Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงาน เปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์ กศน.อำเภอภาชี

โครงงาน เปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์ กศน.อำเภอภาชี

Published by atomtettra, 2020-08-03 08:43:42

Description: โครงงาน เปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์

Search

Read the Text Version

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ พฒั นานวตั กรรมดา้ นส่ิงแวดล้อม ประเภทการจดั การขยะมลู ฝอย นายณัฐชยั วนิ ยั ถนอม มัธยมศึกษาตอนต้น นางสาวกัญญา โตมอญ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย นายสภุ ัคพงษ์ ตรโี ภคา มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.ตำบลหนองนำ้ ใส ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอภาชี สำนกั งาน กศน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงาน กศน. สำนักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ

บทคัดยอ่ โครงงานวิทยาศาสตรเ์ ร่อื ง เปล่ียนขยะเปน็ ประโยชน์ การทดลองนม้ี ีจุดมงุ่ หมายเพอ่ื การ พัฒนานวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม โดยนำส่วนที่ทิ้งเป็นขยะ มาทดลองเพิ่มมูลค่าพัฒนาเป็น ผลิตภัณฑ์ สร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้กับชุมชน โดย 1. นำเปลือกและฟองน้ำท่ีเหลือจากการตี เส้นใยทอผ้าของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าบ้านหนองเครือบุญ มาต้มเยื่อ และใส่ไฮโดรเจนเพออร์ ออกไซด์ พัฒนาเป็นกระดาษผักตบชวา โคมไฟ 2. นำใบผักตบชวาท่ีเหลือทิ้งล้างสะอาดขึ้นรูปเป็น ภาชนะใส่อาหารทดแทนพลาสติก 3. ต้นออ่ นผักตบชวาท่เี หลอื ท้งิ นำมาทำกันกระแทก

กิตติกรรมประกาศ โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง เปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์ จัดทำขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาศึกษากรรมวิธีในการนำเศษผักตบชวาเหลือใช้ จากการทำสิ่งทอของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอ ผ้าบ้านหนองเครือบุญ สร้างผลิตภัณฑ์แนวคิดใหม่ๆ ให้แก่ผู้ที่มีความสนใจด้านการออกบบ และ สนใจในงานพัฒนานวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม โดยได้รับการสนับสนุนจาก นางเรณู สุมรรคา ภมู ปิ ญั ญาท้องถิ่นตำบลหนองน้ำใส ไดร้ ับการสนับสนุนจากผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอภาชี นางสาว มุกดา แข็งแรง และได้รับคำปรกึ ษาในการจัดทำโครงงาน คณะผู้จัดทำ ขอขอบพระคุณทุกท่านดังที่ได้กล่าวถึงมาข้างหน้าและที่ไม่ได้กล่าวถึงไว้ ณ ท่ีน้ีเป็นอยา่ งสูง คณะผู้จดั ทำ

สารบัญ บทคดั ยอ่ กิตตกิ รรมประกาศ บทท่ี 1 บทนำ................................................................................ 1 บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ยั ทเี่ ก่ยี วข้อง......................................... 3 บทที่ 3 วิธีดำเนินการโครงงาน....................................................... 5 บทท่ี 4 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล....................................................... 11 บทท่ี 5 สรปุ ผลและอภิปรายผล..................................................... 12 บรรณานกุ รม.................................................................................. 14

บทที่ 1 บทนำ ท่มี าและความสำคัญของโครงงาน ตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 (พ.ศ. 2551) ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนและการศึกษาตามอัธยาศัยปฏิบัติหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนสนับสนุน ประสานงานและจัดหาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับชุมชน กิจกรรมการศึกษาส่วน ใหญ่ดำเนินการในศูนย์การเรียนรู้ชุมชนซึ่งเป็นหน่วยการจัดและส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้และกระบวนการ สำหรับชุมชน ภารกิจของเรา ไม่เพียงแต่ให้การศึกษา แต่ยังต้องส่งเสริมและเสริมสร้างศักยภาพของชุมชน เพอื่ ใหเ้ กดิ การพ่ึงพาตนเองและสงั คมแหง่ การเรียนรู้ ในปี 2559 ประเทศไทยประสบปัญหาผักตบชวาแพร่ระบาดอย่างรุนแรง ในแถบที่ราบลุ่มภาค กลาง ส่งผลต่อการระบายนำ้ ที่ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ จึงเป็นที่มาของรัฐบาลในการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ เรื่อง กำจัดผักตบชวา แม้รัฐบาลจะระดมงบประมาณในการแก้ปัญหาแต่ยังไม่สามารถกำจัดผักตบชวาได้หมด แนวคิดการใช้แนวทางประชารฐั รว่ มมือระหว่างชาวบ้านริมคลองและเจา้ หน้าที่ของรัฐ จึงถกู นำมาใช้เพื่อให้เกิด ความรู้ ความเข้าใจในการรว่ มมือเก็บผักตบชวาให้หมดไปจากแม่น้ำ ลำคลอง โดยรณรงคใ์ ห้ชาวบ้านริมคลองมี ส่วนร่วมในการขุดลอกและใช้ประโยชน์จากผักตบชวา โดยที่ทุกส่วนของผักตบชวาสารถนำมาสรา้ งอาชีพด้วย การผ่านการจัดการความรู้และถา่ ยทอดเทคโนโลยีการเพ่ิมมูลค่าละการนำผักตบชวามาใชป้ ระโยชน์ อย่างครบ วงจร ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอภาชี เพื่อการสร้างอาชีพจากผักตบชวา ได้แก่ ผ้าทอมือผักตบชวา จานผักตบชวา กระดาษผักตบชวา อาหารแปรรูปจากผักตบชวา ปุ๋ยอินทรีย์ และ เคร่อื งจกั สานต่างๆ คณะผจู้ ดั ทำมุ่งหวังทจ่ี ะขยายความรนู้ ีส้ ู่ประชาชนผสู้ นใจในการใชป้ ระโยชนผ์ กั ตบชวา เพ่ือ ก่อให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิม่ และการเพิม่ ชอ่ งทางการสร้างรายได้ให้กับประชาชนไทย รวมทั้งยังเป็นการกำจดั ผกั ตบชวาในแนวทางประชารัฐอีกทางหนึ่งด้วย เกษตรกรในพื้นที่อำเภอภาชีได้รับผลกระทบจากผักตบชวา ขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตร กลุ่มวิสาหกจิ ชุมชนทอผา้ บ้านหนองเครือบุญ เล็งเห็นปัญหาจึงคิดค้นนำผกั ตบชวามาทอผ้า แต่ในการทอผ้าใช้ เพียงลำต้น สว่ นอนื่ ๆของผักตบชวา เช่น เปลือกและฟองนำ้ ทีถ่ ูกรดี ออกมาจากลำตน้ ใบ และต้นอ่อนท่ไี ม่มีเส้น ใย ต่างๆเหล่าน้ี นักศึกษาจึงไดค้ ิดคน้ จดั ทำโครงงานน้ขี นึ้ มา

วัตถปุ ระสงค์ของการศกึ ษา 1. เพอื่ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจ ความรู้ ในวิธีการพัฒนานวัตกรรมดา้ นสิง่ แวดล้อมผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา 2. เพอ่ื สามารถสร้างสรรคผ์ ลงานจากเศษผักตบชวาเหลือใช้ จากชมุ ชนได้ 3. เพ่ือใหค๎ วามรูแ้ ก่ผู้ท่สี นใจในการออกแบบผลิตภณั ฑจ์ ากผักตบชวาไดเ้ หน็ ในรูปแบบ หลากหลายมากขึน้ ขอบเขตของการศึกษา 1. ขอบเขตของเน้อื หา การศกึ ษาเกี่ยวกับกลุ่มวิสาหกิจชมุ ชนทอผา้ ผักตบชวา 2. ประชากรตวั อยา่ ง ประชาชนตำบลหนองน้ำใส ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ บั 1. ไดเ้ กิดความรูค้ วามเข้าใจในวธิ ีการสรา้ งสรรคผ์ ลติ ภณั ฑจ์ ากผักตบชวาเหลอื ใช้ได้ 2. สามารถสร้างสรรค์ผลงานผลติ ภณั ฑ์โดยใช้ผกั ตบชวาทเ่ี หลือใช้ได้ 3. ผ้ทู มี่ ีความสนใจในการออกแบบผลติ ภัณฑจ์ ากผักตบชวาจะไดเ้ ห็นถึงรูปแบบที่ชดั เจน หลากหลายยิง่ ขึ้น

บทที่2 เอกสารและงานวจิ ัยท่ีเก่ียวขอ้ ง ในการศึกษาเอกสารงานวจิ ัยทีเ่ ก่ียวข้องกบั ผลิตภัณฑ์จากผักตบชวาผูว้ จิ ยั ได้ศึกษาค้นคว้า เอกสารงานวิจัยท่ีเกยี่ วข้องกับการสรา้ งชน้ิ งานจากผักตบชวาโดยลำดบั เนอ้ื หาที่เปน็ สาระสำคญั ดังต่อไปนี้ 1. สภาพท่วั ไปของปญั หาท่ีเกิดจากผกั ตบชวาที่แพรพ่ นั ธเุ์ รว็ 2. ความหมายของการสร้างผลิตภณั ฑจ์ ากผกั ตบชวาเหลือใช้ 3. แนวคดิ /ทฤษฎใี นเร่อื งสรา้ งผลิตภัณฑจ์ ากผักตบชวาเหลอื ใช้ 4. ความสำคญั ของการสร้างผลิตภัณฑ์จากผกั ตบชวาเหลือใช้ 5. องค์ประกอบของการสรา้ งผลติ ภัณฑจ์ ากผักตบชวาเหลือใช้ 6. งานวิจัยท่ีเกีย่ วข้อง 6.1 งานวจิ ัยในระดบั ท้องถ่ิน 6.2 งานวิจัยระดบั ประเทศ สภาพทว่ั ไปของปัญหาท่เี กิดจากผักตบชวา ในปี 2559 ประเทศไทยประสบปัญหาผักตบชวาแพร่ระบาดอย่างรุนแรง ในแถบที่ราบลุ่มภาคกลาง ส่งผลต่อ การระบายน้ำที่ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ จึงเป็นที่มาของรัฐบาลในการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ เรื่อง กำจัด ผกั ตบชวา แมร้ ฐั บาลจะระดมงบประมาณในการแก้ปัญหาแต่ยงั ไม่สามารถกำจดั ผักตบชวาได้หมด แนวคิดการ ใช้แนวทางประชารัฐร่วมมือระหว่างชาวบ้านริมคลองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงถูกนำมาใช้เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในการร่วมมอื เก็บผักตบชวาใหห้ มดไปจากแมน่ ำ้ ลำคลอง โดยรณรงคใ์ หช้ าวบ้านริมคลองมีสว่ นร่วม ในการขุดลอกและใช้ประโยชน์จากผักตบชวา โดยที่ทุกส่วนของผักตบชวาสารถนำมาสร้างอาชีพด้วยการผ่าน การจัดการความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มมูลค่าละการนำผักตบชวามาใช้ประโยชน์ อย่างครบวงจร ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอภาชี เพื่อการสร้างอาชีพจากผักตบชวา ได้แก่ ผา้ ทอมือผักตบชวา จานผกั ตบชวา กระดาษผักตบชวา อาหารแปรรปู จากผักตบชวา ป๋ยุ อนิ ทรยี ์ และเครื่องจัก สานตา่ งๆ คณะผู้จัดทำม่งุ หวังท่ีจะขยายความร้นู ีส้ ูป่ ระชาชนผู้สนใจในการใชป้ ระโยชนผ์ กั ตบชวา เพ่อื กอ่ ให้เกิด การสร้างมลู ค่าเพม่ิ และการเพ่ิมช่องทางการสรา้ งรายได้ให้กับประชาชนไทย รวมทงั้ ยังเปน็ การกำจัดผักตบชวา ในแนวทางประชารฐั อกี ทางหนง่ึ ดว้ ย เกษตรกรในพื้นที่อำเภอภาชีได้รับผลกระทบจากผักตบชวา ขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตร กลุ่มวิสาหกจิ ชุมชนทอผา้ บ้านหนองเครอื บุญ เล็งเห็นปัญหาจงึ คิดคน้ นำผกั ตบชวามาทอผ้า แต่ในการทอผ้าใช้ เพยี งลำตน้ สว่ นอ่นื ๆของผักตบชวา เชน่ เปลือกและฟองนำ้ ท่ถี ูกรดี ออกมาจากลำต้น ใบ และต้นอ่อนที่ไม่มีเส้น ใย ตา่ งๆเหล่าน้ี นกั ศึกษาจึงไดค้ ดิ ค้นจัดทำโครงงานนขี้ ้นึ มา

ความหมายหมายของสร้างผลิตภณั ฑจ์ ากผักตบชวาเหลือใช้ การจัดการความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มมูลค่าละการนำผักตบชวามาใช้ประโยชน์ อย่างครบวงจร ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอภาชี เพื่อการ สร้างอาชีพจากผักตบชวา ได้แก่ ผ้าทอมือผักตบชวา จานผักตบชวา กระดาษผักตบชวา อาหารแปรรูปจาก ผักตบชวา ปุ๋ยอินทรีย์ และเครื่องจักสานต่างๆ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาให้ บุคคลได้รับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างทั่วถึงและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ จึงเป็นภารกิจหนึ่งอยู่ในหลักสูตรการจัดการศึกษาต่อเนื่อง ท่ี สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในการ ประกอบอาชีพ หรือเพิ่มพูนรายได้ให้กับตนเองดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุข สอดคล้องตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง พงึ ตนเองไดจ้ ึงได้มีโครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน ขนึ้ มา แนวคิด/ทฤษฎแี ละงานวจิ ัยทีเ่ ก่ียวขอ้ ง การศกึ ษาเร่ืองรปู แบบการจัดการความรู้ภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ ด้านการทอผา้ กรณีศึกษาวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าบ้านหนองเครือบุญ ผู้ศึกษาได้ทำการศึกษาทางเอกสารที่เกี่ยวข้องโดย แบ่งออกเป็นส่วนที่สำคัญ ได้แก่ส่วนท่ี 1 แนวคิดภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่วนที่ 2 แนวคิดภูมิปัญญา ท้องถิ่นด้าน การทอผ้า ส่วนที่ 3 แนวคิดเกี่ยวกับกลุ่ม ส่วนที่ 4 แนวคิดเกี่ยวกับวิสาหกิจ ชุมชน ส่วนท่ี 5 แนวคิดเกี่ยวกับความรู้ ส่วนท่ี 6 แนวคิดการจัดการความรู้ ส่วนที่ 7 แนวคิดรูปแบบ การจัดการความรู้ ส่วนท่ี 8 แนวคิดการพ่ึงตนเองและ สว่ นท่ี 9 บริบทของจงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา

บทท่ี 3 วิธดี ำเนินการโครงงาน วธิ กี ารดำเนนิ การศกึ ษาเรอ่ื ง เปล่ียนขยะเปน็ ประโยชน์ ผู้วจิ ัยได้ดำเนินการวิจัยโดยมีอปุ กรณแ์ ละ วธิ กี ารศึกษา ตามขั้นตอนสำคัญดงั นี้ การผลติ กระดาษจากผักตบชวา ขนั้ ตอนการผลติ กระดาษจากผักตบชวา 1. การเตรียมวตั ถดุ บิ วัตถุดิบที่จะนำมาใช้สามารถใช้ได้ทั้งแบบสด และแบบแห้ง แต่ถ้าเป็นวัตถุดิบที่แห้งสามารถ คำนวณหาปริมาณสารที่จะต้มได้ดีกว้าแบบสด และจะต้มได้ง่ายกว่าเพราะขั้นตอนของการต้มไม่ สามารถจะทำลายสีเขียวของพืชได้ ดังนั้นการทำลายสีเขียวโดยการตากแดดให้แห้งจะทำได้ง่ายกวา่ และช่วยล้างเอาสิ่งสกปรกออกไปจากวัตถุดิบ จะช่วยทำให้เยื่อที่ได้สะอาด ผักตบชวาที่จะนำมาต้ม ใช้ได้ทั้งก้านที่มีใบติดและไม่มีใบติด ปัญหาของผักตบชวาอยู่ที่เป็นพืชลอยน้ำมีน้ำหนักเบา เวลาแช่ น้ำหรือต้มจะลอย ซึ่งทำให้ทำงานได้ยาก จำเป็นต้องหาวัตถุที่มีน้ำหนัก กดทับเอาไว้ ถ้ามีปริมาณ น้อยก็ทำได้ง่าย แตถ่ า้ มปี ริมาณมากๆ จะทำไดย้ าก การกดทับไม่สามารถทำได้ ถา้ ต้องการลดปัญหา ดังกล่าว ควรจะใช้เครือ่ งตีเสน้ ใย บดแยกฟองน้ำและเปลือกต้นผักตบชวาออกก่อน เพื่อบีบให้ลำต้น แตกละเอยี ด ละลดปัญหาการลอยของตน้ ผกั ตบชวาได้

2. การตีเยอ่ื การตเี ยื่อเพื่อต้องการแยกเส้นใยให้หลุดออกจากกัน เปน็ เสน้ ใยเดียว โดยไม่ตอ้ งการตัดเส้นใยให้ ขาดออกจากกัน ถา้ เย่ือทผ่ี ่านการต้มมาดี การตีจะใชเ้ วลาน้อย การตีเยอ่ื ขน้ึ อยกู่ ับจำนวนเย่ือท่ีใส่แต่ ละครั้ง แล้เวลาท่ีใช้ตีเยื่อ ถ้าต้องการเยื่อหยาบควรใช้เวลาตี 5-10 นาที หลังตีเยื่อ ล้างเยื่อด้วยการ ปล่อยนำ้ ทิง้ ผ่านเยื่อ เพอ่ื ล้างสารเคมที อี่ าจปนอยู่ให้สะอาดอีกครง้ั 3. การทำแผ่นกระดาษ การทำแผ่นกระดาษดว้ ยมือแบบไทยเปน็ การทำแผ่นโดยการปล่อยให้เย่ือทับถมกันบนตะแกรงที่ ใช้ทำแผ่นโดยการช้อนหรือแตะก็ได้ เริ่มจากการปั้นก้อนเย่ือ 1 กิโลกรัม กระจายเยื่อลงน้ำสะอาด ตักเยื่อด้วยเหยือก และโรยเยื่อบนตะแกรงที่ร่อนในน้ำ จนเต็มตะแกรงสม่ำเสมอ ยกขึ้นให้ขนานผิว โลก ไม่เอียงด้านใด ด้านหนึ่ง นำไปผึ่งลมวางเอียง 45 องศา ระวังอย่าให้กระดาษถูกแสงแดดมาก เกนิ ไป เพราะกระดาษผกั ตบชวาจะหดตัวเรว็ ทำใหก้ ระดาษเกดิ ความเสยี หายได้

ขนั้ ท่ี 1 เตรียมผักตบชวาแหง้ 10 กโิ ลกรมั มีค่าใช้จา่ ยดงั น้ี - คา่ ผักตบชวาแหง้ 10 กิโลกรมั ราคา กโิ ลกรมั ละ 60 บาท ขน้ั ที่ 2 ตม้ เสน้ ใยผักตบชวาแห้ง 10 กโิ ลกรัม ด้วยไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ อณุ หภูมิ 100 องศา เซลเซยี ส เป็นเวลา 5 ชว่ั โมง ไดเ้ ย่ือ 2,500 กรัม มคี า่ ใชจ้ า่ ยดังนี้ - คา่ แกส๊ 2 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 22.66 บาท คิดเปน็ เงิน 45.32 บาท - ค่าน้ำลา้ ง 100 ลิตร ลติ รละ 0.074 บาท คิดเปน็ เงนิ 7.40 บาท ขัน้ ที่ 3 ตเี ย่ือจำนวน 8,300 กรัม ด้วยเครื่องป่ันเอนกประสงค์ มีค่าใชจ้ ่ายดังนี้ - คา่ น้ำลา้ ง 100 ลิตร ลติ รละ 0.074 บาท คิดเป็นเงิน 7.40 บาท - คา่ ไฟฟา้ 50 หนว่ ย หน่วยละ 3.717 บาท คดิ เปน็ เงิน 3.80 บาท รวมตน้ ทนุ การผลิตเย่อื ท้ังสิ้น 663.92 บาท เยือ่ 2,500 กรมั ทำแผน่ กระดาษขนาด 54X80 เซนติเมตร น้ำหนักแผน่ ละ 50 กรมั ได้ กระดาษ 50 แผ่น มีตน้ ทุนรวมท้งั สน้ิ 663.92 บาท ต้นทุนนยี้ งั ไมร่ วมค่าแรง ดังนัน้ ถา้ คิดค่าแรงงานที่ 32% ของตน้ ทนุ การผลติ เยื่อกระดาษผกั ตบชวา จะมคี ่าแรงเพิม่ ขึ้นอกี 212.45 บาท สรปุ ตน้ ทนุ การผลติ กระดาษผักตบชวา จำนวน 10 กิโลกรัม ไดเ้ ยื่อ 2,500 กรัม ทำ แผน่ กระดาษขนาด 54X80 เซนติเมตร นำ้ หนักแผน่ ละ 50 กรมั ไดก้ ระดาษ 50 แผน่ มีตน้ ทนุ รวม 876.37 บาท คิดเป็นต้นทนุ กระดาษ แผ่นละ17.52 บาท คำนวณราคาประมาณ แผน่ ละ 18 บาท ต้งั ราคาจำหน่ายใน ราคาประเมินของกระดาษผกั ตบชวา อยู่ที่ แผ่นละ 36 – 55 บาท

การผลิตจานผักตบชวา ขนั้ ตอนการผลิตจานจากผกั ตบชวา 1. การขึน้ รูปจานผักตบชวา วัตถุดิบที่จะนำมาใช้สามารถใช้ได้ทั้งแบบสด และแบบแห้ง แบบสด หมายถึง ใบผักตบชวาสด และแบบแหง้ หมายถงึ กระดาษผักตบชวา เราสามารถผลิตจานจากผักตบชวาไดท้ ้ัง 2 แบบ แบบที่ 1 องค์ประกอบของการผลิตจานผักตบชวาแบบสด มีดังนี้ 1. ใบผักตบชวาสด 2 ใบ 2. กระดาษ ผักตบชวา 1 แผ่น 3. กาวแป้งมันสำปะหลัง 250 กรัม นำใบผักตบชวาสดทากาวแป้งมันสำปะหลัง ที่ด้านหลังของใบผักตบชวา ผึ่งลมพอกาวหมาด นำมาประกบโดยมีกระดาษผักตบชวาอยู่ตรงกลาง เพื่อเสริมเป็นโครงสร้างความแข็งแรงให้กับจานผักตบชวา นำเข้าเครื่องขึ้นรูปจานด้วยเครื่องที่ ประดิษฐ์คิดค้นจากภูมิปัญญาของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอภาชี เป็นเวลา 50 วนิ าที (คร้ังที่ 1) ด้วยอุณหภมู ิ 150 องศาเซลเซียส ปล่อยไฮโดรลคิ ครง้ั ท่ี 1 แล้วขนึ้ รูป ด้วยอุณหภมู ิ 150 องศาเซลเซียส อกี ครั้ง เป็นเวลา 50 วนิ าที (ครงั้ ท่ี 2) จะได้จานผกั ตบชวาแบบใบ สด สีสันสวยงาม แบบที่ 2 องค์ประกอบของการผลิตจานผักตบชวาแบบแห้ง มีดังนี้ 1. กระดาษ ผกั ตบชวา นำเขา้ เครื่องขึ้นรูปจานด้วยเครื่องที่ประดิษฐค์ ิดค้นจากภูมิปญั ญาของศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอภาชี เป็นเวลา 50 วินาที ด้วยอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ปลอ่ ยไฮโดรลิค จะได้จานผกั ตบชวาแบบแห้ง (นาถลดา เข็มทอง, 2559) 2. กระบวนการข้นึ รปู จานผักตบชวา ภาพตัวอย่างท่ี 1 จานผักตบชวาสด – แห้ง

ภาพตวั อย่างที่ 2 จานผักตบชวาสด – แหง้ ภาพตัวอยา่ งที่ 3 จานจากใบผักตบชวาแห้ง ภาพตัวอยา่ งที่ 4 จานจากใบผกั ตบชวาสด

การผลติ กนั กระแทกผกั ตบชวา ข้ันตอนการผลิตกันกระแทกผักตบชวา การผลติ กนั กระแทกจากตน้ ผักตบชวา วัตถุดิบที่จะนำมาใช้คือต้นผักตบชวาที่เล็ก สั้น ไม่สามารถนำไปตีเส้นใยทอผ้าได้ นำไปหั่นเป็น ท่อนขนาด 1 เซนติเมตร ตากแดดเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน หมั่นพลิกและกระจายเม็ดกันกระแทก ไม่ให้ทับกันเพราะจะเกิดความชื้นสะสมกลายเป็นเชื้อราได้ เมื่อแห้งสนิทแล้ว เก็บเข้าถุงซิบ ล็อค สญู ญากาส ส่งจำหนา่ ยประเทศญี่ปนุ่ ราคากิโลกรัมละ 100 บาท(นาถลดา เขม็ ทอง, 2559) กันกระแทกจากตน้ ผักตบชวา แพค็ สูญญากาศ ส่งจำหน่ายประเทศญปี่ นุ่

บทท่ี 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การนำเสนอผลการวเิ คราะหข์ ๎อมูลการศึกษาเรอ่ื ง เปลีย่ นขยะเป็นประโยชน์ ผูว้ ิจัยได้ นำเสนอผลการวิเคราะห์ข๎อมูลและการการแปรผลที่ได้จากการวเิ คราะห์ตามลำดับดังนี้ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบดงั ต่อไปน้ี 1. วเิ คราะห์จากการคำนวณการนำส่งิ ที่ไรค้ ่ามาสรา้ งมลู คา่ เพ่ิม สร้างรายไดใ้ ห้ชมุ ชน 2. หลงั จากการพัฒนาผลติ ภัณฑ์ทเ่ี กิดจากการนำเศษผักตบชวาเหลือใช้มาสร้าง ผลติ ภัณฑ์ใหมๆ่ จำนวนขยะจากผักตบชวาลดจำนวนลง 3. หลังจากท่ีได้นำผลิตภณั ฑ์มาวางจำหนา่ ย ผา่ นเพจ กศน.ตำบลหนองน้ำใส ผลตอบรับจากคนในชุมชนในเร่อื งการสรา้ งรายไดเ้ พม่ิ มากข้ึน และจาก ประชาชนท่ัวประเทศท่ีกล่าวถึงในด้านความแปลกใหม่ และความคิดสรา้ งสรรค์

บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ การศกึ ษาคร้ังนี้ มีวัตถุประสงคเ์ พ่อื ศกึ ษากรรมวิธีในการเปลยี่ นขยะเปน็ ประโยชน์ และถา่ ยทอดแก่ประชากร/กลุ่ม ตัวอยา่ ง เป็นกลุม่ ของประชาชนตำบลหนองน้ำใส และกลุ่มบุคคลผู้มีความสนใจ ในการสร้างสรรคผ์ ลิตภัณฑ์จากผกั ตบชวาเหลือใช้ วิเคราะหข์ อ๎ มูลโดยการนำผลติ ภัณฑ์ที่คิดค้นให้แก่ กล่มุ ตวั อยา่ งไดเ้ ห็นและสรุปผลการวิจยั การอภิปราย และข้อเสนอแนะดังนี้ สรปุ ผลการศกึ ษา ผลการวิจัยสรุปไดด๎ งั น้ี 1. ได้เกิดความรูค้ วามเขา้ ใจในวธิ กี ารสร้างสรรค์ผลติ ภัณฑจ์ ากผกั ตบชวาเหลือใช้ได้ 2. สามารถสรา้ งสรรค์ผลงานผลติ ภัณฑ์โดยใชผ้ กั ตบชวาทเ่ี หลือใช้ได้ 3. ผทู้ มี่ ีความสนใจในการออกแบบผลติ ภณั ฑ์จากผักตบชวาจะได้เห็นถึงรูปแบบที่ชดั เจน หลากหลายยิ่งขึ้น อภิปรายผล ชุมชนเกดิ ความเข้าใจ ความรู้ ในวธิ กี ารพัฒนานวัตกรรมดา้ นสง่ิ แวดล้อม ผลิตภัณฑจ์ ากผกั ตบชวา สามารถสรา้ งสรรค์ผลงานจากเศษผักตบชวาเหลือใช้ จากชมุ ชนได้

ขอ้ เสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะสำหรบั การนำไปใช้ 1. การศึกษาคร้ังนี้ มวี ตั ถุประสงคเ์ พ่ือศกึ ษากรรมวธิ ีในการเปล่ียนขยะเป็นประโยชน์ และถ่ายทอดแกป่ ระชากร/กลมุ่ ตัวอย่าง เปน็ กลุม่ ของประชาชนตำบลหนองน้ำใส และกลุม่ บุคคลผู้มีความสนใจในการสรา้ งสรรค์ผลติ ภณั ฑ์จากผกั ตบชวาเหลอื ใช้ 2. ทางคณะผูจ้ ดั ทำจะผลิตภัณฑ์ท่อี อกแบบเองนน้ั มาใชใ๎ นชีวติ จรงิ แล้วจะนำผลตอบรบั จากการวิจารณ์จากคนรอบขา้ งมาปรับใชแ้ ละปรับปรุง

บรรณานกุ รม กรมพัฒนาทด่ี ิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ.์ 2560. ค่มู ือการทำปยุ๋ หมักจาก ผักตบชวาท่ขี ุดลอกจากแหล่งนำ้ , กองเทคโนโลยชี วี ภาพทางดนิ . กมุ ภาพันธ์ 2560, 7 หน้า. กลุ่มงานบูรณะและบำรุงรกั ษา สำนกั สนับสนุนและพัฒนาตามผงั เมือง กรมโยธาธิการ และผงั เมอื ง. 2553. การกำจดั ผกั ตบชวาโดยใช้เครอื่ งจักรกลเรอื กำจดั ผักตบชวา. กลุม่ งานวิจยั สำนกั วจิ ยั พฒั นาและอทุ กวทิ ยา. 2555. การบริหารจดั การผกั ตบชวาใน ระบบลมุ่ นำ้ . แหลง่ ที่มา http://www.dwr.go.th/contents/files/article/article_th-27012012- 162516-58177.pdf. 6 กุมภาพนั ธ์ 2558 คู่มอื องคค์ วามรู้ การเพิม่ มลู ค่าและการใช้ประโยชน์เส้นใยผักตบชวาอยา่ งครบวงจรเพ่ือ การใชป้ ระโยชนท์ างด้านบรรจภุ ณั ฑ์ และการผลิตปุย๋ อินทรีย์. 2561. สถาบนั ค้นควา้ และพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอตุ สาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. กรงุ เทพมหานคร, สิงหาคม 2561, 14 หนา้ . วุฒนิ ันท์ คงทดั 2551. ความรูเ้ รอื่ งเย่ือและกระดาษพ้นื บ้าน. สถาบนั ค้นคว้าและ สถาบนั ผลติ ผลทางการเกษตรและอตุ สาหกรรมเกษตร. มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร.์ กรุงเทพมหานคร, 87 หนา้ .


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook