“ครูไมใชผรู ู แตต องเปนผูเรยี น และเรยี นรพู รอ มกบั เพ่อื นครู ครูตองสรา งความรขู ึน้ มาใชเ อง ”เพอ่ื การทําหนาท่ี “คณุ อํานวย”50 การสรางการเรยี นรสู ูศตวรรษที่ ๒๑
“ครฝู ก” บทบาทใหมของครู 51 บทที่ ๖ “ครูฝก” บทบาทใหมของครูส รปุ วา การเรยี นในศตวรรษที่ ๒๑ นกั เรยี นเรยี นจาก การลงมือปฏิบัติ เชนเดียวกับครู ครูก็ตองเรียนจริงๆ ครูคือนักเรียนรูจากการลงมือปฏิบัติเหมือนกันครูทําหนาที่เปนครูฝก Facilitator หรือ “คุณอํานวย”ของการเรียนรูของเด็ก โดยท่ีครูก็ตองทํางานเปนทีมเหมอื นกนั การทาํ งานและเรยี นรกู นั เปน ทมี ของครู เรยี กวาProfessionalLearningCommunity(PLC)นคี่ อื หลกั วาชวี ติ ครสู มยั ใหมต อ งทาํ งานเปน ทมี และเรยี นรเู ปน ทมี และในกระบวนการจดั การเรียนรู ครเู ปน “คุณอํานวย” หรอืFacilitator หรอื Coach ของการเรยี นรูข องเดก็ น้ัน ตอ งปรกึ ษาหารอื กันตัง้ แตเ ร่มิ ตนวางแผน
การศกึ ษาในศตวรรษท่ี ๒๑ • นักเรียนเรยี นจากการลงมือปฏบิ ตั ิ - PBL (Project-Based Learning) เรียนรูทักษะแหงศตวรรษที่ ๒๑ • คร/ู อาจารย เรยี นจากการลงมอื ปฏิบตั ิ - PLC (Professional Learning Community) เรยี นรทู ักษะในการเปนครูฝก ทง้ั นักเรียน & ครู เรยี นรจู ากการปฏบิ ตั ิ สรปุ วาบทบาทครูในศตวรรษท่ี ๒๑ ครูจะไมต ั้งตนเปนผรู ู ไมใช Content Expert ท่ีจรงิ กต็ อ งมีพอสมควร แตตองไมตง้ั ตนเปน expert เพราะตอ งรเู ลยวา อยา งไรเรากร็ หู มดไมไ ด และทสี่ าํ คญั คอื ไมค วรพยายาม จะสอนสาระหรือ content ใหเด็ก ควรท่จี ะใหเด็กคนเอง เพอื่ เขาจะได เรียนรวู ิธคี น รวู ธิ ีเลือกเพ่ือเอามาปรบั ใช ครไู มใ ชเ ปน ผรู แู ตต อ งเปน ผเู รยี น และกเ็ รยี นรพู รอ มกบั เพอ่ื นครู ครตู อ งเลกิ เปน ศลิ ปน เดย่ี วในโลกสมยั ใหม เพราะถาใครยังยืนหยัดเปนศิลปนเดี่ยวจะเดือดรอนมาก ลําบากมาก ไมมีวัน “รองเพลง” ไดเพราะ ไมมีทางเปนครูที่ดีได เพราะตองการ ความคิดเห็นที่แตกตาง และครูตองสรางความรูขึ้นใชเอง เพื่อการ ทาํ หนาท่ี “คุณอาํ นวย” การเรยี นรูของนกั เรยี น52 การสรา งการเรยี นรสู ศู ตวรรษท่ี ๒๑
“ครฝู ก” บทบาทใหมของครู 53บทบาทครูในศตวรรษที่ ๒๑• ไมต งั้ ตนเปน “ผรู ”ู แตเ ปน “ผูเรียนรู” เรียนพรอ มกับศิษย กลา สารภาพวา ไมร ู เพอ่ื ยุใหศษิ ยคน• เรยี นรพู รอ มกบั เพอื่ นคร.ู ..PLC เรียนรูจากการปฏิบัติ การทาํ หนาที่ “ครูฝก” การออกแบบการเรยี นรู ฯลฯ• สรางความรขู ้นึ ใชเ อง เพ่ือทําหนาที่ “คณุ อํานวย” และ แลกเปลย่ี นเรียนรูกับเพอื่ นครู และเผยแพรเ ปนผลงานวชิ าการ• เรยี นรู แลกเปลี่ยนเรยี นรูก บั โลก เรื่องการเรยี นรู ในศตวรรษที่ ๒๑• เปนนกั รกุ ออกไปใชท รัพยากรการเรียนรใู นชุมชน ในสถานประกอบการ ฯลฯ และในโลก• จัดใหศ ษิ ยเรียนรูจ ากชีวติ จริง... PBL เรยี นรูจากการปฏิบัติ เรยี นรจู ากความซบั ซอ นและไมชัดเจน• สง เสริมใหศษิ ยสรางความรูขน้ึ ใชเ อง• สง เสริมใหศ ิษยเ รยี นรู แลกเปลีย่ นเรยี นรูก ับโลก• เปน ตัวอยา งและเสวนากับศิษยเร่ืองความดี คณุ ธรรม จริยธรรม เชือ่ มโยงกับเหตกุ ารณจ รงิ ชวี ิตจริง
ท่ีผมพูดมานี้ ไมเห็นของจริงเลย เราพูดกันแตทฤษฎี ทาน ตอ งไปสรา งความรจู ากการปฏบิ ตั เิ อง และทส่ี าํ คญั อยา งยง่ิ กค็ อื วา ตอ ง แลกเปลี่ยนเรยี นรู กบั เพอ่ื นครทู อ่ี ยหู า งไกลหรอื กบั โลก วา การทาํ หนา ท่ี ครใู นศตวรรษท่ี ๒๑ น้นั ทา นมปี ระสบการณอ ยางไร ขอ สรปุ และทฤษฎี บางอยางในประสบการณตรงของทาน ทานตีความวาอยางไร ทานอาจ บอกวา จากการตีความประสบการณตรงของทาน ทฤษฎีบางอยางผิด อยางนอยก็ผิดในบริบทของทาน ชีวิตครูจะเปนชีวิตที่สนุกสนานและ เกิดปญญา ครตู อ งเปน นกั รกุ ออกไปใชท รพั ยากรการเรยี นรทู หี่ ลากหลาย คอื รกุ ออกไปนอกโรงเรียน ไปใชอะไรอกี หลากหลาย ท่ีเมอื่ กีเ้ ราพดู ถึงมีการ ใชชุมชน มีการใชผูปกครอง ใชโรงเรียน วัด พระ ทั้งหลาย เพ่ือใหเกิด การเรียนรูจริงๆ เพราะเด็กตองออกไปเรียนขางนอกดวย เรียนในชีวิต จริง ปญหาของการเรียนรูในปจจุบันท่ีสําคัญย่ิงคือมันขาดตอนกับชีวิต จริง มันกลายเปนเรียนวิชา เพราะฉะน้ัน การเรียนรูสมัยใหมตองเอา วชิ าไปประยกุ ตใ ชใ นชวี ติ จรงิ เดก็ ตอ งมโี อกาสเชน นน้ั เพราะชวี ติ จรงิ คอื ทรัพยากรการเรียนรูอยางหน่ึง และยังตองใชทรัพยากรการเรียนรูอยาง อน่ื เชน internet ปญ หาในพนื้ ที่ ปญ หาสง่ิ แวดลอ ม ผมพดู ไปแลว วา ตอ ง จดั ใหศ ษิ ยไ ดเ รยี นรจู ากชวี ติ จรงิ โดยสง เสรมิ ใหศ ษิ ยส รา งความรขู นึ้ ใช เอง การเรยี นรทู แ่ี ทจ รงิ คอื การสรา งความรู สง เสรมิ ใหศ ษิ ยไ ดเ รยี นรแู ละ ไดแลกเปลี่ยนเรียนรูกบั โลก54 การสรา งการเรยี นรูสูศตวรรษที่ ๒๑
“ครฝู ก ” บทบาทใหมข องครู 55 เด็กเรยี นรแู ลว เขาเขยี นความเลาเรอ่ื งทีเ่ ขาเรียนรอู อกไป เดีย๋ วจะมีคนมาแสดงความคิดเห็น มาตั้งคําถาม ก็จะเกิดการเรียนรูที่จะยิ่งเกิดปญ ญาเชอ่ื มโยงมากขนึ้ และทส่ี าํ คญั การคยุ กนั เรยี กวา มาทาํ Reflectionหรอื AAR (After Action Review) กนั อยา ลมื ถามเดก็ ตง้ั คาํ ถามวา เธอไปเรยี นรกู บั คนอน่ื เธอเออ้ื เฟอ เผอื่ แผค นอนื่ เธอไดป ระโยชนอ ะไร การทเี่ ธอใหคนอน่ื การที่เธอฟงคนอน่ื ฟงเพือ่ น ทาํ งานกับเพอ่ื นและเธอฟงเพอ่ื นทง้ั ๆ ทเ่ี พอ่ื นพดู บางครง้ั เธอกไ็ มเ หน็ ดว ย แตก ารทเี่ ธอมนี าํ้ ใจทจ่ี ะฟง เธอไดอะไร นค่ี อื การเรยี นคณุ ธรรมจรยิ ธรรมจากการปฏบิ ตั ใิ นชวี ติ จรงิ กจิ กรรมอกี หลายๆ อยา ง ใหท ํา AAR โยงเขาสเู รอ่ื งของคณุ ธรรมจรยิ ธรรม เขาจะไดเรียนรูส่ิงเหลานี้ในชีวิตจริงโดยไมรูตัว เขาจะเช่ือในคุณงามความดีความเอ้ือเฟอเผ่ือแผตอเพ่ือนมนุษย ความซื่อสัตย เร่ืองความดีงาม ผมเช่ือวาไมใชการเรียนโดยการสอน แตเรียนโดยการท่ีเราใหเขาสัมผัสจากการทาํ งานจรงิ แลว เราตงั้ คาํ ถามใหเ ขาไดฉ กุ คดิ ไดไ ตรต รอง แลว สงิ่ นนั้จะเขา ไปอยูในเนอื้ ในตวั ไมใ ชแคพ ูดออกมาดวยปากเทานัน้ การเรียนโดยการลงมือทํา มีตัวอยางเด็ก ม.๕ โรงเรียนรุงอรุณอยทู ่ีบางมด กรุงเทพฯ ทําเร่ือง Health Impact Assessment (HIA)รักษนํ้า การเรียนหรือการทํางานสมัยใหมศตวรรษที่ ๒๑ น่ีเด็ก ม.๕รับงานของ สช. (สํานักงานคณะกรรมการสุขภาพแหงชาติ) ท่ีใหทุนครูโรงเรยี นรงุ อรณุ ไปทาํ Health Impact Assessment ประเมนิ ผลกระทบ
นกั เรยี น ม.๕ โรงเรยี นรงุ อรณุ ทาํ HIA และรายงานตอ สาธารณะ56 การสรา งการเรยี นรูสศู ตวรรษท่ี ๒๑
“ครฝู ก” บทบาทใหมของครู 57ตอสุขภาพที่แมนํ้าบางปะกง วา “โรงงานท้ังหลายมันเกิดผลกระทบตอสภาพแวดลอมของแมน้ําบางปะกง ตนนํ้า กลางน้ํา ปลายนํ้า เปนอยางไร” เขยี นเปนรายงานออกมา และไปนาํ เสนอในที่ประชมุ ทม่ี ผี ูใหญมากมาย ผมเคยไปฟงเขา ผมก็ถามคน “ไอหนุมที่มานําเสนอเปนใคร”เขาบอก “เดก็ ม.๕ อาจารย” ผมบอก “จรงิ เหรอ” เขาบอก “นไี่ ง อาจารยฟงดูสิ เด็ก ม.๕” คือมันแยกไมออกวาเด็กหรืออาจารยพูด เด็กเรียนรูจากการทํางานจริง เที่ยวถามชาวบาน คนหาศึกษา และที่สําคัญคือเวลาเราถามเขาตอบได เพราะอะไร เพราะเขาไปพบกบั ของจรงิ เขาตอบในเชงิ ทฤษฎไี ดอ ยา งไมน า เชอ่ื เดก็ ม.๕ นน่ั เรยี นจากของจรงิ ทาํ โครงงานแบบทํางานจริง ทํารายงานออกมาเปนเลมอยางสวยงามเลมใหญ ใครอยากไดไปขอดทู ่โี รงเรียนรุงอรณุ
“ครยู คุ ใหมไ มเนนสอน ”แตเนนจดั การเรยี นรู58 การสรางการเรยี นรสู ูศตวรรษที่ ๒๑
เปลี่ยนวธิ ีคิด...ปรบั วิธีสอน 59 บทที่ ๗ เปล่ียนวธิ ีคดิ ... ปรบั วิธีสอนค รยู คุ ใหมก ต็ อ งมี Mindset หรอื วธิ คี ดิ หรอื กระบวนทศั น ทถี่ กู ตอ ง คอื ไมเ นน สอนแตเ นน จดั การเรยี นรทู กั ษะและความรทู จี่ าํ เปน และนกั เรยี นตอ งเรยี นแบบใหร จู รงิ (MasteryLearning) และเนน ลงมอื ปฏบิ ัติ (Action Learning) และตองเลยจากเรียนเพ่ือสอบไปสูเรียนเพื่อการคนหาศักยภาพของผูเ รยี น เพราะฉะน้ันตองเรียนใหไดก ารพฒั นา ๕ - ๗ ดานเปนเรียนรูบูรณาการไมใชแคเรียนรูวิชา ส่ิงที่อันตรายย่ิงของระบบการศึกษาท่ัวโลกคือ teach to test คือสอนเพ่ือไปสอบใหได และเอาผลการสอบเปนสรณะ อันน้ีคือตัวอันตรายทําลายเดก็ ทส่ี ดุ อกี อนั หน่งึ ก็คือทานทเี่ ปน ครูทั้งหลายตอ งเปนนักประเมินแบบ assessment เนนการประเมินเพ่ือพัฒนา(Formative Assessment) ประเทศเราตองพยายามทําให
มี Mindset ท่ถี ูกตอง ตามยุค • ไมเ นน สอนครอบคลุมตามหลักสูตร เนน จัดการเรียนรู ทกั ษะ & ความรทู ่จี ําเปน • นักเรยี นตอ งเรยี นใหร ูจ ริง (Mastery Learning) • เนนเรียนโดยลงมือปฏบิ ตั ิ (Action Learning) • เลยเรียนเพ่ือสอบ ตอ งเรยี นเพ่ือพฒั นาเต็มศกั ยภาพ • เนนประเมนิ เพือ่ พัฒนา (Formative Assessment) • ครตู อ งเรียนรูจากการทํางาน แลกเปลย่ี นเรยี นรู จากการปฏบิ ัติ60 การสรางการเรยี นรูสูศ ตวรรษที่ ๒๑
เปลีย่ นวธิ ีคดิ ...ปรบั วธิ ีสอน 61เปลย่ี นใจครู ส.ู ..• สอนนอ ย เรียนมาก ...เรียน/ฝกทักษะ• จากสอน สู ...ฝก /โคช ใน Active Learning• จากการสอนวิชา...สฝู กทักษะ พัฒนาครบดาน• เรียนทัง้ ดานนอกและดา นใน ...รูจกั ตวั เอง• การสอบ ...เนนประเมินเพือ่ พฒั นา ประเมินตนเอง• เอ้อื ใหศ ษิ ยสู ...Mastery Learning/ Transformative Learning• การทาํ งานและเรยี นรเู ปนทมี ...PLC
ชว ยใหศิษยพ ฒั นาเตม็ ศกั ยภาพ • Transformative Learning เรียนรแู บบพัฒนา จากภายในตน และมีมิตดิ า นการเปนผูนําการเปลี่ยนแปลง • เกดิ Holistic Development : Intellectual, Social, Emotional, Spiritual, Physical, Esthetic • พัฒนาทัง้ ดา นนอกและดานใน • 21st Century Skills62 การสรางการเรยี นรูสูศ ตวรรษท่ี ๒๑
เปล่ียนวิธีคิด...ปรับวธิ ีสอน 63ครูประเมินเด็กไดเกง ตองเกงดานการประเมินวาเด็กไดเรียนรูส่ิงท่ีเราอยากจะใหเ ขารู หรอื ทเี่ ราตง้ั เปา ไว หรอื ไม แตท ผ่ี มพดู นกี่ ย็ งั ผดิ เพราะลกึยง่ิ กวาใหครเู กง ประเมนิ คือฝกใหเ ดก็ เกงประเมิน ใหต ัวคนเรยี นประเมินตัวเองเปน หนังสือฝรั่งมีบอกเยอะ ถาเด็กโตหนอยใหเขาประเมินตัวเองใหเ ขาฝก ใหคะแนนผลงานของตนเอง และของเพ่ือน ฝกอยางน้ไี มเทา ไรเด็กจะเรยี นหนังสอื เกง เพราะเขาประเมนิ เปน คนที่เปน Self - directedLearner ตอ งประเมนิ ตวั เองเปน น่คี ือหลักการทําหนา ทค่ี รยู ุคใหม ครูยุคใหมตองเปลี่ยนใจ ตองสอนใหนอย ใหลูกศิษยเรียนไดเยอะๆ และชว ยดาํ เนนิ การใหศ ษิ ยไ ดฝ ก ทกั ษะ การฝก นเี้ ขาทาํ เอง ไมใ ชครูทาํ ให แตเราชว ยแนะ ปรบั จากการสอนไปสู Active Learning และก็ครูทํางานและเรียนรูเปนทีมที่เรียกวา PLC และที่สําคัญก็คือวาตองชว ยใหศษิ ยพัฒนาเต็มศกั ยภาพ สภาพที่เปนในปจจุบันนี้เด็กยังพัฒนาไมเต็มศักยภาพ ผมมีความเชือ่ วา ไดเ พยี ง ๑ ใน ๓ ของศักยภาพเทา นั้นตราบใดที่ยังไมไ ดเรยี นและลงมอื ทาํ มนั ตอ งใหไ ด Transformative Learning และกเ็ กดิ HolisticDevelopment พัฒนาครบดานและพัฒนาท้ังดานนอกและดานในดานในคือดานจิตใจ รูผิดชอบดีชั่วและสุดทายก็เปน 21st CenturySkills
“ครใู นศตวรรษที่ ๒๑ มีคุณคากวา ครูในศตวรรษท่ี ๒๐ ที่เปลีย่ นจากการสอนเปน Coach เปนผกู ํากบั การเรยี นรู เพ่อื ใหเ ดก็ ทเี่ รยี นรูอยา งผิวเผิน”ไปสูการรจู รงิ ...ครูตอ งมที กั ษะ ๗ ดา น64 การสรา งการเรียนรูส ูศตวรรษที่ ๒๑
ทกั ษะของครูในศตวรรษท่ี ๒๑ 65บทที่ ๘ ทกั ษะของครูในศตวรรษที่ ๒๑ทั กษะการเปนครูคืออะไรบาง ทักษะรูจักลูกศิษย ทํา ความเขาใจลูกศิษย รูวาลูกศิษยมีพ้ืนความรูตางกันมากอยางไร คนไหนพื้นความรูนอย คนไหนพ้ืนความรูสูงคนไหนมีความรูผิดๆ อะไรมา ประเมินอยางไร ตองฝกนะทา นถามผมวา ทาํ อยา งไร ผมไมร ู เพราะผมไมไดท ํา ทักษะการออกแบบการเรียนรู เปน Project Based Learningทกั ษะการชวนลกู ศษิ ยค ยุ กนั เพอื่ ทาํ Reflection หรอื AARเรอ่ื งน้สี าํ คญั มาก ถาทําไมเปน อาจเกิดผลราย อาจทาํ ใหเ ดก็ที่ไมเกงยิ่งเกิดบาดแผล คิดวาตัวเองไมฉลาด เปนบาดแผลทางใจของเดก็ ทกั ษะในการเรยี นรสู รา งความรใู หมจ ากการทําหนาที่ครู นี่คือหัวใจ และทักษะการแลกเปลี่ยนเรียนรูใน PLC ทกั ษะนพี้ ดู งา ยแตท าํ จรงิ ๆ ผมคดิ วา ไมง า ย แตฝ ก ได
ทกั ษะการเปน ครู • ทักษะการวนิ ิจฉัยทําความรูจกั ทาํ ความเขาใจศษิ ย • ทักษะการออกแบบการเรียนรู ออกแบบ PBL • ทักษะการชวนศษิ ยท าํ reflection / AAR • ทักษะการเรยี นรู และสรา งความรูใหมจ ากการทําหนา ท่คี รู • ทักษะการแลกเปล่ยี นเรยี นรใู น PLC มีทกั ษะใหม • จดั “หองเรยี น” เปน “หอ งทาํ งาน” • Coaching ไมใช Teaching • Feedback ศษิ ย และเพื่อนครู • Formative Assessment ในทงั้ 5 Development Dimensions และตอ 21st Century Skills • 21st Century Skills • Team Learning Skills : PLC • Knowledge Sharing, Dialogue, Appreciative Inquiry... KM66 การสรางการเรยี นรูสูศตวรรษที่ ๒๑
ทักษะของครใู นศตวรรษท่ี ๒๑ 67 ทกั ษะใหมท ค่ี รูตองฝก ไดแ ก การทาํ หอ งเรยี นใหเ ปนหองทาํ งานเพราะการเรยี นคอื การทาํ งาน และครทู าํ หนา ท่ี coaching ไมใ ช teachingและครตู อ งมที กั ษะการให feedback ทง้ั ตอ นกั เรยี น และตอ เพอ่ื นครูใหเ ปน FormativeAssessmentตวั ครเู องตอ งเรยี นรแู ละฝก 21stCenturySkills, Team Learning Skills และ Knowledge Sharing Skillsเชน dialogue (สนุ ทรยี สนทนา) Appreciative Inquiry และเครอ่ื งมอืจดั การความรตู วั อน่ื ๆ จะชว ยใหค รมู ที กั ษะในการเรยี นรเู ปน ทมี ทเ่ี รยี กวาเรยี นรรู ว มกนั ผา นการปฏบิ ตั ิ สุดทาย ครใู นศตวรรษที่ ๒๑ มีคุณคามากกวาครูในศตวรรษท่ี๒๐ โดยจะมีคุณคาไดก็ตองเปล่ียนจากสอนไปสูการเปน coach จากถายทอดความรูไ ปเปน ผอู ํานวยการสรางความรู เพราะเดก็ ทําเอง ใหเด็กทาํ เอง และจากการทีเ่ ด็กเรยี นรแู บบผวิ เผนิ ไปสูร จู ริง เปล่ยี นจากสอนวชิ าไปสพู ฒั นาครบดา น เปลยี่ นจากรวู ชิ าไปมที กั ษะ ครเู ปลย่ี นจากการเปนผูรูเปนผเู รียนรู และเปลี่ยนจากครูผูรอบรวู ิชาเปนผูกํากบั การเรยี นรูของศษิ ยเปน สงิ่ สําคัญที่สุด
สรุปครูในศตวรรษที่ ๒๑ มีคุณคามากกวาครูในศตวรรษท่ี ๒๐๒๐ ๒๑• สอน สงั่ สอน • ฝก/ โคช/ อํานวย• ถายทอดความรู • อาํ นวยการสราง• รผู วิ เผิน • รจู ริง (mastery)• สอนวิชา • พฒั นาครบดา น• รูว ชิ า • มที กั ษะ• ผูร ู • ผูเรียนรู (PLC)• รอบรูว ชิ า • กํากบั การเรยี นรูของตน68 การสรา งการเรยี นรสู ศู ตวรรษที่ ๒๑
ทกั ษะของครใู นศตวรรษที่ ๒๑ 69
การสรา งการเรียนรูส ูศ ตวรรษที่ ๒๑เลขมาตรฐานสากล ๙๗๘-๖๑๖-๙๑๓๘๑-๔-๓ผเู ขียน ศาสตราจารย นายแพทยว ิจารณ พานชิท่ีปรึกษา นางปย าภรณ มณั ฑะจติ รบรรณาธิการ นางสาวศศนี ลม้ิ พงษรปู เลม นางสาวสจุ นิ ดา งามวุฒิพรภาพประกอบ นายสุชาติ มุกดามณีพิมพโ ดย นางสาวนนั ทวนั วาตะ มูลนิธิสยามกัมมาจลพิมพค รงั้ ท่ี ๑ ๑๙ ถนนรชั ดาภเิ ษก แขวงจตุจักร เขตจตุจกั ร กรงุ เทพฯ ๑๐๙๐๐จาํ นวน โทรศัพท : ๐ ๒๙๓๗ ๙๙๐๑-๗พมิ พท่ี โทรสาร : ๐ ๒๙๓๗ ๙๙๐๐ เวบ็ ไซต : www.scbfoundation.com ตุลาคม ๒๕๕๖ ๕,๐๐๐ เลม ส. เจรญิ การพิมพ
บนั ทกึ
บนั ทกึ
Search