Flippy ROBOTIC KITCHEN ASSISTANT
ถูกพัฒนาโดย Miso Robotics และเจ้าของร้าน CaliBurger
Flippy หุ่นยนต์ผู้ช่วยกุ๊ก! Miso Robotics พัฒนาหุ่น ยนต์ที่จะช่วยกุ๊กทำอาหารใน ครัว Miso Robotic บริษัทเทคสตาร์ทอัพพัฒนาหุ่นยนต์พานิชณ์ เทคโนโลยี AI และ Machine Learning ได้พัฒนาและผลิตหุ่นยนต์ รุ่น Flippy: Robotic Kitchen Assistant เพื่อช่วยแก้ ปัญหาให้แก่ ผู้ประกอบการร้าน อาหาร และพ่อครัว โดยเริ่มจากกลุ่มร้านอาหาร Fast Food ใน สหรัฐอเมริกา เบื้องต้นทำมาเพื่อสนับสนุนพ่อครัว แต่กลายเป็นว่าทำงานได้ดีมากจนผู้ประกอบการ ร้าน Fast Food นำมาใช้ทำงานแบบ Full-time
Flippy เป็นหุ่นยนต์เคลื่อนที่ด้วยล้อ ติดตั้งแขนกล และเซนเซอร์วัด อุณหภูมิอาหาร ทำงานด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning ที่ช่วยให้ Flippy สามารถแยกแยะประเภทของอาหาร รวมไปถึงเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และพัฒนา ตัวเองได้ เมื่อพนักงานคีย์คำสั่งอาหารจากหน้าเคาเตอร์ ข้อมูลคำสั่งซื้อจะ ส่งไปยัง Flippy เพื่อลงมือเตรียมอาหารตามคำสั่ง ขอหงลFักlกipารpy
Flippy หุ่นยนต์แขนกลจาก Miso Robotics นั้นสามารถทำงานได้ อย่างหลากหลายไม่ใช่แค่เพียงกันทอดอาหาร แต่ในครัวทดลองนั้น ยังมี Flippy อีกตัวที่ย่างเนื้ออยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งเจ้าตัวย่างเนื้อนี้ ทำงานโดยใช้กล้องป้อนข้อมูลไปยังสมองประมวลภาพเพื่อรอให้เนื้อ นั้นมีสีน้ำตาลไหม้ที่ถูกต้อง จากนั้นก็สอดตะหลิวเพื่อพลิกด้านหรือจัด เสิร์ฟ ความสำเร็จของเจ้า Flippy เป็นผลจากงานวิจัยด้านหุ่นยนต์และ Machine Learning มันเป็นตัวแทนของการสังเคราะห์รวมกันของ มอเตอร์ เซนเซอร์ ชิป และพลังการประมวลผลซึ่งมันยังเป็ฯไปไม่ได้ จนกระทั่งไม่นานมานี้
รู้จัก Flippy หุ่นยนต์ย่าง เบอร์เกอร์ กับการแย่ง ตำแหน่งงานของมนุษย์ที่ ทำซ้ำซาก
การนำหุ่นยนต์เข้ามาประยุกต์ใช้นอกโรงงาน อุตสาหกรรมเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสิ่งนี้ค่อนข้าง ตอบโจทย์ตำแหน่งที่ทำงานซ้ำซาก สามารถย่างเบอร์เกอร์ได้ 2,000 ชิ้น/วัน ซึ่งก็ถือว่าอยู่ ในระดับปกติ แต่การใช้หุ่นยนต์นั้นช่วยให้ชิ้นเนื้อที่ออกมา มีคุณภาพแน่นอน แถมยังทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แม้ ปัจจุบันการย่างยังทำได้ค่อนข้างช้า ทำให้ทางร้าน Cali Burger ที่ใช้งานอยู่ต้องกดสวิชท์ปิดเครื่องไปก่อน เพราะเกรงว่าจะรับการย่างจำนวนมากๆ ไม่ไหว Anthony Lomelino ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีของ Cali Burger ตอนนี้ข่าวว่าร้านเราใช้หุ่นยนต์ย่างเบอร์ เกอร์นั้นแพร่สะพัดออกไปทั่วประเทศ ทำให้มีโอกาสที่ร้าน จะมีลูกค้าเข้ามาเยอะกว่าเดิม และถ้าเราไม่ปิดหุ่นยนต์ ก็ อาจเกิดปัญหาในช่วงเวลา Peak ก็เป็นได้
ขณะเดียวกันการใช้งานหุ่ยนต์ยังช่วยให้การสอนพนักงานใหม่ภายในร้านทำได้เร็วกว่าเดิม เพราะอุตสาหกรรม Fast-Food มีการไหลออกของพนักงานจำนวนมาก และการให้ พนักงานใหม่เรียนรู้วิธีการย่างเบอร์เกอร์จาก Flippy ก็จะเสียเวลา และคนน้ อยกว่าให้คน เก่าๆ มาสอน แถมคนเก่าก็ยังไปทำหน้ าที่อื่นให้กับร้านได้อีกด้วย สรุป แม้ Flippy จะไม่ใช่ที่สุดในตอนนี้ แต่หากอัพเกรดให้ทำงานได้เร็วกว่าเดิม มัน ก็มีโอกาสนำไปพัฒนาใช้กับตำแหน่งงานอื่นๆ ที่ทำงานซ้ำซากได้เหมือนกัน และถึงเวลานั้นมนุษย์ก็คงต้องพัฒนาทักษะการทำงานที่มันยากกว่าเดิมให้ได้ เพื่อไปหาตำแหน่งงานอื่นๆ ในการดำรงชีวิตอยู่
thank you sarisa noorit 2/3 28
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: