การสอ่ื สารขอ้ มูลและเครอื ข่าย หน่วยท่ี 7 สอื่ กลางการส่งขอ้ มูลจดั ทาโดยนางสาวจุฑามาศ แก่นจนั ทร์เลขที่ 2 ปวส.2 คอมพวิ เตอรธ์ ุรกิจ หอ้ ง 2
7.1 สื่อกลางแบบสายสญั ญาณส่ือกลางประเภทมีสาย หมายถงึ สอื่ กลางที่เป็ นสายซึ่งใชใ้ นการเชอื่ มโยงโดยอุปกรณต์ ่าง ๆ เพ่ือใชใ้ นการสง่ ผา่ นขอ้ มลู ระหวา่ งอุปกรณ์ และอุปกรณใ์ นระยะทางท่ีหา่ งกนั ไม่มากนัก 1) สายคบู่ ิดเกลยี ว(twisted pair) - สายค่บู ิดเกลยี วชนิดหมุ้ ฉนวน - สายค่บู ิดเกลียวชนิดไม่หมุ้ ฉนวน 2) สายโคแอกเชยี ล (coaxial) 3) เสน้ ใยนาแสง (fiber optic)7.2 ส่ือกลางแบบไรส้ ายการส่อื สารขอ้ มลู แบบไรส้ ายน้ ีสามารถสง่ ขอ้ มลู ไดท้ ุกทิศทางโดยมีอากาศเป็ นตวั กลางในการสอื่ สาร 1) คล่นื วทิ ยุ (Radio Wave) วธิ ี การสอื่ สารประเภทน้ ีจะใชก้ ารสง่ คลื่นไปในอากาศ เพ่อื สง่ ไปยงั เครือ่ งรบั วิทยุโดยรวมกบั คล่ืนเสยี งมีความถี่เสยี งที่เป็ นรปู แบบของคลื่นไฟฟ้ า 2) สญั ญาณไมโครเวฟ (Microwave) เป็ นส่อื กลางในการสอื่ สารที่มีความเรว็ สงู สง่ ขอ้ มลู โดยอาศยั สญั ญาณไมโครเวฟ 3) แสงอินฟราเรด (Infrared) คลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้ าท่ีมีความถี่อยใู่ นชว่ ง 1011 – 1014 เฮิรตซ์ หรอื ความยาวคล่ืน 10-3 – 10-6 เมตร เรียกวา่ รงั สีอินฟราเรด หรอื เรียกอีกอยา่ งหนึ่งวา่ คล่นื ความถี่ส้นั 4) ดาวเทียม (satilite) ไดร้ บั การพฒั นาข้ นึ มาเพอ่ื หลีกเลย่ี งขอ้ จากดั ของสถานีรบั - สง่ ไมโครเวฟบน ผิวโลก วตั ถุประสงคใ์ นการสรา้ งดาวเทียมเพ่ือเป็ นสถานีรบั - สง่ สญั ญาณไมโครเวฟบนอวกาศ และทวนสญั ญาณในแนวโคจรของโลก 5) บลทู ธู (Bluetooth) ระบบสือ่ สารของอุปกรณอ์ ิเลค็ โทรนิคแบบสองทาง ดว้ ยคลื่นวทิ ยุระยะสน้ั
7.3 ปัจจยั ท่ีสง่ ผลกระทบตอ่ การเลอื กใชส้ ่อื กลาง เป็ นสว่ นท่ีทาใหเ้ กิดการเชือ่ มตอ่ ระหวา่ งอุปกรณต์ า่ งๆ เขา้ ดว้ ยกนั และอุปกรณน์ ้ ียอมให้ขา่ วสารขอ้ มลู เดินทางผา่ น จากผสู้ ง่ ไปสผู่ รู้ บั สอ่ื กลางท่ีใชใ้ นการสื่อสารขอ้ มลู มีอยหู่ ลายประเภท แต่ละประเภทมความแตกตา่ งกนั ในดา้ นของปรมิ าณขอ้ มลู ทีส่ ื่อกลางน้ัน ๆ สามารถนาผา่ นไปไดใ้ นเวลาขณะใดขณะหนึ่ง การวดั ปริมาณหรอื ความจุในการนาขอ้ มลู หรอื ที่เรยี กกนั วา่ แบบดว์ ิดท์ (bandwidth) มีหน่วยเป็ น จานวนบิตขอ้ มลู ตอ่ วนิ าที (bit per second : bps) หลกั การพจิ ารณาเลือกใชส้ ่อื กลา7.4 ปัจจยั ทส่ี ่งผลกระทบต่อการขนสง่ ขอ้ มูล คาวา่ “การขนสง่ ” เป็ นกิจกรรมทางดา้ นเศรษฐกจิ อยา่ งหน่ึง ท่ีจะจดั ใหม้ ีการเคลอ่ื นยา้ ยคนสตั ว์ และสง่ิ ของ จากท่ีหน่ึงไปยงั อีกท่ีหนึ่ง ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ตามความประสงคเ์ พอ่ื ให้ เกิดอรรถประโยชนต์ ามตอ้ งการในปัจจุบนั การขนสง่ มคี วามสาคญั ต่อธุรกจิ เกือบทุกประเภทท้งั ในสว่ นของการจดั หาวตั ถุดิบ การผลติการขายและการจดั จาหน่าย ในหลายธุรกิจตน้ ทุนจากการขนสง่ นับเป็ นตน้ ทุนที่สาคญั และสง่ ผลกระทบต่อตน้ ทุนรวมของผลติ ภณั ฑ/์ บริการ นอกเหนือจากน้ ีการขนสง่ ยงั เป็ นกิจกรรมที่ชว่ ยเพิม่ คุณค่าของสนิ คา้ หรอื บริการ ทาใหผ้ บู้ ริโภคท่ีอยใู่ นสถานที่ท่ีการขนสง่ เขา้ ไปถึงได้ มีสินคา้ หรอื บริการบริโภคตามท่ีตนตอ้ งการเนื่องจากการขนสง่ จะชว่ ยนาสินคา้ จากแหลง่ ผลิตผา่ นมือคนกลางจนกระทงั่ ถึงมือผบู้ ริโภคดงั น้ันการดาเนินธุรกจิ ใดๆ ยอ่ มอาศยั การขนส่งท้งั ส้ นิ หากจะพิจารณาจากมุมมองทางเศรษฐกิจ ในทอ้ งถ่ินใดท่ีมีการขนสง่ ดี ถนนดี และมียานพาหนะท่ีใชใ้ นการขนสง่ เพียงพอ ก็ยอ่ มทาใหก้ ารลาเลียงสินคา้ จากแหลง่ ผลติ ไปสตู่ ลาดทาไดส้ ะดวกรวดเรว็ เป็ นผลใหเ้ ศรษฐกิจในทอ้ งถ่ินน้ันเจรญิ ดงั น้ันการขนสง่ จึงมีบทบาทสาคญั ตอ่ ชวี ิตมนุษยไ์ มย่ ง่ิ หยอ่ นไปกวา่ กิจกรรมอ่ืนๆ
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: