การนําไปบูรณาการ งานวจิ ยั ท่ีเก่ียวขอ้ ง เข้ากับการเรียนการ (งานวจิ ยั ทเี่ กดิ จากการจัดกจิ กรรมอย่างตอ่ เนอ่ื งต้งั แตป่ กี ารศึกษา 2549 เป็นตน้ มา) สอน/รายวิชาที่ การจัดกจิ กรรม เกยี่ วขอ้ ง จดั ทาํ เป็น ชือ่ งานวิจยั CAI และจด ตพี มิ พใ์ นวารสาร นําเสนอผลงานวิจยั ลขิ สทิ ธ์ิ เทือกเขาบรรทัด ในเขต จงั หวดั พทั ลงุ ” 14. โครงงานพิเศษทางด้าน - - - การแพทยแ์ ผนไทย เร่ือง “ภูมิปญั ญาการใชส้ มุนไพร 43 รักษาพษิ งูของหมอพืน้ บ้าน ในจังหวดั นครศรธี รรมราช” 15. โครงงานพิเศษทางดา้ น - - - การแพทย์แผนไทย เรอื่ ง “รวบรวมภูมปิ ัญญาการใช้ สมนุ ไพรของหมอพื้นบา้ น : กรณีศึกษาหมอพ้นื บา้ นนาย วงศ์ พมิ ทา่ ทอง และ นาย วัน พิมท่าทอง อาํ เภอบ้าน ตาขุน จังหวดั สุราษฎรธ์ านี” 16. โครงงานพิเศษทางด้าน - - 3 การแพทย์แผนไทย เรื่อง “ก า ร ป ร ะ ชุ ม วิ ช า ก า ร
การนําไปบรู ณาการ งานวจิ ยั ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง เข้ากบั การเรยี นการ (งานวจิ ัยทเ่ี กิดจากการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนือ่ งตั้งแตป่ กี ารศึกษา 2549 เป็นตน้ มา) สอน/รายวิชาท่ี การจดั กิจกรรม เก่ียวขอ้ ง จดั ทาํ เปน็ 2. การจัดทําเอกสาร - ชอื่ งานวจิ ัย CAI และจด ตพี มิ พใ์ นวารสาร นาํ เสนอผลงานวจิ ยั แ ผ่ น พั บ แ ล ะ นิทรรศการความรู้ ลขิ สทิ ธ์ิ ด้านการแพทย์แผน ไทย การปรบั ปรุง “ภมู ิปัญญาของหมอพ้ืนบ้าน พฤกษศาสตร์แห่งประเทศ ปรับปรุงเน้ือหาใน เอกสารแผ่นพับและ จังหวัดสงขลาในการใช้พืช ไทย ครั้งท่ี 4” เม่ือวันที่ รู ป แ บ บ ก า ร จั ด นิทรรศการความรู้ สกุลข่า (Alpinia spp.) เพ่ือ 24 มีนาคม 2553 ณ ด้านการแพทย์แผน ไ ท ย ใ ห้ มี ค ว า ม ประโยชน์ในการรกั ษา” โรงแรมโลตัส ปางสวน สอดคล้อง เหมาะสม แกว้ จ.เชยี งใหม่ 44 -- - -
การนาํ ไปบรู ณาการ งานวิจยั ทีเ่ กยี่ วขอ้ ง เข้ากับการเรยี นการ (งานวิจัยทเี่ กิดจากการจดั กิจกรรมอย่างต่อเน่อื งต้งั แต่ปกี ารศึกษา 2549 เปน็ ต้นมา) สอน/รายวชิ าที่ การจัดกิจกรรม เกย่ี วข้อง จัดทาํ เปน็ ช่ืองานวิจัย CAI และจด ตีพมิ พใ์ นวารสาร นาํ เสนอผลงานวิจยั ลขิ สทิ ธิ์ กับชุมชนและสถาน- การณ์ในปัจจุบันให้ มากยง่ิ ขึน้ 3. กิจกรรมการ 1. โครงงานพิเศษทางด้าน - 3 การแพทย์แผนไทย เรื่อง 33 บริการด้านเวชกรรม - 170-209 สมุฏฐาน “อ ง ค์ ค ว า ม รู้ ใ น ก า ร ดู แ ล ชื่อเรื่อง : องค์ความรู้ใน “ก า ร ป ร ะ ชุ ม วิ ช า ก า ร ไ ท ย / ก า ร บ ริ ก า ร โรค ผู้ป่วยโรคชิคุนกุนยาตาม การรักษาผู้ป่วยโรคชิคุนกุนยา ประจําปี การแพทย์แผน 45 ตรวจวินิจฉัยโรคตาม - 170-303 เวชกรรม แนวทางการแพทย์แผนไทย ตามแนวทางการแพทย์แผน ไทย การแพทย์พื้นบ้าน ในจงั หวัดสงขลา” แนวทางการแพทย์ ไทย 1 ไทยในจงั หวัดสงขลา และการแพทย์ทางเลือก แผนไทย - 170-307 เวชกรรม ชื่อวารสาร : วารสาร ค รั้ ง ที่ 7” เ ม่ื อ วั น ท่ี 1 ไทย 2 ก า ร แ พ ท ย์ แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ กันยายน 2553 ณ ศูนย์ การปรบั ปรงุ - 170-308 เวชกรรม การแพทย์ทางเลือก ปีที่ 8 แ ส ด ง สิ น ค้ า แ ล ะ ก า ร เ นื่ อ ง จ า ก เ ป็ น ไทย 3 ฉบบั ที่ 2 พ.ค.-ส.ค.(ฉบับเสริม) ประชุม อิมแพค เมืองทอง กิจกรรมทไ่ี ดร้ ับ 2553. หน้า 34. ธานี กรงุ เทพฯ 3- ความสนใจมาก และ - 170-309 เวชกรรม 2. โครงงานพิเศษทางด้าน - ช่ือเร่ือง : Evaluation of การแพทย์แผนไทย เรื่อง ผู้รับบริการมีความ ไทย 4 “ฤ ท ธ์ิ ต้ า น แ บ ค ที เ รี ย ข อ ง antibacterial activity of Southern พึงพอใจอยู่ในระดับ - 170-390 การฝึก ตํ า รั บ ย า แ ผ น ไ ท ย ที่ ใ ช้ ใ น มากที่สุด เพ่ือการ ป ฏิ บั ติ ง า น ภาคใต้ต่อเช้ือแบคทีเรียที่ Thai herbal recipes traditionally ให้บริการท่ีเพียงพอ การนวดไทย used for gastrointestinal infections
การนําไปบูรณาการ งานวจิ ัยที่เกี่ยวขอ้ ง เขา้ กับการเรียนการ (งานวิจัยทเี่ กดิ จากการจัดกจิ กรรมอย่างต่อเน่ืองต้งั แตป่ กี ารศึกษา 2549 เป็นต้นมา) สอน/รายวิชาที่ การจดั กจิ กรรม เก่ียวขอ้ ง จดั ทําเป็น รวดเร็ว ทั่วถึง โดย - 170-490 การฝึก ชอ่ื งานวจิ ยั CAI และจด ตพี ิมพใ์ นวารสาร นําเสนอผลงานวจิ ยั จะเพิ่มบคุ ลากรทีใ่ ห้ ปฏบิ ตั ิงานเวชกรรม บริการด้านนี้ให้มาก ไทย 1 ลิขสทิ ธิ์ ขน้ึ - 170-491 การฝึก ปฏิบตั งิ านเวชกรรม เปน็ สาเหตุของโรค againstdiarrhoea-causingbacteria ไทย 2 ช่ือวารสาร : Journal of - Ethnopharmacology(Submittedto Journal) 46 3. โครงงานพเิ ศษทางดา้ น -3 - การแพทย์แผนไทย เร่อื ง ช่ือเร่ือง: antibacterial activity of “ฤทธ์ติ า้ นเช้ือแบคทีเรียจาก ethanol extracts of medicinal plant ตํารบั ยาแผนไทยทใ่ี ช้รักษา formulasusedforskininfections โรคผิวหนังในภาคใต้” ช่ือวารสาร : Journal of Medicinal Plants Research (Submitted to Journal)
การนาํ ไปบรู ณาการ งานวิจัยทีเ่ กี่ยวข้อง เข้ากับการเรยี นการ (งานวิจยั ทเี่ กิดจากการจดั กจิ กรรมอย่างตอ่ เนื่องต้งั แต่ปกี ารศึกษา 2549 เป็นต้นมา) สอน/รายวชิ าที่ การจัดกจิ กรรม เกีย่ วขอ้ ง จดั ทําเปน็ ชอ่ื งานวจิ ยั CAI และจด ตีพมิ พ์ในวารสาร นาํ เสนอผลงานวิจยั ลิขสทิ ธิ์ 4. โครงงานพิเศษทางด้าน - - - การแพทย์แผนไทย เร่ือง “ประสิทธิภาพการนวดไทย รักษาอาการหัวไหล่ติดโดย วิธีของหมอคณิต เขมะพันธุ์ 47 มนัส” 5. โครงงานพิเศษทางด้าน 3 3 - การแพทย์แผนไทย เรื่อง (จาํ นวน ช่ือเรื่อง : การรวบรวมภูมิ “รวบรวมภูมิปัญญาของ 2 เรื่อง : ปัญญาของหมอพื้นบ้านใน หมอพ้ืนบ้านในอําเภอรัตภูมิ ได้เผยแพร่ อําเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา จังหวัดสงขลา : กรณีศึกษา ไ ป ยั ง โ ร ง กรณศี ึกษาหมอไข่ โกสินทธ์ุ พ ย า บ า ล ชื่อวารสาร : วารสาร หมอไข่ โกสนิ ทร”์ ต่างๆ ที่เป็น ส ง ข ล า น ค ริ น ท ร์ ฉ บั บ แ ห ล่ ง ฝึ ก สงั คมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ใหก้ ับคณะ) Vol.17 No.1 Jan.-Feb. 2011 (page 124-132)
การนาํ ไปบรู ณาการ งานวิจัยทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง เขา้ กบั การเรยี นการ (งานวิจัยทเ่ี กิดจากการจดั กจิ กรรมอย่างต่อเนอ่ื งตงั้ แต่ปกี ารศกึ ษา 2549 เปน็ ต้นมา) สอน/รายวชิ าที่ การจัดกจิ กรรม เกย่ี วข้อง จดั ทาํ เป็น ช่ืองานวจิ ัย CAI และจด ตพี มิ พ์ในวารสาร นําเสนอผลงานวจิ ยั ลิขสทิ ธ์ิ 6. โครงงานพิเศษทางด้าน - - - การแพทย์แผนไทย เร่ือง “การศึกษาภูมิปัญญาหมอ พื้นบ้าน : กรณีศึกษา หมอ ผล ช่วยรกั ษ”์ 48 7. โครงงานพิเศษทางดา้ น 3 - - การแพทย์แผนไทย เร่ือง (จาํ นวน 1 เรอื่ ง) “การศึกษาภมู ิปัญญาหมอ พน้ื บ้านไทย : กรณีศึกษา หมอประวิทย์ แก้วทอง” หมายเหตุ : 3 หมายถงึ มีการดาํ เนนิ การ - หมายถงึ ไม่ได้มีการดําเนินการ
8. แผน หรือแนวทางการพัฒนาคุณภาพอย่างตอ่ เนือ่ งในอนาคต คณะได้กําหนดแผนหรือแนวทาง เพื่อให้การให้บริการวิชาการและวิชาชีพมีการ พฒั นาคุณภาพอย่างตอ่ เนื่อง โดยได้ดาํ เนินการ ดังนี้ 8.1 สํารวจความต้องการไปยังกลุ่มเป้าหมายท่ีจะจัดกิจกรรม เพื่อให้ทราบ ความต้องการพ้ืนฐานและข้อมูลอื่นๆ ประกอบการพิจารณาการจัด กิจกรรมใหส้ อดคลอ้ ง เหมาะสมกบั ความตอ้ งการของกลุ่มเปา้ หมายนั้นๆ 8.2 มีการแต่งต้ังคณะกรรมการเนินการจัดโครงการและจัดประชุม คณะกรรมการฯ เพ่ือพิจารณาการดําเนินงานในขั้นตอนต่างๆ ตาม แผนงานและกระบวนการทก่ี าํ หนด 8.3 ทุกครั้งที่มีการจัดโครงการฯ มีการประเมินโครงการ/กิจกรรม และนํา ข้อมูลจากผลการประเมินไปพิจารณาเพื่อทบทวนผลการดําเนินงาน และ พัฒนาการจัดโครงการ/กิจกรรมในคร้ังต่อๆ ไป และการบูรณาการเข้ากับ การเรยี นการสอนและการวิจยั 9. จุดแข็ง (Strength) หรอื สิ่งทที่ าํ ได้ดใี นประเดน็ ท่นี ําเสนอ 9.1 กําหนดเป็นแผนปฏิบัติการในการจัดโครงการเพ่ือให้บริการสุขภาพแก่ ประชาชนอยา่ งตอ่ เนื่องและเป็นทย่ี อมรบั 9.2 มีคณะกรรมการดําเนินงานในการจัดโครงการฯ ทําหน้าที่ในการวางแผน กํากับ กําหนดแนวทางการดําเนินงาน และประเมินผล ทบทวนผลการ ดําเนินงานการจัดโครงการฯ เพื่อให้การจัดโครงการฯ เป็นไปด้วยความ เรยี บร้อยและบรรลุตามวตั ถุประสงค์ 9.3 กําหนดให้รายวิชาชีพที่เก่ียวข้อง มีการนําความรู้และประสบการณ์จาก การให้บริการวิชาการและวิชาชีพไปบูรณาการกับการเรียนการสอน และ การบูรณาการกับการวิจัยในการทําโครงงานพิเศษทางด้านการแพทย์แผน ไทยของนักศึกษา และจัดให้นักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาชีพที่ เก่ียวข้อง/ท่ีมีความพร้อมในการให้บริการวิชาการและวิชาชีพ เข้าร่วม โครงการเพื่อร่วมให้บริการวิชาการและวิชาชีพ ภายใต้การควบคุม ดูแล ของคณาจารย์ 49
9.4 มีการประสานความร่วมมือกับสาขาวิชา และโรงพยาบาลการแพทย์แผน ไทย ภายในคณะการแพทย์แผนไทย ในการสนับสนุนบุคลากรที่มีทักษะ ทางวชิ าชพี เพอ่ื รว่ มใหบ้ ริการวิชาการและวชิ าชพี ในโครงการ 10. กลยุทธห์ รือปัจจยั ทนี่ าํ ไปส่คู วามสําเร็จ 10.1 คณะกําหนดให้การบริการวิชาการและวิชาชีพ ด้านการแพทย์แผนไทย เปน็ หนงึ่ ในพันธกจิ ของคณะ 10.2 คณะมีการจัดทําแผนยุทธศาสตร์ และจัดทําแผนปฏิบัติการในการจัด โครงการภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยสู่ชุมชน เพ่ือให้บริการวิชาการและ วชิ าชพี แก่ชมุ ชนในทกุ ปีการศกึ ษา และมีการดาํ เนินงานตามแผน 10.3 คณะมีโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย ที่มีบุคลากรท่ีมีความรู้ ความสามารถทางด้านการแพทย์แผนไทย มีคณาจารย์ผู้มีความรู้ ความสามารถพิเศษ ทําให้มีความพร้อมในการให้บริการวิชาการและ วิชาชีพ 10.4 คณะได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากมหาวิทยาลัยเป็นประจําทุกปี ทํา ให้มีงบประมาณสําหรบั จัดโครงการไดอ้ ย่างต่อเนือ่ ง 10.5 ได้รับความร่วมมือจากคณาจารย์ นักศึกษา และบุคลากร ในการร่วมใน การจดั กจิ กรรมเปน็ อยา่ งดี 10.6 มีนักศึกษาการแพทย์แผนไทยท่ีมีความพร้อมในการร่วมให้บริการวิชาการ และวิชาชพี 10.7 การแพทย์แผนไทยเป็นภูมิปัญญาการแพทย์ดั้งเดิมของคนไทย จึงสามารถ เข้าถึงชุมชนและประชาชน ทําให้เป็นที่รู้จักและเป็นท่ียอมรับของ ประชาชนในชมุ ชนไดง้ ่าย 10.8 ได้รับความร่วมมือจากชุมชนและหน่วยงานภายนอก โดยมีการ ประสานงานความร่วมมือในการดําเนินการจัดโครงการ/กิจกรรมร่วมกัน เปน็ อย่างดี 50
11. ผลการดาํ เนินงาน (Result) จากการจดั โครงการบรกิ ารวชิ าการและวชิ าชพี แกช่ ุมชน ในโครงการภมู ิปัญญาแพทยแ์ ผนไทยส่ชู ุมชน มีผลการดําเนินงาน เปรยี บเทียบ 3 ปี ดงั ตาราง 6 และตาราง 7 ตาราง 6 เปรียบเทียบผลการดาํ เนินงานตามผลการประเมนิ โครงการยอ้ นหลัง 3 ปี ปกี ารศกึ ษา 2551 ปกี ารศึกษา 2552 ปกี ารศึกษา 2552 ปีการศึกษา 2553 ลาํ ดบั (คร้ังท่ี 3) (ครั้งท่ี 4) (คร้ังที่ 5) (ครั้งท่ี 6) ท่ี กจิ กรรม ผลการ ความ ผลการ ความ ผลการ ความ ผลการ ความ ประเมนิ หมาย ประเมนิ หมาย ประเมิน หมาย ประเมิน หมาย 51 X SD X SD X SD X SD 1 การบริการด้านเวชกรรมไทย/การบริการ 4.11 0.49 มาก 4.42 0.61 มาก 4.38 0.74 มาก 4.79 0.45 มาก ก า ร ต ร ว จ วิ นิ จ ฉั ย โ ร ค ต า ม แ น ว ท า ง ทสี่ ุด ก า ร แ พ ท ย์ แ ผ น ไ ท ย โ ด ย นั ก ศึ ก ษ า สาขาวิชาการแพทยแ์ ผนไทย 2 การบริการการนวดไทย/การให้บริการ 4.74 0.52 มาก 4.06 0.87 มาก - - - - - - ด้านการนวด เพ่ือการรักษาโรคของ นักศกึ ษา 3 การให้คําแนะนําการใช้สมุนไพรเพื่อการ - - - 4.26 0.73 มาก 4.38 0.74 มาก 4.33 0.64 มาก บําบดั อาการต่างๆ 4 การแนะนําอาหารสมุนไพรเพื่อปรับ - - - 4.00 0.67 มาก 4.25 0.89 มาก - - -
ปกี ารศึกษา 2551 ปกี ารศกึ ษา 2552 ปีการศึกษา 2552 ปกี ารศึกษา 2553 ลาํ ดบั (ครงั้ ที่ 3) (คร้ังท่ี 4) (คร้ังท่ี 5) (คร้ังที่ 6) ที่ กจิ กรรม ผลการ ความ ผลการ ความ ผลการ ความ ผลการ ความ ประเมนิ หมาย ประเมิน หมาย ประเมิน หมาย ประเมนิ หมาย สมดุลของร่างกายตามแนวทางการแพทย์ X SD X SD X SD X SD แผนไทย 5 ประโยชน์ของเอกสารแผ่นพับและ - - - 3.79 0.79 มาก 4.13 0.83 มาก 4.25 0.83 มาก นิทรรศการความรู้ด้านการแพทย์แผน ไทย 52 6 การให้บริการตรวจธาตุเจ้าเรือน - - - 4.11 0.76 มาก 4.25 0.71 มาก - - - 7 กจิ กรรมชมุ ชนสมั พนั ธ/์ สันทนาการ - - - 3.85 0.55 มาก - - - 4.28 0.65 มาก 8 การสาธิตและฝกึ ปฏิบตั กิ ารทาํ ฤๅษดี ดั ตน - - - - - - 4.38 0.74 มาก - - - 9 การสาธิตการทําลูกประคบ - - - - - - 4.50 0.76 มาก - - - ทีส่ ดุ 10 ความพงึ พอใจในการเขา้ รว่ มกิจกรรม 4.11 0.49 มาก 4.21 0.63 มาก 4.50 0.76 มาก 4.60 0.65 มาก ทส่ี ดุ ที่สดุ
จากตาราง 6 เป็นการเปรียบเทียบผลการดําเนินงานในโครงการแพทย์แผน ไทยสู่ชุมชน ปีการศึกษา 2551, 2552 และ2553 นําเสนอข้อมูลผลการประเมิน เปรียบเทียบเฉพาะกิจกรรมหลักท่ีให้บริการวิชาการ/วิชาชีพ จากผลการดําเนินงาน/ ผลการประเมิน พบว่าในปีการศึกษา 2551 (ครั้งท่ี 3), ปีการศึกษา 2552 (ครั้งที่ 4) ผู้รับบริการมีความพึงพอใจในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ท่ีจัดให้บริการ อยู่ในระดับ มาก ซ่ึงผลการประเมินในปีการศึกษา 2552 (คร้ังที่ 4 และคร้ังท่ี 5) มีคะแนนสูงกว่า ปีการศึกษา 2551 โดยเฉพาะผลการประเมินในปีการศึกษา 2552 (คร้ังท่ี 5) ผู้รับบริการมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( X = 4.50, SD = 0.76) และในปี การศึกษา 2553 (คร้ังที่ 6) พบว่า ผู้รับบริการมีความพึงพอใจในการเข้าร่วมกิจกรรม ต่างๆ ท่ีจัดให้บริการ อยู่ในระดับมากท่ีสุด ( X = 4.60, SD = 0.65) ซ่ึงก็พบว่า ผล การประเมินความพึงพอใจในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่จัดให้บริการมีคะแนน/ผล การประเมินที่มีการพัฒนาเพ่ิมข้ึนโดยลําดับ ส่วนผลการประเมินในกิจกรรมด้านอ่ืนๆ พบว่า ผู้รับบริการส่วนใหญ่มีความเห็นต่อการจัดกิจกรรมในแต่ละด้านอยู่ในระดับ มากท้ัง 3 ปี รองลงมามีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากท่ีสุด มี 2 กิจกรรม คือ กิจกรรม การสาธิตทําลูกประคบ ( X = 4.50, SD = 0.76) ซึ่งจัดกิจกรรมในปีการศึกษา 2552 (คร้ังท่ี 5) และการบริการด้านเวชกรรมไทย/การบริการการตรวจวินิจฉัยโรคตาม แนวทางการแพทย์แผนไทยฯ ( X = 4.79, SD = 0.45) ซ่ึงจัดกิจกรรมในปีการศึกษา 2553 (คร้งั ท่ี 6) ตาราง 7 เปรียบเทียบผลการดําเนินงานตามผลการประเมินการประกันคุณภาพใน องคป์ ระกอบท่ี 5 การบริการวิชาการแกส่ งั คม ย้อนหลัง 3 ปี ปีการศึกษา ผลการประเมนิ 2550 ไดค้ ะแนน 3.72 ผลการประเมินอยูใ่ นระดบั ดี 2551 ไดค้ ะแนน 4.00 ผลการประเมินอยใู่ นระดับดี 2552 ได้คะแนน 4.71 ผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดีมาก จากตาราง 7 เปรียบเทียบผลการดําเนินงานตามผลการประเมินการประกัน คุณภาพภายใน องค์ประกอบท่ี 5 การบริการวิชาการแก่สังคม ย้อนหลัง 3 ปี ตั้งแต่ปี การศึกษา 2550 - 2552 พบว่า ผลการประเมินในปีการศึกษา 2550 และ 2551 มี ผลการประเมินอยู่ในระดับดี (ในปีการศึกษา 2551 มีคะแนนสูงขึ้นจากปีการศึกษา 53
2550) และในปีการศึกษา 2552 มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีมาก ซึ่งก็พบว่ามี คะแนน/ผลการประเมินมีการพฒั นาดีขนึ้ โดยลาํ ดบั 12. นวตั กรรม จากการให้บริการวิชาการและวิชาชีพในโครงการภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยสู่ ชุมชน ที่ผ่านมามีส่วนท่ีเก่ียวข้องกับนวัตกรรมด้านการเรียนการสอนและการวิจัยอยู่ บ้าง ตรงท่มี ีการนาํ ความรแู้ ละประสบการณไ์ ปใช้ในการประยุกต์ บูรณาการ ปรับปรุง และพัฒนาการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาชีพของคณะให้มีความสอดคล้อง เหมาะสมกับสถานการณ์ด้านสุขภาพของประชาชน นอกเหนือจากการจัดการเรียน การสอนตามท่ีกําหนดในเนื้อหารายวิชาของหลักสูตร อีกด้านหนึ่งคณาจารย์/ นักศึกษาสามารถนําความรู้และประสบการณ์จากการให้บริการวิชาการและวิชาชีพ ไปใช้ในการวจิ ยั /การทาํ โครงงานพิเศษทางด้านการแพทย์แผนไทย เช่น การนําปัญหา ท่ีพบด้านสุขภาพของประชาชนไปศึกษา ค้นคว้าเพื่อแก้ปัญหาด้านสุขภาพ หรือได้ แนวคิดที่สามารถเช่ือมโยงไปสู่หัวข้อการวิจัยที่เก่ียวข้อง มีการผลิตส่ือ CAI จาก ผลงานวิจัย และได้ทําการเผยแพร่เพ่ือเป็นประโยชน์ต่อวงการวิชาชีพแพทย์แผนไทย และเป็นประโยชน์ต่อสังคม ที่ผ่านมาได้มีการผลิตส่ือ CAI และทําการจดลิขสิทธ์ิไป แล้วจาํ นวน 3 เรื่อง ดงั นี้ 1. สอ่ื การเรยี นการสอน เรอ่ื ง การนวดอัมพฤกษ์ อัมพาต โดยสตู รการ นวดของหมอประวทิ ย์ แกว้ ทอง 2. ส่ือการเรียนการสอน เร่ือง การนวดรักษาโรคมดลูกตา่ํ และโรคหัวใจ 3. สือ่ การเรียนการสอน เร่อื ง การนวดรกั ษาโรคหมอนรองกระดกู ทบั เสน้ ประสาท รายละเอียดขอ้ มูลทเี่ กย่ี วข้อง ดงั ปรากฏใน ตาราง 5 13. บทสรุป คณะการแพทย์แผนไทยมีความเป็นอัตลักษณ์ด้านการสืบสานภูมิปัญญา การแพทย์แผนไทย และภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้กําหนดให้การให้บริการวิชาการและ วิชาชีพเป็นพันธกิจหน่ึง และได้กําหนดเป็นแผนยุทธศาสตร์ของคณะ กําหนดเป็น เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตัวช้ีวัด กิจกรรม และจัดทําเป็นแผนปฏิบัติการประจําปี งบประมาณ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถดําเนินงานด้านนี้ได้ตามพันธกิจท่ีกําหนด และด้วย 54
ความเป็นสาขาวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ซึ่งเป็นทางเลือกหน่ึงในการป้องกัน ดูแล รักษาสุขภาพของประชาชน จึงเสมือนหน่งึ เปน็ ความรับผดิ ชอบด้านคุณภาพชีวิต ของประชาชน ในฐานะที่ต้องเป็นท่ีพ่ึงของชุมชน ของประชาชน ในการป้องกัน ดูแล รักษาสุขภาพ จากการดําเนินงานท่ีผ่านมาในช่วงแรกๆ อาจมีปัญหาบ้างในการเข้าถึง ชุมชน เนอ่ื งจากเป็นสาขาวิชาใหม่ท่ีเปิดสอนในระดับอุดมศึกษาในภาคใต้ ในการออก ให้บริการวิชาการและวิชาชีพจึงได้เน้นประชาสัมพันธ์คณะ และหลักสูตรการเรียน การสอนควบคู่กันไป และจากการดําเนินงานอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ทําให้ คณะการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นท่ีรู้จักและเป็นที่ยอมรับ ของสังคม ชุมชนมากขึ้นโดยลําดับ ซึ่งพิจารณาได้จากการสํารวจความต้องการด้าน การดูแล ป้องกัน รักษาสุขภาพของประชาชน และจากผลการประเมินการจัด โครงการภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยสู่ชุมชน และโครงการบริการวิชาการและวิชาชีพ อน่ื ๆ ทไ่ี ดด้ ําเนินการ ในการให้บริการวิชาการและวิชาชีพ นอกจากจะให้บริการด้านสุขภาพแก่ ประชาชนแล้ว คณะยังมีการบูรณาการงานบริการวิชาการและวิชาชีพกับการเรียน การสอน มีการนําความรู้และประสบการณ์จากการให้บริการวิชาการและวิชาชีพ ไป บูรณาการกับการเรียนการสอน ได้ใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนโดยเฉพาะในราย วิชาชีพของหลักสูตร มีการจัดให้นักศึกษาได้ร่วมออกให้บริการวิชาการและวิชาชีพ เป็นการฝึกทักษะทั้งด้านวิชาการ/วิชาชีพและการเข้าถึงชุมชนให้กับนักศึกษา นักศึกษาได้เรียนรู้ประสบการณ์การให้บริการวิชาการและวิชาชีพควบคู่ไปกับการ เรียนการสอนในรายวิชาที่เก่ียวข้อง ในส่วนของความต่อเนื่อง/การต่อยอดความรู้ที่ได้ มีการดําเนินการ คือ การบูรณาการงานบริการวิชาการและวิชาชีพกับการวิจัย โดยมี การนาํ ความรู้และประสบการณ์จากการใหบ้ รกิ ารวิชาการและวิชาชีพไปใช้ในการวิจัย ทั้งท่ีเป็นงานวิจัยจากโครงงานพิเศษทางด้านการแพทย์แผนไทยของนักศึกษา และ งานวิจัยของคณาจารย์ การให้บริการวิชาการและวิชาชีพจึงเป็นการใช้ประโยชน์ ร่วมกันในทุกส่วนท่ีเก่ียวข้อง กล่าวคือ ได้บริการวิชาการและวิชาชีพแก่สังคม ได้ บูรณาการบริการวิชาการวิชาการและวิชาชีพกับการเรียนการสอนและการวิจัย หรือ อาจกล่าวได้ว่า การดําเนินงานโดยภาพรวมท้ังหมด ได้พัฒนาวิชาการและวิชาชีพ พัฒนานักศึกษา พัฒนางานวิจัย และได้ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ผ่านการให้บริการวิชาการและวิชาชีพ เป็นไปตามพันธกิจของการให้บริการวิชาการ และวิชาชพี ของคณะการแพทย์แผนไทย 55
14. เอกสารอ้างอิง 14.1 รายงานประจําปกี ารประเมินคุณภาพ ปีการศึกษา/ ปีงบประมาณ 2550 14.2 รายงานประจําปกี ารประเมนิ คุณภาพ ปกี ารศกึ ษา/ ปีงบประมาณ 2551 14.3 รายงานประจําปกี ารประเมนิ คุณภาพ ปีการศกึ ษา/ ปงี บประมาณ 2552 14.4 แผนงานบรกิ ารวชิ าการ ปงี บประมาณ 2550 14.5 แผนงานบรกิ ารวชิ าการ ปงี บประมาณ 2551 14.6 แผนงานบรกิ ารวชิ าการ ปีงบประมาณ 2552 14.7 แผนงานบริการวชิ าการ ปงี บประมาณ 2553 14.8 รายงานผลการดําเนินการจัดโครงการบริการวิชาการแก่ชุมชน ภูมิ ปัญญาแพทย์แผนไทยส่ชู ุมชน ครั้งท่ี 3-6 14.9 คําส่ังแต่งต้ังคณะกรรมการดําเนินการจัดโครงการบริการวิชาการแก่ ชมุ ชน ภมู ิปญั ญาแพทยแ์ ผนไทยสชู่ มุ ชน ครัง้ ที่ 3-6 14.10 ประมวลการสอน/มคอ.3, 4 ในรายวิชาที่มีการบูรณาการ และรายงาน การวจิ ัยท่ีเก่ยี วข้อง 14.11 CAI : ส่ือการเรียนการสอน เรื่อง การนวดรักษาโรคมดลูกตํ่าและ โรคหวั ใจ 14.12 CAI : สื่อการเรียนการสอน เร่ือง การนวดอัมพฤกษ์ อัมพาต โดยสูตร การนวดของ หมอประวทิ ย์ แก้วทอง 14.13 CAI : ส่อื การเรียนการสอน เรอื่ ง การนวดรกั ษาโรคหมอนรองกระดูกทับ เสน้ ประสาท 56
ภาพกจิ กรรมจากการจัดโครงการภมู ิปัญญาแพทยแ์ ผนไทยสู่ชมุ ชน จัดโครงการฯ ท่ี อําเภอรตั ภูมิ จังหวัดสงขลา ปี 2551 57
จัดโครงการฯ ทส่ี ถานีอนามัยโคกมว่ ง อําเภอคลองหอยโขง่ จังหวัดสงขลา เม่อื วันท่ี 1 กมุ ภาพันธ์ 2552 จัดโครงการฯ ท่โี รงเรียนบา้ นคลองหวะ อําเภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา เมื่อวันท่ี 21 กรกฎาคม 2552 58
จัดโครงการฯ ท่โี รงเรียนวัดคงคาวดี อําเภอควนเนยี ง จังหวัดสงขลา เมือ่ วนั ที่ 22 กรกฎาคม 2553 จัดโครงการฯ ทโี่ รงเรียนบ้านคลองเปล อําเภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา เม่อื วนั ท่ี 3 กุมภาพันธ์ 2554 59
จดั โครงการฯ ท่ีบา้ นหนองเจ ตําบลวังหิน อําเภอบางขัน จงั หวดั นครศรีธรรมราช เมื่อวนั ท่ี 12-13 มีนาคม 2554 60
ดา้ นบรหิ ารจดั การ 61
62 2
แนวปฏบิ ัตทิ ี่เป็นเลศิ สุนทรยี สนทนา (Dialogue) ดา้ นบริหารจัดการ ศนู ยเ์ ครอ่ื งมอื วทิ ยาศาสตร์ หนว่ ยงาน 1. คณะกรรมการพัฒนาแนวปฏบิ ตั ิทเี่ ปน็ เลศิ คณะทํางานศึกษากระบวนการจัดการความรู้สู่องค์กรยุคใหม่ของศูนย์เคร่ืองมือ วิทยาศาสตร์ แต่งตั้งคร้ังแรกตุลาคม 2547 (ปัจจุบัน) แต่งตั้งโดยคําส่ังศูนย์เคร่ืองมือ วทิ ยาศาสตร์ ท่ี 2/2553 สัง่ ณ วนั ท่ี 11 มกราคม 2553 1.1 ผู้อํานวยการศูนย์เครอื่ งมอื วิทยาศาสตร์ ทีป่ รกึ ษา 1.2 นายสุกจิ อติพนั ธ์ ประธานคณะทํางาน 1.3 นายเวยี งชัย จงศรรี ตั นกุล คณะทํางาน 1.4 นายพรพจน์ หนทู อง คณะทาํ งาน 1.5 นายสตั ยา บุญรัตยชู คณะทํางาน 1.6 นายสตั ยารกั ษ์ ศกั ด์ิแสน คณะทาํ งาน 1.7 นางสาวดรรชนี สองประสม คณะทาํ งาน 1.8 นายฮัมดัน มะเซง็ คณะทาํ งานและเลขานกุ าร 2. ขอ้ มลู ท่วั ไปของหนว่ ยงาน 2.1 วตั ถปุ ระสงคแ์ ละ/หรอื ภารกจิ หลัก วัตถุประสงค์ในการดําเนินงานเพื่อรวมกิจกรรมด้านการให้บริการเครื่องมือ วิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน เพ่ือปรับปรุงให้มีเอกภาพด้านการจัดวางระบบงาน และเพ่ิม ประสิทธิภาพการเรียน การสอน การวิจัย และการบริการวิชาการ เพื่อให้บริการด้าน การใช้และการซ่อมบํารุงรักษาเคร่ืองมือวิทยาศาสตร์แก่นักศึกษา บุคลากรของ มหาวิทยาลัย และบุคลากรภายนอกได้อย่างเต็มท่ี รวมทั้งเป็นศูนย์ฝึกอบรมเชิง ปฏบิ ัตกิ ารและการสรา้ งเคร่ืองมือวทิ ยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัย การแบ่งส่วนราชการ ไดป้ ระกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 109 ตอนที่ 93 ลงวันท่ี 11 กันยายน 2535 โดย ใหแ้ บง่ ส่วนราชการศนู ยเ์ คร่อื งมือฯ ออกเป็น 3 ฝา่ ย ดังน้ี 1) สํานักงานเลขานกุ าร 2) ฝา่ ยซ่อมบํารงุ รกั ษาและพฒั นาเครอื่ งมอื 3) ฝ่ายบรกิ ารเครือ่ งมอื วจิ ัยทางวิทยาศาสตร์ 63
3.1 วสิ ยั ทศั น์/พนั ธกิจ วสิ ยั ทศั น์ เป็นองค์กรบริการเครื่องมือวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับ แนวหน้าของประเทศมีมาตรฐานคุณภาพในระดบั สากล พนั ธกิจ 1) ใหบ้ รกิ ารวชิ าการทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพตาม มาตรฐานสากล 2) มีผลงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมที่ตอบสนองความ ต้องการของชมุ ชน คุณคา่ ร่วมขององคก์ ร SHIP S = Service mind (จิตสํานึกบริการ) H = Happiness (อยู่ร่วมกนั อยา่ งมีความสขุ ) I = Innovation (สรา้ งสรรค์นวัตกรรม) P = Professional Practice (เชย่ี วชาญอย่างมอื อาชพี ) 3.2 บุคลากร อตั รากําลงั ปัจจุบันของศนู ยเ์ คร่ืองมอื วิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย (ข้อมูล ณ พฤษภาคม 2554) ผู้บริหารสูงสุด 1 คน คือ ผู้อํานวยการศูนย์เครื่องมือวิทยา- ศาสตรบ์ ุคลากรมที ัง้ ส้ิน 35 อตั รา โดยแบง่ ตามฝา่ ยตา่ ง ๆ ได้ ดังนี้ 1) สํานักงานเลขานุการ 9 คน ประกอบด้วย ข้าราชการ 3 คน พนักงาน มหาวิทยาลัย 1 คน ลูกจ้างประจํา 1 คน และพนักงานเงินรายได้ 4 คน 2) ฝ่ายบริการเคร่ืองมือวิจัยทางวิทยาศาสตร์ 20 คน ประกอบด้วย ข้าราชการ 5 คน พนักงานมหาวิทยาลัย 13 คน พนักงานเงินรายได้ 2 คน 3) ฝ่ายซ่อมบํารุงรักษาและพัฒนาเคร่ืองมือ 6 คน ประกอบด้วย ข้าราชการ 3 คน พนักงานมหาวิทยาลัย 2 คน พนักงานเงินรายได้ 1 คน 64 4
3.3 ภาระงาน 1) การให้บรกิ ารทดสอบ 2) การใหบ้ ริการสอบเทียบ 3) การให้บรกิ ารซ่อม/ สร้างเครอื่ งมือฯ 4) การให้บรกิ ารฝึกอบรม 5) การใหบ้ รกิ ารใช้เครือ่ งด้วยตนเอง 6) การให้บริการวชิ าการ เช่นการจัดการเรียนการสอน เยย่ี มชม 7) การให้บริการอืน่ ๆ เชน่ เป็นท่ีปรึกษา จาํ หนา่ ยน้าํ กลน่ั ฯลฯ 3.4 งบประมาณในการดําเนินงานขององคก์ ร 3.4.1 งบดําเนนิ การจากงบประมาณแผน่ ดิน 1,085,699.08 บาท 3.4.2 งบดาํ เนินการจากงบประมาณเงนิ รายได้ 9,454,815.26 บาท 3. หลกั การและเหตุผล ต้ังแต่ปี 2547 ศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็น หน่วยงานที่มีการดําเนินงานเชิงรุก มีกิจกรรม และมีการขยายขอบข่ายความสามารถ ในการให้บริการหลายรายการ โดยได้สะท้อนออกมาในรูปของผลการดําเนินงาน จํานวนปริมาณงาน รายได้ และรางวัลต่างๆ ซ่ึงภายใต้การเติบโตอย่างรวดเร็วน้ัน คณะผู้บริหารได้เล็งเห็นถึงความสําคัญของการจัดการความรู้ขององค์กรที่จําเป็น จะต้องพัฒนาให้เป็นอีกบริบทหนึ่งในการขับเคล่ือนศูนย์เคร่ืองมือฯ จึงได้มีการจัดต้ัง คณะทํางานศึกษากระบวนการจัดการความรู้สู่องค์กรยุคใหม่ของศูนย์เคร่ืองมือ วิทยาศาสตร์ขึ้นตั้งแต่ปี 2547 เพ่ือดําเนินกิจกรรมด้านการจัดการความรู้ขององค์กร ซึง่ ระบบการจัดการความรขู้ ององค์กรไดม้ กี ารดําเนนิ การในหลากหลายรูปแบบ และมี การใช้เทคโนโลยเี ข้าชว่ ยในการดําเนินกจิ กรรมมากมาย กระบวนการและรูปแบบการจัดการความรู้ท่ีมากข้ึน ปริมาณงาน/การให้บริการ ที่เพิ่มขึ้น ทําให้บุคลากรศูนย์เครื่องมือฯ ต้องดําเนินกิจกรรมทุกอย่างด้วยความเร่งรีบ กอร์ปกับภาระหน้าท่ีความรับผิดชอบที่หลายหลาย และแตกต่างกัน ทําให้การส่ือสาร ระหว่างหน่วยงานกับบุคลากร และบุคลากรด้วยกันเองเริ่มด้อยประสิทธิภาพ จนกระท่ังการส่ือสารกลายเป็นปัญหาสําคัญขององค์กร การส่ือสารส่วนใหญ่ในระยะ หลังกลายเป็นภาพของการส่ือสารทางเดียวท่ีก่อให้เกิดความคับข้องใจ ความไม่เข้าใจ และความผิดพลาดในการปฏิบัติงานก็เริ่มมีมากขึ้น ดังนั้น แนวคิดเรื่องกระบวนการ 65
สื่อสารภายในองค์กรท่ีเป็นลักษณะของการพัฒนากระบวนการคิดร่วมกัน จึงถูก นําเขา้ มาสศู่ นู ย์เครื่องมอื ฯ และผู้บริหารได้เลือกเคร่ืองมือหน่ึงท่ีช่ือว่า Dialogue หรือ สุนทรียสนทนา เข้ามาในองค์กรเป็นครั้งแรกในระหว่างวันท่ี 28 - 30 พฤศจิกายน 2551 ในช่วงกิจกรรม KM Days ของศูนย์เคร่ืองมือฯ และมีการสานต่ออีกคร้ังโดย การจัดให้ผู้นําและผู้บริหารกลุ่มใหม่ของศูนย์เคร่ืองมือฯจํานวน 4 ท่านเข้าอบรม หลักสูตร “KM ท่ีทําได้” คร้ังท่ี 5 ในระหว่างวันที่ 11 - 14 มิถุนายน 2552 ณ สถาบนั ขวัญเมือง มูลนธิ สิ งั คมวิวฒั น์ องิ ดอยรสี อรท์ จังหวดั เชยี งราย ซึ่งหลังจากคณะ ผู้นําได้ผ่านการศึกษาและเล็งเห็นประโยชน์ร่วมกันว่า แม้ว่าความรู้และการเรียนรู้ เป็นพื้นฐานท่ีสําคัญในการผลักดันให้องค์กรประสบความสําเร็จ แต่ถ้าการเรียนรู้ รว่ มกนั เหล่าน้ีเกิดจากการทบี่ คุ ลากรขาดทกั ษะการฟังอย่างล่มุ ลกึ และละเลยทักษะ การไตร่ตรองทางความคิด ก็จะทําให้ขาดสมดุลในการสื่อสาร และเกิดเป็นปัญหา เช่นเดียวกับท่ีศูนย์เครื่องมือฯ ประสบอยู่ ดังน้ัน จึงได้นํา Dialogue หรือสุนทรีย สนทนา เข้ามาสู่บุคลากรศูนย์เคร่ืองมือฯอย่างเป็นทางการ โดยผ่านรูปแบบการจัด อบรมเชิงปฏิบัติการนอกสถานท่ีระหว่างวันที่ 13 - 14 กรกฎาคม 2552 ในท่ีสุด Dialogue หรือสุนทรียสนทนาจึงได้กลายเป็นกระบวนการสื่อสารภายในองค์กร กระบวนการหนึ่งที่มีการกระตุ้นและดําเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องมาต้ังแต่ปี 2552 ภายใต้ขอบเขตการดําเนินกิจกรรมท่ีเปน็ ลักษณะของ - เนน้ กิจกรรมท่ีเป็นการพฒั นากระบวนการคิดรว่ มกนั - การเน้นในเรื่องการส่ือสารท่ีไม่เพียงแต่เข้าไปในเน้ือหาที่ใครคนหนึ่ง พูด หรือคิด หรือรู้สึกเท่าน้ัน แต่ยังลุ่มลึกเข้าไปสู่ในเรื่องของแรง กระตุ้น สมมติฐาน ความรู้ และความเชื่อต่างๆ ที่เป็น “สิ่งสะสม” อัน เปน็ พื้นฐานแห่งการแสดงออกและการปฏบิ ตั ิของบุคลากร - เป็นการสนทนาภายในกลุ่ม เพ่ือสร้างความรู้ความเข้าใจและถ่ายทอด ความร้รู ะหว่างกัน - เป็นการสนทนาที่ผู้เข้าร่วมมีสภาวะการรู้ตัวท่ีลุ่มลึกไปยังการทําความ เข้าใจในสมมติฐานของตนเองและของผู้อ่ืน และแขวน ไว้ และไม่ ตดั สนิ เพือ่ สรา้ งให้เกิดการไตรต่ รองทางความคิด - เปน็ การดาํ เนนิ การเพือ่ ให้เกิดกระแสการไหลของความหมาย ความคิด ความเขา้ ใจระหว่างบคุ คลภายในกลมุ่ 66 6
- เป็นการทําให้กลุ่มเกิดการคิดและการเรียนรู้ร่วมกัน โดยเน้นท่ีการ ฝึกฝนทักษะส่วนบุคคล โดยให้ความสําคัญกับการไตร่ตรองความคิด เป็นการคดิ ท่ลี ่มุ ลกึ ลงไปในระดับของจติ ใจ - เป้าหมาย คือ ไดผ้ ลลพั ธใ์ นการพัฒนากระบวนการคิด เพื่อความเข้าใจ ในระดับท่ีหย่ังลึก และเพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพของการทํางานร่วมกันใน หน่วยงาน 4. แผนงาน (Approach)/งบประมาณในการจดั โครงการ-กจิ กรรม 4.1 แผนงาน คณะทํางานศึกษากระบวนการจัดการความรู้สู่องค์กรยุคใหม่ของศูนย์เครื่องมือ วิทยาศาสตร์ ได้กําหนดแผนการดําเนินกิจกรรม Dialogue หรือสุนทรียสนทนาเป็น ส่วนหน่ึงของแผนการดําเนินการจัดการความรู้ ของศูนย์เคร่ืองมือฯ เป็นประจําทุกปี โดยแผนดังกล่าวจะผ่านการอนุมัติและประกาศใช้โดยผู้อํานวยการศูนย์เครื่องมือฯ และประกาศใช้แก่บุคลากร โดยกําหนดให้เป็นหนึ่งในแผนการดําเนินงานระบบ ประกันคุณภาพของศูนย์เคร่ืองมือฯ ท่ีจะต้องเป็นการจัดทําและทบทวนเป็นประจํา ตลอดจนตอ้ งมีการรายงานผลการดําเนนิ งานเป็นรายไตรมาส 4.2 งบประมาณ งบประมาณในการจัดกิจกรรม Dialogue หรือสุนทรียสนทนา (กําหนด งบประมาณต่อคร้ังสนับสนุนการดําเนินกิจกรรมเป็นค่าอาหารว่างสําหรับดําเนิน กิจกรรม) ประมาณการในปีการศึกษา 2553 กําหนดไว้ท่ี (25 บาท x 35 บุคลากร x 16 ครั้ง) รวม 14,000 บาท 5. กระบวนการ (Process) หรือการปฏิบตั ิงานตามแผน (Deployment) กระบวนการ/ขั้นตอนการดําเนินงานในการจัดกิจกรรม Dialogue หรือสุนทรีย สนทนาของศนู ย์เคร่อื งมอื วทิ ยาศาสตร์น้ัน กําหนดการแบ่งทีมเพื่อจัดกิจกรรมตามทีม คุณภาพ (ทีมคุณภาพ เป็นทีมที่กําหนดข้ึนเพ่ือดําเนินงานด้านกิจกรรมคุณภาพ/เพิ่ม ประสิทธิภาพของระบบคุณภาพของหน่วยงาน โดยเป็นการกําหนดทีมตามความ สมัครใจ ซึ่งทีมคุณภาพนี้จะมีการทบทวนและปรับเปลี่ยนสมาชิกเป็นประจําทุกปี) โดยมีคณะทํางานศึกษากระบวนการจัดการความรู้สู่องค์กรยุคใหม่ เป็นผู้ 67
ประสานงาน/อํานวยความสะดวกในการดําเนินกิจกรรมอย่างใกล้ชิด มีข้ันตอน/ กระบวนการการดาํ เนนิ งานดงั น้ี 5.1 กาํ หนดทมี การดําเนนิ งาน (ทมี คณุ ภาพ) 5.2 คณะทํางานศึกษากระบวนการจัดการความรู้สู่องค์กรยุคใหม่ของศูนย์ เครื่องมือวิทยาศาสตร์ กําหนดแผนการดําเนินกิจกรรม กําหนดเดือนละ 1 ครั้ง (เดมิ ในปงี บประมาณ 2552 - 2553 กําหนดเดือนละ 2 ครงั้ ) 5.3 ทีมคุณภาพที่รับผิดชอบการดําเนินกิจกรรมในรอบน้ันๆ ประชุมกําหนด รูปแบบการดําเนินกิจกรรม โดยประสานงานร่วมกับคณะทํางานศึกษา กระบวนการจดั การความรสู้ อู่ งค์กรยุคใหม่ 5.4 ทีมคุณภาพที่รับผิดชอบการดําเนินกิจกรรมในรอบน้ันๆ ประชาสัมพันธ์ หวั ขอ้ Theme การดําเนนิ กจิ กรรม 5.5 ทีมคุณภาพท่ีรับผิดชอบการดําเนินกิจกรรมในรอบน้ันๆ จัดกิจกรรมตาม แผนที่กําหนด โดยกิจกรรมจะมีลักษณะท่ีหลากหลาย เน้นบรรยากาศที่ ผ่อนคลายและสอดคล้องตาม ขอบเขตการดําเนินกิจกรรม ที่ระบุใน หลักการและเหตุผล 5.6 คณะทํางานศึกษากระบวนการจัดการความรู้สู่องค์กรยุคใหม่ของศูนย์ เคร่ืองมอื วิทยาศาสตร์ ดาํ เนนิ การติดตาม/ประเมินผลการดําเนนิ กิจกรรม ทั้งนี้การดําเนินกิจกรรม Dialogue หรือสุนทรียสนทนา ผ่านการดําเนินงานโดย ทีมคุณภาพได้เร่ิมดําเนินการตั้งแต่ 13 สิงหาคม 2552 จนถึงปัจจุบัน 5 พฤษภาคม 2554 รวมทั้งสิ้น 29 คร้ัง โดยในช่วงปีงบประมาณ 2552-2553 ดําเนินการเฉล่ีย เดือนละ 2 ครั้ง ส่วนในปีงบประมาณ 2554 ดําเนินการเดือนละ 1 คร้ัง (เนื่องจาก ป้องกันการเกิดผลกระทบต่อการให้บริการ) ซ่ึงรายละเอียดการดําเนินงานแสดงดัง ตาราง 1 68 8
วนั เดอื นปี หวั ข้อเรื่องสุนทรียสนทนา โดย ผเู้ ข้าร่วม (Dialogue) (คน) 13 ส.ค. 2552 30 26 ส.ค. 2552 Happy Organization ทีม KM 33 9 ก.ย. 2552 30 24 ก.ย. 2552 Unity Organization ทีม เกนิ ร้อย 33 7 ต.ค. 2552 สายสัมพันธ์ สรรคส์ รา้ งทีมงาน ทีม 5ช 31 21 ต.ค. 2552 32 4 พ.ย. 2552 อมิ่ เอมเปรมอรุ า สนทนาประสา ทมี Focus 31 18 พ.ย. 2552 33 2 ธ.ค. 2552 ชาวศูนย์ฯ 32 16 ธ.ค. 2552 33 Living Organization ทมี Lunch 10 ก.พ. 2553 35 สามัคคีอยา่ งมสี สี นั ทมี Gang of 5 24 ก.พ. 2553 31 24 มี.ค. 2553 LO (1) ทีม ยงั เก๋าอยู่ 29 7 เม.ย. 2553 33 21 เม.ย. 2553 รจู้ รงิ ป่ะ ทีม Breakfast 30 26 พ.ค. 2553 สุขใจ ทมี สขุ ใจ 26 2 มิ.ย. 2553 26 23 มิ.ย. 2553 My Impression My ทมี KM 26 7 ก.ค. 2553 25 21 ก.ค. 2553 Memories 27 4 ส.ค. 2553 31 คุยกันมากข้ึน ฟังกันมากขึ้น ทีม CHANGE 25 ส.ค. 2553 31 15 ก.ย. 2553 เข้าใจกนั มากข้นึ 29 สนุกกบั ชวี ติ ไรก้ รอบแบบชวิ ๆ ทีม อ๊อด อ๊อด เหตแุ หง่ …ความประทบั ใจ ทมี Violet ลอ่ งเรือหารกั ทมี โอย๊ัวะ สร้างสรรค์ สร้างพลัง สร้าง ทมี Amity มติ รภาพ ส่ือรัก ส่อื ภาษา ทีม Easy season change ทมี Change ดนั ดารา ทมี อ๊อด อ๊อด อโรคา ปาร์ตี้ ทีม โอยว๊ั ะ Happy secret ทมี Violet จ๊ิกซอว์ ต่อใจ เช่ือมสายใย ทมี Amity สามคั คี ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผกู พัน ทีม Easy “เปิดใจ เข้าใจ” ทีม KM / ผ.อ. 69
วนั เดอื นปี หัวข้อเรื่องสนุ ทรยี สนทนา โดย ผเู้ ขา้ ร่วม (Dialogue) (คน) 17 พ.ย. 2553 9 ธ.ค. 2553 พอเพยี ง ทมี KM 28 9 ก.พ. 2554 9 ม.ี ค. 2554 World Café ทีม KM 33 11 เม.ย. 2554 ภาษาดอกไม้ ทีม Ladies Man 28 5 พ.ค. 2554 รหัสลบั พคิ ัสโซ่ ทีม ชิว ชวิ 28 สงกรานต์ สานสัมพันธ์ ร่วมใจ ทีม Bunny 31 ร่วมสร้าง team ช่นื ชวี า มาระตี ทีม Go on 33 6. การประเมิน ทบทวน ผลการดําเนนิ งาน (Assessment and Review) 6.1 การประเมนิ ผลการดาํ เนนิ กิจกรรมรบั ผิดชอบโดยคณะทํางานศกึ ษา กระบวนการจัดการความรู้สูอ่ งคก์ รยคุ ใหม่ โดยศูนย์เครือ่ งมอื ฯ กําหนดใหม้ ี การติดตาม และประเมินเพอ่ื ทบทวนผลการดําเนินงานในหลายรูปแบบและ อยา่ งต่อเนื่อง ดังนี้ 6.2 มกี ารสรุปและประเมนิ ผลหลังการดาํ เนินกิจกรรมทุกครัง้ 6.3 มกี ารรายงาน ติดตามผลการดําเนินงาน และกาํ หนดรปู แบบการดําเนนิ กจิ กรรมในทปี่ ระชุมทีมบรหิ ารเป็นประจาํ ทุกสัปดาห์ 6.4 มกี ารสรุป และรายงานผลการดําเนินกิจกรรมสูท่ ่ีประชมุ บคุ ลากรเปน็ ประจําทุกเดือน 7. แผน หรือแนวทางการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเน่อื งในอนาคต กิจกรรม Dialogue หรือสุนทรียสนทนาของศูนย์เครื่องมือฯที่ผ่านมาเป็น ลักษณะ/รูปแบบของการดําเนินกิจกรรมที่มุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์และการมี ส่วนร่วมของบุคลากรในบรรยากาศผ่อนคลายและบรรยากาศที่เป็นมิตร เพ่ือให้ บุคลากรได้ทบทวนและค้นพบสิ่งท่ีให้คุณค่าและมีความห่วงใยอย่างแท้จริง ตลอดจน การสร้างความสนุกสนานท่ีผสานแง่คิด มุมมองที่นอกเหนือการงานในปัจจุบัน ท้ังนี้ เพราะเนอ่ื งจากกิจวตั รประจาํ วันของบุคลากรในการปฏิบัติงานทกุ วนั นจ้ี ะเป็นไปอย่าง เร่งรีบ และมีกรอบ/ขั้นตอนการปฏิบัติงานท่ีค่อนข้างเคร่งครัด ตลอดจนการมุ่งเน้น ความถูกต้องและคุณภาพของผลการปฏิบัติงานทําให้บุคลากรเกิดความเคร่งเครียด 70 10
และมีความเสี่ยงต่อการเกิดความขัดแย้งภายในองค์กรอยู่เสมอ นอกจากน้ีเนื่องจาก บุคลากรส่วนใหญ่ของศูนย์เครื่องมือฯ เป็นบุคลากรที่อยู่ในวัยทํางาน ปฏิบัติงานทาง วิชาการและทางเทคนิค (เช่น นักวิทยาศาสตร์ และวิศวกร) มีวุฒิการศึกษาระดับ ปริญญาโท จึงค่อนข้างมีลักษณะของการกล้าแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง มีการ ทํางานเชิงรุก และมีความเชื่อม่ันในตนเองสูง การทํากิจกรรม Dialogue หรือสุนทรีย สนทนาในลักษณะที่ดาํ เนนิ งานกันมายังคงมคี วามจาํ เปน็ ในการดําเนินกิจกรรมต่อ แต่ มแี นวทางในการพฒั นาคุณภาพอย่างต่อเน่อื งในอนาคต ดังนี้ 7.1 ไม่กําหนดกรอบ แนวคิดการดําเนินกิจกรรมเพื่อให้มีการดําเนินการในเชิง สร้างสรรคแ์ ละเป็นอสิ ระ โดยมีเปา้ หมายเดยี วในเชิงผลลัพธจ์ ากการดําเนิน กิจกรรมคอื “รอยยม้ิ ” 7.2 สอดแทรกคาํ วา่ “สุนทรยี สนทนา” ไปยงั การดาํ เนินงานตามปกติ เช่น การ ประชุมกลุ่มย่อย, การประชุมทีมบริหาร, การประชุมบุคลากร หรือแม้แต่ ระหว่างการปฏิบัติงาน โดยมีเป้าหมายให้มีการหันหน้าเข้าหากันพ่ึงพา อาศัยกันในสนามแห่งการตระหนักรู้ร่วม เพ่ือสืบค้นและเพิ่มพูนความ เข้าใจให้กับชีวิต เน้นให้เกิดสภาวะจิตที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้เชิงลึกผ่าน กิจกรรมท่ีหลากหลาย ไม่เคร่งเครียด ไม่เป็นทางการ และมีความเป็นมิตร ตอ่ กนั และกนั 7.3 เปิดออกสู่ภายนอกโดยแสวงหารูปแบบการดําเนินกิจกรรมใหม่ๆ เพ่ือเน้น การปรับเปล่ียนกระบวนทัศน์ที่ส่งผลต่อพฤติกรรม ให้มากไปกว่าการ ปรบั เปลยี่ นเพยี งพฤตกิ รรมในระยะสน้ั 7.4 ประเมินผลการดําเนินกิจกรรมโดยเน้นการประเมินในเชิงคุณค่าจากการ ดําเนินกิจกรรม และขยายผลการประเมินไปสู่กิจกรรมอ่ืนท่ีนํา“สุนทรีย- สนทนา” ไปใช้ เพราะความรู้ร่วมจากทุกกิจกรรมจะเกิดขึ้นเมื่อมีการ แบ่งปันความรู้สึกนึกคิด มุมมองท่ีหลากหลาย จากประสบการณ์ตรงที่มี ชวี ติ และหลากหลายใหก้ ันและกนั ในบรรยากาศท่ีปลอดภัย ไว้วางใจ ผ่อน คลายและตน่ื ตวั 7.5 เพ่ิมกระบวนการถ่ายทอดความรู้จากการดําเนินกิจกรรมที่นอกเหนือจาก การเขียนเป็นบันทึกใน Share.psu.ac.th โดยให้มีการสรุปแนวคิดการ ดําเนินกิจกรรม และถอดเป็นบทเรียนที่เป็นรูปธรรมเข้าสู่คลังความรู้ของ ศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์ (Knowledge Database) ซ่ึงบุคลากรและ 71
บุคคลท่ัวไปสามารถเข้าถึงได้ เพ่ือเป็นฐานในการส่งมอบความรู้ในการจัด กิจกรรม “สนุ ทรียสนทนา” ใหก้ บั หนว่ ยงานอนื่ ๆ ตอ่ ไป 8. จุดแขง็ หรอื สิ่งที่ทาํ ได้ดีในประเดน็ ทน่ี าํ เสนอ สิ่งทีท่ ําได้ดีจนศนู ย์เครอ่ื งมอื ฯพิจารณานาํ เสนอ กิจกรรม Dialogue หรือสุนทรีย สนทนา เป็นแนวปฏิบัติท่ีดี (Good Practice) ประจําปีการศึกษา 2553 น้ันเนื่องจาก คณะบุคลากรพิจารณาแล้วว่าเป็นกิจกรรมเดียวท่ีสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ นํ้าตา และความประทับใจ โดยไม่มีความเคลือบแคลงสงสัย หรือความเข้าใจท่ีคลาดเคลื่อน ไปจากเป้าหมายของกิจกรรม จนอยากจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อให้เกิดการ ปฏิบัติตามหรือนําไปปฏิบัติต่อในหน่วยงานอ่ืนอย่างภาคภูมิใจและไม่ละอายท่ีจะ นําเสนอ ซ่งึ มีจุดแขง็ ในการดาํ เนนิ กจิ กรรมเพ่ือเป็นแนวทางในการพัฒนาในหน่วยงาน อ่นื หรือเพ่มิ คุณภาพในการดาํ เนนิ กิจกรรมของศูนยเ์ ครอ่ื งมือฯเองได้ ดงั นี้ 8.1 การมีคณะทํางานศึกษากระบวนการจัดการความรู้สู่องค์กรยุคใหม่ หรือท่ี เรียกว่า KM TEAM เป็นผู้ขับเคลื่อน และผู้สนับสนุนการดําเนินกิจกรรมให้ มขี ้ึนอย่างตอ่ เนอื่ ง ซง่ึ คณะทํางานน้ีเปน็ ผทู้ ่มี ีความเสียสละสงู 72 12
8.2 ผู้บริหารให้การสนับสนุนท้ังงบประมาณ และเวลาในการเข้าร่วมกิจกรรม สมํ่าเสมอ 8.3 ความคิดสร้างสรรค์ของบุคลากรในการกําหนดกิจกรรมแต่ละคร้ังทําให้เกิด แรงจูงใจในการเข้าร่วมกิจกรรมของบุคลากรในครั้งต่อๆ ไป เพราะความ เหนื่อยล้าจากการดําเนินกิจกรรมตามปกติได้ถูกสลาย/ผ่อนคลายจากการ เข้ารว่ มกจิ กรรม ทาํ ให้เกดิ ความอยากเขา้ ร่วม 8.4 การกําหนดให้ KM เป็นภารกิจหลักของหน่วยงานของบุคลากร เป็น KPI และกาํ หนดใหต้ ้องมกี ารรายงานผลการดําเนินงานเปน็ ประจาํ 8.5 ความรักสนุกของบุคลากร (เป็นสิ่งท่ีมีอยู่ในหัวใจของคนทุกคนอยู่แล้ว เพยี งแตเ่ ม่อื ไหร่จะถูกกระตนุ้ ให้นําออกมา) 9. กลยุทธ์ หรอื ปัจจัยทีน่ าํ ไปสู่ความสาํ เร็จ ปัจจยั ที่นําไปส่คู วามสําเร็จในการดําเนินกิจกรรม Dialogue หรือสุนทรียสนทนา ของศูนย์เคร่ืองมือวิทยาศาสตร์ นอกจากจุดแข็งในการดําเนินกิจกรรมท่ีได้แสดงใน หัวข้อกอ่ นหน้านแี้ ล้วน้ัน ยังมกี ลยุทธห์ รอื ปจั จยั ทนี่ าํ ไปสู่ความสาํ เร็จเพิ่มเตมิ ดงั น้ี 9.1 การมีอาหารว่างที่สร้างสรรค์ในการจัดเตรียมที่หลากหลาย และสะท้อน ความตั้งใจของผู้จัด นอกจากนี้บางครั้งกําหนดให้มีการทําอาหารเพ่ือ แลกเปล่ียนรับประทานกนั เองระหว่างกลมุ่ 9.2 แม้ว่าศูนย์เคร่ืองมือฯ จะมีสถานที่ในการดําเนินกิจกรรมค่อนข้างจํากัด และคับแคบ แต่ได้พยายามจัดให้เอ้ือต่อบรรยากาศ Dialogue หรือ สุนทรียสนทนา ตลอดจนการจัดให้มีระบบแสง เสียง ท่ีเหมาะสมกับ ข้อจํากัดหน่วยงาน 9.3 ความสามารถในการสรา้ งสรรค์กิจกรรมท่ีไม่น่าเบ่ือ เน้นการหลีกหนี/ทําให้ ลืมความสับสน วุ่นวายจากการดําเนินกิจกรรมในปัจจุบัน มีเกมส์ มี กจิ กรรมท่ที ําให้มีการเคลือ่ นไหวรา่ งกาย และการกลา้ แสดงออก 9.4 การถอดหมวกตําแหน่งต่างๆ ก่อนก้าวเข้าสู่พื้นที่กิจกรรมของบุคลากรทุก คน 9.5 การกําหนดแผนการดําเนินกิจกรรมท่ีชัดเจน และการกําหนดให้มีการ ประชาสมั พันธก์ ิจกรรมล่วงหนา้ เพ่ือสร้างแรงจงู ใจในการเขา้ รว่ มกิจกรรม 73
10. ผลการดําเนนิ งาน การจัดกิจกรรม Dialogue หรือสุนทรียสนทนาของศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์ ตัง้ แต่ 13 สิงหาคม 2552 จนถึงปัจจุบัน จัดไปแล้วทั้งสิ้น 29 ครั้ง สามารถดําเนินการ ไดต้ ามแผนทก่ี ําหนด 95% มเี พยี งบางครง้ั เทา่ น้นั ท่ไี ม่สามารถจดั ได้ตามแผนเนื่องจาก มีกิจกรรมอนื่ แทรกเขา้ มาทาํ ให้ช่วงเวลาในการให้บริการลูกค้าอาจจะลดน้อยลงหากมี การดําเนินกิจกรรม ซ่ึงในส่วนของกิจกรรม Dialogue หรือสุนทรียสนทนา สามารถ สรปุ ผลคะแนนผลการประเมินความคิดเห็นต่อกิจกรรมจากการดําเนินกิจกรรม แสดง เปน็ รอบปีปฏทิ ินได้ ดังน้ี 90.00 83.12 89.13 ป 2553 ป 2554 88.00 86.00 84.00 83.20 82.00 80.00 ป 2552 หมายเหตุ : กจิ กรรมการจัดการความรู้กําหนดแผนการดาํ เนนิ งานเปน็ ปปี ฏิทิน นอกจากนีใ้ นสว่ นของข้อคดิ เห็นจากการประเมนิ ในมุมมองของบุคลากรจาก การสรุปความคิดเห็นของกิจกรรมในส่วนของรายละเอียดแสดงข้อมูลในผลลัพธ์เชิง คุณคา่ ของกจิ กรรมจากการดําเนนิ กิจกรรมได้ ดังน้ี (แสดงเปน็ ร้อยละ) 74 14
ไดเ้ รียนรู้ประสบการณแ์ ละรปู แบบการจดั กิจกรรมเพ่มิ มากขึน้ 80 88 ไดแ้ บง่ ปันความคดิ สรา้ งความเขา้ ใจ เปิดรบั ฟงั ความคดิ เหน็ มากขนึ้ 85 80 85 ไดฝ้ ึกทกั ษะการฟงั อยา่ งตั้งใจมากข้ึน 82 ไดเ้ รยี นรู้ นําไปสู่การสือ่ สารที่มปี ระสิทธภิ าพและประสบความสําเร็จ 86 82 ได้ปรับทัศนคติทมี่ ตี ่อเพือ่ นรว่ มงานไปในทางที่ดีมากขน้ึ นําความรู้/ประสบการณไ์ ปพฒั นาการทํางานและชวี ิตครอบครวั ภาพรวมประสบความสําเร็จ เป็นกจิ กรรมทมี่ ปี ระโยชนแ์ ละควรจัดตอ่ ไป 78 80 82 84 86 88 ภาพบรรยากาศการจดั กจิ กรรมสนุ ทรียสนทนา 75
11. นวตั กรรม การจัดกิจกรรม Dialogue หรือสุนทรียสนทนาของศูนย์เคร่ืองมือวิทยาศาสตร์ น้ัน เน่ืองจากคณะผู้จัดมีการสลับปรับเปลี่ยนหมุนเวียนกันโดยตลอด ทําให้มีกิจกรรม เชิงสร้างสรรค์จนแทบจะเรียกได้ว่ามีนวัตกรรมในทุกรอบการจัด ซ่ึงสรุปได้ว่ามี นวัตกรรมใหม่ท่ีเกิดจากการจัดกิจกรรม Dialogue หรือสุนทรียสนทนา ที่ค้นพบได้ คือ การมีนวัตกรรมเชิงความคิดของบุคลากร เป็นนวัตกรรมท่ีสะท้อนออกมาในรูป ของการปรับเปล่ียนพฤติกรรมในการทํางาน การประชุม และการใช้ชีวิตประจําวัน ของบุคลากรแต่ละท่าน ซง่ึ เป็นไปในทางบวก มีคณุ ค่า และสะทอ้ นผลลัพธ์ออกมาเป็น ความสามารถในการปฏิบัติงานร่วมกัน ความร่วมมือร่วมใจ และการรับมือต่อความ กดดันที่เกดิ จากเพ่อื นรว่ มงาน หรอื บุคคลทว่ั ไปในสังคม 12. บทสรปุ การจัดกิจกรรม Dialogue หรือสุนทรียสนทนาของศูนย์เคร่ืองมือวิทยาศาสตร์ เป็นกิจกรรมท่ีเปิดมุมมองของบุคลากรศูนย์เครื่องมือฯ แก้ปัญหาด้านการบริหาร จัดการขององค์กรโดยเฉพาะเร่ืองการสื่อสารท่ีมีความคลาดเคลื่อน และมีความ ผิดพลาด จนก่อให้เกิดความไม่เข้าใจ ความคับข้องใจ ซ่ึง Dialogue หรือสุนทรีย สนทนา ช่วยชะลอการทํางานที่เร่งรีบจนลืมตระหนักรู้ ลืมมิตรภาพ และความรู้สึก ของเพื่อนร่วมงาน ถือเป็นการรับฟังวิธีคิด วิธีการให้คุณค่า ความหมายของคนอ่ืนต่อ ส่ิงที่พูด เพื่อเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ละทิ้งส่ิงที่แต่ละคนยึดถือ เพื่อข้ามความเป็นตัวตน ไปพร้อมๆ กนั และจากการจดั กิจกรรมทาํ ใหม้ ีกระบวนการคิดร่วมกนั อยา่ งสร้างสรรค์ ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีบทสรุป เกิดการพัฒนากระบวนการคิด สร้างความเข้าใจใน ระดบั ทหี่ ยั่งลึก ตกผลึกจนเกิดเป็นชุดความรู้ใหม่ในตัวบุคลากรท่ีลุ่มลึกกว่าความรู้เดิม ที่มีอยู่ จากการฟัง อ่าน หรือความเข้าใจเอาเองในอดีต อย่างน้อยที่สุดคือการมีภาพ ของความดใี จทุกครั้งทม่ี าเจอกัน มาพบปะ พดู คยุ เพือ่ บอกเลา่ แลกเปลี่ยน ภายใต้คํา สําคัญคอื “รว่ มกนั ” 13. เอกสารอา้ งอิง 13.1 รายงานการดําเนินงานคณะทาํ งานศึกษากระบวนการจัดการความรู้สู่ องค์กรยคุ ใหม่ 13.2 รายงานการประชุมบุคลากรศนู ยเ์ ครื่องมือวิทยาศาสตร์ (รายเดือน) 76 16
ภาคผนวก 77
78
กระบวนการคัดเลือกแนวปฏบิ ัติท่เี ป็นเลศิ มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีการคัดเลือกแนวปฏิบัติท่ีเป็นเลิศ ตั้งแต่ปี การศึกษา 2548 จนถึงปีการศึกษา 2553 นับเป็นปีท่ี 6 โดยมีการพัฒนา กระบวนการคัดเลือกมาโดยตลอด จากเดิมกําหนดให้คณะกรรมการประเมินคุณภาพ ภายในระดับคณะ/หน่วยงาน ที่ประเมินหน่วยงานน้ันๆ เป็นผู้ประเมินและพิจารณา ว่าหน่วยงานน้ันมีกระบวนการอะไรท่ีเป็นแนวปฏิบัติที่ดี (Good Practices : GP) แล้วสํานักงานประกันคุณภาพ นําข้อเสนอของคณะกรรมการแต่ละชุดพิจารณา ร่วมกันในสัมมนาประธานคณะกรรมการประเมิน เพ่ือพิจารณาเป็นแนวปฏิบัติที่เป็น เลิศ (Best Practices : BP) ระดับมหาวิทยาลัยแล้วจึงนําเข้าพิจารณาเห็นชอบใน คณะกรรมการอํานวยการขับเคล่ือนยุทธศาสตร์ และออกประกาศมหาวิทยาลัยอย่าง เป็นทางการ จากกระบวนการดังกล่าวมีปัญหา คือ มหาวิทยาลัยไม่สามารถพิจารณาแนว ป ฏิ บั ติ ที่ เ ป็ น เ ลิ ศ ไ ด้ ทั น ก่ อ น ก า ร ป ร ะ เ มิ น คุ ณ ภ า พ ภ า ย ใ น ร ะ ดั บ ม ห า วิ ท ย า ลั ย มหาวิทยาลัยจึงปรับเปลี่ยนกระบวนการใหม่เป็นแบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบันและมีการ กําหนดแผนดําเนินการและกรอบเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้ได้ผลการพิจารณาก่อนการ จดั ทํา SAR ระดับมหาวทิ ยาลยั โดยมีรายละเอยี ดดังน้ี 1. สํานักงานประกันคุณภาพส่งหนังสือเพื่อแจ้งให้คณะ/หน่วยงานส่งแนว ปฏบิ ตั ทิ ดี่ ีมายังสํานักงานประกนั คุณภาพ 1.1 คณะ/หน่วยงานนําเสนอแนวปฏิบัติท่ีดี (Good Practices) เพื่อให้ กรรมการพิจารณาแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศคัดเลือก โดยจัดส่งเอกสาร พร้อมไฟล์ดังกล่าวมายังสํานักงานประกันคุณภาพ ภายใน วันท่ี 15 พฤษภาคม 2554 1.2 คณะกรรมการประเมินคุณภาพภายในเป็นผู้เสนอแนวปฏิบัติท่ีดี (Good Practices) ของคณะ/หน่วยงานไปยังมหาวิทยาลัย โดยจัดส่ง เอกสารพร้อมไฟล์ดังกล่าวมายังสํานักงานประกันคุณภาพ ภายใน วนั ท่ี 15 กรกฎาคม 2554 2. การกรอกแบบฟอร์มแนวปฏิบัติท่ีดี คณะ/หน่วยงานต้องกรอกแบบฟอร์ม แนวปฏิบัติท่ีดี (GP) ซึ่งในแบบฟอร์มจะมีรายละเอียดที่ทําให้คณะกรรม พจิ ารณาแนวปฏิบัตทิ ่เี ป็นเลศิ การทราบทั้งแผนงาน แนวทางการปฏิบัติและ ผลลพั ธ์ ฯลฯ ซึง่ มีขอ้ มลู เพยี งพอสาํ หรบั การตัดสินใจของคณะกรรมการ 79
1. แบบฟอร์มแนวปฏิบตั ทิ ่ีดี 1. โครงการ - กิจกรรม - แนวปฏบิ ัตทิ ีด่ ้าน...................................... 2. หนว่ ยงาน 3. คณะทาํ งานพัฒนาแนวปฏบิ ัติท่ีดี (Good Practices) 4. ข้อมลู ทัว่ ไปของคณะ/หนว่ ยงาน 4.1 วิสยั ทัศน/์ พนั ธกิจ 4.2 บุคลากร/นกั ศึกษา 4.3 งบประมาณ/ภาระงาน ฯลฯ 5. หลักการและเหตผุ ล 6. แผนงาน (Approach)/งบประมาณในการจดั โครงการ-กจิ กรรม 7. กระบวนการ (Process) หรอื การปฏบิ ัตงิ านตามแผน (Deployment) 8. การประเมินทบทวนผลการดําเนนิ งาน (Assessment & Review) 9. แผน หรอื แนวทางการพัฒนาคุณภาพอย่างตอ่ เน่อื งในอนาคต 10. จุดแขง็ (Strength) หรือสิ่งท่ที าํ ได้ดใี นประเดน็ ทีน่ าํ เสนอ 11. กลยทุ ธ์ หรอื ปจั จยั ท่ีนําไปสู่ความสาํ เร็จ 12. ผลการดาํ เนนิ งาน (Result) (เปรียบเทียบ 3 ปี) และ/หรือเปรียบเทียบ กับหนว่ ยงานภายใน/ภายนอก 13. นวตั กรรม 14. บทสรุป 15. เอกสารอา้ งองิ ก่อนส่งแนวปฏิบัติที่ดีท้ังหมดให้คณะกรรมการพิจารณาแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ สํานักงานประกันคุณภาพจะทํา Check List เพ่ือตรวจสอบความครบถ้วนของการ กรอกแบบฟอร์มแล้วส่งแนวปฏิบัติท่ีดีท้ังหมดให้คณะกรรมการแต่ละท่านล่วงหน้า โดยให้เวลา 2 สัปดาห์ (Individual Assessment) แล้วจึงนัดประชุมเพื่อพิจารณา ร่วมกัน (Consensus Assessment) และตัดสินผล แล้วจึงนําผลการคัดเลือกเข้า พิ จ า ร ณ า ใ น ท่ี ป ร ะ ชุ ม ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ขั บ เ ค ล่ื อ น ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (War Room Committee : WRC) พิจารณาให้ความ เห็นชอบและประกาศแนวปฏิบัติท่ีเป็นเลิศระดับมหาวิทยาลัย มอบรางวัลและจัด แลกเปลยี่ นเรยี นร้ใู นโครงการ “เวทคี ุณภาพ มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์” 80
2. เกณฑ์การประเมนิ แนวปฏิบัตทิ เ่ี ป็นเลิศ (Best Practices) เกณฑก์ ารประเมิน 5 4 3 2 1 น้าํ หนกั คะแนน 1. ก า ร พั ฒ น า คุ ณ ภ า พ ต า ม ว ง จ ร 40 คุณภาพ (P-D-C-A) กิจกรรมราย มาตรฐาน 1.1 การวางแผน (Plan) 10 (แบบฟอร์ม ขอ้ 6) 1.2 การดาํ เนนิ งาน (Do) 10 (แบบฟอรม์ ขอ้ 7) 1.3 การตรวจสอบ (Check) 10 (แบบฟอรม์ ขอ้ 8) 1.4 การปรับปรุง (Action) 10 (แบบฟอรม์ ข้อ 9) 2. จุดแข็ง (Strength) หรือสิ่งที่ทําได้ 10 ดใี นประเด็นทน่ี ําเสนอ (แบบฟอร์ม ข้อ 10) 3 . ก ล ยุ ท ธ์ ห รื อ ปั จ จั ย ที่ นํ า ไ ป สู่ 10 ความสําเร็จ (แบบฟอร์ม ขอ้ 11) 4. ผลการดําเนินงาน(Result) และ/ 20 หรือ เปรียบเทียบกับหน่วยงาน ภายใน/ภายนอก (ย้อนหลัง 2-3 ปี) (แบบฟอร์ม ขอ้ 12) 4.1 เปรียบเทียบกับหน่วยงาน 10 ภายในมหาวทิ ยาลยั (InternalBenchmarking:IBM) 4.2 เปรียบเทียบกับหน่วยงาน 10 ภายนอกมหาวทิ ยาลัย (ExternalBenchmarking:EBM) 5. นวัตกรรม (แบบฟอรม์ ขอ้ 13) 10 6. การนาํ เสนอเน้อื หา 10 81
เกณฑก์ ารประเมิน 5 4 3 2 1 นาํ้ หนัก คะแนน 6.1 การเขียนสอดคล้องกับข้อมูล 5 ห ลั ก ฐ า น อ้ า ง อิ ง ท่ี ป ร า ก ฏ (แบบฟอร์ม ขอ้ 15) 6.2 การแสดงข้อมูลถูกต้องและ 5 ค ร บ ถ้ ว น ต า ม รู ป แ บ บ ที่ มหาวทิ ยาลยั กาํ หนด 3. คณะกรรมการประเมินรายละเอียดผลการดําเนินงานตามเกณฑ์การ ประเมนิ ซ่งึ มี 5 ประเด็นหลกั และประเดน็ ยอ่ ย คะแนน 100 คะแนน แต่ละประเด็นมี การกําหนดค่าน้ําหนัก โดยค่าน้ําหนักสูงสุดอยู่ที่การพัฒนากระบวนการตามวงจร คุณภาพ (PDCA) 40% รองลงมาคือ ผลการดําเนินงาน 20% เพ่ือส่ือให้คณะ/ หน่วยงานทราบว่าในการพิจารณาแนวปฏิบัติท่ีเป็นเลิศ (BP) น้ัน มหาวิทยาลัยเน้น ทงั้ กระบวนการ (Process) และผลลพั ธ์ (Result) 4. แนวปฏบิ ัติที่เป็นเลศิ (BP) แบง่ เป็น 5 ดา้ นคอื 1) ดา้ นการเรยี นการสอนและคุณภาพบณั ฑิต 2) ดา้ นงานวิจัย 3) ด้านบริการวิชาการ 4) ดา้ นทาํ นุบาํ รุงศลิ ปวัฒนธรรม 5) ด้านบรหิ ารจดั การ มหาวิทยาลัยได้มีการพัฒนากระบวนการพิจาณาแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ อย่างต่อเน่ือง เพื่อให้ได้แนวปฏิบัติท่ีเป็นเลิศ (BP) ท่ีเป็นท่ียอมรับของทุกๆหน่วยงาน ในมหาวทิ ยาลยั 82
83
84
Search