเอำอนงค์ นำฏล้ำเหมือนกลอ้ งครกข้ึนตรง เขำสุด สูงนำเห็นวำ่ ป่ วยกำรกำรก้ำ ก่ึงบำ้ เบำหุนสรุปความหมาย คำพงั เพย ” กลงิ้ ครกขนึ้ ภูเขา ” น้นั หมำยถึง เร่ืองที่กำลงั จะทำน้นั จะทำให้สำเร็จน้นั ทำไดย้ ำกลำบำก ตอ้ งใชค้ วำมพยำยำมและควำมสำมำรถอยำ่ งมำก เปรียบเสมือนกำรกลิ้งครกข้ึนภเู ขำ
7กว่าถว่ั จะสุกงากไ็ หม้คาพงั เพย ทว่ี ่า ” กว่าถัว่ จะสุกงากไ็ หม้ “ เป็นคำพงั เพย ซ่ึงเป็นเชิงเปรียบเทียบ ถึงกำรทำงำนท่ีลงั เล ไม่ยอมเลือก ไม่กลำ้ ตดั สินใจ หรือมว่ั แต่รอลงั เลใจ จนทำใหง้ ำนเสียหำย โดยคำพงั เพยน้ีมำจำก กำรควั่ ถวั่ กบั งำในกระทะเดียวกนั เน่ืองจำกถว่ั เป็นของสุกชำ้ ส่วนงำจะสุกเร็วกวำ่ เม่ือ เอำมำควั่ ในกระทะเดียวกนั แลว้ มวั รอไหถ้ ว่ั สุก งำกไ็ หมเ้ สียก่อน สรุปควำมหมำย ของคำ พงั เพย “ กวำ่ ถว่ั จะสุกงำกไ็ หม้ ” หมำยถึงลกั ษณะของกำรทำงำนที่มีควำมรีรอลงั เลใจ ทำให้ แกไ้ ขปัญหำไดไ้ ม่ทนั ท่วงที เมื่อไดอ้ ยำ่ งหน่ึงแลว้ แต่กลบั ตอ้ งเสียอีกอยำ่ งหน่ึงไป
8กนั ไว้ดกี ว่าแก้สานวนสุภาษติ ” กนั ไว้ดีกว่าแก้ “ ควำมหมำย สำนวนสุภำษติ น้ีหมำยถึง รู้จกั หำวธิ ีป้ องกนั เหตุไม่ใหเ้ กิดข้ึนดีกวำ่ ปล่อยใหเ้ หตุร้ำยเกิดแลว้ ไม่สำมำรถแกไ้ ขอะไรได้ สำนวนสุภำษติ ท่ีคลำ้ ยคลึง กนั : ตดั ไฟแต่ตน้ ลม
9กาคู่กา หงส์คู่หงส์สานวนสุภาษติ ” กาคู่กา หงส์คู่หงส์ “ ควำมหมำย สำนวนสุภำษติ น้ีหมำยถึง คนท่ีมีระดบั ฐำนะ เท่ำเทียมกนั ยอ่ มเหมำะสมท่ีจะอยเู่ คียงขำ้ งกนั คบคำ้ สมำคมกนั ตวั อยำ่ ง เม่ือวำนน้ีฉนั ไปงำนแต่งงำนของคุณยอดชำยกบั คุณศรีสุดำ ดูแลว้ ช่ำงเป็นคู่บ่ำสำวที่เหมำะสมกนั จริงๆ ดง่ั สำนวนไทยที่วำ่ ” กำคู่กำ หงส์คู่หงส์ ” ฝ่ ำยเจำ้ บ่ำวเป็นลูกเจำ้ สวั และมีบ่อน้ำมนั ส่วนฝ่ ำยเจำ้ สำวกล็ ูก ส.ส. เห็นแลว้ น่ำอิจฉำซะจริง
10กลมกลงิ้ เป็ นลูกมะนาวสานวนสุภาษติ ” กลมกลงิ้ เป็ นลกู มะนาว ” ควำมหมำย สำนวนน้ีหมำยถึงพฤติกรรมกลบั กลอกกะล่อนมำกจนตำมไม่ทนั ท่ีมำของสำนวน เน่ืองจำกมะนำวมีผลกลมเกล้ียง กลิ้งไปมำไดง้ ่ำย จึงใชเ้ ปรียบกบั คนที่กะล่อนมำกจนตำมไม่ทนั เหมือนลกู มะนำวท่ีกลิ้งไดเ้ ร็ว เวลำกลิ้งบนพ้นื ตำม จบั ยำก เพรำะผลกลมเกล้ียงสานวนสุภาษติ ทค่ี ล้ายคลงึ กนั : ตรอกลึกยอ่ มคดเค้ียว
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: