สานกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและ สานักปลัดกระทรวงศึกษาธ
หลกั สตู รการศกึ ษาต่อเน่อื ง กจิ กรรมส่งเสรมิ อาชพี กลุ่มสนใจ กศน.ตาบลหนองนาใส การจดั การความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยกี ารเพิ่มมูลค่าละการนาผักตบชวามาใช้ประโยชน์ อย่างครบวงจร ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอภาชี เพอ่ื การ สรา้ งอาชพี จากผักตบชวา ได้แก่ ผา้ ทอมือผักตบชวา จานผักตบชวา กระดาษผักตบชวา อาหารแปรรูปจากผักตบชวา ปยุ๋ อนิ ทรยี ์ และเคร่อื งจักสานต่างๆ ดังนั้นเพ่ือประโยชน์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาให้บุคคลได้รับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัยอย่างทัว่ ถึงและทนั ต่อการเปลย่ี นแปลงของสังคม การจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะอาชีพ จึงเป็นภารกิจหน่ึง อยู่ในหลักสูตรการจัดการศึกษาต่อเน่ือง ท่ีสอดคล้องกับสภาพและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย มุ่งเน้นให้ผู้เรียน สามารถนาความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพ หรือเพ่ิมพูนรายได้ให้กับตนเองดารงชีวิตอยู่อย่างมีความสุข สอดคล้อง ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง พงึ ตนเองไดจ้ ึงไดม้ โี ครงการศนู ยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน ขึ้นมา พมิ พ์ครังที่ 1 สงิ หาคม 2561 ISBN 987-166-356-705-9 จัดทาโดย ศูนยฝ์ กึ มีชีวิต กศน.อาเภอภาชี สานักงาน กศน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สานักงาน กศน. สานักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธกิ าร คณะผู้จัดทา นางสาวมุกดา แขง็ แรง นางดาธณิ ี ตามเพิ่ม นางเรณู สุมรรคา นางนาถลดา เข็มทอง สถานที่ติดตอ่ ศูนยฝ์ ึกมชี วี ิต กศน.อาเภอภาชี หมู่ 6 ตาบลหนองนา้ ใส อาเภอภาชี จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอภาชี หมู่ 6 ตาบลภาชี อาเภอภาชี จังหวัด พระนครศรีอยธุ ยา 13140 โทรศพั ท์ 0970168241 ,0882187448 ,0843365427
บทนา ผกั ตบชวาถูกนาเข้ามาในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2444 ในสมัยรัชกาลท่ี 5 โดยนาเขา้ มาจาก เกาะชวาในฐานะเป็นไม้ประดับสวยงาม โดยขณะเสด็จประพาสหมู่เกาะอินเดียตะวันออก พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ เม่ือปี พ.ศ. 2439 สมเด็จ พระนางเจ้าฯ ได้ทอดพระเนตรเห็นนางกานัล ตลอดจนเจ้านายฝ่ายในของสุลต่านเกาะชวา ได้ใช้ดอกของพืชชนิดนี้ทัดหู มีความสวยงามของสีม่วงอมฟ้าพร้อมกับมีดอกท่ีใหญ่ จึงได้มี รับสั่งให้เก็บผักตบชวาจานวน 3 เข่ง เพื่อนามาปลูกไว้ในประเทศไทย พร้อมกับนาน้าจาก พนื้ ถ่นิ กลับมาด้วยจานวน 10 ปี๊บ เพื่อไม่ให้ผักตบชวาผิดน้า โดยขณะน้ันผักตบชวาก็เพ่ิงถูก นาเข้าไปในเกาะชวาจากเนเธอรแ์ ลนด์เจ้าอาณานิคม โดยแรกเร่ิมใส่อ่างดินเล้ียงไว้หน้าสนาม วงั สระปทมุ ผกั ตบชวาก็เจรญิ เติบโตงอกงามอย่างมากมาย ถึงแม้จะเปลี่ยนน้าแล้วก็เติบโตได้ ดจี นออกดอกเพียงระยะเวลาแค่ 1 เดอื น และไดท้ รงพระราชทานหน่อให้เจ้านายพระองค์อื่น และบรรดาข้าราชบริพารนาไปปลูกด้วย เพียงแค่ 6 เดือน ผักตบชวาก็แพร่กระจายพันธ์ุจน เตม็ วงั สระปทุม ต้องนาไปปล่อยทิ้งไว้ที่คลองสามเสนหลังวัง พร้อมกับคลองอ่ืน ๆ เช่น คลอง เปรมประชากร, คลองผดุงกรุงเกษม ในระยะแรกประชาชนชาวไทยก็ได้ใช้ดอกของผักตบชวา มาทัดหูเพ่ือความสวยงามบ้าง แต่หลังจากน้ันไม่นานก็เสื่อมความนิยมลง เหตุเพราะการ แพร่กระจายพันธอ์ุ ย่างรวดเร็วนั่นเอง ผักตบชวาเป็นพืชที่ขยายพันธ์ุได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะช่วงฤดูฝนจึงมีปริมาณมาก ในช่วงน้ัน สารเคมีที่เราใช้กันอยู่ในชีวิตประจาวัน เช่น ผงซักฟอก ปุ๋ย เป็นธาตุอาหารของ พืชน้าโดยเฉพาะผักตบชวาเป็นอย่างดี แพผักตบชวาจะกีดขวางการเดินทางของน้า อัตราการไหลของน้าจึงลดลง กีดขวางการระบายน้าของประตูน้า อีกทั้งยังทาให้ระบบนิเวศ เสียหาย แม้ผักตบชวาจะสามารถดูดซึมธาตุอาหารที่เป็นตัวการทาให้น้าเสีย แต่เมื่อมีปริมาณ มากเกินไปจะส่งผลกระทบกับส่ิงมีชีวิตใต้น้า กล่าวคือ สัตว์ใต้น้าจะขาดออกซิเจนและตายลง รวมถึงการบดบังแสงแดดท่ีเป็นส่วนหน่ึงของการสังเคราะห์แสงของพืชใต้น้าจะทาให้พืช เหลา่ นน้ั เนา่ และตายไป ดงั นัน้ จึงเกดิ น้าเนา่ เสียอย่างงา่ ยดาย
คานา ตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 (พ.ศ. 2551) ศนู ยก์ ารศึกษานอกโรงเรียนและการศึกษาตามอัธยาศัยปฏิบัติ หน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนสนับสนุนประสานงานและจัดหาการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยให้กับชุมชน กิจกรรมการศึกษาส่วนใหญ่ดาเนินการในศูนย์การ เรียนรู้ชุมชนซ่ึงเป็นหน่วยการจัดและส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้และกระบวนการสาหรับ ชุมชน ภารกิจของเรา ไม่เพียงแต่ให้การศึกษา แต่ยังต้องส่งเสริมและเสริมสร้าง ศักยภาพของชุมชนเพอ่ื ใหเ้ กดิ การพึ่งพาตนเองและสงั คมแห่งการเรยี นรู้ ในปี 2559 ประเทศไทยประสบปัญหาผักตบชวาแพร่ระบาดอย่างรุนแรง ในแถบท่ี ราบลุ่มภาคกลาง ส่งผลต่อการระบายน้าที่ไม่สามารถทาได้อย่างเต็มที่ จึงเป็นที่มาของ รฐั บาลในการจัดทายุทธศาสตร์ชาติ เร่ือง กาจัดผักตบชวา แม้รัฐบาลจะระดมงบประมาณ ในการแก้ปัญหาแต่ยังไม่สามารถกาจัดผักตบชวาได้หมด แนวคิดการใช้แนวทางประชารัฐ ร่วมมือระหว่างชาวบ้านริมคลองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงถูกนามาใช้เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในการร่วมมือเก็บผักตบชวาให้หมดไปจากแม่น้า ลาคลอง โดยรณรงค์ให้ ชาวบ้านริมคลองมีส่วนร่วมในการขุดลอกและใช้ประโยชน์จากผักตบชวา โดยท่ีทุกส่วน ข อ ง ผั ก ต บ ช ว า ส า ร ถ น า ม า ส ร้ า ง อ า ชี พ ด้ ว ย ก า ร ผ่ า น ก า ร จั ด ก า ร ค ว า ม รู้ แ ล ะ ถ่ า ย ท อ ด เทคโนโลยีการเพิ่มมูลค่าละการนาผักตบชวามาใช้ประโยชน์ อย่างครบวงจร ของศูนย์ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอภาชี เพื่อการสร้างอาชีพจาก ผักตบชวา ได้แก่ ผ้าทอมือผักตบชวา จานผักตบชวา กระดาษผักตบชวา อาหารแปรรูป จากผักตบชวา ปุ๋ยอินทรีย์ และเครื่องจักสานต่างๆ คณะผู้จัดทามุ่งหวังท่ีจะขยายความรู้นี้ สปู่ ระชาชนผ้สู นใจในการใชป้ ระโยชน์ผักตบชวา เพื่อก่อให้เกิดการสร้างมูลค่าเพ่ิมและการ เพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้กับประชาชนไทย รวมทั้งยังเป็นการกาจัดผักตบชวาใน แนวทางประชารฐั อกี ทางหนงึ่ ด้วย ดาธิณี ตามเพิม่ ครู กศน.ตาบล
สารบัญ แ บทนา............................................................................................... 1 บทท่ี 1 การผลิตกระดาษจากผักตบชวา......................................... 2 บทท่ี 2 การผลิตจานผักตบชวา...................................................... 5 บทที่ 3 การผลิตเสน้ ใยทอผา้ ผักตบชวา.......................................... 9 บทท่ี 4 การแปรรปู อาหารจากผกั ตบชวา....................................... 11 บทท่ี 5 การบริหารจัดการและคดิ ตน้ ทนุ ราคา................................ 13 เอกสารอ้างองิ ................................................................................. 14
บทที่ 1 การผลิตกระดาษจากผักตบชวา ขันตอนการผลติ กระดาษจากผักตบชวา 1.การเตรียมวัตถดุ บิ วัตถุดิบท่ีจะนามาใช้สามารถใช้ได้ท้ังแบบสด และแบบแห้ง แต่ถ้าเป็นวัตถุดิบท่ีแห้ง สามารถคานวณหาปริมาณสารท่ีจะต้มได้ดีกว้าแบบสด และจะต้มได้ง่ายกว่าเพราะข้ันตอน ของการต้มไม่สามารถจะทาลายสีเขียวของพืชได้ ดังนั้นการทาลายสีเขียวโดยการตากแดดให้ แห้งจะทาได้ง่ายกว่า และช่วยล้างเอาสิ่งสกปรกออกไปจากวัตถุดิบ จะช่วยทาให้เยื่อที่ได้ สะอาด ผักตบชวาท่ีจะนามาตม้ ใช้ได้ทงั้ กา้ นทม่ี ใี บติดและไม่มีใบติด ปัญหาของผักตบชวาอยู่ท่ี เป็นพืชลอยน้ามีน้าหนักเบา เวลาแช่น้าหรือต้มจะลอย ซ่ึงทาให้ทางานได้ยาก จาเป็นต้องหา วัตถุที่มีน้าหนัก กดทับเอาไว้ ถ้ามีปริมาณน้อยก็ทาได้ง่าย แต่ถ้ามีปริมาณมากๆ จะทาได้ยาก การกดทับไม่สามารถทาได้ ถ้าต้องการลดปัญหาดังกล่าว ควรจะใช้เคร่ืองตีเส้นใย บดแยก ฟองน้าและเปลือกต้นผักตบชวาออกก่อน เพ่ือบีบให้ลาต้นแตกละเอียด ละลดปัญหาการลอย ของต้นผักตบชวาได้ (นาถลดา เข็มทอง, 2559)
๒. การต้มเยื่อ การต้มเย่ือก็เพื่อต้องการแยกเส้นใยออกจากองค์ประกอบอื่นๆ สามารถทาได้ ท้งั วธิ เี คมเี ชิงกล ตาถ้าจะให้ดีควรใช้ท้ัง 2 วิธีร่วมกัน คือวิธีเชิงกลโดยการบีบให้ลา ต้นแตก เพ่อื ง่ายต่อการต้ม จะช่วยลดปริมาณการใช้สารเคมีได้มากเนื่องจากในพืช แต่ละชนิดประกอบด้วย เซลลูโลส 40-45% ลิกนิน 20-30% พวกยางและสาร แทรกตา่ งๆ 5-10% สง่ิ ท่ตี อ้ งการคือ เซลลโู ลส หรอื เสน้ ใยน่ันเอง การต้มเพื่อใช้ใน งานหัตกรรมจะต้มโดยใช้ด่าง และการต้มเยื่อจะข้ึนอยู่กับ 3 ปัจจัย คือ ความ เข้มข้นของด่าง อุณหภูมิ และเวลาในการต้ม โดยทั่วไปจะต้มระบบเปิดอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซยี ส เวลาที่ใช้จะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสาร ถ้าใช้ความเข้มข้น น้อยจะต้องเพิ่มเวลาในการต้ม แต่ถ้าใช้ความเข้มข้นมากก็ลดเวลาการต้มลง การ พจิ ารณาว่าจะใชเ้ วลาเทา่ ไหร่ให้ดูทีล่ กั ษณะของเยื่อที่ต้ม ถ้าสามารถดึงออกจากกัน ไดโ้ ดยงา่ ยท้งั ด้านขวางและยาวของพชื ที่ตม้ แสดงวา่ การตม้ ใช้ไดแ้ ล้ว อัตราส่วน ผักตบชวาแห้ง 1 กิโลกรัม ใช้โซเดียมไฮดรอกไซด์ 120 กรัม ใช้เวลาต้ม 5 ชั่วโมง จะได้เยอื่ ละเอยี ด 23% หรอื 230 กรัม ใช้โซเดียมไฮดรอกไซด์ 240 กรัม ใช้เวลาต้ม 2.5 ชั่วโมง จะสามารถลดเวลาการต้มได้เท่าตัว เยื่อท่ีผ่านการต้มแล้ว ควรล้างเอาด่างและสารแทรกออกให้หมด โดยดูจากการจับดู จะไม่ลื่นมือ และน้า จะใส ไม่มีสี การล้างเยื่อที่ดีจะช่วยให้กระดาษผักตบชวามีความสะอาดและ สวยงาม
๓. การตีเยื่อ การตีเย่ือเพ่ือต้องการแยกเส้นใยให้หลุดออกจากกัน เป็นเส้นใยเดียว โดยไม่ต้องการ ตัดเสน้ ใยใหข้ าดออกจากกนั ถา้ เย่ือทผ่ี ่านการต้มมาดี การตีจะใช้เวลาน้อย การตีเย่ือขึ้นอยู่ กับจานวนเยื่อที่ใส่แต่ละคร้ัง แล้เวลาที่ใช้ตีเย่ือ ถ้าต้องการเยื่อหยาบควรใช้เวลาตี 5-10 นาที หลงั ตเี ยอ่ื ล้างเย่อื ด้วยการปล่อยนา้ ท้ิงผา่ นเยอื่ เพือ่ ลา้ งสารเคมีที่อาจปนอยู่ให้สะอาด อีกครงั้ ๔.การทาแผน่ กระดาษ การทาแผน่ กระดาษด้วยมือแบบไทยเป็นการทาแผ่นโดยการปล่อยให้เย่ือทับถมกันบน ตะแกรงท่ีใช้ทาแผ่นโดยการช้อนหรือแตะก็ได้ เริ่มจากการป้ันก้อนเยื่อ 1 กิโลกรัม กระจายเยื่อลงน้าสะอาด ตักเยื่อด้วยเหยือก และโรยเยื่อบนตะแกรงท่ีร่อนในน้า จนเต็ม ตะแกรงสมา่ เสมอ ยกข้ึนใหข้ นานผวิ โลก ไมเ่ อียงด้านใด ด้านหน่ึง นาไปผึ่งลมวางเอียง 45 องศา ระวังอย่าให้กระดาษถูกแสงแดดมากเกินไป เพราะกระดาษผักตบชวาจะหดตัวเร็ว ทาให้กระดาษเกดิ ความเสียหายได้
ตัวอย่างการศกึ ษาต้นทนุ การผลิตกระดาษผกั ตบชวา ขน้ั ที่ 1 เตรยี มผักตบชวาแหง้ 10 กิโลกรัม มีค่าใชจ้ า่ ยดังน้ี - ค่าผักตบชวาแห้ง 10 กิโลกรัม ราคา กโิ ลกรัมละ 60 บาท ข้ันที่ 2 ต้มเส้นใยผกั ตบชวาแหง้ 10 กโิ ลกรมั ดว้ ยโซดาไฟ อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 ชั่วโมง ไดเ้ ยือ่ 2,500 กรัม มีคา่ ใชจ้ า่ ยดังน้ี - คา่ แกส๊ 2 กิโลกรมั กโิ ลกรัมละ 22.66 บาท คิดเป็นเงนิ 45.32 บาท - ค่านา้ ลา้ ง 100 ลิตร ลติ รละ 0.074 บาท คดิ เป็นเงนิ 7.40 บาท ขน้ั ที่ 3 ตเี ยื่อจานวน 8,300 กรัม ดว้ ยเคร่ืองปน่ั เอนกประสงค์ มีคา่ ใช้จา่ ยดังนี้ - ค่าน้าล้าง 100 ลิตร ลิตรละ 0.074 บาท คิดเป็นเงิน 7.40 บาท - ค่าไฟฟ้า 50 หนว่ ย หนว่ ยละ 3.717 บาท คดิ เป็นเงนิ 3.80 บาท รวมตน้ ทนุ การผลติ เย่อื ทั้งสน้ิ 663.92 บาท เยอ่ื 2,500 กรัม ทาแผน่ กระดาษขนาด 54X80 เซนตเิ มตร นา้ หนักแผ่นละ 50 กรัม ได้กระดาษ 50 แผ่น มตี ้นทุนรวมท้ังสิ้น 663.92 บาท ตน้ ทนุ น้ียังไม่รวมคา่ แรง ดังนนั้ ถ้าคดิ ค่าแรงงานท่ี 32% ของต้นทุนการผลติ เย่อื กระดาษผกั ตบชวา จะมคี า่ แรงเพิ่มขึน้ อีก 212.45 บาท สรุป ตน้ ทุนการผลติ กระดาษผักตบชวา จานวน 10 กโิ ลกรัม ได้เยื่อ 2,500 กรมั ทา แผ่นกระดาษขนาด 54X80 เซนตเิ มตร นา้ หนกั แผน่ ละ 50 กรัม ได้กระดาษ 50 แผ่น มีต้นทนุ รวม 876.37 บาท คดิ เปน็ ต้นทุนกระดาษ แผ่นละ17.52 บาท คานวณราคาประมาณ แผ่นละ 18 บาท ต้งั ราคาจาหน่ายในราคาประเมนิ ของกระดาษผักตบชวา อย่ทู ่ี แผน่ ละ 36 – 55 บาท
บทท่ี 2 การผลิตจานผกั ตบชวา ขันตอนการผลติ จานจากผักตบชวา 1.การข้ึนรูปจานผกั ตบชวา วัตถุดิบท่ีจะนามาใช้สามารถใช้ได้ทั้งแบบสด และแบบแห้ง แบบสด หมายถึง ใบ ผักตบชวาสด และแบบแห้งหมายถึง กระดาษผักตบชวา เราสามารถผลิตจานจาก ผักตบชวาได้ทั้ง 2 แบบ แบบท่ี 1 องค์ประกอบของการผลิตจานผักตบชวาแบบสด มี ดังนี้ 1. ใบผักตบชวาสด 2 ใบ 2. กระดาษผักตบชวา 1 แผ่น 3. กาวแป้งมัน สาปะหลัง 250 กรัม นาใบผักตบชวาสดทากาวแป้งมันสาปะหลัง ที่ด้านหลังของใบ ผักตบชวา ผ่ึงลมพอกาวหมาด นามาประกบโดยมีกระดาษผักตบชวาอยู่ตรงกลางเพื่อ เสริมเป็นโครงสร้างความแข็งแรงให้กับจานผักตบชวา นาเข้าเคร่ืองขึ้นรูปจานด้วย เคร่ืองท่ีประดิษฐ์คิดค้นจากภูมิปัญญาของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั อาเภอภาชี เป็นเวลา 50 วินาที (ครัง้ ท่ี 1) ด้วยอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ปล่อยไฮโดรลิค ครั้งที่ 1 แล้วข้ึนรูปด้วยอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส อีกครั้ง เป็น เวลา 50 วินาที (คร้ังท่ี 2) จะได้จานผักตบชวาแบบใบสด สีสันสวยงาม แบบที่ 2 องคป์ ระกอบของการผลิตจานผักตบชวาแบบแห้ง มีดังน้ี 1. กระดาษผักตบชวา นาเข้า เคร่ืองข้ึนรูปจานด้วยเครื่องที่ประดิษฐ์คิดค้นจากภูมิปัญญาของศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอภาชี เป็นเวลา 50 วินาที ด้วยอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ปล่อยไฮโดรลิค จะได้จานผักตบชวาแบบแห้ง (นาถลดา เข็มทอง, 2559) ภาพตวั อยา่ ง จานจากใ
2.กระบวนการข้นึ รูปจานผักตบชวา ภาพตัวอยา่ งที่ 1 จานผักตบชวาสด – แห้ง ภาพตวั อยา่ งที่ 2 จานผักตบชวาสด – แห้ง
บทท่ี 3 การผลิตเส้นใยทอผา้ ผักตบชวา ขันตอนการผลิตเส้นใยจากผักตบชวา 1. การเตรียมวัตถุดบิ วัตถุดิบท่ีจะนามาใช้คือต้นแก่ของผักตบชวาซ่ึงเป็นพืชธรรมชาติท่ีโตไวและพบหาได้ง่าย ตามท้องถิ่น ทาให้สามารถผลิตเส้นด้ายธรรมชาติได้ในปริมาณมาก และง่ายต่อการจัดการ นอกจากนี้กรรมวิธีในผลิตก็ปราศจากการใช้สารเคมีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยจะนาลาต้น ผักตบชวามาแยกสกัดเส้นใยด้วยวิธีทางกล เคร่ืองตีเส้นใยผักตบชวา ซ่ึงเส้นด้ายท่ีได้ จากผักตบชวาจะมีน้าหนักเบาและดูดความชื้นได้ดี เม่ือนามาผสมกับฝ้าย ปั่นเป็นเส้นด้าย แล้ว นาไปผลติ เปน็ ผ้า จะให้เนื้อผ้าท่ีมีคุณสมบัติเรียบ นุ่ม เบาสบาย ระบายความร้อนได้ดี เหมาะแก่ การใช้ทาเส้ือผ้า เครื่องนุ่มห่ม รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ซ่ึงเป็นท่ีนิยมของคนไทยและ ตา่ งประเทศ 2. กระบวนการผลติ นาตน้ ผกั ตบชวาจานวน 1,000 กิโลกรมั (แยกองคป์ ระกอบออกดังนี้ 1.ตน้ แก่ 2.ตน้ อ่อน 3.ใบ 4.ราก) เข้าเคร่อื งแยกสกัดเส้นใยด้วยวธิ ที างกล เคร่ืองตเี สน้ ใยผักตบชวา ผกั ตบชวา 1,000 กโิ ลกรัม (สด) เมอ่ื ตเี สน้ ใยออกมาแล้ว จะได้เสน้ ใยในการนาไปทอผ้าเพยี ง 1 กโิ ลกรมั
บทท่ี 4 การแปรรูปอาหารจากผกั ตบชวา ขันตอนการแปรรูปอาหารจากผกั ตบชวา 3 1/2 ถ้วย 1 1/4 ถว้ ย 1.การเตรยี มวตั ถดุ บิ “ป้นั ขลิบยะวา” 1 ฟอง 1. แป้งสาลี 1/4 ถว้ ย 2. แปง้ มัน 1/2 ถ้วย 3. ไข่ไก่ 2 ช้อนโตะ๊ 4. น้ามนั พชื 200 กรัม 5. นา้ 1/2 ถ้วย 6. น้าปูนใส 7. ตน้ อ่อนผักตบชวาทอดกรอบ 8. นา้ พริกเผา 9. แปง้ ทานวล(ใชแ้ ป้งสาลี) ต้นอ่อนผักตบชวาทอดกรอบ
2. ข้นั ตอนวิธีทา “ปั้นขลบิ ยะวา” 1. ผสมแปง้ สาลี แปง้ มนั ใส่ไขล่ งนวด ใสน่ ้ามนั น้า น้าปูนใส นวดจนเป็นเนื้อเดยี วกนั แลว้ พกั ไว้ 1 ช่วั โมง 2. โรยแป้งนวลบนโต๊ะ แล้วแบง่ คลงึ บนโต๊ะให้บาง ใช้พมิ พ์กลมตดั เป็นชนิ้ ๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นว้ิ ใส่ไส้ผกั ตบชวา บีบให้ตดิ กนั แลว้ ขลิบให้รอบ 3. นาไปทอดในน้ามันร้อน ไฟปานกลาง จนเหลืองกรอบ ตักขน้ึ ซับด้วยกระดาษซบั น้ามนั ทอดในนา้ มนั ร้อน ไฟปานกลาง จนเหลืองกรอบ
บทท่ี 5 การบริหารจัดการและคิดต้นทุนราคา ขันตอนการจัดการบริหารและคดิ ตน้ ทุนราคา การจัดการบริหารและคิดต้นทุนราคา เป็นการบันทึก การรว บรว ม การทารายงาน และการวิเคราะห์ข้อมูลเก่ียวกับต้นทุน หรือค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะ เกิดข้ึนในกระบวนการทางานหรือกระบวนการผลิต โดยมีการประมาณต้นทุนกับการ ประมาณราคาท่ีสัมพันธก์ ัน ประกอบด้วย - ต้นทนุ ของผลิตภณั ฑ์ คือผลรวมของทรพั ยากรท่ีจะต้องใชเ้ พือ่ การผลิตและ จาหนา่ ย - ราคา คอื มลู คา่ ทจี่ ะนาไปใช้ในลักษณะของการตลาด วัตถุประสงค์การจดั การบรหิ ารและคดิ ต้นทุนราคา - กาหนดต้นทุนลว่ งหนา้ ของการผลิต - คดั เลือกระบบการผลิตทีป่ ระหยัด - จัดเตรยี มงบประมาณ - ประมินราคาผลติ ภณั ฑ์ - ใชต้ ัดสนิ ใจเพิ่ม หรือลดปริมาณผลิตภัณฑ์ - เพื่อปรับปรุงราคาตามสภาวะเศรษฐกจิ - ใชต้ ดั สินใจกาหนดส่วนลดทางการค้า - กาหนดราคาขายผลติ ภณั ฑต์ ามกฎหมาย หรอื ระเบยี บของทางราชการ - ใช้เปรียบเทยี บระหวา่ งต้นทุนจริงกบั ตน้ ทุนที่ประมาณไว้ 33
เอกสารอา้ งองิ กรมพฒั นาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ.์ 2560. คู่มอื การทาปุย๋ หมักจาก ผักตบชวาทีข่ ุดลอกจากแหลง่ นา้ , กองเทคโนโลยชี ีวภาพทางดนิ . กมุ ภาพนั ธ์ 2560, 7 หน้า. กลุม่ งานบรู ณะและบารงุ รักษา สานักสนบั สนุนและพฒั นาตามผังเมือง กรมโยธาธกิ าร และผังเมือง. 2553. การกาจดั ผักตบชวาโดยใช้เครื่องจักรกลเรอื กาจัดผักตบชวา. กลุม่ งานวิจัย สานกั วจิ ยั พัฒนาและอุทกวิทยา. 2555. การบริหารจดั การผักตบชวาใน ระบบล่มุ น้า. แหลง่ ทมี่ า http://www.dwr.go.th/contents/files/article/article_th-27012012- 162516-58177.pdf. 6 กุมภาพนั ธ์ 2558 ค่มู อื องคค์ วามรู้ การเพม่ิ มูลคา่ และการใช้ประโยชนเ์ ส้นใยผักตบชวาอย่างครบวงจรเพื่อ การใช้ประโยชนท์ างดา้ นบรรจภุ ณั ฑ์ และการผลติ ปยุ๋ อนิ ทรยี .์ 2561. สถาบนั ค้นควา้ และพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสรตร.์ กรงุ เทพมหานคร, สิงหาคม 2561, 14 หน้า. วฒุ นิ นั ท์ คงทัด 2551. ความรเู้ รอ่ื งเย่ือและกระดาษพ้นื บ้าน. สถาบันค้นควา้ และ สถาบนั ผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสรตร์. กรงุ เทพมหานคร, 87 หนา้ .
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: