Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore mushroom

mushroom

Published by wanwisahansongkram, 2017-07-13 04:48:52

Description: mushroom

Search

Read the Text Version

เห็ดนางฟ้ า และการเพาะเห็ดนางฟ้ าเห็ดนางฟ้ า จดั เป็นเห็ดเศรษฐกิจที่สาคญั ที่นิยมรับประทานมากไม่แพก้ วา่ เห็ดนางรมและเห็ดฟาง เนื่องจาก เห็ดชนิดน้ีสามารถเพาะไดง้ ่าย มีเวลาในการเพาะส้นั ดอกเห็ดออกจานวนมาก ดอกเห็ดใหเ้ น้ือนุ่ม สามารถนามาประกอบอาหารไดห้ ลายชนิด อาทิแกงเลียง และตม้ ยา เป็นตน้• ชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Pleurotus sajor-caju (Fr.) Sing.• ชื่อสามญั :– Sarjou-caju Mushroom– Grey oyster mushroom– Indian mushroom• ชื่อทอ้ งถิ่น :– เห็ดนางฟ้ า– เห็ดแขก• ถิ่นกาเนิด : แถบเทือกเขาหิมาลยั ประเทศอินเดีย

ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ดอกเห็ดนางฟ้ าจะมีลกั ษณะคลา้ ยกบั ดอกเห็ดเป๋ าฮ้ือ และดอกเห็ดนางรม และคลา้ ยกบัเห็ดนางรมมากจนเกือบแยกไม่ออก แต่สีของขอบดอกของเห็ดนางฟ้ าจะอ่อนกวา่ เห็ดนางรม ในขณะท่ีเห็ดนางรมขอบดอกจะมีสีคล้ามากกวา่ ส่วนตวั ดอกเห็ดนางฟ้ าจะบางกวา่ เห็ดนางรม และมีครีบอยชู่ ิดกนั มากกวา่ และเม่ือเทียบกบั เห็ดเป๋ าฮ้ือ พบวา่ กา้ นดอกของเห็ดนางฟ้ าจะค่อนอยตู่ รงกลางดอกมากกวา่ ดอกของเห็ดเป๋ าฮ้ือที่เย้อื งไปอยู่ริมขอบดอกดา้ นใดดา้ นหน่ึง และกา้ นดอกของเห็ดนางฟ้ าจะเลก็ กวา่ กา้ นดอกของเห็ดเป๋ าฮ้ืออยา่ งชดั เจน ส่วนเห็ดนางฟ้ าอีกชนิด คอื เห็ดนางฟ้ าภฐู าน เป็นเห็ดที่นาเขา้ มาจากประเทศภูฐาน ซ่ึงปัจจุบนั กาลงั เป็นท่ีนิยมเช่นกนัโดยดอกเห็ดนางฟ้ าอาจออกเป็นดอกเด่ียวหรือออกเป็นกระจุกแน่น มีกา้ นดอกส้นั สีขาว ไม่มีวงแหวน ดอกเห็ดอ่อนมีสีขาว เมื่อแก่มากสีมีสีขาวอมสีน้าตาลอ่อน มีเสน้ ใยคอ่ นขา้ งละเอียด

เห็ดนางฟ้ า เห็ดนางฟ้ าภูฐานประโยชน์เหด็ นางฟ้ า1. เห็ดนางฟ้ านิยมนาดอกเห็ดสดมาประกอบอาหาร เช่น เห็ดนางฟ้ าชุบแป้ งทอด ตม้ ยาเห็ดนางฟ้ า และห่อหมกเห็ดนางฟ้ า เป็นตน้

สรรพคุณทางยา– ช่วยป้ องกนั โรคมะเร็ง– ลดไขมนั ในเสน้ เลือดคุณค่าทางอาหาร (100 กรัม)– น้า (กรัม) 90.27– แคลอรี (กิโลแคลอร่ี) 33.32– ไขมนั (กรัม) 0.07– คาร์โบไฮเดรต (กรัม) 4.47– โปรตีน (กรัม) 3.38– ใยอาหาร (กรัม) 0.47– แคลเซียม (มิลลิกรัม) 1.90– เหลก็ (มิลลิกรัม) 0.85– ฟอสฟอรัส (มิลลิกรัม) 87.44– วติ ามินบี 1 (มิลลิกรัม) 0.006– วติ ามินบี 2 (มิลลิกรัม) 0.08ท่ีมา : สุนนั ท์ และคณะ (2529)(1)• แร่ธาตุ (minerals)แคลเซียม (Ca ) : 20 มิลลิกรัม/กรัมฟอสฟอรัส (P) : 760 มิลลิกรัม/กรัมโปแตสเซียม (K) : 3,260 มิลลิกรัม/กรัมเหลก็ (Fe) : 124 (ppm)แคดเมียม (Cd) : 0.3 (ppm)สงั กะสี (Zn) : 12 (ppm)

ทองแดง (Cu) : 12.2 (ppm)ตะกวั่ (Pb) 3.2 : (ppm)• กรดอะมิโน (มิลลิกรัม/กรัม ของ crude protein nitrogen)Isoleucine : 78Leucine : 68.1Lysine : 73.5Methionine + Cystine : 62.5Phenylalanine + Tyrosine : 137.8Threonine : 88Tryptophan : 91Valine : 76.1ท่ีมา : Oei (1991)(2)ข้นั ตอน และวธิ ีการเพาะเหด็ นางฟ้ าโรงเรือน และวสั ดุเพาะ1. โรงเรือนสาหรับเห็ดนางฟ้ าจะใชโ้ รงเรือนท่ีวางเป็นรูปตวั เอ และควรมีอากาศถ่ายเทดีพอสมควร มีแสงตามความตอ้ งการของเห็ด จะสงั เกตไดค้ ือ เม่ือเดินทางเขา้ ในโรงเห็ดแลว้ ควรจะหายใจสะดวก ไม่อบั ช้ืนหรือร้อนเกินไปโครงสร้างของโรงเรือนทา ได้ 2แบบ แบบแรกเป็น โรงเรือนชว่ั คราว ใชว้ สั ดุไม่ถาวร ลงทุนไม่มาก เสาทา ดว้ ยไมไ้ ผ่หรือเสาเขม็ หลงั คามุงดว้ ยจากหรือหญา้ คา อายกุ ารใชง้ านประมาณ 3 – 4 ปี

โรงเรือนถาวร เป็นโรงเรือนสงั กะสีหรือกระเบ้ืองลอน แตอ่ าจมีปัญหาเรื่องความร้อนจึงควรทา หลงั คาใหส้ ูงข้ึน และควรมีท่อน้าพาดบนหลงั คาเพื่อปล่อยน้ารดลงมาในเวลาท่ีอุณหภมู ิสูงมาก อายกุ ารใชง้ านประมาณ 10 ปี ข้ึนไปขอบคุณภาพจาก www.somboonfarm.com2. การจดั วางกอ้ นเช้ือเห็ดนางฟ้ าในโรงเรือนโรงเรือนน้ีภายในทาเป็นแผงสาหรับวางกอ้ นเช้ือ ไม่จาเป็นตอ้ งกาหนดเป็นรูปแบบตายตวั สามารถวางเห็ดไดม้ าก นิยมใชไ้ มไ้ ผป่ ระกอบกนั เป็นรูปตวั เอ (A) หรือรูปสามเหล่ียมทรงสูง แลว้ วางกอ้ นเช้ือซอ้ นทบั กนั ไป หนั ปากถุงออกทางดา้ นขา้ งช้นั ท้งัสองดา้ น ทาช่องระบายอากาศขนาด 40 x 60 เซนติเมตร จานวน 1– 2 ช่อง สาหรับระบายอากาศดว้ ยการวางถงุ กอ้ นเช้ือเห็ดนางฟ้ าจะวางในแนวนอน เช่น การวางในแนวนอนโดยวางซอ้ นกนั บนแผงรูปตวั เอ ประมาณ 3 – 5 กอ้ น หรือวางซอ้ นกนั บนพ้ืนโรงเรือน ดอกเห็ดจะโผล่ออกมาทางปากถุง

3. วสั ดุเพาะ และสารอาหารวสั ดุท่ีนิยมใชเ้ ป็นวสั ดุหลกั ในการเพาะเห็ดนางฟ้ า คือ ข้ีเล่ือยไมย้ างพารา เน่ืองจากสามารถนามาใชไ้ ดเ้ ลย โดยไม่ตอ้ งหมกั เกบ็ รักษาง่าย สามารถเกบ็ ไวใ้ นสภาพแหง้ ๆ ก็ได้ หรือทิ้งอยกู่ ลางแจง้ เปี ยกน้า เปี ยกฝนกไ็ ด้การใส่อาหารเสริมในการทากอ้ นเช้ือ มกั นิยมเติมแร่ธาตุอาหารสาเร็จรูปหรืออาหารเสริมที่เห็ดสามารถนาไปใชไ้ ดโ้ ดยตรงในกองข้ีเล่ือยหมกั หรือข้ีเล่ือยไมเ้ น้ืออ่อน เพ่ือใหเ้ สน้ ใยเดินเร็วและใหผ้ ลผลิตสูงข้ึน อาหารเสริมท่ีใชไ้ ดแ้ ก่1. ราละเอียด อุดมไปดว้ ยโปรตีนและวิตามินบี ซ่ึงเป็นที่ตอ้ งการของเห็ดมาก2. ปูนขาว และยบิ ซม่ั ปนู ขาวช่วยลดความเป็นกรด และยปิ ซมั่ ช่วยลดความเป็นด่างเพื่อ ใหว้ สั ดุเพาะมีสภาพเป็นกลาง หรือค่าของกรดด่างอยใู่ นระดบั 6.5 – 7.23. ดีเกลือ ช่วยกระตุน้ การเจริญเติบโตของเสน้ ใย และเร่งการเกิดดอกเห็ดสูตรส่วนผสมกอ้ นเช้ือเห็ดนางฟ้ า– ข้ีเลื่อยไมย้ างพาราแหง้ 100 กิโลกรัม– ราละเอียด 5 กิโลกรัม– ปนู ขาว 1 กิโลกรัม– ยบิ ซม่ั 2 กิโลกรัม– ดีเกลือ 0.2 กิโลกรัม– ความช้ืน (น้า ) 50 – 60 เปอร์เซ็นต์อยา่ งไรกต็ าม ส่วนผสมน้ีบางฟาร์มอาจแตกตา่ งกนั ออกไปตามความเหมาะสมหรืออาจมีส่วนผสมอื่นเพิ่มเติมกไ็ ด้

ข้นั ตอนการเพาะนางฟ้ าในถุงพลาสตกิ1. การผลิตหวั เช้ือบริสุทธ์ิ2. การผลิตหวั เช้ือบนเมลด็ ขา้ วฟ่ าง3. การผลิตกอ้ นเช้ือเห็ดนางฟ้ า4. การบ่มเสน้ ใยเห็ดนางฟ้ า5. การเปิ ดดอกเห็ดและการดูแลรักษา1. การผลติ หัวเชื้อบริสุทธ์ิคือ การนาเอาดอกเห็ดหรือสปอร์มาเพาะใหเ้ ห็ดเจริญข้ึน เป็นเสน้ ใย เพื่อใชข้ ยายพนั ธุ์ไปทา หวั เช้ือต่อไป โดยจะเล้ียงเสน้ ใยเห็ดบนวนุ้ PDA– อุปกรณ์ท่ีจะใชใ้ นการแยกเช้ือเห็ด ประกอบดว้ ย เขม็ เข่ียเช้ือ ตะเกียงแอลกอฮอล์และตเู้ ขี่ยเช้ือ เวลาใชก้ ย็ กสิ่งของต่างๆ ที่ตอ้ งการเขา้ ไปไวภ้ ายในแลว้ ปิ ดช่องเสียไม่ให้ลมพดั เขา้ ไป แต่ดา้ นบนของตคู้ วรมีช่องใหอ้ ากาศหรือลมร้อนระบายออกไดเ้ ลก็ นอ้ ยก่อนใชง้ านจะตอ้ งเชด็ ตฆู้ ่าเช้ือภายในใหท้ ว่ั ดว้ ยแอลกอฮอล์– การคดั เลือกดอกเห็ดมาทาพนั ธุ์ เลือกดอกเห็ดที่มีลกั ษณะสมบูรณ์ เป็นดอกที่โตแขง็ แรง ดอกใหญ่ น้าหนกั ดอกมาก เน้ือแน่น กา้ นดอกมีลกั ษณะแขง็ แรงหรือโคนตน้หนา อายปุ ระมาณ 3 วนั หรือก่อนปล่อยสปอร์ 1 วนั ดอกเห็ดที่จะนา มาแยกเช้ือน้ีอยา่ใหเ้ ปี ยกน้าเป็นอนั ขาด ซ่ึงถา้ เป็นดอกที่เพิง่ เกบ็ เอามาจากแปลงใหม่ๆ ยง่ิ ดีการทาอาหารวนุ้ PDAสูตรอาหารเล้ียงเช้ือเห็ด มีอยดู่ ว้ ยกนั หลายสูตรแตกต่างกนั ออกไป แต่ในการเล้ียงเช้ือเห็ดนางฟ้ า นิยมใชส้ ูตร PDA สูตรน้ีซ่ึงมาจากภาษาองั กฤษโปเตโต้ เด๊กโทรส อะกา้ ร์มีวิธีการทา ที่ง่าย และส่วนผสม ดงั น้ี– มนั ฝร่ัง ปอกเปลือกหนั่ เป็นชิ้นเลก็ ๆ แลว้ ตม้ เอาแต่น้า 200 – 300 กรัม– น้า ตาลเด๊กโทรสหรือกลูโคลิน 20 – 40 กรัม

– วนุ้ 15- 20 กรัม– น้าสะอาด 1 ลิตรวิธีเตรียมสารอาหาร PDA– ชง่ั มนั ฝรั่งประมาณ 250 กรัม นามาปอกเปลือกแลว้ หน่ั เป็นชิ้น ขนาดเท่ากบั ลกู เต๋านาลงตม้ ในน้า ประมาณ 1.2 ลิตร ตม้ ดว้ ยไฟท่ีอ่อนๆ และใหน้ ้า เดือดประมาณ 15 นาทีมนั ฝร่ังกจ็ ะสุกพอน่ิม– กรองเอาแต่น้าออกมา และตม้ ต่อไปพร้อมกบั เติมวนุ้ ผง จานวน 15 กรัม กวนจนวนุ้ละลายหมดประมาณ 10 นาที– เติมน้าตาลเด๊กโทรส จานวน 20 กรัมลงไป คนใหล้ ะลาย แลว้ ตวงใหไ้ ด้ จานวน 1ลิตรพอดีหรือใกลเ้ คียง– นาน้ามนั ฝรั่งมากรอกใส่ในขวดแบนที่แหง้ และสะอาด ใส่ใหส้ ูงกวา่ กน้ ขวดเพียง 2 –3 เซนติเมตร– อุดขวดดว้ ยจุกสาลีเอากระดาษหุม้ แลว้ ใชส้ ายยางรัด– นาขวดอาหารไปน่ึงในหมอ้ น่ึงความดนั ใหม้ ีความดนั ไอน้าจานวน 15 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว นานประมาณ 20 นาที– นา ออกมาวางเรียงกนั ทิ้งไวใ้ หว้ นุ้ เกือบเยน็ นา ขวดอาหารวนุ้ มาเอียงนอนลงใหว้ นุ้แผก่ วา้ ง เพ่ือ เพ่ิมพ้นื ท่ีผวิ วนุ้ ในถ่ายอาหารวนุ้ เลยก่ึงกลางขวดเลก็ นอ้ ย– ใชไ้ มบ้ างๆ รองปากขวดใหส้ ูงเหนือจากพ้ืนเลก็ นอ้ ยในขณะท่ีเอนและควรระวงัไม่ใหว้ นุ้ ถกู กบั สาลีโดยตรงวธิ ีการเข่ียเน้ือเยอ่ืก่อนทาการแยกเน้ือเยอ่ื ควรลา้ งมือฟอกสบ่ใู หส้ ะอาด และเชด็ มือใหแ้ หง้ และเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ไวใ้ นตูเ้ ขีย่ เช้ือแลว้ คือ ดอกเห็ดที่จะใชแ้ ยกเน้ือเยอ่ื ขวดอาหารวนุ้ PDAเขม็ เข่ียเช้ือ และตะเกียงแอลกอฮอล์– เอาเขม็ เข่ียจุ่มแอลกอฮอล์ แลว้ ลนไฟบนปลายเขม็ เขี่ยร้อนแดง ทิ้งไวใ้ หเ้ ยน็ ในอากาศ

ประมาณ 10 วินาที– ขณะที่รอใหเ้ ขม็ เยน็ ใชม้ ืออีกขา้ งหน่ึงและนิ้วส่วนท่ีเหลือจากจบั เขม็ เขี่ยจบั ดอกเห็ดข้ึนมาฉีก จากขอบดอกลงมาตามแนวยาว ใหด้ อกเห็ดแยกออกเป็นสองซีก โดยตอ้ งไม่ใหส้ ่วนของมือหรือส่ิงใดๆ ไปแตะตอ้ งสมั ผสั กา้ นดอก และส่วนกลางดอกเห็ดบริเวณเน้ือเยอ่ื ท่ีเพิ่งฉีกออกมา– ใชเ้ ขม็ เข่ียตดั เน้ือเยอ่ื ดอกเห็ดออกมาเป็นชิ้นเลก็ ๆ ตรงส่วนท่ีอยรู่ ะหวา่ งบริเวณกา้ นดอกกบั หมวกดอก ซ่ึงเป็นส่วนที่เน้ือเยอื่ สมบูรณ์ท่ีสุด– วางดอกเห็ดแลว้ เปล่ียนมาจบั เอาขวดวนุ้ PDA แทน ซ่ึงขวดวนุ้ PDA ใชม้ ือจบั ขวดวนุ้ PDA ใหก้ น้ ขวดอยใู่ นอุง้ มือ เคลื่อนขวดวนุ้ เขา้ ไปหามือที่จบั เขม็ เข่ีย– ใชน้ ิ้วกอ้ ยกบั ฝ่ ามือที่จบั เขม็ เข่ียจบั เอาจุกสาลีท่ีปากขวดดึงออกเบาๆนา ปากขวดลนไฟกบั ตะเกียงแอลกอฮอล์ เพื่อ ฆ่าเช้ือ และเผาสาลีที่ติดอยู่– นาเอาเช้ือเห็ดสอดเขา้ ไปในขวด วางลงบนผวิ กลางอาหารวนุ้ ลนไฟท่ีคอปากขวดอีกคร้ังหน่ึง แลว้ ปิ ดจุกสาลีไวเ้ ช่นเดิม– นาขวดเช้ือไปเกบ็ ไวใ้ นหอ้ งท่ีมีอุณหภมู ิปกติ เพ่อื รอใหเ้ สน้ ใยเจริญเตม็ อาหารวนุ้หรือประมาณ 7 – 10 วนั เสน้ ใยเห็ดนางฟ้ ากจ็ ะเจริญเตม็ ผวิ หนา้ วนุ้ ไม่ควรเกบ็ ไวน้ านกวา่ น้ีเพราะจะเหนียวแก่อ่อนตวั ลง ถา้ เช้ือหมดอายุ ตอ้ งเร่ิมตน้ เข่ียเน้ือเยอื่ จากดอกเห็ดใหม่การขยายเช้ือวนุ้ใชอ้ ุปกรณ์ตดั เอาเสน้ ใยในอาหารวนุ้ ในพ้ืนที่ประมาณ 1 ตารางเซนติเมตร แลว้ เข่ียลงบนผวิ หนา้ ขวดวนุ้ เปล่า ขวดอื่น แต่ไม่ควรถ่ายเช้ือต่อเกิน 5 – 6 คร้ัง เพราะจะทา ให้ลกั ษณะของดอกเห็ดท่ีไดไ้ ม่ตรงตามพนั ธุเ์ ดิม และเช้ือตายง่าย เน่ืองจากเช้ืออ่อนลง2. การทาหัวเชือ้ เห็ดนางฟ้ าบนเมลด็ ข้าวฟ่ างการทาเมลด็ ขา้ วฟ่ าง– นา เมลด็ ขา้ วฟ่ างมาตม้ จนสุกนิ่มพอดีอยา่ ใหถ้ ึงกบั เละ

– นา ไปใส่ตะแกรงกรองเอาน้า ออกใหห้ มด ผ่งึ แดดพอแหง้– กรอกเมลด็ ขา้ วฟ่ างที่แหง้ แลว้ ใส่ขวด เพียงคร่ึงขวดหรือประมาณ 2 ใน 3 ของขวดเพื่อช่วยใหเ้ สน้ ใยเจริญไดร้ วดเร็ว การกรอกเมลด็ ขา้ วฟ่ างใส่ขวด ควรใชก้ รวย สวมปากขวดจะช่วยใหก้ รอกไดง้ ่ายข้ึน และเพ่ือป้ องกนั ไม่ใหเ้ มลด็ ขา้ วฟ่ างเป้ื อนปากขวดถา้ หากเป้ื อนปากขวดกค็ วรเชด็ ปากขวดใหส้ ะอาดและแหง้– ใชส้ าลีอุดปากขวดใหแ้ น่นพอดี ใชก้ ระดาษหุม้ ทบั สาลีอีกช้นั หน่ึงแลว้ รัดดว้ ยยางเพื่อ ป้ องกนั สาลีเปี ยกเวลาน่ึง– นาขวดเช้ือไปน่ึงดว้ ยหมอ้ น่ึงความดนั ใหม้ ีความดนั ไอน้า จานวน 15 ปอนด/์ตารางนิ้ว นาน 25 นาที แลว้ ทิ้งใหเ้ ยน็การถ่ายเช้ือเห็ดจากอาหารวนุ้ ลงในขวดเมลด็ ขา้ วฟ่ างขวดเมลด็ ขา้ วฟ่ างที่น่ึงเรียบร้อยแลว้ จะยงั เป็นเพียงเมลด็ พืชท่ีตม้ แลว้ เท่าน้นั ถา้ หากยงัไม่ใส่เช้ือเห็ดลงไป เราจึงตอ้ งนาเอาเช้ือเห็ดนางฟ้ าจากขวดอาหารวนุ้ ที่ไดค้ ดั เลือกและเตรียมไวแ้ ลว้ นามาถ่ายเช้ือหรือตอ่ เช้ือในเมลด็ ขา้ วฟ่ างเสียก่อน จึงนา ไปใชไ้ ด้การเข่ียเช้ือจากอาหารวนุ้ ลงในขวดเช้ือ การปฏิบตั ิกท็ าไดเ้ ช่นเดียวกบั การทาอาหารวนุ้คือ ตอ้ งทาภายในตเู้ ขี่ยเช้ือ โดยเลือกขวดเช้ือที่เสน้ ใยเจริญเตม็ ผวิ หนา้ วนุ้ ใหม่ๆใชเ้ ขม็เขี่ยลนไฟใหร้ ้อนแดงตดั เอาอาหารวนุ้ ท่ีมีเสน้ ใยติดมาดว้ ยใหช้ ิ้นมีขนาด 1 ตารางเซนติเมตร วางลงในขวดเช้ือ ตรงกลางเมลด็ ขา้ วฟ่ าง ใชว้ ิธีเอนขวดใหเ้ มลด็ ขา้ วฟ่ างเอนกระจายลงแบนราบเลก็ นอ้ ย แลว้ จึงวางวนุ้ ลงไปตรงกลาง พอต้งั ขวดเมลด็ ขา้ วฟ่ างกจ็ ะกลบชิ้นวนุ้ ตรงกลางขวดพอดี ใชส้ าลีอุดปากขวด แลว้ ใชก้ ระดาษปิ ดทบั รัดดว้ ยยางนาขวดเช้ือไปวางเกบ็ ไวใ้ นหอ้ งท่ีมีอุณหภูมิปกติ และมืด ประมาณ 8- 12 วนั เสน้ ใยจะเจริญเตม็ ขวดเมลด็ พชื เช้ือท่ีเสน้ ใยเจริญเตม็ ขวดใหม่ๆ อยใู่ นระยะที่แขง็ แรง เหมาะท่ี

จะนาไปใชง้ าน ไม่ควรเกบ็ ไวน้ านเกินไป เพราะจะทา ใหเ้ ช้ือออ่ นลง และมีโอกาสที่เช้ือจะมีเช้ือปนได้อยา่ งไรกต็ าม การทาหวั เช้ือน้ีสาหรับบางฟาร์ม ท่ีผลิตกอ้ นเช้ือเพ่ือเพาะเอาดอกเห็ดแลว้ อาจทาเองหรือไมต่ อ้ งทากไ็ ด้ เพราะเน่ืองจากในปัจจุบนั น้ีมีผทู้ า หวั เช้ือท่ีมีคุณภาพดีจาหน่ายอยทู่ ว่ั ไป และราคากไ็ ม่แพงนกั การซ้ือมาใชโ้ ดยไม่ตอ้ งทา เองกเ็ ป็นวิธีท่ีสะดวก แต่ควรที่จะไดม้ ีการตรวจสอบคณุ ภาพของเช้ือใหส้ ม่าเสมอดว้ ย3. การทาถุงเชือ้ เห็ดนางฟ้ าอุปกรณ์ท่ีจะตอ้ งใชม้ ี ถงุ ร้อนขนาด 7×11 นิ้ว หรือ 9×12 นิ้ว หรือใหญ่กวา่ น้ี คอขวดพลาสติกทาจากพลาสติกทนร้อน สาลี ยางรัด กระดาษหุม้ สาลี และชอ้ นตกัการทาถุงเช้ือ– นาข้ีเล่ือยไมเ้ น้ืออ่อนหรือข้ีเล่ือยไมย้ างพารา ผสมดว้ ยปนู ขาวประมาณ 1-2เปอร์เซ็นต์ ราละเอียดประมาณ 3 – 5 เปอร์เซ็นต์ อยา่ งไรกต็ ามส่วนผสมน้ีบางฟาร์มอาจแตกตา่ งกนั ออกไป ตามความเหมาะสมหรืออาจมีส่วนผสมอื่นๆ เพิ่มเติมกไ็ ด้– การหมกั ป๋ ุยเม่ือครบกาหนด 1 คืนแลว้ วนั รุ่งข้ึนจึงเติมราละเอียดตามอตั ราส่วน หรืออาจเติมดีเกลือลงไปดว้ ย การผสมน้า สาหรับเห็ดนางฟ้ า อาจตอ้ งผสมน้า ใหช้ ้ืนปกติไม่ใหแ้ หง้ หรือแฉะเกินไป– บรรจุในถุงพลาสติก เกือบเตม็ ถุง หรือประมาณ 1 – 1.2 กิโลกรัม เวน้ ปากถงุ ไว้สาหรับสวมคอขวดพลาสติก เพ่ือการเข่ียเช้ือ เม่ือใส่ป๋ ุยหมกั ลงในถุงแลว้ ใหย้ กถุงกระทุง้ เบาๆเพ่ือใหข้ ้ีเลื่อยแน่นหรืออาจใชม้ ือกดลงไป บางฟาร์มเห็ดมีเครื่องบรรจุถุงกน็ า มาใชไ้ ด้ เม่ือป๋ ุยแน่นแลว้ กร็ วบปากถุงและใชค้ อขวดสวมลงไป ใชม้ ือดึงถงุ ใหต้ ึงแลว้ รวบปากถุงลงมา ดา้ นนอกใชย้ างรัดใหแ้ น่น กจ็ ะทา ใหป้ ากถุงกอ้ นเช้ือแคบลงมีขนาดเท่ากบั คอขวด มนั จะคงรูปร่างเช่นน้ีเร่ือยไป เพ่ือใชส้ าหรับใหม้ ีท่ีวา่ งของอากาศสาหรับเขี่ยเช้ือเห็ดลงไป– ใชไ้ มป้ ลายแหลมเจาะรูป๋ ุยจากคอขวดใหล้ ึกลงเกือบก่ึงกลางถุง เพอ่ื ให้

เช้ือเห็ดที่ใส่ลงไปเจริญไดจ้ ากบริเวณกลางถุงหรืออาจไม่เจาะกไ็ ด้ หากไม่เจาะเสน้ ใยเห็ดกจ็ ะเจริญจากดา้ นบนลงมา เช่นเดียวกบั การทา หวั เช้ือในเมลด็ ขา้ วฟ่ าง ท้งั น้ีกแ็ ลว้ แต่การปฏิบตั ิของแต่ละฟาร์ม– ใชส้ าลีอุด แลว้ หุม้ ดว้ ยกระดาษและรัดดว้ ยยาง หรืออาจใชฝ้ าครอบสาลีแทนกระดาษกไ็ ด้ เพอื่ ไม่ใหส้ าลีเปี ยกในเวลาน่ึง สาลีท่ีเปี ยกอาจนา เช้ือราตา่ งๆ เขา้ มาในถุงไดง้ ่ายการน่ึงฆ่าเช้ือถงุ ป๋ ุยเม่ือเตรียมถุงเสร็จเรียบร้อยแลว้ กน็ าไปน่ึงฆ่าเช้ือดว้ ยหมอ้ น่ึงความดนั หรือหมอ้ น่ึงลูกทุ่ง เพื่อฆ่าเช้ือต่างๆ ท่ีเป็นศตั รูเห็ด เวลาในการน่ึงข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะของหมอ้ น่ึงและจานวนกอ้ นเช้ือ อาจน่ึงเพียง 2 ชวั่ โมง สาหรับการน่ึงเช้ือจานวนนอ้ ยและน่ึง 4- 6ชว่ั โมง สาหรับเช้ือจานวนมาก การน่ึงเช้ือจานวนมากตอ้ งระมดั ระวงั และแน่ใจวา่สามารถน่ึงฆ่าเช้ือไดท้ วั่ ถึง หลงั จากน่ึงเรียบร้อยแลว้ นากอ้ นเช้ือออกมาวางเรียงกนั ให้เยน็ สนิทดีเสียก่อน เพ่ือรอการเข่ียเช้ือเห็ดนางฟ้ า จากเมลด็ ขา้ วฟ่ างลงถุงต่อไปการเข่ียเช้ือเห็ดจากหวั เช้ือลงในถุงกอ้ นเช้ือกอ้ นเช้ือที่ไดจ้ ากการน่ึงฆ่าเช้ือดว้ ยหมอ้ น่ึงความดนั เรียบร้อยแลว้ จึงนาเอาหวั เช้ือเห็ดนางฟ้ าในเมลด็ ขา้ วฟ่ างที่ทาข้ึนหรือซ้ือเตรียมไวล้ ่วงหนา้ มาเขี่ยลงไปในกอ้ นเช้ือโดยปฏิบตั ิ ดงั น้ี– วางกอ้ นเช้ือเรียงกนั เป็นแถว– แกะเอากระดาษท่ีหุม้ ปิ ดสาลีออกใหห้ มด แต่ยงั คงจุกสาลีไวโ้ ดยไม่ตอ้ งเปิ ด และระวงั ไม่ใหส้ าลีหลุดออกมาจากคอขวด– เชด็ มือดว้ ยแอลกอฮอลใ์ หท้ ว่ั นาขวดหวั เช้ือเมลด็ ขา้ วฟ่ าง ท่ีคดั เลือกไวแ้ ลว้ เขยา่ ในขณะที่ยงั ปิ ดจุกสาลีอยู่ เพื่อใหเ้ มลด็ ขา้ วฟ่ างกระจาย– ถอดจุกสาลีที่ขวดเมลด็ ขา้ วฟ่ างออก

– นาปากขวดไปลนไฟจากตะเกียงแอลกอฮอล์ ใชม้ ืออีกขา้ งหน่ึงเปิ ดจุกสาลีกอ้ นเช้ือแลว้ เทหวั เช้ือลงไปในถุงประมาณ 10-20 เมลด็ จากน้นั จึงรีบปิ ดจุกสาลีทนั ที ไม่ตอ้ งใชก้ ระดาษปิ ดทบั ถุงตอ่ ไปกท็ าเช่นเดียวกนั ทกุ 3-4 ถุง ใหล้ นปากขวดดว้ ยไฟจากตะเกียงแอลกอฮอล์ ท้งั น้ี เม่ือเปิ ดขวดหวั เช้ือแลว้ กเ็ ข่ียเช้ือใหห้ มด แต่หากเหลือไม่ควรนากลบั มาใชใ้ หม่ เพราะเช้ือในขวดอาจตายแลว้ หรือเช้ือมีความอ่อนแอหวั เช้ือหน่ึงขวด สามารถเพาะใส่ถุงไดป้ ระมาณ 50-60 ถุง และสาหรับ เห็ดนางฟ้ าบางแห่งจะใชห้ วั เช้ือมากกวา่ น้ี คือ ประมาณ 25-30 กอ้ น ต่อเช้ือหน่ึงขวด ท้งั น้ีเพื่อใหเ้ ช้ือเจริญเร็ว และเช้ือเสียนอ้ ย4. ข้นั ตอนการบ่มเส้นใยเห็ดนางฟ้ ากอ้ นเช้ือเห็ดนางฟ้ า หลงั จากท่ีเขี่ยเช้ือแลว้ จะนากอ้ นเช้ือน้ีไปบ่มเกบ็ ไวใ้ นหอ้ งท่ีมีอุณหภูมิปกติ หรือในโรงบ่มที่ทา ไวโ้ ดยเฉพาะ ไม่มีลมโกรกและโรงเรือนควรมีแสงสวา่ งนอ้ ย เพอ่ื รอใหเ้ สน้ ใยเจริญเติบโตเตม็ ถุง ใชเ้ วลาประมาณ 2–3 สปั ดาห์ ระยะบ่มท่ีมาตรฐานคือ ประมาณ 22–28 วนั ยกเวน้ ฤดหู นาวใชเ้ วลาเพียง 15–20 วนั เท่าน้นักอ้ นเช้ือที่ดีเสน้ ใยเห็ด จะเจริญอยา่ งสม่าเสมอเป็นสีขาวทวั่ ท้งั กอ้ น หากเสน้ ใยเดินชะงกั หรือไม่เดินลงมา ซ่ึงอาจจะเกิดจากมีเช้ือราข้ึนปะปนจากการน่ึงไม่ทว่ั ถึงหรือในระหวา่ งการเข่ียเช้ือ ซ่ึงแสดงวา่ เช้ือเสีย ลกั ษณะกอ้ นเช้ือท่ีแฉะบริเวณกน้ ถุง กเ็ ป็นกอ้ นเช้ือที่เสียแลว้ เช่นกนั ควรคดั ออกทิ้งไปการบ่มเช้ือ จะลาเลียงกอ้ นเช้ือจากหอ้ งเขี่ยเช้ือเขา้ มายงั โรงบ่มน้ี นากอ้ นเช้ือไปวางเรียงบนช้นั จนเตม็ จะวางทางต้งั สาหรับช้นั วางท่ีถาวร หรือวางแนวนอนสาหรับช้นั แบบเสาคู่ซ่ึงไม่ควรเกิน 3 กอ้ น เพราะจะทา ใหก้ อ้ นเช้ือท่ีอยตู่ รงกลางมีความร้อนสูงเกินไปจนเป็นผลเสียภายหลงั ได้

การดูแลกอ้ นเช้ือในโรงบ่มน้ี นอกจากการรักษาความสะอาดตรวจสอบอุณหภมู ิเพือ่ควบคุมใหอ้ ุณหภูมิสม่าเสมอหรือไม่ใหส้ ูงเกินกวา่ 25–30 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิสูงกวา่ น้ีหรือจนคาดวา่ อาจเป็นผลเสียต่อการเจริญเติบโตของเสน้ ใยเห็ด โดยเฉพาะในฤดูร้อน ควรทาการลดอุณหภูมิลงโดยการรดน้า ตามพ้ืนผนงั หลงั คาโรงเรือน หรืออาจจะระบายอากาศออกคร้ังละประมาณ 10 นาที กพ็ อ ในทางตรงกนั ขา้ ม ทอ้ งถิ่นท่ีอากาศค่อนขา้ งหนาว หรือในฤดูหนาว ซ่ึงอุณหภูมิต่ากวา่ 20 องศาเซลเซียส จะทา ให้การเจริญเติบโตของเสน้ ใยเห็ดชา้ ลง ดงั น้นั โรงบ่มกอ้ นเช้ือเห็ดในสภาพทอ้ งถิ่นแบบน้ีควรหาทางบุภายในโรงเรือนดว้ ยผา้ พลาสติกหลงั จากบ่มเช้ือเห็ดไปไดส้ กั ระยะหน่ึง หรือประมาณ 10 วนั ใหค้ อยตรวจดูทุกวนั ถา้พบวา่ กอ้ นเช้ือถุงใดเสียหาย มีเช้ือราเขียว ราดา เขา้ ทา ลายขา้ งๆ ถุงหรือกน้ ถุง อาจเกิดจากการท่ีถุงพลาสติกแตกตามตะเขบ็ หากพบการเสียหายเกิดจากปากถุง โดยมีเช้ือราอยา่ งเดียวกนั แทบทุกถงุ สาเหตุอาจเกิดจากหวั เช้ือขา้ วฟ่ างเสีย แลว้ แพร่เช้ือราไปทุกถุงแต่ถา้ เกิดการเสียหายบางถงุ และเช้ือราไม่เหมือนกนั สาเหตุเกิดจากอากาศภายนอกและภายในสกปรก มีแหล่งเช้ือราตา่ งๆ สะสมอยมู่ ากตอ้ งรักษาความสะอาดบริเวณรอบโรงบ่ม และภายในโรงบ่มใหส้ ะอาด5. ข้นั ตอนการเปิ ดดอกเห็ดสาหรับลกั ษณะของวธิ ีการเปิ ดถงุ เพื่อใหเ้ ห็ดออกดอก และลกั ษณะของการวางถงุ กอ้ นเช้ือในโรงเรือน สามารถทาไดห้ ลายวธิ ี คือ– เปิ ดจากสาลีใหอ้ อกดอกเห็ดที่ปากถงุ ดึงจุกสาลีออกวางถุงในแนวนอนกบั พ้ืนโดยวางซอ้ นกนั บนแผงรูปตวั เอ หรือวางซอ้ นกนั บนพ้ืนโรงเรือน พ่นละอองน้าเป็นฝอยละเอียดเห็ดจะเกิดแลว้ โผล่ออกมาทางปากถุงไดเ้ อง วิธีน้ีนิยมทา กนั มากกวา่ วธิ ีอ่ืนสามารถใหผ้ ลผลิตเห็ดไดห้ ลายรุ่น การวางกอ้ นเช้ือซอ้ นกนั ในลกั ษณะน้ี เม่ือเกบ็ผลผลิตได้ 2-3 รุ่น กอ้ นเช้ือจะยบุ ตวั ลงมาทา ใหถ้ ุงเช้ือแน่นอยตู่ ลอดเวลา เสน้ ใยเห็ดสามารถส่งอาหาร เพ่ือทา ใหเ้ กิดดอกเห็ดใหมไ่ ดอ้ ีกหลายคร้ัง แต่การวางกอ้ นเช้ือแบบ

น้ีมีขอ้ เสียคือ กอ้ นเช้ือช้นั ล่างๆ มกั จะถกู ทาลายดว้ ยราเมือกหรือเน่าเปื่ อยก่อน เพราะถกู ทบั มากเกินไป ดงั น้นั การวางกอ้ นเช้ือซอ้ นกนั จึงไม่ควรวางเกิน 12 ถุง– พบั ปากถุง หลงั จากท่ีเอาคอขวดออกแลว้ เปิ ดปากถุงพบั ลงมา มว้ นปากถุงใหอ้ ยใู่ นระดบั เดียวกบั วสั ดุเพาะหรือกอ้ นเช้ือ อาจวางกอ้ นเช้ือเห็ดไดท้ ้งั ในแนวนอนหรือแนวต้งั บนช้นั วางติดๆ กนั วิธีน้ีจะเกิดดอกเห็ดคร้ังละหลายดอก แต่ดอกเลก็ ลง เพราะแยง่ อาหารกนั การวางบนช้นั ลกั ษณะเช่นน้ี อาจทาใหจ้ านวนถงุ เช้ือมีนอ้ ย จึงเกบ็ความช้ืนไดน้ อ้ ย แต่อากาศหมุนเวียนไดด้ ีจึงตอ้ งคอยรักษาความช้ืนในโรงเรือนไม่ให้แหง้ เร็วเกินไป– ตดั ปากถุง เป็นการเปิ ดปากถุงโดยใชม้ ีดโกนปาดปากถุงออก ตรงส่วนของคอขวดเม่ือตดั ออกไปแลว้ จะเหลือถุงพลาสติกหุม้ กอ้ นเช้ือส่วนบนอยบู่ างส่วน การเปิ ดวธิ ีน้ีจะไดด้ อกเห็ดนอ้ ยกวา่ วธิ ีแรก แต่น้า หนกั ดอกเห็ดจะดีกวา่– กรีดขา้ งถุง นากอ้ นเช้ือมาถอดเอาคอขวด และจุกสาลีออก รวบปากถุงรัดยางใหแ้ น่นใชม้ ีดคมๆ กรีดขา้ งถงุ ใหเ้ ป็นแนวยาวประมาณ 5 – 10 แถว หรือกรีดแบบเฉียงเลก็ นอ้ ยยาวประมาณ 6-8 เซนติเมตร หรือกรีดเป็นกากบาทเป็นจุดเลก็ ๆ กไ็ ด้ อาจวางถุงบนช้นัทางแนวนอน แลว้ กรีดดา้ นกน้ ถุงอีกดา้ นหน่ึงหรือจะไม่วางบนช้นั แต่ใชเ้ ชือกรัดปากถุงใหแ้ น่น แขวนไวใ้ นแนวต้งั สลบั สูงบา้ งต่าบา้ ง ระยะห่างของถุงประมาณ 5-7เซนติเมตร– การเปลือยถงุ แกะเอาถุงพลาสติกออกหมดท้งั กอ้ น แลว้ เอากอ้ นเช้ือวางลงใส่ในแบบไมห้ รือในตะกร้า รดน้า ใหเ้ ปี ยกทวั่ ท้งั กอ้ น เวลาเกิดดอกเห็ดจะไดเ้ กิดทุกส่วน คือดา้ นบน และดา้ นขา้ งแต่ตอ้ งรักษาความช้ืนในโรงเรือนใหส้ ูงมาก เพราะกอ้ นเช้ือจะสูญเสียความช้ืนอยา่ งรวดเร็ว แบบน้ีเกิดดอกเห็ดไดเ้ ร็ว เกิดข้ึนรอบกอ้ นแต่หมดไปเร็วและดอกเห็ดเลก็ มาก เพราะแยง่ อาหารกนั– เพาะแบบแขวนหลกั การเดียวกบั การวางกอ้ นเช้ือในแนวนอนแต่ไม่จาเป็นตอ้ งทาช้นัใดๆ ใชเ้ ชือกไนลอ่ นทา ข้ึนพิเศษ 4 เสน้ ผกู ติดกนั ดา้ นหวั ทา้ ย ส่วนตรงกลางใส่แผน่พลาสติกแขง็ เจาะรูร้อยเชือกท้งั 4 เสน้ ถ่างห่างออกจากกนั เอากอ้ นเช้ือวางซอ้ นกนั ได้

หลายถุง แขวนหอ้ ยจากคานดา้ นบน พ้นื เรือนเพาะจึงสะอาด ศตั รูเห็ดมีนอ้ ย การเกบ็ดูแลรักษาทา ไดง้ ่าย เปิ ดใหเ้ กิดดอกเห็ดทางหวั หรือทา้ ยก่อนปัจจยั การผลติ และการดูแลรักษาโดยธรรมชาติในการเจริญเติบโตของเห็ดนางฟ้ า นบั ต้งั แต่เกิดดอก จนกระทง่ั พร้อมท่ีจะเกบ็ เกี่ยวได้ จะใชเ้ วลาประมาณ 5 – 7 วนั การเกิดดอกเห็ดกค็ ือ การที่เสน้ ใยไดม้ ีการเปลี่ยนรูปมาอดั ตวั กนั สร้างดอกเห็ดข้ึนเม่ืออยใู่ นสภาพแวดลอ้ มเหมาะสมผลผลิตและคุณภาพของดอกเห็ดจะดีหรือไม่ ข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั ต่างๆ ดงั น้ี1. อุณหภูมิอุณหภูมิที่เหมาะสมตอ่ การเจริญเติบโตของเห็ดนางฟ้ า คือ ประมาณ 24- 26 องศาเซลเซียส ดอกเห็ดจะออกดอกเร็วมาก อาจกลา่ วไดว้ า่ เห็ดนางฟ้ าข้ึนไดด้ ีในหนา้ ฝนดีพอสมควรในหนา้ ร้อนดีมากในหนา้ หนาว ไม่หนาวจดั จนเกินไป ถา้ หนาวจดั กจ็ ะชะงกั การเจริญเติบโตและสีซีด ดงั น้นั ภาคกลางและภาคใต้ ปลกู ไดท้ กุ ฤดู ตลอดปีภาคเหนือและภาคอีสานจะใหผ้ ลดีในฤดูฝน2. อากาศเห็ดเป็นจุลินทรียท์ ่ีตอ้ งการออกซิเจนค่อนขา้ งมาก โดยเฉพาะเวลาเกิดดอกเห็ดจะ

ตอ้ งการออกซิเจนมาก ท้งั ระยะเป็นดอกเห็ดและระยะเป็นเสน้ ใย3. ความช้ืนจุลินทรียท์ วั่ ๆ ไปชอบความช้ืนสูง แต่สาหรับเห็ด เมื่อเทียบกนั แลว้ กท็ นแลง้ ไดด้ ีกวา่จุลินทรียอ์ ื่น การเพิ่มความช้ืนในวตั ถุเพาะทา ไดโ้ ดยการรดน้า แต่ตอ้ งระวงั มิใหม้ ากเกินไปเพราะจะทา ใหเ้ สน้ ใยชะงกั การเจริญหรือเปี ยกเกินไป ความช้ืนในอากาศ ทาไดโ้ ดยการพน่ ละอองน้าในอากาศน้าท่ีใชร้ ดควรเป็นน้าสะอาดปราศจากสารเคมี และส่ิงสกปรกปนเป้ื อน เช่น น้า ฝน น้าคลอง น้า บอ่ และน้า บาดาล น้า ท่ีใชร้ ดเห็ดนางฟ้ าควรเป็นกลาง ค่าความเป็นกรดด่าง(pH) ที่เหมาะควรเป็นประมาณ 7 ถา้ สามารถ นา น้า ตวั อยา่ งประมาณ ไปตรวจวเิ คราะห์ที่หน่วยงานดา้ นเกษตร เช่น กรมวชิ าการเกษตร กรมท่ีดิน เพ่ือขอคา แนะนาไดก้ จ็ ะเป็นการดียง่ิ4. แสงเห็ดทุกชนิดไม่สามารถปรุงอาหารเองได้ ตอ้ งอาศยั อาหารจากพชื ต่างๆ ดงั น้นั แสงจึงไม่มีความจาเป็นต่อการเจริญเติบโตของเห็ด โดยเฉพาะในระยะที่เสน้ ใยกาลงั ลามทวั่กอ้ นหากมีแสงสวา่ งมากจะทา ใหเ้ สน้ ใยเจริญเติบโตชา้ ลง ฉะน้นั ในระยะของการบ่มกอ้ นเช้ือเพ่ือเล้ียงเสน้ ใย ควรทาในโรงเรือนที่มีแสงสวา่ งนอ้ ยที่สุด อยา่ งไรกต็ ามแสงก็มีความจาเป็นในการกระตุน้ ใหเ้ สน้ ใยรวมตวั กนั เพื่อใหเ้ กิดดอกเห็ดไดเ้ ร็วข้ึน ในระยะเห็ดออกดอกหากมีแสงนอ้ ยเกินไปหรือไม่เพียงพอ จะทา ใหด้ อกเห็ดไม่สมบูรณ์ได้เห็ดนางฟ้ าถา้ ถกู แสงแดดส่องบา้ งกเ็ จริญ เอนเขา้ หาแสง ในช่วงน้ีจึงตอ้ งการแสงปานกลาง แสงท่ีเหมาะคือ ขนาดพอท่ีจะอ่านหนงั สือออกกพ็ อ และแสงสีน้า เงินจะมีผลต่อการออกดอกของเห็ดมากกวา่ สีอ่ืน5. ความสะอาดเมื่อเปิ ดปากถงุ และนากอ้ นเช้ือไปวางบนช้นั ในโรงเพาะแลว้ ส่ิงที่ตอ้ งเอาใจใส่ระมดั ระวงั มากท่ีสุด คือ ความสะอาด โรงเรือนที่ไม่สะอาดจะเป็นแหล่งสะสมเช้ือโรค

ที่เป็นผลเสียต่อเห็ดได้ เช่นโรงเรือนที่มีโรค และแมลงศตั รูเห็ด แลว้ ระบาดทา ใหก้ อ้ นเช้ือ และดอกเห็ดเสียหายหมดท้งั โรงเรือนการเกบ็ เกย่ี วและการจัดการหลงั การเกบ็ เกย่ี วเม่ือเอาถุงกอ้ นเช้ือมาเปิ ดรดน้า และมีการดูแลรกั ษาที่ถูกตอ้ งเหมาะสม จะเกิดดอกเห็ดเลก็ ๆ ภายในเวลาประมาณ 2 – 3 สปั ดาห์ ขณะที่กาลงั เกิดเป็นดอกเห็ดเลก็ ๆ น้ี หากดูแลในเร่ืองของความช้ืนไดด้ ี ดอกเห็ดกจ็ ะโตเตม็ ท่ีภายใน 4–5 วนั ส่วนมากจะเกบ็ ได้ในวนั ที่ 4 ถา้ ทิ้งไวน้ านกวา่ น้นั ดอกเห็ดจะสร้างสปอร์ออกมาเป็นผงสีขาวละเอียดหลุดร่วงหลน่ ลงดา้ นล่าง ดอกเห็ดที่สร้างสปอร์ไปแลว้ คุณภาพจะดอ้ ยลง คือ เหนียวข้ึนและรสชาดกจ็ ะขมลกั ษณะของดอกเห็ดที่แก่พอจะเกบ็ เกี่ยวได้ สงั เกตจากกา้ นของดอกเห็ดจะหยดุ การเจริญเติบโตทางดา้ นความยาว หมวกดอกเร่ิมคลี่ออกมาประมาณคร่ึงหน่ึง แลว้ เร่ิมสร้างสปอร์บา้ ง ขอบดอกจะหนา และรวมตวั เขา้ หากนัเม่ือเจริญโตเตม็ ท่ีแลว้ ขอบดอกจะคล่ีออก และบางลงกวา่ เดิม เป็นระยะที่ควรเกบ็ เก่ียวได้ ไม่ควรปล่อยใหโ้ ตไปมากกวา่ น้ี จนกระทงั่ ปลายหมวกดอกคลี่บานเตม็ ที่ เพราะระยะน้ีดอกเห็ดจะสร้างสปอร์มากทาใหค้ วามหนาแน่นของเน้ือเห็ดลดลง ท้งั ยงั ดูดอมน้ามากข้ึน จะช้าง่ายเม่ือนาไปจาหน่ายการเกบ็ ดอกเห็ดควรเกบ็ ในตอนเชา้ มืด ใหใ้ ชม้ ือดึงที่โคนออกมาเบาๆ ไม่ควรใชม้ ีดตดัเพราะเศษเห็ดท่ีติดอยกู่ บั กอ้ นเช้ือจะเน่า เกิดเป็นแหล่งสะสมเช้ือโรค เม่ือเกบ็ ดอกเห็ดมาแลว้ จึงใชม้ ีดหรือกรรไกรตดั เอาส่วนโคนท่ีมีเศษข้ีเลื่อยติดมาวางเห็ดคว่าไวใ้ นตะกร้าที่สะอาดแต่ละตะกร้าไม่ควรใส่ดอกเห็ดลงไปมากเกินไป หรือไม่ควรใส่เกิน 5กิโลกรัม/ตะกร้า เพ่ือไม่ใหน้ ้า หนกั ของดอกเห็ดกดทบั กนั จนเสียหาย

ดอกเห็ดนางฟ้ าเกบ็ รักษาไดไ้ ม่ทนมากนกั ควรจะใชท้ าอาหารใหห้ มดภายใน 1–2 วนัหลงั จากท่ีตดั ออกมา เพราะเห็ดชนิดน้ีเกบ็ ไม่ทน มกั จะเห่ียวแมจ้ ะแช่ตเู้ ยน็ กต็ าม การเกบ็ เห็ด ถา้ เกบ็ ในอุณหภมู ิหอ้ ง คือ ไม่เขา้ ตเู้ ยน็ การวางบนใบตองสด เรียงดอกเห็ดบางๆ กส็ ามารถเกบ็ ไวไ้ ดร้ ะยะหน่ึง ถา้ เกบ็ ในตูเ้ ยน็ กค็ วรเอาใส่ถุงพลาสติกอยา่ งขนุ่ขย้แี ลว้ สเปรยน์ ้าใหม้ ีหยดเลก็ ๆ ติดภายในเอาดอกเห็ดใส่ถุงรัดดว้ ยยางหรือเยบ็ ปากถุงไว้กอ้ นเช้ือเห็ดนางฟ้ าสูตรธรรมดาขนาดน้า หนกั 1 กิโลกรัม จะใหผ้ ลผลิตคร้ังละ 50–60กรัม แต่ละกอ้ นจะใหผ้ ลผลิตประมาณ 4–5 รุ่น แต่ละรุ่นมีช่วงห่างระหวา่ งการเกิดดอกประมาณ 30–40 วนั ไดน้ ้าหนกั รวมกระทง่ั หมดอายุ ประมาณ 3–4 ขีดการดูแล และเกบ็ เห็ดนางฟ้ าจะใชเ้ วลาประมาณ 2-4 เดือน หรือจนหมดอายอุ าหารในกอ้ นจึงนารุ่นใหม่เขา้ มาเพาะแทน รวมท้งั กอ้ นเช้ือบางกอ้ นท่ีเน่าเสียไปอยา่ งรวดเร็วกวา่ กอ้ นอ่ืนๆใหแ้ ยกออกไปแลว้ นา รุ่นใหม่เขา้ มาแทนเช่นกนั กอ้ นเช้ือที่หมดสภาพหรือหมดอายแุ ลว้ จะมีน้าหนกั เบา บางกอ้ นจะเละมีสีดาคล้า ถึงระยะน้ีอาจนาออกมาท้งั หมด จากน้นั จึงลา้ งโรงเรือนใหส้ ะอาดก่อนนา กอ้ นเช้ือรุ่นใหม่เขา้ ไปเพาะต่อไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook