EP.3 การเกิดน้ำค้าง น้ำค้างแข็ง ป.5

โรงเรียนวัดเทพชมุ นมุ หน่วยท่ี 4 แหลง่ น้ำและ กำรเปล่ยี นแปลงของอำกำศ ครผู ูส้ อนครูพัชรี วรรัตนำนรุ ักษ์ (ครูไก)่

ขัน้ สรา้ งความสนใจ หมอกมลี กั ษณะการเกดิ เหมือนอะไร เรามกั เห็นนา้ ค้างได้บ่อยในเวลาใด

ขั้นสารวจและคน้ หา วฏั จกั รนา้ ไอนา้ ในอากาศ หมอกและนา้ ค้างมีการเกดิ อย่างไร แบ่งกลุ่ม ร่วมกนั สืบคน้ ขอ้ มูล จากแหล่งความรู้ต่าง ๆ แลว้ มาอภิปราย และนาเสนอผลงานหนา้ หอ้ งเรียน ลองตอบคาถามจากแนวคาถามต่อไปน้ี

ขน้ั อธบิ าย แนวคาถาม 1. ทะเลหมอกคืออะไร หมอกท่ีรวมตวั กนั เป็นกลุ่มกอ้ นขนาดใหญ่บริเวณยอดเขา 2. หมอกลอยตวั อยบู่ ริเวณใด บริเวณใกลพ้ ้นื โลก

แนวคาถาม 3. ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ เรียกน้าคา้ งแขง็ วา่ อะไร แม่คะนิ้ง 4. ภาคเหนือ เรียกน้าคา้ งแขง็ วา่ อะไร เหมยขาบ

ขน้ั ขยายความรู้ ไอนา้ ในอากาศ ดวงอาทิตย์ การเกดิ หมอก ให้ความร้อน เมฆ เกดิ ไอนา้ ลอยตัวสูงขึน้ ไอนา้ ควบแน่นเป็ น ละอองนา้ ใกล้พืน้ โลก แล้วรวมกล่มุ เป็ นหมอก

ไอนา้ ในอากาศ หมอก ทะเลหมอก

ไอนา้ ในอากาศ เรื่องน่ารู้: หมอก ประเทศท่ีมีหมอกลงหนามาก ทาให้เป็ นอุปสรรคต่อการเดินทาง ดังน้ัน ยานพาหนะโดยเฉพาะ รถยนต์จึงติดต้ังไฟตัดหมอกเพ่ือ ช่วยลดอุบัตเิ หตุจากการเดินทาง ไฟตดั หมอก

ไอนา้ ในอากาศ การเกดิ นา้ ค้าง อากาศที่มี ความชื้น คายความร้อน พืน้ ดนิ คายความร้อน

ไอนา้ ในอากาศ นา้ ค้าง นา้ ค้างแขง็

ข้นั ประเมิน นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง เรามาตรวจสอบความเข้าใจกนั 1. หมอกแตกต่างจากเมฆอยา่ งไร หมอกเกดิ ทร่ี ะดบั ความสูงต่ากว่าเมฆ 2. น้าคา้ งแขง็ คืออะไร นา้ ค้างทเ่ี กดิ บริเวณอณุ หภูมิตา่ กว่าจุดเยือกแข็ง จนเปลยี่ นสถานะเป็ นของแขง็

กิจกรรมประจาหน่วย ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจทคี่ งทน ถา้ พบเหตุการณ์ตวั อยา่ งดงั รูป นกั เรียนจะปฏิบตั ิตนและแนะนาผอู้ ื่นอยา่ งไร ควรหาท่ีหลบฝน เพื่อป้องกัน การเปี ยกฝนและการเกิดอันตราย จากฟ้าผ่า

กิจกรรมประจาหน่วย ทักษะสร้างเสริมความเข้าใจท่ีคงทน ถา้ พบเหตุการณ์ตวั อยา่ งดงั รูป นกั เรียนจะปฏิบตั ิตนและแนะนาผอู้ ่ืนอยา่ งไร ควรเปิ ดไฟฉายช่วยส่องนาทาง และลดความเร็วในการเดินลง เพื่อ ป้ อ ง กัน อุบั ติ เ ห ตุ จ า ก สิ่ ง กีด ข ว า ง ทางเดินหรือสิ่งท่ีเคลื่อนทส่ี วนทาง กบั เรา เช่น คนหรือยานพาหนะ

สรุป หมอกและนา้ ค้าง เกิดจาก การควบแน่นของไอน้า ในอากาศบริเวณใกลพ้ ้ืนโลก แบ่งเป็ น หมอก นา้ ค้าง ลกั ษณะ ลกั ษณะ ละอองนา้ รวมกนั เป็ นกลุ่ม ละอองนา้ รวมเป็ นหยดนา้ ลอยอยู่บริเวณใกล้พืน้ โลก เกาะตามวตั ถุใกล้พืน้ โลก

โรงเรียนวดั เทพชมุ นุม หนว่ ยท่ี 4 แหล่งนำ้ และ กำรเปลีย่ นแปลงของอำกำศ ครูผู้สอนครูพชั รี วรรัตนำนรุ ักษ์ (ครูไก)่

ขั้นสร้างความสนใจ ละอองนา้ ทร่ี วมกลุ่มกนั และลอยใกล้ผวิ ดนิ คืออะไร หยดน้าเกาะตามพ้ืนผวิ วตั ถุใกลพ้ ้นื ดินคืออะไร

ข้นั สารวจและคน้ หา วฏั จักรน้า ไอนา้ ในอากาศ ไอนา้ ในอากาศกลายเป็ นเมฆ หมอก และนา้ ค้างได้อย่างไร นกั เรียนสามารถเรียนรู้ไดจ้ าก การปฏิบตั ิกิจกรรมต่อไปน้ี

ไอนา้ ในอากาศ กจิ กรรมท่ี 26 สร้าง แบบจาลองการเกิดเมฆ หมอก และน้าคา้ ง ปัญหา เมฆ หมอก และน้าคา้ งเกิดข้ึนไดอ้ ยา่ งไร ทกั ษะ 1. สงั เกต 2. จดั กระทาและส่ือความหมายขอ้ มูล 3. ตีความหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรุป

ไอนา้ ในอากาศ อปุ กรณ์ มีดคตั เตอร์ 1 เลม่ น้าอุน่ 300 ลบ.ซม. ขวดพลาสติกใสขนาด นาฬิกาจบั เวลา 600 ลบ.ซม. 1 ใบ ผา้ แหง้ 1 ผนื 1 เรือน น้าแขง็ 1 ถุง ไมบ้ รรทดั 1 อนั ธูป 1 ดอก ไมข้ ีดไฟ 1 กลกั

ไอนา้ ในอากาศ ข้ันตอน ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิตามข้นั ตอนต่อไปน้ี 1 2 ภาชนะส่วนท่ี 1 ภาชนะส่วนที่ 2 21. กนาหขวนดดพใหลาด้ สา้ นติกฝใาสคมือาภตดาั ชเปน็นะส2่วสน่วทน่ี 1โแดลยตะดั า้ในกอน้ตั รขาวสด่วคนือปภระาชมนาณะส1่วตน่อท2ี่ 2

ไอนา้ ในอากาศ น้าแขง็ 3 ซม. น้าอุ่น 43. รเชีบด็ วภาางชภนาชะนทะ้งั ส2่วสน่วทน่ี 1ใหซแ้ อ้ หนง้ บในสภ่นา้าชแนขะง็ สล่วงนในทภี่ 2าชสนงั เะกสต่วสน่ิงท่ีเ1กิดแลข้ะึนใบสร่นิเว้าณอุ่น ลทง่ีวใา่ นงเภหานชือนผะวิสน่ว้านอทยี่า2งตโด่อยเนใื่หองส้ เูปงจ็นาเกวกลน้า ข3วนดาปทรี บะมนั าทณึกผ3ลเซนติเมตร

ไอนา้ ในอากาศ 5. แยกภาชนะท้งั 2 ส่วนออกจากกนั และสงั เกตท่ีผวิ ดา้ นนอกของภาชนะส่วนท่ี 1 และผวิ ดา้ นในของภาชนะส่วนที่ 2 บนั ทึกผล

ไอนา้ ในอากาศ น้าแขง็ 3 ซม. น้าอุ่น 6. ดาเนินการเช่นเดียวกบั ขอ้ 3–4 แต่ใหจ้ ุดธูปที่มีเปลวไฟจ่อลงไปในภาชนะ ส่วนท่ี 2 ประมาณ 30 วินาที จากน้นั นาธูปออกแลว้ รีบซอ้ นภาชนะส่วนท่ี 1 บนภาชนะส่วนท่ี 2 ทนั ที บนั ทึกผล

ไอนา้ ในอากาศ บันทึกผล บริเวณทสี่ ังเกต ผลการสังเกต บริเวณที่วา่ งเหนือผวิ น้า ละอองน้าลอยอยเู่ ตม็ พ้ืนที่วา่ งเหนือผวิ น้า ผวิ ดา้ นนอกของภาชนะส่วนที่ 1 มีหยดน้าเลก็ ๆ เกาะอยบู่ นผวิ ผวิ ดา้ นในของภาชนะส่วนท่ี 2 มีหยดน้าเลก็ ๆ เกาะอยบู่ นผวิ บริเวณท่ีวา่ งเหนือผวิ น้าในกรณี มีละอองน้ าหนาแน่นจนมองเห็นเป็ นฝ้า จ่อธูปที่มีเปลวไฟ สีขาวอยา่ งชดั เจน

ไอนา้ ในอากาศ สรุปผล เมฆและหมอกเกิดจากการควบแน่นของไอน้า ในอากาศเม่ืออุณหภูมิของอากาศลดลง เกิดเป็ น ละอองน้ าขนาดเล็กลอยอยู่ในระดับความสู งที่ แตกต่างกัน โดยมีอนุภาคต่าง ๆ ในอากาศเป็ น แกนให้ยึดเกาะ ส่วนน้าคา้ งเกิดจากการควบแน่น ของไอน้ าในอากาศเม่ืออุณหภูมิของอากาศลดลง เกิดเป็นหยดน้าเกาะบนพ้ืนผวิ ต่าง ๆ

ข้ันอธบิ าย ไอนา้ ในอากาศ ค้นหาคาตอบ 1. แบบจาลองแต่ละส่วนเปรียบเทียบกบั ส่ิงใดในธรรมชาติ ภาชนะใส่น้าแข็งแทนท้องฟ้าหรือบริเวณที่มีอากาศเย็น น้าอุ่นแทนน้า จากแหล่งน้าต่าง ๆ ท่ีระเหยเป็ นไอน้า บริเวณที่ว่างเหนือผิวน้าแทน พื้นท่ีว่างเหนือพื้นโลกท่ีมีอากาศอยู่ และเขม่าจากธูปแทนฝ่ ุนละอองที่ อยู่ในอากาศ

ไอนา้ ในอากาศ ค้นหาคาตอบ 2. ปรากฏการณ์ที่เกิดข้ึนเหนือผวิ น้าระหวา่ งการไม่จ่อธูปที่มีเปลวไฟ กบั การจ่อธูปท่ีมีเปลวไฟแตกต่างกนั หรือไม่ ลกั ษณะใด แตกต่างกนั เม่ือไม่จ่อธูปที่มีเปลวไฟจะมองเห็นละอองน้าลอย อยเู่ ตม็ พ้นื ท่ีวา่ งเหนือผวิ น้า แต่เม่ือจ่อธูปที่มีเปลวไฟจะมองเห็น ละอองน้าหนาแน่นจนมองเห็นเป็นฝ้าสีขาวอยา่ งชดั เจน

ไอนา้ ในอากาศ ค้นหาคาตอบ 3. แบบจาลองแสดงใหเ้ ห็นการเกิดเมฆ หมอก และน้าคา้ งหรือไม่ สงั เกตจากอะไร แบบจาลองแสดงใหเ้ ห็นการเกิดเมฆ หมอก และน้าคา้ ง โดยสงั เกตจาก การเกิดหยดน้าเลก็ ๆ เกาะอยบู่ นผวิ ของภาชนะแสดงใหเ้ ห็นถึงการเกิด น้าคา้ ง และการเกิดละอองน้าลอยอยเู่ ตม็ พ้ืนท่ีวา่ งเหนือผวิ น้าแสดงให้ เห็นถึงการเกิดเมฆและหมอก

ข้นั ขยายความรู้ นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง เรามาตรวจสอบความเข้าใจกนั เมฆ หมอก และน้าคา้ ง สมั พนั ธ์กนั อยา่ งไร เมฆ หมอก และนา้ ค้าง เกดิ จากการควบแน่นของ ไอนา้ ในอากาศเหมือนกนั

ข้นั ประเมิน กิจกรรมประจาหน่วย ทบทวนคาศัพท์และหลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ เมฆและหมอกมีกระบวนการเกิดอยา่ งไร เมื่ออุณหภูมิของบรรยากาศลดลงถึงจุดควบแน่น ไอน้าใน บรรยากาศจะควบแน่นเป็ นละอองน้า และละอองน้าที่เกิดขึน้ จะ รวมกันเป็ นกลุ่ม ถ้ากลุ่มของละอองน้าอยู่สูงจากพื้นโลกมาก เรียกว่า เมฆ แต่ถ้ากลุ่มของละอองน้าอยู่บริเวณพื้นโลก เรียกว่า หมอก

สรุป ความสัมพนั ธ์ของเมฆ หมอก และนา้ ค้าง คือ เกดิ จากไอนา้ ในอากาศเกดิ การควบแน่น เป็ นละอองนา้ เลก็ ๆ แล้วรวมกนั เป็ นกลุ่ม แบ่งตามระดบั ความสูงเป็น เมฆ หมอก นา้ ค้าง เกิดท่ี เกิดท่ี เกิดที่ ระดบั สูงจาก ระดบั ใกล้พืน้ โลก ผวิ หน้าของวตั ถุ พืน้ โลกมาก บนพืน้ โลก

โรงเรียนวดั เทพชมุ นุม หนว่ ยท่ี 4 แหล่งนำ้ และ กำรเปลีย่ นแปลงของอำกำศ ครูผู้สอนครูพชั รี วรรัตนำนรุ ักษ์ (ครูไก)่

ข้ันสรา้ งความสนใจ นักเรียนเคยเห็นนา้ ค้างแข็ง หรือไม่ การเกดิ นา้ ค้างแขง็ เป็ นเวลานาน จะส่ งผลกระทบอะไรบ้ าง 183

ข้นั สารวจและคน้ หา วฏั จกั รน้า ไอนา้ ในอากาศ นา้ ค้างแขง็ ส่งผลเสียต่อพืชจริงหรือไม่ นกั เรียนสามารถเรียนรู้ไดจ้ าก การปฏิบตั ิกิจกรรมต่อไปน้ี

ไอนา้ ในอากาศ กจิ กรรมท่ี 27 สงั เกต ผลกระทบจากน้าคา้ งแขง็ ปัญหา น้าคา้ งแขง็ ทาใหผ้ กั และผลไมเ้ กิดความเสียหายไดอ้ ยา่ งไร ทกั ษะ 1. สังเกต 2. จดั กระทาและส่ือความหมายขอ้ มูล 3. ตีความหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรุป

ไอนา้ ในอากาศ อุปกรณ์ ฝร่ัง 1 ผล กะหล่าปลี 1 หวั จาน 2 ใบ มีด 1 เลม่ เขียง 1 อนั น้า 1 ถว้ ย แวน่ ขยาย 1 อนั ตูเ้ ยน็ 1 เครื่อง ผา้ 1 ผนื นาฬิกาจบั เวลา 1 เรือน

ไอนา้ ในอากาศ กะหล่าปลี ข้ันตอน ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิตามข้นั ตอนต่อไปน้ี ฝร่ัง 21. นาฝร่ังและกะหล่าปลีคมรา่ึลงสา้ ง่วในหวส้ าะงบอานดจแานลแว้ เลชว้ ด็ พใรหมแ้ นห้าง้ ใหจาช้ กุ่มนจ้นั าหกน่ั ้คนั รน่ึงาแไลปะใส่ สในงั เชก่อตงลแกั ชษ่แณขง็ะขเนอ้ืองตฝูรเ้ ยั่งน็ แเลปะ็นกเะวหลาล่า1ปคลืนี บนั ทึกผล

ไอนา้ ในอากาศ 43. วนาางฝฝรร่ัง่ังแแลละะกกะะหหลล่า่าปปลลีอีไอวกป้ จราะกมชา่อณงแ1ชช่แวั่ ขโง็มสงงัจเากกตนเน้นั ้ือสฝงั รเกั่งแตลเนะ้ือกฝะรห่ังลแ่าลปะลี กบะนหั ทล่าึกปผลีอีกคร้ัง บนั ทึกผล

ไอนา้ ในอากาศ บนั ทึกผล ผกั และผลไม้ ผลการสังเกต ก่อนใส่ช่องแช่แข็งเน้ือฝรั่งมีสีขาวขุ่น เมื่อนาออกจากช่องแช่แข็ง ฝร่ัง เน้ือฝร่ังมีเกลด็ น้าแขง็ เกาะอยู่ และเม่ือวางทิ้งไวป้ ระมาณ 1 ชว่ั โมง เน้ือฝร่ังมีลกั ษณะใสและเสียสภาพไปจากเดิม กะหล่าปลี ก่อนใส่ช่องแช่แขง็ เน้ือกะหล่าปลีมีสีขาวข่นุ ปนสีเขียว เมื่อนาออก จากช่องแช่แขง็ เน้ือกะหล่าปลีมีเกลด็ น้าแขง็ เกาะอยู่ และเม่ือวาง ทิ้งไวป้ ระมาณ 1 ชวั่ โมง เน้ือกะหล่าปลีมีลกั ษณะใสและเสียสภาพ ไปจากเดิม

ไอนา้ ในอากาศ สรุปผล อุณหภูมิที่ลดต่าลงทาใหเ้ กิด น้าแขง็ ภายในเน้ือผกั และผลไม้ ทาใหเ้ น้ือผกั และผลไมเ้ สีย สภาพไปจากเดิม

ข้ันอธบิ าย ไอนา้ ในอากาศ ค้นหาคาตอบ 1. กิจกรรมน้ีใชส้ ิ่งใดแทนการเกิดน้าคา้ งแขง็ เพราะอะไร ใช้การแขง็ ตวั ของนา้ ในเนื้อผกั และผลไม้โดยการแช่ในช่องแช่แขง็ ของตู้เยน็ เพราะภายในช่องแช่แข็งของตู้เยน็ มีอณุ หภูมิต่ากว่า 0C ซ่ึงเป็ นอุณหภูมิทท่ี าให้เกดิ นา้ ค้างแขง็

ไอนา้ ในอากาศ ค้นหาคาตอบ 2. หลงั จากนาฝรั่งและกะหล่าปลีออกจากช่องแช่แขง็ แลว้ เกิดการ เปลี่ยนแปลงลกั ษณะใด เน้ือของฝร่ังและกะหล่าปลีมีเกลด็ น้าแขง็ เกาะอยู่ และเม่ือวางทิ้งไว้ ประมาณ 1 ชว่ั โมง เน้ือของฝร่ังและกะหล่าปลีมีลกั ษณะใสและ เสียสภาพไปจากเดิม

ไอนา้ ในอากาศ ค้นหาคาตอบ 3. น้าคา้ งแขง็ ทาใหผ้ กั และผลไมเ้ กิดความเสียหายไดห้ รือไม่ สงั เกต จากอะไร น้าคา้ งแขง็ ทาใหผ้ กั และผลไมเ้ กิดความเสียหายได้ โดยสงั เกตจาก เมื่อนาฝร่ังและกะหล่าปลีออกจากช่องแช่แข็งแลว้ เน้ือของฝรั่ง และกะหล่าปลีเสียสภาพไปจากเดิม และเม่ือนามาต้งั ทิ้งไวใ้ หอ้ ยทู่ ี่ อุณหภูมิห้องอีกคร้ัง เน้ือของฝรั่งและกะหล่าปลีก็ไม่กลบั มาเป็ น เหมือนเดิม

ขน้ั สารวจและค้นหา กจิ กรรมท่ี 2 ตอนท่ี 2 1. ใส่นา้ แขง็ ลงในแก้วพลาสติกใสจนเกอื บเตม็ แล้วรินน้าสี ผสมอาหาร ลงในแกว้ ประมาณครง่ึ หน่ึงของแกว้ ดงั รปู 2. วางแก้วพลาสติกใสทิ้งไว้ ประมาณ 3 นาที แล้วสังเกต สงิ่ ทีเ่ กิดขึ้นท่ผี ิวดา้ นนอกของแกว้ บนั ทึกผล 3. ใชช้ อ้ นพลาสตกิ ตักเกลือ ประมาณ 2-3 ช้อน ลงไปใน แกว้ พลาสตกิ แลว้ ใช้แท่งแกว้ คนคนใหเ้ กลอื ละลายแล้ว วางไว้ ประมาณ 5-10 นาที สงั เกตผิวด้านนอกของแกว้ อกี ครง้ั หนงึ่ บนั ทึกผล 4. รว่ มกันอภิปรายการเกิดนา้ คา้ งและนา้ คา้ งแข็งจาก แบบจาลองท่สี ร้างขนึ้ และนาเสนอ 194

กิจกรรมที่ 2 น้ำค้ำง และน้ำค้ำงแขง็ เกิดข้ึนได้อยำ่ งไร ตอนที่ 2 จดุ ประสงค์ของกิจกรรม ทำ้ กิจกรรมนเี้ พ่ือ อธบิ ำยกำรเกิดน้ำคำ้ ง นำ้ ค้ำงแข็งโดยใช้ แบบจำ้ ลอง 195

บนั ทึกผลกำรทำ้ กจิ กรรม ตำรำง 2 ผลกำรสงั เกตส่งิ ทีเ่ กิดขึ้นทผี่ วิ ด้ำนนอกของแก้วพลำสตกิ บริเวณทสี่ งั เกต ผลกำรสงั เกต ผวิ ด้านนอกของแก้วพลาสตกิ เกิดหยดน้าเกาะบริเวณ ก่อนเตมิ เกลือ ด้านนอกแก้ว ผิวด้านนอกของแก้วพลาสตกิ เกดิ เกลด็ นา้ แข็งเกาะบรเิ วณ หลังเติมเกลอื ด้านนอกแก้ว 196

ข้นั อธบิ าย ฉันรู้อะไร ตอนที่ 2 1. ส่งิ ที่เกดิ ข้ึนที่ผิวด้ำนนอกของแกว้ พลำสตกิ คอื อะไร สำมำรถนำ้ ไปอธิบำยกำรเกดิ นำ้ คำ้ งใน ธรรมชำตไิ ดอ้ ยำ่ งไร ตอบ หยดน้ำมำเกำะดำ้ นนอกแก้ว หยดนำ้ แทน น้ำค้ำงเพรำะเกดิ จำกไอนำ้ ควบแนน่ เปน็ ละอองน้ำเกำะ อยูบ่ นพน้ื ผิวของวตั ถทุ อี่ ยู่ใกล้พืน้ ดนิ 197

2. สง่ิ ที่เกดิ ขึ้นท่ผี ิวดำ้ นนอกของแก้วพลำสติก เม่อื ใส่เกลือ ลงไป สำมำรถนำ้ ไปอธิบำยกำรเกดิ นำ้ ค้ำงแขง็ ในธรรมชำติ ไดอ้ ย่ำงไร ตอบ หยดน้ำข้ำงนอกแก้วกลำยเปน็ หยดน้ำแข็ง เพรำะเมอื่ ใส่เกลอื ลงไปในน้ำแขง็ เกลอื จะดดู ควำมร้อนจำก น้ำแข็งท้ำให้อุณหภูมิลดต่ำ้ ลงมำก หยดน้ำขึงเกิดกำรแขง็ ตัว กลำยเปน็ น้ำคำ้ งแขง็ 198

3. แบบจำ้ ลองนเ้ี หมอื นและแตกตำ่ งจำกกำรเกิดน้ำค้ำง และน้ำคำ้ งแข็งในธรรมชำตอิ ยำ่ งไร ตอบ เหมือนกบั กำรเกดิ นำ้ คำ้ งและนำ้ ค้ำงแข็งตำมธรรมชำติ เนือ่ งจำกในอำกำศมีไอน้ำมำเจอกบั สภำพอำกำศทีเ่ ย็นลง อุณหภมู ิลดต่้ำควบแนน่ เปน็ ละอองน้ำเกำะบนพื้นผวิ วตั ถุ เรยี กว่ำนำ้ คำ้ ง หำกอุณหภมู ิลดต้ำ่ กวำ่ จดุ เยือกแขง็ ละอองน้ำจะแขง็ ตวั เป็น น้ำค้ำงแข็ง

4. จำกกจิ กรรมนี้ คน้ พบอะไรบ้ำงเกยี่ วกับกำรเกดิ นำ้ คำ้ งและน้ำค้ำงแขง็ ตอบ นำ้ คำ้ งและน้ำค้ำงแขง็ มกี ระบวนกำรเกิดเหมอื นกัน ตำ่ งกันทีร่ ะดบั อณุ หภมู ขิ องสิง่ แวดลอ้ ม 5. จำกสิง่ ที่คน้ พบท้ังสองตอน สรปุ ไดว้ ำ่ อยำ่ งไร ตอบ ปัจจยั ทที่ ้ำให้เกิดนำ้ ค้ำงและน้ำคำ้ งแขง็ คือไอน้ำ ในอำกำศควบแน่นเป็นละอองนำ้ และอณุ หภูมิของอำกำศ ทล่ี ดต่ำ้ ลงมผี ลตอ่ กำรเกิดน้ำค้ำงและนำ้ คำ้ งแขง็