ภาควิชาประวัติศาสตร์ การสังหารหมู่ที่หนานกิง (อังกฤษ: Nanking Massacre) นำ เ ส น อ โ ด ย น า ย กิ ต ติ พ ง ษ์ อ า จิ ต ร นุ ภ า พ เ ล ข ที่ 1 น า ย ก ะ ต๊ ะ เ ล ข ที่ 1 0
ความสำคัญและความเป็นมา เป็นการสังหารหมู่และการข่มขืนกระทำชำเรายามสงคราม (war rape) ซึ่งเกิดขึ้นเป็นเวลาหกสัปดาห์หลังญี่ปุ่นยึดนครหนานจิง อดีต เมืองหลวงของสาธารณรัฐจีน เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 1937 ระหว่างสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง ในช่วงนี้ พลเรือนและทหารจีนที่ถูก ปลดอาวุธหลายแสนคนถูกทหารกองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่นฆ่าทั้งยังเกิดการข่มขืนกระทำชำเราและฉกชิงทรัพย์อย่างกว้างขวาง นัก ประวัติศาสตร์และพยานประเมินว่ามีผู้ถูกฆ่าระหว่าง 250,000 ถึง 300,000 คน ผู้ก่อการสังหารหมู่หลายคน ซึ่งขณะนั้นถูกตราว่าเป็น อาชญากรรมสงคราม ภายหลังถูกไต่สวนและตัดสินว่ามีความผิด ณ ศาลชำนาญพิเศษอาชญากรรมสงครามนานกิง และถูกประหารชีวิต ในการนี้ เจ้าชายยาซูฮิโกะ อาซากะ พระอนุวงศ์ญี่ปุ่น อันเป็นผู้ก่อการสำคัญคนหนึ่ง ทรงรอดจากการฟ้องคดีอาญา เพราะฝ่าย สัมพันธมิตรได้ให้ความคุ้มครองไว้ก่อน เหตุการณ์นี้ยังเป็นประเด็นพิพาททางการเมือง เพราะนักลัทธิแก้ประวัติศาสตร์ (historical revisionist) และนักชาตินิยมญี่ปุ่นบาง คนแย้งหลายแง่มุมของเหตุการณ์ดังกล่าว[9] โดยอ้างว่า การสังหารหมู่มีการบรรยายเกินจริงหรือแต่งขึ้นทั้งหมดเพื่อจุดประสงค์ด้าน โฆษณาชวนเชื่อ ผลของความพยายามของนักชาตินิยมที่จะปฏิเสธหรืออ้างความชอบธรรมในอาชญากรรมสงคราม ทำให้เกิดข้อโต้เถียง เกี่ยวกับการสังหารหมู่ยังเป็นอุปสรรคในความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับชาติอื่นในเอเชีย-แปซิฟิก เช่น เกาหลีใต้และฟิลิปปินส์ การประเมินยอดผู้เสียชีวิตในการสังหารหมู่อย่างแม่นยำนั้นทำไม่ได้ เพราะบันทึกทหารญี่ปุ่นเกี่ยวกับการสังหารจำนวนมากถูกทำลาย หรือเก็บไว้เป็นความลับโดยเจตนาไม่นานหลังการยอมจำนนของญี่ปุ่นในปี 1945 ศาลทหารพิเศษระหว่างประเทศภาคพื้นตะวันออกไกล ประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์กว่า 200,000 คน[13] ทางการจีนประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตราว 300,000 โดยอิงการประเมินของศาล ชำนัญพิเศษอาชญากรรมสงครามนานกิง การประเมินจากนักประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมีหลากหลายตั้งแต่ 40,000 ถึง 200,000 คน นักลัทธิ แก้ประวัติศาสตร์บางคนปฏิเสธว่าไม่มีการสังหารหมู่เป็นระบบกว้างขวางเกิดขึ้นเลย โดยอ้างว่าการเสียชีวิตทั้งหมดมีคำธิบายทางทหาร เป็นอุบัติเหตุ หรือเป็นเหตุการณ์ความทารุณที่ไม่ได้รับอนุญาตที่ไม่เกี่ยวข้องกัน แม้รัฐบาลญี่ปุ่นจะยอมรับการกระทำการฆ่าพลเรือนจำนวนมาก การฉกชิงทรัพย์และความรุนแรงอื่นโดยกองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่นหลัง นานกิงแตก[16][17] ทว่า เสียงข้างน้อยกลุ่มเล็กแต่ทรงอิทธิพลทั้งในรัฐบาลและสังคมญี่ปุ่นแย้งว่า ยอดผู้เสียชีวิตนั้นแท้จริงเป็นทหาร และไม่มีอาชญากรรมเกิดขึ้น การปฏิเสธการสังหารหมู่กลายเป็นส่วนสำคัญของลัทธิชาตินิยมญี่ปุ่น[18] ในญี่ปุ่น ความเห็นสาธารณะต่อ การสังหารหมู่มีหลากหลาย และมีน้อยคนที่ปฏิเสธการสังหารหมู่ทั้งหมด[18] กระนั้น ความพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่าของนักลัทธิแก้ที่จะ สนับสนุนประวัติศาสตร์เหตุการณ์ของลัทธิแก้ได้สร้างข้อโต้เถียงซึ่งปรากฏในสื่อระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในจีน เกาหลีใต้และ ชาติอื่นในเอเชียตะวันออก เป็นระยะ
วัตถุประสงค์ ประโยชน์และข้อเสนอแนะ 1.เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของการสังหารหมู่ที่หนานจิง ทำให้ทราบถึงความเป็นมาของเรื่องราวสงครามของญี่ปุ่น-จีน 2.เพื่อนำมานำเสนอและเผยแพร่แก่ผู้ที่มาศึกษาโครงงานนี้ ในประวัติศาสตร์ ว่าเคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น และคิดว่าคง ไม่มีการสังหารหมู่แบบนี้ขึ้นอีกแล้วเพราะสมัยนี้ มนุษย์ไม่มี สมมุติฐาน การรุกรานประเทศอื่นอีกแล้ว จึงควรเปิดใจยอมรับประเทศ เพื่อนบ้านได้อย่างสบายใจ เนื่องจากกองทัพญี่ปุ่นไม่สามารถหาอาหารมาให้แก่เชลยศึก อย่างเพียงพอได้ จึงทำการสังหารเชลยศึกทั้งหมด ความรู้สึกต่อการทำโครงงาน วิธีการศึกษาค้นคว้า เป็นโครงงานที่ยากลำบากมาก แต่ก็เป็นโครงงานที่ทำให้ ทราบเรื่องราวในอดีตที่เคยมีได้ ชัดเจน จึงคิดว่าดีมากๆที่มีโค 1.ศึกษาอินเตอร์เน็ต และแหล่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ ใน รงงงานแบบนี้ เว็บไซต์ต่างๆ 2.ศึกษาจากหนังที่นำมาเเสดงโดยนำข้อมูลจากอดีตมาแสดงเป็น หนัง ผลการศึกษา และอภิปรายผล จากการศึกษาการสังหารหมู่ที่หนานกิง จึงได้รู้ว่า การ สังหารหมู่เกิดขึ้นเพราะ ทหารญี่ปุ่นไม่สามารถหาอาหารใน ส่วนของเชลยจีนได้ จึงหลอกเชลยชายไปฆ่า แล้วเชลยหญิง จะถูกข่มขืนเเล้วฆ่าทิ้งตามไป ไม่เว้นแม้แต่เด็กและคนแก่เช่น กัน
เอกสารอ้างอิง 1.军事委员会政治部编印 (1938-07). 《日寇暴行实录》. “南京寇军活埋我同胞之惨状”. 汉口. p. 35. Check date values in: |date= (help) 2.\"The Nanking Atrocities: Fact and Fable\". Wellesley.edu. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ February 28, 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-03-06. Unknown parameter |deadurl= ignored (help) 3.\"Nanking Atrocities – In the 1990s\". nankingatrocities.net. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ October 26, 2013. Unknown parameter |deadurl= ignored (help) 论南京大屠杀遇难人数 认定的历史演变4.Bob Tadashi Wakabayashi, บ.ก. (2008). The Nanking Atrocity, 1937–38: Complicating the Picture. Berghahn Books. pค. 362. ISBN 1845451805. 5.\" \" (PDF). Jds.cass.cn. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2014-03-22. สืบค้นเมื่อ 2016- 近十年 侵华日军南京大屠杀 研究述评03-16.\" 6. \" \" \" (PDF). Jds.cass.cn. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ March 16, 2016. 7.\"Modern China\" (PDF). คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ March 6, 2016. สืบค้นเมื่อ May 30, 2014. Unknown parameter |deadurl= ignored (help) 8.Levene, Mark and Roberts, Penny. The Massacre in History. 1999, page 223-4 9.Totten, Samuel. Dictionary of Genocide. 2008, 298–9. 10.Iris Chang, The Rape of Nanking, p. 6. 11.Lee, Min (March 31, 2010). \"New film has Japan vets confessing to Nanjing rape\". Salon/Associated Press. 12.\"Scarred by history: The Rape of Nanjing\". BBC News. April 11, 2005. 13.\"Judgement: International Military Tribunal for the Far East\". Chapter VIII: Conventional War Crimes (Atrocities). November 1948. 14.Fogel, Joshua A. The Nanjing Massacre in History and Historiography. 2000, page 46-8. 15.Dillon, Dana R. The China Challenge. 2007, page 9-10 16.\"Q8: What is the view of the Government of Japan on the incident known as the \"Nanjing Massacre\"?\". Foreign Policy Q&A. Ministry of Foreign Affairs of Japan. 17.\"I'm Sorry?\". NewsHour with Jim Lehrer. 1998-12-01. 18.Yoshida, Takashi. The Making of the \"Rape of Nanking\". 2006, page 157-8. 19.Gallicchio, Marc S. The Unpredictability of the Past. 2007, page 158. 20.Paragraph 2, p. 1012, Judgment International Military Tribunal for the Far East 21.\"Japanese Imperialism and the Massacre in Nanjing: Chapter X: Widespread Incidents of Rape\". Museums.cnd.org. สืบค้นเมื่อ 2011-03-06. 22.\"A Debt of Blood: An Eyewitness Account of the Barbarous Acts of the Japanese Invaders in Nanjing,\" 7 February 1938, Dagong Daily, Wuhan edition
จัดทำโดย นาย กิตติพงษ์ อาจิตรนุภาพ เลขที่ 1 นาย กะต๊ะ เลขที่ 10 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 เสนอ คุณครู อุฬาริน รู้พันธ์
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: