Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานแสดงผลการใช้นวัตกรรมการสอน เรื่องการยกระดับผลสัมฤทธิ์การทดสอบระดับชาติ ONET ด้วยโมเดลการสอน QKCA Model

รายงานแสดงผลการใช้นวัตกรรมการสอน เรื่องการยกระดับผลสัมฤทธิ์การทดสอบระดับชาติ ONET ด้วยโมเดลการสอน QKCA Model

Published by Chanwit Pittayaporn, 2022-07-03 13:49:51

Description: รายงานแสดงผลการใช้นวัตกรรมการสอน เรื่องการยกระดับผลสัมฤทธิ์การทดสอบระดับชาติ ONET ด้วยโมเดลการสอน QKCA Model

Search

Read the Text Version

1

2 รายงานผลการพฒั นานวัตกรรมการจดั การเรยี นการสอน เร่ือง การยกระดบั ผลสมั ฤทธิก์ ารทดสอบระดบั ชาติวิชาภาษาอังกฤษ O-NET ด้วยรปู แบบการสอนเทคนคิ การทำขอ้ สอบ QKCA Model ผ้ดู ำเนนิ การ นายชาญวิทย์ พทิ ยาภรณ์ ตำแหน่ง ครูผชู้ ่วย สถานศกึ ษา โรงเรียนวัดสุวรรณโฆษติ สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษา นครศรธี รรมราชเขต 3 กลุ่มเป้าหมาย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา2564 จำนวน 56 คน 1.ช่ือนวัตกรรม การยกระดับผลสัมฤทธิ์การทดสอบระดับชาตวิ ิชาภาษาองั กฤษ O-NET ดว้ ยรูปแบบการสอนเทคนคิ การทำข้อสอบ QKCA Model 2. ประเภทของนวตั กรรม เทคนคิ วธิ กี ารสอน 2. ทมี่ าและความสำคญั ของนวัตกรรมทน่ี ำเสนอ การจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2551 ได้กำหนด เป้าหมายหลักในการจัดการศึกษา นั่นคือ คุณภาพผู้เรียน รวมทั้งเป้าหมายของหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐานที่ต้องการให้นักเรียนเป็นคนดี เก่ง และมีสุข อีกทั้งสอดคล้องกับเป้าหมายของ หลกั สตู รหลกั สูตรสถานศึกษาและวสิ ัยทัศน์ของโรงเรยี นวัดสุวรรณโฆษิต นั่นคอื ผเู้ รยี นมีคุณภาพตาม มาตรานสากล บนพืน้ ฐานของความเปน็ ไทย กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่ครบถ้วนสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพนั้น เป็นวิธีการ พัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ลุล่วงสำเร็จตรงตามเป้าหมายตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หลักสูตรแกนกลาง และหลักสูตรสถานศึกษา โดยกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพนั้นเริ่ม ตง้ั แต่ การศึกษาและวิเคราะหห์ ลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน การจดั ทำหลกั สูตรสถานศึกษา ที่ประกอบไปด้วยเป้าหมายและวิสัยทัศน์ การวางแผนพัฒนาและกำหนดกลยุทธิ์ในการพัฒนา นำสู่ กระบวนการวางแผนการสอน พร้อมด้วยการสร้างสื่อการเรียน จากน้ันจัดกระบวนการเรียนการสอน ที่มีคุณภาพ และท้ายที่สุดและสำคัญที่สุดคือการวัดและประเมินผลคุณภาพการจัดการเรยี นการสอน

3 เพื่อนำผลการประเมินมาพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การวัดผลระดับชาติ ONET ของนกั เรียนท่กี ำลังจะจบการศึกษาระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 และ 6 โดย การทดสอบระดับชาติ ONET เป็นการวัดเพื่อประเมินคุณภาพของผู้เรียน คุณครู ผู้บริหารและ โรงเรยี น นอกจากนี้ยังเปน็ การจดั อันดับและเครื่องหมายการันตีคุณภาพของการจดั การเรยี นสอนของ แต่ละโรงเรยี นเช่นกนั เนื่องด้วยข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบเป็นครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษ ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564 และเป็นผู้รับผิดชอบโครงการยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางวิชาการ ให้สูงขึ้น และโครงการส่งเสริมความเป็นเลิศของนักเรียน ข้าพเจ้าได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการ พัฒนานักเรียนเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ ข้าพเจ้าได้นำผลการทดสอบระดับ (ONET) ชาติ วิชาภาษาอังกฤษ 2562 และ 2563 มาวิเคราะห์ตัวชีว้ ดั ที่ตอ้ งเร่งพัฒนา และตัวชี้วัดที่ควรพัฒนาเพอื่ ยกระดับผลสัมฤทธิ์การทดสอบระดับชาติ (ONET) ให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี และจากการ วเิ คราะหพ์ บว่า ผลการทดสอบระดบั ชาติ (ONET) ปีการศกึ ษา 2562 และปกี ารศึกษา 2563 มีตัวช้วี ัด ทีต่ ้องเรง่ พัฒนาดังนี้ มาตรฐาน ต1.1 ต1.2 และ ต 1.3 และยงั มตี ัวช้ีวัดท่ีควรพัฒนามดี ังน้ี มาตรฐาน ต2.1 และ 4.1 และผลการทดสอบระดับชาติ (ONET) รายวชิ าภาษาองั กฤษ ในปกี ารศึกษา 2563 มี คา่ เฉลีอ่ ยทู่ ี่ 32.78 มคี า่ Max อยทู่ ี่ 70 จากผ้เู ข้าสอบจำนวน 45 คน โดยคา่ เฉลีย่ ระดบั สังกดั มีคะแนน อยู่ท่ี 38.78 และคา่ เฉลีย่ ระดับประเทศมีคะแนนเฉลยี่ อยู่ที่ 43.55 ซ่งึ เหน็ ไดว้ ่าคา่ เฉล่ยี ผลคะแนนการ ทดสอบระดับชาติ (ONET) วิชาภาษาอังกฤษโรงเรียนวัดสุวรรณโฆษิตยังคงอยู่ในระดับที่ต้องพัฒนา ดังนั้นข้าพเจ้าเห็นความตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้เข้าร่วมประชุมวางแผนโดยมีผู้บริหารเป็น แกนนำ คณะครโู รงเรียนวัดสวุ รรณโฆษติ เพ่ือสร้างความตระหนักและความเข้าใจ พร้อมหาช่วยคิดหา แนวทางในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของนักเรียนวัดสุวรรณโฆษิตให้เพิ่มสูงขึ้น นอกจากน้ี ข้าพเจ้าได้เข้าร่วม PLC ในระดับสายชั้นประถมศึกษาป.4-6 คุณครูสายชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ คุณครูในสาระการเรียนภาษาต่างประเทศ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาและร่วมกันหาวิธีการต่างๆ โดยมี เป้าหมายเพื่อยกระดับผลสัมฤทธ์ิการทดสอบระดับชาติ (ONET) ให้สูงขึ้นในปีการศึกษา 2564 ทั้งน้ี ข้าพเจ้าจึงได้คิดค้นนวัตกรรมการสอน นั่นคือ รูปแบบการสอนเทคนิคการทำข้อสอบ QKCA Model ใช้สำหรับการจัดการเรียนสอนในรายวิชาภาษาอังกฤษและในชั่วโมงการส่งเสริมความเป็นเลิศด้าน วิชาการ โดยรูปแบบการสอนดังกล่าวจะเน้นให้นักเรียนได้ฝึกฝนการวิเคราะห์โจทย์คำถาม การนำ ความรู้พื้นฐานมาใช้ในการตดั สินใจเลือกข้อคำตอบที่ถูกต้องที่สุด โดยรูปแบบการสอนเทคนิคการทำ ข้อสอบ QKCA Model อยู่ภายใต้กระบวนการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก Active Learning ที่จะ เน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกวิเคราะห์โจทย์คำถามโดยเริ่มต้นที่การหา Keyword คำสำคัญหรือจุดใบ้ของ คำตอบที่อยู่ในคำถามแต่ละข้อ จากนั้นให้ผู้เรียนนำองค์ความรู้ที่มีมาใช้ในการตัดสินใจวิเคราะห์

4 ตวั เลอื กแต่ละข้อ ใชเ้ ทคนิคการตัดตัวเลือกที่ไม่เกี่ยวข้อง จนทา้ ยท่สี ดุ นักเรียนสามารถเลือกคำตอบที่ ถูกต้องได้ โดยคุณครูจะเป็นผู้ใช้คำถามในการกระตุ้นหาเหตุผลที่ในการเลือกคำตอบข้อนั้นๆ เพื่อให้ ทา้ ยทส่ี ุดนกั เรียนสามารถถา่ ยทอดออกมาเป็นสรุปองค์ความรู้ในเนื้อหา มาตราฐานและตัวชี้วัดท่ีแฝง อยู่ในข้อสอบแต่ละข้อได้ นอกจากนี้กระบวนการจัดการเรียนการสอนดังกล่าวมีรูปแบบมาจาก กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบย้อนกลับ Backward design ที่ต้นจากให้ผู้เรียนข้อสอบด้วยวิธีการ ของรปู แบบการสอนเทคนิคการทำขอ้ สอบ QKCA Model จนในทีส่ ุดนกั เรยี นสามารถสรปุ องค์ความรู้ ออกเป็นเนื้อหาและหลักการของเนื้อหา มาตรฐานและตัวชี้วัดนั้นๆได้ ทั้งนี้รูปแบบการสอนเทคนิค การทำข้อสอบ QKCA Model สามารถใช้ได้กับการทำข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษทุกประเภท เช่น Vocabulary Reading Conversation และ Grammar เปน็ ต้น ในปีการศึกษา 2564 ขา้ พเจา้ ไดน้ ำรปู แบบการสอนเทคนคิ การทำข้อสอบ QKCA Model มา ทดลองใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 เป็นระยะเวลาหนึ่ง ภาคเรียน ผลปรากฏว่า หลักจากการใช้นวัตกรรมดังกล่าวทำให้ผลคะแนนการทดสอบระดับชาติ (ONET) วิชาภาษาอังกฤษ ปีการศึกษา 2564 มีค่าเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 34.95 และมีค่า Max สูงกว่าทุกรายวิชาอยู่ที่ 87.50 จากจำนวนผู้เข้าสอบทั้งหมด 56 คน นอกจากนี้ยังมีผลการ ทดสอบวัดความรู้ซึ่งจัดโดยโรงเรียนที่มีคุณภาพและเปน็ ที่นิยมของจังหวัดนครศรธี รรมราช และมีผล คะแนนวิชาภาษาอังกฤษในการสอบเพื่อเข้าศึกษาเรียนต่อในระดับมัธยมอยู่ในระดับที่สงู ขึ้นอย่างน่า พอใจ อย่างไรก็ตามจากการดำเนินงานในปีการศึกษา 2564 ยังคงมปี ัจจัยในเรอ่ื งการจัดการเรียนการ สอนรูปแบบออนไลน์ทั้งปีการศึกษา ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ท่ี ส่งผลให้เป็นอุปสรรคในการจัดการเรียนการสอน อีกทั้งระยะเวลาในการทดลองใช้นวตั กรรมดังกล่าว ยังค่อนข้างน้อยในการฝึกฝนของนักเรียน ดังนั้นในปีการศึกษา 2565 ข้าพเจ้านำผลการวิเคราะห์มา พัฒนานวัตกรรมดังกล่าวมาใช้เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์การทดสอบระดับชาติ (ONET)ต่อไป โดย ข้าพเจ้ามีเป้าหมายสำหรับการยกระดับผลสัมฤทธิ์การทดสอบระดับชาติ ( ONET) รายวิชา ภาษาองั กฤษใหส้ ูงข้นึ อย่างเน่ืองทุกปี และให้มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าระดบั สงั กัด จังหวัด และประเทศต่อไป 3. วตั ุประสงค์ 3.1 เพอ่ื นำรปู แบบการสอนการทำข้อสอบ QKCA Model ไปใช้เพ่ือยกระดับผลสมั ฤทธิ์การ ทดสอบระดับชาติ (ONET) 3.2 เพื่อศึกษาและพัฒนารูปแบบการสอนการทำข้อสอบ QKCA Model สำหรบั การ ยกระดับผลสมั ฤทธิก์ ารทดสอบระดบั ชาติ (ONET)

5 4. วิธีการดำเนนิ งาน ในการดำเนินการสรา้ งนวัตกรรมรปู แบบการสอนการทำข้อสอบ QKCA Model ข้าพเจ้ามี การดำเนินงานตามทฤษฎีวงจรบริหารงานคุณภาพเดมม่ิง PDCA โดยมีขน้ั ตอนดงั นี้ Plan วางแผนการดำเนินงาน 4.1 เขา้ ร่วมประชมุ วางแผน พูดคุยเกีย่ วกับปญั หาเร่ืองผมสมั ฤทธ์ิทางวิชาการของโรงเรียน กบั ผู้บริหาร คณะครู และบุคลลากรทางการศึกษา 4.2 พูดคุย หารอื และวิเคราะหส์ าเหตุของปญั หาเรือ่ งผลการทดสอบระดบั ชาติ (ONET) กบั คณุ ครูในสายช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4-6 คุณครูสายชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 และคณุ ครูในกลุ่มสาระการ เรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศเพื่อแก้ปญั หา หาวิธกี ารแกไ้ ขปญั หา Do ดำเนนิ งานตามแผน 4.3 ศกึ ษาผลสัมฤทธิก์ ารทดสอบระดับชาติ O-NET ในรายวิชาภาษาอังกฤษยอ้ นหลัง 2 ปี การศึกษา (ปีการศึกษา 2562 และปกี ารศึกษา 2563) 4.4 วเิ คราะห์มาตรฐานและตัวช้วี ัดท่ตี อ้ งเรง่ พฒั นา และควรพัฒนาจากผลการทดสอบ ระดบั ชาติ ONET ในรายวิชาภาษาอังกฤษย้อยหลงั 2 ปกี ารศกึ ษา 4.5 จดั ทำแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใชก้ ระบวนการจัดการเรยี นรู้เชิงรุก Active Learning โดยนำรูปแบบการสอนการทำขอ้ สอบ QKCA Model มาแทรกในขัน้ การฝึกปฏบิ ตั ิ มีข้นั ตอนดงั น้ี 4.5.1 นักเรยี นอา่ นโจทย์คำถามข้อสอบ โดยไม่แปลข้อสอบ (Question Reading) 4.5.2 นักเรยี นหาคำสำคญั หรือคำใบ้คำตอบในขอ้ คำถาม (Keyword Finding) 4.5.3 นักเรียนตัวเลือกท่ีไม่ใชท่ ิ้ง (Choice leaving) 4.5.4 นกั เรียนเลอื กคำตอบข้อท่ีถูก (Answering) 4.6 นำแผนการจดั การเรียนรู้ดงั กลา่ วไปใชใ้ นชวั่ โมงเรยี นภาษาองั กฤษและชว่ั โมงส่งเสริม ความเปน็ เลศิ ด้านวิชาการตลอดภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 Check ตรวจสอบ 4.6 นักเรียนเขา้ รบั การทดสอบระดับชาติ (ONET) ปีการศึกษา 2564 4.7 เปรียบเทียบผลสมั ฤทธิ์การทดสอบระดับชาตปิ ีการศกึ ษา 2563 และปกี ารศกึ ษา 2564 เพอ่ื ใหเ้ ห็นถงึ การพฒั นาที่สงู ขึ้น Action ปรับปรุงและพัฒนา 4.5 สรา้ งชุมชนแห่งการเรียนรูท้ างวชิ าชพี เพื่อปรบั ปรงุ พัฒนา และตอ่ ยอดเพื่อใหพ้ ฒั นา อย่างต่อเนื่อง และสามารถบรูณาการนำไปใช้ในวชิ าอนื่ ต่อไป

6 5. หลกั การ แนวคิด ทฤษฎีที่ใชใ้ นการสร้างและพฒั นานวัตกรรม 5.1 ทฤษฎกี ารจัดการเรยี นการสอนเชงิ รกุ (Active Learning) แนวคิดของการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เป็นกระบวนการเรียนการสอนท่ี สง่ เสรมิ ให้ ผเู้ รียนมสี ว่ นร่วมในช้นั เรียน สรา้ งปฏิสมั พันธร์ ะหว่างครผู ู้สอนกบั ผเู้ รียน มงุ่ ให้ผู้เรียนลงมือ ปฏิบัติ โดยมีครู เป็นผู้อำนวยความสะดวก (Facilitator) สร้างแรงบันดาลใจ ให้คำปรึกษา ดูแล แนะนำทำหน้าที่เป็นโค้ชและพี่เลี้ยง (Coach & Mentor) แสวงหาเทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้ และ แหล่งเรยี นรู้ท่หี ลากหลาย ใหผ้ ูเ้ รียนไดเ้ รยี นรอู้ ย่างมีความหมาย (Meaningful learning) ผเู้ รียนสร้าง องค์ความรูไ้ ด้ มีความขา้ ใจในตนเอง ใช้สตปิ ญั ญา คดิ วิเคราะห์ สร้างสรรคผ์ ลงานนวัตกรรมที่บ่งบอก ถึงการมีสมรรถนะสำคัญในศตวรรษที่ 21 มีทักษะวิชาการ ทักษะชีวิต และทักษะวิชาชีพ บรรลุ เป้าหมายการเรยี นรตู้ ามระดับชว่ งวยั ความสำคัญของการจดั การเรยี นรู้เชิงรุก (Active Learning) 1) Active Learning ส่งเสริมการมีอิสระทางด้านความคิดและการกระทำของผู้เรียน การมี วิจารณญาณ และการคิดสร้างสรรค์ ผู้เรียนจะมีโอกาส มีส่วนร่วมในการปฏิบัติจริงและมีการใช้ วิจารณญาณในการคิดและตัดสนิ ใจในการปฏิบัติกิจกรรมนั้น มงุ่ สรา้ งใหผ้ ้เู รยี นเป็นผูก้ ำกับทิศทางการ เรียนรู้ ค้นหาสไตล์การเรียนรู้ของตนเอง สู่การเป็นผู้รู้คิด รู้ตัดสินใจด้วยตนเอง (Metacognition) เพราะฉะนั้น Active Learning จึงเป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งให้ผู้เรียนสามารถพัฒนา ความคิดขั้นสูง (Higher order thinking) ในการมีวิจารณญาณ การวิเคราะห์ การคิดแก้ปัญหา การ ประเมิน ตดั สินใจ และการสร้างสรรค์ 2) Active Leaning สนับสนุนส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งความ ร่วมมอื ในการปฏิบตั ิงานกลมุ่ จะนำไปสู่ความสำเร็จในภาพรวม 3) Active Learning ทำให้ผู้เรียนทุ่มเทในการเรียน จูงใจในการเรียน และทำให้ผู้เรียน แสดงออกถงึ ความรู้ความสามารถ เม่ือผู้เรยี นได้มีสว่ นรว่ มในการปฏิบัติกิจกรรมอย่างกระตือรือร้น ใน สภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวย ผ่านการใช้กิจกรรมที่ครูจัดเตรียมไว้ให้อย่างหลากหลาย ผู้เรียนเลือก เรียนรู้ กิจกรรมต่าง ๆ ตามความสนใจและความถนัดของตนเอง เกิดความรับผิดชอบและทุ่มเทเพ่ือ มุ่งสคู่ วามสำเร็จ 4) Active learning ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่ก่อให้เกิดการพัฒนาเชิงบวกทั้งตัวผู้เรียน และตัวครู เป็นการปรับการเรียนเปลี่ยนการสอน ผู้เรียนจะมีโอกาสได้เลือกใช้ความถนัด ความสนใจ ความสามารถที่เป็นความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Different) สอดรับกับแนวคิดพหุ ปญั ญา (Multiple Intelligence) เพ่ือแสดงออกถึงตวั ตนและศักยภาพของตัวเอง สว่ นครูผู้สอนต้องมี ความตระหนัก

7 5) แนวทางการนิเทศเพื่อพัฒนาและส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ตามนโยบายลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลารู้ ที่จะปรับเปล่ียนบทบาท แสวงหาวิธีการ กิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อช่วยเสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนแต่ละ คน สิ่งเหล่านี้จะทำให้ครูเกิดทักษะในการสอนและมี ความเชี่ยวชาญในบทบาท หน้าที่ ที่รับผิดชอบ เป็นการ พัฒนาตน พัฒนางาน และพัฒนาผู้เรียนไป พรอ้ มกนั ลกั ษณะของการจดั การเรยี นร้เู ชิงรุก (Active Learning) มดี งั นี้ 1) เป็นการพัฒนาศักยภาพการคิด การแกป้ ญั หา และการนำความรู้ไปประยุกตใ์ ช้ 2) ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดระบบการเรียนรู้และสร้างองค์ความรู้โดยมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน ในรูปแบบของความร่วมมอื มากกวา่ การแขง่ ขนั 3) เปิดโอกาสให้ผเู้ รยี นมสี ่วนรว่ มในกระบวนการเรียนรสู้ ูงสุด 4) เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูล ข่าวสาร สารสนเทศ สู่ทักษะการคิดวิเคราะห์ และ ประเมินค่า 5) ผ้เู รียนไดเ้ รยี นรคู้ วามมีวนิ ัยในการทำงานร่วมกับผ้อู ่ืน 6) ความรูเ้ กิดจากประสบการณแ์ ละการสรุปของผู้เรยี น 7) ผสู้ อนเปน็ ผอู้ ำนวยความสะดวกในการจดั การเรยี นรเู้ พื่อใหผ้ ู้เรยี นเป็นผปู้ ฏบิ ตั ดิ ้วยตนเอง 5.2 การออกแบบการเรยี นรู้ (backward Design) การออกแบบการเรียนรู้ (backward Design) ย้อนกลับ หมายถึง การวางแผนการจัดการ เรียนรู้ มุ่งเน้นท่ผี ูเ้ รียน มีความรู้ ความเขา้ ใจฝังลึก (deep knowledge) โดยกำหนดผลการเรียนรทู้ ่ี คาดหวงั จากมาตรฐานการเรยี นรู้ ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ หรอื คำอธิบายรายวชิ าของหลักสตู ร เพ่ือ กำหนดพฤตกิ รรมท่พี ึงประสงคแ์ ละเป็นแนวทางในการกำหนดจดุ ประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบ การวดั และประเมนิ ผล รวมท้ังการออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างเปน็ ขั้นตอน กระชบั เกดิ ประสบการณ์การเรียนได้สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรยี นรู้การวดั และประเมนิ ผล วิงกนิ สแ์ ละแม็คไทธ์ (Wiggins and McTighe. 1998) ได้พัฒนารปู แบบการจดั การเรยี นรู้ ย้อนกลบั แสดงข้ันนตอนการจัดการเรยี นรู้ การกำหนดเป้าหมายของการเรยี นรู้ ท่ตี ้องการให้เกดิ ขน้ึ กับผู้เรียน จากนั้นจึงวิเคราะห์ย้อนกลับมาส่จู ดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การออกแบบการวดั และ ประเมนิ ผลประกอบด้วย 3 ข้ันตอน ดงั นี้ 1. กำหนดความรู้ ความสามารถหรอื ผลลพั ธข์ องการเรยี นรู้ ที่ต้องการให้เกิดข้ึนกับผู้เรยี น 2. กำหนดพฤติกรรมหรือหลักฐานที่สำคัญทแี่ สดงใหเ้ หน็ ว่าผู้เรียนได้บรรลุผลการเรยี นรูต้ ามท่ีกำหนด 3. ออกแบบกจิ กรรมการเรยี นร้แู ละการวดั และประเมินผลใหส้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้

8 การจัดการเรยี นรู้แตล่ ะข้ันตอนมรี ายละเอียดดงั ต่อไปนี้ ข้ันตอนท่ี 1 กำหนดความรู้ความสามารถหรอื ผลลัพธข์ องการเรยี นรู้ หมายถึง การ กำหนดผลการเรียนรู้ ที่คาดหวัง (Learning outcome) ที่มุ่งหวังให้เกิดขึ้นกบั ผเู้ รียน (Identify desired results) ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ของกลุ่มสาระการเรียนร้หู รอื คำอธบิ ายรายวิชาใน หลกั สตู ร การกำหนดผลการเรยี นรู้ ท่ีคาดหวงั ควรคำนงึ ถึงผเู้ รยี นมคี วามรูความเข้าใจและ ความสามารถอะไรบ้าง ความร้แู ละความสามารถที่มคี ณุ คา่ ต่อการเรยี นรู้ของผเู้ รยี นคอื อะไร ความรู้ และความสามารถที่คงทนที่ต้องการให้ดำรงอยู่กบั ผู้เรียนคืออะไร ความรแู้ ละความสามารถท่ีคงทน เปน็ ส่งิ สำคญั ของการกำหนดผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวังซึ่งจะต้องวิเคราะหใ์ ห้ชัดเจนว่าแต่ละหนว่ ยการ เรียนรู้มคี วามสามารถท่คี งทนอะไรบ้างทจ่ี ะต้องให้เกดิ ขึ้นกับผู้เรยี น จ าเป็นตอ้ งพัฒนาใหเ้ กดิ ข้ึนอยา่ ง เป็นลำดับขน้ั ตอน ได้แก่ 1) การกระต้นุ ความรู้ เดิมทส่ี ร้างใหผ้ ูเ้ รียนคุ้นเคยกบั ความรู้ใหม่ 2) การเสริมสรา้ งความรู้และทักษะที่สำคัญทจี่ ะไปเสรมิ ความรู้ใหม่ 3) การผสมผสานเชอ่ื มโยงใหเ้ ป็นความร้แู ละความสามารถทีค่ งทนดังแผนภาพ 1 ขน้ั ตอนที่ 2 การกำหนดพฤติกรรมหรือหลักฐานทส่ี ำคัญท่ีแสดงให้เห็นว่าผู้เรยี นได้บรรลุผล การเรยี นรตู้ ามที่กำหนด หลงั จากทผ่ี เู้ รยี นไดเ้ รียนรู้ จากหน่วยการเรยี นรู้ ท่กี ำหนดไว้ การออกแบบ การจดั การ เรียนรจู้ ะต้องตอบคำถามให้ได้สำหรับขั้นตอนน้ี คือ จะทราบได้อย่างไรวา่ ผเู้ รียนมคี วามรู้

9 ความสามารถ ตามผลการเรียนร้ทู กี่ ำหนดไว้การแสดงออกของผูเ้ รียนเป็นอย่างไรจงึ จะยอมรบั ได้วา่ ผ้เู รียนมีความรู้ ความสามารถตามท่ีกำหนดไว้ การกำหนดตัวบง่ ช้ีความสำเรจ็ ทางการเรียนรู้ อยา่ ง เปน็ รปู ธรรม โดยการวเิ คราะหค์ ำสำคัญ (keywords) ในผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวงั แลว้ เขียนเปน็ จุดประสงค์การเรียนรู้ ตอ้ งระบพุ ฤติกรรมที่ชัดเจน สามารถวัดและประเมินผลไดก้ ารก าหนด จดุ ประสงค์การเรียนรู้มหี ลกั การ ดังนี้ 1) มีความสอดคล้องกับผลการเรียนรทู้ ีค่ าดหวงั 2) เป็นพฤติกรรมท่ีสามารถวัดและประเมินผลได้ 3) เปน็ ความรแู้ ละความสามารถที่คงทนหรอื ความรู้ฝังลกึ (deep knowledge) 4. แนะแนวทางสกู่ ารออกแบบกจิ กรรมการเรียนรู้รวมทงั้ การวดั และประเมินผล 5) ผเู้ รยี นสามารถใช้เปน็ แนวทางการเรียนรู้สำหรับตนเองได้ ความคิด รวบยอดหลกั ผลการ ข้ันตอนที่ 3 การออกแบบกจิ กรรมการเรียนรแู้ ละการวัดและประเมนิ ผลหห้องสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เป็นการกำหนดวิธกี ารวัดและเครอ่ื งมอื วดั ให้สอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรียนรู้ และกจิ กรรมการ เรยี นรู้รวมท้ังการก าหนดเกณฑ์การประเมินท่มี ีความชดั เจน การวดั และประเมินผล การเรียนรู้ ทเี่ ปน็ ความรู้ ความเข้าใจที่คงทน (Enduring understanding) ของผู้เรยี น วธิ กี ารประเมนิ ที่เหมาะสมคือ วิธกี ารประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Authentic assessment) ซึง่ ควรดำเนนิ การควบค่ไู ปกับ การจดั การ เรยี นรู้อยา่ งต่อเน่อื งและยึดหลกั การ 6. ผลที่เกิดขึน้ กับผู้เรยี น จากการท่ีขา้ พเจา้ ได้นำรปู แบบการสอนเทคนคิ การทำขอ้ สอบ QKCA Model ในใชใ้ นการ จัดการเรยี นการสอนในรายวิชาภาษาองั กฤษ และช่ัวโมงการสง่ เสรมิ ความเป็นเลศิ ด้านวิชาการกับ นักเรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ปกี ารศึกษา 2564 พบวา่ ผลจากการใช้รูปแบบการสอนการทำ ข้อสอบ QKCA Model ตลอดภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 พบวา่ นักเรียนท่ีเขา้ เรียนออนไลน์ใน รายวชิ าภาษอังกฤษตลอดทงั้ ภาคเรยี น มผี ลคะแนนการทดสอบระดบั ชาติ ONET ปกี ารศกึ ษา 2564 มีผลเพม่ิ ข้นึ

10 7. ปัจจยั นำไปส่คู วามสำเรจ็ ปจั จยั ความสำเรจ็ ท่ีเกดิ จากการนำนวตั กรรมไปใช้มีบุคคลและหนว่ ยงานที่เก่ยี วข้องดงั น้ี 1. ผู้บริหารสถานศกึ ษา ดร. อาภรณ์ อ่อนคง ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั สุวรรณโฆษติ และ นางสาวอรเพญ็ ชนะสุข รองผู้อำนวยการสถานศกึ ษา ในการสนบั สนุนในการจดั ประชมุ วางแผน การดำเนินงานตามกิจกรรมโครงการยกระดับผลสัมฤทธ์ทิ างวชิ าการใหส้ ูงข้นึ และโครงการสง่ เสริมความเป็นเลศิ ของนักเรียน จัดชวั่ โมงการส่งเสริมดา้ นวชิ าการ ตลด จนใหค้ ำแนะนำในเรื่องตา่ งๆ 2. คณะคุณครูระดบั สายชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4-6 และคณุ ครูในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ร่วมพดู คุย ปรึกษาหารอื และวเิ คราะหป์ ัญหาและปัจจยั ท่ีส่งผลต่อ การยกระดบั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน 3. หวั หนา้ บรหิ ารงานวิชาการคุณครจู ริ าพร ทองยอด สำหรับการจดั หาผลการทดสอบ ระดบั ชาติ ONET ย้อนหลัง (ปกี ารศกึ ษา 2562 และ 2563) รวมทั้งการจัดหาข้อสอบ การวดั ผลระดับชาติ ONET 4 ปีการศึกษาย้อนหลงั (ปีการศกึ ษา 2560 2561 2562 และ 2563) เพ่ือเป็นแนวทางในการทำขอ้ สอบปตี ่อไป 4. นกั เรยี นและผปู้ กครองทใ่ี ห้ความร่วมมอื ในการจัดการเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์ ท้ัง ในเวลาราชการและเวลานอกราชการ 8. บทเรยี นทไ่ี ด้รบั การจัดการเรยี นการสอนท่ีมุ่งเน้นการพัฒนาและยกระดับผลสมั ฤทธทิ์ างวิชาการของนักเรียน ในรายวิชาภาษาอังกฤษ ท่ีตอบสนองนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด คุณภาพผเู้ รยี น และจุดเน้นของ โรงเรียน ผเู้ รียนมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล บนพ้ืนฐานของความเปน็ ไทย พบว่า รูปแบบรปู แบบ การสอนการทำข้อสอบ QKCA Model สามารถยกระดับผลสมั ฤทธกิ์ ารทดสอบระดบั ชาติ ONET และผลการแข่งขันวชิ าการในรายวิชาภาษาองั กฤษได้ นอกจากนยี้ งั สามารถทำให้ผู้เรยี นเกิดแนวคิด การทำข้อสอบอยา่ งมีระบบขั้นตอน มที ักษะการวเิ คราะหโ์ จทย์คำถาม จนสามารถเลือกคำตอบที่ ถกู ต้องทีส่ ดุ ได้

11 9. การเผยแพรน่ วัตกรรมการสอน 9.1 เผยแพร่นวตั กรรมเรื่อง การยกระดับผลสมั ฤทธิ์การทดสอบระดบั ชาตวิ ิชาภาษาอังกฤษ O-NET ด้วยรูปแบบการสอนเทคนคิ การทำข้อสอบ QKCA Model ใหก้ ับคุณครใู นกลุ่มสาระการ เรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ผ่านกจิ กรรมชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) 9.2 เผยแพร่นวัตกรรมเรื่อง การยกระดบั ผลสัมฤทธ์กิ ารทดสอบระดับชาตวิ ชิ าภาษาอังกฤษ O-NET ด้วยรูปแบบการสอนเทคนคิ การทำขอ้ สอบ QKCA Model ใหก้ บั คณุ ครูท่ีสอนในระดบั ช้ัน ประถมศึกษาปที ี่ 6 ผา่ นกจิ กรรมชมุ ชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวิชาชพี (PLC)

12 ภาคผนวก การดำเนนิ งานการสรา้ งนวตั กรรม รูปแบบการสอนเทคนคิ การ ทำขอ้ สอบ QKCA Model

13 เข้ารว่ มประชมุ วางแผน พูดคุยเก่ยี วกบั ปญั หาเรื่องผมสัมฤทธิท์ างวิชาการของโรงเรียนกับผ้บู ริหาร คณะครู และบุคลลากรทางการศกึ ษา

14 พูดคยุ หารือ และวเิ คราะห์สาเหตขุ องปัญหาเรอ่ื งผลการทดสอบระดบั ชาติ (ONET) กับคุณครูในสาย ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4-6 คุณครูสายชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 และคณุ ครใู นกลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศเพ่ือแก้ปัญหา หาวธิ ีการแก้ไขปัญหา

15 พดู คยุ หารือ และวิเคราะหส์ าเหตขุ องปัญหาเร่ืองผลการทดสอบระดับชาติ (ONET) กบั คุณครใู นกลุ่ม สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศเพื่อแกป้ ัญหา หาวิธกี ารแกไ้ ขปัญหา

16 ศึกษาและวเิ คราะห์ผลสมั ฤทธ์ิการทดสอบระดับชาติ O-NET ในรายวิชาภาษาองั กฤษยอ้ นหลงั 2 ปี การศึกษา (ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563)

17 จัดทำแผนการจัดการเรยี นรู้ โดยใชก้ ระบวนการจัดการเรยี นรู้เชิงรุก Active Learning โดยนำ รปู แบบการสอนการทำขอ้ สอบ QKCA Model มาแทรกในขนั้ การฝกึ ปฏิบัติ

18 นำแผนการจดั การเรยี นรูด้ ังกลา่ วไปใช้ในช่วั โมงเรยี นภาษาองั กฤษและช่วั โมงสง่ เสรมิ ความเป็นเลิศ ดา้ นวิชาการตลอดภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 (ออนไซต์)

19 นำแผนการจดั การเรยี นรูด้ ังกลา่ วไปใช้ในช่วั โมงเรยี นภาษาองั กฤษและช่วั โมงสง่ เสรมิ ความเป็นเลิศ ดา้ นวิชาการตลอดภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 (ออนไลน์)

20 เปรยี บเทยี บผลสัมฤทธ์ิการทดสอบระดบั ชาติปีการศึกษา 2563 และปกี ารศกึ ษา 2564 เพอื่ ใหเ้ ห็นถึงการพัฒนาทส่ี งู ข้ึน ผลสัมฤทธิ์การทดสอบระดับชาติปกี ารศึกษา 2563 ผลสัมฤทธิ์การทดสอบระดับชาติปีการศึกษา 2564

21

22