Sugar free 19-20 (2020-2021)

SUGAR FREE THAI DIABETIC CHILD & ADOLESCENT SUPPORT CLUB วารสารชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน http://www.thaidiabetes.com YEAR 19 : NO.19 : NOVEMBER 2020 / YEAR 20 : NO.20 NOVEMBER 2021 YEAR 19 : NO.19 :NOVEMBER 2020 YEAR 20 : NO.20 : NOVEMBER 2021 นิทรรศการเบาหวานชนิดที่ 1 CELEBRATING กับเรื่องราวการใช้ชีวิตร่วมกับ\"เข็มอินซูลิน\" 100 YEARS เบาหวาน OF INSULIN และ COVID-19

รายชื่อคณะกรรมการชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน DEAR READER, สาส์นจากประธานชมรมฯ ประจำปี 2564 - 2566 สวัสดีค่ะสมาชิกชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน ที่ปรึกษา ศ.เกียรติคุณ พญ.ชนิกา ตู้จินดา วารสาร SUGAR FREE ฉบับนี้จะเป็นปีที่ 19 และปีที่ 20 รวม 2 ปี นะคะ ซึ่งเป็น 2 ปี ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ศ.เกียรติคุณ พญ.วรรณี นิธิยานันท์ (COVID-19) กันทั่วโลก อีกทั้งยังมีการกลายพันธุ์ที่รุนแรงขึ้นในช่วง เวลานี้ แม้ผู้เป็นเบาหวานจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อไม่แตกต่าง ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ จากผู้ที่ไม่เป็นเบาหวาน แต่ถ้าติดเชื้อแล้วจะมีอาการหรือภาวะ แทรกซ้อนที่รุนแรงกว่า เนื่องจากเราจะมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำกว่าคน รศ.นพ.จิตติวัฒน์ สุประสงค์สิน ปกติหากควบคุมน้ำตาลไม่ดีพอ ในปี 2563 ชมรมฯ และสมาคมโรค เบาหวานแห่งประเทศไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ จึง ศ.คลินิก.พญ.สุภาวดี ลิขิตมาศกุล ได้ร่วมกันส่งหน้ากากอนามัยให้แก่สมาชิกทุกท่านเพื่อใช้ในการ ป้องกันและดูแลตนเองให้ห่างไกลจาก COVID-19 นางคัทรี ชัยชาญวัฒนากุล ปี 2563 ชมรมฯ และสมาชิกได้ร่วมงานที่สำคัญ “รวมพลัง ดร.สุวัฒน์ ทาสุคนธ์ สู้ภัยเบาหวาน Together Fight Diabetes Fair” โดยสมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวง นายรัตนะ กรัยวิเชียร ราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จเป็นองค์ประธานเปิด งาน ภายในงานมีนิทรรศการศิลปะแสดงผลงานภาพวาดของเด็ก นายวีรวัฒน์ พงศ์ธรพฤทธิ์ เบาหวานชนิดที่ 1 ที่ได้รับรางวัล และนิทรรศการภาพถ่ายของนาย แพทย์กันตพงศ์ ทองรงค์ ที่ได้ถ่ายทอดความรู้สึกและเรื่องราวด้วย นางโสภา รัตนะทัศนีย์ ภาพของเด็กเบาหวานชนิดที่ 1 ในอิริยาบถต่างๆ ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ เห็นฝีมือและความสามารถของเด็กเบาหวานที่ไม่แตกต่างจากเด็ก นางชนินทร ศรีชมภู อื่นทั่วไป และเป็นกำลังใจที่สำคัญให้กับสมาชิกชมรมฯ ที่เพิ่งเข้ามา เป็นครอบครัวเบาหวาน ขอบคุณสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศ ประธานชมรม น.ส.ปัณยดา วนพงษ์รุ่งเรือง ไทยฯ ที่ได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้น รองประธาน นายเฉลิมเกียรติ มงคลธรรมากุล สำหรับปี 2564 ถึงแม้ว่าชมรมฯ ไม่ได้จัดกิจกรรมให้สมาชิก เลขานุการ นายวิสูตร ปรีชาธรรมรัช ชมรมฯ ได้เข้าร่วม แต่ปีนี้ยังคงมีความสำคัญต่อพวกเราอย่างมาก ผู้ช่วยเลขานุการ เพราะเป็นปีที่ครบรอบ 100 ปี ของการค้นพบ “อินซูลิน” ซึ่งเป็นยา รักษาโรคเบาหวานตัวแรกของโลกที่ช่วยต่อชีวิตผู้คนได้มากมาย และทำให้ผู้เป็นเบาหวานใช้ชีวิตได้อย่างมีความปกติสุข เดินตาม นางสุภาพร ภูษณวรรณ ความฝันของตนเองได้ ชีวิตประสบความสำเร็จมากมาย นางหทัยรัตน์ จึงเสถียรทรัพย์ สุดท้ายนี้ ประธานฯ ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ได้ร่วม สนับสนุนการจัดกิจกรรมและการดำเนินงานต่างๆ ของชมรมฯ ด้วยดีเสมอมา น.ส.เวฬุรีย์ โชติกิจนุสรณ์ น.ส.ภริตพร เทศดนตรี ปัณยดา วนพงษ์รุ่งเรือง ประธานชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน เหรัญญิก นางปริยา พงศ์ธรพฤทธิ์ ผู้ช่วยเหรัญญิก นางราตรี เฉลิมโรจน์ วิชาการ ดร.พญ.ประเนตรทิพย์ รินแก้วกาญจน์ พญ.ปฐมาพร เหมือนพิทักษ์ นางจิรัชยา ขันตา ประชาสัมพันธ์ นางขวัญศิริ งามมณฑา นางสกุณา สมุทรจินดา นายกาจสิทธิ์ ฉัตรเฉลิม น.ส.ญาธิป พงศ์ธรพฤทธิ์ สมาชิกสัมพันธ์ นางรัสรินทร์ ศุทธะเจริญทัศน์ น.ส.วรานิษฐ์ ศุทธะเจริญทัศน์ กรรมการ นางจินตนา ไชยมงคล นางศิริวรรณ สีเหลือง นายปรีชา เฉลิมโรจน์ น.ส.ทมิตา ถิระชนะกมล น.ส.อมรรัตน์ พิพัฒน์เสถียร ทีมประสานองค์กรนานาชาติ น.ส.วีระภา รัตนทัศนีย์ พญ.ปฐมาพร เหมือนพิทักษ์ น.ส.สิรีกร ศรีชมภู น.ส.ณัฐนรี บุบผศิริ น.ส.ปาลิดา สันทัดการ นายชนัต มงคลธรรมากุล นายริกกี้ มันจันดา

สารบัญ ชีวิตที่เป็นสุขแม้นเป็นเบาหวาน 4 5 ย้อนหลังจากอดีตสู่ความสำเร็จของพวกเราในวันนี้ 6 7 การตั้งเป้าหมายในการดูแลเรื่องเบาหวาน 10 เพื่อความสำเร็จของ T1D 12 14 SCAN เพื่อเข้าสู่ website COVID-19 เราต้องก้าวข้ามไปด้วยกัน 17 18 \"ชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน\" เปิดโลกเบาหวาน 20 Diabetes Update 2020 22 http://www.thaidiabetes.com 23 HELP US! รวมพลังสู้ภัยเบาหวาน 24 Children who live with diabetes 26 สำหรับผู้มีความประสงค์จะบริจาคเงินให้ชมรมเพื่อเด็กละวัยรุ่นเบาหวาน 27 เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของชมรมฯ นิทรรศการเบาหวานชนิดที่ 1 28 กับเรื่องราวการใช้ชีวิตร่วมกับเข็มอินซูลิน 31 และช่วยเหลือเด็กและวัยรุ่นเบาหวานที่ด้อยโอกาส สามารถบริจาคเงินได้ที่ บันทึกจากผู้สำเร็จการศึกษา จาก IDF Youth leader ship กองทุนเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวานในศิริราชมูลนิธิ (D.2719) โดย Young Leaders in Diabetes (YLD) BUSAN training submit 1. บริจาคโดยตรงที่ ศิริราชมูลนิธิ ตึกมหิดลบำเพ็ญ ชั้น 1 รพ.ศิริราช ด้วยเงินสด เช็ค หรือ บัตรเครคิต วิ่งสู้เบาหวาน 2. บริจาคผ่านทางไปรษณีย์ เช็ค ตั๋วแลกเงิน ธนาณัติ สั่งจ่ายศิริราช Success story of มูลนิธิ ธนาณัติ ระบุผู้รับปลายทาง ปท.ศิริราช Thai Diabetes Child & Adolescent Support Club 3. บริจาคผ่านธนาคาร โดยโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ สรุปกิจกรรมวันครอบครัวเบาหวาน ประจำปี 2562 \"TYPE ONE TYPE FUN\" ชื่อบัญชี ศิริราชมูลนิธิ ธ.ไทยพาณิชย์(กระแสรายวัน) สาขาศิริราช เลขที่บัญชี 016-3-00049-4 เปิดโลกเบาหวาน ธ.ทหารไทย สาขาศิริราช เลขที่บัญชี 085-2-08995-2 DIABETES update 2021 ธ.กสิกรไทย สาขาศิริราช เลขที่บัญชี 638-2-13545-6 ธ.กรุงไทย สาขา เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เลขบัญชี 031-0-04905-9 SIDM Support Group ธ.กรุงศรีอยุธยา สาขาอรุณอมรินทร์ เลขที่บัญชี 157-1-08108-3 ธ.ออมสิน สาขา ศิริราช เลขบัญชี 020-02404205-1 วันเบาหวานโลก ธ.กรุงเทพ สาขาศิริราช เลขที่บัญชี 901-7-00988-8 World Diabetes Day กรุณาส่งสำเนาใบโอนเงิน โดยเขียน ชื่อ - นามสกุล Insulin 100 years anniversary วัน/เดือน/ปีเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์และรหัสกองทุน (D.2719) Celebrating 100 years of Insulin 1921-2021 ส่งมาที่ ศิริราชมูลนิธิ ตึกมหิดลบำเพ็ญ เลขที่ 2 เฉลิมฉลอง 100 ปี ค้นพบ “อินซูลิน” 2464 – 2564 โรงพยาบาลศิริราช ถนนวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 โทร 0-2412-2009, 0-2419-7658-60 กด 101-104 ทางศิริราชมูลนิธิจะออกใบเสร็จรับเงินบริจาคเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ โทรสาร 0-2411-2543 หรือสามารถ Add line เพื่อแจ้งความประสงค์ได้ที่ QR code ด้านล่างนี้

ชีวิตที่เป็นสุขแม้นเป็นเบาหวาน ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงชนิกา ตู้จินดา \"ชีวิตที่เป็นสุข เป็นยอดปรารถนาของมนุษย์ปุถุชนทุกคน จะเกิดขึ้นได้ด้วยตนเองมิใช่ผู้อื่น ด้วยทัศนคติ ที่ดี ค่านิยม วิถีชีวิต หรือ lifestyle และการปฏิบัติตน ไม่มีใครทำแทนกันได้\" ชีวิตคนเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 คือสิ่งท้าทายศักยภาพของตนเอง ด้วย สถานการณ์ที่ไม่ปกติเหมือนผู้อื่น ตนสามารถเอาชนะอุปสรรคที่ดูเหมือนจะโชคร้าย แต่กลายเป็นความโชคดี ที่สามารถเอาชนะและดำรงชีวิตปกติสุขได้ ดังนั้นเด็กและ วัยรุ่นที่เป็นเบาหวาน เป็นกลุ่มที่พวกเราจะชื่นชมมากในการดูแลสุขภาพกาย ใจ ทั้ง อาหาร การฉีดยา การออกกำลังกาย จิตใจชื่นบาน มีแรงบันดาลใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการ ศึกษา ทำให้เราได้เห็นความสำเร็จดี ทั้งการควบคุมเบาหวานการศึกษา การมีชีวิตที่ ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมและมีครอบครัวของตนเอง อยู่เย็นเป็นสุข สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวง ราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานวันรวมพลังสู้ภัย เบาหวาน (Together Fight Diabetes Fair) ณ โถงชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่ง กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2563 พระราชทานโล่รางวัลแก่ผู้ชนะการ ประกวดวาดภาพ ประกวดวิดีโอคลิป เสด็จฯทอดพระเนตรนิทรรศการความรู้เรื่อง โรคเบาหวาน นิทรรศการผลงานศิลปะจากเด็กและเยาวชนผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิด ที่ 1 ในหัวข้อ Living with Diabetes ที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนในหลายช่วงวัย ทั้งจากรุ่นอายุ 5-9 ปี 10-14 ปี และ 15-18 ปี ป่วยด้วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 แสดง ฝีมือผ่านงานศิลปะที่เปลี่ยนความเจ็บป่วยมาสู่พลังแห่งความสร้างสรรค์ และนำมา จัดแสดงผลงานในนิทรรศการนี้ ขอแสดงความชื่นชมกับเด็ก ๆ และวัยรุ่นที่เป็นโรค เบาหวานหลาย ๆ คนมีพรสวรรค์ดียิ่งจากผลงานที่ได้แสดงในงานนี้ ปัจจุบันความรู้เรื่องเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งต้องการอินซูลินเป็นที่ประจักษ์ ของคนทั่วไป แม้ในเด็กชั้นมัธยมต้นของโรงเรียนสาธิตบางแห่ง นักเรียนค้นคว้าด้วย ตนเอง จนทราบว่าต่างจากเบาหวานผู้ใหญ่ตรงที่ “ต้องการอินซูลินและดำรงชีวิต ได้อย่างปกติ” ซึ่งแตกต่างจากยุคสมัยก่อนซึ่งคนไม่รู้จักเบาหวานเด็กอย่างปัจจุบัน ในยุคดิจิทัลนี้เปิดโอกาสให้เด็กเบาหวานของเราแสดงศักยภาพได้เต็มความสามารถ ประสบความสำเร็จทั้งการศึกษา การงานอาชีพ สุขภาพกายใจเข้มแข็ง ดังที่ปรากฏ ชัดเจนเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับผู้ที่มีภาวะหรือโรคภัยไข้เจ็บอื่น ๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้ พยายามพัฒนาตนสู่ความเจริญทั้งกาย ใจ อารมณ์ สังคม และปัญญา จึงขออวยพร ให้ทุก ๆ คนในครอบครัวเบาหวาน มีความสุข ความเจริญทั้งกาย ใจ มุ่งมั่นในการ ทำความดี คิดดี ทำดี ประสบความสำเร็จตามปรารถนาทุกประการ ด้วยความปรารถนาดียิ่ง ศ.เกียรติคุณ พญ.ชนิกา ตู้จินดา 4

\" ย้อนหลังจากอดีตสู่ความสำเร็จของ พวกเราในวันนี้ \" ศาสตราจารย์ เกียรติคุณ แพทย์หญิง วรรณี นิธิยานันท์ ต้องเข้าใจตรงกันก่อนว่า “ความสำเร็จของพวกเราในวันนี้” คืออะไร? หลายคนคงทราบแล้ว แต่ก็อาจจะมีอีกหลายคนที่ยังไม่ ทราบ ความสำเร็จของพวกเราในวันนี้คือการมีทีมดูแลเบาหวานชนิดที่ 1 ในรูปแบบเครือข่ายอยู่ในทุกเขตสุขภาพทั่วประเทศ และสำนักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) อนุมัติ “ชุดสิทธิประโยชน์ให้ผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1” ซึ่งประกอบด้วย การเข้าถึงการเรียนรู้และสร้าง ทักษะเพื่อดูแลตนเอง อุปกรณ์สำหรับตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดพร้อมแผ่นตรวจที่เพียงพอสำหรับตรวจระดับน้ำตาลในเลือดวันละ 4 ครั้ง รวมทั้ง แผ่นตรวจสารคีโตน โดยแพทย์ผู้ดูแลจะต้องลงทะเบียนในระบบเพื่อใช้สิทธินี้ ทีมงานจะเป็นผู้ให้ความรู้และสร้างทักษะในการตรวจวัด ระดับน้ำตาลในเลือด การแปลผลเลือด การคำนวณปริมาณยาฉีดอินซูลินที่เหมาะกับมื้ออาหารและกิจกรรมที่ต้องทำในแต่ละช่วงเวลาทุกวัน การแก้ไข/ปรับตัวในสถานการณ์ต่าง ๆ ถ้าเป็นเด็กเล็กหรือผู้ที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลจะต้องเรียนรู้และนำไปปฏิบัติได้ อย่างถูกต้อง ที่กล่าวว่าเป็น “ความสำเร็จของพวกเรา” เพราะทุกคนมีส่วนร่วม ทั้งผู้ เป็นเบาหวาน ผู้ปกครอง ทีมดูแลเบาหวาน (แพทย์ พยาบาล และ ทีมงาน) เริ่ม จาก “โครงการ 84 พรรษามหาราชันรวมพลังบริบาลผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหา มงคลเฉลิมพระชนพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔” ที่ดำเนินการต่อเนื่อง นาน 3 ปี เชื่อว่าสมาชิกทุกคนคงรู้จักหรือเคยได้ยิน บางคนเคยได้เข้าร่วม โครงการ ผลจากโครงการนี้แสดงให้เห็นว่า การดูแลรักษาผู้เป็นเบาหวานชนิด กลุ่มทีมสหสาขาวิชาชีพเบาหวาน เห็นความสำคัญและรู้ ที่ 1 ตามมาตรฐานสากลมีความเป็นไปได้ สามารถสร้างทีมดูแลเบาหวานชนิดที่ บทบาทของทีมสหสาขาวิชาชีพเบาหวานมากขึ้น มีการพัฒนาการดูแล 1 เพิ่มได้ การเรียนรู้และปฏิบัติตัวโดยตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดก่อนอาหาร รักษาเบาหวานได้เต็มศักยภาพ มีมาตรฐานการให้ความรู้และสร้าง ทุกมื้อและก่อนนอน ฉีดอินซูลินที่ปรับขนาดให้เหมาะกับอาหารแต่ละมื้อและ ทักษะการดูแลตนเอง รู้และเข้าใจชีวิตความเป็นอยู่ของผู้เป็นเบาหวาน กิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน ทำให้ควบคุมเบาหวานได้ดีขึ้น มีความปลอดภัย ลด และครอบครัว รู้ข้อจำกัด ความต้องการ รวมถึงสถานการณ์ทางสังคม การเกิดภาวะระดับน้ำตาลต่ำในเลือด และภาวะเลือดเป็นกรด (DKA) ที่สำคัญผู้ ที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบกับผู้เป็นเบาหวานและครอบครัว เป็นเบาหวานและผู้ปกครองมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ในปี พ.ศ. 2558 ทีมแพทย์ได้ สามารถให้คำปรึกษา/ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เป็นเบาหวานและ นำผลที่เกิดขึ้นรายงานต่อคณะกรรมการกำกับดูแลโรคเบาหวานของ สปสช. ครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้วิธีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ คณะกรรมการฯเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะสนับสนุนส่งเสริมการรักษารูปแบบ ป่วยเบาหวานและครอบครัว ที่เป็นมาตรฐานสากลนี้ จึงอนุมัติให้ทำโครงการนำร่องสำหรับผู้เป็นเบาหวาน ชนิดที่ 1 พร้อมชุดสิทธิประโยชน์ จำนวน 300 คน ผลสำเร็จจาก 3 ปีแรก ภาครัฐ/องค์กรที่ลงทุนและกำหนดค่าใช้จ่าย มีการลงทุน ทำให้ขยายจำนวนผู้เป็นเบาหวานเพิ่มเป็น 500, 1500 และ 2000 คนสำหรับ และจ่ายเงินอย่างคุ้มค่า ประหยัด สามารถวัดผลลัพธ์ได้ และครอบคลุม ปีงบประมาณ 2564 โดยมีโรงพยาบาลร่วมเป็นเครือข่าย 62 แห่ง การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาการบริการอย่างต่อเนื่อง สามารถสรุปผลสำเร็จของโครงการและผลดีที่เกิดขึ้นกับแต่ละกลุ่ม คณะกรรมการกำกับดูแลโรคเบาหวานฯ ได้รับทราบ ความ ที่เกี่ยวข้อง ในการบริบาลผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ได้ดังนี้ สำเร็จในการดำเนินชีวิตของผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ทั้งด้านการศึกษา หน้าที่การงาน คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พึ่งตนเองได้ เชื่อว่าผู้เป็นเบาหวาน กลุ่มผู้เป็นเบาหวาน มีความรู้ความเข้าใจโรคเบาหวานและมีทักษะใน กลุ่มนี้จะเป็นแบบอย่างที่ดี และเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้เป็นเบาหวานอื่น การดูแลตนเอง ทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดดีขึ้น โดยมีทีมงานดูแล/ ๆ ให้ใส่ใจดูแลตนเองเพื่อควบคุมเบาหวานให้บรรลุผลตามเป้าหมาย ให้คำปรึกษาอย่างต่อเนื่อง สามารถแก้ไข/ปฏิบัติ/ปรับตัวในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นคนมีคุณภาพที่สามารถร่วมในการพัฒนาสังคมและประเทศได้ ที่เกิดขึ้น เช่น ภาวะน้ำตาลต่ำในเลือด หรือ ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากเกิน การปฏิบัติเมื่อรู้สึกเจ็บป่วย ออกกำลังกาย เดินทางไกล ร่วมงานเลี้ยง/งาน \"เป้าหมายต่อไป คือ ผลักดันให้ทุกสิทธิการรักษาอนุมัติชุดสิทธิ สังสรรค์ ประโยชน์นี้ให้กับผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 กลุ่มผู้ปกครองหรือผู้ดูแล มีความรู้ความเข้าใจโรคเบาหวานและการ อย่างครอบคลุมและเท่าเทียมกัน ขอให้พวกเรามุ่งมั่น ปฏิบัติดูแล เข้าใจชีวิตความเป็นอยู่ของผู้เป็นเบาหวาน ความต้องการของผู้ ก้าวเดินไปด้วยกัน เพื่อยกระดับการบริบาลโรคเบาหวานของ เป็นเบาหวาน และความช่วยเหลือที่ตนพึงทำได้เพื่อช่วยให้ควบคุมเบาหวานได้ ประเทศไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล และเกิดผลลัพธ์ที่พึงพอใจ\" ตามเป้าหมาย เข้าใจวิธีการติดต่อ/ปรึกษา/ขอความเห็นจากทีมสหสาขาวิชาชีพ เบาหวานเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 5

การตั้งเป้าหมายในการดูแลเรื่องเบาหวาน เพื่อความสำเร็จของ T1D ศาสตราจารย์คลินิก แพทย์หญิง สุภาวดี ลิขิตมาศกุล ปัจจุบันครอบครัวเบาหวานเด็กและวัยรุ่นไทยมีโอกาสเข้าถึงกระบวนการเรียนรู้ ได้เรียนทักษะการดูแลตนเอง ที่เรียกว่า diabetes self management education and Supports (DSMEs) : survival skills การคำนวณอาหาร แปลผลระดับ น้ำตาลปลายนิ้วก่อนฉีดยาอินซูลิน และลงมือรับประทานอาหาร จากทีมหมอ พยาบาล นักโภชนาการ เภสัชกร นักสุขศึกษาจาก โรงพยาบาลหลายๆแห่งทั่วประเทศไทยครบทั้ง 4 ภาค สิ่งที่ทางทีมผู้บริบาลรักษาคาดหวัง ในการติดตามเด็กๆ ที่สำคัญ..... เด็กๆผู้เป็นเบาหวานมีความก้าวหน้าในการ วัยรุ่นเบาหวานชนิดที่ 1 รวมทั้งผู้ปกครอง คือ การร่วมมือ ความ เรียน ประสบความสำเร็จ ได้เดินตามความฝัน มีงานอดิเรก สม่ำเสมอ และการฝึกทักษะความเข้าใจเพื่อแก้ไข-ปรับระดับน้ำตาล เมื่อจบการศึกษา ได้ทำงานที่มั่นคงแล้วมีชีวิตประจำวันตาม ที่เกิดขึ้น ขณะที่เราปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ว่าผลลัพท์เป็นอย่างไร ความหวัง ความฝันที่ตั้งใจ อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข เช่น เป็นต้นแบบของการเข้าใจและเรียนรู้การใช้ความรู้ทาง วิทยาศาสตร์มาใช้ประสานกับการทำงานของระบบการ • ผลที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างที่หมอและทีมวางแผนไว้หรือไม่ ? ทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกายเราเองอย่างสมดุลและ • สูตรที่ใช้คำนวณ เหมาะสมหรือไม่ หรือว่าได้สูตรที่ใช้ได้แต่ใน มีคุณประโยชน์ โรงพยาบาล แต่พอกลับบ้านแล้วสูตรยังไม่สมดุล หรือสูตรใช้ได้ กับการกินข้าว แต่ใช้ไม่ได้กับการกินเส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง นม ผล ไม้ เป็นต้น หรือสูตรใช้ได้ แต่เวลาผ่านมา 1 ปี แล้วเด็กๆโตขึ้น ต้องมีการปรับสูตรใหม่หรือไม่ ดังนั้น ในการมาพบแพทย์ที่คลินิก จึงเป็นการพูดคุยวิเคราะห์ผลโดยรวม คือ • ผลการเพิ่มของน้ำหนัก และความสูง • ผลของระดับน้ำตาลสะสมที่เรียกว่า A1C • สมุดบันทึก ข้อมูลที่ดาวน์โหลดจากเครื่องตรวจน้ำตาลปลาย นิ้ว และข้อมูลผลการปรับระดับน้ำตาลที่เราตรวจเป็นประจำ รวม ทั้งกิจวัตรประจำวันของเด็กๆผู้เป็นเบาหวานในช่วง 3 เดือนที่ผ่าน มา กระบวนการ เจาะ-นับ-ฉีด-กิน Daily problem solving skills )ว่าเราปฏิบัติได้มากน้อยกี่เปอร์เซนต์,มีการประยุกต์ใช้ความรู้ อย่างเข้าใจแค่ไหน? อย่างไร? โดยคุณหมอและทีมมีเจตนาให้เกิดผลลัพท์ ดังนี้ 1. เด็กๆ ผู้เป็นเบาหวานมีความสุข ร่างกายแข็งแรง เติบโต ปกติ ทำกิจวัตรประจำวันได้ 2. มีผลค่าน้ำตาลสะสม A1c ลดลงอย่างน้อย 0.5 – 1% ทุก 3-4 เดือนที่มาพบแพทย์ ในกรณีที่สูงอยู่ จนมี ระดับอยู่ในระหว่าง 6.5% - 7.5% และอยู่ในช่วงระดับนี้ต่อเนื่อง โดยไม่มีการเกิดอาการน้ำตาลต่ำรุนแรง / อาการน้ำตาลต่ำที่ไม่รู้ ตัว (severe hypoglycemia) 3. ไม่มีอาการดังต่อไปนี้ 3.1) การเจ็บป่วยเพราะคุมเบาหวานไม่ดี/ ภาวะเลือดเป็นกรด DKA 3.2) อาการน้ำตาลสูง/อาการน้ำตาลต่ำ ต้องขาดเรียนเข้า รับการรักษาโรงพยาบาลซ้ำ 6

COVID - 19 เราต้องก้าวข้ามไปด้วยกัน วีรวัฒน์ พงศ์ธรพฤทธิ์ อดีตประธานชมรมฯ ในปี พ.ศ. 2563 เป็นปีที่มีเหตุการณ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ นั่นคือการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ช่วงเดือนมีนาคม - เดือน เมษายน พ.ศ. 2563 เป็นช่วงการแพร่ระบาดในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคน ต้องใช้ชีวิตประจำวันด้วยความระมัดระวัง ต้องปรับตัวให้คุ้นเคยกับวิถีชีวิตใหม่แบบ New Normal ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้ล้างมือบ่อย ๆ จนเป็นนิสัย มีปัจจัยที่ต้องพกติดตัว เพิ่มขึ้น คือ เจลล้างมือ, แอลกอฮอล์ และที่สำคัญที่สุด คือ ต้องสวมหน้ากากอนามัย เมื่อออกจากบ้านทุกครั้ง ทุกวัน ตลอดเวลาที่อยู่นอกบ้านและในที่ชุมชน ช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2563 ชมรมฯ ได้รับหน้ากากอนามัยส่วนหนึ่งจากสมาคม โรคเบาหวานแห่งประเทศไทย เราเลยคิดกันว่าน่าจะส่งต่อความห่วงใยในความปลอดภัย จาก COVID-19 ไปถึงสมาชิกชมรมของเราทุก ๆ คน แต่หน้ากากที่เราได้รับไม่เพียงพอ ชม รมฯ จึงได้จัดหาเพิ่มเติมให้สามารถส่งให้สมาชิกทั้งหมดประมาณ 600 คน ให้ได้คนละ 2 ชิ้น เพื่อให้พกพา พอใช้ได้ในยามฉุกเฉิน อาจารย์สุ (คุณหมอสุภาวดี) แนะนำว่าถ้าเราส่ง หน้ากากอนามัยไปให้สมาชิก เราก็น่าจะมีแผ่นพับเล็ก ๆ แนบไปด้วย เพื่อเป็นการสื่อสาร ผูกพันเล็กๆ น้อย ๆ ระหว่างชมรมฯ กับสมาชิกของเรา จึงเป็นที่มาของแผ่นพับสวยๆ ที่มี สีสันสะดุดตา มีข้อความแสดงความห่วงใยและที่ต้องมีแน่นอน คือวิธีปฏิบัติตนให้ความ ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในแง่มุมของเด็ก ๆ เบา หวานชนิดที่ 1 และครอบครัวเบาหวานของพวกเรา ดังนั้น ในแผ่นพับก็จะมีวิธีการสังเกต อาการ, การดูแลตนเอง, การฉีดอินชูลิน ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในกรณีที่มีการ Lock Down ไม่สามารถออกจากบ้านได้ ทั้งหมดเป็นข้อความสั้นๆ สื่อง่ายๆ และจำง่ายๆ ด้วย ทั้งหมดนี้ก็เป็นการสื่อถึงความห่วงใยเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างกันในระหว่างชมรมฯ กับครอบครัวเบาหวานของพวกเราในช่วงต้นปีที่ผ่านมา อยากจะบอกทุกคนว่า \"ไม่ว่าจะอยู่ ในสถานการณ์ไหน ครอบครัวเบาหวาน Type 1 DIABETES ของพวกเรายังคงคิดถึงกันเสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง\" 7

8

9

เปิดโลกเบาหวาน ปีนี้เรื่องที่พวกเราทุกคนเผชิญก็คือ เรื่องโรคระบาดที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง DIABETES UPDATE 2020 ไปทั่วโลก สิ่งที่พวกเราทุกคนต้องปรับตัว ในการป้องกันตัวไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของ โรค ก็เป็นสิ่งที่พวกเราทราบกันดี คือ ล้างมือบ่อย ๆ ใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง ดร.พญ.ประเนตรทิพย์ รินแก้วกาญจน์ (พี่แอน) และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หมอได้รวบรวมสิ่งที่ผู้ที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 1 และ ผู้ใกล้ชิด ควรปฏิบัติ จากหลาย ๆ สถาบันที่เกี่ยวข้องมาไว้ในบทความนี้ และมีข่าวความก้าวหน้าต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องเบาหวานประเภทที่ 1 มาฝากเหมือนทุกปีค่ะ Type 1 diabetes & COVID-19 infection สิ่งที่ควรทราบ และควรระวัง การเป็น T1DM ทำให้โอกาสติด COVID-19 เพิ่ม หรือ เป็นโรครุนแรง ? • การเป็นเบาหวานประเภทที่ 1 ไม่ได้ทำให้โอกาสติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มถ้า ควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี HbA1C อยู่ประมาณ +/- 7% หรือ ต่ำกว่า ไม่ได้ถือว่า มี ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่ม กลุ่มที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มที่มีระดับน้ำตาลสูงนาน ๆ เช่น HbA1C 12% (expert opinion) • การเป็นเบาหวานประเภทที่ 1 ไม่ได้ทำให้โอกาสการมีภาวะแทรกซ้อนจากการ ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่ม ถ้าควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี • ไม่มีหลักฐานว่า เด็กมีโอกาสติดเชื้อมากกว่าผู้ใหญ่ที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 1 • โอกาสติดเชื้อเพิ่ม ในกรณีที่ - ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี - มีโรคร่วมเช่น โรคปอด โรคหัวใจ - ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่อายุ >70 ปี การปฏิบัติตัวเมื่อมีผู้ใกล้ชิดเป็นเบาหวานประเภทที่ 1 ถ้าเป็นผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 1 ผู้ใกล้ชิดในบ้าน ควรระมัดระวัง เป็นพิเศษ ควรใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ รักษาระยะห่าง นอกจากนี้ เราควร ลดโอกาสที่เราจะติดเชื้อจากภายนอกบ้าน เพราะเราอาจจะติดเชื้อแบบไม่มีอาการ และนำเชื้อไปติดคนในบ้านได้ เนื่องจากผู้สูงอายุมีโอกาสติดเชื้อรุนแรงมากกว่าค่ะ 10

สิ่งที่ควรทำเมื่อป่วย คอนแทคเลนส์ตรวจวัดระดับน้ำตาล ผู้ที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 1 หากพบว่า เจ็บป่วยจาก และรักษาเบาหวานตา การติดเชื้อไวรัส มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เช่น หวัด หรือ ไข้หวัด สิ่ง ที่ควรปฏิบัติ คือ ที่ผ่านมา เราจะเห็นการพัฒนาการใช้คอนเทคเลนส์ในการตรวจ • เจาะเลือด และตรวจคีโตนบ่อยขึ้น ให้ระดับน้ำตาลอยู่ วัดระดับน้ำตาลมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังพบปัญหาเรื่องความแม่นยำ ความ ในช่วง 70-180 mg/dl และ blood ketones 0.6 mmol/L คงที่ของการวัดค่าระดับน้ำตาล และตัวเลนส์ยังไม่สามารถปล่อยยาเพื่อช่วย • ห้ามงดฉีดอินซูลิน ถ้ามีไข้ หรือไม่สบาย มักต้องการ ในการรักษาตาของผู้ที่เป็นเบาหวานด้วยได้ ล่าสุดทีมแพทย์จาก Pohang อินซูลินในปริมาณที่มากขึ้น university of science and technology’s (POSTECH) Department • ดื่มน้ำให้เพียงพอ ถ้าทานได้น้อยให้ระวังเรื่อง น้ำและ of Materials Science and Engineering ประเทศเกาหลี มีการพัฒนา เกลือแร่ รวมถึง ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ให้คอนเทคเลนส์ที่สามารถวัดระดับน้ำตาลจากเส้นเลือดที่เปลือกตา โดย • รักษาอาการอื่น ๆ จากโรคที่เป็นอยู่ เช่น ไข้ ไอ น้ำมูก เชื่อมต่อกับตัวรับภายนอกโดยระบบไร้สาย สามารถวัดค่าระดับน้ำตาลได้ • ให้ปรึกษาแพทย์ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่า ยาที่ใช้มีผลต่อ ต่อเนื่องแบบ real time เช่นเดียวกับ Continuous Glucose ระดับน้ำตาลหรือไม่ เช่น ยาลดไข้บางชนิด หรือยาอาจมีส่วน Monitoring System (CGMS) และได้มีการทดลองกับกระต่ายพบว่า การ ผสมของน้ำตาล หรือคาร์โบไฮเดรต วัดค่าระดับน้ำตาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถปล่อยยาออกมา เพื่อใช้ในการรักษาจอตาได้โดยตรง ... ภาวะฉุกเฉินที่ควรไปโรงพยาบาล ... • มีไข้ อาเจียนต่อเนื่อง หรือ น้ำหนักลดต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยี Smart contact lens นี้ทำให้เรา • อาการของเลือดเป็นกรด (Signs of DKA) ได้แก่ พึ่งพาการวัดระดับน้ำตาลจากการเจาะเลือดปลายนิ้ว หรือเจาะผิวหนังแบบ ลมหายใจกลิ่นเหม็น (fruity odor) มีอาการอ่อนเพลีย สับสน ในระบบ CGMS น้อยลง นอกจากนี้ เลนส์ยังสามารถช่วยในการรักษาจอตา หายใจเร็ว ปวดท้อง ตรวจพบ ketone สูงในเลือด และปัสสาวะ จากเบาหวาน (Diabetic retinopathy) ได้อีกด้วย นับว่าเป็นการพัฒนา อีกก้าว ที่ช่วยในการวินิจฉัยและรักษาได้ในคราวเดียวกันค่ะ การควบคุมระดับน้ำตาลในเด็กและวัยรุ่นแย่ลงกว่าเดิม สิ่งที่ควรเตรียมไว้เสมอ DM emergency kit แม้ว่าปัจจุบันจะมีพัฒนาการของวิธีการตรวจวัดระดับ เนื่องจากในช่วงที่มีโรคระบาด หรือภาวะฉุกเฉินต่างๆ อาจทำให้ยา น้ำตาล การรักษาใหม่ๆในการให้อินซูลินในแบบต่าง ๆ และการตั้ง และอุปกรณ์บางอย่างขาดแคลนได้ ควรเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้ใกล้กันในกล่อง เป้าหมายในการรักษาที่ดีกว่าเดิมมาก แต่จากการเก็บข้อมูลงาน กันน้ำที่หยิบง่าย ในกรณีฉุกเฉินต้องเคลื่อนย้ายโดยเร็ว ได้แก่ วิจัยการควบคุมระดับน้ำตาลในเด็กและวัยรุ่น เทียบกับในยุคก่อน • กล่องที่เก็บความเย็น (Cold storage container) ในกรณีที่ไฟ ๆ พบว่า การควบคุมระดับน้ำตาลแย่ลงกว่าเดิม นั่นคือมีสัดส่วน ดับ หรือถุงเก็บความเย็นสำหรับ insulin (FRIO) ของเด็กและวัยรุ่นที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 1 ที่ไปไม่ถึงเป้าหมาย • ไฟฉาย และถ่านไฟฉาย ของ HbA1C ที่เหมาะสม มากขึ้นกว่าเดิม • เครื่องตรวจน้ำตาล, แถบตรวจน้ำตาล, insulin, glucagon, syringe, lancets, แถบตรวจ ketone, alcohol แผ่น, อุปกรณ์ โดยการศึกษาโดย Dr Faisal Malik, Assistant สำหรับ insulin pump และ CGM เพียงพออย่างน้อย 2 สัปดาห์ และเก็บใน professor of paediatrics, University of Washington ถุง zip lock กันน้ำ หรือ กล่องกันน้ำ School of Medicine ในกลุ่มผู้อายุน้อยที่เป็นเบาหวานประเภท • แบตเตอรี่สำรอง สำหรับเครื่องตรวจน้ำตาล และ insulin pump ที่ 1 จำนวน 6,492 คน พบว่า ค่าเฉลี่ยของ HbA1C มากกว่าช่วงปี หรือกรณีที่ต้องเชื่อมกับมือถือ ควรเผื่ออุปกรณ์ charge ที่เหมาะสม ก่อน ๆ อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ พบว่า %HbA1C ยังสูงขึ้นใน • น้ำตาล และ คาร์โบไฮเดรต สำหรับ ภาวะน้ำตาลต่ำ เช่น glucose ทุกกลุ่มอายุ ได้แก่ ช่วงอายุ 10-14 ปี, 15-19 ปี และ 20-24 ปี tablet หรือ glucagon kits • น้ำหลาย ๆ ขวดในปริมาณที่เพียงพอ จากผลการศึกษาครั้งนี้ ผู้ทำการศึกษาได้นำเสนอว่า การ • อาหารที่เก็บได้ และอุปกรณ์รับประทาน ดูแลกลุ่มเด็กและวัยรุ่นให้ควบคุมระดับน้ำตาลอยู่ในเกณฑ์ที่ดีนั้นต้อง • ยาใช้บ่อยสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน ได้แก่ ยาแก้ท้องเสีย ยาลดอาการ อาศัยทั้ง เทคโนโลยีในการควบคุมระดับน้ำตาล ร่วมกับ วิธีการปรับ คลื่นไส้อาเจียน (Zofran) และยาแก้ปวดต่าง ๆ รวมถึง อุปกรณ์ทำแผล พฤติกรรมและสังคมที่มีประสิทธิภาพ (Social & Behavioral ปิดแผล ทั่วไป approaches) จึงจะทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลเป็นไปในทางที่ดีขึ้น • รายละเอียดของ insulin dose ที่ใช้อยู่ ในกรณีที่เป็น insulin pump ควรมี basal rate, bolus insulin to carb ratios, ได้ค่ะ 11 correction factors เก็บใน ถุง zip lock กันน้ำ • ใบรับรองแพทย์ • เบอร์และที่อยู่ของผู้ที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน

CHILDREN WHO LIVE WITH DIABETES รวมพลังสู้ภัยเบาหวาน Together Fight Diabetes Fair กิจกรรมเพื่อเบาหวานชนิดที่ 1 ปัณยดา วนพงษ์รุ่งเรือง ประธานชมรมฯ ปัจจุบัน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2563 สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สำนัก อนามัยกรุงเทพมหานคร เครือข่ายชมรมเบาหวานไทย เครือข่ายคนไทยไร้พุง และชมรมเพื่อ เด็กและวัยรุ่นเบาหวาน จัดงานวันรวมพลังสู้ภัยเบาหวาน (Together Fight Diabetes Fair) เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมแก้ไขวิกฤตโรคเบาหวานในประเทศไทย ณ หอศิลปวัฒนธรรม แห่งกรุงเทพมหานคร โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรม หลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานพร้อมพระราชทาน โล่ประกาศเกียรติคุณแก่คณะผู้บริจาค พระราชทานโล่รางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดวาดภาพ ประกวดวิดีโอคลิป และแข่งขันวิ่งสู้เบาหวาน และทอดพระเนตรนิทรรศการความรู้เรื่องโรค เบาหวาน นิทรรศการผลงานศิลปะจากเด็กและเยาวชนผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 และ นิทรรศการภาพถ่าย CHILDREN WHO LIVE WITH DIABETES กับเรื่องราวการใช้ชีวิตร่วมกับ เข็มอินซูลิน นิทรรศการครั้งนี้ จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคเบา \" ขอแสดงความยินดีกับผู้แทนสมาชิกชมรมฯ หวานให้เกิดขึ้นอย่างจริงจังในสังคมไทย ซึ่งเป็นการให้ความรู้ความเข้าใจและบอกเล่าถึง ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ และขอบคุณที่ได้เขียน ภารกิจในการแก้ไขปัญหาโรคเบาหวาน ภายใต้ชื่อ Together Fight Diabetes สะท้อนให้ผู้ บทความแสดงความรู้สึก มาให้สมาชิกชมรมฯได้อ่าน ชมเห็นถึงบทบาทตนเองที่มีต่อการดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว ตลอดจนบทบาทใน การให้ความช่วยเหลือไปยังผู้ป่วยที่มีอยู่ในสังคม และรับทราบกันด้วยค่ะ \" งานวันรวมพลังสู้ภัยเบาหวาน เป็นงานที่จัดขึ้นต่อเนื่องจากงานวันเบาหวานโลก ที่มี ขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ขึ้นอย่างต่อ เนื่อง ได้แก่ การแข่งขันวิ่งมาราธอนสะสมระยะ ‘Fight Diabetes Run วิ่งสู้เบาหวาน’ การ ประกวดคลิปออกกำลังกายระหว่างพักการประชุมหรือการปฏิบัติงาน ‘Active Meeting Challenge ภารกิจท้าคุณขยับ’ และการประกวดผลงานศิลปะเด็กและเยาวชน ในหัวข้อ ‘Living with diabetes’ ที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ได้แสดงฝีมือ ผ่านงานที่เปลี่ยนความเจ็บป่วยมาสู่พลังแห่งความสร้างสรรค์ เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ เยาวชนเบา หวานได้แสดงพลัง, ความสามารถต่างๆผ่านนิทรรศการฯ 12

13

นิทรรศการเบาหวานชนิดที่ 1 กั บ เ รื่ อ ง ร า ว ใ ช้ ชี วิ ต ร่ ว ม กั บ เ ข็ ม อิ น ซู ลิ น ห่างหายจากการเขียนบทความลงวารสารไปนาน วันนี้ วรานิษฐ์ ศุทธะเจริญทัศน์ กลับมาพร้อมบอกเล่าประสบการณ์ที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมนิทรรศการ ภาพถ่าย \"CHILDREN WHO LIVE WITH DIABETES เบาหวานชนิดที่ 1 ชึ่งก็เป็นการบ้านให้เราก็คิดต่อว่าเราอยากได้รูปที่สื่อออกมาประมาณไหน กับเรื่องราวการใช้ชีวิตร่วมกับเข็มอินชูลิน\" ซึ่งเป็นผลงานภาพถ่าย นิษฐ์เลยกลับมาถามตัวเองว่าเป้าหมายที่นิษฐ์เข้าร่วมเป็นนางแบบใน โดย หมอเปียง หรือ นายแพทย์กันตพงศ์ ทองรงค์ ถ้าใครได้ไปหอ นิทรรศการภาพครั้งนี้คืออะไร จากการคุยกับตัวเองสักพักเลยได้คำตอบ ศิลปวัฒนธรมแห่งกรุงเทพมหานครในช่วงวันที่ 11 - 16 สิงหาคมที่ ว่า ประสบการณ์ที่เราก้าวข้ามผ่านจากวัยเด็กสู่วัยทำงานมันได้ข้อสรุปว่า ผ่านมา ก็คงจะได้เห็นรูปถ่ายของเด็กเบาหวานตั้แต่รุ่นเล็ก จนถึงรุ่น \"เบาหวานไม่ใช่เรื่องที่ปกปิด แต่บางครั้งสังคมเราก็ไม่ได้ยอมรับและเข้าใจ ใหญ่สุดอย่างนิษฐ์ นอกเหนือจากนิทรรศการภาพถ่าย ในงานยังมี มันทั้งหมด\" เราคาดหวังว่าภาพถ่ายชุดนี้จะสื่อไปถึงคนภายนอกให้เข้าใจ กิจกรรมเสวนา และมอบรางวัลวิ่งสู้เบาหวาน ซึ่งจัดโดยสมาคมเบา เบาหวานมากขึ้น ซึ่งต้องขอบคุณพี่หมอเปียงมากๆ ที่ถ่ายรูปดึงตัวตนของ หวานแห่งประเทศไทยด้วย ถือว่าปีนี้เป็นโอกาสพิเศษและได้รับเกียรติ เราออกมาได้อย่างสง่างามและ empower อย่างที่เราอยากได้จริงๆ และพี่ เป็นอย่างยิ่งที่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชร ทีมงานก็ได้เลือกรูปนี้เป็นไฮไลท์ของภาพเซตนี้อีกด้วย ปลื้มปริ่มมากค่ะ ราชธิดา เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมชมนิทรรศการดังกล่าวนี้ด้วย ณ จุดนี้ 555555555 ซึ่งกระบวนการเลือกรูปนี่คือ ไม่มีใครรู้เลยนะคะว่าพี่ หมอเปียงและทีมงานเลือกรูปไหนมาจัดแสดง เพราะวันถ่ายเราถ่ายกัน จริงๆ แล้วการถ่ายภาพเซตนี้เราเตรียมตัว และถ่าย หลายมุมมากจริงๆ เป็นอะไรที่ค่อนข้างเชอร์ไพรส์ มารู้ตัวอีกทีก็คือ ภาพจริงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยมีกำหนดการจัดนิทรรศการ ทีมงานปริ้นรูปแปะที่หอศิลป์แล้วค่ะ เดิมในช่วงเดือนมีนาคม แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด เลยทำให้ทุก อย่างต้องเลื่อนออกไป แต่สุดท้ายเราก็ได้ชมภาพในที่สุดค่ะ ต้อง วันพิธีปิดนิทรรศการ นิษฐ์เองได้รับโอกาสให้เข้าเฝ้า และถวาย บอกเลยว่าบรรยากาศในวันถ่ายทำเป็นอะไรที่ต้องขอบคุณทีมงาน รายงานแก่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชร เบื้องหลังมาก เพราะเตรียมการกันมาเป็นอย่างดีจริงๆ คอนเซ็ปต์ ราชธิดา พร้อมพี่หมอเปียงและน้องปุยฝ้าย ระหว่างการถวาย แต่ละรูปถูกออกแบบมาให้กับเด็กแต่ละคนอย่างน่ารักสมวัย และสื่อ รายงาน พระองค์ทรงเป็นกันเองและให้ความสนใจแก่โรคเบาหวาน ออกมาได้อย่างน่าสนใจมากๆ สำหรับคอนเซ็ปต์์ที่นิษฐ์ได้รับคือ ในเด็กเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าก็ถือเป็นความสำเร็จขั้นหนึ่ง ใน working/powerful woman ตอนแรกก็อึ้งประมาณนึงว่า เอ่ออ ความตั้งใจของนิษฐ์ ที่ต้องการจะสื่อเบาหวานถึงบุคคลภายนอก เราโตมาถึงจุดนี้แล้วเนอะ จากเด็กแปดขวบที่รู้ว่าเป็นเบาหวานครั้ง แรก ก้าวมาสู่วัยรุ่นตอนปลายที่กำลังเข้าสู่ชีวิตการทำงาน เลยค่ะ สุดท้ายนี้ขอฝากรูปบรรยากาศและรูปบางส่วนใน นิทรรการครั้งนี้ให้ทุกท่านที่ไม่ได้ไปชมนิกรรการเองที่หอศิลป์ฯค่ะ 14

เรื่องเล่าจากน้องปุยฝ้าย พิมพ์พิมล ปรีชาธรรมรัช ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณอาจารย์ดาวมาก ๆ เลยค่ะ ที่ให้ รวมถึงในงานครั้งนี้ หนูได้เป็นตัวแทนขึ้นสัมภาษณ์กับ โอกาสที่ดี ๆ แบบนี้มา รวมถึงทีมงานของหมอเปียง ที่ทำให้หนูได้มี หมอก้องและหมอเดียวบนเวทีพร้อมกับหมอเปียงและพี่นิษฐ์ ภาพถ่ายของตัวเองที่หอศิลป์ ทำให้หนูได้ถ่ายทอดชีวิตเบาหวาน 17 ดีใจมาก ๆ ที่ได้ขึ้นมาถ่ายทอดความรู้สึกเกี่ยวกับการเป็น ปีของหนู หนูตื่นเต้นตั้งแต่วันถ่ายแบบเลยค่ะ ตื่นเต้นที่ว่าภาพถ่าย เบาหวานผ่านภาพถ่ายที่หมอเปียงถ่ายออกมา ได้มาให้พลัง ตัวเองจะออกมาเป็นแบบไหนซึ่งพอได้เห็นภาพคือตกใจเลยค่ะ ไม่คิด บวกและกำลังใจกับคนอื่น ๆ รวมถึงให้คนที่ไม่เคยรู้จักโรคนี้ ว่าภาพของเราจะออกมาดีขนาดนี้ ภาพแรกที่หมอเปียงถ่ายออกมา มารู้จักกับมัน เข้าใจในโรคนี้มากยิ่งขึ้น พอลงจากสัมภาษณ์ มันทำให้ดูมีพลัง เป็นคนมั่นใจ ภาพที่ 2 ก็สามารถดึงความสดใสออก ก็มีหลายท่านที่มาเดินชมนิทรรศการ หนูเองจึงได้พูดคุย มาได้เป็นอย่างดี เพราะหนูเองก็อยากจะสื่อถึงความสดใสให้กับผู้อื่น เกี่ยวกับโรคเบาหวานชิดที่ 1 นี้ ดีใจมาก ๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง เหมือนกันค่ะ มันพิเศษมาก ๆ จริง ๆ ที่เราจะมีภาพตัวเองไปติดที่หอ ในการทำให้โรคนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ให้ทุกคนได้รู้ว่าเด็ก ศิลป์และได้ถ่ายทอดความรู้สึกออกมา เป็นอะไรที่หนูรู้สึกภูมิใจมาก อย่างเราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้เหมือนคนปกติ โรคนี้ไม่ใช่ อิ่มใจไปหลายวันเลยค่ะ โรคร้ายแรงเลยถ้าเรารู้จักดูแลตัวของเราให้ดี ให้คนอื่น ๆ ได้ รู้ว่าการเป็นเบาหวานก็ไม่มีขีดจำกัดในการใช้ชีวิตของเรา รวมถึงหนูยังได้รับโอกาสที่จะทำหน้าที่ที่สำคัญ นั่นคือการ ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีและไม่ได้ทำให้เกิดความเดือดร้อน เราก็ ถวายรายงานเกี่ยวกับงานนิทรรศการต่อพระองค์ภา เป็นอะไรที่ตื่น ทำเลยค่ะ ใช้ชีวิตของเราให้เต็มที่อย่างมีความสุข เต้นสุด ๆ ในชีวิตเลยค่ะ ตอนแรกก็แอบกังวลไปหมด กลัวทำได้ไม่ดี พอ แต่ทุกอย่างในวันนั้นก็ผ่านไปด้วยดี รู้สึกดีมากจริง ๆ กับโอกาสที่ ได้รับมาค่ะ งานนิทรรศการในครั้งนี้เป็นงานที่ดีมาก ๆ มันทำให้ได้ ให้อะไรหลาย ๆ อย่างกับทุก ๆ คน รวมถึงตัวหนูเองที่มีความ สุขที่จะมอบกำลังใจและความคิดบวกรวมถึงการถ่ายทอด ความรู้สึกจากเด็กเบาหวานให้กับคนอื่นได้รับรู้ หนูอยากขอ ขอบคุณ คุณหมอและทีมงานทุก ๆ คน ที่ทำให้เกิดงานในครั้ง นี้ออกมา และหนูเองก็หวังว่างานในครั้งนี้จะเกิดประโยชน์ต่อ ทุก ๆ คนเหมือนที่หนูรู้สึกค่ะ 15

\"สิ่งที่ผมประทับใจในงานนิทรรศการ​นี้คือ ได้รับเกียรติ​จาก การถ่ายภาพแ​ ละได้สัมภาษณ์​เกี่ยวกับการดูเเลต​ัวเอง พร้อมกับการดำรงชีวิตที่ดีและควบคู่กับโรคเบาหวาน Type 1 นี้ และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเสด็จสมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี​ใน ครั้งนี้ด้วยครับ และได้ชมภาพถ่ายสวยๆ ในนิทรรศการจ​ าก น้องๆ ซึ่งเป็นภาพถ่ายที่ถ่ายทอดโรคเบาหวานและความ รู้สึกต่างๆผ่านรูปภาพครับ\" 16

17

Young Leaders in Diabetes (YLD) Busan Training Submit By WARANID SUTTHACHAROENTHAD (IDF Youth student 2019-2021) สวัสดีค่ะทุกคน เราชื่อนิษฐ์ เด็กคนหนึ่งที่อยู่ร่วม ซึ่งการเทรนนี่แหละที่เราจะได้ไปเจอเพื่อน ๆ เบาหวานจาก กับเบาหวานชนิดหนึ่งมา 15 ปี แต่ในปีนี้เป็นโอกาสพิเศษ ทั่วทุกมุมโลก ไปเรียนรู้แนวคิด แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และดีมากๆ โอกาสหนึ่งสำหรับเราที่ได้รับเลือกจากสมาคม มุมมองการดำเนินชีวิต นโยบายด้านสุขภาพในการดูแลผู้ โรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ ไปเป็นตัวแทนของประเทศ ป่วยเกี่ยวกับโรคเบาหวาน ซึ่งเป้าหมายสำคัญที่ IDF ในการเข้าร่วมอบรม Young Leaders in Diabetes (YLD) ต้องการให้ YLD trainee ทุกคนได้กลับไปคือ แรงจูงใจ ไอ ค่ะ กิจกรรมนี้มีขึ้นทุกๆสองปี โดยเป็นส่วนหนึ่งของ IDF เดียและเครื่องมือในการทำโปรเจคเพื่อแก้ไขหรือสนับสนุน congress ซึ่งคล้ายๆกับประชุมวิชาการเรื่องเบาหวานโลก ปัญหาเกี่ยวกับโรคเบาหวาน โดยที่โปรเจคก็เหมือนการที่ ที่มีการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการ เราจะได้ทดลองทำอะไรจริงๆ เพื่อเป็นรากฐาน วินิจฉัยและดูแลเกี่ยวกับโรคเบาหวานค่ะ ปีนี้กิจกรรมนี้ได้ จัดขึ้นที่เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 2-6 ตลอดเกือบหนึ่งสัปดาห์ที่อยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ เรา ธันวาคม พ.ศ.2562 วันนี้เลยจะมาแบ่งปันประสบการณ์ให้ มีหัวข้อที่มีทั้งการฟังสัมมนาและเวิร์คชอปที่ช่วยให้เรา ทุกคนฟังกันค่ะ พัฒนาทั้งความรู้ ความคิด และศักยภาพ เช่น Insulin resistance and polycystic ovary syndrome ภาว เริ่มต้นก่อนเลย อยากให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ YLD การณ์ดื้ออินซูลินกับโรคถุงน้ำหลายใบในรังไข่ ที่วัยรุ่น Project ของ International Diabetes Federation หญิงเป็นกันถึงร้อยละ 18-37, thyroid disorders and (IDF) เพิ่มขึ้นอีกนิด เด็กเบาหวานในไทยหลายๆคน อาจจะ T1D โรคไทรอยด์กับเบาหวาน โดยอธิบายความสัมพันธ์กัน เคยได้ยินผ่านหูมาบ้างว่า ดูแลตัวเองดีๆ ฝึกภาษาอังกฤษ ในระบบฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกัน, Diabetes related เยอะๆ จะได้ส่งไปเป็นตัวแทน IDF นั่นแหละค่ะ อันเดียวกัน discrimination and stigma การโดนเลือกปฏิบัติเมื่อ เลย แต่เป้าหมายของโครงการนี้คือยิ่งใหญ่กว่าคำพูดเหล่า เป็นเบาหวานทั้งในเชิงการใช้ชีวิตประจำวัน ยังไงจะลงราย นั้นประมาณนึงเลยค่ะ โครงการนี้เริ่มต้นในปี 2011 ด้วย ละเอียดหัวข้อนี้ต่อในหน้าถัดไปนะคะ เพราะหลายประเด็น แนวคิดที่ IDF เองเชื่อว่าเสียงของเด็ก วัยรุ่น เยาวชน หรือ ต่อในที่พูดคุยกันในสัมมนาครั้งนี้น่าสนใจจะนำมาปรับใช้ คนรุ่นใหม่ สามารถนำมาใช้ขับเคลื่อน เปลี่ยนแปลงและ กับประเทศไทยมากเลยค่ะ, becoming as efficient พัฒนาสังคมรอบข้างจนถึงสังคมโลกได้ เลยเกิดเป็น YLD advocate การเป็นผู้สนับสนุนที่ดีในแง่มุมต่างๆ และ Program หลักสูตรการเรียนรู้ ผลักดันและส่งเสริมเด็กเบา ตัวอย่างการเป็นผู้สนับสนุนในแต่ละภูมิภาคทั่วโลก, IDF หวานแบบต่อเนื่องในระยะเวลา 2 ปี ให้เป็นตัวแทนที่ resources to support your advocacy activities สามารถสนับสนุนเด็กเบาหวานคนอื่นในรูปแบบที่ตนเอง การสนับสนุนจาก IDF ในด้านต่างๆ สำหรับการทำโปร ถนัดประสานความร่วมมือกับองค์กรเบาหวานในประเทศ เจค, storytelling practical session เทคนิคการ และต่างประเทศ เป็นตัวแทนและกระบอกเสียงของเยาวชน เล่าเรื่องให้น่าตื่นเต้นและน่าสนใจ, filming your และวัยรุ่นเบาหวาน ในการดูแลตัวเอง ตระหนักถึงปัญหา testimonial เทคนิคการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ เพื่อ โรคเบาหวานในสังคม หรือผลักดันให้เกิดนโยบายระดับ ถ่ายทอดเรื่องราว ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น เรา ประเทศเพื่อจัดการและดูแลโรคเบาหวานอย่างเป็นรูปธรรม สามารถแนวคิดและความรู้เหล่านี้ มาปรับใช้ทั้งในการ ดำเนินชีวิตทั่วไป และเกี่ยวกับเบาหวานได้เป็นอย่างดี ฟังดูแล้วน่าสนใจใช่ไหมละคะ ซึ่งการจะเข้าร่วม โครงการนี้ได้เริ่มต้นจากการคัดเลือกผ่านทางสมาคมโรค จากที่เกริ่นมาในย่อหน้าที่แล้ว หลายๆ คนคงมีคำถาม เบาหวานแห่งประเทศไทย ผ่านใบสมัครและสัมภาษณ์ เมื่อ ว่า discrimination and stigma คืออะไร แล้วทำไมเรา ได้รับเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยแล้วจะต้องมีการส่งใบ ต้องให้ความสำคัญกับมันด้วย ถ้าจะแปลเป็นไทย คำว่า สมัคร พร้อมบทความสั้นๆ แนะนำตัวเองกับเบาหวาน ซึ่ง เลือกปฏิบัติน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ การเลือกปฏิบัติในที่นี้ รวมถึงการเข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ หรือ webinar ในหัวข้อ ไม่ได้หมายถึงการที่เราเป็นเบาหวานเพียงอย่างเดียวแต่ ต่างๆ เดือนละหนึ่งครั้ง เพื่อที่จะเข้าร่วม Training รวมถึงการที่เรามีภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน Summit (Complications), 18

การที่ต้องเจาะเลือด ฉีดยา (Injection) หรือพกอินซูลิน ก่อนจะจบบทความนี้ นิษฐ์ก็ขอฝากโปรเจคเล็กๆ ที่ ปั๊ม (Wearing DM technology), การที่เรามีการติตต่อ นิษฐ์ได้ทำกับทีม IDF Thailand ค่ะ นั่นคือหนังสือ สารคดี หรือมีการทำกิจกรรมกับผู้ป่วยเบาหวานคนอื่นในทางใด ภาพชุด TinTin สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 เหมาะ ทางหนึ่ง (DM community) และ/หรือ การที่เบาหวานมี สำหรับผู้ป่วยใหม่อายุ 6-12 ปีและบุคคลทั่วไป โดยหนังสือ ผลต่อการใช้ชีวิตในโรงเรียนหรือที่ทำงานด้วยค่ะ ซึ่งถ้าคน ภาพชุดนี้มีทั้งหมด 3 เล่ม โดยตอนนี้นิษฐ์และทีมงานได้ รอบข้างหรือคนในสังคมเราขาดความเข้าใจตรงนี้ มันก็ ปล่อย E-book ผ่านทางเว็บไซต์ อาจจะเกิดเป็นปัญหาใหญ่ตามมาได้ค่ะ ในการ สัมมนาครั้ง https://anyflip.com/bookcase/gcyd เรียบร้อย นั้น ผู้แทนแต่ละประเทศได้บอกเล่าประสบการณ์ของตัว แล้ว และตอนนี้กำลังอยูในขั้นตอนรวบรวมข้อมูลและทุน เองและคนรอบตัว โดยส่วนใหญ่จะเป็นการล้อเลียนและสบ เพื่อจัดพิมพ์แก่โรงพยาบาลต่างๆ ในเร็วๆ นี้ค่ะ สามารถ ประมาทเรื่องต่างๆ ที่กี่ยวข้องกับเบาหวาน ซึ่งปัญหาจริงๆ ติดตามข่าวสารโปรเจคของนิษฐ์ ผ่านทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ แลัวนั้น ไมใช่การที่ถูกพูดถึงเกี่ยวกับเบาหวานที่เราเป็นอยู่ ของชมรมเด็กละวัยรุ่นเบาหวานนะคะ และสุดท้ายนี้ถ้า แต่เป็นการใช้คำพูดต่างหาก ไม่ว่าสังคมจะมีความรู้ความ น้องๆ เพื่อนๆ หรือพี่ๆ คนไหนสนใจที่อยากจะเข้าร่วม YLD เข้าใจเกี่ยวกับเบาหวานมากน้อยขนาดไหน แต่ถ้าเราทุกคน program หรือมีไอเดียดี ๆ ที่อยากจะแก้ไขปัญหาที่เราเคย เลือกใช้คำพูดที่เป็นกลางและไม่ตัดสิน (natural and เจอ หรือมีแนวทางอยากจะพัฒนาอะไรเกี่ยวกับเบาหวานก็ Judgment) จะเป็นการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้มากขึ้นค่ะ สามารถเข้ามาพูดคุยกันได้นะคะ และก่อนจะจากกันวันนี้ เพราะคำพูดนี่แหละที่เป็นตัวแสดงออกถึง ตัวตน ความคิด อย่าลืมมีความฝันให้ใหญ่และมีความหวังที่จะอยู่ดูความ และคำพูดเดียวกันนี้จะสร้างความจริงให้เกิดขึ้นคงคล้ายๆ สวยงามของโลกต่อไปในพรุ่งนี้ของทุกวัน คำพูดของ JK Rowing ที่ว่า \"Words are, in my not- แล้วเจอกันใหม่ วันที่นิษฐ์ขยันเล่าค่ะ อิอิ so-humble opinion, our most inexhaustible source of magic. Capable of both inflicting injury and remedying it.\" 19

ว่าด้วยการวิ่ง.... “Fight Diabetes Run” วิ่งสู้เบาหวาน หทัยรัตน์ จึงเสถียรทรัพย์ (เลขานุการชมรมฯ) กิจกรรมออกกำลังกายที่เรียกว่าอินเทรนด์ในเวลานี้ “การ งานนี้เป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่องจากงานเบาหวานโลกเมื่อปีที่ วิ่ง” น่าจะเรียกว่าติดอันดับต้นเลยทีเดียว “การวิ่ง” น่าจะเป็นกีฬา แล้ว (ปี 2019) กิจกรรมเดินวิ่งสะสมระยะ (Virtual Run) งานนี้ไม่มี ที่เรียกว่าง่ายที่สุดก็ว่าได้ แค่มีรองเท้าผ้าใบสักคู่ โดยไม่ต้องมี ค่าใช้จ่าย งานวิ่งส่งเสริมสุขภาพครอบครัว เพื่อลดโอกาสเกิดเบา อุปกรณ์กีฬาใดๆเลย เราก็ออกกำลังกายได้แล้ว หวานในครอบครัวและช่วยให้คนที่เป็นเบาหวานแล้วควบคุมได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการระดมทุนช่วยกองทุนเบาหวานเด็ก โดยผู้เข้าร่วม ส่วนตัวแอดฯ เองไม่เคยจะชอบการวิ่งเอาซะเลย แต่โดน สามารถชวนสมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อน ๆ ตั้งทีมเดินหรือวิ่ง ไฟลท์บังคับให้ลง 10 กิโล เราจบ เราทำได้ จากนั้นก็มีเหตุให้ลงงานวิ่ง สะสมระยะทาง ส่งผลเดินวิ่ง ได้ตั้งแต่ 14 พ.ย. 2562 – 15 ม.ค. 2563 เรื่อยมา ศัพท์ทางการวิ่งเขาเรียกว่า ถูกป้ายยา จาก fun run เป็น จำนวนระยะทางรวมที่ผู้เข้าร่วมทั้งหมดเดิน-วิ่งได้ จะแปลงเป็นเงิน mini marathon ล่าสุดลง half marathon และยังหยุดที่ trail บริจาคช่วยผู้ป่วยเด็กเบาหวาน โดย 1 กิโลเมตร มีค่าเท่ากับ 1 บาท 28 กิโล โดยเงินจำนวน 13,000 บาท สามารถช่วยเด็กเบาหวาน 1 คนให้มี ชีวิตที่ดีขึ้นได้เป็นเวลา 1 ปี พื้นฐานความคิดมาจากการเข้าถึง จริง ๆ เสน่ห์ของการวิ่งไม่ได้อยู่ตอนวิ่งจบ ตอนลงสนาม ตอน อุปกรณ์ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดของน้องแต่ละคนมีค่าใช้จ่าย ถึงเส้นชัย หรือตอนได้เหรียญ เสน่ห์ของการวิ่งอยู่ที่การให้เวลาใน ถึง 13,000 บาทต่อปี โดยสรุประยะสะสมรวมทั้งสิ้น 4,735,737 การซ้อม หากเพราะเราไม่อยากจะวิ่งไม่จบ ที่เขาเรียกว่า DNF (do กิโลเมตร ซึ่งเราสามารถช่วยเหลือช่วยน้อง ๆ เบาหวานกว่า not finish) และไม่อยากจะจบแต่เจ็บ ดังนั้นหากเราซ้อมเต็มที่ 100,000 คน ยอดสะสมนี้มาจากนักวิ่งใจบุญกว่า 50,577 ท่าน แอดฯ เวลาลงสนามเราจะสนุกกับมันและมีความสุขทุกครั้งหลังจบแต่ละ ขอแสดงความยินดีกับนักวิ่งที่สะสมระยะทางได้มากที่สุดที่ได้รับโล่ รายการ โดยส่วนตัวแอดฯ เองนั้น ได้อะไรหลายอย่างจากกิจกรรม เชิดชูเกียรติ ต่อไปนี้ การวิ่ง สรุปแบบง่าย ๆ 5 ข้อดังนี้ • รางวัลชนะเลิศประเภทบุคคล 1. ได้วิ่ง แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกาย เราทุกคนตระหนักดี - รางวัลชนะเลิศ นายนิติพัฒน์ กุลชามณีนนฑ์ ว่าการออกกำลังกายมันดีต่อสุขภาพทั้งกายและใจเพียงใด - รองชนะเลิศอันดับที่ 1 นายณัฐพงศ์ นาคทอง - ชนะเลิศอันดับที่ 2 นางเจนเนตร แดงฤทธิ์ (ตัวแทน) 2. ได้วางแผน การที่เราตั้งใจ มุ่งมั่นทำอะไรให้สำเร็จ เราเอง ก็ต้องวางแผนจัดการกับการใช้ชีวิตเพื่อจะได้มีเวลากับมัน • รางวัลชนะเลิศประเภททีม - ทีมชนะเลิศ ทีมนครสวรรค์ 3. ได้สมาธิ การที่เราต้องทำอะไรซ้ำ ๆ ในช่วงเวลาหนึ่งนั้น - รองชนะเลิศอันดับที่ 1 ทีม Run24Hrs เป็นการฝึกมีสมาธิไปในตัว ซึ่งจะทำให้เรามีสติ ไม่วอกแวก มีความมุ่ง - รองชนะเลิศอันดับที่ 2 ทีม DR runner มั่นที่จะทำให้เราไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ • รางวัลชนะเลิศประเภททีม contribute 4. ได้ token คือภาษาไทยน่าจะแปลได้ว่าเหรียญแห่งความ - ทีมชนะเลิศ ทีม MuayThai Running สำเร็จ อันนี้ไม่ใช่เหรียญรางวัลที่ได้รับเมื่อเราถึงเส้นชัย แต่มัน - รองชนะเลิศอันดับที่ 1 ทีม Klong6Running club เป็นการสะสม life token คือการที่คนเราสามารถทำเป้าเล็ก ๆ ได้ - รองชนะเลิศอันดับที่ 2 ทีมคนอยากวิ่ง สำเร็จ มันเป็นรากฐานและเป็นพลังของการตั้งเป้าและทำสิ่งใหญ่ขึ้น ต่อเนื่องไป จากสถิติข้างต้น มีรายงานแสดงว่าแต่ละนักวิ่งมีการส่งผลวิ่ง ประมาณ 12 ครั้งต่อท่านตลอดระยะเวลา เฉลี่ยแล้วนักวิ่งได้วิ่งเฉลี่ย 5. ได้เป็นตัวอย่าง เป็น role model ของสมาชิกในครอบครัว ถึงครั้งละประมาณ 7-8 กิโลเมตรต่อท่าน ผลนี้น่าทึ่งมากเพราะค่า ในเรื่องการออกกำลังกาย การทำให้เห็นสำคัญกว่าการบอกให้ทำ เฉลี่ยมีมากกว่าการออกกำลังกายโดยเฉลี่ยถึงสองเท่า อันนี้คำนวณ จากการออกกำลังกายโดยการวิ่งช้า ๆ ประมาณ 30-45 นาทีต่อครั้ง ที่เกริ่นมาซะยืดยาวข้างต้น คือแอดฯ ยังอินกับงานวิ่ง อันนี้น่าดีใจกับผลจริง ๆ VIRTUAL RUN ที่ผ่านมา “Fight Diabetes Run” ที่จัดขึ้นโดย ความร่วมมือของสมาคมโรคเบาหวานฯ เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราช นิสัยการออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่เราควรส่งเสริมให้ทำกันจน วิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย สำนักอนามัย กทม และ เป็นนิสัย ทำวันละเพียง 30 นาที ทำให้สม่ำเสมอสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 5 วันจะทำให้เรามีสุขภาพกายและใจที่เข้มแข็ง พร้อมรับกับสิ่งต่าง ๆ ที่ จะเกิดขึ้นได้เสมอ ๆ 20

นอกจากงานวิ่งที่ผ่านมาก็ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมด้วย อย่างเช่น การระดมทุนโดยขายเสื้อโครงการ Together Fight Diabetes Virtual Run ในราคาเพียง 350 บาท (รวมค่าจัดส่ง) อีกช่องทางที่ง่ายเพียงปลายนิ้ว เรายังสามารถบริจาคผ่านช่องทาง E-Donation ได้ทุกธนาคารเพียงท่าน สแกน QR Code ด้านล่างนี้ระบบจะส่งข้อมูลการบริจาคของท่านไปยังกรม สรรพากรโดยตรง โดยไม่ต้องขอใบเสร็จ สุดท้ายนี้คณะกรรมการชมรมฯ ต้องขอขอบคุณทุกๆหน่วยงานที่ สร้างสรรค์ กิจกรรมดี ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนน้อง ๆ เบาหวานของเรา ขอบพระคุณจากใจค่ะ #FightDiabetesRun #TogertherFightDiabetes #รักใครให้ชวนวิ่ง 21

Success story of Thai DiabetIe Child & Adolescent Support Club วิสูตร ปรีชาธรรมรัช (รองประธานชมรมฯ) ด้วยคณะกรรมการเครือข่ายชมรมเบาหวาน สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ (www.dmthai.org) ทำหน้าที่ สนับสนุนการตั้งชมรมเบาหวานในโรงพยาบาล สนับสนุนการดำเนินการชมรมเบาหวาน ติดตามและประเมินผล แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างชมรม เผยแพร่องค์ความรู้โรคเบาหวานแก่สมาชิกเครือข่ายฯ ซึ่งชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวานได้ร่วมเป็นสมาชิกของ เครือข่ายฯด้วย ในปีนี้เครือข่ายชมรมเบาหวานแห่งประเทศไทยได้มีการจัดทำหนังสือ “ร้อยเรียงเรื่องราวความสำเร็จของชมรม เบาหวาน (The Success Story of Diabetes Club)” เพื่อบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสำเร็จในการดำเนินการก่อตั้ง/ขับ เคลื่อนชมรมเบาหวานในภูมิภาคต่าง ๆ ทั้งนี้ ผมได้รับมอบหมายเป็นผู้แทนชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน ในฐานะกรรมการ เครือข่ายชมรมเบาหวานดังกล่าว จึงได้มีส่วนร่วมในการบอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จในกิจกรรมวันครอบครัวเบาหวานและวารสาร Sugar Free รายละเอียด ดังนี้ 1. ชื่อโครงการ : กิจกรรมวันครอบครัวเบาหวานและวารสาร Sugar Free หมายถึง การพบปะ/แลกเปลี่ยน/เรียนรู้ประสบการณ์ของผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ครอบครัว และทีมผู้ดูแล 2. ชื่อหน่วยงาน : ชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน (เว็บไซต์ : www.thaidiabetes.com) 3. ที่มาของโครงการ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2544 ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงชนิกา ตู้จินดา เป็นประธานจัดกิจกรรมครอบครัวพบกันวันเบาหวานโลกที่โรงแรม มณเฑียร ริเวอร์ไซด์ มี ผู้มาร่วมงานคือครอบครัวที่เคยไปเข้าค่ายเบาหวานศิริราชตั้งแต่ ปี 2533 ทำให้เกิดการรวมตัวของกลุ่มผู้ปกครองที่เข้า ร่วมงานในวันดังกล่าวจนเกิดเป็นชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2545 โดยมีดอกเตอร์สุวัฒน์ ทาสุคนธ์ ซึ่งเป็นผู้ ปกครองเด็กเบาหวานชนิดที่ 1 เป็นประธานชมรมคนแรก ต่อมาคุณรัตนะ กรัยวิเชียร คุณวีรวัฒน์ พงศ์ธรพฤทธิ์ และตั้งแต่ปี 2561 นางสาว ปัณยดา วนพงษ์รุ่งเรือง ทำหน้าที่ประธานชมรมคนปัจจุบัน โดยชมรมได้ดำเนินกิจกรรมครอบครัวเบาหวานและวารสาร Sugar Free ในเดือน ตุลาคมของทุกปีอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันโดยมีเว็บไซต์ www.thaidiabetes.com เป็นช่องทางสื่อสารกับสมาชิกและอื่น ๆ 4. วัตถุประสงค์ 4.1 เพื่อเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การดูแลเด็กและวัยรุ่นที่เป็นเบาหวาน 4.2 เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ผ่านความร่วมมือระหว่างผู้ปกครองของผู้ป่วยและทีมบุคลากรทางการแพทย์ 4.3 เพื่อเป็นสื่อกลางให้ความรู้แก่ชุมชน สังคมทั่วไป ได้เข้าใจและยอมรับเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน 5. ขั้นตอนการดำเนินการ มีการประชุมคณะกรรมการชมรมฯ ซึ่งจัดขึ้นทุกไตรมาส โดยมีศาสตราจารย์คลินิก แพทย์หญิงสุภาวดี ลิขิตมาศกุล ทำหน้าที่เป็นที่ ปรึกษาชมรม เพื่อดำเนินการดังนี้ 5.1 วางกรอบแนวทางของงาน (Theme) ซึ่งจะสอดคล้องกับกรอบแนวทางของวารสาร Sugar Free ซึ่งชมรมดำเนินการจัดทำเป็น ประจำทุกปีเพื่อแจกจ่ายให้กับสมาชิกชมรมฯ และเผยแพร่ในเว็บไซต์ ซึ่งมีนายกาจสิทธิ์ ฉัตรเฉลิม เป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบ 3333335.2 กำหนดเนื้อหาและมอบหมายผู้รับผิดชอบในการเขียนและประสานขอบทความจากผู้ปกครองสมาชิกเบาหวานชนิดที่ 1 และผู้ทรง คุณวุฒิ เพื่อบรรจุลงในวารสาร Sugar Free โดยปัจจุบันมี นางสาวญาธิป พงศ์ธรพฤทธิ์ เป็นบรรณาธิการ 5.3 กำหนดรูปแบบกิจกรรมที่จะจัดในวันครอบครัวเบาหวานและผู้รับผิดชอบ อาทิ พิธีกร วิทยากรการบรรยายให้ความรู้โดยสมาชิกผู้มี ประสบการณ์ตรง และผู้ทรงคุณวุฒิ การร้องเพลงประสานเสียงของเด็กเบาหวาน การจัดเวทีพบปะผู้ปกครอง การจัดกิจกรรมสันทนาการให้แก่ เด็กเบาหวาน การจัดทำของที่ระลึก เป็นต้น 5.4 กำหนดผู้รับผิดชอบประสานงานด้านสถานที่ อาหารในวันจัดงาน กิจกรรมต่างๆ และจัดพิมพ์วารสารโดยคณะกรรมการชมรมฯ รวมทั้งการดำเนินการหาทุนสนับสนุน (กองทุนในศิริราชมูลนิธิ D2719) โดยมีบุคลากรของศูนย์เบาหวานศิริราช (จิตอาสา) ร่วมรับผิดชอบ จำนวน 2 ท่าน 6. ตัวชี้วัดผลสำเร็จ/ผลลัพธ์ : 7. ความภาคภูมิใจ - จำนวนสมาชิกชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน (สะสม) - จำนวนสมาชิก 544 คน ข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2563 - จำนวนวารสาร Sugar Free ที่ออกประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2544 - 2562 รวม 18 ฉบับ - จำนวนวารสาร Sugar Free (รายปี) - จำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ จนถึงวันที่ 15 กันยายน 2563 จำนวน 1,927,241 ครั้ง - จำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ (สะสม) สมาชิกชมรมฯ ประสบความสำเร็จด้านการดูแลสุขภาพตนเอง ด้านการศึกษา และการ ทำงานในสังคมรวมทั้งสละเวลามาร่วมทำงานจิตอาสาโดย ผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ทำหน้าที่ ประธานชมรม บรรณาธิการ เขียนบทความ และดูแล website ด้วยตนเองสืบต่อจากช่วง 10 ปี แรกของการดำเนินการที่ผู้ปกครองเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด 22

สรุปกิจกรรมวันครอบครัวเบาหวาน ประจำปี 2562 “TYPE ONE TYPE FUN” ในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2562 เวลา 09.00 – 13.00 น. ณ ห้อง Crystal Ballroom โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ สีลม กรุงเทพฯ 09.00 – 09.15 น. ตารางกิจกรรมภายในงาน จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 09.15 – 09.30 น. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 82 คน ประกอบด้วย 09.30 – 10.15 น. ลงทะเบียน 10.15 – 10.30 น. พิธีเปิดงาน โดยประธานชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน • คณะกรรมการชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน 19 คน 10.30 – 11.15 น. บรรยายในหัวข้อ “เบาหวาน ออกกำลังกาย และอาหาร” • วิทยากร 2 คน โดย อ.พญ.สิรินาถ สิรินทร์วราวงศ์ และน.ส.ศรีวรรณ ทองแพง • บุคลากรทางการแพทย์ที่สนใจ 2 คน 11.15 – 12.00 น. Break • ผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 20 คน 12.00 – 13.00 น. • ผู้ปกครอง / ผู้ติดตาม 29 คน แชร์ประสบการณ์ “Pursuing Life’s Goal even with Diabetes • ตัวแทนและทีมงานจากบ.โนโว นอร์ดิสค์ 10 คน เป้าหมายชีวิต พิชิตเบาหวาน” โดย Mr. Justin Morris กิจกรรม Rock for Bike รับประทานอาหารกลางวัน ขอขอบคุณทีมงานบริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ที่ได้ร่วมจัดกิจกรรม สร้างเสริมกำลังใจ ร่วมกับชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน ในปี 2562 THE NEXT PAGE YEAR 20 : NO.20 NOVEMBER 2021 THEME : CELEBRATING 100 YEARS OF INSULIN 1921 - 2021 23

SUGAR FREE YEAR 20 : NO.20 : NOVEMBER 2021 Type 1 diabetes และ COVID infection เปิดโลกเบาหวาน DIABETES UPDATE 2021 ส่วนใหญ่เด็กที่เป็นเบาหวานที่ติดเชื้อ COVID-19 มักมีอาการไม่ รุนแรง แต่มักทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลยากขึ้น มีโอกาสเกิดเลือดเป็นกรด พญ.ประเนตรทิพย์ รินแก้วกาญจน์ (พี่แอน) (diabetic ketoacidosis) มากขึ้น มีแนวโน้มที่ผู้ใหญ่ที่เป็นเบาหวาน ถ้าติดเชื้อโควิด แล้วจะรุนแรงกว่า และ มีโอกาสต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล มากกว่าคนที่ไม่เป็นเบาหวาน 2-4 เท่า กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง คือ น้ำตาลในเลือดสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน และการ มีโรคร่วมอื่นๆ ได้แก่ โรคอ้วน BMI ≥ 30 (obesity), โรคหัวใจ (heart disease), โรคไต (renal disease), โรคปอด (lung disease) โดยปัจจัยที่ ทำให้เป็นรุนแรงขึ้นคือ ความดันโลหิตสูง (hypertension), เลือดเป็นกรด (DKA), สวัสดิการในการรักษาพยาบาล (health insurance status***), และ การขาด technology ในการดูแลเบาหวานที่เหมาะสม ***เป็นข้อมูลที่อิงระบบสาธารณสุขของประเทศสหรัฐอเมริกา COVID-19 Severity Is Tripled in the Diabetes Community: A Prospective Analysis of the Pandemic’s Impact in Type 1 and Type 2 Diabetes,” by Justin M. Gregory et.al. was published in December 2020 in the peer-reviewed journal Diabetes Care. Risk of and risk factors for COVID-19 disease in people with diabetes: a cohort study of the total population of Scotland” by Stuart J McGurnaghan et al. was published in December 2020 in the peer-reviewed journal Lancet Diabetes and Endocrinology. ผลของระดับน้ำตาลที่สูง ต่อการติดเชื้อ COVID-19 พบว่าผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง เมื่อมีการติดเชื้อ COVID และเข้ารับ การรักษาในโรงพยาบาลมีแนวโน้มที่จะต้องเข้ารับการรักษาใน ICU และต้องการ อุปกรณ์ช่วยหายใจ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาเรื่องไต หรือเสียชีวิตได้ ง่ายกว่า ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ ถ้าติดเชื้อ COVID แล้ว จำเป็นต้องติดตามระดับ น้ำตาลในเลือด ถึงแม้ว่าจะยังไม่เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานเลยก็ตาม ส่วนในกลุ่มที่เป็นเบาหวาน ควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดี และถ้าติดเชื้อ COVID แล้วการวัดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ และรักษาด้วยอินซูลิน เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือด อยู่ในค่าต่ำกว่า 140mg/dl จะช่วยทำให้การรักษา การติดเชื้อ COVID ได้ผลดี “More frequent glucose monitoring and treatment with insulin therapy to a target glucose value less than 140 mg/dL could improve outcomes in these patients.” https://www.diabetes.co.uk/news/2021/may/high- blood-sugar-levels-impacts-covid-19-severity.html The findings were published at the ENDO 2021, the Endocrine Society’s annual meeting. 24

การรับวัคซีน COVID-19 ในผู้ที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 1 ไม่ควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีน เนื่องจากโอกาสที่ผู้ที่เป็นเบาหวาน จะติดเชื้อโควิดแล้วรุนแรงมี มากกว่าคนปกติ นั่นคือ มีโอกาสต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลป่วยรุนแรง และ เสียชีวิต มากกว่า คนปกติทั่วไปที่ติดเชื้อ โดยในกลุ่มที่อายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถรับวัคซีนได้เลย มีผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ ? ในกลุ่มผู้ได้รับวัคซีน Moderna, Pfizer-BioNTech และ Johnson & Johnson พบว่า มีผู้ที่เป็น เบาหวานทุกประเภท 9.4%, 8.4% และ 0.5% ตามลำดับ พบว่า ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงใดๆ ในกลุ่มดัง กล่าว ยังไม่มีการศึกษาโดยตรงในเฉพาะกลุ่มที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 1 www.Jdrf.org Alvin C Powers et al, COVID-19 vaccine prioritization for type 1 and type 2 diabetes, The Lancet Diabetes & Endocrinology, Vol 9, issue 3. P140-141, March 1, 2021. กลุ่มอาการหลังจากการติดเชื้อ COVID-19 (Post – covid syndrome) SUGAR FREE YEAR 20 : NO. 20 : NOVEMBER 2021 จากการระบาดของเชื้อ COVID พบว่าผู้ที่หายจากการติดเชื้อมักมีกลุ่มอาการที่ตามมาในหลาย ระบบ ที่พบได้บ่อยคือ ระบบเลือด (blood clot), ระบบประสาท (neurological disorder), ระบบไต (kidney) และระบบหัวใจ (heart damage) นอกจากนี้ พบว่า คนไข้หลังการติดเชื้อ COVID รับการ วินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานที่เกิดขึ้นใหม่ (New-onset diabetes) โดยพบได้ถึง 14.4% ของผู้ที่เข้ารับการ รักษาในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อ COVID ที่รุนแรง มีทั้งเบาหวานประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 โดย ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นคือ ภาวะอ้วน (obesity) หรือ มีประวัติครอบครัวเป็นเบาหวาน นอกจากนี้ยังพบ บ่อยในผู้ที่ได้รับ Steroid เนื่องจากเป็นยาที่จำเป็นในการรักษาการติดเชื้อ COVID ในบางกลุ่ม นอกจากนี้ ในบางรายยังไม่มีปัจจัยเสี่ยงอะไรเลย ในบางราย ตรวจพบภาวะเบาหวานหลังจากหลายๆ เดือนที่ร่างกายหายจากการติดเชื้อ COVID หลายเดือนแล้ว การดูแลตัวเองที่บ้าน 25 พบว่าในช่วงพักอยู่บ้าน lock down เนื่องจาก การระบาดของ COVID-19 ทำให้ เด็กและวัยรุ่น ที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 1 มีการลดลงของ กิจกรรมด้านกีฬาและการเคลื่ อนไหวร่างกาย (physical activities) ที่ลดลง (sedentary lifestyle) ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของระดับ น้ำตาล เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายขึ้น จึงแนะนำ ให้มีการออกกำลังกายในบ้านที่พอทำได้และ เหมาะสม ซึ่งรูปแบบหนึ่งคือ การออกกำลังกาย ออนไลน์ Calcaterra V. et al., \"CoVidentary\": An online exercise training program to reduce sedentary behaviours in children with type 1 diabetes during the COVID-19 pandemic, J Clin Transl Endocrinol. 2021 Jul 10;25:100261.

SUGAR FREE YEAR 20 : NO.20 : NOVEMBER 2021 SIDM SUPPORT GROUP SiDM support Group คือ การรวมตัวกันทำกิจกรรมของกลุ่มผู้เป็นเบาหวานจาก ชมรมเพื่อนช่วย เพื่อนเบาหวาน ชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน และ กลุ่มเสี่ยงเบาหวานศิริราช โดยมีอาจารย์แพทย์ พยาบาล แพทย์ประจำบ้านสาขาบริบาลผู้ป่วยนอก ภาควิชาอายุรศาสตร์ หน่วยพยาบาลด้านป้องกันโรคและสร้างเสริมสุข ภาพ (PHN) ทีมผู้ให้ความรู้เบาหวาน (CDE) และศูนย์เบาหวานศิริราช ร่วมกันทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับเบาหวานร่วม กัน หลักๆ คือ กิจกรรมให้เพิ่มพูนความรู้ ทักษะใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตในทุกๆวัน และเรื่องที่เกี่ยวข้องด้านเบา หวานทุกกลุ่มอายุ ซึ่งเปิดกว้างให้กับผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย (แต่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า) เริ่มต้น ในปี 2021 นี้ที่เราทุกคนต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์ โควิด-19 ลดการพบปะกันตามมาตรการ social distancing กิจกรรมปีนี้จึงเป็นกิจกรรมผ่านระบบอุปกรณ์ที่เรียกว่า virtual meeting เชิญชวน สมาชิก ทุกท่าน สมัครเข้าร่วมกิจกรรม และติดตาม รายละเอียดได้ ที่ ศูนย์เบาหวานศิริราช โทร. 024199568 Website : https://www.si.mahidol.ac.th/th/division/diabetes/ อบรมออนไลน์ผ่านช่องทาง Application ZOOM meeting 26

วันเบาหวานโลก WORLD DIABETES DAY ในปี 2021 เนื่องในโอกาส 100 years insulin anniversary ทาง WHO ได้กำหนด แนวทางการรณรงค์ ตลอด ปี2021-2023 ในงานวันเบาหวาน Theme: Access to diabetes care...if not now, When? \"การเข้าถึงการบริบาลโรคเบาหวาน เริ่มวันนี้ หรือเมื่อไหร่?\" โดย มี หัวข้อการเข้าถึงการบริบาล 5 ด้าน Fundamental components of diabetes care include: การเข้าถึงการบริบาลโรคเบาหวานขั้นพื้นฐานประกอบด้วย - Access to insulin: 100 years after its discovery, millions of people with - การเข้าถึงอินซูลิน: หลังจากการค้นพบอินซูลิน เมื่อ 100 ปี ยังมีผู้เป็นเบาหวานเป็น diabetes cannot access the insulin they need. ล้านคนที่ยังไม่สามารถได้รับอินซูลินทั้งที่เป็นสิ่งจำเป็น - Access to oral medicines: Many people with diabetes need oral medicines - การเข้าถึงยารักษาโรคเบาหวาน: ยารักษาเบาหวานที่จำเป็นบางตัวยังไม่มีใช้หรือยัง to manage their condition. These remain unavailable or unaffordable in many ไม่สามารถซื้อได้ในบางประเทศรายได้ต่ำหรือรายได้ปานกลาง low and middle-income countries. - การเข้าถึงการติดตามผลการดูแลด้วยตนเอง: การตรวจเลือดเพื่อติดตามการรักษา - Access to self-monitoring: Blood glucose monitoring is a fundamental เป็นสิ่งจำเป็น แต่มีคนที่เป็นเบาหวานเป็นจำนวนมากไม่สามารถเขาถึงหรือซื้อหามา component of diabetes care. Many people with diabetes do not have access ใช้ได้ to the equipment and supplies they need. - การเข้าถึงความรู้และการดูแลทางด้านจิตใจ: ผู้ที่เป็นเบาหวานควรได้รับความรู้เพื่อ - Access to education and psychological support: People living with การดูแลตนเองอย่างต่อเนื่องและการดูแลด้านจิตใจ แต่มีผู้ป่วยหลายรายยังไม่สามารถ diabetes need ongoing education to manage their condition. Many do not เข้าถึงได้ have access to diabetes education. - การเข้าถึงอาหารเพื่อสุขภาพและสถานที่ออกกำลังกายที่ปลอดภัย: ผู้ที่เป็นเบา - Access to healthy food and a safe place to exercise: People living with or หวานหรือผู้ที่มีความเสี่ยงควรเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และสถานที่ออกกำลังกาย at risk of diabetes need access to healthy food and a place to exercise. Both ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นพื้นฐานสำคัญในการดูแลและป้องกันโรคเบาหวาน are fundamental components of diabetes care and prevention. ทั้งนี้ ในโลกใบนี้ การบริบาลโรคเบาหวาน ยังมีการเข้าไม่ถึงทั้ง 5 ด้าน ในอีกหลายๆ ประเทศ หรือ การบริบาลเบาหวาน ในแต่ละ บุคคลของผู้เป็นเบาหวาน ยังได้รับองค์ความรู้ ยา อุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ ไม่ครบถ้วน รวมทั้งการประยุกต์ความรู้ทักษะต่างๆในชีวิตประจำวัน เพื่อคุณภาพที่ดี ให้ไม่มีการเจ็บป่วยฉุกเฉิน (DKA, hypoglycemia) และ ลดภาวะแทรกซ้อน ทางหลอดเลือด ที่ ตา ไต เท้า หัวใจ สมอง และอื่นๆ https://worlddiabetesday.org/resources/wdd-2021/posters/ SUGAR FREE YEAR 20 : NO. 20 : NOVEMBER 2021 ดังนั้น กรรมการชมรมฯ จึงขอส่งกำลังใจ เติมพลังให้ สมาชิก ทุกๆคน ร่วมกัน ทำหน้าที่ ในการดูแลตนเองเรื่องเบาหวาน 27 ถ้าผู้อ่าน คือ ผู้เป็นเบาหวาน ก็ตั้งใจ มีกำลังใจ ดูแลกิจวัตรประจำวันเกี่ยวกับเบาหวานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้รับทราบจากหมอ พยาบาล นักโภชนาการ ตั้งใจทำหน้าที่นี้ ให้ดีที่สุด ให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และถ้าเป็นเด็กนักเรียน นักศึกษา ก็ตั้งใจเรียนเพื่อ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ เป็นต้น ถ้าผู้อ่าน คือ ผู้บริบาลรักษา ทีมผู้สอน ที่ทำหน้าที่วางแผนรักษา แนะนำยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยทำหน้าที่สอนเทคนิค ทักษะต่างๆ ผู้ดูแล และผู้ปกครอง มีหน้าที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือเด็กๆเบาหวานให้พัฒนาตนเองทั้งกายและใจตามวัยให้เหมาะสม ทุกบทบาท ควรทำหน้าที่เสมือนเป็นโค้ชนักกีฬาข้างสนาม ที่ควรให้กำลังใจผู้เล่น และ หาสิ่งสนับสนุนให้เพียงพอ ให้ผู้เล่นในสนามสามารถเข้าถึง การบริบาลเบาหวาน ทั้ง 5 ด้าน ..... ในอีกด้านหนึ่ง \" เราทุกคน มาร่วมมือกัน \" รณรงค์ ในสิ่งที่ยังไม่พร้อมของประเทศไทย ให้พัฒนาเพิ่มขึ้น ร่วมกัน โดยชมรมของเราก็ได้ร่วมมือ กับสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ฯ ในการรณรงค์ สองปีนี้ด้วย ขอเชิญชวน สมาชิกทุกท่านติดตาม และร่วมกันรณรงค์ ด้วยกัน

Insulin 100 years Anniversary ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน 2021 พวกเราชาวโลกยังคงอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาด ของ COVID-19 ซึ่งเหตุการณ์การระบาดลักษณะนี้ครั้งล่าสุดคือการระบาดของไข้หวัดสเปน (Spanish flu) ตรงกับปี ค.ศ.1918 ใช้เวลากว่า 2 ปีในการสิ้นสุด ในช่วงเวลานั้น ยังเป็นเวลาที่ค้นพบ “อินซูลิน” ครั้งแรกบนโลกใบนี้ เมื่อมองย้อน ไปมาเสมือนเหตุการณ์นี้เกิดซ้ำเดิมอีกครั้ง แต่ในปี 2021 นี้เป็นปีของการครบรอบ 100 ปีอินซูลิน ที่พวกเราชาวเบาหวาน มีองค์ความรู้ในการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง ทันสมัย มียา และอุปกรณ์ที่ล้ำยุค Insulin analog ที่ออกฤทธิ์ใกล้เคียง การหลั่งอินซูลินของตับอ่อน มีอุปกรณ์ฉีดยาที่ทันสมัย พกพาง่าย เช่น Insulin Pen, Insulin pump และอื่นๆ เพื่อ สร้างภูมิป้องกัน การเจ็บป่วย หากพูดถึงโรคเบาหวาน หลายๆ คนก็คงนึกถึงการรับประทานยาเป็นหลัก แต่สิ่งที่สำคัญ อีกอย่างหนึ่งคือ ยาฉีดที่มีชื่อว่า “อินซูลิน” ซึ่งเป็นยารักษาโรคเบาหวานตัวแรกของโลกที่ช่วยต่อชีวิตผู้คนได้มากมาย และทำให้ผู้เป็นเบาหวานใช้ชีวิตได้อย่างมีความปกติสุข เดินตามความฝันของตนเองได้ ชีวิตประสบความสำเร็จมากมาย มีวิชาชีพที่ดี มั่นคง เป็นที่พึ่งของครอบครัว และสังคมได้ ในปีนี้เป็นปีที่การครบรอบ 100 ปีของการค้นพบอินซูลิน ซึ่งถือเป็นการค้นพบแห่งศตวรรษ ในบทความนี้จึงได้มี ความในใจของพวกเราที่มีต่อ “อินซูลิน” มาฝากกันค่ะ อินซูลิน...สารในร่างกายอย่างนึงที่ตับอ่อนผลิตออกมารักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้ อินซูลิน เปรียบเสมือนรอยยิ้มแห่ง ปกติ // ยารักษาโรคเบาหวานค่ะ.... อยากให้พัฒนาต่อไปเรื่อยๆค่ะ ทุกวันนี้ผู้ป่วยเบา ความสุขที่คอยเติมเต็มความหวานให้ กับทุกช่วงเวลาของชีวิต เพราะทุก หวานสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ ก็เพราะอินซูลินนี้ หากเป็นไปได้หรือจะมีเทคโนโลยีอะไรที่ ครั้งที่ร่างกายต้องการใช้อินซูลิน นั่นหมายถึงช่วงเวลาที่ร่างกายได้ สามารถทำให้อินซูลินเปลี่ยนจากฉีดมาเป็นกินได้ก็จะดีมากๆเลยค่ะ ผ่อนคลายและมีความสุข ไม่ว่าจาก Nina การรับประทานอาหารหรือขนมที่ชอบ การได้พบปะสังสรรค์ในงานเลี้ยง การ November 2021 ได้ร่วมรับประทานอาหารพร้อมเพื่อน พร้อมคนรัก SUGAR FREE YEAR 20 : NO.20 : NOVEMBER 2021 การค้นพบของอินซูลินเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งและกลายเป็นสิ่งที่เราชาวเบา พร้อมครอบครัว หรืออย่างน้อยที่สุด ก็คือ การได้เติมเต็มท้องที่ว่างจาก หวานชนิดที่ 1ขาดไม่ได้ เนื่องในโอกาสครบรอบ100ปี การค้นพบอินซูลิน ดิฉันอยาก ความหิว ... ดังนั้นแล้ว สำหรับผม เมื่อใดก็ตามที่ ขอขอบคุณอินซูลินที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ที่เป็นเบาหวานดำเนินชีวิตได้อย่างมีความ คิดถึงคำว่า “อินซูลิน” ย่อมต้องมี รอยยิ้มและช่วงเวลาแห่งความสุข สุข ดิฉันหวังว่าอินซูลินจะกลายเป็นสิ่งที่ชาวเบาหวานทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และหวัง ตามมาด้วยเสมอ เป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตข้างหน้าจะมีนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเพื่อนๆเบา กันต์ธร ไทยวานิช November 2021 หวานในทางที่ดีขึ้นได้ไม่แพ้การค้นพบ 'อินซูลิน' Nannapat Sutthipongkiart November 2021 ตอนแรก ไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับร่างกายเราเลย จนตอนที่เป็นเบาหวานก็ทำให้ได้ ยา \"อินซูลิน\" เหมือนเป็นอวัยวะที่เพิ่มเข้ามา รู้จักกับคำว่า \"อินซูลิน\" เมื่อรู้จักแล้ว พบว่ามันเปิดโลกให้เราอยากรู้เรื่องในร่างกายเรา ในร่างกาย ไปไหนก็พกไปทุกที่ตลอดเวลา ไม่ได้ มากขึ้นแล้วก็อาจจะเป็นเพราะคำนี้ก็ได้ที่ทำให้อยากสอบเข้าหมอค่ะ5555.... มองว่าเป็นสิ่งของแต่หนูมองเป็นอวัยวะที่เพิ่มเติม เข้ามา มองเป็นส่วนหนึ่งของร่ายกายไปแล้วค่ะ ในด้านหนึ่ง ก็รู้สึกว่ามัน\"อินซูลิน\" เป็นสิ่งที่ร่างกายเราขาดหายไปแต่ในอีกด้าน เป็นยาที่ช่วยชีวิตมากๆ หนึ่ง ก็รู้สึกว่ามัน \"อินซูลิน\" เติมเต็มอะไรหลายๆอย่างให้เราได้เหมือนกันค่ะ โอกาสครบ 100 ปี การคิดค้น อินซูลิน อยากบอกว่า... ขอบคุณนะคะที่ทำให้ชีวิตหนู หนึ่งร้อยปีแล้ว ที่ชาวมนุษย์โลกมี \"อินซูลิน\" สมบูรณ์ หากไม่มีพวกท่านในวันนั้น เราก็ไม่มียาอินซูลินใช้ รักษาผู้ป่วยเบาหวานในวันนี้ Punch ruttunyoo sanitnoi November 2021 November 2021 หนูเริ่มเป็นเบาหวานตั้งแต่ 7 ขวบ ถึงตอนนี้ก็อยู่กับเบาหวานและอินซูลินมา 15 ปีแล้วค่ะ สำหรับหนูตอนนี้ อินซูลินก็เป็นเหมือน เพื่อนสนิทอีกคนนึง อยู่ด้วยกันมาเกินครึ่งชีวิต ไปไหนก็ไปด้วยกัน ขาดกันไม่ได้จริงๆค่ะ ... และการมีอินซูลินใช้บนโลกใบนี้มา 100 ปี แล้ว หมายความว่า หนูก็คงมีเพื่อนๆพี่ๆ น้าๆอาๆและน้องๆบนโลกใบนี้ ที่มี \"อินซูลินเป็น เพื่อนสนิท\" เหมือนกับหนูอีกมากมาย ซึ่งหนูและทุกๆคนที่มีอินซูลินเป็นเพื่อนสนิท คงจะมีความรู้สึกอยากขอบคุณเขาสักครั้งหนึ่ง ที่เขา คอยอยู่เป็นเพื่อน ทำให้ชีวิตที่ไม่ปกติของพวกเราสามารถดำเนินไปและมีความสุขได้เหมือนกับทุกคนๆค่ะ Kittima Panroj (Nham) 28 November 2021

Insulin 100 years Anniversary \"อินซูลิน\" ที่ค้นพบเมื่อ100ปี ก่อนมันเป็นสิ่งสำคัญมากๆสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 สำหรับความรู้สึกของพ่อและ แม่ของ เด็กเบาหวานชนิดที่ 1 เวลาที่เห็นลูกต้องโดนฉีดยาวันละหลายๆรอบ( ลูกต้องเจ็บมากๆวันละหลายๆครั้ง ลูกร้องไห้บ้างไม่ ร้องไห้บ้างซึ่งก็รวมถึงพ่อและแม่ด้วยที่ต้องแอบร้องไห้อยู่ในใจ เพราะต้องเข้มแข็งให้ลูกเห็น ในทุกๆครั้งเวลาที่ต้องโดนเข็มจิ้มไป ที่บริเวผิวหนัง ) มันทำให้พ่อและแม่อย่างเราทรมารหัวใจมากๆ คือจริงๆแล้วไม่รู้จะกลั่นความรู้สึกทรมารนั้นออกมาเป็นคำพูดยัง ไงให้คนอื่นๆเข้าใจ ด้วย..... ความที่คุณแม่ทราบมาว่าในต่างประเทศ การพัฒนา \"อินซูลิน\" และการบริหารการฉีดยาอินซูลินใน100ปีที่ผ่านมาถึง ปัจจุบัน ค.ศ.2021มีการพัฒนาต่อเนื่องอย่างมาก รัฐบาลเค้าให้ความสำคัญกับประชาชนของเค้ามากๆจนมีถึงขั้นเด็กเบาหวาน ชนิดที่ 1 รักษาและใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่าอินซูลินปั๊ ม ให้คนไข้ที่เข้าใจและพร้อมใช้อุปกรณ์นี้ ร่วมกับสอน การจัดการดูแลตนเองครบ วงจร อยู่ในระบบสุขภาพฟรีๆ ซึ่งมันดีมากๆและจำเป็นมากๆสำหรับเด็กเบาหวานชนิดที่ 1 เพราะอุปกรณ์ชนิดนี้ทำหน้าที่แทนตับ อ่อนของเด็กที่สูญเสียหน้าที่ไป แต่ราคาในเมืองไทยแพงมากๆ เลยทำให้เด็กๆเบาหวานชนิดที่ 1 หลายๆคนไม่มีโอกาสได้ใช้เพราะ ค่าใช้จ่ายสูงมากๆ.... .... ซึ่งคุณแม่อยากเสนอให้รัฐบาลไทยเห็นถึงความสำคัญตรงนี้มากๆ เพราะเด็กในวันนี้จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า ซึ่งเด็กๆพวกนี้ถึงแม้จะมีโรคประจำตัว แต่เค้าสามารถโตไปเป็นคนที่เก่งในด้านต่างๆอีกมากมายในการที่จะพัฒนาประเทศ ถ้าพวก เค้าสามารถได้รับโอกาสได้ใช้อุปกรณ์การรักษา มีระบบการดูแลเรียนรู้ต่อเนื่อง (DSMES) ที่เหมาะสมกับโรคที่เค้าเป็น คุณแม่เชื่อ ว่าพวกเค้าจะมีชีวิตที่ยืนยาวกว่านี้แน่ๆโดยที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากโรคที่พวกเค้าเป็น (และ เติบใหญ่ เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพด้าน สุขภาพ ในสังคมต่อไป ).. Termtem’s mom November 2021 ในความคิดของหนูคิดว่า อินซูลินเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งในร่างกายที่ ขอบคุณ ​Sir Frederick Grant Banting (เฟรเดอริก SUGAR FREE YEAR 20 : NO. 20 : NOVEMBER 2021 ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือด มันอาจจะดูปกติธรรมดาแต่มันสำคัญกับ แกรนท์ แบนติง)​ ชาวแคนาดา​ นัก​วิทยาศาสตร์​การ ร่างกายคนเรามากเลย หนูเริ่มรู้จักสารตัวนี้ได้เพราะตัวเองเป็นโรคเบา แพทย์​ร่วมเป็นผู้ค้นพบอินซูลิน หวานค่ะ เกิดจากการที่อินซูลินในร่างกายทำงาน ผิดปกติไม่เพียงพอที่จะนำ มาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วงแรกที่หนูได้รับอินซูลินตอนอายุ 3 ได้​รู้จัก​กับอ​ินซูลิน​ในปี 2548 หรือ​เมื่อ​16 ปีก่อน ขวบโดยการฉีดยาให้คุณแม่ทำการฉีดยาให้ตอนแรกหนูกับคุณแม่ควบคุม จากก​ ารว​ินิจฉัยข​ องแ​ พทย์​ใน​โรงพยาบาลก​ รุงเทพฯ​ แห่ง​ ไม่ได้เลยค่ะฉีดเกินร่างกายที่ต้องการ ฉีดไม่พอตามขนาดที่ร่างกาย หนึ่ง​และ​มี​การเช็ค​ผล​ตรวจเ​ลือดซ​้ำอีกค​ รั้ง​ในโรง ต้องการ ทำให้เกิดอาการ Hypoglycemia บ่อยมากค่ะ อาทิตย์ละ 1 ครั้ง พยาบาล​ที่ท​ ำการรักษา​เป็นป​ ระจ​ำ ว่า เป็นโ​รคเบาหวาน​ ได้ มันเป็นเรื่องน่าตกใจสำหรับเด็กคนหนึ่งมากเลยตอนนั้น แต่พอเวลา ชนิดที่ 1 Type 1DM ผ่านไปก็เริ่มปรับตัวกับมันได้จนตอนนี้ทำทุกอย่างเกี่ยวกับอินซูลินได้ดีแล้ว ค่ะ เจอเป็น Insulin​mixtard​Humulin​N 70/30​ อินซูลิน​ชนิดน้ำขุ่น, ในอินซูลิน​ชนิดน​ี้​เป็นอ​ินซูลิน​ สุกฤตยา บุสดี สังเคราะห์ท​ี่สร้าง​ขึ้น​มา เพื่อ​ให้​เหมือน​กับอ​ินซูลินข​ อง​ November 2021 มนุษย์ อุปกรณ์ท​ี่ใช้​ฉีด​อินซูลินเ​ป็น​ไซริงค์ฉีด ใน1เข็มจะ ใช้​งานอยู่ 2 วัน​ ตั้งแต่เป็นเด็กใช้ชีวิตมาถึง10ขวบ ก็เพิ่งได้ยินคำว่า “อินซูลิน”ครั้งแรก จากที่คุณหมอบอกว่าร่างกายเราไม่สามารถผลิตเค้าออกมาได้ ต้องเติมเข้าไป กว่าจะทำการรักษาโ​รคเบาหวานไ​ด้​ดีในช่วง​ปีที่ 10 ผ่านกระบวนการฉีดยา นั่นแหละจึงเป็นเรื่องที่ทำให้รู้ว่าอินซูลินคือสารสำคัญ กว่า, เริ่ม​มีการเ​ปลี่ยน​แปลง​จาก​เข็มฉีดสลิง เป็นป​ ากกา​ ภายในร่างกาย และชีวิตเราขาดอินซูลินไม่ได้ ฉีดอ​ินซูลิน​1 เข็ม ผลการควบคุมดูแล​น้ำตาลส​ ะสม​ HbA1c​ออกมาไ​ม่ดี และ​เปลี่ยนเ​ป็น​2 เข็ม​ใน​ปีที่​13 Ploypaka อินซูลินแ​ บบ Basal bolus insulin​regimen : 4 ครั้ง​ November 2021 ต่อ​วัน เมื่อใช้แ​ บบ 2 เข็ม การรักษา​เริ่ม​ออกมาด​ีขึ้น​เรื่อย​ ๆ​ผสมผสานก​ับก​ ารควบคุมอาหาร (นับคาร์บ)​และ​สูตร คำนวณยาฉีดอิน​ซูล​ินเป็นสูตร​เฉพาะ​ตัวเอง, มีการ เปลี่ยนขนาดห​ัวเข็มเ​ป็น​4 mm. ทำให้ช​่วยลด​การ​เจ็บ \"อินซูลิน\" เป็นเสมือนสิ่งของคู่กายสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ปวดล​ ดลง​ในการ​ฉีดอ​ินซูลิน​แต่ละ​ครั้ง ทำให้เราสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ วิวัฒนาการของอินซูลินทำให้เรา แต่จะถือห​ ลักก​ ารตรวจ น้ำตาล​ที่ปลายนิ้ว​จะใช้​การเช็ค​ สามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นมากๆเราพกพาเขาไปได้ทุกที่ที่เราไปเหมือนเราพก น้ำตาล​4 ครั้งต​่อวัน เป็น​หลัก​การปฏิบัติส​ ำคัญ​มาก่อน ปากกา 1 แท่ง ไว้ค่อยจดสิ่งต่างๆในระหว่างวัน และมาคำนวณยาอินซูลิน​กับ​มื้ออาหารใ​นมื้อนั้นด้วย​ เพื่อก​ ารรักษา​ได้​ผลออกมา​ดีในทุกวันระยะหลัง​เริ่ม​มีการ Natna Siri ปรับอินซูลิน​ให้ใ​ช้​น้อยลงแต่ยังใช้สูตรน​ี้เหมือนเ​ดิม November 2021 หากในอนาคตถ้าเป็นไปได้​ไม่​ต้องใ​ช้​อินซูลินหรือ เปลี่ยนจากยาฉีด ไปเ​ป็น​อินซูลินเ​ม็ด ในรูปแบบ​ของย​ า รับประทาน.. การใช้ชีวิต​ประจำวันจะง่ายมาก​ขึ้นก​ ว่าเดิม ค่ะ Ms Tipaporn P. November 2021 29

Insulin 100 years Anniversary มุมมองต่อ อินซูลิน As having diabetes for more than 10 หากจะพูดถึงอินซูลิน คงเปรียบเหมือนเพื่อน เพื่อนที่เข้ามาโดย years, Insulin is the 33 organ of my body. At first I have to say that I didn’t like carrying ไม่ทันตั้งตัวในตอนแรก แต่กลับรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่เพื่อนคนนี้ไปไหนด้วย Insulin around, moreover I didn’t feel like I คอยช่วย คอยดูแล ทำให้เราเป็นเราจนถึงทุกวันนี้ ไม่น่าเชื่อเพื่อนคนนี้จะอายุ need it or it is necessary for my life. As a ครบ 100 ปีแล้ว ขอบคุณที่เข้ามาช่วยเราในวันนั้นนะ ถ้าไม่มีเพื่อนที่ชื่อ young woman, I feel unlucky having diabetes อินซูลินในวันนั้น คงไม่มีโอกาสได้มาเล่าถึงเพื่อนที่แสนวิเศษในวันนี้ สุขสันต์ and carrying Insulin all the time. But as วันเกิดนะเพื่ อนอยู่ดูแลเราและคนอื่ นไปนานๆนะ growing up with it I have learnt that there is no different between normal people and ชนัต มงคลธรรมากุล (ปาย) people who have diabetes and Insulin is just November 2021 like a extra job and responsibility for us. Furthermore, the salary we earned from this job is to be able to live longer with a happy Insulin - from my point of view life. If I had to define Insulin - he's more like a friend. He came Treerat Khamkhom all of sudden at first, but I felt relieved every time he came with November 2021 me. He would help and take care of me which make me who I am. To know that my friend is nearly 100 years old, thank you for coming into my life. If I haven't met you that day, I would have already gone before I could tell about your amazing story. Happy birthday, cheers to all the adventure await us ahead. Chanut Mongkolthunmakul (Spy) November 2021 SUGAR FREE YEAR 20 : NO.20 : NOVEMBER 2021 สำหรับมนุษย์ห​ัวใจเป็นอวัยวะนึงที่สำคัญในการมีชีวิต​ แต่สำหรับเรา ที่มีเบาหวานเป็นส่วนนึงในร่างกาย​อินซูลินก็เสมือนลมหายใจที่ สำคัญของเรา​ที่ขาดไม่ได้เลย❤️ Numnim November 2021 Insulin 100th Anniversary Century of Innovation in Diabetes 30

Celebrating 100 years of Insulin 1921-2021 SUGAR FREE YEAR 20 : NO. 20 : NOVEMBER 2021 เฉลิมฉลอง 100 ปี ค้นพบ “อินซูลิน” 2464 – 2564 Insulin was discovered in 1910 by Sir Edward Albert Sharpey-Schafer. He determined that there was a particular chemical missing in the pancreas of a diabetic. He called it insulin. It would not be until 1921, a 100 years ago, that insulin was successfully extracted by Dr. Frederick Banting. It marked a new hope for people with diabetes. Back then insulin was extracted from animals, but science has come a long way and today insulin is synthetically made. I was diagnosed with diabetes at the age of ten, twenty years ago. I started using insulin as soon as I was diagnosed. Now I take insulin four times a day. One after every meal and another one that covers the whole day. Insulin plays an enormous part in my life. It is the liquid that I literally survive on. I carry it with me wherever I go. There has not been a single day in the past 20 years that I have not taken insulin. It helps control my blood glucose level by bringing it down. Maintaining my glucose in range is the key to living a healthy life with diabetes. Before, when people were diagnosed with diabetes, they did not live very long. They had to go on strict diets and would sometimes die from starvation. As a diabetic I know what it feels like when there is no insulin in your body. You lose all energy, and you feel very weak and dehydrated all the time. Then you start losing all your weight and became very thin. Eventually your blood turns acidic which left treated with insulin is fatal. I can only imagine how hard it must have been like for people diagnosed with diabetes before insulin was discovered. Today, we are truly fortunate because insulin is widely available. This year marks the 100th year that we have insulin. With insulin we can live a long and healthy life. We can be great achievers and excel in our respective fields. We can have a family and live a fulfilling life just as a normal person would. All of this is possible because of the discovery of insulin. Ricky Manchanda November 2021 Thailand 31

SUGAR FREE THAI DIABETIC CHILD & ADOLESCENT SUPPORT CLUB วารสารชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน http://www.thaidiabetes.com YEAR 20 : NO.20 : NOVEMBER 2021 /YEAR 20 : NO.20 NOVEMBER 2021 เปิดโลกเบาหวาน Celebrating 100 years DIABETES update 2021 of Insulin 1921-2021 เฉลิมฉลอง 100 ปี ค้นพบ \"อินซูลิน\"