48 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทางาน กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครทู บทวนการเปรยี บเทียบจานวนนับสองจานวนที่ไม่เกนิ 100,000 ทีม่ จี านวนหลกั เท่ากันและเลขโดดทางซ้ายสดุ ไมเ่ ท่ากนั โดยครยู กตัวอย่างมาครัง้ ละ 2 จานวนใหน้ กั เรียนเปรียบเทยี บ ว่าจานวนใดมากกว่า น้อยกว่า โดยให้เหตุผลประกอบแล้วเขียนประโยคสัญลักษณ์แสดงการ เปรยี บเทียบบนกระดาน เช่น 71,543 > 42,560 81,425 > 29,741 38,468 < 59,467 40,456 > 39,999 ขัน้ สอน 1. ครูยกตัวอย่างจานวนนับสองจานวนท่ีมจี านวนหลกั เท่ากันและเลขโดดทางซ้ายสดุ เทา่ กนั เช่น 85,711 83,167 ครูถามคาถามให้นกั เรียนช่วยกันตอบ ดังน้ี - จานวนสองจานวนนี้มจี านวนหลกั เทา่ กนั หรอื ไม่ (เท่ากัน) - เลขโดด 8 ใน 85,711 อยู่หลกั ใด มคี า่ เท่าไร (หลักหม่ืน มคี า่ 80,000) - เลขโดด 8 ใน 83,167 อยหู่ ลักใด มคี ่าเท่าไร (หลักหมน่ื มีค่า 80,000) - คา่ ของเลขโดด 8 ในหลักหม่ืนของทงั้ สองจานวนเท่ากันหรอื ไม่ (เทา่ กัน) - เลขโดดในหลกั พันของ 85,711 กับ 83,167 มีค่าเทา่ กันหรือไม่ (ไม่เท่ากนั ) - เลขโดด 5 ใน 85,711 อยหู่ ลักใด มีคา่ เท่าไร (หลักพัน มคี ่า 5,000) - เลขโดด 3 ใน 83,167 อยหู่ ลกั ใด มคี ่าเท่าไร (หลักพัน มีค่า 3,000) - จานวนใดมากกว่า เพราะเหตใุ ด (85,711 เพราะ 5,000 มากกว่า 3,000)
49 2. ครูแนะนาให้นักเรยี นใชเ้ ครอ่ื งหมาย > หรอื < แสดงการเปรยี บเทียบจานวน 85,711 มากกว่า 83,167 83,167 นอ้ ยกว่า 85,711 85,711 > 83,167 83,167 < 85,711 3. จากนั้นครูยกตัวอย่างจานวนนับสองจานวนท่ีมีจานวนหลักเท่ากันและเลขโดด ทางซา้ ยสุดเท่ากันให้นกั เรยี นเปรยี บเทยี บจานวนพร้อมทงั้ บอกเหตุผลอกี 3 ตวั อยา่ งเช่น 37,591 81,751 37,591 81,751 37,591 81,751 4. ครใู หน้ กั เรยี นทาใบงานที่ 8 หลัก การเปรียบเทียบจานวน เมอื่ เสร็จแล้วให้นักเรียน ช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้นั ครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 8 ข้ันสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ สิ่งท่ีได้เรยี นรู้ร่วมกัน ดังน้ี การเปรียบเทียบจานวนทมี่ ี จานวนหลักเทา่ กันว่า ถ้าจานวนที่นามาเปรียบเทียบกันมีจานวนหลักเท่ากนั ให้เปรียบเทียบค่าของ เลขโดดหลกั ซ้ายสดุ กอ่ น ถ้าค่าของเลขโดดทางซา้ ยสดุ ของจานวนใดมากกว่า จานวนนั้นมากกว่า ถ้า ค่าของเลขโดดซ้ายสุดเท่ากัน ให้เปรียบเทียบค่าของเลขโดดในหลักถัดไปทางขวาทีละหลักด้วยวิธี เดียวกัน สือ่ การเรียนรู้ ใบงานท่ี 8 การเปรยี บเทียบจานวน
50 การวดั ผลและประเมนิ ผล สิ่งทีต่ ้องการวัด วิธีวัด เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 8 70% ขึน้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 8 การประเมนิ 2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขึ้นไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั ทีพ่ งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดขี นึ้ ไป คุณลักษณะ ท่ีพึงประสงค์ ความคดิ เห็นผบู้ รหิ าร ลงชื่อ.....................................ผูต้ รวจ () ผอู้ านวยการโรงเรียน ..../................../........
51 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........
52 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 9 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 จานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรยี น 18 ชัว่ โมง เร่ือง การเรยี งลาดบั จานวน เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง สอนวันที.่ ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนนิ การของจานวน ผลท่เี กิดขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการ ดาเนนิ การ และการนาไปใช้ ตัวช้วี ัด ค 1.1 ป.3/2 : เปรียบเทียบและเรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน 100,000 จากสถานการณ์ ต่างๆ สาระสาคญั การเรียงลาดับจานวนหลายๆ จานวน ทาได้โดยการเปรียบเทยี บจานวนทุกๆ จานวน แล้ว เรียงลาดับจานวนจากน้อยไปมาก หรอื จากมากไปน้อย จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. เรียงลาดบั จานวนจากน้อยไปมากและจากมากไปนอ้ ยได้ (K) 2. เขียนแสดงการเรียงลาดับจานวนจากน้อยไปมากและจากมากไปน้อยไดถ้ ูกตอ้ ง (P) 3. นาความรูเ้ ก่ียวกับการเรยี งลาดับจานวนไปใชแ้ ก้ปัญหาทางคณติ ศาสตร์ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การเรียงลาดับจานวน ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สารและการสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง 3. ความสามารถในการให้เหตผุ ล คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. ม่งุ ม่ันในการทางาน
53 กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครทู บทวนการเปรียบเทียบจานวนสองจานวน โดยครูเขยี นจานวนบนกระดานทีละ คู่ใหน้ กั เรยี นเปรยี บเทียบแลว้ เขยี นประโยคสญั ลักษณ์แสดงการเปรียบเทียบ 14,567 > 4,987 8,645 < 16,134 44,657 > 43,799 88,645 < 88,654 2. นักเรียนร่วมกันสรุปการเปรียบเทียบจานวนนับว่า การเปรียบเทียบจานวนให้ พิจารณาท่ีจานวนหลกั ถ้าจานวนใดมีหลักมากกว่าจานวนน้ันจะมากกว่า ถ้าจานวนท่ีเปรยี บเทียบมี จานวนหลักเท่ากนั ใหพ้ ิจารณาค่าของเลขโดดทางซ้ายสดุ ถา้ ค่าของเลขโดดทางซ้ายสุดของจานวนใด มากกว่าจานวนนั้นจะมากกว่าถ้าค่าของเลขโดดทางซ้ายสดุ เทา่ กัน ให้ดูหลักถัดไปทางขวาทลี ะหลัก ดว้ ยวธิ ีเดียวกัน ข้ันสอน 1. ครูให้นักเรยี นส่มุ หยบิ บัตรตัวเลขแสดงจานวนนับไมเ่ กิน 100,000 ท่ีครูเตรยี มไว้มา 3 บัตร 3,254 23,415 7,812 ครูถามคาถามใหน้ กั เรียนช่วยกันตอบ ดังน้ี - 3,254 กบั 23,415 จานวนใดมากกว่า (23,415) - 3,254 กบั 7,812 จานวนใดมากกว่า (7,812) - 23,415 กบั 7,812 จานวนใดมากกว่า (23,415) - จานวนใดนอ้ ยทส่ี ุด (3,254) - จานวนใดมากทส่ี ดุ (7,812) 2. ให้นักเรียนอาสาสมัครมาจดั เรียงลาดับใหม่ โดยเรียงลาดับจานวนจากมากไปน้อย เช่น 23,415 7,812 3,254
54 3. ครูตดิ บัตรจานวน 3 จานวนบนกระดาน 12,984 21,292 45,268 ครูถามคาถามใหน้ กั เรยี นช่วยกันตอบ ดงั น้ี - จานวนนับทั้งสามจานวนมีจานวนหลกั เท่ากันหรอื ไม่ (เท่ากัน) - ถ้าจานวนหลักเท่ากันจะเปรียบเทียบอย่างไร (พิจารณาค่าของเลขโดดทาง ซ้ายมือสุดก่อน เลขโดดของจานวนใดมีค่ามากกวา่ จานวนน้ันจะมีค่ามากกว่า) - จานวนทั้งสามจานวนท่กี าหนดใหม้ ีค่าของเลขโดดในหลกั ทางซ้ายมือสดุ เท่ากัน หรือไม่ (ไมเ่ ท่ากนั ) 4. จากน้ันร่วมกันสรุปว่า 12,984 เป็นจานวนทน่ี อ้ ยทส่ี ุดและ 45,268 เป็นจานวนท่มี าก ทสี่ ุด ครใู หน้ ักเรียนเรยี งลาดับจานวนจากมากไปหานอ้ ยได้ดังนี้ 45,268 21,292 12,984 5. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันนี้อีก 2-3 ข้อ ให้นักเรียนได้ฝึกเปรียบเทียบและ เรียงลาดบั และออกมานาเสนอผลการเรยี งลาดับหน้าชั้นเรยี น 1,234 6,798 12,435 46,789 65,789 82,456 12,231 12,233 12,203 6. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 9 หลัก การเรียงลาดับจานวน เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรยี น ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั ครูและนักเรียนรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 9 ข้ันสรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้รว่ มกัน ดังน้ี การเรียงลาดับจานวน ทาได้ โดยการนาจานวนมาเปรียบเทียบกัน แล้วเรียงลาดับจากจานวนที่มีค่าน้อยไปหาจานวนที่มีค่ามาก หรอื จากจานวนท่ีมีคา่ มากไปหาจานวนท่ีมคี ่าน้อย
55 สื่อการเรียนรู้ 1. บัตรจานวน 2. ใบงานที่ 9 การเรียงลาดบั จานวน การวดั ผลและประเมนิ ผล ส่งิ ทตี่ อ้ งการวัด วิธวี ดั เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 9 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 9 การประเมนิ 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดขี ึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ ท่ีพงึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดขี ึ้นไป คุณลักษณะ ทพี่ งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผบู้ รหิ าร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ () ผอู้ านวยการโรงเรยี น ..../................../........
56 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนรตู้ ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........
57 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 10 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 จานวนนับไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรียน 18 ช่วั โมง เรือ่ ง การเรยี งลาดับจานวน เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง สอนวันท่.ี ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การ ดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กดิ ขึน้ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการ ดาเนนิ การ และการนาไปใช้ ตัวชวี้ ดั ค 1.1 ป.3/2 : เปรียบเทียบและเรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน 100,000 จากสถานการณ์ ตา่ งๆ สาระสาคญั การเรียงลาดับจานวนหลายๆ จานวน ทาได้โดยการเปรียบเทยี บจานวนทุกๆ จานวน แล้ว เรยี งลาดับจานวนจากนอ้ ยไปมาก หรือจากมากไปน้อย จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. เรยี งลาดับจานวนจากนอ้ ยไปมากและจากมากไปนอ้ ยได้ (K) 2. เขียนแสดงการเรยี งลาดบั จานวนจากน้อยไปมากและจากมากไปนอ้ ยได้ถกู ตอ้ ง (P) 3. นาความรเู้ กย่ี วกับการเรยี งลาดับจานวนไปใชแ้ ก้ปญั หาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A) สาระการเรียนรู้ การเรียงลาดับจานวน ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเช่ือมโยง 3. ความสามารถในการให้เหตผุ ล คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน
58 กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครูทบทวนการเปรียบเทียบจานวนสองจานวน โดยครูเขียนจานวนทีละคู่บน กระดาน ให้นกั เรยี นช่วยกนั เปรยี บเทยี บจานวนและเติมเคร่อื งหมาย > < หรือ = พรอ้ มทง้ั ใหเ้ หตุผล 34,567 > 22,567 75,489 < 95,000 25,678 > 22,049 37,654 = 37,654 ขั้นสอน 1. ครูตดิ บตั รจานวนให้ 5 จานวน ใหน้ กั เรียนช่วยกันเปรียบเทียบและเรียงลาดับจานวน จากน้อยไปมาก พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบซึ่งครูอาจเสนอแนวคิดให้นักเรียนพิจารณามา เปรียบเทียบและเรียงลาดับจานวน ดงั น้ี 5,356 22,345 5,150 57,400 87,401 ครูถามคาถามใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตอบ ดังน้ี - จานวนใดมากท่ีสดุ นักเรียนสังเกตอย่างไร (87,401 สังเกตจากค่าของเลขโดด ทางซ้ายสดุ มีคา่ มากท่ีสดุ ) - จานวนใดน้อยที่สดุ (5,150) สงั เกตอย่างไร (เป็นจานวนทมี่ ีจานวนหลกั นอ้ ยทส่ี ดุ ซงึ่ มีอยู่สองจานวนคือ 5,150 กบั 5,356 และสองจานวนน้ี ค่าของเลขโดดในหลักพนั เท่ากันคือ 5,000 แตค่ า่ ของเลขโดดในหลกั รอ้ ยของ 5,150 น้อยกวา่ ดังนั้น 5,150 เป็นจานวนท่นี ้อยที่สดุ ) - เปรยี บเทียบจานวนทเ่ี หลืออีก 3 จานวนคือ 5,356 22,345 และ 57,400 จะได้ วา่ ในสามจานวนน้ี 5,356 เปน็ จานวนที่น้อยที่สุดและ 57,400 เปน็ จานวนที่มากที่สดุ 2. ครใู หน้ ักเรียนอภิปรายและชว่ ยกนั หยบิ บัตรตวั เลขเพื่อเรยี งลาดบั จานวนจากน้อยไป มากบนกระดาน ซงึ่ จะไดผ้ ลการเรียงลาดบั จานวนจากนอ้ ยไปมาก ดังน้ี 5,150 5,356 22,345 57,400 87,401
59 3. ครจู ัดกจิ กรรมทานองเดียวกันนอี้ ีก 1 – 2 ตัวอย่างเชน่ 20,746 5,816 24,752 7,407 42,594 18,210 90,010 42,984 49,844 75,922 4. ครูให้นักเรยี นทาใบงานท่ี 10 หลัก การเรียงลาดับจานวน เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรยี น ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้ันครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 10 ขน้ั สรปุ 1. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ สิ่งทไี่ ด้เรยี นร้รู ว่ มกัน ดังน้ี การเรยี งลาดับจานวน ทาได้ โดยการนาจานวนมาเปรียบเทียบกัน แล้วเรียงลาดับจากจานวนที่มีค่าน้อยไปหาจานวนที่มีค่ามาก หรอื จากจานวนที่มคี า่ มากไปหาจานวนที่มีคา่ น้อย สอ่ื การเรยี นรู้ 1. บตั รจานวน 2. ใบงานที่ 10 การเรียงลาดับจานวน การวัดผลและประเมินผล สิ่งทต่ี อ้ งการวัด วิธวี ัด เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 10 70% ขนึ้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 10 การประเมิน 2. ด้านทักษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดขี น้ึ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ ทพ่ี ึงประสงค์ คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขนึ้ ไป คุณลกั ษณะ ที่พงึ ประสงค์
60 ความคดิ เห็นผู้บรหิ าร ลงชอ่ื .....................................ผู้ตรวจ () ผู้อานวยการโรงเรียน ..../................../........ บันทกึ หลงั การเรียนการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนได้คะแนนเฉลยี่ รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเป็นร้อยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ดี คน คดิ เปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดมี าก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดบั ปรบั ปรุง คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........
61 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 11 รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 จานวนนับไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรยี น 18 ช่ัวโมง เรอื่ ง แบบรูปของจานวนท่ีเพิ่มขึ้นทลี ะ 3 เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง สอนวันท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.2 : เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลาดับและอนกุ รม และนาไปใช้ ตัวชวี้ ดั ค 1.2 ป.3/1 : ระบจุ านวนท่ีหายไปในแบบรูปของจานวนทเ่ี พ่มิ ขึน้ หรอื ลดลงทลี ะเท่าๆ กนั สาระสาคญั แบบรูปของจานวนทเ่ี พิ่มขึ้นทลี ะ 3 เป็นชุดของจานวนท่ีมีความสมั พนั ธ์กนั แบบเพ่ิมข้ึนทีละ 3 อยา่ งคงที่ ซึ่งสามารถหาจานวนตอ่ ไปหรือจานวนท่หี ายไปของแบบรูปได้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกจานวนตอ่ ไปของแบบรูปของจานวนที่เพิ่มขึน้ ทลี ะ 3 ได้ (K) 2. ระบุจานวนท่หี ายไปของแบบรูปของจานวนท่เี พมิ่ ข้ึนทลี ะ 3 ได้ (P) 3. นาความรเู้ กีย่ วกบั แบบรูปของจานวนท่เี พ่ิมขนึ้ ทลี ะ 3 ไปใช้แกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ แบบรูปของจานวนที่เพ่ิมขึน้ ทลี ะ 3 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชื่อมโยง 3. ความสามารถในการให้เหตุผล คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน
62 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเข้าสูบ่ ทเรียน 1. ครกู ระตุ้นความสนใจของนกั เรียนโดยการให้นกั เรยี นดูบัตรตัวเลขแสดงจานวน 5 ใบ ดงั น้ี 5,356 5,357 5,358 5,359 5,360 จากน้ันครูต้ังคาถามแล้วให้นักเรียนร่วมกันตอบว่า นักเรียนรู้หรือไม่ว่า จานวน เหล่านมี้ ีความสัมพนั ธ์กนั อย่างไร (เปน็ การเพ่ิมข้ึนทีละ 1) 2. ครคู อยกระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล โดยให้คาแนะนาว่าบัตร ตัวเลขแสดงจานวนแต่ละใบต่างกันหรือเหมือนกันอย่างไร ถ้าต่างกัน ต่างกันอย่างไร หรือถ้า เหมือนกัน เหมือนกันอย่างไร ข้นั สอน 1. ครกู าหนดจานวนเรม่ิ ตน้ ใหน้ ักเรียน จากนัน้ ให้นักเรยี นเขยี นจานวนทน่ี ับเพิม่ ทลี ะ 3 ถัดไปอีก 5 จานวนเช่น จานวนเรม่ิ ต้นเปน็ 2,561 (2,564 2,567 2,570 2,573 2,576) จานวนเริม่ ตน้ เป็น 4,236 (4,239 4,242 4,245 4,248 4,251) จานวนเริ่มตน้ เป็น 8,908 (8,911 8,914 8,917 8,920 8,923) จานวนเริ่มตน้ เปน็ 1,787 (1,790 1,793 1,796 1,799 1,802) จานวนเริ่มตน้ เป็น 3,694 (3,697 3,700 3,703 3,706 3,709) 2. ครูเขียนแบบรูปของจานวนทีเ่ พ่ิมขึ้นทีละ 3 บนกระดาน ให้นักเรียนพิจารณาและ ร่วมกนั อภิปรายว่าจานวนต่อไปคอื อะไร 25,256 25,259 25,262 25,265 …………. …………. …………. จากนนั้ ครูกลา่ ววา่ จากแบบรปู ทกี่ าหนดเรมิ่ จาก 25,256 จานวนตอ่ มา คือ 25,259 25,262 25,265 .......... .......... .......... โดยครูต้ังคาถามกระตนุ้ ความคิด ดงั นี้ - จานวนเริม่ ตน้ ของแบบรปู คอื จานวนใด (25,256) - จานวนถดั ไปของแบบรปู คือจานวนใด (25,259) - จานวน 25,259 มคี า่ มากกวา่ หรอื น้อยกวา่ 25,256 อยเู่ ท่าไร (มากกว่าอยู่ 3) - จานวนทีถ่ ัดจาก 25,259 คอื จานวนใด และมคี ่ามากกวา่ หรอื น้อยกวา่ 25,259 อย่เู ทา่ ไร (25,262 และมากกวา่ อยู่ 3) - จานวนทถ่ี ดั จาก 25,262 คือจานวนใด และมีค่ามากกวา่ หรือน้อยกว่า 25,262 อยู่เทา่ ไร (25,265 และมากกว่าอยู่ 3)
63 - นักเรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 25,265 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 25,265 เท่าไร (มากกว่าอยู่ 3) - นักเรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 25,265 อีกสามจานวน ควรมีค่าเท่าไรบ้าง (25,268 25,271 25,274) 3. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้ คล่องแคลว่ และถกู ตอ้ ง 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 11 แบบรูปของจานวนท่ีเพ่ิมข้ึนทีละ 3 เม่ือเสรจ็ แลว้ ให้ นักเรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนนั้ ครูและนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 11 ขัน้ สรปุ 1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปสงิ่ ท่ไี ด้เรียนรู้รว่ มกนั ดังนี้ แบบรปู ของจานวนทเ่ี พ่มิ ข้นึ ที ละ 3 เปน็ ชุดของจานวนทีม่ คี วามสัมพันธก์ ันแบบเพิม่ ขึ้นทีละ 3 อย่างคงที่ ซง่ึ สามารถหาจานวนต่อไป หรือจานวนทห่ี ายไปของแบบรูปได้ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. บัตรตัวเลข 2. ใบงานที่ 11 แบบรูปของจานวนท่ีเพมิ่ ข้นึ ทลี ะ 3 การวัดผลและประเมนิ ผล สง่ิ ที่ต้องการวดั วธิ วี ดั เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 11 70% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ 11 การประเมิน 2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีข้ึนไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ที่พงึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีขนึ้ ไป คณุ ลกั ษณะ ท่ีพงึ ประสงค์
64 ความคดิ เห็นผู้บรหิ าร ลงชอ่ื .....................................ผู้ตรวจ () ผู้อานวยการโรงเรียน ..../................../........ บันทกึ หลงั การเรียนการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนได้คะแนนเฉลยี่ รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ดี คน คดิ เปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดมี าก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดบั ปรบั ปรุง คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........
65 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 12 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 จานวนนับไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรยี น 18 ช่ัวโมง เรอื่ ง แบบรูปของจานวนท่ีเพิ่มขึ้นทลี ะ 5 เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง สอนวันท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.2 : เข้าใจและวิเคราะห์แบบรปู ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลาดับและอนกุ รม และนาไปใช้ ตัวชวี้ ดั ค 1.2 ป.3/1 : ระบจุ านวนท่ีหายไปในแบบรปู ของจานวนทเี่ พิ่มขึ้นหรอื ลดลงทลี ะเท่าๆ กนั สาระสาคญั แบบรูปของจานวนทเ่ี พิ่มขึ้นทลี ะ 5 เป็นชุดของจานวนท่มี ีความสัมพนั ธ์กนั แบบเพ่ิมข้ึนทีละ 5 อยา่ งคงที่ ซึ่งสามารถหาจานวนตอ่ ไปหรือจานวนท่ีหายไปของแบบรปู ได้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกจานวนตอ่ ไปของแบบรูปของจานวนท่ีเพิม่ ข้ึนทลี ะ 5 ได้ (K) 2. ระบุจานวนท่หี ายไปของแบบรูปของจานวนทเี่ พม่ิ ข้นึ ทลี ะ 5 ได้ (P) 3. นาความรเู้ กีย่ วกบั แบบรูปของจานวนทเี่ พ่ิมข้ึนทีละ 5 ไปใชแ้ ก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ แบบรูปของจานวนที่เพ่ิมขึน้ ทลี ะ 5 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชื่อมโยง 3. ความสามารถในการให้เหตุผล คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน
66 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครทู บทวนความรู้เกีย่ วกับแบบรปู ของจานวนท่ีเพ่ิมข้ึนทลี ะ 3 ที่ไดเ้ รยี นจากชัว่ โมงที่ แล้วโดยการกาหนดจานวน แลว้ ขออาสาสมคั รออกมาตอบคาถามว่าจานวนท่ีต่อจากจานวนชดุ น้ีอีก 3 จานวนมคี า่ เท่าใด 10,579 10,582 10,583 10,588 …………. …………. …………. ขน้ั สอน 1. ครูเขียนแบบรูปของจานวนที่เพ่ิมขึ้นทีละ 5 บนกระดาน ให้นักเรียนพิจารณาและ ร่วมกันอภิปรายวา่ จานวนต่อไปคอื อะไร 10,983 10,988 10,993 10,998 …………. …………. …………. จากนั้นครกู ลา่ วว่า จากแบบรูปทีก่ าหนดเร่มิ จาก 10,983 จานวนตอ่ มา คอื 10,988 10,993 10,998 .......... .......... .......... โดยครตู ั้งคาถามกระตุ้นความคดิ ดงั น้ี - จานวนเรม่ิ ต้นของแบบรูปคือจานวนใด (10,983) - จานวนถัดไปของแบบรปู คอื จานวนใด (10,988) - จานวน 10,988 มคี า่ มากกวา่ หรือน้อยกวา่ 10,983 อยู่เทา่ ไร (มากกวา่ อยู่ 5) - จานวนทีถ่ ัดจาก 10,988 คอื จานวนใด และมีค่ามากกวา่ หรอื นอ้ ยกว่า 10,988 อยเู่ ทา่ ไร (10,993 และมากกว่าอยู่ 5) - จานวนที่ถดั จาก 10,993 คอื จานวนใด และมีคา่ มากกวา่ หรอื นอ้ ยกวา่ 10,993 อยเู่ ทา่ ไร (10,998 และมากกว่าอยู่ 5) - นักเรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 10,998 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 10,998 เท่าไร (มากกว่าอยู่ 5) - นักเรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 10,998 อีกสามจานวน ควรมีค่าเท่าไรบา้ ง (11,003 11,008 11,013) 2. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้ คลอ่ งแคลว่ และถูกตอ้ ง 3. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 12 แบบรูปของจานวนที่เพ่ิมข้ึนทีละ 5 เมื่อเสร็จแล้วให้ นกั เรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 12 ขั้นสรปุ 1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สิง่ ท่ีได้เรยี นร้รู ว่ มกัน ดังนี้ แบบรูปของจานวนที่เพิ่มข้ึนที ละ 5 เป็นชุดของจานวนท่มี ีความสัมพนั ธ์กันแบบเพิ่มข้ึนทีละ 5 อยา่ งคงท่ี ซึ่งสามารถหาจานวนต่อไป หรือจานวนทีห่ ายไปของแบบรปู ได้
67 ส่ือการเรยี นรู้ ใบงานที่ 12 แบบรูปของจานวนท่ีเพม่ิ ข้นึ ทีละ 5 การวดั ผลและประเมินผล ส่ิงที่ต้องการวดั วิธวี ดั เครอื่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 12 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 12 การประเมนิ 2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดขี ึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ ที่พึงประสงค์ คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดขี ึ้นไป คุณลักษณะ ท่ีพงึ ประสงค์ ความคิดเห็นผู้บรหิ าร ลงช่อื .....................................ผู้ตรวจ () ผู้อานวยการโรงเรยี น ..../................../........
68 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........
69 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 13 รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 จานวนนับไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรียน 18 ชวั่ โมง เรอื่ ง แบบรูปของจานวนท่ีเพิ่มข้ึนทลี ะ 8 เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง สอนวันท่ี....... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.2 : เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลาดับและอนุกรม และนาไปใช้ ตัวชวี้ ดั ค 1.2 ป.3/1 : ระบจุ านวนทีห่ ายไปในแบบรูปของจานวนทเ่ี พมิ่ ข้ึนหรอื ลดลงทลี ะเท่าๆ กัน สาระสาคญั แบบรูปของจานวนทเ่ี พ่ิมขึ้นทลี ะ 8 เป็นชุดของจานวนทมี่ ีความสมั พันธ์กนั แบบเพิ่มขนึ้ ทีละ 8 อยา่ งคงที่ ซ่ึงสามารถหาจานวนตอ่ ไปหรือจานวนท่หี ายไปของแบบรปู ได้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกจานวนตอ่ ไปของแบบรูปของจานวนท่ีเพ่มิ ข้นึ ทลี ะ 8 ได้ (K) 2. ระบุจานวนท่หี ายไปของแบบรปู ของจานวนทเี่ พ่ิมขึน้ ทีละ 8 ได้ (P) 3. นาความรเู้ กีย่ วกบั แบบรูปของจานวนท่ีเพ่มิ ขึ้นทลี ะ 8 ไปใชแ้ ก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ แบบรูปของจานวนที่เพิ่มขึน้ ทีละ 8 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสือ่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง 3. ความสามารถในการให้เหตผุ ล คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน
70 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครทู บทวนความรู้เกยี่ วกับแบบรูปของจานวนที่เพ่ิมขึน้ ทีละ 5 ทไี่ ด้เรยี นจากชั่วโมงที่ แล้วโดยการกาหนดจานวน แลว้ ขออาสาสมัครออกมาตอบคาถามวา่ จานวนทต่ี ่อจากจานวนชดุ นอ้ี กี 3 จานวนมคี า่ เท่าใด 13,518 13,523 13,528 13,533 …………. …………. …………. ขน้ั สอน 1. ครูเขียนแบบรูปของจานวนที่เพ่ิมขึ้นทีละ 8 บนกระดาน ให้นักเรียนพิจารณาและ ร่วมกันอภิปรายวา่ จานวนตอ่ ไปคอื อะไร 21,518 21,526 21,534 21,542 …………. …………. …………. จากนนั้ ครูกล่าวว่า จากแบบรปู ทกี่ าหนดเริ่มจาก 21,518 จานวนต่อมา คือ 21,526 21,534 21,542 .......... .......... .......... โดยครตู ัง้ คาถามกระตุ้นความคดิ ดังน้ี - จานวนเรมิ่ ต้นของแบบรปู คอื จานวนใด (21,518) - จานวนถัดไปของแบบรูปคอื จานวนใด (21,526) - จานวน 21,526 มคี ่ามากกวา่ หรอื น้อยกว่า 21,518 อยูเ่ ทา่ ไร (มากกว่าอยู่ 8) - จานวนท่ีถดั จาก 21,526 คือจานวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 21,526 อยเู่ ทา่ ไร (21,534 และมากกว่าอยู่ 8) - จานวนท่ีถดั จาก 21,534 คือจานวนใด และมีค่ามากกว่าหรอื น้อยกว่า 21,534 อยเู่ ทา่ ไร (21,542 และมากกวา่ อยู่ 8) - นักเรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 21,542 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 21,542 เท่าไร (มากกวา่ อยู่ 8) - นักเรียนคิดว่าจานวนท่ีอยู่ถัดจาก 21,542 อีกสามจานวน ควรมีค่าเท่าไรบ้าง (21,550 21,558 21,566) 2. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้ คลอ่ งแคลว่ และถูกตอ้ ง 3. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 13 แบบรูปของจานวนท่ีเพิ่มข้ึนทีละ 8 เม่ือเสรจ็ แลว้ ให้ นกั เรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้นั ครูและนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 13 ขั้นสรปุ 1. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปสง่ิ ทีไ่ ด้เรียนรู้รว่ มกนั ดงั น้ี แบบรปู ของจานวนทเ่ี พมิ่ ขึ้นที ละ 8 เป็นชุดของจานวนท่ีมีความสมั พนั ธก์ ันแบบเพ่มิ ข้นึ ทลี ะ 8 อยา่ งคงท่ี ซ่งึ สามารถหาจานวนตอ่ ไป หรือจานวนทีห่ ายไปของแบบรูปได้
71 ส่ือการเรยี นรู้ ใบงานที่ 13 แบบรูปของจานวนท่ีเพม่ิ ข้นึ ทีละ 8 การวดั ผลและประเมินผล ส่ิงที่ต้องการวดั วิธวี ดั เครอื่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 13 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 13 การประเมนิ 2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดขี ึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ ที่พึงประสงค์ คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดขี ึ้นไป คุณลักษณะ ท่ีพงึ ประสงค์ ความคิดเห็นผู้บรหิ าร ลงช่อื .....................................ผู้ตรวจ () ผู้อานวยการโรงเรยี น ..../................../........
72 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นไดค้ ะแนนเฉลีย่ รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยใู่ นระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอย่ใู นระดบั ปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........
73 แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 14 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 จานวนนบั ไม่เกิน 100,000 เวลาเรียน 18 ชั่วโมง เร่ือง แบบรูปของจานวนทเ่ี พมิ่ ขึ้นทีละ 10 เวลาเรียน 1 ช่วั โมง สอนวันที่....... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.2 : เข้าใจและวิเคราะห์แบบรปู ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลาดับและอนุกรม และนาไปใช้ ตัวชี้วัด ค 1.2 ป.3/1 : ระบุจานวนท่ีหายไปในแบบรูปของจานวนทเี่ พม่ิ ขน้ึ หรือลดลงทลี ะเท่าๆ กนั สาระสาคญั แบบรูปของจานวนท่เี พิม่ ขึน้ ทลี ะ 10 เปน็ ชดุ ของจานวนที่มีความสมั พันธ์กนั แบบเพิ่มขึ้นทีละ 10 อย่างคงท่ี ซ่งึ สามารถหาจานวนตอ่ ไปหรอื จานวนท่หี ายไปของแบบรปู ได้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกจานวนต่อไปของแบบรูปของจานวนที่เพ่มิ ข้นึ ทีละ 10 ได้ (K) 2. ระบุจานวนที่หายไปของแบบรูปของจานวนท่ีเพ่มิ ขึน้ ทลี ะ 10 ได้ (P) 3. นาความรู้เก่ียวกับแบบรปู ของจานวนทเ่ี พ่มิ ข้ึนทลี ะ 10 ไปใช้แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ แบบรปู ของจานวนทเี่ พมิ่ ขึ้นทลี ะ 10 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชอื่ มโยง 3. ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน
74 กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครูทบทวนความรูเ้ กย่ี วกับแบบรูปของจานวนทเี่ พิ่มขน้ึ ทลี ะ 8 ทไี่ ดเ้ รยี นจากชั่วโมงที่ แลว้ โดยการกาหนดจานวน แล้วขออาสาสมคั รออกมาตอบคาถามว่าจานวนทตี่ ่อจากจานวนชดุ นี้อีก 3 จานวนมคี ่าเท่าใด 43,420 43,428 43,436 43,444 …………. …………. …………. ขั้นสอน 1. ครูเขียนแบบรปู ของจานวนที่เพม่ิ ข้ึนทีละ 10 บนกระดาน ให้นักเรยี นพจิ ารณาและ รว่ มกันอภิปรายวา่ จานวนต่อไปคอื อะไร 32,255 32,265 32,275 32,285 …………. …………. …………. จากนน้ั ครกู ลา่ วว่า จากแบบรูปท่กี าหนดเร่ิมจาก 32,255 จานวนต่อมา คอื 32,265 32,275 32,285 .......... .......... .......... โดยครตู ้ังคาถามกระตุ้นความคิด ดังน้ี - จานวนเร่มิ ต้นของแบบรปู คอื จานวนใด (32,255) - จานวนถัดไปของแบบรูปคอื จานวนใด (32,265) - จานวน 32,265 มีคา่ มากกว่าหรอื นอ้ ยกว่า 32,255 อยเู่ ท่าไร (มากกวา่ อยู่ 10) - จานวนท่ีถัดจาก 32,265 คือจานวนใด และมีค่ามากกว่าหรอื น้อยกว่า 32,265 อยูเ่ ท่าไร (32,275 และมากกวา่ อยู่ 10) - จานวนที่ถดั จาก 32,275 คือจานวนใด และมีค่ามากกว่าหรือนอ้ ยกว่า 32,275 อยู่เท่าไร (32,285 และมากกวา่ อยู่ 10) - นักเรียนคิดว่าจานวนท่ีอยู่ถัดจาก 32,285 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 32,285 เท่าไร (มากกวา่ อยู่ 10) - นักเรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 32,285 อีกสามจานวน ควรมีค่าเท่าไรบ้าง (32,295 32,305 32,315) 2. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้ คล่องแคล่วและถูกต้อง 3. ครูให้นักเรยี นทาใบงานท่ี 14 แบบรูปของจานวนทเ่ี พิ่มขึน้ ทีละ 10 เมื่อเสร็จแลว้ ให้ นักเรยี นช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากนั้นครูและนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 14 ขน้ั สรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสง่ิ ท่ไี ด้เรยี นร้รู ว่ มกนั ดังนี้ แบบรูปของจานวนทเ่ี พิ่มข้ึนที ละ 10 เป็นชุดของจานวนทมี่ ีความสัมพนั ธ์กันแบบเพมิ่ ขึ้นทีละ 10 อย่างคงท่ี ซ่ึงสามารถหาจานวน ต่อไปหรือจานวนท่ีหายไปของแบบรปู ได้
75 สื่อการเรยี นรู้ ใบงานที่ 14 แบบรูปของจานวนท่ีเพิ่มข้ึนทีละ 10 การวดั ผลและประเมนิ ผล สิ่งทต่ี ้องการวดั วิธวี ดั เครื่องมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 14 70% ขึน้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 14 การประเมิน 2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดขี ึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ ท่พี งึ ประสงค์ คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดขี ึ้นไป คุณลกั ษณะ ที่พงึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผู้บริหาร ลงชื่อ.....................................ผู้ตรวจ () ผอู้ านวยการโรงเรียน ..../................../........
76 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........
77 แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 15 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 จานวนนับไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรียน 18 ชว่ั โมง เรอ่ื ง แบบรูปของจานวนท่ลี ดลงทีละ 3 เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง สอนวันท.่ี ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.2 : เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลาดับและอนกุ รม และนาไปใช้ ตวั ชี้วดั ค 1.2 ป.3/1 : ระบจุ านวนท่หี ายไปในแบบรูปของจานวนทีเ่ พิม่ ขึ้นหรือลดลงทีละเท่าๆ กัน สาระสาคญั แบบรูปของจานวนท่ีลดลงทีละ 3 เป็นชุดของจานวนที่มคี วามสมั พันธ์กันแบบลดลงทลี ะ 3 อยา่ งคงท่ี ซง่ึ สามารถหาจานวนต่อไปหรอื จานวนทห่ี ายไปของแบบรปู ได้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกจานวนต่อไปของแบบรปู ของจานวนท่ีลดลงทีละ 3 ได้ (K) 2. ระบุจานวนท่ีหายไปของแบบรปู ของจานวนท่ีลดลงทีละ 3 ได้ (P) 3. นาความรู้เกี่ยวกบั แบบรูปของจานวนท่ลี ดลงทลี ะ 3 ไปใช้แก้ปัญหาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A) สาระการเรยี นรู้ แบบรปู ของจานวนทลี่ ดลงทลี ะ 3 ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเช่อื มโยง 3. ความสามารถในการให้เหตุผล คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน
78 กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นาเข้าสูบ่ ทเรียน 1. ครูกระตุน้ ความสนใจของนกั เรยี นโดยการให้นกั เรยี นดบู ตั รตวั เลขแสดงจานวน 5 ใบ ดงั น้ี 2,375 2,374 2,373 2,372 2,371 จากนั้นครูตั้งคาถามแล้วให้นักเรียนร่วมกันตอบว่า นักเรียนรู้หรือไม่ว่า จานวน เหลา่ น้มี ีความสมั พนั ธ์กนั อย่างไร (เป็นการลดลงทีละ 1) 2. ครคู อยกระต้นุ ให้นกั เรียนแสดงความคิดเห็นอย่างมเี หตุผล โดยใหค้ าแนะนาว่าบัตร ตัวเลขแสดงจานวนแต่ละใบต่างกันหรือเหมือนกันอย่างไร ถ้าต่างกัน ต่างกันอย่างไร หรือถ้า เหมอื นกัน เหมือนกันอย่างไร ขั้นสอน 1. ครูกาหนดจานวนเรม่ิ ตน้ ใหน้ ักเรยี น จากน้ันให้นกั เรียนเขียนจานวนท่ีลดลงทีละ 3 ถดั ไปอีก 5 จานวนเช่น จานวนเริม่ ตน้ เปน็ 8,906 (8,903 8,900 8,897 8,894 8,891) จานวนเริ่มตน้ เปน็ 3,510 (3,507 3,504 3,501 3,498 3,495) จานวนเร่มิ ตน้ เป็น 8,005 (8,002 7,999 7,996 7,993 7,990) จานวนเร่มิ ต้นเปน็ 6,587 (6,584 6,581 6,578 6,575 6,572) จานวนเรม่ิ ต้นเปน็ 2,359 (2,356 2,353 2,350 2,347 2,344) 2. ครูเขียนแบบรูปของจานวนที่ลดลงทีละ 3 บนกระดาน ให้นักเรียนพิจารณาและ รว่ มกนั อภิปรายวา่ จานวนต่อไปคอื อะไร 15,924 15,921 15,918 15,915 …………. …………. …………. จากน้ันครูกล่าววา่ จากแบบรปู ท่กี าหนดเรมิ่ จาก 15,924 จานวนต่อมา คอื 15,921 15,918 15,915 .......... .......... .......... โดยครูตั้งคาถามกระตนุ้ ความคดิ ดังน้ี - จานวนเร่มิ ต้นของแบบรปู คือจานวนใด (15,924) - จานวนถดั ไปของแบบรูปคอื จานวนใด (15,921) - จานวน 15,921 มคี า่ มากกว่าหรือนอ้ ยกวา่ 15,924 อยู่เทา่ ไร (น้อยกวา่ อยู่ 3) - จานวนที่ถัดจาก 15,921 คือจานวนใด และมีค่ามากกว่าหรอื นอ้ ยกว่า 15,921 อยู่เท่าไร (15,918 และนอ้ ยกวา่ อยู่ 3) - จานวนที่ถัดจาก 15,918 คือจานวนใด และมีค่ามากกว่าหรอื นอ้ ยกว่า 15,918 อย่เู ท่าไร (15,915 และน้อยกว่าอยู่ 3)
79 - นักเรียนคิดว่าจานวนท่ีอยู่ถัดจาก 15,915 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 15,915 เท่าไร (นอ้ ยกว่าอยู่ 3) - นักเรียนคิดว่าจานวนท่ีอยู่ถัดจาก 15,915 อีกสามจานวน ควรมีค่าเท่าไรบา้ ง (15,912 15,909 15,906) 3. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้ คลอ่ งแคลว่ และถกู ตอ้ ง 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 15 แบบรูปของจานวนที่ลดลงทีละ 3 เม่ือเสร็จแล้วให้ นักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนนั้ ครแู ละนักเรยี นร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 15 ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งทไ่ี ด้เรียนรู้รว่ มกัน ดังน้ี แบบรูปของจานวนท่ีลดลงที ละ 3 เป็นชดุ ของจานวนทม่ี ีความสมั พันธก์ ันแบบลดลงทีละ 3 อย่างคงท่ี ซ่ึงสามารถหาจานวนต่อไป หรือจานวนทห่ี ายไปของแบบรูปได้ ส่ือการเรียนรู้ 1. บัตรตัวเลข 2. ใบงานที่ 15 แบบรูปของจานวนท่ลี ดลงทลี ะ 3 การวดั ผลและประเมนิ ผล สิง่ ท่ีต้องการวดั วธิ ีวดั เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน 1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 15 70% ข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์ 15 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมดา้ น คุณภาพดีขึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั ที่พงึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีข้ึนไป คุณลักษณะ ที่พึงประสงค์
80 ความคดิ เห็นผู้บรหิ าร ลงชอ่ื .....................................ผู้ตรวจ () ผู้อานวยการโรงเรียน ..../................../........ บันทกึ หลงั การเรียนการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนได้คะแนนเฉลยี่ รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ดี คน คดิ เปน็ ร้อยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นักเรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดมี าก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดบั ปรบั ปรุง คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........
81 แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 16 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 จานวนนับไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรียน 18 ชว่ั โมง เรอ่ื ง แบบรูปของจานวนท่ลี ดลงทีละ 5 เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง สอนวันท.่ี ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.2 : เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลาดับและอนกุ รม และนาไปใช้ ตวั ชี้วดั ค 1.2 ป.3/1 : ระบจุ านวนท่หี ายไปในแบบรูปของจานวนทีเ่ พิม่ ขึ้นหรือลดลงทีละเท่าๆ กัน สาระสาคญั แบบรูปของจานวนท่ีลดลงทีละ 5 เป็นชุดของจานวนที่มคี วามสมั พันธ์กันแบบลดลงทลี ะ 5 อยา่ งคงท่ี ซง่ึ สามารถหาจานวนต่อไปหรอื จานวนทห่ี ายไปของแบบรปู ได้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกจานวนต่อไปของแบบรปู ของจานวนท่ีลดลงทีละ 5 ได้ (K) 2. ระบุจานวนท่ีหายไปของแบบรปู ของจานวนท่ีลดลงทีละ 5 ได้ (P) 3. นาความรู้เกี่ยวกบั แบบรูปของจานวนท่ลี ดลงทลี ะ 5 ไปใช้แก้ปัญหาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A) สาระการเรยี นรู้ แบบรปู ของจานวนทลี่ ดลงทลี ะ 5 ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเช่อื มโยง 3. ความสามารถในการให้เหตุผล คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน
82 กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน 1. ครูทบทวนความรเู้ ก่ียวกับแบบรูปของจานวนที่ลดลงทีละ 3 ที่ได้เรียนจากชว่ั โมงที่ แล้วโดยการกาหนดจานวน แล้วขออาสาสมคั รออกมาตอบคาถามว่าจานวนท่ีตอ่ จากจานวนชุดนอี้ ีก 3 จานวนมคี ่าเท่าใด 72,391 72,388 72,385 72,382 …………. …………. …………. ขนั้ สอน 1. ครูเขียนแบบรูปของจานวนที่ลดลงทีละ 5 บนกระดาน ให้นักเรียนพิจารณาและ รว่ มกันอภปิ รายว่าจานวนตอ่ ไปคอื อะไร 80,399 80,394 80,389 80,384 …………. …………. …………. จากน้ันครกู ลา่ ววา่ จากแบบรูปทีก่ าหนดเร่มิ จาก 80,399 จานวนตอ่ มา คอื 80,394 80,389 80,384 .......... .......... .......... โดยครตู ้ังคาถามกระตนุ้ ความคดิ ดงั นี้ - จานวนเร่มิ ต้นของแบบรปู คือจานวนใด (80,399) - จานวนถดั ไปของแบบรปู คอื จานวนใด (80,394) - จานวน 80,394 มีค่ามากกวา่ หรือน้อยกวา่ 80,399 อยู่เท่าไร (นอ้ ยกวา่ อยู่ 5) - จานวนท่ีถดั จาก 80,394 คือจานวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 80,394 อยู่เท่าไร (80,389 และน้อยกวา่ อยู่ 5) - จานวนท่ีถัดจาก 80,389 คือจานวนใด และมีค่ามากกว่าหรือนอ้ ยกว่า 80,389 อย่เู ท่าไร (80,384 และน้อยกว่าอยู่ 5) - นักเรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 80,384 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 80,384 เท่าไร (น้อยกว่าอยู่ 5) - นักเรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 80,384 อีกสามจานวน ควรมีค่าเท่าไรบา้ ง (80,379 80,374 80,369) 2. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้ คล่องแคล่วและถกู ต้อง 3. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 16 แบบรูปของจานวนที่ลดลงทีละ 5 เมื่อเสร็จแล้วให้ นักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนัน้ ครูและนักเรยี นรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 16 ขน้ั สรปุ 1. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปส่ิงท่ไี ด้เรียนรรู้ ่วมกัน ดังนี้ แบบรูปของจานวนทลี่ ดลงที ละ 5 เป็นชดุ ของจานวนที่มีความสัมพันธ์กันแบบลดลงทีละ 5 อย่างคงท่ี ซ่งึ สามารถหาจานวนต่อไป หรือจานวนที่หายไปของแบบรูปได้
83 สื่อการเรยี นรู้ ใบงานท่ี 16 แบบรปู ของจานวนท่ีลดลงทีละ 5 การวัดผลและประเมนิ ผล สง่ิ ทต่ี ้องการวัด วิธีวัด เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 16 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 16 การประเมนิ 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดขี ึ้นไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ ท่ีพงึ ประสงค์ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี ึ้นไป คุณลกั ษณะ ที่พึงประสงค์ ความคดิ เห็นผ้บู ริหาร ลงชอ่ื .....................................ผู้ตรวจ () ผูอ้ านวยการโรงเรยี น ..../................../........
84 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นไดค้ ะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรับปรงุ คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........
85 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 17 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 จานวนนับไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรียน 18 ชว่ั โมง เรอ่ื ง แบบรูปของจานวนท่ลี ดลงทีละ 8 เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง สอนวันท.่ี ...... เดอื น.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.2 : เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลาดับและอนกุ รม และนาไปใช้ ตวั ชี้วดั ค 1.2 ป.3/1 : ระบจุ านวนท่หี ายไปในแบบรูปของจานวนที่เพมิ่ ข้นึ หรือลดลงทลี ะเทา่ ๆ กนั สาระสาคญั แบบรูปของจานวนท่ีลดลงทีละ 8 เป็นชุดของจานวนท่ีมคี วามสมั พันธ์กันแบบลดลงทลี ะ 8 อยา่ งคงท่ี ซง่ึ สามารถหาจานวนต่อไปหรอื จานวนท่ีหายไปของแบบรปู ได้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกจานวนต่อไปของแบบรปู ของจานวนท่ีลดลงทีละ 8 ได้ (K) 2. ระบุจานวนท่ีหายไปของแบบรปู ของจานวนทล่ี ดลงทลี ะ 8 ได้ (P) 3. นาความรู้เกี่ยวกบั แบบรูปของจานวนที่ลดลงทลี ะ 8 ไปใช้แก้ปัญหาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A) สาระการเรยี นรู้ แบบรปู ของจานวนทลี่ ดลงทลี ะ 8 ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเช่อื มโยง 3. ความสามารถในการให้เหตุผล คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน
86 กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครูทบทวนความรเู้ ก่ียวกับแบบรูปของจานวนท่ลี ดลงทีละ 5 ท่ีได้เรียนจากชั่วโมงที่ แล้วโดยการกาหนดจานวน แล้วขออาสาสมัครออกมาตอบคาถามว่าจานวนที่ตอ่ จากจานวนชดุ นอี้ ีก 3 จานวนมคี ่าเท่าใด 36,189 36,184 36,179 36,174 …………. …………. …………. ขนั้ สอน 1. ครูเขียนแบบรูปของจานวนที่ลดลงทีละ 8 บนกระดาน ให้นักเรียนพิจารณาและ รว่ มกันอภิปรายว่าจานวนตอ่ ไปคอื อะไร 31,470 31,462 31,454 31,446 …………. …………. …………. จากน้ันครกู ลา่ ววา่ จากแบบรูปทีก่ าหนดเร่มิ จาก 31,470 จานวนต่อมา คือ 31,462 31,454 31,446 .......... .......... .......... โดยครูต้ังคาถามกระตนุ้ ความคิด ดังนี้ - จานวนเร่มิ ต้นของแบบรปู คอื จานวนใด (31,470) - จานวนถดั ไปของแบบรปู คอื จานวนใด (31,462) - จานวน 31,462 มีค่ามากกวา่ หรอื นอ้ ยกวา่ 31,470 อยูเ่ ทา่ ไร (นอ้ ยกวา่ อยู่ 8) - จานวนท่ีถดั จาก 31,462 คือจานวนใด และมีค่ามากกว่าหรอื น้อยกว่า 31,462 อยู่เท่าไร (31,454 และน้อยกวา่ อยู่ 8) - จานวนท่ีถัดจาก 31,454 คือจานวนใด และมีค่ามากกว่าหรอื นอ้ ยกว่า 31,454 อย่เู ท่าไร (31,446 และน้อยกว่าอยู่ 8) - นักเรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 31,446 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 31,446 เท่าไร (น้อยกว่าอยู่ 8) - นักเรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 31,446 อีกสามจานวน ควรมีค่าเท่าไรบา้ ง (31,438 31,430 31,422) 2. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้ คล่องแคล่วและถกู ตอ้ ง 3. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 17 แบบรูปของจานวนท่ีลดลงทีละ 8 เมื่อเสร็จแล้วให้ นักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนัน้ ครูและนักเรยี นรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 17 ขน้ั สรปุ 1. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปส่ิงท่ไี ด้เรียนรรู้ ่วมกัน ดังนี้ แบบรูปของจานวนทล่ี ดลงที ละ 8 เป็นชดุ ของจานวนที่มีความสัมพันธ์กันแบบลดลงทลี ะ 8 อย่างคงท่ี ซึง่ สามารถหาจานวนต่อไป หรือจานวนที่หายไปของแบบรูปได้
87 สื่อการเรยี นรู้ ใบงานท่ี 17 แบบรปู ของจานวนที่ลดลงทลี ะ 8 การวัดผลและประเมนิ ผล สง่ิ ทต่ี ้องการวัด วิธวี ัด เครือ่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 17 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 17 การประเมนิ 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดขี ึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นไดค้ ะแนนระดับ ท่ีพงึ ประสงค์ คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดขี ึ้นไป คณุ ลกั ษณะ ท่ีพงึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผ้บู ริหาร ลงชอ่ื .....................................ผู้ตรวจ () ผูอ้ านวยการโรงเรยี น ..../................../........
88 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........
89 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 18 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 จานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 เวลาเรียน 18 ชวั่ โมง เร่ือง แบบรูปของจานวนท่ลี ดลงทลี ะ 10 เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง สอนวันท่ี....... เดือน.......................... พ.ศ. ......... ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.2 : เข้าใจและวิเคราะหแ์ บบรปู ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลาดับและอนกุ รม และนาไปใช้ ตัวชวี้ ัด ค 1.2 ป.3/1 : ระบจุ านวนที่หายไปในแบบรปู ของจานวนที่เพิ่มขนึ้ หรือลดลงทีละเทา่ ๆ กัน สาระสาคัญ แบบรปู ของจานวนทีล่ ดลงทลี ะ 10 เปน็ ชุดของจานวนทมี่ ีความสัมพันธก์ ันแบบลดลงทลี ะ 10 อยา่ งคงที่ ซ่งึ สามารถหาจานวนต่อไปหรือจานวนทหี่ ายไปของแบบรูปได้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกจานวนต่อไปของแบบรปู ของจานวนท่ีลดลงทลี ะ 10 ได้ (K) 2. ระบุจานวนทห่ี ายไปของแบบรูปของจานวนทีล่ ดลงทลี ะ 10 ได้ (P) 3. นาความรูเ้ กีย่ วกบั แบบรปู ของจานวนทีล่ ดลงทีละ 10 ไปใชแ้ กป้ ัญหาทางคณติ ศาสตร์ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ แบบรูปของจานวนทีล่ ดลงทีละ 10 ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สารและการสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 2. ความสามารถในการเช่อื มโยง 3. ความสามารถในการให้เหตผุ ล คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทางาน
90 กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1. ครูทบทวนความรเู้ กี่ยวกับแบบรปู ของจานวนท่ีลดลงทีละ 8 ที่ได้เรียนจากชวั่ โมงที่ แลว้ โดยการกาหนดจานวน แล้วขออาสาสมัครออกมาตอบคาถามวา่ จานวนทตี่ ่อจากจานวนชดุ นี้อกี 3 จานวนมคี ่าเทา่ ใด 20,069 20,061 20,053 20,045 …………. …………. …………. ข้นั สอน 1. ครูเขียนแบบรูปของจานวนทล่ี ดลงทีละ 10 บนกระดาน ให้นักเรียนพิจารณาและ รว่ มกันอภิปรายวา่ จานวนต่อไปคอื อะไร 46,991 46,981 46,971 46,961 …………. …………. …………. จากนั้นครูกล่าวว่า จากแบบรปู ทก่ี าหนดเร่ิมจาก 46,991 จานวนตอ่ มา คือ 46,981 46,971 46,961 .......... .......... .......... โดยครตู ้งั คาถามกระตุน้ ความคิด ดังนี้ - จานวนเร่ิมตน้ ของแบบรูปคือจานวนใด (46,991) - จานวนถดั ไปของแบบรปู คือจานวนใด (46,981) - จานวน 46,981 มีค่ามากกว่าหรอื นอ้ ยกวา่ 46,991 อยูเ่ ทา่ ไร (น้อยกว่าอยู่ 10) - จานวนที่ถัดจาก 46,981 คือจานวนใด และมีค่ามากกว่าหรอื น้อยกว่า 46,981 อยู่เทา่ ไร (46,971 และนอ้ ยกวา่ อยู่ 10) - จานวนท่ีถดั จาก 46,971 คือจานวนใด และมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 46,971 อยู่เท่าไร (46,961 และนอ้ ยกวา่ อยู่ 10) - นักเรียนคิดว่าจานวนท่ีอยู่ถัดจาก 46,961 ควรมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 46,961 เท่าไร (น้อยกว่าอยู่ 10) - นักเรียนคิดว่าจานวนที่อยู่ถัดจาก 46,961 อีกสามจานวน ควรมีค่าเท่าไรบา้ ง (46,951 46,941 46,931) 2. ครูจัดกิจกรรมทานองเดียวกันอีก 2 – 3 ข้อ จนกว่านักเรียนทุกคนจะทาได้ คล่องแคลว่ และถกู ต้อง 3. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 18 แบบรูปของจานวนที่ลดลงทลี ะ 10 เม่ือเสร็จแลว้ ให้ นักเรยี นช่วยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนั้นครแู ละนักเรียนร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 18 ขั้นสรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ สิ่งทีไ่ ด้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ แบบรูปของจานวนทีล่ ดลงที ละ 10 เป็นชุดของจานวนท่ีมีความสัมพันธ์กันแบบลดลงทีละ 10 อย่างคงที่ ซึ่งสามารถหาจานวน ตอ่ ไปหรอื จานวนทหี่ ายไปของแบบรปู ได้
91 ส่ือการเรยี นรู้ ใบงานที่ 18 แบบรปู ของจานวนที่ลดลงทลี ะ 10 การวดั ผลและประเมินผล ส่ิงที่ตอ้ งการวัด วธิ ีวดั เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานที่ 18 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 18 การประเมนิ 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤตกิ รรมด้าน คุณภาพดขี ึ้นไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ ทพ่ี ึงประสงค์ คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ พฤตกิ รรมดา้ น คณุ ภาพดขี ึ้นไป คุณลักษณะ ทพี่ งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผบู้ ริหาร ลงช่ือ.....................................ผู้ตรวจ () ผอู้ านวยการโรงเรยี น ..../................../........
92 บันทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นไดค้ ะแนนเฉลีย่ รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ นักเรยี นอยใู่ นระดบั ดมี าก คน คดิ เปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยู่ในระดบั พอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอย่ใู นระดบั ปรับปรุง คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา ลงชอ่ื .....................................ผสู้ อน () ..../................../........
93 ใบงาน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 จานวนนับไมเ่ กิน 100,000 สาระที่ 1 จานวนและพชี คณติ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบ จานวน การดาเนินการของจานวน ผลที่เกิดขึ้นจากการ ดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนินการ และการนาไปใช้ ตวั ชีว้ ัด ค 1.1 ป.3/1 : อ่านและเขียน ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสอื แสดงจานวนนบั ไม่เกิน 100,000 และ 0 ค 1.1 ป.3/2 : เปรียบเทียบและเรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน 100,000 จาก สถานการณ์ตา่ งๆ
94 ใบงานท่ี 1 การอ่านและเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนงั สอื แสดงจานวน คาชี้แจง เขียนตัวเลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย และตวั หนังสอื แสดงจานวน 1. หมื่น พนั รอ้ ย สิบ หน่วย 2. หมืน่ พัน ร้อย สบิ หนว่ ย 3. หม่ืน พนั รอ้ ย สิบ หน่วย
95 4. หม่ืน พนั ร้อย สบิ หนว่ ย 5. หมื่น พัน รอ้ ย สบิ หน่วย 6. หมน่ื พนั ร้อย สิบ หน่วย 7. หม่นื พัน ร้อย สิบ หนว่ ย
96 ใบงานท่ี 2 การอา่ นและเขียนตวั เลขฮินดอู ารบิก ตวั เลขไทย และตวั หนงั สอื แสดงจานวน คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นจานวนตอ่ ไปนีเ้ ป็นตวั เลขไทย และตวั หนังสือลงในตารางให้ถูกตอ้ ง ตวั เลขฮินดอู ารบกิ ตัวเลขไทย ตวั หนงั สอื 24,157 73,815 94,725 31,705 31,485 68,573 51,672 15,890 58,234 72,231 24,687 67,891 19,665 46,732 88,881
97 ใบงานที่ 3 หลกั ค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลัก และการเขียนตวั เลขแสดง จานวนในรูปกระจาย คาชแ้ี จง บอกหลักและคา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลกั 1. 985 มคี ่า 9 อยใู่ นหลกั มีค่า 8 อยู่ในหลกั มีค่า 5 อยู่ในหลกั 2. 284 มีคา่ 2 อยใู่ นหลกั มคี า่ 8 อยใู่ นหลัก มีค่า 4 อยู่ในหลัก 3. 573 มคี า่ 5 อยู่ในหลัก มคี า่ 7 อยใู่ นหลัก มคี า่ 3 อยู่ในหลกั 4. 503 มคี า่ 5 อยใู่ นหลกั มีคา่ 0 อยู่ในหลัก มีคา่ 3 อยูใ่ นหลกั 5. 768 มีค่า 7 อยใู่ นหลัก 6 อยู่ในหลกั มคี า่ 8 อยใู่ นหลัก มีค่า
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117