Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 65 แผนวิทย์ ป6

65 แผนวิทย์ ป6

Description: 65 แผนวิทย์ ป6

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 1/2565 นางสาวณัชชา ขจรชัย ตาแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย โรงเรียนวดั ทา่ บุญมี สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาชลบุรี เขต 2 สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1 รหัสวิชา ว 16101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 รา่ งกายของเรา ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 เรื่อง อาหารท่ฉี นั รบั ประทานในแตล่ ะม้อื : 1 วันที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชัว่ โมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชัย มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ว 1.2 ป.6/1 ขนั้ นา จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.ครฝู กึ นักเรยี นร้องเพลง อาหารหลกั 5หมู่ 2.ให้นกั เรียนร่วมกันบอกชื่ออาหารทีน่ ักเรียนรูจ้ ัก แล้วเขียนลงบน 1.ระบอุ าหารท่ีรับประทานในแต่ละมอ้ื ได้ (K) กระดาน 2.อธบิ ายประเภทของสารอาหารท่ีพบในอาหารได้ (K) 3.ครูน้าภาพอาหารหลัก 5 หมู่ แล้วต้ังคา้ ถาม “อาหารคืออะไร ส่งิ ท่ี 3.ปฏบิ ตั ิกิจกรรม อาหารที่ฉันรับประทานในแต่ละม้ือ อย่าง รบั ประทานแลว้ ก่อใหเ้ กิดประโยชน์ ทา้ ให้ร่างกายเจริญเตบิ โต ช่วย รวมพลัง ด้วยความมุ่งมน่ั และตั้งใจได้ (P) ซอ่ มแซมส่วนท่สี กึ หรอ อาหารที่นักเรียนรบั ประทานในแตล่ ะม้ือมี 4.วิเคราะห์หมู่อาหารและสารอาหารในอาหารที่รับประทาน สารอาหารครบ 6 ประเภทหรอื ไม่ ” แต่ละมอื้ ได้ (P) ข้ันกิจกรรม 5.มคี วามมุง่ ม่ันและตั้งใจ (A) 3.ครใู หค้ วามรู้เกี่ยวกับประเภทของสารอาหารที่พบในอาหาร 4.ครูใหน้ กั เรยี นแบ่งกลมุ่ เพอ่ื ท้าใบงาน สาระการเรียนรู้ 5.ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ท้าใบงาน เร่ือง อาหารท่ฉี ันรับประทานใน แต่ละม้ือ สารอาหารที่อย่ใู นอาหารมี 6 ประเภท ดังนี้ โปรตีน ขัน้ สรุป คารโ์ บไฮเดรต เกลือแร่ วิตามิน ไขมัน นา้ อาหารแตล่ ะชนิด 6. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันสรปุ ผลการทา้ กจิ กรรมและสรุปสิง่ ที่ ประกอบด้วยสารอาหารท่แี ตกต่างกนั อาหารบางอยา่ ง เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกันเกีย่ วกับประเภทของสารอาหารท่ีพบใน ประกอบด้วยสารอาหารประเภทเดยี ว อาหารบางอย่าง อาหารวา่ อาหารทีเ่ รารับประทานในแตล่ ะม้อื ควรมีหมอู่ าหารครบ 5 ประกอบด้วยสารอาหารมากกว่าหนึ่งประเภท หมแู่ ละมีสารอาหารครบทัง้ 6 ประเภท เพือ่ ให้ร่างกายเจรญิ เติบโต สมรรถนะสาคัญ ● การคดิ ● การแกป้ ญั หา สอ่ื /อุปกรณ/์ แหลง่ เรียนรู้ ● การส่ือสาร ● การใช้เทคโนโลยี 1. หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ● ทกั ษะชีวิต ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 2. ภาพ อาหารหลกั 5 หมู่ 3. เพลง อาหารหลกั 5 หมู่ | BB Galileo ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อยูอ่ ย่างพอเพียง 4. ใบงาน เรือ่ ง อาหารทฉี่ ันรบั ประทานในแต่ละม้ือ ○ ซ่อื สัตย์สุจริต ● มุ่งมนั่ ในการทา้ งาน บนั ทกึ หลงั สอน ............................................................................... ○ มีวินยั ○ รกั ความเป็นไทย ............................................................................... ● ใฝ่เรียนรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ลงช่ือ (นางสาวณัชชา ขจรชัย.) ครูผู้สอน KPA คลงั สื่อคณุ ครูหนเู ลก็

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 2 รหสั วชิ า ว 16101 กลุม่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 รา่ งกายของเรา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เรือ่ ง อาหารท่ีฉนั รับประทานในแต่ละมอื้ : 2 วนั ท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ว 1.2 ป.6/1 ขั้นนา 1.ครทู วนความรู้เรอ่ื งอาหารหลกั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 5 หมใู่ นช่ัวโมงที่แลว้ 1.ระบอุ าหารทีร่ บั ประทานในแต่ละมอ้ื ได้ (K) ขั้นกิจกรรม 2.อธิบายประเภทของสารอาหารท่พี บในอาหารได้ (K) 2.ครูให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันออกแบบ และจดั ท้าสมุดบันทกึ 3.จัดทา้ สมุดบนั ทึกการรับประทานอาหารของตนเองและ การรับประทานอาหารของตนเอง และวิเคราะหค์ ุณค่าอาหารท่ี วิเคราะห์คุณคา่ ทางอาหารที่ได้รบั ในแตล่ ะวันเปน็ เวลา 7 วนั ได้รบั ในแตล่ ะวนั เป็นเวลา 7 วัน จัดทา้ เป็นชิ้นงาน ด้วยความมุ่งมน่ั และตงั้ ใจได้ (P) 3.ครใู ห้นักเรยี นร่วมกนั สรุปส่งิ ที่เขา้ ใจเปน็ ความรรู้ ่วมกัน โดยเขียน 4.วเิ คราะห์หมอู่ าหารและสารอาหารในอาหารที่รับประทาน เปน็ แผนภาพลงในสมุด แตล่ ะม้ือได้ (P) 4.ครใู ชว้ ิธีจดั กิจกรรมแบบ TGT คอื สมาชิกกล่มุ ตนเองกระจายไป 5.มีความม่งุ มั่นและต้ังใจ (A) ในแตล่ ะกล่มุ รับฟงั การนา้ เสนอ ตอบขอ้ ซักถามของกลมุ่ อื่น และ สรปุ ร่วมกนั สาระการเรยี นรู้ 5.ครูใหน้ ักเรียนแบง่ กล่มุ เป็น 10 กลุม่ 6.ครูใหข้ อ้ มูลอาหารประจ้าชาตอิ าเซียน ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ จดั จา้ แนก สารอาหารทีอ่ ยใู่ นอาหารมี 6 ประเภท ดังน้ี โปรตีน หมู่อาหารและสารอาหารที่กลุม่ ตนเองไดร้ ับ ท้าลงในกระดาษฟลิป คารโ์ บไฮเดรต เกลอื แร่ วิตามิน ไขมัน น้า อาหารแตล่ ะชนดิ ชาร์ต พรอ้ มน้าเสนอ ประกอบด้วยสารอาหารท่ีแตกต่างกนั อาหารบางอย่าง ขั้นสรุป ประกอบด้วยสารอาหารประเภทเดยี ว อาหารบางอยา่ ง 7.นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันนา้ เสนอ จนครบทกุ กลุ่ม ประกอบด้วยสารอาหารมากกว่าหน่ึงประเภท 8.ครูพานักเรยี นสรปุ เรอื่ งสารอาหารท้ังหมด สมรรถนะสาคัญ ● การคิด ● การแกป้ ญั หา สอื่ /อุปกรณ์/แหล่งเรยี นรู้ ● การสอ่ื สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี 1. หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 ● ทกั ษะชีวิต ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 2. ภาพอาหารประจ้าชาติอาเซียน 3. กระดาษฟลปิ ชาร์ต ○ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยู่อยา่ งพอเพยี ง บันทึกหลังสอน ○ ซอื่ สัตย์สุจริต ● มงุ่ มน่ั ในการทา้ งาน ............................................................................... ............................................................................... ○ มวี นิ ยั ○ รกั ความเปน็ ไทย ● ใฝ่เรยี นรู้ ● มีจิตสาธารณะ การวัดและประเมิน (คะแนนเต็ม 10) ลงช่ือ (นางสาวณชั ชา ขจรชยั ) ครูผู้สอน KPA คลงั สอื่ คุณครหู นูเลก็

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 3 รหัสวชิ า ว 16101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 รา่ งกายของเรา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เรื่อง ประโยชนข์ องสารอาหาร วันท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู้ อน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ว 1.2 ป.6/1 ขัน้ นา 1.ครพู านกั เรยี นรอ้ งเพลง เด็กดอยใจดี(ทอ่ นฮุก) โดยเปิดจาก จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ youtube 2.ครูให้นักเรยี นดูแผนภาพอาหารหลัก 5 หมู่ แล้วตัง้ ค้าถาม 1.อธิบายเก่ยี วกบั ประโยชนข์ องสารอาหารประเภทตา่ ง ๆ “สารอาหารแต่ละประเภทมปี ระโยชน์อย่างไร”(ครคู วรมีเนอื้ หา ได้ (K) ประโยชน์ของอาหารแต่ละประเภทไว้) ขนั้ กจิ กรรม 2.สบื สอบขอ้ มูลเกี่ยวกบั ประโยชน์ของสารอาหารประเภท 3.ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุม่ จบั สลากเลือกหวั ข้อสารอาหาร แล้ว ตา่ ง ๆ อย่างรวมพลัง ด้วยความตั้งใจ และใฝร่ ู้ (P) ศึกษาจากแผนภาพ หนงั สอื เรยี น หรืออนิ เทอรเ์ น็ต แล้วออกมา นา้ เสนอ หนา้ ชั้นเรยี น (ขณะเพอื่ นน้าเสนอ เพ่ือนในชนั้ เรียนสามา 3.มคี วามตั้งใจและใฝ่รู้ (P) รักซักถามได้) ขน้ั สรปุ สาระการเรยี นรู้ 4. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันสรปุ เก่ียวกบั ประโยชน์ของสารอาหาร โดยบนั ทกึ ผลเปน็ ตาราง เขียนบนกระดาน สารอาหารแตล่ ะประเภทมปี ระโยชนต์ ่อรา่ งกาย 5.ครูเพมิ่ เตมิ ถึงสารอาหารท่ใี หพ้ ลังงานและไมใ่ หพ้ ลงั งาน แตกตา่ งกัน โดยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมนั เป็น (สารอาหารแต่ละประเภทมีประโยชน์ตอ่ รา่ งกายแตกต่างกัน โดย สารอาหารท่ีใหพ้ ลงั งานแก่รา่ งกาย ส่วนเกลอื แร่ วิตามนิ คารโ์ บไฮเดรต โปรตนี และไขมัน เป็นสารอาหารทีใ่ หพ้ ลังงานแก่ และน้า เปน็ สารอาหารทไ่ี ม่ให้พลงั งานแก่ร่างกาย แต่ช่วย รา่ งกาย ส่วนเกลือแร่ วติ ามิน และน้า เป็นสารอาหารที่ไมใ่ ห้ ให้รา่ งกายท้างานได้เป็นปกติ พลังงานแกร่ ่างกาย แตช่ ่วยให้รา่ งกายทา้ งานได้เป็นปกติ) 6.ครใู หน้ กั เรยี นทุกคนสรปุ เป็นแผนผังความคิดเรอ่ื ง สารอาหารที่ สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ○ การแก้ปัญหา ใหพ้ ลงั งานและไมใ่ ห้พลังงานท้าเป็นการบา้ น ● การสือ่ สาร ● การใช้เทคโนโลยี การวัดและประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) ● ทักษะชีวิต คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ KPA ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ○ ซื่อสัตย์สุจริต ● มุ่งมน่ั ในการทา้ งาน ○ มีวินยั ○ รักความเป็นไทย บนั ทกึ หลังสอน ............................................................................... ● ใฝ่เรียนรู้ ● มจี ติ สาธารณะ ............................................................................... ............................................................................... สอื่ /อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ ลงชื่อ 1. หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 (. นางสาวณัชชา ขจรชยั ) ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ครผู ู้สอน 2. แผนภาพ อาหารหลัก 5 หมู่ 3. เพลง เดก็ ดอยใจดี คลังสอ่ื คุณครูหนเู ลก็

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 รหสั วิชา ว 16101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ร่างกายของเรา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เรอ่ื ง พลังงานจากอาหาร : 1 วันที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง ผ้สู อน นางสาวณัชชา ขจรชัย มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ว 1.2 ป.6/1 ข้นั นา 1.ครนู ้าภาพข้าวผัดกุง้ และลูกช้นิ ทอด ให้นกั เรียนดูแล้วตั้งค้าถาม จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ “ข้าวผดั กงุ้ มอี าหารหมู่ใด และสารอาหารประเภทใดบ้าง (หมทู่ ี่ 1 โปรตีน จากกุง้ และไข่ หมู่ที่ 2 คารโ์ บไฮเดรต จากข้าว หมู่ท่ี 1.ระบสุ ่วนประกอบของอาหาร และค่าพลงั งานในอาหาร 3 เกลือแร่ จากคะนา้ หมู่ท่ี 4 วิตามิน จากมะเขือเทศและมะนาว หมู่ บางชนดิ ได้ (K) ท่ี 5 ไขมนั จากน้ามนั พืช และนา้ จากอาหารชนดิ ต่าง ๆ) ลกู ชน้ิ ทอดมีอาหารหมใู่ ด และสารอาหารประเภทใดบ้าง 2. บอกสารอาหารทีพ่ บในอาหารแต่ละชนดิ ได้ (K) (หมู่ท่ี 1 โปรตนี จากเนือ้ ปลา หมู่ท่ี 2 คาร์โบไฮเดรต จากแปง้ หมูท่ ่ี 3. ระบุชนิดของอาหารทใ่ี หพ้ ลังงานสูงสุดและต่า้ สุดได้ (K) 5 ไขมัน จากน้ามนั ) 4. ปฏบิ ตั ิกิจกรรม พลังงานจากอาหาร อย่างรวมพลัง ด้วย นักเรยี นคดิ ว่าระหว่างข้าวผดั กุ้งกบั ลกู ช้ินทอด สิ่งใดจะให้คา่ พลังงาน ความมุง่ ม่ันและต้ังใจได้ (P) มากกวา่ กนั เพราะเหตุใด 5. มคี วามม่งุ มั่นและต้ังใจ (A) (ขา้ วผัดกุ้ง เพราะมีหมอู่ าหารและสารอาหารมากกวา่ )” 2.ครูต้ังค้าถามเพื่อน้าเขา้ สกู่ จิ กรรม “อาหารแต่ละชนดิ ประกอบด้วย สาระการเรียนรู้ สารอาหารใดบ้าง และได้พลังงานมากน้อยอยา่ งไร” ข้นั กจิ กรรม อาหารแตล่ ะชนิดประกอบด้วยสารอาหารประเภท 3.ครใู ห้นกั เรียนท้ากจิ กรรมโดยใหต้ อบคา้ ถาม ลงในใบงาน เรือ่ ง ต่าง ๆ เม่อื รบั ประทานอาหารในปรมิ าณท่ีเทา่ กนั จะให้ พลังงานจากอาหาร พลังงานมากนอ้ ยแตกตา่ งกนั ขนั้ สรปุ 3. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ร่วมกันสรปุ ผลการทา้ กจิ กรรมและสรปุ สง่ิ ท่ี สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ● การแกป้ ัญหา เข้าใจเป็นความร้รู ่วมกันเก่ียวกับพลงั งานจากอาหารว่า อาหารแตล่ ะ ชนิดประกอบด้วยสารอาหารประเภทต่าง ๆ เมื่อรับประทานอาหาร ● การสอื่ สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี ในปริมาณทเี่ ทา่ กนั จะให้ค่าพลงั งานมากน้อยแตกตา่ งกนั ● ทกั ษะชีวิต การวดั และประเมิน (คะแนนเตม็ 10) คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ KPA ○ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อยอู่ ย่างพอเพียง ○ ซ่ือสัตย์สจุ ริต ● ม่งุ มัน่ ในการทา้ งาน ○ มีวินยั ○ รักความเปน็ ไทย ● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มีจติ สาธารณะ สอ่ื /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ บนั ทึกหลงั สอน ............................................................................... 1. หนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ............................................................................... ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ............................................................................... ลงชื่อ 2. ภาพ ข้าวผดั กุ้ง ลูกชิ้นทอด 3.ตาราง ค่าพลังงานและสารอาหารทพ่ี บในอาหาร (นางสาวณชั ชา ขจรชยั ) ชนิดตา่ ง ๆ ครผู สู้ อน 4.ใบงาน เร่อื ง พลังงานจากอาหาร คลงั ส่อื คณุ ครูหนูเลก็

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 รหัสวิชา ว 16101 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 รา่ งกายของเรา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เร่ือง พลงั งานจากอาหาร : 2 วันท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผ้สู อน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ว 1.2 ป.6/1 ขน้ั นา 1.ครูทบทวนความรูใ้ นช่ัวโมงที่ผา่ นมา จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2.ครใู หน้ ักเรียนแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 4-5 คน 1.ระบุส่วนประกอบของอาหาร และค่าพลังงานในอาหาร ขนั้ กิจกรรม 3.ครูให้นักเรียนจัดท้าโปสเตอรเ์ กยี่ วกับพลังงานในอาหารชนิด บางชนิดได้ (K) ตา่ งๆ 2. บอกสารอาหารทีพ่ บในอาหารแต่ละชนิดได้ (K) 4.นักเรียนแตล่ ะกลุ่มลงมือท้าโปสเตอร์ โดยศึกษาข้อมูล 3. ระบุชนิดของอาหารที่ใหพ้ ลังงานสงู สุดและต้่าสดุ ได้ (K) รอบตัว จากหนังสอื อินเทอร์เน็ต กรมอนามยั หรือกระทรวง 4. จัดท้าโปสเตอร์พลังงานในอาหารชนิดต่าง ๆ อยา่ งรวม สาธารณสุข 5.นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ นา้ เสนอโปสเตอร์ โดยใช้วิธี TGT โดย พลงั ด้วยความมุ่งม่ันและตั้งใจได้ (P) จัดแยกให้สมาชกิ กลุ่มของตนกระจายไปทุกกลมุ่ ไปรับฟังการ 5. สืบสอบข้อมูลเกี่ยวกบั คา่ พลงั งานในอาหารบางชนิดได้ นา้ เสนอ และตอบขอ้ ซกั ถามของกลุม่ อืน่ ขัน้ สรุป (P) 6.ครพู านักเรยี นร่วมกนั สรุปว่า “อาหารแต่ละชนิด 6. มีความมุ่งมั่นและต้ังใจ (A) ประกอบด้วยสารอาหารประเภทต่าง ๆ เมื่อรบั ประทาน อาหารในปรมิ าณที่เท่ากัน จะให้พลงั งานมากนอ้ ยต่างกัน” สาระการเรียนรู้ อาหารแตล่ ะชนิดประกอบด้วยสารอาหารประเภท สอ่ื /อปุ กรณ/์ แหลง่ เรยี นรู้ ตา่ ง ๆ เม่อื รบั ประทานอาหารในปริมาณที่เท่ากนั จะใหค้ ่า 1. หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 พลงั งานมากน้อยแตกต่างกัน ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) สมรรถนะสาคัญ ● การสอ่ื สาร ● การคิด ● การแก้ปญั หา ● ทักษะชีวิต ● การใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ บันทึกหลังสอน ............................................................................... ○ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพียง ............................................................................... ............................................................................... ○ ซื่อสตั ย์สจุ ริต ● ม่งุ ม่นั ในการทา้ งาน ลงชอ่ื ○ มวี นิ ัย ○ รักความเปน็ ไทย (นางสาวณัชชา ขจรชัย) ครูผูส้ อน ● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มีจติ สาธารณะ การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) KPA คลงั สื่อคุณครหู นูเลก็

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 6 รหสั วชิ า ว 16101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 รา่ งกายของเรา ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 เรือ่ ง อาหารทฉี่ ันรับประทานในแต่ละวนั : 1 วนั ท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชัย มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ว 1.2 ป.6/2 ว 1.2 ป.6/3 ครูควรเตรยี มข้อมูลเกย่ี วกับ ความตอ้ งการพลงั งานทร่ี า่ งกายควร จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ได้รบั ใน 1 วัน และ การจดั อาหารตามปริมาณพลังงานทตี่ อ้ งการ ไวล้ ว่ งหนา้ 1. ระบุอาหารทรี่ บั ประทาน สารอาหาร และปริมาณ ขัน้ นา พลงั งานทีไ่ ด้รบั ในแตล่ ะมอ้ื ได้ (K) 1. นกั เรยี นร่วมกนั สังเกต และอ่านตาราง พลังงานในอาหารจาน เดยี วบางชนดิ ในปรมิ าณต่าง ๆ ท่ีติดบนกระดาน และร่วมกันสนทนา 2. ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม อาหารท่ีฉันรบั ประทานในแต่ละวัน ทบทวนประสบการณ์เดิม โดยร่วมกันตอบคา้ ถามส้าคัญกระตนุ้ อย่างรวมพลัง ด้วยความมุ่งม่ัน มีวนิ ัย และตั้งใจได้ (P) ความคดิ ดังน้ี “นักเรียนไดร้ ับพลังงานจากอาหารในแต่ละวัน เพยี งพอหรือไม่ อย่างไร ร่างกายนกั เรียนต้องการปรมิ าณสารอาหาร 3. วิเคราะห์อาหารที่รับประทาน ค่าพลังงานทไ่ี ดร้ บั ในแต่ เปน็ สัดส่วนอยา่ งไร” ละมอ้ื และคา้ นวณปริมาณพลงั งานรวมท่ไี ดร้ บั ในแตล่ ะวันได้ ขนั้ กิจกรรม (P) 2.ครใู ห้นกั เรยี นแต่ละคน คดิ ว่าอาหารทีต่ นเองได้รับประทานในแต่ ละวัน แตล่ ะม้อื คอื อะไร เขียนขอ้ มลู และตอบค้าถามลงในใบงาน 4. มีความมงุ่ ม่ัน มีวนิ ัย และตงั้ ใจ (A) เร่ือง อาหารทีฉ่ ันรบั ประทานในแตล่ ะวัน 3.ครสู ุม่ นกั เรยี นออกมานา้ เสนออาหารท่ีตนเองรับประทานและ สาระการเรยี นรู้ พลงั งานทต่ี นเองไดร้ บั ในแตล่ ะมอ้ื หน้าช้ันเรยี น ขน้ั สรปุ การรับประทานอาหารเพอ่ื ให้รา่ งกายเจริญเติบโต มี 4. นักเรียนร่วมกนั สรุปผลการทา้ กิจกรรมและสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็น การเปลี่ยนแปลงของรา่ งกายตามเพศและวยั และมี ความรูร้ ่วมกันเก่ยี วกบั อาหารทีฉ่ ันรบั ประทานในแตล่ ะวันว่า เราควร สุขภาพดี จ้าเป็นต้องรบั ประทานใหไ้ ด้พลงั งานเพียงพอกับ รบั ประทานอาหารให้ถกู สดั สว่ นและเหมาะสมกับเพศและวัย เพ่ือให้ ความต้องการของรา่ งกาย และให้ได้สารอาหารครบถ้วน ได้รับพลังงานทีเ่ พียงพอ ในสดั ส่วนที่เหมาะสมกับเพศและวัย รวมท้ังต้องค้านึงถงึ ชนิดและปริมาณของวัตถเุ จอื ปนในอาหารเพื่อความ สอื่ /อปุ กรณ์/แหล่งเรียนรู้ ปลอดภัยต่อสขุ ภาพ 1. หนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 สมรรถนะสาคัญ ● การคิด ● การแกป้ ญั หา ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) ● การสอ่ื สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี 2.ตาราง พลงั งานในอาหารจานเดยี วบางชนิดใน ● ทกั ษะชีวิต ปริมาณต่าง ๆ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 3.ใบงาน เรอ่ื ง อาหารทีฉ่ ันรบั ประทานในแตล่ ะวนั ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อยู่อยา่ งพอเพียง บนั ทกึ หลงั สอน ............................................................................... ○ ซือ่ สัตย์สจุ ริต ● มุ่งมน่ั ในการทา้ งาน ............................................................................... ● มวี ินยั ○ รักความเป็นไทย ● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มจี ิตสาธารณะ การวัดและประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) ลงชอ่ื (.นางสาวณัชชา ขจรชัย) ครผู ้สู อน KPA คลงั สอื่ คุณครูหนเู ลก็

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 7 รหัสวิชา ว 16101 กลุม่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 รา่ งกายของเรา ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เร่อื ง อาหารท่ีฉันรับประทานในแต่ละวัน : 2 วันที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผ้สู อน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ว 1.2 ป.6/2 ว 1.2 ป.6/3 ข้นั นา 1.ครทู บทวนความรเู้ ดมิ ในชั่วโมงทผี่ า่ นมา จุดประสงค์การเรียนรู้ ขั้นกจิ กรรม 2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันสืบสอบขอ้ มูลเก่ียวกบั การบริโภค 1. ระบอุ าหารที่รับประทาน สารอาหาร และปริมาณ อาหารอยา่ งมสี ดั ส่วนและคา่ พลังงานในอาหารบางชนิดจาก พลังงานทไ่ี ด้รับในแตล่ ะมอ้ื ได้ (K) แหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อนิ เทอรเ์ นต็ หอ้ งสมดุ จากนั้นจดั ทา้ รายงานอาหารทนี่ ักเรียนเลือกรับประทาน พลังงานที่ได้รับในแต่ 2. จัดท้ารายงานอาหารที่นักเรียนรับประทาน ค่าพลงั งาน ละมอื้ และค้านวณพลังงานในอาหารแต่ละมอ้ื และพลงั งานรวม ท่ไี ดร้ บั ในแต่ละมือ้ และค้านวณอยา่ งรวมพลงั ด้วยความมุ่งม่ัน ในอาหารที่รับประทานใน 1 วัน เปน็ ระยะเวลา 7 วัน จัดทา้ เปน็ มีวนิ ัย และต้ังใจได้ (P) ชิน้ งาน ขนั้ สรุป 3. วเิ คราะห์อาหารท่ีรบั ประทาน ค่าพลังงานท่ไี ดร้ บั ในแต่ 3. นกั เรียนร่วมกันสรปุ สิ่งที่เขา้ ใจเป็นความรูร้ ่วมกัน ดงั น้ี ละมอ้ื และคา้ นวณปรมิ าณพลังงานรวมท่ไี ด้รบั ในแต่ละวันได้ (P) การรบั ประทานอาหารเพ่ือให้ร่างกายเจริญเตบิ โต มีการ เปลย่ี นแปลงของรา่ งกายตามเพศและวัย และมสี ุขภาพดี 4. มคี วามมุง่ ม่ัน มีวินัย และต้งั ใจ (A) จา้ เปน็ ต้องรบั ประทานใหไ้ ด้พลังงานเพียงพอกับความต้องการ ของรา่ งกาย และให้ไดส้ ารอาหารครบถ้วนในสัดสว่ นทเ่ี หมาะสม สาระการเรยี นรู้ กับเพศและวยั รวมทั้งต้องคา้ นึงถงึ ชนิดและปรมิ าณของวัตถเุ จอื ปนในอาหารเพือ่ ความปลอดภยั ต่อสุขภาพ การรบั ประทานอาหารเพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโต มีการเปล่ยี นแปลงของรา่ งกายตามเพศและวัย และมี สอ่ื /อุปกรณ์/แหลง่ เรียนรู้ สขุ ภาพดี จ้าเป็นต้องรบั ประทานให้ได้พลังงานเพียงพอกับ ความตอ้ งการของร่างกาย และใหไ้ ด้สารอาหารครบถ้วนใน 1. หนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 สดั สว่ นท่ีเหมาะสมกับเพศและวยั รวมท้ังตอ้ งคา้ นงึ ถึงชนิด ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) และปริมาณของวัตถเุ จอื ปนในอาหารเพอื่ ความปลอดภยั ตอ่ สุขภาพ สมรรถนะสาคัญ ● การส่อื สาร ● การคิด ● การแก้ปญั หา ● ทักษะชีวิต ● การใชเ้ ทคโนโลยี บนั ทึกหลังสอน ............................................................................... คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ............................................................................... ............................................................................... ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง ลงช่ือ ○ ซื่อสัตย์สจุ ริต ● ม่งุ มั่นในการทา้ งาน (นางสาวณัชชา ขจรชยั ) ครูผสู้ อน ● มีวินยั ○ รักความเป็นไทย ● ใฝเ่ รยี นรู้ ○ มจี ิตสาธารณะ การวดั และประเมิน (คะแนนเต็ม 10) KPA คลังสือ่ คณุ ครหู นเู ลก็

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 8 รหสั วิชา ว 16101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ร่างกายของเรา ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 เรือ่ ง ธงโภชนาการ และขอ้ ปฏิบัตใิ นการรบั ประทานอาหาร ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชัว่ โมง ตามโภชนบญั ญัติ 9 ประการ วนั ที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ว 1.2 ป.6/2 ว 1.2 ป.6/3 ขั้นนา 1. นกั เรยี นร่วมกนั ยกตัวอยา่ งอาหารที่เป็นท่ีนยิ มในโรงอาหารของโรงเรยี น จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ แล้วครู้ต้ังค้าถาม “นกั เรียนคิดว่าคนสว่ นใหญร่ ับประทานอาหารครบ 5 หมู่ หรือไม่ นกั เรียนมีวิธีดูแลสขุ ภาพรา่ งกายตามหลักโภชนาการอยา่ งไร” 1.อธบิ ายประเภทอาหารและสัดส่วนปรมิ าณอาหารตามธง 2.ครลู องให้นกั เรียนเขยี นสัดสว่ นของอาหารท่ีตนเองรบั ประทานใน 1 วัน โภชนาการได้ (K) เช่น ขา้ ว 5 ทัพพี ผัก 2 ทกั พีเป็นต้น ข้นั กิจกรรม 2. สืบสอบข้อมูลเกี่ยวกับประเภทอาหารและสดั ส่วน 3. ครใู หน้ กั เรยี นร่วมกันสังเกตภาพ ธงโภชนาการและสัดส่วนปรมิ าณ ปรมิ าณตามธงโภชนาการ และวธิ กี ารดแู ลสขุ ภาพ อาหารตามธงโภชนาการ แลว้ ให้คดิ ทบทวนวา่ สดั ส่วนอาหารของตนเอง เหมาะสมแล้วหรอื ไม่ รา่ งกายตามหลกั โภชนาการ อยา่ งรวมพลัง ด้วยความตัง้ ใจ 4.ครใู หค้ วามรู้เพ่ิมเตมิ เกี่ยวกับสดั สว่ นของอาหาร และพอเพียงได้ (P) 5.นักเรียนทา้ ความเขา้ ใจกับสัดส่วนอาหารทคี่ รูเสริมไป 6.ครตู ั้งคา้ ถาม จากขอ้ ความทกี่ ล่าววา่ “กนิ เพ่อื อยูน่ ้ันสา้ คัญกวา่ อย่เู พ่ือ 3. มคี วามตั้งใจและพอเพียง (A) กนิ ” มคี วามหมายอยา่ งไร และนักเรียนมีความคดิ เห็นตอ่ ค้ากล่าวขา้ งต้น อย่างไร สาระการเรียนรู้ ขัน้ สรปุ ความหมายของธงโภชนาการและโภชนบญั ญัติ 7.ครูใหค้ วามรูค้ รูต้ังค้าถามไว้เป็นการบา้ นให้นักเรียน “ถ้านกั เรียนได้รบั เงนิ เปน็ คา่ อาหารกลางวัน 65 บาท นกั เรียนจะเลอื กรบั ประทานอาหาร สมรรถนะสาคญั ● การคิด ○ การแกป้ ัญหา ตามรายการอย่างไร เพือ่ ใหร้ ่างกายได้รับ สารอาหารครบถ้วน เหมาะสมกบั เพศและ ● การสอื่ สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี วัยและมีเงินเหลอื เก็บตามหลกั เศรษฐกจิ ● ทกั ษะชีวิต พอเพียง” 8.ครูเสรมิ ความร้เู ก่ยี วกบั ธงโภชนาการและโภชนบญั ญัติ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ○ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ● อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ○ ซอื่ สตั ย์สุจริต ● มุ่งมนั่ ในการทา้ งาน ○ มวี นิ ัย ○ รักความเป็นไทย ● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ สอื่ /อปุ กรณ์/แหลง่ เรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 บันทึกหลังสอน ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) ............................................................................... ............................................................................... 2. ภาพ ธงโภชนาการ การวดั และประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) ลงช่ือ (นางสาวณชั ชา ขจรชยั ) ครูผ้สู อน KPA คลังสื่อคณุ ครูหนูเลก็

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 9 รหัสวชิ า ว 16101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 รา่ งกายของเรา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เรอื่ ง การยอ่ ยอาหารดว้ ยการเคย้ี ว : 1 วันที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชัย มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ว 1.2 ป.6/4 ว 1.2 ป.6/5 ข้ันนา 1.ครใู ห้นักเรยี นออกมาห่นั แครอท แล้วถามว่า นับเป็นการย่อยหรือไม่ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ขั้นกิจกรรม 2.ครูอธิบายเพม่ิ เติมเก่ยี วกับการย่อยอาหาร 1. อธิบายการยอ่ ยอาหารและการดูดซึมสารอาหารได้ (K) 3.ครูใหต้ ัวแทนนักเรียนออกมาเคี้ยวขา้ วเปล่าแล้วถามว่ารู้สกึ อย่างไร 2. ระบุประเภทของการยอ่ ยได้ (K) (จะมีรสหวาน) 3. ปฏบิ ัติกิจกรรม การยอ่ ยอาหารด้วยการเคี้ยว อยา่ งรวม 4.ครูต้ังคา้ ถาม “ถ้าเคยไดผ้ ลเป็นอย่างไร ทา้ ไมจึงเป็นเช่นน้ัน เค้ียวขา้ ว พลัง ด้วยความมุง่ มั่นและต้ังใจได้ (P) เปลา่ ทสี่ กุ แล้วอมไวส้ ักครจู่ ะมรี สหวาน เพราะเอนไซม์ในนา้ ลายย่อย 4. มีความมงุ่ มั่นและต้ังใจ (A) แป้งเป็นน้าตาล ขณะทกี่ า้ ลงั เค้ียวอาหาร นักเรียนคิดวา่ อาหารถูกยอ่ ย หรอื ไม่ (อาหารถกู ย่อย โดยมขี นาดท่เี ล็กลง) นกั เรียนคดิ วา่ การย่อย สาระการเรียนรู้ เกิดขึน้ ทีอ่ วัยวะใดของระบบย่อยอาหาร (ปาก กระเพาะอาหาร และ ล้าไสเ้ ลก็ )” การยอ่ ยอาหาร หมายถึง การเปลยี่ นแปลงขนาดของ 5.ครูใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่มเพ่อื ทา้ ทดลองเคี้ยวอาหารแล้งบันทึกผลลงใน อาหารใหเ้ ล็กลง แบ่งเปน็ 2 ประเภท คือ การยอ่ ยเชิงกล ใบงาน เรื่อง การย่อยอาหารด้วยการเค้ียว และการย่อยทางเคมี ขั้นสรุป 6. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันสรุปผลการทา้ กิจกรรมและสรุปสิง่ ทีเ่ ขา้ ใจ สมรรถนะสาคัญ เปน็ ความรู้ร่วมกันเกย่ี วกบั การยอ่ ยอาหารด้วยการเค้ยี วว่า การเคยี้ ว อาหารท้าใหอ้ าหารมขี นาดเลก็ ลง มกี ระบวนการย่อยอาหาร ● การส่อื สาร ● การคดิ ● การแกป้ ัญหา พวกคารโ์ บไฮเดรตเกดิ ขน้ึ ในปาก ซึ่งอาหารทยี่ อ่ ยแล้วจะมีรสหวาน ● ทกั ษะชีวิต ● การใช้เทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อย่อู ย่างพอเพียง ○ ซอ่ื สตั ย์สุจริต ● มุง่ มน่ั ในการทา้ งาน ○ มีวนิ ัย ○ รักความเป็นไทย ● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มีจิตสาธารณะ สอ่ื /อปุ กรณ์/แหล่งเรียนรู้ 1.หนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6 บันทกึ หลังสอน ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ............................................................................... ............................................................................... 2.แบบจ้าลองโครงสรา้ งของระบบต่าง ๆ ............................................................................... 3.อาหารท่ีสกุ แตย่ งั ไม่ปรุงรส ได้แก่ ขา้ วสุก ขนมปงั ลงช่ือ เสน้ ขนมจนี และเน้ือไกต่ ้มสกุ ชนิดละ 100 กรัม (นางสาวณัชชา ขจรชยั ) 4.ใบงานเรือ่ ง การย่อยอาหารด้วยการเค้ยี ว ครผู ู้สอน การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) KPA คลังสือ่ คุณครหู นูเลก็

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 รหสั วิชา ว 16101 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 รา่ งกายของเรา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เร่ือง การยอ่ ยอาหารด้วยการเค้ียว : 2 วันท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผูส้ อน นางสาวณัชชา ขจรชัย มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ว 1.2 ป.6/4 ว 1.2 ป.6/5 ขั้นนา 1.ครูทวนความรู้ท่ีเรยี นในชั่วโมงทีผ่ ่านมา โดยการให้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นสรุปเน้อื หาครั้งก่อน 1.อธบิ ายการยอ่ ยอาหารและการดูดซึมสารอาหารได้ (K) ขั้นกจิ กรรม 2. ระบปุ ระเภทของการยอ่ ยได้ (K) 3. จัดท้าแผนภาพความคดิ ความหมายและประเภทของ 2.ครูให้ความรู้เก่ียวกับการจดั จ้าแนกประเภทของการ การยอ่ ยอาหาร อย่างรวมพลัง ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจได้ (P) ย่อย 4. มคี วามมุง่ ม่ันและตั้งใจ (A) 3.ครูให้นักเรียนสรปุ เป็นแผนผังความคิด สาระการเรยี นรู้ ขัน้ สรปุ การยอ่ ยอาหาร หมายถึง การเปลย่ี นแปลงขนาด 4.ครูสมุ่ ตัวแทนนักเรยี นใหอ้ อกมาน้าเสนอแผนผัง ของอาหารใหเ้ ล็กลง แบ่งเปน็ 2 ประเภท คอื การยอ่ ย ความคิดของตนเอง เชิงกล และการยอ่ ยทางเคมี สมรรถนะสาคัญ ● การคดิ ● การแกป้ ัญหา ● การสื่อสาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี ● ทักษะชีวิต คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ○ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง ○ ซ่ือสัตย์สจุ ริต ● มงุ่ มั่นในการทา้ งาน ○ มีวินยั ○ รกั ความเปน็ ไทย บนั ทกึ หลงั สอน ............................................................................... ● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มีจิตสาธารณะ ............................................................................... ............................................................................... สอื่ /อุปกรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ ลงช่อื 1. หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 (.นางสาวณัชชา ขจรชัย) ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ครูผู้สอน การวดั และประเมิน (คะแนนเต็ม 10) KPA คลังส่อื คุณครหู นเู ลก็

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 11 รหสั วิชา ว 16101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ร่างกายของเรา ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เรอ่ื ง แบบจา้ ลองระบบย่อยอาหาร : 1 วนั ท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผูส้ อน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ว 1.2 ป.6/4 ว 1.2 ป.6/5 ขน้ั นา 1.นกั เรยี นชมวีดิทศั น์เกี่ยวกับการท้างานของระบบยอ่ ยอาหาร และสงั เกต จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สื่อวทิ ยาศาสตรแ์ บบจา้ ลอง ระบบยอ่ ยอาหารในร่างกายของมนุษย์ แล้ว รว่ มกันบอกวา่ ระบบยอ่ ยอาหารประกอบด้วยอวัยวะสา้ คัญใดบา้ ง เขียน 1.อธิบายหนา้ ทีข่ องอวัยวะในระบบย่อยอาหารได้ (K) เปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดาน 2.สร้างแบบจ้าลองระบบย่อยอาหารตามแบบแผนทกี่ า้ หนด 2.ครูตั้งค้าถาม “อวยั วะตา่ ง ๆ ของระบบการย่อยอาหารทา้ งานอย่างไรบา้ ง ไว้ได้ (P) (การท้างานของระบบยอ่ ยอาหาร อาหารทถี่ ูกยอ่ ยจะเดินทางผา่ นอวัยวะ 3.น้าเสนอแบบจ้าลองระบบยอ่ ยอาหาร ด้วยวาจาและ ต่าง ๆ ดังน้ี ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ล้าไสเ้ ล็ก ลา้ ไสใ้ หญ่ ซ่งึ ทุก ท่าทางท่เี หมาะสมได้ (P) อวยั วะต้องทา้ งานสัมพนั ธก์ นั ) อวยั วะส้าคัญทเ่ี กยี่ วข้องกับระบบย่อยอาหาร 4.มีความใฝร่ แู้ ละมุ่งมั่น (A) มอี ะไรบา้ ง และทา้ หน้าท่ีอย่างไร(บอกหนา้ ท่ีของแต่ละส่วน)” ขนั้ กิจกรรม สาระการเรียนรู้ 3.ครใู ห้นกั เรยี นแบ่งกล่มุ สรา้ งแบบจ้าลองลงในใบงาน เรื่องแบบจา้ ลอง ระบบย่อยอาหาร ระบบยอ่ ยอาหารประกอบด้วยอวัยวะตา่ ง ๆ ได้แก่ ขั้นสรปุ ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ล้าไส้เลก็ ลา้ ไส้ใหญ่ 4. นกั เรียนแต่ละกลุม่ รว่ มกนั สรุปผลการทา้ กิจกรรมและสรปุ สงิ่ ทเ่ี ข้าใจเป็น ทวารหนัก ตับ และตบั อ่อน ซ่ึงทา้ หนา้ ที่ร่วมกันในการยอ่ ย ความรรู้ ่วมกนั เก่ยี วกับการท้างานของระบบยอ่ ยอาหารว่าระบบย่อยอาหาร และดดู ซึมสารอาหาร อวยั วะต่าง ๆ ในระบบย่อยอาหารมี ประกอบด้วยอวัยวะตา่ ง ๆ ได้แก่ ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลา้ ไส้ ความสา้ คัญ จงึ ควรปฏิบัติตน ดแู ลรักษาอวัยวะให้ทา้ งาน เลก็ ล้าไสใ้ หญ่ ทวารหนัก ตับ และตับอ่อน ซ่ึงท้าหนา้ ท่ีร่วมกันในการยอ่ ย เป็นปกติ และดดู ซมึ สารอาหาร อวัยวะต่าง ๆ ในระบบย่อยอาหารมคี วามมส้าคัญ จงึ ควรปฏบิ ัติตน ดแู ลรักษาอวัยวะใหท้ ้างานเป็นปกติ สมรรถนะสาคญั 5.ครตู ้ังค้าถามเพือ่ ใหน้ ักเรยี นคิด “นกั เรียนมีแนวทางการดูแลรกั ษาอวยั วะ ในระบบยอ่ ยอาหารใหท้ า้ งานเป็นปกติไดอ้ ยา่ งไร (ตัวอยา่ งค้าตอบ ● การสอ่ื สาร ● การคิด ● การแก้ปัญหา รับประทานอาหารที่สะอาดในปริมาณท่ีเหมาะสม ตรงเวลา ● ทกั ษะชีวิต ไม่รบั ประทานอาหารท่ีมรี สจดั )” ● การใชเ้ ทคโนโลยี การวดั และประเมิน (คะแนนเตม็ 10) คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ KPA ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ● อยอู่ ย่างพอเพยี ง ○ ซอ่ื สตั ย์สุจริต ● มงุ่ มัน่ ในการทา้ งาน ○ มวี ินยั ○ รักความเป็นไทย ● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มีจติ สาธารณะ สอ่ื /อุปกรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ บนั ทกึ หลงั สอน ............................................................................... 1.หนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 ............................................................................... ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ลงชื่อ (นางสาวณชั ชา ขจรชัย) 2.วดี ิทศั น์ การท้างานของระบบยอ่ ยอาหาร ครูผ้สู อน 3.แบบจา้ ลอง ระบบยอ่ ยอาหารในรา่ งกายของมนุษย์ คลงั สื่อคณุ ครูหนูเลก็ 4.ดินน้ามัน วัสดุเหลอื ใช้ในท้องถน่ิ 5.ใบงานเร่ือง แบบจา้ ลองระบบยอ่ ยอาหาร

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 12 รหัสวิชา ว 16101 กลุม่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 ร่างกายของเรา ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 เร่ือง แบบจา้ ลองระบบย่อยอาหาร : 2 วนั ท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผ้สู อน นางสาวณัชชา ขจรชัย มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ว 1.2 ป.6/4 ว 1.2 ป.6/5 ขน้ั นา จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นวางแผน ออกแบบ และเขยี นสรุปการทา้ งานของ อวัยวะสา้ คัญตา่ ง ๆ ในระบบย่อยอาหารด้วยตนเอง แล้ว 1.อธบิ ายหน้าทขี่ องอวัยวะในระบบย่อยอาหารได้ (K) ออกแบบและเขยี นแผนภาพ ล้าดับทางเดินอาหารผา่ นอวัยวะ 2.บอกแนวทางในการดูแลรกั ษาอวยั วะในระบบย่อยอาหาร ตา่ ง ๆ ในระบบยอ่ ยอาหาร ให้ท้างานเป็นปกติได้ (K) ขัน้ กิจกรรม 3.สร้างแบบจา้ ลองอวยั วะในระบบย่อยอาหาร และเขียน 2. นักเรียนเชอ่ื มโยงความรกู้ ับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ แผนภาพความคดิ ได้ (P) พอเพยี ง โดยนกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันอย่างรวมพลังวางแผน 4.ตระหนกั ถึงความสา้ คัญของระบบยอ่ ยอาหาร (A) ออกแบบ และสรา้ งแผน่ ภาพ หรอื แบบจ้าลอง อวัยวะและ 5.มีความม่งุ มั่น ต้ังใจ และพอเพียง (A) หนา้ ท่ีของอวยั วะในระบบย่อยอาหาร โดยใช้วสั ดุเหลือใช้ใน ทอ้ งถน่ิ จัดทา้ เปน็ ชิ้นงาน สาระการเรียนรู้ ขัน้ สรปุ 3. ผู้แทนนกั เรยี นแต่ละกลุม่ นา้ เสนอแผน่ ภาพหรือแบบจา้ ลอง ระบบยอ่ ยอาหารประกอบด้วยอวัยวะตา่ ง ๆ ได้แก่ ปาก อวยั วะและหนา้ ทีข่ องอวัยวะในระบบยอ่ ยอาหาร โดยวิธีจดั หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ล้าไสเ้ ล็ก ลา้ ไสใ้ หญ่ ทวาร กจิ กรรม Team Game Tournament: TGT โดยจดั แยกให้ หนกั ตบั และตบั ออ่ น ซึ่งทา้ หน้าที่ร่วมกนั ในการยอ่ ยและ สมาชกิ กลุ่มของตนกระจายไปทุกกลมุ่ ไปรบั ฟงั การน้าเสนอ ดูดซมึ สารอาหาร อวัยวะต่าง ๆ ในระบบย่อยอาหารมี และตอบขอ้ ซักถามของกลุ่มอื่น ความส้าคัญ จงึ ควรปฏบิ ตั ิตน ดแู ลรักษาอวัยวะให้ท้างาน เป็นปกติ การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ● การแกป้ ญั หา KPA ● การสื่อสาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี ● ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ บันทกึ หลังสอน ............................................................................... ○ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยู่อยา่ งพอเพยี ง ............................................................................... ............................................................................... ○ ซอ่ื สตั ย์สุจริต ● มงุ่ มนั่ ในการทา้ งาน ○ มวี ินยั ○ รักความเป็นไทย ● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มีจติ สาธารณะ สอ่ื /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ ลงชื่อ (.นางสาวณัชชา ขจรชยั ) 1. หนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ครผู สู้ อน ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) คลงั ส่อื คณุ ครหู นเู ลก็

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 รหัสวชิ า ว 16101 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 การแยกสารผสม ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เรอ่ื ง ความหมายของสารผสม วนั ท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผู้สอน นางสาวณชั ชา ขจรชยั มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ว 2.1 ป.6/1 ขัน้ นา จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.ครูให้นกั เรยี นยกตัวอยา่ งสารในชีวิตประจ้าวนั ท่ีรู้จกั มาคน 1. อธบิ ายความหมายของสารผสมได้ (K) ละ 1 ชนิด 2. สบื สอบข้อมลู เกีย่ วกบั ความหมายของสารผสม อยา่ ง 2.ครูต้ังค้าถามกระตนุ้ “นักเรยี นร้จู กั สารผสมหรือไม่ ยกตวั อยา่ งสารผสมที่รู้จกั (รู้จกั /ไม่รู้จัก (ตวั อย่างสารผสมที่ รวมพลัง ดว้ ยความตั้งใจและใฝ่รไู้ ด้ (P) รู้จัก เช่น นา้ เช่ือม พริกกับเกลอื สม้ ต้า))” 3. มีความต้ังใจและใฝ่รู้ (A) ข้ันกิจกรรม 3.ครใู ห้ความหมายของสารผสม พร้อมกบั เล่นเกมกะหล่า้ ปลี สาระการเรยี นรู้ โดยการนา้ กระดาษมาพับม้วนซอ้ นกนั เปน็ ลกู กลมๆ โดยใน สารผสมประกอบด้วยสารตง้ั แต่ 2 ชนิดขน้ึ ไปผสมกัน กระดาษจะมีตัวอย่างสารอยู่ ให้ส่งต่อกะหล้า่ ปลไี ปเรอื่ ยๆ ถ้า ไปหยดุ ทใี่ คร ให้คนนน้ั ตอบวา่ สารท่ีได้ใช่สารผสมหรือไม่ เพราะเหตุใด ข้ันสรุป 4.ครพู านกั เรียนสรุปถึงความหมายของสารผสมว่า สารผสม ประกอบด้วยสารตง้ั แต่ 2 ชนิดขึน้ ไปผสมกัน สมรรถนะสาคญั ● การคิด ○ การแกป้ ญั หา สอ่ื /อปุ กรณ/์ แหล่งเรยี นรู้ ● การสื่อสาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี 1. หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ● ทักษะชีวิต ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อย่อู ย่างพอเพียง บนั ทกึ หลงั สอน ............................................................................... ○ ซื่อสัตย์สจุ ริต ● ม่งุ มน่ั ในการทา้ งาน ............................................................................... ............................................................................... ○ มีวนิ ยั ○ รกั ความเปน็ ไทย ลงชอื่ ● ใฝเ่ รยี นรู้ ○ มจี ิตสาธารณะ (.นางสาวณัชชา ขจรชัย) ครูผสู้ อน การวดั และประเมิน (คะแนนเต็ม 10) คลงั สือ่ คุณครูหนเู ลก็ KPA

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 2 รหสั วิชา ว 16101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 การแยกสารผสม ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 เร่อื ง รู้จกั สารผสม : 1 วนั ที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ว 2.1 ป.6/1 ขนั้ นา 1.นกั เรยี นร่วมกันบอกชือ่ สารผสมท่ีนกั เรียนรู้จัก จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.ครตู ้ังค้าถามกระตนุ้ “สารผสมคืออะไร (ตวั อย่างคา้ ตอบ 1. อธบิ ายความหมายของสารผสมได้ (K) สารผสม ประกอบด้วยสารตงั้ แต่ 2 ชนิดขน้ึ ไปผสมกนั )” 2. ปฏบิ ัติกจิ กรรม รจู้ กั สารผสม อย่างรวมพลัง ด้วยความ ขั้นกจิ กรรม 3.ครูให้นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ แลว้ ทา้ กิจกรรมการทดลอง สา้ รวจ มุ่งม่ันและต้ังใจได้ (P) สารผสมที่พบเห็นในชีวิตประจา้ วัน อย่างน้อย กลมุ่ ละ 10 3. ส้ารวจสารผสมที่อย่รู อบตัวได้ (P) ชนิด แล้วบนั ทึกผลลงในใบงาน เร่ือง รู้จักสารผสม 4. มคี วามม่งุ ม่ันและต้ังใจ (A) ขนั้ สรปุ 4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั สรุปผลการทา้ กิจกรรมและสรุป สาระการเรียนรู้ ส่ิงทีเ่ ข้าใจเป็นความรู้รว่ มกันเกีย่ วกับ สารผสมว่า สารผสม สารผสมประกอบด้วยสารตั้งแต่ 2 ชนดิ ขน้ึ ไปผสมกัน ประกอบด้วยสารต้ังแต่ 2 ชนิดขึน้ ไปผสมกัน 5.ครใู หก้ ารบ้านโดยให้สารไป 9 ชนิดแลว้ ให้สรปุ ลงสมดุ ว่า เช่น น้ามันผสมน้า ขา้ วสารปนกรวดทราย สารใดเปน็ สารผสมบา้ ง สมรรถนะสาคัญ ● การคิด ● การแก้ปัญหา ● การสื่อสาร ○ การใช้เทคโนโลยี การวดั และประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) ● ทักษะชีวิต KPA คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ บนั ทกึ หลังสอน ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยูอ่ ย่างพอเพียง ............................................................................... ............................................................................... ● ซื่อสัตย์สจุ ริต ● มุ่งม่นั ในการทา้ งาน ............................................................................... ลงชอื่ ○ มีวนิ ัย ○ รักความเปน็ ไทย (.นางสาวณัชชา ขจรชัย) ● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มีจิตสาธารณะ ครผู ู้สอน สอื่ /อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. ใบงาน เรอ่ื ง รจู้ ักสารผสม คลงั ส่อื คุณครหู นูเลก็

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 รหัสวชิ า ว 16101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 การแยกสารผสม ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 เร่อื ง ร้จู ักสารผสม : 2 วนั ท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวณัชชา ขจรชัย มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ว 2.1 ป.6/1 ขน้ั นา จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันอย่างรวมพลังวางแผน ศกึ ษา สืบสอบขอ้ มลู เก่ยี วกับสารผสมและสา้ รวจสารผสมทพ่ี บเหน็ 1. อธิบายความหมายของสารผสมได้ (K) ในโรงเรียนหรอื บ้าน ลองท้ากิจกรรมเหมอื นกบั กจิ กรรมท่ีแล้ 2. สืบสอบขอ้ มลู เกย่ี วกับสารผสม อย่างรวมพลัง ด้วย ขน้ั กจิ กรรม ความม่งุ ม่ันและตั้งใจได้ (P) 2. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ รว่ มกันอยา่ งรวมพลังวางแผน ออกแบบ 3. ส้ารวจสารผสมทอี่ ยรู่ อบตัวได้ (P) และจัดท้าสมุดภาพ สารผสมท่พี บ 4. จดั ท้ารายงานและสมดุ ภาพ สารผสมท่พี บใน ในชีวติ ประจา้ วัน พรอ้ มระบอุ งคป์ ระกอบของสารผสมน้ัน ชีวิตประจา้ วันได้ (A) ขน้ั สรุป 5. มีความมงุ่ มั่นและตั้งใจ 3. นกั เรยี นร่วมกนั สรุปสงิ่ ท่ีเขา้ ใจเป็นความร้รู ่วมกัน ดงั น้ี สารผสมประกอบด้วยสารต้งั แต่ 2 ชนดิ ขนึ้ ไปผสมกัน เช่น สาระการเรียนรู้ นา้ มันผสมน้า ขา้ วสารปนกรวดทราย 4. ผู้แทนนกั เรยี นแต่ละกลุ่มนา้ เสนอรายงาน และสมุดภาพ สารผสมประกอบด้วยสารตง้ั แต่ 2 ชนดิ ขึน้ ไปผสมกัน สารผสมที่พบในชีวิตประจ้าวัน โดยวิธีจดั กิจกรรม Team เช่น น้ามันผสมนา้ ข้าวสารปนกรวดทราย Game Tournament: TGT โดยจัดแยกให้สมาชกิ กล่มุ ของ ตนกระจายไปทกุ กลุม่ ไปรบั ฟังการน้าเสนอ และตอบขอ้ สมรรถนะสาคัญ ● การคิด ● การแกป้ ัญหา ซักถามของกลุม่ อืน่ ● การสอื่ สาร ● การใช้เทคโนโลยี สอ่ื /อปุ กรณ/์ แหลง่ เรยี นรู้ ● ทักษะชีวิต 1. หนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ บันทกึ หลงั สอน ............................................................................... ○ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพียง ............................................................................... ............................................................................... ● ซอ่ื สัตย์สุจริต ● ม่งุ มั่นในการทา้ งาน ○ มีวินัย ○ รกั ความเปน็ ไทย ● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มจี ิตสาธารณะ การวัดและประเมิน (คะแนนเตม็ 10) ลงช่ือ (นางสาวณัชชา ขจรชยั ) KPA ครผู สู้ อน คลังสอ่ื คุณครูหนเู ลก็

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 4 รหสั วชิ า ว 16101 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 การแยกสารผสม ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 เรือ่ ง วิธีการแยกสารผสม วนั ท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ว 2.1 ป.6/1 ข้ันนา 1. นกั เรยี นร่วมกันสนทนาทบทวนประสบการณเ์ กย่ี วกบั วิธกี ารแยก จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สารผสม โดยร่วมกันตอบคา้ ถามสา้ คัญกระตุน้ ความคดิ ดังน้ี “นักเรยี นเคยแยกสารผสมหรอื ไม่ อยา่ งไร ด้วยวธิ ีการใด 1.อธบิ ายวิธีการแยกสารผสมได้ (K) (ตวั อย่างคา้ ตอบ เคย โดยแยกน้ากะทิออกจากมะพร้าวขูด โดยใช้ 2.เปรียบเทียบการแยกสารผสม โดยการหยบิ ออก การร่อน วิธีการกรอง) ถ้านักเรียนต้องการแยกเข็มเย็บผา้ ออกจากกองเศษดา้ ย การใชแ้ ม่เหล็กดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอน ต้องเลือกใช้สง่ิ ใดมาชว่ ย (ตัวอยา่ งคา้ ตอบ ใชแ้ ม่เหล็กมาดงึ ดูดเข็มเย็บ ได้ (P) ผา้ ออก) วธิ ีการที่เหมาะสมในการแยกสารผสมขน้ึ อยกู่ ับส่ิงใด 3.เปน็ ผู้มีความต้ังใจ (A) (ตัวอย่างค้าตอบ วิธีการที่เหมาะสมในการแยกสารผสมข้ึนอยกู่ ับ ลกั ษณะและสมบัติของสารทีผ่ สมกัน)” สาระการเรยี นรู้ ขั้นกิจกรรม 2.ครใู หน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่มเป็น วิธกี ารทเ่ี หมาะสมในการแยกสารผสมขึ้นอย่กู บั 6 กลมุ่ จบั สลากเลอื กหวั ขอ้ กลมุ่ ลักษณะและสมบัตขิ องสารทีผ่ สมกนั ถา้ องค์ประกอบของสาร เกี่ยวกบั วิธีการแยกสารผสม ดังน้ี ผสมเป็นของแข็งกับของแข็งท่ีมีขนาดแตกต่างกนั อยา่ งชัดเจน 3.นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มหาขอ้ มลู เกย่ี วกบั อาจใชว้ ิธกี ารหยิบออกหรอื การรอ่ นผ่านวสั ดทุ ่ีมรี ู ถ้ามีสารใด สารหนึ่งเป็นสารแมเ่ หล็กอาจใช้วิธีการใช้แมเ่ หล็กดึงดูด สิง่ ท่กี ลมุ่ ตนไดร้ บั พร้อมน้าเสนอ ถา้ องคป์ ระกอบเป็นของแข็งท่ไี ม่ละลายในของเหลว อาจใช้ 4.ครใู ห้นกั เรียนเลน่ เกม บตั รคา้ การแยกสารผสม วิธีการรินออก การกรอง หรอื การตกตะกอน ขนั้ สรุป 5. นักเรียนร่วมกันสรปุ ส่ิงท่ีเข้าใจเปน็ ความรู้ร่วมกนั ดงั นี้ สมรรถนะสาคญั วิธีการที่เหมาะสมในการแยกสารผสมข้ึนอยกู่ ับลกั ษณะและสมบัตขิ อง สารท่ผี สมกนั ถ้าองค์ประกอบของสารผสมเป็นของแขง็ กับของแข็งท่ีมี ● การสือ่ สาร ● การคิด ● การแกป้ ญั หา ขนาดแตกตา่ งกนั อย่างชัดเจน อาจใช้วิธีการหยิบออกหรือการร่อน ● ทกั ษะชีวิต ผา่ นวสั ดุทีม่ ีรู ถ้ามีสารใดสารหน่ึงเป็นสารแม่เหล็กอาจใช้วิธีการใช้ ● การใชเ้ ทคโนโลยี แม่เหลก็ ดึงดูด ถ้าองคป์ ระกอบเป็นของแข็งทไ่ี มล่ ะลายในของเหลว อาจใชว้ ิธกี ารรินออก การกรอง หรือการตกตะกอน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ บนั ทกึ หลังสอน ○ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อยูอ่ ย่างพอเพียง ............................................................................... ............................................................................... ○ ซื่อสัตย์สจุ ริต ● มุง่ มน่ั ในการทา้ งาน ............................................................................... ○ มีวนิ ยั ○ รักความเปน็ ไทย ลงชือ่ (นางสาวณัชชา ขจรชัย) ● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ ครูผ้สู อน สอื่ /อุปกรณ์/แหลง่ เรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) การวดั และประเมิน (คะแนนเตม็ 10) KPA คลังส่อื คุณครูหนเู ลก็

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 5 รหัสวิชา ว 16101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การแยกสารผสม ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 เร่อื ง การแยกสารผสมโดยการหยิบออก การรอ่ น ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง และการใช้แม่เหล็กดงึ ดดู : 1 วนั ท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ผสู้ อน นางสาวณชั ชา ขจรชยั มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ว 2.1 ป.6/1 ขนั้ นา 1. นกั เรยี นร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การแยกสารผสม โดยสารบางชนิดต้อง จุดประสงค์การเรยี นรู้ แยกออกจากกนั กอ่ น เชน่ แยกนา้ กะทิออกจากเนอ้ื มะพร้าว แยกน้ามัน ออกจากถ่วั เหลอื ง และน้าไปสปู่ ระเด็นปัญหาวา่ จะแยกทรายออกจาก 1. อธิบายการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน และ สารผสมระหว่างทรายกบั ผงตะไบเหลก็ และสารผสมระหว่างทรายกับ การใช้แม่เหลก็ ดึงดูดได้ (K) ขา้ วสารไดอ้ ย่างไร ขนั้ กจิ กรรม 2. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม การแยกสารผสมโดยการรอ่ น และการใช้ 2.ครูใหน้ กั เรยี นแบง่ กลมุ่ เพอ่ื ท้ากจิ กรรมการทดลองเร่ือง การแยกสาร แม่เหลก็ ดึงดูด อยา่ งรวมพลงั ผสมโดยการรอ่ น และการใชแ้ ม่เหล็กดึงดดู และบนั ทกึ ผลลงในใบงาน ขน้ั สรุป ด้วยความมุ่งมั่นและต้ังใจได้ (P) 3. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั สรุปผลการท้ากิจกรรมและสรุปสง่ิ ทเ่ี ขา้ ใจ 3. มคี วามมุ่งม่ันและตั้งใจ (A) เปน็ ความร้รู ่วมกันเกย่ี วกบั การแยกสารผสม โดยการหยิบออก การรอ่ น และการใชแ้ ม่เหลก็ ดึงดูดวา่ การแยกสารโดยวิธีการรอ่ น ใชส้ ้าหรบั แยก สาระการเรยี นรู้ สารทเี่ ป็นของแข็งกบั ของแข็งทมี่ ีขนาดแตกตา่ งกันผสมกนั อยู่ เช่น ทราย กบั ขา้ วสาร ส่วนวิธีการใช้แม่เหลก็ ดึงดดู ใชส้ า้ หรบั แยกสารทม่ี ี วิธกี ารทีเ่ หมาะสมในการแยกสารผสมขึ้นอย่กู ับลกั ษณะ องค์ประกอบเป็นสารแมเ่ หล็กดึงดูดได้ผสมกันอยู่ เช่น และสมบตั ิของสารท่ีผสมกนั ถ้าองคป์ ระกอบของสารผสม การใช้แม่เหล็กดึงดูดผงตะไบเหลก็ ออกจากทรายและขา้ วสาร เป็นของแข็งกบั ของแขง็ ท่ีมขี นาดแตกต่างกันอย่างชดั เจน 4.ครใู หก้ ารบ้านนกั เรียนไปทา้ เพ่ิมเติม โดยกา้ หนดข้อมลู ให้ดงั ตาราง แล้ว อาจใชว้ ิธกี ารหยิบออกหรอื การรอ่ นผ่านวัสดทุ ี่มีรู ถา้ มสี ารใด ให้ตอบค้าถาม 1.ถ้าต้องการแยกสารผสมระหวา่ ง A กบั B จะใช้วิธีการ สารหนึ่งเปน็ สารแมเ่ หล็กอาจใช้วิธกี ารใช้แมเ่ หล็กดึงดดู อย่างไร เพราะเหตใุ ด 2.ถา้ ต้องการแยกสารผสมระหว่าง A กับ D จะใช้ วิธกี ารแยกสารสามารถนา้ ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจา้ วันได้ วิธีการอย่างไร เพราะเหตุใด 3. ถ้าต้องการแยกสารผสมระหว่าง B กบั C จะใชว้ ิธกี าร สมรรถนะสาคญั อย่างไร เพราะเหตใุ ด ● การสือ่ สาร ● การคดิ ● การแกป้ ัญหา ● ทกั ษะชีวิต ○ การใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อยอู่ ย่างพอเพียง การวัดและประเมิน (คะแนนเตม็ 10) ○ ซอ่ื สัตย์สจุ ริต ● ม่งุ มนั่ ในการทา้ งาน KPA ○ มีวนิ ยั ○ รักความเปน็ ไทย บนั ทึกหลงั สอน ............................................................................................ ● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มจี ิตสาธารณะ ............................................................................................ สอ่ื /อุปกรณ์/แหลง่ เรียนรู้ 1.หนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 ของสถาบันพฒั นา คุณภาพวิชาการ (พว.) ลงชื่อ 2.อปุ กรณก์ ารทดลอง (นางสาวณัชชา ขจรชัย) 3.ใบงานเรอ่ื ง การแยกสารผสมโดยการรอ่ น และการใช้แม่เหล็กดึงดูด ครูผสู้ อน 4.ใบกจิ กรรม เรื่อง การแยกสารอยา่ งง่าย คลงั สอื่ คณุ ครูหนเู ลก็

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 6 รหสั วิชา ว 16101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การแยกสารผสม ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เรือ่ ง การแยกสารผสมโดยการหยบิ ออก การรอ่ น ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง และการใช้แม่เหลก็ ดึงดดู : 2 วนั ท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ว 2.1 ป.6/1 ข้ันนา 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันเปรยี บเทียบการแยกสารผสม โดย จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วิธกี ารหยิบออก การรอ่ น และการใชแ้ ม่เหล็กดงึ ดดู โดยเขียนใน แบบแผนภาพความคดิ ในกระดาษฟลิปชาร์ต 1. อธบิ ายการแยกสารผสมโดยการหยบิ ออก การร่อน และ การใชแ้ ม่เหลก็ ดึงดูดได้ (K) ขนั้ กจิ กรรม 2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันอยา่ งรวมพลังวางแผน สา้ รวจสารผสม 2. จดั ทา้ รายงาน ผลการทดลองเลือกสารทส่ี นใจมาศกึ ษา ในชีวติ ประจ้าวันท่ีพบเห็นในโรงเรียน หรือบา้ นท่สี นใจ ออกแบบ การแยกสารผสม โดยการหยบิ ออก การร่อน และการใช้ และลองท้าการทดลองเหมอื นกบั กิจกรรมท่ีแล้ว เร่อื ง การแยกสาร แมเ่ หล็กดึงดูด ด้วยความมุ่งม่ันและตั้งใจได้ (P) ผสมโดยการร่อน และการใช้แมเ่ หล็กดงึ ดูด บันทกึ ผล พร้อมเขียน รายงานพอสงั เขป จัดท้าเป็นชิ้นงาน 3. เปรยี บเทยี บการแยกสารผสมโดยการหยบิ ออก การรอ่ น ขนั้ สรปุ และการใชแ้ มเ่ หล็กดึงดูดได้ (P) 3. นกั เรียนร่วมกนั สรปุ สิ่งที่เขา้ ใจเป็นความรรู้ ่วมกัน ดังน้ี วิธีการทเ่ี หมาะสมในการแยกสารผสมข้ึนอยูก่ บั ลักษณะและสมบตั ิ 4. มีความมุ่งมั่นและต้ังใจ (A) ของสารทผ่ี สมกนั ถ้าองคป์ ระกอบของสารผสมเปน็ ของแขง็ กับ ของแข็งทมี่ ีขนาดแตกตา่ งกันอยา่ งชัดเจน อาจใช้วิธกี ารหยิบออก สาระการเรยี นรู้ หรือการรอ่ นผ่านวสั ดุทม่ี ีรู ถา้ มสี ารใดสารหนึ่งเปน็ สารแม่เหลก็ อาจ ใช้วธิ กี ารใช้แมเ่ หลก็ ดึงดูด วธิ ีการแยกสารสามารถนา้ ไปใช้ประโยชน์ วิธีการทเ่ี หมาะสมในการแยกสารผสมขึ้นอยู่กับลักษณะ ในชีวิตประจ้าวันได้ และสมบัตขิ องสารทีผ่ สมกัน ถ้าองค์ประกอบของสารผสมเป็น ของแข็งกบั ของแข็งทีม่ ขี นาดแตกต่างกันอย่างชัดเจน อาจใช้ สอ่ื /อุปกรณ์/แหล่งเรยี นรู้ วิธีการหยบิ ออกหรอื การร่อนผ่านวสั ดุที่มีรู ถา้ มีสารใดสาร หนึง่ เป็นสารแม่เหลก็ อาจใชว้ ิธกี ารใช้แม่เหล็กดึงดูด วธิ กี าร แยกสารสามารถน้าไปใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจา้ วันได้ สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ● การแก้ปญั หา ● การสอ่ื สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี ● ทกั ษะชีวิต คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. หนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ○ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพียง บนั ทกึ หลังสอน ○ ซือ่ สตั ย์สจุ ริต ● มงุ่ ม่ันในการทา้ งาน ........................................................................................... ........................................................................................... ○ มีวนิ ยั ○ รักความเปน็ ไทย ● ใฝ่เรียนรู้ ○ มจี ิตสาธารณะ การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ลงช่อื (นางสาวณัชชา ขจรชยั ) ครผู ู้สอน KPA คลงั สอื่ คุณครูหนูเลก็

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7 รหสั วิชา ว 16101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 การแยกสารผสม ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เรื่อง การแยกสารผสมโดยการรนิ ออก และการกรอง : 1 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง วันที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชัย มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ว 2.1 ป.6/1 ขนั้ นา จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. นกั เรยี นร่วมกันทบทวนเกย่ี วกบั การแยกสารผสม โดยใชก้ ารหยบิ ออก การร่อน และการใชแ้ ม่เหล็กดึงดูด 1.อธบิ ายการแยกสารผสมโดยการรินออก และการกรองได้ (K) 2. ครตู ั้งค้าถามกระตุ้น “การแยกสารผสมโดยการรนิ ออกหมายความว่า 2.ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม การแยกสารผสมโดยการกรอง อยา่ งรวมพลัง อยา่ งไร (ตวั อย่างค้าตอบ การรินออก เป็นการแยกสารผสมทเี่ ป็นของแข็งที่ ไม่ละลายในของเหลวออกจากของเหลว โดยค่อย ๆ เทออก) ดว้ ยความมุ่งมั่นและตงั้ ใจได้ (P) การแยกสารผสมโดยการกรองหมายความวา่ อย่างไร (ตัวอย่างค้าตอบ การ 3.มีความมุง่ มั่นและตั้งใจ (A) กรอง เป็นวิธแี ยกสารผสมของแข็งทไี่ มล่ ะลายในของเหลวออก โดยมีวสั ดทุ ่ี ใชใ้ นการกรอง) ถ้ามีสาร 2 ชนิดผสมกันอยู่ โดยสารชนิดหนึ่งไมล่ ะลายน้า สาระการเรียนรู้ สว่ นสารอกี ชนิดละลายน้าได้ จะสามารถแยกสารผสมทั้ง 2 ชนดิ นี้ ออก จากกนั ไดอ้ ยา่ งไร (ตวั อยา่ งคา้ ตอบ อาจใช้วิธีการรินออก การกรอง หรือ วิธีการที่เหมาะสมในการแยกสารผสมขึ้นอยกู่ บั ลักษณะ การตกตะกอนได้ ข้นึ อย่กู บั ลักษณะและสมบัติของสารท้ัง 2 ชนิดด้วย)” และสมบัตขิ องสารท่ผี สมกนั ถ้าองค์ประกอบเปน็ ของแข็งทีไ่ ม่ ขนั้ กจิ กรรม ละลายในของเหลว อาจใช้วิธีการรินออก การกรอง วิธกี ารแยก 3.ครใู หน้ ักเรียนร่วมกันทา้ กิจกรรม เรอื่ ง การแยกสารผสมโดยการกรอง สารสามารถนา้ ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจา้ วันได้ แล้วบนั ทกึ ผลลงในใบงาน ข้นั สรุป สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ● การแกป้ ญั หา 4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันสรุปผลการท้ากจิ กรรมและสรปุ สง่ิ ทเ่ี ข้าใจ เปน็ ความรู้ร่วมกันเกีย่ วกบั การแยกสารผสมโดยการรินออก และการกรอง ● การสอื่ สาร ○ การใชเ้ ทคโนโลยี วา่ การกรองสามารถแยกสารผสมระหวา่ งน้าตาลกับขา้ วสาร และทรายกบั ● ทักษะชีวิต เกลือได้ ดังน้นั วิธกี ารกรองจงึ เหมาะสมสา้ หรับการแยกสารทล่ี ะลายน้าได้ ออกจากสารที่ละลายนา้ ไม่ได้ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 5.ครตู ้ังคา้ ถามเพมิ่ เติมวา่ จากตาราง ถ้ามีสารผสมระหวา่ ง A B และ C จะ แยกสารท้งั 3 ชนิด ออกจากกนั ได้อย่างไร ○ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยู่อย่างพอเพียง ○ ซอ่ื สัตย์สจุ ริต ● มงุ่ ม่นั ในการทา้ งาน ○ มวี นิ ัย ○ รักความเป็นไทย ● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ สอื่ /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ 1.หนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 บันทกึ หลังสอน ............................................................................... ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) ............................................................................... 2.อุปกรณ์การทดลอง 3.ใบงาน เร่ือง การแยกสารผสมโดยการกรอง การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ลงชื่อ (นางสาวณัชชา ขจรชัย) ครผู ูส้ อน KPA คลังส่อื คณุ ครูหนเู ลก็

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 8 รหสั วิชา ว 16101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 การแยกสารผสม ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 เรื่อง การแยกสารผสมโดยการรินออก และการกรอง : 2 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชั่วโมง วันท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ผสู้ อน นางสาวณัชชา ขจรชัย มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ว 2.1 ป.6/1 ขั้นนา 1. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันเปรียบเทียบการแยกสารผสม โดย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธีการรินออก การกรอง โดยเขยี นในแบบแผนภาพความคิด ใน กระดาษฟลปิ ชารต์ 1. อธิบายการแยกสารผสมโดยการรนิ ออก และการกรอง ได้ (K) 2. จัดทา้ รายงาน ผลการทดลอง เลือกสารที่สนใจมาศกึ ษา การแยกสารผสม โดยการกรองได้ (P) 3. เปรยี บเทยี บการแยกสารผสมโดยการรินออก และการ กรองได้ (P) 4. มีความมงุ่ มั่นและต้ังใจ (A) สาระการเรียนรู้ ข้ันกจิ กรรม 2.นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอยา่ งรวมพลังวางแผน สา้ รวจสารผสม วิธีการท่เี หมาะสมในการแยกสารผสมขึ้นอยกู่ ับลกั ษณะ ในชีวติ ประจ้าวันท่ีพบเห็นในโรงเรยี น หรือบา้ นท่ีสนใจ ออกแบบ และสมบัติของสารท่ผี สมกัน ถา้ องค์ประกอบเปน็ ของแข็งทีไ่ ม่ และลองทา้ การทดลองเหมือนกับกจิ กรรมทแี่ ล้ว เรอื่ ง การแยกสาร ละลายในของเหลว อาจใช้วิธกี ารรินออก การกรอง วิธีการแยก ผสมโดยการกรอง บนั ทกึ ผล พรอ้ มเขยี นรายงานพอสังเขป จัดทา้ สารสามารถนา้ ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจา้ วนั ได้ เป็นชิน้ งาน ขั้นสรุป สมรรถนะสาคัญ 3. นกั เรียนร่วมกนั สรปุ สิง่ ที่เข้าใจเปน็ ความรรู้ ่วมกนั ดังนี้ วิธกี ารทเี่ หมาะสมในการแยกสารผสมข้ึนอย่กู บั ลักษณะและสมบัติ ● การส่ือสาร ● การคิด ● การแกป้ ญั หา ของสารท่ีผสมกนั ถ้าองค์ประกอบเป็นของแขง็ ท่ีไม่ละลายใน ● ทกั ษะชีวิต ของเหลว อาจใช้วิธกี ารรินออก การกรอง วิธีการแยกสารสามารถ ● การใชเ้ ทคโนโลยี น้าไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจา้ วันได้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ บันทึกหลงั สอน ............................................................................... ○ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อย่อู ย่างพอเพียง ............................................................................... ............................................................................... ○ ซ่อื สตั ย์สุจริต ● มุ่งมน่ั ในการทา้ งาน ลงช่อื ○ มวี นิ ัย ○ รกั ความเปน็ ไทย (นางสาวณชั ชา ขจรชัย) ครูผสู้ อน ● ใฝเ่ รยี นรู้ ○ มีจิตสาธารณะ สอ่ื /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) การวัดและประเมิน (คะแนนเตม็ 10) KPA คลงั สื่อคุณครูหนูเลก็

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 9 รหัสวชิ า ว 16101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การแยกสารผสม ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 เรื่อง การกรอง : 1 วันที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชวั่ โมง ผ้สู อน นางสาวณชั ชา ขจรชัย มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ว 2.1 ป.6/1 ข้ันนา จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นกั เรียนร่วมกันสนทนาทบทวนประสบการณเ์ ดิมเกีย่ วกับการแยก สารผสม โดยการรนิ ออก และการกรอง 1. อธิบายการแยกสารผสมโดยวิธกี ารกรองได้ (K) 2.ครตู ั้งคา้ ถามกระตุ้น “นักเรยี นทราบหรอื ไม่วา่ เราจะแยกสารท่ไี ม่ 2. ปฏิบัตกิ ิจกรรม การกรอง อยา่ งรวมพลัง ด้วยความใฝ่รู้ ละลายนา้ ออกจากสารท่ีละลายน้าไดอ้ ย่างไร (ตวั อย่างค้าตอบ เรา และรบั ผิดชอบได้ (P) สามารถแยกสารทไี่ ม่ละลายน้าออกจากสารท่ีละลายนา้ ได้ โดยวิธกี าร 3. มีความใฝ่รูแ้ ละรบั ผิดชอบ (A) กรอง) ถา้ ทรายผสมกับเกลอื นกั เรียนจะแยกสารเหลา่ น้ีออกจากกันได้ อย่างไร (ตวั อยา่ งค้าตอบ ใชว้ ิธีการกรอง)” สาระการเรียนรู้ ขนั้ กิจกรรม 3.ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกล่มุ แลว้ รว่ มกันท้ากจิ กรรม เรอื่ ง การกรอง วิธกี ารกรองใช้แยกสารท่ไี ม่ละลายในของเหลวออก แลว้ บนั ทึกผลลงในใบงาน จากของเหลวน้นั ขั้นสรปุ 4. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั คิดวิเคราะห์เพ่ิมเติม โดยร่วมกันตอบ สมรรถนะสาคัญ ● การคดิ ● การแก้ปัญหา คา้ ถาม ดงั น้ี “วธิ ีการกรองสามารถแยกสารผสมชนดิ ใดได้บา้ ง อยา่ งไร ทรายและเกลอื ทรายและผงตะไบเหล็ก น้าตาลและเกลือ (การกรอง ● การสอ่ื สาร ○ การใช้เทคโนโลยี สามารถใช้แยกสารผสมระหว่างทรายและเกลือ เพราะทรายไมล่ ะลาย ● ทกั ษะชีวิต นา้ จงึ ติดอยบู่ นกระดาษกรอง ส่วนเกลอื ละลายนา้ ได้ ของเหลวในบีก เกอรจ์ งึ น่าจะเป็นน้าเกลือ สว่ นทรายและผงตะไบเหลก็ ไม่สามารถแยก คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยใช้วิธกี ารกรอง เพราะทรายและผงตะไบเหล็กไมล่ ะลายนา้ จงึ ติดอยู่ บนกระดาษกรอง สว่ นน้าตาลและเกลือ ไม่สามารถแยกไดโ้ ดยวิธกี าร ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ● อยู่อย่างพอเพียง กรอง เพราะทั้งเกลือและนา้ ตาลละลายน้าได้) นกั เรยี นจะเลอื กใชก้ าร กรองในการแยกสารผสมทมี่ ีสมบัตอิ ย่างไร (การกรองใชแ้ ยกสารผสมที่ ○ ซ่อื สัตย์สจุ ริต ● มุ่งมั่นในการทา้ งาน ไม่ละลายในของเหลวออกจากของเหลวนัน้ )” 5. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันสรปุ ผลการท้ากจิ กรรมและสรุปส่งิ ทีเ่ ข้าใจ ○ มีวนิ ัย ○ รักความเปน็ ไทย เปน็ ความรรู้ ่วมกนั เก่ียวกับการแยกสารผสม โดยการกรองวา่ วิธกี ารแยก สารผสมท้าได้โดยการแยกองค์ประกอบของสารผสมทไ่ี ม่ละลายน้าออก ● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มีจติ สาธารณะ โดยวิธกี ารกรอง สอ่ื /อปุ กรณ์/แหล่งเรียนรู้ บันทึกหลังสอน ............................................................................... 1. หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 ............................................................................... ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) 2. อปุ กรณ์การทดลอง 3. ใบกิจกรรม เรือ่ ง การกรอง การวดั และประเมิน (คะแนนเตม็ 10) ลงชอ่ื (นางสาวณัชชา ขจรชยั ) ครผู ู้สอน KPA คลงั สอื่ คณุ ครหู นเู ลก็

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 10 รหสั วิชา ว 16101 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 การแยกสารผสม ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เรื่อง การกรอง : 2 วันท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชัย มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ว 2.1 ป.6/1 การเตรียมตวั ล่วงหนา้ ครใู ห้นักเรยี นเตรียมอุปกรณ์ทีจ่ ะประดษิ ฐเ์ ครื่องกรองน้า จุดประสงค์การเรยี นรู้ ข้นั นา 1. อธิบายการแยกสารผสมโดยวิธีการกรองได้ (K) 1. นักเรียนเช่อื มโยงความร้กู บั หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ 2. ประดิษฐ์ เคร่ืองกรองนา้ อยา่ งง่าย จากวัสดุเหลือใชใ้ น พอเพยี ง โดยนกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั อยา่ งรวมพลังวางแผน ออกแบบ และประดิษฐ์สงิ่ ประดิษฐเ์ ครอ่ื งกรองน้าอยา่ งง่าย ท้องถ่นิ อยา่ งรวมพลัง ด้วยความมุ่งม่นั จากวสั ดเุ หลือใชใ้ นท้องถิ่น จัดทา้ เป็นช้ินงาน ตัง้ ใจ และพอเพียงได้ (P) ขน้ั กิจกรรม 2.ให้นักเรียนประดษิ ฐเ์ คร่อื งกรองน้า โดยมคี รูคอยดูแลอยู่ 3. มีความมงุ่ มั่น ตั้งใจ และพอเพียง (A) ห่างๆ ข้นั สรุป สาระการเรียนรู้ 3. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สงิ่ ที่เขา้ ใจเปน็ ความรรู้ ่วมกนั ดงั น้ี วิธกี ารกรองใช้แยกสารท่ีไมล่ ะลายในของเหลวออก วิธีการกรองใช้แยกสารทีไ่ ม่ละลายในของเหลวออกจาก ของเหลวนั้น จากของเหลวน้นั สมรรถนะสาคัญ ● การคดิ ● การแก้ปญั หา ● การสอื่ สาร ○ การใชเ้ ทคโนโลยี ● ทักษะชีวิต คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ○ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ● อย่อู ย่างพอเพียง ○ ซ่ือสตั ย์สุจริต ● มงุ่ มั่นในการทา้ งาน ○ มีวินยั ○ รักความเปน็ ไทย ● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มจี ิตสาธารณะ สอ่ื /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ บันทกึ หลงั สอน ............................................................................... 1. หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ............................................................................... ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ............................................................................... การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ลงชือ่ (นางสาวณัชชา ขจรชัย) ครผู ู้สอน KPA คลังสือ่ คณุ ครหู นูเลก็

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 11 รหัสวิชา ว 16101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การแยกสารผสม ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 เรือ่ ง การแยกสารผสมโดยการตกตะกอน : 1 วันท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ว 2.1 ป.6/1 ขน้ั นา 1. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาทบทวนประสบการณ์เดมิ เกย่ี วกับการแยก จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สารผสม โดยวิธีการรนิ ออก และการกรอง โดยร่วมกันตอบค้าถาม ส้าคัญกระตุ้นความคิด ดังนี้ ถ้ามีของแข็งขนาดเลก็ มากลอยอยู่ใน 1. อธิบายการแยกสารผสมโดยการตกตะกอนได้ (K) ของเหลว จะมวี ิธีการแยกของแข็งขนาดเล็กมากนน้ั ออกจาก 2. ปฏิบตั ิกจิ กรรม การแยกสารผสมโดยการตกตะกอน ของเหลวอย่างไร (ตัวอย่างค้าตอบ สามารถท้าไดโ้ ดยนา้ สารส้มไป อยา่ งรวมพลัง ด้วยความมงุ่ มั่นและต้ังใจได้ (P) แกว่ง หรอื ใสล่ งไปในน้าทีม่ ตี ะกอนลอยอยู่ สารส้มจะทา้ ให้ตะกอนท่ี 3. มคี วามมุง่ มั่นและตั้งใจ (A) แขวนลอยอยู่ในน้าตกตะกอนลงส่กู น้ ภาชนะได้เร็วข้ึน) ขัน้ กิจกรรม สาระการเรียนรู้ 2.ครูใหน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่มเพ่อื ทา้ กจิ กรรมเรื่อง การแยกสารผสมโดย การตกตะกอนแลว้ บันทกึ ผลลงในใบงาน วิธกี ารทเี่ หมาะสมในการแยกสารผสมข้ึนอยู่กับลักษณะ ข้นั สรุป และสมบตั ขิ องสารท่ีผสมกนั ถา้ องคป์ ระกอบเปน็ ของแข็งที่ 3. หลงั จากนักเรยี นทา้ กิจกรรมและบนั ทึกผลการทา้ กจิ กรรมในใบ ไมล่ ะลายในของเหลว อาจใช้วิธีการตกตะกอน โดยทา้ ให้ งานแล้ว ผ้แู ทนนักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมาน้าเสนอผลการทา้ กิจกรรม อนุภาคเล็ก ๆ ของสารทีแ่ ขวนลอยอยใู่ นนา้ ตกลงส่กู ้น หน้าชั้นเรียน เพ่อื แลกเปล่ยี นเรียนรกู้ ัน ภาชนะเร็วข้นึ ซ่ึงวธิ กี ารแยกสารสามารถน้าไปใชป้ ระโยชน์ 4. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ร่วมกันสรปุ ผลการท้ากจิ กรรมและสรุปสิง่ ที่ ในชีวติ ประจา้ วันได้ เข้าใจเปน็ ความร้รู ่วมกนั เกี่ยวกับการแยกสารผสมโดยการตกตะกอน ว่า วิธกี ารท่ีเหมาะสมในการแยกสารผสมขน้ึ อยูก่ ับลักษณะและ สมรรถนะสาคญั สมบัติของสารที่ผสมกัน การตกตะกอน เป็นการแยกสารผสมที่เป็น ของแข็งออกจากของเหลว โดยท้าใหอ้ นภุ าคเลก็ ๆ ของสารท่ี ● การส่ือสาร ● การคดิ ● การแกป้ ัญหา แขวนลอยอยู่ในน้าตกลงสู่ก้นภาชนะเร็วขึ้น อาจท้าไดโ้ ดยการตั้ง ● ทกั ษะชีวิต ภาชนะที่บรรจสุ ารผสมน้ันไว้นง่ิ ๆ หรือการใช้สารบางชนิดเพ่อื ช่วย ○ การใช้เทคโนโลยี ทา้ ใหต้ กตะกอนเรว็ ขน้ึ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ บนั ทกึ หลงั สอน ............................................................................... ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยูอ่ ยา่ งพอเพียง ............................................................................... ............................................................................... ○ ซ่อื สตั ย์สจุ ริต ● มุ่งม่นั ในการทา้ งาน ลงชอื่ ○ มีวินยั ○ รักความเป็นไทย (นางสาวณชั ชา ขจรชัย) ครูผสู้ อน ● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มีจิตสาธารณะ สอื่ /อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. อุปกรณก์ ารทดลอง 3. ใบงานเรอื่ ง การแยกสารผสมโดยการตกตะกอน 4. ใบกิจกรรม เร่อื ง การตกตะกอน การวดั และประเมิน (คะแนนเต็ม 10) KPA คลังส่ือคณุ ครหู นูเลก็

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 12 รหัสวิชา ว 16101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การแยกสารผสม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรอ่ื ง การแยกสารผสมโดยการตกตะกอน : 2 วันท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ว 2.1 ป.6/1 ขน้ั นา 1.นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันเปรยี บเทียบการแยกสารผสมโดย จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการรินออก การกรอง และการตกตะกอน โดยเขยี นในแบบ แผนภาพความคิด ในกระดาษฟลิปชาร์ต 1. อธบิ ายการแยกสารผสมโดยการตกตะกอนได้ (K) 2. จดั ท้ารายงาน ผลการทดลองเลอื กสารท่ีสนใจมาศกึ ษา การแยกสารผสมโดยการตกตะกอน อย่างรวมพลัง ด้วยความม่งุ ม่ันและต้ังใจได้ (P) 3. เปรียบเทยี บการแยกสารผสม โดยการรนิ ออก การกรอง และการตกตะกอนได้ (P) 4. มีความมุ่งม่ันและต้ังใจ (A) สาระการเรียนรู้ ขน้ั กจิ กรรม 2.นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันอย่างรวมพลังวางแผน สา้ รวจสารผสม วธิ ีการทีเ่ หมาะสมในการแยกสารผสมขน้ึ อยู่กบั ลักษณะ ในชีวติ ประจ้าวันทพ่ี บเห็นในโรงเรยี น หรอื บา้ นที่สนใจ ออกแบบ และสมบัตขิ องสารทผ่ี สมกนั ถา้ องค์ประกอบเปน็ ของแข็งทีไ่ ม่ และลองทา้ การทดลองเหมือนกบั กจิ กรรมทแี่ ล้ว การแยกสารผสม ละลายในของเหลว อาจใช้วธิ กี ารตกตะกอน โดยทา้ ให้อนภุ าค โดยการตกตะกอน บันทกึ ผล พร้อมเขียนรายงานพอสังเขป จดั ท้า เล็ก ๆ ของสารทแ่ี ขวนลอยอยใู่ นน้าตกลงส่กู ้นภาชนะเรว็ ขน้ึ ซ่ึง เปน็ ชิน้ งาน วิธีการแยกสารสามารถนา้ ไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจ้าวนั ได้ ขน้ั สรปุ 3.นักเรยี นร่วมกันสรปุ ส่งิ ท่ีเขา้ ใจเปน็ ความรู้ร่วมกัน ดงั น้ี สมรรถนะสาคญั วิธีการท่ีเหมาะสมในการแยกสารผสมขึ้นอยู่กับลกั ษณะและสมบัติ ของสารทผี่ สมกัน ถา้ องคป์ ระกอบเป็นของแข็งทไ่ี มล่ ะลายใน ● การสอ่ื สาร ● การคิด ● การแก้ปัญหา ของเหลว อาจใช้วธิ ีการตกตะกอน โดยท้าใหอ้ นุภาคเล็ก ๆ ของสาร ● ทกั ษะชีวิต ที่แขวนลอยอยูใ่ นน้าตกลงส่กู น้ ภาชนะเร็วขึ้น ซึง่ วิธกี ารแยกสาร ○ การใช้เทคโนโลยี สามารถน้าไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจา้ วันได้ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ บนั ทึกหลังสอน ............................................................................... ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพียง ............................................................................... ............................................................................... ○ ซ่ือสตั ย์สุจริต ● ม่งุ ม่ันในการทา้ งาน ○ มีวนิ ยั ○ รกั ความเป็นไทย ● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มีจติ สาธารณะ สอื่ /อุปกรณ์/แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) การวดั และประเมิน (คะแนนเต็ม 10) ลงชอ่ื (นางสาวณชั ชา ขจรชัย) KPA ครผู ู้สอน คลังสื่อคณุ ครหู นูเลก็

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 1 รหัสวชิ า ว 16101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ไฟฟ้า ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เรือ่ ง บทบาทสมมุตกิ ารถ่ายโอนประจุไฟฟ้าลบ : 1 วันที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวณชั ชา ขจรชยั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ว 2.2 ป.6/1 ขน้ั นา จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นชมวีดทิ ศั นเ์ กี่ยวกบั การเกดิ ไฟฟ้าสถิต แล้วร่วมกนั สนทนา ทบทวนประสบการณ์เกี่ยวกบั การเกดิ ไฟฟ้าสถิต แล้วร่วมกนั ตอบ 1. อธิบายการถ่ายโอนประจไุ ฟฟา้ ระหว่างวัตถุได้ (K) คา้ ถามส้าคญั กระตุ้นความคดิ ดังนี้ การเกดิ ปรากฏการณ์ดงั กลา่ วเกิด 2. ปฏิบตั กิ จิ กรรม บทบาทสมมุติการถา่ ยโอนประจุไฟฟ้า จากแรงอะไร (ตวั อยา่ งค้าตอบ แรงไฟฟ้า ซงึ่ เป็นแรงดึงดูดของประจุ ลบ อยา่ งรวมพลัง ด้วยความมงุ่ มั่นและตั้งใจได้ (P) ไฟฟ้าในวัตถุ) ปรากฏการณ์ดังกลา่ วเรยี กวา่ เกิดปรากฏการณ์ใด 3. บง่ ช้ีตัวแปรต่าง ๆ ตั้งสมมุตฐิ าน และสรุปผลการ (ตัวอย่างค้าตอบ การเกิดไฟฟ้าสถิต) ไฟฟา้ สถิตเกดิ ขนึ้ ได้อยา่ งไร ทดลองได้ (P) (ไฟฟา้ สถิตเป็นไฟฟ้าทเ่ี กิดขึ้นเม่ือวัตถสุ องชนดิ ขัดถกู ัน ไฟฟา้ ที่ 4. มคี วามม่งุ มั่นและตั้งใจ (A) เกดิ ข้นึ จะสะสมอยูบ่ นวัตถุ) ขัน้ กิจกรรม สาระการเรยี นรู้ 2. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันทา้ กจิ กรรมเรอื่ ง บทบาทสมมตุ ิ การถ่ายโอนประจุไฟฟ้าลบ ในใบงาน วตั ถุสามารถถา่ ยโอนประจุลบกบั วัตถอุ ่นื ได้ วัตถุทกุ ข้นั สรุป ชนิดมปี ระจไุ ฟฟา้ เมือ่ น้าวัตถุต่างชนดิ กนั มาขัดถูกันจะท้า 3. นกั เรยี นร่วมกันสรปุ ผลการท้ากจิ กรรมและสรุปส่งิ ทเ่ี ข้าใจเปน็ ใหเ้ กิดประจุไฟฟ้าทส่ี ะสมบนวัตถุ ความรรู้ ่วมกนั เกย่ี วกบั การถ่ายโอนประจุไฟฟ้าลบว่า วตั ถุสามารถ ถา่ ยโอนประจุไฟฟ้าลบกับวัตถุอน่ื ได้ โดยหลังจากวัตถถุ ่ายโอนประจุ สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ● การแกป้ ญั หา ไฟฟ้ากนั แล้ว วัตถุจะมจี า้ นวนประจุไฟฟ้าบวกและลบในตัวเองไม่ เทา่ กัน และจะแสดงอา้ นาจไฟฟา้ ตามชนิดประจุ ● การสอื่ สาร ○ การใช้เทคโนโลยี ที่มีมากกวา่ ● ทักษะชีวิต การวดั และประเมิน (คะแนนเตม็ 10) คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ KPA ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อยู่อย่างพอเพียง บนั ทึกหลังสอน ○ ซ่อื สตั ย์สุจริต ● มงุ่ มนั่ ในการทา้ งาน ............................................................................... ............................................................................... ○ มวี นิ ัย ○ รกั ความเปน็ ไทย ............................................................................... ● ใฝ่เรียนรู้ ○ มีจิตสาธารณะ ลงช่ือ (นางสาวณัชชา ขจรชยั ) สอื่ /อปุ กรณ์/แหล่งเรียนรู้ ครผู ู้สอน 1. หนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) 2. วีดิทัศน์ การเกดิ ไฟฟ้าสถิต 3. ใบงานเรอื่ ง บทบาทสมมุตกิ ารถา่ ยโอนประจุ ไฟฟ้าลบ คลังสื่อคณุ ครูหนเู ลก็

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 รหสั วิชา ว 16101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ไฟฟ้า ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เร่อื ง บทบาทสมมตุ ิการถา่ ยโอนประจุไฟฟา้ ลบ : 2 วนั ที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชวั่ โมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชัย มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ว 2.2 ป.6/1 ขน้ั นา จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันอย่างรวมพลังวางแผน สืบสอบ ขอ้ มูลเกีย่ วกบั การถ่ายโอนประจไุ ฟฟ้า แล้วรวบรวมขอ้ มูล 1.อธบิ ายการถ่ายโอนประจไุ ฟฟ้าระหวา่ งวัตถไุ ด้ (K) จดั ท้าเป็นรายงาน 2.สืบสอบขอ้ มลู เกย่ี วกบั การถ่ายโอนประจุไฟฟา้ อย่างรวม ขัน้ กิจกรรม พลงั ด้วยความมุ่งม่ันและต้ังใจได้ (P) 2.นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สงิ่ ท่ีเขา้ ใจเปน็ ความรู้ร่วมกนั ดงั นี้ 3.มีความมุง่ ม่ันและตั้งใจ (A) วตั ถุสามารถถา่ ยโอนประจลุ บกับวัตถอุ ืน่ ได้ วัตถุทกุ ชนิดมี ประจุไฟฟ้า เมือ่ นา้ วัตถุต่างชนิดกันมาขัดถกู นั จะทา้ ใหเ้ กิด สาระการเรียนรู้ ประจุไฟฟา้ ทีส่ ะสมบนวัตถุ ขั้นสรปุ วัตถสุ ามารถถ่ายโอนประจุลบกบั วัตถอุ ืน่ ได้ วัตถุทุก 3.ผูแ้ ทนนกั เรียนแต่ละกล่มุ นา้ เสนอรายงาน การถา่ ยโอน ชนิดมปี ระจไุ ฟฟ้า เมือ่ นา้ วตั ถุตา่ งชนดิ กันมาขัดถกู ัน ประจุไฟฟ้า โดยวิธีจดั กจิ กรรม Team Game Tournament: จะทา้ ใหเ้ กดิ ประจไุ ฟฟา้ ทีส่ ะสมบนวตั ถุ TGT โดยจัดแยกให้สมาชกิ กลมุ่ ของตนเองกระจายไปทุกกลุ่ม ไปรับฟังการนา้ เสนอ และตอบขอ้ ซักถามของกลุม่ อืน่ สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ● การแกป้ ัญหา สอ่ื /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ ● การสอ่ื สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี ● ทกั ษะชีวิต 1. หนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อยู่อยา่ งพอเพียง บนั ทกึ หลงั สอน ............................................................................... ○ ซือ่ สัตย์สุจริต ● มุ่งมนั่ ในการทา้ งาน ............................................................................... ............................................................................... ○ มวี ินัย ○ รกั ความเป็นไทย ลงชือ่ ● ใฝเ่ รยี นรู้ ○ มีจติ สาธารณะ (นางสาวณัชชา ขจรชยั ) ครูผสู้ อน การวัดและประเมิน (คะแนนเต็ม 10) คลงั สือ่ คุณครหู นเู ลก็ KPA

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 รหสั วชิ า ว 16101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ไฟฟา้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เร่ือง แรงดึงดูดและแรงผลกั ทางไฟฟ้า : 1 วันท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผ้สู อน นางสาวณชั ชา ขจรชยั มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ว 2.2 ป.6/1 ขน้ั นา จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.นกั เรียนเข้าส่บู ทเรยี นเก่ยี วกบั แรงไฟฟา้ โดยร่วมกันทา้ กิจกรรม กระตนุ้ ความสนใจ ดงั น้ี นกั เรยี นออกมาลองเล่นตุ๊กตาที่ทา้ ดว้ ยขนสัตว์ 1.อธบิ ายการเกดิ และผลของแรงไฟฟา้ ซ่ึงเกิดจากวัตถทุ ผี่ ่านการ ทม่ี ขี นยาวเลก็ นอ้ ย ขย้าใหข้ นไม่เป็นระเบียบ แล้วสะบัดแรง ๆ ขัดถไู ด้ (K) นกั เรียนทง้ั ช้ันเรียนรว่ มกันสงั เกตสิ่งที่เกิดขึน้ นักเรยี นจะพบว่าขนของ ต๊กุ ตาฟูตั้งข้ึนอยา่ งเปน็ ระเบียบ ถา้ ไม่มตี ุก๊ ตา นกั เรียน 2-3 คน ทมี่ ผี ม 2.ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม แรงดงึ ดดู และแรงผลกั ทางไฟฟา้ อยา่ งรวม แหง้ ๆ หวผี ม แล้วเพื่อนในชั้นเรยี นร่วมกนั สังเกต ส่ิงท่ีเกิดข้นึ ทั้งเสยี ง พลงั ด้วยความมุง่ ม่นั และตงั้ ใจได้ (P) และเส้นผม ข้นั กิจกรรม 3.บ่งชี้ตวั แปรตา่ ง ๆ ตั้งสมมุติฐาน และสรุปผลการทดลองได้ (P) 2.นักเรียนร่วมกนั ตัง้ ประเดน็ ปัญหา เพื่อใหเ้ กิดความสงสัยและต้องการ 4.มีความมงุ่ ม่นั และต้ังใจ (A) หาค้าตอบด้วยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ จากการน้าเสนอของ เพือ่ นในกจิ กรรมข้อ 1.1 และ 1.2 วา่ เกดิ จากอะไร (นกั เรียนอาจบอก สาระการเรียนรู้ วา่ มกี ารเสียดสี การขัดถู) โดยนักเรียนร่วมกันสังเกตการขดั ถกู นั ของ วัตถุท้าให้เกดิ อะไรข้นึ และตอบคา้ ถามส้าคญั ดงั น้ี เมือ่ วัตถุ 2 ชนดิ ขัด วตั ถุ 2 ชนิดที่ผ่านการขดั ถูแล้ว เมอื่ น้าเข้าใกลก้ ันอาจ ถกู นั จะเกดิ อะไรข้ึน (ตัวอยา่ งค้าตอบ เมื่อวตั ถุ 2 ชนิดขัดถูกนั จะเกิด ดงึ ดูดหรอื ผลกั กัน แรงท่ีเกิดขึ้นนเ้ี ปน็ แรงไฟฟา้ ซงึ่ เปน็ แรงไม่ ประจุไฟฟา้ สะสมบนวัตถุ คอื แรงไฟฟา้ ที่สามารถดึงดูดวัตถุช้ินเลก็ ๆ สัมผสั เกดิ ขึ้นระหวา่ งวตั ถุทีม่ ปี ระจไุ ฟฟ้า ซ่ึงประจุไฟฟ้ามี 2 เบา ๆ ที่อยู่ใกลไ้ ด้) แรงไฟฟา้ ท่ีเกิดข้ึนมีลักษณะอยา่ งไร (ตัวอย่าง ชนดิ คือ ประจุไฟฟ้าบวกและประจุไฟฟา้ ลบ วตั ถุที่มปี ระจไุ ฟฟา้ ค้าตอบ แรงไฟฟ้าจะมแี รงดูดเกดิ ขึ้น ถา้ วตั ถุมปี ระจไุ ฟฟา้ ตา่ งกัน และ ชนดิ เดียวกนั ผลักกนั ชนิดตรงขา้ มกันดงึ ดูดกัน จะมแี รงผลักเกิดข้นึ ถา้ วัตถมุ ีประจุไฟฟ้าเหมือนกัน) 3. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันท้ากจิ กรรม เรอ่ื ง แรงดึงดูด สมรรถนะสาคัญ และแรงผลักทางไฟฟา้ แล้วบนั ทกึ ผลลงในใบงาน ข้นั สรปุ ● การสือ่ สาร ● การคิด ● การแกป้ ญั หา 4. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันสรปุ ผลการท้ากจิ กรรมและสรุปสง่ิ ที่ ● ทักษะชีวิต เข้าใจเปน็ ความร้รู ่วมกนั เกี่ยวกับแรงดึงดูดและแรงผลกั ทางไฟฟ้าวา่ ○ การใช้เทคโนโลยี วัตถุเม่อื นา้ ไปขัดถูด้วยผ้าแหง้ จะท้าให้เกดิ ประจุไฟฟ้า และวตั ถชุ นิด เดียวกัน จะมปี ระจุไฟฟา้ เหมือนกันเมอื่ นา้ มาใกล้กันจะเกิดแรงผลักกัน คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สว่ นวัตถตุ า่ งชนดิ กันจะมปี ระจไุ ฟฟา้ ตา่ งกนั เมื่อน้ามาใกล้กนั จะเกดิ แรงดึงดูดกนั ○ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อยูอ่ ยา่ งพอเพียง บันทกึ หลงั สอน ○ ซอ่ื สัตย์สุจริต ● มงุ่ มัน่ ในการทา้ งาน ................................................................................................................. ................................................................................................................. ○ มีวินัย ○ รักความเป็นไทย ● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มจี ิตสาธารณะ สอื่ /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. อปุ กรณก์ ารทดลอง 3. ใบงานเรื่อง แรงดึงดูดและแรงผลกั ทางไฟฟา้ 4. ใบกจิ กรรม เรื่อง การเกิดแรงไฟฟ้า การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ลงชือ่ (นางสาวณชั ชา ขจรชัย ) ครูผูส้ อน KPA คลงั สือ่ คณุ ครูหนเู ลก็

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 รหัสวชิ า ว 16101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 ไฟฟ้า ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 เร่อื ง แรงดงึ ดดู และแรงผลกั ทางไฟฟ้า : 2 วนั ท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชัว่ โมง ผู้สอน ................................................. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ว 2.2 ป.6/1 ข้นั นา จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.นักเรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มกนั อย่างรวมพลังวางแผน สังเกต และสา้ รวจ วัตถุทส่ี นใจในโรงเรียนหรอื บ้าน ออกแบบ และลองท้าการทดลอง 1.อธบิ ายการเกิดและผลของแรงไฟฟา้ ซึง่ เกดิ จากวัตถทุ ีผ่ ่าน เหมอื นกบั กิจกรรมที่แล้วเรอ่ื ง แรงดึงดูดและแรงผลักทางไฟฟา้ บนั ทึก การขดั ถไู ด้ (K) ผล พรอ้ มเขยี นรายงานพอสังเขป ขน้ั กจิ กรรม 2.จัดท้าแผนภาพความคิด แรงไฟฟ้า อย่างรวมพลัง ดว้ ย 2. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันอย่างรวมพลังวางแผน ออกแบบ และ ความมุ่งม่ันและต้ังใจได้ (P) สรุปความรู้เกยี่ วกับแรงไฟฟา้ ในแบบแผนภาพความคดิ จัดท้าเป็น ชน้ิ งาน 3.มีความม่งุ ม่ันและต้ังใจ (A) ขั้นสรุป 3.นกั เรียนร่วมกันสรปุ สง่ิ ที่เขา้ ใจเปน็ ความรู้ร่วมกัน ดงั น้ี วัตถุ 2 ชนิด สาระการเรียนรู้ ทผ่ี า่ นการขดั ถกู ันแล้ว เมือ่ น้าเขา้ ใกล้กนั อาจดึงดูดหรอื ผลักกัน แรงที่ เกดิ ขนึ้ น้ีเป็นแรงไฟฟ้า ซ่ึงเป็นแรงไม่สัมผัส เกดิ ข้นึ ระหว่างวัตถทุ มี่ ี วตั ถุ 2 ชนิดทีผ่ า่ นการขัดถูแลว้ เม่ือนา้ เข้าใกล้กนั อาจ ประจุไฟฟา้ ซ่ึงประจุไฟฟา้ มี 2 ชนิด คอื ประจไุ ฟฟ้าบวกและประจุ ดึงดูดหรอื ผลกั กนั แรงที่เกิดขน้ึ นี้เปน็ แรงไฟฟ้า ซ่ึงเป็นแรง ไฟฟา้ ลบ วตั ถทุ ม่ี ีประจุไฟฟ้าชนิดเดียวกันผลักกัน ชนิดตรงข้ามกัน ไม่สมั ผัส เกดิ ข้ึนระหว่างวัตถทุ ่ีมีประจไุ ฟฟ้า ซึ่งประจไุ ฟฟ้า ดงึ ดูดกัน มี 2 ชนิด คือ ประจุไฟฟา้ บวกและประจไุ ฟฟ้าลบ วัตถุท่ีมี ประจุไฟฟา้ ชนิดเดยี วกันผลกั กนั ชนิดตรงข้ามกนั ดึงดูดกัน สมรรถนะสาคัญ ● การคิด ● การแกป้ ัญหา ● การส่อื สาร ○ การใช้เทคโนโลยี ● ทกั ษะชีวิต คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อยู่อยา่ งพอเพียง ○ ซอื่ สัตย์สุจริต ● มงุ่ มัน่ ในการทา้ งาน ○ มีวนิ ัย ○ รกั ความเปน็ ไทย บันทกึ หลังสอน ............................................................................... ● ใฝเ่ รยี นรู้ ○ มีจิตสาธารณะ ............................................................................... ............................................................................... สอื่ /อุปกรณ์/แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) การวัดและประเมิน (คะแนนเตม็ 10) ลงชื่อ (.......................................................) KPA ครูผสู้ อน คลังสอ่ื คณุ ครหู นเู ลก็

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 5 รหัสวิชา ว 16101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 3 ไฟฟา้ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เร่อื ง สญั ลักษณข์ องส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า : 1 วันที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชัว่ โมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ว 2.3 ป.6/1 ว 2.3 ป.6/2 ข้นั นา จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.นกั เรียนสงั เกตสายไฟฟ้า หลอดไฟฟา้ และถา่ นไฟฉาย แลว้ ร่วมกันสนทนาทบทวนประสบการณ์ โดยร่วมกันตอบคา้ ถาม 1.ระบุช่อื และสัญลกั ษณ์ของสว่ นประกอบของวงจรไฟฟ้าได้ (K) กระตนุ้ ความคิด ดังน้ี สิ่งของที่นักเรียนสังเกตมีชอ่ื ว่าอะไรบ้าง 2.สบื สอบขอ้ มูลเกีย่ วกบั ช่อื และสัญลักษณ์ของส่วนประกอบ (สายไฟฟา้ หลอดไฟฟ้า และถา่ นไฟฉาย) นกั เรียนคิดว่าจะท้า ของวงจรไฟฟ้าอยา่ งรวมพลังด้วยความต้ังใจได้ (P) อยา่ งไรให้หลอดไฟฟา้ สวา่ ง (ตัวอยา่ งคา้ ตอบ เม่ือต่อถา่ นไฟฉาย 3.มคี วามต้งั ใจ (A) สายไฟฟ้า และหลอดไฟฟ้าใหค้ รบวงจร จะทา้ ใหม้ กี ระแสไฟฟา้ ใน วงจรไฟฟา้ ทา้ ให้หลอดไฟฟ้าสวา่ งได)้ นักเรยี นรจู้ กั สัญลกั ษณ์ สาระการเรียนรู้ สา้ คญั ของส่วนประกอบของวงจรไฟฟา้ หรือไม่ อะไรบา้ ง สัญลกั ษณท์ สี่ ้าคัญของส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าจะ ข้นั กจิ กรรม ถกู ใช้ในแผนภาพวงจรไฟฟ้า เพือ่ แสดงให้เห็นการต่อเข้า 2.ครใู ห้ความรูแ้ กน่ ักเรียนเก่ียวกับ สัญลกั ษณข์ องส่วนประกอบ ด้วยกันของวงจร ของวงจรไฟฟ้า ขั้นสรุป สมรรถนะสาคญั ● การคิด ○ การแกป้ ญั หา 3. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ สังเกตและอ่านบตั รค้าเกย่ี วกบั ชือ่ และบัตร ภาพสัญลกั ษณข์ องส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า แต่ละกลุ่มร่วมกัน ● การสอื่ สาร ● การใช้เทคโนโลยี วิเคราะห์ และจับคบู่ ัตรค้าชอ่ื กับบัตรภาพให้ถูกต้อง และสัมพันธ์ ● ทกั ษะชีวิต กัน โดยเพ่อื นในช้นั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อยูอ่ ย่างพอเพียง KPA ○ ซื่อสัตย์สุจริต ● มงุ่ มัน่ ในการทา้ งาน บนั ทกึ หลงั สอน ............................................................................... ○ มีวินัย ○ รักความเปน็ ไทย ............................................................................... ............................................................................... ● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มีจติ สาธารณะ ลงชื่อ สอื่ /อปุ กรณ์/แหล่งเรียนรู้ (นางสาวณชั ชา ขจรชยั ) ครูผูส้ อน 1. หนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) 2. สายไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า ถา่ นไฟฉาย 3. บัตรคา้ และบตั รภาพ ชอ่ื สัญลักษณข์ อง สว่ นประกอบของวงจรไฟฟ้า คลงั สอ่ื คณุ ครหู นูเลก็

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 รหสั วิชา ว 16101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ไฟฟา้ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 เรือ่ ง สัญลกั ษณข์ องสว่ นประกอบของวงจรไฟฟ้า : 2 วนั ท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ว 2.3 ป.6/1 ว 2.3 ป.6/2 ขั้นนา จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันสรุปความร้เู กีย่ วกบั ช่ือและ สัญลกั ษณท์ ีส่ า้ คญั ของส่วนประกอบของวงจรไฟฟา้ แล้ว 1. ระบุชอื่ และสัญลักษณ์ของสว่ นประกอบของ วางแผน ออกแบบและจัดท้าเป็นคูม่ ือ ช่อื และสัญลักษณ์ที่ วงจรไฟฟ้าได้ (K) สา้ คัญของส่วนประกอบของวงจรไฟฟา้ ขั้นกจิ กรรม 2. จดั ท้าคมู่ ือชื่อและสญั ลักษณท์ ี่ส้าคญั ของ 2.นักเรยี นร่วมกนั สรปุ สง่ิ ท่ีเข้าใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดังน้ี ส่วนประกอบของวงจรไฟฟา้ อยา่ งรวมพลัง ด้วยความตัง้ ใจ สัญลักษณ์ท่สี ้าคญั ของส่วนประกอบของวงจรไฟฟา้ จะถูกใช้ ได้ (P) ในแผนภาพวงจรไฟฟา้ เพอื่ แสดงให้เห็นการต่อเขา้ ด้วยกัน ของวงจร 3. มคี วามต้ังใจ (A) ขน้ั สรุป 3.ผู้แทนนักเรียนแตล่ ะกลุม่ นา้ เสนอคู่มอื ชือ่ และสัญลักษณท์ ี่ สาระการเรียนรู้ สา้ คัญของส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า โดยวิธจี ัดกิจกรรม Team Game Tournament: TGT โดยจดั แยกใหส้ มาชิก สญั ลักษณท์ สี่ ้าคญั ของส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า กลุม่ ของตนเองกระจายไปทุกกล่มุ ไปรับฟังการนา้ เสนอ และ จะถูกใช้ในแผนภาพวงจรไฟฟ้า เพอื่ แสดงให้เห็น การต่อ ตอบขอ้ ซกั ถามของกลุม่ อื่น เขา้ ด้วยกันของวงจร 4.นักเรียนร่วมกันอภปิ รายสรปุ เกยี่ วกบั วิธีการท้างานให้เหน็ การคิดเชงิ ระบบและวธิ กี ารทา้ งานที่มีแบบแผน สมรรถนะสาคญั ● การคิด ○ การแกป้ ัญหา การวัดและประเมิน (คะแนนเตม็ 10) ● การสื่อสาร ● การใช้เทคโนโลยี ● ทกั ษะชีวิต KPA คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ○ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อยอู่ ย่างพอเพียง บนั ทึกหลังสอน ............................................................................... ○ ซื่อสตั ย์สุจริต ● มุ่งม่ันในการทา้ งาน ............................................................................... ............................................................................... ○ มีวินยั ○ รักความเปน็ ไทย ลงช่ือ ● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มจี ิตสาธารณะ (นางสาวณชั ชา ขจรชัย) ครผู ้สู อน สอ่ื /อุปกรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) คลงั สอื่ คณุ ครหู นเู ลก็

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 รหสั วชิ า ว 16101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 ไฟฟ้า ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 เร่อื ง การต่อวงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ย : 1 วันที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชั่วโมง ผูส้ อน นางสาวณชั ชา ขจรชยั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ว 2.3 ป.6/1 ว 2.3 ป.6/2 ขัน้ นา 1.นกั เรยี นสงั เกตสายไฟฟา้ หลอดไฟฟา้ และถา่ นไฟฉาย โดยร่วมกัน จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตอบค้าถามส้าคัญกระต้นุ ความคดิ ดังนี้ 1.1วงจรไฟฟา้ คืออะไร (วงจรไฟฟา้ คอื การต่อสายไฟฟ้าจาก 1.ระบุส่วนประกอบของวงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ยได้ (K) แหลง่ ก้าเนิดเขา้ เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ให้เกิดเสน้ ทางการไหลของ 2.อธบิ ายหน้าทข่ี องแต่ละองคป์ ระกอบของวงจรไฟฟ้าอย่าง กระแสไฟฟ้า) ง่ายได้ (K) 1.2ส่วนประกอบพื้นฐานของวงจรไฟฟา้ มอี ะไรบา้ ง (ส่วนประกอบ 3.บอกความหมายของวงจรไฟฟ้า วงจรเปิด วงจรปดิ ได้ (K) พ้นื ฐานของวงจรไฟฟา้ ประกอบด้วยแหล่งพลังงานไฟฟา้ อปุ กรณ์ 4.ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม การตอ่ วงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย อยา่ งรวมพลัง ไฟฟา้ และสายไฟฟ้า) ด้วยความมุ่งม่ันและตง้ั ใจได้ (P) 1.3 นักเรียนจะทา้ อยา่ งไรใหห้ ลอดไฟฟ้าสวา่ ง (ตัวอยา่ งคา้ ตอบ เมื่อ 5.บง่ ช้ีตัวแปรต่าง ๆ ต้ังสมมตุ ฐิ าน และสรปุ ผลการทดลอง ตอ่ ถ่านไฟฉาย สายไฟฟา้ และหลอดไฟฟ้าใหค้ รบวงจร ท้าให้มี ได้ (P) กระแสไฟฟา้ ในวงจรไฟฟา้ ทา้ ใหห้ ลอดไฟฟา้ สว่างได้) 6.เขียนแผนภาพและตอ่ วงจรไฟฟ้าอยา่ งง่ายได้ (P) ขัน้ กจิ กรรม 7.มคี วามมงุ่ มั่นและตั้งใจ (A) 2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ท้ากจิ กรรมเรอ่ื ง การต่อวงจรไฟฟา้ อย่าง งา่ ยแล้วบนั ทึกผลลงในใบงาน สาระการเรียนรู้ ขั้นสรุป 3. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันสรุปส่ิงทเ่ี ข้าใจเปน็ ความรู้ร่วมกันเกยี่ วกบั วงจรไฟฟา้ อย่างง่ายประกอบด้วยแหล่งก้าเนิดไฟฟา้ การต่อวงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ยวา่ วงจรไฟฟ้าประกอบด้วย แหล่งก้าเนิด สายไฟฟ้า และเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ หรอื อปุ กรณไ์ ฟฟ้า แหลง่ กา้ เนดิ ไฟฟ้าหรอื ถา่ นไฟฉาย สายไฟฟ้า และเคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ หรอื หลอดไฟฟา้ ไฟฟา้ เช่น ถา่ นไฟฉาย หรอื แบตเตอรี่ ท้าหน้าท่ใี หพ้ ลังงาน เมื่อเช่ือมต่อทั้ง 3 ส่วนด้วยสายไฟฟ้า หรอื วัสดทุ น่ี า้ ไฟฟ้าได้ จะท้าให้ ไฟฟ้า สายไฟฟ้าเป็นตัวนา้ ไฟฟา้ ท้าหนา้ ท่ีเช่อื มตอ่ ระหวา่ ง กระแสไฟฟ้าไหลครบวงจร เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ท้างาน หลอดไฟฟา้ สว่าง แหล่งกา้ เนิดไฟฟา้ และเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าเข้าด้วยกัน เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้ามหี น้าท่ีเปล่ยี นพลังงานไฟฟา้ เป็นพลังงานอื่น สอื่ /อปุ กรณ์/แหลง่ เรียนรู้ สมรรถนะสาคัญ 1. หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) ● การสอื่ สาร ● การคิด ● การแกป้ ัญหา ● ทกั ษะชีวิต 2. อุปกรณก์ ารทดลอง ○ การใช้เทคโนโลยี 3. ใบงานเรอ่ื ง การตอ่ วงจรไฟฟา้ อย่างง่าย 4. ใบกจิ กรรม เร่ือง สว่ นประกอบของวงจรไฟฟา้ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ○ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อยูอ่ ย่างพอเพียง บนั ทกึ หลงั สอน ............................................................................................ ○ ซือ่ สัตย์สจุ ริต ● มงุ่ มน่ั ในการทา้ งาน ............................................................................................ ○ มวี ินยั ○ รักความเป็นไทย . ● ใฝเ่ รยี นรู้ ○ มีจติ สาธารณะ การวดั และประเมิน (คะแนนเต็ม 10) ลงช่ือ (นางสาวณัชชา ขจรชยั ) ครูผู้สอน KPA คลงั สื่อคณุ ครูหนูเลก็

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 8 รหัสวชิ า ว 16101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ไฟฟา้ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 เรอ่ื ง การต่อวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย : 2 วันท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ว 2.3 ป.6/1 ว 2.3 ป.6/2 ขน้ั นา 1.นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั อย่างรวมพลังวางแผน ออกแบบ และ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เขยี นแผนภาพโดยใช้สญั ลกั ษณ์แสดงการต่อวงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ยที่ 1.ระบุส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ยได้ (K) ถูกวิธี วงจรปิด และวงจรเปดิ จากภาพแสดงการต่อวงจรไฟฟา้ ท่ี 2.อธบิ ายหน้าทีข่ องแต่ละองคป์ ระกอบของวงจรไฟฟา้ อย่าง กา้ หนดใหจ้ ดั ท้าเป็นชิ้นงาน (ตัวอยา่ งภาพ และแผนภาพ การตอ่ วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ยทีถ่ กู วิธี วงจรปิด และวงจรเปิด) ง่ายได้ (K) ขั้นกิจกรรม 3.บอกความหมายของวงจรไฟฟ้า วงจรเปดิ วงจรปิดได้ (K) 2.นักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันอย่างรวมพลังวางแผน ออกแบบ และ 4.จัดทา้ แผนภาพวงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ย ประดิษฐว์ งจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย จดั ท้าเปน็ ชิ้นงาน ข้ันสรปุ อย่างรวมพลัง ด้วยความมงุ่ มั่นและตั้งใจได้ (P) 3.นกั เรียนร่วมกนั สรุปสง่ิ ท่ีเขา้ ใจเป็นความรูร้ ่วมกัน ดงั นี้ 5.ขียนแผนภาพและตอ่ วงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ยได้ (P) วงจรไฟฟา้ อย่างง่ายประกอบด้วย แหล่งก้าเนิดไฟฟา้ สายไฟฟ้า 6.มคี วามมงุ่ มั่นและตั้งใจ (A) และเครื่องใช้ไฟฟ้าหรอื อปุ กรณไ์ ฟฟ้า แหล่งกา้ เนิดไฟฟา้ เช่น ถ่านไฟฉาย หรอื แบตเตอรี่ ทา้ หน้าทใ่ี หพ้ ลงั งานไฟฟา้ สายไฟฟ้า สาระการเรียนรู้ เป็นตัวนา้ ไฟฟ้า ท้าหน้าทีเ่ ชือ่ มต่อระหว่างแหล่งกา้ เนิดไฟฟ้าและ เครอื่ งใช้ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ มหี นา้ ทีเ่ ปล่ยี นพลงั งาน วงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ยประกอบด้วย แหล่งก้าเนิดไฟฟ้า ไฟฟ้าเป็นพลังงานอื่น สายไฟฟา้ และเครอ่ื งใช้ไฟฟา้ หรอื อปุ กรณ์ไฟฟ้า แหลง่ ก้าเนิด ไฟฟ้า เช่น ถา่ นไฟฉาย หรอื แบตเตอรี่ ท้าหน้าทีใ่ ห้พลังงาน สอื่ /อปุ กรณ/์ แหล่งเรียนรู้ ไฟฟา้ สายไฟฟ้าเปน็ ตัวน้าไฟฟา้ ท้าหน้าที่เช่อื มต่อระหว่าง แหล่งกา้ เนิดไฟฟ้าและเคร่อื งใช้ไฟฟา้ เข้าด้วยกนั 1. หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 เครอื่ งใช้ไฟฟ้ามหี น้าที่เปลย่ี นพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานอ่นื ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) สมรรถนะสาคญั ● การสือ่ สาร ● การคดิ ● การแก้ปัญหา ● ทกั ษะชีวิต ○ การใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ บนั ทกึ หลังสอน ............................................................................... ○ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อย่อู ยา่ งพอเพียง ............................................................................... ............................................................................... ○ ซอื่ สัตย์สุจริต ● มงุ่ มน่ั ในการทา้ งาน ลงชอ่ื ○ มวี นิ ยั ○ รักความเปน็ ไทย (นางสาวณัชชา ขจรชัย) ครผู ้สู อน ● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มีจิตสาธารณะ การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) KPA คลงั สื่อคุณครูหนูเลก็

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 9 รหสั วชิ า ว 16101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 ไฟฟา้ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เร่อื ง ตวั น้าไฟฟา้ และฉนวนไฟฟ้า : 1 วนั ที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผสู้ อน นางสาวณชั ชา ขจรชัย มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ว 2.3 ป.6/1 ขนั้ นา จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.นกั เรียนสงั เกตวัตถุต่าง ๆ เช่น ลวดเสียบกระดาษ กระดาษ ตะปู หลอดพลาสตกิ เขม็ หมุด แล้วครตู ้ังค้าถาม “วัตถุชนดิ ใดบา้ งนา้ ไฟฟ้า 1.ระบุสมบัติของวัตถุที่นา้ ไฟฟา้ ได้ (K) และชนิดใดบา้ งไม่น้าไฟฟา้ (ตัวอย่างค้าตอบ ลวดเสยี บกระดาษ เขม็ 2.บอกความหมายของตัวน้า ฉนวน ตัวตา้ นทาน และไฟฟ้า หมดุ และตะปู เปน็ วตั ถุทน่ี า้ ไฟฟา้ ส่วนกระดาษและหลอดพลาสตกิ ลัดวงจรได้ (K) เป็นวัตถทุ ่ีไม่นา้ ไฟฟ้า) นกั เรียนสามารถใช้วสั ดุอ่นื แทนสายไฟฟา้ ใน 3.ปฏิบัตกิ ิจกรรม ตัวน้าไฟฟ้าและฉนวนไฟฟ้า อยา่ งรวม วงจรไฟฟา้ ได้หรือไม่ (ตัวอยา่ งค้าตอบ ได้ โดยเลือกใช้วัสดุทมี่ ีสมบัตินา้ พลงั ด้วยความม่งุ ม่ันและตั้งใจได้ (P) ไฟฟา้ )” 4.บง่ ช้ีตัวแปรตา่ ง ๆ ตั้งสมมตุ ิฐาน และสรปุ ผลการทดลอง ข้ันกจิ กรรม ได้ (P) 2. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ทา้ กจิ กรรมเรอื่ ง ตัวน้าไฟฟ้าและ 5.ทดสอบการนา้ ไฟฟ้าของวัตถุต่าง ๆ ได้ (P) ฉนวนไฟฟา้ แล้วบันทึกผลลงในใบงาน 6.จัดจา้ แนกวตั ถตุ ามความสามารถในการน้าไฟฟ้าได้ (P) ขน้ั สรปุ 7.มีความมงุ่ มั่นและต้ังใจ (A) 3. ครูต้ังค้าถามเพอื่ ใหน้ ักเรยี นคิด “ไฟฟ้าลดั วงจรคืออะไร (การท่ลี วดสายไฟฟา้ ในวงจรไฟฟา้ สมั ผัสกันในกรณที ฉี่ นวนห้มุ สาระการเรยี นรู้ สายไฟฟา้ ช้ารุด ทา้ ใหไ้ ฟฟา้ ครบวงจรก่อนที่ประจไุ ฟฟา้ จะไหลผ่าน เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ) เหตใุ ดจึงควรตรวจสอบสายไฟฟ้าในบ้านอย่างสม้่า วัสดุที่ให้ประจไุ ฟฟ้าไหลผ่านได้ เรยี กวา่ ตัวน้า วัสดุที่ไมใ่ ห้ เสมอ (เพราะถา้ สายไฟฟา้ ร่ัว หรือชา้ รุดจะท้าให้เกดิ ไฟฟ้าลัดวงจร ซ่งึ ประจไุ ฟฟา้ ไหลผ่าน เรยี กว่า ฉนวน ตัวนา้ มคี วามตา้ นทาน เป็นสาเหตุใหไ้ ฟไหมไ้ ด้)” การไหลของประจไุ ฟฟ้าน้อยวัสดุทม่ี คี วามตา้ นทานการไหล 4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันสรปุ ส่ิงทเ่ี ขา้ ใจเปน็ ความรู้ร่วมกนั เก่ยี วกบั ของประจไุ ฟฟา้ แต่ยอมใหป้ ระจไุ ฟฟ้าไหลผา่ นได้ เรยี กว่า ตวั ตัวนา้ ไฟฟา้ และฉนวนไฟฟ้าว่า วัสดุทนี่ า้ ไฟฟ้าได้ เมื่อตอ่ กับวงจรไฟฟ้า ตา้ นทานไฟฟ้าลัดวงจรเกดิ จากการทีล่ วดสายไฟฟ้าสมั ผัสกนั จะทา้ ใหห้ ลอดไฟฟา้ สว่าง เรียกว่า ตัวนา้ ไฟฟา้ สว่ นวัสดุทีไ่ ม่นา้ ไฟฟ้า กอ่ นทปี่ ระจุไฟฟ้าจะไหลผ่านเคร่ืองใช้ไฟฟา้ ทา้ ให้เกดิ ความ เมอ่ื ตอ่ กับวงจรไฟฟ้า จะทา้ ให้หลอดไฟฟ้าไม่สว่าง เรียกว่า ฉนวนไฟฟา้ ร้อนสูงมาก อาจเปน็ สาเหตขุ องไฟไหมไ้ ด้ ฉนวนช่วยป้องกัน การเกิดไฟฟา้ ลัดวงจร สอ่ื /อุปกรณ์/แหล่งเรยี นรู้ สมรรถนะสาคญั 1. หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ของสถาบันพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) ● การสือ่ สาร ● การคิด ● การแกป้ ญั หา 2. อปุ กรณ์การทดลอง ● ทกั ษะชีวิต 3. ใบงานเร่อื ง ตัวนา้ ไฟฟา้ และฉนวนไฟฟา้ ○ การใชเ้ ทคโนโลยี บนั ทึกหลังสอน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ .......................................................................................... .......................................................................................... ○ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพียง ○ ซ่ือสตั ย์สจุ ริต ● ม่งุ มั่นในการทา้ งาน ○ มวี นิ ัย ○ รกั ความเป็นไทย ● ใฝ่เรียนรู้ ○ มีจติ สาธารณะ การวดั และประเมิน (คะแนนเตม็ 10) ลงชื่อ (นางสาวณัชชา ขจรชัย) ครูผสู้ อน KPA คลังส่ือคุณครูหนูเลก็

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 10 รหสั วิชา ว 16101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 ไฟฟ้า ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เร่ือง ตัวนา้ ไฟฟา้ และฉนวนไฟฟา้ : 2 วนั ท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชัย มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ว 2.3 ป.6/1 ขน้ั นา จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันอย่างรวมพลังวางแผน สังเกต ส้ารวจวัตถุ ท่ีเปน็ ตัวนา้ ไฟฟ้า และฉนวนไฟฟา้ ท่ีพบในชีวิตประจา้ วัน แลว้ 1.ระบสุ มบัตขิ องวัตถุที่นา้ ไฟฟา้ ได้ (K) ถ่ายภาพ หรอื วาดภาพและระบายสี น้ามาจดั จ้าแนกในแบบโปสเตอร์ 2.บอกความหมายของตัวน้า ฉนวน ตัวต้านทาน และไฟฟา้ จัดท้าเป็นช้นิ งาน ลดั วงจรได้ (K) ขน้ั กจิ กรรม 3.จัดท้าโปสเตอร์ ตัวน้าไฟฟา้ และฉนวนไฟฟ้า อยา่ งรวม 2.นักเรยี นร่วมกนั สรปุ ส่งิ ท่ีเข้าใจเป็นความร้รู ่วมกนั ดังนี้ พลัง ด้วยความมงุ่ มั่นและตั้งใจได้ (P) วัสดทุ ใ่ี หป้ ระจไุ ฟฟา้ ไหลผา่ นได้ เรียกวา่ ตัวนา้ วสั ดุทไ่ี ม่ใหป้ ระจุไฟฟา้ 4.จดั จ้าแนกวัตถุตามความสามารถในการนา้ ไฟฟ้าได้ (P) ไหลผ่าน เรยี กวา่ ฉนวน ตัวน้ามีความตา้ นทานการไหลของประจุ 5.มีความมุ่งม่ันและตั้งใจ (A) ไฟฟา้ นอ้ ย วัสดุที่มคี วามตา้ นทานการไหลของประจุไฟฟา้ แต่ยอมให้ ประจไุ ฟฟา้ ไหลผา่ นได้ เรยี กวา่ ตัวตา้ นทาน ไฟฟา้ ลดั วงจรเกิดจาก สาระการเรียนรู้ การท่ีลวดสายไฟฟ้าสมั ผัสกนั ก่อนท่ีประจุไฟฟ้าจะไหลผา่ น เคร่อื งใช้ไฟฟ้า ทา้ ให้เกดิ ความร้อนสูงมาก อาจเป็นสาเหตุของไฟไหม้ วัสดุทใี่ ห้ประจไุ ฟฟา้ ไหลผ่านได้ เรียกว่า ตัวนา้ วสั ดทุ ่ีไมใ่ ห้ ได้ ฉนวนช่วยป้องกนั การเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ประจไุ ฟฟา้ ผา่ น เรียกว่า ฉนวน ตัวน้ามีความต้านทานการไหล ขั้นสรุป ของประจุไฟฟา้ นอ้ ยวสั ดุท่ีมีความตา้ นทานการไหลของประจุ 3.นักเรยี นแต่ละกล่มุ ไฟฟา้ แตย่ อมใหป้ ระจุไฟฟา้ ไหลผา่ นได้ เรียกว่า ตัวต้านทาน ร่วมกันอย่างรวมพลงั ไฟฟา้ ลดั วงจรเกดิ จากการที่ลวดสายไฟฟา้ สมั ผสั กนั กอ่ นท่ี สรปุ หลักการเกีย่ วกบั ประจุไฟฟ้าจะไหลผ่านเครือ่ งใช้ไฟฟ้า ท้าให้เกิดความรอ้ นสูง วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย มาก อาจเปน็ สาเหตขุ องไฟไหมไ้ ด้ ฉนวนช่วยปอ้ งกันการเกดิ ตวั นา้ ไฟฟา้ และฉนวน ไฟฟา้ ลัดวงจร ไฟฟา้ แล้ววางแผน ออกแบบ และเขยี น สมรรถนะสาคัญ ● การคดิ ● การแกป้ ญั หา ในแบบผังความคิด ในกระดาษฟลิปชาร์ต ● การส่ือสาร ○ การใชเ้ ทคโนโลยี สอ่ื /อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ ● ทกั ษะชีวิต 1. หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ○ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยู่อยา่ งพอเพียง บนั ทึกหลังสอน ............................................................................... ○ ซ่อื สัตย์สุจริต ● มุง่ มนั่ ในการทา้ งาน ............................................................................... ○ มีวินยั ○ รักความเปน็ ไทย ● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ลงช่ือ (นางสาวณชั ชา ขจรชัย) ครผู ูส้ อน KPA คลังสอื่ คณุ ครูหนูเลก็

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 11 รหสั วชิ า ว 16101 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ไฟฟ้า ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 เร่อื ง เซลลไ์ ฟฟา้ เคมี : 1 วันท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง ผสู้ อน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ว 2.3 ป.6/1 ข้ันนา 1.นกั เรียนร่วมกันสนทนาทบทวนประสบการณเ์ กย่ี วกบั แหลง่ พลงั งานไฟฟ้า จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ โดยรว่ มกันบอกแหลง่ พลงั งานไฟฟา้ ท่นี ักเรียนรูจ้ ัก ผ้แู ทนนกั เรียนบันทกึ ค้าตอบบนกระดาน ในแบบแผนภาพความคิด 1.ระบุแหล่งพลังงานไฟฟ้าได้ (K) ขน้ั กิจกรรม 2.บอกสว่ นประกอบของถา่ นไฟฉายได้ (K) 2.นกั เรียนรว่ มกันสังเกตวงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ย และตวั นา้ ไฟฟา้ แลว้ ร่วมกันตอบ 3.อธิบายหลกั การท้างานของถา่ นไฟฉายได้ (K) ค้าถามเกีย่ วกับส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า การไหลของประจุไฟฟ้าในวงจร 4.ปฏบิ ัติกจิ กรรม เซลล์ไฟฟ้าจากผลไม้ อยา่ งรวมพลัง ด้วย แลว้ บอกความเข้าใจเก่ียวกับแหลง่ พลังงานไฟฟา้ หรือถา่ นไฟฉาย และตง้ั ความมงุ่ มั่นและต้ังใจได้ (P) คา้ ถามทสี่ นใจเก่ียวกบั ถา่ นไฟฉายเพื่อโยงไปสู่คา้ ถามสา้ คัญกระตุ้นความคดิ 5.มีความมงุ่ ม่ันและตั้งใจ (A) ดังน้ี วสั ดธุ รรมชาติสามารถเป็นแหล่งกา้ เนิดไฟฟา้ ไดห้ รอื ไม่ (ตวั อยา่ งคา้ ตอบ วสั ดุธรรมชาติบางชนดิ เปน็ แหล่งก้าเนิดไฟฟา้ ได้ เช่น ผลไมท้ ม่ี ีรสเปร้ยี ว สาระการเรยี นรู้ (มะนาว) มันฝรง่ั ) ถา่ นไฟฉายใหพ้ ลังงานไฟฟา้ ได้อยา่ งไร (ตัวอยา่ งค้าตอบ ถา่ นไฟฉายประกอบดว้ ยภาชนะสังกะสี ภายในมขี องผสมเปียกชื้นท่นี า้ ไฟฟา้ ได้ ถ่านไฟฉายประกอบด้วย วัสดุสองชนิดท้าหนา้ ที่เป็น บรรจอุ ยู่ โดยมแี ทง่ คารบ์ อนเสียบอยูต่ รงกลาง การเปลย่ี นแปลงทางเคมีที่ ข้ัวไฟฟ้าบวกและข้ัวไฟฟ้าลบ และสารทเี่ ปน็ ของผสมเปียกชน้ื เกดิ ข้ึนในของผสมท้าใหอ้ เิ ล็กตรอนสะสมอยู่ทีภ่ าชนะสังกะสี จึงทา้ หนา้ ท่ีเปน็ ทน่ี า้ ไฟฟ้าได้ ถา้ ต่อข้วั ไฟฟ้าบวกและลบด้วยสายไฟฟ้าจนครบ ขั้วลบ สว่ นแทง่ คารบ์ อนมีอะตอมทข่ี าดอิเล็กตรอน จงึ ท้าหนา้ ท่เี ป็นขั้วบวก วงจร จะมีกระแสไฟฟา้ ในวงจร ถา่ นไฟฉาย แบตเตอร่ี เครอื่ ง เมื่อต่อสายไฟฟ้าจนครบวงจร ทา้ ให้มีประจไุ ฟฟา้ ไหลในวงจร) ก้าเนดิ ไฟฟ้าหรอื ไดนาโม และไฟฟา้ จากสงิ่ มีชีวิต เป็นแหล่ง 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทา้ กจิ กรรมเรอื่ ง เซลล์ไฟฟา้ จากผลไมแ้ ล้วบันทึก พลงั งาน ผลลงในใบงาน ข้ันสรปุ สมรรถนะสาคัญ 4. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันสรุปผลการทา้ กจิ กรรมและสรปุ ส่ิงที่เข้าใจเป็น ความรูร้ ่วมกนั เกีย่ วกบั แหลง่ พลังงานไฟฟา้ วา่ มะนาว แผน่ สังกะสี และแผ่น ● การสอ่ื สาร ● การคิด ● การแกป้ ัญหา ทองแดง สามารถทา้ หน้าทเ่ี ป็นแหล่งกา้ เนิดไฟฟ้าได้ เน่อื งจากในมะนาวสง่ ผล ● ทกั ษะชีวิต ตอ่ การแลกเปลย่ี นประจุไฟฟา้ ลบของแผน่ โลหะทั้งสองชนิด กระแสไฟฟ้า ● การใชเ้ ทคโนโลยี จงึ ไหลในวงจร ท้าใหห้ ลอดไฟฟา้ สว่างขน้ึ -ถ่านไฟฉาย แบตเตอร่ี และเคร่ืองก้าเนิดไฟฟา้ เป็นแหลง่ พลังงานไฟฟ้า คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ -ถ่านไฟฉายประกอบดว้ ยวตั ถุสองชนดิ ทา้ หนา้ ทเี่ ป็นขัว้ ไฟฟ้าบวกและข้วั ไฟฟา้ ลบ โดยมีของผสมเปียกช้ืนที่น้าไฟฟา้ ไดอ้ ยู่ระหวา่ งกลาง เมอื่ ต่อสายไฟฟา้ กบั ○ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อย่อู ยา่ งพอเพียง ขั้วบวกและข้ัวลบจนครบวงจร จะมกี ระแสไฟฟา้ ในวงจร ○ ซื่อสัตย์สจุ ริต ● มุ่งม่ันในการทา้ งาน ○ มีวินยั ○ รกั ความเปน็ ไทย ● ใฝเ่ รยี นรู้ ○ มีจิตสาธารณะ สอื่ /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ บันทึกหลงั สอน ............................................................................... 1. หนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ............................................................................... ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. อปุ กรณ์การทดลอง 3. ใบงานเรอ่ื ง เซลลไ์ ฟฟา้ จากผลไม้ การวัดและประเมิน (คะแนนเต็ม 10) ลงชือ่ (นางสาวณชั ชา ขจรชัย) KPA ครูผสู้ อน คลังสื่อคณุ ครหู นูเลก็

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 12 รหัสวชิ า ว 16101 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ไฟฟ้า ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เรือ่ ง เซลล์ไฟฟ้าเคมี : 2 วันที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชัย มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัด การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ว 2.3 ป.6/1 ข้นั นา 1.นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั อยา่ งรวมพลังวางแผน ออกแบบ และ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ทดลองนา้ ผลไม้ชนิดอื่น เช่น มะนาว แอปเปลิ แทนมนั ฝร่งั และใช้ แผ่นโลหะชนดิ อน่ื ๆ แล้วร่วมกนั อภปิ รายวา่ นกั เรยี นจะทราบได้ 1.ระบุแหลง่ พลังงานไฟฟา้ ได้ บอกส่วนประกอบของ อย่างไรวา่ ผลไม้ชนดิ ใด และโลหะคูใ่ ดให้พลงั งานไฟฟา้ ได้มากกวา่ กัน ถ่านไฟฉายได้และอธิบายหลักการท้างานของถา่ นไฟฉายได้ (K) (ตวั อยา่ งค้าตอบ ถา้ เขม็ ของแอมมิเตอรเ์ บนไปมากกวา่ แสดงวา่ ให้ พลังงานไฟฟา้ มากกวา่ ) 2.จดั ทา้ โครงงาน การทา้ งานของถา่ นไฟฉายท่ีใชอ้ ุปกรณ์ ขั้นกจิ กรรม การทดลองแตกตา่ งกัน เพื่อศกึ ษาอุปกรณ์การทดลองท่ี 2.นักเรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันอย่างรวมพลังวางแผน ทา้ โครงงาน เหมาะสมทแ่ี สดงการทา้ งานของถา่ นไฟฉายได้ชดั เจน อย่างรวม เกยี่ วกับการทา้ งานของถา่ นไฟฉายท่ใี ชอ้ ุปกรณ์การทดลองแตกตา่ งกัน พลงั ด้วยความมงุ่ ม่ันและตั้งใจได้ (P) เพอ่ื ศกึ ษาอุปกรณ์การทดลองท่ีเหมาะสมที่แสดงการทา้ งานของ ถ่านไฟฉายได้ชัดเจน แล้วรวบรวมข้อมูล นา้ เสนอในแบบแผงโครงงาน 3.มคี วามมุ่งม่ันและตั้งใจ (A) จดั ทา้ เป็นช้ินงาน ขั้นสรปุ สาระการเรียนรู้ 3.นักเรยี นร่วมกนั สรปุ สง่ิ ท่ีเข้าใจ เป็นความร้รู ่วมกนั ดังน้ี ถ่านไฟฉายประกอบด้วย วตั ถสุ องชนดิ ทา้ หนา้ ทีเ่ ปน็ ถ่านไฟฉายประกอบด้วย วัตถุสอง ขวั้ ไฟฟา้ บวกและขั้วไฟฟ้าลบ และสารท่ีเป็นของผสมเปียก ชนิดทา้ หน้าทเี่ ป็นขั้วไฟฟ้าบวกและ ชื้นที่น้าไฟฟ้าได้ ถ้าต่อข้ัวไฟฟา้ บวกและลบด้วยสายไฟฟ้าจน ขั้วไฟฟ้าลบและสารทเ่ี ป็นของผสม ครบวงจร จะมีกระแสไฟฟา้ ในวงจร ถา่ นไฟฉาย แบตเตอรี่ เปียกชื้นท่ีนา้ ไฟฟา้ ได้ ถ้าตอ่ ขั้วไฟฟ้า เคร่ืองกา้ เนิดไฟฟา้ หรือไดนาโม และไฟฟ้าจากสง่ิ มชี ีวิต เปน็ บวกและลบด้วยสายไฟฟ้าจนครบ แหล่งพลังงาน วงจร จะมีกระแสไฟฟา้ ในวงจร ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่ เครือ่ งก้าเนิด สมรรถนะสาคัญ ไฟฟา้ หรอื ไดนาโม และไฟฟ้าจาก ส่งิ มีชีวิต เป็นแหล่งพลังงาน ● การสื่อสาร ● การคดิ ● การแก้ปัญหา ● ทักษะชีวิต บันทึกหลงั สอน ○ การใชเ้ ทคโนโลยี ............................................................................... ............................................................................... คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ............................................................................... ○ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยู่อย่างพอเพียง ลงช่อื (นางสาวณชั ชา ขจรชัย) ○ ซ่อื สัตย์สจุ ริต ● มงุ่ มน่ั ในการทา้ งาน ครูผูส้ อน ○ มีวนิ ัย ○ รักความเป็นไทย ● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มจี ิตสาธารณะ สอื่ /อปุ กรณ์/แหลง่ เรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) การวัดและประเมิน (คะแนนเต็ม 10) KPA คลงั สอื่ คุณครหู นูเลก็

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 13 รหัสวิชา ว 16101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 ไฟฟ้า ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เรอื่ ง การตอ่ เซลล์ไฟฟ้า : 1 วันท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชวั่ โมง ผู้สอน นางสาวณัชชา ขจรชยั มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ว 2.3 ป.6/3 ว 2.3 ป.6/4 ขน้ั นา 1. นักเรยี นสงั เกตกระบอกไฟฉาย แลว้ ครูตั้งคา้ ถาม“ถา้ ตอ้ งการให้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ หลอดไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าสวา่ งมากข้ึน จะต่อวงจรไฟฟ้าอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคา้ ตอบ เพิ่มจา้ นวนเซลลไ์ ฟฟา้ หรอื ถ่านไฟฉาย แลว้ ตอ่ 1.อธบิ ายวิธีการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รมได้ (K) เซลลไ์ ฟฟา้ หรอื ถ่านไฟฉายแบบอนุกรม จะเพิ่มกระแสไฟฟ้า ท้าให้ 2.ปฏบิ ัติกิจกรรม การตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ อยา่ งรวมพลัง ด้วย หลอดไฟฟา้ ในวงจรสวา่ งมากขน้ึ ) การตอ่ เซลล์ไฟฟา้ ในวงจรไฟฟ้า ความมงุ่ ม่ันและตั้งใจได้ (P) แบบใดที่หลอดไฟฟา้ ให้ความสว่างมากทส่ี ดุ (การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้า 2 3.สรปุ ผลการทดลองเพอ่ื ทดสอบสมมุติฐานทต่ี ้ังขน้ึ ได้ (P) ก้อนเรียงต่อกันในวงจรไฟฟ้า)” 4.นา้ ความรเู้ กี่ยวกับการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าไปใช้ประโยชนไ์ ด้ (A) ข้ันกจิ กรรม 5.มีความมุง่ ม่ันและต้ังใจ (A) 2. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันท้ากิจกรรมเร่อื ง การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าแล้ว บนั ทกึ ผลลงในใบงาน สาระการเรียนรู้ ข้นั สรปุ 3. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ร่วมกันสรปุ ผลการทา้ กจิ กรรมและสรปุ สง่ิ ที่ เมอื่ น้าเซลลไ์ ฟฟา้ หลายเซลลม์ าเรยี งต่อกัน โดยใหข้ ้ัวบวก เขา้ ใจเปน็ ความรู้ร่วมกันเกยี่ วกบั การตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ วา่ การตอ่ ของเซลลไ์ ฟฟา้ เซลลห์ น่ึงตอ่ กบั ขัว้ ลบของอีกเซลลห์ น่ึงเป็นการ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รม ส่งผลให้มีกระแสไฟฟา้ ไหลในวงจรไฟฟ้า ตอ่ แบบอนกุ รม ทา้ ใหม้ ีพลงั งานไฟฟา้ เหมาะสมกับเครือ่ งใช้ไฟ เพิ่มขึ้น หลอดไฟฟ้าสว่างมากข้ึน ความสวา่ งของหลอดไฟฟา้ ทเ่ี กิดข้ึน ฟ้า ซงึ่ การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรมสามารถน้าไปใชป้ ระโยชน์ ในวงจรไฟฟา้ ข้ึนอย่กู บั จา้ นวนเซลลไ์ ฟฟา้ (ถา่ นไฟฉาย) และลักษณะ ในชีวิตประจา้ วัน เช่น การตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ ในไฟฉาย การต่อเซลล์ไฟฟา้ ในวงจร สมรรถนะสาคญั 1.จา้ นวนเซลลไ์ ฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า ถา้ จ้านวนเซลลไ์ ฟฟ้าในวงจร มากจะให้พลังงานไฟฟ้ามาก มผี ลใหก้ ระแสไฟฟ้าทผี่ ่านหลอดไฟฟ้า ● การสอื่ สาร ● การคิด ● การแก้ปัญหา มากข้นึ ท้าใหห้ ลอดไฟฟา้ สว่างมากขึน้ ● ทกั ษะชีวิต ○ การใช้เทคโนโลยี 2.ลกั ษณะการต่อเซลลไ์ ฟฟา้ ในวงจรไฟฟ้า (อธบิ ายการตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบอนุกรมและแบบขนาน) คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ บนั ทกึ หลังสอน ○ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ● อยู่อยา่ งพอเพียง ............................................................................... ............................................................................... ○ ซ่ือสตั ย์สุจริต ● มุง่ ม่ันในการทา้ งาน ............................................................................... ○ มีวินัย ○ รกั ความเป็นไทย ลงช่อื (นางสาวณชั ชา ขจรชัย) ● ใฝเ่ รยี นรู้ ○ มีจิตสาธารณะ ครูผสู้ อน สอ่ื /อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. อปุ กรณก์ ารทดลอง 3. ใบงานเรอ่ื ง การต่อเซลลไ์ ฟฟ้า การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) KPA คลังสอื่ คณุ ครหู นูเลก็

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 14 รหัสวชิ า ว 16101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 ไฟฟ้า ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 เร่อื ง การต่อเซลล์ไฟฟ้า : 2 วนั ที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชัว่ โมง ผสู้ อน นางสาวณชั ชา ขจรชยั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ว 2.3 ป.6/3 ว 2.3 ป.6/4 ขนั้ นา จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันอยา่ งรวมพลังสรปุ ความรดู้ ้วย ตนเองเกี่ยวกับการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน 1.อธบิ ายวิธีการตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รมได้ (K) ในวงจรไฟฟา้ แล้ววางแผน ออกแบบ และเขียนเป็นผังมโน 2.จัดท้า ประดิษฐ์สง่ิ ประดษิ ฐข์ องเล่น ของใช้ การตอ่ ทศั นใ์ นกระดาษฟลปิ ชารต์ เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบขนานในวงจรไฟฟา้ ขน้ั กจิ กรรม อยา่ งรวมพลัง ด้วยความมงุ่ มั่นต้ังใจ และพอเพียง (P) 2.นกั เรียนเชอ่ื มโยงความรู้กับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ 3.น้าความรู้เกีย่ วกับการตอ่ เซลล์ไฟฟา้ ไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ (A) พอเพยี ง โดยนกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั อยา่ งรวมพลังวางแผน 4.มคี วามม่งุ ม่ัน ต้ังใจ และพอเพยี ง (A) ออกแบบ และประดิษฐส์ ่ิงประดิษฐข์ องเล่น ของใช้ จากการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนุกรม และแบบขนานใน สาระการเรียนรู้ วงจรไฟฟา้ โดยเลือกใช้วัสดอุ ยา่ งประหยัดและคมุ้ คา่ จดั ทา้ เป็นชนิ้ งาน เมือ่ น้าเซลลไ์ ฟฟ้าหลายเซลล์มาต่อเรียงกนั โดยให้ ข้นั สรุป ขั้วบวกของเซลลไ์ ฟฟา้ เซลลห์ น่ึงตอ่ กับขั้วลบ ของอีกเซลล์ 3.นกั เรยี นร่วมกนั สรุปส่ิงท่ีเข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ หนึ่งเป็นการต่อแบบอนกุ รม ทา้ ให้มีพลงั งานไฟฟา้ เหมาะสม เมอ่ื น้าเซลล์ไฟฟ้าหลายเซลล์มาตอ่ เรยี งกนั โดยให้ขั้วบวกของ กับเครือ่ งใช้ไฟฟา้ ซงึ่ การต่อเซลล์ไฟฟา้ แบบอนกุ รมสามารถ เซลล์ไฟฟา้ เซลล์หนึ่งต่อกบั ขั้วลบของอีกเซลล์หน่ึงเป็นการต่อ นา้ ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจ้าวนั เช่น การต่อเซลล์ไฟฟ้า แบบอนกุ รม ท้าให้มพี ลังงานไฟฟา้ เหมาะสมกบั เครื่องใช้ไฟฟา้ ในไฟฉาย ซึ่งการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รมสามารถนา้ ไปใช้ประโยชนใ์ น ชีวิตประจ้าวนั เชน่ การตอ่ เซลล์ไฟฟ้าในไฟฉาย สมรรถนะสาคญั การวัดและประเมิน (คะแนนเต็ม 10) ● การสอื่ สาร ● การคดิ ● การแกป้ ัญหา ● ทกั ษะชีวิต KPA ○ การใช้เทคโนโลยี บันทกึ หลงั สอน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ............................................................................... ............................................................................... ○ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ● อยู่อย่างพอเพียง ............................................................................... ○ ซอื่ สตั ย์สุจริต ● มุ่งม่ันในการทา้ งาน ลงช่อื (นางสาวณชั ชา ขจรชัย) ○ มวี ินัย ○ รกั ความเป็นไทย ครผู สู้ อน ● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มีจติ สาธารณะ สอ่ื /อุปกรณ์/แหลง่ เรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. อปุ กรณก์ ารทดลอง 3. ใบงานเรื่อง การตอ่ เซลล์ไฟฟ้า คลงั สื่อคณุ ครูหนเู ลก็

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 15 รหสั วิชา ว 16101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 ไฟฟา้ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 เรื่อง การตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบขนาน : 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชวั่ โมง วนั ที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ผสู้ อน นางสาวณชั ชา ขจรชยั มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัด การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ว 2.3 ป.6/5 ว 2.3 ป.6/6 ขน้ั นา 1.นักเรียนสงั เกตการปิด-เปดิ ไฟแต่ละหลอดภายในชัน้ เรียน หรือ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ภายในบ้านว่ามผี ลกับหลอดไฟฟ้าหรือเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ อน่ื หรอื ไม่ อย่างไร นักเรยี นลงมอื เขียนแผนภาพแสดงการต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าใน 1.อธบิ ายวิธกี ารตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบขนาน บา้ นทเ่ี กิดผลเชน่ นัน้ ได้ บอกประโยชนแ์ ละข้อจา้ กัดของการตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบ 2.ครูตั้งคา้ ถามกระตุ้น “ความสวา่ งของหลอดไฟฟา้ ในการตอ่ แบบ อนุกรมและแบบขนานได้ (K) อนกุ รมและแบบขนานมคี วามเหมอื นหรือแตกต่างกนั อย่างไร(ตวั อย่าง ค้าตอบ ความสวา่ งของหลอดไฟฟ้าทัง้ 2 แบบแตกตา่ งกนั โดยการตอ่ 2.ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม การต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนุกรมและแบบ หลอดไฟฟา้ แบบ 2 หลอดเรยี งกัน (แบบอนุกรม) มีความสวา่ งนอ้ ยกวา่ ขนาน อยา่ งรวมพลัง ด้วยความมุง่ ม่ันและตั้งใจได้ (P) การตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบ 2 หลอดคร่อมกัน (แบบขนาน)” ขน้ั กิจกรรม 3.น้าความรู้เกย่ี วกับการตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและ 3. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ท้ากิจกรรมเรื่อง การตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบ แบบขนานไปใชป้ ระโยชน์ได้ (A) อนุกรมและแบบขนานแล้วบนั ทกึ ผลลงในใบงาน ข้นั สรปุ สาระการเรยี นรู้ 4. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ รว่ มกันสรปุ ผลการท้ากิจกรรมและสรุปสิ่งท่ี การตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรม เมื่อถอดหลอดไฟฟา้ เข้าใจเปน็ ความรรู้ ่วมกนั เกยี่ วกับการตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รมและ แบบขนานว่า การตอ่ หลอดไฟฟา้ มี 2 แบบ คอื การต่อหลอดไฟฟ้า หลอดใดหลอดหนึ่งออกทา้ ใหห้ ลอดไฟฟา้ ท่เี หลือดบั ท้ังหมด แบบอนกุ รมและการตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบขนาน การต่อหลอดไฟฟ้า สว่ นการตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบขนาน เม่อื ถอดหลอดไฟฟา้ หลอด แบบอนุกรม เมอ่ื ถอดหลอดไฟฟ้าหลอดใดหลอดหนึ่งออกทา้ ให้หลอด ใดหลอดหนึ่งออก หลอดไฟฟ้าทเี่ หลือกย็ ังสว่างได้ การต่อ ไฟฟา้ ท่เี หลือดบั ท้ังหมด ส่วนการต่อหลอดไฟฟ้าแบบขนาน เมอื่ ถอด หลอดไฟฟ้าแตล่ ะแบบสามารถน้าไปใช้ประโยชนไ์ ด้ เช่น การ หลอดไฟฟา้ หลอดใดหลอดหนง่ึ ออกหลอดไฟฟ้าทีเ่ หลือก็ยงั สว่างได้ ต่อหลอดไฟฟา้ หลายหลอดในบ้านต้องต่อหลอดไฟฟ้าแบบ ขนาน เพื่อเลอื กใชห้ ลอดไฟฟ้าหลอดใดหลอดหนึ่งได้ตาม ตอ้ งการ สมรรถนะสาคัญ ● การคิด ● การแกป้ ญั หา สอื่ /อุปกรณ์/แหล่งเรยี นรู้ ● การสือ่ สาร ○ การใชเ้ ทคโนโลยี 1. หนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 ● ทักษะชีวิต ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. อปุ กรณ์การทดลอง 3. ใบงานเรอื่ ง การตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน ○ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ● อยอู่ ย่างพอเพียง บันทกึ หลงั สอน ○ ซื่อสตั ย์สจุ ริต ● มุ่งมน่ั ในการทา้ งาน ............................................................................... ............................................................................... ○ มีวนิ ัย ○ รักความเป็นไทย ลงชื่อ ● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มีจติ สาธารณะ (นางสาวณชั ชา ขจรชยั ) ครูผูส้ อน การวดั และประเมิน (คะแนนเตม็ 10) KPA คลังสอ่ื คุณครูหนเู ลก็

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 16 รหสั วชิ า ว 16101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ไฟฟา้ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 เรือ่ ง การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน : 2 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง วนั ท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ผสู้ อน นางสาวณชั ชา ขจรชัย มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ว 2.3 ป.6/5 ว 2.3 ป.6/6 ข้ันนา 1.นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันอยา่ งรวมพลงั สรปุ ความรู้ดว้ ยตนเองเก่ียวกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนุกรมและแบบขนานในวงจรไฟฟ้า แลว้ วางแผน ออกแบบ และเขียนเป็นผงั มโนทศั น์ในกระดาษฟลิปชาร์ต 1.อธิบายวธิ ีการต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนุกรมและแบบขนานได้ บอกประโยชนแ์ ละข้อจา้ กดั ของการต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนกุ รมและ ขั้นกจิ กรรม แบบขนานได้ (K) 2.นักเรยี นเชอ่ื มโยงความรกู้ บั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งโดย นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันอยา่ งรวมพลังวางแผน ออกแบบ และประดษิ ฐ์ 2.จดั ทา้ สิ่งประดษิ ฐ์ การต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบ สง่ิ ประดิษฐ์ของเล่น ของใช้ จากการตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบ ขนานในวงจรไฟฟา้ อยา่ งรวมพลงั ดว้ ยความมงุ่ มน่ั ตั้งใจ และ ขนานในวงจรไฟฟา้ โดยเลอื กใช้วสั ดอุ ยา่ งประหยดั และคุ้มคา่ จดั ท้าเป็น พอเพยี งได้ (P) ช้ินงาน ข้ันสรุป 3.น้าความรู้เกย่ี วกบั การต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบ 3.นักเรยี นร่วมกันสรุปสง่ิ ทเ่ี ขา้ ใจเป็นความรรู้ ่วมกัน ดังนี้ การต่อหลอด ขนานไปใชป้ ระโยชน์ได้ (A) ไฟฟ้าแบบอนกุ รม เม่ือถอดหลอดไฟฟา้ หลอดใดหลอดหนงึ่ ออกทา้ ให้ หลอดไฟฟ้า ท่เี หลือดับท้ังหมด ส่วนการตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบขนาน เมื่อ 4.มคี วามมงุ่ ม่นั ตั้งใจ และพอเพียง (A) ถอดหลอดไฟฟา้ หลอดใดหลอดหนึง่ ออก หลอดไฟฟ้าท่ีเหลือกย็ งั สวา่ งได้ การต่อหลอดไฟฟ้าแตล่ ะแบบสามารถน้าไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น การตอ่ สาระการเรียนรู้ หลอดไฟฟา้ หลายหลอดในบา้ นต้องตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบขนาน เพ่ือเลอื กใช้ หลอดไฟฟ้าหลอดใดหลอดหนงึ่ ได้ตามต้องการ การตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรม เมือ่ ถอดหลอดไฟฟา้ หลอด ใดหลอดหนงึ่ ออกท้าให้หลอดไฟฟา้ ทเ่ี หลอื ดบั ทงั้ หมด สว่ นการต่อ หลอดไฟฟ้าแบบขนาน เม่อื ถอดหลอดไฟฟ้าหลอดใดหลอดหนงึ่ ออก หลอดไฟฟ้าทเ่ี หลือกย็ ังสวา่ งได้ การตอ่ หลอดไฟฟ้าแต่ละ แบบสามารถนา้ ไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ เช่น การต่อหลอดไฟฟ้าหลาย หลอดในบา้ นต้องต่อหลอดไฟฟา้ แบบขนาน เพื่อเลอื กใชห้ ลอด ไฟฟา้ หลอดใดหลอดหน่ึงได้ตามต้องการ สมรรถนะสาคญั ● การสอ่ื สาร ● การคิด ● การแกป้ ญั หา สอื่ /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ ● ทกั ษะชีวิต 1. หนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ● การใชเ้ ทคโนโลยี ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ บนั ทกึ หลังสอน ............................................................................... ○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ● อยู่อยา่ งพอเพียง ............................................................................... ○ ซอ่ื สัตย์สจุ ริต ● มุ่งม่นั ในการทา้ งาน ลงชอื่ (นางสาวณัชชา ขจรชัย) ○ มวี นิ ยั ○ รกั ความเป็นไทย ครูผู้สอน ● ใฝ่เรียนรู้ ○ มจี ิตสาธารณะ การวดั และประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) KPA คลังสื่อคณุ ครูหนเู ลก็


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook