บทท่ี 1 ความรู้เก่ียวกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศความรู้เบอื ้ งต้นเก่ียวกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ1. ความหมายInformation Technology หรือ IT คือ การประยกุ ต์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในระบบสารสนเทศ ตงั้ แต่กระบวนการจดั เก็บประมวลผล และการเผยแพร่สารสนเทศ เพื่อช่วยให้ได้สารสนเทศทม่ี ีประสทิ ธิภาพและรวดเร็วทนั ตอ่เหตกุ ารณ์ ปัจจบุ นั คาวา่ “ เทคโนโลยสี าระสนเทศ ” หรือเรียกสนั้ ๆวา่ “ ไอที ” ( IT ) นนั้ มกั นามาใช้งานอยา่ งกว้างขวาง เกือบทกุ วงการล้วนเห็นความสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศกนั แทบทงั้ สนิ ้ หรืออาจเรียกวา่ โลกแหง่ ยคุ ไอทีนนั้ เอง ในความเป็นจริง คาวา่ เทคโนโลยีสาระสนเทศนนั้ ประกอบด้วยคาวา่ “เทคโนโลยี” และคาวา่ “สารสนเทศ” มารวมกนั โดยแตล่ ะคามีความหมายดงั นี ้ เทคโนโลยี ( Technology ) คือการประยกุ ต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ที่เกี่ยวข้องการผลติ การสร้างวิธีการดาเนินงาน และรวมถงึ อปุ กรณ์ตา่ งๆ ทีไ่ มไ่ ด้มีในตามธรรมชาติโลกแหง่ เทคโนโลยียคุ นี ้ ทาให้มนษุ ย์ได้รับสงิ่ อานวยความสะดวกจากเทคโนโลยมี าประยกุ ตใ์ ช้กบั การดาเนินชีวติ ประจาวนั มากมายนบั ไมถ่ ้วน สารสนเทศ ( Information ) คือผลลพั ธ์ทเ่ี กิดจากการประมวลผลข้อมลู ดิบ (Rau data ) ด้วยการรวบรวมข้อมลู จากแหลง่ ตา่ งๆ และนามาผ่านกระบวนการประเมินผล ไมว่ า่ จะเป็นการจดั กลมุ่ ข้อมลู การเรียงลาดบั ข้อมลู การคานวณและสรุปผล จากนนั้ ก็นามาเสนอในรูปแบบของรายงานทเ่ี หมาะสมตอ่ การใช้งานทีก่ ่อเกิดประโยชน์การดาเนินชีวติ ของมนษุ ย์ ไมว่ า่ จะเป็นด้านของชีวติ ประจาวนั ขา่ วสาร ความรู้ด้านวชิ าการ ธุรกิจ เม่ือนาคาวา่ เทคโนโลยี และ สารสนเทศ รวมเข้าไว้ด้วยกนั แล้ว จงึ สรุปความหมายโดยรวมได้วา่เทคโนโลยีสารสนเทศ ( Information technology ) คอื การประยกุ ต์ความรู้ทางด้านวทิ ยาสาสตร์มาจดั การสารสนเทศทต่ี ้องการ โดยอาศยั เครื่องมือทางเทคโนโลยีใหมๆ่ เชน่ เทคโนโลยดี ้านคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีด้านเครือขา่ ยโทรคมนาคมและการสอ่ื สาร ตลอดจนอาศยั ความรู้ในกระบวนการดาเนินงานสารสนเทศในขนั้ ตอนตา่ งๆ ตงั้ แตก่ ารแสวงหา การวเิ คราะห์ การจดั เก็บ รวมถงึ การจดั การเผยแพร่และแลกเปลย่ี นสารสนเทศด้วย เพื่อเพ่ิมประสทิ ธิภาพความถกู ต้องแมน่ ยา และความรวดเร็วทนั ตอ่ การนามาใช้ประโยชน์ได้นนั่ เอง2. ลกั ษณะสารสนเทศทด่ี ีเนอื ้ หา (Content)ความสมบรู ณ์ครอบคลมุ (completeness)ความสมั พนั ธ์กบั เรื่อง (relevance)
ความถกู ต้อง (accuracy)ความเชื่อถือได้ (reliability)การตรวจสอบได้ (verifiability)รูปแบบ (Format)ชดั เจน (clarity)ระดบั รายละเอยี ด (level of detail)รูปแบบการนาเสนอ (presentation)สอ่ื การนาเสนอ (media)ความยืดหยนุ่ (flexibility)ประหยดั (economy)เวลา (Time)ความรวดเร็วและทนั ใช้ (timely)การปรับปรุงให้ทนั สมยั (up-to-date)มรี ะยะเวลา (time period)กระบวนการ (Process)ความสามารถในการเข้าถึง (accessibility)การมีสว่ นร่วม (participation)การเช่ือมโยง (connectivity)3. ความหมายของระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ (Management Information System) ระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ คอื ระบบที่รวบรวม ประมวล เก็บรักษา และเผยแพร่สารสนเทศ เพ่ือใช้ในการวางแผน การพฒั นาตดั สนิ ใจ ประสานงาน และควบคมุ การดาเนนิ งาน4. องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมลู บคุ ลากร และขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน 1. ฮาร์ดแวร์เป็นองค์ประกอบสาคญั หมายถงึ เคร่ืองคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์รอบข้าง
2. ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ เป็นชดุ คาสง่ั ท่สี งั่ ให้ฮาร์ดแวร์ทางาน 3. ข้อมลู เป็นสว่ นทจ่ี ะนาไปจดั เก็บในเครื่องคอมพิวเตอร์ 4. บคุ ลากรเป็นผ้ทู ีม่ ีสว่ นเกยี่ วข้องกบั งานคอมพวิ เตอร์ 5. ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน เป็นสง่ิ ทีจ่ ะต้องเข้าใจเพอื่ ให้ทางานได้ถกู ต้องเป็นระบบ 1. ฮาร์ดแวร์ ฮาร์ดแวร์เป็นองค์ประกอบสาคญั ของระบบสารสนเทศ หมายถึง เคร่ืองคอมพิวเตอร์อปุ กรณ์รอบข้าง รวมทงั้อปุ กรณ์สอ่ื สารสาหรับเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าเป็นเครือขา่ ย เชน่ เครื่องพมิ พ์ เครื่องกราดตรวจเมอื่ พิจารณาเครื่องคอมพวิ เตอร์ สามารถแบง่ เป็น 3 หนว่ ย คอื 1. หนว่ ยรับข้อมลู (input unit) ได้แก่ แผงแปน้ อกั ขระ เมาส์ 2. หนว่ ยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) 3. หนว่ ยแสดงผล (output unit) ได้แก่ จอภาพ เครื่องพมิ พ์การทางานของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ เมื่อเปรียบเทยี บกบั มนษุ ย์ จะพบวา่ คล้ายกนั กลา่ วคอื เมอ่ื มนษุ ย์ได้รับข้อมลู จากประสาทสมั ผสั ก็จะสง่ ให้สมองในการคิด แล้วสง่ั ให้มีการโต้ตอบ 2 . ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบทีส่ าคญั ประการทส่ี อง ซง่ึ ก็คอื ลาดบั ขนั้ ตอนของคาสง่ั ทจี่ ะสง่ั งานให้ฮาร์ดแวร์ทางาน เพอื่ ประมวลผลข้อมลู ให้ได้ผลลพั ธ์ตามความต้องการของการใช้งาน ในปัจจบุ นั มีซอฟต์แวร์ระบบปฏบิ ตั งิ าน ซอฟต์แวร์ควบคมุ ระบบงาน ซอฟต์แวร์สาเร็จ และซอฟต์แวร์ประยกุ ต์สาหรับงานตา่ งๆ ลกั ษณะการใช้งานของซอฟตแ์ วร์กอ่ นหน้านี ้ ผ้ใู ช้จะต้องตดิ ตอ่ ใช้งานโดยใช้ข้อความเป็นหลกั แตใ่ นปัจจบุ นั ซอฟต์แวร์มีลกั ษณะการใช้งานทีง่ า่ ยขนึ ้ โดยมีรูปแบบการตดิ ตอ่ ทส่ี อ่ื ความหมายให้เข้าใจงา่ ย เชน่ มสี ว่ นประสานกราฟิกกบั ผ้ใู ช้ท่ีเรียกวา่ กยุ(Graphical User Interface : GUI) สว่ นซอฟต์แวร์สาเร็จทม่ี ีใช้ในท้องตลาดทาให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ในระดบั บคุ คลเป็นไปอยา่ งกว้างขวาง และเร่ิมมลี กั ษณะสง่ เสริมการทางานของกลมุ่ มากขนึ ้ สว่ นงานในระดบั องค์กรสว่ นใหญ่มกั จะมีการพฒั นาระบบตามความต้องการโดยการวา่ จ้าง หรือโดยนกั คอมพิวเตอร์ทอี่ ยใู่ นฝ่ายคอมพิวเตอร์ขององค์กร เป็นต้น ซอฟต์แวร์ คอื ชดุ คาสง่ั ทส่ี ง่ั งานคอมพวิ เตอร์ แบง่ ออกได้หลายประเภท เช่น 1. ซอฟต์แวร์ระบบ คือ ซอฟต์แวร์ทใ่ี ช้จดั การกบั ระบบคอมพวิ เตอร์ และอปุ กรณ์ตา่ งๆ ทมี่ อี ยใู่ นระบบ เชน่ระบบปฏิบตั ิการวินโดว์ส ระบบปฏิบตั ิการดอส ระบบปฏบิ ตั ิการยนู กิ ซ์
2. ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์ คอื ซอฟต์แวร์ท่ีพฒั นาขนึ ้ เพ่อื ใช้งานด้านตา่ งๆ ตามความต้องการของผ้ใู ช้ เชน่ซอฟต์แวร์กราฟิก ซอฟต์แวร์ประมวลคา ซอฟต์แวร์ตารางทางานซอฟต์แวร์นาเสนอข้อมลู 3. ข้อมลู ข้อมลู เป็นองค์ประกอบที่สาคญั อีกประการหนง่ึ ของระบบสารสนเทศ อาจจะเป็นตวั ชคี ้ วามสาเร็จหรือความล้มเหลวของระบบได้ เนือ่ งจากจะต้องมกี ารเก็บข้อมลู จากแหลง่ กาเนดิ ข้อมลู จะต้องมคี วามถกู ต้อง มกี ารกลนั่ กรองและตรวจสอบแล้วเทา่ นนั้ จงึ จะมปี ระโยชน์ ข้อมลู จาเป็นจะต้องมมี าตรฐาน โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ เมอ่ื ใช้งานในระดบั กลมุ่หรือระดบั องค์กร ข้อมลู ต้องมโี ครงสร้างในการจดั เก็บท่ีเป็นระบบระเบยี บเพือ่ การสบื ค้นท่รี วดเร็วมปี ระสทิ ธิภาพ 4. บคุ ลากร บคุ ลากรในระดบั ผ้ใู ช้ ผ้บู ริหาร ผ้พู ฒั นาระบบ นกั วเิ คราะห์ระบบ และนกั เขยี นโปรแกรม เป็นองค์ประกอบสาคญั ในความสาเร็จของระบบสารสนเทศ บคุ ลากรมคี วามรู้ความสามารถทางคอมพิวเตอร์มากเทา่ ใดโอกาสทจี่ ะใช้งานระบบสารสนเทศและระบบคอมพวิ เตอร์ได้เต็มศกั ยภาพและค้มุ คา่ ยงิ่ มากขนึ ้ เทา่ นนั้ โดยเฉพาะระบบสารสนเทศในระดบั บคุ คลซง่ึ เคร่ืองคอมพวิ เตอร์มขี ีดความสามารถมากขนึ ้ ทาให้ผ้ใู ช้มีโอกาสพฒั นาความสามารถของตนเองและพฒั นาระบบงานได้เองตามความต้องการ สาหรับระบบสารสนเทศในระดบั กลมุ่ และองค์กรที่มีความซบั ซ้อนจะต้องใช้บคุ ลากรในสาขาคอมพวิ เตอร์โดยตรงมาพฒั นาและดแู ลระบบงาน 5. ขนั้ ตอนการปฏิบตั งิ าน ขนั้ ตอนการปฏิบตั งิ านทชี่ ดั เจนของผ้ใู ช้หรือของบคุ ลากรทเ่ี ก่ยี วข้องก็เป็นเรื่องสาคญั อกีประการหนงึ่ เม่ือได้พฒั นาระบบงานแล้วจาเป็นต้องปฏิบตั งิ านตามลาดบั ขนั้ ตอนในขณะทใี่ ช้งานกจ็ าเป็นต้องคานงึ ถึงลาดบั ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิของคนและความสมั พนั ธ์กบั เครื่อง ทงั้ ในกรณีปกตแิ ละกรณีฉกุ เฉิน เชน่ ขนั้ ตอนการบนั ทกึ ข้อมลูขนั้ ตอนการประมวลผล ขนั้ ตอนปฏบิ ตั ิเมอ่ื เคร่ืองชารุดหรือข้อมลู สญู หาย และขนั้ ตอนการทาสาเนาข้อมลู สารองเพอ่ื ความปลอดภยั เป็นต้น สงิ่ เหลา่ นจี ้ ะต้องมกี ารซกั ซ้อม มกี ารเตรียมการ และการทาเอกสารคมู่ อื การใช้งานท่ชี ดั เจน5. ประโยชน์ของระบบสารสนเทศ ประสทิ ธิภาพ (Efficiency)• ระบบสารสนเทศทาให้การปฏิบตั งิ านมีความรวดเร็วมากขนึ ้ โดยใช้กระบวนการประมวลผลข้อมลู ซง่ึ จะทาให้สามารถเก็บรวบรวม ประมวลผลและปรบั ปรุงข้อมลู ให้ทนั สมยั ได้อย่างรวดเร็วระบบสารสนเทศชว่ ยในการจดั เก็บข้อมลู ทมี่ ีขนาดใหญ่ หรือมีปริมาณมากและช่วยทาให้การเข้าถงึ ข้อมลู (access) เหลา่ นนั้ มคี วามรวดเร็วด้วย• ชว่ ยลดต้นทนุ การทีร่ ะบบสารสนเทศชว่ ยทาให้การปฏิบตั งิ านที่เกี่ยวข้องกบั ข้อมลู ซง่ึ มีปริมาณมากมคี วามสลบั ซบั ซ้อนให้ดาเนินการได้โดยเร็ว หรือการช่วยให้เกิดการตดิ ตอ่ สอื่ สารได้อยา่ งรวดเร็ว ทาให้เกดิ การประหยดั ต้นทนุ การดาเนนิ การอยา่ งมาก• ชว่ ยให้การติดตอ่ สอ่ื สารเป็นไปอยา่ งรวดเร็ว การใช้เครือขา่ ยทางคอมพิวเตอร์ทาให้มกี ารตดิ ตอ่ ได้ทว่ั โลกภายในเวลาท่ีรวดเร็ว ไมว่ า่ จะเป็นการตดิ ตอ่ ระหวา่ งเครื่องคอมพวิ เตอร์กบั เครื่องคอมพวิ เตอร์ด้วยกนั (machine to machine) หรือคนกบั คน (human to human) หรือคนกบั เครื่องคอมพวิ เตอร์ (human to machine) และการติดตอ่ สอื่ สารดงั กลา่ วจะทาให้ข้อมลู ทเ่ี ป็นทงั้ ข้อความ เสยี ง ภาพน่ิง และภาพเคลอื่ นไหวสามารถสง่ ได้ทนั ที
• ระบบสารสนเทศชว่ ยทาให้การประสานงานระหวา่ งฝ่ายตา่ ง ๆ เป็นไปได้ด้วยดีโดยเฉพาะหากระบบสารสนเทศนนั้ออกแบบ เพือ่ เออื ้ อานวยให้หนว่ ยงานทงั้ ภายในและภายนอกทอี่ ยใู่ นระบบของซพั พลายทงั้ หมด จะทาให้ผ้ทู ีม่ ีสว่ นเก่ียวข้องทงั้ หมดสามารถใช้ข้อมลู ร่วมกนั ได้ และทาให้การประสานงาน หรือการทาความเข้าใจเป็นไปได้ด้วยดียงิ่ ขนึ ้ ประสทิ ธิผล (Effectiveness)• ระบบสารสนเทศชว่ ยในการตดั สนิ ใจ ระบบสารสนเทศทีอ่ อกแบบสาหรับผ้บู ริหาร เช่น ระบบสารสนเทศท่ชี ว่ ยในการสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจ (Decision support systems) หรือระบบสารสนเทศสาหรับผ้บู ริหาร (Executive supportsystems) จะเออื ้ อานวยให้ผ้บู ริหารมขี ้อมลู ในการประกอบการตดั สนิ ใจได้ดขี นึ ้ อนั จะสง่ ผลให้การดาเนินงานสามารถบรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ไว้ได้• ระบบสารสนเทศช่วยในการเลอื กผลติ สนิ ค้า/บริการท่ีเหมาะสมระบบสารสนเทศจะชว่ ยทาให้องค์การทราบถึงข้อมลู ท่ีเก่ียวข้องกบั ต้นทนุ ราคาในตลาดรูปแบบของสนิ ค้า/บริการที่มีอยู่ หรือชว่ ยทาให้หนว่ ยงานสามารถเลอื กผลติ สนิ ค้า/บริการท่มี คี วามเหมาะสมกบั ความเชย่ี วชาญ หรือทรัพยากรทีม่ อี ยู่• ระบบสารสนเทศช่วยปรับปรุงคณุ ภาพของสนิ ค้า/บริการให้ดขี นึ ้ ระบบสารสนเทศทาให้การติดตอ่ ระหวา่ งหนว่ ยงานและลกู ค้า สามารถทาได้โดยถกู ต้องและรวดเร็วขนึ ้ ดงั นนั้ จึงชว่ ยให้หนว่ ยงานสามารถปรับปรุงคณุ ภาพของสนิ ค้า/บริการให้ตรงกบั ความต้องการของลกู ค้าได้ดีขนึ ้ และรวดเร็วขนึ ้ ด้วย• ความได้เปรียบในการแขง่ ขนั (Competitive Advantage)• คณุ ภาพชีวติ การทางาน (Quality of Working Life)
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: