Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กลุ่มภูมิ ฟิโบนัชชี

กลุ่มภูมิ ฟิโบนัชชี

Published by palmz-zaa, 2020-02-06 06:38:15

Description: กลุ่มภูมิ ฟิโบนัชชี

Search

Read the Text Version

คูม่ อื ความฉลาดทางอารมณ์ คู่มอื ความฉลาดทางอารมณ์ Emotion Quotient Emotion Quotient เอกสารประกอบกจิ กรรมแนะแนว เรื่อง การสารวจความฉลาดทางอารมณ์ ประกอบกิจกรรมแนะแนว เร่ือง ความสามารถทางอารมณ์ สาระสาคญั คนท่ีมคี วามสามารถทางอารมณส์ งู หรอื มีทกั ษะทาง อารมณท์ ่ีไดร้ บั การพฒั นาเป็นอยา่ งดี จะเป็นคนท่ีสามารถรบั รู้ เขา้ ใจ และจดั การกบั อารมณ์ ความรูส้ กึ ของตนเองไดด้ ี รวมทง้ั เขา้ ใจความรูส้ กึ ของคนอ่ืนดว้ ย จงึ มกั ประสบความสาเรจ็ และมคี วามพงึ พอใจในชีวิต จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ นกั เรยี นเขา้ ใจพฤตกิ รรมท่ีเป็นองคป์ ระกอบ ของความฉลาด ทางอารมณใ์ นแตล่ ะดา้ น และสามารถเรยี นรูค้ วามบกพรอ่ งของตนเอง เพ่ือนาไปแกไ้ ข พฒั นาและปรบั ตวั อย่ใู นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสขุ ตาม ศกั ยภาพของตน ผู้รับผิดชอบ

งานแนะแนว โรงเรียนวชริ ธรรมสาธิต คานา กรมสุขภาพจติ กระทรวงสาธารณสุข อีคิวหรอื ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotion เอกสารอา้ งองิ Quotient) ไดร้ บั ความสนใจเป็นอย่างมากทงั้ ในกลมุ่ นกั วชิ าการและ กรมสขุ ภาพจติ . (2543). ความฉลาดทางอารมณ.์ กรุงเทพฯ: ผแู้ ต่ง. บคุ คลอ่ืนท่วั ไป เน่ืองจากความดงึ เครยี ดในการดาเนนิ ชีวิตปัจจบุ นั ทาให้ คลงิ วลั ล,์ บคุ คลเรม่ิ หนั มาตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของภาวะอารมณท์ ่ีมีผลตอ่ ชวี ติ เจน่า มาเรยี . (2542). บนั ทกึ จากปลายเทา้ แปลโดย อลุ ลา่ ฟิวสเตอร์ ของตนเอง และผลกระทบตอ่ บคุ คลอ่นื และ ความฉลาดทางอารมณ์ มีความสาคญั ในชีวิตประจาวนั สมใจ รกั ษาศร.ี กรุงเทพฯ: นานมบี คุ๊ ส.์ การรูจ้ กั อารมณข์ องตนเอง รูส้ าเหตทุ ่ีทาใหเ้ กิดอารมณน์ ้ันแลว้ จดั การ แคนฟี ลด,์ แจ็ก และแฮนเซน, มารก์ รกิ เตอร.์ (2541). พลังแห่งชวี ติ . ดว้ ยวธิ ีการท่ีเหมาะสม รูจ้ กั ปรบั ตวั รบั ผดิ ชอบในการกระทาของตน มอง กรุงเทพฯ: คลนี ิกบา้ นและสวน. โลกในแง่ดี ไมท่ อ้ ถอยต่อปัญหา อปุ สรรค และมคี วามเขา้ ใจคนอ่ืน เทดิ ศกั ดิ์ เดชคง, (2543). จากความฉลาดทางอารมณ์ สสู่ ตแิ ละ ดงั นน้ั จงึ ควรเสรมิ สรา้ งใหม้ ใี นชีวิตของทกุ คน ปัญญา. กรุงเทพ: มติชน ผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอย่างย่ิงว่าหนงั สอื เลม่ นีจ้ ะเป็นประโยชน์ ลกั ขณา สรวิ ฒั น.์ (ม.ป.ป.) สขุ วิทยาจิตและการปรบั ตวั . กรุงเทพฯ: โอ และชว่ ยกระตนุ้ เตือนใหท้ กุ คนอย่รู ว่ มกนั อย่างสรา้ งสรรค์ และมีความสขุ เดียนสโตร.์ งานแนะแนว โรงเรยี นวชิรธรรมสาธิต รว่ มกบั

สารบญั เร่ือง เกณฑป์ กตขิ องคะแนน E.Q. รวม ดี เกง่ สุข หน้า กลุม่ ตวั อย่างอายุ 18 – 25 ปี - อีควิ (EQ.) คืออะไร องคป์ ระกอบ E.Q. ตา่ กว่าปกติ เกณฑป์ กติ สูงกว่าปกติ 1 คะแนน E.Q. รวม < 138 138 - 170 > 170 - ลกั ษณะนิสยั 10 ประการของผมู้ ีระดบั คณุ ภาพอารมณส์ งู 1 องคป์ ระกอบ ดี < 48 48 - 58 > 58 2 1.1 ควบคุมตนเอง < 14 14 - 18 > 18 - เทคนิคการพฒั นาความฉลาดทางอารมณใ์ นการทางาน 1.2 เหน็ ใจผู้อนื่ < 16 16 - 20 > 20 1.3 รับผิดชอบ < 17 17 - 23 > 23 5 < 45 45 – 59 > 59 - เทคนิคการพฒั นาความฉลาดทางอารมณส์ าหรบั ตนเอง 2 องคป์ ระกอบ เก่ง < 15 15 - 21 > 21 2.1 มแี รงจูงใจ < 14 14 - 20 > 20 7 2.2 ตัดสินใจและ - อีคิวไมด่ ีแกไ้ ขได้ < 15 15 - 21 > 21 แก้ปัญหา < 42 42 - 56 > 56 9 2.3 สัมพนั ธภาพ - แบบประเมนิ ความฉลาดทางอารมณ์ 3 องคป์ ระกอบ สุข 12

- การใหค้ ะแนน 1.2 เหน็ ใจผู้อนื่ < 16 16 - 20 > 20 1.3 รับผิดชอบ < 16 16 - 22 > 22 17 2 องคป์ ระกอบ เก่ง < 45 45 - 57 > 57 - เกณฑป์ กตขิ องคะแนน E.Q. อายุ 12-17 ปี 2.1 มีแรงจูงใจ < 14 14 - 20 > 20 2.2 ตัดสนิ ใจและแก้ปัญหา < 13 13 - 19 > 19 20 - เกณฑป์ กติของคะแนน E.Q. อายุ 13-25 ปี 2.3 สัมพันธภาพ < 14 14 - 20 > 20 3 องคป์ ระกอบ สุข < 40 40 - 55 > 55 21 < 9 9 - 13 > 13 เอกสารอา้ งอิง 3.1 ภมู ใิ จตนเอง < 16 16 - 22 > 22 3.2 พอใจชีวิต < 15 15 - 21 > 21 3.3 สุขสงบทางใจ

ความฉลาดทางอารมณ์ คือ ความสามารถทางอารมณ์ ท่ีจะชว่ ยใหก้ ารดาเนิน 2. ดา้ นเกง่ หมายถึง ความสามารถในการรูจ้ กั ตนเอง มีแรงจงู ใจ สามารถตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาและ ชีวิตเป็นไปอย่างสรา้ งสรรค์ และมีความสขุ ประกอบดว้ ยปัจจยั สาคญั 3 ประการ คือ แสดงออกไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ตลอดจนมี 1. ดา้ นดี หมายถงึ ความสามารถในการควบคมุ อารมณ์ และ สมั พนั ธภาพท่ีดีกบั ผอู้ ่ืน ความตอ้ งการของตนเอง รูจ้ กั เหน็ ใจผอู้ ่ืน และมีความรบั ผดิ ชอบต่อส่วนรวม ซง่ึ มี ความสามารถในการรู้จักและสร้าง รายละเอียด ดงั ต่อไปนี้ แรงจูงใจให้กับตนเอง  รูศ้ กั ยภาพของตนเอง ความสามารถในการควบคุมอารมณแ์ ละความตอ้ งการของ ตนเอง  รูอ้ ารมณแ์ ละความตอ้ งการของตนเอง  ควบคมุ อารมณแ์ ละความตอ้ งการได้  แสดงออกอย่างเหมาะสม ความสามารถในการเหน็ ใจผู้อืน่  ใส่ใจผอู้ ่ืน  เขา้ ใจและยอมรบั ผอู้ ่ืน  แสดงความเห็นใจอย่างเหมาะสม ความสามารถในการรับผิดชอบ  รูจ้ กั การให้ รูจ้ กั การรบั  รูจ้ กั รบั ผดิ รูจ้ กั ใหอ้ ภยั  เหน็ แก่ประโยชนส์ ่วนรวม ผลท่ีไดเ้ ป็นเพียงการประเมินโดยสงั เขป คะแนนท่ีไดต้ ่ากว่าชว่ ง คะแนนปกติ ไมไ่ ดห้ มายความวา่ ท่านมีความผดิ ปกติในดา้ นนนั้ เพราะดา้ นตา่ งๆ เหล่านีเ้ ป็นส่งิ ท่ีมี การพฒั นาและเปล่ียนแปลงตลอดเวลา ดงั นน้ั คะแนนท่ีไดต้ ่าจงึ เป็นเพียงขอ้ เตือนใจ ใหท้ ่านหาแนวทางในการพฒั นาความฉลาดทางอารมณใ์ นดา้ นนนั้ ๆ ใหม้ ากย่งิ ขนึ้

ดา้ น ดา้ นยอ่ ย การรวมคะแนน ผลรวมของ คะแนน  สรา้ งขวญั และกาลงั ใจใหต้ นเองได้ 1.1 ควบคมุ ตนเอง  มีความมงุ่ ม่นั ท่ีจะไปใหถ้ ึงเปา้ หมาย ดี 1.2 เห็นใจผอู้ ่ืน ความสามารถในการตดั สนิ ใจและแก้ปัญหา  รบั รูแ้ ละเขา้ ใจปัญหา 1.3 รบั ผดิ ชอบ  มีขน้ั ตอนในการแกไ้ ขปัญหาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2.1 มีแรงจงู ใจ  มีความยืดหย่นุ 2.2 ตดั สินใจและแก้ไข ความสามารถในการมสี ัมพันธภาพกับผู้อน่ื เก่ง ปัญหา  รูจ้ กั การสรา้ งสมั พนั ธภาพท่ีดีกบั ผอู้ ่ืน  กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสม 2.3 สมั พนั ธภาพ  แสดงความเห็นท่ีขดั แยง้ ไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ 3.1 ภมู ใิ จตนเอง สุข 3.2 พอใจชีวติ 3. ดา้ นสุข หมายถึง ความสามารถในการดาเนินชีวิต 3.3 สขุ สงบทางใจ อย่างเป็นสขุ มีความภาคภมู ใิ จในตนเอง พอใจในชีวติ และมคี วามสขุ สงบทางใจ ความภมู ิใจในตนเอง  เหน็ คณุ คา่ ในตนเอง  เช่ือม่นั ในตนเอง

ความพงึ พอใจในชวี ติ แต่ละข้อใหค้ ะแนนดังต่อไปนี้ ให้ ตอบไมจ่ รงิ ให้  รูจ้ กั มองโลกในแงด่ ี ให้  มีอารมณข์ นั 1 คะแนน ให้  พอใจในสง่ิ ท่ีตนมีอยู่ ตอบจรงิ บางครงั้ ความสงบทางใจ 2 คะแนน  มีกิจกรรมท่ีเสรมิ สรา้ งความสขุ ตอบคอ่ นขา้ งจรงิ  รูจ้ กั ผอ่ นคลาย  มีความสงบทางจิตใจ 3 คะแนน ตอบจรงิ มาก 4 คะแนน

ท่ี พฤตกิ รรม ไ ่มจ ิรง คะ 44 ฉนั สนกุ สนานทกุ ครงั้ กบั กิจกรรมในวนั สดุ สปั ดาหแ์ ละวนั หยดุ พกั ผอ่ น จ ิรงบางค ้ัรง 45 ฉนั รูส้ กึ ไมพ่ อใจท่ีผอู้ ่ืนไดร้ บั ส่งิ ดีๆ มากกวา่ ฉนั ่คอน ้ขางจ ิรง 46 ฉนั พอใจกบั ส่ิงท่ีฉนั เป็นอยู่ จ ิรงมาก ลักษณะนิสัย 10 ประการของผมู้ ีระดบั คุณภาพอารมณส์ ูง รวม 3.2 47 ฉนั ไมร่ ูว้ า่ จะหาอะไรทา เม่ือรูส้ กึ เบ่อื หนา่ ย รบั รูอ้ ารมณข์ องตนเองมากกวา่ จะกลา่ วโทษผอู้ ่ืนหรอื สถานการณ์ 48 เม่ือวา่ งเวน้ จากภาระหนา้ ท่ี ฉนั จะทาในส่งิ ท่ีฉนั ชอบ สามารถแยกแยะระหว่างความคดิ และความรูส้ กึ ได้ 49 เม่ือรูส้ กึ ไมส่ บายใจ ฉนั มีวธิ ีผอ่ นคลายอารมณไ์ ด้ มีความรบั ผิดชอบต่อความรูส้ กึ ของตนเอง 50 ฉนั สามารถผอ่ นคลายตนเองได้ แมจ้ ะเหนด็ เหน่ือยจากภาระหนา้ ท่ี รูจ้ กั ใชค้ วามรูส้ กึ เพ่ือช่วยในการตดั สนิ ใจ 51 ฉนั ไมส่ ามารถทาใจใหเ้ ป็นสขุ ไดจ้ นกวา่ จะไดท้ กุ ส่งิ ท่ีตอ้ งการ นบั ถือในความรูส้ กึ ของคนอ่ืน เม่อื ถกู กระตนุ้ ใหโ้ กรธ จะสามารถควบคมุ จติ ใจไมใ่ หโ้ กรธไดแ้ ละสามารถ แปรความโกรธใหเ้ ป็นพลงั ในทางสรา้ งสรรคไ์ ด้ เขา้ ใจ เหน็ อกเห็นใจ และยอมรบั ในความรูส้ กึ ของผอู้ ่นื รูจ้ กั ฝึกหาคณุ คา่ ในทางบวกจากอารมณใ์ นทางลบ ไมช่ อบแนะนา ส่งั ควบคมุ วพิ ากษว์ จิ ารณ์ ตดั สนิ หรอื ส่งั สอนผอู้ ่ืน หลีกเล่ยี งการปะทะอารมณก์ บั คนท่ีไมย่ อมรบั หรอื ไมเ่ คารพความรูส้ กึ ของ ผอู้ ่ืน

เทคนิคการพัฒนาความฉลาดทางอารมณใ์ นการทางาน ความคิดสรา้ งสรรคแ์ ละเกียรติภมู แิ ห่งตนเองผอู้ ่ืนและเป็นการไมเ่ คารพ ร่วมกับผู้อนื่ ความเป็นปัจเจกบคุ คลอกี ดว้ ย 1. เข้าใจและยอมรับธรรมชาตขิ องอารมณ์ บคุ คลแต่ 3. การแก้ไขความขัดแย้ง บางครงั้ การใชเ้ หตผุ ลแตโ่ ดย ละคนมคี วามรูส้ กึ และอารมณพ์ ืน้ ฐานพืน้ ฐานของตนเอง เช่น ดีใจ เสียใจ อจิ ฉา ฯลฯ และมกี ารแสดงออกท่ีต่างกนั ตา่ งวาระกนั ไป แตล่ ะ ลาพงั ไมส่ ามารถแกป้ ัญหาทางอารมณค์ วามรูส้ กึ ได้ ควรยอมรบั คนจะมีอารมณแ์ ละความรูส้ กึ ท่ีผนั แปรแตกตา่ งกนั ไป ยากท่ีจะนา ความรูส้ กึ โดยไมม่ ีเง่ือนไขใดๆก่อน แลว้ คอ่ ยพจิ ารณาการแสดงออก ผมู้ ี ความฉลาดทางอารมณส์ งู จะไมใ่ ชว้ ิธีการท่ีบ่นั ทอนความรูส้ กึ คนอ่ืน แต่ ความรูส้ กึ ดี – ช่วั ของตวั เราเองไปตดั สนิ ได้ การตดั สนิ ความเหมาะสม ความสามรถในการจดั การกบั อารมณไ์ ดด้ ี จะช่วยทงั้ ความรูส้ กึ ของตนเอง ขนึ้ อย่กู บั สถานการณ์ เหตผุ ล วยั ปัจจยั ทางสงั คมและการกาหนดทาง และชว่ ยใหอ้ ีกฝ่ายสงบลงได้ การท่ีบคุ คลแสดงถาวะอารมณอ์ อกมา ในทางลบ เช่น โกรธ เสยี ใจ เศรา้ ซมึ อาฆาต ไมใ่ หอ้ ภยั แสดงใหเ้ ห็น วฒั นธรรม 2. รับฟัง ทาความเขา้ ใจและใหเ้ กียรตผิ ู้อน่ื การยอมรบั ว่าความตอ้ งการทางอารมณย์ งั ไมไ่ ดร้ บั การตอบสนอง 4. ในกรณีทบี่ ุคคลแสดงภาวะอารมณท์ างลบในระดบั และเขา้ ใจภาวะท่ีบคุ คลแสดงออก เป็นส่งิ จาเป็นในการสรา้ งเสริมความ ภาคภมู ใิ จตนเองไวว้ างใจซ่งึ กนั และกนั ซง่ึ จะมีผลตอ่ คณุ ภาพและผลผลติ ทรี่ ุนแรง เช่น เด๋ียวดี เด๋ียวรา้ ย คาดคะเนพฤตกิ รรมไมไ่ ด้ หรอื ไม่ ท่ีบคุ คลมสี ว่ นต่อองคก์ ร สามารถแสดงอารมณค์ วามรูส้ กึ ออกมาไดเ้ ลย

33 ฉันไม่กล้าบอกความต้องการของฉันใหผ้ ู้อื่นรู้ 34 ฉนั ทาใหส้ ่งิ ท่ีตอ้ งการโดยไมท่ าใหผ้ อู้ ่ืนเดือดรอ้ น สาหรับตนเอง รู้ทัน คือ ฝึกรูเ้ ทา่ ทนั อารมณต์ นเอง บอกกบั ตวั เองไดว้ า่ ขณะนีก้ าลงั รูส้ กึ 35 เป็นการยากสาหรบั ฉนั ท่ีจะโตแ้ ยง้ กบั ผอู้ ่ืน แมจ้ ะมีเหตผุ ลเพียงพอ อย่างไร 36 เม่ือไมเ่ ห็นดว้ ยกบั ผอู้ ่ืน ฉนั สามารถอธิบายเหตผุ ลท่ีเขายอมรบั ได้ รับผิดชอบ คือ การรบั ผิดชอบต่ออารมณท์ ่ีเกิดขนึ้ ควรหดั แยกแยะ รวม 2.3 วิเคราะห์ สถานการณด์ ว้ ยเหตผุ ล จัดการได้ คือ อารมณท์ ่ีไมด่ ีท่ีเกิดขนึ้ สามารถคล่ีคลายใหห้ มดไปดว้ ย 37 ฉนั รูส้ กึ ดว้ ยกวา่ ผอู้ ่ืน การรู้ 38 ฉนั ทาหนา้ ท่ีไดด้ ี ไมว่ า่ จะอยใู่ นบทบาทใด เทา่ ทนั และวิธีจดั การท่ีเหมาะสม ใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ คือ ฝึกใชอ้ ารมณส์ ง่ เสรมิ ความคดิ ช่วยปรบั แตง่ 39 ฉนั สามารถทางานท่ีไดร้ บั มอบหมายไดด้ ที ่ีสดุ และ 40 ฉนั ไมม่ ่นั ใจในการทางานท่ียากลาบาก ปรุงความคิดใหเ้ ป็นไปในทางท่ีมปี ระโยชน์ เตมิ ใจให้ตนเอง คือ หดั มองโลกในแง่มมุ ท่ีสวยงาม ร่นื รมย์ มองหา รวม 3.1 ขอ้ ดี 41 แมส้ ถานการณจ์ ะเลวรา้ ย ฉนั ก็มีความหวงั วา่ จะดีขนึ้ ในงานท่ีทา 42 ทกุ ปัญหามกั มีทางออกเสมอ ฝึ กสมาธิ คือ การกาหนดวา่ ตวั เรากาลงั ทาอะไรอยู่ ปัจจบุ นั กาลงั ทา อะไร 43 เม่ือมีเร่ืองท่ีทาใหเ้ ครียด ฉนั มกั ปรบั เปล่ียนใหเ้ ป็นเร่ืองผอ่ นคลาย หรอื สนกุ สนานได้ สขุ หรอื ทกุ ขอ์ ยา่ งไร ตัง้ ใจใหช้ ดั เจน คือ ตง้ั เปา้ หมายชีวิตใหช้ ดั เจน

ที่ พฤตกิ รรม ไ ่มจ ิรง คะแนน 21 เม่ือทาส่ิงใดไม่สาเรจ็ ฉันรู้สึกหมดกาลังใจ จ ิรงบางค ้ัรง ่คอน ้ขางจ ิรง 22 ฉนั รูส้ กึ มีคณุ คา่ เม่ือไดท้ าส่งิ ตา่ งๆ อยา่ งเต็มความสามารถ จ ิรงมาก 23 เม่ือตอ้ งเผชิญกบั อปุ สรรคและความผิดหวงั ฉนั ก็จะไมย่ อมแพ้ 16 ฉนั ยอมรบั ขอ้ ผิดพลาดของผอู้ ่ืนไดย้ าก 24 เม่ือเรม่ิ ทาส่งิ หน่งึ ส่งิ ใด ฉนั มกั ทาตอ่ ไปไม่สาเรจ็ 17 ถงึ แมจ้ ะตอ้ งเสียประโยชนส์ ว่ นตวั ไปบา้ ง ฉนั ก็ยนิ ดีท่ีจะทาเพ่ือ สว่ นรว่ ม รวม 2.1 18 ฉนั รูส้ กึ ลาบากใจในการทาส่งิ ใดส่งิ หน่งึ เพ่ือผอู้ ่ืน 25 ฉนั พยายามหาสาเหตทุ ่ีแทจ้ รงิ ของปัญหาโดยไมค่ ดิ เอาเอง ตามใจชอบ รวม 1.3 26 บอ่ ยครงั้ ท่ีฉนั ไมร่ ูว้ า่ อะไรทาใหฉ้ นั ไมม่ ีความสขุ 19 ฉนั ไมร่ ูว้ า่ ฉนั เก่งเร่ืองอะไร 27 ฉนั รูส้ กึ วา่ การตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาเป็นเร่อื งยากสาหรบั ฉนั 20 แมจ้ ะเป็นงานยาก ฉนั ก็ม่นั ใจวา่ สามารถทาได้ 28 เม่ือตอ้ งทาอะไรหลายอยา่ งในเวลาเดยี วกนั ฉนั ตดั สินใจไดว้ า่ จะทาอะไรก่อนหลงั 29 ฉนั ลาบากใจเม่ือตอ้ งอยกู่ บั คนแปลกหนา้ หรือคนท่ีไมค่ นุ้ เคย

เทคนิคการพฒั นาความฉลาดทางอารมณส์ าหรับตนเอง 1 เวลาโกรธหรือไม่สบายใจ ฉันรบั รู้ไดว้ า่ เกดิ อะไรขึน้ กบั ฉัน รู้ตัว รู้ตน หมายถึง การรูค้ วามเป็นไปไดข้ องตนเอง รูเ้ ท่าทนั อารมณ์ 2 ฉันบอกไมไ่ ดว้ า่ อะไรทาใหฉ้ นั รูส้ กึ โกรธ รูส้ าเหตทุ ่ีทาใหเ้ กิดอารมณ์ รูว้ ่าผลท่ีตามมาจะเป็นอย่างไร 3 เม่ือถกู ขดั ใจ ฉนั มกั รูส้ กึ หงดุ หงิดจนควบคมุ อารมณไ์ มไ่ ด้ รู้ทัน รู้ควร หมายถงึ ความสามารถในการจดั การกบั ความรูส้ กึ ของ 4 ฉนั สามารถคอยเพ่อื ใหบ้ รรลเุ ป้าหมายทีพ่ อใจ ตนเอง สามารถควบคมุ ตนเองใหท้ าในสง่ิ ท่ีถกู ท่ีควรได้ เป็นผทู้ ่ีมคี วาม 5 ฉันมกั มีปฏกิ ิรยิ าโตต้ อบรุนแรงตอ่ ปัญหาเพยี งเลก็ นอ้ ย รบั ผิดชอบ ใจกวา้ งสามารถรบั ฟังความคิดเห็นและปรบั ตวั ตอ่ สถานการณ์ 6 เมือ่ ถกู บงั คบั ใหท้ าในสิง่ ทีไ่ มช่ อบ ฉนั จะอธิบายเหตผุ ลจนผอู้ ื่นยอมรบั ได้ ท่ีเปล่ยี นแปลงได้ รู้สร้างกาลังใจ หมายถึง การสรา้ งแรงบนั ดาลใจท่ีจะทาใหเ้ กิดความ รวม 1.1 พยายามในการกา้ วสเู่ ปา้ หมายอยา่ งไมท่ อ้ ถอย 7 ฉันสงั เกตได้ เมือ่ คนใกลช้ ดิ มอี ารมณเ์ ปลี่ยนแปลง 8 ฉันไมส่ นใจกบั ความทกุ ขข์ องผอู้ ื่นที่ฉันไมร่ ูจ้ กั 9 ฉันไมย่ อมรบั ในสิง่ ท่ผี อู้ นื่ ทาตา่ งจากที่ฉันคิด 10 ฉันยอมรบั ไดว้ า่ ผอู้ ืน่ ก็อาจมเี หตผุ ลท่ีจะไมพ่ อใจการกระทาของฉนั 11 ฉันรูส้ กึ วา่ ผอู้ ื่นชอบเรยี กรอ้ งความสนใจมากเกินไป 12 แมจ้ ะมีภาระทีต่ อ้ งทา ฉันก็ยนิ ดีรบั ฟังความทกุ ขข์ องผอู้ ืน่ ทต่ี อ้ งการความชว่ ยเหลอื รวม 1.2 13 เป็นเรอื่ งธรรมดาท่ีเอาเปรยี บผอู้ ่ืนเมอ่ื มโี อกาส 14 ฉันเห็นคณุ คา่ ในนา้ ใจที่ผอู้ ่ืนมีตอ่ กนั 15 เมอื่ ทาผิดฉนั สามารถกลา่ วคา “ขอโทษ” ผอู้ น่ื ได้

อคี วิ ไม่ดแี ก้ไขได้ แบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์ แดเนียล โกลแมน ไดเ้ สนอวธิ ีการพฒั นาอารมณไ์ ว้ 5 คาแนะนา ประการ คือ แบบประเมนิ นีเ้ ป็นประโยคท่ีมีขอ้ ความเก่ียวขอ้ งกบั อารมณ์ 1. รู้จักอารมณต์ นเอง และความรูส้ กึ ท่ีแสดงออกลกั ษณะต่างๆ แมว้ ่าบางประโยคอาจจะไมต่ รง การรูจ้ กั อารมณต์ นเองเป็นพืน้ ฐานในการควบคมุ อารมณ์ กบั ท่ีนกั เรยี นเป็นอยกู่ ็ตาม ขอใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบท่ีตรงกบั ตวั นกั เรยี นมากท่ีสดุ ไม่มีคาตอบทถ่ี กู หรือผดิ ดหี รือไม่ดี โปรดตอบตาม เพ่ือแสดงออกอยา่ งเหมาะสม ความเป็ นจริงและตอบทุกขอ้ เพอ่ื จะได้รู้ตนเองและวางแผนตน ปกตเิ มอ่ื เราเกิดอารมณใ์ ดๆ ขนึ้ มา เราจะตกอย่ใู น 3 ต่อไป ภาวะ ดังต่อไปนี้ มีคาตอบ 4 คาตอบ สาหรบั ขอ้ ความในแตล่ ะขอ้ คือ ไม่ ถกู ครอบงา หมายถงึ การท่ีเราไมส่ ามารถฝืนต่อสภาพอารมณน์ นั้ ๆ ไดจ้ งึ จรงิ จรงิ บางครงั้ ค่อนขา้ งจรงิ จรงิ มาก โปรดใสเ่ ครอ่ื งหมาย  ลงใน แสดงพฤติกรรมไปตามสภาพอารมณ์ ชอ่ งท่ีคดิ วา่ ตรงกบั ตวั ท่านมากท่ีสดุ ไมย่ นิ ดียินรา้ ย หมายถึง การไมย่ นิ ดียินรา้ ยต่ออารมณท์ ่ีเกิดขนึ้ หรอื ทา เป็นละเลยไมส่ นใจเพ่ือบรรเทาการแสดงอารมณ์ รูเ้ ทา่ ทนั หมายถงึ การรูเ้ ท่าทนั อารมณท์ ่ีเกิดขนึ้ มีสติรูว้ า่ ควรทาอยา่ งไร จงึ จะเหมาะสมท่ีสดุ ในขณะท่ีเกิดอารมณน์ น้ั ๆ ทาอย่างไรใหร้ ูเ้ ทา่ ทนั อารมณต์ นเอง  ทบทวน คือ ทบทวนอารมณท์ ่ีเกิดขนึ้ ดว้ ยใจเป็นกลาง  ฝึกสติ คือ ฝึกใหม้ สี ติและรูต้ วั เองอยเู่ สมอวา่ เรากาลงั รูส้ กึ อย่างไร กบั ตวั เอง หรอื ต่อส่งิ ท่ีเกิดขนึ้ รอบๆ ตวั

2. จดั การกับอารมณต์ นเองได้  ทบทวนและจดั อนั ดบั ส่งิ สาคญั ในชวี ิต ความสามารถในการควบคมุ อารมณแ์ ละแสดงออกไดอ้ ยา่ ง  ตง้ั เปา้ หมายใหช้ ดั เจน  มงุ่ ม่นั ตอ่ เปา้ หมาย เหมาะสมกบั กาลเทศะ  ลดความสมบรู ณแ์ บบ เทคนิคการจัดการกับอารมณต์ นเอง  ฝึกมองหาประโยชนจ์ ากอปุ สรรคเพ่ือสรา้ งความรูส้ ึกดีๆ  ทบทวนการกระทาท่ีตอบสนองอารมณท์ ่ีเกิดขนึ้ และ  ฝึกสรา้ งทศั นคติท่ีดี  หม่นั สรา้ งความหมายในชีวติ ดว้ ยการรูส้ กึ ดีต่อตวั เอง พจิ ารณาว่าเหมาะสมหรอื ไมแ่ ละผลท่ตี ามมาจะเป็นอย่างไร 5. รักษาสัมพันธภาพทดี่ ตี ่อกัน  เตรยี มการในการแสดงอารมณ์ ฝึกส่งั ตวั เองว่าจะทา การมคี วามรูส้ กึ ท่ีดีตอ่ กนั จะชว่ ยลดความขดั แยง้ และชว่ ยให้ อะไรและจะไมท่ าอะไร อยรู่ ว่ มกนั อย่างราบรน่ื  ฝึกรบั รูใ้ นสง่ิ ท่ีเกิดขนึ้ ทาอารมณใ์ หแ้ จ่มใสไมเ่ ศรา้ หมอง เทคนิคในการสร้างสัมพันธภาพทดี่ ตี อ่ กัน  สรา้ งโอกาสจากอปุ สรรค หรอื หาประโยชนจ์ ากปัญหา โดยการเปล่ียนมมุ มอง  ฝึกสรา้ งความรูส้ กึ ท่ีดีต่อผอู้ ่ืน  ฝึกการส่อื สารท่ีมปี ระสทิ ธิภาพ  ฝึกผ่อนคลายความเครยี ด โดยเลอื กวธิ ีท่ีเหมาะสมกบั  ฝึกการแสดงนา้ ใจ เอือ้ เฟื้อเผ่ือแผ่ ตนเอง  ฝึกการใหเ้ กียรติผอู้ ่ืนอยา่ งจรงิ ใจ  ฝึกแสดงความช่ืนชม 3. สร้างแรงจงู ใจ การมองหาแง่ดีของเหตกุ ารณต์ า่ งๆ ท่ีเกิดขนึ้ จะช่วยใหเ้ รา เช่ือม่นั ว่าสามารถเผชญิ กบั เหตกุ ารณน์ น้ั ได้ และทาใหเ้ กิดกาลงั ใจท่ีกา้ ว ไปสเู่ ปา้ หมายท่ีวางไว้ เทคนิคการสร้างแรงจงู ใจให้กบั ตนเอง

4. รู้อารมณผ์ ู้อนื่ การรูแ้ ละเขา้ ใจอารมณค์ วามรูส้ กึ ของผอู้ ่ืน จะชว่ ยใหเ้ ราสามารถอยรู่ ว่ มหรอื ทางานดว้ ยกนั ได้ อยา่ งดีและมีความสขุ มากขนึ้ เทคนิคการรู้อารมณผ์ ู้อน่ื  ใหค้ วามสนใจในการแสดงออกของ ผอู้ ่ืน  อา่ นอารมณค์ วามรูส้ กึ ของผอู้ ่ืน  ทาความเขา้ ใจอารมณแ์ ละความรูส้ กึ ของบคุ คล  แสดงความเหน็ อกเหน็ ใจ ใหก้ าลงั ใจ เม่ือผอู้ ่ืนกาลงั มีปัญหา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook