8หน่วยที่ 4 การสร้างตารางOK

สาระสาคญั โปรแกรมประมวลผลคำ Microsoft Word 2016 ได้เตรียมเครื่องมือในกำรสร้ำงตำรำงไว้ หลำกหลำยวิธี ที่ง่ำย สะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งสำมำรถปรับแต่งตำรำงให้เหมำะสมและสวยงำมตำม ควำมต้องกำรได้อีกด้วย เช่น กำรปรับขนำดควำมกว้ำง ควำมสูง กำรเพิ่ม กำรลดจำนวนแถว กำรใส่ สีสนั ใหก้ ับพ้นื หลังช่องเซลล์ เสน้ ขอบ และยงั มตี ำรำงแบบสำเรจ็ รูปท่ีสวยงำมใหเ้ ลอื กใช้อีกด้วย หวั ขอ้ เรื่อง 1. กำรสร้ำงตำรำง 2. กำรจัดกำรกับขอ้ ควำมในตำรำง 3. กำรปรบั ขนำดตำรำง 4. กำรผสำนเซลล์ แยกเซลลแ์ ละแบง่ ตำรำง 5. กำรเพ่มิ /ลบ แถว คอลมั น์หรือตำรำง 6. กำรตกแต่งตำรำง 7. กำรคำนวณและกำรจัดเรียงขอ้ มูลในตำรำง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จดุ ประสงค์ทั่วไป เมื่อเรียนจบนกั เรยี นมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเก่ียวกบั กำรสร้ำงตำรำง กำรจดั กำรกบั ขอ้ ควำมใน ตำรำง กำรปรับขนำดตำรำง กำรผสำนเซลล์ แยกเซลล์และแบ่งตำรำง กำรเพิม่ /ลบ แถว คอลัมน์หรือ ตำรำง กำรตกแต่งตำรำง กำรคำนวณและกำรจัดเรียงข้อมูลในตำรำง อีกท้ังมีควำมรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย มีควำมซอ่ื สัตยส์ ุจริต มคี วำมสนใจใฝ่รู้ และมจี ิตสำธำรณะ

196 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม เมือ่ ศึกษำบทเรยี นนแี้ ล้ว ผู้เรียนสำมำรถ 1. สรำ้ งตำรำงวิธตี ่ำงๆ ได้ถูกต้อง 2. จัดกำรกับข้อควำมในตำรำงได้ 3. ปรบั ขนำดตำรำงตำมท่กี ำหนดได้ 4. ผสำนเซลล์ แยกเซลลแ์ ละแบ่งตำรำงได้ 5. เพม่ิ /ลบ แถว คอลัมนห์ รือตำรำงได้ 6. ตกแตง่ ตำรำงได้ 7. คำนวณและกำรจัดเรยี งข้อมลู ในตำรำงได้ถูกต้อง 8. ปฏบิ ัตงิ ำนด้วยควำมรับผิดชอบ มีระเบยี บวินัย มีควำมซอื่ สตั ยส์ ุจรติ มีควำมสนใจใฝร่ ู้ และมีจติ สำธำรณะ

197 ผงั มโนทัศน์ หนว่ ยท่ี 4 กำรสรำ้ งตำรำง 1.การสร้างตาราง 7.การคานวณและ 2.การจัดการกับ การจัดเรยี งข้อมูล ขอ้ ความใน ตาราง ในตาราง การสร้างตาราง 6.การตกแต่ง 3.การปรับขนาด ตาราง ตาราง 5.การเพ่มิ /ลบ แถว 4.การผสาน คอลัมนห์ รอื ตาราง เซลล์ แยกเซลล์ และแบง่ ตาราง

198 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยท่ี 4 กำรสรำ้ งตำรำง คาชแี้ จง จงทำเครอ่ื งหมำยกำกบำท () ลงในกระดำษคำตอบที่ถูกต้องที่สดุ เพียงขอ้ เดียว 1. ข้อใดคือส่วนประกอบของตำรำง ก. เซลล์ ข. แถว ข. คอลัมน์ ง. ถกู ทกุ ข้อ 2. คำสง่ั ในขอ้ ใดเป็นกำรสร้ำงตำรำงไดร้ วดเร็วท่ีสดุ ก. แทรกตำรำง ข. ตำรำงด่วน ค. แปลงข้อควำมเปน็ ตำรำง ง. วำดตำรำง 3. ปุ่มแปน้ พมิ พ์ข้อใด ใชเ้ ล่อื นตำแหน่งตัวช้ีเมำส์ไปยงั ช่องตำรำงที่อยู่ก่อนหนำ้ ก. <Tab> ข. <Shift>+<Tab> ค. <Alt>+<Page Up> ง. <Alt>+<Page Down> 4. ปุ่มคำสัง่ ในแท็บใด ใช้จัดตำแหนง่ ข้อควำมในตำรำง ก. หน้ำแรก ข. เคำ้ โครง ค. แทรก ง. ขอ้ ก และ ข ถูก 5. กำรระบุควำมกวำ้ งของแถวหรอื คอลมั น์ ใชป้ ่มุ คำสั่งที่แท็บใด ก. เคำ้ โครง (Layout) ข. ออกแบบ (Design) ค. แทรก (Insert) ง. หนำ้ แรก (Home) 6. ปมุ่ คำสงั่ ลบตำรำงคือข้อใด ก. ข. ค. ง. 7. ปมุ่ คำสั่งแยกเซลล์ คือข้อใด ก. ข. ค. ง. 8. ตอ้ งกำรใส่สเี สน้ ขอบละแลเงำ ใชป้ ุ่มคำสั่งใด ก. ข. ค. ง.

199 9. ต้องกำรคำนวณผลรวมตวั เลขท่อี ยดู่ ้ำนซ้ำยตำรำง ต้องใช้สตู รตำมขอ้ ใด ก. =SUM(UNDER) ข. =SUM(RIGHT) ค. =SUM(LEFT) ง. =SUM(ABOVE) 10. ปมุ่ คำสง่ั ใชจ้ ัดเรียงลำดับตำมข้อใด ก. ขอ้ ควำม ข. ตวั เลข ค. รำยกำร ง. ข้อ ก และ ข ถกู

200 1. การสร้างตาราง ตำรำงจะประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ แถว (Row) และคอลัมน์ (Columns) จุดที่ตัดกัน ระหว่ำงแถวกบั คอลมั น์ เรียกว่ำ เซลล์ (Cell) เลอื กตำรำง เลือกคอลมั น์ คอลัมน์ ปรบั ควำมสูงแถว แถว เลอื กแถว ปรบั ควำมกวำ้ งคอลัมน์ เซลล์ ปรับตำรำง รปู ที่ 4.1 ส่วนประกอบของตำรำง ในกำรสร้ำงตำรำงจำกโปรแกรม Microsoft Word มี 6 วธิ ีดงั นี้ 1.1 วธิ ีกำหนดเซลล์อตั โนมตั ิ เปน็ กำรกำหนดช่องตำรำงโดยอัตโนมัติ มีขน้ั ตอนกำรปฏบิ ตั ิดังนี้ 1. คลิกวำงเคอร์เซอร์ตำแหน่งทต่ี ้องกำรสรำ้ งตำรำง 2. ทีแ่ ทบ็ แทรก (Insert) คลิกปมุ่ ตำรำง (Table) จะปรำกฏกล่องตำรำง 3. ลำกเม้ำส์กำหนดจำนวนแถวและคอลมั น์ทต่ี ้องกำร 4. ได้ผลลพั ธต์ ำรำงตำมท่ตี ้องกำร แท็บ แทรก 2 คลกิ ปุ่ม ตาราง 3 ลำกเมำสก์ ำหนดจำนวนแถวและคอลัมน์ | 1 คลิกวำงเคอร์เซอรต์ ำแหน่งท่ีตอ้ งกำร 4 ไดผ้ ลลัพธต์ ำรำงทต่ี ้องกำร รูปท่ี 4.2 แสดงขนั้ ตอนกำรสรำ้ งตำรำงแบบกำหนดเซลล์อัตโนมัติ

201 1.2 วิธีกำหนดเอง เป็นกำรสร้ำงตำรำงด้วยกำรระบุจำนวนคอลัมน์และจำนวนแถวตำมท่ีต้องกำร นิยมใช้ กับกำรระบุตำรำงทีม่ จี ำนวนมำกๆ มขี ้ันตอนกำรปฏบิ ัตดิ ังนี้ 1. คลกิ วำงเคอร์เซอร์ตำแหนง่ ที่ต้องกำรแทรกตำรำง 2. ทีแ่ ทบ็ แทรก (Insert) คลิกปมุ่ ตำรำง (Table) จะปรำกฏกล่องตำรำง 3. เลอื กคำสง่ั แทรกตำรำง (Insert Table) 4. ระบุจำนวนคอลัมนแ์ ละแถวทีต่ อ้ งกำรในชอ่ ง จำนวนคอลมั น์ (Number of Columns) และจำนวนแถว (Number of Rows) 5. คลิกตกลง (OK) 6. ได้ผลลัพธ์ตำรำงตำมต้องกำร แทบ็ แทรก 2 คลิกปุ่ม ตาราง ระบจุ ำนวนคอลัมน์และแถว 4 คลกิ วำงเคอร์เซอร์ 1 ตำแหนง่ ที่ต้องกำร 3 เลือกคำสง่ั แทรกตาราง 6 ได้ผลลพั ธ์ตำรำงท่ตี ้องกำร 5 คลกิ ป่มุ ตกลง รปู ที่ 4.3 แสดงขั้นตอนกำรสร้ำงตำรำงแบบกำหนดเอง 1.3 วธิ ีวำดตำรำง เป็นกำรวำดเส้นต่อกันเพื่อกำหนดขนำดตำรำง ขนำดแถวและขนำดคอลัมน์ ลงในหน้ำ เอกสำร ในกำรสร้ำงตำรำงด้วยวิธีนี้มีข้อดีคือสำมำรถกำหนดตำรำงได้ตำมรูปแบบท่ีต้องกำร ช่อง ตำรำงไม่จำเป็นต้องเทำ่ กัน มขี ้นั ตอนกำรปฏิบตั ิดงั น้ี

202 1. ทแ่ี ทบ็ แทรก (Insert) คลิกปมุ่ ตำรำง (Table) 2. คลกิ คำส่ัง วำดตำรำง (Draw Table) แลว้ เมำส์จะเปล่ียนเปน็  รูปปำกกำ 3. คลกิ เมำส์ลำกปำกกำเปน็ เส้นตำรำงตำมทต่ี ้องกำร แทบ็ แทรก 1 คลิกปุม่ ตาราง  2 เลอื กคำส่งั วาดตาราง  3 วำดตำรำงตำมต้องกำร รูปท่ี 4.4 แสดงขัน้ ตอนกำรสร้ำงตำรำงแบบวำดตำรำง 1.4 วธิ ีแปลงขอ้ ควำมเป็นตำรำง เป็นวิธีสร้ำงตำรำงโดยพิมพ์ข้อควำมก่อน โดยท่ีช่องของคอลัมน์จะแบ่งจำกกำรท่ีกดคีย์ แท็บ (Tab) 1 คร้ัง (หำกกดแทบ็ 2 ครั้ง จะแบ่งตำรำเป็น 2 คอลัมน)์ และกำรกดปุ่มเอ็นเทอร์ (Enter) ขึ้นบรรทัดใหมจ่ ะเป็นกำรเพิ่มจำนวนแถวโดยอตั โนมตั ิ มีขน้ั ตอนกำรปฏบิ ัติดังนี้ 1. ลำกเมำส์ (Drag Mouse) คลมุ ข้อควำมที่ต้องกำรสร้ำงตำรำง 2. ทแ่ี ทบ็ แทรก (Insert) คลิกปมุ่ ตำรำง (Table) 3. คลกิ คำสั่ง แปลงขอ้ ควำมเป็นตำรำง (Convert Text to Table….) จะปรำกฏกล่อง โตต้ อบ แปลงข้อควำมตำรำง

203 4. คลกิ ปุ่ม ตกลง (OK) 5. โปรแกรมจะแบง่ คอลมั น์และแถวตำมทพ่ี ิมพ์ขอ้ ควำมไว้ เปน็ ตำรำง แทบ็ แทรก 2 คลิกป่มุ ตาราง ลำกเมำส์คลุมข้อควำม 1 กำหนดใหอ้ ัตโนมัติ 3 เลอื กคำส่ัง แปลง ขอ้ ความเป็นตาราง 4 คลกิ ปมุ่ ตกลง 5 ได้ผลลพั ธ์ตำรำงทต่ี ้องกำร รปู ที่ 4.5 แสดงข้นั ตอนกำรสรำ้ งตำรำงแบบแปลงข้อควำมเป็นตำรำง 1.5 วธิ ีแทรกตำรำงด้วยกระดำษคำนวณ (Excel) กำรสร้ำงตำรำงใน Microsoft Word บำงครั้งจำเป็นต้องใช้สูตรคำนวณแบบพิเศษหรือ ใช้ฟังก์ชันที่มำกกว่ำใน Microsoft Word จึงต้องใช้ตำรำงของโปรแกรมคำนวณ (Excel) แทรกเข้ำ มำร่วมใช้งำนด้วย มีข้ันตอนกำรปฏิบตั ดิ งั นี้ 1. ทแี่ ทบ็ แทรก (Insert) คลิกปุ่ม ตำรำง (Table) 2. คลิกคำสง่ั กระดำษคำนวณ Excel (Excel Spreadsheet) 3. จะได้เวิรก์ ชที (Worksheet) ของ Microsoft Excel ปรำกฏขน้ึ ในเอกสำร Microsoft Word โดยมีชื่อแถว (Row) และคอลัมน์ (Column) กำกับอยู่ สำมำรถพิมพ์ข้อควำมสูตรตำมท่ี ต้องกำร

204 4. เม่ือพิมพ์ข้อมูลเสร็จแล้วคลิกนอกตำรำง จะเข้ำสู่หน้ำจอปกติของ Word พร้อมกับ ตำรำงตำมต้องกำร แทบ็ แทรก 1 คลิกปมุ่ ตาราง 3 กรอกข้อควำมในตำรำง Excel 2 เลอื กคำสัง่ กระดาษคานวณ Excel คลกิ นอกตำรำง จะได้ตำรำง ตำมต้องกำรใน Word 4 รปู ท่ี 4.6 แสดงขน้ั ตอนกำรสรำ้ งตำรำงแบบแทรกตำรำงด้วย Excel 1.6 วิธีใส่ตำรำงดว่ น (Quick Table) เป็นกำรสร้ำงตำรำงจำกรูปแบบสำเร็จรูปท่ีโปรแกรมมีให้พร้อมท้ังรูปแบบตำรำง แบบ อักษร สีสันต่ำงๆ ไว้ให้เรียบร้อย เพียงให้เลือกรูปแบบและพิมพ์ข้อควำมลงไปในตำรำงเท่ำนั้นเอง มีขนั้ ตอนกำรปฏิบัตดิ ังนี้ 1. วำงเคอรเ์ ซอรบ์ นตำแหน่งท่ตี อ้ งกำรสรำ้ งตำรำง 2. ทแี่ ทบ็ แทรก (Insert) คลิกปุ่ม ตำรำง (Table) 3. ชี้คำส่งั ตำรำงด่วน (Quick Table) จะปรำกฏรูปแบบตำรำงสำเรจ็ รูปให้เลอื ก 4. เลือกรูปแบบตำรำงทีต่ อ้ งกำร 5. จะได้ตำรำงตำมแบบท่เี ลอื ก

205 แท็บ แทรก 2 คลกิ ป่มุ ตาราง | 1 คลิกวำงเคอร์เซอรต์ ำแหน่งท่ีต้องกำร 3 ชีค้ ำสง่ั ตารางดว่ น เลือกรูปแบบตำรำงท่ี ต้องกำร 4 5 ไดผ้ ลลพั ธ์ตำมรปู แบบที่เลือกไว้ รปู ที่ 4.7 แสดงขนั้ ตอนกำรสรำ้ งตำรำงแบบตำรำงดว่ น

206 2. การจดั การกับข้อความในตาราง 2.1 กำรพมิ พ์ข้อมลู ลงในตำรำง เมื่อสร้ำงตำรำงเรียบร้อยแล้ว ต้องพิมพ์ข้อมูลต่ำงๆ ลงในตำรำงที่สร้ำงข้ึนโดยสำมำรถ ปฏบิ ัติได้ง่ำยๆ มีข้นั ตอนกำรปฏิบัติดงั นี้ 1. คลกิ วำงเคอรเ์ ซอร์ในเซลลท์ ่ตี ้องกำรพิมพ์ข้อควำม 2. พมิ พ์ข้อควำมลงไป แลว้ เล่ือนไปยังเซลล์อนื่ ทีต่ ้องกำรพิมพ์ต่อไป 3. เมื่อพมิ พ์เอกสำรครบถว้ นแลว้ ใหค้ ลิกเมำส์นอกตำรำง 1 คลิกวำงเคอรเ์ ซอร์ 2 พมิ พข์ ้อควำม รูปที่ 4.8 แสดงขัน้ ตอนกำรกรอกข้อมูลลงในตำรำง  สำมำรถเปล่ียนรูปแบบอกั ษร ขนำด หรือสีตวั อักษรไดโ้ ดย ลำกเมำส์ คลุมตำรำงทีส่ ร้ำงแลว้ ทำกำรเลื่อกรูปแบบอกั ษร ขนำดหรอื สีได้ตำมต้องกำร  เมื่อต้องกำรเลอื่ นเคอร์เซอร์ไปยงั ช่องถดั ไป กดคียล์ ูกศรบนแป้นพมิ พ์ 2.2 กำรเล่ือนเคอร์เซอร์ (Cursor) ก่อนกรอกข้อมูลลงในช่องเซลล์ ผู้ใช้ต้องคลิกเมำส์ที่ช่องเซลล์ และสัญลักษณ์เป็น ก่อนท่ีจะกรอกข้อมูลได้ นอกจำกผู้ใช้งำนใช้เมำส์ให้กำรเลือกช่องเพื่อระบุช่องสำหรับกรอกข้อมูล ผ้ใู ช้งำนยังสำมำรถใช้คยี ์บอรด์ ในกำรเล่ือนตำแหน่งของตัวช้ีเมำส์ ดงั ตอ่ ไปน้ี

207 ตารางท่ี 6.1 แสดงกำรเลอื่ นเคอร์เซอร์ คาส่ังทใ่ี ช้ คาอธิบาย เลอ่ื นเมำสไ์ ปช่องทำงซำ้ ย 1 ช่อง  เลอื่ นเมำส์ไปช่องทำงขวำ 1 ชอ่ ง  เลอ่ื นเมำส์ไปช่องด้ำนบน 1 ช่อง <Tab> เลื่อนเมำสไ์ ปช่องด้ำนลำ่ ง 1 ช่อง <Shift>+<Tab> เล่ือนไปยังช่องตำรำงถัดไป/เพมิ่ แถวตอ่ ทำ้ ยตำรำง <Alt>+<Home> เล่อื นไปยงั ช่องตำรำงท่อี ยู่ก่อนหนำ้ <Alt>+<End> เลอ่ื นไปยงั ช่องตำรำงแรกสุดในแถวนั้นๆ <Alt>+<Page Up> เลอื่ นไปยงั ช่องตำรำงทำ้ ยสุดในแถวน้นั ๆ <Alt>+<Page Down> เลือ่ นไปยงั ช่องตำรำงแรกสดุ ของคอลมั นท์ ีเ่ คอร์เซอร์อยู่ เลอ่ื นไปยังช่องตำรำงทำ้ ยสดุ ของคอลัมน์ทเี่ คอรเ์ ซอรอ์ ยู่ เพ่ิมบรรทดั ในเซลล์ให้สูงขน้ึ 2.3 กำรจัดตำแหนง่ ข้อควำมในตำรำง หลังจำกกรอกข้อควำมลงในตำรำงเรียบร้อยแล้ว หำกต้องกำรจัดตำแหน่งข้อควำมใน ตำรำงเพ่อื ควำมสวยงำมมี 2 วิธีดงั นี้ วิธีท่ี 1 จดั ตำแหน่งขอ้ ควำมโดยใช้เครื่องมือในแทบ็ หนำ้ แรก มีข้ันตอนกำรปฏบิ ตั ดิ งั นี้ 1. ลำกเมำส์คลมุ ข้อควำมที่ต้องกำรจดั ตำแหน่ง 2. ทแ่ี ท็บ หนำ้ แรก (Home) ในกลุม่ ยอ่ หนำ้ (Paragraph) คลกิ ปมุ่ จดั ตำแหนง่ ตำมท่ี ตอ้ งกำร 3. จะได้ตำแหน่งของข้อควำมตำมที่ต้องกำร แทบ็ หนา้ แรก 1 ลำกเมำส์คลุมขอ้ ควำมทตี่ ้องกำร 2 คลกิ ปุ่มจดั กำรตำแหนง่ ท่ตี ้องกำร ได้ตำแหนง่ ข้อควำมตำมที่ต้องกำร 3 รปู ที่ 4.9 แสดงข้นั ตอนกำรจัดตำแหนง่ ข้อควำมในตำรำงด้วยแท็บหนำ้ แรก

208 วธิ ีท่ี 2 จดั ตำแหนง่ ขอ้ ควำมโดยใช้เครื่องมือในแท็บเคำ้ โครง มขี ้นั ตอนกำรปฏิบตั ิดังนี้ 1. ลำกเมำส์คลุมข้อควำมท่ตี ้องกำรจดั ตำแหนง่ 2. ทแ่ี ทบ็ เค้ำโครง (Layout) ในกลุม่ กำรจัดแนว (Alignment) คลิกปมุ่ จัดตำแหน่ง ตำมท่ีต้องกำร 3. จะไดต้ ำแหน่งของข้อควำมตำมที่ต้องกำร 1 ลำกเมำสเ์ ลือกข้อควำมทีต่ อ้ งกำร แทบ็ เค้าโครง คลิกป่มุ จัดกำรตำแหนง่ ทีต่ อ้ งกำร 2 ไดต้ ำแหนง่ ขอ้ ควำมตำมท่ตี ้องกำร 3 รูปท่ี 4.10 แสดงขัน้ ตอนกำรจัดตำแหน่งข้อควำมในตำรำงด้วยแท็บเคำ้ โครง 2.4 กำรเปลีย่ นทิศทำงของข้อควำม เป็นกำรหมุนหรอื กลบั ทิศทำงของขอ้ ควำมภำยในเซลลเ์ ปน็ มมุ 90 องศำ มีขน้ั ตอนกำร ปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1. ลำกเมำส์คลุมข้อควำมที่ต้องกำรกำหนดทิศทำง 2. ทแี่ ท็บ เคำ้ โครง (Layout) คลกิ เลือกทิศทำงของข้อควำม (Text Direction) 3. จะได้ตำแหน่งของทศิ ทำงตำมตอ้ งกำร

209 ลำกเมำสค์ ลมุ ขอ้ ควำมที่ต้องกำร 1 แทบ็ เค้าโครง คลิกปมุ่ ทิศทำงของข้อควำม 2 ได้ตำแหน่งขอ้ ควำมตำมทตี่ ้องกำร 3 รูปที่ 4.11 แสดงข้ันตอนกำรเปลี่ยนทิศทำงของข้อควำม  กำรเปล่ียนทศิ ทำงของข้อควำมมีให้เลอื ก 3 รูปแบบ ดังน้ี แบบปกติ แนวตง้ั หันหัวไปทำงขวำ แนวต้ังหัวหัวไปทำงซ้ำย 3. การปรับขนาดตาราง หลังจำกท่ีได้สร้ำงตำรำงแล้ว ทุกคอลัมน์ของตำรำงจะมีขนำดเท่ำกัน ซ่ึงถ้ำหำกต้องกำรปรับ ใหค้ อลมั น์หรือแถวมีควำมกวำ้ ง ควำมสูงต่ำงกนั มวี ธิ กี ำร ดงั น้ี 3.1 กำรปรับขนำดคอลมั น์และแถวโดยใช้เมำส์ มขี ัน้ ตอนกำรปฏบิ ตั ิดังน้ี 1. ช้ีเมำสท์ เ่ี ส้นแบ่งคอลมั น์ใหเ้ ปน็ สญั ลักษณ์ แลว้ ลำกเมำสซ์ ำ้ ย-ขวำ เพือ่ ลดและ เพมิ่ ควำมกว้ำงของคอลัมน์ 1 ชี้เมำส์ทีเ่ ส้นแลว้ ลำกไปทำงซ้ำย ผลลพั ธท์ ไี่ ด้ รปู ที่ 4.12 แสดงกำรปรับขนำดคอลมั นโ์ ดยใช้เมำส์

210 2. ชีเ้ มำส์ท่ีเสน้ แบง่ แถวใหเ้ ป็นสัญลกั ษณ์ แล้วลำกเมำส์ข้นึ -ลง เพื่อลดและเพ่ิม ควำมสงู ของแถว ซึ่งโดยปกติควำมสงู ของแถวจะพอดกี ับข้อควำมในตำรำงอยู่แล้ว 2 ช้ีเมำสท์ ีเ่ สน้ แล้วลำกลงขำ้ งล่ำง ผลลัพธท์ ี่ไดแ้ ถวขยำยออก รูปที่ 4.13 แสดงกำรปรบั ขนำดแถวโดยใช้เมำส์ 3. ชเ้ี มำสท์ ี่มมุ ตำรำงใหเ้ ป็นสัญลกั ษณ์ แลว้ ลำกเมำส์เพิม่ ลดหรอื ขยำยตำรำง 3 ช้ีเมำส์ท่มี ุมตำรำงแล้วลำก ผลลัพธท์ ไี่ ด้ ตำรำงขยำยออก รูปท่ี 4.14 แสดงกำรปรบั ขนำดตำรำงโดยใชเ้ มำส์ 3.2 กำรปรบั ขนำดคอลมั น์และแถวจำกแถบเครอ่ื งมือ เป็นกำรปรับขนำดโดยระบุค่ำตัวเลขลงไปในกลมุ่ เครอ่ื งมือของ ขนำดเซลล์ (Cell Size) มขี ัน้ ตอนกำรปฏิบัติดังน้ี 1. เลอื กแถวหรอื คอลัมน์หรือเซลล์ทตี่ ้องกำรปรบั ขนำด 2. ที่แท็บ เค้ำโครง (Layout) ปรับขนำดท่ีกลุ่มของ ขนำดเซลล์ (Cell Size) ในท่ีน้ีจะ เลือกปรบั เฉพำะเซลล์เดียว คอื แถวมขี นำดสูงข้ึน และคอลมั นม์ ขี นำดเล็กลง 3. ได้ผลลพั ธ์ คอื แถว และ คอลมั น์ของเซลลน์ ้ันจะมขี นำดเปลีย่ นไปตำมท่ีกำหนด

211 แทบ็ เคา้ โครง ปรบั ขนำดแถวและคอลัมน์ 2 เลือกเซลล์ทีต่ ้องกำร 1 ผลลพั ธ์ทไ่ี ด้ 3 รูปท่ี 4.15 แสดงขนั้ ตอนกำรปรับขนำดคอลมั น์และแถวจำกแถบเคร่ืองมือ 3.3 กำรปรับขนำดแถว หรอื คอลัมน์ให้เท่ำกนั ทกุ ชอ่ ง เป็นวิธีลดั ทส่ี ำมำรถปรับขนำดท้ังแถวและคอลัมน์ให้เท่ำกนั โดยไม่ต้องเสียเวลำมำปรับที ละชอ่ ง มีข้นั ตอนนกำรปฏิบตั ดิ งั นี้ 1. เลือกชอ่ งตำรำงท่ีต้องกำรปรบั ขนำดแถว หรือคอลัมน์ใหเ้ ท่ำกัน 2. ท่ีแท็บ เค้ำโครง (Layout) คลิกปุ่ม กระจำยแถว (Distribute Row) เพ่ือปรับ ให้ควำมสูงของแถวเท่ำกัน หรือ คลิกปุ่ม กระจำยคอลัมน์ (Distribute Column) เพ่ือปรับให้ คอลัมน์มขี นำดเทำ่ กัน 3. ไดผ้ ลลัพธ์ คือ แถว หรือ คอลัมน์ที่เลือกไว้จะมีขนำดเท่ำๆ กัน

212 แทบ็ เคา้ โครง คลิกปุ่มกระจำยแถวหรือคอลัมน์ 2 เลือกตำรำงสว่ นท่ตี ้องกำร 1 ผลลพั ธ์ท่ีได้ แถวหรอื คอลมั น์จะมีขนำดเทำ่ กัน 3 รูปที่ 4.16 แสดงขน้ั ตอนกำรปรบั ขนำดแถว หรอื คอลัมน์ใหเ้ ทำ่ กนั ทุกชอ่ ง นอกจำกจะใชแ้ ทบ็ เคำ้ โครง (Layout) แล้ว ยังมวี ธิ ลี ัด โดยคลกิ ขวำส่วนท่เี ลอื กไว้ และเลือกคำสัง่ จำกเมนลู ัด ดังน้ี 1.คลิกขวำ 2.เลอื กคำสงั่

213 4. การเพม่ิ /ลบ แถว คอลัมน์หรอื ตาราง 4.1 กำรเพ่ิมแถวและคอลัมน์ ในบำงครงั้ จำนวนคอลมั นแ์ ละแถวท่ไี ด้เลือกไว้ไมเ่ พียงพอ ซงึ่ สำมำรถแทรกเขำ้ มำใหม่ได้ โดยใช้ปมุ่ คำส่ังที่กลุ่มของ แถวและคอลัมน์ (Rows & Columns) ที่แทบ็ เคำ้ โครง (Layout) หรือกำร ลำกเมำส์คลมุ คอลมั นแ์ ละแถว หรือกำรคลกิ ขวำเซลล์ มี 3 วธิ ดี ังนี้ วธิ ที ี่ 1 กำรใชป้ มุ่ เครื่องมือจำกแท็บเคำ้ โครง มขี น้ั ตอนกำรปฏิบัตดิ งั น้ี 1. เลือกตำแหนง่ คอลมั น์หรือแถวทตี่ ้องกำรแทรก 2. ทแี่ ทบ็ เคำ้ โครง (Layout) กำหนดกำรแทรกแถวหรือคอลมั นท์ ี่กลมุ่ แถวและ คอลมั น์ (Row & Column) ในท่ีนีเ้ ลอื กปุ่ม แทรกด้ำนลำ่ ง (Insert Below) 3. จะไดผ้ ลลพั ธ์ปรำกฏเพิ่มแถวดำ้ นล่ำงข้นึ มำ แทบ็ เคา้ โครง 2 ปรบั ขนำดแถวและคอลัมน์ เลอื กเซลล์ที่ต้องกำรแทรก 1 ผลลพั ธ์ที่ได้ 3 รปู ที่ 4.17 แสดงขั้นตอนกำรเพมิ่ แถวด้วยกำรใช้ปุม่ เครอื่ งมอื จำกแทบ็ เคำ้ โครง วธิ ีท่ี 2 กำรใชป้ มุ่ เคร่ืองมือจำกกำรลำกเมำส์เลอื กคอลมั น์หรือแถว 1. ลำกเมำส์คลุมตำแหน่งคอลัมน์หรือแถวท่ีต้องกำรแทรก เม่ือปล่อยเมำส์จะปรำกฏ กล่องโต้ตอบกำรปรับแต่ง 2. คลิกปุม่ แทรก (Insert) 3. คลิกเลอื กป่มุ กำหนดกำรแทรก ในทีน่ เี้ ลือก แทรกด้ำนขวำ 4. จะไดผ้ ลลพั ธป์ รำกฏเพิ่มคอลมั น์ดำ้ นขวำข้นึ มำ

214 ลำกเมำสค์ ลุมคอลัมน์ที่ต้องกำร 1 คลิกปุ่ม แทรก 2 ปรำกฏเพ่มิ คอลมั น์ด้ำนขวำ 4 เลือกปุม่ แทรกดา้ นขวา 3 รปู ที่ 4.18 แสดงขั้นตอนกำรใช้ปุ่มเครื่องมือจำกกำรลำกเมำส์เลือกคอลัมนห์ รือแถว วธิ ที ่ี 3 กำรใช้แถบคำสง่ั จำกกำรคลกิ ขวำทเี่ ซลล์ มีขน้ั ตอนกำรปฏิบตั ดิ งั นี้ 1. คลิกขวำเซลลท์ ตี่ ้องกำร จะปรำกฏแถบคำสั่งขึ้นมำ 2. คลิกคำสัง่ แทรก (Insert) 3. คลิกเลือกปมุ่ กำหนดกำรแทรก ในท่นี ี้เลือก แทรกด้ำนขวำ 4. จะไดผ้ ลลัพธป์ รำกฏเพิ่มคอลมั น์ดำ้ นขวำขึ้นมำ คลกิ แทรกคอลัมน์ทางขวา 3 คลกิ คำส่งั แทรก 2 คลิกขวำในเซลลท์ ี่ต้องกำร 1 ปรำกฏเพ่ิมคอลัมน์ดำ้ นขวำ 4 รปู ที่ 4.19 แสดงขั้นตอนกำรเพิม่ แถวหรือคอลมั น์ด้วยคำสั่งจำกกำรคลกิ ขวำ

215 4.2 กำรลบเซลล์ คอลัมนแ์ ละแถว จำกกำรสร้ำงตำรำงหำกมีจำนวนตำรำง คอลัมน์ หรือแถว ที่มีจำนวนมำกเกินควำม ตอ้ งกำรก็สำมำรถทำกำรลบได้ ซงึ่ มหี ลำยวธิ ดี ังนี้ วธิ ที ี่ 1 กำรใช้ปุ่มเครอ่ื งมือจำกแทบ็ เค้ำโครง มขี ้นั ตอนกำรปฏิบัติดงั น้ี 1. คลกิ วำงเคอรเ์ ซอร์ในเซล์ทีต่ ้องกำรลบ 2. ทแี่ ท็บ เคำ้ โครง (Layout) คลิกทีป่ ุ่ม ลบ (Delete) 3. เลือกคำส่ังลบที่ต้องกำร  ลบเซลล์ (Delete Cells) เมือ่ ต้องกำรลบเซลล์น้นั  ลบคอลัมน์ (Delete Columns) เมอื่ ต้องกำรลบทัง้ คอลัมน์ทเี่ คอร์เซอรอ์ ยู่  ลบแถว (Delete Rows) เม่อื ต้องกำรลบท้งั แถวทเี่ คอรเ์ ซอรอ์ ยู่  ลบตำรำง (Delete Table) เมือ่ ต้องกำรลบทั้งตำรำง แท็บ เค้าโครง 2 คลิกปุม่ ลบ 1 คลิกวำงเคอร์เซอร์ในเซลล์ คลิกเลอื กคำสง่ั ลบท่ีตอ้ งกำร 3 รปู ท่ี 4.20 แสดงขัน้ ตอนกำรลบเซลล์ ดว้ ยกำรใชป้ มุ่ เคร่ืองมือจำกแท็บเคำ้ โครง วธิ ที ่ี 2 กำรใช้ปุ่มเคร่ืองมือจำกกำรคลิกขวำทเ่ี ซลล์ มีข้ันตอนกำรปฏบิ ัตดิ งั น้ี 1. คลกิ ขวำในเซล์ท่ตี ้องกำรลบ 2. คลิกปมุ่ ลบ (Delete) จะปรำกฏคำสัง่ กำรลบแบบต่ำงๆ มำให้เลือก 3. เลอื กคำสั่งลบตำมทตี่ ้องกำร

216 คลกิ ปมุ่ ลบ 2 คลิกขวำท่ีเซลล์ 1 เลอื กคำส่งั ลบตำมท่ีต้องกำร 3 หำกเลอื กคำส่งั ลบเซลล์ จะปรำกฏกลอ่ งโตต้ อบ กำรลบเซลลข์ ึน้ มำ จะมีคำสงั่ ใหเ้ ลอื กเพ่มิ เติมคือ เลอื่ นเซลล์ไปทำงซำ้ ย เล่ือนเซลลข์ น้ึ รูปท่ี 4.21 แสดงข้ันตอนกำรลบเซลล์ดว้ ยกำรใชป้ ุม่ เครื่องมอื จำกกำรคลิกขวำทีเ่ ซลล์ วธิ ที ี่ 3 กำรลบเส้นตำรำงโดยใชป้ ุม่ ยำงลบ มีขั้นตอนกำรปฏบิ ตั ดิ ังน้ี 1. คลิกเซลลใ์ ดๆ ของตำรำงที่ต้องกำรลบ 2. คลกิ ป่มุ ยำงลบ (Eraser) 3. คลิกเส้นของตำรำงทีต่ ้องกำรลบ 4. ได้ผลลพั ธ์เส้นตำรำงถูกลบตำมต้องกำร แท็บ เคา้ โครง 2 คลิกปุ่ม ยางลบ คลิกตำรำงทต่ี อ้ งกำรลบ 1 คลกิ เส้นตำรำงท่ีต้องกำรลบ 3 ได้ผลลัพธเ์ ส้นตำรำงถูกลบ 4 รปู ที่ 4.22 แสดงข้ันตอนกำรลบเส้นตำรำงโดยใชป้ ุม่ ยำงลบ

217 5. การผสานเซลล์ แยกเซลล์และแบ่งตาราง 5.1 กำรผสำนเซลล์ (Merge Cells) เปน็ กำรรวมเซลลต์ ั้งแต่ 2 เซลล์ข้นึ ไปรวมเปน็ เซลล์เดียว มี 2 วธิ ดี งั น้ี วิธที ี่ 1 กำรใชป้ มุ่ เคร่อื งมือจำกแทบ็ เคำ้ โครง มขี ้นั ตอนกำรปฏบิ ัติดังน้ี 1. เลอื กกลุ่มเซลล์ที่ต้องกำรรวมเซลล์ 2. ทแี่ ทบ็ เค้ำโครง (Layout) คลิกทป่ี ุ่ม ผสำนเซลล์ (Merge Cells) 3. จะไดเ้ ซลลท์ ผ่ี สำนกนั แทบ็ เคา้ โครง 2 คลกิ ปุ่ม ผสานเซลล์ เลอื กกลุ่มเซลลท์ ีต่ ้องกำร 1 จะได้เซลลท์ ่ผี สำนกนั 3 รปู ท่ี 4.23 แสดงขัน้ ตอนกำรผสำนเซลล์ ดว้ ยปมุ่ เครื่องมือจำกแท็บเคำ้ โครง วิธที ี่ 2 กำรใช้แถบคำส่ังจำกกำรคลิกขวำ มีข้ันตอนกำรปฏิบัตดิ ังน้ี 1. เลือกกลุ่มเซลล์ท่ีต้องกำรรวมเซลล์ และคลิกขวำ จะปรำกฏแถบเครื่องมือและแถบ คำส่งั ข้นึ มำ 2. คลกิ แถบคำสงั่ ผสำนเซลล์ (Merge Cells) 3. จะไดเ้ ซลลท์ ี่ผสำนกนั

218 เลือกกลุ่มเซลลท์ ีต่ ้องกำร 1 คลกิ แถบคำสัง่ ผสานเซลล์ 2 จะได้เซลล์ทผ่ี สำนกัน 3 รูปท่ี 4.24 แสดงขัน้ ตอนกำรผสำนเซลล์ ดว้ ยแถบคำส่งั จำกกำรคลิกขวำ 5.2 กำรแยกเซลล์ (Split Cells) เป็นกำรนำเซลล์เดยี วมำแบ่งออกให้เปน็ หลำยเซลล์ มขี ั้นตอนกำรปฏบิ ัตดิ ังนี้ 1. คลิกเซลลท์ ต่ี ้องกำรแบ่งเซลล์ 2. ท่แี ท็บ เค้ำโครง (Layout) คลิกท่ปี มุ่ แยกเซลล์ (Split Cells) 3. ระบุจำนวนคอลัมนแ์ ละแถวทีต่ ้องกำรแยกเซลล์ 4. คลิกปุม่ ตกลง (OK) 5. จะได้เซลลท์ ่แี ยกตำมต้องกำร แท็บ เคา้ โครง คลิกปมุ่ แยกเซลล์ 2 ระบุจำนวนคอลัมนแ์ ละแถว เลือกกลุ่มเซลลท์ ีต่ ้องกำร 1 3 จะไดเ้ ซลลท์ ่ีแยกกนั ตำมต้องกำร 5 4 คลิกปุ่ม ตกลง รปู ท่ี 4.25 แสดงขัน้ ตอนกำรแยกเซลล์

219 5.3 กำรแยกตำรำง (Split Table) หำกต้องกำรแบ่งหรอื แยกตำรำงออกเปน็ หลำย ๆ ตำรำง มีขน้ั ตอนกำรปฏิบตั ดิ งั น้ี 1. คลิกแถวที่ต้องกำรแบง่ ตำรำง 2. ทแ่ี ทบ็ เคำ้ โครง (Layout) คลิกท่ีปุม่ แยกตำรำง (Split Table) ที่กลุ่มของ ผสำน (Merge) 3. ตำรำงจะถูกแยกออกจำกกัน แท็บ เค้าโครง คลิกปมุ่ แยกตาราง 2 เลอื กกลุ่มเซลล์ท่ตี ้องกำร 1 3 ผลลัพธ์ท่ีได้ ตำรำงจะถูกแยกออกจำกกนั รปู ที่ 4.26 แสดงข้นั ตอนกำรแยกตำรำง

220 6. การตกแต่งตาราง หลงั จำกท่ีไดส้ รำ้ งตำรำงเสร็จเรียบร้อยแลว้ สำมำรถปรับแตง่ ตำรำงใหด้ สู วยงำมยิง่ ข้นึ โดยใช้ เคร่ืองมือ ออกแบบ (Design) 6.1 กำรกำหนดสีพื้นของตำรำง กำรใสส่ พี ืน้ ของตำรำงเพ่ือให้มคี วำมสวยงำมมำกย่ิงข้นึ มขี ้ันตอนกำรปฏบิ ตั ิดังน้ี 1. เลอื กส่วนของตำรำงทตี่ ้องกำรกำหนดสี 2. ทแ่ี ทบ็ ออกแบบ (Design) คลิกปมุ่ กำรแรเงำ (Shading) 3. เลือกสที ีต่ ้องกำร 4. จะได้สีพ้นื ตำรำงตำมที่ตอ้ งกำร แท็บ ออกแบบ คลิกปุม่ การแรเงา 2 1 เลือกส่วนทีต่ ้องกำรกำหนดสี เลอื กสที ี่ต้องกำร 3 ไดส้ พี ื้นตำรำงตำมต้องกำร 4 รปู ท่ี 4.27 แสดงขัน้ ตอนกำรกำหนดสพี ื้นตำรำง สำมำรถกำหนดสีพ้ืนตำรำงไดอ้ ีกวิธี คอื จำกแท็บ หน้ำแรก (Home) คลิกป่มุ กำรแรเงำ (Shading) 1.ทีแ่ ทบ็ หน้าแรก 2.คลกิ ปุ่ม

221 6.2 กำรกำหนดเส้นขอบตำรำง กำรใส่สีเส้นกรอบให้กบั ตำรำงเพือ่ ให้มสี ีสรรสวยงำม มีขนั้ ตอนกำรปฏบิ ตั ิดังนี้ 1. เลือกตำรำงหรือส่วนท่ตี ้องกำรกำหนดรูปแบบเสน้ กรอบ 2. ทแี่ ท็บ ออกแบบ (Design) คลกิ ปมุ่ เสน้ ขอบ (Border) 3. เลอื กคำส่งั เสน้ ขอบและแรเงำ (Border and Shading) 4. จะปรำกฏกล่องโตต้ อบเส้นขอบและแรเงำ ใหเ้ ลือก เส้นขอบ และเลอื กรำยละเอยี ด ของเส้นขอบที่ตอ้ งกำร (ดูรำยละเอยี ดในหวั ข้อ 5.2 บทท่ี 2) 5. คลกิ ป่มุ ตกลง (OK) 6. จะไดร้ ูปแบบเสน้ กรอบตำมต้องกำร แทบ็ ออกแบบ คลกิ ปุม่ เสน้ ขอบ 2 1 เลือกส่วนทตี่ อ้ งกำรกำหนดสี ปรบั แต่เสน้ ขอบ 4 คลกิ คำส่งั ตำมท่ีต้องกำร เสน้ ขอบและแรเงา 3 ไดเ้ สน้ ขอบตำรำงตำมต้องกำร 6 5 คลิกปุ่ม ตกลง รปู ท่ี 4.28 แสดงขนั้ ตอนกำรกำหนดเส้นขอบตำรำง

222 6.3 กำรกำหนดรปู แบบตำรำงสำเร็จรปู เพ่ือให้กำรกำหนดตำรำงมีควำมรวดเร็วมำกยิ่งข้ึนโปรแกรมจึงมีลักษณะตำรำงที่ สำเรจ็ รูปมำใหเ้ ลือกใชก้ นั ดว้ ย มีขน้ั ตอนกำรปฏบิ ตั ิดงั น้ี 1. คลกิ ส่วนใดสว่ นหนงึ่ ของตำรำง 2. ที่แทบ็ ออกแบบ (Design) คลกิ ปมุ่ เพ่ิมเติม ทก่ี ลุ่มของ สไตล์ตำรำง (Table Styles) 3. เลอื กลกั ษณะของตำรำงท่ีตอ้ งกำร 4. ได้ตำรำงตำมลักษณะทีเ่ ลือก แทบ็ ออกแบบ 2 คลิกปุม่ กลมุ่ สไตลต์ าราง 1 เลือกสว่ นใดส่วนหนง่ึ ของตำรำง เลือกลักษณะของตำรำงทต่ี อ้ งกำร 3 ไดต้ ำรำงตำมลักษณะท่ีเลือก 4 รูปท่ี 4.29 แสดงขัน้ ตอนกำรกำหนดรปู แบบตำรำงสำเร็จรปู

223 6.4 กำรวำดตำรำงเส้นทแยง กำรวำดเส้นทแยงในกรณีท่ีต้องกำรแบ่งเซลล์ในตำรำงออกเป็น 2 ส่วน มีข้ันตอนกำร ปฏิบัติดังนี้ 1. ท่แี ท็บ ออกแบบ (Desing) คลิกป่มุ เสน้ ขอบ (Border) จะปรำกฏรูปแบบเส้น ขอบให้เลือก 2. คลกิ คำสงั่ วำดตำรำง (Draw Table) ตัวชเ้ี มำส์จะเปน็ รูปดินสอ 3. ลำกดนิ สอเป็นเสน้ ทะแยงในเซลล์ แท็บ ออกแบบ คลิกปุม่ เส้นขอบ 1 คลิกคำสงั่ วาดตาราง 2 ลำกดนิ สอเป็นเสน้ ทะแยง 3  รูปที่ 4.30 แสดงขัน้ ตอนกำรวำดตำรำงเส้นทแยง 6.5 กำรเปลี่ยนขอ้ ควำมในตำรำงให้เป็นข้อควำมปกติ เป็นกำรยกเลิกตำรำงออกไปให้เหลือแต่ข้อควำมในตำรำง มขี ้ันตอนกำรปฏบิ ัตดิ งั นี้ 1. เลอื กตำรำงทต่ี ้องกำรเปล่ียนเป็นข้อควำมปกติ 2. ท่ีแท็บ เค้ำโครง (Layout) คลิกปุ่ม แปลงเป็นข้อควำม (Convert to Text) ท่ีกลุ่ม ขอ้ มูล (Data) จะปรำกฏกล่องโต้ตอบกำรแปลงตำรำงเป็นข้อควำมขนึ้ มำ 3. กำหนดรูปแบบกำรแปลงตำรำงเป็นข้อควำม ดงั น้ี  เคร่ืองหมำยย่อหนำ้ : Paragraph mark  แท็บ : Tabs  จุลภำค ( , ) : Commas  อื่นๆ : Other

224 4. คลิกปุม่ ตกลง (OK) 5. จะได้ผลลัพธื ข์ อ้ ควำมตำมทีต่ ้องกำร แท็บ เค้าโครง คลกิ ปุม่ แปลงเปน็ ข้อความ 2 เลือกตำรำงท่ีต้องกำร 1 คลิกปมุ่ แทบ็ 3 ผลลัพธท์ ไ่ี ด้ 5 4 คลกิ ป่มุ ตกลง รูปท่ี 4.31 แสดงขั้นตอนกำรเปล่ียนขอ้ ควำมในตำรำงให้เป็นข้อควำมปกติ 7. การคานวณและการจัดเรยี งขอ้ มลู ในตาราง 7.1 กำรคำนวณในตำรำง ใน Microsoft Word สำมำรถคำนวณตัวเลขโดยใช้สูตรได้ระดับหนึ่งที่ไมซ่ ับซ้อนมำกนัก เช่น กำรบวก ลบ ทม่ี คี วำมสะดวกและใช้งำนง่ำย มขี นั้ ตอนกำรปฏิบตั ไิ ดด้ ังน้ี 1. คลกิ ช่องเซลล์ในคอลมั น์ที่ต้องกำรหำผลรวม (Sum) 2. ทแ่ี ท็บ เค้ำโครง (Layout) คลกิ ปุม่ สตู ร (Formula) จะปรำกฏกล่องโตต้ อบ 3. จะกำหนดสูตรคำนวณท่เี หมำะสมมำให้ คือ =SUM(ABOVE) ซึ่งหมำยถงึ กำรหำผลรวมตวั เลขทอี่ ยูด่ ้ำนบน =SUM(LEFT) ซ่ึงหมำยถึง กำรหำผลรวมตวั เลขทอี่ ยดู่ ้ำนซำ้ ย

225 4. เลือกรูปแบบของตัวเลขที่ต้องกำร ในท่ีน้ีกำหนดให้มีเคร่ืองหมำยจุลภำค ( , ) และ ไม่มจี ดุ ทศนยิ ม 5. คลิกปุ่ม ตกลง (OK) 6. จะไดผ้ ลลพั ธข์ องกำรหำผลรวมตำมต้องกำร แทบ็ เค้าโครง คลิกปมุ่ สตู ร 2 โปรแกรมจะกำหนดสตู รท่เี หมำะสมให้ 3 4 เลือกรปู แบบตัวเลข คลกิ เซลล์ 1 คลกิ ปุ่ม ตกลง 5 6 ผลลพั ธท์ ีไ่ ดจ้ ำกผลรวม รูปที่ 4.32 แสดงขนั้ ตอนกำรคำนวณในตำรำง 7.2 กำรเรยี งลำดับข้อมลู ในตำรำง ข้อควำมที่จัดพิมพ์ไว้แล้วในตำรำง เม่ือต้องกำรจัดเรียงลำดับข้อควำมใหม่ เช่น จัดเรียง ตำมตวั อกั ษร ตวั เลข หรือวันที่ ก็สำมำรถทำได้ โดยมีข้ันตอนกำรปฏบิ ัตดิ ังนี้ 1. คลิกเลือกคอลมั น์ที่ต้องกำรจดั เรยี ง 2. ทแ่ี ทบ็ เคำ้ โครง (Layout) คลกิ ปุ่ม เรียงลำดับ (Sorting) 3. เลอื กหวั ข้อในช่อง เรยี งลำดับตำม (Sort by) 4. เลอื กชนดิ ของข้อมลู ท่ีต้องกำร 5. เลือกรูปแบบกำรจัดเรยี งข้อมูล เรียงจำกนอ้ ยไปหำมำก (Ascending) เรยี งจำกมำกไปหำน้อย (Descending)

226 6. คลิก ตกลง (OK) 7. จะได้รูปแบบกำรจัดเรยี งข้อมลู ตำมต้องกำร 1 คลิกเลือกคอลมั นท์ ี่ ตอ้ งกำรจดั เรยี ง แทบ็ เคา้ โครง คลกิ ปุม่ เรยี งลาดบั 2 เลอื กหัวข้อเรียงลำดบั ตำม 3 เลือกชนดิ ของข้อมลู 4 เลือกรปู แบบกำรจดั เรยี งขอ้ มูล 5 คลกิ ปุ่ม ตกลง 6 ผลลัพธท์ ี่ไดเ้ รียงลำดบั 7 จำกน้อยไปมำก รูปที่ 4.33 แสดงข้ันตอนกำรเรยี งลำดับข้อมูลในตำรำง

227 สรปุ สาระสาคัญทา้ ยหนว่ ยท่ี 4 ตำรำงจะประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ แถว (row) และคอลัมน์ (Columns) จุดที่ตัดกัน ระหวำ่ งแถวกบั คอลมั น์ เรยี กว่ำ เซลล์ (Cell) มกี ำรสร้ำงและปรบั แตง่ ตำรำง ดังน้ี 1. กำรสรำ้ งตำรำงมี 6 แบบ ได้แก่ 1.1 แบบกำหนดเซลล์อตั โนมัติ 1.2 แบบกำหนดเอง 1.3 แบบวำดตำรำง 1.4 แบบแปลงข้อควำมเปน็ ตำรำง 1.5 แทรกตำรำงด้วยกระดำษคำนวณ (Excel) 1.6 แบบใส่ตำรำงด่วน (Quick Table) 2. กำรจดั กำรกบั ข้อควำมในตำรำง ประกอบด้วย 2.1 กำรพิมพ์ข้อมูลลงในตำรำง 2.2 กำรเล่ือนเคอรเ์ ซอร์ (cursor) 2.3 กำรจดั ตำแหน่งข้อควำมในตำรำง 2.3.1 จดั ตำแหน่งขอ้ ควำมโดยใช้เคร่อื งมือในแท็บหนำ้ แรก 2.3.2 จดั ตำแหน่งข้อควำมโดยใชเ้ ครอื่ งมือในแทบ็ เค้ำโครง 2.4 กำรเปลย่ี นทิศทำงของข้อควำม 3. กำรปรับขนำดตำรำง มีหลำกหลำยวิธดี งั นี้ 3.1 กำรปรบั ขนำดคอลมั น์และแถวโดยใช้เมำส์ 3.2 กำรปรบั ขนำดคอลัมน์และแถวจำกแถบเครอ่ื งมือ 3.3 กำรปรบั ขนำดแถว หรอื คอลมั นใ์ หเ้ ท่ำกันทุกชอ่ ง 4. กำรเพ่ิม/ลบ แถว คอลัมน์หรอื ตำรำง 4.1 กำรเพ่ิมแถวและคอลัมน์ 4.1.1 กำรใช้ปมุ่ เครื่องมือจำกแท็บเค้ำโครง 4.1.2 กำรใช้ป่มุ เครื่องมือจำกกำรลำกเมำส์เลอื กคอลัมนห์ รอื แถว 4.1.3 กำรใช้แถบคำสั่งจำกกำรคลกิ ขวำที่เซลล์ 4.2 กำรลบเซลล์ คอลมั นแ์ ละแถว 4.2.1 กำรใช้ปุ่มเครื่องมือจำกแท็บเคำ้ โครง 4.2.2 กำรใช้ปุ่มเครื่องมือจำกกำรคลิกขวำท่เี ซลล์ 4.2.3 กำรลบเส้นตำรำงโดยใชป้ ุม่ ยำงลบ

228 5. กำรผสำนเซลล์ แยกเซลลแ์ ละแบ่งตำรำง 5.1 กำรผสำนเซลล์ (Merge Cells) 5.1.1 กำรใช้ปุ่มเครอ่ื งมอื จำกแท็บเคำ้ โครง 5.1.2 กำรใช้แถบคำส่งั จำกกำรคลิกขวำ 5.2 กำรแยกเซลล์ (Split Cells) 5.3 กำรแยกตำรำง (Split Table) 6. กำรตกแต่งตำรำง 6.1 กำรกำหนดสีพน้ื ของตำรำง 6.2 กำรกำหนดเส้นขอบตำรำง 6.3 กำรกำหนดรูปแบบตำรำงสำเร็จรปู 6.4 กำรวำดตำรำงเส้นทแยง 6.5 กำรเปล่ยี นขอ้ ควำมในตำรำงให้เป็นข้อควำมปกติ 7. กำรคำนวณและกำรจดั เรียงข้อมูลในตำรำง 7.1 กำรคำนวณในตำรำง 7.2 กำรเรยี งลำดบั ข้อมูลในตำรำง

229 ใบปฏิบตั ิงานที่ 4.1 หนว่ ยที่ 4 กำรสรำ้ งตำรำง จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม เมอ่ื ปฏิบตั ิใบงำนนี้แลว้ ผเู้ รียนสำมำรถ 1. สร้ำงตำรำงได้ 2. เลือกเซลล์ คอลมั น์ แถว และตำรำงได้ 3. พมิ พข์ ้อมูลในตำรำงได้ 4. ปรับขนำดตำรำงได้ 5. จดั ตำแหน่งข้อควำมในตำรำงได้ 6. เปล่ียนทศิ ทำงของข้อควำมในตำรำงได้ 7. ปรบั ขนำดคอลมั น์และแถวของตำรำงได้ 8. ผสำนเซลลใ์ นตำรำงได้ 9. ปฏิบัติงำนดว้ ยควำมรับผดิ ชอบ มรี ะเบยี บวินยั มคี วำมซือ่ สตั ยส์ จุ ริต มีควำมสนใจใฝ่รู้ และมีจิตสำธำรณะ วัสด/ุ อุปกรณ์/ เคร่ืองมือ 1. เครือ่ งคอมพิวเตอร์ 2. โปรแกรมประมวลผลคำ Microsoft Word 2016 คาสัง่ ให้ผู้เรยี นปฏิบตั งิ ำนตอ่ ไปน้ี (ภำยในเวลำ 40 นำท)ี (15 คะแนน) 1. ให้ผเู้ รยี นสรำ้ งเอกสำรใหม่ขน้ึ มำใชง้ ำน (1 คะแนน) 2. กำหนดแบบอักษร TH SarabanPSK ขนำด 16 พอยต์ (1 คะแนน) 3. สรำ้ งตำรำงตำมรูปแบบ เอกสำรใบปฏบิ ัติงำนท่ี 4.1 (1 คะแนน) 4. พมิ พ์ข้อมูลลงในตำรำง ตำมเอกสำรใบปฏบิ ตั ิงำนที่ 4.1 (3 คะแนน) 5. ตกแต่งตำรำง ดงั นี้ 5.1 ปรบั ขนำดคอลัมน์ “ท”่ี และ “ช่ือ-สกลุ ” ได้พอดีกับข้อควำม (1 คะแนน) 5.2 ปรับคอลัมนข์ อง “เวลำเรยี น” หมำยเลข 1-5 ให้มีขนำดเท่ำกนั (1 คะแนน) 5.3 ปรบั คอลมั น์ “คะแนนเก็บ” “คะแนนสอบ” “จิตพิสัย” และ “ผลรวม” ให้มีขนำด เท่ำกนั (1 คะแนน) 5.4 ปรบั ระยะห่ำงของบรรทดั เท่ำกับ 1.15 พอยต์ (1 คะแนน) 5.5 จดั ตำแหน่งขอ้ ควำมรำยชอื่ ให้ชดิ ซำ้ ย สว่ นอ่ืนๆ ใหจ้ ัดกง่ึ กลำง (1 คะแนน) 5.6 ผสำนเซลล์ในสว่ นของ “ที่” “ชอ่ื -สกุล” และ “เวลำเรยี น” ตำมเอกสำรใบงำน

230 (1 คะแนน) 5.7 เปล่ยี นทิศทำงข้อควำมของ “คะแนนเก็บ” คะแนนสอบ” “จิตพสิ ัย” และ “ผลรวม” หันหวั อักษรไปทำงซำ้ ย (1 คะแนน) 5.8 ทุกคอลมั นใ์ หก้ ำหนดชอื่ หัวเรื่อง เปน็ ตวั หนำ (1 คะแนน) 6. บนั ทึกไฟล์เอกสำรไว้ที่ D:\\(โฟลเดอร์ ช่ือ-สกลุ นักเรยี นเอง)\\ใบปฏิบตั ิงำนที่ 4_01.docx (1 คะแนน) เอกสารใบปฏบิ ัติงานท่ี 4.1 ตารางบนั ทกึ เวลาเรยี นและผลการเรยี น ที่ ช่อื -สกุล เวลาเรียน คะแนนเ ็กบ คะแนนสอบ ิจต ิพสัย ผลรวม 1 2 3 4 5 50 30 20 100 1 นางสาวพนิดา เนยี ดสงิ ห์ 2 นายพงศธร เทียนประดษิ ฐ์ 3 นางสาวยุวกร บรรณารกั ษ์ 4 นางสาวรชั นีกร ชมพูทีป

231 แบบประเมินผลการปฏิบัตงิ านที่ 4.1 หน่วยที่ 4 กำรสร้ำงตำรำง ชื่อ-สกลุ ..............................................................ระดับชน้ั /สำขำ.................................เลขท.ี่ ............... ที่ รายการประเมนิ คะแนน คะแนน เต็ม ทไ่ี ด้ 1. สรำ้ งเอกสำรใหมข่ น้ึ มำ 1 2 กำหนดแบบอักษร TH SarabanPSK ขนำด 16 พอยต์ 1 3 สรำ้ งตำรำงตำมรปู แบบ เอกสำรใบปฏบิ ตั ิงำนที่ 4.1 1 4 พิมพ์ข้อมูลลงในตำรำง ตำมเอกสำรใบปฏิบตั ิงำนท่ี 4.1 3 5.1 ปรบั ขนำดคอลมั น์ “ท”ี่ และ “ช่ือ-สกลุ ” ไดพ้ อดีกับข้อควำม 1 5.2 ปรับคอลัมนข์ อง “เวลำเรยี น” หมำยเลข 1-5 ใหม้ ีขนำดเท่ำกัน 1 5.3 ปรบั คอลัมน์ คะแนน ให้มขี นำดเท่ำกันทุกคอลัมน์ 1 5.4 ปรับระยะหำ่ งของบรรทัดเท่ำกับ 1.15 พอยต์ 1 5.5 จดั ตำแหน่งข้อควำมรำยชอื่ ให้ชิดซำ้ ย และส่วนอ่นื ๆ จัด 1 กงึ่ กลำง 5.6 ผสำนเซลล์ในส่วนของ “ท”ี่ “ชือ่ -สกุล” และ “เวลำเรียน” 1 5.7 เปล่ียนทิศทำงข้อควำมของ “คะแนนเก็บ” คะแนนสอบ” 1 “จิตพสิ ัย” และ “ผลรวม” หนั หัวอักษรไปทำงซำ้ ย 5.8 ทุกคอลัมนใ์ ห้กำหนดชอ่ื หวั เรอื่ ง เป็นตวั หนำ 1 6 บนั ทึกไฟล์เอกสำรชอ่ื ใบปฏบิ ัติงำนท่ี 4_01.docx 1 รวมคะแนน 15 ผปู้ ระเมิน  ครู ลงชื่อ..........................................................ผปู้ ระเมนิ (........................................................) ........./............./..............  เพอ่ื น  ตนเอง

232 ใบปฏิบตั ิงานท่ี 4.2 หน่วยท่ี 4 กำรสร้ำงตำรำง จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม เมอื่ ปฏบิ ัติใบงำนนแ้ี ล้ว ผูเ้ รียนสำมำรถ 1. เพม่ิ แถวและคอลัมน์ได้ 2. ลบเซลล์ คอลมั น์ และแถวได้ 3. ลบเสน้ ตำรำงได้ 4. แยกเซลล์ได้ 5. ใสส่ พี น้ื ของตำรำงได้ 6. ใสส่ เี สน้ ขอบตำรำงได้ 7. วำดเส้นทะแยงในตำรำงได้ 8. เปล่ียนตำรำงเป็นตำรำงสำเร็จรูปได้ 9. เปลย่ี นข้อควำมในตำรำงเป็นข้อควำมปกติได้ 10. ปฏบิ ตั ิงำนดว้ ยควำมรับผดิ ชอบ มรี ะเบยี บวินยั มีควำมซื่อสัตยส์ ุจริต มีควำมสนใจใฝ่รู้ และมีจิตสำธำรณะ วัสด/ุ อปุ กรณ์/ เคร่อื งมือ 1. เครอื่ งคอมพิวเตอร์ 2. โปรแกรมประมวลผลคำ Microsoft Word 2016 คาส่ัง ให้ผู้เรียนปฏบิ ัตงิ ำนตอ่ ไปนี้ (ภำยในเวลำ 50 นำท)ี (20 คะแนน) 1. ให้ผู้เรยี นสร้ำงเอกสำรใหม่ขึ้นมำใช้งำน (1 คะแนน) 2. กำหนดแบบอักษร TH SarabanPSK ขนำด 16 พอยต์ (1 คะแนน) เอกสารใบปฏบิ ัติงานที่ 4.2 เวลา 18.00 – 18.30 – 19.00 – 19.30 – วันที่ 18.30 น. 19.00 น. 19.30 น. 20.00 น. แขนหลัง วงิ่ เบำๆ หรือคำรด์ ิโอ วนั ที่ 1 อก แขนหน้ำ ทอ้ ง วันท่ี 2 ไหล่ ว่งิ เบำๆ หรอื คำร์ดโิ อ วันที่ 3 หลัง ขำ ทอ้ ง วันท่ี 4 ว่ิงเบำๆ หรือคำร์ดิโอ วนั ที่ 5 อก แขนหลงั ท้อง วันท่ี 6 ไหล่ แขนหน้ำ

233 3. สรำ้ งตำรำงตำมรูปแบบ เอกสำรใบปฏิบตั งิ ำนท่ี 4.2 (1 คะแนน) 4. พิมพข์ ้อมลู ลงในตำรำง ตำมเอกสำรใบปฏิบตั งิ ำนท่ี 4.2 (3 คะแนน) 5. ตกแต่งตำรำง ดงั นี้ 5.1 เพิม่ แถวจำนวน 2 แถว พิมพ์ขอ้ ควำม “วนั ที่ 7 และวนั ท่ี 8” พิมพ์ข้อมูลเดียวกันกับ แถว “วนั ที่ 3 และวันท่ี 4” (2 คะแนน) 5.2 แถว “วนั ท่ี 2” ลบเซลล์ชอ่ งวำ่ งออก 2 เซลล์ (1 คะแนน) 5.3 แถว “วันท่ี 4” และ “วนั ที่ 8” ลบเสน้ ตำรำงแนวตั้งภำยในออก (1 คะแนน) 5.4 จำกขอ้ 5.3 พมิ พข์ ้อควำม “พัก” พร้อมจัดก่งึ กลำง (1 คะแนน) 5.5 ใสส่ พี ื้นหัวตำรำงด้ำนบน, หวั ตำรำงด้ำนซ้ำย และแถว “วันท่ี 4” กับ “วันท่ี 8” ตำมควำมต้องกำร (1 คะแนน) 5.6 แถว “วันที่ 6” ในชอ่ งวำ่ ง 2 เซลล์ ให้แยกเซลลเ์ พิ่มเปน็ 3 เซลล์ (1 คะแนน) 5.7 วำดเส้นทแยงในเซลล์ “วันที่ เวลำ” (1 คะแนน) 5.8 กำหนดเส้นขอบรอบนอกตำรำงเป็นแบบเสน้ คู่ และกำหนดสีตำมควำมต้องกำร (2 คะแนน) เวลา 18.00 – 18.30 – 19.00 – 19.30 – วนั ที่ 18.30 น. 19.00 น. 19.30 น. 20.00 น. แขนหลงั วิ่งเบำๆ หรอื คำร์ดิโอ วันท่ี 1 อก แขนหน้ำ ท้อง ไหล่ วง่ิ เบำๆ หรือคำร์ดิโอ วนั ที่ 2 หลงั ขำ ทอ้ ง พกั วง่ิ เบำๆ หรอื คำร์ดโิ อ วนั ท่ี 3 อก แขนหลงั วันท่ี 4 ไหล่ แขนหน้ำ ท้อง วงิ่ เบำๆ หรอื คำร์ดิโอ วันที่ 5 หลงั วนั ที่ 6 ขำ ทอ้ ง วนั ท่ี 7 พัก วันท่ี 8 6. คัดลอกตำรำงทตี่ กแต่งเสร็จ แลว้ วำง จำนวน 2 ตำรำง (1 คะแนน) 7. ตำรำงแรกท่คี ัดลอกมำ เปล่ยี นเป็นตำรำงสำเรจ็ รปู ตำมควำมตอ้ งกำร (1 คะแนน) 8. ตำรำงทสี่ องที่คดั ลอกมำ เปลีย่ นขอ้ ควำมในตำรำงให้เป็นขอ้ ควำมปกติ (1 คะแนน) 9. บนั ทึกไฟล์เอกสำรไว้ท่ี D:\\(โฟลเดอร์ ชือ่ -สกลุ นักเรยี นเอง)\\ใบปฏบตั ิงำนท่ี 4_02.docx (1 คะแนน)

234 แบบประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านที่ 4.2 หน่วยท่ี 4 กำรสร้ำงตำรำง ชอื่ -สกลุ ..............................................................ระดับชัน้ /สำขำ.................................เลขท.ี่ ............... ที่ รายการประเมนิ คะแนน คะแนน เตม็ ทไี่ ด้ 1. สร้ำงเอกสำรใหม่ขน้ึ มำ 2 กำหนดแบบอักษร TH SarabanPSK ขนำด 16 พอยต์ 1 3 สรำ้ งตำรำงตำมรูปแบบ เอกสำรใบปฏบิ ัติงำนท่ี 4.2 1 4 พมิ พ์ข้อมลู ลงในตำรำง ตำมเอกสำรใบปฏบิ ัติงำนท่ี 4.2 1 5 5.1 เพมิ่ แถว “วันที่ 7 และวันท่ี 8” ข้อมูลเหมือน“วันที่ 3 และ 4” 3 2 5.2 แถว “วนั ท่ี 2” ลบเซลลช์ ่องวำ่ งออก 2 เซลล์ 1 5.3 แถว “วนั ที่ 4 และ วันท่ี 8” ลบเส้นตำรำงแนวตัง้ ภำยในออก 1 5.4 พิมพ์ข้อควำม “พัก” จัดก่ึงกลำง 1 5.5 ใส่สีพ้นื หวั ตำรำงดำ้ นบน, หวั ตำรำงดำ้ นซ้ำย และแถว “วันที่ 1 4” กับ “วันที่ 8” ตำมควำมต้องกำร 5.6 แถว “วันที่ 6” ในช่องว่ำงใหแ้ ยกเซลลเ์ พ่มิ เปน็ 3 เซลล์ 1 5.7 วำดเสน้ ทแยงในเซลล์ “วันที่ เวลำ” 1 5.8 กำหนดเส้นขอบรอบนอกตำรำงเปน็ แบบเส้นคู่ และกำหนดสี 2 6 คัดลอกตำรำงทตี่ กแต่งเสรจ็ แล้ววำง จำนวน 2 ตำรำง 1 7 ตำรำงแรก เปล่ียนเปน็ ตำรำงสำเร็จรูป ตำมควำมต้องกำร 1 8 ตำรำงที่สอง เปลย่ี นข้อควำมในตำรำงใหเ้ ป็นข้อควำมปกติ 1 9 บันทึกไฟล์เอกสำรช่ือ ใบปฏิบัติงำนท่ี 4_02.docx 1 20 รวมคะแนน ผปู้ ระเมนิ  ครู ลงชื่อ..........................................................ผปู้ ระเมนิ (........................................................) ........./............./..............  เพือ่ น  ตนเอง

235 ใบปฏิบัติงานท่ี 4.3 หน่วยที่ 4 กำรสรำ้ งตำรำง จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม เมอ่ื ปฏบิ ัตใิ บงำนนี้แลว้ ผเู้ รยี นสำมำรถ 1. คำนวณตัวเลขในตำรำงได้ 2. เรียงลำดบั ขอ้ มูลในตำรำงได้ 3. ปฏบิ ัติงำนดว้ ยควำมรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย มีควำมซือ่ สัตย์สุจริต มคี วำมสนใจใฝร่ ู้ และมีจติ สำธำรณะ วัสด/ุ อุปกรณ์/ เครอ่ื งมือ 1. เคร่ืองคอมพิวเตอร์ 2. โปรแกรมประมวลผลคำ Microsoft Word 2016 คาสงั่ ให้ผู้เรียนปฏิบตั งิ ำนตอ่ ไปน้ี (ภำยในเวลำ 30 นำท)ี (10 คะแนน) 1. ให้ผู้เรียนสรำ้ งเอกสำรใหมข่ ึน้ มำใชง้ ำน (1 คะแนน) 2. กำหนดแบบอักษร TH SarabanPSK ขนำด 16 พอยต์ (1 คะแนน) 3. สร้ำงตำรำงตำมรปู แบบ เอกสำรใบปฏบิ ัติงำนที่ 4.3 (1 คะแนน) 4. พมิ พ์ข้อมลู ลงในตำรำง ตำมเอกสำรใบปฏบิ ตั ิงำนท่ี 4.3 (3 คะแนน) เอกสารใบปฏบิ ตั ิงานท่ี 4.3 ที่ รายการ/ขนาดลกั ษณะ ตน้ ทนุ การผลิต รวมเปน็ เงนิ 1 ชดุ ฝกึ ระบบเครือข่ำย ค่าวัสดุ คา่ ใช้สอย คา่ แรง 2 ชุดฝึกเครือ่ งเสียง 3 ชดุ สอ่ื กำรสอน 3,000 2,000 1,000 4 ชุดฝกึ ดจิ ติ อล 5 ชดุ ฝึกออฟแอมป์ 6,000 4,000 2,000 รวม 5,000 1,500 1,500 1,000 200 300 1,200 350 420 5. คำนวณตวั เลขของแถว ลงในคอลัมน์ “รวมเป็นเงิน” 6. จดั เรียงขอ้ มลู ในคอลมั น์ “รวมเปน็ เงิน” จำกน้อยไปมำก 7. คำนวณตัวเลขของคอลัมน์ ลงในแถว “รวม” 8. บันทึกไฟล์เอกสำรไว้ที่ D:\\(โฟลเดอร์ ช่อื -สกุลนักเรียนเอง)\\ใบปฏบิ ัติงำนท่ี 4_03.docx (1 คะแนน)

236 แบบประเมินผลการปฏิบตั ิงานที่ 4.3 หน่วยท่ี 4 กำรตกแตง่ เอกสำรดว้ ยกรำฟิก ชือ่ -สกุล..............................................................ระดบั ชนั้ /สำขำ.................................เลขท่.ี ............... ท่ี รายการประเมิน คะแนน คะแนน เตม็ ท่ีได้ 1. สร้ำงเอกสำรใหม่ข้ึนมำ 2 กำหนดแบบอกั ษร TH SarabanPSK ขนำด 16 พอยต์ 1 3 สร้ำงตำรำงตำมรูปแบบ เอกสำรใบปฏบิ ตั ิงำนที่ 4.3 1 4 พมิ พ์ข้อมลู ลงในตำรำง ตำมเอกสำรใบปฏิบตั ิงำนที่ 4.3 1 5 คำนวณตัวเลขของแถว ลงในคอลัมน์ “รวมเป็นเงิน” 3 6 จัดเรยี งข้อมูลในคอลัมน์ “รวมเป็นเงนิ ” จำกน้อยไปมำก 1 7 คำนวณตวั เลขของคอลัมน์ ลงในแถว “รวม” 1 8 บันทกึ ไฟล์เอกสำรชอ่ื ใบปฏิบัตงิ ำนท่ี 4_03.docx 1 1 รวมคะแนน 10 ผู้ประเมิน  ครู ลงชอ่ื ..........................................................ผปู้ ระเมิน (........................................................) ........./............./..............  เพือ่ น  ตนเอง

237 เกณฑป์ ระเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน หน่วยท่ี 4 กำรสรำ้ งตำรำง ใบปฏบิ ตั ิงานท่ี 4.1 คาส่ัง ให้ผู้เรียนปฏิบตั ิงำนต่อไปน้ี (ภำยในเวลำ 40 นำท)ี (15 คะแนน) ขอ้ 1, 2, 3, 5.1-5.8 และ 6 คะแนนเต็ม 1 คะแนน คะแนน 1 หมำยถึง ปฏิบตั ิงำนได้ถูกตอ้ ง และเสร็จตำมเวลำ คะแนน 0 หมำยถึง ปฏิบัติงำนไม่ถูกต้อง ไม่เสรจ็ ตำมเวลำ ข้อ 4 คะแนนเตม็ 3 คะแนน คะแนน 3 หมำยถึง พิมพ์ขอ้ ควำมได้ถกู ต้อง ครบถ้วน ไมม่ ีคำผิด และเสร็จตำมเวลำ คะแนน 2 หมำยถงึ พิมพ์ข้อควำมได้ถูกต้อง ครบถว้ น มคี ำผิดไมเ่ กนิ 3 คำ และเสรจ็ ตำมเวลำ คะแนน 1 หมำยถึง พิมพ์ข้อควำมได้ถูกต้อง ครบถ้วน มีคำผิดไม่เกนิ 5 คำ และเสรจ็ ตำมเวลำ คะแนน 0 หมำยถงึ พิมพ์ข้อควำมไม่ถกู ต้อง ไม่ครบถว้ น หรือไม่ได้พมิ พ์ และไมเ่ สรจ็ ตำมเวลำ ใบปฏบิ ตั ิงานที่ 4.2 คาสัง่ ให้ผู้เรียนปฏบิ ตั ิงำนต่อไปน้ี (ภำยในเวลำ 50 นำท)ี (20 คะแนน) ข้อ 1, 2, 3, 5.2-5.6, 6, 7, 8, 9 และ 10 คะแนนเต็ม 1 คะแนน คะแนน 1 หมำยถึง ปฏบิ ัติงำนไดถ้ ูกตอ้ ง และเสรจ็ ตำมเวลำ คะแนน 0 หมำยถงึ ปฏบิ ัติงำนไมถ่ ูกต้อง ไม่เสร็จตำมเวลำ ขอ้ 5.1 และ 5.7 คะแนนเต็ม 2 คะแนน คะแนน 2 หมำยถึง ปฏบิ ัติงำนได้ถูกต้อง ครบถ้วน และเสร็จตำมเวลำ คะแนน 1 หมำยถึง ปฏิบัตงิ ำนได้ถูกต้อง ไม่ครบถว้ น และไม่เสร็จตำมเวลำ คะแนน 0 หมำยถงึ ปฏิบตั ิงำนไม่ถูกต้อง ไมค่ รบถว้ น และไม่เสรจ็ ตำมเวลำ

238 ข้อ 4 คะแนนเต็ม 3 คะแนน คะแนน 3 หมำยถงึ พิมพ์ขอ้ ควำมได้ถูกต้อง ครบถว้ น ไมม่ ีคำผดิ และเสรจ็ ตำมเวลำ คะแนน 2 หมำยถงึ พิมพ์ข้อควำมได้ถูกต้อง ครบถว้ น มคี ำผิดไมเ่ กนิ 3 คำ และเสรจ็ ตำมเวลำ คะแนน 1 หมำยถงึ พิมพ์ข้อควำมได้ถกู ต้อง ครบถ้วน มคี ำผดิ ไม่เกิน 5 คำ และเสรจ็ ตำมเวลำ คะแนน 0 หมำยถงึ พิมพ์ขอ้ ควำมไม่ถูกต้อง ไมค่ รบถว้ น หรอื ไม่ได้พมิ พ์ และไมเ่ สรจ็ ตำมเวลำ ใบปฏิบตั ิงานที่ 4.3 คาสั่ง ให้ผู้เรยี นปฏิบตั งิ ำนต่อไปนี้ (ภำยในเวลำ 30 นำท)ี (10 คะแนน) ข้อ 1, 2, 3, 5, 6, 7, และ 8 คะแนนเตม็ 1 คะแนน คะแนน 1 หมำยถึง ปฏบิ ัติงำนไดถ้ ูกตอ้ ง และเสร็จตำมเวลำ คะแนน 0 หมำยถึง ปฏบิ ัติงำนไม่ถูกต้อง ไม่เสร็จตำมเวลำ ข้อ 4 คะแนนเต็ม 3 คะแนน คะแนน 3 หมำยถงึ พิมพ์ขอ้ ควำมลงในรูปร่ำงไดถ้ ูกตอ้ ง ครบถว้ น และเสร็จตำมเวลำ คะแนน 2 หมำยถงึ พิมพ์ข้อควำมลงในรูปรำ่ งไดถ้ ูกต้อง ครบถว้ น 7 จดุ ขน้ึ ไป และเสร็จตำมเวลำ คะแนน 1 หมำยถึง พิมพ์ขอ้ ควำมลงในรูปรำ่ งไดถ้ ูกต้อง ครบถ้วน 4 จุดขึ้นไป และเสร็จตำมเวลำ คะแนน 0 หมำยถึง พิมพ์ข้อควำมลงในรปู ร่ำงไมถ่ ูกต้อง ไมค่ รบถว้ น หรอื นอ้ ยกว่ำ 4 จุด และไมเ่ สร็จตำมเวลำ

239 แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 4 กำรสร้ำงตำรำง ตอนท่ี 1 ใหน้ กั เรยี นตอบคำถำมต่อไปนี้ (10 คะแนน) 1. กำรสร้ำงตำรำงด้วยโปรแกรม Microsoft Word 2016 มีกี่วธิ ี อะไรบ้ำง (2 คะแนน) ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 2. จงอธบิ ำยขน้ั ตอนกำรเปล่ียนทิศทำงของข้อควำมในตำรำงให้หันหัวไปทำงซำ้ ยหรือขวำ (2 คะแนน) ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... .................................................................................................................................................... ............ 3. จงอธิบำยขัน้ ตอนกำรปรบั ขนำดของแถวหรอื คอลัมน์ในตำรำงใหม้ ีขนำดเทำ่ กันทุกช่อง (2 คะแนน) ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ...................................................................................................... .......................................................... 4. จงอธบิ ำยข้ันตอนกำรเพ่มิ แถว และกำรลบแถวมำอย่ำงละ 1 วธิ ี (2 คะแนน) ............................................................................................................................. ................................... ..................................................................................................................................................... ........... ................................................................................................................................................................ 5. จงอธบิ ำยข้ันตอนกำรแยกตำรำง (2 คะแนน) ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ...................................

240 ตอนที่ 2 จงใสเ่ คร่ืองหมำย (✓) หน้ำข้อควำมทถ่ี ูก และใส่เครอ่ื งหมำย () หน้ำข้อควำมทผี่ ิด (10 คะแนน) 1. เซลลเ์ กิดจำกจดุ ตัดของแถว (ROW) และ คอลัมน์ (Columns) 2. กำรแทรกตำรำงดว้ ยวิธีอตั โนมัตกิ ำหนดแถวและคอลมั น์ได้สูงสดุ คือ 10X10 3. กำรกดปุ่ม <Tab> ทแ่ี ปน้ พมิ พ์เพื่อใชเ้ พ่ิมแถวต่อท้ำยตำรำงได้ 4. สัญลกั ษณ์ ใช้เพม่ิ และลดขนำดของคอลัมนด์ ว้ ยเมำส์ 5. สำมำรถปรับขนำดแถวและคอลัมนด์ ้วยปุ่มคำส่งั จำกแทบ็ แทรก (Insert) ได้ 6. ปุม่ คำสง่ั ผสำนเซลล์ แยกเซลล์ และแบ่งตำรำง เปดิ ได้จำกแท็บ เค้ำโครง (Layout) 7. จำกภำพแสดงถงึ ขน้ั ตอนกำรเพมิ่ คอลัมน์ 8. ปุ่มคำสัง่ เสน้ ขอบและแรเงำ (Borders and Sharding) ใชโ้ ดยคลกิ ขวำทีต่ ำรำงได้ 9. Microsoft Word สำมำรถคำนวณในตำรำงไดเ้ ฉพำะ บวก ลบ คณู หำร เทำ่ น้ัน 10. กำรจัดเรียงลำดับข้อมูลในตำรำง สำมำรถจัดเรียงได้เฉพำะตัวเลขเท่ำน้ัน

241 เกณฑป์ ระเมนิ แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 4 กำรสร้ำงตำรำง ตอนท่ี 1 จงตอบคำถำมต่อไปนี้ (10 คะแนน) ขอ้ 1 – 5 คะแนนเต็ม 2 คะแนน คะแนน 2 หมำยถึง ตอบได้ตรงประเดน็ และครบถ้วน คะแนน 1 หมำยถงึ ตอบได้ตรงประเดน็ แต่ไม่ครบถว้ น คะแนน 0 หมำยถึง ตอบไม่ตรงประเดน็ ไมค่ รบถว้ น ตอนที่ 2 ใส่เครื่องหมำย (✓) หน้ำข้อควำมที่ถูก และใส่เคร่ืองหมำย () หนำ้ ข้อควำมที่ผดิ (10 คะแนน) ขอ้ ละ 1 คะแนน คะแนน 1 หมำยถึง ใสเ่ คร่ืองหมำยได้ถกู ต้อง คะแนน 0 หมำยถงึ ใส่เคร่ืองหมำยไม่ถกู ต้อง

242 แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยท่ี 4 กำรสรำ้ งตำรำง คาชแี้ จง จงทำเครอ่ื งหมำยกำกบำท () ลงในกระดำษคำตอบที่ถูกต้องท่ีสดุ เพยี งข้อเดียว 1. ขอ้ ใดไม่ใช่ส่วนประกอบของตำรำง ก. เซลล์ ข. แถว ข. คอลัมน์ ง. แทบ็ 2. กำรสรำ้ งตำรำงได้ตำมรปู แบบทีต่ ้องกำรมำกท่ีสุด คอื ข้อใด ก. แทรกตำรำง ข. วำดตำรำง ค. แปลงข้อควำมเปน็ ตำรำง ง. ตำรำงด่วน 3. ปมุ่ แป้นพิมพข์ ้อใด ใช้เล่อื นตำแหน่งตวั ช้ีเมำส์ไปยังช่องตำรำงถดั ไปและเพ่ิมแถวต่อท้ำยตำรำง ก. <Tab> ข. <Shift>+<Tab> ค. <Alt>+<Page Up> ง. <Alt>+<Page Down> 4. หน้ำทีข่ องปุ่มคำส่ัง คอื ข้อใด ก. กำรกำหนดตำแหน่งข้อควำม ข. กำรเปล่ยี นทศิ ทำงของข้อควำม ค. กำรกำหนดอักศรขนึ้ ต้นขนำดใหญ่ ง. กำรจดั กำรกับข้อควำมในตำรำง 5. ปรบั ขนำดแถวหรอื คอลมั นใ์ ห้เท่ำกันทกุ ช่อง เลือกปุ่มคำส่งั ท่แี ทบ็ ใด ก. หนำ้ แรก (Home) ข. แทรก (Insert) ค. เคำ้ โครง (Layout) ง. ออกแบบ (Design) 6. ปุม่ คำส่งั ลบเซลล์แลว้ ใหเ้ ซลลเ์ ล่ือนไปทำงซ้ำย คือข้อใด ก. ข. ค. ง. 7. ปมุ่ คำส่งั ผสำนเซลล์ คอื ข้อใด ก. ข. ค. ง. 8. ปุม่ คำสั่งใด ไม่เก่ียวข้องกับกำรตกแตง่ ตำรำง ก. ข. ค. ง.

243 9. ตอ้ งกำรคำนวณผลรวมตัวเลขท่อี ยดู่ น้ บนตำรำง ต้องใช้สตู รตำมข้อใด ก. =SUM(LEFT) ข. =SUM(RIGHT) ค. =SUM(UNDER) ง. =SUM(ABOVE) 10. ป่มุ คำส่งั ใช้จัดเรียงลำดับขอ้ ใดไม่ได้ ก. ขอ้ ควำม ข. รำยกำร ค. วนั ท่ี ง. ตวั เลข

244 แบบประเมินคุณธรรมจริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ช่อื -สกุล..............................................................ระดับช้ัน/สำขำ.................................เลขท.่ี ............... ข้อที่ คณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และ ระดบั พฤติกรรม คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ / พฤติกรรมบ่งชี้ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง (2) (1) (0) 1. ควำมรบั ผิดชอบ 2. ควำมมีระเบียบวินยั 3. ควำมซ่อื สัตย์สจุ รติ 4. ควำมสนใจใฝ่รู้ 5. มจี ิตสำธำรณะ รวมคะแนนท้งั สนิ้ ผู้ประเมนิ  ครู  เพอ่ื น  ตนเอง เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชอ่ื .....................................................ผูป้ ระเมนิ ปฏิบตั ิสมำ่ เสมอ (...................................................) ปฏิบัตบิ ำงครัง้ ไมเ่ คยปฏิบตั ิ = 2 คะแนน = 1 คะแนน = 0 คะแนน