Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Description: 5

Search

Read the Text Version

การวางแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ 5   วเิ คราะห์สาระมาตรฐานและขอบข่ายการจดั การเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดบั ช้ัน ประถมศกึ ษาปี ท่ี 3 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ชนิดของคา หนูจาได้ สาระสาคญั ตามมาตรฐาน 1. วรรณกรรมเร่ือง ตนเป็นทพ่ี ่งึ แห่งตน เวลา 8 ชวั่ โมง การเรียนรู้ที่ ท 1.1 / ท 2.1 / 2. การเขียนจดหมายลาครู เวลา 6 ชว่ั โมง ท 4.1 / ท 5.1 3. ชนิดของคา เวลา 2 ชวั่ โมง 4. ประโยค เวลา 3 ชว่ั โมง ลาดับแผนการจัดการเรยี นรู้ 5. ปริศนาคาทาย เวลา 2 ชว่ั โมง - แผนการเรียนรู้ที่ 5 6. เพลงพ้นื บา้ น เวลา 2 ชว่ั โมง กิจกรรมที่ 1. ชนิดของคา จาข้นึ ใจ 2. ประโยคและชนิดของประโยค 3. วรรณกรรมเรื่อง ตนเป็นทพ่ี ่งึ แห่งตน 4. การเขียนจดหมายลาครู 5. ปริศนาคาทาย 6. เพลงพ้ืนบา้ น กระบวนการเรยี นรู้หลกั - กระบวนการเรียนภาษา กระบวนการเรียนรู้บรู ณาการ - กระบวนการปฏบิ ตั ิ - บูรณาการสู่การคิด โดยใหน้ กั เรียนทาบตั รคา คิดและเขียนคาตา่ งๆ ตามท่ไี ดเ้ รียนรู้มาชนิดละ 2 คา โดยเขียนคาจากส่ิงที่อยรู่ อบๆ ตวั นกั เรียน และตกแต่งบตั รคาให้สวยงาม จากน้นั ให้นาบตั รคาท่ที า สาเร็จแลว้ มาช่วยกนั เรียบเรียงให้เป็นประโยคชนิดตา่ งๆ 144

 กาหนดเป้าหมายการจดั การเรียนรู้ ประจาหน่วยท่ี 5 ด้านความรู้ (K) ด้านทักษะกระบวนการ (P) ด้านคุณลกั ษณะ 1. วรรณกรรมเร่ือง ตนเป็นทีพ่ ่งึ 2. การฟังส่ิงทค่ี รูและเพอ่ื นพูด 3. การพูดตอบคาถาม และการพูด ท่พี ึงประสงค์ (A) แห่งตน 1. เหน็ คณุ ค่าของการใชภ้ าษาไทย 2. การเขียนจดหมายลาครู แสดงความคดิ 3. ชนิดของคา 4. การอ่านออกเสียงสะกดคา ในชีวติ ประจาวนั 4. ประโยค 5. การเขียนสะกดคา 2. มคี วามกระตอื รือร้น สนใจใฝ่รู้ 5. ปริศนาคาทาย 6. การคดิ วิเคราะห์ 3. มคี วามรับผิดชอบในงานของตน 6. เพลงพ้ืนบา้ น 7. การคดั ลายมือตวั บรรจง และมสี ่วนร่วมในการทากิจกรรม เตม็ บรรทดั 4. มีนิสยั รกั การอ่านและเขียน 5. มมี ารยาทในการเขยี น เป้าหมายการเรียนรู้ ชนดิ ของคา หนูจาได้ หลักฐานการเรียนรู้ ภาระงานทปี่ ฏิบตั ิระหว่างเรียน ผลงานการเรียนรู้รวบยอด ผลงานการประเมินตนเอง - ฝึกกระบวนการเรียนรูโ้ ดยการ - ฝึกกระบวนการคดิ วเิ คราะห์ - ผลงานบตั รคาและประโยค อา่ น เขยี น และคดิ จากกิจกรรม จากกิจกรรมพฒั นาการคิด พฒั นาการเรียนรู้ และใบงาน (จานวน 10 ชิน้ ) (จานวน 10 ชิ้น) 145

 ออกแบบการจดั การเรียนรู้ 1. กาหนดเป้าหมายการเรียนรู้ สาระที่ 1 : การอ่าน มาตรฐาน ท 1.1 : ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพื่อนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอา่ น (1) อ่านออกเสียงคา ขอ้ ความ เร่ืองส้นั ๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง คล่องแคล่ว (2) อธิบายความหมายของคา และขอ้ ความทอี่ า่ น สาระที่ 2 : การเขยี น มาตรฐาน ท 2.1 : ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสื่อสาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเรื่องราวในรูปแบบ ต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ (4) เขียนจดหมายลาครู สาระท่ี 4 : หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 : เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ (2) ระบชุ นิดและหนา้ ทข่ี องคาในประโยค (4) แต่งประโยคงา่ ยๆ สาระท่ี 5 : วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท 5.1 : เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคณุ ค่า และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง (2) รู้จกั เพลงพ้นื บา้ น และเพลงกล่อมเด็ก เพือ่ ปลกู ฝังความชื่นชมวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ 2. ความคิดรวบยอด เม่ือเรียนจบหน่วยการเรียนรู้น้ีแลว้ นกั เรียนจะตอ้ งมคี วามรู้ความเขา้ ใจทคี่ งทน ดงั น้ี - การฝึกอา่ นออกเสียงสะกดคา จะทาใหอ้ ่านคา ขอ้ ความ และเรื่องส้ันๆ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ - การเขียนจดหมายลาครู จะทาใหม้ ที กั ษะในการเขียนจดหมาย - การรู้จกั ชนิดของคา จะทาใหแ้ ต่งประโยค และใชค้ าไดถ้ กู ตอ้ ง 146

- การแต่งประโยค จะทาใหใ้ ชป้ ระโยคในการส่ือสารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และเหมาะสมกบั โอกาส - ปริศนาคาทาย และเพลงพ้นื บา้ น จะทาให้มีทกั ษะในการใชค้ า และทาให้เห็นคุณค่า ของภาษาไทย 3. แก่นสารสาคัญของการเรียนรู้ 1. การเรียนรู้ชนิดของคา และประโยค มีความจาเป็นตอ่ การดารงชีวิตของนกั เรียนอยา่ งไร 2. นกั เรียนคิดว่า ถา้ นกั เรียนไมส่ ามารถแตง่ ประโยคเพือ่ ใชใ้ นการสื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง จะเกิดผลเสียต่อการดารงชีวติ ของนกั เรียนอยา่ งไร 4. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 4.1 การประเมินก่อนเรียน 1) การใชค้ าถามเพอื่ ประเมนิ ความรู้เดิมของนกั เรียน 2) การทากิจกรรมนาสู่การเรียน - การอา่ นคาทก่ี าหนด แลว้ วงกลมรอบคาสรรพนาม และขดี เส้นใตค้ ากริยา จากน้นั เขยี นจาแนกคาลงในช่องว่างใหถ้ ูกตอ้ ง 4.2 การประเมนิ ระหว่างเรียน 1) การวงรอบคาท่ีเป็นคานามและคากริยาตามแนวต้งั และแนวนอนแลว้ เขียนคาลงในช่องวา่ ง 2) การอา่ นขอ้ ความทีก่ าหนด แลว้ เขียนบอกวา่ คาทพี่ ิมพต์ วั สีฟ้าเป็นคาชนิดใด 3) การบอกประเภทของประโยคท่ีใชใ้ นการสื่อสารใหถ้ ูกตอ้ ง 4) การแตง่ ประโยคตามที่กาหนดโดยไม่ซ้ากบั ตวั อยา่ งในหนงั สือ แลว้ เขียนลงในสมุด 5) การฝึกอา่ นสะกดคาบทอา่ น และหาความหมายของคาทีก่ าหนด 6) การตอบคาถามจากเร่ืองที่อา่ น 7) การเขียนจดหมายลาครูโดยสมมติเหตกุ ารณเ์ อง 8) การคดิ ปริศนาคาทาย คนละ 3 ขอ้ แลว้ เขยี นลงในสมดุ และทายปริศนาทคี่ ิดกบั เพือ่ น 9) การอ่านกลอนสกั วาปริศนาคาทาย แลว้ หาคาตอบและเขียนคาตอบลงในช่องวา่ ง 10) การร้องเพลงประกอบการละเลน่ รีรีขา้ วสาร แลว้ ร่วมกนั เล่นรีรีขา้ วสาร และร้องเพลง กลอ่ มเด็กภาคอสี าน 4.3 การประเมนิ หลังเรียน - แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิ ประจาหน่วยที่ 1-5 4.4 การประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้รวบยอด 1) การคิดแลว้ เขยี นคานาม คาสรรพนาม และคากริยา อยา่ งละ 10 คา 2) การเลอื กคาจาก ขอ้ 1) มาอยา่ งละ 2 คา แลว้ แต่งประโยคประเภทตา่ งๆ ตามทกี่ าหนด 147

3) การเขียนจดหมายลาครู โดยกาหนดสถานการณข์ ้ึนเอง 4) การเขียนบอกชนิดของคาท่กี าหนดแลว้ แตง่ ประโยคจากคา พร้อมบอกวา่ คาดงั กลา่ ว ทาหนา้ ที่ใดในประโยค 5) การสืบคน้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั เพลงพ้นื บา้ น พร้อมเขยี นสรุปลงในสมดุ และฝึกร้องเพลงพ้ืนบา้ น จากขอ้ มลู ท่ีสืบคน้ มา 6) การคดิ ปริศนาคาทายใหไ้ ดม้ ากทีส่ ุด แลว้ นามาทายเลน่ กบั เพอ่ื นกลุ่มอน่ื 7) ใบงานที่ 21 เรื่อง สรรพนาม สร้างสรรค์ 8) ใบงานท่ี 22 เรื่อง เรียงร้อย ถอ้ ยคา 9) ใบงานท่ี 23 เร่ือง ชนิดของประโยค 10) ใบงานที่ 24 เรื่อง รวมแรง แตง่ ประโยค 4.5 การประเมินตนเอง - ผลงานบตั รคาและประโยค 5. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. สื่อการเรียนรู้ ( ตวั อยา่ ง : ส่ือฯ มมฐ. หลกั สูตรแกนกลางฯ ภาษาไทย ป. 3 ) 2. กลอนคานาม 3. เกม ตอ่ คาสนุกจริง 4. เกม ออกทา่ ทายคา 5. เกม เก็บผลไมใ้ ส่ตะกร้า 6. เกม ปังๆ นาม สรรพนามหรือกริยา 7. แถบประโยค 3 แถบ 8. ปริศนาคาทาย 9. เพลงประกอบการละเลน่ แมงมมุ และมอญซ่อนผา้ 10. เทป / ซีดี เพลงกลอ่ มเดก็ ภาคอีสาน 11. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ เช่น ห้องสมดุ อินเทอร์เน็ต 148

แผนการเรียนรู้ท่ี 5 ชนิดของคา หนูจาได้ รหสั วิชา / ช่ือรายวิชา.......................................................................................................................................................................กลมุ่ สาระภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 3 เวลา 23 ชั่วโมง ภาคเรี ยนที่........................................... ผสู้ อน โรงเรียน............................................................................................................. .............................................................................................................................. 1. สาระสาคัญ คาในภาษาไทย แบง่ ออกเป็น 7 ชนิด ไดแ้ ก่ คานาม คาสรรพนาม คากริยา คาวิเศษณ์ คาบพุ บท คาสันธาน และคาอทุ าน การนาชนิดของคามาเรียงกนั ให้ไดใ้ จความจะกลายเป็น ประโยค ดงั น้นั การรู้จกั ชนิดของคาจะทาใหใ้ ชค้ าในภาษาไทยไดถ้ กู ตอ้ ง รวมถงึ ทาให้แต่งประโยคเพื่อการสื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และเหมาะสมกบั โอกาส 2. ตัวชี้วัด / จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อา่ นออกเสียงคา ขอ้ ความ เร่ืองส้นั ๆ และบทร้อยกรองงา่ ยๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง คลอ่ งแคล่ว (ท 1.1 ป. 3/1) 2. อธิบายความหมายของคา และขอ้ ความทอ่ี ่าน (ท 1.1 ป. 3/2) 3. เขยี นจดหมายลาครู (ท 2.1 ป. 3/4) 4. ระบุชนิดและหนา้ ทข่ี องคาในประโยค (ท 4.1 ป. 3/2) 5. แตง่ ประโยคงา่ ยๆ (ท 4.1 ป. 3/4) 6. รู้จกั เพลงพ้นื บา้ น และเพลงกลอ่ มเด็ก เพือ่ ปลกู ฝังความชื่นชมวฒั นธรรมทอ้ งถิน่ (ท 5.1 ป. 3/2) 3. สาระการเรียนรู้ ความรู้ 1. วรรณกรรมเร่ือง ตนเป็นที่พ่งึ แห่งตน 2. การเขยี นจดหมายลาครู 3. ชนิดของคา 4. ประโยค 5. ปริศนาคาทาย 6. เพลงพ้ืนบา้ น 149

ทกั ษะ/กระบวนการ 1. การฟังส่ิงท่ีครูและเพือ่ นพดู 2. การพูดตอบคาถาม และการพูดแสดงความคดิ 3. การอ่านออกเสียงสะกดคา 4. การเขียนสะกดคา 5. การคดิ วเิ คราะห์ 6. การคดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ 1. เห็นคณุ ค่าของการใชภ้ าษาไทยในชีวติ ประจาวนั 2. มคี วามกระตอื รือร้น สนใจใฝ่ รู้ 3. มีความรบั ผดิ ชอบในงานของตน และมีส่วนร่วมในการทากิจกรรม 4. มนี ิสัยรกั การอ่านและเขียน 5. มมี ารยาทในการเขียน 4. กิจกรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมท่ี  ชนิดของคา จาขนึ้ ใจ เวลา 8 ช่ัวโมง กระบวนการเรียนภาษา ช่ัวโมงที่ 1 กจิ กรรมนาสู่การเรียน 1. ครูให้นกั เรียนอา่ นกลอนคานามบนกระดานพร้อมกนั ดงั น้ี คานาม คาไทยมี 7 คา ทต่ี อ้ งจาไวใ้ หด้ ี คานามคอื คาท่ี ใชเ้ รียกคนสัตวส์ ่ิงของ เช่น บา้ น หนู หมู หมา ไฟ ปากกา ปลา เงิน ทอง ภเู ขา หว้ ย ลาคลอง เมอื งระนอง นายทองคา หนา้ ท่ีของนามน้นั เป็ นประธานและเป็ นกรรม ให้รู้ลู่ทางจา จงหมน่ั เพียรเล่าเรียนไป 150

2. ครูช้ีแจงให้นกั เรียนทราบเก่ียวกบั เร่ืองท่ีจะไดเ้ รียนในชวั่ โมงน้ี คอื เรื่อง ชนิดของคา และคานาม 3. ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 87) หัวขอ้ ชนิดของคา หัวขอ้ ยอ่ ย คานาม แลว้ อธิบาย ให้นกั เรียนเขา้ ใจคานาม โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 87) ประกอบการอธิบาย 4. ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียงคานามในกรอบสีฟ้า ในหนงั สือเรียน (หนา้ 87) พร้อมกนั กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกม “ต่อคา สนุกจริง” โดยให้นกั เรียนแบ่งออกเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 3 – 4 คน แลว้ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ บอกคานามตอ่ กนั ตามตวั อกั ษรทา้ ยคา ถา้ ต่อคาถกู ตอ้ งได้ 1 คะแนน กลมุ่ ใดต่อคาไมไ่ ดใ้ หบ้ อกผ่าน กลมุ่ ใดท่ไี ดค้ ะแนนมากที่สุดถอื เป็นผชู้ นะ ยกตวั อยา่ งเช่น นกั เรียนกลุ่มที่ 1: พ่ อ นกั เรียนกลมุ่ ท่ี 2: อ่ า ง นกั เรียนกลมุ่ ที่ 3: เ งื อ ก ... 2. ครูและนกั เรียนสรุปความรู้เก่ียวกบั คานาม ร่วมกนั และใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงกลอนคานาม พร้อมกนั เพื่อเป็นการสรุปความรู้อีกคร้งั ช่ัวโมงที่ 2 3. ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 88) หัวขอ้ ยอ่ ย คาสรรพนาม แลว้ ครูอธิบายใหน้ กั เรียน เขา้ ใจคาสรรพนาม โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 88) ประกอบการอธิบาย 4. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงคาสรรพนามในกรอบสีฟ้า ในหนงั สือเรียน (หนา้ 88) พร้อมกนั 5. ครูให้นกั เรียนทาใบงานที่ 21 สรรพนาม สร้างสรรค์ โดยการแต่งประโยคจากคาสรรพนาม ทกี่ าหนดให้ 6. ครูให้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนให้ยกตวั อยา่ งประโยคทีต่ นเองแตง่ คนละ 1 ประโยค 7. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เกี่ยวกบั คาสรรพนาม ชั่วโมงท่ี 3 8. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกม “ออกทา่ บอกคา” โดยให้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกออกมา ทาทา่ ทางตามทคี่ รูส่งั เช่น กิน หวั เราะ และร้องไห้ และให้นกั เรียนในช้นั เรียนทายว่าทา่ ทาง ทเ่ี พื่อนทา คอื คาว่าอะไร 9. ครูเขียนคาท่นี กั เรียนทายบนกระดาน แลว้ ถามนกั เรียนวา่ คาทีอ่ ยบู่ นกระดานเป็นคาประเภทใด จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงคาบนกระดานพร้อมกนั 151

10. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 88) หัวขอ้ ยอ่ ย คากริยา แลว้ ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ เก่ียวกบั คากริยา โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 88) ประกอบการอธิบาย จากน้นั ให้ นกั เรียนอา่ นออกเสียงคากริยาในกรอบสีฟ้าในหนงั สือเรียน (หนา้ 88) พร้อมกนั ช่ัวโมงที่ 4 11. ครูให้นกั เรียนทาใบงานท่ี 22 เรียงร้อย ถอ้ ยคา โดยใหน้ กั เรียนนาคากริยาที่กาหนดมาเขียนเร่ือง ตามจินตนาการ 1 เรื่อง พร้อมวาดรูปประกอบให้สวยงาม 12. ครูใหน้ กั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน โดยมคี รู และเพอ่ื นนกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งและแสดงความคดิ เห็น 13. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เก่ียวกบั คากริยา ชั่วโมงท่ี 5 กิจกรรมรวบยอด 1. ครูทบทวนความเดิมของนกั เรียนเก่ียวกบั ชนิดของคา ไดแ้ ก่ คานาม คาสรรพนาม และคากริยา 2. ครูให้นกั เรียนเล่นเกม “เกบ็ ผลไมใ้ ส่ตะกร้า” โดยให้นกั เรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม ท้งั หมด 5 กลุ่ม กลุม่ ละเทา่ ๆ กนั แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมารบั ชุดบตั รคาผลไมช้ นิดของคา กลมุ่ ละ 1 ชุด ดงั น้ี กลมุ่ ที่ 1 : ชุดบตั รคาสม้ กลุ่มท่ี 2 : ชุดบตั รคามะม่วง กลุ่มท่ี 3 : ชุดบตั รคาแตงโม กลุ่มท่ี 4 : ชุดบตั รคากลว้ ย กลมุ่ ท่ี 5 : ชุดบตั รคามงั คดุ เมื่อนกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ไดร้ บั ชุดบตั รคาผลไมแ้ ลว้ ใหส้ มาชิกในกล่มุ พิจารณาดคู าท่เี ขยี น อยบู่ นบตั รคาวา่ เป็นชนิดของคาประเภทใด จากน้นั ให้นกั เรียนนาบตั รคาผลไมม้ าใส่ในตะกร้า ตามชนิดของคาใหถ้ ูกตอ้ ง กลมุ่ ที่ใส่ตะกร้าชนิดของคาไดถ้ ูกตอ้ งมากทส่ี ุดถอื เป็นผชู้ นะ 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งวา่ นกั เรียนแต่ละกล่มุ ใส่บตั รคาลงตะกร้า ไดถ้ กู ตอ้ งหรือไม่ 152

ช่ัวโมงท่ี 6 4. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 1 ขอ้ ที่ 1-2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 89) โดยวงรอบคา ท่เี ป็นคานามและคากริยา ตามแนวต้งั และแนวนอน แลว้ เขียนคาลงในช่องว่าง และอ่านขอ้ ความ ท่ีกาหนด แลว้ เขียนบอกว่าคาทเ่ี ป็นตวั สีฟ้าเป็นคาชนิดใด 5. ครูให้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนใหเ้ ฉลยคาตอบของกิจกรรม โดยครูและเพอื่ น นกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ช่ัวโมงที่ 7 6. ครูให้นกั เรียนเล่นเกม “ปังๆ นาม สรรพนาม หรือกริยา” โดยให้นกั เรียนบอกชนิดของคา ไดแ้ ก่ คานาม คาสรรพนาม คากริยา ตามที่เพอื่ นกาหนด ยกตวั อยา่ งเช่น นกั เรียนคนที่ 1: บ้าน จากน้นั ช้ีมือไปที่เพ่ือนคนถดั ไปแลว้ พดู ว่า “ปังๆ คากริยา” นกั เรียนคนท่ี 2: ว่ิง จากน้นั ช้ีมอื ไปที่เพอื่ นคนถดั ไปแลว้ พูดวา่ “ปังๆ คาสรรพนาม” นกั เรียนคนที่ 3: ใคร จากน้นั ช้ีมือไปท่ีเพื่อนคนถดั ไปแลว้ พูดว่า “ปังๆ คา..........” 7. ครูใหน้ กั เรียนเล่นไปเร่ือยๆ จนครบทุกคนในห้อง และอาจให้เลน่ ซ้าอีกรอบเพื่อทดสอบ ความเขา้ ใจความรู้เร่ือง ชนิดของคา ของนกั เรียน ชั่วโมงท่ี 8 8. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 101) โดยคิดและเขยี นคานาม คาสรรพนาม และคากริยา อยา่ งละ 10 คา 9. ครูสุ่มเรียกนกั เรียนให้ยกตวั อยา่ งคานาม คาสรรพนาม และคากริยา อยา่ งละ 1 คา เพอ่ื เป็นการตรวจสอบความถกู ตอ้ ง กิจกรรมท่ี  ประโยคและชนิดของประโยค เวลา 6 ช่ัวโมง กระบวนการเรียนภาษา ช่ัวโมงที่ 1 กิจกรรมนาสู่การเรียน 1. ครูตดิ แถบประโยคบนกระดาน ดงั น้ี 153

ประโยคที่ 1: นอ้ งไป ประโยคท่ี 2: นอ้ งไปโรงเรียน ประโยคท่ี 3: นอ้ งไม่ไปโรงเรียน ประโยคท่ี 4: นอ้ งไปโรงเรียนอยา่ งไร 2. ครูถามนกั เรียนวา่ ประโยคบนกระดานมีความแตกตา่ งกนั หรือไม่ จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายความแตกตา่ งของประโยคท้งั 4 ประโยค โดยประโยคที่ 1 และ 2 มลี กั ษณะเป็นการบอก เลา่ ประโยคที่ 3 มีลกั ษณะการปฏเิ สธ และประโยคท่ี 4 มลี กั ษณะเป็นการถาม 3. เม่ือนกั เรียนเห็นถึงความแตกต่างของประโยคดงั กล่าว ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจความหมาย ของประโยค กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 90-91) แลว้ อธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธ และประโยคคาถาม โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 90 – 91) ประกอบ การอธิบาย 2. ครูให้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเลือกนกั เรียนให้แต่งประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธ และประโยคคาถามเพื่อทดสอบความเขา้ ใจ 3. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ 23 ชนิดของประโยค โดยให้นกั เรียนระบายสีลงในช่องใหต้ รงกบั ชนิด ของประโยคที่กาหนดให้ แลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เร่ือง ชนิดของประโยค ชั่วโมงที่ 2 4. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 92) หวั ขอ้ ยอ่ ย ประโยคขอร้อง ประโยคคาสั่ง แลว้ ครูอธิบาย ให้นกั เรียนเขา้ ใจประโยคขอร้อง และประโยคคาสัง่ โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 92) ประกอบการอธิบาย จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงประโยคในหนงั สือเรียน (หนา้ 92) พร้อมกนั 5. ครูให้นกั เรียนทาใบงานท่ี 24 รวมแรง แตง่ ประโยค โดยให้นกั เรียนนาคาทกี่ าหนดมาแตง่ เป็นประโยค พร้อมกบั บอกชนิดของประโยคดว้ ย 154

ชั่วโมงที่ 3 กิจกรรมรวบยอด 1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนกั เรียนเกี่ยวกบั ชนิดของประโยคท้งั 5 ชนิด 2. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 2 ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 93) โดยบอกประเภท ของประโยคท่ใี ชใ้ นการสื่อสารให้ถูกตอ้ ง จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ แลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงประโยคในกิจกรรมพร้อมกนั 3. ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั เพอื่ ทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 2 ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 93) โดยช่วยกนั แต่งประโยคท้งั 5 ชนิด ชนิดละ 3 ประโยค โดยไม่ให้ซ้ากบั ตวั อยา่ งในหนงั สือเรียน แลว้ เขียนลงในสมุด 4. ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบางคูใ่ ห้ยกตวั อยา่ งประโยคท้งั 5 ชนิด ชนิดละ 1 ประโยค แลว้ ให้เพื่อน นกั เรียนคนอนื่ ในช้นั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ช่ัวโมงท่ี 4 5. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 101) โดยให้เลือกคา จากกิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 1 ทไี่ ดท้ าไปแลว้ มาอยา่ งละ 2 คา แลว้ แตง่ ประโยคประเภทตา่ งๆ ตามท่กี าหนดลงในสมดุ 6. ครูให้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขียนประโยคบนกระดาน แลว้ ใหเ้ พือ่ น นกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากน้นั ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงประโยคบนกระดาน พร้อมกนั ชั่วโมงที่ 5 7. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 4 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 102) โดยใหเ้ ขียนบอกชนิด ของคาทีก่ าหนด แลว้ แต่งประโยคจากคา พร้อมกบั บอกว่า คาดงั กลา่ วทาหนา้ ท่ใี ดในประโยค จากน้นั ครูและนกั เรียนเฉลยคาตอบร่วมกนั 8. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เรื่อง ชนิดของประโยค 155

ช่ัวโมงที่ 6 9. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมบรู ณาการสร้างสรรค์ ในหนงั สือเรียน (หนา้ 103) โดยใหน้ กั เรียน ทาบตั รคา คดิ และเขียนคาตา่ งๆ ตามท่ไี ดเ้ รียนมาชนิดละ 2 คา และตกแต่งบตั รคาให้สวยงาม จากน้นั ให้นาบตั รคาทีท่ าสาเร็จแลว้ มาช่วยกนั เรียบเรียงให้เป็นประโยคชนิดตา่ งๆ โดยครู เป็นผสู้ งั เกตการณ์และตรวจสอบความถูกตอ้ ง 10. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามขอ้ สงสยั เก่ียวกบั ประโยคชนิดตา่ งๆ หากนกั เรียนคนใด ยงั ไม่เขา้ ใจ ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจมากยิง่ ข้นึ กจิ กรรมท่ี  วรรณกรรมเร่ือง ตนเป็ นทพ่ี ึ่งแห่งตน เวลา 2 ช่ัวโมง กระบวนการปฏิบตั ิ ช่ัวโมงที่ 1 กจิ กรรมนาสู่การเรียน 1. ครูให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงวรรณกรรมเร่ือง ตนเป็นทีพ่ ่ึงแห่งตน ในหนงั สือเรียน (หนา้ 94-95) พร้อมกนั 2. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภปิ รายความหมายของ “ตนเป็นทพ่ี ่งึ แห่งตน” โดยใหแ้ สดงความคดิ เห็น พร้อมกบั ช่วยกนั ยกตวั อยา่ งประกอบ กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนแบง่ ออกเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน เพื่อทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 3 ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 95) โดยใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มหาความหมายของคาทพ่ี มิ พด์ ว้ ยสีฟ้า ในบทอา่ นจากพจนานุกรมท่คี รูเตรียมให้ แลว้ เขียนลงในสมดุ 2. ครูให้นกั เรียนฝึกอ่านคาทพี่ มิ พด์ ว้ ยตวั สีฟ้าจนอ่านไดค้ ลอ่ ง 3. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปวรรณกรรมเร่ือง ตนเป็นทีพ่ ่งึ แห่งตน 156

ช่ัวโมงที่ 2 กิจกรรมรวบยอด 1. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงบทอ่านในกรอบสีฟ้า ในหนงั สือเรียน (หนา้ 95) จากน้นั ใหน้ กั เรียน ทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 3 ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 95) โดยช่วยกนั คดิ ตอบคาถาม ในกิจกรรม 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปขอ้ คดิ และคติสอนใจจากเร่ือง ตนเป็นท่ีพ่งึ แห่งตน กจิ กรรมที่  การเขยี นจดหมายลาครู เวลา 3 ชั่วโมง กระบวนการปฏิบัติ ช่ัวโมงท่ี 1 กจิ กรรมนาสู่การเรียน 1. ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียงตวั อยา่ งจดหมายลาครู ในหนงั สือเรียน (หนา้ 97) พร้อมกนั แลว้ ครูต้งั คาถามกบั นกั เรียนว่า จดหมายน้ีน่าจะเป็นจดหมายอะไร และเขยี นจดหมายน้ี เพอ่ื จุดประสงคใ์ ด 2. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจเก่ียวกบั จดหมายลาครู รวมท้งั วิธีการเขยี นจดหมายลาครู โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 96-97) ประกอบการอธิบาย ชั่วโมงท่ี 2 กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 4 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 97) โดยใหน้ กั เรียนเขียน จดหมายลาครูลงในสมุด โดยสมมติเหตุการณ์เองวา่ ลาป่ วยหรือลากิจ 2. ครูให้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน โดยให้อ่าน จดหมายลาครูทต่ี นเองเขียนให้เพือ่ นในช้นั เรียนฟัง จากน้นั ครูและเพอ่ื นนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งและเสนอแนะความคิดเห็น 157

ช่ัวโมงที่ 3 กิจกรรมรวบยอด 1. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 3 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 102) โดยเขียนจดหมาย ลาครูลงในกระดาษ และกาหนดสถานการณ์ข้นึ เอง 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เกี่ยวกบั การเขยี นจดหมายลาครู กจิ กรรมที่  ปริศนาคาทาย เวลา 2 ช่ัวโมง กระบวนการปฏิบัติ ช่ัวโมงที่ 1 กิจกรรมนาสู่การเรียน 1. ครูทายปัญหาอะไรเอ่ยกบั นกั เรียน แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั ทายคาตอบ ดงั น้ี “อะไรเอย่ ส่ีตนี เดินมาหลงั คามงุ กระเบ้อื ง” (เต่า) “อะไรเอ่ย แสงสีนวลส่องสวา่ ง มองเห็นไดใ้ นเวลากลางคืน” (พระจนั ทร์) 2. ครูช้ีแจงให้นกั เรียนเขา้ ใจว่าคาถามทีข่ ้นึ ตน้ วา่ “อะไรเอย่ ” ดงั กล่าวเรียกวา่ ปริศนาคาทาย จากน้นั อธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจเกี่ยวกบั ปริศนาคาทาย กจิ กรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั ทายคาตอบจากปริศนาคาทายในกรอบสีฟ้า ในหนงั สือเรียน (หนา้ 98) โดยให้เอามอื ปิ ดคาตอบไวก้ ่อน 2. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 5 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 98) โดยให้นกั เรียนคดิ ปริศนาคาทาย คนละ 3 ขอ้ ลงในสมุด และทายปริศนาทค่ี ดิ กบั เพอ่ื น 3. ครูสุ่มเรียกนกั เรียนใหถ้ ามคาถามปริศนาคาทายที่ตนเองคิด แลว้ ใหเ้ พ่ือนนกั เรียนในช้นั ช่วยกนั ตอบปริศนา 4. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 6 ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 100) โดยอา่ นกลอน สักวาปริศนาคาทาย แลว้ หาคาตอบและเขียนคาตอบลงในช่องว่างเป็นการบา้ น 158

ชั่วโมงท่ี 2 กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 6 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 103) โดยให้นกั เรียน แบง่ ออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน เพอ่ื ช่วยกนั คดิ ปริศนาคาทายใหไ้ ดม้ ากทีส่ ุด แลว้ นามาทายเลน่ กบั เพอื่ นกลมุ่ อ่นื 2. ครูให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมาทายเพื่อนๆ ทห่ี นา้ ช้นั เรียน กล่มุ ละ 2 คาถาม แลว้ ใหเ้ พอ่ื นๆ ในหอ้ งช่วยกนั ตอบคาถาม 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เกี่ยวกบั ปริศนาคาทาย กจิ กรรมที่  เพลงพน้ื บ้าน เวลา 2 ชั่วโมง กระบวนการปฏบิ ตั ิ ช่ัวโมงที่ 1 กิจกรรมนาสู่การเรียน 1. ครูให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงเพลงประกอบการละเลน่ แมงมมุ และมอญซ่อนผา้ ดงั น้ี แมงมมุ “แมงมุม ขยมุ้ หลงั คา แมวกินปลา หมากดั กระพงุ้ กน้ ” มอญซ่อนผ้า “มอญซ่อนผา้ ตกุ๊ ตาอยขู่ า้ งหลงั ไวโ้ นน้ ไวน้ ้ี ฉนั จะตีกน้ เธอ” 2. ครูใหน้ กั เรียนทายว่า เพลงประกอบการละเล่นทอี่ ่านเป็นเพลงสาหรบั การละเลน่ อะไร 159

3. ครูนาเขา้ สู่การเรียนว่า เพลงประกอบการเลน่ ดงั กล่าวเป็นเพลงพ้นื บา้ นชนิดหน่ึง จากน้นั ครู อธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความหมาย และประเภทของเพลงพ้ืนบา้ น โดยใช้ตวั อยา่ ง ในหนงั สือเรียน (หนา้ 99) ประกอบการอธิบาย กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนฟังเพลงกล่อมเด็กภาคอสี าน และให้นกั เรียนร้องตามไปพร้อมๆ กนั จากน้นั ครูปิ ด เพลงและใหน้ กั เรียนร้องเอง โดยมคี รูคอยช่วยร้องตามไปดว้ ย จนนกั เรียนสามารถร้องไดเ้ อง 2. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน เพ่อื เตรียมทากิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 5 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 103) โดยใหน้ กั เรียนคน้ หาขอ้ มลู เก่ียวกบั เพลงพ้ืนบา้ น พร้อมเขยี นสรุป ลงในสมดุ และฝึกร้องเพลงพ้นื บา้ นจากขอ้ มลู ทไี่ ดส้ ืบคน้ มา เพ่อื นาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน ในชว่ั โมงถดั ไป ชั่วโมงที่ 2 กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูให้นกั เรียนร้องเพลงกลอ่ มเดก็ ภาคอีสานพร้อมกนั อกี คร้งั จากน้นั ครูให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน พร้อมกบั สอนเพ่อื นกลมุ่ อนื่ ร้องเพลงพ้นื บา้ นท่กี ลมุ่ ของตน ไดไ้ ปคน้ ควา้ มาดว้ ย 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เก่ียวกบั เพลงพ้นื บา้ น 3. ครูให้นกั เรียนทาแบบทดสอบท่ี 5 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 104) เพอ่ื ทบทวนความรู้ที่เรียนมา 5. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. ส่ือการเรียนรู้ (ตวั อยา่ ง : ส่ือฯ มมฐ. หลกั สูตรแกนกลางฯ ภาษาไทย ป. 3) 2. กลอนคานาม 3. เกม ตอ่ คา สนุกจริง 4. เกม ออกทา่ ทายคา 5. เกม เกบ็ ผลไมใ้ ส่ตะกร้า 6. เกม ปังๆ นาม สรรพนาม หรือกริยา 7. แถบประโยค 3 แถบ 8. ปริศนาคาทาย 9. เพลงประกอบการละเลน่ แมงมุม และมอญซ่อนผา้ 160

10. เทป/ซีดี เพลงกลอ่ มเด็กภาคอสี าน 11. ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ เช่น ห้องสมดุ อินเทอร์เนต็ 6. การวดั และประเมนิ ผล 6.1 หลกั ฐานการเรยี นรู้ (ชิน้ งานสุดท้ายท่แี สดงพฤตกิ รรมการเรียนรู้รวบยอด) 1. กิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 1-6 2. ใบงานท่ี 21 เร่ือง สรรพนาม สร้างสรรค์ 3. ใบงานท่ี 22 เร่ือง เรียงร้อย ถอ้ ยคา 4. ใบงานท่ี 23 เร่ือง ชนิดของประโยค 5. ใบงานท่ี 24 เรื่อง รวมแรง แต่งประโยค 6. ผลงานบตั รคาและประโยค 6.2 วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล 1. ตรวจการทากิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 1-6 2. ตรวจการทาใบงานที่ 21 เรื่อง สรรพนาม สร้างสรรค์ 3. ตรวจการทาใบงานท่ี 22 เร่ือง เรียงร้อย ถอ้ ยคา 4. ตรวจการทาใบงานท่ี 23 เรื่อง ชนิดของประโยค 5. ตรวจการทาใบงานท่ี 24 เร่ือง รวมแรง แต่งประโยค 6. ประเมินผลงานบตั รคาและประโยค 7. สงั เกตทกั ษะการอา่ นออกเสียง การพูด และการเขียน 8. สังเกตพฤตกิ รรมในขณะปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 6.3 เครื่องมือวัดและประเมนิ ผล และเกณฑ์ 1. กิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 1-6 2. ใบงานท่ี 21 เรื่อง สรรพนาม สร้างสรรค์ 3. ใบงานที่ 22 เรื่อง เรียงร้อย ถอ้ ยคา (ร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์) 4. ใบงานท่ี 23 เร่ือง ชนิดของประโยค 5. ใบงานท่ี 24 เร่ือง รวมแรง แตง่ ประโยค 6. แบบประเมินทกั ษะการอ่านออกเสียง 7. แบบประเมนิ ทกั ษะการเขียน 8. แบบประเมินทกั ษะการพดู (ดเู กณฑ์ในแบบประเมิน) 9. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ 10. แบบประเมนิ ผลงาน 161

11. แบบประเมินสมรรถนะผเู้ รียน 5 ดา้ น (ดเู กณฑ์ในแบบประเมิน) 12. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 ดา้ น 7. กิจกรรมเสนอแนะ ¯............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... . ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... 162

8. บนั ทกึ ผลการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผเู้ รียนที่ ผ่าน ตวั ช้ีวดั มีจานวน ........................................................ คน คดิ เป็นร้อยละ............................................... 1.2 ผเู้ รียนที่ ไม่ผ่าน ตวั ช้ีวดั มจี านวน ........................................................ คน คิดเป็นร้อยละ............................................... 1) ................................................................สาเหตุ (ถา้ ทราบ) ................................................... 2) ................................................................สาเหตุ ....................................................................... แนวทางแกป้ ัญหา .......................................................................................................................... ............................................................................................................................................. ............... ..................................................................................................................................................... ....... 1.3 ผูเ้ รียนทม่ี คี วามสามารถพเิ ศษ ไดแ้ ก่ 1) ........................................................................ 2) .................................................................... แนวทางการพฒั นา / ส่งเสริม ...................................................................................................... ก ............................................................................................................................................................ ................................................................................................................. ........................................... .................................................................................................................. .......................................... 1.4 ผเู้ รียนไดร้ บั ความรู้ (K)………..................................................................................................... 1.5 ผเู้ รียนเกิดทกั ษะกระบวนการ (P)…………................................................................................ 1.6 ผเู้ รียนมีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม (A)…................................................................................ 2. ปัญหาอุปสรรค (ถ้าม)ี .......................................................................................................................... ....................................................................................................................... ............................................ ........................................................................................................................... ........................................ 3. ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) .............................................................................................................................. ................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.......................................................... (.........................................................) 163

ใบงานที่ 21 สรรพนาม สร้างสรรค์ ชื่อ – นามสกลุ .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาส่ัง แต่งประโยคจากคาสรรพนามทก่ี าหนดให้ ฉนั เขา เธอ คุณ ขา้ พเจา้ มนั น่ี ใคร ผใู้ ด ทา่ น แ 1. ___________________________________________________________ 2. ___________________________________________________________ 3. ___________________________________________________________ 164

4. ___________________________________________________________ 5. ___________________________________________________________ 6. ___________________________________________________________ 7. ___________________________________________________________ 8. ___________________________________________________________ 9. ___________________________________________________________ 10. ___________________________________________________________ การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณ์รูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ดี พอใช้ ควรปรับปรุง   เพือ่ น ☺ คุณครู ☺ 165

ใบงานที่ 22 เรียงร้อย ถ้อยคา ช่ือ – นามสกุล .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาสั่ง เขียนเรื่องตามจินตนาการ โดยใช้คากริยาทีก่ าหนด ประกอบการเขยี น พร้อมวาดรูประบายสีให้สวยงาม ชอบ เป็น เขียน เหมือน อ่าน ........................................... ________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ๊๊______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ________________________________________________________ การประเมินผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพ่อื น ☺ คุณครู ☺ 166

ใบงานท่ี 23 ชนิดของประโยค ชื่อ – นามสกลุ .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขที่ ............ คาสั่ง ระบายสีลงในช่องชนิดของประโยคให้ตรงกับประโยค ทกี่ าหนดให้ 1. ขอ้ ดีของการเรียนมีอะไรบา้ ง บอกเล่า ปฏิเสธ คาถาม 2. กบเลน่ ละครเก่งมาก r บอกเลา่ ปฏิเสธ คาถาม 3. นอ้ ยไมช่ อบทาการบา้ .น.......................บ...อ..ก..เ.ล..า่......... ปฏิเสธ คาถาม คาถาม 4. นิดชอบสีชมพู บอกเล่า ปฏิเสธ 5. เด่ียวไมม่ าทางาน บอกเลา่ ปฏเิ สธ คาถาม 6. ทาไมเธอถึงไม่มาเรียน บอกเลา่ ปฏิเสธ คาถาม 7. แดงไม่กินทเุ รียน บอกเล่า ปฏิเสธ คาถาม 8. ใครซ้ือของขวญั ใหฉ้ นั บอกเล่า ปฏิเสธ คาถาม 9. คุณจะทาอะไรก็ทาไป ๊๊บอกเลา่ ปฏเิ สธ คาถาม 10. เขาเป็นคนดี บอกเล่า ปฏิเสธ คาถาม การประเมินผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณ์รูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพอ่ื น ☺ คณุ ครู ☺ 167

ใบงานที่ 24 รวมแรง แต่งประโยค ช่ือ – นามสกลุ .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาส่ัง แต่งประโยคจากคาที่กาหนดให้ และบอกชนิดของประโยค 11 กรุณา ให้ถกู ต้อง หา้ ม โปรด อยา่ จง 1. _________________________________ ประโยค _____________ 2. _________________________________ ประโยค _____________ 3. _________________________________ ประโยค _____________ 4. _________________________________ ประโยค _____________ 5. _________________________________ ประโยค _____________ การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสญั ลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพอ่ื น ☺ คณุ ครู ☺ 168

เกณฑ์ประเมินชิ้นงาน = 5 คะแนน = 4 คะแนน กิจกรรมพัฒนาการคิด ข้อ 1 ( 5 คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน การคดิ แล้วเขยี นคานาม คาสรรพนาม และคากริยา ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - เขียนคานาม คาสรรพนาม และคากริยาไดถ้ กู ตอ้ ง 26 – 30 คา = ไม่มีคะแนน - เขยี นคานาม คาสรรพนาม และคากริยาไดถ้ ูกตอ้ ง 21 – 25 คา - เขียนคานาม คาสรรพนาม และคากริยาไดถ้ ูกตอ้ ง 16 – 20 คา = 5 คะแนน - เขียนคานาม คาสรรพนาม และคากริยาไดถ้ ูกตอ้ ง 11 – 15 คา = 4 คะแนน - เขยี นคานาม คาสรรพนาม และคากริยาไดถ้ กู ตอ้ ง 5 – 10 คา = 3 คะแนน - เขยี นคานาม คาสรรพนาม และคากริยาไดถ้ กู ตอ้ งต่ากว่า 5 คา = 2 คะแนน = 1 คะแนน กจิ กรรมพฒั นาการคิด ข้อ 2 ( 5 คะแนน ) = ไม่มีคะแนน การแต่งประโยคตามชนดิ ของประโยค ( 5 คะแนน ) - แตง่ ประโยคตามชนิดของประโยคถกู ตอ้ ง 9 – 10 ประโยค - แต่งประโยคตามชนิดของประโยคถกู ตอ้ ง 7 – 8 ประโยค - แตง่ ประโยคตามชนิดของประโยคถกู ตอ้ ง 5 – 6 ประโยค - แต่งประโยคตามชนิดของประโยคถกู ตอ้ ง 3 – 4 ประโยค - แตง่ ประโยคตามชนิดของประโยคถูกตอ้ ง 1 – 2 ประโยค - แตง่ ประโยคตามชนิดของประโยคผิดทกุ ประโยค 169

เกณฑ์ประเมินชิ้นงาน กจิ กรรมพัฒนาการคดิ ข้อ 3 ( 10 คะแนน ) 1. รูปแบบการเขยี นจดหมายลาครู ( 5 คะแนน ) - รูปแบบการเขยี นจดหมายถกู ตอ้ ง และเขยี นตรงประเด็น = 5 คะแนน - รูปแบบการเขยี นจดหมายผิด 1 ตาแหน่ง แต่เขียนตรงประเด็น = 4 คะแนน - รูปแบบการเขยี นจดหมายผดิ 2 ตาแหน่ง แต่เขียนตรงประเด็น = 3 คะแนน - รูปแบบการเขียนจดหมายผิด 3 ตาแหน่ง แต่เขียนตรงประเดน็ = 2 คะแนน - รูปแบบการเขียนจดหมายผดิ มากกว่า 3 ตาแหน่ง และเขียนไม่ค่อยตรงประเดน็ = 1 คะแนน - รูปแบบการเขยี นจดหมายไม่ถกู ตอ้ งเลย และเขยี นไม่ตรงประเดน็ = ไม่มีคะแนน 2. การเขียนคา ( 5 คะแนน) - เขียนคาถกู ตอ้ งทกุ คา = 5 คะแนน - เขยี นคาผิด 1 คา = 4 คะแนน - เขยี นคาผิด 2 คา = 3 คะแนน - เขียนคาผิด 3 คา = 2 คะแนน - เขียนคาผดิ 4 คา = 1 คะแนน - เขียนคาผดิ มากกว่า 5 คา = ไมม่ ีคะแนน 170

เกณฑ์ประเมินชิน้ งาน = 5 คะแนน = 4 คะแนน กจิ กรรมพฒั นาการคิด ข้อ 4 ( 10 คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน 1. การเขยี นบอกชนดิ ของคา ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - เขยี นบอกชนิดของคาถกู ตอ้ งทุกคา = ไมม่ ีคะแนน - เขยี นบอกชนิดของคาถกู ตอ้ ง 4 คา - เขยี นบอกชนิดของคาถกู ตอ้ ง 3 คา = 5 คะแนน - เขียนบอกชนิดของคาถกู ตอ้ ง 2 คา = 4 คะแนน - เขียนบอกชนิดของคาถกู ตอ้ ง 1 คา = 3 คะแนน - เขยี นบอกชนิดของคาผิดท้งั หมด = 2 คะแนน = 1 คะแนน 2. การจาแนกหน้าท่ขี องคาในประโยค ( 5 คะแนน ) = ไม่มีคะแนน - จาแนกหนา้ ทีข่ องคาในประโยคถกู ตอ้ งทุกประโยค - จาแนกหนา้ ทข่ี องคาในประโยคถกู ตอ้ ง 4 ประโยค - จาแนกหนา้ ท่ขี องคาในประโยคถกู ตอ้ ง 3 ประโยค - จาแนกหนา้ ที่ของคาในประโยคถกู ตอ้ ง 2 ประโยค - จาแนกหนา้ ที่ของคาในประโยคถกู ตอ้ ง 1 ประโยค - จาแนกหนา้ ทข่ี องคาในประโยคผดิ ทุกประโยค 171

เกณฑ์ประเมินชิน้ งาน = 5 คะแนน = 4 คะแนน กจิ กรรมพัฒนาการคดิ ข้อ 5 ( 5 คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน การเขยี นสรุปตรงประเดน็ ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - การเขียนสรุปตรงประเด็นมากทสี่ ุด = ไมม่ ีคะแนน - การเขียนสรุปตรงประเด็นมาก - การเขียนสรุปตรงประเดน็ ปานกลาง = 5 คะแนน - การเขียนสรุปตรงประเด็นนอ้ ย = 4 คะแนน - การเขียนสรุปตรงประเด็นนอ้ ยมาก = 3 คะแนน - การเขยี นสรุปไม่ตรงประเดน็ เลย = 2 คะแนน = 1 คะแนน กจิ กรรมพฒั นาการคดิ ข้อ 6 ( 5 คะแนน ) = ไม่มีคะแนน การเขียนปริศนาคาทาย ( 5 คะแนน ) - เขยี นปริศนาคาทายไดม้ ากกว่า 10 ขอ้ ข้นึ ไป - เขียนปริศนาคาทายได้ 8 – 9 ขอ้ - เขียนปริศนาคาทายได้ 6 – 7 ขอ้ - เขียนปริศนาคาทายได้ 4 – 5 ขอ้ - เขียนปริศนาคาทายได้ 2 – 3 ขอ้ - เขียนปริศนาคาทายได้ 1 ขอ้ หรือเขียนไม่ไดเ้ ลย 172

ประแเบมบินประเมิน ทักษะการอ่านออกเสียง ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยท่ี ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตการใชท้ กั ษะการอา่ นออกเสียงของผเู้ รียนในขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม โดยเขียนระดบั คะแนนลงในตารางทตี่ รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรับปรุง รายการประเมนิ สรุปผล การประเมนิ รวม เลขที่ ช่ือ – นามสกลุ อ่านออกเสียง อ่านออกเสียง คะแนน ผ่าน ไม่ วรรณกรรม สะกดคา ✓ ผ่าน ทีก่ าหนด  และข้อความ ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 4 คะแนนข้นึ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมิน 173

แบบประเมิน ทักษะการเขียน ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยที่ ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตการใชท้ กั ษะการเขียนของผเู้ รียนในขณะปฏบิ ตั กิ ิจกรรม โดยเขยี นระดบั คะแนน ลงในตารางที่ตรงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรับปรุง รายการประเมนิ สรุปผล การประเมิน รวม เลขที่ ช่ือ – นามสกุล เขียน เขยี นด้วย ความ คะแนน ผ่าน ไม่ สะกดคา ลายมือที่ สะอาด ✓ ผ่าน ถกู ต้อง สวยงาม เรียบร้อย  ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 6 คะแนนข้ึนไป ถอื ว่า ผ่านเกณฑ์ประเมิน 174

แบบปปรระะเมเมนิ ิน ทกั ษะการพูด ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยท่ี ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตการใชท้ กั ษะการพดู ของผเู้ รียนในขณะปฏิบตั กิ ิจกรรม โดยเขียนระดบั คะแนน ลงในตารางทต่ี รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรับปรุง รายการประเมิน รวม สรุปผล คะแนน การประเมิน พูดได้ การลาดบั มมี ารยาท เลขท่ี ช่ือ – นามสกลุ คล่องแคล่ว เนือ้ หาสาระ ในการพดู ผ่าน ไม่ ✓ ผ่าน ในการพดู  ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 6 คะแนนข้ึนไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมิน 175

ประเมนิ แบบประเมนิ คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ช้นั ป. 3 / วชิ า…......…… ............................................................................................………………….……………………………………….... คาชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมการทางาน การปฏบิ ตั ิงานของนกั เรียนวา่ มกี ารปฏิบตั ิหรือไม่ ถา้ มกี ารปฏบิ ตั ใิ นรายการใดให้ขีด ✓ ถา้ ไม่มใี หเ้ วน้ ว่าง รายการประเมนิ สรุปผล การประเมิน เลขที่ ชื่อ - นามสกลุ เห็น ุคณ ่คาของการใ ้ชภาษาไทย รวม ไม่ ใน ีชวิตประจาวัน ผ่าน มีความกระ ืตอ ืรอ ้รนและสนใจใ ่ฝ ู้ร คะแนน ผ่าน  มีความ ัรบ ิผดชอบ ✓ ีม ่สวน ่รวมในการทากิจกรรม ีมนิ ัสย ัรกการ ่อานและเขียน ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนมกี ารปฏบิ ตั ิ 3 รายการข้ึนไป ถือว่า ผ่านเกณฑ์ประเมิน 176

ประเมิน แบบประเมิน ผลงาน ชื่อ - นามสกุล .............................................................................................. ช้นั ป. 3 / …………….... เลขท่ี ……………………… หน่วยการเรียนรู้ท่ี .................................................................... กิจกรรม ……………….………………………………………….... คาชี้แจง : ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ขดี ✓ ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน (ดเู กณฑก์ ารให้คะแนนผลงานในหนา้ ถดั ไป) รายการประเมิน ผ้ปู ระเมิน ตนเอง เพ่ือน ครู 432143214321 1. ตรงจุดประสงคท์ ่กี าหนด 2. มีความถกู ตอ้ งสมบูรณ์ 3. มีความคิดสร้างสรรค์ 4. มคี วามเป็นระเบียบ 5. เสร็จตามเวลาท่ีกาหนด รวม รวมทุกรายการ เฉลีย่ ผปู้ ระเมนิ ................................................................................. (ตนเอง) ผปู้ ระเมนิ ................................................................................. (เพื่อน) ผปู้ ระเมิน ................................................................................. (ครู) 177

เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน ประเด็นทีป่ ระเมนิ คะแนน 1. ผลงานตรงกบั 43 2 1 จุดประสงคท์ ่กี าหนด ผลงานทีท่ า ผลงานทีท่ า ผลงานทีท่ า ผลงานท่ที า 2. ผลงานมีความถูกตอ้ ง สอดคลอ้ ง ไม่สอดคลอ้ ง สมบรู ณ์ สอดคลอ้ ง สอดคลอ้ ง กบั จุดประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ บางประเดน็ 3. ผลงานมีความคดิ กบั จุดประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ สร้างสรรค์ ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง ทุกประเด็น เป็ นส่วนใหญ่ เป็ นบางส่วน เป็ นส่วนใหญ่ 4. ผลงานมคี วามเป็น ผลงานมคี วาม ผลงานไม่แสดง ระเบยี บ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ น่าสนใจ แต่ยงั แนวคดิ ใหม่ ไม่มแี นวคิด 5. ผลงานเสร็จตามเวลา ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถูกตอ้ ง แปลกใหม่ ผลงานส่วนใหญ่ ที่กาหนด ไม่เป็ นระเบียบ ครบถว้ น เป็ นส่วนใหญ่ ผลงานมคี วาม และมีขอ้ บกพร่อง เป็นระเบียบแตม่ ี มาก ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคิด ขอ้ บกพร่อง คอ่ นขา้ งมาก ส่งผลงานชา้ กว่า ถึงความคดิ แปลกใหม่แต่ยงั เวลาทกี่ าหนดเกิน ส่งผลงานชา้ กวา่ กวา่ 5 วนั สร้างสรรค์ ไม่เป็ นระบบ เวลาที่กาหนด 3-5 วนั แปลกใหม่ และเป็ นระบบ ผลงานมีความเป็น ผลงานส่วนใหญ่ ระเบยี บ แสดงออก มีความเป็น ถึงความประณีต ระเบยี บแต่ยงั มี ต้งั ใจ ขอ้ บกพร่อง เลก็ นอ้ ย ส่งผลงานตามเวลา ส่งผลงานชา้ กว่า ทก่ี าหนด เวลาท่ีกาหนด 1-2 วนั เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 17 - 20 ดีมาก 12 - 16 ดี 8 - 11 5-7 ปานกลาง ปรบั ปรุง 178

ประเมนิ แบบประเมนิ สมรรถนะผ้เู รียน 5 ด้าน คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน สมรรถนะทป่ี ระเมนิ ระดบั คะแนน 3 21 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1.1 มคี วามสามารถในการรบั – ส่งสาร 1.2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม 1.3 ใชว้ ิธีการสื่อสารท่เี หมาะสม 2. ความสามารถในการคดิ 2.1 มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ เพอื่ การสร้างองคค์ วามรู้ 2.2 มคี วามสามารถในการคิดเป็นระบบ เพ่อื การสร้างองคค์ วามรู้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.1 แกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตุผล 3.2 แสวงหาความรู้มาใชใ้ นการแกป้ ัญหา 3.3 ตดั สินใจโดยคานึงถงึ ผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ื่น 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 4.1 ทางานและอยู่ร่วมกบั ผอู้ ืน่ ดว้ ยความสมั พนั ธ์อนั ดี 4.2 มีวธิ ีแกไ้ ขความขดั แยง้ อยา่ งเหมาะสม 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 เลอื กใชข้ อ้ มูลในการพฒั นาตนเองอย่างเหมาะสม 5.2 เลอื กใชข้ อ้ มลู ในการทางานและอยู่ร่วมกบั ผอู้ ืน่ อยา่ งเหมาะสม ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน / /........................ ......................... ............................. เกณฑ์การให้คะแนน : - พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั ิชดั เจนและบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ิบางคร้งั ให้ 1 คะแนน 179

ประเมิน แบบประเมิน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 8 ด้าน คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะอนั พึง รายการท่ีประเมิน ระดบั ประสงค์ด้าน คะแนน 321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มีความรกั และภูมใิ จในความเป็นชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรกั ภกั ดีต่อสถาบนั พระมหากษตั ริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต 2.1 ปฏบิ ตั ิตามระเบยี บการสอนและไมล่ อกการบา้ น 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ตนเอง 3. มวี ินัย 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจริงต่อผอู้ นื่ 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา 4. ใฝ่ เรียนรู้ 3.2 แต่งกายเรียบร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏิบตั ิตามกฎระเบยี บของห้องและของโรงเรียน 5. อย่อู ย่างพอเพียง 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรียนรูต้ ่างๆ 6. ม่งุ มั่นในการทางาน 4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ไดอ้ ย่างมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและส่ิงของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่างประหยดั และรูค้ ณุ ค่า 5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรค เพอื่ ใหง้ านสาเร็จ 180

ประเมิน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 8 ด้าน (ต่อ) คาชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะอันพงึ รายการท่ปี ระเมิน ระดบั ประสงค์ด้าน คะแนน 7.1 มจี ิตสานึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 321 7. รักความเป็ นไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รู้จกั การให้เพื่อส่วนรวมและเพื่อผอู้ ื่น 8. มจี ิตสาธารณะ 8.2 แสดงออกถึงการมีน้าใจหรือการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผอู้ ื่น 8.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมบาเพญ็ ตนเพอ่ื ส่วนรวมเม่ือมโี อกาส ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน / /......................... ......................... ............................. เกณฑ์การให้คะแนน : - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิชดั เจนและบอ่ ยคร้งั ให้ 2 คะแนน - พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั บิ างคร้งั ให้ 1 คะแนน 181

2 ชั่วโมง กิจกรรมทบทวน 1. ครูทบทวนสาระสาคญั ของหน่วยการเรียนรู้ที่ 1-5 ให้นกั เรียนเขา้ ใจ 2. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามเกี่ยวกบั เรื่องที่เรียนผา่ นไปแลว้ แตน่ ักเรียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจ หรือมขี อ้ สงสัย การประเมนิ หลงั เรยี น 1. ครูจดั ทดสอบเพอื่ วดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนประจาหน่วย โดยใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบ วดั ผลสมั ฤทธ์ิประจาหน่วยการเรียนรู้ที่ 1-5 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 106-113) (หมายเหตุ : การจัดเวลาทดสอบขึน้ อย่กู บั ดุลยพินิจของครูผู้สอน) 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยแบบทดสอบ หากใครมขี อ้ สงสยั เก่ียวกบั คาตอบ ให้ครูอธิบายให้นกั เรียน เขา้ ใจถกู ตอ้ ง จากน้นั รวบรวมหนงั สือส่งครูตรวจอีกคร้งั หน่ึง 3. ครูตรวจใหค้ ะแนนการทาแบบทดสอบเป็นรายบุคคล เพอ่ื ใชเ้ ป็นส่วนหน่ึงในการวดั และประเมนิ ผลการเรียน 182


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook