Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Description: 1

Search

Read the Text Version

การวางแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ 1   วิเคราะห์สาระมาตรฐานและขอบข่ายการจัดการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดบั ช้ัน ประถมศึกษาปี ท่ี 3 ช่ือหน่วยการเรียนรู้ รู้จกั พยางคแ์ ละคา สาระสาคญั ตามมาตรฐาน 1. การอ่านสะกดคา และการอ่านเป็นคา การเรียนรู้ที่ ท 1.1 / ท 2.1 / 2. วรรณกรรมเรื่อง เวลา ท 4.1 3. การคดั ลายมือ 4. พยางคแ์ ละคา การสะกดคา การแจกลกู คา ลาดับแผนการจดั การเรียนรู้ กิจกรรมท่ี เวลา 4 ชวั่ โมง - แผนการเรียนรู้ที่ 1 1. พยางคแ์ ละคา เวลา 4 ชวั่ โมง 2. การสะกดคา และแจกลูกคา เวลา 3 ชว่ั โมง กระบวนการเรยี นรู้หลกั 3. การอา่ นเป็นคา เวลา 3 ชว่ั โมง 4. การคดั ลายมือ - กระบวนการเรียนภาษา - กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเรียนรู้บูรณาการ - บูรณาการสู่การคิด โดยคดิ และเขียนคาทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั ชีวติ ประจาวนั แลว้ เขียนประวตั สิ ่วนตวั โดยใชค้ าที่คดิ ประกอบ 1

 กาหนดเป้าหมายการจัดการเรียนรู้ ประจาหน่วยที่ 1 ด้านความรู้ (K) ด้านทักษะกระบวนการ (P) ด้านคณุ ลกั ษณะ 1. การอ่านสะกดคา และการอา่ น 1. การฟังส่ิงท่คี รูและเพ่อื นพูด 2. การพูดตอบคาถาม และการพูด ทพ่ี ึงประสงค์ (A) เป็ นคา 1. เห็นคณุ ค่าของการใชภ้ าษาไทย 2. วรรณกรรมเร่ือง เวลา แสดงความคดิ 3. การคดั ลายมือ 3. การอา่ นออกเสียงสะกดคา ในชีวติ ประจาวนั 4. พยางคแ์ ละคา การสะกดคา 4. การเขียนสะกดคา 2. มีความกระตือรือร้น สนใจใฝ่รู้ 5. การคดิ วเิ คราะห์ 3. มีความรับผิดชอบในงานของตน การแจกลกู คา 6. การคดั ลายมอื ตวั บรรจง และมสี ่วนร่วมในการทากิจกรรม เต็มบรรทดั 4. มีนิสยั รักการอ่านและเขียน 5. มมี ารยาทในการฟัง พดู และดู เป้าหมายการเรียนรู้ รู้จักพยางค์และคา หลกั ฐานการเรียนรู้ ภาระงานท่ีปฏิบตั ิระหว่างเรียน ผลงานการเรียนรู้รวบยอด ผลงานการประเมินตนเอง - ฝึกกระบวนการเรียนรูโ้ ดยการ - ฝึกกระบวนการคิดวิเคราะห์ - ผลงานประวตั สิ ่วนตวั ของฉัน อ่าน เขยี น และคดิ จากกิจกรรม จากกิจกรรมพฒั นาการคดิ พฒั นาการเรียนรู้ และใบงาน (จานวน 3 ชิน้ ) (จานวน 7 ชิน้ ) 2

 ออกแบบการจัดการเรียนรู้ 1. กาหนดเป้าหมายการเรียนรู้ สาระท่ี 1 : การอ่าน มาตรฐาน ท 1.1 : ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพอ่ื นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชีวติ และมีนิสัยรักการอ่าน (1) อา่ นออกเสียงคา ขอ้ ความ เร่ืองส้ันๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง คล่องแคลว่ (2) อธิบายความหมายของคา และขอ้ ความทอี่ า่ น สาระท่ี 2 : การเขยี น มาตรฐาน ท 2.1 : ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเร่ืองราวในรูปแบบ ต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศ และรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ (1) คดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั สาระท่ี 4 : หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 : เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ (1) เขยี นสะกดคา และบอกความหมายของคา 2. ความคิดรวบยอด เมอื่ เรียนจบหน่วยการเรียนรู้น้ีแลว้ นกั เรียนจะตอ้ งมีความรู้ความเขา้ ใจที่คงทน ดงั น้ี - การฝึกอ่านออกเสียงสะกดคา จะทาให้อ่านคา ขอ้ ความ และเรื่องส้ันๆ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง คล่องแคลว่ - การฝึกคดั ลายมือ จะทาใหเ้ ขียนตวั อกั ษรไทยไดถ้ กู ตอ้ ง และสวยงาม - การสะกดคา และแจกลกู คา จะทาใหอ้ า่ น และเขียนคาตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ 3. แก่นสารสาคญั ของการเรียนรู้ 1. การเรียนรู้พยญั ชนะ สระ การประสมคา และการอ่านสะกดคา มีความจาเป็นตอ่ การดารงชีวิต ของนกั เรียนอยา่ งไร 2. นกั เรียนคิดว่า ถา้ นกั เรียนอา่ นและเขียนภาษาไทยไม่ได้ นกั เรียนจะดาเนินชีวิตอยา่ งไร 3

4. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 4.1 การประเมนิ ก่อนเรียน 1) การใชค้ าถามเพือ่ ประเมินความรู้เดิมของนกั เรียน 2) การทากิจกรรมนาสู่การเรียน - การนาพยญั ชนะ สระ และวรรณยกุ ตม์ าประสมกนั เป็นคาใหไ้ ดม้ ากท่สี ุด แลว้ เขยี นคาทไ่ี ด้ 4.2 การประเมินระหว่างเรียน 1) การเขยี นจานวนพยางคแ์ ละคาจากขอ้ ความทกี่ าหนด 2) การคิดและเขียนคาตามจานวนพยางคท์ ีก่ าหนด 3) การเขยี นสะกดคาจากคาศพั ทท์ ีก่ าหนด 4) การเขยี นคาอา่ นจากคาศพั ทท์ ่กี าหนด 5) การอา่ นสะกดคาบทอา่ น และบอกความหมายของคาที่กาหนด 6) การตอบคาถามจากเรื่องทอ่ี ่าน 7) การคดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั จากบทร้อยกรองที่กาหนด 4.3 การประเมนิ หลงั เรียน - แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิ ประจาหน่วยท่ี 1-5 4.4 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเรียนรู้รวบยอด 1) การนาพยางคห์ รือคาท่กี าหนดมาผสมกนั ให้เป็นคา และอธิบายความหมายของคาทเี่ ขียน 2) การอ่านออกเสียงเรื่องทก่ี าหนด และฝึกคดั ลายมอื ดว้ ยตวั บรรจงเต็มบรรทดั 3) การเขยี นสะกดคาจากคาศพั ทท์ ่ีกาหนด และเขียนคาอา่ นใหถ้ ูกตอ้ ง 4) ใบงานที่ 1 เรื่อง เขียนสะกดคา 5) ใบงานท่ี 2 เรื่อง คดิ และสะกดคา 4.5 การประเมินตนเอง - ผลงานประวตั สิ ่วนตวั ของฉนั 5. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ส่ือการเรียนรู้ ( ตวั อยา่ ง : สื่อฯ มมฐ. หลกั สูตรแกนกลางฯ ภาษาไทย ป. 3 ) 2. เกม ทายคา 3. เกม คาอยไู่ หน 4. บตั รภาพปลา ขนุน และหมอน 5. บตั รคา คาว่า ดิน สอ กะทิ ส้ม และเชง้ 6. บตั รคาการเขียนภาษาไทยทไ่ี ม่ถกู ตอ้ ง 7. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ เช่น หอ้ งสมุด อินเทอร์เน็ต 4

แผนการเรียนรู้ที่ 1 รู้จกั พยางค์และคา รหัสวิชา / ชื่อรายวิชา..........................................................................................................................................................................กล่มุ สาระภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 3 เวลา 14 ช่ัวโมง ภาคเรี ยนท่ี........................................... ผสู้ อน โรงเรียน........................................................................................................... ............................................................................................................................... 1. สาระสาคญั พยางคแ์ ละคา เป็นการนาพยญั ชนะ สระ ตวั สะกด และวรรณยกุ ตม์ าประสมกนั เพ่ือใชใ้ นการอา่ น และการเขียน การรู้จกั พยางคแ์ ละคา จึงเป็นพ้ืนฐานสาคญั ของการอา่ น และเขยี นภาษาไทย 2. ตัวชี้วดั / จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อ่านออกเสียง ขอ้ ความ เรื่องส้นั ๆ และบทร้อยกรองงา่ ยๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง คลอ่ งแคล่ว (ท 1.1 ป. 3/1) 2. อธิบายความหมายของคา และขอ้ ความทอี่ ่าน (ท 1.1 ป. 3/2) 3. คดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั (ท 2.1 ป. 3/1) 4. เขยี นสะกดคา และบอกความหมายของคา (ท 4.1 ป. 3/1) 3. สาระการเรียนรู้ ความรู้ 1. การอา่ นสะกดคา และการอ่านเป็นคา 2. วรรณกรรมเร่ือง เวลา 3. การคดั ลายมือ 4. พยางคแ์ ละคา การสะกดคา การแจกลูกคา ทกั ษะ/กระบวนการ 1. การฟังสิ่งทีค่ รูและเพ่ือนพูด 2. การพดู ตอบคาถามและการพดู แสดงความคิดเห็น 3. การอ่านออกเสียงสะกดคา 4. การเขียนสะกดคา 5. การคิดวเิ คราะห์ 6. การคดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั 5

คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ 1. เห็นคุณค่าของการใชภ้ าษาไทยในชีวติ ประจาวนั 2. มีความกระตอื รือร้น สนใจใฝ่ รู้ 3. มคี วามรับผิดชอบในงานของตน และมสี ่วนร่วมในการทากิจกรรม 4. มีนิสัยรักการอ่านและเขยี น 5. มมี ารยาทในการฟัง พดู และดู 4. กิจกรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมที่  พยางค์และคา เวลา 4 ชั่วโมง กระบวนการเรียนภาษา ช่ัวโมงท่ี 1 กจิ กรรมนาสู่การเรยี น 1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมนาสู่การเรียนรู้ ในหนงั สือเรียน (หนา้ 3) โดยช่วยกนั นาพยญั ชนะ สระ หรือวรรณยกุ ตใ์ นลูกบอลมาประสมกนั เป็นคาใหไ้ ดม้ าก ทสี่ ุดแลว้ เขยี นคาท่ีไดล้ งในช่องวา่ งของกิจกรรมนาสู่การเรียน 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ เพื่อตรวจสอบความถูกตอ้ ง โดยครูเขียนคาท่ีไดบ้ นกระดาน จากน้นั ครูให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงสะกดคาที่ไดพ้ ร้อมๆ กนั 3. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจว่า การนาพยญั ชนะ สระ และวรรณยกุ ตม์ าประสมรวมกนั จะทาให้ เกิดเป็นคาตา่ งๆ ซ่ึงนกั เรียนควรอา่ น และเขียนคาใหถ้ ูกตอ้ ง เพื่อจะไดใ้ ชภ้ าษาไทยไดถ้ กู ตอ้ ง ตอ่ ไป ช่ัวโมงท่ี 2 กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 4-5) หวั ขอ้ พยางคแ์ ละคา แลว้ ครูอธิบายเร่ือง พยางค์ และคาใหน้ กั เรียนฟัง โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 4-5) ประกอบการอธิบาย 2. ครูให้นกั เรียนแบ่งออกเป็นกล่มุ กลุม่ ละเทา่ ๆ กนั เพอื่ เลน่ เกม “คาอยไู่ หน” โดยให้นกั เรียน ช่วยกนั หาคาทีซ่ ่อนอยใู่ นกลุม่ ตวั อกั ษรท่คี ละกนั เม่ือหาพบแลว้ ใหว้ งรอบคาแลว้ นาไปเขียน ลงในช่องวา่ งทก่ี าหนดให้ พร้อมกบั บอกจานวนพยางคข์ องคาดว้ ย 6

3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบวา่ มคี าใดบา้ งทซ่ี ่อนอยู่ และตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ของจานวนพยางค์ จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงคาพร้อมๆ กนั ชั่วโมงที่ 3 4. ครูทบทวนความรู้เดิมของนกั เรียนเรื่อง พยางคแ์ ละคา 5. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 1 ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 5) โดยเขยี นจานวน พยางคแ์ ละคาจากขอ้ ความท่กี าหนด แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ เพอ่ื เป็นการพฒั นาความรู้ 6. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 1 ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 5) โดยคดิ และเขยี น คาท่มี ี 1 พยางค์ 2 พยางค์ และ 3 พยางค์ อยา่ งละ 10 คา ลงในสมุดเป็นการบา้ น ช่ัวโมงท่ี 4 กิจกรรมรวบยอด 1. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งออกเป็นกล่มุ กลุ่มละ 4-5 คน คละความสามารถ จากน้นั ให้นกั เรียน แต่ละกลมุ่ ทากิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 15) โดยนาพยางค์หรือคา ทก่ี าหนดใหม้ าผสมกนั ใหเ้ ป็นคา และอธิบายความหมายของคาทเ่ี ขยี น 2. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานท่ีหนา้ ช้นั เรียน โดยบอกคาทผี่ สมกนั ได้ บนกระดาน และบอกความหมายของคาท่เี ขยี น จากน้นั อา่ นออกเสียงสะกดคาทเ่ี ขยี น โดยครูและเพือ่ นกลุ่มอนื่ ช่วยตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และแกไ้ ขหากมีขอ้ ผดิ พลาด เพ่อื ใหเ้ ขยี น และอ่านคาไดถ้ ูกตอ้ งตอ่ ไป กจิ กรรมท่ี  การสะกดคา และแจกลูกคา เวลา 4 ชั่วโมง กระบวนการเรียนภาษา ชั่วโมงที่ 1 กจิ กรรมนาสู่การเรียน 1. ครูให้นกั เรียนเลน่ เกม “ทายคา” โดยนาบตั รภาพแทนพยญั ชนะผสมกบั สระ โดยครูพบั ส่วน ท่เี ป็นคาไวด้ า้ นหลงั จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ทายคา ดงั น้ี (ภาพเต่า) + า ตา (ภาพมา้ ) + า มา 7

(ภาพเต่า) + า + (ภาพมา้ ) ตาม 2. ครูเขียนคาท้งั หมดบนกระดาน จากน้นั ครูให้นกั เรียนร่วมกนั อา่ นออกเสียงสะกดคาท่ีได้ พร้อมๆ กนั 3. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจว่า การอา่ นสะกดคา เป็นการอา่ นท่ีนาเสียงพยญั ชนะประสมกบั เสียง ของสระ และวรรณยกุ ตซ์ ่ึงนกั เรียนควรอ่านให้ถกู ตอ้ ง เพ่ือจะไดใ้ ชภ้ าษาไทยไดถ้ ูกตอ้ งตอ่ ไป กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 6-7) หวั ขอ้ การสะกดคา และแจกลกู คา แลว้ ครูอธิบาย ให้นกั เรียนเขา้ ใจเกี่ยวกบั การสะกดคา และแจกลูกคา โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 6-7) ประกอบการอธิบาย 2. ครูให้นกั เรียนฝึกอา่ นออกเสียงสะกดคาในหนงั สือเรียน (หนา้ 6-7) ในหัวขอ้ ดงั ต่อไปน้ี 1) การอ่านสะกดคาท่ไี ม่มีตวั สะกด 2) การอา่ นสะกดคาที่มตี วั สะกด 3) การอ่านสะกดคาท่ีมีรูปวรรณยกุ ต์ จนนกั เรียนอ่านไดค้ ลอ่ ง 3. ครูให้นกั เรียนทาใบงานท่ี 1 เร่ือง เขยี นสะกดคา โดยเขียนคาให้ตรงกบั ภาพทกี่ าหนดให้ และเขียนสะกดคาใหถ้ กู ตอ้ ง 4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ จากน้นั ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงสะกดคาทเ่ี ขียนพร้อมกนั ชั่วโมงท่ี 2 5. ครูติดบตั รภาพปลา ขนุน และหมอน บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียก นกั เรียนให้บอกวา่ ภาพทีค่ รูตดิ บนกระดาน คือภาพอะไร 6. ครูเขียนคาวา่ ปลา ขนุน และหมอนขา้ งๆ บตั รภาพ แลว้ ครูอา่ นออกเสียงสะกดคาใหน้ กั เรียนฟัง และให้นกั เรียนอ่านตาม 7. ครูอธิบายให้นกั เรียนฟังวา่ การอ่านคาดงั กลา่ ว เป็นการอ่านสาหรับการอา่ นสะกดคาทมี่ ี ตวั ควบกล้า และอกั ษรนา 8

ช่ัวโมงท่ี 3 8. ครูสอนใหน้ กั เรียนฝึกอา่ นออกเสียงสะกดคาท่มี ตี วั ควบกล้า และอกั ษรนาท่ีอยใู่ นหนงั สือเรียน (หนา้ 7-8) และใหน้ กั เรียนฝึกอ่านเองจนคล่อง โดยครูเป็นผสู้ ังเกตการณ์ 9. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 2 ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 9) โดยเขยี นสะกดคา จากคาศพั ทท์ ก่ี าหนดให้ จากน้นั ครูและนกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบของกิจกรรม ชั่วโมงท่ี 4 กิจกรรมรวบยอด 1. ครูใหน้ กั เรียนแบง่ ออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน คละความสามารถ จากน้นั ให้แต่ละกลมุ่ ทาใบงานที่ 2 โดยคดิ คาทีม่ ตี วั สะกด คาท่ีไมม่ ีตวั สะกด คาท่มี ีตวั ควบกล้า และอกั ษรนา แลว้ เขยี นสะกดคาดงั กล่าว 2. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลงานทีห่ นา้ ช้นั เรียน โดยบอกคาและเขยี นสะกดคา บนกระดาน แลว้ อา่ นออกเสียงสะกดคาทเ่ี ขียน จากน้นั ครูและเพ่ือนกลมุ่ อนื่ ช่วยกนั ตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง และแกไ้ ขถา้ เพอื่ นมขี อ้ ผดิ พลาด เพือ่ ใหเ้ ขียนและอา่ นคาไดถ้ ูกตอ้ งตอ่ ไป กจิ กรรมท่ี  การอ่านเป็ นคา เวลา 3 ช่ัวโมง กระบวนการปฏิบตั ิ ชั่วโมงที่ 1 กิจกรรมนาสู่การเรยี น 1. ครูนาบตั รคามาตดิ บนกระดาน และใหน้ กั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนออกมานาคา หรือพยางคบ์ นบตั รคามาผสมกนั ให้เป็นคา แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงคาท่ผี สมได้ บนกระดานพร้อมกนั โดยบตั รคาทใ่ี ชไ้ ดแ้ กค่ าวา่ กะทิ สม้ เชง้ และดินสอ ดนิ กะ สม้ ทิ เชง้ สอ 9

2. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจวา่ การอา่ นคา ไม่จาเป็นตอ้ งอา่ นแบบสะกดคาเสมอไป แตน่ กั เรียน สามารถอา่ นคาแบบอ่านเป็นคา หรือพยางคไ์ ดเ้ ลยดงั ทีน่ กั เรียนไดอ้ ่านออกเสียงคาท้งั 3 คา ดงั กล่าว กจิ กรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 8) หวั ขอ้ อ่านเป็นคา แลว้ ครูอธิบายให้นกั เรียนเขา้ ใจ การอ่านเป็นคา โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 8) ประกอบการอธิบาย 2. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงคาในหนงั สือเรียน (หนา้ 8) พร้อมกนั จนอ่านไดค้ ลอ่ ง 3. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 2 ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 9) โดยเขียนคาอา่ น จากคาศพั ทท์ กี่ าหนดให้ จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ ชั่วโมงที่ 2 กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 3 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 16) โดยเขียนสะกดคาจาก คาศพั ทท์ ีก่ าหนดให้ พร้อมท้งั เขยี นคาอ่านให้ถกู ตอ้ ง 2. ครูใหน้ กั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนให้เฉลยคาตอบ โดยครูและเพอื่ นนกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง หากพบวา่ มขี อ้ ผดิ พลาด ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั แกไ้ ขคาตอบให้ถกู ตอ้ ง จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาพร้อมกนั เพ่ือให้เขียนและอา่ นคาไดถ้ กู ตอ้ งตอ่ ไป ช่ัวโมงที่ 3 3. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งออกเป็นกล่มุ กลุม่ ละเทา่ ๆ กนั แลว้ ใหส้ มาชิกในกลุม่ ผลดั กนั อา่ นออกเสียง วรรณกรรมเรื่อง เวลา ในหนงั สือเรียน (หนา้ 10-11) โดยครูเป็นผสู้ ังเกตการณ์ จากน้นั ครู ใหน้ กั เรียนทกุ คนอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง เวเอ๋ย เวลา ในหนงั สือเรียน (หนา้ 11) พร้อมกนั จนสามารถอ่านไดค้ ลอ่ ง 4. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 3 ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 11) โดยช่วยกนั บอกความหมายของคาท่ีพมิ พด์ ว้ ยตวั สีฟ้าในบทอ่าน และเขียนความหมายของคาลงในสมุด จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ 5. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 3 ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 11) โดยตอบคาถาม จากบทอา่ นเขยี นลงในสมดุ เป็นการบา้ น 10

กิจกรรมท่ี  การคัดลายมือ เวลา 3 ชั่วโมง กระบวนการปฏบิ ตั ิ ช่ัวโมงท่ี 1 กิจกรรมนาสู่การเรียน 1. ครูใหน้ กั เรียนดูบตั รคาบนกระดาน และถามนกั เรียนว่า ลกั ษณะการเขียนคาในบตั รคาดงั กลา่ ว เหมาะสม และมีความสวยงามหรือไม่ โดยบตั รคาทีใ่ ช้ มีดงั น้ี นักเรยี น คณุ ครู ตังใ้ จ 2. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเห็นถงึ ความสาคญั ของการคดั ลายมือ ซ่ึงจะทาใหน้ กั เรียนเขียนภาษาไทย ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และเป็นระเบียบเรียบร้อย กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 12-13) หัวขอ้ การคดั ลายมอื แลว้ ครูอธิบายหลกั เกณฑ์ การฝึกเขยี นหรือคดั ลายมือตวั บรรจงใหน้ กั เรียนฟัง โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 12-13) ประกอบการอธิบาย 2. ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 14) แลว้ ครูอธิบายลกั ษณะของแบบสาหรับคดั ลายมือ แบบต่างๆ ใหน้ กั เรียนฟัง โดยใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน (หนา้ 14) ประกอบการอธิบาย 3. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 4 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 14) โดยฝึกคดั ลายมือ บทร้อยกรอง อนั ความกรุณาปรานี ซ่ึงนกั เรียนสามารถเลือกคดั ตามแบบสาหรบั คดั ลายมือ 1 แบบ ลงในสมุด และใหน้ กั เรียนคดั ลายมือตามแบบตวั อกั ษรในขอ้ 1 ตวั อกั ษรแบบตวั เหลี่ยม ในหนงั สือเรียน (หนา้ 14) ลงในสมุด 3 จบ เป็นการบา้ น ชั่วโมงท่ี 2 กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 15) โดยใหน้ กั เรียน อา่ นออกเสียงเร่ืองที่กาหนดให้ แลว้ ฝึกคดั ลายมือดว้ ยตวั บรรจงเตม็ บรรทดั โดยเลือกคดั เพยี งแบบเดียวลงในสมดุ 11

ชั่วโมงที่ 3 2. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมบรู ณาการสร้างสรรค์ ในหนงั สือเรียน (หนา้ 16) โดยคดิ แลว้ เขียนคา ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั ชีวติ ประจาวนั ของนกั เรียน 5 คาลงในสมุด แลว้ ให้เขยี นประวตั สิ ่วนตวั โดยใชค้ า ที่คดิ ประกอบ โดยเขยี นดว้ ยตวั บรรจงเตม็ บรรทดั 3. ครูให้นกั เรียนทาแบบทดสอบท่ี 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 17) เพือ่ ทบทวนความรู้ทเี่ รียนมา 5. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. สื่อการเรียนรู้ (ตวั อยา่ ง : สื่อฯ มมฐ. หลกั สูตรแกนกลางฯ ภาษาไทย ป. 3) 2. เกม ทายคา 3. เกม คาอยไู่ หน 4. บตั รภาพปลา ขนุน และหมอน 5. บตั รคา คาว่า ดิน สอ กะ ทิ ส้ม และเชง้ 6. บตั รคาการเขียนภาษาไทยท่ไี ม่ถูกตอ้ ง 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ เช่น หอ้ งสมดุ อนิ เทอร์เน็ต 6. การวดั และประเมนิ ผล 6.1 หลักฐานการเรยี นรู้ (ชิ้นงานสุดท้ายที่แสดงพฤตกิ รรมการเรียนรู้รวบยอด) 1. กิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 1-3 2. ใบงานท่ี 1 เรื่อง เขียนสะกดคา 3. ใบงานที่ 2 เรื่อง คดิ และสะกดคา 4. ผลงานประวตั ิส่วนตวั ของฉัน 6.2 วิธกี ารวดั และประเมินผล 1. ตรวจการทากิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 1-3 2. ตรวจการทาใบงานที่ 1 เรื่อง เขยี นสะกดคา 3. ตรวจการทาใบงานที่ 2 เร่ือง คิดและสะกดคา 4. ประเมินผลงานประวตั ิส่วนตวั ของฉัน 5. สังเกตทกั ษะการอา่ น และการเขยี น 6. สังเกตพฤติกรรมในขณะปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 7. สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียน และนอกเวลาเรียน 12

6.3 เครื่องมือวัดและประเมนิ ผล และเกณฑ์ (ร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์) 1. กิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 1-3 (ดูเกณฑ์ในแบบประเมิน)) 2. ใบงานที่ 1 เร่ือง เขียนสะกดคา 3. ใบงานที่ 2 เรื่อง คิดและสะกดคา 4. แบบประเมนิ ทกั ษะการอ่านออกเสียง 5. แบบประเมินทกั ษะการเขยี น 6. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ 7. แบบประเมนิ ผลงาน 8. แบบประเมนิ สมรรถนะผเู้ รียน 5 ดา้ น 9. แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 ดา้ น 7. กจิ กรรมเสนอแนะ ¯............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... 13

8. บันทกึ ผลการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผเู้ รียนท่ี ผ่าน ตวั ช้ีวดั มีจานวน ........................................................ คน คดิ เป็นร้อยละ............................................... 1.2 ผเู้ รียนที่ ไม่ผ่าน ตวั ช้ีวดั มีจานวน ........................................................ คน คดิ เป็นร้อยละ............................................... 1) ................................................................สาเหตุ (ถา้ ทราบ) ................................................... 2) ................................................................สาเหตุ ....................................................................... แนวทางแกป้ ัญหา .......................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .. ............................................................................................................................. ............................... 1.3 ผเู้ รียนทมี่ คี วามสามารถพเิ ศษ ไดแ้ ก่ 1) ........................................................................ 2) .................................................................... แนวทางการพฒั นา / ส่งเสริม ...................................................................................................... ก ............................................................................................................................................................ ................................................................................................................. ........................................... ............................................................................................................................................................ 1.4 ผเู้ รียนไดร้ บั ความรู้ (K)………..................................................................................................... 1.5 ผเู้ รียนเกิดทกั ษะกระบวนการ (P)…………................................................................................ 1.6 ผเู้ รียนมคี ณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม (A)…................................................................................ 2. ปัญหาอปุ สรรค (ถ้าม)ี .......................................................................................................................... ....................................................................................................................... ............................................ ........................................................................................................................... ........................................ 3. ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) .............................................................................................................................. .......................................................................................................................................... ......................... ลงช่ือ.......................................................... (.........................................................) 14

ใบงานท่ี 1 เขียนสะกดคา ช่ือ – นามสกุล ..................................................................... ช้ัน ป. 3 /.......... เลขที.่ ......... คาส่ัง เขียนคาให้ตรงกับภาพที่กาหนด แล้วเขียนสะกดคาให้ถูกต้อง 1. คา ................................... สะกดคา ....................................................................... 2. คา ................................... สะกดคา ....................................................................... 3. คา ................................... สะกดคา ....................................................................... ..................................................................................... 4. คา ................................... สะกดคา ....................................................................... ...................................................................................... 5. คา ................................... สะกดคา ........................................................................ ....................................................................................... การประเมินผลงาน : ระบายสีในสญั ลกั ษณ์รูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ดี พอใช้ ควรปรับปรุง   เพือ่ น ☺ คณุ ครู ☺ 15

ใบงานท่ี 2 คิดและสะกดคา ช่วยคิดคาที่มตี วั สะกด คาท่ีไมม่ ีตวั สะกด คาที่มตี วั ควบกล้า และอกั ษรนา แลว้ เขียนสะกดคาดว้ ยนะจะ๊ 1. คาทีม่ ตี วั สะกด 2. คาที่ไม่มีตวั สะกด คา .............................................. คา ........................................... สะกดคา ..................................... สะกดคา .................................. ..................................................... ................................................. ..................................................... .................................................. 3. คาทม่ี ีตัวควบกลา้ 4. คาท่ีมอี กั ษรนา คา .............................................. คา ........................................... สะกดคา ..................................... สะกดคา .................................. ..................................................... ................................................. ..................................................... .................................................. การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรับปรุง   เพอ่ื น ☺ คณุ ครู ☺ 16

เกณฑ์ประเมนิ ชิน้ งาน = 4 คะแนน = 3 คะแนน กิจกรรมพัฒนาการคิด ข้อ 1 ( 4 คะแนน ) = 2 คะแนน ผสมคาได้หลากหลาย และอธิบายความหมายของคาท่ีเขยี น ( 4 คะแนน ) = 1 คะแนน - ผสมคาไดห้ ลากหลาย และอธิบายความหมายของคา = ไม่มคี ะแนน ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมทุกคา - ผสมคาไดห้ ลากหลาย และอธิบายความหมายของคา = 3 คะแนน ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมเป็นส่วนใหญ่ = 2 คะแนน = 1 คะแนน - ผสมคาไดค้ อ่ นขา้ งนอ้ ย และอธิบายความหมายของคา = ไมม่ ีคะแนน ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมเป็นส่วนใหญ่ - ผสมคาไดค้ ่อนขา้ งนอ้ ย และอธิบายความหมายของคา ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเป็นบางคา - ผสมคาไดน้ อ้ ย และอธิบายความหมายของคา ไดไ้ มถ่ ูกตอ้ งตามทก่ี าหนด กจิ กรรมพัฒนาการคดิ ข้อ 2 ( 3 คะแนน ) การคัดลายมือ ( 3 คะแนน ) - คดั ลายมือไดส้ วยงาม สะอาด เขยี นถูกตอ้ งท้งั หมด - คดั ลายมือไดส้ วยงาม สะอาด เขยี นผดิ บา้ งเล็กนอ้ ย - คดั ลายมือไดส้ วยงาม ไมค่ อ่ ยสะอาด เขียนผิดบา้ งเลก็ นอ้ ย - คดั ลายมือไมส่ วยงาม สกปรก และเขยี นผดิ มาก 17

เกณฑ์ประเมินชิ้นงาน = 3 คะแนน = 2 คะแนน กิจกรรมพัฒนาการคดิ ข้อ 3 ( 3 คะแนน ) = 1 คะแนน = ไมม่ คี ะแนน การเขียนสะกดคา และเขยี นคาอ่าน ( 3 คะแนน ) - เขียนสะกดคา และเขียนคาอ่านถูกตอ้ งทุกคา - เขียนสะกดคา และเขียนคาอา่ นถูกตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ - เขยี นสะกดคา และเขียนคาอ่านถูกตอ้ งเป็นส่วนนอ้ ย - เขียนสะกดคา และเขียนคาอ่านไมถ่ กู ตอ้ งเลย 18

ประแเบมบินประเมิน ทักษะการอ่านออกเสียง ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยที่ ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตการใชท้ กั ษะการอา่ นออกเสียงของผเู้ รียนในขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม โดยเขียนระดบั คะแนนลงในตารางทต่ี รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรบั ปรุง รายการประเมนิ สรุปผล การประเมนิ รวม เลขที่ ชื่อ – นามสกุล อ่านออกเสียง อ่านออกเสียง คะแนน ผ่าน ไม่ วรรณกรรม สะกดคา ✓ ผ่าน ท่ีกาหนด  และข้อความ ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 4 คะแนนข้ึนไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมิน 19

แบบประเมิน ทกั ษะการเขียน ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยท่ี ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตการใชท้ กั ษะการเขยี นของผเู้ รียนในขณะปฏิบตั กิ ิจกรรม โดยเขยี นระดบั คะแนน ลงในตารางท่ีตรงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรับปรุง รายการประเมนิ สรุปผล การประเมนิ รวม เลขท่ี ชื่อ – นามสกลุ เขยี น เขียนด้วย ความ คะแนน ผ่าน ไม่ สะกดคา ลายมือท่ี สะอาด ✓ ผ่าน ถูกต้อง สวยงาม เรียบร้อย  ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมนิ เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 6 คะแนนข้ึนไป ถอื ว่า ผ่านเกณฑ์ประเมิน 20

ประเมนิ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ช้นั ป. 3 / วชิ า…......…… ............................................................................................………………….……………………………………….... คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน การปฏบิ ตั งิ านของนกั เรียนว่ามกี ารปฏิบตั ิหรือไม่ ถา้ มกี ารปฏิบตั ิในรายการใดใหข้ ดี ✓ ถา้ ไมม่ ีใหเ้ วน้ ว่าง รายการประเมิน สรุปผล การประเมิน เลขท่ี ชื่อ - นามสกุล เห็น ุคณ ่คาของการใ ้ชภาษาไทย รวม ไม่ ใน ีชวิตประจาวัน มีความกระ ืตอ ืรอ ้รนและสนใจใ ่ฝ ู้ร คะแนน ผ่าน ผ่าน มีความ ัรบ ิผดชอบ ✓  ีม ่สวน ่รวมในการทากิจกรรม ีมนิ ัสย ัรกการ ่อานและเขียน ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนมีการปฏบิ ตั ิ 3 รายการข้ึนไป ถือว่า ผ่านเกณฑ์ประเมิน 21

ประเมนิ แบบประเมนิ ผลงาน ช่ือ - นามสกุล .............................................................................................. ช้นั ป. 3 / …………….... เลขที่ ……………………… หน่วยการเรียนรู้ที่ .................................................................... กิจกรรม ……………….………………………………………….... คาชีแ้ จง : ใหผ้ ปู้ ระเมินขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกบั ระดบั คะแนน (ดเู กณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงานในหนา้ ถดั ไป) รายการประเมนิ ผ้ปู ระเมิน ตนเอง เพ่อื น ครู 432143214321 1. ตรงจุดประสงคท์ ่ีกาหนด 2. มีความถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ 3. มคี วามคิดสร้างสรรค์ 4. มีความเป็นระเบียบ 5. เสร็จตามเวลาที่กาหนด รวม รวมทุกรายการ เฉล่ีย ผปู้ ระเมิน ................................................................................. (ตนเอง) ผปู้ ระเมิน ................................................................................. (เพ่อื น) ผปู้ ระเมิน ................................................................................. (ครู) 22

เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน ประเดน็ ท่ปี ระเมิน คะแนน 1. ผลงานตรงกบั 43 2 1 จดุ ประสงคท์ กี่ าหนด ผลงานทท่ี า ผลงานทที่ า ผลงานที่ทา ผลงานทที่ า 2. ผลงานมีความถูกตอ้ ง สอดคลอ้ ง ไม่สอดคลอ้ ง สมบูรณ์ สอดคลอ้ ง สอดคลอ้ งกบั กบั จดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ บางประเดน็ 3. ผลงานมีความคดิ กบั จุดประสงค์ จุดประสงค์ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ สร้างสรรค์ ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานไมถ่ กู ตอ้ ง ทกุ ประเดน็ เป็ นส่วนใหญ่ เป็ นบางส่วน เป็ นส่วนใหญ่ 4. ผลงานมีความเป็น ผลงานมีความ ผลงานไมแ่ สดง ระเบยี บ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ น่าสนใจ แต่ยงั แนวคิดใหม่ ไมม่ แี นวคดิ 5. ผลงานเสร็จตามเวลา ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถกู ตอ้ ง แปลกใหม่ ผลงานส่วนใหญ่ ทีก่ าหนด ไม่เป็ นระเบียบ ครบถว้ น เป็ นส่วนใหญ่ ผลงานมีความ และมีขอ้ บกพร่อง เป็นระเบยี บ มาก ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคิด แต่มขี อ้ บกพร่อง ค่อนขา้ งมาก ส่งผลงานชา้ กว่า ถงึ ความคดิ แปลกใหม่แต่ยงั เวลาท่ีกาหนดเกิน ส่งผลงานชา้ กวา่ กวา่ 5 วนั สร้างสรรค์ ไม่เป็ นระบบ เวลาที่กาหนด 3-5 วนั แปลกใหม่ และเป็ นระบบ ผลงานมีความเป็น ผลงานส่วนใหญ่ ระเบียบ แสดงออก มคี วามเป็น ถึงความประณีต ระเบยี บแต่ยงั มี ต้งั ใจ ขอ้ บกพร่อง เลก็ นอ้ ย ส่งผลงานตามเวลา ส่งผลงานชา้ กว่า ทีก่ าหนด เวลาที่กาหนด 1-2 วนั เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 17 - 20 ดีมาก 12 - 16 ดี 8 - 11 5-7 ปานกลาง ปรับปรุง 23

ประเมนิ แบบประเมิน สมรรถนะผ้เู รียน 5 ด้าน คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน สมรรถนะท่ีประเมนิ ระดบั คะแนน 3 21 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1.1 มคี วามสามารถในการรบั – ส่งสาร 1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม 1.3 ใชว้ ิธีการส่ือสารท่เี หมาะสม 2. ความสามารถในการคิด 2.1 มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ เพ่ือการสรา้ งองคค์ วามรู้ 2.2 มีความสามารถในการคดิ เป็นระบบ เพื่อการสร้างองคค์ วามรู้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.1 แกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตุผล 3.2 แสวงหาความรูม้ าใชใ้ นการแกป้ ัญหา 3.3 ตดั สินใจโดยคานึงถึงผลกระทบต่อตนเองและผอู้ นื่ 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 4.1 ทางานและอยู่ร่วมกบั ผอู้ นื่ ดว้ ยความสมั พนั ธอ์ นั ดี 4.2 มีวธิ ีแกไ้ ขความขดั แยง้ อย่างเหมาะสม 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 เลอื กใชข้ อ้ มูลในการพฒั นาตนเองอย่างเหมาะสม 5.2 เลอื กใชข้ อ้ มูลในการทางานและอยู่ร่วมกบั ผอู้ ื่นอย่างเหมาะสม ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน / /........................ ......................... ............................. เกณฑ์การให้คะแนน : - พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิชดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน - พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน 24

ประเมิน แบบประเมิน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 ด้าน คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน คุณลักษณะอนั พึง รายการทปี่ ระเมิน ระดับ ประสงค์ด้าน คะแนน 321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มีความรักและภูมใิ จในความเป็นชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรกั ภกั ดตี อ่ สถาบนั พระมหากษตั ริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต 2.1 ปฏิบตั ิตามระเบยี บการสอนและไม่ลอกการบา้ น 2.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจริงตอ่ ตนเอง 3. มวี นิ ยั 2.3 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ผอู้ ืน่ 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา 4. ใฝ่ เรียนรู้ 3.2 แต่งกายเรียบรอ้ ยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบียบของห้องและของโรงเรียน 5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรียนรู้ตา่ งๆ 6. ม่งุ ม่ันในการทางาน 4.2 มีการจดบนั ทกึ ความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ไดอ้ ยา่ งมีเหตุผล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและส่ิงของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรียนอยา่ งประหยดั และรูค้ ณุ คา่ 5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั และมกี ารเก็บออมเงนิ 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทางานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรค เพ่อื ใหง้ านสาเร็จ 25

ประเมิน แบบประเมิน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 ด้าน (ต่อ) คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะอันพึง รายการทป่ี ระเมิน ระดับ ประสงค์ด้าน คะแนน 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย 321 7. รักความเป็ นไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รู้จกั การให้เพ่ือส่วนรวมและเพือ่ ผอู้ ่นื 8. มีจติ สาธารณะ 8.2 แสดงออกถึงการมนี ้าใจหรือการให้ความช่วยเหลอื ผอู้ ื่น 8.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมบาเพญ็ ตนเพอื่ ส่วนรวมเม่ือมีโอกาส ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน / /......................... ......................... ............................. เกณฑ์การให้คะแนน : - พฤติกรรมทีป่ ฏิบตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิชดั เจนและบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั บิ างคร้งั ให้ 1 คะแนน 26


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook