Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทวีปเอเชีย.pdf

ทวีปเอเชีย.pdf

Published by Panparanu's Thongthai, 2021-07-23 14:41:38

Description: ทวีปเอเชีย.pdf

Search

Read the Text Version

อาหาร ชาวญี่ป่นุ กนิ ขา้ วเป็นอาหารหลกั อาหารญี่ป่นุ ที่มีชอื่ เสียงไดแ้ ก่ซชู ,ิ เทม็ ปรุ ะ, สกุ ียากี,้ ยะกโิ ทะริ และ โซบะ เป็นตน้ [156] อาหารญ่ีป่นุ หลายอย่างดัดแปลงจากอาหารตา่ งประเทศ เชน่ ทงกะสึ, รา เม็งปลาดิบ และ แกงกะหร่ญี ่ีป่นุ [157] อาหารญ่ีป่นุ ไดร้ บั ความนิยมในตา่ งประเทศเพราะเป็น อาหารทด่ี ตี อ่ สขุ ภาพ จากการสาํ รวจพบว่าในปี 2006 มรี า้ นอาหารญ่ีป่นุ มากกวา่ 20,000 แหง่ ท่วั โลก[157]

ชาวญี่ป่นุ มคี วามพถิ พี ิถนั ในการเลอื กวตั ถดุ บิ จงึ ทาํ ใหม้ อี าหารประจาํ ทอ้ งถน่ิ [158]และอาหาร ประจาํ ฤด[ู 159] วตั ถดุ ิบที่เป็นเอกลกั ษณใ์ นอาหารญ่ีป่นุ คือถ่วั เหลือง ซึง่ นาํ มาทาํ โชย,ุ มโิ ซะ, เตา้ ห[ู้ 160] ถ่วั แดงซึ่งมกั นาํ มาทาํ ขนม และสาหรา่ ยชนดิ ตา่ ง ๆ เชน่ คมบุ นอกจากนี้ ชาวญ่ีป่นุ ยงั นิยมกินซะชมิ ิหรอื อาหารทะเลดิบอกี ดว้ ย[161]

ชาในญ่ีป่นุ มหี ลายชนดิ ซึ่งแตกตา่ งไปตามกรรมวธิ ีการผลติ และสว่ นผสม

เครอ่ื งด่มื แอลกอฮอลท์ มี่ ตี น้ กาํ เนดิ จากญี่ป่นุ คือเหลา้ สาเก (หรือนิฮงช)ุ ซงึ่ ผลติ โดยใชว้ ิธีหมกั ขา้ ว 163] และโชชซู ง่ึ เป็นเหลา้ ทเี่ กิดจากการกล่นั [164]

การแตง่ กาย





ญี่ป่นุ ประเทศทมี่ ีประวตั ิศาสตรย์ าวนานกว่า 400 ปีนบั ตงั้ แตส่ มยั เอโดะ ซ่ึงเป็นสมยั ทว่ี ฒั นธรรมตา่ งๆมคี วามเจริญรุง่ เรอื ง และขนบธรรมเนียมประเพณีเหล่านนั้ ก็ยงั คงหลงเหลอื อยู่ ณ ปัจจุบนั และสบื ทอดต่อมาจนในญ่ีป่นุ จวบกระท่งั ทกุ วนั นี้

ละครโน ละครโน (NOU) เป็นหนึ่งในการแสดงละครหนา้ กากที่จดั แสดงในยคุ กลาง เป็นประเพณีท่ีมี ประวตั ศิ าสตรอ์ นั เก่าแกย่ าวนานมากกวา่ \"ละครคะบุกิ\" ซงึ่ เป็นทน่ี ยิ มในชาวต่างชาติ นอกจากนยี้ งั เป็นศิลปะการแสดงท่ีมีประวตั ศิ าสตรม์ าอยา่ งยาวนาน ละครโนเกิดขึน้ ในสมยั เฮอนั ซึ่งไดร้ บั ความ นยิ มในสงั คมชนชนั้ สงู ฉากหลังเวทีละครโน จะวาดเป็นรูปตน้ สน โดยจะสวม \"หนา้ กาก\" และทาํ การแสดงบริเวณนนั้ ในปี 1957 ละครโนไดถ้ กู ระบใุ หเ้ ป็นมรดกโลกภมู ิปัญญาทางวฒั นธรรมที่ สาํ คญั ของญ่ีป่นุ รูปแบบของละครโนมีมากมาย เชน่ แบบ \"Kanze-za\" หรือ \"Hosho-za\" และในปัจจบุ นั เองกม็ กี ารเปิดแสดงกว่า 2-3 พนั รายการจากการแสดงที่เลน่ ในยคุ สมยั นน้ั

ละครห่นุ ญ่ีป่นุ ละครหนุ่ ญี่ป่นุ หรือเรยี กอกี อย่างวา่ Ningyou Joururi เป็นหนึง่ ในละครห่นุ ตวั แทนของญี่ป่นุ มเี อกลกั ษณพ์ เิ ศษทีล่ ะครห่นุ อยา่ งอ่นื ไม่มี คือการแบง่ หนา้ ท่ีโดยใชค้ น 3 คนในการเชดิ ห่นุ 1 ตวั การเชดิ ห่นุ แบบนนั้ จะแบ่งเป็น3ส่วน โดยเป็นการบงั คบั ส่วนหวั และมือขวา บงั คบั มือซา้ ย และ

บงั คบั ส่วนขา นอกเหนอื ไปจากนนั้ Ningyou Joururi ยงั เป็นศิลปะที่ประกอบจากหลาย สาขา โดยเล่นรว่ มกบั เครื่องดนตรชี ามเิ ซน็ นกั ประพนั ธล์ ะครหนุ่ ชือ่ ดงั Chikamatsu Monzaemon บทประพนั ธข์ องเขาหลายรายการสรา้ งชอ่ื เสียงอย่างแพรห่ ลายใหล้ ะครหนุ่ ญ่ีป่นุ จากนนั้ ละครห่นุ ญ่ีป่นุ ก็ไดถ้ กู นาํ ไปแสดงในฐานะละครคะบุกิต่อมา การเขียนพ่กู นั จนี การเขยี นพ่กู นั จีน การเขียนพกู่ นั จนี เป็นศิลปะท่ีคน้ พบจากตวั อกั ษร เป็นการเขียนดว้ ยลายมอื ทีส่ วยงาม โดยจุม่ พกู่ นั ท่ีทาํ จากขนสตั วล์ งในหมึกดาํ ท่เี รียกว่า Bokuju แลว้ เขียนเป็นตวั หนังสือ การเขยี นพ่กู นั จีนนน้ั

ตอ้ งใชส้ มาธิและความละเอียดอ่อน ใส่ความรูส้ กึ ลงไปในขณะทเ่ี ขยี น ขนาดและความประณตี ของ ตวั อกั ษรท่แี สดงใหเ้ ห็น นบั ว่าย่ิงเป็นผลงานศิลปะอย่างแทจ้ รงิ พธิ ีชงชา พิธีชงชาเป็นงานพธิ ีกรรมชงชา แตเ่ ดิมวฒั นธรรมการดื่มชาไดร้ บั มาจากประเทศจนี และมกี าร พฒั นาใหเ้ ป็นแบบของญี่ป่นุ เองกร็ บั ความ ซ่งึ ไดร้ บั ความนยิ มซึง่ เป็นการผอ่ นคลายของหมนู่ กั รบ

ในชว่ งสงคราม ในพิธีชงชานน้ั เพอ่ื ใหร้ ูส้ กึ ถงึ ฤดกู าล ไดม้ ีการจดั วางดอกไมแ้ ละภาพแขวนผนงั และ พิถพี ิถนั ในการเลอื กถว้ ยชา ขนมญ่ีป่นุ เคร่อื งหอมญ่ีป่นุ เครอ่ื งหอมญี่ป่นุ พิธีดมเครื่องหอมญี่ป่นุ เป็นศิลปะดงั้ เดมิ ในการเพลิดเพลินกบั กล่ินของธปู หอม กล่าวกนั ว่ามีตน้ กาํ เนดิ มากวา่ 500 ปีก่อน แตก่ ารเพลิดเพลินไปกับกลน่ิ ไมท้ ่มี กี ลิ่นหอมนน้ั มมี านานกว่า1500ปีท่ี แลว้

การจดั ดอกไมแ้ บบญ่ีป่นุ (คาโด) การจดั ดอกไมแ้ บบญี่ป่นุ (คาโด) การจดั ดอกไม้ เป็นศิลปะการช่ืนชมความงามของดอกไม้ ใบไมใ้ นแตล่ ะฤดู โดยการจดั วางและ ตกแตง่ ใหส้ วยงาม การจดั ดอกไมแ้ บบตะวนั ตกนนั้ จะเนน้ การจดั ดอกไมแ้ บบเนน้ ปริมาณ แตก่ าร จดั ดอกไมแ้ บบคาโดนน้ั จะจดั ใหม้ ีพืน้ ท่เี พื่อสามารถช่ืนชมดอกไมไ้ ดเ้ ต็มที่และแสดงออกถงึ ฤดกู าล นนั้ ๆ

เอเชียใต้ ประเทศเนปาล

ตราแผ่นดิน

ภมู ปิ ระเทศ

การแต่งกาย







วฒั นธรรมและประเพณี งานแต่งงาน



พธิ ีทางศาสนา



อาหาร Dal Bhat” Dal แปลว่า ซุปถ่วั Bhat แปลว่า ขา้ ว อาหารประจาํ ชาติเนปาลจานนีจ้ ึงแปล ง่ายๆวา่ เป็นขา้ วกบั ซุปถ่วั น่นั เอง





สถานท่ที ่องเท่ยี ว 1. เมอื งกาฐมาณฑุ ไมว่ า่ ใครจะมาเทยี่ วเนปาลกต็ อ้ งหา้ มพลาดทีจ่ ะมาเยือนเมอื งกาฐมาณฑุ เพราะที่นีค่ ือจดุ ศนู ยร์ วมทง้ั การคา้ การเดนิ ทาง วฒั นธรรม และสถานท่ีท่องเท่ยี วท่ีสาํ คญั ซ่งึ เราจะเหน็ โบราณสถานทีส่ วยงามตงั้ อยใู่ นเมอื งกาฐมาณฑมุ ากมาย สถานทท่ี อ่ งเท่ียวทนี่ ่าสนใจ อาทิ ย่าน Thamel, วดั Pashupatinath, วดั Changu Narayan, Kathmandu Durbar Square เป็นตน้

2. สวยมั ภวู นาถ (Swayambhunath Stupa) 3. เมอื งโพคารา (Pokhara) เมอื งโพคารา ตงั้ อยทู่ างทิศตะวนั ตกของเมืองกาฐมาณฑุ หา่ งกนั ประมาณ 200 กโิ ลเมตร เป็น เมืองท่ที อ่ งเทีย่ วทม่ี ชี ื่อเสียงอกี เมอื งหนง่ึ ของเนปาล ดว้ ยมีธรรมชาตทิ ส่ี วยงาม ราวกบั ดินแดนใน เทพนยิ ายเลยทเี ดยี ว ทิวทศั นข์ องหุบเขาสงู ใหญ่ ปกคลมุ ดว้ ยหิมะสขี าว สะทอ้ นเงาลงสู่ทะเลสาบ ในเมืองโพราคาอย่างงดงาม พรอ้ มกบั บรรยากาศเงียบสงบ เป็นสิง่ ทนี่ กั ท่องเทีย่ วอยากจะมา สมั ผสั กนั ใหไ้ ดส้ กั ครง้ั ซ่ึงนอกจากธรรมชาตทิ ่สี วยงามแบบสดุ ๆ แลว้ วิถชี วี ติ ของชาวบา้ นทีน่ ีย่ งั เรียบง่าย น่าประทบั ใจมาก ๆ อกี ดว้ ย

4. เมอื งภกั ตะปรู ์ (Bhaktapur) เมืองภกั ตะปรู ์ ตงั้ อย่หู า่ งจากเมืองกาฐมาณฑไุ ปทางทศิ ตะวนั ตกเพียงแค่ 20 กิโลเมตร เทา่ นนั้ เป็นเมอื งทส่ี าํ คญั อีกเมืองหน่ึงของเนปาล เพราะเต็มไปดว้ ยสถาปัตยกรรมเกา่ แกม่ ากมาย จดุ ศนู ยก์ ลางทใ่ี คร ๆ ตอ้ งมาเยอื นก็คือ Bhaktapur Durbar Square บรเิ วณนจี้ ะมี อาคารบา้ นเรือนและศาสนสถานที่สาํ คญั ตงั้ อยมู่ ากมาย หน่ึงในนนั้ ก็คอื เทวาลยั 5 ชน้ั ท่ีสรา้ งขึน้ เพื่ออทุ ิศใหก้ บั พระนางลกั ษมี นอกจากนีน้ กั ท่องเทย่ี วยงั สามารถท่ีจะเดินถ่ายรูปรอบ ๆ จตั รุ สั แหง่ นี้ และเลอื กซือ้ ของทรี่ ะลกึ จากรา้ นคา้ ทอ้ งถิ่นไดอ้ ีกดว้ ย

5. ปาทนั (Patan) เมอื งเล็ก ๆ ทางตอนใตข้ องเมืองกาฐมาณฑุ ซึง่ เป็นอกี หนึ่งสถานทม่ี ีม่งั ค่งั ไปดว้ ยศาสน สถานและสถาปัตยกรรมอนั เก่าแก่ วดั วาอารามมากมาย ใครอยากเห็นวฒั นธรรมทแ่ี ทจ้ รงิ ขอคน เนปาล กต็ อ้ งมาเยือนทีเ่ มืองแห่งนี้ นอกจากจะไดส้ มั ผสั กบั วิถีชีวิตของคนพนื้ เมอื งอย่างเต็มอิม่ แลว้ ยงั จะไดด้ ืม่ ด่าํ กบั งานศิลปะและงานหตั ถกรรม พรอ้ มทงั้ ไดเ้ ลือกซอื้ สินคา้ แฮนดเ์ มดจากคน ทอ้ งถนิ่ ในราคาย่อมเยาอีกดว้ ย



6. เอเวอรเ์ รสต์ เบส แคมป์ (Everest Base Camp) เอเวอรเ์ รสต์ เป็นยอดเขาที่นกั ปีนเขาท่วั โลกอยากจะพชิ ิตใหไ้ ด้ เพราะเป็นภเู ขาทสี่ งู ทสี่ ดุ ใน โลก ดว้ ยความสงู จากระดบั นา้ํ ทะเลมากถึง 8,848 เมตร และยงั มียอดเขาอนื่ ๆ อย่ใู นแนวเทือกเขา หมิ าลยั อนั สวยงามอกี มากมาย ซง่ึ เสน้ ทางพชิ ิตเอเวอรเ์ รสตย์ อดนิยมกค็ ือเสน้ ทางจากเมือง Lukla ประเทศเนปาล โดยนกั ทอ่ งเทยี่ วสามารถทจ่ี ะน่งั เครอ่ื งบินไปลงท่เี มือง Lukla แลว้ เดนิ เทา้ ตอ่ ขนึ้ ไปยงั เอเวอรเ์ รสต์ เบส แคมป์ เสน้ ทางท่องเทีย่ วแบบนตี้ อ้ งมใี จรกั การผจญภยั และ รา่ งกายแข็งแรงพอสมควร และหากใครใจถงึ และรา่ งกายทนตอ่ ความหนาวไหวกอ็ ยา่ พลาดไป เที่ยว Gokyo Lakes



7. หม่บู า้ น Nagarkot หมบู่ า้ นเลก็ ๆ อย่บู นยอดเขา ซึ่งจะมบี า้ นเรือนของชาวเนปาลและดงั้ เดมิ ตงั้ อยเู่ พยี งไม่ก่ี หลงั มวี วิ ทวิ ทศั นข์ องหุบเขาที่ปกคลมุ ไปดว้ ยหิมะสีขาวสวยงาม อากาศบริสทุ ธิ์และเยน็ สบาย ถา้ มาในช่วงหนา้ หนาวกจ็ ะหนาวจบั ใจเลยทเี ดยี ว ทน่ี ี่เป็นสถานท่ชี มพระอาทิตยข์ นึ้ -ลงที่สวยงามที่สุด แหง่ หนึ่งของเนปาล ซึ่งนกั ทอ่ งเทย่ี วทช่ี อบธรรมชาติ และบรรยากาศเงยี บสงบจะนิยมมาเทีย่ วท่ี หม่บู า้ นแหง่ นี้ ซึง่ นอกจากจะไดด้ ืม่ ด่าํ กบั ธรรมชาตอิ ยา่ งเต็มท่ีแลว้ ยงั จะไดส้ มั ผสั กบั วถิ ชี ีวิตสดุ เรียบงา่ ยของคนทอ้ งถ่ินเนปาลอกี ดว้ ย



ประเทศ ภฏู าน ธงชาติ

ภมู ิประเทศ การแต่งกาย





อาหาร ขา้ วเป็นอาหารหลกั ในแต่ละมอื้ ของชาวภฏู าน และมกั จะมีกบั ขา้ ว 1-2 อยา่ ง อนั ประกอบไปดว้ ย เนือ้ และผกั เนือ้ หม,ู เนอื้ ววั และเนือ้ ไก่ เป็นเนอื้ ทีถ่ กู รบั ประทานบ่อยๆ และผกั ท่วั ๆ ไปที่ชาวภฏู าน รบั ประทานบอ่ ยๆ คอื ผกั ขม, ฟักทอง, หวั ผกั กาด, หวั ไชเทา้ , มะเขอื เทศ, พชื รมิ นา้ํ , หวั หอม และ ถ่วั แขก ชาวภฏู านจะปลกู ขา้ ว, บคั วีท และขา้ วบาเล่ ในหลายภมู ิภาคของประเทศขนึ้ อย่กู บั สภาพ อากาศของพนื้ ท่ีนนั้ ๆ

เอมาดทั ชิ (Ema Datshi) : เป็นอาหารประจาํ ชาติภฏู าน ที่ผสมพรกิ กบั ชที พืน้ เมอื งแสนอรอ่ ย รูจ้ กั ในชอ่ื ดทั ชิ อนั เป็นอาหารจานหลกั เกือบทกุ มือ้ และสามารถพบเจอไดท้ กุ พืน้ ที่ท่วั ประเทศ ความแตกต่างของเอมา ดทั ชิ ในแตล่ ะพืน้ ท่นี นั้ ขึน้ อย่กู บั การใส่ ถ่วั แขก, เฟิรน์ , มนั ฝร่งั , เหด็ หรือ เปลยี่ นชีสธรรมดาเป็นชีสจากนมจามรี

โมโมส (Momos) : นี่เป็นเกย๊ี วในแบบฉบับภฏู าน ใส่ไสห้ ม,ู เนอื้ หรอื กระหล่าํ ปลี และชสี มกั รบั ประทานกนั ในโอกาสพเิ ศษ เป็นรสชาตดิ งั้ เดมิ ทชี่ าวภฏู านโปรดปราน

พกั ชาพา (Phaksh Paa) : ปรุงดว้ ยหมกู บั พริกแดง จะใสห่ วั ไชเทา้ หรอื ผกั ขมลงไปดว้ ยกไ็ ด้ มกั นยิ มนาํ ไปตากแหง้ (เรยี กว่า สิคาม Sicaam) เฮินโท (Hoentoe) : บคั วีทท่ีมีกลิ่นหอม ห่อเป็นกอ้ นใส่ไสห้ วั ผกั กาดเขียว, ดทั ชิ (ชีส), ผกั ขม และสว่ นผสมอืน่ ๆ

จาชา มารุ (Jasha Maru) : ไกส่ บั กบั พริก, มะเขอื เทศ และสว่ นผสมอนื่ ๆ มกั เสริ ฟ์ พรอ้ ม กบั ขา้ ว

ท่อี ยอู่ าศยั






Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook