โรงเรยี นวดั เทพชุมนมุ รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 สงิ่ มชี ีวิตรอบตวั ครผู ู้สอน นางสาววาชิตา สมบัตมิ าก (ครูบวิ ) 13 สงิ หาคม 2564
สรุป เรื่อง การจดั กลมุ่ สิ่งมชี ีวติ และการจัดกลมุ่ สัตว์ ➢การจดั กล่มุ สิง่ มีชีวติ สามารถจัดได้ 3 กลุ่ม คอื ➢กลุ่มสตั ว์สามารถจดั ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คอื ➢กลุ่มสัตวม์ กี ระดูกสนั หลัง จดั เปน็ 5 กลมุ่ ➢กล่มุ สัตว์ไม่มกี ระดกู สนั หลัง จัดเปน็ 8 กลุม่ หนา้ น้ีจดลงสมุดคะ่
สรุป เร่ือง การจัดกลุ่มส่งิ มีชีวิตและการจดั กลมุ่ สัตว์ ➢สตั ว์เลือดเย็น หมายถึง สตั ว์ที่มีอุณหภูมิของร่างกายไมค่ งท่ีจะเปลย่ี นแปลง ไปตามอุณหภูมิของสภาพแวดล้อม ได้แก่ ➢สัตว์เลือดอุ่น หมายถึง สัตว์ท่ีมีกลไกในการรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้ คงท่ี ไดแ้ ก่ หนา้ น้ีจดลงสมุดคะ่
การจดั กลุ่มสง่ิ มีชวี ติ กล่มุ พืช กล่มุ สตั ว์ กลุ่มทีไ่ ม่ใชพ่ ืชและสตั ว์ กล่มุ สัตว์ไมม่ ีกระดูกสันหลัง กลมุ่ สตั ว์มกี ระดกู สันหลงั
การจดั กล่มุ พชื
ขน้ั กระต้นุ ความสนใจ นกั เรียนร่วมตอบคาถามจากการสังเกต ลักษณะของพืชมีอะไรบ้าง พืช ➢พชื เป็นส่งิ มีชีวติ ท่ี ➢พืชไดอ้ าหารจาก ➢พชื มโี ครงสรา้ งตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ราก ลาตน้ ใบ ดอก ผล และเมลด็ โดยสว่ นตา่ งๆ ของพชื มีหนา้ ท่แี ตกต่างกันและทางานรว่ มกนั เป็น ระบบ ทาให้พชื สามารถดารงชวี ติ อยไู่ ด้ ➢พชื มที ัง้ ทีด่ ารงชวี ติ อยู่
ข้นั สารวจและคน้ หา การจัดกลุ่มพชื กหุ ลาบ เฟนิ
ข้นั อธบิ ายความรู้ พืชมรี าก ลาตน้ ใบเหมือนกัน กหุ ลาบมดี อก แต่เฟนิ ไม่มดี อก รปู ร่างของใบกุหลาบและใบเฟนิ แตกต่างกนั พชื สามารถจดั ออกเปน็ 2 กลุ่ม
ข้นั อธบิ ายความรู้ พืชสามารถจัดกลุ่มโดยใช้เกณฑ์ต่างๆ ได้หลายเกณฑ์ เช่น แหล่งท่ีอยู่อาศัย ช่วงอายุของพืช รูปร่างและลักษณะของ โครงสร้าง ประโยชน์และโทษ ถ้าจัดกลุ่มพืชโดยใช้ จะจาแนกได้ 2 กล่มุ คือ 1. พืชไมม่ ดี อก (พชื ไร้ดอก) 2. พืชดอก หนา้ น้ีจดลงสมุดคะ่
ข้นั ขยายความเข้าใจ หางสิงห์ ชายผ้าสีดา มอส ผกั แว่น พชื ไม่มดี อก (พชื ไรด้ อก) ➢เปน็ พชื ขยายพันธด์ุ ว้ ย หรอื ➢เป็นพืชท่ีมีสว่ นประกอบต่างๆ ไม่ครบ และที่สาคญั คือ แต่สามารถสร้างอาหารได้เหมือนพืช ดอก ➢เชน่ มอส เฟิน ผกั แว่น ปรง หางสิงห์ ผกั กดู ชายผ้าสีดา สน แปะก๊วย กระแตไตไ่ ม้
ข้นั ขยายความเขา้ ใจ เฟนิ ➢สบื พันธุ์ โดยการใช้ ➢สปอร์อยู่ภายในอับสปอร์ที่อยู่ใต้ใบหรือท่ี ก้านใบ เมื่อแก่เต็มท่ีอับสปอร์จะแตกออก และปลวิ ไปตามสายลม เม่ือตกในท่เี หมาะสม จะออกเป็นตน้ ใหม่
ข้นั ขยายความเข้าใจ สาหร่าย ➢การสืบพันธุ์ การแบ่งตัว การใช้สปอร์หรือ สืบพันธุ์แบบอาศยั เพศ ➢สาหร่ายเซลล์เดียวสบื พนั ธุ์โดยการแบ่งตัว สาหร่ายหลายเซลล์สืบพันธ์ุโดยการสร้าง สปอร์หรือผสมระหว่างเซลล์สืบพันธ์ุเพศผู้ และเซลลส์ บื พันธุเ์ พศเมยี
ข้นั ขยายความเข้าใจ บัว หญ้า ตะไคร้ ตอ้ ยตง่ิ พืชดอก เป็นพืชที่มีดอกเพื่อใช้ในการ สบื พนั ธ์ุ เปน็ พชื ท่ีมสี ว่ นประกอบครบ คือ เม่ือเจริญเติบโตเต็มท่ีแล้วจะมีดอก ดอก ข อ ง พื ช คื อ โดยทัว่ ไปพืชพวกนขี้ ยายพนั ธด์ุ ว้ ยเมลด็ เชน่ ตอ้ ยติง่ หญ้า กหุ ลาบ บัว มะลิ มะมว่ ง มะขาม มะพรา้ ว มะละกอ มะเขอื ลีลาวดี พืชบางชนิดต้องปลูกเป็นเวลานานจึงเห็น ดอก เช่น ตะไคร้ ไผ่ ออ้ ย
ข้นั ขยายความเข้าใจ ตวั อย่างพชื ดอก มะมว่ ง มะเขอื เปราะ ลลี าวดี
ข้นั ตรวจสอบผล กจิ กรรม จาแนกพชื พืชไม่มีดอก พืชดอก สน มะพรา้ ว
ข้นั ตรวจสอบผล กจิ กรรม เป็นพืชไม่มีดอกแตม่ ีเมลด็ จาแนกพืช ทไี่ ม่มผี นังรงั ไข่หอ่ ห้มุ พืชดอก พืชไม่มดี อก ไผ่ แปะก๊วย
ข้นั ตรวจสอบผล กิจกรรม จาแนกพชื พืชดอก พชื ไม่มดี อก มะขาม ผักกูด
การจดั กลมุ่ สิ่งมชี วี ติ กลุม่ พืช กลุ่มสัตว์ กลุ่มที่ไมใ่ ชพ่ ชื และสตั ว์ กลุ่มพชื ดอก กลมุ่ พชื ไม่มดี อก (พชื ไรด้ อก)
งานชนิ้ ที่ 1 เรือ่ งการจัดกลมุ่ พืช ให้นักเรียนสารวจพืชบริเวณบ้านของตนเอง โดยอธิบายถึง ลักษณะภายนอกท่ีสังเกตได้ พร้อมระบุว่าเป็นพืชดอกหรือ พืชไม่มีดอก(พืชไรด้ อก) อัดเป็นคลิป VDO ส่งครใู นไลน์กลุ่มวชิ า วิทยาศาสตร์ หัวข้อทีจ่ ะตอ้ งมี 1. แนะนาตนเอง : ช่อื -สกุล ช้ัน 2. อธบิ ายลักษณะภายนอกท่ีสังเกตได้ของพชื ทีพ่ บเจอ 3. ระบวุ ่าพชื ทีพ่ บเจอจัดเปน็ พชื มีดอกหรอื พชื ไรด้ อก หมายเหตุ (เนื่องด้วยสถานการณ์ปจั จบุ ัน) 1. เรอ่ื งระยะเวลาการส่งงานครไู ดย้ ืดหยุ่นให้กับนกั เรยี น ให้นกั เรียนมีความพร้อมแล้วทาส่งมาในไลนก์ ลุ่ม ครูตรวจย้อนหลงั ให้คะ่ 2. ในกรณีทน่ี กั เรยี นมขี อ้ จากัดในการทากิจกรรมให้ตดิ ต่อครูผ่านไลนส์ ่วนตวั เพือ่ ช้ีแจงหาแนวทางการปฏิบัติรว่ มกัน ขอบคุณคะ่
งานชน้ิ ท่ี 2 แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ส่วนตา่ งๆของพืชดอก (ที่จะเรยี นให้คาบเรียนถดั ไป) (วันพฤหัสบดีท่ี 19 สิงหาคม 2564) จานวน 10 ขอ้
สามารถจดั ออกเปน็ 2 กล่มุ พชื ใบเลย้ี งเดี่ยว พืชใบเลยี้ งคู่
เมือ่ ใชล้ กั ษณะของราก ลาตน้ และใบเลี้ยงท่อี ยใู่ นเมลด็ เปน็ เกณฑ์ จะจดั กลุม่ พืชดอกได้ 2 ประเภท ไดแ้ ก่ พชื ใบเลย้ี งเดี่ยว และพืชใบเลยี้ งคู่ เปน็ พชื ที่เมอ่ื เมล็ดเร่ิมงอก จะมีใบเล้ยี งใบเดียว งอกออกมาเป็นใบแรกของพืช ลักษณะใบของ พืชใบเลี้ยงเด่ียวมักเป็นใบแคบและต้ังตรง เส้น ใบจะเรียงตัวกันแบบขนาน ลาต้นมีข้อปล้อง ชัดเจน เช่น หญ้า ข้าว ข้าวโพด มะพร้าว ขิง ขา่ ตะไคร้ กล้วย ไผ่ เปน็ ตน้
ตัวอย่าง พชื ใบเลี้ยงเดย่ี ว ขา้ วโพด ตะไคร้ กลว้ ย
เม่ือใช้ลกั ษณะของราก ลาต้น และใบเลี้ยงที่อย่ใู นเมล็ดเปน็ เกณฑ์ จะจัดกล่มุ พืชดอกได้ 2 ประเภท ได้แก่ พืชใบเลยี้ งเด่ียว และพืชใบเลี้ยงคู่ เป็นพืชท่ีเม่ือเมล็ดเริ่มงอก จะมีใบเลี้ยง 2 ใบ งอกออกมาเป็นใบคู่แรก ลักษณะใบของพืชใบ เล้ียงคู่ มีใบกว้างและอยู่ในแนวนอน เส้นใบ เรียงตัวเป็นร่างแห ลาต้นมีข้อปล้องไม่ชัดเจน (ไม่มีข้อปล้อง) เช่น มะเขือ มะเขือเทศ มะม่วง กหุ ลาบ มะนาว ถว่ั พริก ชบา เปน็ ต้น
ตัวอย่าง พืชใบเลี้ยงคู่ มะเขือเทศ พริก มะนาว
ตารางสรปุ พืชใบเล้ยี งเด่ยี ว พชื ใบเลี้ยงคู่
กลุ่มพืช กลุ่มพืชดอก กลุ่มพชื ไม่มดี อก (พชื ไร้ดอก) กลุ่มพืชใบเล้ยี งเด่ียว กล่มุ พชื ใบเลีย้ งคู่
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: