คำนำ เอกสารแผนพัฒนาตนเอง (Individual Development Plan) ปกี ารศกึ ษา 2564 เล่มน้ีไดจ้ ัดทำขึ้น โดยการประเมินสมรรถนะของตนเอง และจดั ทำข้นึ เปน็ การสรา้ งนิสยั การทำงานโดยใชข้ อ้ มูลเปน็ ฐานในการพฒั นา ตนเอง สำหรับใช้เป็นแนวทางปฏบิ ัตงิ านในปีการศึกษา หวังวา่ เอกสารเล่มนี้ จะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ครู และบุคลากร ทางการศกึ ษาในการพฒั นาตนเองให้บรรลเุ ป้าหมายการจัดการศกึ ษาต่อไป
ส่วนที่ 1 : ขอ้ มูลส่วนบุคคล 1. ขอ้ มูลทั่วไป ชอื่ -สกุล นายบญุ สง่ ขนานแข็ง ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู ำนาญการ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เลขทีต่ ำแหน่ง 123798 เงินเดือน 31,200 บาท เงนิ วทิ ยฐานะ 3,500 บาท วัน / เดือน / ปี เกดิ 22 มนี าคม 2520 อายุ 44 ปี วัน / เดือน / ปี ท่ีบรรจุ 1 เมษายน 2552 อายรุ าชการ/ประสบการณ์การทำงาน 13 ปี วฒุ กิ ารศึกษา ปรญิ ญาตรี ครศุ าสตรบัณฑติ วิชาเอก การประถมศกึ ษา จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏจนั ทรเกษม ปริญญาโท................ วิชาเอก จาก............................................... ปรญิ ญาเอก.............. วชิ าเอก จาก............................................... อ่นื ๆ ระบุ................. วชิ าเอก จาก............................................... สถานทีท่ ำงาน สังกดั จงั หวัด สถานศึกษา/ หน่วยงาน สำนกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ รอ้ ยเอด็ พ.ศ. โรงเรยี น 2564 โรงเรยี นโสตศึกษาจงั หวัดรอ้ ยเอ็ด 2. วิชา/สาขา/กลุ่มสาระการเรยี นรทู้ ท่ี ำการสอน ภาคเรียน ชอื่ วิชา ชั้น จำนวนชว่ั โมง/สัปดาห์ 1 ส21101 สงั คมศึกษา มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1/1 3 ส22101 สงั คมศึกษา มัธยมศึกษาปที ี่ 2/1 3 ส23101 สังคมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3/1 3 มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1/1 1 ส21103 ประวัตศิ าสตร์ มัธยมศึกษาปที ี่ 2/1 1 มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3/1 1 ส22103 ประวัตศิ าสตร์ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1/1 1 มธั ยมศึกษาปที ่ี 2/1 1 ส23103 ประวตั ิศาสตร์ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3/1 1 มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3/1 1 ส21231 หน้าที่พลเมือง มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3/1 1 ส22233 หนา้ ท่ีพลเมอื ง มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3/1 1 ส23235 หน้าทีพ่ ลเมือง กิจกรรมแนะแนว 18 กิจกรรมลูกเสือ-ยวุ กาชาด กิจกรรมชมุ นมุ รวม
2 3. ผลงานที่เกดิ จากการปฏิบัติหนา้ ทีใ่ นตำแหน่งปจั จุบัน (ยอ้ นหลงั ไม่เกิน 2 ปี) 1. ผลทเี่ กิดจากการจดั การเรยี นรู้ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียน มีการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง โดยใช้แฟ้มสะสม ผลงาน ชิ้นงาน แบบฝึกทักษะ โดยการวัดผลประเมินผลดังกล่าวครอบคลุมทุกๆด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ การปฏิบัติ กระบวนการและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของนักเรียนทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม และสติปัญญา และมคี ณุ ธรรม จริยธรรม ทั้งนีเ้ พอื่ ให้นักเรยี นมีพัฒนาการท่ีดี มีคุณลักษณะท่ีพึง ประสงค์ ตลอดจนมีการบันทึกหลังการจัดกิจกรรมการสอนอย่างสมำ่ เสมอ ทั้งนี้เพื่อจะไดช้ ่วยแกไ้ ขข้อบกพรอ่ งใหก้ ับ นกั เรยี นทมี่ ีปัญหา สามารถสรปุ ผลการดำเนนิ งานได้ดงั น้ี 1.1 มแี ผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาสังคมศึกษา รหสั วิชา และรายวิชา โครงสร้างข้อมูลและ รหสั วิชา ส21101 รายวิชาสังคมศึกษา ที่มีการวิเคราะห์หลักสูตรสถานศึกษา มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 1.2 มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการปฏิบัติ (Active Learning) โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญด้วยกิจกรรมท่ี หลากหลายและสอดคลอ้ งกับธรรมชาตวิ ิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 1.3 มีแนวทางในการบรหิ ารจัดการช้ันเรยี นและจดั บรรยากาศในช้ันเรยี นทีเ่ หมาะสมและชว่ ยส่งเสรมิ การ เรยี นรูข้ องนักเรียน 1.4 มีเครื่องมือการวัดและประเมินผลที่มีคุณภาพ ผ่านการหาคุณภาพเครื่องมือวัดผลเบื้องต้น และมีความ หลากหลายในการประเมินอย่างรอบด้าน ทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะและกระบวนการ และด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รวมไปถึงสมรรถนะท่สี ำคัญของผ้เู รียน 1.5 มกี ารแกป้ ญั หาในชั้นเรยี นดว้ ยกระบวนการวิจยั ในชั้นเรียน เรือ่ งการพัฒนาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นวิชา สงั คม(เศรษฐศาสตร)์ เร่ืองการเงิน การคลัง การธนาคาร ของนักเรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยสื่อการสอนสามมติ ิ (POP UP) ในรายวชิ า ส21102 สงั คมศึกษา ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 โรงเรียนโสตศึกษาจงั หวัด รอ้ ยเอด็ 1.6 มสี อ่ื การเรียนรู้ และแหลง่ การเรียนสำหรับใช้ประกอบการจัดการเรยี นรู้ และใหน้ ักเรียนไวส้ บื ค้นเพิ่มเตมิ เช่น เอกสารประกอบการเรียน POP UP บัตรคำ บัตรภาพ วิดีโอ และเวบ็ ไซต์รายวิชาทีจ่ ดั การเรียนการสอน เพิ่มเติม 1.7 ใช้ระบบออนไลน์ในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ และการสื่อสารกับผู้เรียน ใช้อินเทอร์เน็ต และ ICT เพื่อการจัด กิจกรรมการเรียนการสอน 2. ผลทเ่ี กิดจากการพัฒนาวิชาการ ผลที่เกิดจากการพัฒนาทางด้านวิชาการ พัฒนาผู้เรียนด้านคุณธรรม จริยธรรม ความมีวินัยในตนเอง ตลอดจนจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ อีกทั้งข้าพเจ้าเป็นผู้สนใจใฝ่รู้ โดยได้ศึกษาหาความรู้วิทยาการใหม่ ๆ มา พัฒนางานตนเองและเป็นแบบอย่างให้เพื่อนร่วมงาน มีวิสัยทัศน์ กล้าพูดกล้าตัดสินใจ มีความรับผิดชอบต่องานใน หน้าที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค มีความเอาใจใส่ต่องานในหน้าที่และยังให้คำแนะนำ สนับสนุนเพื่อนครูทั้งในและนอก
3 สถานศึกษาในด้านข้อมลู ข่าวสาร ที่เปน็ ประโยชน์ต่อทางราชการให้การสนับสนุนด้านวชิ าการโดยเป็นวิทยากรอบรม พัฒนาสื่อการเรียนการสอน โดยใช้สื่อเทคโนโลยีเปน็ สือ่ ในการพัฒนานักเรียนเข้าแข่งขันงานทักษะทางวิชาการอย่าง สม่ำเสมอทุกปี ซึ่งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ มีการเข้ารับการอบรมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา เพ่ือ พัฒนาตนเองอยู่เสมอ สามารถสรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้ 2.1 มกี จิ กรรมและการแข่งขนั ทส่ี ง่ เสริมและเปดิ โอกาสให้นักเรยี นได้ใช้ความคดิ และทักษะท่ไี ดฝ้ ึก ประสบการณ์มา เช่น การแข่งขนั วาดภาพระบายสใี นกิจกรรมวันสำคัญ การเขา้ รว่ มการแขง่ ขนั กฬี าภายใน สถานศึกษา 2.2 มีกิจกรรมบูรณาการเนื้อหาในห้องเรียนกับกิจกรรมที่ทำในระบบจัดการชั้นเรียนออนไลน์โดยใช้เทคโนโลยี ของ Google เช่น Google Site ซ่ึงเปน็ การบรู ณการเน้ือหาในห้องเรียนผ่านกจิ กรรมตา่ งๆ ในรายวชิ า 2.3 มกี ารสอนแบบออนไลน์โดยทผี่ ู้เรยี นสามารถเรยี นซำ้ บทเรยี นที่ครูสอนไดจ้ าก Google Site 2.4 มีกจิ กรรมชุมนุม และกิจกรรมแนะแนวในการให้คำปรึกษาแกผ่ เู้ รียนในด้านตา่ ง 2.5 ครมู คี วามเข้าใจในการนำกระบวนการ PLC เขา้ มาใช้ในการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน 2.6 การนำความรดู้ ้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาพฒั นาระบบการจัดการเรยี นรู้ได้ 2.7 การนำวธิ ีการวจิ ัยและพัฒนามาแก้ปัญหา พร้อมทัง้ พัฒนางานอย่างครบวงจร 3. ผลท่เี กดิ กับผ้เู รียน ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการให้นักเรียนได้ฝึกการปฏิบัติจริง (Action Learning) เพื่อให้นักเรียนได้มีทักษะต่างๆ ตลอดจนสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงาม ความมีวินัยใน ตนเอง ส่งผลให้ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรม มีวินัยในตนเอง มีสัมมาคารวะ มีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย มี ความสามารถในการใช้ภาษาในการสือ่ สาร และการมีจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เรียนสามารถ นำความรคู้ วามเข้าใจและทักษะไปบูรณาการ และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวนั เปน็ การเพมิ่ พูนสมรรถนะตนเองให้มาก ขึ้น สามารถสรปุ ผลการดำเนนิ งานได้ดงั น้ี 3.1 นักเรยี นมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนตามเกณฑ์ทีก่ ำหนด 3.2 นกั เรยี นมรี ะดับทักษะและกระบวนการทางเทคโนโลยี ผา่ นเกณฑ์ท่คี รูผู้สอนกำหนดไว้ 3.3 นักเรยี นมีระดับคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ผ่านทเี่ กณฑ์ท่ีครผู ้สู อนกำหนดไว้ 3.4 นกั เรียนมีช้นิ งาน/ผลงาน ทส่ี ะท้อนความคิดขน้ั สูง เช่น การคดิ วิเคราะห์ การสงั เคราะห์ การประเมินคา่ และความคดิ สรา้ งสรรคช์ ้นั งาน โดยใช้ความรแู้ ละเนือ้ หาทางเทคโนโลยี 3.5 นกั เรยี นสามารถค้นคว้าหาความรู้จากแหล่งเรยี นรู้ทค่ี รูไดร้ วบรวมและแนะนำให้ได้อย่างถกู ต้อง 4. ผลท่ีเกดิ กับสถานศกึ ษา จากการที่สถานศึกษามีแผนกลยุทธ์ในการพัฒนา มีเป้าหมาย มีทิศทางในการดำเนินงานเพื่อพัฒนา สถานศึกษา นักเรียน โดยมีการจัดกิจกรรม โครงการต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งนักเรียนและครูมีส่วนร่วมในการ ปฏิบัติกิจกรรม ทำให้ผลการดำเนินงานเป็นที่ยอมรับของผู้ปกครอง ชุมชน ท้องถิ่น ตลอดจน การจัดทำส่ือ ประชาสัมพันธ์ต่างๆ เช่น เว็บไซต์ประชาสัมพันธ์และแหล่งข้อมูลเพื่อสืบคน้ สำหรับครูและนกั เรียน เพื่อให้โรงเรียนมี
4 การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และให้การดูแลนักเรียนโดยการเยี่ยมบ้านนักเรียนด้วยการโทรศัพท์ประสาน ผ้ปู กครองของนักเรียนในความดแู ล และใหค้ ำแนะนำในด้านตา่ งๆ ให้แกน่ ักเรียนและผู้ปกครอง ได้รับการยอมรับจาก ผู้ปกครองและชมุ ชนในดา้ นการดูแลเอาใจใส่ของครูที่มีต่อนักเรยี นในด้านการจัดการดูแลด้านพฤติกรรม คณุ ลกั ษณะท่ี พงึ ประสงคด์ ้านกิริยา มารยาท ความมีวนิ ยั ในตนเอง ความรบั ผดิ ชอบ สามารถสรปุ ผลการดำเนินงานได้ดงั น้ี 4.1 มีระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ ที่อยู่ในรูปแบบเว็บไซต์ เช่น ระบบงานทะเบียนและวัดผล (ScoolMIS), ระบบ ข้อมลู สารสนเทศ (SET) , เวบ็ ไซตง์ านบริหารวิชาการของโรงเรียน (https://sites.google.com/site/s101plc/home) 4.2 มีการพัฒนากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น กิจกรรมลูกเสือและชุมนมุ ทีจ่ ัดใหส้ อดคล้องกบั หลกั สูตรและผู้เรียน เปน็ ศนู ยก์ ลาง 4.3 มรี ะบบการทำงานท่ีเป็นทีม และมีแนวทางการทำงานที่เป็นข้นั ตอนชดั เจน 4.4 มีระบบจัดการชั้นเรียนออนไลน์ด้วยเทคโนโลยี Google คือ Google Site ในรายวิชาที่เป็นเทคโนโลยี สารสนเทศ และมคี ลงั บทเรยี นทมี่ ีการอธิบายเนอื้ หาการเรยี นการสอนของครูผูส้ อนใน Google Site 4.5 การนิเทศติดตามผลการปฏิบัติงานของครูทำให้การปฏิบัติงานมีความสมบูรณ์ และเป็นไปตามเวลาที่ กำหนด 4.6 มีระบบการทำงานเป็นทีมมากข้นึ 4.7 มแี นวปฏิบัตดิ า้ นเอกสาร หลักฐานทางการศึกษาท่ีถูกตอ้ ง 4.8 การพฒั นางานมรี ะบบถกู ต้องและครบวงจร 5. ผลทีเ่ กดิ กับชุมชน สถานศกึ ษามีส่วนร่วมกบั ชุมชน ในกิจกรรมต่างๆ ตลอดปกี ารศึกษา โดยเฉพาะกิจกรรมที่เก่ียวกับวัฒนธรรม ประเพณี และพิธีกรรมทางศาสนา ตลอดจนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ กิจกรรมวันสำคัญ จนทำให้เกิดความร่วมมือ ความเขา้ ใจท่ีดตี ่อกัน เกดิ ความรกั และความภาคภูมใิ จในโรงเรยี นและท้องถิน่ นอกจากนโ้ี รงเรียนยังไดจ้ ดั กิจกรรมการ ประชุมผู้ปกครอง ประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในแต่ละภาคเรียนเพื่อชี้แจงนโยบายของโรงเรียน และ เพื่อหาแนวทางในการร่วมพัฒนาโรงเรียน ทั้งพัฒนาอาคารสถานท่ี และพัฒนาทางวิชาการให้เป็นไปในทางทิศทาง เดียวกัน สามารถสรปุ ผลการดำเนินงานได้ดังน้ี 5.1 เกดิ ความสัมพนั ธท์ ่ีดีกบั ผูป้ กครองนกั เรียน และชมุ ชน มีการประชมุ ทุกภาคเรยี น 5.2 มกี ิจกรรมทางสังคมในด้านต่างๆ รว่ มกบั ชุมชนอยา่ งสม่ำเสมอ 5.3 เป็นแหลง่ เรียนรทู้ ส่ี ามารถใหบ้ คุ คลภายนอกเขา้ มาศึกษาได้ 5.4 มีการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ทางเครือข่ายวชิ าการ และชมุ ชนการเรยี นรูท้ างวชิ าชพี 5.5 เขา้ ร่วมเปน็ สมาชิกเครือข่ายแลกเปลีย่ นเรยี นร้ทู างวิชาชพี ทาง Facebook และ Line@ 5.6 โรงเรียนให้บริการแหลง่ เรียนรูแ้ ก่ชมุ ชนในดา้ นต่างๆ รวมท้งั ส่งเสริม สนับสนุนใหช้ ุมชนมคี วามเขม้ แข็ง อีกท้ังชมุ ชนยงั ใหค้ วามรว่ มมือและสนับสนนุ กจิ กรรมต่างๆ ของโรงเรียนด้วยดี
5 งานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย 1. ปฏิบัตหิ น้าทีค่ รทู ่ปี รกึ ษานักเรยี นระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3/1 2. ปฏบิ ัติหน้าที่หวั หนา้ กลมุ่ บริหารวชิ าการ 3. ปฏบิ ัติหนา้ ท่ีครเู วรประจำวัน 4. ปฏิบัตหิ นา้ ที่ครูเวรยามกลางคืน 5. ปฏิบัติหนา้ ท่คี รปู ระจำเรือนนอนพุทธรกั ษา 6. ปฏบิ ัติหนา้ ทีผ่ ดู้ แู ลระบบสารสนเทศ(SET)ของโรงเรียนเรียน 7. ปฏิบัติหนา้ ที่คณะกรรมการงานรบั นกั เรยี น 8. ปฏบิ ัติหนา้ ที่คณะกรรมการงานพัฒนาระบบเครือข่ายโรงเรียน 9.ปฏิบตั ิหน้าท่ีผู้ประสานงานโครงการโรงเรยี นประชารฐั 10. ปฏิบัตหิ น้าทอ่ี ่นื ๆ ตามคำสงั่ ของโรงเรยี น
6 สว่ นที่ 2 : ผลการประเมนิ ตนเอง ตอนท่ี 1 ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ กคศ. ระดบั ความรู้ มาก ปานกลาง นอ้ ย ด้านที่ 1 ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานในหน้าท่ี รายการพิจารณา 1. เนอ้ื หา ในรายวิชา/กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ทสี่ อน 2. วิธีสอน ถ่ายทอดความรู้เชิงเนื้อหา กิจกรรม บริบท เป้าหมายการเรียนรู้ ความรพู้ นื้ ฐาน การปรับพ้ืนฐาน และอปุ สรรคการเรยี นรู้ของผ้เู รียน 3. หลกั การสอน และกระบวนการเรียนรู้ 4. หลกั สตู ร การออกแบบ วางแผนการใช้ ประเมนิ และแนวทางการเรยี นรู้ ในแตล่ ะเน้ือหา 5. พ้นื ฐานการศึกษา หลกั การศกึ ษา ปรชั ญาการศึกษา จติ วทิ ยาสังคม นโยบาย การศึกษา จุดม่งุ หมายการจัดการศกึ ษาตั้งแต่ระดับชาตจิ นถึงระดบั หลักสูตร 6. การจัดการศึกษาแบบรวม และการตอบสนองตอ่ ความหลากหลายของผ้เู รยี น 7. ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ และจิตวทิ ยาการเรียนรู้ 8. การใชเ้ ทคโนโลยี และสอื่ นวตั กรรมเพ่อื การเรยี นรู้ 9. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ดา้ นท่ี 2 ทกั ษะการปฏิบัติงาน ระดับความรู้ รายการพจิ ารณา ทำไดด้ ี ทำได้ปาน ไมค่ อ่ ย กลาง ทำ 1. การสรา้ งและหรอื พฒั นาหลกั สูตร 2. การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ 3. การจดั ทำแผนการจดั การเรียนรู้ 4. กลยุทธใ์ นการจดั การเรยี นรู้ 5. การสรา้ งและการพฒั นาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษาและแหลง่ เรียนรู้ 6. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
7 ด้านท่ี 3 ความเปน็ ครู ระดบั ความรู้ มาก ปานกลาง ปรับปรุง รายการพจิ ารณา 1. ยึดมน่ั ผกู พนั ศรทั ธาในวิชาชพี และทมุ่ เทเพอ่ื การเรยี นรู้ของผเู้ รยี น 2. มีคุณธรรม จริยธรรม และปฏบิ ตั ิตนเป็นแบบอยา่ งท่ีดีแก่ผเู้ รียน ท้งั กาย วาจา และ จิตใจ ดำรงตนใหเ้ ป็นท่เี คารพ ศรทั ธา และนา่ เชอ่ื ถือทั้งใน และนอกสถานศึกษา 3. ปฏิบตั ิตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู 4. มวี นิ ยั และการรักษาวินยั 5. เปน็ บุคคลแหง่ การเรียนรู้ ปรับปรงุ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ให้มีความรู้ ความชำนาญในวิชาชพี เพมิ่ ข้นึ 6. ปฏิบตั ติ นโดยนำหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ 7. มที ัศนคตทิ ีด่ ตี ่อบ้านเมอื ง ตอนท่ี 2 ผลการประเมนิ ตนเองตามการประเมินสมรรถนะครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา 1. สมรรถนะหลัก (Core Competency) ระดบั ความรู้ สมรรถนะ/รายการพฤตกิ รรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก ทีส่ ดุ กลาง ที่สุด 1.สมรรถนะการมงุ่ ผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบตั งิ าน 1.1 วเิ คราะห์ภารกจิ งานเพือ่ วางแผนการแก้ปญั หาอยา่ งเปน็ ระบบ 1.2 กำหนดเปา้ หมายในการปฏบิ ัติงานทกุ ภาคเรยี น 1.3 กำหนดแผนการปฏิบตั งิ านอยา่ งเปน็ ขัน้ ตอน 1.4 ใฝเ่ รยี นรเู้ กยี่ วกับการจดั การเรยี นรู้ 1.5 รเิ ร่ิมสร้างสรรคใ์ นการพัฒนาการจัดการเรยี นรู้ 1.6 แสวงหาความรเู้ กี่ยวกบั วิชาชพี ใหม่ๆ เพื่อการพัฒนาตนเอง 1.7 ประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านของตนเอง 1.8 ใชผ้ ลการประเมนิ การปฏิบตั งิ านมาใช้ปรับปรุง/พฒั นาการทำงานใหด้ ี ย่ิงข้ึน 1.9 พัฒนาการปฏบิ ตั ิงานเพ่ือตอบสนองความตอ้ งการของผ้เู รียน ผปู้ กครอง และชมุ ชน 2.สมรรถนะการบรกิ ารที่ดี 2.1 ใหบ้ รกิ ารด้วยความยมิ้ แย้มเอาใจใส่ เหน็ อกเหน็ ใจผมู้ ารบั บริการ 2.2 ใหบ้ รกิ ารอยา่ งรวดเร็ว ทนั ใจ ไมล่ า่ ช้า 2.3 ใหบ้ รกิ ารอยา่ งมีความเคารพยกยอ่ ง ออ่ นนอ้ มให้เกยี รตผิ รู้ บั บริการ
8 ระดบั ความรู้ สมรรถนะ/รายการพฤติกรรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก ทส่ี ดุ กลาง ทสี่ ดุ 2.4 ให้บรกิ ารด้วยความมุ่งมนั่ ตง้ั ใจและเตม็ อกเต็มใจ 2.5 ชว่ ยแกป้ ัญหาให้กบั นกั เรียน และผู้ปกครองหรอื ผมู้ าขอรบั บรกิ าร 2.6 ให้บรกิ ารโดยยดึ ความตอ้ งการของผรู้ บั บรกิ ารเป็นหลัก 2.7 ใหบ้ รกิ ารเกินความคาดหวังแม้ตอ้ งใชเ้ วลา หรือความพยายามอยา่ งมาก 3.สมรรถนะการพฒั นาตนเอง 3.1 ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ มุง่ มน่ั และแสวงหาโอกาสพัฒนาตนเองดว้ ย วธิ กี ารทหี่ ลากหลาย 3.2 วิเคราะห์จดุ แข็งและจดุ ออ่ นเกย่ี วกับการจดั การเรียนรูข้ องตนเองอย่าง ตอ่ เน่อื ง 3.3 ศกึ ษา คน้ ควา้ หาองค์ความรใู้ หม่ๆ ทางวชิ าการเพ่อื พัฒนาตนเอง และ วชิ าชพี 3.4 แลกเปล่ียนเรยี นรูก้ ับผอู้ นื่ เพ่อื การพัฒนาตนเองทุกคร้ังทีม่ โี อกาส 3.5 เข้ารับการอบรมเพือ่ พฒั นาตนเองจากหนว่ ยงานต่างๆ อยา่ งตอ่ เนื่อง 3.6 ให้คำปรกึ ษา แนะนำ นิเทศ และถา่ ยทอดความรู้ ประสบการณท์ าง วชิ าชีพแก่ผ้อู ืน่ 3.7 มีการสรา้ งเครอื ขา่ ยการเรยี นรเู้ พอื่ การพัฒนาตนเองทั้งในและนอก สถานศกึ ษา 4.สมรรถนะการทำงานเป็นทีม 4.1 สรา้ งสมั พันธภาพที่ดใี นการทำงานร่วมกบั ผอู้ ่ืน 4.2 ทำงานร่วมกบั ผู้อนื่ ตามบทบาทหน้าทท่ี ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย 4.3 ช่วยเหลือเพ่ือร่วมงานเพื่อสู่เป้าหมายความสำเร็จรว่ มกัน 4.4 ให้เกียรติ ยกย่องชมเชย ให้กำลงั ใจแกเ่ พ่อื ร่วมงานในโอกาสทเี่ หมาะสม 4.5 มที กั ษะในการทำงานรว่ มกบั บุคคล/กลมุ่ บคุ คลได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพทัง้ ภายในและภายนอก สถานศกึ ษาและในทกุ สถานการณ์ 4.6 แสดงบทบาทผนู้ ำหรือผตู้ ามในการทำงานรว่ มกับผอู้ นื่ ได้เหมาะสมในทกุ โอกาส 4.7 แลกเปลยี่ น/รบั ฟังความคิดเห็นและประสบการณภ์ ายในทมี งาน 4.8 ร่วมกบั เพ่ือนรว่ มงานในการสร้างวัฒนธรรมการทำงานเปน็ ทมี ใหเ้ กิดขนึ้ ในสถานศกึ ษา
9 ระดบั ความรู้ สมรรถนะ/รายการพฤตกิ รรม นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก ท่สี ดุ กลาง ทสี่ ดุ 5.สมรรถนะจริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพครู 5.1 ยดึ มั่นในอุดมการณ์ของวชิ าชีพ ปกป้องเกยี รตแิ ละศักดศิ์ รีของวิชาชพี 5.2 เสยี สละ อุทิศตนเพอ่ื ประโยชนต์ ่อวิชาชีพ และเป็นสมาชิกทีด่ ขี ององคก์ ร วิชาชพี 5.3 ยกยอ่ ง ชืน่ ชมบคุ คลทีป่ ระสบความสำเร็จในวิชาชพี 5.4 ซือ่ สัตย์ตอ่ ตนเอง ตรงตอ่ เวลา วางแผนการใชจ้ ่ายและใชท้ รัพยากรอย่าง ประหยดั 5.5 ปฏิบัติตนตามกฎ ระเบียบ ข้อบงั คบั และขนบธรรมเนยี มประเพณี 5.6 ปฏิบตั ติ นและดำเนนิ ชีวติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้ เหมาะสมกบั สถานะของตน 5.7 รักษาสทิ ธปิ ระโยชน์ของตนเอง และไมล่ ะเมดิ สทิ ธิของผู้อนื่ 5.8 เอื้อเฟอื้ เผอื แผช่ ่วยเหลือ และไมเ่ บียดเบยี นผู้อืน่ 5.9 มคี วามเปน็ กัลยาณมติ รต่อผเู้ รยี น เพื่อร่วมงานและผูร้ ับบรกิ าร 5.10 ปฏิบัติตนตามหลักการครองตน ครองคน ครองงานเพอ่ื ใหก้ าร ปฏบิ ตั งิ านบรรลผุ ลสำเรจ็ คะแนนเฉีย่ 4.04 ระดบั คณุ ภาพ สงู
10 2. สมรรถนะประจำสายงาน (Functional Competency) ระดบั ความรู้ สมรรถนะ/รายการพฤตกิ รรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก ท่สี ดุ กลาง ทสี่ ดุ 1.สมรรถนะการบริหารจัดการหลกั สูตรและการจัดการเรียนรู้ 1.1 ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรูอ้ ยา่ งหลากหลายสอดคล้องกบั วยั ความ ต้องการของผู้เรียน ชมุ ชน 1.2 เปดิ โอกาสให้ผู้เรียนมสี ว่ นรว่ มในการกำหนดกิจกรรมและการประเมินผล การเรยี นรู้ 1.3 ใช้รปู แบบ/เทคนคิ วิธกี ารสอนอยา่ งหลากหลายเพ่อื ใหผ้ เู้ รียนพฒั นาเต็ม ตามศักยภาพ 1.4 จดั กิจกรรมการเรยี นรทู้ ีป่ ลกู ฝงั /ส่งเสรมิ คณุ ลักษณะพงึ ประสงคแ์ ละ สมรรถนะของผู้เรีบย 1.5 ใชห้ ลักจิตวิทยาในการจดั การเรยี นรใู้ หผ้ เู้ รยี นเรียนรู้อย่างมคี วามสขุ และ พฒั นาเตม็ ศกั ยภาพ 1.6 ใช้แหลง่ เรียนรูแ้ ละภูมิปัญญาท้องถน่ิ ในชุมชนในการจดั การเรยี นรู้ 1.7 ใช้สอื่ นวัตกรรม และเทคโนโลยีหลากหลายและเหมาะสมกบั เน้อื หาและ กจิ กรรมการเรียนรู้ 1.8 ใช้เทคโนโลยคี อมพวิ เตอรใ์ นการผลติ ส่อื /นวัตกรรมท่ีใชใ้ นการเรียนรู้ 1.9 ออกแบบวธิ กี ารวัดและประเมนิ ผลหลากหลายเหมาะสมกบั เนอ้ื หาและ กจิ กรรมการเรียนรู้ 1.10 สรา้ งและนำเครอ่ื งมือวัดและประเมินผลไปใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม 1.11 วดั และประเมินผลผู้เรียนตามสภาพจริง 1.12 นำผลการประเมนิ การเรยี นรมู้ าใช้ในการพฒั นาการจดั การเรียนรู้ 2.สมรรถนะการพฒั นาผ้เู รยี น 2.1 สอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรมแก่ผเู้ รยี นในการจัดการเรยี นรู้ในชน้ั เรยี น 2.2 จดั กจิ กรรมส่งเสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมให้แกผ่ เู้ รียนโดยใหผ้ เู้ รยี นมีสว่ น ร่วมในการวางแผนกจิ กรรม 2.3 จัดทำโครงการ/กจิ กรรมท่สี ง่ เสริมคณุ ธรรมจริยธรรมให้แกผ่ เู้ รยี น 2.4 จัดกจิ กรรมเพอื่ พฒั นาผเู้ รยี นด้านการดูแลตนเอง มที ักษะในการเรยี นรู้ การทำงาน การอย่รู ่วมกนั ในสงั คม และรเู้ ท่าทนั การเปล่ียนแปลง 2.5 สอดแทรกความเปน็ ประชาธิปไตย ความภูมิใจในความเปน็ ไทยให้แก่ ผูเ้ รยี นในการจัดการเรียนรู้
11 ระดับความรู้ สมรรถนะ/รายการพฤติกรรม นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก ท่สี ุด กลาง ท่ีสดุ 2.6 จัดทำโครงการ/กิจกรรมที่สง่ เสริมความเป็นประชาธปิ ไตยความภมู ใิ จใน ความเปน็ ไทย 2.7 ให้ผปู้ กครองมสี ว่ นรว่ มในดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียนรายบุคคล 2.8 นำขอ้ มลู นกั เรยี นไปใชช้ ่วยเหลือ/พัฒนาผเู้ รยี นทงั้ ด้านการเรียนรแู้ ละปรบั พฤตกิ รรมเปน็ รายบคุ คล 2.9 จัดกิจกรรมเพอ่ื ปอ้ งกนั แกไ้ ขปัญหา และส่งเสริมพัฒนาผูเ้ รยี นใหแ้ ก่ นักเรยี นอยา่ งท่วั ถงึ 2.10 ส่งเสริมใหผ้ เู้ รยี นปฏิบัตติ นให้ถูกต้องเหมาะสมกับคา่ นิยมท่ดี งี าม 2.11 ดูแลผู้เรยี นทกุ คนอย่างท่ัวถึง ทันเหตุการณ์ 3.สมรรถนะการบริหารจดั การชนั้ เรียน 3.1 จัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรยี นทเ่ี อ้ือต่อการเรียนรู้ 3.2 ส่งเสรมิ การมีปฏสิ ัมพันธท์ ด่ี รี ะหว่างครกู บั ผูเ้ รยี นและผเู้ รยี นกบั ผเู้ รยี น 3.3 ตรวจสอบสง่ิ อำนวยความสะดวกในห้องเรียนใหพ้ ร้อมใช้และปลอดภัย 3.4 จัดทำขอ้ มูลสารสนเทศของนักเรียนเป็นรายบคุ คลและเอกสารประจำชั้น เรียนครบถว้ นเป็นปัจจบุ นั 3.5 นำขอ้ มลู สารสนเทศไปใชใ้ นการพัฒนาผเู้ รียนได้อย่างเตม็ ศกั ยภาพ 3.6 ให้ผเู้ รยี นมสี ว่ นร่วมในการกำหนดกฎ กติกา ข้อตกลงในชัน้ เรยี น 3.7 แกป้ ญั หา/พัฒนานกั เรยี นดา้ นระเบยี บวนิ ัยโดยการสร้างวินัยเชงิ บวกใน ชั้นเรียน 3.8 ประเมินการกำกับดูแลช้นั เรยี น และนำผลการประเมินไปใช้ในการ ปรบั ปรุงและพฒั นา 4.สมรรถนะการวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และการวจิ ยั เพอ่ื พฒั นาผู้เรียน 4.1 สำรวจปัญหาเกีย่ วกับนักเรยี นทเ่ี กิดข้ึนในชั้นเรยี นเพอ่ื วางแผนการวิจัย เพื่อพัฒนาผู้เรยี น 4.2 วเิ คราะห์สาเหตขุ องปญั หาเกยี่ วกบั นกั เรยี นทีเ่ กดิ ข้ึนในชั้นเรียนเพื่อ กำหนดทางเลือกในการแกไ้ ขปญั หาระบสุ ภาพปัจจบุ ัน 4.3 รวบรวม จำแนกและจดั กลมุ่ ของสภาพปญั หา แนวคดิ ทฤษฎแี ละวธิ ีการ แก้ไขปัญหาเพ่อื สะดวกต่อการนำไปใช้ 4.4 มกี ารประมวลผลหรือสรปุ ขอ้ มูลสานสนเทศท่ีเป็นประโยชน์ตอ่ การแก้ไข ปัญหาในชน้ั เรียนโดยใช้ขอ้ มูลรอบด้าน 4.5 มกี ารวเิ คราะหจ์ ดุ เดน่ จุดดอ้ ย อปุ สรรคและโอกาสความสำเรจ็ ของการ วิจัยเพื่อแกไ้ ขปญั หาท่เี กดิ ขน้ึ ในชั้นเรยี น
12 ระดับความรู้ สมรรถนะ/รายการพฤตกิ รรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก ทส่ี ุด กลาง ทสี่ ดุ 4.6 จดั ทำแผนการวิจัย และดำเนินกระบวนการวิจยั อยา่ งเป็นระบบตามแผน ดำเนนิ การวิจยั ทีก่ ำหนดไว้ 4.7 ตรวจสอบความถูกตอ้ งและความนา่ เช่อื ถอื ของผลการวิจยั อยา่ งเป็น ระบบ 4.8 มกี ารนำผลการวิจัยไปประยกุ ต์ใช้ในกรณีศึกษาอืน่ ๆ ทม่ี ีบรบิ ทของปัญหา ท่ีคลา้ ยคลงึ กนั 5.สมรรถนะภาวะผนู้ ำครู 5.1 เห็นคุณคา่ ใหค้ วามสำคญั ในความคดิ เห็นหรอื ผลงาน และใหเ้ กยี รตแิ ก่ ผอู้ ่ืน 5.2 กระตุน้ จงู ใจ ปรบั เปลยี่ นความคดิ และการกระทำของผ้อู ืน่ ใหม้ คี วาม ผูกพนั และมุ่งมัน่ ต่อเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน 5.3 มีปฏิสัมพันธใ์ นการสนทนาอยา่ งสร้างสรรคก์ ับผู้อ่ืนโดยมงุ่ เนน้ การเรยี นรู้ และการพฒั นาวิชาชพี 5.4 มีทักษะการฟงั การพดู และการตัง้ คำถามเปิดใจกว้าง ยดื หยนุ่ ยอมรับ ทัศนะท่ีหลากหลายของผ้อู นื่ เพ่ือเป็นแนวทางใหม่ๆ ในการปฏบิ ัตงิ าน 5.5 ให้ความสนใจต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เป็นปจั จบุ ันโดยมีการวางแผนอย่างมี วิสยั ทัศนซ์ ่ึงเชอื่ มโยงกับวสิ ยั ทัศน์ เป้าหมาย และพนั ธกจิ ของโรงเรียน 5.6 ริเร่มิ การปฏบิ ตั ิทน่ี ำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนานวัตกรรม 5.7 กระตุน้ ผู้อน่ื ใหม้ ีการเรยี นรู้ และความรว่ มมือกันในวงกวา้ งเพ่ือพัฒนา ผู้เรยี น สถานศึกษาและวิชาชีพ 5.8 ปฏิบัติงานร่วมกับผ้อู ืน่ ภายใต้ระบบ/ขน้ั ตอนทเี่ ปลย่ี นแปลงไปจากเดมิ ได้ 5.9 สนับสนนุ ความคดิ ริเรมิ่ ซ่งึ เกดิ จากการพิจารณาไตร่ตรองของเพือ่ น ร่วมงาน และมสี ว่ นร่วมในการพฒั นานวตั กรรมตา่ งๆ 5.10 ใชเ้ ทคนคิ วธิ กี ารหลากหลายในการตรวจสอบประเมินการปฏบิ ัติงานของ ตนเองและผลการดำเนนิ งานสถานศึกษา 5.11 กำหนดเปา้ หมายและมาตรฐานการเรยี นรู้ทที่ า้ ทายความสามารถของ ตนเองตามสภาพจริงและปฏบิ ตั ิใหบ้ รรลุผลสำเรจ็ ได้ 5.12 ยอมรับขอ้ มลู ปอ้ นกลบั เกีย่ วกับความคาดหวงั ด้านการเรียนรขู้ องผู้เรยี น จากผู้ปกครอง
13 ระดบั ความรู้ สมรรถนะ/รายการพฤตกิ รรม น้อย น้อย ปาน มาก มาก ทีส่ ุด กลาง ทีส่ ุด 6. สมรรถนะการสร้างความสมั พนั ธ์และความรว่ มมอื กบั ชมุ ชนเพือ่ การ จดั การเรยี นรู้ 6.1 มีปฏสิ ัมพันธท์ ่ดี ีกับผปู้ กครองและชุมชนในการตดิ ตอ่ ส่อื สารเพอื่ การ จดั การเรียนรู้ 6.2 ประสานงานกบั ผู้ปกครองและชุมชนใหเ้ ข้ามามสี ่วนร่วมในการจัดการ เรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เน่อื งตลอดปีการศกึ ษา 6.3 เปดิ โอกาสให้ผู้ท่ีมสี ่วนเก่ียวข้องเข้ารว่ มวางแผนการจดั กิจกรรมการ เรยี นรู้ในระดบั ช้ันเรียน 6.4 เปิดโอกาสใหผ้ ูป้ กครองและชุมชนเข้ามาแลกเปล่ียนเรยี นรูเ้ ก่ียวกับการ จดั การเรียนการสอนในสถานศึกษา 6.5 สรา้ งเครอื ขา่ ยความรว่ มมอื ระหวา่ งครู ผปู้ กครอง ชุมชน และองค์กรอนื่ ๆ ท้งั ภาครฐั และเอกชน ในการแลกเปล่ียนข้อมลู สารสนเทศเพื่อการจดั การเรียนรู้ 6.6 จดั กิจกรรมการเรียนรูท้ ใ่ี ห้ปราชญช์ าวบ้านหรือภมู ิปัญญาในท้องถ่นิ เขา้ มามีสว่ นรว่ ม 6.7 มกี ารเปดิ โอกาสใหผ้ ู้มสี ่วนรว่ มไดส้ ว่ นเสยี ของสถานศึกษาเขา้ มามสี ว่ น รว่ มในการประเมนิ ผลการจดั การศึกษา 6.8 มกี ารเสนอผลการจดั การเรยี นรู้ตอ่ ฝา่ ยตา่ งๆ ของชมุ ชนเพือ่ แลกเปลยี่ น เรยี นรแู้ ละแกไ้ ขปัญหารว่ มกนั ในทุกภาคเรียน คะแนนเฉลยี่ 4.22 ระดับคุณภาพ สงู การนำคะแนนเฉล่ยี ท่คี ำนวณได้ในแต่ละสมรรถนะมาเปรียบเทยี บกับเกณฑ์ในการแปลผลทกี่ ำหนดไว้ ดังน้ี ค่าคะแนนเฉลย่ี ระดบั คุณภาพ 4.01-5.00 สูง 3.01-4.00 ปานกลาง ตัง้ แต่ 3.00 ลงมา ตำ่ สรปุ ผลการประเมนิ ตนเอง ตอนท่ี 1 ผลการประเมนิ ตนเองตามกรอบของ กคศ. อยู่ในระดบั มาก มกี ารพัฒนาหลกั สตู ร ออกแบบการ จัดการเรียนรู้ ยึดมั่น ผูกพัน ศรัทธาในวิชาชีพ และทุ่มเทเพื่อการเรียนรู้ของผู้เรียน มีคุณธรรม จริยธรรม และปฏิบัติ ตนเป็นแบบอย่างท่ีดีแก่ผู้เรียน ท้ังกาย วาจา และจิตใจ ดำรงตนให้เปน็ ท่ีเคารพ ศรัทธา และนา่ เชือ่ ถอื ทั้งใน และนอก
14 สถานศึกษา เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ ปรับปรุง และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ให้มีความรู้ความชำนาญในวิชาชีพ เพมิ่ ขึน้ และปฏิบตั ิตนโดยนำหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ ตอนท่ี 2 ผลการประเมนิ ตนเองตามการประเมนิ สมรรถนะครูและบุคลากรทางการศึกษา สมรรถนะหลกั (Core Competency) อยู่ในระดบั สงู และสมรรถนะประจำสายงาน (Functional Competency) อยูใ่ นระดับ สูง ในสว่ นทต่ี อ้ งเพิ่มเติม คอื ด้านการประสานงานกับผ้ปู กครองในการจดั การศกึ ษา เนอ่ื งจากผปู้ กครองยังมขี ้อจำกัดใน การส่ือสารผ่านทางระบบเทคโนโลยี และอย่ใู นชว่ งสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของเช้ือ โควิค-19
ตอนที่ 3 : แผนการพฒั นาตนเอง รายละเอียดการพัฒนาตนเอง อนั ดับ วิธีการ / รูปแ ความสำคัญ การพฒั น ที่ สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นา สมรรถนะหลกั 1 (T) 1 การม่งุ ผลสมั ฤทธิ์ 8 (S) 4 (OJT) 1.1 ความสามารถในการวางแผนปฏบิ ตั งิ าน 1.2 ความสามารถในการปฏบิ ัตงิ าน (T) 1.3 ผลการปฏิบตั งิ าน (T) 2 การบรกิ ารทด่ี ี (S) 2.1 ความสามารถในการสรา้ งระบบการใหบ้ ริการ (A) 2.2 ความสามารถในการใหบ้ รกิ าร (OJT) 3 การพัฒนาตนเอง (S) 3.1 ความสามารถในการวเิ คราะหต์ นเอง 3.2 ความสามารถในการใช้ภาษาไทยเพื่อการส่ือสาร (C) 3.3 ความสามารถในการใชภ้ าษาอังกฤษ เพือ่ การแสวงหาความรู้ 3.4 ความสามารถในการตดิ ตามความเคลอ่ื นไหวทางวชิ าการและ วชิ าชีพ 3.5 ความสามารถในการประมวลความรแู้ ละ การนำความรไู้ ปใช้
แบบ ระยะเวลา การขอรับงบประมาณสนบั ส นา ในการพฒั นา นนุ จากหนว่ ยงาน ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รบั เรม่ิ ต้น สน้ิ สุด ม.ิ ย.64 มี.ค.65 - จัดทำโครงการตาม - จดั การเรยี นร้ไู ด้ตามเปา้ หมายของ ม.ิ ย.64 มี.ค.65 ปงี บประมาณ หลกั สตู ร มิ.ย.64 ม.ี ค.65 - มีระบบการใหบ้ ริการท่ีดี มิ.ย.64 มี.ค.65 - จดั ทำโครงการตาม ม.ิ ย.64 มี.ค.65 ปงี บประมาณ - ปฏบิ ัตหิ น้าทีไ่ ด้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ - สามารถสอ่ื สารได้อย่างถกู ตอ้ ง ม.ิ ย.64 มี.ค.65 - ไมใ่ ช้งบประมาณ - ใชภ้ าษาอังกฤษเพ่ือการแสวงหา ม.ิ ย.64 ม.ี ค.65 - ไมใ่ ชง้ บประมาณ ความรไู้ ด้ มิ.ย.64 มี.ค.65 - งบประมาณอบรม - มีความรู้ทางวชิ าการและวชิ าชพี มิ.ย.64 พฒั นาบุคคลากร - ประมวลความรู้และการนำความรู้ ม.ี ค.65 - งบประมาณอบรม ไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม ม.ิ ย.64 พฒั นาบคุ คลากร ม.ี ค.65 - ไมใ่ ชง้ บประมาณ 15
สว่ นที่ 2 รายละเอยี ดการพฒั นาตนเอง (ต่อ) อนั ดบั วิธีการ / รูปแ ความ การพฒั น ท่ี สมรรถนะที่จะพฒั นา สำคัญ 4 การทำงานเป็นทมี 5 4.1 ความสามารถในการวางแผนเพ่อื การปฏิบัตงิ านเป็นทีม (T) 4.2 ความสามารถในการปฏบิ ตั งิ านร่วมกนั (P) สมรรถนะประจำสายงาน 1 การจดั การเรียนรู้ 2 1.1 ความสามารถในการสร้างและพฒั นาหลกั สูตร ( T) 1.2 ความสามารถในเน้ือหาสาระท่ีสอน (F) 1.3 ความสามารถในการจดั กระบวนการเรยี นรู้ (T) ทเ่ี นน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคัญ (T) 1.4 ความสามารถในการใช้และพฒั นานวตั กรรม เทคโนโลยี สารสนเทศเพือ่ การจดั การเรียนรู้ (T) 1.5 ความสามารถในการวัดและประเมนิ ผล การเรยี นรู้
แบบ ระยะเวลา การขอรับงบประมาณสนบั ส นา ในการพฒั นา นนุ จากหนว่ ยงาน ประโยชนท์ ่คี าดวา่ จะได้รับ เร่มิ ต้น ส้นิ สดุ มิ.ย.64 ม.ี ค.65 - จดั ทำโครงการตาม - วางแผนเพอ่ื การปฏบิ ตั ิงานเปน็ ทีมได้ ม.ิ ย.64 ปงี บประมาณ - ปฏบิ ัติงานรว่ มกันได้อย่างมี มี.ค.65 - จดั ทำโครงการตาม ประสิทธภิ าพ ปีงบประมาณ มิ.ย.64 ม.ี ค.65 - จดั ทำโครงการตาม - สร้างและพัฒนาหลักสตู ร ม.ิ ย.64 ปีงบประมาณ ได้เหมาะสมกบั ผู้เรียน ม.ิ ย.64 - สามารถสอนเนือ้ หาสาระไดถ้ กู ตอ้ ง ม.ิ ย.64 ม.ี ค.65 - จดั ทำโครงการตาม แมน่ ยำ มิ.ย.64 ปงี บประมาณ - ความสามารถในการจัดกระบวนการ เรียนรูท้ ่เี นน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญได้ ม.ี ค.65 - จดั ทำโครงการตาม - ความสามารถในการใช้และพัฒนา ปงี บประมาณ นวตั กรรม เทคโนโลยี สารสนเทศ เพือ่ การจดั การเรียนรู้ มี.ค.65 - จัดทำโครงการตาม - ความสามารถในการวัดและ ปีงบประมาณ ประเมินผลการเรยี นรู้ มี.ค.65 - จัดทำโครงการตาม ปงี บประมาณ 16
รายละเอยี ดการพฒั นาตนเอง (ตอ่ ) อนั ดบั วธิ ีการ / รปู ความ การพฒั น ท่ี สมรรถนะท่จี ะพัฒนา สำคญั 2 การพัฒนาผูเ้ รียน 6 2.1 ความสามารถในการปลกู ฝงั คุณธรรม จริยธรรม (T) 2.2 ความสามารถในการพัฒนาทกั ษะชวี ติ (A) (T สุขภาพกายและสุขภาพจติ (T) (OJT) 2.3 ความสามารถในการปลกู ฝงั ความเป็น (A) ประชาธปิ ไตย (S) 2.4 ความสามารถในการปลูกฝงั ความเป็นไทย (T) (S) 2.5 ความสามารถในการจดั ระบบดแู ลและช่วยเหลอื ผู้เรียน 3 การบรหิ ารจัดการช้ันเรียน 3.1 ความสามารถในการจัดบรรยากาศการเรียนรู้ 3.2 ความสามารถในการจดั ทำขอ้ มลู สารสนเทศ และเอกสาร 3.3 ความสามารถในการกำกับดแู ลช้นั เรยี น
ปแบบ ระยะเวลา การขอรับงบประมาณสนับส นา ในการพัฒนา นนุ จากหน่วยงาน ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะได้รบั มิ.ย.64 ม.ี ค.65 - จดั ทำโครงการตาม - สามารถปลูกฝงั คุณธรรม จริยธรรม ปีงบประมาณ T) มิ.ย.64 มี.ค.65 - จดั ทำโครงการตาม - สามารถพฒั นาทักษะชีวิต ปีงบประมาณ สขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิต มิ.ย.64 ม.ี ค.65 - จดั ทำโครงการตาม - สามารถปลูกฝังความเปน็ ปีงบประมาณ ประชาธปิ ไตยได้ ) ม.ี ค.65 - จัดทำโครงการตาม - สามารถปลกู ฝงั ความเป็นไทย มิ.ย.64 ปงี บประมาณ ม.ิ ย.64 มี.ค.65 - จัดทำโครงการตาม - สามารถจัดระบบดูแล และชว่ ยเหลือ ปงี บประมาณ ผเู้ รียนได้ มิ.ย.64 มี.ค.65 - จดั ทำโครงการตาม - สามารถจดั บรรยากาศการเรียนรูท้ ดี่ ี ม.ิ ย.64 ปีงบประมาณ มิ.ย.64 - สามารถจดั ทำขอ้ มลู สารสนเทศ ม.ี ค.65 - จัดทำโครงการตาม และเอกสารได้ ปีงบประมาณ - สามารถการกำกบั ดแู ลช้ันเรยี น ม.ี ค.65 - ตามปงี บประมาณ 17
รายละเอยี ดการพัฒนาตนเอง (ตอ่ ) อันดบั วิธกี าร / รูปแ ท่ี สมรรถนะท่จี ะพฒั นา ความ การพัฒนา 4 การวิเคราะห์ สงั เคราะหแ์ ละการวจิ ยั สำคญั 4.1 ความสามารถในการวิเคราะห์ 4.2 ความสามารถในการสังเคราะห์ 3 4.3 ความสามารถในการเขียนเอกสารทางวชิ าการ (T) 4.3 ความสามารถในการวิจยั (T) 5 การสร้างความรว่ มมอื กบั ชุมชน 5.1 ความสามารถในการนำชุมชนมสี ่วนรว่ มใน (E) กจิ กรรมสถานศกึ ษา 5.2 ความสามารถในการเข้าร่วมกจิ กรรมของชุมชน (T) 10 (S) (S)
แบบ ระยะเวลาใน การขอรบั งบประมาณสนับส า การพฒั นา นนุ จากหน่วยงาน ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะไดร้ ับ เรม่ิ ตน้ ส้นิ สุด ม.ิ ย.64 ม.ี ค.65 - จดั ทำโครงการตาม - มคี วามสามารถในการวิเคราะห์ได้ มิ.ย.64 ปงี บประมาณ - มคี วามสามารถในการสงั เคราะห์ได้ ม.ิ ย.64 - สามารถเขยี นเอกสารทางวิชาการได้ ม.ิ ย.64 มี.ค.65 - จัดทำโครงการตาม - มสี ามารถในการทำการวจิ ัยได้ ปงี บประมาณ มี.ค.65 - จัดทำโครงการตาม ปีงบประมาณ ม.ี ค.65 - จดั ทำโครงการตาม ปีงบประมาณ มิ.ย.64 มี.ค.65 - จัดทำโครงการตาม - สามารถนำชุมชนเขา้ มามีสว่ นร่วม มิ.ย.64 ปีงบประมาณ ในกิจกรรมสถานศึกษาได้ - สามารถเขา้ ร่วมกจิ กรรมของชมุ ชนได้ ม.ี ค.65 - จดั ทำโครงการตาม ปีงบประมาณ 18
รายละเอยี ดการพฒั นาตนเอง (ต่อ) อันดับ วิธกี าร / รูปแ ที่ สมรรถนะท่ีจะพัฒนา ความ การพฒั นา 6 วนิ ยั คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชพี 6.1 การมวี ินยั สำคญั 6.2 การประพฤติ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี (S) 6.3 การดำรงชีวิตอยา่ งเหมาะสม 9 (S) 6.4 ความรกั และความศรทั ธาในวชิ าชพี (S) 6.5 ความรับผดิ ชอบในวชิ าชพี (S) (S)
แบบ ระยะเวลาใน การขอรบั งบประมาณสนบั ส า การพฒั นา นุนจากหนว่ ยงาน ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ เร่มิ ต้น สิน้ สดุ มิ.ย.64 มี.ค.65 - จดั ทำโครงการตาม - มีวนิ ยั ในตนเอง ม.ิ ย.64 ปีงบประมาณ มิ.ย.64 - ประพฤติ ปฏิบัติตนเปน็ แบบอย่าง ม.ิ ย.64 มี.ค.65 - จัดทำโครงการตาม ท่ีดไี ด้ ม.ิ ย.64 ปีงบประมาณ - ดำรงชีวิตไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มี.ค.65 - จัดทำโครงการตาม - รักและความศรัทธาในวชิ าชีพ ปงี บประมาณ - รับผดิ ชอบในวิชาชีพ ม.ี ค.65 - จัดทำโครงการตาม ปงี บประมาณ ม.ี ค.65 - จัดทำโครงการตาม ปีงบประมาณ 19
ตารางสรปุ แผนการพฒั นาตนเอง อนั ดับความสำคัญ สมรรถนะท่จี ะพัฒนา วิธีการ / รปู แบบการพฒั นา (T) (S) (OJT) 1 การมงุ่ ผลสัมฤทธิ์ (T) (T) 2 การจดั การเรียนรู้ (S) (A) (OJT) (C) 3 การวเิ คราะห์ สังเคราะหแ์ ละการวิจยั (T) (P) 4 การพัฒนาตนเอง (OJT) (T) (A) (S) (T) 5 การทำงานเป็นทีม (T) (S) 6 การพัฒนาผเู้ รยี น (S) 7 การบริหารจัดการชน้ั เรียน 8 การบริการทดี่ ี 9 วนิ ยั คณุ ธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชพี 10 การสร้างความร่วมมือกับชมุ ชน คำอธบิ ายวธิ ีการพัฒนาสมรรถนะ สญั ลักษณ์ และความหมาย M O A : Active Learning (เรยี นรจู้ ากการปฏิบัติ) C : Coaching (การสอนงาน) S CE : Continuing Education (ศกึ ษาตอ่ ) E : Expert Briefing (พบผู้เช่ยี วชาญ) F : Field Trip (ศึกษาดงู าน) J : Job Swap (แลกเปลีย่ นงาน)
ระยะเวลา การขอรบั งบประมาณสนับสนนุ จ ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะได้รับ ในการพฒั นา ากหน่วยงาน เร่มิ ต้น ส้นิ สุด - จัดทำโครงการ ยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ มิ.ย.64 ม.ี ค.65 ตามปงี บประมาณ - จดั ทำโครงการ ความสามารถในการจดั การเรยี นรู้ ม.ิ ย.64 มี.ค.65 ตามปงี บประมาณ - จัดทำโครงการ การวิเคราะห์ สังเคราะห์และการวจิ ยั มิ.ย.64 มี.ค.65 ตามปีงบประมาณ - จดั ทำโครงการ พัฒนาตนเองให้มีความก้าวหนา้ ม.ิ ย.64 ม.ี ค.65 ตามปงี บประมาณ ในวิชาชีพ - จัดทำโครงการ มที กั ษะในการทำงานเปน็ ทมี มิ.ย.64 มี.ค.65 ตามปีงบประมาณ - จดั ทำโครงการ พฒั นาผ้เู รยี นใหม้ ีความรคู้ วามสามารถตรงตาม มิ.ย.64 มี.ค.65 ตามปีงบประมาณ หลักสตู ร - จัดทำโครงการ สามารถจัดการชัน้ เรยี นใหเ้ หมาะสมกับการจัดก ม.ิ ย.64 ม.ี ค.65 ตามปีงบประมาณ ารเรยี นการสอน - จัดทำโครงการ มีระบบในการให้บริการที่ดี ม.ิ ย.64 มี.ค.65 ตามปงี บประมาณ - จัดทำโครงการ มวี นิ ยั คณุ ธรรม ม.ิ ย.64 ม.ี ค.65 ตามปีงบประมาณ จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณในวชิ าชพี - จัดทำโครงการ ให้ชุมชมมีบทบาทในการจัดการศกึ ษาและให้คว ม.ิ ย.64 ม.ี ค.65 ตามปีงบประมาณ ามรว่ มมอื กบั กิจกรรมในชมุ ชน M : Mentoring (ติดตามโดยพ่เี ลีย้ ง) JR : Jop Rotation (หมนุ เวยี นงาน) OJT : On the Job Training (สอนขณะปฏบิ ัติงาน) P : Project Assignment (มอบหมายงาน) S : Self Study (ศึกษาดว้ ยตนเอง) T : Training, Workshop (การฝกึ อบรม/ประชุมปฏิบัติการ) 20
21 ระยะเวลาในการพฒั นา เร่ิมตน้ 14 มิถนุ ายน 2564 สิน้ สดุ 31 มนี าคม 2565 4. การขอรบั การสนบั สนุนจากหนว่ ยงาน - 5. ประโยชนท์ คี่ าดว่าจะไดร้ บั 5.1 ผลลัพธ์ทคี่ าดหวัง ด้านความรู้ : เกิดการเรียนรู้ นำผลการพัฒนาสู่การเปลี่ยนแปลงผู้เรียน และนำประสบการณ์เข้า แลกเปล่ียนเรยี นรแู้ ก่เพ่ือนร่วมวิชาชีพ จนเกดิ องค์ความรู้ที่ได้จากการเข้ารว่ มชุมชนการเรียนรูท้ างวิชาชีพไปใช้ในการ จดั การเรยี นการสอน ทักษะ : มีความสามารถบูรณาการความรู้สู่การปฏิบัติ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนได้เต็มตามศักยภาพ สร้างนวัตกรรมจากการปฏิบัติที่ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียน และสร้างนวัตกรรมที่ได้จากการเข้าร่วมในชุมชนการ เรยี นรทู้ างวิชาชีพ และพฒั นานวัตกรรมใหเ้ ป็นต้นแบบการเรยี นรู้แก่เพือ่ นร่วมวิชาชีพ ความเป็นครู : ดำรงชีวิตอย่างมีวินัย มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยการเป็นผู้ที่มีวินัย ตรงต่อเวลา ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อบังคับ กติกาของสังคม มีความประพฤติที่เป็นแบบอย่างที่ดีทั้งทางกาย แต่งกาย เหมาะสมกับกาลเทศะ มีมารยาท และเป็นมิตรกับลูกศิษย์ ตามบทบาทและสถานการณ์ ทางวาจา สุภาพ จริงใจและ สร้างสรรค์ ทีก่ อ่ ใหเ้ กิดกำลังใจ และเปน็ ประโยชน์ต่อผู้อ่ืน และทางใจ มคี วามเมตตา กรณุ า กตัญญูกตเวที ซ่ือสัตย์สุจริต มีความเป็นกัลยาณมิตร อดทน มีอุดมการณ์เพื่อส่วนรวม ตลอดจนดำรงชีวิตอย่างเหมาะสมกับฐานะ และมีความรัก ศรัทธา และยึดมั่นในอุดมการณ์แห่งวิชาชีพ เข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพสร้างเครือข่ายชุมชนการเรียนรู้ทาง วชิ าชพี สร้างวฒั นธรรมทางการเรียนรู้ในสถานศึกษาและเปน็ ผู้นำการเปล่ยี นแปลงต่อวงการวชิ าชีพ ลงช่อื ...................................................... (นายบญุ สง่ ขนานแขง็ ) ตำแหน่งครู วทิ ยฐานะครชู ำนาญการ ผจู้ ดั ทำแผนการพัฒนาตนเอง
22 ความเหน็ ของหัวหนากลุ่มบรหิ ารงานบุคคล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................................ (นายสมจติ ร สุดาปัน) หวั หนากลุ่มบรหิ ารงานบคุ คล ความเหน็ ของผู้บังคบั บัญชา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ........................................................................ (นายวชั รพล มนตรีภักดี) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นโสตศกึ ษาจงั หวดั รอยเอด็
23 ประวัติการเขา้ รบั การพัฒนา (ในรอบ 2 ปี ทผี่ า่ นมา) ลำดับที่ เรอ่ื งทจี่ ดั อบรม หน่วยงานท่จี ัดอบรม จำนวนช่วั โมง หมายเหตุ 28 ปกี ารศกึ ษา 2562 (รวม 138 ชว่ั โมง - นาที จำนวน 10 ครงั้ ) 12 12 1 การประชุมเชงิ ปฏบิ ตั ิการการขบั เคล่ือนหลัก สำนกั บรหิ ารงานการศึกษา 12 18 ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสสู่ ถานศึกษาฯ พเิ ศษ 12 2 การใชโ้ ปรแกรมระบบสารสนเทศและการศึกษา สำนักบริหารงานการศึกษา 6 พเิ ศษ และการศกึ ษาสงเคราะห์ และโปรแกรม พิเศษ 12 Shcoolmis 6 3 การประชมุ และเสนอผลงานวชิ าการในการ สำนักบรหิ ารงานการศึกษา ประชุมวชิ าการระดบั ชาตดิ า้ นการศกึ ษาพเิ ศษ พิเศษ คร้ังท่ี 9 4 การสร้างความรเู้ กย่ี วกับระเบียบวนิ ยั ข้าราชการ สำนักบริหารงานการศกึ ษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา พเิ ศษ 5 โครงการชมุ ชนการเรียนรทู้ างวิชาชีพ PLC สำนักบรหิ ารงานการศกึ ษา พเิ ศษ 6 การสร้างความเขาใจให้กับสถานศึกษาเพ่ือ สำนักบรหิ ารงานการศกึ ษา เตรยี มความพร้อมรับการประเมินคุณภาพ พิเศษ การศึกษาภายนอกรอบสี่ (พ.ศ. 2559- 2563) 7 การประชมุ เชิงปฏบิ ัติการ เร่ืองแนวทาง นกั บริหารงานการศึกษา การพัฒนาเด็กปฐมวัยตามพระราชบญั ญัติ พเิ ศษ การพฒั นาเด็กปฐมวยั พ.ศ.2562 และ มาตรฐานสถานพฒั นาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ 8 การอบรมเชิงปฏบิ ัติการการพัฒนา โรงเรยี นโสตศึกษาจงั หวดั หลกั สูตรสถานศึกษาปรับปรงุ หลักสตู ร ร้อยเอด็ สถานศึกษา ฝกึ การวิเคราะห์มาตรฐาน ตวั ชีว้ ดั ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ขน้ั พ้นื ฐาน โครงสรา้ งรายวิชา หนว่ ยการ เรียนรู้และแผนกสรจดั การเรียนรู้ การ พัฒนาคณุ ภาพผู้เรียนดา้ น กระบวนการ PLC (Processional Learning Community) 9 การอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการประจำปี การ โรงเรียนโสตศึกษาจงั หวดั จัดทำแผนปฎิบตั ิการประจำปี 2562 รอ้ ยเอด็
24 ลำดบั ท่ี เรื่องทจ่ี ัดอบรม หนว่ ยงานทจี่ ดั อบรม จำนวนชัว่ โมง หมายเหตุ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 20 10 หลักสูตรรหสั 62037 มลู นธิ ศิ ภุ นิมิตแห่ง ประเทศไทย และ Save การลดความเส่ียงภัยพบิ ัติธรรมชาตแิ ละ the Children การปรับตวั รับการเปล่ียนแปลงสภาพ ภมู ิศาสตร์
25 ลำดบั ที่ เรอ่ื งทจี่ ดั อบรม หนว่ ยงานที่จัดอบรม จำนวนช่วั โมง หมายเหตุ 1.30 ออนไลน์ ปกี ารศึกษา 2563 (รวม 116 ชว่ั โมง 30 นาที จำนวน 14 ครัง้ ) 6 ออนไลน์ 1 การส่งเสริมสถานศึกษาและประสานความ สำนกั งานรบั รอง 6 ออนไลน์ 6 ออนไลน์ ร่วมมอื กับหนว่ ยงานตน้ สงั กดั เพ่อื สรา้ งคว มาตรฐานและประเมิน 6 ออนไลน์ 6 ออนไลน์ วามรู้ ความเข้าใจ เกย่ี วกับแนวทางการ คุณภาพการศึกษา 6 ออนไลน์ 6 ออนไลน์ ประเมนิ คุณภาพภายนอกภายใต้ (องคก์ ารมหาชน) สถานการณ์ COVID-19 ประจำปี งบประมาณ 2564 2 การพัฒนาทกั ษะดา้ นดิจิทัลข้าราชการครู สำนกั งานเขตพน้ื ท่ี และบุคลากรทางการศึกษา การศกึ ษาประถมศึกษา พิษณุโลกเขต 1 3 หลกั สตู ร Take Care คนพเิ ศษ ตอนที่ 1 สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษา สระแกว้ เขต 2 4 ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรยี น สำนักงานเขตพืน้ ที่ การศึกษาประถมศึกษา สระแกว้ เขต 2 5 Microsoft PowerPoint สรา้ งงานนา สำนกั งานเขตพืน้ ที่ เสนอสงู่ านวิชาการ การศึกษาประถมศกึ ษา สระแกว้ เขต 2 6 วิจัยในชั้นเรยี นแบบงา่ ย สำนักงานเขตพน้ื ที่ การศึกษาประถมศึกษา สระแก้ว เขต 2 7 การใช้งานอินเตอร์เน็ต สำนักงานเขตพน้ื ที่ การศึกษาประถมศกึ ษา สระแกว้ เขต 2 8 การเก็บรวบรวมไพลบ์ น Google Drives สำนกั งานเขตพน้ื ท่ี การศึกษาประถมศกึ ษา สระแก้ว เขต 2
26 ลำดบั ท่ี เรอื่ งที่จดั อบรม หนว่ ยงานทจี่ ดั อบรม จำนวนช่ัวโมง หมายเหตุ 9 โครงการโรงเรยี นคุณธรรม สพฐ. สำนกั งานเขตพื้นที่ 6 ออนไลน์ 10 การศกึ ษามธั ยมศกึ ษา 6 ออนไลน์ 11 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางวิชาการเนอ่ื งในวนั ครู เขต 35 20 ออนไลน์ คร้งั ที่ 65 พ.ศ. 2564 สำนักงานเลขาครุ สุ ภา 12 การจดั การเรยี นรูว้ ิทยาการคานวณสาหรบั 15 ออนไลน์ ครูมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 Coding Online สานกั งาน 13 For Grade 7-9 Teacher (C๔T-๘) คณะกรรมการ 17 14 การศึกษาขน้ั พื้นฐาน 15 การเสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งในการจัดเกบ็ สถาบันส่งเสริมการสอน ขอ้ มูลสารสนเทศ ดา้ นการจบการศกึ ษา วิทยาศาสตร์และ และใหบ้ รกิ ารขอ้ มูลทางการศึกษาสำหรับ เทคโนโลยี เขตพ้ืนท่กี ารศึกษาและสถานศึกษา กลมุ่ ทะเบียนและ (T001) สารสนเทศทางการ ศกึ ษา สำนักทดสอบ การอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารการจดั การเรยี นรู้ ทางการศึกษา ออนไลน์ โดยใช้ Google Suite For สำนักงาน Education คณะกรรมการ การศึกษาขัน้ พื้นฐาน โครงการพัฒนาผบู้ รหิ าร ครู และบคุ ลากร กระทรวงศึกษาธิการ ทางการศกึ ษาเพือ่ สง่ เสรมิ ประสทิ ธิภาพการ โรงเรยี นโสตศึกษา จดั การเรยี นการสอน จังหวดั ร้อยเอ็ด สำนกั บริหารงานการศึกษา พเิ ศษ
27 ส่วนที่ 4 : ความต้องการในการพฒั นา 1. หลักสูตรใดท่ที ่านต้องการพัฒนา มคี วามต้องการในการพัฒนาหลกั สูตรท่ีเกยี่ วกับ หลักสตู รฐานสมรรถนะ เพือ่ นำมาใช้ในการพฒั นาสมรรถนะของผู้เรียนใหส้ อดคล้องกับศักยภาพของผเู้ รยี นต่อยอดเพอื่ ให้ผู้เรียนได้พฒั นา ทักษะใช้ทักษะและตัวชวี้ ดั มาออกแบบการสอนร่วมกนั ใช้ความรู้และทักษะได้ในสถานการณ์จรงิ ผสมหลาย สมรรถนะให้เห็นความสมั พันธร์ ะหวา่ งวิชาวเิ คราะหเ์ ช่อื มโยงใหเ้ กิดการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงคน์ ำสมรรถนะมาใชใ้ น ชีวิตประจำวัน 2. เพราะเหตุใดทา่ นจึงต้องการเขา้ รบั การพัฒนาในหลักสูตรน้ี เพราะมีเหตุผล คอื 2.1 ตอ้ งการนำความรคู้ วามสามารถที่มมี าใช้ในการพฒั นาการจัดการเรียนการสอน 2.2 ตอ้ งการนำวธิ ีการและเทคนิคการเรียนรู้ต่างมาใช้ประกอบการจดั การเรยี นการสอน เพอ่ื พัฒนา ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นของผเู้ รียนให้สงู ยิ่งขน้ึ ตามศกั ยภาพของผเู้ รยี น 2.3 เพอ่ื พัฒนาความรู้ ความสามารถของตนเองในการเข้าส่คู รู Thailand 4.0 2.4 เพ่ือนำความรทู้ ่ีไดร้ ับจากหลักสตู รมาขยายผลการเรียนรู้สู่ครูผู้สอน 2.5 เพ่อื นำความรเู้ รือ่ งฐานสมรรถนะไปปรับใช้เพอื่ ให้เกดิ ประโยชน์ในการพฒั นาสมรรถนะของผเู้ รยี น อีกทั้งยังสอดคล้องกับการพัฒนามาตรฐานการศึกษาด้วยการปรับปรุงหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ให้ ทันสมัย สู่การเรียนรู้ฐานสมรรถนะ เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 และเหมาะสมกับ บริบทของสังคมไทย ครอบคลุมการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยไปจนถึงระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่ง สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศ ( Big ROCK) ด้าน การศึกษา โดยการปรับหลกั สูตรสมรรถนะ 6 ด้าน ประกอบด้วย การจัดการตนเอง การคิดขั้นสูง การสื่อสาร การ รวมพลังทำงานเป็นทีม การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน โดย สมรรถนะเหลา่ นี้จะทำให้เดก็ คิดได้ ทำเปน็ เห็นคณุ ค่า ทำใหเ้ ด็กเตบิ โตข้ึนมาเปน็ พลเมืองทม่ี ีคุณภาพ มสี ่วนรว่ มใน สงั คม ➢ ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 3 พฒั นาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาฯ ขอ้ 1.2 ชมุ ชนแห่งการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ขอ้ 1.3 การเรียนรผู้ ่านกิจกรรมการปฏิบตั ิจริง (Active Learning) ข้อ 1.4 การพฒั นาครทู ั้งระบบทเี่ ช่ือมโยงกับการเลื่อน วิทยฐานะ
28 3. ทา่ นคาดหวงั สง่ิ ใดจากการเข้ารับการพัฒนาในหลักสูตรน้ี ด้านความรู้ 1. ดา้ นการจัดการเรยี นการสอน 1.1 การสร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร การวิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ใน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เพื่อพัฒนาหลักสูตร แล้วนำมา ประยกุ ตใ์ ชเ้ ป็นขอ้ สนเทศในการจดั ทำคำอธบิ ายรายวชิ าทขี่ ้าพเจ้าปฏิบัติการสอน 2. การจดั การเรยี นรู้ 2.1 การออกแบบหน่วยการเรียนรใู้ หเ้ หมาะสม 2.2 การจัดทำแผนนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ มีการจัด กจิ กรรมการเรียนรทู้ ่หี ลากหลาย ตลอดจนวิธกี ารบนั ทึกหลงั สอนให้สอดคล้องกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.3 ประมวลความรู้ในประเด็นกลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ ทั้งนี้จักได้ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการ จดั การเรยี นรู้ ทข่ี ้าพเจา้ ปฏิบัตกิ ารสอน 3. การสร้างและการพฒั นา ส่ือ นวตั กรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหล่งเรียนรู้ 4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ คดั สรรและพฒั นาเครอื่ งมือวัดผล ในการพัฒนากิจกรรมการเรยี นรู้ ตามพิสัย ทง้ั 3 ดา้ น คือ พุทธิพิสัย จติ พสิ ัย และทักษะพิสัย ซึง่ ประกอบดว้ ยแบบประเมินทีห่ ลากหลาย 5. การวจิ ัยเพ่ือพฒั นาการเรยี นรู้ ด้านทักษะ 1. ดา้ นการบริหารจดั การช้ันเรียน 1.1 ความรกู้ ารบริหารจดั การช้ันเรียน เพือ่ เป็นแนวทางในการจดั การเรียนรู้ วชิ าทีข่ ้าพเจ้าปฏบิ ัติการ สอน ใหผ้ ูเ้ รยี นมีส่วนร่วมอยา่ งสรา้ งสรรค์ในการเรียนรู้ มีความปลอดภัยและมีความสขุ ตลอดจนส่งเสริมใหผ้ ้เู รียนเกิด กระบวนการคดิ มีทักษะชีวิตและทักษะการทำงาน 1.2 ความรู้การจดั ระบบดแู ลชว่ ยเหลอื ผ้เู รียน 1.3 การจัดทำข้อมูลสารสนเทศ และเอกสารประจำวชิ า อย่างเป็นระบบถกู ต้องและเป็นปัจจุบัน ตลอดจนใช้ข้อมลู สารสนเทศในการเสรมิ สรา้ งและพัฒนาผเู้ รียน ดา้ นความเปน็ ครู 1. ดา้ นการพัฒนาตนเองและพฒั นาวชิ าชพี 1.1 การพฒั นาตนเอง และพัฒนาการจดั การเรียนรู้ท่สี อดคลอ้ งกับสภาพการปฏบิ ตั ิงาน 1.2 ข้อสนเทศในการขอมีและเล่อื นวิทยฐานะ ผ่านการสร้างชมุ ชนแห่งการเรยี นร้ทู างวชิ าชีพ (PLC)
29 4. ท่านจะนำความร้จู ากหลักสูตรไปพฒั นาการสอนของท่านอย่างไร 1. ข้าพเจ้าจะนำองค์ความรูจ้ ากหลกั สูตรไปใช้ในการจัดทำและพัฒนาหลักสูตรรายวิชา กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ที่ข้าพเจ้าปฏิบัติการสอน โดยมีการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดเพื่อจัดทำคำอธิบาย รายวิชา หน่วยการเรียนรู้ รวมถงึ ประเมินความสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชวี้ ัด 2. ข้าพเจ้าจะนำองค์ความรู้จากหลักสูตร ไปใช้ในการจัดทำและพัฒนาหน่วยการเรียนรู้ ที่สอดคล้องกับ คำอธบิ ายรายวิชา สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม โดยจะได้นำรูปแบบการจัดการเรยี นรู้ สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และการวดั และประเมนิ ผลมาจากการพัฒนาตนเองตามหลกั สตู ร มาเปน็ ขอ้ มูลสารสนเทศในการจัดการเรยี นรู้ 3. ข้าพเจ้าจะนำองค์ความรู้จากหลักสูตร มาใช้ในการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนสังคมศึกษา ให้มีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะ ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยไม่ฝืน ธรรมชาตผิ ู้เรยี นและเต็มตามศกั ยภาพของผ้เู รียนต่อไป 4. ข้าพเจ้าจะนำความรู้และทักษะที่ได้รับการพัฒนาระหว่างการฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานจริงใน ห้องเรียนของตนเอง โดยเสนอผลปฏิบัติตามแผนการจัดกิจกรรม แบบการปฏิบัติจริง Active Learning ในระบบช้ัน เรียนและนอกห้องเรยี น พรอ้ มทัง้ ผา่ นระบบออนไลน์ (Line/Facebook) เพอ่ื ร่วมแลกเปลย่ี นเรียนรูก้ ับเพ่ือนรว่ มวิชาชีพ ในอันท่จี ะปรับปรงุ การเรียนรู้ และการปฏบิ ัตงิ านอย่างต่อเน่ืองต่อไป
Search
Read the Text Version
- 1 - 38
Pages: