Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 2

บทที่ 2

Published by khumnuengnu.kk, 2018-06-01 11:25:59

Description: บทที่ 2

Search

Read the Text Version

หนา้ 1 จาก 28

หนา้ 2 จาก 28จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้1. จาแนกประเภทของสัตวแ์ ต่ละชนิดได้2. บอกพันธุแ์ ละลักษณะประจาพันธุ์สัตว์แต่ละชนดิ ได้ สัตวท์ ่ีนิยมเลี้ยงโดยมจี ุดประสงค์เพ่ือทารายไดไ้ ห้กับผเู้ ลี้ยงโดยไมร่ วมสตั ว์น้า ในปจั จุบนั มีหลายชนิดด้วยกนั เชน่ โค กระบอื แพะ แกะ สุกร ไกแ่ ละเปด็ ซ่งึ สัตวแ์ ตล่ ะชนดิ ยังแบ่งออกไดเ้ ปน็ หลายประเภท และหลายพนั ธุ์ ซง่ึ พอจะจดั แบง่ ไดเ้ ปน็ กล่มุ ๆ ดงั ตอ่ ไปนี้1. กลุม่ สตั วใ์ หญ่ ไดแ้ ก่ โคและกระบอื ได้แก่ สุกร แพะแกะและกระต่าย2.กลมุ่ สัตวเ์ ลก็ ได้เเก่ ไก่ เป็ด หา่ นและนก3.กลมุ่ สัตวป์ กี1. ชนิด ประเภทและพนั ธส์ุ ตั วใ์ นกลมุ่ สตั ว์ใหญ่ 1.1 ประเภท พนั ธแุ์ ละลกั ษณะประจาพนั ธโ์ุ ค โคมีชื่อวิทยาศาสตร์วา่ Bos spp. สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลมุ่ คือโคท่มี ีถิน่ กาเนดิในเขตร้อน (Bos indicus) นยิ มเรียกว่า “โคอนิ เดยี ” อีกกลุ่มเปน็ โคทมี่ ีถ่ินกาเนดิ ในเขตหนาว(Bos taurus) นยิ มเรียกวา่ “โคยุโรป” โคท้ังสองกลมุ่ น้มี ีลักษณะและข้อดีขอ้ เสยี ต่างกนั พอจะสรุปได้วา่ โคอนิ เดียสามารถทนต่อสภาพเเวดล้อมเเละโรคแมลงในเขตรอ้ นได้ดีแตใ่ หผ้ ลผลิตตา่ส่วนโคยโุ รปทนต่อสภาพแวดลอ้ มและโรคแมลงในเขตร้อนไม่ดหี รือบางพันธท์ุ นไม่ไดแ้ ตใ่ ห้ผลผลติ สงู โดยทัว่ ไปโคสามารถเเบ่งออกได้ 4 ประเภทตามลกั ษณะการใช้ประโยชน์คือโคนม(Dairy Type) โคเนอื้ (Beef Type) โคกึ่งเน้ือกึง่ นม (Dual Purpose Type) และโคใช้แรงงาน (Draft Type) 1.1.1 พันธแ์ุ ละลกั ษณะประจาพันธ์โุ คประเภทนม โคนมเปน็ โคทเ่ี ล้ียงโดยมจี ุดประสงคห์ ลักเพ่อื ต้องการน้านมใชป้ ระโยชน์ ดงั นั้นโคประเภทนจี้ ะมีลกั ษณะคอ่ นขา้ งผอม ร่างกายสว่ นชว่ งอกเลก็ กวา่ ชว่ งทอ้ งและบัน้ ทา้ ย เตา้นมมขี นาดใหญ่กวา่ ปกติ ทาใหม้ องรูปลกั ษณะของโคพนั ธ์นุ ค้ี ่อนขา้ งจะเปน็ รปู สามเหล่ียมรูปลิ่ม ไม่ว่าจะมองทางด้านข้างหรอื มองทางด้านบน พนั ธโุ์ คนมทส่ี าคัญไดแ้ ก่

หน้า 3 จาก 28 1)พนั ธุ์โฮลสไตน์ ฟรเี ซยี น (Holstein Friesian) หรอื พนั ธขุ์ าว-ดา (Black andWhite) เปน็ โคทมี่ ีถิ่นกาเนดิ ในประเทศเนเธอรแ์ ลนด์ ลกั ษณะประจาพนั ธท์ุ สี่ าคัญคอื ลาตัวมสี ีขาวสลบั สีดาโดยไมร่ ะบุตาแหน่งสขี าวและสดี าที่แนน่ อน สาหรบั โคพันธแุ์ ท้ ปลายขาทัง้ สี่และพู่หางต้องมสี ขี าวเทา่ นน้ั 2)พนั ธบุ์ ราวนส์ วสิ (Brown Swiss) เปน็ โคทม่ี ถี น่ิ กาเนิดในประเทศสวสิ เซอร์แลนด์ มีสนี า้ ตาลออ่ นจนถงึ สีนา้ ตาลเข้มเกอื บดา บริเวณแนวหลงั รอบปากและเตา้ นมมสี จี างกวา่ สว่ นอืน่ ๆ กบี เทา้ พหู่ าง บรเิ วณคอและหวั ไหลจ่ ะมสี เี ขม้ กว่าส่วนอื่นๆ 3)พนั ธุ์เรดเดน (Red Dane) หรอื เรดเเดนสิ (Red Danish) มถี ิ่นกาเนดิ ในประเทศเดนมาร์ค มสี แี ดงเขม้ ทั้งตัว เต้านมใหญแ่ ต่หย่อนยาน 4)พนั ธ์เุ จอรซ์ ี่ (Jersey) มถี ่ินกาเนิดบนเกาะเจอรซ์ ่ีประเทศองั กฤษ จัดเปน็ โคขนาดเลก็ มเี ต้านมท่มี ลี กั ษณะสมบูรณ์เเบบ โคพนั ธน์ุ มี้ ีสีตา่ งๆ กันตั้งแตส่ ีเทาปนเหลอื งหรอื สีเทาปนน้าตาลไปจนถงึ สเี กอื บดาเป็นโคท่มี ไี ขมันในนา้ นมสีเหลือง 5) พันธุ์เกิรน์ ซ่ี (Guernsey) มถี นิ่ กาเนดิ บนเกาะเกิรน์ ซี่ประเทศองั กฤษจัด เป็นโคนมที่มขี นาดเลก็ มีลักษณะสีลาตวั ใกลเ้ คียงกับพนั ธ์ุเจอรซ์ ่แี ละไขมันในน้านมสีเหลอื งเชน่ เดยี วกับพนั ธ์ุเจอร์ซี่ 6)พนั ธแุ์ อรไ์ ชร์ (Ayrshire) กาเนดิ ในประเทศสก๊อตแลนด์ มลี กั ษณะประ จาพนั ธ์ุคอื มสี ีแดงลายจดุ ขาวหรอื สขี าวลายจดุ แดงกไ็ ด้ โคพนั ธุน์ ีจ้ ดั เป็นโคนมทมี่ รี ูปรา่ งเข้าตามลักษณะในอุดมคติ (Ideal Type) มากทสี่ ุด 7)พนั ธุเ์ รดซนิ ด้ี (Red Sindhi) เปน็ โคท่จี ดั อยใู่ นกลมุ่ โคอินเดยี มีถ่นิ กาเนิดในประเทศปากสี ถาน ลกั ษณะโดยท่วั ไปคลา้ ยกบั โคพันธุ์พื้นเมืองของไทยเป็นโคทม่ี ีลาตวั สแี ดงเขม้ บางตัวมีสีเเดงอ่อนเกือบเปน็ สเี หลอื งหรอื อาจมจี ุดขาวทีห่ น้าผากและเหนียงคอ เป็นโคที่ทนทานต่อโรคและแมลงในเขตรอ้ นได้ดีแตใ่ ห้ผลผลิตต่าเม่ือเทียบกบั โคกล่มุ ยโุ รป 8)พนั ธุ์ซาฮวิ าล (Sahiwal) เป็นโคที่มถี ่นิ กาเนิดในปากีสถานเชน่ เดียวกับพนั ธุ์เรดซนิ ดีล้ กั ษณะโดยท่วั ไปกค็ ลา้ ยคลึงกนั เป็นโคทม่ี สี แี ดงโดยท่วั ไปสมี กั อ่อนกว่าพันธ์ุเรดซินดี้ขนาดตวั ใหญก่ วา่ ยาวกว่าและลึกกวา่ พนั ธุ์เรดซนิ ด้ี

หนา้ 4 จาก 28พันธ์โุ ฮลสไตน์ ฟรเี ชย่ี น (Holstein Friesian) พันธ์ุบราวน์ สวิสส์ (Brown Swiss)พันธ์แุ อรไ์ ชร์ (Ayrshire) พันธเ์ุ จอรซ์ ่ี (Jersey)พันธ์ุเรดซนิ ด้ี (Red Sindhi) พนั ธุซ์ าฮวิ าล (Sahiwal) ภาพแสดงตวั อยา่ งพันธุ์โคประเภทนมทีม่ า : Australian Meat Livestock Corporation (1989)

หนา้ 5 จาก 28 1.1.2 พันธุ์และลกั ษณะประจาพันธ์ุโคประเภทเน้ือ โคเนอื้ เปน็ โคทีเ่ ล้ยี งโดยมีจุดประสงค์หลกั เพอ่ื เอาเนื้อมาใช้ประโยชนด์ ังนั้นลกั ษณะของโคประเภทนคี้ ่อนขา้ งเจ้าเนือ้ โดยมแี นวหลังและพ้ืนทอ้ งขนานกับพ้ืนดนิ มากที่สุดทรงตา่ ลาตัวยาว ลึกและกว้าง คอสนั้ หนามีเนื้อแนน่ เต็มไม่เหน็ รอยของกระดกู โดยเฉพาะกระดูกเชิงกรานและกระดกู ก้นกบ การเคลอ่ื นไหวเชือ่ งช้าอดื อาด ไมว่ ่าจะมองทางด้านใดลาตวัจะเป็นรปู สเี่ หลยี่ มผืนผ้า พนั ธโ์ุ คเนือ้ ท่ีสาคัญได้แก่ 1)พนั ธช์ุ อรท์ ฮอร์น (Short Horn) กาเนดิ ในประเทศองั กฤษ เป็นโคขนาดใหญ่เขาส้นั มี 3 สายพันธ์ุ คอื พนั ธ์สุ ขี าว พันธสุ์ แี ดงและพนั ธ์ุสโี รน (Roan) นิยมเลยี้ งพันธ์ุสแี ดงและสโี รน 2)พนั ธ์เุ ฮยี รฟ์ อรด์ (Hereford) เรียกอีกอย่างว่าพนั ธุ์หนา้ ขาว (White Face)กาเนิดในประเทศองั กฤษ มีเขา ลาตวั สีแดง บรเิ วณหนา้ ใต้ทอ้ ง พู่หาง ปลายเทา้ ตอนเหนือกบี เเละซอกขามสี ขี าว 3)พันธอ์ุ ะเบอรด์ นี เเองกสั (Aberdeen Angus) นยิ มเรียกว่าพันธุแ์ องกสั มถี ่นิกาเนดิ ในประเทศสกอ๊ ตแลนด์ เปน็ โคทไ่ี มม่ เี ขา ขนเรียบ สดี าสนิททง้ั ตัว 4)พันธชุ์ าโรเลส์ (Charolais) กาเนิดในประเทศฝรง่ั เศส มสี ีขาวหรือสคี รมี เขาสน้ั นิยมนาเขา้ มาผสมกับโคพันธอ์ุ เมรกิ ันบราหม์ ัน และโคลูกผสมอเมรกิ นั บราห์มนั กับโคพื้นเมอื งในประเทศไทยเพ่อื ปรบั ปรุงคุณภาพผลผลติ เน้อื 5) พนั ธุ์ลิมวั ซนิ (Limousin) กาเนดิ ในประเทศฝรง่ั เศสรูปทรงคลา้ ยกบั โคพันธุ์ชาโรเลส์ มสี ีลาตวั ต้งั แต่สีนา้ ตาลออ่ นจนถงึ สีแดงเขม้ เเละดา 6)พนั ธเ์ุ ดรา้ ทม์ าสเตอร์ (Drought Master) เป็นโคทีป่ รบั ปรงุ พันธุ์ขึ้นทางตอนเหนือของออสเตรเลยี มีสายเลอื ดโคยโุ รป 50 เปอรเ์ ซน็ ตแ์ ละโคอนิ เดีย 50 เปอร์เซ็นต์ลกั ษณะโดยทั่วไปไมม่ เี ขา ลาตวั สีทองออกไปทางสนี ้าผง้ึ (Golden Honey) ถงึ สแี ดงเข้ม 7)พนั ธุ์ซานตา้ เกอรท์ รดู สี (Santa Gertrudis) โคพนั ธ์นุ ถ้ี กู ปรบั ปรุงพนั ธใ์ุ นสหรฐั อเมรกิ าโดยนาโคพนั ธเุ์ อเมรกิ นั บราห์มันผสมกับพนั ธช์ุ อรท์ ฮอรน์ ลาตวั มีสีแดงเขม้ส่วนใหญจ่ ะมเี ขาเเตบ่ างตวั อาจไมม่ ีเขา เหนียงคอและสะดอื ค่อนข้างหย่อนยาน 8)พันธแ์ุ บรงกสั (Brangus) เปน็ โคทถ่ี กู ปรับปรุงพนั ธุใ์ นสหรฐั อเมรกิ า โดยนาโคพันธ์ุอเมริกนั บราห์มันผสมกับพันธุ์แองกัส ลาตวั มสี ีดาสนิทไม่มีเขา 9)พนั ธ์ุชารเ์ บรย์ (Charbray) เปน็ โคลูกผสม มสี ายเลือดโคพนั ธช์ุ าโรเลส์อยา่ งน้อย 50 เปอรเ์ ซ็นตแ์ ละมีสายเลือดของโคพันธุ์อเมรกิ นั บราหม์ ันระหว่าง 12.5-25เปอรเ์ ซ็นต์ ลาตัวสีขาวครีม ไม่มีเขา เหนียงคอคอ่ นขา้ งหย่อนยาน 10)พนั ธ์อุ เมรกิ ันบราหม์ นั (American Brahman) เปน็ โคท่ีปรับปรุงพนั ธขุ์ นึ้ในสหรฐั อเมริกา โดยการนาโคอินเดียหลายสายพนั ธุ์ไปผสมและคดั เลอื กพันธ์ุจนไดเ้ ป็นพันธุ์

หน้า 6 จาก 28อเมรกิ นั บราห์มัน รปู ทรงโดยทัว่ ไปจะมลี ักษณะเหมือนโคอนิ เดยี คือมตี ะโหนก รปู ทรงสงู ทนต่อสภาพภูมิอากาศและโรคแมลงในเขตรอ้ นไดด้ ี โคพันธุ์น้มี สี องสายพันธคุ์ ือพันธุ์สีขาว และพันธ์สุ แี ดง เพศผบู้ ริเวณคอ ตะโหนกและบัน้ ทา้ ยจะมีสคี ล้ากวา่ บรเิ วณอ่ืน 11)พันธ์อุ นิ ดบู ราซลิ (Indu Brazil) เปน็ โคถูกนาไปปรับปรงุ พันธุใ์ นประเทศบราซลิ เกิดจากการนาโคอนิ เดยี มาผสมและปรบั ปรุงพันธเุ์ ช่นเดยี วกับพันธ์ุอเมริกัน บราห์มันลักษณะโดยทั่วไปจะคลา้ ยกับพันธ์อุ เมริกันบราห์มันแตห่ น้าผากจะโหนกกวา่ เหนยี งคอจะหยอ่ นยานกวา่ ใบหยู าวมากและปลายใบหูบิด 12)พนั ธซ์ุ มิ เมนทอล (Simmental) เปน็ โคทมี่ ีถนิ่ กาเนิดในประเทศสวสิ เซอรแ์ ลนด์ มีลกั ษณะประจาพนั ธุ์คือหน้าขาว ลาตัวสีแดง 13)พนั ธุ์กาแพงแสน (Kamphaengsaen) เป็นโคท่ปี รบั ปรุงพันธุ์ข้นึ ในประเทศไทยโดยมหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขตกาเเพงเเสน มีสขี าวครมี ท้ังตวั มีสายเลอื ด โคพนั ธุ์พน้ื เมอื ง 25 เปอร์เซน็ ต์ พันธอ์ุ เมริกันบราห์มนั 25 เปอร์เซน็ ต์และพันธุ์ชาโรเลส์ 50 เปอรเ์ ซน็ ต์ 14)พนั ธต์ุ าก เป็นโคท่มี ีขนสีครมี ถงึ สนี า้ ตาลออ่ นถกู ปรับปรงุ ขน้ึ โดยศูนย์วจิ ัยและบารงุ พนั ธสุ์ ตั ว์ตาก เกดิ จากการผสมแบบสลับพ่อพันธุร์ ะหว่างโคพนั ธุ์ชาโรเลส์กับพันธ์ุอเมริกนั บราห์มัน มรี ะดับสายเลอื ดโคพนั ธ์ชุ าโรเลส์ 62.5 เปอร์เซน็ ตแ์ ละสายเลือดโคพันธุ์อเมรกิ นั บราหม์ นั 37.5 เปอร์เซน็ ต์ โคพนั ธุน์ ี้จัดเป็นโคเนื้อท่โี ตเร็ว เลย้ี งง่ายหากินเก่ง แทะเลม็ หญ้าไม่เลอื ก ทนต่อสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ใหเ้ นอ้ื คณุ ภาพดี และไม่มปี ัญหาดา้ นความสมบรู ณ์พนั ธุ์

หน้า 7 จาก 28พันธชุ์ อรท์ ฮอรน์ (Short Horn) พนั ธเ์ุ ฮียฟอร์ด (Hereford)พันธุ์ชาโรเลส์ (Charolais) พันธลุ์ มิ ซู นิ (Limousin)พนั ธุ์เดรา้ ทม์ าสเตอร์ (Drought Master) พันธ์ซุ านตา้ เกอร์ทรดู สี (Santa Gertrudis)พันธ์ุซมิ เมนทอล (Simmental) พนั ธุอ์ เมรกิ นั บรามนั ห์ (American Brahman) ภาพแสดงตวั อยา่ งพนั ธโ์ุ คประเภทเนือ้ทม่ี า : Australian Meat Livestock Corporation (1989)

หน้า 8 จาก 28 1.1.3 พันธ์ุและลกั ษณะประจาพันธุ์โคประเภทกงึ่ เนื้อกงึ่ นม โคกง่ึ เนือ้ ก่งึ นมมลี ักษณะกา่ กึง่ ระหวา่ งโคนมและโคเนอื้ ดังน้นั โคประเภทนี้สามารถใช้ประโยชนโ์ ดยมีจดุ ประสงคเ์ พอื่ เป็นโคนมเพื่อรีดเอาน้านมกไ็ ด้ หรอื จะเลีย้ งโดยจดุประสงคเ์ พ่อื เอาเน้ือกไ็ ด้ พันธ์ุโคกงึ่ เน้อื กึง่ นมทสี่ าคัญไดแ้ ก่ 1)พันธ์ุมลิ คง้ิ ชอรท์ ฮอรน์ (Milking Short Horn) ถิ่นกาเนิดในประเทศอังกฤษ มี 3 สายพนั ธ์ุเช่นเดยี วกบั พนั ธ์ชุ อรท์ ฮอร์น โคตวั ผู้จะอว้ นกว่าโคนม สว่ นตัวเมยี เต้านมใหญ่พอสมควรและเต้านมได้สัดส่วนดีพอใช้ แต่จะอ้วนมีเน้ือมากกว่าโคนม 2)พนั ธุ์เรดโพล (Red Poll) ถน่ิ กาเนดิ ประเทศอังกฤษ มสี ีแดงเขม้ ไม่มีเขาทง้ั ตัวผแู้ ละตัวเมยี อว้ นมีเน้ือมาก 3)พนั ธ์ุเดวอน (Davon) ถ่ินกาเนดิ ประเทศองั กฤษ ลาตวั สีแดงผวิ หนงั สเี หลืองพนั ธเุ์ รดโพล (Red Poll) พันธ์เุ ดวอน (Davon) ภาพแสดงตวั อย่างพนั ธ์ุโคประเภทกึง่ เนอ้ื ก่งึ นมท่มี า : Australian Meat Livestock Corporation (1989) 1.1.4 พันธแ์ุ ละ ลกั ษณะประจาพนั ธ์โุ คประเภทใชแ้ รงงาน โคประเภทน้เี ปน็ โคทเี่ ลย้ี งโดยมีจดุ ประสงคห์ ลักเพื่อใชแ้ รงงาน ดงั นน้ั โคประเภทน้ีจึงมคี อและหน้าอกใหญห่ นา สว่ นบนั้ ทา้ ยคอ่ นข้างเรียวเล็ก โคท่เี ล้ียงเพ่ือใชแ้ รงงานสว่ นใหญแ่ ลว้ จะเป็นโคท่ที นร้อนไดด้ ี โคประเภทนีไ้ ด้แก่ 1)พันธุพ์ ้นื เมืองของไทย โคพนั ธุ์พนื้ เมอื งของไทยมสี ตี า่ งๆ กัน ต้ังแตส่ ดี า สีนา้ ตาล สีนา้ ตาลอ่อน สีฟางขา้ วและสลี าย แตท่ ่พี บบ่อยๆ คือสีนา้ ตาลอ่อนและสดี า ขนบริเวณใต้ท้องและซอกขามักมสี ีจางกวา่ ส่วนอื่นของร่างกาย โดยทัว่ ไปเขาสน้ั ถงึ ยาวปานกลางโคเพศผู้มตี ะโหนกตรงเหนือไหล่ สนั หลังลาดขน้ึ จากสะเอวไปส่ตู ะโหนกแลว้ ลาดลงตามบ้นั ทา้ ยไปสู่โคนหาง โคเพศเมียไม่มีตะโหนก มีเต้านมเลก็ เปน็ รูปฝาชีใหน้ มนอ้ ย

หนา้ 9 จาก 28 2)พันธข์ุ าวลาพนู โคขาวลาพูนจดั เปน็ โคพืน้ เมืองของไทยอกี พนั ธุ์หนึ่ง กาเนดิทางตอนเหนอื ของประเทศไทย เปน็ โคทมี่ ีสีขาวปลอดท้ังตวั ตาดาไม่เป็นสีชมพู ใช้แรงงานไดด้ ีใหล้ กู ปีละตัวในสภาพการเลีย้ งดแู บบชาวบา้ น ทนตอ่ อากาศร้อนช้นื และโรคแมลงในเขตรอ้ นไดเ้ ปน็ อยา่ งดี จัดเป็นโคท่ีมรี ปู รา่ งดีพันธห์ุ นง่ึ แตใ่ นปัจจุบนั โคพนั ธเ์ุ เท้เหลอื จานวนน้อยมาก ภาพแสดงตัวอยา่ งพนั ธ์ุโคพื้นเมอื ง ท่ีมา : คานงึ หนดู าษ 1.2 ประเภท พันธุ์ และลกั ษณะประจาพนั ธกุ์ ระบอื กระบือมีชือ่ วิทยาศาสตร์ว่า Bos bubalus เป็นสัตวท์ ีม่ ถี ิน่ กาเนดิ ในเขตรอ้ น มคี วามทนทานในการทางาน โดยเฉพาะในพ้ืนทท่ี ีเ่ ปน็ โคลนตมกระบอื จะทางานไดด้ ีกวา่ โค กระบอืนยิ มเลีย้ งกนั มากในเขตทีม่ นี า้ บริบูรณ์ กระบอื แบ่งออกได้เปน็ 2 ประเภทคือ กระบอื เเม่นา้หรอื กระบอื นม (River Buffalo) และกระบอื ปลกั หรอื กระบอื เนื้อหรอื กระบืองาน (SwampBuffalo) 1.2.1 พันธุ์และลกั ษณะประจาพนั ธุ์กระบอื แม่นา้ กระบือแมน่ ้าที่นาเขา้ มาเลี้ยงในประเทศไทย ในปจั จบุ นั มเี พยี งพนั ธ์ุเดียวคอืพันธม์ุ รู าหห์ รือเดลฮี (Murrah or Delhi) ซ่งึ นยิ มเลยี้ งเเพร่หลายในรัฐปญั จาบ เมอื งเดลฮีและเมืองการาจีของประเทศอนิ เดีย และในประเทศปากีสถาน มีลกั ษณะประจาพันธคุ์ อื มเี ขาสั้น โคง้ งอ บดิ ขมวดชิดเข้าหาโคนเขา ขนและผวิ หนงั สีดา มสี ขี าวทห่ี างและหนา้ ผาก เต้านมสวยงาม และมีขนาดใหญพ่ อสมควร จดั เป็นพันธ์ทุ ีใ่ ห้นมมากทส่ี ดุ ในอนิ เดีย เป็นกระบือนมพันธุ์แรกที่นาเขา้ มาเลี้ยงในประเทศไทย นอกจากพันธุ์มูราหแ์ ลว้ ในตา่ งประเทศยงั มกี ระบอื แม่นา้ อีกหลายพนั ธ์ทุ ี่นิยมเล้ยี ง เชน่ พนั ธเุ์ ซอรต์ ิ (Surti) พนั ธเ์ุ มห์ซานา่ (Mehsana) พนั ธุน์ ากปูรี (Nagpuri) พนั ธุ์สรุ าท (Surat) ของอนิ เดยี และพันธุ์นิลี (Nili) พนั ธร์ุ าวี (Ravi) ของปากีสถาน เปน็ ตน้

หนา้ 10 จาก 28กระบอื แมน่ า้ กร ะบอื ปลกั ภาพแสดงตัวอยา่ งประเภทกระบอื ท่ีมา : ยอดชาย (2542) และคานึง หนูดาษ 1.2.2 พนั ธุ์และลกั ษณะประจาพนั ธก์ุ ระบอื ปลกั กระบือปลักมีลักษณะโดยทวั่ ไปคอื มรี ูปร่างลา่ สนั บกึ บนึ ทอ้ งใหญ่ ทรงเตี้ยลาตวัสัน้ คอยาว เขายาวโคง้ ไปข้างหลงั ได้ระดบั กบั หนา้ ผาก เพศผจู้ ะมีอวยั วะสบื พนั ธุ์อยูใ่ นปลอกห้มุลึงคซ์ ่ึงตดิ กับลาตัว โดยทัว่ ไปลาตัวมสี องสีคือสีเทาและสีดา ที่นยิ มลยี้ งคือกระบอื พ้ืนเมอื งของไทยไดแ้ ก่ พันธอ์ุ ทุ ยั ธานี พนั ธล์ุ าพูน พันธ์ุแม่สอด พันธ์ชุ ุมพรและพันธ์สุ ชิ ล

หนา้ 11 จาก 282. ชนิด ประเภทและพนั ธสุ์ ัตวใ์ นกลมุ่ สตั วเ์ ลก็ 2.1 ประเภท พันธแ์ุ ละลกั ษณะประจาพนั ธสุ์ กุ ร สกุ รมีช่อื วทิ ยาศาสตรว์ า่ Sus spp. นยิ มเลย้ี งเพ่อื ใช้เนอ้ื บรโิ ภคเปน็ อาหารเพียงอย่างเดียว สุกรเป็นสัตว์ที่สามารถปรับตัวเขา้ กับสภาพดนิ ฟา้ อากาศไดห้ ลายชนิด เป็นสตั วท์ ี่ผลติ เน้ือมาก เลีย้ งงา่ ย ให้ลูกดก แบง่ ออกไดเ้ ปน็ 3 ประเภทตามลักษณะและคุณสมบตั ิของสกุ รคือประเภทมัน (Lard Type) ประเกทเบคอน (Bacon Type) และประเภทเน้ือ (Meat Type) 2.1.1 พันธุแ์ ละลกั ษณะประจาพันธสุ์ กุ รประเภทมนั สุกรประเภทนี้ปัจจุบนั ไมน่ ยิ มเลย้ี ง เพราะเจรญิ เติบโตช้าและมสี ว่ นทเ่ี ป็นมนัมากกว่าเนื้อ รูปร่างอ้วนกลม ตัวสนั้ สะโพกเลก็ แตม่ ขี อ้ ดีคือหาอาหารกนิ เองเกง่ ให้ลกู ดกและทนตอ่ สภาพแวดลอ้ มไดด้ กี ว่าพนั ธตุ์ า่ งประเทศ ในอดีตนิยมเล้ียงอยู่ในประเทศไทยหลายพันธุ์ส่วนใหญเ่ ปน็ พันธพุ์ น้ื เมอื งของไทย ได้เเกพ่ นั ธุไ์ หหลา พนั ธคุ์ วาย และพนั ธุ์พวงพันธไุ์ หหลา พนั ธพ์ุ วง ภาพแสดงตัวอยา่ งพันธส์ุ ุกรประเภทมัน ทม่ี า : กองบารุงพันธส์ุ ตั ว์ (ม.ป.ป.) 2.1.2 พนั ธุ์ และลักษณะประจาพนั ธ์ุ สุกรประเภทเบคอน ลกั ษณะของสุกรประเภทน้ีลาตวั จะยาวกว่าประเภทอ่ืนๆ มเี น้ีอมากมีมันนอ้ ยชาวยุโรปนยิ มเลย้ี งสกุ รประเภทน้เี พ่อื ใชเ้ นื้อมาทาผลิตภณั ฑท์ ีเ่ รียกว่า Bacon พันธสุ์ กุ รประเภทเบคอนที่นิยมเลยี้ งในประเทศไทยไดแ้ ก่ 1)พันธุ์ลารจ์ ไวท์ (Large White) กาเนิดในประเทศองั กฤษ หนังเเละขนสีขาวตลอดลาตัว แตบ่ างตวั อาจจะมีจดุ ถือวา่ เป็นเรือ่ งธรรมดา หูตง้ั ลาตวั ยาว ไหล่หนามีเนื้อมากมนั ใตผ้ ิวหนงั บาง 2)พันธุแ์ ลนดเ์ รช (Landrace) กาเนดิ ในประเทศเดนมารค์ มสี ขี าวทัง้ ตัว รปู ร่างค่อนขา้ งลกึ ลาตวั ยาวกวา่ พนั ธ์ลุ ารจ์ ไวท์ (มซี โ่ี ครง 16-17 คู่) สะโพกใหญ่เด่นชัด หลังค่อนข้างตรงเตี้ยกว่าสกุ รพนั ธล์ุ ารจ์ ไวท์ หวั เลก็ เรยี วรับกบั คอ หูใหญ่ปรกลงขา้ งหน้า

หน้า 12 จาก 28 พนั ธลุ์ ารจ์ ไวท์ (Large White) พันธ์แุ ลนดเ์ รช (Landrace) ภาพแสดงตวั อย่างพันธุ์สุกรประเภทเบคอน ท่มี า : อนิ เตอร์เวทฯ (ม.ป.ป.) 2.1.3 พันธุ์ และลักษณะประจาพนั ธ์สุ กุ รประเภทเนือ้ สุกรประเภทนม้ี ีรูปรา่ งสนั ทัด โปร่งบางกว่าประเภทพันธุม์ ัน ลาตัวสั้นกว่าประเภทเบคอนแตม่ ีความหนาและความลกึ ของลาตวั มากกว่า หลังโก่งคลา้ ยคนั ธนู ไหล่และสะโพกใหญ่ พันธ์ุทนี่ ิยมเลีย้ งในประเทศไทยคือ 1)พันธด์ุ ูรอ็ คเจอร์ซี (Duroc Jersey) กาเนดิ ในสหรัฐอเมริกา สแี ดงเขม้ ทง้ั ตวัหรอื เปน็ สอี ิฐ บางตวั สเี กือบเป็นสที อง หูปรกเลก็ นอ้ ย รูปรา่ งหนา ลึก หลงั โคง้ สะโพกใหญ่ 2)พนั ธุ์แฮมเชยี ร์ (Hamshire) กาเนิดในสหรฐั อเมริกา ลาตวั มีสีดาและมีคาดขาวเฉพาะบรเิ วณหัวไหลจ่ รดขาหนา้ ทั้งสอง หตู ง้ั ขนาดลาตวั เลก็ กว่าพนั ธ์ดุ รู ็อคเจอรซ์ ีลกั ษณะดีเด่นกวา่ สกุ รพันธอ์ุ ืน่ คอื สามารถใชห้ ญา้ เป็นอาหารได้มาก 3)พนั ธเ์ุ พียเทรยี น (Pietrains) กาเนดิ ในประเทศเบลเยยี ม เปน็ สุกรท่มี ีความสามารถในการให้เนอ้ื แดงสงู ผวิ หนงั สีขาวอมชมพแู ละมีปื้นดาตามลาตวั สะโพกกลมแน่นนิยมนามาเลยี้ งเพ่อื ผสมกบั พนั ธุ์อืน่ เพ่อื ปรับปรุงพันธ์ุ

หนา้ 13 จาก 28 พนั ธุ์ดรู ็อค เจอร์ซ่ี (Duroc Jersey) พันธ์ุแฮมเชียร์(Hameshire) พนั ธเุ์ พียเทรยี น (Pietrains) ภาพแสดงตัวอย่างพันธุส์ กุ รประเภทเนอื้ ที่มา : อนิ เตอร์เวทฯ (ม.ป.ป.) 2.2 ประเภท พันธแุ์ ละลกั ษณะประจาพนั ธแ์ุ พะ แพะเป็นสตั ว์เศรษฐกจิ ทีเ่ ลยี้ งงา่ ยขยายพันธไุ์ ดเ้ รว็ ให้ผลผลิตทงั้ นม เน้ือและขน ตัวมีขนาดเล็กสะดวกในการเลย้ี งดู หาอาหารกินเก่ง กนิ อาหารไดห้ ลายชนิด เปน็ หนมุ่ เป็นสาวเร็วมคี วามสมบรู ณพ์ ันธส์ุ ูง ใชพ้ นื้ ทใี่ นการเล้ียงนอ้ ย สามารถปรบั ตวั กับสภาพแวดลอ้ ม และทนทานต่อสภาพอากาศแล้งและร้อนได้ดี โดยท่วั ไปแพะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คอื 2.2.1 พันธ์แุ ละลกั ษณะประจาพนั ธ์แุ พะประเภทนม สว่ นมากแล้วเเพะประเภทน้ีปราดเปรียว ลาคอบางเล็ก ไมค่ ่อยมเี น้ือ มีน้านมมาก ตวั ผ้ทู ต่ี อนแลว้ ขุนเปน็ แพะเนอ้ื ได้ นา้ นมแพะจะมีสว่ นประกอบเหมือนน้านมโคแต่การยอ่ ยไดจ้ ะงา่ ยกว่านา้ นมจากโค แพะประเภทน้ีมีอยูห่ ลายพนั ธดุ์ ว้ ยกนั ไดแ้ ก่ 1)พันธซ์ุ าเนน (Saanen) กาเนดิ ในประเทศสวิสเซอรแ์ ลนด์ มสี ขี าวตลอดลาตัวขนส้นั และละเอยี ด รปู รา่ งเปน็ เหล่ียม หูต้ัง อารมณ์สงบให้นมมาก

หนา้ 14 จาก 28 2)พันธุ์ท๊อกเกนเบริ ก์ (Toggenburg) กาเนดิ ในประเทศสวสิ เซอร์แลนด์ โตเตม็ ที่นา้ หนกั ประมาณ 55 กโิ ลกรัม นา้ นมมีไขมัน 3.7 เปอร์เซ็นต์ 3)พนั ธุ์บรติ ชิ แอลไพน์ (British Alpine) กาเนิดบนเกาะบรเิ ตนใหญ่ ลาตวัโดยทวั่ ไปมีสีดา ขนสน้ั หตู ง้ั หนา้ มแี ถบสีขาว ให้นมดี นา้ นมมไี ขมันเฉล่ีย 4 เปอรเ์ ซน็ ต์พันธุ์ซาแนน (Saanen) พนั ธ์ุทอ๊ กเกนเบริ ก์ (Toggenburg)ภาพแสดงตัวอยา่ งพันธุ์แพะประเภทนม ที่มา : สรุ ชน (2531) 2.2.2 พนั ธแุ์ ละลกั ษณะประจาพนั ธแ์ุ พะประเภทเนอื้ แพะประเภทน้ีเปน็ แพะพันธทุ์ ่มี ตี วั โต มีเนือ้ มากใชเ้ น้ือเป็นอาหาร ใหน้ มน้อยเพยี งพอแกก่ ารเลี้ยงลกู เท่านัน้ ทน่ี ยิ มเลย้ี งได้ แกพ่ ันธค์ุ ุทชิ (Cutchi) ของอินเดีย พันธ์ซุ ูดาน(Sudan) และพนั ธุ์ไพรเี นยี น (Pyrenian) จากยโุ รป แตพ่ ันธท์ุ ่ีนยิ มเลี้ยงในประเทศไทยคือแพะพันธ์แุ องโกล นูเบยี น (Anglo Nubian) และพันธบ์ุ อร์ (Boer) 1)พันธุแ์ องโกล นเู บยี น (Anglo Nubian) กาเนิดในประเทศอังกฤษ มสี ีน้าตาลปนเเดงเป็นประหรือแตม้ สนี า้ ตาล ขนส้ัน ลาตวั แคบ ใบหปู รก จมกู โคง้ นนู ทนตอ่สภาพอากาศร้อนไดด้ ี สามารถเลยี้ งได้ทัง้ เปน็ แพะเนอ้ื และแพะนม น้านมมีไขมนั 4-5เปอรเ์ ซ็นต์ 2) พนั ธุ์บอร์ (Boer) กาเนดิ ในแอฟรกิ าใต้ ร่างกายมีความแขง็ แกรง่ บึกบนึ หวัและคอใหญ่สนี า้ ตาลแดง ตาใหญ่ ส่วนหนา้ ผากเทลาดเช่ือมต่อกบั จมกู เขาบนหวั โค้งงอไปขา้ งหลงั ขนตามลาตวั สขี าวปกคลุมลาตัวบาง ๆ ผวิ หนงั มีลกั ษณะพิเศษในการปรบั ตัวเข้ากบัสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศได้ดี และต้านทานต่อการรบกวนของปาราสิต

หนา้ 15 จาก 28พันธุ์แองโกล นเู บยี น (Anglo Nubian) พนั ธบ์ุ อร์ (Boer)ภาพแสดงตวั อยา่ งพนั ธุแ์ พะประเภทเนื้อ ภาพโดย : คานงึ หนดู าษ 2.2.3 พนั ธแุ์ ละลักษณะประจาพนั ธแุ์ พะประเภทขน ส่วนมากมีถ่ินกาเนิดในประเทศที่เป็นเทอื กเขา หรอื เป็นทีท่ ีห่ นาวจัด แพะพวกน้ีมีขนยาวออ่ นเหมาะทีใ่ ชท้ าเคร่ืองนุ่งห่ม ที่นยิ มเลี้ยงมีสองพนั ธุ์ คอื 1)พันธแ์ุ องกอรา่ (Angora) กาเนิดในประเทศเตอรก์ ี (Turkey) มีขนสีขาว-ครมียาวละเอียดเปน็ มนั หอ้ ยหยกิ และขมวดเป็นประกาย เขาแบนแบะไปดา้ นขา้ ง กลางเขาบิดเล็กน้อย เขายาวเปน็ คลืน่ หูแนวนอนหรอื ตกลง 2) พันธุเ์ เคชเมยี ร์ (Cashmere) กาเนดิ ในประเทศอินเดีย มขี นต้งั แต่สนี า้ ตาลสเี ทาออ่ น ถึงสีขาว ขนนุม่ เขาเลก็ ยาวไปข้างหลงั ปลายเขาโค้งลงและแบะออกนอกลาตัว ทนตอ่ สภาพแวดล้อมไดด้ ีพนั ธุ์แองกอรา่ (Angora) พนั ธแุ์ คชเมียร์ (Cashmere) ภาพแสดง พนั ธุ์แพะประเภทขนที่มา : Australian Meat Livestock Corporation (1989)

หนา้ 16 จาก 28 2.3 ประเภท พนั ธ์ุ และลกั ษณะประจาพนั ธแ์ุ กะ แกะมชี ่ือวทิ ยาศาสตร์วา่ Ovis aries เป็นสตั ว์เคยี้ วเอ้อื งเช่นเดียวกบั โค กระบอื และแพะ นิยมเล้ยี งกันมากในเมืองหนาว เพราะใชข้ นเป็นเครือ่ งนงุ่ หม่ และใชเ้ น้ือเป็นอาหาร ในประเทศร้อนก็มเี ล้ียงกนั อยู่บ้าง แตม่ ีจดุ ประสงคเ์ พ่อื ใชเ้ น้ือเปน็ อาหารเพียงอยา่ งเดยี วโดยทวั่ ไป แกะเเบ่งออกได้เปน็ 2 ประเภทคือ แกะประเภทขนและแกะประเภทเนอ้ื 2.3.1 พนั ธุแ์ ละลกั ษณะประจาพนั ธุ์แกะประเภทขน แกะประเภทขนเปน็ เเกะทเี่ ลยี้ งเพ่ือนาขนมาทาเครอื่ งนงุ่ หม่ เมื่อไมส่ ามารถให้ขนไดแ้ ลว้ จะนาเน้อื มาเป็นอาหารหรือใชท้ าเปน็ อาหารสตั ว์ แกะประเภทน้ที ีน่ ยิ มเลี้ยง คือ 1) พันธ์เุ มอริโน (Merino) เป็นแกะทม่ี กี ารเจริญเตบิ โตเร็วขนสีขาวละเอียด ยาวประมาณ 5-10 เซนตเิ มตร เพศผู้ตัดขนได้ 4-5 กิโลกรมั ต่อตัวตอ่ ปี เพศเมียตดั ขนได้ 3-4กิโลกรัมตอ่ ตวั ต่อปี ลักษณะของหางเปน็ แบบหางเลก็ แตย่ าว สามารถปรบั ตัวเข้ากบัสภาพแวดลอ้ มไดด้ ี ทนต่ออากาศร้อน เเตค่ ุณภาพของเน้ือไมค่ อ่ ยดี 2) พนั ธคุ์ อรร์ เิ ดล (Corriedale) เป็นเเกะทป่ี รบั ปรงุ พันธ์ุในประเทศนวิ ซีแลนด์โดยนาพนั ธ์ลุ ินคอลน์ ผสมกับพนั ธเ์ุ มอรโิ นเพอ่ื ให้ได้ลูกดกและเน้อื มีคุณภาพดลี กั ษณะของขนมีสขี าว หางเลก็ ยาว แกะพันธน์ุ ้ีสามารถปรับตัวเข้ากบั สภาพแปลงหญา้ ไดด้ ี ทนทานต่ออากาศรอ้ นและอายยุ นืพนั ธุ์เมอรโิ น (Merino) พันธ์คุ อรร์ เิ ดล (Corriedale) ภาพแสดงตัวอย่างพันธุแ์ กะประเภทขนท่มี า : Australian Meat Livestock Corporation (1989)

หนา้ 17 จาก 28 2.3.2 พันธุแ์ ละลกั ษณะประจาพนั ธแุ์ กะประเภทเนอ้ื เป็นแกะท่ใี หเ้ นอ้ื มาก นยิ มเลย้ี งท้งั ในเขตร้อนและเขตหนาว มหี ลายพนั ธ์ุดว้ ยกนั ได้แก่ 1) พันธพ์ุ น้ื เมอื งของไทย ลกั ษณะโดยทวั่ ไปแบง่ ออกได้ตามเชอ้ื สายจากแหลง่ ที่มาโดย ก. แกะพน้ื เมืองในภาคเหนอื และภาคกลาง มเี ช้อื สายมาจากแกะแถบตอนใต้ของประเทศจนี และแถบประเทศทางตะวนั ตกของประเทศไทย มรี ปู รา่ งลกั ษณะคล้ายแกะพนั ธ์ุพมา่ หางยาว คือมขี นสีนา้ ตาลหรอื สนี ้าตาลไหม้ หน้าโหนกไม่แหลม หางยาวเลยข้อเขา่ ข. แกะพ้นื เมอื งในภาคใต้ มเี ช้ือสายมาจากแกะพันธุ์กลันตัน (Kelantan) ของประเทศมาเลเซียคือมีขนสขี าวเป็นสว่ นใหญ่ มบี างตัวทม่ี ีสีเข้มปะปนอยบู่ า้ ง หมู ขี นาดเลก็ มากตัวผู้มเี ขายาวตัวเมียไมม่ เี ขาขนมีสีขาวอมดา หยู าวพอประมาณหน้าแหลม หางยาวประมาณ 8เซนตเิ มตร เล้ยี งงา่ ยทนทาน หากนิ รวดเร็ว 2) พนั ธด์ุ อรเ์ ซท็ (Dorset) มที ั้งชนดิ ท่ีมเี ขา (Dorset Horn) และชนดิ ที่ ไม่มีเขา (Dorset Poll) เนื้อมีคุณภาพดี เพศเมยี สามารถผสมพนั ธุ์ไดต้ ลอดปี และมนี า้ นมดีมากแกะพันธุ์น้ีสามารถทนตอ่ สภาพอากาศร้อนไดด้ ี แตม่ ีขอ้ เสียคอื ต้องการทุ่งหญา้ ทอี่ ดุ มสมบูรณ์ลักษณะเป็นแกะทมี่ หี างเล็กยาว ถิ่นกาเนดิ ดงั้ เดิมอยใู่ นอังกฤษ 3) พันธซุ์ ัฟฟอลค์ (Suff Folk) กาเนิดในประเทศองั กฤษ มีขนาดใหญ่หัวเล็กหนา้ หูเเละขามีสีดา ส่วนลาตวั คอเป็นสขี าวและต้ังแตห่ วั เขา่ ลงไปถงึ เทา้ ไม่มขี น ทนทานต่ออากาศรอ้ น และแม่แกะมคี วามสามารถในการเลย้ี งลกู ดี 4) พันธวุ์ ิลทไ์ ชรฮ์ อรน์ (Wiltshire Horn) กาเนดิ ในประเทศอังกฤษ ใหเ้ นือ้ มากมขี นส้นั และสามารถสลดั ขนท้งิ ไดเ้ องในฤดูร้อน แกะพันธ์นุ ีเ้ หมาะท่จี ะใช้สาหรบั ปรับปรุงพนั ธ์ุแกะเนอ้ื ในเขตร้อนพนั ธดุ์ อรเ์ ซท็ (Dorset) พนั ธ์ซุ ัฟฟอลค์ (Suff Folk)

หนา้ 18 จาก 28พันธุ์ดอรเ์ ซท็ ฮอรน์ (Dorset Horn)พันธุ์วลิ ทไ์ ชรฮ์ อร์น (Wiltshire Horn) ภาพแสดงตวั อยา่ งพนั ธ์ุ แกะประเภทเน้ือ ที่มา : Australian Meat Livestock Corporation (1989)

หนา้ 19 จาก 28 2.4 ประเภท พันธุ์ และลกั ษณะ ประจาพนั ธกุ์ ระตา่ ย กระต่ายมชี ือ่ วิทยาศาสตรว์ ่า Oryctolagus cuniculus เปน็ สตั ว์กนิ พืชที่มสี มรรถภาพในการเปลีย่ นหญา้ เศษผักใหเ้ ปน็ เนื้อได้ดกี ว่าไก่เเละสุกร กระตา่ ยเป็นสัตวท์ ีเ่ ตบิ โตเร็วให้ผลตอบแทนเรว็ และขยายพันธุไ์ ดเ้ รว็ เลยี้ งง่าย ดูแลรักษาไมย่ งุ่ ยาก สามารถแบง่ ออกไคเ้ ปน็ 3ประเภท ตามขนาดของลาตวั คือ พันธขุ์ นาดเลก็ พันธ์ขุ นาดกลาง และ พนั ธข์ุ นาดใหญ่ 2.4.1 พนั ธแ์ุ ละลกั ษณะประจาพันธก์ุ ระตา่ ยขนาดเลก็ กระตา่ ยประเภทนโี้ ตเต็มท่ีเมอ่ื อายุ 4 เดือน น้าหนักประมาณ 1.8-3.2 กโิ ลกรมัที่นิยมเล้ียงได้แก่ 1) พันธุ์หมิ าลายนั (Himalayan) กาเนดิ บรเิ วณตอนเหนือและตอนใตข้ องเทอื กเขาหมิ าลัย ขนสีขาวสัน้ ปลายจมกู ใบหู ปลายเท้าและหางสดี า นยิ มเล้ยี งไวด้ ูเล่น 2) พันธด์ุ ทั ช์ (Dutch) มหี ลายชนดิ แต่ทีน่ ิยมเป็นชนดิ พันธ์สุ ีดาขาว หรือนา้ เงนิขาว รูปร่างกะทัดรดั นยิ มเล้ยี งเพ่อื ความเพลิดเพลิน แต่ใชเ้ ปน็ กระตา่ ยเนื้อหรอื กระตา่ ยในห้องทดลองได้เปน็ อย่างดี 3) พันธุเ์ รก็ ซ์ (Rex) เป็นกระต่ายทมี่ ีขนหนาอ่อนนุม่ งดงาม ขนมีลกั ษณะส้ันตงั้ ตรงคล้ายกามะหยี่ ส่วนขนชัน้ นอกสน้ั กวา่ ขนชน้ั ใน 4) พันธุ์ไซมสี เซบลิ (Siamese Sable) เป็นกระต่ายท่ีมีเชอ้ื สายมาจากกระตา่ ยแถบประเทศไทย อนิ โดจีน และพมา่ สเี ทาออ่ น เลี้ยงงา่ ย ขยายพันธดุ์ ี นิยมเลย้ี งเป็นกระตา่ ยเนื้อหรือเล้ียงในงานศกึ ษาวิจัย 5) พันธุ์ไทย (Thai Rabbit) หมายถงึ กระตา่ ยท่ีเลย้ี งกันท่ัวไปในประเทศไทยกระต่ายเหลา่ นผ้ี สมพนั ธุก์ นั โดยไม่มีการคดั เลือกพันธุ์มีหลายสีทพี่ บมากคอื สีเทา สดี าขาว และสีนา้ ตาลเทา เล้ียงงา่ ยและอดทนตอ่ สภาพแวดลอ้ มได้ดี ใช้ประโยชนจ์ ากอาหารหยาบได้มากไม่ต้องเอาใจใสม่ ากในการเลีย้ งดเู หมือนกระตา่ ยพนั ธเ์ุ น้อื ของต่างประเทศพันธุ์ฮิมาลายนั (Himalayan) พนั ธด์ุ ัทช์ (Dutch)ภาพแสดงตัวอยา่ งพนั ธ์กุ ระตา่ ยขนาดเลก็ ท่ีมา : ธนากร (ม.ป.ป.).

หนา้ 20 จาก 28 2.4.2 พันธแุ์ ละลักษณะประจาพนั ธกุ์ ระตา่ ยขนาดกลาง กระต่ายประเภทนี้ โตเตม็ ที่เม่อื อายุ 5-6 เดือนน้าหนักมากกว่า 4-4.5 กิโลกรัมที่นิยมเลี้ยงได้แก่ พนั ธุ์คาลิฟอรเ์ นยี น และพันธ์นุ ิวซแี ลนด์ 1) พนั ธ์ุคาลฟิ อรเ์ นยี น (Californian) เปน็ กระตา่ ยสีขาว มสี ดี าหรอื สีเทาดาบรเิ วณใบหู จมูก ปลายเทา้ และปลายหาง ตาสีชมพู มชี ่วงไหล่และช่วงทา้ ยใหญ่ เลย้ี งเพอ่ื ใช้ประโยชน์ทง้ั สามทาง คือ เนอื้ ขน และสวยงาม 2) พันธ์นุ วิ ซแี ลนด์ (New Zealand) กระตา่ ยพนั ธนุ์ ี้มหี ลายสี ท้ังสขี นและสีตา แตพ่ ันธ์ทุ น่ี ยิ มเลยี้ งกนั แพร่หลายทีส่ ุดไดแ้ ก่พันธุ์สีขาว ตาสชี มพู เหมาะสาหรบั เล้ียงเปน็กระต่ายเนอ้ื และใช้ในห้องทดลองพันธุ์คาลฟิ อรเ์ นยี น (Californian) พนั ธนุ์ ิวซแี ลนดไ์ วท์ (New Zealand White)ภาพแสดงตัวอย่างพนั ธก์ุ ระตา่ ยขนาดกลาง ทม่ี า : กนกวรรณ (2541) 2.4.3 พันธแ์ุ ละลกั ษณะประจาพนั ธก์ุ ระตา่ ยขนาด ใหญ่ พันธข์ุ นาดใหญ่ โตเตม็ ที่เม่ืออายุ 6-7 เดือน นา้ หนกั มากกวา่ 5.5 กโิ ลกรมั ท่ีนิยมเลยี้ งมอี ยพู่ นั ธุ์เดยี วคือพนั ธ์ุเฟลมิชไจเเอนท์ (Flemish Giant) กาเนดิ ในประเทศเบลเยยี่ ม มีหลายชนดิ และสตี า่ ง ๆ กัน ทน่ี ยิ มในสหรฐั อเมริกาคือพนั ธุ์สีเทา เนอ่ื งจากเปน็กระต่ายขนาดใหญ่เมื่อนามาเล้ียงในเขตรอ้ นจึงมักทนอากาศรอ้ นไม่ได้

หนา้ 21 จาก 283. ชนิด ประเภท และพนั ธสุ์ ตั วใ์ นกลมุ่ สตั วป์ กี 3.1 ประเภท พนั ธ์ุ และลกั ษณะประจาพนั ธไ์ุ ก่ ไก่มีชอื่ วยิ าศาสตร์วา่ Gallus spp. ไกเ่ ป็นสตั วป์ กี จาพวกเดยี วกับนก นยิ มเลย้ี งเพ่อื นาไขแ่ ละเน้ือมาเป็นอาหาร ไกน่ ิยมเลีย้ งกันท่วั ไปในรปู แบบของการเล้ยี งแบบหลังบ้าน เล้ยี งเป็นงานอดเิ รก หรือเล้ยี งเปน็ อาชพี โดยท่วั ไปไกส่ ามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 4 ประเภท คือ ไก่ประเภทไข่ (Egg Type) ไกป่ ระเภทเนอ้ื (Meat Type) ไกป่ ระเภทกึง่ เน้อื ก่งึ ไข่ (DualPurpose Type) และไกป่ ระเภทสวยงาม (Fancy Type) 3.1.1 พนั ธแ์ุ ละลกั ษณะประจาพันธไ์ุ กป่ ระเภทไข่ ไกป่ ระเภทน้เี ป็นไก่ที่มรี ปู ร่างขนาดเล็ก ท่าทางปราดเปรียวและวอ่ งไวตื่นตกใจงา่ ย มีน้าหนักประมาณ 1.5 กิโลกรมั เป็นไก่พนั ธ์ุท่ใี ห้ไข่ดกไมช่ อบฟกั ไข่ คณุ ภาพของเนื้อตา่เนื้อมีรสชาตจิ ดื รับประทานไมอ่ ร่อย ส่วนใหญ่แล้วเปน็ ไกท่ มี่ ถี ิน่ กาเนดิ ในแถบทะเลเมดิเตอรเ์ รเนียน ได้แก่ 1) พันธ์เุ ลก็ ฮอรน์ (Leghorn) ไกพ่ นั ธนุ์ มี้ อี ยู่ 3 สี คอื พนั ธสุ์ ีน้าตาล (BrownLeghorn) พนั ธุส์ ขี าว (White Leghorn ) และพนั ธ์ุสดี า (Black Leghorn) แต่พนั ธท์ุ ่นี ิยมเล้ียงคอื พันธ์เุ ลก็ ฮอรน์ สีขาวเปน็ พนั ธุท์ ่ีมหี งอนจักรและหงอนกหุ ลาบ ตมุ้ หู หนังและเปลอื กไข่สขี าว แขง้ สีเหลอื งนยิ มเลยี้ งพนั ธ์ุหงอนจกั รมากทีส่ ุด 2) พันธไุ์ มนอรก์ า้ (Minorca) ไกพ่ นั ธนุ์ ้ีมี 3 สี คือ สีดา สีขาวและสนี ้าเงินเป็นไกท่ ม่ี ีลักษณะหงอนแบบหงอนจักร หนงั ต้มุ หูและเปลอื กไข่มีสีขาว แขง้ สีหินชนวน 3) พันธแุ์ อนดาลูเชย่ี น (Andalusians) ไก่พนั ธุน์ ีม้ ีขนสนี า้ เงนิ จงึ นิยมเรียกบลูแอนดาลเู ช่ียน มลี ักษณะหงอนเเบบหงอนจกั ร ตุ้มหู หนงั และเปลอื กไขส่ ขี าว แขง้ สีหนิ ชนวน 4) ไกพ่ นั ธุ์ไขท่ ่นี ยิ มเลย้ี งในปจั จบุ นั ไกพ่ นั ธไ์ุ ข่ทน่ี ิยมเล้ยี งในเมอื งไทยในปัจจบุ นั เปน็ พันธลุ์ กู ผสม เปลอื กไข่สีนา้ ตาล ส่วนมากขนสีน้าตาล ไขด่ กกนิ อาหารน้อย ทนอากาศรอ้ น ซึ่งมีหลายพนั ธุ์ มชี ือ่ การค้าแตกตา่ งกนั ไป เชน่ พันธบ์ุ ราวน์นิค พันธ์เุ อ เอ บราวน์พันธุ์ไฮเซค บราวน์ พนั ธุอ์ ีซ่า บราวน์ และพนั ธ์ซุ ี พี บราวน์ เปน็ ต้น ภาพซา้ ย : พันธ์ุเล็กฮอร์นขาว ( White Leghorn) ภาพขวา : พนั ธุแ์ อนดาลูเชย่ี น (Andalusian) ภาพแสดงตัวอยา่ งพันธไ์ุ ก่ ประเภทไข่ ทม่ี า : กรมปศุสัตว์ (ม.ป.ป.) และ บรษิ ัท อินเตอร์เวทฯ (ม.ป.ป.)

หน้า 22 จาก 283.1.2 พันธเ์ุ เละลกั ษณะประจาพนั ธไุ์ กป่ ระเภทเนอื้ ไกป่ ระเภทนเ้ี ปน็ ไก่ที่มนี า้ หนักตัวมากเคลอื่ นท่ีช้านิสยั เชื่องไข่ไมด่ กลักษณะของลาตัวบง่ เดน่ ชัดวา่ คอ่ นข้างเจา้ เน้อี คือมอี กเต็ม กล้ามเนอ้ื ขาใหญ่ ได้แกไ่ ก่พันธ์โุ คชนิ พันธแุ์ ลงชาน และพนั ธบ์ุ ราม่า ซึ่งเปน็ ไก่ท่ีมถี นิ่ กาเนิดมาจากทวีปเอเชยี ในประเทศจีนและอนิ เดยี ส่วนไกพ่ นั ธ์ุคอรน์ ชิ และพันธุ์พลมี ทั ร็อคสขี าวเปน็ ไก่ทม่ี ีถ่ินกาเนดิ จากยุโรป รวมถงึ พันธุ์เบตง และเกา้ ชง่ั ซ่ึงเป็นไก่ทพี่ บทางตอนใต้ของประเทศไทย 1) พนั ธุ์โคชนิ (Buff Cochins) ไกพ่ นั ธน์ุ ้มี ีหลายสี เช่น สดี า สีเหลืองอ่อนลักษณะหงอนแบบหงอนจักร ตุม้ หูสีแดง หนงั และแขง้ สีเหลอื ง มีขนที่แขง้ เปลือกไข่สีนา้ ตาล 2) พนั ธแ์ุ ลงชานดา (Black Langshans) ไก่พันธุ์นม้ี ีขนสดี า มีลกั ษณะแบบหงอนจักร ต้มุ หสู แี ดง หนังสีขาว แข้งสีน้าเงนิ แกมดา และมีขนทแ่ี ขง้ เปลอื กไข่สีน้าตาล 3) พนั ธุบ์ รามา่ (Light Brama) ไก่พันธน์ุ ี้มอี ยู่ 2 สี คือพนั ธส์ุ ีดาและพนั ธุส์ ีขาวมลี ักษณะหงอนแบบเมลด็ ถ่วั หรอื หงอนถวั่ ตุ้มหสู แี ดง หนังและแขง้ สเี หลอื ง มีขนปกคลมุทีแ่ ขง้ ถึงนิว้ เทา้ เปลอื กไขส่ นี ้าตาล 4) พันธ์ุพลีมทั รอ็ คขาว (White Plymouth Rocks) กาเนิดในสหรฐั อเมรกิ าขนสีขาว หงอนแบบหงอนจักร ตุม้ หูสีแดง หนังและแขง้ สเี หลือง เปลือกไข่สนี า้ ตาล 5) พันธุ์คอรน์ ชิ (White Cornish) แหลง่ กาเนดิ ในอังกฤษ ไก่พันธน์ุ มี้ อี ยู่ 2 สีคอื พนั ธุ์สดี าจะมขี นสดี าเเกมเขยี ว และพนั ธ์สุ ีขาว มลี ักษณะหงอนแบบเมล็ดถั่ว ต้มุ หสู ีแดงหนังและแขง้ สีเหลือง เปลอื กไขส่ ีน้าตาล 6) พนั ธุไ์ ก่เนอื้ เพอ่ื การคา้ พันธ์ุไก่เนอื้ เพ่อื การคา้ หรือเรียกอีกอยา่ งหน่งึ ว่าไก่กระทง ทนี่ ิยมเลย้ี งเป็นไก่ลูกผสมทั้งสิน้ ไก่กระทงเหล่านีเ้ จริญเติบโตดี แขง็ แรง อตั ราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อดี มีขนสขี าว ใช้เวลาเล้ยี งสั้น ที่นยิ มเลย้ี งมีช่อื การค้าตา่ งกันไป เช่นพนั ธ์เุ อเอ พันธุ์ฮบั บารด์ พันธุ์รอสวัน พนั ธุเ์ ชพเวอรส์ ตาร์โบร พันธเุ์ อเนค พันธุ์อาซา่ เเละพนั ธ์ุเอเวยี น เป็นตน้พนั ธ์บุ ราม่า พันธุ์พลมี ทั รอ็ คขาวภาพแสดงตวั อยา่ งพนั ธไ์ุ กป่ ระเภทเนอ้ื ท่มี า : กรมปศุสตั ว์ (ม.ป.ป.)

หนา้ 23 จาก 28 3.1.3 พันธแ์ุ ละลกั ษณะประจาพันธไุ์ กก่ งึ่ เนอ้ื กงึ่ ไข่ ไกป่ ระเภทนีอ้ อกไข่และใหเ้ นอ้ื เปอรเ์ ซ็นต์คอ่ นข้างสูง ดงั น้นั จึงสามารถเลย้ี งไว้เพือ่ บรโิ ภคไขแ่ ละเนอื้ ไกพ่ นั ธ์นุ ี้ทีร่ ู้จักกันในปจั จุบันไดแ้ ก่ พนั ธโ์ุ รดไอแลนด์แดง พันธุ์พลมี ทั รอ็ คลาย พันธ์นุ ิวแฮมเชยี ร์ เเละพันธ์อุ อสตร้าลอร์ป ส่วนใหญแ่ ลว้ เป็นไก่ท่กี าเนิดในสหรฐั อเมรกิ า ยกเว้นพันธ์ุออสตรา้ ลอรป์ ซ่ึงกาเนิดในอังกฤษ 1) พันธุ์โรดไอแลนดแ์ ดง (Rhode lsland Red) เปน็ ไก่ที่มลี าตวั คอ่ นข้างยาวเปน็ สี่เหล่ียมผนื ผ้า ขนสแี ดงปนนา้ ตาล มีลักษณะหงอนเปน็ แบบหงอนจกั รและหงอนกุหลาบตมุ้ หูสแี ดง หนงั และแข้งสีเหลือง เปลอื กไข่สนี า้ ตาล 2) พันธุ์นวิ แฮมเชยี ร์ (New Hamshire) เป็นไก่ทป่ี รับปรุงพันธ์มุ าจากพนั ธ์ุโรดไอแลนดแ์ ดง สีขนแดงเหลือง เปน็ ไกท่ มี่ ีลักษณะหงอนเป็นแบบหงอนจกั ร ตุ้มหูสแี ดงหนังและเเข้งสเี หลอื ง เปลอื กไขส่ ีน้าตาล 3) พันธุพ์ ลมี ทั รอ็ คลาย (Barred Plymouth Rock) เป็นไกท่ ีท่ ม่ี ลี าตวั คอ่ นขา้ งยาว กว้างและลกึ ขนลายดาสลบั ขาว ในเพศผูแ้ ถบสีขาวจะมขี นาดเทา่ กับเเถบสีดา ในเพศเมยี แถบสีดามีขนาดกวา้ งกว่าแถบสขี าวครงึ่ หนึ่งลกั ษณะหงอนเป็นแบบหงอนจักร ต้มุ หูสีแดงหนังและแขง้ สเี หลอื ง เปลือกไข่สีนา้ ตาล ภาพซ้าย : พนั ธ์ุโรดไอแลนดแ์ ดง ภาพขวา : พนั ธุน์ วิ แฮมเชยี ร์ ภาพแสดงตวั อย่างพนั ธ์ไุ ก่ ประเภทกงึ่ เนื้อกึง่ ไข่ ที่มา : กรมปศุสตั ว์ (ม.ป.ป.) 3.1.4 พนั ธแ์ุ ละลกั ษณะประจาพันธไ์ุ กส่ วยงาม เปน็ ไก่ทมี่ ลี ักษณะเตยี้ เล็ก มีรปู ร่างสวยงามน่ารกั เลย้ี งไวเ้ พ่ือดเู ลน่ เพื่อความเพลดิ เพลนิ ไมค่ ่อยมีความสาคัญทางเศรษฐกิจมากนกั ในประเทศไทยไก่สวยงามที่นยิ มเลีย้ งไดแ้ กไ่ ก่แจ้ ซ่ึงในอดตี นยิ มปล่อยเล้ียงตามวดั แตใ่ นปจั จบุ นั มีการปรบั ปรุงสายพนั ธ์เุ กิดสีสันสวยงาม หลากหลาย มกี ารประกวด แขง่ ขนั ทาใหไ้ กแ่ จ้ได้รบั ความนิยมมากพอสมควร

หนา้ 24 จาก 28 3.2 ประเภท พันธุ์ และลกั ษณะประจาพนั ธเุ์ ป็ด เปด็ เป็นสตั วป์ ีกที่มนี สิ ัยชอบเล่นนา้ ว่ายนา้ เกง่ ทนี่ ยิ มเลีย้ งในปัจจบุ นั มี 2 กลุ่มคอื เปด็พันธพ์ุ ื้นเมืองของไทย และเป็ดพนั ธต์ุ า่ งประเทศซงึ่ มีทง้ั ประเภทไข่ ประเภทเนือ้ และประเภทสวยงาม 3.2.1 พันธแ์ุ ละลักษณะประจาพนั ธุ์ เปด็ พนั ธพุ์ ้ืนเมอื งของไทย 1) พันธป์ุ ากนา้ หรือเปด็ จงั หวดั สมทุ รปราการ ขนตวั สีดา อกสขี าว ปากดาเทา้ ดา ไขด่ กและไข่เรว็ กวา่ พนั ธุ์นครปฐมแตไ่ ข่ฟองเลก็ กว่าเปด็ นครปฐม ตามขนาดรูปร่างซง่ึเลก็ กวา่ ลกั ษณะตวั ผู้และตัวเมยี มสี คี ลา้ ยกนั แต่ตัวผมู้ ีทสี่ งั เกตคือขนทห่ี ัวมีสีเขียวบรอนซ์ 2) พนั ธนุ์ ครปฐม ตวั เมยี ขนสีลายกาบออ้ ย สว่ นตวั ผมู้ ขี นลาตวั สเี ทา หัวสีเขียว คอขวน้ั ขาว อกสีแดง ปากสีเทา เทา้ สีเหลอื งแก่หรอื สีสม้ ตัวโต น้าหนักมาก ไขฟ่ องใหญ่กว่าเปด็ พนั ธุ์ปากน้า เมอื่ หยดุ ไขน่ ยิ มนาออกขายเปน็ เปด็ เนอ้ื 3.2.2 พันธแ์ุ ละลกั ษณะประจาพนั ธ์ุ เปด็ พนั ธต์ุ า่ งประเทศประเภทไข่ 1) พนั ธ์กุ ากแี คมปเ์ บลล์ (Khaki Campbell) เปน็ พันธท์ุ ใ่ี หไ้ ข่ดกท่ีสดุ โดยทั่วไปทั้งตัวเมยี และตวั ผ้มู ลี กั ษณะค่อนข้างสงู ตัวเมียขนสีกากี ขนที่หลังและปากสกี ากีออ่ นปากสีเขียวแก่หรืออมดา หางสัน้ และเล็กกวา่ เป็ดพนั ธอุ์ ืน่ ขาและเท้าสกี ากเี หมอื นสีที่ขน ตัวผขู้ นท่ีหัว ลาคอ ปลายหาง ปลายปกี มีสเี ขียวแกมสีเหลอื งนา้ ตาลออ่ น ขนลาตัวกบั หนา้ อกมีสีกากีปากสีเขยี วแกแ่ ละเท้าสีเขยี วจัด 2) พันธุ์อนิ เดยี นรนั เนอร์ (lndian Runner) ไขด่ กรองจากกากีแคมป์เบลล์ ขาทงั้ สองต้ังอยูค่ ่อนขา้ งไปทางหลงั มาก การเดนิ จึงมลี กั ษณะคล้ายนกเพนกวนิ เป็ดพนั ธุน์ ี้แบ่งออกไดเ้ ป็น 3 สายพันธ์ุ คอื พนั ธ์ุสีเทาแกมเหลือง พันธุ์สขี าวเเละพนั ธสุ์ ลี าย 3.2.3 พันธแุ์ ละลักษณะประจาพนั ธเุ์ ปด็ พนั ธต์ุ า่ งประเทศประเภทเนอื้ 1) พันธมุ์ สั โควี่ (Muscovy) นยิ มเรียกโดยทัว่ ไปวา่ “เปด็ เทศ” มีถิ่นกาเนดิ ในอเมรกิ าใต้ ขนาดใหญ่กวา่ เปด็ พันธ์ุพ้นื เมอื ง ตรงหวั เเละหนา้ ทงั้ เพศผูแ้ ละเพศเมยี จะมผี ิวหนังเป็นผวิ สแี ดงขรขุ ระ บางแห่งเป็นหนังสแี ดงย่นและหยาบ มีสองสายพันธ์ุ คือพนั ธ์สุ ีขาวและพนั ธสุ์ ีดา มสั โควี่พันธ์ุสขี าวจะมขี นสขี าวบริสุทธิ์ แขง้ สเี หลอื งหรอื สีส้มออ่ น ปากสีชมพสู ด ส่วนพนั ธส์ุ ีดาจะมขี นสนี า้ เงินแก่ ค่อนขา้ งดา ตามลาตัว หน้าอกเเละกลางหลังมีขนสีขาวแซมอยู่บา้ ง ตรงปีกขนสีนา้ เงินจะเปน็ มัน ชอบฟกั ไข่และเล้ยี งลกู เอง แตม่ ขี ้อเสียคือบนิ เก่ง 2) พันธุบ์ าร์บารี (Barbary) จดั เป็นเป็ดเทศสายพนั ธหุ์ นง่ึ ท่ไี ดร้ ับการปรับปรงุพนั ธุ์โดยประเทศฝร่ังเศส มลี กั ษณะประจาพนั ธ์ุคอื มีขนสีขาวตลอดลาตวั เมื่อแรกเกิดขนออ่ นลาตัวสขี าว หวั มจี ดุ สีดาหรอื มีแถบขนสตี รงกลางหัว และไมม่ ขี นคิ้วสดี าเหมือนเปด็ เทศพนั ธ์ุพื้นเมอื ง จงอยปากสชี มพู ขาสีเหลอื งอ่อน

หน้า 25 จาก 28 3) พนั ธุป์ ักกงิ่ (Pekin) กาเนดิ ในประเทศจนี รูปรา่ งคอ่ นขา้ งใหญ่ ลาตัวกว้างลึกเเละหนา ขนสีขาว ขาและเทา้ สหี มากสุก จงอยปากสีเหลือง ไม่ชอบฟกั ไข่และบนิ ไมค่ อ่ ยได้ ภาพซา้ ย : พนั ธ์มุ ัสโคว่ี (Muscovy) ภาพขวา : พันธปุ์ ักกงิ่ (Pekin) ภาพแสดงตัวอยา่ งพนั ธเ์ุ ปด็ ประเภทเนอื้ ทม่ี า : กรมปศุสัตว์ (ม.ป.ป.) 3.2.4 พันธเุ์ เละลกั ษณะประจาพนั ธเ์ุ ปด็ พันธต์ุ า่ งประเทศประเภทสวยงาม เป็ดประเภทน้ีมอี ยู่หลายพนั ธุเ์ ช่นพนั ธค์ุ อลล์ (Call) พนั ธ์ไุ วท์เครสท์ (WhiteCrested) พันธ์แุ บลคอสี ทอ์ นิ เดียน (Black East Indian) และพันธแุ์ มนดารนิ (Mandarin)เป็นเปด็ ที่นิยมเลย้ี งตามสวนสาธารณะ สวนสัตว์พนั ธค์ุ อลล์ (Call) พนั ธ์แุ มนดารนิ (Mandarin) ภาพแสดงตวั อย่างพนั ธ์ุเปด็ ประเภทสวยงาม ท่มี า : นิรนาม (ม.ป.ป.)

หนา้ 26 จาก 28 3.3 ประเภท พันธุ์ และลกั ษณะประจาพนั ธห์ุ า่ น ห่านกับเป็ดเป็นสัตว์ปีกท่ีมีลกั ษณะนสิ ัยคล้ายกนั หลายอยา่ ง ไมว่ ่าจะเป็นด้านอาหารหรือความชอบนา้ แต่ห่านจะข้ตี ืน่ มากกวา่ เป็ด บางคนนิยมเลี้ยงหา่ นโดยจดุ ประสงค์เพอ่ื ใหเ้ ฝ้าบ้านแทนสนุ ขั ทส่ี าคญั คอื หา่ นสามารถใชอ้ าหารหยาบไดด้ ี เม่ือเทียบกบั สัตว์ในกลุม่ เดียวกันพนั ธห์ุ ่านท่สี าคญั ไดแ้ ก่ พันธุท์ ูเลาส์ (Toulouse) พนั ธ์ุเอม็ เด็น (Emden) พนั ธอ์ุ าฟริกนั(African) พันธแ์ุ คนาดา (Canada) พันธุ์พลิ กริม (Pilgrim) พันธุ์สที อง (Buff) และพนั ธท์ุ ่ีนยิ มเล้ยี งมากท่ีสุดในประเทศไทยคือพนั ธจ์ุ นี (Chinese) ห่านพันธ์จุ นี กาเนดิ ในประเทศจนี ลกั ษณะมีปมนูนเดน่ ขนาดเลก็ ที่ฐานปากเหนือหวัตา หา่ นจีนเปน็ ห่านท่มี ขี นาดเล็กกวา่ ห่านพนั ธอุ์ ่ืน มรี ปู ร่างคอ่ นขา้ งคลา้ ยหงส์ แบ่งออกได้เปน็2 ชนิดคือ ชนดิ สเี ทาน้าตาลและชนิดสขี าว ใหไ้ ขเ่ รว็ และไขด่ กกว่าพนั ธุ์อนื่ ในประเทศไทยนิยมเล้ยี งสีเทาเปน็ ห่านเนื้อและเลย้ี งสขี าวไวเ้ ฝ้าบา้ น 3.4 ประเภท พนั ธุ์ และลกั ษณะประจาพนั ธสุ์ ตั วป์ กี ชนดิ อนื่ ๆ 3.4.1 ประเภท พันธุ์ และลกั ษณะประจาพนั ธไุ์ กง่ วง ไก่งวง (Turkeys) มีชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ว่า Meleagris gallopavo นยิ มเล้ียงไว้เพื่อดูเล่นหรอื ใชเ้ น้อื เปน็ อาหาร โดยลกั ษณะรปู ร่างจะมีงวงหรอื เหนยี งหยอ่ นยานนา่ เกลียด ทาให้คนไทยไม่นิยมบริโภคเน้อื แตช่ าวต่างประเทศจะนยิ มบริโภคเน้ือไกง่ วงมากกวา่ เน้ือไกช่ นดิ อื่นทนี่ ยิ มเล้ยี งมี 3 พนั ธ์ุคอื พนั ธน์ุ อร์ฟคั แบลค (Norfolk Black) พนั ธ์ุแมมมัธบรอนซ์(Mammoth Bronze) พนั ธ์เุ บลทส์ วิลล์ สมอลล์ ไวท์ (Beltsville Small white) ภาพแสดงตัวอย่างไก่งวงพนั ธ์ุ Norfolk Black ภาพโดย : คานึง หนดู าษ

หน้า 27 จาก 28 3.4.2 ประเภท พันธุ์และลกั ษณะประจาพนั ธน์ุ กกระทา นกกระทาเปน็ สัตว์ปีกอยูใ่ นตระกลู เดยี วกบั ไก่ นกกระทามีอยูท่ ่ัวไปในเอเชีย ยโุ รปอาฟริกาและสหรัฐอเมรกิ า ซึ่งมีอยูม่ ากมายหลายพันธ์ุ แต่พนั ธ์ุที่สาคัญและรู้จักกันดีในปจั จบุ ันได้แก่ นกกระทาเวอรจ์ ิเนีย (Bob white Quail) นกกระทาแคลิฟอร์เนยี (California Quail)นกกระทายุโรป (European Quail) และนกกระทาญป่ี ุ่น (Japanese Quail) นกกระทาท่เี ลี้ยงในปัจจบุ นั เล้ียงในสองลกั ษณะคือเพอ่ื เอาเนอ้ื และเพื่อเอาไข่ ที่เลย้ี งเพอื่ เอาเนือ้ ส่วนใหญ่จะเปน็ นกกระทาเพศผู้ นกกระทากะเทยและนกกระทาเพศเมียท่ีหยดุ ไข่แล้ว นกกระทาทเี่ ลี้ยงเพอ่ื เอาไข่นิยมเลยี้ งนกกระทาพันธ์ุญี่ปุ่น ซ่งึ เปน็ นกกระทาทม่ี ีขนาดรูปร่างสีสันคลา้ ยนกคมุ่ มีขนาดตวั เท่ากบั กาปนั้ สขี นลายน้าตาลเข้ม ไขด่ ก ตัวเมียจะมีขนสเี ทาดา้ นล่าง และมขี นที่คอสดี าหรอื คลา้ สว่ นตวั ผู้จะมขี นสีแดงตอนดา้ นล่างของลาตวัสรุป สัตว์เศรษฐกิจทสี่ าคัญมหี ลายชนิด แตล่ ะชนิดยังแบ่งออกเปน็ ประเภทตามลักษณะการใชป้ ระโยชน์ แตล่ ะประเภทยังจาแนกออกเปน็ พนั ธุ์ ซ่ึงแต่ละพันธุ์มีลกั ษณะเดน่ แตกต่างกันออกไปแบบฝึกหดั /คาถามทา้ ยบท 1. การจาแนกประเภทของสตั วแ์ ตล่ ะชนดิ ใช้เกณฑใ์ ดพิจารณา เพราะเหตุใด 2. การบอกลกั ษณะประจาพนั ธ์ขุ องสตั ว์ นยิ มบอกถึงหวั ขอ้ ใดบ้าง เพราะเหตใุ ด

หนา้ 28 จาก 28แหลง่ ความรเู้ พมิ่ เตมิกนกวรรณ ศรที ัศนยี ,์ บรรณาธิการ. (2541). กระตา่ ย. สมทุ รปราการ : ไฟวอ์ ดี ิเตอร.์กรมปศสุ ัตว.์ (ม.ป.ป.). สัตว์พนื้ เมอื งไทย มรดกไทย มรดกโลก. (เอกสารเผยแพร่ กรมปศุ สตั ว์กระทรวงเกษตรและสหกรณ)์ ม.ป.ท. : กองบารงุ พันธส์ุ ตั ว.์คณาจารย์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร.์ (2532). รวมเรอื่ งโคเนอ้ื . พิมพค์ รั้งท่ี 3. นครปฐม : ศนู ย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแหง่ ชาติ.ถวลั ย์ วรรณกลุ . (2542). การเลี้ยงและการปอ้ งกนั รกั ษาโรคแพะ. กรุงเทพฯ : สตั ว์ เศรษฐกจิ แมกกาซนี .ยอดชาย ทองไทยนันท,์ สมภพ จิตตประไพ, ธรรมรัตน์ รจุ ิราวงศ์, สว่าง อังกุโร และ สนิ ชัย เรอื งไพบลู ย.์ (2542). การเลยี้ งควาย. พมิ พ์คร้ังท่ี 2. ม.ป.ท. (เอกสาร คาแนะนา กรมปศสุ ัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)ศริ ิพนั ธ์ โมราถบ, ไพบูลย์ ใจเด็ด, ชศู ักด์ิ ประภาสวสั ด์ิ และศุภชยั นิลวานิช. (2540). รวมชดุ พเิ ศษสตั วป์ กี แนวใหม.่ กรงุ เทพฯ : มติชน.สรุ ชน ต่างวิวฒั น์. (ม.ป.ป.). การเล้ยี งแกะ. พิมพ์ครั้งท่ี 3. กรุงเทพฯ : ชุมนุม สหกรณ์ การเกษตรแหง่ ประเทศไทย. (เอกสารคาแนะนา กรมปศสุ ตั ว์ กระทรวงเกษตรและ สหกรณ)์สุรชน ตา่ งวิวฒั น,์ อารักษ์ ชัยกุล และสุวทิ ย์ อโนทยั สินทว.ี (2546). การเลย้ี งแพะ. พมิ พค์ ร้ังที่ 6. กรงุ เทพฯ : ชมุ นุม สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย. (เอกสาร คาแนะนา กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ)์สวุ รรณ เกษตรสุวรรณ และคณาจารย์มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. (3535). การเลย้ี งไก.่ พมิ พ์ครง้ั ที่ 7. กรุงเทพฯ : ประชาชน.สุวทิ ย์ เฑียรทอง. (2536). หลกั การเลย้ี งสตั ว.์ พิมพค์ รง้ั ท่ี 2. กรงุ เทพฯ : โอ เอส พรนิ้ ตงิ้ เฮ้าท์.สวุ ทิ ย์ อโนทยั สนิ ทวี. (2545). การเลยี้ งแกะ. กรงุ เทพฯ : ชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย. (เอกสารคาแนะนา กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)สมมาตร สวุ รรณมาโจ และสุวชิ บุญโปรง่ . (2544). การเลยี้ งโคพนื้ เมอื ง. กรงุ เทพฯ : ชุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย. (เอกสารคาแนะนา กรมปศุสตั ว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ)์อภิชัย รตั นวราหะ. (2541). การเลย้ี งนกกระทา. กรงุ เทพฯ : สหมติ รพริ้นติง้ .อินเตอรเ์ วทประเทศไทย,บรษิ ทั จากัด. (ม.ป.ป.). แผ่นภาพพนั ธส์ุ ตั ว.์ ม.ป.ท. (แผ่นภาพ พิมพ์แจกเพ่อื การโฆษณา)Australian Meat And Livestock Corporation. (1989). Handbook of Australian Livestock. 3 rd ed. Australia : A.R.M. Advertising Pty Ltd.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook