9

การวางแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ 9   วิเคราะห์สาระมาตรฐานและขอบข่ายการจัดการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดับช้ัน ประถมศึกษาปี ที่ 3 ช่ือหน่วยการเรียนรู้ เรียนรู้ภาษาถ่ิน เวลา 8 ชวั่ โมง เวลา 4 ชวั่ โมง สาระสาคญั ตามมาตรฐาน 1. วรรณกรรมเรื่อง การพ่งึ พาอาศยั เวลา 5 ชวั่ โมง การเรียนรู้ที่ ท 1.1 / ท 3.1 / 2. การฟังและดู ท 4.1 3. มารยาทในการฟังและดู 4. ภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาถ่ิน ลาดับแผนการจัดการเรยี นรู้ - แผนการเรียนรู้ที่ 9 กิจกรรมท่ี 1. ภาษาถ่ินน่ารู้ 2. วรรณกรรมเร่ือง การพ่งึ พาอาศยั 3. ฟังและดู รู้เขา้ ใจ กระบวนการเรยี นรู้หลกั - กระบวนการเรียนภาษา กระบวนการเรียนรู้บรู ณาการ - กระบวนการปฏบิ ตั ิ - บูรณาการสู่การคิด โดยให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 6 – 7 คน คน้ หาคาศพั ทภ์ าษาถน่ิ ตา่ งๆ พร้อมหาความหมายจากพจนานุกรม แลว้ นาคาศพั ทข์ องแต่ละกล่มุ มาเรียงลาดบั คาตามพจนานุกรม ให้เป็นพจนานุกรมภาษาถ่ินของหอ้ ง 315

 กาหนดเป้าหมายการจดั การเรียนรู้ ประจาหน่วยท่ี 9 ด้านความรู้ (K) ด้านทักษะกระบวนการ (P) ด้านคณุ ลกั ษณะ 1. วรรณกรรมเร่ือง การพ่งึ พาอาศยั 2. การฟังและดู 1. การฟังสิ่งที่ครูและเพือ่ นพูด ท่พี งึ ประสงค์ (A) 3. มารยาทในการฟังและดู 2. การพดู ตอบคาถาม และการพูด 1. เหน็ คุณคา่ ของการใชภ้ าษาไทย 4. ภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาถน่ิ แสดงความคิด ในชีวิตประจาวนั 2. มีความกระตอื รือรน้ สนใจใฝ่รู้ 3. การอา่ นออกเสียงสะกดคา 3. มีความรบั ผดิ ชอบในงานของตน 4. การเขียนสะกดคา 5. การคดิ วิเคราะห์ และมีส่วนร่วมในการทากิจกรรม 6. การคดั ลายมอื ตวั บรรจง 4. มนี ิสัยรักการอ่านและเขียน 5. มมี ารยาทในการฟัง การดู เต็มบรรทดั และการพูด เป้าหมายการเรียนรู้ เรียนรู้ภาษาถิ่น หลักฐานการเรียนรู้ ภาระงานทปี่ ฏิบตั ิระหว่างเรียน ผลงานการเรียนรู้รวบยอด ผลงานการประเมินตนเอง - ฝึกกระบวนการเรียนรู้โดยการ - ฝึกกระบวนการคดิ วเิ คราะหจ์ าก - ผลงานพจนานุกรมภาษาถิ่น อ่าน เขยี น และคิดจากกิจกรรม กิจกรรมพฒั นาการคิด พฒั นาการเรียนรู้ (จานวน 8 ชิ้น) (จานวน 5 ชิน้ ) 316

 ออกแบบการจัดการเรียนรู้ 1. กาหนดเป้าหมายการเรียนรู้ สาระที่ 1 : การอ่าน มาตรฐาน ท 1.1 : ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพอื่ นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชีวิต และมนี ิสัยรักการอา่ น (1) อา่ นออกเสียงคา ขอ้ ความ เรื่องส้ันๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ (2) อธิบายความหมายของคา และขอ้ ความทอี่ ่าน สาระท่ี 3 : การฟัง การดู และการพดู มาตรฐาน ท 3.1 : สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมีวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรู้สึก ในโอกาสตา่ งๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ (1) เลา่ รายละเอยี ดเกี่ยวกบั เรื่องทีฟ่ ังและดทู ้งั ท่ีเป็นความรู้และบนั เทิง (2) บอกสาระสาคญั จากการฟังและการดู (3) ต้งั คาถามและตอบคาถามเกี่ยวกบั เร่ืองท่ีฟังและดู (4) พดู แสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจากเร่ืองทฟี่ ังและดู (6) มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด สาระที่ 4 : หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 : เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ (6) เลือกใชภ้ าษาไทยมาตรฐาน และภาษาถ่ินไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ 2. ความคดิ รวบยอด เมอื่ เรียนจบหน่วยการเรียนรู้น้ีแลว้ นกั เรียนจะตอ้ งมีความรู้ความเขา้ ใจทีค่ งทน ดงั น้ี - การฝึกอ่านออกเสียงสะกดคา จะทาให้อา่ นคา ขอ้ ความ และเร่ืองส้ันๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ - การฟังและการดู เป็นการส่ือสารท่ใี ชใ้ นชีวิตประจาวนั ดงั น้นั เราจึงควรปฏิบตั ิให้เหมาะสม - การเลือกใชภ้ าษาไทยมาตรฐาน และภาษาถ่ินไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และเหมาะสมกบั กาลเทศะ จะทาใหส้ ่ือสารกนั อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 317

3. แก่นสารสาคัญของการเรียนรู้ 1. การเรียนเร่ือง ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นมปี ระโยชนต์ ่อการใชภ้ าษาในชีวติ ประจาวนั ของนกั เรียนอยา่ งไร 2. ถา้ นกั เรียนฟังและดอู ยา่ งไม่เหมาะสมจะเกิดผลเสียกบั นกั เรียนอยา่ งไร 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 4.1 การประเมินก่อนเรียน 1) การใชค้ าถามเพ่อื ประเมนิ ความรู้เดิมของนกั เรียน 2) การทากิจกรรมนาสู่การเรียน - การเก็บผลส้มภาษาถนิ่ ใส่ตะกร้าใหถ้ ูกตอ้ ง 4.2 การประเมนิ ระหว่างเรียน 1) การสืบคน้ และเขยี นคาภาษาถิ่นภาคต่างๆ จากคาภาษาไทยมาตรฐานที่กาหนดให้ 2) การเขียนจาแนกคาภาษาถิ่นตา่ งๆ 3) การอา่ นสะกดคาบทอา่ น และหาความหมายของคาทก่ี าหนด 4) การตอบคาถามจากเร่ืองท่ีอ่าน 5) การดูโทรทศั นร์ ายการท่ีสนใจ แลว้ เขยี นบนั ทึกขอ้ มลู การดูตามหวั ขอ้ ท่ีกาหนด 4.3 การประเมนิ หลงั เรียน - แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ ประจาหน่วยท่ี 6-10 4.4 การประเมินพฤตกิ รรมการเรียนรู้รวบยอด 1) การอ่านสถานการณท์ ก่ี าหนด แลว้ เติมคาตอบเป็นภาษาถนิ่ เดียวกนั 2) การฟังและดูรายการที่สนใจจากส่ือต่างๆ มา 1 รายการ แลว้ ต้งั คาถามและตอบคาถาม สรุปสาระสาคญั ลงในสมุด และพูดแสดงความคิดเห็นท่ีมตี ่อรายการทฟี่ ังและดู 3) ใบงานท่ี 51 เร่ือง ภาษาถิน่ น่ารู้ 4) ใบงานท่ี 52 เร่ือง พ่ึงพา อาศยั ชุดท่ี 1 5) ใบงานท่ี 53 เร่ือง พ่ึงพา อาศยั ชุดที่ 2 6) ใบงานท่ี 54 เร่ือง ฟังหรือดู รู้หลกั การ 7) ใบงานท่ี 55 เรื่อง ฟังและดู รู้เขา้ ใจ ชุดท่ี 1 8) ใบงานท่ี 56 เร่ือง ฟังและดู รู้เขา้ ใจ ชุดท่ี 2 4.5 การประเมินตนเอง - ผลงานพจนานุกรมภาษาถนิ่ 318

5. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. สื่อการเรียนรู้ ( ตวั อยา่ ง : สื่อฯ มมฐ. หลกั สูตรแกนกลางฯ ภาษาไทย ป. 3 ) 2. เพลงแฟนจ๋า ของ ธงไชย แมคอินไตย์ 3. เกม ถิน่ ใด ใครรู้ 4. ภาพ 2 ภาพ 5. กิจกรรมฐานการเรียนรู้ ฟังหรือดู รู้หลกั การ 6. การ์ตูนโดเรมอน ตอน พูดดีเป็นศรีแกป่ าก 7. สารคดีชุดสารวจโลก ตอน สัตวโ์ ลกพิศวง 8. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ เช่น ห้องสมดุ อินเทอร์เนต็ 319

แผนการเรียนรู้ท่ี 9 เรียนรู้ภาษาถน่ิ รหสั วิชา / ช่ือรายวิชา.......................................................................................................................................................................กลมุ่ สาระภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 3 เวลา 17 ชั่วโมง ภาคเรี ยนท่ี........................................... ผสู้ อน โรงเรียน.......................................................................................................... .................................................................................................................................. 1. สาระสาคัญ ภาษาไทยมาตรฐาน เป็นภาษาราชการท่ีใชใ้ นการเรียนการสอนในโรงเรียน และใชใ้ นโอกาสทเี่ ป็น ทางการ แตภ่ าษาถนิ่ เป็นภาษาท่ีมีลกั ษณะเฉพาะ และแสดงถงึ เอกลกั ษณล์ กั ษณะความเป็นอยขู่ องผคู้ นใน ทอ้ งถน่ิ แต่ละภาคของประเทศไทย ดงั น้นั การเรียนรู้ภาษาถน่ิ จะทาใหน้ กั เรียนสามารถเลอื กใชภ้ าษาไดอ้ ยา่ ง ถกู ตอ้ ง และเหมาะกบั กาลเทศะ ส่งผลใหส้ ื่อสารไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ นอกจากน้ีการฟังและดเู ป็นการส่ือสาร ทีน่ กั เรียนตอ้ งใช้ในชีวติ ประจาวนั ดงั น้นั นกั เรียนควรรู้จกั ฟังและดูอยา่ งเหมาะสม 2. ตัวชี้วดั / จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อา่ นออกเสียงคา ขอ้ ความ เร่ืองส้นั ๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง คลอ่ งแคล่ว (ท 1.1 ป. 3/1) 2. อธิบายความหมายของคา และขอ้ ความทอี่ ่าน (ท 1.1 ป. 3/2) 3. เล่ารายละเอียดเกี่ยวกบั เรื่องที่ฟังและดทู ้งั ทเ่ี ป็นความรู้และบนั เทงิ (ท 3.1 ป. 3/1) 4. บอกสาระสาคญั จากการฟังและการดู (ท 3.1 ป. 3/2) 5. ต้งั คาถามและตอบคาถามเกี่ยวกบั เร่ืองที่ฟังและดู (ท 3.1 ป. 3/3) 6. พดู แสดงความคดิ เห็นและความรู้สึกจากเร่ืองทฟี่ ังและดู (ท 3.1 ป. 3/4) 7. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู (ท 3.1 ป. 3/6) 8. เลือกใชภ้ าษาไทยมาตรฐาน และภาษาถ่ินไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ (ท 4.1 ป. 3/6) 3. สาระการเรียนรู้ ความรู้ 1. วรรณกรรมเร่ือง การพ่งึ พาอาศยั 2. การฟังและดู 3. มารยาทในการฟังและดู 4. ภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาถ่นิ 320

ทกั ษะ/กระบวนการ 1. การฟังส่ิงทีค่ รูและเพือ่ นพดู 2. การพดู ตอบคาถาม และการพูดแสดงความคดิ 3. การอ่านออกเสียงสะกดคา 4. การเขยี นสะกดคา 5. การคิดวิเคราะห์ 6. การคดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ 1. เห็นคุณค่าของการใชภ้ าษาไทยในชีวติ ประจาวนั 2. มคี วามกระตอื รือร้น สนใจใฝ่ รู้ 3. มีความรบั ผิดชอบในงานของตน และมีส่วนร่วมในการทากิจกรรม 4. มนี ิสยั รกั การอ่านและเขยี น 5. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด 4. กิจกรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมท่ี  ภาษาถิ่นน่ารู้ เวลา 8 ชั่วโมง กระบวนการเรียนภาษา ช่ัวโมงที่ 1 กิจกรรมนาสู่การเรยี น 1. ครูใหน้ กั เรียนฟังเพลง “แฟนจ๋า” ของ ธงไชย แมคอนิ ไตย์ จากน้นั ครูให้นกั เรียนสงั เกตวา่ เน้ือเพลงมีคาทเี่ ป็นภาษาถน่ิ หรือไม่ 2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาภาษาถน่ิ ที่ไดย้ นิ จากในเน้ือเพลง 3. ครูช้ีแจงใหน้ กั เรียนทราบว่า ภาษาไทยที่เราใชก้ นั อยใู่ นชีวติ ประจาวนั น้นั แบง่ ออกเป็น ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถนิ่ ซ่ึงภาษาถนิ่ มีหลายแบบ เช่น ภาษาถ่นิ เหนือ ภาษาถ่ินอสี าน และภาษาถิ่นใต้ เป็นตน้ 4. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมนาสู่การเรียน ในหนงั สือเรียน (หนา้ 186) โดยเตมิ คาภาษาถิ่น ใหถ้ กู ตอ้ ง 5. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบของกิจกรรม 321

ช่ัวโมงท่ี 2 กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน (หนา้ 187) แลว้ ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความแตกต่างระหว่างภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาถนิ่ ต่างๆ โดยใชห้ นงั สือเรียน (หนา้ 187 – 188) ประกอบการอธิบาย 2. ครูให้นกั เรียนแบง่ ออกเป็นกล่มุ กลุม่ ละ 4 – 5 คน โดยใหน้ กั เรียนฟังเพลง “แฟนจ๋า” อกี คร้งั และช่วยกนั ระบุคาภาษาถิน่ ท้งั หมดท่ไี ดย้ ินจากเพลงใหไ้ ดม้ ากทสี่ ุด พร้อมกบั บอกดว้ ยวา่ เป็นภาษาถน่ิ ใดลงในสมดุ 3. ครูและนกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เรื่อง ภาษาถิ่น ชั่วโมงท่ี 3 4. ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียงคาภาษาไทยมาตรฐาน และคาภาษาถนิ่ ในภาคตา่ งๆ ในหนงั สือเรียน (หนา้ 189) พร้อมกนั เพ่อื เป็นการทบทวนความรู้ 5. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 1 ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 190) โดยใหน้ กั เรียน จาแนกภาษาถน่ิ ต่างๆ ลงในสมดุ ให้ถูกตอ้ ง จากน้นั เม่ือจาแนกคาในภาษาถ่นิ เรียบร้อยแลว้ ครูใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งภาษาถิ่นเพ่มิ ข้นึ อกี ถิ่นละ 2 คา 6. ครูใหน้ กั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนให้เฉลยคาตอบ หากตอบผดิ ใหน้ กั เรียนคนอื่น ในห้องช่วยกนั แกไ้ ขให้ถูกตอ้ ง ชั่วโมงท่ี 4 7. ครูให้นกั เรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม กล่มุ ละ 4 – 5 คน เพื่อทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 1 ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 190) ที่หอ้ งสมุด โดยนกั เรียนแต่ละกลมุ่ จะตอ้ งสืบคน้ ขอ้ มลู คาภาษาถ่ิน จากหนงั สือ หรืออนิ เทอร์เน็ต เพ่ือหาคาภาษาถน่ิ ภาคตา่ งๆ จากภาษาไทยมาตรฐานทก่ี าหนดให้ 8. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน โดยให้บอกภาษาถนิ่ ทไี่ ด้ ไปศกึ ษาคน้ ควา้ มา แลว้ ครูและเพอื่ นนกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 322

ช่ัวโมงที่ 5 9. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกม “ถน่ิ ใด ใครรู้” โดยใหน้ กั เรียนแบง่ ออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน เพอ่ื ช่วยกนั คิดคาภาษาถนิ่ จากคาภาษาไทยมาตรฐานทค่ี รูกาหนด เมอื่ คดิ ไดใ้ ห้ส่งตวั แทนออกมา เขียนคาภาษาถนิ่ บนกระดาน พร้อมกบั บอกดว้ ยวา่ เป็นคาจากภาษาถ่นิ ใด กลมุ่ ทตี่ อบถูก ได้ 1 คะแนน กลมุ่ ทไ่ี ดค้ ะแนนมากทส่ี ุดถือเป็นผชู้ นะ 10. ครูใหน้ กั เรียนฟังเพลง “แฟนจ๋า” ของ ธงไชย แมคอินไตย์ อีกคร้งั และใหน้ กั เรียนร้องตาม เพือ่ ให้นกั เรียนมีความคุน้ เคยกบั ภาษาถน่ิ ตา่ งๆ มากยง่ิ ข้ึน และเป็นการสรุปความรู้ไปพร้อมกนั ชั่วโมงที่ 6 11. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ 51 ภาษาถ่ินน่ารู้ โดยให้นกั เรียนจบั คูภ่ าษาถ่ินกบั ภาษาไทยมาตรฐาน ใหถ้ ูกตอ้ ง 12. ครูและนกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ และอ่านออกเสียงภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาถ่ิน พร้อมกนั ช่ัวโมงท่ี 7 กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 196) โดยอ่านสถานการณ์ ท่กี าหนดให้ แลว้ เตมิ คาตอบให้เป็นภาษาถนิ่ เดียวกนั 2. ครูและนกั เรียนเฉลยคาตอบร่วมกนั จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนจบั คกู่ บั เพอ่ื นเพ่ือคดิ บทสนทนา ภาษาถนิ่ ดว้ ยตนเองส้ันๆ 3. ครูให้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนแตล่ ะคใู่ หอ้ อกมาแสดงบทบาทสมมตติ ามบท ท่ตี นเองคดิ ข้ึนหนา้ ช้นั เรียน โดยครูและเพอื่ นนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น และใหข้ อ้ เสนอแนะ ชั่วโมงที่ 8 4. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมบรู ณาการสร้างสรรค์ ในหนงั สือเรียน (หนา้ 196) โดยแบ่งนกั เรียน ออกเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 6 – 7 คน เพอ่ื คน้ หาคาศพั ทภ์ าษาถนิ่ ต่างๆ พร้อมหาความหมาย จากพจนานุกรม จากน้นั นาคาศพั ทข์ องแต่ละกลุม่ มาจดั เรียงลาดบั คาตามพจนานุกรม ให้เป็นพจนานุกรมภาษาถน่ิ ประจาหอ้ ง 323

กจิ กรรมที่  วรรณกรรมเร่ือง การพงึ่ พาอาศัย เวลา 4 ช่ัวโมง กระบวนการปฏิบัติ ชั่วโมงท่ี 1 กิจกรรมนาสู่การเรียน 1. ครูใหน้ กั เรียนดูภาพ 2 ภาพ ดงั น้ี 2. ครูให้นกั เรียนดภู าพ จากน้นั ถามคาถามใหน้ กั เรียนช่วยกนั แสดงความคิดเห็น แนวคาถาม เช่น - ทาไมนก และปลานางพยาบาลในภาพจึงเกาะอยบู่ นหลงั ของควาย และฉลาม - ทาไมควาย และปลาฉลามจึงไม่ทาร้ายพวกมนั 3. ครูสรุปใหน้ กั เรียนเขา้ ใจว่า จากภาพทีเ่ ห็นเป็นเพราะท้งั นก ควาย ปลาฉลาม และปลานางพยาบาล ตา่ งก็ตอ้ งพ่งึ พาอาศยั ซ่ึงกนั และกนั นกมีหนา้ ทกี่ าจดั แมลงใหค้ วาย โดยนกไดก้ ินแมลงเป็นอาหาร ส่วนปลานางพยาบาลมีหนา้ ทที่ าความสะอาดปลาฉลาม โดยปลานางพยาบาลไดอ้ าหาร เป็ นการตอบแทนเช่นเดียวกนั กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงวรรณกรรมเรื่อง การพ่งึ พาอาศยั ในหนงั สือเรียน (หนา้ 191 – 192) พร้อมกนั 2. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 2 ขอ้ 1 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 192) โดยใหน้ กั เรียน ช่วยกนั หาความหมายของคาทพ่ี ิมพต์ วั สีฟ้าและเขยี นลงในสมุด 3. ครูให้นกั เรียนฝึกอา่ นคาทพ่ี ิมพต์ วั สีฟ้า และบทกลอนในหนงั สือเรียน (หนา้ 192) พร้อมกนั 324

ชั่วโมงท่ี 2 กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียงวรรณกรรมเรื่อง การพ่งึ พาอาศยั ในหนงั สือเรียน (หนา้ 191 – 192) พร้อมกนั 2. ครูและนกั เรียนช่วยกนั เล่าสรุปเรื่อง การพ่งึ พาอาศยั จากน้นั ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นา การเรียนรู้ท่ี 2 ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 192) โดยตอบคาถามในกิจกรรม 3. ครูให้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนใหอ้ อกมาพูดแสดงความคิดเห็นของตนเองวา่ นกั เรียนสามารถทาประโยชน์ให้กบั คนรอบขา้ งไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง ช่ัวโมงที่ 3 4. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานท่ี 52 พ่งึ พา อาศยั ชุดที่ 1 โดยอา่ นบทอ่านและตอบคาถามหลงั อ่าน บทอา่ นจบ 5. ครูและนกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบในใบงาน ช่ัวโมงที่ 4 6. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ 53 พ่งึ พา อาศยั ชุดที่ 2 โดยให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งเหตกุ ารณ์ หรือสถานการณ์ทเี่ กิดการพ่งึ พาอาศยั ซ่ึงกนั และกนั จากน้นั วาดภาพประกอบพร้อมกบั ระบายสี ให้สวยงาม 7. ครูใหน้ กั เรียนออกมานาเสนอผลงานของตนท่หี นา้ ช้นั เรียน โดยครูและเพื่อนนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นและให้ขอ้ เสนอแนะ กจิ กรรมท่ี  ฟังและดู รู้เข้าใจ เวลา 5 ช่ัวโมง กระบวนการปฏบิ ตั ิ ช่ัวโมงท่ี 1 กิจกรรมนาสู่การเรยี น 1. ครูต้งั คาถามเพือ่ ถามนกั เรียนเก่ียวกบั ความชอบรายการทางโทรทศั น์ แนวคาถาม เช่น - นกั เรียนชอบดโู ทรทศั น์หรือไม่ เพราะเหตุใด - นกั เรียนชอบดรู ายการทางโทรทศั น์ประเภทใด - ประเภทของรายการทน่ี กั เรียนดูกอ่ ให้เกิดประโยชนก์ บั นกั เรียนอยา่ งไร 325

2. ครูช้ีแจงให้นกั เรียนเขา้ ใจวา่ ทกั ษะทเ่ี ราใชเ้ มอ่ื เราดูรายการทางโทรทศั น์ คือ ทกั ษะการฟัง และการดู ซ่ึงเป็นทกั ษะสาคญั ท่เี ราตอ้ งใชใ้ นชีวิตประจาวนั และจาเป็นทจ่ี ะตอ้ งฝึกปฏิบตั ิ เพ่อื ใหใ้ ชไ้ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และเหมาะสม กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรม “ฟังหรือดู รู้หลกั การ” โดยใหน้ กั เรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 6-7 คน เพื่อเขา้ ฐานการเรียนรู้ 5 ฐาน และสรุปความรู้ที่ไดล้ งในใบงานท่ี 54 ฟังหรือดู รู้หลกั การ โดยฐานการเรียนรู้ท้งั 5 ฐาน มดี งั น้ี - ฐานการเรียนรู้ท่ี 1 : ความหมายของการฟัง และการดู - ฐานการเรียนรู้ท่ี 2 : ขอ้ ควรปฏิบตั ิในการฟังและดู 1 - ฐานการเรียนรู้ที่ 3 : ขอ้ ควรปฏิบตั ิในการฟังและดู 2 - ฐานการเรียนรู้ที่ 4 : มารยาทในการฟังและดู 1 - ฐานการเรียนรู้ที่ 5 : มารยาทในการฟังและดู 2 2. ครูและนกั เรียนสรุปเร่ือง การฟังและการดู ร่วมกนั 3. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 3 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 195) เป็นการบา้ น โดยให้นกั เรียนดูรายการโทรทศั น์ทน่ี กั เรียนสนใจ แลว้ เขยี นบนั ทกึ ขอ้ มูลตามทก่ี าหนด ชั่วโมงท่ี 2 4. ครูใหน้ กั เรียนดกู าร์ตนู เรื่อง โดเรมอน ตอน พูดดีเป็นศรีแกป่ าก จากน้นั ใหน้ กั เรียนตอบคาถาม ในใบงานท่ี 55 ฟังและดู รู้เขา้ ใจ ชุดที่ 1 5. ครูให้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนให้บอกขอ้ คิด สรุปใจความสาคญั และพูดแสดงความคดิ เห็นจากการ์ตนู 6. ครูและนกั เรียนสรุปความเรื่อง โดเรมอน ตอน พดู ดีเป็นศรีแกป่ ากร่วมกนั ชั่วโมงที่ 3 7. ครูให้นกั เรียนดูสารคดีชุดสารวจโลก ตอน สัตวโ์ ลกพศิ วง จากน้นั ให้นกั เรียนตอบคาถาม ในใบงานท่ี 56 ฟังและดู รู้เขา้ ใจ ชุดที่ 2 8. ครูใหน้ กั เรียนอาสาสมคั รหรือสุ่มเรียกนกั เรียนให้บอกสาระสาคญั ต้งั คาถามและตอบคาถาม และพูดแสดงความคดิ เห็นจากสารคดี 9. ครูและนกั เรียนสรุปสารคดีชุดสารวจโลก ตอน สตั วโ์ ลกพศิ วง ร่วมกนั 326

10. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ 3 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 195) เป็นการบา้ น โดยดูโทรทศั นร์ ายการทีน่ กั เรียนสนใจ แลว้ เขยี นบนั ทึกขอ้ มูลการดูตามหวั ขอ้ ท่ีกาหนด เพอ่ื มานาเสนอในชวั่ โมงถดั ไป ช่ัวโมงที่ 4 11. ครูใหน้ กั เรียนออกมานาเสนอผลงานของตนเองท่หี นา้ ช้นั เรียน 12. ครูสุ่มนกั เรียนให้พูดแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การนาเสนอของเพื่อน 13. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 2 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 196) เป็นการบา้ น โดยฟัง และดูรายการที่สนใจจากส่ือต่างๆ มา 1 รายการ แลว้ ต้งั คาถามและตอบคาถาม สรุปสาระสาคญั ลงในสมุด และพูดแสดงความคิดเห็นทมี่ ีตอ่ รายการที่ฟังและดเู พือ่ มานาเสนอในชว่ั โมงถดั ไป ช่ัวโมงที่ 5 กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูใหน้ กั เรียนออกมานาเสนอผลงานของกิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 2 ทห่ี นา้ ช้นั เรียน 2. ครูสุ่มนกั เรียนให้พูดแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั การนาเสนอของเพือ่ น 3. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบท่ี 9 ในหนงั สือเรียน (หนา้ 197) เพอ่ื ทบทวนความรู้ทเี่ รียนมา 5. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. ส่ือการเรียนรู้ (ตวั อยา่ ง : สื่อฯ มมฐ. หลกั สูตรแกนกลางฯ ภาษาไทย ป. 3) 2. เพลงแฟนจ๋า ของ ธงไชย แมคอนิ ไตย์ 3. เกม ถน่ิ ใด ใครรู้ 4. ภาพ 2 ภาพ 5. กิจกรรมฐานการเรียนรู้ ฟังหรือดู รู้หลกั การ 6. การ์ตนู โดเรมอน ตอน พูดดีเป็นศรีแก่ปาก 7. สารคดีชุดสารวจโลก ตอน สัตวโ์ ลกพิศวง 8. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ เช่น หอ้ งสมดุ อินเทอร์เน็ต 6. การวดั และประเมินผล 6.1 หลักฐานการเรียนรู้ (ชิ้นงานสุดท้ายที่แสดงพฤตกิ รรมการเรียนรู้รวบยอด) 1. กิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 1-2 327

2. ใบงานที่ 51 เรื่อง ภาษาถ่ินน่ารู้ 3. ใบงานที่ 52 เรื่อง พ่ึงพา อาศยั ชุดท่ี 1 4. ใบงานท่ี 53 เรื่อง พ่ึงพา อาศยั ชุดท่ี 2 5. ใบงานท่ี 54 เร่ือง ฟังหรือดู รู้หลกั การ 6. ใบงานที่ 55 เร่ือง ฟังและดู รู้เขา้ ใจ ชุดที่ 1 7. ใบงานที่ 56 เรื่อง ฟังและดู รู้เขา้ ใจ ชุดท่ี 2 8. ผลงานพจนานุกรมภาษาถน่ิ 6.2 วธิ กี ารวดั และประเมินผล 1. ตรวจการทากิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 1-2 2. ตรวจการทาใบงานท่ี 51 เรื่อง ภาษาถิ่นน่ารู้ 3. ตรวจการทาใบงานที่ 52 เร่ือง พ่งึ พา อาศยั ชุดที่ 1 4. ตรวจการทาใบงานท่ี 53 เร่ือง พ่งึ พา อาศยั ชุดท่ี 2 5. ตรวจการทาใบงานที่ 54 เร่ือง ฟังหรือดู รู้หลกั การ 6. ตรวจการทาใบงานที่ 55 เรื่อง ฟังและดู รู้เขา้ ใจ ชุดท่ี 1 7. ตรวจการทาใบงานท่ี 56 เร่ือง ฟังและดู รู้เขา้ ใจ ชุดที่ 2 8. ประเมนิ ผลงานพจนานุกรมภาษาถนิ่ 9. สังเกตทกั ษะการอ่านออกเสียง การพดู และการเขียน 10. สงั เกตพฤติกรรมในขณะปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 6.3 เครื่องมือวดั และประเมินผล และเกณฑ์ 1. ตรวจกิจกรรมพฒั นาการคดิ ขอ้ 1- 2 2. ใบงานท่ี 51 เรื่อง ภาษาถิน่ น่ารู้ 3. ใบงานที่ 52 เรื่อง พ่ึงพาอาศยั ชุดท่ี 1 4. ใบงานท่ี 53 เรื่อง พ่ึงพาอาศยั ชุดท่ี 2 (ร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์) 5. ใบงานที่ 54 เร่ือง ฟังหรือดู รู้หลกั การ 6. ใบงานที่ 55 เรื่อง ฟังและดู รู้เขา้ ใจ ชุดที่ 1 7. ใบงานที่ 56 เร่ือง ฟังและดู รู้เขา้ ใจ ชุดท่ี 2 8. แบบประเมนิ ทกั ษะการอ่านออกเสียง 9. แบบประเมินทกั ษะการเขยี น 10. แบบประเมนิ ทกั ษะการฟัง (ดเู กณฑ์ในแบบประเมิน) 11. แบบประเมินทกั ษะการพดู 12. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ 328

13. แบบประเมนิ ผลงาน (ดเู กณฑ์ในแบบประเมิน) 14. แบบประเมนิ สมรรถนะผเู้ รียน 5 ดา้ น 15. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 ดา้ น 7. กิจกรรมเสนอแนะ ¯............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................................... 329

8. บันทึกผลการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผเู้ รียนที่ ผ่าน ตวั ช้ีวดั มีจานวน ........................................................ คน คิดเป็นร้อยละ............................................... 1.2 ผเู้ รียนที่ ไม่ผ่าน ตวั ช้ีวดั มจี านวน ........................................................ คน คิดเป็นร้อยละ............................................... 1) ................................................................สาเหตุ (ถา้ ทราบ) ................................................... 2) ................................................................สาเหตุ ....................................................................... แนวทางแกป้ ัญหา .......................................................................................................................... ............................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................. .......... 1.3 ผเู้ รียนทมี่ ีความสามารถพเิ ศษ ไดแ้ ก่ 1) ........................................................................ 2) .................................................................... แนวทางการพฒั นา / ส่งเสริม ...................................................................................................... ก ............................................................................................................................................................ ................................................................................................................. ........................................... ................................................................................................................ ............................................ 1.4 ผเู้ รียนไดร้ บั ความรู้ (K)………..................................................................................................... 1.5 ผเู้ รียนเกิดทกั ษะกระบวนการ (P)…………................................................................................ 1.6 ผเู้ รียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม (A)…................................................................................ 2. ปัญหาอุปสรรค (ถ้าม)ี .......................................................................................................................... ....................................................................................................................... ............................................ ........................................................................................................................... ........................................ 3. ข้อเสนอแนะ (ถ้าม)ี .............................................................................................................................. .......................................................................................................................................... ......................... ลงชื่อ.......................................................... (.........................................................) 330

ใบงานท่ี 51 ภาษาถน่ิ น่ารู้ ช่ือ – นามสกลุ .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาส่ัง โยงเส้นจบั คู่ภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถิน่ ให้ถูกต้อง มอง ลา ตลาด ........................................... ข้ีฮก เบ่ิง โกหก อร่อย เฮา พดู ม่วน ฉนั อู้ ๊สนุก ฮกั รัก หลาด การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณ์รูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพอื่ น ☺ คณุ ครู ☺ 331

ใบงานที่ 52 พึง่ พา อาศัย ชุดท่ี 1 ช่ือ – นามสกุล .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขที่ ............ คาส่ัง อ่านเร่ืองและตอบคาถามให้ถกู ต้อง แรด เป็นสัตวช์ นิดเรหr่ือนง่ึขงอกงาแเนริดดในท่ีราบลุม่ เขตร้อน มนั ชอบแช่อยใู่ นปลกั โคลน ทาให้บนตวั ของแรดมกั มีโคลน เกาะตดิ อยเู่ สมอ แ.ต..่ก..า..ร..ท..ม่ี...นั ..ช..อ..บ...อ..ย..ใู่ ..น..โ..ค..ล..น...น..้นั. ความจริงแลว้ เป็นเพราะตอ้ งการป้องกนั ฝูงเหลือบทช่ี อบชอนไชเขา้ ไป ในผิวหนงั แลว้ ดดู กินเลือดของมนั นั่นเอง นอกจากโคลนตมท่ีพอกตามผวิ หนงั แลว้ บนหลงั ของแรดมกั จะมีฝูงนกยนื เกาะอยู่ แรดไมไ่ ดท้ าร้ายนก ฝูงน้ีเลย เน่ืองจากนกฝงู น้ีจะช่วยจิกกินตวั เหลือบ ทาให้แรด ปราศจากผรู้ บกวน นอกจากน้ีพวกนกยงั มสี ญั ชาตญาณท่ไี วมาก หากเกิดอะไรทผ่ี ดิ ปกติข้นึ พวกมนั กจ็ ะรีบบนิ หนีอยา่ งรวดเร็ว ทาใหก้ ลายเป็นสัญญาณเตือนภยั ใหก้ บั แรด ดงั น้นั เจา้ แรด จึงชอบนกพวกน้ีมาก ๊ (ท่ีมา : ชีวิตสัตวอ์ ศั จรรย)์ 332

ชื่อ – นามสกลุ .......................................................................... ช้ัน ป.3 / ............ เลขที่ ............ 1. ใจความสาคญั ของเร่ือง คาสั่ง หาข้อคดิ จากเร่ืองท่ีกาหนดให้ ___________________________________________________________ ___________________________________________________________ ___________________________________________________________ ___________________________________________________________ ___________________________________________________________ 2. นกั เรียนคิดวา่ สตั วท์ ้งั สองชนิดมกี ารพ่ึงพาอาศยั กนั อยา่ งไร ___________________________________________________________ ___________________________________________________________ ___________________________________________________________ ___________________________________________________________ ___________________________________________________________ การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสญั ลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพ่ือน ☺ คณุ ครู ☺ 333

ใบงานที่ 53 พึง่ พา อาศัย ชุดท่ี 2 ชื่อ – นามสกลุ .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาส่ัง ยกตัวอย่างเหตุการณ์หรือสถานการณ์ท่ีเกดิ การพึ่งพาอาศัย จากน้นั วาดภาพประกอบพร้อมกับระบายสีให้สวยงาม 334

ชื่อ – นามสกุล .......................................................................... ช้ัน ป.3 / ............ เลขท่ี ............ ค_า_ส_ั่_ง________ห_า_ข__้อ_ค_ิด__จ_า_ก_เ_ร_่ือ_ง_ท__่กี _า_ห__น_ด__ใ_ห_้ ___________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสญั ลกั ษณ์รูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรับปรุง   เพอื่ น ☺ คุณครู ☺ 335

ใบงานท่ี 54 ฟังหรือดู รู้หลักการ ช่ือ – นามสกลุ ..........................ใ..บ...ง..า..น...ท...ี่.4...บ...นั....บ...ร...ร...ส...ร..ร...ค..า..ช. ุชด้ทันี่ 1ป. 3 / ............ เลขที่ ............ คาส่ัง เขยี นสรุปความรู้ทไ่ี ด้จากฐานการเรียนรู้ การฟัง และการดู คือ อะไร _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ ยกตวั อยา่ งขอ้ ควรปฏบิ ตั ใิ นการฟังและดู 3 ขอ้ 1. ______________________________________________________ _________________________________________________________ 2. ______________________________________________________ _________________________________________________________ 3. ______________________________________________________ _________________________________________________________ 336

เขียนสรุปความรู้ท่ีได้จากฐานการเรียนรู้ มารยาทในการฟังและดู มอี ะไรบา้ ง 1. ______________________________________________________ _________________________________________________________ 2. ______________________________________________________ _________________________________________________________ 3. ______________________________________________________ _________________________________________________________ 4. ______________________________________________________ _________________________________________________________ 5. ______________________________________________________ _________________________________________________________ การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพื่อน ☺ คุณครู ☺ 337

ใบงานท่ี 55 ฟังและดู รู้เข้าใจ ชุดที่ 1 ช่ือ – นามสกลุ .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขที่ ............ คาส่ัง ดกู าร์ตูนแล้วตอบคาถามต่อไปน้ี สรุปใจความสาคญั ของเร่ือง ........................................... _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ ขอ้ คดิ ท่ีไดจ้ ากเร่ือง ๊_________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ 338

ประโยชนท์ ีไ่ ดดร้ ับกู าร์ตนู แล้วตอบคาถามต่อไปนี้ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ นกั เรียนคดิ วา่ การกระทาใดในเรื่อง เป็นการกระทาที่ไมเ่ หมาะสม _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรับปรุง   เพอ่ื น ☺ คุณครู ☺ 339

ใบงานท่ี 56 ฟังและดู รู้เข้าใจ ชุดท่ี 2 ชื่อ – นามสกลุ .......................................................................... ช้ัน ป. 3 / ............ เลขท่ี ............ คาส่ัง ดสู ารคดแี ล้วตอบคาถามต่อไปน้ี สาระสาคญั ของสาร.ค..ด..ี...................................... _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ การต้งั คาถาม และตอบคาถามเก่ียวกบั สารคดี _________________________________________________________ ๊_________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ 340

ประโยชน์ท่ีไดดร้ ับูการ์ตูนแล้วตอบคาถามต่อไปน้ี _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั สารคดี _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ _________________________________________________________ การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสัญลกั ษณ์รูปใบหนา้ ตามความเป็นจริง ตนเอง ☺  ผ้ปู กครอง ☺  ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง   เพื่อน ☺ คณุ ครู ☺ 341

เกณฑ์ประเมินชิ้นงาน = 5 คะแนน = 4 คะแนน กจิ กรรมพัฒนาการคิด ข้อ 1 ( 5 คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน การเติมคาตอบเป็ นภาษาถิน่ ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - เตมิ คาตอบไดถ้ กู ตอ้ งทุกประโยค = ไม่มีคะแนน - เตมิ คาตอบไดถ้ กู ตอ้ ง 4 ประโยค - เตมิ คาตอบไดถ้ กู ตอ้ ง 3 ประโยค = 5 คะแนน - เตมิ คาตอบไดถ้ กู ตอ้ ง 2 ประโยค = 4 คะแนน - เตมิ คาตอบไดถ้ กู ตอ้ ง 1 ประโยค = 3 คะแนน - เตมิ คาตอบผิดทกุ ประโยค = 2 คะแนน = 1 คะแนน กจิ กรรมพฒั นาการคิด ข้อ 2 ( 15 คะแนน ) = ไม่มีคะแนน 1. การต้งั คาถามและตอบคาถามจากเรื่องท่ีได้ฟังและดู ( 5 คะแนน ) = 5 คะแนน - ต้งั คาถามและตอบคาถามได้ 5 ขอ้ ข้ึนไป = 4 คะแนน - ต้งั คาถามและตอบคาถามได้ 4 ขอ้ = 3 คะแนน - ต้งั คาถามและตอบคาถามได้ 3 ขอ้ = 2 คะแนน - ต้งั คาถามและตอบคาถามได้ 2 ขอ้ = 1 คะแนน - ต้งั คาถามและตอบคาถามได้ 1 ขอ้ = ไมม่ ีคะแนน - ไม่สามารถต้งั คาถามและตอบคาถามได้ 2. การสรุปสาระสาคญั จากเร่ืองที่ได้ฟังและดู ( 5 คะแนน ) - สรุปสาระสาคญั ไดต้ รงประเดน็ มากทีส่ ุด - สรุปสาระสาคญั ไดต้ รงประเดน็ มาก - สรุปสาระสาคญั ไดต้ รงประเดน็ ปานกลาง - สรุปสาระสาคญั ไดต้ รงประเดน็ นอ้ ย - สรุปสาระสาคญั ไดต้ รงประเดน็ นอ้ ยมาก - สรุปสาระสาคญั ไมต่ รงประเดน็ 342

เกณฑ์ประเมนิ ชิ้นงาน = 5 คะแนน = 4 คะแนน กิจกรรมพัฒนาการคิด ข้อ 2 ( ต่อ ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน 3. การพดู แสดงความคิดเหน็ จากเร่ืองที่ได้ฟังและดู ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - พูดแสดงความคิดเห็นอยา่ งมเี หตุผลมากทีส่ ุด = ไม่มีคะแนน - พูดแสดงความคิดเห็นอยา่ งมเี หตผุ ลมาก - พดู แสดงความคดิ เห็นอยา่ งมเี หตผุ ลปานกลาง - พดู แสดงความคดิ เห็นอยา่ งมีเหตุผลนอ้ ย - พูดแสดงความคดิ เห็นอยา่ งมเี หตุผลนอ้ ยมาก - ไม่สามารถพดู แสดงความคิดเห็นไดอ้ ยา่ งมีเหตุผล 343

ประแเบมบินประเมิน ทักษะการอ่านออกเสียง ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยท่ี ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตการใชท้ กั ษะการอา่ นออกเสียงของผเู้ รียนในขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม โดยเขียนระดบั คะแนนลงในตารางทตี่ รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรบั ปรุง รายการประเมิน สรุปผล การประเมนิ รวม เลขที่ ช่ือ – นามสกลุ อ่านออกเสียง อ่านออกเสียง คะแนน ผ่าน ไม่ วรรณกรรม สะกดคา ✓ ผ่าน ท่ีกาหนด  และข้อความ ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 4 คะแนนข้นึ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมิน 344

แบบประเมิน ทักษะการเขยี น ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยที่ ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตการใชท้ กั ษะการเขียนของผเู้ รียนในขณะปฏบิ ตั กิ ิจกรรม โดยเขียนระดบั คะแนน ลงในตารางที่ตรงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรับปรุง รายการประเมิน สรุปผล การประเมิน รวม เลขที่ ช่ือ – นามสกุล เขยี น เขียนด้วย ความ คะแนน ผ่าน ไม่ สะกดคา ลายมือท่ี สะอาด ✓ ผ่าน ถกู ต้อง สวยงาม เรียบร้อย  ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 6 คะแนนข้ึนไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมิน 345

มิ แบบประเมิน น ทกั ษะการฟัง ช้นั ป. 3 / หน่วยที่........................... ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ……………….…………………………………………………………………………………………………………………………….... คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตการใชท้ กั ษะการฟังของผเู้ รียนในขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม โดยเขยี นระดบั คะแนน ลงในตารางท่ตี รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรบั ปรุง รายการประเมิน สรุปผล เลขท่ี ช่ือ – นามสกลุ ปฏบิ ัตติ าม ฟังด้วย รวม การประเมิน คาส่ังอย่าง ความต้งั ใจ คะแนน รู้และเข้าใจ เหมาะสม มีมารยาทใน ผ่าน ไม่ ความหมาย การฟัง ผ่าน ✓ ท่ีฟัง  ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 8 คะแนนข้นึ ไป ถอื ว่า ผ่านเกณฑ์ประเมิน 346

แบบประเมนิ ทักษะการพูด ช้นั ป. 3 /…………………....หน่วยท่ี ...................................................................……………………………….…….………….......................... กิจกรรม ………..……….…………………………………………………………………………………………………………...………………….... คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สังเกตการใชท้ กั ษะการพดู ของผเู้ รียนในขณะปฏิบตั กิ ิจกรรม โดยเขยี นระดบั คะแนน ลงในตารางทตี่ รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรบั ปรุง รายการประเมนิ รวม สรุปผล คะแนน การประเมิน พูดได้ การลาดับ มมี ารยาท เลขท่ี ช่ือ – นามสกลุ คล่องแคล่ว เนื้อหาสาระ ในการพูด ผ่าน ไม่ ✓ ผ่าน ในการพดู  ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 6 คะแนนข้ึนไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ประเมิน 347

ประเมิน แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ช้นั ป. 3 / วชิ า…......…… ............................................................................................………………….……………………………………….... คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมการทางาน การปฏิบตั งิ านของนกั เรียนวา่ มีการปฏบิ ตั ิหรือไม่ ถา้ มกี ารปฏบิ ตั ใิ นรายการใดให้ขีด ✓ ถา้ ไมม่ ีให้เวน้ วา่ ง รายการประเมนิ สรุปผล การประเมิน เลขท่ี ชื่อ - นามสกลุ เห็น ุคณ ่คาของการใ ้ชภาษาไทย รวม ไม่ ใน ีชวิตประจาวัน มีความกระ ืตอ ืรอ ้รนและสนใจใ ่ฝ ู้ร คะแนน ผ่าน ผ่าน มีความ ัรบ ิผดชอบ ✓  ีม ่สวน ่รวมในการทากิจกรรม ีมนิ ัสย ัรกการ ่อานและเขียน ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนมกี ารปฏิบตั ิ 3 รายการข้ึนไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมิน 348

ประเมิน แบบประเมิน ผลงาน ช่ือ - นามสกลุ .............................................................................................. ช้นั ป. 3 / …………….... เลขที่ ……………………… หน่วยการเรียนรู้ที่ .................................................................... กิจกรรม ……………….………………………………………….... คาชีแ้ จง : ใหผ้ ปู้ ระเมินขีด ✓ ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน (ดูเกณฑก์ ารให้คะแนนผลงานในหนา้ ถดั ไป) รายการประเมนิ ผ้ปู ระเมิน ตนเอง เพอื่ น ครู 432143214321 1. ตรงจดุ ประสงคท์ ่ีกาหนด 2. มีความถูกตอ้ งสมบรู ณ์ 3. มีความคดิ สร้างสรรค์ 4. มคี วามเป็นระเบยี บ 5. เสร็จตามเวลาทก่ี าหนด รวม รวมทกุ รายการ เฉล่ีย ผปู้ ระเมนิ ................................................................................. (ตนเอง) ผปู้ ระเมนิ ................................................................................. (เพ่อื น) ผปู้ ระเมิน ................................................................................. (ครู) 349

เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน ประเดน็ ท่ปี ระเมนิ คะแนน 1. ผลงานตรงกบั 43 2 1 จดุ ประสงคท์ กี่ าหนด ผลงานทท่ี า ผลงานทที่ า ผลงานทีท่ า ผลงานท่ที า 2. ผลงานมีความถกู ตอ้ ง สอดคลอ้ ง ไมส่ อดคลอ้ ง สมบรู ณ์ สอดคลอ้ ง สอดคลอ้ ง กบั จดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ บางประเดน็ 3. ผลงานมคี วามคิด กบั จดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ สร้างสรรค์ ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง ทกุ ประเดน็ เป็ นส่วนใหญ่ เป็ นบางส่วน เป็ นส่วนใหญ่ 4. ผลงานมคี วามเป็น ผลงานมคี วาม ผลงานไมแ่ สดง ระเบียบ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ น่าสนใจ แต่ยงั แนวคิดใหม่ ไม่มีแนวคิด 5. ผลงานเสร็จตามเวลา ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถกู ตอ้ ง แปลกใหม่ ผลงานส่วนใหญ่ ทก่ี าหนด ไม่เป็นระเบยี บ ครบถว้ น เป็ นส่วนใหญ่ ผลงานมคี วาม และมขี อ้ บกพร่อง เป็ นระเบียบแต่มี มาก ผลงานแสดงออก ผลงานมแี นวคิด ขอ้ บกพร่อง ค่อนขา้ งมาก ส่งผลงานชา้ กวา่ ถึงความคิด แปลกใหม่แตย่ งั เวลาทก่ี าหนดเกิน ส่งผลงานชา้ กวา่ กวา่ 5 วนั สร้างสรรค์ ไม่เป็ นระบบ เวลาทกี่ าหนด 3-5 วนั แปลกใหม่ และเป็ นระบบ ผลงานมีความเป็น ผลงานส่วนใหญ่ ระเบยี บ แสดงออก มคี วามเป็น ถึงความประณีต ระเบยี บแต่ยงั มี ต้งั ใจ ขอ้ บกพร่อง เล็กนอ้ ย ส่งผลงานตามเวลา ส่งผลงานชา้ กว่า ท่ีกาหนด เวลาท่ีกาหนด 1-2 วนั เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 17 - 20 ดีมาก 12 - 16 ดี 8 - 11 5-7 ปานกลาง ปรบั ปรุง 350

ประเมิน แบบประเมนิ สมรรถนะผ้เู รียน 5 ด้าน คาชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน สมรรถนะทีป่ ระเมนิ ระดับคะแนน 3 21 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1.1 มีความสามารถในการรบั – ส่งสาร 1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม 1.3 ใชว้ ธิ ีการสื่อสารทีเ่ หมาะสม 2. ความสามารถในการคิด 2.1 มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ เพือ่ การสร้างองคค์ วามรู้ 2.2 มีความสามารถในการคดิ เป็นระบบ เพ่ือการสร้างองคค์ วามรู้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.1 แกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตผุ ล 3.2 แสวงหาความรู้มาใชใ้ นการแกป้ ัญหา 3.3 ตดั สินใจโดยคานึงถึงผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ่ืน 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 4.1 ทางานและอยรู่ ่วมกบั ผอู้ นื่ ดว้ ยความสมั พนั ธ์อนั ดี 4.2 มวี ิธีแกไ้ ขความขดั แยง้ อยา่ งเหมาะสม 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 เลอื กใชข้ อ้ มลู ในการพฒั นาตนเองอยา่ งเหมาะสม 5.2 เลอื กใชข้ อ้ มลู ในการทางานและอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่นื อยา่ งเหมาะสม ลงชื่อ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน / /........................ ......................... ............................. เกณฑ์การให้คะแนน : - พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางคร้งั ให้ 1 คะแนน 351

ประเมิน แบบประเมิน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 ด้าน คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะอนั พึง รายการที่ประเมิน ระดบั ประสงค์ด้าน คะแนน 321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มีความรกั และภูมใิ จในความเป็นชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรกั ภกั ดีตอ่ สถาบนั พระมหากษตั ริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต 2.1 ปฏบิ ตั ิตามระเบยี บการสอนและไม่ลอกการบา้ น 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ตนเอง 3. มวี นิ ัย 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงต่อผอู้ ่นื 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา 4. ใฝ่ เรียนรู้ 3.2 แต่งกายเรียบร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏิบตั ิตามกฎระเบยี บของหอ้ งและของโรงเรียน 5. อย่อู ย่างพอเพียง 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ 6. ม่งุ มั่นในการทางาน 4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ไดอ้ ย่างมีเหตุผล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ ินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอย่างประหยดั และรูค้ ุณค่า 5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมกี ารเก็บออมเงนิ 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรค เพือ่ ใหง้ านสาเร็จ 352

ประเมนิ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 8 ด้าน (ต่อ) คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน คุณลักษณะอันพึง รายการท่ปี ระเมิน ระดบั ประสงค์ด้าน คะแนน 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย 321 7. รักความเป็ นไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รู้จกั การให้เพือ่ ส่วนรวมและเพอื่ ผอู้ ืน่ 8. มจี ติ สาธารณะ 8.2 แสดงออกถงึ การมนี ้าใจหรือการให้ความชว่ ยเหลอื ผูอ้ นื่ 8.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมบาเพญ็ ตนเพือ่ ส่วนรวมเม่อื มโี อกาส ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมิน / /......................... ......................... ............................. เกณฑ์การให้คะแนน : - พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิชดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั บิ างคร้ัง ให้ 1 คะแนน 353