บทที่ 4ประเภทของระบบเครือข่าย
ประเภทเครอื ข่าย1.แบ่งตามลกั ษณะทางกายภาพ คอืPAN= ( Personal Area Network: PAN ) เป็นเครือขา่ ยทใ่ี ชส้ ่วนบุคคล เชน่ การเชอ่ื มตอ่ คอมพิวเตอรก์ ับโทรศพั ทม์ อื ถือ การเชอื่ มตอ่ พดี ีเอกับเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ซึง่ การเชื่อมต่อแบบนจี้ ะอย่ใู นระยะใกล้ และมีการเชือ่ มตอ่ แบบไรส้ ายLAN= (Local Area Network) ระบบเครือ่ งขา่ ยทอ้ งถ่นิ เป็นเน็ตเวริ ก์ ในระยะทางไม่เกิน 10 กโิ ลเมตร ไม่ตอ้ งใชโ้ ครงข่ายการสอื่ สารขององคก์ ารโทรศพั ท์ คอื จะเปน็ ระบบเครอื ขา่ ยท่ีอย่ภู ายในอาคารเดยี วกนั หรอื ต่างอาคาร ในระยะใกล้ๆ
MAN= (Metropolitan Area Network) ระบบเครอื ขา่ ยเมอื ง เป็นเนต็ เวิรก์ ท่ีจะตอ้ งใช้โครงขา่ ยการส่ือสารขององคก์ ารโทรศัพท์ หรือการส่ือสารแหง่ ประเทศไทย เป็นการตดิ ตอ่ กันในเมอื ง เช่น เคร่ืองเวริ ก์ สเตชัน่ อยู่ทสี่ ขุ ุมวิท มกี ารตดิ ตอ่ ส่อื สารกบั เคร่อื งเวริ ์กสเตช่ันทีบ่ างรักWAN= (Wide Area Network) ระบบเครือขา่ ยกว้างไกล หรอื เรยี กไดว้ า่ เป็น WorldWide ของระบบเน็ตเวริ ์ก โดยจะเป็นการสอ่ื สารในระดบั ประเทศ ข้ามทวีปหรือทวั่ โลกจะตอ้ งใชม้ ีเดยี (Media) ในการสอื่ สารขององคก์ ารโทรศัพท์ หรือการสือ่ สารแหง่ ประเทศไทย (คูส่ ายโทรศพั ท์ dial-up / คสู่ ายเชา่ Leased line / ISDN)
2. แบง่ ตามหนา้ ท่ขี องคอมพิวเตอร์Peer-to-Peer = เปน็ ระบบทเ่ี ครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ ุกเครอื่ งบนระบบเครือข่ายมีฐานเท่าเทยี มกัน คอื ทกุ เครอื่ งสามารถจะใช้ไฟล์ในเครื่องอ่ืนได้ และสามารถใหเ้ คร่ืองอ่ืนมาใช้ไฟลข์ องตนเองไดเ้ ช่นกัน ระบบ Peer To Peer มีการทางานแบบดิสทรบิ วิ ท์ (Distributed System) =Distributed System คือการสร้าง System ข้ึนมาจาก Component เลก็ ๆ ทแ่ี ต่ละ Component สามารถทางานเสร็จสมบรู ณไ์ ดใ้ นตัวของมนั เอง นาประกอบกนั ข้ึนเป็นระบบใหญ่ระบบเดียว (Component Based) จดุ ประสงค์ ของ Distributed System มีอยดู่ ว้ ยกัน 3 ข้อด้วยกันClient-Server = เป็นระบบการทางานแบบ Distributed Processing หรอื การประมวลผลแบบกระจาย โดยจะแบ่งการประมวลผลระหวา่ งเคร่ืองเซริ ฟ์ เวอร์กับเครื่องไคลเอน็ ต์ แทนท่แี อพพลิเคชน่ั จะทางานอยู่เฉพาะบนเครอื่ งเซิรฟ์ เวอร์ ก็แบ่งการคานวณของโปรแกรมแอพพลเิ คช่นั มาทางานบนเครอ่ื งไคลเอ็นตด์ ้วย3. แบง่ ตามระดับความปลอดภยั ของข้อมลู เปน็ เกณฑ์
Intranet = ระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์แบบภายในองค์กร ใช้เทคโนโลยอี ินเทอรเ์ นต็ในการใชง้ านอินทราเนต็ จะตอ้ งใชโ้ พรโทคอล IP เหมือนกบั อินเทอรเ์ นต็ สามารถมีเว็บไซตแ์ ละใชเ้ ว็บเบราว์เซอรไ์ ดเ้ ช่นกนั รวมถงึ อีเมล ถา้ เราเชื่อมตอ่ อินทราเนต็ ของเรากบั อนิ เทอรเ์ นต็ เรากส็ ามารถใช้ได้ท้งั อนิ เทอร์เน็ต และ อนิ ทราเน็ต ไปพรอ้ ม ๆ กัน แต่ในการใช้งานนั้นจะแตกต่างกันดา้ นความเร็ว ในการโหลดไฟลใ์ หญ่ ๆ จากเว็บไซตใ์ นอนิ ทราเน็ต จะรวดเรว็ กวา่ การโหลดจากอินเทอรเ์ นต็ มาก ดงั น้ันประโยชนท์ ีจ่ ะไดร้ ับจากอนิ ทราเน็ต สาหรบั องคก์ รหนึ่ง คอื สามารถใชค้ วามสามารถต่าง ๆ ทม่ี ีอยู่ในอินเทอร์เน็ตไดอ้ ย่างเตม็ ประสทิ ธิภาพInternet = เครือขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ ่มี ีขนาดใหญ่ มีการเช่อื มต่อระหว่างเครอื ขา่ ยหลายๆ เครอื ข่ายทัว่ โลก โดยใชภ้ าษาทใ่ี ชส้ อ่ื สารกันระหวา่ งคอมพวิ เตอร์ที่เรยี กวา่ โพรโทคอล(protocol) ผใู้ ชเ้ ครอื ขา่ ยนี้สามารถสอ่ื สารถงึ กนั ได้ในหลาย ๆ ทาง อาทิ อเี มล เว็บบอรด์ และสามารถสบื คน้ ข้อมลู และขา่ วสารตา่ ง ๆExtranet = คอื ระบบเครอื ขา่ ยซึง่ เชอื่ มเครอื ขา่ ยภายในองคก์ ร หรือ อินทราเน็ต(intranet) เข้ากบั ระบบคอมพวิ เตอรท์ อี่ ยูภ่ ายนอกองค์กร เชน่ ระบบคอมพวิ เตอร์ของสาขาของผู้จัดจาหน่าย หรือของลกู ค้า เป็นต้น โดยการเชอื่ มตอ่ เครอื ขา่ ยอาจเปน็ ไดท้ ้งัการเชอ่ื มต่อโดยตรงระหว่าง 72 จุด หรอื การเชอ่ื มต่อแบบเครอื ข่ายเสมอื น (virtualnetwork) ระหว่างระบบอนิ ทราเนต็ หลาย ๆ เครือขา่ ยผา่ นอนิ เทอร์เนต็
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: