ส่ือกลางประเภทมสี าย (wired system) สือ่ กลางประเภทมสี าย หมายถึง สอ่ื กลางท่ีเป็ นสายซ่ึงใช้ในการเช่อื มโยงโดยอปุ กรณต์ า่ ง ๆ เพ่ือใชใ้ นการสง่ ผา่ นขอ้ มลู ระหวา่ งอปุ กรณ์1) สายคบู่ ิดเกลียว (Twisted Pair) สายคบู่ ิดเกลียว ประกอบดว้ ยเสน้ ลวดทองแดงที่หมุ้ ดว้ ยฉนวนพลาสตกิ 2 เสน้ พนั บิดเป็ นเกลยี ว ทง้ั นเ้ี พื่อลดการรบกวนจากคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้ าจากคสู่ ายขา้ งเคียงภายในสายเดยี วกนั หรือจากภายนอกเนอื่ งจากสายคบู่ ิดเกลียวนยี้ อมใหส้ ญั ญาณไฟฟ้ าความถี่สงู ผา่ นได้ สาหรบั อตั ราการสง่ ขอ้ มลู ผา่ น สายคบู่ ิดเกลียวจะขนึ้ อยกู่ บั ความหนาของสายดว้ ย กลา่ วคือ สายทองแดงท่ีมเี สน้ผา่ นศนู ยก์ ลางกวา้ ง จะสามารถสง่ สญั ญาณไฟฟ้ ากาลงั แรงได้ ทาใหส้ ามารถสง่ ขอ้ มลู ดว้ ยอตั ราสง่ สงู โดยทวั่ ไปแลว้ สาหรบั การสง่ ขอ้ มลู แบบดจิ ติ อล สญั ญาณท่ีสง่ เป็ นลกั ษณะคลน่ื ส่เี หลีย่ ม สายคบู่ ิดเกลยี วสามารถใชส้ ง่ ขอ้ มลู ไดถ้ ึงรอ้ ย เมกะบิตตอ่ วินาที ในระยะทางไมเ่ กินรอ้ ยเมตร เนอ่ื งจากสายคบู่ ิดเกลยี วมีราคาไมแ่ พงมาก ใชส้ ง่ ขอ้ มลู ไดด้ ี จงึ มกี ารใชง้ านอยา่ งกวา้ งขวาง
2) สายโคแอกเชียล (coaxial) เป็ นตวั กลางเชื่อมโยงที่มลี กั ษณะเชน่ เดยี วกบั สายทตี่ อ่ จากเสาอากาศ สายโคแอกเชยี ลที่ใชท้ วั่ ไปมี 2 ชนดิ คือ 50 โอหม์ ซ่ึงใชส้ ง่ ขอ้ มลู แบบดิจิทลั และชนดิ 75 โอหม์ ซ่ึงใชส้ ง่ ขอ้ มลู สญั ญาณแอนะล็อก สายประกอบดว้ ยลวดทองแดงที่เป็ นแกนหลกั หนง่ึ เสน้ ท่ีหมุ้ ดว้ ยฉนวนชน้ั หน่ึง เพือ่ ป้ องกนักระแสไฟรวั่ จากนน้ั จะหมุ้ ดว้ ยตวั นาซึ่งทาจากลวดทองแดงถกั เป็ นเปี ย เพ่อื ป้ องกนั การรบกวนของคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้ าและสญั ญาณรบกวนอื่นๆ กอ่ นจะหมุ้ ชน้ั นอกสดุ ดว้ ยฉนวนพลาสติกลวดทองแดงท่ีถกั เป็ นเปี ยนเ้ี องเป็ นสว่ นหนง่ึ ที่ทาใหส้ ายแบบนม้ี ชี ว่ งความถ่ีสญั ญาณไฟฟ้ าสามารถผา่ นไดส้ งู มาก และนยิ มใชเ้ ป็ นชอ่ งสือ่ สารสญั ญาณแอนะล็อกเชอ่ื งโยงผา่ นใตท้ ะเลและใตด้ นิ
3) เสน้ ใยนาแสง (fiber optic) ทาจากแกว้ หรือพลาสตกิ มลี กั ษณะเป็ นเสน้ บางๆ คลา้ ย เสน้ ใยแกว้ จะทาตวั เป็ นสอื่ ในการสง่ แสงเลเซอร์ท่มี คี วามเร็วในการสง่ สญั ญาณเทา่ กบั ความเร็วของแสง หลกั การทวั่ ไปของการสอื่ สารในสายไฟเบอรอ์ อปตกิ คอื การเปล่ียนสญั ญาณ (ขอ้ มลู ) ไฟฟ้ าใหเ้ ป็ นคลน่ื แสงกอ่ น จากนน้ั จึงสง่ ออกไปเป็ นพลั ส์ ของแสงผา่ นสายไฟเบอรอ์ อปตกิ สายไฟเบอรอ์ อปตกิ ทาจากแกว้ หรือพลาสตกิ สามารถสง่ ลาแสง ผา่ นสายไดท้ ีละหลาย ๆ ลาแสงดว้ ยมมุ ทีต่ า่ งกนั ลาแสงทสี่ ง่ ออกไปเป็ นพลั สน์ น้ั จะสะทอ้ นกลบั ไปมาท่ีผวิ ของสายชน้ั ในจนถึงปลายทาง จากสญั ญาณขอ้ มลู ซ่ึงอาจจะเป็ นสญั ญาณอนาล็อกหรือดจิ ิตอล จะผา่ นอปุ กรณ์ที่ทาหนา้ ท่ีมอดเู ลตสญั ญาณเสยี กอ่ น จากนน้ั จะสง่ สญั ญาณมอดเู ลต ผา่ นตวั ไดโอดซ่ึงมี 2 ชนดิ คอื LED ไดโอด(light Emitting Diode) และเลเซอรไ์ ดโอด หรือ ILD ไดโอด (Injection Leser Diode) ไดโอดจะมหี นา้ ทเ่ี ปลย่ี นสญั ญาณมอดเู ลตใหเ้ ป็ นลาแสงเลเซอรซ์ ึ่งเป็ นคลน่ื แสงในยา่ นท่มี องเห็นไดห้ รอื เป็ นลาแสงในยา่ นอินฟราเรดซึ่งไมส่ ามารถมองเห็นได้ ความถ่ียา่ นอินฟราเรดทใ่ี ชจ้ ะอยใู่ นชว่ ง 1014-1015 เฮริ ตซ์ ลาแสงจะถกู สง่ ออกไปตามสายไฟเบอรอ์ อปตกิ
เมอ่ื ถึงปลายทางก็จะมีตวั โฟโตไ้ ดโอด (Photo Diode)ที่ทาหนา้ ที่รบั ลาแสงท่ีถกู สง่ มาเพือ่ เปล่ียนสญั ญาณแสงใหก้ ลบั ไปเป็ นสญั ญาณมอดเู ลตตามเดมิ จากนนั้ ก็จะสง่ สญั ญาณผา่ นเขา้ อปุ กรณด์ ีมอดเู ลต เพ่ือทาการดมี อดเู ลตสญั ญาณมอดเู ลตใหเ้ หลอื แตส่ ญั ญาณขอ้ มลู ท่ีตอ้ งการ สายไฟเบอร์ออปตกิ สามารถมแี บนดว์ ิดท์ (BW) ไดก้ วา้ งถึง 3 จิกะเฮิรตซ์ (1 จิกะ = 109) และมอี ตั ราเร็วในการสง่ ขอ้ มลู ไดถ้ ึง 1 จกิ ะบิต ตอ่ วินาที ภายในระยะทาง 100 กม. โดยไมต่ อ้ งการเครื่องทบทวนสญั ญาณเลย สายไฟเบอรอ์ อปตกิ สามารถมชี อ่ งทางสอ่ื สารไดม้ ากถึง 20,000-60,000 ชอ่ งทางสาหรบั การสง่ ขอ้ มลู ในระยะทางไกล ๆ ไมเ่ กนิ 10 กม. จะสามารถมชี อ่ งทางไดม้ ากถึง 100,000ชอ่ งทางทีเดยี ว
การสอ่ื สารขอ้ มลู แบบไรส้ ายนส้ี ามารถสง่ ขอ้ มลู ไดท้ กุ ทิศทางโดยมีอากาศเป็ นตวั กลางในการสื่อสาร1) คลื่นวิทยุ (Radio Wave) วิธี การสอ่ื สารประเภทนจี้ ะใชก้ ารสง่ คล่นื ไปในอากาศ เพ่ือสง่ ไปยงั เคร่ืองรบั วิทยโุ ดยรวมกบัคล่นื เสยี งมคี วามถ่ีเสยี งที่เป็ นรปู แบบของคลืน่ ไฟฟ้ า ดงั นนั้ การสง่ วิทยกุ ระจายเสยี งจงึ ไมต่ อ้ งใช้สายสง่ ขอ้ มลู และยงั สามารถสง่ คลนื่ สญั ญาณไปไดร้ ะยะไกล ซ่ึงจะอยใู่ นชว่ งความถ่ีระหวา่ ง 104 -109 เฮิรตซ์ ดงั นนั้ั เครื่องรบั วิทยจุ ะตอ้ งปรบั ชอ่ งความถี่ใหก้ บั คลนื่ วิทยทุ ี่สง่ มา ทาใหส้ ามารถรบัขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งชดั เจน
2) สญั ญาณไมโครเวฟ (Microwave) เป็ นส่อื กลางในการสื่อสารท่มี คี วามเร็วสงู สง่ ขอ้ มลู โดยอาศยั สญั ญาณไมโครเวฟ ซึ่งเป็ นสญั ญาณคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้ าไปในอากาศพรอ้ มกบั ขอ้ มลู ที่ตอ้ งการสง่ และจะตอ้ งมสี ถานที ี่ทาหนา้ ที่สง่ และรบั ขอ้ มลู และเนอื่ งจากสญั ญาณไมโครเวฟจะเดินทางเป็ นเสน้ ตรง ไมส่ ามารถเลย้ี วหรือโคง้ตามขอบโลกท่ีมคี วามโคง้ ได้ จึงตอ้ งมกี ารตง้ั สถานรี บั - สง่ ขอ้ มลู เป็ นระยะๆ และสง่ ขอ้ มลู ตอ่ กนัเป็ นทอดๆ ระหวา่ งสถานตี อ่ สถานจี นกวา่ จะถึงสถานปี ลายทาง และแตล่ ะสถานจี ะตงั้ อย่ใู นท่ีสงู ซ่ึงจะอยใู่ นชว่ งความถ่ี 108 - 1012 เฮิรตซ์
3) แสงอินฟราเรด (Infrared) คลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้ าที่มคี วามถ่ีอยใู่ นชว่ ง 1011 – 1014 เฮิรตซ์ หรือความยาวคลน่ื 10-3 –10-6 เมตร เรียกวา่ รงั สอี ินฟราเรด หรือเรียกอีกอยา่ งหนงึ่ วา่ คล่ืนความถ่ีสน้ั (Millimeterwaves)ซึ่งจะมยี า่ นความถี่คาบเก่ยี วกบั ยา่ นความถี่ของคลืน่ ไมโครเวฟอยบู่ า้ ง วตั ถรุ อ้ น จะแผร่ งั สีอินฟราเรดท่ีมคี วามยาวคลน่ื สน้ั กวา่ 10-4 เมตรออกมา ประสาทสมั ผสั ทางผิวหนงั ของมนษุ ย์สามารถรบั รงั สอี ินฟราเรด ลาแสงอินฟราเรดเดนิ ทางเป็ นเสน้ ตรง ไมส่ ามารถผา่ นวตั ถทุ ึบแสงและสามารถสะทอ้ นแสงในวสั ดผุ วิ เรียบไดเ้ หมอื นกบั แสงทวั่ ไปใชม้ ากในการสื่อสาร ระยะใกล้
4) ดาวเทียม (satilite) ไดร้ บั การพฒั นาขน้ึ มาเพอ่ื หลีกเลยี่ งขอ้ จากดั ของสถานรี บั - สง่ ไมโครเวฟบนผวิ โลกวตั ถปุ ระสงคใ์ นการสรา้ งดาวเทียมเพือ่ เป็ นสถานรี บั - สง่ สญั ญาณไมโครเวฟบนอวกาศ และทวนสญั ญาณในแนวโคจรของโลก ในการสง่ สญั ญาณดาวเทียมจะตอ้ งมสี ถานภี าคพื้นดนิ คอยทาหนา้ ที่รบั และสง่ สญั ญาณขนึ้ ไปบนดาวเทียมที่โคจรอยสู่ งู จากพืน้ โลก 22,300 ไมล์ โดยดาวเทียมเหลา่ นน้ั จะเคลือ่ นท่ีดว้ ยความเร็วท่ีเทา่ กบั การหมนุ ของโลก จงึ เสมอื นกบั ดาวเทียมนน้ั อยนู่ ง่ิ อยกู่ บัที่ ขณะท่ีโลกหมนุ รอบตวั เอง ทาใหก้ ารสง่ สญั ญาณไมโครเวฟจากสถานหี นง่ึ ขนึ้ ไปบนดาวเทียมและการกระจายสญั ญาณ จากดาวเทียมลงมายงั สถานตี ามจดุ ตา่ งๆ บนผวิ โลกเป็ นไปอยา่ งแมน่ ยาดาวเทียมสามารถโคจรอยไู่ ด้ โดยอาศยั พลงั งานที่ไดม้ าจากการเปลยี่ น พลงั งานแสงอาทิตย์ ดว้ ยแผงโซลาร์ (solar panel)
5) บลทู ธู (Bluetooth) ระบบสื่อสารของอปุ กรณอ์ ิเล็คโทรนคิ แบบสองทาง ดว้ ยคลื่นวิทยรุ ะยะสน้ั (Short-RangeRadio Links) โดยปราศจากการใชส้ ายเคเบิ้ล หรือ สายสญั ญาณเชอ่ื มตอ่ และไมจ่ าเป็ นจะตอ้ งใช้การเดนิ ทางแบบเสน้ ตรงเหมอื นกบั อินฟราเรด ซ่ึงถือวา่ เพ่ิมความสะดวกมากกวา่ การเช่ือมตอ่ แบบอินฟราเรด ท่ใี ชใ้ นการเชือ่ มตอ่ ระหวา่ งโทรศพั ทม์ อื ถือ กบั อปุ กรณ์ ในโทรศพั ทเ์ คล่ือนที่รนุ่ กอ่ นๆและในการวิจยั ไมไ่ ดม้ งุ่ เฉพาะการสง่ ขอ้ มลู เพียงอยา่ งเดียว แตย่ งั ศึกษาถึงการสง่ ขอ้ มลู ท่ีเป็ นเสียงเพื่อใชส้ าหรบั Headset บนโทรศพั ทม์ อื ถือดว้ ยเทคโนโลยี บลทู ธู เป็ นเทคโนโลยีสาหรับการเชอ่ื มตอ่อปุ กรณแ์ บบไรส้ ายที่นา่ จบั ตามองเป็ นอยา่ ง ย่ิงในปัจจบุ นั ทงั้ ในเรื่องความสะดวกในการใชง้ านสาหรบั ผใู้ ชท้ วั่ ไป และประสทิ ธิภาพในการทางาน เนอื่ งจาก เทคโนโลยี บลทู ธู มรี าคาถกู ใชพ้ ลงั งานนอ้ ย และใชเ้ ทคโนโลยี short – range ซึ่งในอนาคต จะถกู นามาใชใ้ นการพฒั นา เพอ่ื นาไปส่กู ารแทนท่ีอปุ กรณต์ า่ งๆ ที่ใชส้ าย เคเบิล เชน่ Headset สาหรบั โทรศพั ทเ์ คลื่อนท่ี เป็ นตน้
เทคโนโลยีการเชอื่ มโยงหรือการสื่อสารแบบใหมท่ ่ีถกู คิดคน้ ขนึ้ เป็ นเทคโนโลยีของอินเตอรเ์ ฟซทางคล่นื วิทยุ ตง้ั อยบู่ นพน้ื ฐานของการสอื่ สารระยะใกลท้ ี่ปลอดภยั ผา่ นชอ่ งสญั ญาณความถ่ี 2.4 Ghzโดยที่ถกู พฒั นาขน้ึ เพือ่ ลดขอ้ จากดั ของการใชส้ ายเคเบิลในการเชอื่ มโยงโดยมี ความเร็วในการเช่ือมโยงสงู สดุ ท่ี 1 mbp ระยะครอบคลมุ 10 เมตร เทคโนโลยีการสง่ คลื่นวิทยขุ องบลทู ธู จะใชก้ ารกระโดดเปลยี่ นความถี่ (Frequency hop) เพราะว่าเทคโนโลยีนเี้ หมาะที่จะใชก้ บั การสง่ คลื่นวิทยทุ ่ีมีกาลงั สง่ ตา่ และ ราคาถกู โดยจะแบง่ ออกเป็ นหลายชอ่ งความถึ่ขนาดเล็ก ในระหวา่ งท่ีมีการเปล่ียนชอ่ งความถึ่ท่ีไมแ่ นน่ อนทาใหส้ ามารถหลกี หนสี ญั ญา นรบกวนท่ีเขา้ มาแทรกแซงได้ ซึ่งอปุ กรณท์ ่ีจะไดร้ บั การยอมรบั วา่ เป็ นเทคโนโลยีบลทู ธู ตอ้ งผา่ นการทดสอบจาก Bluetooth SIG (Special InterestGroup) เสียกอ่ นเพอื่ ยืนยนั วา่ มนั สามารถท่ีจะทางานร่วมกบั อปุ กรณบ์ ลทู ธู ตวั อ่ืนๆ และอินเตอรเ์ น็ตได้
คณุ ภาพของขอ้ มลู ที่สง่ ผา่ นในระบบสื่อสาร จะพิจารณาส่งิ สาคญั คือ คณุ ลกั ษณะของสอ่ื กลางและสญั ญาณ การสง่ ผา่ นขอ้ มลู ในระบบสอ่ื สาร สง่ิ ส าคญั ที่ตอ้ งพิจารณา เป็ นพิเศษ คือ อตั ราความเร็วในการสง่ ขอ้ มลู (Data Rate) และระยะทาง (Distance) โดยมจี ดุ ประสงคเ์ พ่อื ใหส้ ามารถสง่ขอ้ มลู ดว้ ยความเร็วสงู และสง่ ไดร้ ะยะไกล
ตวั อยา่ งปัจจยั ท่ีสง่ ผลกระทบในดา้ นความเร็ว และระยะทางที่มตี อ่ สือ่ กลาง ซึ่งประกอบดว้ ย1. แบนดว์ ิดธ์ (Bandwidth) คือ ยา่ นความถี่ของชอ่ งสญั ญาณ หากมชี อ่ งสญั ญาณขนาดใหญ่ จะสง่ ผลใหใ้ นหนง่ึ หนว่ ยเวลา สามารถเคลอ่ื นยา้ ยปริมาณขอ้ มลู ไดจ้ านวนมากขน้ึ2. จานวนโหนดท่ีเช่อื มตอ่ (Number of Receivers) ส่อื กลางสง่ ขอ้ มลู แบบใชส้ าย สามารถน ามาเชอ่ื มตอ่ เครือขา่ ยในรปู แบบ จดุ ตอ่ จดุ หรือแบบหลายจดุ เพอ่ื แชรก์ ารใชง้ านสายสง่ ขอ้ มลู รว่ มกนัสาหรบั เครือขา่ ยที่ใชส้ ายสง่ ขอ้ มลู รว่ มกนั จะมขี อ้ จากดั ดา้ นระยะทางและความเร็วที่จากดั ดงั นน้ัหากเครือขา่ ยมีโหนดและอปุ กรณเ์ ชอ่ื มตอ่ เป็ นจ านวนมาก ยอ่ มสง่ ผลให้ ความเร็วลดลง
3. ความสญู เสียตอ่ การสง่ ผา่ น (Transmission Impairments) คือ การออ่ นตวั ของสญั ญาณ ซ่ึงจะเก่ียวขอ้ งกบั ระยะทางในการสง่ ผา่ น ขอ้ มลู หากระยะทางยง่ิ ไกล สญั ญาณก็ยิง่ เบาบางลง ไมม่ กี าลงั ส่ง เชน่ สายคู่บิต เกลยี วจะมคี วามสญู เสยี ตอ่ การสง่ ผา่ นขอ้ มลู ภายในสายมากกวา่ สายโคแอกเชยี ล ดงั นน้ั การเลอื กใช้สายโคแอกเชยี ลก็จะสามารถเชอ่ื มโยงไดไ้ กลกวา่ และหากใชส้ ายไฟเบอรอ์ อปตกิ จะมคี วามสญู เสยี ตอ่ การสง่ ผา่ นขอ้ มลู ภายใน สายนอ้ ยกวา่ สายประเภทอ่ืนๆ ดงั นนั้ สายไฟเบอรอ์ อปตกิ จึงเป็ นสายสอื่ สารทสี่ ามารถเชอ่ื มโยงระยะทางไดไ้ กลทสี่ ดุ โดยสามารถลากสายไดย้ าวหลายกโิ ลเมตรโดยไมต่ อ้ งใช้ อปุ กรณท์ วนสญั ญาณชว่ ย4. การรบกวนของสญั ญาณ (Interference) การรบกวนของสญั ญาณที่คาบเกยี่ วกนั ในยา่ นความถี่ อาจทาให้ เกิดการบิดเบือนสญั ญาณได้ โดยไมว่ า่ จะเป็ นสือ่ กลางแบบมสี าย หรือแบบ ไรส้ าย เชน่ การรบกวนกนัของคลนื่ วิทยุ สญั ญาณครอสทอรก์ ที่เกดิ ขน้ึ ใน สายคบู่ ิตเกลยี วชนดิ ไมม่ ฉี นวน ท่ีภายในประกอบดว้ ยสายทองแดงหลายคู่ มดั อยรู่ วมกนั วิธีแกไ้ ขคือ เลอื กใชส้ ายคบู่ ิตเกลยี วชนดิ ทม่ี ีฉนวนหรีอชลี ด์ เพอ่ื ป้ องกนัสญั ญาณรบกวน
1. แบนดว์ ิดธ์ (Bandwidth) คือ ยา่ นความถ่ีของชอ่ งสญั ญาณ หากมชี อ่ งสญั ญาณขนาดใหญ่ จะสง่ ผลใหใ้ นหนง่ึ หนว่ ยเวลา สามารถเคล่อื นยา้ ยปริมาณขอ้ มลู ไดจ้ านวนมากขน้ึ2. จานวนโหนดท่ีเชือ่ มตอ่ (Number of Receivers) สอ่ื กลางสง่ ขอ้ มลู แบบใชส้ าย สามารถนามาเชอื่ มตอ่ เครือขา่ ยในรปู แบบ จดุ ตอ่ จดุ หรือแบบหลายจดุ เพอื่ แชรก์ ารใชง้ านสายสง่ ขอ้ มลู รว่ มกนัสาหรบั เครือขา่ ยท่ีใชส้ ายสง่ ขอ้ มลู ร่วมกนั จะมีขอ้ จากดั ดา้ นระยะทางและความเร็วท่ีจากดั ดงั นน้ัหากเครือขา่ ยมโี หนดและอปุ กรณเ์ ชอื่ มตอ่ เป็ นจ านวนมาก ยอ่ มสง่ ผลให้ ความเร็วลดลง
3. ความสญู เสยี ตอ่ การสง่ ผา่ น (Transmission Impairments) คอื การอ่อนตวั ของสญั ญาณ ซึ่งจะเกยี่ วขอ้ งกบั ระยะทางในการสง่ ผา่ น ขอ้ มลู หากระยะทางยง่ิ ไกล สญั ญาณก็ยิง่ เบาบางลง ไมม่ กี าลงัสง่ เชน่ สายคบู่ ิต เกลยี วจะมคี วามสญู เสียตอ่ การสง่ ผา่ นขอ้ มลู ภายในสายมากกว่าสายโคแอกเชยี ลดงั นน้ั การเลือกใชส้ ายโคแอกเชยี ลก็จะสามารถเชอ่ื มโยงไดไ้ กลกว่า และหากใชส้ ายไฟเบอรอ์ อปตกิ จะมีความสญู เสียตอ่ การสง่ ผา่ นขอ้ มลู ภายใน สายนอ้ ยกวา่ สายประเภทอื่นๆ ดงั นน้ั สายไฟเบอรอ์ อปติกจงึเป็ นสายสือ่ สารท่ีสามารถ เชอ่ื มโยงระยะทางไดไ้ กลทีส่ ดุ โดยสามารถลากสายไดย้ าวหลายกโิ ลเมตรโดยไมต่ อ้ งใช้ อปุ กรณท์ วนสญั ญาณชว่ ย4. การรบกวนของสญั ญาณ (Interference) การรบกวนของสญั ญาณทคี่ าบเก่ียวกนั ในยา่ นความถ่ีอาจทาให้ เกิดการบิดเบือนสญั ญาณได้ โดยไมว่ ่าจะเป็ นสอ่ื กลางแบบมสี าย หรือแบบ ไรส้ าย เชน่ การรบกวนกนั ของคลื่นวิทยุ สญั ญาณครอสทอรก์ ทีเ่ กิดขนึ้ ใน สายคบู่ ิตเกลียวชนดิ ไมม่ ีฉนวน ท่ภี ายในประกอบดว้ ยสายทองแดงหลายคู่ มดั อย่รู วมกนั วิธแี กไ้ ขคือ เลือกใชส้ ายคบู่ ิตเกลยี วชนดิ ทมี่ ฉี นวนหรีอชลี ด์ เพ่ือป้ องกนั สญั ญาณรบกวน
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: