การส่งเสรมิ และพฒั นา การอ่าน การเขียน การคิดวิเคราะห์ การใชค้ ำราชาศพั ท์ตามระดับบุคคล ด้วยวิธกี ารสอนแบบ Active Learning และ Thai Model สำหรับนกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2/1 โรงเรยี นแม่ริมวทิ ยาคม นางสาวพรรณวิภา แสงมุข ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรยี นแมร่ ิมวทิ ยาคม อำเภอแมร่ มิ จังหวัดเชยี งใหม่ สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาเชยี งใหม่ กระทรวงศึกษาธิการ
ก คำนำ รายงานการวิจัยฉบับนี้เป็นการวิจัยในชั้นเรียน การส่งเสริมและพัฒนา การอ่าน การเขียน การคิดวิเคราะห์ การใช้คำราชาศพั ท์ตามระดบั บุคคล ด้วยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ในรายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท22102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม ประจำปีการศึกษา 2563 ซึ่งการวิจัยในครั้งนี้ได้ใช้สื่อนวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้ พอแก้ปัญหาการเรียน การสอนและเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ผู้วิจัยหวังว่าการวิจัยครั้งนี้ มีประโยชน์สำหรับผู้อ่าน ทกุ ท่าน หากมีข้อผิดพลาด ผูว้ ิจยั ยินดีรับฟังขอ้ เสนอแนะ เพื่อพฒั นา ปรบั ปรุงการวิจัยในโอกาสตอ่ ไป นางสาวพรรณวิภา แสงมุข ครผู ้วู ิจัย
สารบญั ข คำนำ ก สารบัญ ข บทคัดย่อ ค 1. บทนำ 1 1-2 - ความเป็นมา ความสำคญั ของปญั หา 2 - วัตถุประสงค์ของการศึกษา 2 - สมมติฐานการศึกษา 2 - ตวั แปรทศี่ ึกษา 3 - ประโยชนท์ ไี่ ด้รบั จากการศึกษา 3 2.เอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเกีย่ วข้อง 3 - นวตั กรรม 3 - ประชากร/กลมุ่ ตวั อยา่ งท่ีใช้ศึกษา 4 - เครอื่ งมอื ที่ใชศ้ กึ ษา 3.วิธีการดำเนินการวจิ ยั 4 - การดำเนนิ การศึกษา 4 - เกบ็ รวบรวมข้อมลู และการวเิ คราะหข์ ้อมลู 5 - สถติ ิที่ใช้ 4.ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู 6-8 - สรปุ ผลการศึกษา 9 5.สรปุ ผลและอภิปรายผล 10 - อภิปรายผลการศกึ ษา - ข้อเสนอแนะ ภาคผนวก แผนการจดั การเรียนรู้ - แบบประเมิน - รปู ภาพประกอบ -
ค ชือ่ เร่ือง : การส่งเสรมิ และพัฒนา การอา่ น การเขยี น การคดิ วเิ คราะห์ การใชค้ ำราชาศัพทต์ ามระดบั บุคคล ดว้ ยวธิ กี ารสอนแบบ Active Learning และ Thai Model สำหรับนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 2/1 โรงเรยี นแม่ริมวิทยาคม ผู้วจิ ยั : นางสาวพรรณวภิ า แสงมุข บทคัดย่อ การวจิ ัยคร้ังนม้ี วี ัตถุประสงค์เพอ่ื การส่งเสริมและพัฒนา การอ่าน การเขียน การคดิ วเิ คราะห์ การใช้คำ ราชาศัพท์ตามระดับบุคคล ด้วยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model สำหรับนักเรียน ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2/1 โรงเรยี นแม่รมิ วิทยาคม 1. เพอื่ ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวชิ า ท22102 ภาษาไทย2 เร่อื ง การเขยี นการส่งเสริมและพัฒนา การอ่าน การเขียน การคดิ วิเคราะห์ การใชค้ ำราชาศัพท์ตามระดับบุคคล อันเป็นการพัฒนาแล้วนำไปต่อยอดโดยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model 2. เพื่อศึกษา คุณลักษณะ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน และเพื่อการส่งเสรมิ และการใช้คำราชาศัพท์ ตามระดับบุคคล ไดอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสม 3. เพ่อื ศึกษาพฤติกรรมการเรยี นรขู้ องนักเรียนท่ไี ดร้ บั การจดั การเรียนรโู้ ดยวิธีการ สอนแบบ Active Learning และ Thai Model การวิจัยครงั้ นี้เป็นการวิจัยในชั้นเรียน โดยวิธีการสุ่มตัวอยา่ งของนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรยี น แมร่ ิมวิทยาคม จำนวน 35 คน ปรากฏผลการศึกษา ดังนี้ 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ภาษาไทยพื้นฐาน ท22102 เรื่อง การใช้คำ ราชาศัพท์ตามระดับบุคคล เป็นการพัฒนาแล้วนำไปต่อยอดโดยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ของนกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2/1 โรงเรยี นแม่รมิ วทิ ยาคมดา้ นความรู้ เฉลย่ี 17 คะแนน คิดเป็นร้อย ละ 80 ซึง่ สูงกว่าเกณฑ์ท่ีตั้งไวร้ อ้ ยละ 80 2. ดา้ นคณุ ลักษณะ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน และทักษะกระบวนการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ การเขียนคำราชาศัพท์ตามระดับบคุ คล ของนักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2/1 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม เฉลี่ย 2.77 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 92.33 ใฝ่เรยี นรู้ เฉลี่ย 2.74 คดิ เปน็ ร้อยละ 91.33 มุ่งมน่ั ในการทำงาน เฉลยี่ 2.74 คิดเป็นร้อยละ 91.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ร้อยละ 70 ด้านทักษะกระบวนการ การอ่าน เฉลี่ย 2.81 คิดเป็นร้อยละ 98.67 การคิดวิเคราะห์ เฉลี่ย 2.81คิดเป็นรอ้ ยละ 93.67 การเขียนสือ่ สาร เฉลี่ย 2.71 คิดเป็นร้อยละ 90.33 ซึ่งสูงกวา่ เกณฑ์ที่ตงั้ ไว้ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป 3. ภาษาไทยพื้นฐาน ท22102 เรื่อง การใช้คำราชาศัพท์ตามระดับบุคคล อันเป็นการพัฒนาแล้วนำไป ต่อยอดโดยวิธกี ารสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ของนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรยี น แม่ริมวิทยาคม มีทักษะปัญญา ใฝ่เรียนใฝ่รู้ คิดวิเคราะห์ มีค่าเฉลี่ยโดยรวม 4.13 อยู่ในระดับมาก และมีทักษะ สังคม การอ่าน การเขียนส่อื ความ มวี นิ ยั มงุ่ มนั่ ในการทำงาน มคี ่าเฉลยี่ 4.00 อยใู่ นระดับ ดีมาก
1 ช่อื เรื่อง : การส่งเสริมและพัฒนา การอ่าน การเขียน การคดิ วเิ คราะห์ การใช้คำราชาศพั ทต์ ามระดบั บุคคล ดว้ ยวธิ ีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model สำหรับนกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2/1 โรงเรยี นแม่รมิ วทิ ยาคม ความเปน็ มา ความสำคัญของปญั หา แผนการศึกษาแห่งชาติ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีการขับเคลื่อนการพัฒนาบุคลากรและระบบการศึกษาของประเทศ เป็นกรอบ เป้าหมายและทิศทางการจดั การศึกษาของประเทศในการพฒั นาศักยภาพ และ ขดี ความสามารถของคนไทยทุก ช่วงวัยให้เต็มตามศักยภาพ สามารถแสวงหาความรู้และเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ภายใต้ วสิ ยั ทศั น์ให้คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชวี ิตอย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิตอยา่ งเป็นสุข สอดคล้อง กับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21 ด้วยระบบและกระบวนการ จัดการศึกษาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะ ทักษะและ สมรรถนะ ที่สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแหง่ การเรียนรู้ และคุณธรรม จริยธรรม รู้รักสามัคคี และ ร่วมมอื ผนกึ กำลงั มงุ่ สู่การพฒั นาประเทศอย่างยง่ั ยืน ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยมีกรอบทิศทางแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560-2574 ประกอบด้วยยุทธศาสตร์ 6 ด้าน ในด้าน ที่ 3 การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัย และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ โดยมีเป้าหมาย มุ่งให้ผู้เรียนมีทักษะ และคุณลกั ษณะพื้นฐานของพลเมืองไทย ทักษะและคุณลักษณะทจ่ี ำเปน็ ในศตวรรษที่ 21โดยทักษะแห่งศตวรรษ ท่ี 21 ทีส่ ำคัญทีส่ ดุ คือ ทักษะการเรยี นรู้ (Learning Skill วจิ ารณ์ พานชิ (2555: 16-21) ไดก้ ลา่ วถงึ ทักษะ เพ่ือ การดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 ไว้ว่า สาระวิชาก็มีความสำคัญ แต่ไม่เพียงพอสำหรับการเรียนรู้เพื่อมีชีวิตในโลก ยุคศตวรรษที่ 21 ปัจจุบันการเรียนรู้สาระวิชา (content หรือ subject matter) ควรเป็นการเรียนจากการ ค้นคว้าเองของศิษย์ โดยครูช่วยแนะนำ และช่วยออกแบบกิจกรรมที่ทำให้นักเรียนแต่ละคนสามารถประเมิน ความก้าวหน้าของการเรียนรู้ของตนเองได้ ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 ที่ทุกคนจะต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต คือ การเรยี นรู้ 3R x 7C 3R คอื 1. Reading (อา่ นออก) 2. (W)Riting (เขียนได้) 3. (A)Rithemetics (คิดเลขเป็น) 7C ได้แก่ 1. Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการ แกป้ ัญหา) 2. Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม) 3. Cross-cultural Understanding (ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ 4. Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมอื การทำงานเป็นทมี และภาวะ ผนู้ ำ) 5. Communications, Information, and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทัน สือ่ ) 6. Computing and ICT Literacy (ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) 7. Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้)
2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม มนี โยบายจัดการเรยี นการสอนทีเ่ นน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยมีวสิ ัยทัศน์ ม่งุ พัฒนา ผู้เรียนเป็นนวัตกรคุณภาพที่สังคมต้องการ บนพื้นฐานของคุณลักษณะที่ดี ให้นักเรียนคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหา ได้ โดยนักวิชาการหลายท่านได้ศึกษาวิธีและเทคนิคการสอนพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ เนื่องจากวิธีการคิด วิเคราะห์มีการปฏิบัติตามหลักการเป็นขั้นตอนอย่างมีระบบและมีความสำคัญอย่างยิ่ง อีกทั้งทักษะการคิด วิเคราะห์เป็นทักษะของการนำไปปรับแก้ปัญหาต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์ Jarolimek (อ้างถึงใน อาร์ม โพธิ์พัฒน์, 2550) ได้กล่าวว่า วิธีการคิดวิเคราะห์สามารถสอนได้เพราะเป็นเรื่องความรู้ ความ เข้าใจ และทักษะที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมทางสมองตามทฤษฎขี อง Bloom ว่าด้วยการอธิบายขัน้ ตอนและการเริม่ จากความรคู้ วามเข้าใจ การนำไปใช้ซง่ึ เปน็ จุดมุ่งหมายของการสอนให้เกดิ พุทธิพสิ ัยระดับต่ำ ส่วนท่อี ยใู่ นระดับสูง คือ การวิเคราะห์การสังเคราะห์ และการประเมินผลในส่วนของการวิเคราะห์ ยังได้แยกแยะพฤติกรรมการ เรียนรู้คือความสามารถที่จะนำความคิดต่าง ๆ มารวมกันเพื่อนเกิดมโนทัศน์ใหม่ ๆ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ ต่าง ๆ จากผลการทดสอบวัดความรู้ระดับชาติ Pisa พบว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม ร้อยละ 70 ยังมีความบกพร่องเรื่องการเขียนการส่งเสริมและพัฒนา การอ่าน การเขียน การคิดวิเคราะห์ การใช้คำ ราชาศัพท์ตามระดับบุคคล ผู้วิจัยจึงต้องการนำวิธีการสอนแบบ Active Learning ปูพื้นฐาน และใช้วิธีการสอน แบบ Thai Model ส่งเสรมิ และการพัฒนา การอา่ น การเขยี น การคดิ วิเคราะห์ การใช้คำราชาศัพทต์ ามระดับบุคคล ร่วมกัน ในรายวิชา ท22102 ภาษาไทย2 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม ซึ่งการ จดั การเรียนรู้แบบ Active Learning และ Thai Model เปน็ รูปแบบการสอน ทเ่ี นน้ ผูเ้ รยี นเป็นสำคัญด้วยการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ใช้นวัตกรรมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนจะมีบทบ าทในชั้นเรียน ได้รับการพัฒนาคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สอดคลอ้ งกับการจดั การศกึ ษายคุ Thailand 4.0 ท่มี ุ่งพัฒนาเยาวชนไทย ให้เปน็ พลโลก ส่งเสริมใหน้ ักเรยี นเปน็ นวัตกรท่มี ีคณุ ภาพ วตั ถปุ ระสงคข์ องการศึกษา 1. เพือ่ ศึกษาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนวิชา ท22102 ภาษาไทย2 เรื่อง การเขยี นการส่งเสริมและพัฒนา การอ่าน การเขียน การคดิ วเิ คราะห์ การใช้คำราชาศัพท์ตามระดับบุคคล อันเปน็ การพัฒนาแล้ว นำไปตอ่ ยอดโดยวธิ ีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model 2. เพ่ือศึกษาคุณลักษณะ มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ ม่งุ มัน่ ในการทำงาน และเพ่ือการส่งเสรมิ และการใชค้ ำราชาศัพท์ ตามระดบั บุคคลได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม 3. เพอ่ื ศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนท่ีไดร้ บั การจัดการเรียนรโู้ ดยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model สมมตฐิ านการศึกษา 1. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา ภาษาไทยพื้นฐาน ท22102 เรื่อง การเขียนเพื่อการส่งเสริม และพัฒนา การอ่าน การเขียน การคิดวิเคราะห์ การใช้คำราชาศัพท์ตามระดับบุคคล อันเป็นการ พัฒนาแล้วนำไปต่อยอดโดยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนแม่รมิ วิทยาคม มีคุณลกั ษณะ มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่นั ในการ ทำงาน และทักษะในการเขยี นเพื่อการสง่ เสรมิ และพัฒนา การอา่ น การคดิ วิเคราะห์ การใช้คำราชาศัพท์ ตามระดบั บุคคลท่ีได้รับการจัดการเรียนรูโ้ ดยวธิ กี ารสอนแบบ Active Learning และ Thai Model มี พฤติกรรมการเรยี นรู้อยู่ในระดับดี
3 ตวั แปรทีศ่ ึกษา ประกอบดว้ ย ตวั แปรต้น การจดั การเรยี นรตู้ ามแผนท่ีส่งเสริมและพัฒนา การอา่ น การเขียน การคดิ วเิ คราะห์ การใช้คำราชาศัพท์ ตามระดบั บุคคลด้วยวิธกี ารสอนแบบ Active Learning และ Thai Model สำหรบั นักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรยี นแมร่ ิมวิทยาคม ภาษาไทยพื้นฐาน ท22102 โดยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ตวั แปรตาม 1. ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นวิชา ภาษาไทยพ้ืนฐาน ท22102 โดยวธิ ีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ของนักเรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม 2. คณุ ลักษณะ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มัน่ ในการทำงาน และพฒั นาการเขียน ภาษาไทยพื้นฐาน ท22102 โดยวิธกี ารสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ของนักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรียนแม่ริมวทิ ยาคม 3. พฤตกิ รรมการเรียนรู้ ของนกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 โรงเรียนแมร่ ิมวทิ ยาคม ท่ีได้รับการจดั การ เรียนรโู้ ดยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ประโยชน์ท่ไี ดร้ ับจากการศกึ ษา 1. ได้ทราบแนวทางการพฒั นาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นวชิ า ภาษาไทยพืน้ ฐาน ท22102 เรื่อง การเขียน การสง่ เสรมิ และพัฒนา การอ่าน การเขียน การคดิ วเิ คราะห์ การใชค้ ำราชาศัพทต์ ามระดับบุคคล อนั เป็นการพัฒนาแลว้ นำไปต่อยอดโดยวธิ ีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model 2. ได้ทราบแนวทางพัฒนา คุณลักษณะ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานและทักษะกระบวนการ เขียน เพอ่ื การส่งเสรมิ และการใช้คำราชาศัพท์ ตามระดับบคุ คลไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม 3. ได้แนวทางพัฒนาพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model 4. ได้แนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาการเขียน ของนักเรียน และเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจในการ ทำวิจยั ต่อไป นวตั กรรม พัฒนาผ้เู รียนใหม้ ที ักษะการสื่อสารภาษาไทย อันประกอบดว้ ย THAI Model ทักษะการอ่าน การเขยี น การฟัง การดู การพูด มีความรเู้ รื่อง T – Thai หลักการใช้ภาษาไทย วรรณคดี และวรรณกรรม สามารถใช้ ภาษาไทยในชีวติ ประจำวันและอนาคตไดส้ มั ฤทธ์ิผลและมปี ระสิทธิภาพ H – Human capital สง่ เสรมิ ผู้เรยี นใหเ้ ปน็ ทนุ มนษุ ย์ เปน็ มนษุ ยท์ ส่ี มบรู ณ์ มีความเปน็ พลโลก มคี ณุ ลักษณะที่สำคัญในศตวรรษท่ี 21 A – Activity ใช้กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้ทหี่ ลากหลาย I – Innovation ใช้นวตั กรรมสง่ เสรมิ พัฒนานักเรียนใหเ้ ป็นนวัตกรคุณภาพ (วงล้อคำราชาศัพท์)
4 ประชากร/กลมุ่ ตัวอย่างทใ่ี ช้ศกึ ษา นกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2/1 โรงเรยี นแมร่ ิมวทิ ยาคม จำนวน 35 คน เครอ่ื งมอื ทีใ่ ชศ้ ึกษา 1. แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่การส่งเสริมและพัฒนา การอ่าน การเขียน การคิดวิเคราะห์ การใชค้ ำราชาศัพท์ ตามระดบั บุคคลดว้ ยวิธกี ารสอนแบบ Active Learning และ Thai Model สำหรบั นักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษา ปีที่ 2 โรงเรยี นแม่ริมวิทยาคม 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา ภาษาไทยพื้นฐาน ท22102 เรื่อง การเขียนการส่งเสริม และพัฒนา การอ่าน การเขียน การคิดวิเคราะห์ การใช้คำราชาศัพท์ตามระดับบุคคล อันเป็นการ พัฒนาแล้วนำไปต่อยอดโดยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model 3. แบบประเมนิ คุณลักษณะ มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงานและแบบประเมนิ ทักษะกระบวนการ อา่ น คดิ วเิ คราะห์ การเขยี นคำราชาศัพท์ 4. แบบประเมนิ พฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนทไ่ี ด้รับการจดั การเรียนรู้โดยวธิ กี ารสอนแบบ Active Learning และ Thai Model การดำเนนิ การศกึ ษา 1. จัดทำแผนการจัดการเรยี นรูท้ ่สี ่งเสริมและพฒั นา การอา่ น การเขยี น การคิดวิเคราะห์ การใชค้ ำราชาศัพท์ ตามระดบั บุคคลด้วยวธิ ีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model สำหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศกึ ษา ปีที่ 2 โรงเรียนแมร่ มิ วิทยาคมโดยให้คณะครู 3 ทา่ นประเมิน วิเคราะห์คา่ IOC และปรับปรงุ แกไ้ ขตาม ข้อเสนอแนะ นำไปใช้กับนักเรียน ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรยี นแมร่ มิ วิทยาคม จำนวน 35 คน ในภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 2. จดั การเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ ระหว่างวันที่ 1 ธนั วาคม 2563 - 1 มีนาคม 2564 ในเวลา ปกติ 9 ช่วั โมง 3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ PLC ภายในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ทุกวันพฤหัสบดี คาบที่ 8 บันทึก Log Book 4. นำข้อเสนอแนะจากคู่กัลยาณมิตร มาแก้ไข ปรับปรุง พัฒนา การจัดการเรยี นการสอนท่ีส่งเสริมและ พัฒนา การอา่ น การคิดวเิ คราะห์ การเขยี นและการใช้คำตามระดับบคุ คล 5. สังเกตพฤติกรรม รวบรวมบันทึกคะแนนด้าน ความรู้ ทักษะกระบวนการ การอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียน และการใช้คำตามระดับบุคคล และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน ระหวา่ งและทดสอบหลงั เสร็จสน้ิ การจดั การเรียนการสอน 6. ประเมินพฤตกิ รรมการเรียนรู้ของนักเรียน จากแบบประเมนิ พฤติกรรมนักเรียนของโรงเรยี นแมร่ ิม วิทยาคม วเิ คราะห์หาค่าเฉล่ยี (X) สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน เทยี บกับเกณฑ์ เก็บรวบรวมขอ้ มูลและการวเิ คราะหข์ อ้ มูล 1. วิเคราะห์คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามจุดประสงค์จากแบบฝึกกิจกรรม การทดสอบ หลัง เรยี นคดิ เป็นค่ารอ้ ยละเทียบกับเกณฑ์ทตี่ ้ังไว้ ร้อยละ 70 2. วเิ คราะห์คะแนนคุณลักษณะมวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทำงาน จากการสังเกตพฤตกิ รรมระหว่าง เรยี น ประเมนิ ตามระดับมาตรฐานคณุ ภาพ คดิ เปน็ ค่าร้อยละเทียบกบั เกณฑ์ ท่ตี ้งั ไว้ร้อยละ 80
5 3. วิเคราะห์คะแนนการอ่าน การคิดวิเคราะห์ จาก การตรวจแบบฝกึ กจิ กรรมแบบทดสอบ ประเมิน ตามระดับมาตรฐานคุณภาพคิดเปน็ คา่ รอ้ ยละเทยี บกบั เกณฑ์ทีต่ ้ังไว้ รอ้ ยละ 80 4. เม่ือเสรจ็ ส้ินการจดั การเรียนรปู้ ระเมินพฤติกรรมการเรียนร้ขู องนักเรียน จากแบบประเมิน พฤติกรรมนกั เรียนของโรงเรียนแมร่ ิมวิทยาคม วิเคราะห์หาค่าเฉลย่ี (X) สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน (S.D) เทียบกับเกณฑ์ ดงั น้ี 0.50 - 1.49 ระดบั คุณภาพ นอ้ ยท่ีสดุ 1.50 - 2.49 ระดับคุณภาพ นอ้ ย 2.50 - 3.49 ระดับคุณภาพ ปานกลาง 3.50 - 4.49 ระดบั คุณภาพ มาก 4.50 - 5.00 ระดบั คุณภาพ มากทส่ี ดุ (มยรุ ยี ์ ขันรนิ ทร์คำ, 2545. หนา้ 60) สถติ ิที่ใช้ แทน ร้อยละ 1. ค่ารอ้ ยละ โดยใช้สตู ร แทน ความถีท่ ่ีต้องการแปลค่าใหเ้ ปน็ รอ้ ยละ แทน จำนวนความถ่ีทั้งหมด P = F 100 แทน ค่าเฉลย่ี n แทน ผลรวมท้ังหมดของความถ่ี คณู คะแนน แทน ผลรวมทั้งหมดของความถซ่ี ง่ึ มีคา่ เทา่ กบั เมอ่ื P จำนวนขอ้ มูลท้ังหมด F n 2. ค่าเฉล่ีย โดยใชส้ ูตร X = x n เมื่อ X x n 3. ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน (S.D) โดยใช้สตู ร S.D = n x2 − ( x )2 n(n −1) เมือ่ S.D แทน ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน n แทน จำนวนคู่ทง้ั หมด X แทน คะแนนแต่ละตัวในกลมุ่ ขอ้ มูล x แทน ผลรวมของความแตกตา่ งของคะแนน (มยุรีย์ ขันรินทร์คำ 2545 หน้า 50)
6 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ตาราง 1 ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นวชิ า ภาษาไทยพนื้ ฐาน ท22102 เร่อื ง การใช้คำราชาศัพท์ตามระดับ บคุ คล อนั เป็นการพฒั นาแล้วนำไปตอ่ ยอดโดยวิธกี ารสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนแมร่ ิมวทิ ยาคม ดา้ น คะแนนเตม็ คะแนนได้เฉลย่ี คดิ เป็นรอ้ ยละ 20 16 80.00 ความรู้ 3 2.77 92.33 คณุ ลกั ษณะ 3 2.74 91.33 มีวนิ ยั 3 2.68 89.33 ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งม่นั ในการทำงาน 3 2.81 93.67 3 2.81 93.67 ทกั ษะกระบวนการ 3 2.71 90.33 การอ่าน การคิดวเิ คราะห์ การเขยี นคำราชาศพั ท์ จากตาราง 1 พบวา่ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนวิชา ภาษาไทยพนื้ ฐาน ท22102 เรื่อง การใชค้ ำราชาศพั ท์ ตามระดบั บุคคล อนั เปน็ การพัฒนาแลว้ นำไปต่อยอดโดยวธิ ีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2/1 โรงเรียนแมร่ ิมวทิ ยาคม พบว่าดา้ นความรู้ เฉล่ยี 17 คะแนน คดิ เปน็ ร้อย ละ 80 ซ่งึ สงู กว่าเกณฑ์ทตี่ ้งั ไว้รอ้ ยละ 70 ด้านคณุ ลักษณะ มวี ินยั เฉลีย่ 2.77 คดิ เป็นรอ้ ยละ 92.33 ใฝเ่ รียนรู้ เฉล่ีย 2.74 คิดเป็นร้อยละ 91.33 มุ่งมั่นในการทำงาน เฉลย่ี 2.74 คิดเปน็ ร้อยละ 91.33 ซ่ึงสูงกว่าเกณฑ์ที่ต้ังไว้ ร้อยละ 80 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ การอ่าน เฉล่ยี 2.81 คิดเป็นร้อยละ 98.67 การคิดวิเคราะห์ เฉลยี่ 2.81 คิด เป็นรอ้ ยละ 93.67 การเขียนสอื่ สาร เฉลย่ี 2.71 คดิ เป็นร้อยละ 90.33 ซงึ่ สูงกวา่ เกณฑ์ ทีต่ ั้งไว้รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป ตาราง 2 แสดงพฤติกรรมการเรียนรู้ด้านทักษะทางปัญญา ภาษาไทยพื้นฐาน ท22102 เรื่อง การใช้คำ ราชาศัพทต์ ามระดับบุคคล อนั เป็นการพฒั นาแล้วนำไปตอ่ ยอดโดยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ของนกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2/1 โรงเรียนแมร่ มิ วิทยาคม ข้อท่ี รายการ ระดบั ความคดิ เห็น x- SD ระดบั อันดบั 1 ตง้ั ใจเรียน เขา้ เรยี น ตรงเวลา 4.41 0.70 มาก 1 2 เอาใจใส่ในการเรียน มีความเพียรพยายามในการเรียนรู้ 4.24 0.61 มาก 2 3 เขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน 4.00 0.90 มาก 9 4 ศกึ ษาคน้ คว้าหาความรจู้ ากหนงั สอื เอกสาร ส่ิงพมิ พ์ ส่อื เทคโนโลยีตา่ ง 4.05 0.84 มาก 7 ๆ แหล่งเรยี นรู้ท้งั ภายในและภายนอกสถานศกึ ษาและเลือกใชส้ อื่ ได้ อย่างเหมาะสม 5 บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ข้อมลู จากส่ิงทีเ่ รยี นรู้ สรุปเป็นองคค์ วามรู้ 4.05 0.83 มาก 7
7 6 แลกเปลย่ี นเรยี นรดู้ ้วยวิธีการตา่ ง ๆ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ 3.90 0.78 มาก 10 เผยแพร่แกบ่ คุ คลท่ัวไปได้ 4.22 0.62 มาก 3 4.20 0.67 มาก 4 7 สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมนิ ข้อมลู ไดถ้ กู ต้องพรอ้ มทง้ั เลือกขอ้ มลู มาใช้ได้อย่างเหมาะสม 4.20 0.61 มาก 4 4.07 0.70 มาก 6 8 มีทกั ษะในการคิดนอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์ ออกแบบวธิ ีการจำแนก ข้อมูล แล้วเลือกรปู แบบจนได้ขอ้ สรปุ แลว้ นำเสนอเป็นความคดิ รวบ 4.13 0.73 มาก ยอดทช่ี ดั เจน 9 สามารถคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณสามารถแก้ปญั หาและอุปสรรคตา่ งๆ ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ 10 นำผลท่ไี ดจ้ ากการวิเคราะห์และสงั เคราะห์มาประยุกตใ์ ช้ใน ชวี ิตประจำวนั สามารถคดิ อย่างมีระบบจำแนกสรปุ ขอ้ มูลตามเกณฑ์ที่ กำหนดให้ เฉล่ียรวม จาก ตาราง 2 พฤตกิ รรมการเรยี นรดู้ ้านทักษะทางปญั ญา ของนักเรียนหลังเรยี น วชิ า ภาษาไทยพ้ืนฐาน ท22102 เรื่อง การใช้คำราชาศัพท์ตามระดับบุคคล อันเป็นการพัฒนาแล้วนำไปต่อยอดโดยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม พบว่ามี ทักษะปัญญา ใฝ่เรียนใฝ่รู้ คิดวิเคราะห์ มีค่าเฉลี่ยโดยรวม 4.13 อยู่ในระดับมาก และทุกรายการอยู่ในระดับ มาก เมื่อเรียงลำดับสูงสุด สามลำดับแรกคือ ตั้งใจเรียน เข้าเรียน ตรงเวลา ( x-=4.05 , S.D = 0.70 ) เอาใจใส่ ในการเรยี น มมี ีความเพยี รพยายามในการเรียนรู้ (x-=4.24 , S.D = 0.83 ) นำสามารถวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และ ประเมนิ ข้อมูลได้ถกู ตอ้ งพร้อมทั้งเลอื กข้อมูลมาใช้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ( x-=4.22 , S.D = 0.70 ) ตาราง 3 แสดงพฤติกรรมการเรยี นรูด้ า้ นทกั ษะทางสังคม ของนักเรยี นหลงั เรยี นภาษาไทยพนื้ ฐาน ท22102 เรอ่ื ง การใช้คำราชาศพั ท์ตามระดับบุคคล อนั เปน็ การพัฒนาแลว้ นำไปต่อยอดโดยวธิ กี ารสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนแมร่ ิมวทิ ยาคม ข้อท่ี รายการ ระดบั ความคิดเหน็ x- SD ระดับ อนั ดับ 1 สามารถอ่าน เพือ่ การศกึ ษาคน้ คว้า เพ่ิมพูนความรู้ 4.51 0.47 มาก 1 ประสบการณแ์ ละประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ 3.59 0.64 มาก 10 2 สามารถจับประเดน็ สำคัญ ลำดบั เหตุการณ์จากการอ่านสอ่ื ที่มี ความซบั ซ้อน 4.12 0.75 มาก 2 3 สามารถวิเคราะห์สิ่งท่ผี ู้เขียนตอ้ งการส่ือสารกบั ผูอ้ า่ นและ 4.10 0.61 มาก 3 วิพากย์ให้ขอ้ เสนอแนะในแง่มมุ ต่าง ๆ 4.07 0.67 มาก 4 4 สามารถประเมนิ ความน่าเชื่อถอื คณุ คา่ แนวคดิ ทไี่ ด้ จากสงิ่ ที่ อ่านอยา่ งหลากหลาย 4.00 0.91 มาก 5 5 สามารถเขียนความคดิ เห็นโตแ้ ยง้ สรุป โดยมขี อ้ มลู อธิบาย สนับสนนุ อย่างเพียงพอและสมเหตุสมผล 6 ปฏิบัติตนตามข้อตกลงกฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคบั ของ ครอบครัว โรงเรียนและสังคมไม่ละเมิดสิทธขิ องผูอ้ น่ื
8 7 ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวนั และ 3.85 0.73 มาก 9 รบั ผิดชอบในการทำงาน 6 6 8 เอาใจใสต่ ่อการปฏิบัติหนา้ ทที่ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย 3.93 0.86 มาก 8 9 ต้ังใจและรับผดิ ชอบงานใหส้ ำเร็จ ปรับปรุงและพฒั นางานด้วย 3.93 0.88 มาก ตนเอง 10 ทุม่ เททำงาน อดทน ไม่ยอ่ ทอ้ ตอ่ ปญั หาและอปุ สรรคใน การ 3.90 0.89 มาก ทำงานพยายามแกป้ ญั หาและอปุ สรรคในการทำงาน ใหส้ ำเรจ็ ชืน่ ชมผลงานดว้ ยความภาคภมู ิใจ เฉล่ยี รวม 4.00 0.74 มาก จากตาราง 3 พฤติกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2/1 หลังเรียนวิชา ภาษาไทยพื้นฐาน ท22102 เรื่อง การใช้คำราชาศัพท์ตามระดับบุคคล อันเป็นการพัฒนาแล้วนำไปต่อยอดโดยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม พบว่ามีทกั ษะสงั คม มีคา่ เฉลยี่ 4.00 อยูใ่ นระดับมาก และ ทุกรายการอยู่ในระดับมาก เมื่อเรียงลำดับสูงสุดสามลำดับแรกคือ สามารถอ่านเพื่อการศึกษาค้นคว้า เพิ่มพูน ความรู้ประสบการณ์และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ (x-=4.51 , S.D = 0.47) สามารถวิเคราะห์สิ่งที่ผู้เขียน ต้องการสื่อสารกบั ผู้อ่านและวพิ ากยใ์ หข้ ้อเสนอแนะในแง่มุมต่าง ๆ ( x-= 4.12 , S.D = 0.75) สามารถประเมิน ความน่าเชื่อถือ คุณค่า แนวคดิ ท่ไี ด้ จากสงิ่ ท่ีอ่านอย่างหลากหลาย ( x-= 4.10 , S.D = 0.61) ตามลำดบั
9 สรุปผลการศกึ ษา 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ภาษาไทยพื้นฐาน ท22102 เรื่อง การใช้คำราชาศัพท์ตามระดับบุคคล อัน เป็นการพัฒนาแล้วนำไปต่อยอดโดยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนแมร่ ิมวทิ ยาคมด้านความรู้ เฉลี่ย 17 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 80 ซึ่งสูงกวา่ เกณฑ์ ที่ตั้งไว้รอ้ ยละ 80 2. ด้านคุณลักษณะ มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน และทกั ษะกระบวนการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ การเขยี นคำราชาศัพท์ตามระดับบคุ คล ของนกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 2/1 โรงเรยี นแม่ริมวทิ ยาคม เฉลีย่ 2.77 คดิ เป็นรอ้ ยละ 92.33 ใฝ่เรียนรู้ เฉล่ีย 2.74 คดิ เป็นร้อยละ 91.33 มุ่งมนั่ ในการทำงาน เฉลยี่ 2.74 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 91.33 ซงึ่ สูงกว่าเกณฑ์ท่ีตัง้ ไวร้ อ้ ยละ 70 ดา้ นทักษะกระบวนการ การอ่าน เฉลย่ี 2.81 คดิ เป็นร้อยละ 98.67 การคิดวเิ คราะห์ เฉลีย่ 2.81คิดเปน็ ร้อยละ 93.67 การเขียนสือ่ สาร เฉลี่ย 2.71 คดิ เปน็ ร้อยละ 90.33 ซึ่งสูงกวา่ เกณฑ์ท่ีตั้งไวร้ อ้ ยละ 80 ขึ้นไป 3. ภาษาไทยพื้นฐาน ท22102 เรื่อง การใช้คำราชาศัพท์ตามระดับบุคคล อันเป็นการพัฒนาแล้วนำไป ต่อยอดโดยวธิ กี ารสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2/1 โรงเรยี น แม่ริมวิทยาคม มีทักษะปัญญา ใฝ่เรียนใฝ่รู้ คิดวิเคราะห์ มีค่าเฉลี่ยโดยรวม 4.13 อยู่ในระดับมาก และมีทักษะ สังคม การอา่ น การเขียนสือ่ ความ มวี ินัย มงุ่ ม่นั ในการทำงาน มีค่าเฉลยี่ 4.00 อย่ใู นระดบั ดีมาก อภปิ รายผลการศึกษา 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา ภาษาไทยพื้นฐาน ท22102 เรื่อง การใช้คำราชาศัพท์ตามระดับบุคคล อันเป็นการพัฒนาแล้วนำไปต่อยอดโดยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคมโรงเรียนแม่ริมวิทยาคม ด้านความรู้ เฉลี่ย 17 คะแนน คิดเป็น ร้อยละ 80 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ท่ีตัง้ ไว้ร้อยละ 70 อาจเนื่องจาก มีการวางแผนการเรียนรู้ โดยกระบวนการ Active Learning และใช้กระบวนการ Thai Model ในการจัดการเรียนการสอน นักเรียนจะได้รับการสอนด้วยชุด นวัตกรรมและไดผ้ ลิตนวัตกรรมที่หลากหลาย เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เนน้ ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เพื่อสร้างความรู้ด้วยตนเอง เรียนตามสภาพจริง ผู้เรียนมีการเรียนร่วมกันโดยใช้กระบวนการกลุ่ม ร่วมกันสรปุ หาข้อค้นพบและนำเสนอสู่สาธารณะชน เป็นการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ โดยผ้เู รียนมีการสบื ค้นแหล่งเรยี นรทู้ ่ีหลากหลายท้งั ภายในและภายนอกหอ้ งเรียน โดยผเู้ รียนได้สั่งสมองค์ความรู้ ถ่ายทอดผลงานเป็นวงล้อคำราชาศัพท์ หลากหลายรูปแบบที่มีคุณค่า จากการเรียนการสอนที่นักเรียนได้ศึกษา หาความรู้ร่วมกันมีการพัฒนาการอ่าน การคิดวิเคราะห์ และการเขียนสื่อความทุกชั่วโมง ตลอดจนสร้าง นวตั กรรมการเรียนรูจ้ ึงสอดคล้องกบั สมมตฐิ านท่ี 1 นักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2/1 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม มี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา ท22102 เรื่อง การใช้คำราชาศัพท์ตามระดับบุคคล ภาษาไทยพื้นฐาน เรื่องการใช้ คำราชาศัพท์ตามระดับบุคคล โดยใช้กระบวนการ Active Learning และ Thai Model ของนักเรียนช้ัน มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2/1 โรงเรยี นแม่ริมวิทยาคม ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 80 และคาดว่าจะนำแนวทางการจดั การเรียนรู้ นไี้ ปพัฒนาการเรยี นการสอนในเนอ้ื หาอื่นๆ ตอ่ ไป 2. ดา้ นคุณลกั ษณะ มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ ม่ันในการทำงาน และทกั ษะกระบวนการอ่าน คิดวเิ คราะห์เขียน คำราชาศัพท์ตามระดับบุคคล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม เฉลี่ย 2.77 คิดเป็น ร้อยละ 92.33 ใฝ่เรียนรู้ เฉลี่ย 2.74 คิดเป็นร้อยละ 91.33 มุ่งมั่นในการทำงาน เฉลี่ย 2.74 คิดเป็นร้อยละ 91.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ร้อยละ 80 ด้านทักษะกระบวนการ การอ่าน เฉลี่ย 2.81 คิดเป็นร้อยละ 98.67 การคิดวเิ คราะห์ เฉลย่ี 2.81 คิดเป็นรอ้ ยละ 93.67 การเขยี นคำราชาศพั ท์ เฉล่ีย 2.71 คดิ เปน็ ร้อยละ 90.33 ซ่ึง สงู กว่าเกณฑ์ท่ีต้งั ไวร้ อ้ ยละ 80 ข้นึ ไป
10 อาจเน่ืองจาก นักเรยี นได้ฝึกการทำงานกลุ่มกจิ กรรมรว่ มกันคิดวางแผนการทำงาน ลงมือปฏิบตั ิ ประเมินผลงาน ฝึกการส่งงานภายในเวลาที่กำหนด มีการสืบค้น ออกแบบงานวงล้อคำราชาศัพท์ตามระดับบุคคล ซึ่งคือ คุณลักษณะมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน ทักษะกระบวนการทำงาน การคิดวิเคราะห์ การเขียน เพื่อ รังสรรค์เป็นผลงานวงลอ้ คราชาศพั ท์ในภาษาไทยทส่ี ร้างสรรค์ จึงทำให้มคี า่ เฉลย่ี ตามเกณฑ์ 3. พฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนวิชา ท22102 ภาษาไทยพื้นฐาน เรื่อง การใช้คำราชาศัพท์ตาม ระดับบุคคล โดยใช้กระบวนการ Active Learning และ Thai Model ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม มีทักษะปัญญา ใฝ่เรียนใฝ่รู้ คิดวิเคราะห์ มีค่าเฉลี่ยโดยรวม 4.13 อยู่ในระดับมาก และมีทักษะสังคม การอ่าน การเขียนสื่อความ มีวินัย มุ่งมั่นในการทำงาน มีค่าเฉลี่ย 4.00 อยู่ในระดับมาก อาจเนื่องจากกระบวนการสอนแบบ Active Learning และ Thai Model นักเรียนได้วางแผนทำงาน ร่วมมือ กนั ทำ นำเสนอด้วยกนั แลกเปลย่ี นเรียนรู้ด้วยกนั ทกุ กจิ กรรมท่ีเป็นงานกลุ่ม ได้เหน็ ผลงานนวัตกรรมของตนเอง ทำสื่อเผยแพร่ภาคภูมใิ จผลงานตนเอง เป็นผลงานเกิดจากการอ่าน การคิด การเขียน รังสรรค์ผลงานท่ีถ่ายทอด ความรคู้ วามคิดไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์ ขอ้ เสนอแนะ 1. ควรศึกษาวิธีสอนแบบ Active Learning ด้วยกจิ กรรมที่หลากหลายเหมาะสมตามเน้ือหาใน แต่ละสาระการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกบั ศักยภาพและความต้องการของผู้เรยี นเปน็ รายบุคคล 2. ควรนำเทคโนโลยมี าชว่ ยสร้างศึกษาการใชน้ วตั กรรมอืน่ ๆ อย่างสรา้ งสรรค์ เพื่อพัฒนา นักเรียนตามศักยภาพ ให้มคี ุณภาพตามคณุ ลักษณะในศตวรรษท่ี 21 3. ควรแบง่ กลุม่ นักเรียนโดยคละความสารมารถในดา้ นการเรยี น เก่ง ปานกลาง อ่อน เพ่ือให้ นกั เรยี นเกิดการเรียนร้แู บบเพื่อนช่วยเพอ่ื น
บรรณานกุ รม กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2551). หลักสตู รแกรนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ : ครุ สุ ภาลาดพร้าว. กุสมุ า รักามณ.ี (2534). สสี นั วรรณกรรม. กรุงเทพ ฯ : ศยาม. บุปผชาติ ทฬั หิกรณ์. (2558). การประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการเรยี นการสอน. กรุงเทพฯ: โครงการเทคโนโลย.ี ประภาพร ลม้ิ จติ สมบรู ณ์ และสริ ชิ ญา คอนกรีต. (2560). ชุดกิจกรรมพัฒนาการคดิ เสริมสรา้ ง สมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รียน Active Learning ภาษาไทย ม.3. กรุงเทพ : สถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.), 2560. ฟองจันทร์ สขุ ย่ิง และคณะ. (2559). หนงั สือรายวิชาพื้นฐาน วรรณกรรมและวรรณคดีไทย ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3. พิมพ์คร้ังที่ 13. กรุงเทพ ฯ : อกั ษรเจริญทศั น์. วรพจน์ วงศ์กิจรงุ่ เรอื งและอธิปจติ ตฤกษ์ (แปล). (2554). ทกั ษะแห่งอนาคตใหม่ : การศกึ ษาเพื่อ ศตวรรษที่ 21. กรงุ เทพฯ : สำนักพิมพ์ Open Worlds วจิ ารณ์ พานิช. (2555). วถิ ีสรา้ งการเรยี นรเู้ พื่อศษิ ยใ์ นศตวรรษท่ี 21. กรุงเทพฯ : มูลนธิ สิ ดศรี – สฤาดว์ิ งค.์ วโิ รจน์ สารรตั นะ. (2560). กระบวนทศั นใ์ หมท่ างการศึกษา:กรณที ัศนะตอ่ การศึกษาศตวรรษที่ 21. [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา:/http://www.pnd.mbuisc.ac.th. (25/ตลุ าคม/2560).
ภาคผนวก
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 15 กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รหัสวชิ า ท22102 ชอื่ ภาษาไทย 4 ชน้ั ม.๒/๑ ปีการศึกษา 256๓ ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 8 เปรือ่ งปราดหลกั ภาษา เร่ือง คำราชาศพั ท์ทใ่ี ช้กบั พระมหากษัตริย์ เวลา 3 ชั่วโมง ใช้จดั การเรียนการสอนวนั ที่ 10 – 14 เดอื น กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 256๔ สัปดาห์ท่ี 17 ครูผู้สอน นางสาวพรรณวภิ า แสงมขุ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สาระท่ี 4 หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.๑เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษาและรักภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ ตัวช้ีวัด ท 4.1 ม 2/5 รวบรวมและอธิบายความหมายของคำภาษาต่างประเทศทีใ่ ช้ในภาษาไทย จดุ ประสงค์ ดา้ นความรู้ ๑. นกั เรียนสามารถบอกความหมายและจดั หมวดหม่ขู องคำราชาศพั ท์สำหรับพระมหากษัตรยิ ์ได้ ๒. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความสำคญั ของคำราชาศัพทท์ ่ีมีตอ่ สงั คมไทยได้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ๑. นักเรียนสามารถใชค้ ำราชาศัพทไ์ ด้ถูกตอ้ งเหมาะสมกบั ระดับของบุคคล ๒. นักเรียนรู้หลกั การสงั เกตคำราชาศพั ท์ได้ถูกต้องเหมาะสม ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ มมี ารยาทในการใชภ้ าษาไทย 1. มีวนิ ยั ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎระเบยี บในห้องเรียน ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและส่งงานครบ ๓. มุง่ มั่นในการทำงาน ตง้ั ใจแลรับผิดชอบในการปฏบิ ัตงิ าน นวตั กรรมทีน่ ำมาสอดแทรก วธิ สี อนโดยเนน้ ทักษะกระบวนการ 9 ประการ สาระสำคัญ คำราชาศพั ท์สำหรับพระมหากษัตรยิ ์ เป็นคำราชาศัพท์ท่ใี ช้กับพระมหากษตั ริยแ์ ละพระบรมวงศานุวงศ์ แบง่ ออกเป็นคำนามราชาศพั ท์ คำสรรพนามราชาศพั ท์ คำกริยาราชาศพั ท์ คำวิเศษณร์ าชาศพั ท์ ซ่งึ จะต้องใชใ้ ห้ ถูกต้องและเหมาะสมกบั ระดับของบุคคล การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงที่ ๑-2 ๑. ขน้ั นำ ๑. นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ๒. นักเรียนดูภาพพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวและพระบรมวงศานุวงศ์ แล้วร่วมสนทนาเก่ยี วกบั บุคคล ในภาพว่ามคี วามสำคญั อยา่ งไร การใช้ภาษากบั บุคคลในภาพควรใช้ภาษาลักษณะใดเพราะอะไร ๓. ครูนำสนทนาโยงเข้าเรือ่ ง คำราชาศพั ท์
๒.ขั้นสอน ๑. ครูและนักเรียนรว่ มสนทนาแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั ความหมายของคำราชาศพั ท์ ท่ีมา และ ความสำคัญ ของคำราชาศัพท์ และการใช้คำราชาศัพท์กบั บุคคลระดับต่าง ๆ แลว้ ร่วมสรุปเขยี นเปน็ แผนภาพความคิด ๒. แบง่ นกั เรียนออกเป็น ๔ กลมุ่ ศกึ ษาและอภปิ รายภายในกลุ่มเรื่อง คำราชาศัพทท์ ่ีใช้กับ พระมหากษตั ริย์ ในหนังสอื เรียน รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ เล่ม ๑ ตามหัวขอ้ ต่อไปนี้ กลมุ่ ท่ี ๑ ศึกษาเรื่อง คำนามราชาศพั ท์ กล่มุ ที ๒ ศกึ ษาเรื่อง คำกรยิ าราชาศพั ท์ กลมุ่ ท่ี ๓ ศึกษาเร่ือง คำสรรพนามราชาศัพท์ กล่มุ ที่ ๔ ศกึ ษาเรื่อง คำวิเศษณร์ าชาศัพท์ ๓. ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรียน ครแู ละเพ่ือนช่วยกันซักถาม และเสนอแนะข้อคิดเห็น ๔. ครเู ปดิ วีดิทศั นข์ า่ วในพระราชสำนักใหน้ กั เรยี นดู ให้แตล่ ะกล่มุ บอกคำราชาศัพท์ท่ีได้ยินในขา่ ว และ คดิ คำราชาศัพท์ท่เี คยได้ยินหรือได้ฟงั ในชีวิตประจำวนั และจัดหมวดหมู่ของคำและความหมายให้ได้มาก ท่สี ุด เสรจ็ แล้วครตู รวจสอบความถกู ต้องทีละกลุ่มและให้คะแนน ๕. นกั เรียนทำใบงาน เร่ือง คำราชาศพั ทส์ ำหรบั พระมหากษัตรยิ ์ แล้วชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ ๖. ครใู หค้ วามรเู้ สรมิ วา่ คำราชาศัพท์ของไทยสว่ นใหญ่เป็นคำทีย่ มื มาจากภาษาเขมรและภาษาบาลี สนั สกฤต ในอดีตไทยรับการปกครองแบบสมบรู ณาญาสิทธิราชยม์ าจากเขมร ซงึ่ ยกย่องพระมหากษัตริย์ เหมอื นสมมุตเทพจงึ มีคำใช้กับพระมหากษัตรยิ ์ โดยเฉพาะซึ่งก็คือ คำราชาศัพท์ ๓.ขนั้ สรุป นักเรยี นช่วยกนั สรุปเกย่ี วกบั คำราชาศัพท์ท่ีใชก้ ับพระมหากษตั ริย์ บนั ทกึ ลงสมุด ชัว่ โมงที่ 3 ๑.ขน้ั นำ ๑. นกั เรียนดูภาพพระสงฆ์ ภาพองคมนตรี ภาพนายกรัฐมนตรี แลว้ รว่ มสนทนาวา่ การพูดจาหรอื ติดต่อสอื่ สารกบั บุคคลในภาพควรใชภ้ าษาอยา่ งไรจึงจะเหมาะสม ๒. ครอู ธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจว่า การพดู จากบั พระสงฆ์จะตอ้ งมีคำศัพท์เฉพาะเพ่ือแสดงถึงความเคารพนบั ถอื ส่วนองคมนตรี นายกรัฐมนตรีก็ควรใช้คำที่สภุ าพเหมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคล จากนนั้ ครูนำ สนทนาโยงเข้าเร่ือง คำราชาศพั ท์ทีใ่ ชก้ ับพระสงฆแ์ ละคำสุภาพ ๒.ข้ันสอน ๑. แบ่งนกั เรยี นออกเป็นกล่มุ ให้แต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทนมาจับสลากเพอ่ื ศกึ ษาเรื่องใดเร่ืองหนงึ่ จาก หนงั สือเรียน ในหวั ข้อต่อไปนี้
๑) การใช้ถอ้ ยคำสำหรบั พระสงฆ์ ๒) การใชค้ ำสุภาพ ๒. เมื่อศึกษาเสร็จแล้วให้แต่ละกลมุ่ กำหนดสถานการณ์ ๑ สถานการณ์ เพือ่ แสดงบทบาทสมมตุ ิการใช้ ภาษากบั บุคคลตามท่ไี ด้ศกึ ษา แลว้ ออกมาแสดงให้เพื่อนดหู น้าชัน้ เรยี น เพือ่ นและครรู ่วมกนั แสดงความ คิดเห็น ตชิ ม แนะเสนอแนะ ๓. นักเรยี นรว่ มกนั สรุปผลการทำกิจกรรมตามแนวคำถามตอ่ ไปน้ี ๑) เพราะเหตุใดการสนทนากับพระสงฆ์จึงแตกต่างจากการสนทนากับบคุ คลท่วั ไป ๒) ยกตัวอย่างคำศัพท์ที่ใชก้ บั พระสงฆ์ ๓) คำสุภาพคืออะไร มีลกั ษณะอย่างไร ๔) เพราะเหตุใดเราจงึ ใช้คำสุภาพในการติดต่อสื่อสารกนั ๕) การตดิ ต่อสื่อสารกบั บุคคลใดต้องใช้คำสุภาพบ้าง ๖) การติดต่อสอ่ื สารของคนในสงั คมมีการใชภ้ าษาที่เหมาะสมหรือไม่ อย่างไร ๔. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ และจดบันทึกลงสมุด ๕. ครูให้ความรู้เสริมวา่ การใช้ภาษาไทยในการสื่อสารกบั พระสงฆ์หรอื สุภาพชนท่ัวไป ควรใช้ให้ถูกต้อง ตามระดบั ภาษา เพื่อเปน็ การยกยอ่ งใหเ้ กยี รตบิ ุคคลนัน้ ๆ ซึง่ สอดคล้องกับเงอื่ นไขคณุ ธรรมตามหลกั เศรษฐกิจพอเพียง ๓.ข้ันสรปุ ๑. นักเรยี นสรปุ เก่ียวกบั การใชค้ ำราชาศพั ท์กับพระสงฆ์และคำสภุ าพ เป็นแผนภาพความคิดและบนั ทึก ลงสมุด ๒. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน แล้วช่วยกันเฉลยคำตอบ สอ่ื / แหลง่ เรียนรู้ ๑. แบบทดสอบก่อน-หลงั เรยี น ๒. ภาพพระสงฆ์ ๓. ภาพองคมนตรี ๔. ภาพนายกรัฐมนตรี ๕. สลาก
การประเมินผลการเรยี นรู้ เปา้ หมายการเรียนรู้ วิธกี ารวัด เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน ความรู้ (K) -แบบทดสอบหน่วยการ ๑.ตอ้ งผ่านเกณฑก์ าร ๑. นกั เรยี นสามารถบอก ตรวจใบงาน เรียนรู้ ทดสอบร้อยละ ๕๐ ความหมายและจดั หมวดหมขู่ องคำราชา -ใบงาน ข้ึนไป ศพั ทส์ ำหรับพระมหากษัตริยไ์ ด้ ๒. ตอ้ งผา่ นเกณฑ์ ๒. นกั เรยี นสามารถอธบิ าย การประเมนิ ร้อยละ ความสำคัญของคำราชาศัพท์ทมี่ ตี ่อ ๕๐ ขน้ึ ไป สงั คมไทยได้ กระบวนการ (P) การทำกจิ กรรมใน -แบบประเมินการเขยี น ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๑. นกั เรยี นสามารถใช้คำราชาศัพทไ์ ด้ หอ้ งเรียน - เกณฑ์การให้คะแนน ๖๐ ขึน้ ไป ถกู ต้องเหมาะสมกบั ระดบั ของบคุ คล ผลงานจากกจิ กรรม ๒. นักเรียนรูห้ ลักการสงั เกตคำราชา ศพั ท์ไดถ้ ูกต้องเหมาะสม คณุ ลักษณะ (A) สงั เกตคุณลักษณะอนั พึง -แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ มมี ารยาทในการใชภ้ าษาไทย ประสงค์ รายบคุ คล ๗๐ ขน้ึ ไป 1. มีวินัย ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎระเบียบในห้องเรียน ๒. ใฝเ่ รียนรู้ ตง้ั ใจ เพยี ร พยายามในการเรียนและส่งงานครบ ๓. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน ตัง้ ใจ แลรับผดิ ชอบในการปฏิบัติงาน ความคิดเห็นก่อนการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ ◻ หวั หน้ากล่มุ สาระ ◻ รองผู้อำนวยการ ◻ ผอู้ ำนวยการ ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ...................................... (...........................................) .........../.........../.........
บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ ผลการจดั การเรยี นการสอน ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ปัญหา/แนวทางแก้ไข ........................................................... ........................................................................................................ .............. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... .................................................................................................................................................................. ............... ผลการดำเนนิ การแกไ้ ข ............................................................................................................................. .................................................... .............................................................................. ..................................................................................... .............. ............................................................................................................................. .................................................... ลงช่อื ......................................................ผ้สู อน (นางสาวพรรณวภิ า แสงมขุ ) .........../.........../........... ความคิดเหน็ ◻ หัวหน้ากล่มุ สาระ ◻ รองผอู้ ำนวยการ ◻ ผ้อู ำนวยการ ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................................... ............ ...................................... (...........................................) .........../.........../...........
รปู ภาพประกอบ การทำงานกล่มุ วงลอ้ คำราชาศพั ท์
รปู ภาพประกอบ การทำงานกล่มุ วงลอ้ คำราชาศพั ท์
รปู ภาพพประกอบ วงลอ้ คำราชาศพั ท์
รปู ภาพประกอบ สรปุ องคค์ วามรู้ เร่อื ง คำราชาศพั ท์
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: