ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
๑. พฒั นาการของอาณาจักรอยธุ ยา อาณาจักรอยุธยามีเมืองหลวง คือ กรุงศรีอยุธยาซ่ึงได้ สถาปนาข้ึนเม่ือ พ.ศ. ๑๘๙๓ แล้วส้ินสุดลงเม่ือ พ.ศ. ๒๓๑๐ ใ น ช่ ว ง เ ว ล า นี้ อ า ณ า จ ั ก ร อ ยุ ธ ย า ไ ด้ พ ั ฒ น า ด้ า น ก า ร เ มื อ ง การปกครอง เศรษฐกจิ สงั คมและวฒั นธรรม ดังนี้ ประวัติศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕
๑.๑ การสถาปนาอาณาจกั รอยุธยา อยุธยามีลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะ ประกอบด้วยแม่น้ า ล้อมรอบอยู่ ๓ สาย ได้แก่ แม่น้ าลพบุรี แม่น้ าป่าสัก และ แ ม่ น้ า เ จ้ า พ ร ะ ย า ผู้ ส ถ า ป น า ก รุ ง ศ รี อ ยุ ธ ย า เ ป็ น ศู น ย์ ก ล า ง การปกครอง คือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ หรือพระเจ้าอู่ทอง (ครองราชยร์ ะหวา่ ง พ.ศ. ๑๘๙๓-พ.ศ. ๑๙๑๒) ประวตั ศิ าสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕
ภาพวาดจาลองกรุงศรีอยุธยา ฝีมือชาวฮอลนั ดาในพทุ ธศตวรรษที่ ๒๓ จากศนู ยศ์ ึกษาประวัติศาสตร์ จังหวดั พระนครศรอี ยุธยา ประวัตศิ าสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๕
ภูมิประเทศของอยุธยาประกอบด้วยแม่น้ าลาคลองมากมาย ทาให้พ้ืนท่ีมีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูกและค้าขายโดย ใช้แม่น้ าลาคลองเป็นเส้นทางคมนาคมติดต่อค้าขายกับชุมชนและ เมืองต่าง ๆ ได้โดยสะดวก อีกท้ังท่ีตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเล ทาให้มี การติดต่อกับเส้นทางการค้านานาชาติได้ง่ายข้ึน ประกอบกับบริเวณนี้ เป็นชุมชนที่มีกาลังคนและมีความเจริญมาก่อน ทาให้อยุธยาสามารถ พฒั นาเป็นอาณาจักรทร่ี ุ่งเรืองไดใ้ นเวลาตอ่ มา อยุธยาเจริญรุ่งเรืองสืบเน่ืองมาเป็นเวลายาวนานถึง ๔๑๗ ปี โดยมีพระมหากษัตริย์ปกครองทัง้ ส้นิ ๓๓ พระองค์ ประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
ในรัชกาลสมเด็จพระบรมราชาธิราชท่ี ๑ (ขุนหลวงพะง่ัว) พระองค์ขยายอานาจไปยังดินแดนทางตอนเหนือ ซ่ึงอยู่ในเขต อิทธิพลของอาณาจักรสุโขทัย จนกระทั่งถึงรัชกาลสมเด็จพระบรม- ไตรโลกนาถ ทรงผนวกอาณาจักรสุโขทัยเข้าเป็นส่วนหน่ึงของ อาณาจักรอยุธยา ในรัชกาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อาณาจักร อยุธยามีอาณาเขตกว้างขวาง ครอบคลุมดินแดนต่าง ๆ สรุปได้ ดังน้ี ประวตั ศิ าสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕
ทางเหนือ ขยายดนิ แดนไปจนถึง อาณาจักรลา้ นนา ทางตะวนั ออก ขยายดนิ แดนไปจนถึง ดินแดนลาวและกมั พูชา ทางตะวนั ตก ขยายดินแดนไปจนถงึ ดินแดนมอญ ทางใต้ ขยายดินแดนไปจนถงึ ดินแดนชายฝ่ ังทะเล จนถงึ เมอื งปัตตานี การขยายอานาจไปยังหัวเมืองต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง ทาใหก้ รงุ ศรอี ยธุ ยามีความมนั่ คงและมัง่ คั่งมากข้ึน ประวัติศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๕
๑.๒ พฒั นาการของอาณาจกั รอยธุ ยาในด้านตา่ ง ๆ ๑.๒.๑ ด้านการเมืองการปกครอง พระมหากษัตริย์ไทยสมัยอยุธยา มีพระราชอานาจสูงสุดใน ฐานะที่ทรงเป็นสมมติเทพ (อ่านว่า สม-มุด-ติ-เทบ หมายถึง เทวดาโดยสมมุติ) ดังจะเห็นได้จากที่ประทับซ่ึงเป็นพระราชวังท่ี งดงาม มีระเบียบพิธีกรรมอันศักด์ิสิทธ์ิ เช่น พิธีราชาภิเษก พิธถี อื น้าพระพิพฒั นส์ ัตยา ประวตั ศิ าสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
เคร่ืองประกอบพิธถี ือน้าพระพิพัฒนส์ ตั ยา ศนู ยศ์ กึ ษา ประวัติศาสตรอ์ ยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยธุ ยา ประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕
การเมอื งการปกครองสมัยอยุธยาแบ่งออกเป็น ๓ ระยะ คือ ๑) การเมืองการปกครองสมัยอยุธยาตอนต้น (พ.ศ. ๑๘๙๓- พ.ศ. ๑๙๙๑) ใ น ส ม ั ย อ ยุ ธ ย า ต อ น ต้ น ส ม เ ด็ จ พ ร ะ ร า ม า ธิ บ ดี ที่ ๑ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แบ่งส่วนราชการที่สาคัญออกเป็น ๓ ส่วน ได้แก่ การปกครองส่วนกลาง การปกครองส่วนหัวเมือง และการปกครองหวั เมืองประเทศราช ดังน้ี ประวตั ศิ าสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๕
ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
หัวเมอื งประเทศราช เมืองประเทศราช คือ เมืองหรือแคว้นที่ยอมรับอานาจของ อยุธยา ในสมัยอยุธยาตอนต้น เมืองประเทศราช ได้แก่ เมือง สโุ ขทัย มะริดและทวาย พระมหากษัตริย์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าเมืองปกครองเมืองหรือแคว้นของตนเองโดยอิสระ แต่ต้อง ส่งเคร่ืองราชบรรณาการให้กรุงศรีอยุธยาตามเวลาที่กาหนดไว้ และตอ้ งสง่ กองทัพมาชว่ ยเหลือเม่ือเกิดศกึ สงคราม ประวัตศิ าสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
๒ ) ก า ร เ มื อ ง ก า ร ป ก ค ร อ ง ส ม ั ย อ ยุ ธ ย า ต อ น ก ล า ง (พ.ศ. ๑๙๙๑-พ.ศ. ๒๒๓๑) การเมืองการปกครองสมัยอยุธยา ตอนกลาง มีการเปลี่ยนแปลง คือ ในรัชกาลของสมเด็จพระบรม- ไตรโลกนาถ ทรงปฏิรูปการปกครองให้เป็นระเบียบย่ิงข้ึน โดยจัดรูปแบบการปกครอง ดังนี้ ประวัติศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕
การปกครองส่วนกลาง แ ย ก อ า น า จ ฝ่า ย ท ห า ร แ ล ะ พ ล เ รื อ น อ อ ก จ า ก ก ั น คื อ ฝา่ ยทหารมีสมุหพระกลาโหม เป็นหัวหนา้ ดูแลกิจการทหาร ภายในหัวเมืองต่าง ๆ ฝ่ายพลเรือนมีสมุหนายก เป็นหัวหนา้ ดูแลกิจการพลเรือน และจตสุ ดมภ์ ทงั้ ยงั เปลย่ี นช่อื หน่วยราชการจตุสดมภ์ ดงั น้ี ประวัติศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕
การปกครองสว่ นกลาง ประวัตศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕
การแบ่งหน่วยงานเป็นฝ่ายทหารและพลเรือนเป็นการเพ่ิม ความสามารถให้กับการปกครองส่วนกลาง ให้ปกครองหัวเมือง ได้ดีย่ิงข้ึน หน่วยงานทั้งสองต่างมีหน่วยงานแยกย่อยปฏิบัติตาม หน้าท่ีต่างกัน แต่ในกรณี ท่ีบ้านเมืองเกิดศึกสงคราม ขุนนาง ท้ังฝา่ ยทหารและพลเรอื นต้องระดมกาลังช่วยสรู้ บกบั ขา้ ศึก ประวตั ศิ าสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหย้ กเลิกเมืองลกู หลวง ให้มีแต่หัวเมืองช้ันในและหัวเมืองชั้นนอก ทั้งนี้ เพ่ือให้ส่วนกลางมีขอบเขตการบังคับบัญชาโดยตรง กว้างขวางข้ึน และมปี ระสิทธิภาพมากข้ึน ประวตั ิศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๕
ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
๓) การเมืองการปกครองสมัยอยุธยาตอนปลาย (พ.ศ. ๒๒๓๑- พ.ศ. ๒๓๑๐) ช่วงเวลาท่ีกรุงศรีอยุธยาเร่ิมเส่ือมอานาจ เกิดปัญหาความ ไม่สงบภายในราชอาณาจักร การปกครองในสมัยนี้ยังคงรูปแบบตาม สมัยอยุธยาตอนกลาง แต่มีการเปลี่ยนแปลงบางส่วน กล่าวคือในสมัย สมเด็จพระเพทราชา พระองค์ทรงแบ่งหัวเมืองออกเป็น ๒ ฝ่าย คือ หัวเมืองฝา่ ยใต้ให้สมุหพระกลาโหมทาหนา้ ท่ีรับผิดชอบงานด้านทหาร และพลเรือน หัวเมืองฝา่ ยเหนือให้สมุหนายก ทาหนา้ ที่รับผิดชอบงาน ด้านทหารและพลเรือน ส่วนหัวเมืองชายทะเลทางด้านตะวันออก ให้กรมคลังเป็นผู้รับผิดชอบ ท้ังนี้เพ่ือจากัดอานาจขุนนางผู้ใหญ่ไม่ให้ มอี านาจมากเกินไป ประวัติศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
๒. ประวตั แิ ละผลงานของบคุ คล สาคญั ในสมยั อยุธยา ในสมัยอยุธยามีบุคคลสาคัญท่ีทาความดีให้กับบ้านเมือง ท่นี ักเรียนควรทราบและยึดถือเป็นแบบอย่างคือ ประวตั ิศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕
๒.๑ สมเด็จพระรามาธบิ ดที ่ี ๑ (พระเจา้ อทู่ อง) สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ เป็นผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็น ราชธานี พระราชกรณียกิจท่ีสาคัญในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง) คือ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างราชธานี ข้ึนในบริเวณหนองโสน หรือบึงพระราม ซ่ึงมีแม่น้ า ๓ สายไหล ผ่าน คือ แม่น้ าป่าสัก แม่น้ าลพบุรี และแม่น้ าเจ้าพระยา และขุดคู บริเวณทิศตะวันออกเพ่ือเช่ือมระหว่างแม่น้าลพบุรีกับแม่น้ าปา่ สัก ทาให้ตัวเมืองกรุงศรีอยุธยากลายเป็นเกาะซ่ึงมีความอุดมสมบูรณ์ และเหมาะแก่การป้องกันเมือง นอกจากนี้แม่น้ าลาคลองยังเป็น เส้นทางคมนาคมทตี่ ดิ ต่อกับดนิ แดนอ่นื ได้สะดวก ประวัติศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
๒.๑ สมเด็จพระรามาธิบดที ี่ ๑ (พระเจา้ อทู่ อง) พระบรมราชานสุ าวรีย์ สมเดจ็ พระรามาธบิ ดีที่ ๑ ประวัตศิ าสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
๒.๒ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ส ม เ ด็ จ พ ร ะ บ ร ม ไ ต ร โ ล ก น า ถ เ ป็ น พ ร ะ ร า ช โ อ ร ส ใ น สมเด็จพระบรมราชาธิราชท่ี ๒ (เจ้าสามพระยา) และพระราชเทวี เจา้ หญิงแหง่ อาณาจักรสโุ ขทยั พระราชกรณี ยกิจที่สาคัญในสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ในการสรา้ งความเป็นปึกแผ่นให้กบั กรุงศรอี ยธุ ยา มีดังน้ี ๑) เม่ือคร้ังสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงดารงตาแหน่ง พระมหาอุปราชแห่งอยุธยา ทรงเสด็จข้ึนไปปกครองเมือง พิษณโุ ลก ประวัติศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๕
๒.๒ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ๒) สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิรูปการปกครอง และการบริหารราชการแผ่นดินโดยรวม อ า น า จ ก า ร ป ก ค ร อ ง ไ ว้ ท่ี ส่ ว น ก ล า ง มี พ ร ะ ม ห า ก ษ ั ต ริ ย์ ทรงอานาจสูงสุด ๓) การกาหนดศักดินา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โปรดเกล้าฯ ให้กาหนดศักดินาว่าด้วยสิทธิและหนา้ ที่ของคนทุก ระดับต้ังแต่พระมหาอุปราชจนถึงไพร่และทาส เช่น กาหนดให้ เจ้าพระยา ๑๐,๐๐๐ ไพร่ ๒๕ ทาส ๕ ผู้ท่ีมีศักดินาสูงก็จะมีหนา้ ท่ี และความรบั ผิดชอบต่อบ้านเมอื งสงู ข้นึ ด้วย ประวัติศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕
๒.๒ สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ พระบรมราชานสุ าวรยี ์ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ประวตั ิศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
๒.๓ สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จ- พ ร ะ ม ห า ธ ร ร ม ร า ช า ก ั บ พ ร ะ วิ สุ ท ธิ ก ษ ั ต รี พ ร ะ ร า ช ส ม ภ พ เม่ือ พ.ศ. ๒๐๙๘ พระองค์มีพระพ่ีนาง คือ พระสุพรรณกัลยา และพระอนุชา คือ พระเอกาทศรถ พระราชกรณี ยกิจที่สาคัญ ในสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช มดี ังนี้ ประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕
๒.๓ สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ๑) การประกาศเอกราช เน่ืองจากกรุงศรีอยุธยาเสียกรุง แก่พม่าเม่ือ พ.ศ. ๒๑๑๒ พระมหาธรรมราชาจึงได้รับการสถาปนา เป็นกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ส่วนสมเด็จพระนเรศวรต้องเสด็จ ไปประทับที่เมืองหงสาวดีในครัง้ น้นั ๒) การทาสงครามป้องกันบ้านเมือง ภายหลังจากท่ี ข้ึนครองราชย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงทาสงครามกับพม่า หลายครั้ง สงครามครง้ั สาคญั คือ สงครามยุทธหตั ถี ประวัตศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕
๒.๓ สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช พระบรมราชานสุ าวรยี ์ สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ประวัตศิ าสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕
๒.๓ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช งานป้ ันนูนสงู จาลองการทาสงครามยทุ ธหัตถี ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เม่อื พ.ศ. ๒๑๓๕ ประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
๒.๔ สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระ- เจ้าปราสาททองกับพระราชเทวี ซ่ึงเป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้า- ท ร ง ธ ร ร ม ส ม เ ด็ จ พ ร ะ น า ร า ย ณ์ ม ห า ร า ช ข้ึ น ค ร อ ง ร า ช ส ม บ ั ติ เม่อื พ.ศ. ๒๑๙๙ ทรงมพี ระราชกรณียกิจทส่ี าคญั ดังนี้ ๑) การติดต่อกับต่างประเทศ ในรัชกาลของสมเด็จพระนารายณ์- มหาราช อยุธยาได้ดาเนินนโยบายติดต่อกับนานาชาติอย่างกว้างขวาง ทั้งประเทศในเอเชียและยุโรป ๒) การเรียบเรียงแบบเรียนจินดามณี สมเด็จพระนารายณ์- มหาราชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เรียบเรียงแบบเรียนภาษาไทย ช่อื จินดามณี ประวตั ิศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕
๒.๔ สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช พระบรมราชานสุ าวรยี ์ สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช ประวัตศิ าสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
๒.๕ ชาวบา้ นบางระจนั ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าครั้งท่ี ๒ ใน พ.ศ. ๒๓๑๐ กองทัพพม่าได้ส่งทหารออกไปปล้นเสบียงอาหารและได้ทาร้าย ราษฎรไทยในหมู่บ้านต่าง ๆ ชาวบ้านบางระจันจึงได้รวบรวมคนไทย รว่ มกนั ตอ่ สู้กับกองทพั พม่าอยา่ งเข้มแข็ง แม่ทัพพม่าได้ส่งทหารเข้า มาปราบถึง ๗ ครั้ง แต่ไม่สามารถเอาชนะชาวบ้านบางระจันได้ใน ระหว่างสู้รบชาวบ้านบางระจันได้ขออาวุธและปืนใหญ่จากกรุงศรี- อยุธยาแต่กรุงศรีอยุธยาไม่ส่งมาให้เพราะกลัวพม่าจะปล้นปืนใหญ่ ในระหว่างทาง แต่ได้ส่งพระยารัตนาธิเบศร์มาช่วยหล่อปืนใหญ่ แทน ปืนใหญ่ที่หล่อข้ึนมาแตกร้าวไม่สามารถใช้การได้ เม่ือพม่า ยกทัพเข้ามารบในครั้งที่ ๘ บา้ นบางระจนั จึงแตก ประวตั ศิ าสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕
๒.๕ ชาวบ้านบางระจัน อนสุ าวรยี ช์ าวบา้ นบางระจัน ประวัตศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
๓. ภมู ปิ ัญญาไทยสมัยอยธุ ยา ภูมปิ ัญญาไทยในสมยั กรุงศรีอยธุ ยาทน่ี ่าสนใจ ไดแ้ ก่ ประวตั ิศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕
๓.๑ ภมู ปิ ัญญาการขุดคลอง ชาวอยุธยาต้ังบ้านเรือนอยู่ในท่ีลุ่มจึงมีปัญหาเร่ืองน้ าท่วมขัง เป็นเวลานาน ชาวอยุธยาจึงขุดคูคลองเพ่ือระบายน้าไม่ให้น้าท่วมขัง ท า ใ ห้ ภ า ย ใ น เ ก า ะ เ มื อ ง พ ร ะ น ค ร ศ รี อ ยุ ธ ย า มี ล า ค ล อ ง ม า ก ม า ย แม่น้ าลาคลองเหล่านี้นอกจากมีประโยชน์ที่เป็นเส้นทางระบายน้ า แล้วยังเป็นเส้นทางคมนาคมที่ดีทาให้คนอยุธยาสามารถเดินทาง ติดต่อค้าขายกับชุมชนต่าง ๆ ภายในตัวเมืองและภายนอกเมืองได้ สะดวก ลาคลองเหล่าน้ียังเช่ือมกับแม่น้าใหญ่ ทาให้สามารถติดต่อ กับเมืองสาคญั ๆ ได้หลายเมอื ง ประวตั ิศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕
ผังเมืองกรงุ ศรอี ยุธยา ซ่งึ วิศวกรชาวฝร่งั เศสได้จัดทาข้ึน ใน พ.ศ. ๒๒๓๐ ทม่ี าภาพ : การทอ่ งเที่ยวแหง่ ประเทศไทย. พระนครศรอี ยุธยา มรดกโลก. ๒๕๔๓. หนา้ ๔๐. ประวัตศิ าสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕
๓.๒ ภมู ปิ ัญญาการต่อเรอื สภาพภูมิประเทศของอยุธยาประกอบด้วยแม่น้ าลาคลองเป็น จานวนมาก ชาวอยุธยาจึงหาวิธีการติดต่อกับชุมชนอ่ืนโดย การต่อเรือเพ่ือใช้เป็นพาหนะขนส่งในแม่น้ าลาคลอง เช่น เรือพาย เ รื อ แ จ ว ซ่ึ ง ร ว บ ร ว ม ไ ว้ ใ น พิ พิ ธ ภ ั ณ ฑ์ เ รื อ ไ ท ย ที่ จ ั ง ห ว ั ด พระนครศรีอยุธยา ประวตั ศิ าสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๕
ภาพวาดเรอื สาเภาสยามในพทุ ธศตวรรษท่ี ๒๓ จากศนู ยศ์ ึกษาประวัติศาสตร์ จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
๓.๓ ภมู ปิ ัญญาด้านศลิ ปกรรม ก า ร น ั บ ถื อ พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า ใ น อ ยุ ธ ย า ก่ อ ใ ห้ เ กิ ด ก า ร ใ ช้ ภู มิ ปั ญ ญ า ส ร้ า ง ส ร ร ค์ ศิ ล ป ก ร ร ม ใ น รู ป ข อ ง ส ถ า ปั ต ย ก ร ร ม แ ล ะ จิตรกรรมที่งดงามมาก เช่น พระพุทธรูปทรงเคร่ืองท่ีวัดหน้า พระเมรุ หนา้ บันไม้แกะสลักที่ประดับตามวัดต่าง ๆ และจิตรกรรม ฝาผนงั ที่แสดงถงึ วถิ ีชวี ิตของคนในสมยั อยุธยา ประวัตศิ าสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕
วดั ไชยวฒั นาราม จังหวดั พระนครศรอี ยุธยา ศลิ ปกรรมในสมัยอยุธยาท่ีได้รับอิทธิพลมาจากเขมร ประวตั ิศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
เจดยี ์ย่อเหลีย่ มไมส้ ิบสองในวดั มหาธาตุ จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา เป็นลกั ษณะพเิ ศษของสถาปัตยกรรมในสมยั อยธุ ยา ประวัติศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕
Search