พระราชบัญญัติ ยา พ.ศ. 2510 --------------------- ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ใหไว ณ วันท่ี 15 ตลุ าคม พ.ศ. 2510 เปน ปท่ี 22 ในรชั กาลปจ จบุ นั พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ ให ประกาศวา โดยท่ีเปน การสมควรปรบั ปรงุ กฎหมายวา ดวยการขายยา จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชบญั ญัติข้นึ ไวโดยคาํ แนะนําและยนิ ยอมของสภา รางรฐั ธรรมนูญในฐานะรัฐสภา ดังตอ ไปนี้ มาตรา 1 พระราชบัญญัตนิ ้เี รียกวา \"พระราชบญั ญตั ิยา พ.ศ. 2510\" มาตรา 2* พระราชบญั ญตั นิ ี้ใหใ ชบ ังคบั เมอ่ื พน กําหนดหกสิบวันนบั แตว นั ประกาศในราชกิจจา นุเบกษาเปนตน ไป *[รก.2510/101/7 พ./20 ตุลาคม 2510] มาตรา 3 ใหยกเลกิ (1) พระราชบญั ญตั ิการขายยา พ.ศ. 2493 (2) พระราชบญั ญัตกิ ารขายยา (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2498 (3) พระราชบัญญตั ิการขายยา (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2499 (4) พระราชบัญญัติการขายยา (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ. 2500 (5) พระราชบญั ญตั กิ ารขายยา (ฉบบั ท่ี 5) พ.ศ. 2505 มาตรา 4* ในพระราชบญั ญัตนิ ้ี \"ยา\" หมายความวา (1) วัตถุทรี่ บั รองไวในตาํ รายาทรี่ ฐั มนตรปี ระกาศ (2) วัตถุทม่ี งุ หมายสําหรับใชใ นการวนิ ิจฉยั บําบดั บรรเทา รกั ษา หรอื ปอ งกนั โรค หรอื ความ เจ็บปวยของมนษุ ยห รือสัตว (3) วัตถุทเ่ี ปนเภสชั เคมีภณั ฑ หรอื เภสัชเคมภี ัณฑก ึง่ สําเร็จรูป หรือ (4) วตั ถทุ ีม่ ุงหมายสําหรบั ใหเ กดิ ผลแกส ขุ ภาพ โครงสราง หรือการกระทาํ หนาทีใ่ ด ๆ ของ รางกายของมนษุ ยห รือสัตว วัตถุตาม (1) (2) หรือ (4) ไมห มายความรวมถงึ
(ก) วัตถทุ ีม่ ุงหมายสาํ หรบั ใชใ นการเกษตร หรอื การอุตสาหกรรมตามทร่ี ฐั มนตรปี ระกาศ (ข) วัตถุท่มี งุ หมายสําหรบั ใชเ ปนอาหารสําหรบั มนุษย เคร่อื งกีฬา เครอ่ื งมอื เคร่ืองใชใ นการ สงเสริมสขุ ภาพ เครอื่ งสาํ อาง หรอื เครื่องมอื และสวนประกอบของเครอื่ งมอื ที่ใชใ นการประกอบโรคศิลปะหรอื วชิ าชีพเวชกรรม (ค) วัตถทุ มี่ งุ หมายสําหรับใชใ นหองวทิ ยาศาสตรส ําหรับการวิจยั การวเิ คราะห หรอื การชนั สตู ร โรคซ่ึงมไิ ดกระทาํ โดยตรงตอ รา งกายของมนษุ ย \"ยาแผนปจ จบุ นั \" หมายความวา ยาท่ีมุงหมายสาํ หรบั ใชใ นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม การ ประกอบโรคศิลปะแผนปจ จบุ ัน หรอื การบาํ บัดโรคสัตว \"ยาแผนโบราณ\" หมายความวา ยาท่มี งุ หมายสาํ หรบั ใชใ นการประกอบโรคศลิ ปะแผนโบราณ หรือการบําบดั โรคสัตว ซึ่งอยใู นตํารายาแผนโบราณทีร่ ฐั มนตรปี ระกาศ หรือยาท่รี ัฐมนตรีประกาศเปนยาแผน โบราณ หรอื ยาทไ่ี ดรบั อนุญาตใหขึ้นทะเบยี นตาํ รับยาเปน ยาแผนโบราณ \"ยาอนั ตราย\" หมายความวา ยาแผนปจจบุ นั หรอื ยาแผนโบราณท่ีรัฐมนตรีประกาศเปน ยา อนั ตราย \"ยาควบคมุ พเิ ศษ\" หมายความวา ยาแผนปจ จบุ นั หรือยาแผนโบราณทีร่ ัฐมนตรปี ระกาศเปนยา ควบคุมพิเศษ \"ยาใชภ ายนอก\"* หมายความวา ยาแผนปจ จุบันหรือยาแผนโบราณท่ีมงุ หมายสาํ หรับใช ภายนอก ท้งั นไ้ี มรวมถงึ ยาใชเฉพาะที่ *[นิยามคาํ น้แี กไ ขโดยพระราชบัญญัตยิ า (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/748/1 พ.)] \"ยาใชเ ฉพาะท\"ี่ * หมายความวา ยาแผนปจ จบุ นั หรือยาแผนโบราณทมี่ งุ หมายใชเ ฉพาะทก่ี ับ หู ตา จมกู ปาก ทวารหนัก ชองคลอด หรอื ทอ ปสสาวะ *[นยิ ามคาํ น้ี แกไขโดยพระราชบญั ญัติยา (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/748/1 พ.)] \"ยาสามญั ประจาํ บา น\" หมายความวา ยาแผนปจ จบุ ันหรอื ยาแผนโบราณท่รี ัฐมนตรีประกาศเปน ยาสามญั ประจาํ บาน \"ยาบรรจเุ สรจ็ \"* หมายความวา ยาแผนปจจบุ ันหรอื ยาแผนโบราณทไี่ ดผ ลติ ขึ้นเสรจ็ ในรูปตางๆ ทางเภสชั กรรม ซง่ึ บรรจใุ นภาชนะ หรือหีบหอท่ีปด หรือผนึกไว และมฉี ลากครบถวนตามพระราชบัญญัตนิ ี้ *[นิยามคาํ น้ี แกไขโดยพระราชบญั ญตั ยิ า (ฉบบั ที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/748/1 พ.)] \"ยาสมนุ ไพร\" หมายความวา ยาท่ไี ดจ ากพฤกษชาติ สตั ว หรือแร ซึ่งมิไดผสม ปรงุ หรอื แปร สภาพ \"เภสัชเคมภี ณั ฑ\" หมายความวา สารอินทรียเคมี หรอื อนินทรยี เคมี ซงึ่ เปน สารเดย่ี วที่ใชปรงุ แตง เตรยี ม หรือผสมเปนยา \"เภสชั เคมีภณั ฑกง่ึ สาํ เรจ็ รปู \" หมายความวา สารอนิ ทรียเ คมี หรืออนนิ ทรยี เ คมีท้ังท่เี ปน สาร เดี่ยวหรือสารผสมทีอ่ ยใู นลกั ษณะพรอมทจี่ ะนํามาใชป ระกอบในการผลติ เปนยาสาํ เรจ็ รูป
\"การประกอบวชิ าชพี เวชกรรม\" หมายความวา การประกอบวิชาชพี เวชกรรมตามกฎหมายวา ดวยวชิ าชีพเวชกรรม \"การประกอบโรคศิลปะแผนปจ จุบนั \" หมายความวา การประกอบโรคศลิ ปะโดยอาศยั ความรู อนั ไดศ กึ ษาตามหลกั วิทยาศาสตร \"การประกอบโรคศลิ ปะแผนโบราณ\" หมายความวา การประกอบโรคศิลปะโดยอาศยั ความรู จากตาํ ราหรอื การเรียนสืบตอ กันมา อันมใิ ชก ารศึกษาตามหลกั วทิ ยาศาสตร \"การบาํ บัดโรคสตั ว\" หมายความวา การกระทาํ ใด ๆ อนั กระทาํ โดยตรงตอ รางกายของสัตวเพื่อ ตรวจ รักษา ปองกัน หรอื กําจัดโรค \"ผลิต\"* หมายความวา ทํา ผสม ปรุง หรอื แปรสภาพ และหมายความรวมถึงเปล่ยี นรปู ยา แบง ยา โดยมเี จตนาใหเ ปน ยาบรรจเุ สร็จ ทัง้ นี้ จะมฉี ลากหรอื ไมก ็ตาม *[นิยามคาํ นี้ แกไ ขโดยพระราชบัญญตั ิยา (ฉบบั ที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] \"สารออกฤทธิ์\" หมายความวา วัตถุอนั เปนสว นประกอบท่ีสําคญั ของยาทีส่ ามารถมฤี ทธิ์บําบดั บรรเทา รกั ษา หรอื ปอ งกันโรค หรือความเจ็บปวยของมนุษยห รือสัตว \"ความแรงของสารออกฤทธิ์\" หมายความวา (1) ความเขม ขนของยาที่มีปรมิ าณของสารออกฤทธริ์ ะบเุ ปนนาํ้ หนักตอนํ้าหนกั นํา้ หนักตอ ปรมิ าตร หรอื ปริมาณของสารออกฤทธติ์ อหนึง่ หนวยการใช หรอื (2) การแสดงฤทธิ์ทางการรักษาโรคของยาตามท่ไี ดม กี ารทดสอบในหอ งปฏิบตั ิการดวยวธิ ีการ ทเ่ี หมาะสม หรือไดผา นการควบคุมการใชร กั ษาโรคอยา งไดผ ลเพยี งพอแลว \"ขาย\"* หมายความวา ขายปลกี ขายสง จาํ หนาย จา ย แจก แลกเปล่ยี นเพอ่ื ประโยชนใ นทาง การคา และใหห มายความรวมถึงการมไี วเพ่อื ขายดว ย *[นิยามคําน้ี แกไ ขโดยพระราชบัญญัตยิ า(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] \"ขายสง\"* หมายความวา ขายตรงตอ ผูร ับอนญุ าตขายยา ผูรับ อนุญาตขายสง ยา กระทรวง ทบวง กรม สภากาชาดไทย องคก ารเภสชั กรรม ผไู ดรับอนญุ าตใหด ําเนินการสถานพยาบาล ผปู ระกอบวชิ าชีพ เวชกรรม ผปู ระกอบวิชาชพี การพยาบาล ผูประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ ผูประกอบวชิ าชีพการพยาบาลและการ ผดุงครรภ ผูประกอบโรคศิลปะแผนปจจุบนั หรือผูป ระกอบการบาํ บดั โรคสัตว *[นิยามคาํ น้ี เพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญตั ยิ า (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] \"ดานนําเขา \"* หมายความวา ทา หรือทีแ่ หง ใดในราชอาณาจักรทร่ี ัฐมนตรีประกาศในราชกิจจา นุเบกษาใหเ ปน ดานตรวจสอบยาที่นาํ หรอื สง่ั เขา มาในราชอาณาจกั ร *[นิยามคาํ นี้ เพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัตยิ า (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] \"ฉลาก\" หมายความรวมถึง รูป รอยประดิษฐ เคร่ืองหมาย หรือขอความใด ๆ ซึ่งแสดงไวที่ ภาชนะหรอื หบี หอ บรรจยุ า
\"เอกสารกํากบั ยา\" หมายความรวมถึง กระดาษหรือวตั ถอุ นื่ ใดทท่ี ําใหป รากฏความหมายดว ยรูป รอยประดษิ ฐ เคร่อื งหมาย หรือขอความใด ๆ เกี่ยวกับยาที่สอดแทรกหรอื รวมไวก ับภาชนะหรือหบี หอบรรจุยา \"ตาํ รับยา\" หมายความวา สตู รซง่ึ ระบุสวนประกอบสง่ิ ปรุงท่ีมยี ารวมอยดู วยไมว า สิ่งปรงุ น้นั จะ มีรูปลักษณะใด และใหห มายความรวมถงึ ยาทีม่ ีลกั ษณะเปน วัตถุสาํ เร็จรูปทางเภสชั กรรมซึง่ พรอ มท่ีจะนาํ ไปใช แกม นษุ ย หรอื สัตวไ ด \"ผปู ระกอบวิชาชีพเวชกรรม\" หมายความวา ผูประกอบวชิ าชพี เวชกรรมตามกฎหมายวา ดวย วชิ าชีพเวชกรรม \"ผปู ระกอบโรคศิลปะแผนปจ จบุ ัน\" หมายความวา ผูป ระกอบโรคศลิ ปะแผนปจจบุ ันในสาขา ทันตกรรม เภสัชกรรม การผดงุ ครรภ หรอื การพยาบาลตามกฎหมายวา ดว ยการควบคุมการประกอบโรคศลิ ปะ \"ผปู ระกอบโรคศิลปะแผนโบราณ\" หมายความวา ผปู ระกอบโรคศลิ ปะแผนโบราณในสาขาเวช กรรมหรอื เภสชั กรรมตามกฎหมายวาดว ยการควบคุมการประกอบโรคศลิ ปะ \"เภสัชกรช้ันหน่ึง\" หมายความวา ผูป ระกอบโรคศลิ ปะแผนปจจุบันช้ันหน่งึ ในสาขาเภสัชกรรม \"เภสชั กรชน้ั สอง\" หมายความวา ผูประกอบโรคศลิ ปะแผนปจจบุ ันชนั้ สองในสาขาเภสัชกรรม \"ผปู ระกอบการบําบัดโรคสัตวช้นั หนง่ึ \" หมายความวา ผูไดร บั อนุญาตเปน ผปู ระกอบการบาํ บดั โรคสัตวช้ันหนงึ่ ตามกฎหมายวา ดว ยการควบคุมการบําบดั โรคสตั ว \"ผูประกอบการบาํ บัดโรคสัตวชนั้ สอง\" หมายความวา ผูไดร บั อนุญาตเปนผูป ระกอบการบําบดั โรคสตั วช ัน้ สอง (ก) สาขาอายุรกรรมตามกฎหมายวาดว ยการควบคุมการบาํ บัดโรคสัตว \"ผูรบั อนญุ าต\" หมายความวา ผไู ดร บั ใบอนญุ าตตามพระราชบญั ญัตินี้ และในกรณนี ิตบิ คุ คล เปน ผูไ ดร ับใบอนญุ าต ใหห มายความรวมถึงผจู ดั การหรอื ผูแทนของนติ บิ ุคคลซึง่ เปนผดู าํ เนินกิจการดวย \"ผูอนญุ าต\" หมายความวา (1) เลขาธกิ ารคณะกรรมการอาหารและยา หรอื ผซู ่ึงเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา มอบหมาย สําหรบั การอนญุ าตผลิตยาหรือการนาํ หรือส่งั ยาเขา มาในราชอาณาจกั ร (2) เลขาธกิ ารคณะกรรมการอาหารและยา หรือผูซง่ึ เลขาธกิ ารคณะกรรมการอาหารและยา มอบหมาย สําหรบั การอนุญาตขายยาในกรุงเทพมหานคร (3) ผวู าราชการจงั หวดั สาํ หรับการอนุญาตขายยาในจังหวดั ที่อยูในเขตอํานาจนอกจาก กรงุ เทพมหานคร \"คณะกรรมการ\" หมายความวา คณะกรรมการยาตามพระราชบัญญตั นิ ี้ \"พนักงานเจา หนา ท่\"ี หมายความวา ผูซ่ึงรัฐมนตรีแตงตัง้ ใหปฏบิ ตั กิ ารตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี \"รฐั มนตร\"ี หมายความวา รัฐมนตรีผรู ักษาการตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ *[มาตรา 4 แกไ ขโดยพระราชบัญญัติยา (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522]
มาตรา 5 ใหรฐั มนตรวี าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี และใหมี อาํ นาจแตงตั้งพนกั งานเจาหนา ทอี่ อกกฎกระทรวงกําหนดคา ธรรมเนียมไมเ กนิ อัตราในบัญชีทา ยพระราชบัญญัติ นี้ ยกเวน คาธรรมเนียม และกาํ หนดกจิ การอืน่ เพ่ือปฏบิ ัติการตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี กฎกระทรวงนนั้ เม่อื ไดประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาแลว ใหใ ชบ ังคบั ได หมวด 1 คณะกรรมการยา --------- มาตรา 6* ใหม คี ณะกรรมการคณะหน่ึงเรยี กวา \"คณะกรรมการยา\" ประกอบดว ย ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเปนประธานกรรมการ อธบิ ดีกรมการแพทย อธบิ ดกี รมควบคุมโรคติดตอ อธิบดีกรม วทิ ยาศาสตร การแพทย อธิบดีกรมอนามยั เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ผูแทนกระทรวงกลาโหม ผูแทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ ผูแ ทนทบวงวิทยาลยั ซ่ึงแตง ตัง้ จากผดู าํ รงตาํ แหนงคณบดคี ณะเภสชั ศาสตร สองคน ผแู ทนสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ผูอ ํานวยการกอง กองการประกอบโรคศลิ ปะ สํานักงาน ปลดั กระทรวง กระทรวงสาธารณสุข เปน กรรมการโดยตาํ แหนง กบั กรรมการผูท รงคุณวุฒซิ ่ึงรฐั มนตรีแตง ตัง้ อกี ไมนอ ยกวา หาคนแตไ มเกนิ เกา คน ในจํานวนน้อี ยางนอ ยสองคนจะตองเปนผปู ระกอบโรคศิลปะแผนโบราณ ใหร องเลขาธกิ ารคณะกรรมการอาหารและยาเปน กรรมการและเลขานกุ าร และใหผ ูอ ํานวยการ กอง กองควบคมุ ยา สาํ นักงานคณะกรรมการอาหารและยาเปน กรรมการและผชู ว ยเลขานุการ *[มาตรา 6 แกไ ขโดยพระราชบัญญัตยิ า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 7 กรรมการผทู รงคณุ วฒุ ิอยูในตาํ แหนง คราวละสองป กรรมการซ่ึงพนจากตําแหนง อาจไดรบั การแตงต้งั อีกได มาตรา 8 นอกจากการพน ตาํ แหนงตามมาตรา 7 กรรมการผทู รงคณุ วฒุ พิ น จากตําแหนง เมอื่ (1) ตาย (2) ลาออก (3) รฐั มนตรใี หออก (4) เปนบคุ คลลมละลาย (5) เปน คนไรค วามสามารถหรอื เสมือนไรค วามสามารถ (6) ไดรับโทษจําคุกโดยคาํ พพิ ากษาถงึ ที่สดุ ใหจ าํ คกุ เวน แตความผดิ ลหโุ ทษหรอื ความผดิ อันได กระทําโดยประมาท (7) ถกู ส่งั พักหรือเพกิ ถอนใบอนุญาตประกอบโรคศลิ ปะ เมือ่ กรรมการผทู รงคณุ วุฒพิ น จากตาํ แหนงกอนวาระ ใหร ัฐมนตรีแตงตง้ั ผอู ่นื เปนกรรมการ แทน และใหผนู นั้ อยใู นตาํ แหนง ตามวาระของกรรมการซึง่ ตนแทน
มาตรา 9 การประชุมคณะกรรมการ ตองมกี รรมการมาประชุมไมน อยกวา หนงึ่ ในสามของ จาํ นวนกรรมการทัง้ หมดจึงจะเปนองคประชมุ ถา ประธานกรรมการไมอ ยใู นทปี่ ระชมุ ใหก รรมการทม่ี าประชมุ เลอื กกรรมการคนหนงึ่ เปน ประธานในทปี่ ระชมุ การวนิ จิ ฉัยช้ีขาดของทปี่ ระชมุ ใหถ อื เสยี งขา งมาก กรรมการคนหนงึ่ ใหม ีเสยี งหนึ่งในการลงคะแนน ถา คะแนนเสยี งเทากนั ใหประธานในท่ี ประชมุ ออกเสยี งเพิ่มขนึ้ อกี เสยี งหน่งึ เปน เสยี งชีข้ าด มาตรา 10 ใหค ณะกรรมการมหี นา ที่ใหคําแนะนําหรอื ความเหน็ ในเร่อื งตอไปน้ี (1) การอนุญาตผลติ ยา ขายยา หรือนาํ หรอื สงั่ ยาเขา มาในราชอาณาจกั ร และการขึน้ ทะเบียน ตาํ รับยา (2) การพกั ใชใ บอนุญาต การเพกิ ถอนใบอนญุ าต หรอื การเพิกถอนทะเบยี นตาํ รับยา (3) การกาํ หนดหลกั เกณฑ วธิ ีการ และเงอ่ื นไขเกย่ี วกบั การผลิตยา การขายยา การนาํ หรือสงั่ ยา เขามาในราชอาณาจักร การนาํ ยามาเปน ตวั อยางเพอ่ื ตรวจ และการตรวจสอบสถานทีผ่ ลิตยา สถานทข่ี ายยา สถานทีน่ าํ หรือสง่ั ยาเขา มาในราชอาณาจกั ร และสถานทีเ่ กบ็ ยา (4) การทีร่ ฐั มนตรีจะใชอ าํ นาจตามมาตรา 76 หรือมาตรา 77 (5) เรือ่ งอื่นตามทรี่ ัฐมนตรมี อบหมาย มาตรา 11 ใหค ณะกรรมการมอี าํ นาจแตง ตง้ั คณะอนกุ รรมการ เพอื่ พิจารณา ศึกษา หรอื วจิ ยั เก่ยี วกับเร่อื งทอี่ ยใู นอํานาจหนาท่ีของคณะกรรมการ และใหนาํ มาตรา 9 มาใชบ งั คบั แกก ารประชุมของ คณะอนกุ รรมการโดยอนโุ ลม หมวด 2 การขออนุญาตและออกใบอนญุ าตเกยี่ วกบั ยาแผนปจ จบุ นั --------- มาตรา 12 หา มมใิ หผูใดผลติ ขาย หรอื นาํ หรือสั่งเขามาในราชอาณาจกั รซึ่งยาแผนปจจุบัน เวน แตจะไดร ับใบอนญุ าตจากผอู นญุ าต การขออนุญาตและการอนญุ าตใหเปน ไปตามหลกั เกณฑ วิธีการและเง่ือนไขทกี่ ําหนดใน กฎกระทรวง มาตรา 13* บทบัญญัติมาตรา 12 ไมใชบ ังคับแก (1) การผลิตยาซ่งึ ผลติ โดยกระทรวง ทบวง กรม ในหนา ทป่ี องกนั หรอื บาํ บัดโรค สภากาชาด ไทย และองคก ารเภสชั กรรม (2) การผลิตยาตามใบสัง่ ยาของผูประกอบวิชาชพี เวชกรรมหรือของผูประกอบโรคศลิ ปะทส่ี ่งั สาํ หรบั คนไขเฉพาะราย หรอื ตามใบสัง่ ยาของผูประกอบการบําบดั โรคสตั วสําหรบั สตั วเฉพาะราย
(3) การขายยาสมุนไพรท่ีไมใ ชยาอันตราย การขายยาสามญั ประจาํ บาน การขายยาซึ่งผปู ระกอบ วชิ าชพี เวชกรรมหรอื ผปู ระกอบโรคศิลปะในสาขาทนั ตกรรมขายเฉพาะสาํ หรับคนไขของตน หรอื การขายยาซ่ึง ผูประกอบการบําบัดโรคสัตวขายสาํ หรบั สตั วซ ึ่งตนบาํ บดั หรือปอ งกันโรค หรือ การขายยาซ่งึ ขายโดยกระทรวง ทบวง กรม ในหนา ทปี่ อ งกนั หรือบําบดั โรค สภากาชาดไทย และองคการเภสชั กรรม (4) การนํายาตดิ ตัวเขา มาในราชอาณาจกั ร ซง่ึ ไมเกนิ จาํ นวนท่จี าํ เปนจะตองใชเฉพาะตัวได สามสบิ วนั (5) การนําหรอื สั่งยาเขา มาในราชอาณาจกั รโดยกระทรวง ทบวง กรม ในหนา ทีป่ องกันหรือ บําบัดโรค สภากาชาดไทย และองคก ารเภสัชกรรม *ผูไดรับยกเวน ตาม (1) และ (5) ตองปฏบิ ตั ติ ามหลกั เกณฑ วธิ ีการและเงอ่ื นไขทกี่ ําหนดใน กฎกระทรวง *[มาตรา 13 แกไ ขโดยพระราชบญั ญตั ิยา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.) และความ ในวรรคทา ยเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบญั ญัติยา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 14* ผอู นญุ าตจะออกใบอนุญาตใหผลิต ขาย หรอื นาํ หรือสั่งเขามาในราชอาณาจกั รซงึ่ ยา แผนปจจบุ นั ได เม่ือปรากฏวา ผขู ออนญุ าต (1) เปนเจา ของกจิ การและเปน ผูมที รพั ยส ินหรอื ฐานะพอท่ีจะตั้งและดําเนินกจิ การได (2) มีอายุไมต าํ่ กวาย่ีสิบปบ ริบรู ณ (3) มถี ่นิ ทอ่ี ยใู นประเทศไทย (4) ไมเคยไดรบั โทษจาํ คกุ โดยคําพิพากษาถึงทีส่ ดุ หรือคําส่ังที่ชอบดว ยกฎหมายใหจ าํ คุกใน ความผิดทก่ี ฎหมายบัญญัติใหถือเอาการกระทาํ โดยทจุ รติ เปนองคป ระกอบ หรอื ในความผิดตามกฎหมายวา ดว ย ยาเสพติดใหโ ทษ กฎหมายวา ดว ยวัตถุท่ีออกฤทธ์ิตอจิตและประสาท กฎหมายวาดว ยการขายยาหรอื พระราชบญั ญตั ิน้ี เวน แตพน โทษมาแลว ไมน อยกวา สองปกอนวนั ขอรับใบอนญุ าต (5) ไมเ ปน บุคคลวิกลจรติ หรือคนไรค วามสามารถหรอื คนเสมือนไรค วามสามารถ (6) ไมเปนโรคตามทร่ี ฐั มนตรีประกาศกาํ หนดในราชกจิ จานเุ บกษา (7) มสี ถานทีผ่ ลิตยา สถานทข่ี ายยา สถานท่ีนาํ หรือส่งั ยาเขามาในราชอาณาจกั ร หรือสถานท่ี เกบ็ ยา และอปุ กรณทใี่ ชใ นการผลิตยา การขายยาหรือการเกบ็ ยาและการควบคุม หรือรกั ษาคณุ ภาพยา ซ่งึ มี ลักษณะและจาํ นวนตามทกี่ าํ หนดในกฎกระทรวง (8) ใชช อ่ื ในการประกอบพาณิชยกิจไมซ ํ้าหรือคลา ยคลึงกับชื่อท่ใี ชในการประกอบพาณิชยกิจ ของผูร ับอนญุ าตซึ่งอยูใ นระหวางถูกสง่ั พกั ใชใ บอนญุ าตหรือซึง่ ถูกเพกิ ถอนใบอนุญาตยังไมค รบหน่ึงป (9)* มีผูทีจ่ ะปฏบิ ตั ิการตามมาตรา 38 มาตรา 39 มาตรา 40 มาตรา 40 ทวิ มาตรา 41 มาตรา 42 มาตรา 43 หรือมาตรา 44 แลวแตกรณี ผมู หี นาทปี่ ฏิบตั ิการตาม (9) ตองอยูประจาํ ณ สถานท่ผี ลิตยา สถานที่ขายยา หรอื สถานท่ีนาํ หรือส่งั ยาเขา มาในราชอาณาจกั รไดแ ตเพยี งแหง เดยี ว
ในกรณีนิตบิ คุ คลเปน ผขู ออนุญาตผูจัดการหรือผแู ทนของนติ บิ คุ คลซึง่ เปน ผูด ําเนินกจิ การตองมี คณุ สมบัติตาม (2) และ (3) และไมม ีลกั ษณะตอ งหามตาม (4) (5) หรือ (6) *[มาตรา 14 แกไขโดยพระราชบญั ญัตยิ า (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 ความใน (9) แกไขโดย พระราชบัญญัติยา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530] มาตรา 15* ประเภทของใบอนุญาตสําหรับยาแผนปจจบุ ันมีดังน้ี (1) ใบอนญุ าตผลิตยาแผนปจ จบุ นั (2) ใบอนุญาตขายยาแผนปจ จุบนั (3) ใบอนุญาตขายสง ยาแผนปจจบุ นั (4) ใบอนญุ าตขายยาแผนปจ จบุ นั เฉพาะยาบรรจุเสรจ็ ทีไ่ มใ ชย าอันตราย หรอื ยาควบคมุ พิเศษ (5) ใบอนุญาตขายยาแผนปจจุบันเฉพาะยาบรรจุเสรจ็ สําหรบั สตั ว (6) ใบอนุญาตนําหรอื สงั่ ยาแผนปจจุบันเขามาในราชอาณาจกั ร ใหถ ือวา ผูไดร บั ใบอนญุ าตตาม (1) หรือ (6) เปนผไู ดรับใบอนุญาตตาม (3) สาํ หรบั ยาทตี่ นผลติ หรอื นําหรอื สัง่ เขา มาในราชอาณาจกั รดว ยแลวแตก รณี ใหถ อื วา ผไู ดรบั ใบอนญุ าตตาม (2) เปน ผูไดร บั ใบอนญุ าตตาม(3) (4) และ (5) ดว ย ใหถือวา ผูไดร บั ใบอนญุ าตตาม (3) เปนผไู ดร ับใบอนญุ าตตาม (4) และ (5) ดว ย แตใหขายได เฉพาะการขายสงเทา น้ัน *[มาตรา 15 แกไขโดยพระราชบญั ญัตยิ า(ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 16 ใบอนุญาตทอ่ี อกตามมาตรา 15 ใหค ุมกนั ถึงลูกจา งหรือตวั แทนของผูรบั อนญุ าตดวย ใหถือวา การกระทาํ ของลูกจา งหรอื ตัวแทนของผรู บั อนุญาตท่ีไดร ับการคมุ กนั ตามวรรคหน่งึ เปนการกระทาํ ของผรู บั อนญุ าตดวย เวน แตผูร บั อนญุ าตจะพสิ ูจนไดว า การกระทําดงั กลา วเปนการสดุ วสิ ัยที่ตน จะลวงรหู รือควบคมุ ได มาตรา 17* ใบอนญุ าตตามมาตรา 15 ใหใ ชไ ดจนถงึ วนั ท่ี 31 ธนั วาคมของปท่อี อกใบอนุญาต ถาผูร บั อนญุ าตประสงคจ ะขอตอ อายใุ บอนญุ าตใหย นื่ คําขอเสยี กอ นใบอนุญาตส้นิ อายุ เมอื่ ไดยืน่ คาํ ขอดงั กลา ว แลว จะประกอบกจิ การตอ ไปกไ็ ดจนกวา ผอู นญุ าตจะสง่ั ไมต อ อายใุ บอนญุ าตน้ัน การขอตอ อายใุ บอนญุ าตและการอนญุ าตใหเปนไปตามหลักเกณฑ วธิ กี าร และเงือ่ นไขที่ กําหนดในกฎกระทรวง ผูรับอนญุ าตซึ่งใบอนญุ าตของตนสน้ิ อายุไมเ กนิ หนึ่งเดอื น จะย่ืนคาํ ขอผอ นผนั พรอมดว ยแสดง เหตุผลขอตอ อายุใบอนุญาตกไ็ ด แตก ารยนื่ คาํ ขอผอ นผนั นไ้ี มเปน เหตใุ หพนผดิ สําหรบั การประกอบกิจการทไี่ ด กระทําไปกอนขอตอ อายุใบอนุญาตซึ่งถือวาเปน การประกอบกจิ การโดยใบอนญุ าตขาดอายุ การขอตอ อายใุ บอนุญาตเมือ่ ลว งพน กําหนดเวลาหนง่ึ เดอื นนบั แตว ันทใ่ี บอนญุ าตสน้ิ อายจุ ะ กระทํามิได *[มาตรา 17 แกไขโดยพระราชบญั ญัตยิ า (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2530/278/1 พ.)]
มาตรา 18 ในกรณีผอู นญุ าตไมออกใบอนญุ าตหรอื ไมอ นญุ าตใหต ออายใุ บอนุญาต ผูขอ อนญุ าตหรือผขู อตอ อายุใบอนญุ าตมีสทิ ธิอุทธรณเ ปนหนงั สอื ตอ รฐั มนตรีภายในสามสิบวันนบั แตว นั ทีไ่ ดร ับ หนังสอื ของผอู นญุ าตแจง การไมออกใบอนญุ าตหรือไมอ นญุ าตใหต ออายใุ บอนุญาต คาํ วนิ จิ ฉยั ของรฐั มนตรใี หเ ปน ทีส่ ดุ ในกรณผี ูอ นญุ าตไมอนญุ าตใหต ออายุใบอนุญาตผลติ ยาแผนปจจบุ นั กอนท่ีรัฐมนตรจี ะมีคาํ วินิจฉยั อทุ ธรณตามวรรคสอง รัฐมนตรมี อี าํ นาจสัง่ อนญุ าตใหประกอบกจิ การไปพลางกอ นได เมอื่ มีคําขอของผู อุทธรณ หมวด 3 หนาทีข่ องผูรบั อนุญาตเกยี่ วกบั ยาแผนปจจุบัน --------- มาตรา 19* หา มมใิ หผรู ับอนุญาต (1) ผลิตหรือขายยาแผนปจ จบุ ันนอกสถานท่ที ีก่ าํ หนดไวใ นใบอนุญาต เวน แตเปน การขายสง (2) ผลิตหรือขายยาแผนปจ จบุ นั ไมตรงตามประเภทของใบอนุญาต (3) ขายยาแผนปจจุบนั ที่เปน ยาอนั ตรายหรอื ยาควบคมุ พิเศษ ใหแ กผ ูรบั ใบอนญุ าตตามมาตรา 15 (4) *[มาตรา 19 แกไ ขโดยพระราชบญั ญตั ยิ า(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 20* ผรู ับอนุญาตผลติ ยาแผนปจจุบนั ตอ งมเี ภสัชกรช้นั หนง่ึ อยา งนอ ยสองคนเปน ผมู ี หนา ท่ปี ฏิบตั ิการตามมาตรา 38 และตองจดั ใหม ีเภสัชกรอยางนอ ยหน่ึงคนประจาํ อยูตลอดเวลาท่เี ปด ทาํ การ *ในกรณจี าํ เปน เพื่อประโยชนแกก ารควบคุมการผลติ ยาแผนปจ จบุ นั ผูอ นญุ าตจะกาํ หนดให ผูรับอนญุ าตผลติ ยาแผนปจ จบุ ันตอ งมเี ภสชั กรชั้นหนึง่ เปนผูมีหนา ทป่ี ฏิบตั ิการตามมาตรา 38 มากกวา จาํ นวนที่ กาํ หนดในวรรคหนึง่ ได ตามหลกั เกณฑท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง *[มาตรา 20 แกไขโดยพระราชบญั ญัตยิ า (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)และความ ในวรรคสองของมาตรา 20 เพม่ิ เติมโดยพระราชบัญญตั ิยา (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 21* ผรู ับอนญุ าตขายยาแผนปจจบุ นั ตองมีเภสัชกรช้นั หน่งึ หรอื เภสชั กรชัน้ สอง เปน ผูม ี หนาทีป่ ฏบิ ตั กิ ารตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ประจาํ อยตู ลอดเวลาที่เปดทําการ *[มาตรา 21 แกไ ขโดยพระราชบญั ญตั ยิ า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 21 ทว*ิ ผรู บั อนุญาตขายสงยาแผนปจ จบุ นั ตองมีเภสัชกรชั้นหนง่ึ เปน ผูม หี นาท่ี ปฏบิ ตั ิการตามมาตรา 40 ทวิ ประจาํ อยู ณ สถานท่ีขายสง ยาแผนปจ จุบนั หรือสถานทีเ่ กบ็ ยาตลอดเวลาที่เปดทาํ การ *[มาตรา 21 ทวิ เพิม่ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ิยา (ฉบบั ท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)]
มาตรา 22* ผรู ับอนุญาตขายยาแผนปจ จบุ นั เฉพาะยาบรรจุเสรจ็ ท่ีไมใ ชยาอนั ตรายหรือยา ควบคุมพเิ ศษ ตองมเี ภสัชกรช้ันหนงึ่ เภสัชกรช้นั สอง ผปู ระกอบวชิ าชพี เวชกรรม ผปู ระกอบโรคศลิ ปะแผน ปจ จุบันช้ันหนึง่ ในสาขาทนั ตกรรม การผดุงครรภหรือการพยาบาล เปนผูมหี นา ท่ปี ฏิบตั กิ ารตามมาตรา 41 ประจําอยูตลอดเวลาท่เี ปด ทาํ การ *[มาตรา 22 แกไขโดยพระราชบญั ญัติยา (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 23* ผูรับอนุญาตขายยาแผนปจ จบุ นั เฉพาะยาบรรจุเสรจ็ สําหรบั สัตวตอ งมเี ภสัชกร ชนั้ หน่ึง เภสชั กรช้นั สอง ผูป ระกอบการบําบดั โรคสัตวชัน้ หนง่ึ หรือผูป ระกอบการบําบดั โรคสตั วชน้ั สอง เปน ผูมี หนาทป่ี ฏบิ ัตกิ ารตามมาตรา 42 และมาตรา 43 ประจาํ อยตู ลอดเวลาทเ่ี ปดทาํ การ *[มาตรา 23 แกไ ขโดยพระราชบญั ญัตยิ า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 24* ผูรับอนุญาตนาํ หรือสัง่ ยาแผนปจ จุบันเขามาในราชอาณาจกั รตอ งมเี ภสชั กร ชั้นหน่งึ เปน ผมู ีหนาท่ปี ฏิบัตกิ ารตามมาตรา 44 ประจําอยู ณ สถานทนี่ าํ หรอื สั่งยาเขา มาในราชอาณาจักร หรอื สถานทเ่ี ก็บยาตลอดเวลาท่ีเปด ทาํ การ *[มาตรา 24 แกไ ขโดยพระราชบัญญตั ิยา (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 25* ใหผรู บั อนุญาตผลิตยาแผนปจ จุบนั ปฏิบตั ิดงั ตอ ไปน้ี (1) จัดใหมปี า ย ณ ทเ่ี ปดเผยหนาสถานทผี่ ลติ ยาท่ีระบุไวใ นใบอนุญาตซ่งึ เห็นไดงา ยจาก ภายนอกอาคาร คือ (ก) ปายแสดงวา เปน สถานทผี่ ลติ ยา (ข) ปา ยแสดงชอ่ื ตวั ช่อื สกลุ และวทิ ยฐานะของผูมหี นาที่ปฏิบัตกิ าร และเวลาท่ีปฏิบัติการ ทั้งนี้ วัตถทุ ่ใี ชท ําปา ย ลกั ษณะ สี ขนาดของปาย ขนาดของตัวอักษร และขอความท่แี สดงในปา ย ใหเปนไปตามท่กี ําหนดในกฎกระทรวง (2) จดั ใหมกี ารวเิ คราะหว ตั ถุดิบและยาทผ่ี ลิตขึ้นกอนนาํ ออกจากสถานท่ีผลิต โดยมหี ลักฐาน แสดงรายละเอยี ดของการวิเคราะหทกุ ครง้ั ซง่ึ ตอ งเกบ็ รักษาไวไ มน อ ยกวา หาป (3) จัดใหม ีฉลากตามท่ขี ้นึ ทะเบียนตํารบั ยาผนึกไวทภี่ าชนะและหีบหอ บรรจุยาทผี่ ลิตข้นึ และ ในฉลากตอ งแสดง (ก) ช่ือยา (ข) เลขท่ีหรือรหัสใบสําคญั การขึ้นทะเบยี นตํารับยา (ค) ปรมิ าณของยาที่บรรจุ (ง) ชอ่ื และปริมาณหรือความแรงของสารออกฤทธิอ์ ันเปน สวนประกอบที่สําคญั ของยาซึง่ จะตองตรงตามทข่ี ึ้นทะเบยี นตาํ รบั ยา (จ) เลขทีห่ รืออกั ษรแสดงคร้งั ทผี่ ลติ หรอื วิเคราะหยา (ฉ) ชอื่ ผผู ลิตยาและจงั หวดั ทต่ี ั้งสถานท่ผี ลิตยา (ช) วนั เดอื น ป ทผี่ ลติ ยา
(ซ) คําวา \"ยาอนั ตราย\" \"ยาควบคุมพเิ ศษ\" \"ยาใชภ ายนอก\" หรือ \"ยาใชเ ฉพาะท\"ี่ แลว แต กรณี ดว ยอกั ษรสแี ดงเห็นไดช ดั ในกรณีเปน ยาอนั ตราย ยาควบคมุ พิเศษ ยาใชภ ายนอก หรือยาใชเ ฉพาะที่ (ฌ) คําวา \"ยาสามัญประจําบา น\" ในกรณที เ่ี ปนยาสามญั ประจาํ บา น (ญ) คําวา \"ยาสําหรบั สตั ว\" ในกรณที เี่ ปนยาสาํ หรับสตั ว (ฎ) คําวา \"ยาสิ้นอายุ\" และแสดงวนั เดือน ป ทยี่ าสน้ิ อายใุ นกรณีเปน ยาท่ีรัฐมนตรปี ระกาศตาม มาตรา 76 (7) หรอื (8) (4) ใชฉลากและเอกสารกาํ กบั ยาตามท่ีไดข น้ึ ทะเบยี นตาํ รบั ยาไว และขอ ความในฉลากและ เอกสารกํากับยาตอ งอานไดช ดั เจน เอกสารกํากบั ยาถาเปน ภาษาตางประเทศตองมีคําแปลเปน ภาษาไทยดว ย (5) จดั ใหม ีคาํ เตือนการใชย าไวใ นฉลากและท่เี อกสารกํากับยา สําหรบั ยาทรี่ ัฐมนตรปี ระกาศ ตามมาตรา 76 (9) ในกรณฉี ลากมเี อกสารกาํ กบั ยาอยดู วย คาํ เตือนการใชยาจะแสดงไวท ี่สวนใดสวนหนงึ่ ของ ฉลากหรอื เอกสารกาํ กับยากไ็ ด (6) ทาํ บัญชีวัตถุดิบท่ใี ชผ ลติ ยา บัญชยี าทีผ่ ลิตและขาย และเกบ็ ยาตัวอยา งทผี่ ลิต ทั้งน้ี ตามท่ี กําหนดในกฎกระทรวง (7) การอื่นตามท่กี ําหนดในกฎกระทรวง ในกรณภี าชนะบรรจยุ ามขี นาดเล็กจนไมอ าจแสดงฉลากที่มขี อความตาม (3) ไดท ั้งหมด ให ผรู บั อนุญาตผลิตยาแผนปจจบุ นั ไดร บั ยกเวน ไมตองแสดงขอความตาม (3) (ค) (ง) (จ) (ฉ) (ช) (ฌ) หรือ (ญ) ขอ ใดขอหนง่ึ หรอื ทัง้ หมด เมอ่ื ไดร ับอนญุ าตจากผูอนญุ าตแลว ในกรณีเปน ยาทีผ่ ลิตเพ่อื สงออกไปนอกราชอาณาจกั ร ขอความในฉลากและเอกสารกาํ กบั ยา ตอ งระบชุ ่อื ประเทศไทยดวย สว นขอความอื่นหากประสงคจะขอยกเวนตองไดร ับอนญุ าตจากผอู นุญาตกอ น ในกรณผี ูรบั อนุญาตผลติ ยาแผนปจจุบนั ประสงคจะแกไขฉลากเก่ยี วกบั วัน เดือน ปที่ยาสิ้นอายุ ตาม (3) (ฎ) ตองย่นื คาํ ขอรับอนญุ าตตามหลักเกณฑ วธิ กี าร และเง่ือนไขท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง *[มาตรา 25 แกไขโดยพระราชบญั ญตั ยิ า(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 26* ใหผูร บั อนุญาตขายยาแผนปจจบุ ันปฏบิ ัตดิ ังตอไปนี้ (1) จดั ใหม ีปาย ณ ที่เปดเผยหนาสถานท่ีขายยาที่ระบุไวใ นใบอนุญาต ซง่ึ เห็นไดงา ยจาก ภายนอกอาคาร คือ (ก) ปา ยแสดงวา เปน สถานทข่ี ายยา (ข) ปา ยแสดงชื่อตวั ชอื่ สกลุ และวิทยฐานะของผมู หี นา ทีป่ ฏบิ ตั กิ ารและเวลาท่ปี ฏบิ ตั ิการ ท้ังนี้ วัตถทุ ่ีใชท ําปา ย ลกั ษณะ สี ขนาดของปา ย ขนาดของตวั อกั ษร และขอความทีแ่ สดงในปาย ใหเปน ไปตามทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง (2) จัดใหมกี ารแยกเกบ็ ยาสาํ หรบั สตั วเ ปนสว นสดั จากยาอ่ืน (3) จดั ใหมกี ารแยกเก็บยาเปน สวนสัดดงั ตอ ไปน้ี (ก) ยาอนั ตราย
(ข) ยาควบคมุ พเิ ศษ (ค) ยาอื่น ๆ (4) จัดใหมีทเ่ี ปนสวนสดั สําหรับปรงุ ยาตามใบสัง่ ยาของผปู ระกอบวิชาชีพเวชกรรม ผปู ระกอบ โรคศลิ ปะแผนปจจบุ ัน หรอื ผูประกอบการบาํ บดั โรคสัตว และสาํ หรับเก็บยาทจ่ี ะใชใ นการนนั้ ดว ย (5) จดั ใหฉ ลากทภี่ าชนะและหบี หอบรรจยุ าตามทกี่ าํ หนดไวใ นมาตรา 25 (3) คงมีอยคู รบถว น (6) ทาํ บญั ชยี าท่ีซ้อื และขายตามทกี่ าํ หนดในกฎกระทรวง (7) การอน่ื ตามทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง *ความในวรรคหน่งึ ใหใ ชบงั คับแกผูรับอนุญาตซ่ึงไดร บั ใบอนญุ าตขายยาตามมาตรา 15 (4) และ (5) โดยอนโุ ลม *[มาตรา 26 แกไขโดยพระราชบัญญตั ิยา(ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2522 และความในวรรคทาย ของ มาตรา 26 แกไ ขโดยพระราชบญั ญตั ิยา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 26 ทว*ิ ใหผูรับอนุญาตขายสงยาแผนปจ จบุ ันปฏบิ ตั ิตามมาตรา 26 วรรคหนึง่ โดย อนุโลม เวนแตไมต องจดั ใหม ที ่เี ปน สวนสดั สาํ หรบั ปรงุ ยาตาม (4) *[มาตรา 26 ทวิ เพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญตั ิยา(ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530] มาตรา 27* ใหผ รู บั อนุญาตนําหรือสั่งยาแผนปจจุบันเขา มาในราชอาณาจักรปฏบิ ัตดิ งั ตอ ไปน้ี (1) จดั ใหมีปาย ณ ทเี่ ปด เผยหนาสถานทนี่ าํ หรือสงั่ ยาเขามาในราชอาณาจักรท่ีระบไุ วใ น ใบอนญุ าตซ่ึงเหน็ ไดงา ยจากภายนอกอาคาร คอื (ก) ปา ยแสดงวา เปน สถานทนี่ าํ หรอื ส่งั ยาเขามาในราชอาณาจกั ร (ข) ปา ยแสดงชอื่ ตวั ชื่อสกลุ และวทิ ยฐานะของผมู หี นาท่ปี ฏิบตั กิ ารและเวลาท่ีปฏบิ ตั กิ าร ท้งั น้ี วตั ถทุ ี่ใชท าํ ปา ย ลักษณะ สี ขนาดของปาย ขนาดของตวั อักษร และขอความท่แี สดงในปาย ใหเปน ไปตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง (2) ในเวลานําเขาตอ งจดั ใหม ใี บรบั รองของผผู ลติ แสดงรายละเอียด การวิเคราะหย าทน่ี ําหรอื สั่ง เขามาในราชอาณาจกั ร ซ่ึงตองเกบ็ รกั ษาไวไ มน อ ยกวาหา ป ใบรบั รองของผูผลิตถา เปนภาษาตา งประเทศตองมีคาํ แปลเปนภาษาไทยดว ย และมฉี ลากตามท่ีกําหนดไวใ นมาตรา 25 (3) ทีภ่ าชนะและหีบหอ บรรจยุ า เวนแตค วาม ใน (ฉ) ใหระบชุ ื่อเมืองและประเทศทต่ี ั้งสถานทีผ่ ลิตยาแทนชอ่ื จงั หวัด (3) กอ นนาํ ยาออกขายตอ งจดั ใหฉ ลากทภ่ี าชนะและหีบหอ บรรจุยามีลกั ษณะและขอความ ครบถวน ตามทกี่ าํ หนดไวใ นมาตรา 25 (3) เวน แตค วามใน (ฉ) ใหระบชุ ่ือเมืองและประเทศทตี่ งั้ สถานทผี่ ลิตยา แทนช่ือจงั หวดั และใหระบชุ ือ่ ของผูนาํ หรอื สง่ั ยาเขา มาในราชอาณาจกั รและจงั หวดั ท่ตี ้ังสถานที่นําหรือสัง่ ยาไว ดวย (4) ใชฉลากและเอกสารกาํ กับยาตามท่ไี ดข ึน้ ทะเบยี นตาํ รบั ยาไว และขอ ความในฉลากและ เอกสารกาํ กับยาตองอานไดช ดั เจน เอกสารกาํ กับยา ถาเปนภาษาตางประเทศตอ งมคี าํ แปลเปน ภาษาไทยดว ย
(5) จัดใหมคี าํ เตือนการใชย าไวใ นฉลากและทเี่ อกสารกาํ กับยา สาํ หรบั ยาทรี่ ัฐมนตรปี ระกาศ ตามมาตรา 76 (9) คําเตือนการใชยาถาเปน ภาษาตางประเทศตองมคี าํ แปลเปนภาษาไทยดว ยในกรณที ่ีฉลากมี เอกสารกํากับยาอยดู ว ย คําเตือนการใชย าจะแสดงไวท สี่ ว นใดสวนหนง่ึ ของฉลากหรอื เอกสารกาํ กบั ยากไ็ ด (6) ทาํ บญั ชยี าทนี่ าํ หรอื ส่ังเขา มาในราชอาณาจักร และทขี่ าย และเกบ็ ยาตวั อยางทนี่ าํ หรือส่ังเขา มาในราชอาณาจกั ร ท้ังนี้ ตามทกี่ ําหนดในกฎกระทรวง (7) การอ่นื ตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง ในกรณยี าทน่ี าํ เขา ตาม (2) หรือยาทจี่ ะนาํ ออกขายตาม (3) บรรจุในภาชนะที่มีขนาดเล็กจนไม อาจแสดงฉลากทีม่ ขี อ ความตามมาตรา 25 (3) ไดท ง้ั หมด ใหผูร ับอนญุ าตนาํ หรือส่ังยาแผนปจ จุบนั เขามาใน ราชอาณาจกั รไดรับ ยกเวน ไมตอ งแสดงขอ ความตามมาตรา 25 (3) (ค) (ง) (จ) (ฉ) (ช) (ฌ) หรอื (ญ) ขอใดขอ หนึ่งหรอื ท้งั หมดเม่ือไดร บั อนุญาตจากผอู นุญาตแลว *[มาตรา 27 แกไ ขโดยพระราชบญั ญัตยิ า(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 27 ทว*ิ ยาแผนปจจบุ ันท่ีนาํ หรือสงั่ เขามาในราชอาณาจกั ร จะตอ งผา นการตรวจสอบ ของพนักงานเจา หนา ที่ ณ ดา นนําเขา การตรวจสอบของพนกั งานเจา หนาทใ่ี หเ ปน ไปตามหลกั เกณฑแ ละวธิ ีการที่กาํ หนดใน กฎกระทรวง *[มาตรา 27 ทวิ เพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญัติยา(ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 28 ในกรณีใบอนญุ าตสูญหายหรือถกู ทาํ ลายในสาระสําคญั ใหผ ูรับอนุญาตแจง ตอผู อนญุ าตและยนื่ คําขอรบั ใบแทนใบอนุญาตภายในสิบหา วนั นบั แตว ันทไ่ี ดทราบถึงการสูญหายหรอื ถกู ทําลาย ดังกลา ว การขอรบั ใบแทนใบอนญุ าตและการออกใบแทนใบอนญุ าต ใหเปน ไปตามหลกั เกณฑ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง มาตรา 29 * ผูรบั อนญุ าตตองแสดงใบอนญุ าตของตนและของเภสชั กร ผปู ระกอบวชิ าชพี เวช กรรม ผูประกอบโรคศลิ ปะแผนปจ จุบนั ชน้ั หนึง่ ในสาขาทันตกรรม การผดงุ ครรภหรอื การพยาบาล หรือ ผูประกอบการบําบัดโรคสัตวต ดิ ไว ณ ทเ่ี ปดเผยเหน็ ไดงา ยท่ีสถานท่ผี ลิตยา สถานทขี่ ายยา หรือสถานทน่ี าํ หรอื สงั่ ยาเขา มาในราชอาณาจักร แลว แตก รณี *[มาตรา 29 แกไ ขโดยพระราชบญั ญตั ยิ า (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 30 หา มมใิ หผูร ับอนญุ าตยา ยสถานที่ผลติ ยา สถานทีข่ ายยา สถานทน่ี าํ หรอื สง่ั ยาเขามา ในราชอาณาจกั รหรอื สถานทีเ่ กบ็ ยา เวนแตจะไดร บั อนญุ าตจากผูอนญุ าต การขออนญุ าตและการอนญุ าต ใหเ ปนไปตามหลกั เกณฑ วธิ ีการ และเง่ือนไขทีก่ าํ หนดใน กฎกระทรวง มาตรา 31 หามมใิ หผรู บั อนญุ าตผลิตยาแผนปจ จุบันในสถานทผ่ี ลิตยาในระหวา งท่ีเภสัชกรไม อยูป ฏบิ ตั ิหนาทีใ่ นสถานที่ดงั กลา ว
มาตรา 32 หา มมใิ หร ับอนุญาตขายยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ ในระหวา งทเี่ ภสชั กรหรอื ผูประกอบการบําบัดโรคสตั วไมอยปู ฏบิ ัตหิ นาท่ี มาตรา 33* เม่อื ผูรบั อนุญาตประสงคจะเปลี่ยนผูมหี นาทปี่ ฏบิ ตั ิการ ตาม มาตรา 38 มาตรา 39 มาตรา 40 มาตรา 40 ทวิ มาตรา 41 มาตรา 42 มาตรา 43 หรือมาตรา 44 ใหแ จง เปน หนงั สอื ใหผ อู นุญาตทราบ และจะเปลย่ี นตัวไดเมอื่ ไดรับอนุญาตจากผูอ นุญาต ในกรณผี ูรบั อนุญาตไมมผี ูมหี นาที่ปฏิบตั กิ ารดังกลาวในวรรคหนงึ่ ใหผ รู ับอนุญาตแจง เปน หนงั สอื ใหผอู นญุ าตทราบภายในเจ็ดวนั นบั แตว นั ที่ไมม ผี ูมีหนาทีป่ ฏบิ ัติการน้ัน *[มาตรา 33 วรรคหนึ่ง แกไ ขโดยพระราชบัญญตั ิยา(ฉบบั ที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 33 ทว*ิ ในกรณีผมู ีหนาท่ปี ฏบิ ัตกิ ารในสถานทผ่ี ลิตยา สถานท่ี ขายยา หรอื สถานทน่ี ํา หรือสัง่ ยาเขา มาในราชอาณาจกั รไมอ าจปฏิบตั หิ นา ท่ไี ดเ ปนการชั่วคราวไมเกนิ หกสบิ วัน ใหผ ูร ับอนุญาตจัดใหผู มีคุณสมบัติเชน เดยี วกบั ผูมหี นาทีป่ ฏิบัตกิ ารในสถานทน่ี ้นั ๆ เขา ปฏิบัติหนา ทแ่ี ทนได โดยใหผ ูรบั อนญุ าตแจง เปนหนังสอื ตอ ผอู นุญาตกอ น และใหถือวา ผปู ฏบิ ัติหนา ทีแ่ ทนเปน ผูมหี นาที่ปฏิบตั กิ ารตามมาตรา 38 มาตรา 39 มาตรา 40 มาตรา 40 ทวิ มาตรา 41 มาตรา 42 มาตรา 43 หรือมาตรา 44 แลวแตก รณี การแจง เปน หนังสอื ตามวรรคหน่ึง ใหเ ปน ไปตามระเบยี บท่คี ณะกรรมการกําหนด *[มาตรา 33 ทวิ เพม่ิ เติมโดยพระราชบัญญตั ยิ า(ฉบบั ท่ี 3) (รก.2522/79/29 พ.) พ.ศ. 2522 และ แกไ ขโดยพระราชบัญญัตยิ า (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 34* ผูมีหนา ทปี่ ฏบิ ตั กิ ารตามมาตรา 38 มาตรา 39 มาตรา 40 มาตรา 40 ทวิ มาตรา 41 มาตรา 42 มาตรา 43 หรือ มาตรา 44 ซง่ึ ประสงคจะไมป ฏิบัตหิ นาที่ตอไป ตองแจงเปน หนังสือใหผ ูอนญุ าตทราบ ไมเ กนิ เจ็ดวันนับแตว ันที่พน หนาท่ี *[มาตรา 34 แกไ ขโดยพระราชบญั ญตั ยิ า(ฉบบั ที่ 5) พ.ศ. 2530] มาตรา 35 ผรู ับอนุญาตผูใ ดเลิกกจิ การที่ไดร บั อนุญาตตามพระราชบัญญตั ิน้ี ตองแจงการเลิก กิจการเปน หนงั สอื ใหผูอนุญาตทราบไมเ กนิ สบิ หาวนั นับแตวนั เลิกกจิ การ และใหถอื วา ใบอนุญาตหมดอายุตง้ั แต วนั เลกิ กิจการตามท่ีแจงไวน นั้ มาตรา 36 ผรู ับอนุญาตซึง่ ไดแจง การเลกิ กจิ การจะขายยาของตนทีเ่ หลอื อยูแ กผูร บั อนญุ าตอนื่ หรือแกผ ซู ่งึ ผอู นุญาตเห็นสมควรไดภ ายในเกา สิบวนั นบั แตวนั เลกิ กจิ การ เวนแตผ อู นญุ าตจะผอนผันขยาย ระยะเวลาดงั กลา วให มาตรา 37 ถา ผูรับอนุญาตตายและมีบคุ คลผซู ่ึงมีคุณสมบัตอิ าจเปนผรู ับอนุญาตไดตาม พระราชบญั ญตั ิน้ี แสดงความจํานงตอ ผูอ นุญาตภายในสามสบิ วันนับแตวนั ทผ่ี รู ับอนุญาตตาย เพื่อขอดาํ เนิน กจิ การทผ่ี ตู ายไดรับอนญุ าตนนั้ ตอไปกใ็ หผ แู สดงความจาํ นงนั้นดาํ เนินกิจการตอ ไปไดจนกวาใบอนุญาตสิน้ อายุ ในกรณีเชนวา นีใ้ หถือวาผแู สดงความจํานงเปนผูรับอนุญาตตามพระราชบญั ญัตินต้ี ง้ั แตว นั ผรู บั อนุญาตตาย
หมวด 4* หนา ทข่ี องเภสชั กร ผูประกอบวชิ าชพี เวชกรรม ผปู ระกอบโรคศลิ ปะแผนปจจุบัน ชั้นหนึ่งในสาขาทนั ตกรรม การผดุงครรภห รือการพยาบาล หรือผปู ระกอบการบําบัดโรคสตั ว --------- มาตรา 38* ใหเ ภสัชกรช้นั หน่ึงตามมาตรา 20 ประจําอยู ณ สถานท่ีผลิตยาตลอดเวลาท่ีเปด ทํา การ และใหม หี นาทป่ี ฏบิ ัตดิ งั ตอ ไปน้ี (1) ควบคมุ การผลิตยาใหเ ปน ไปโดยถกู ตอ งตามตํารบั ยาทีไ่ ดข ึ้นทะเบยี นไวตามมาตรา 79 (2) ควบคมุ การปฏบิ ัตเิ กย่ี วกบั ฉลากและเอกสารกาํ กบั ยาตามมาตรา 25 (3) (4) และ (5) (3) ควบคุมการแบง บรรจุยาและการปดฉลากทภี่ าชนะและหบี หอบรรจยุ าใหเ ปน ไปโดยถกู ตอง ตามพระราชบญั ญตั ินี้ (4) ควบคมุ การขายยาใหเ ปน ไปตามมาตรา 39 (5) ควบคุมการทําบญั ชียาและการเก็บยาตวั อยางตามมาตรา 25 (6) (6) การอน่ื ตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง *[ความในหมวด 4 และมาตรา 38 แกไขโดยพระราชบญั ญัติยา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก. 2522/79/29 พ.)] มาตรา 39* ใหเภสชั กรช้ันหนึ่งตามมาตรา 21 ประจาํ อยู ณ สถานทีข่ ายยาแผนปจ จบุ นั ตลอดเวลาทเี่ ปดทาํ การ และใหม หี นาทีป่ ฏิบัติดังตอ ไปน้ี (1) ควบคุมการแยกเก็บยาตามมาตรา 26 (2) และ (3) (2) ควบคมุ การปฏบิ ตั ิเก่ยี วกบั ฉลากตามมาตรา 26 (5) (3) ควบคมุ การขายยาใหเ ปน ไปตามพระราชบัญญัตนิ ้ี (4) ปรุงยาในทท่ี ่ผี ูรบั อนุญาตขายยาไดจ ัดไวต ามมาตรา 26 (4) (5) จดั ใหม ีฉลากทภ่ี าชนะและหบี หอ บรรจยุ าทป่ี รุงตามใบสัง่ ยาของผปู ระกอบวชิ าชพี เวช กรรม ผปู ระกอบโรคศิลปะแผนปจ จบุ นั หรอื ผูประกอบการบําบดั โรคสตั ว ท้ังนี้ ตามหลกั เกณฑ วธิ กี าร และ เงือ่ นไขที่กาํ หนดในกฎกระทรวง (6) ควบคมุ การสง มอบยาอนั ตราย ยาควบคมุ พเิ ศษ หรอื ยาตามใบสงั่ ยาของผปู ระกอบวชิ าชพี เวชกรรม ผปู ระกอบโรคศลิ ปะแผนปจ จุบนั หรือผปู ระกอบการบําบดั โรคสัตว (7) ควบคมุ การทําบญั ชียาตามมาตรา 26 (6) (8) การอ่นื ตามทีก่ าํ หนดในกฎกระทรวง *[มาตรา 39 แกไ ขโดยพระราชบญั ญตั ยิ า (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 40 ใหเภสชั กรช้ันสองตามมาตรา 21 ปฏิบตั ติ ามมาตรา 39 เชน เดยี วกบั เภสชั กร ชัน้ หนึ่ง เวนแตใ นสว นท่เี กย่ี วกับการปรงุ การขาย และการสงมอบยาควบคุมพเิ ศษจะกระทํามไิ ด
มาตรา 40 ทว*ิ ใหเ ภสชั กรชน้ั หนึ่งตามมาตรา 21 ทวิ ประจําอยู ณ สถานที่ขายสง ยาแผน ปจ จบุ ันหรือสถานท่เี กบ็ ยาตลอดเวลาท่เี ปด ทําการ และใหม ีหนา ท่ปี ฏบิ ตั ิดังตอไปนี้ (1) ควบคมุ การแยกเก็บยาตามมาตรา 26 (2) และ (3) (2) ควบคมุ การปฏิบตั ิเกีย่ วกบั ฉลากตามมาตรา 26 (5) (3) ควบคุมการทาํ บัญชยี าตามมาตรา 26 (6) (4) ควบคุมการขายสง ยาแผนปจ จุบนั (5) การอน่ื ตามทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง *[มาตรา 40 ทวิ เพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญัตยิ า (ฉบบั ท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 41* ใหเ ภสัชกรชัน้ หนง่ึ เภสัชกรช้ันสอง ผปู ระกอบวิชาชพี เวชกรรม หรือผปู ระกอบ โรคศลิ ปะแผนปจ จุบนั ชนั้ หนึ่งในสาขาทันตกรรม การผดุงครรภหรอื การพยาบาลตามมาตรา 22 ประจาํ อยู ณ สถานท่ีขายยาแผนปจจุบนั เฉพาะยาบรรจุเสรจ็ ที่ไมใ ชยาอันตรายหรือยาควบคมุ พิเศษ ตลอดเวลาท่เี ปด ทาํ การ และใหม ีหนา ทีป่ ฏบิ ตั ิดังตอไปน้ี (1) ควบคมุ การปฏบิ ตั ิเกยี่ วกบั ฉลากตามมาตรา 26 (5) (2) ควบคมุ มใิ หม กี ารแบง ขายยาบรรจเุ สรจ็ ตางไปจากสภาพเดมิ ท่ีผูผ ลิตไดผ ลติ ไว (3) ควบคมุ การทําบัญชยี าตามมาตรา 26 (6) (4) การอนื่ ตามท่กี าํ หนดในกฎกระทรวง *[มาตรา 41 แกไ ขโดยพระราชบญั ญตั ยิ า (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 42* ใหเ ภสัชกรช้ันหนงึ่ หรอื ผปู ระกอบการบาํ บดั โรคสตั วตามมาตรา 23 ประจํา อยู ณ สถานทข่ี ายยาแผนปจ จบุ นั เฉพาะยาบรรจุเสรจ็ สาํ หรับสตั วต ลอดเวลาท่เี ปดทาํ การ และใหมหี นา ทปี่ ฏบิ ตั ิ ดงั ตอ ไปน้ี (1) ควบคุมการแยกเกบ็ ยาตามมาตรา 26 (3) (2) ควบคมุ การปฏิบัตเิ ก่ยี วกบั ฉลากตามมาตรา 26 (5) (3) ควบคุมมใิ หม ีการแบงขายยาบรรจุเสรจ็ สาํ หรับสัตวต า งไปจากสภาพเดมิ ทผี่ ูผ ลติ ไดผ ลติ ไว (4) ควบคมุ การสงมอบยาบรรจเุ สรจ็ สําหรบั สัตวท เี่ ปนยาอันตราย หรอื ยาควบคมุ พิเศษ (5) ควบคุมการทาํ บัญชียาตามมาตรา 26 (6) (6) การอื่นตามที่กําหนดในกฎกระทรวง *[มาตรา 42 แกไ ขโดยพระราชบัญญัตยิ า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522] มาตรา 43 ใหเภสัชกรชน้ั สองหรอื ผปู ระกอบการบําบัดโรคสัตวช ้ันสองตามมาตรา 23 ปฏบิ ตั ิ ตามมาตรา 42 เชนเดยี วกับเภสชั กรชน้ั หนงึ่ หรือผปู ระกอบการบาํ บัดโรคสตั วช ้ันหน่งึ เวน แตในสวนทเ่ี กยี่ วกับ การควบคุม การสงมอบยาบรรจเุ สร็จสําหรับสัตวที่เปน ยาควบคมุ พเิ ศษจะกระทาํ มไิ ด มาตรา 44* ใหเ ภสัชกรชั้นหนึ่งตามมาตรา 24 ประจาํ อยู ณ สถานท่ีนําหรือสัง่ ยาเขามาใน ราชอาณาจักรหรอื สถานทเ่ี กบ็ ยาตลอดเวลาท่ีเปด ทาํ การ และใหม ีหนาท่ปี ฏบิ ตั ดิ งั ตอไปน้ี
(1) ควบคุมยาทนี่ ําหรือสัง่ เขามาในราชอาณาจกั รใหเ ปน ไปโดยถกู ตองตามตํารบั ยาทไี่ ดข ้นึ ทะเบียนไวต ามมาตรา 79 (2) ควบคมุ การปฏบิ ตั เิ กี่ยวกบั ฉลากตามมาตรา 27 (2) (3) และ (5) (3) ควบคมุ การปฏบิ ัติเกยี่ วกบั ใบรบั รองของผูผลิตแสดงรายละเอียด การวิเคราะหย าตาม มาตรา 27 (2) และเอกสารกาํ กับยาตามมาตรา 27(4) (4) ควบคมุ การขายยาใหเ ปน ไปตามมาตรา 39 (5) ควบคมุ การทําบัญชียาและการเกบ็ ยาตวั อยา งตามมาตรา 27(6) (6) ควบคมุ การนาํ หรอื สง่ั ยาเขา มาในราชอาณาจักร (7) ควบคุมการจดั เกบ็ ยาท่ีนาํ หรอื ส่งั เขา มาในราชอาณาจกั ร ณ สถานทเ่ี ก็บยา (8) การอื่นตามทก่ี าํ หนดในกฎกระทรวง *[มาตรา 44 แกไ ขโดยพระราชบญั ญตั ิยา(ฉบบั ท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 45* หา มมใิ หเภสชั กร ผูป ระกอบวชิ าชพี เวชกรรม ผปู ระกอบโรคศิลปะแผนปจ จบุ ัน ชัน้ หนึง่ ในสาขาทนั ตกรรม การผดงุ ครรภหรือการพยาบาล ผูประกอบการบําบัดโรคสัตว ปฏบิ ตั ิหนาทผี่ มู หี นา ที่ ปฏิบตั กิ ารในสถานทีผ่ ลิตยา สถานที่ขายยา หรอื สถานท่ีนําหรือสัง่ ยาเขา มาในราชอาณาจกั รโดยตนมไิ ดม ีช่อื เปน ผมู ีหนาทป่ี ฏิบตั ิการในสถานทีน่ ้นั *[มาตรา 45 แกไขโดยพระราชบญั ญตั ยิ า (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] หมวด 5 การขออนุญาตและออกใบอนุญาตเก่ยี วกบั ยาแผนโบราณ --------- มาตรา 46 หา มมิใหผ ใู ดผลติ ขาย หรือ นาํ หรอื สง่ั เขา มาในราชอาณาจกั รซง่ึ ยาแผนโบราณ เวน แตจะไดรับใบอนญุ าตจากผอู นุญาต การขออนุญาตและการอนญุ าต ใหเปนไปตามหลักเกณฑ วธิ ีการ และเงอื่ นไขทกี่ าํ หนดใน กฎกระทรวง มาตรา 47 บทบัญญัตมิ าตรา 46 ไมใ ชบ งั คบั แก (1) การผลติ ยาซึ่งผลิตโดยกระทรวง ทบวง กรม ในหนา ทป่ี อ งกัน หรือบาํ บัดโรค สภากาชาด ไทยและองคการเภสัชกรรม (2) การปรงุ ยาแผนโบราณตามตํารายาทร่ี ฐั มนตรปี ระกาศตามมาตรา 76 (1) โดยผูป ระกอบโรค ศิลปะแผนโบราณ เพ่ือขายเฉพาะสําหรบั คนไขข องตนหรือขายปลีก (2 ทวิ)* การขายยาแผนโบราณโดยผรู ับ อนุญาตขายยาแผนปจจุบนั ผูรับอนุญาตขายสง ยาแผนปจ จุบนั และผรู บั อนญุ าตขายยาแผนปจจบุ นั เฉพาะยา บรรจุเสร็จทไ่ี มใ ชยาอันตรายหรือยาควบคมุ พิเศษ (3) การขายยาสมุนไพรทไี่ มใ ชย าอนั ตรายหรือการขายยาสามัญประจาํ บาน
(4) การนํายาตดิ ตัวเขามาในราชอาณาจกั รซง่ึ ไมเกนิ จาํ นวนทจ่ี ําเปนจะตอ งใชเ ฉพาะตวั ได สามสบิ วนั และการนาํ หรอื ส่งั ยาเขา มาในราชอาณาจกั รโดยกระทรวง ทบวง กรม ในหนา ท่ีปองกนั หรอื บําบดั โรค สภากาชาดไทยและองคก ารเภสชั กรรม *[ความใน (2 ทวิ) ของมาตรา 47 เพิม่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ยิ า (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก. 2530/278/1 พ.)] มาตรา 48* ผอู นญุ าตจะออกใบอนญุ าตใหผ ลติ ขาย หรอื นาํ หรือส่ังเขามาในราชอาณาจักรซึง่ ยาแผนโบราณได เมือ่ ปรากฏวา ผูขออนญุ าต (1) เปน เจา ของกจิ การและเปน ผมู ที รพั ยสนิ หรอื ฐานะพอทจี่ ะต้งั และดําเนนิ กจิ การได (2) มอี ายไุ มต ่าํ กวายี่สิบปบ ริบูรณ (3) มีถนิ่ อยใู นประเทศไทย (4) ไมเ คยไดรบั โทษจําคกุ โดยคําพพิ ากษาถึงท่ีสดุ หรือคาํ สั่งที่ชอบดว ยกฎหมายใหจ าํ คุกใน ความผดิ ท่ีกฎหมายบญั ญตั ิใหถ อื เอาการกระทําโดยทุจรติ เปนองคประกอบ หรอื ในความผดิ ตามกฎหมายวาดว ย ยาเสพตดิ ใหโ ทษ กฎหมายวา ดวยวัตถทุ ีอ่ อกฤทธิต์ อจิตและประสาท กฎหมายวา ดว ยการขายยา หรอื พระราชบญั ญตั ิน้ี เวน แตพน โทษมาแลว ไมน อ ยกวา สองปก อนวนั ขอรับใบอนญุ าต (5) ไมเปนบคุ คลวกิ ลจรติ หรอื คนไรค วามสามารถ หรือคนเสมือนไรค วามสามารถ (6) ไมเปนโรคตามท่ีรัฐมนตรีประกาศกําหนดในราชกจิ จานุเบกษา (7) มีสถานทผี่ ลติ ยา สถานที่ขายยา สถานท่ีนําหรือส่ังยาเขามาในราชอาณาจักร หรอื สถานที่ เกบ็ ยา สะอาดและถกู สุขลกั ษณะ (8) ใชช่ือในการประกอบพาณชิ ยกจิ ไมซํา้ หรือคลายคลึงกับช่อื ท่ีใชในการประกอบพาณิชยกิจ ของผรู บั อนุญาตซึ่งอยูในระหวางถูกส่ังพกั ใชใบอนุญาต หรือซงึ่ ถกู เพิกถอนใบอนญุ าตยงั ไมค รบหนง่ึ ป (9) มีผทู ่ีจะปฏบิ ตั กิ ารตามมาตรา 68 มาตรา 69 หรือมาตรา 70 ผูมหี นาทปี่ ฏบิ ัตกิ ารตาม (9) ตอง อยูป ระจาํ ณ สถานทผ่ี ลิตยา สถานทข่ี ายยา หรือสถานท่นี ําหรอื สงั่ ยาเขามาในราชอาณาจักรไดแ ตเ พียงแหงเดียว ในกรณีนติ บิ ุคคลเปนผูขออนุญาต ผูจดั การหรอื ผแู ทนของนิตบิ ุคคลซ่ึงเปนผูดําเนนิ กิจการตอ ง มคี ณุ สมบตั ิตาม (2) และ (3) และไมมลี กั ษณะตองหามตาม (4) (5) หรือ (6) *[มาตรา 48 แกไขโดยพระราชบญั ญัตยิ า (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 49 ประเภทของใบอนญุ าตสาํ หรับยาแผนโบราณมดี งั น้ี (1) ใบอนญุ าตผลติ ยาแผนโบราณ (2) ใบอนญุ าตขายยาแผนโบราณ (3) ใบอนญุ าตนาํ หรือสั่งยาแผนโบราณเขามาในราชอาณาจกั ร ใหถอื วาผูไ ดร บั ใบอนุญาตตาม (1) หรอื (3) เปนผรู บั ใบอนุญาตตาม (2) สําหรบั ยาท่ีตนผลิต หรือ นําหรือสง่ั เขามาในราชอาณาจักรนน้ั ดว ย แลว แตกรณี มาตรา 50 ใบอนญุ าตทอี่ อกตามมาตรา 49 ใหคุม กนั ถงึ ลูกจางหรอื ตวั แทนของผรู ับอนุญาตดวย
ใหถอื วา การกระทาํ ของลกู จา งหรอื ตวั แทนของผูรบั อนญุ าตทไ่ี ดร ับการคุม กนั ตามวรรคหนง่ึ เปนการกระทาํ ของผรู บั อนุญาตดวย เวน แตผรู บั อนุญาตจะพสิ จู นไ ดว าการกระทําดังกลา ว เปน การสดุ วสิ ัยทตี่ น จะลวงรหู รอื ควบคุมได มาตรา 51* ใบอนญุ าตตามมาตรา 49 ใหใชไดจ นถงึ วนั ที่ 31 ธันวาคม ของปท อ่ี อกใบอนญุ าต ถา ผูรับอนญุ าตประสงคจ ะขอตอ อายใุ บอนญุ าตใหย น่ื คาํ ขอเสียกอนใบอนญุ าตสิ้นอายุ เมอ่ื ไดย่นื คาํ ขอดังกลา ว แลว จะประกอบกิจการตอ ไปกไ็ ด จนกวาผูอนุญาตจะสง่ั ไมตออายุใบอนุญาตนนั้ การขอตออายใุ บอนญุ าตและ การอนญุ าต ใหเปนไปตามหลักเกณฑ วิธกี าร และเง่อื นไขทกี่ าํ หนดในกฎกระทรวง ผูรบั อนุญาตซ่ึงใบอนุญาตของตนสิน้ อายุไมเกินหน่งึ เดอื น จะยืน่ คําขอผอนผันพรอ มดว ยแสดง เหตผุ ลขอตอ อายใุ บอนุญาตกไ็ ด แตก ารยนื่ คาํ ขอผอนผันนไี้ มเปน เหตใุ หพ น ผดิ สาํ หรบั การประกอบกิจการที่ได กระทําไปกอนขอตออายใุ บอนญุ าตซ่ึงถือวาเปน การประกอบกจิ การโดยใบอนญุ าตขาดอายุ การขอตอ อายใุ บอนุญาตเม่อื ลว งพนกําหนดเวลาหนึ่งเดือนนับแตว นั ทใี่ บอนญุ าตสน้ิ อายจุ ะ กระทาํ มิได *[มาตรา 51 แกไ ขโดยพระราชบัญญตั ิยา (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 52 ในกรณีผอู นญุ าตไมออกใบอนญุ าตหรือไมอนุญาตใหตอ อายุใบอนญุ าต ผูขอ อนุญาตหรอื ผขู อตอ อายุใบอนุญาตมสี ทิ ธอิ ทุ ธรณเปน หนงั สอื ตอ รัฐมนตรีภายในสามสบิ วนั นบั แตว นั ทไี่ ดร ับ หนังสือของผอู นุญาตแจง การไมออกใบอนุญาตหรือไมอ นญุ าตใหต อ อายใุ บอนุญาต คําวนิ ิจฉยั ของรัฐมนตรีใหเปน ท่ีสดุ ในกรณีผูอ นญุ าตไมอ นญุ าตใหต ออายใุ บอนุญาตผลติ ยาแผนโบราณ กอ นทร่ี ฐั มนตรจี ะมคี าํ วินิจฉยั อุทธรณตามวรรคสอง รัฐมนตรีมอี าํ นาจส่ังอนญุ าตใหประกอบกจิ การไปพลางกอ นได เมือ่ มคี าํ ขอของผู อทุ ธรณ หมวด 6 หนา ที่ของผูร บั อนญุ าตเกยี่ วกับยาแผนโบราณ --------- มาตรา 53* หา มมใิ หผรู บั อนุญาตผลิตหรอื ขายยาแผนโบราณนอกสถานท่ที กี่ ําหนดไวใน ใบอนุญาต เวน แตเปน การขายสง *[มาตรา 53 แกไ ขโดยพระราชบัญญัติยา (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 54* ผูรับอนุญาตผลิตยาแผนโบราณ ตองมผี ปู ระกอบโรคศลิ ปะแผนโบราณเปน ผูม ี หนาทปี่ ฏิบัตติ ามมาตรา 68 ประจําอยตู ลอดเวลาที่เปด ทาํ การ ผรู บั อนุญาตตามวรรคหน่งึ ซง่ึ ผลิตยาเกนิ หา สบิ ตาํ รับขนึ้ ไป ใหม จี าํ นวนผปู ระกอบโรคศิลปะ แผนโบราณเปน ผูมีหนาทีป่ ฏบิ ตั กิ ารตามมาตรา 68 ตามทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง *[มาตรา 54 แกไ ขโดยพระราชบัญญตั ิยา (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)]
มาตรา 54 ทว*ิ ผรู บั อนุญาตผลิตยาแผนโบราณซ่ึงผลติ ยาแผนโบราณ โดยวิธีตอกอดั เมด็ วิธี เคลอื บ หรอื วิธีอ่ืนอันคลา ยคลึงกัน และใชเ ภสัชเคมภี ณั ฑ หรอื เภสชั เคมีภณั ฑก ง่ึ สาํ เร็จรปู ในการตอกอดั เม็ด การ เคลือบ หรือการอ่นื อนั คลา ยคลงึ กนั รวมท้งั การใสวัตถกุ ันเสียลงในยาแผนโบราณ ตองปฏิบัตติ าม หลกั เกณฑ และวิธกี ารทก่ี าํ หนดในกฎกระทรวง *[มาตรา 54 ทวิ เพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญตั ิยา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 55* ผรู ับอนญุ าตขายยาแผนโบราณ ตองมผี ปู ระกอบโรคศิลปะแผนโบราณเปน ผูมี หนา ท่ปี ฏิบตั กิ ารตามมาตรา 69 ประจาํ อยตู ลอดเวลาทเ่ี ปด ทําการ *[มาตรา 55 แกไขโดยพระราชบญั ญัติยา (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 56* ผรู ับอนุญาตนาํ หรือส่งั ยาแผนโบราณเขามาในราชอาณาจกั รตองมผี ูประกอบโรค ศลิ ปะแผนโบราณเปนผมู หี นา ที่ปฏิบัตกิ ารตามมาตรา 70 ประจําอยู ณ สถานทีน่ ําหรอื สง่ั ยาแผนโบราณเขามาใน ราชอาณาจกั ร หรอื สถานทเ่ี กบ็ ยา ตลอดเวลาท่ีเปดทําการ *[มาตรา 56 แกไขโดยพระราชบญั ญัตยิ า (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 57* ใหผูรบั อนุญาตผลติ ยาแผนโบราณปฏบิ ตั ิดงั ตอ ไปน้ี (1) จดั ใหม ีปา ย ณ ท่เี ปด เผยหนา สถานท่ีผลิตยาทีร่ ะบุไวใ นใบอนญุ าต ซ่ึงเห็นไดง ายจาก ภายนอกอาคาร คอื (ก) ปา ยแสดงวา เปนสถานทผ่ี ลติ ยา (ข) ปายแสดงชอ่ื ตัวและชอ่ื สกลุ ของผมู หี นาทีป่ ฏบิ ตั กิ ารและเวลาทป่ี ฏิบัติการ ท้ังน้ี วัตถทุ ใี่ ชท าํ ปาย ลักษณะ สี ขนาดของปาย ขนาดของตัวอักษร และขอความที่แสดงในปา ย ใหเ ปน ไปตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง (2) จดั ใหม ีฉลากตามทข่ี ้ึนทะเบียนตํารับยาผนึกไวทภี่ าชนะและหบี หอบรรจุยาทีผ่ ลติ ข้ึน และ ในฉลากตองแสดง (ก) ชอ่ื ยา (ข) เลขทหี่ รอื รหสั ใบสําคัญการขน้ึ ทะเบยี นตํารับยา (ค) ปริมาณของยาท่บี รรจุ (ง) เลขทีห่ รืออกั ษรแสดงครั้งที่ผลติ ยา (จ) ช่อื ผผู ลิตและจงั หวดั ทต่ี งั้ สถานทีผ่ ลิตยา (ฉ) วนั เดอื น ป ท่ผี ลติ ยา (ช) คําวา \"ยาแผนโบราณ\" ใหเ หน็ ไดชัด (ซ) คําวา \"ยาใชภ ายนอก\" หรือ \"ยาใชเฉพาะที่\" แลวแตก รณี ดวยอกั ษรสีแดงเหน็ ไดช ัด ใน กรณีเปนยาใชภ ายนอกหรือยาใชเฉพาะท่ี (ฌ) คาํ วา \"ยาสามัญประจําบาน\" ในกรณีเปนยาสามัญประจาํ บา น (ญ) คําวา \"ยาสาํ หรบั สตั ว\" ในกรณีเปนยาสําหรับสตั ว
(3) ใหฉ ลากและเอกสารกาํ กบั ยาตามที่ไดข น้ึ ทะเบยี นตํารับยาไวแ ละขอ ความในฉลากและ เอกสารกาํ กบั ยาตองอา นไดช ดั เจน เอกสารกํากบั ยาถา เปน ภาษาตางประเทศตองมีคาํ แปลภาษาไทยดวย (4) ทําบญั ชยี าที่ผลติ และขายตามทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง (5) การอ่นื ตามที่กําหนดในกฎกระทรวง *ในกรณีภาชนะบรรจยุ ามีขนาดเล็กจนไมอ าจแสดงฉลากที่มขี อ ความตาม (2) ไดท ั้งหมด ให ผูร บั อนุญาตผลติ ยาแผนโบราณไดรบั ยกเวน ไมตองแสดงขอความตาม (2) (ค) (ง) (จ) (ช) (ซ) (ฌ) หรือ (ญ) ขอ ใดขอหนึง่ หรอื ท้ังหมด เมื่อไดรับอนญุ าตจากผอู นญุ าตแลว ในกรณีเปน ยาทผ่ี ลิตเพื่อสง ออกไปนอกราชอาณาจักร ขอความในฉลากและเอกสารกาํ กับยา ตอ งระบุช่อื ช่อื ประเทศไทยดว ย สว นขอ ความอนื่ หากประสงคจ ะขอยกเวน ตองไดรบั อนญุ าตจากผอู นญุ าต กอน และมใิ หน ําความใน (2) (ช) (ซ) และ (ฌ) มาใชบ ังคับ *[มาตรา 57 แกไ ขโดยพระราชบัญญตั ยิ า (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.) และความ ในวรรคสองของมาตรา 57 แกไขโดยพระราชบญั ญัตยิ า (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530(รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 58* ใหผูร บั อนุญาตขายยาแผนโบราณปฏบิ ตั ดิ ังตอ ไปนี้ (1) จัดใหมปี าย ณ ท่ีเปด เผยหนา สถานทข่ี ายยาท่ีระบุไวใ นใบอนญุ าต ซึง่ เหน็ ไดง า ยจาก ภายนอกอาคาร คือ (ก) ปายแสดงวาเปน สถานท่ีขายยา (ข) ปา ยแสดงช่ือตวั และช่ือสกลุ ของผูมีหนา ทป่ี ฏิบัติการและเวลาทปี่ ฏิบัติการ ท้งั น้ี วตั ถุทีใ่ ชท ําปาย ลักษณะ สี ขนาดของปาย ขนาดของตวั อกั ษร และขอความท่ีแสดงใน ปา ย ใหเ ปน ไปตามท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง (2) จดั ใหฉลากท่ีภาชนะและหีบหอบรรจยุ าตามที่กาํ หนดในมาตรา 57 (2) คง มีอยูครบถว น (3) การอื่นตามท่กี ําหนดในกฎกระทรวง *[มาตรา 58 แกไขโดยพระราชบัญญตั ยิ า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 59* ใหผ รู บั อนุญาตนําหรอื สั่งยาแผนโบราณเขามาในราชอาณาจักรปฏบิ ัติดงั ตอ ไปน้ี (1) จดั ใหม ปี า ย ณ ท่ีเปด เผยหนา สถานที่นาํ หรอื สง่ั ยาเขามาในราชอาณาจักรทร่ี ะบไุ วใ น ใบอนุญาตซึ่งเหน็ ไดง า ยจากภายนอกอาคาร คอื (ก) ปายแสดงวา เปน สถานที่นาํ หรอื สัง่ ยาเขามาในราชอาณาจกั ร (ข) ปา ยแสดงชื่อตวั และชอ่ื สกุลของผมู หี นาที่ปฏบิ ัตกิ ารและเวลาทีป่ ฏบิ ัติการ ทง้ั น้ี วัตถทุ ่ใี ชท ําปาย ลกั ษณะ สี ขนาดของปา ย ขนาดของตัวอกั ษร และขอความท่ีแสดงในปาย ใหเปน ไปตามทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง (2) ในเวลานาํ เขา ตองจัดใหม ฉี ลากตามท่กี ําหนดไวในมาตรา 57 (2) ที่ภาชนะและหบี หอบรรจยุ า เวนแตความใน (จ) ใหระบชุ อ่ื เมืองและประเทศท่ตี ง้ั สถานที่ ผลติ ยาแทนชอ่ื จังหวดั
(3) กอ นนํายาออกขายตอ งจดั ใหฉลากทภี่ าชนะและหบี หอ บรรจยุ ามีลักษณะ และขอความ ครบถวนตามท่กี าํ หนดไวใ นมาตรา 57 (2) เวน แตค วามใน (จ) ใหระบชุ อ่ื เมอื งและประเทศทตี่ ง้ั สถานทีผ่ ลิตยา แทนชื่อจงั หวดั และใหระบชุ ื่อของผูน าํ หรอื สั่งยาเขา มาในราชอาณาจกั ร และจงั หวดั ท่ีต้งั สถานท่ีนําหรอื ส่ังยาไว ดว ย (4) ใชฉลากและเอกสารกาํ กับยาตามทไ่ี ดข ้นึ ทะเบยี นตาํ รับยาไว และขอ ความในฉลากและ เอกสารกํากบั ยาตองอา นไดช ดั เจน เอกสารกํากับยา ถา เปนภาษาตา งประเทศตอ งมีคาํ แปลเปนภาษาไทยดว ย (5) ทําบัญชยี าที่นําหรือส่งั เขา มาในราชอาณาจกั รและทข่ี าย และเก็บยาตัวอยา งทน่ี าํ หรือส่ังเขา มาในราชอาณาจักร ท้งั นี้ตามทีก่ าํ หนดในกฎกระทรวง (6) การอืน่ ตามท่กี ําหนดในกฎกระทรวง ในกรณียาทน่ี าํ เขา ตาม (2) หรอื ยาทจี่ ะนําออกขายตาม (3) บรรจุในภาชนะทีม่ ีขนาดเลก็ จนไม อาจแสดงฉลากท่มี ขี อ ความตามมาตรา 57 (2) ไดท ง้ั หมด ใหผ รู ับอนญุ าตนาํ หรือสง่ั ยาแผนโบราณเขา มาใน ราชอาณาจักรไดรับยกเวน ไมต อ งแสดงขอ ความตามมาตรา 57 (2) (ค) (ง) (จ) (ช) (ซ) (ฌ) หรือ (ญ) ขอ ใดขอ หนง่ึ หรอื ท้ังหมดเมือ่ ไดรับอนญุ าตจากผอู นุญาตแลว *[มาตรา 59 แกไ ขโดยพระราชบญั ญัตยิ า (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 59 ทว*ิ ยาแผนโบราณท่นี าํ หรือสั่งเขามาในราชอาณาจักรจะตอ งผานการตรวจสอบของ พนักงานเจา หนาท่ี ณ ดานนาํ เขาการตรวจสอบของพนกั งานเจาหนาที่ใหเปนไปตามหลกั เกณฑแ ละวธิ ีการที่ กาํ หนดในกฎกระทรวง *[มาตรา 59 ทวิ เพ่ิมเติมโดยพระราชบญั ญัติยา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 60 ในกรณใี บอนุญาตสูญหายหรอื ถูกทาํ ลายในสาระสาํ คัญ ใหผ รู ับอนุญาตแจงตอ ผู อนญุ าตและยน่ื คําขอรบั ใบแทนใบอนุญาตภายในสบิ หา วนั นับแตว นั ท่ไี ดทราบถงึ การสญู หายหรอื ถูกทําลาย ดงั กลาว การขอรบั ใบแทนใบอนญุ าตและการออกใบแทนใบอนญุ าต ใหเปนไปตามหลักเกณฑ วิธกี าร และเงือ่ นไขทกี่ ําหนดในกฎกระทรวง มาตรา 61 ผรู ับอนญุ าตตอ งแสดงใบอนญุ าตของตนและของผูประกอบโรคศลิ ปะแผน โบราณ ติดไว ณ ทเี่ ปด เผยเหน็ ไดง า ยทส่ี ถานท่ีผลติ ยา สถานทีข่ ายยา หรอื สถานทน่ี ําหรอื สั่งยาเขามาใน ราชอาณาจักร แลวแตก รณี มาตรา 62 หามมิใหผ ูรบั อนญุ าตยา ยสถานทีผ่ ลติ ยา สถานท่ขี ายยา สถานทน่ี าํ หรอื สง่ั ยาเขา มา ในราชอาณาจกั รหรือสถานท่ีเกบ็ ยา เวนแตจะไดร บั อนญุ าตจากผูอนญุ าต การขออนญุ าตและการอนญุ าต ใหเปนไปตามหลักเกณฑ วธิ กี าร และเงื่อนไขทีก่ าํ หนดใน กฎกระทรวง มาตรา 63 เม่อื ผูรับอนญุ าตประสงคจะเปล่ยี นตวั ผูมีหนา ที่ปฏิบัติการตามมาตรา 68 มาตรา 69 หรอื มาตรา 70 ใหแจงเปน หนงั สอื ใหผูอนญุ าตทราบและจะเปล่ียนตวั ไดเม่ือไดร ับอนญุ าตจากผูอนญุ าต
ในกรณีผรู ับอนุญาตไมมีผมู หี นาที่ปฏบิ ัติการดังกลา วในวรรคหนง่ึ ใหผ รู บั อนุญาตแจงเปน หนังสอื ใหผ อู นุญาตทราบภายในเจ็ดวนั นบั แตวนั ทไ่ี มม ผี ูมหี นาทป่ี ฏิบตั กิ ารน้นั มาตรา 63 ทว*ิ ในกรณีทผ่ี ูม ีหนาท่ีปฏบิ ตั กิ ารในสถานทีผ่ ลติ ยา สถานท่ขี ายยา หรอื สถานทน่ี ํา หรอื สง่ั ยาเขามาในราชอาณาจักร ไมอ าจปฏิบตั ิหนาท่ไี ดเ ปนการช่ัวคราวไมเกนิ หกสิบวัน ใหผูรับอนญุ าตจดั ใหผ ู มคี ุณสมบตั ิเชน เดียวกบั ผมู หี นาท่ีปฏิบัติการในสถานท่ีนั้น ๆ เขา ปฏิบตั หิ นา ท่แี ทนได โดยใหผรู บั อนุญาตแจง เปน หนงั สือตอ ผอู นญุ าตกอ น และใหถือวา ผูปฏบิ ัตหิ นาทแ่ี ทนเปนผมู หี นาทป่ี ฏิบตั กิ ารตามมาตรา 68 มาตรา 69 หรอื มาตรา 70 แลวแตก รณี การแจงเปน หนังสือตามวรรคหนงึ่ ใหเปนไปตามระเบยี บทค่ี ณะกรรมการกําหนด *[มาตรา 63 ทวิ เพม่ิ เติมโดยพระราชบัญญัติยา (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 64 ผมู ีหนาท่ปี ฏิบตั กิ ารตามมาตรา 68 มาตรา 69 หรอื มาตรา 70 ประสงคจะไมป ฏิบตั ิ หนาทต่ี อ ไป ตอ งแจงเปนหนงั สือใหผูอนุญาตทราบไมเ กนิ เจด็ วันนบั แตว นั ทีพ่ น หนาที่ มาตรา 65 ผรู ับอนุญาตผูใ ดเลกิ กจิ การทไี่ ดร บั อนุญาตตามพระราชบัญญตั ิน้ี ตองแจงการเลิก กิจการเปน หนงั สอื ใหผอู นุญาตทราบไมเกนิ สิบหา วันนับแตวนั เลกิ กจิ การ และใหถ ือวา ใบอนุญาตหมดอายตุ ้งั แต วันเลกิ กิจการตามทแี่ จง ไวน นั้ มาตรา 66 ผรู ับอนุญาตซึง่ ไดแ จงการเลกิ กจิ การจะขายยาของตนทีเ่ หลอื อยแู กผูร ับอนญุ าตอน่ื หรอื แกผ ูซ่ึงผอู นญุ าตเห็นสมควรไดภ ายในเกาสบิ วนั นบั แตว นั เลกิ กจิ การ เวนแตผอู นุญาตจะผอนผนั ขยาย ระยะเวลาดงั กลาวให มาตรา 67 ถาผูรบั อนุญาตตายและมีบคุ คลซึ่งมีคณุ สมบัตอิ าจเปน ผรู บั อนุญาตไดตาม พระราชบญั ญัติน้ี แสดงความจาํ นงตอ ผอู นญุ าตภายในสามสิบวัน นบั แตว นั ทผ่ี ูรบั อนญุ าตตายเพอื่ ขอดําเนิน กจิ การทีผ่ ูตายไดรบั อนญุ าตน้ันตอไป กใ็ หผ แู สดงความจาํ นงน้นั ดาํ เนนิ กิจการตอไปไดจนกวา ใบอนญุ าตสนิ้ อายุ ในกรณเี ชนวา น้ี ใหถ ือวาผแู สดงความจาํ นงเปน ผูร ับอนญุ าตตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ตั้งแตว นั ผรู บั อนญุ าตตาย หมวด 7 หนาที่ของผูประกอบโรคศลิ ปะแผนโบราณ --------- มาตรา 68* ใหผ ูประกอบโรคศิลปะแผนโบราณตามมาตรา 54 ประจาํ อยู ณ สถานทผ่ี ลิตยา ตลอดเวลาทเ่ี ปดทําการ และใหม หี นาทป่ี ฏบิ ัตดิ ังตอ ไปนี้ (1) ควบคุมการผลติ ยาใหเปน ไปโดยถกู ตอ งตามตํารับยาทีไ่ ดข้นึ ทะเบยี นไวต ามมาตรา 79 (2) ควบคมุ การปฏิบตั เิ กี่ยวกบั ฉลากและเอกสารกาํ กับยาตามมาตรา 57 (2) และ (3) (3) ควบคุมการแบง บรรจแุ ละปด ฉลากตามภาชนะและหบี หอบรรจยุ า ใหเปนไปโดยถกู ตอ ง ตามพระราชบญั ญัตนิ ี้
(4) ควบคมุ การขายยาใหเปน ไปตามมาตรา 69 (5) ควบคุมการทําบญั ชยี าตามมาตรา 57 (4) (6) การอนื่ ตามทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง *[มาตรา 68 แกไ ขโดยพระราชบัญญัติยา (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 69* ใหผูประกอบโรคศิลปะแผนโบราณตามมาตรา 55 ประจาํ อยู ณ สถานทขี่ ายยา ตลอดเวลาทเี่ ปด ทําการ และใหม หี นาท่ีปฏบิ ตั ิ ดงั ตอ ไปน้ี (1) ควบคุมการปฏิบัตเิ กีย่ วกบั ฉลากตามมาตรา 58 (2) (2) ควบคุมการขายยาใหเ ปน ไปตามพระราชบัญญัติน้ี (3) การอ่นื ตามท่กี าํ หนดในกฎกระทรวง *[มาตรา 69 แกไ ขโดยพระราชบัญญัตยิ า (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 70*ใหผ ูประกอบโรคศิลปะแผนโบราณตามมาตรา 56 ประจําอยู ณ สถานที่นาํ หรอื สั่ง ยาเขา มาในราชอาณาจักร หรือสถานที่เก็บยา ตลอดเวลาทีเ่ ปดทําการ และใหมหี นาทปี่ ฏบิ ัติดังตอ ไปนี้ (1) ควบคมุ ยาทน่ี าํ หรอื สัง่ เขามาในราชอาณาจกั รใหถ ูกตองตามตาํ รบั ยาทีไ่ ดข ้นึ ทะเบียนไวต าม มาตรา 79 (2) ควบคุมการปฏิบตั เิ ก่ียวกบั ฉลากตามมาตรา 59 (2) (3) ควบคุมการปฏบิ ัติเกีย่ วกบั เอกสารกํากบั ยาตามมาตรา 59 (4) (4) ควบคุมการขายยาใหเ ปน ไปตามมาตรา 69 (5) ควบคุมการทาํ บัญชียาตามมาตรา 59 (5) (6) ควบคุมการนาํ หรือสั่งยาเขามาในราชอาณาจักร (7) ควบคมุ การจัดเกบ็ ยาทีน่ าํ หรอื สง่ั เขามาในราชอาณาจกั ร ณ สถานท่ีเกบ็ ยา (8) การอืน่ ตามทีก่ าํ หนดในกฎกระทรวง *[มาตรา 70 แกไขโดยพระราชบัญญตั ยิ า (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 71* หา มมใิ หผปู ระกอบโรคศิลปะแผนโบราณปฏบิ ัติหนาที่ ผูมีหนาท่ีปฏบิ ัตกิ ารใน สถานทผ่ี ลิตยา สถานท่ขี ายยา หรอื สถานทีน่ ําหรือส่ังยาเขามาในราชอาณาจกั รโดยตนมไิ ดม ชี อ่ื เปน ผูมีหนาที่ ปฏิบัตกิ ารในสถานที่น้นั *[มาตรา 71 แกไขโดยพระราชบญั ญัตยิ า (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522] หมวด 8 ยาปลอม ยาผิดมาตรฐาน ยาเสอื่ มคุณภาพ --------------------------- มาตรา 72* หามมิใหผ ูใดผลติ ขาย หรอื นําหรอื ส่ังเขามาในราชอาณาจกั รซึง่ ยาตอ ไปนี้
(1) ยาปลอม (2) ยาผดิ มาตรฐาน (3) ยาเส่อื มคุณภาพ (4) ยาที่มไิ ดข นึ้ ทะเบยี นตาํ รบั ยา (5) ยาท่ที ะเบยี นตํารบั ยาถูกยกเลกิ สาํ หรับผรู ับอนญุ าตผลติ ยาและ ผรู บั อนุญาตใหนาํ หรือสงั่ ยา เขามาในราชอาณาจักร หรือยาทีท่ ะเบยี นตาํ รบั ยาถูกยกเลิกเกนิ หกเดอื น สําหรบั ผูร ับอนญุ าตขายยา (6) ยาทรี่ ฐั มนตรีสั่งเพกิ ถอนทะเบียนตํารบั ยา ความใน (4) ไมใ ชบ ังคับแกก ระทรวง ทบวง กรม ในหนา ทปี่ อ งกัน หรือบาํ บดั โรค สภากาชาด ไทย และองคการเภสัชกรรม *[มาตรา 72 แกไขโดยพระราชบญั ญัติยา (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 73 ยาหรือวัตถตุ อ ไปนีเ้ ปน ยาปลอม (1) ยาหรือวัตถุท่ที ําเทียมทั้งหมดหรอื แตบ างสว นวา เปน ยาแท (2) ยาท่แี สดงชอื่ วา เปน ยาอน่ื หรือแสดงเดอื น ป ที่ยาสน้ิ อายุ ซึ่งมิใชค วามจรงิ (3) ยาทแ่ี สดงชื่อหรือเครื่องหมายของผผู ลติ หรอื ทตี่ ้งั สถานทผ่ี ลติ ยา ซงึ่ มิใชความจรงิ (4)* ยาทแี่ สดงวาเปน ยาตามตํารบั ยาที่ขนึ้ ทะเบียนไว ซ่ึงมิใช ความจรงิ (5)* ยาที่ผลิตขึ้นไมถ ูกตอ งตามมาตรฐานถึงขนาดท่ีปริมาณหรือความแรงของสารออกฤทธข์ิ าด หรอื เกนิ กวารอ ยละยี่สบิ จากเกณฑต่ําสุดหรอื สูงสดุ ซึง่ กาํ หนดไวใ นตํารับยาท่ขี ึน้ ทะเบยี นไวต ามมาตรา 79 *[ความใน (4) และ (5) ของมาตรา 73 แกไ ขโดยพระราชบัญญตั ิยา (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก. 2522/79/29 พ.)] มาตรา 74* ยาตอ ไปนเ้ี ปน ยาผดิ มาตรฐาน (1) ยาท่ีผลิตขน้ึ ไมถูกตองตามมาตรฐานโดยปริมาณหรือความแรง ของสารออกฤทธ์ิขาดหรือ เกินจากเกณฑต ่ําสุดหรอื สงู สดุ ที่กาํ หนดไวใ นตาํ รับยาทข่ี ้นึ ทะเบยี นไวต ามมาตรา 79 แตไ มถงึ ขนาดดังกลาวใน มาตรา 73 (5) (2) ยาทผ่ี ลิตขึ้นโดยความบรสิ ุทธ์ิหรอื ลกั ษณะอื่นซง่ึ มีความสาํ คัญตอคุณภาพของยาผดิ ไปจาก เกณฑท ีก่ าํ หนดไวใ นตาํ รบั ยาท่ีขนึ้ ทะเบยี นไวต ามมาตรา 79 หรอื ตาํ รับยาท่รี ฐั มนตรสี งั่ แกไขทะเบยี นตาํ รบั ยา แลวตามมาตรา 86 ทวิ *[มาตรา 74 แกไขโดยพระราชบญั ญตั ยิ า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 75 ยาตอ ไปน้ีเปนยาเสอื่ มคุณภาพ (1) ยาท่ีสิ้นอายุตามที่แสดงไวใ นฉลาก (2) ยาท่แี ปรสภาพจนมีลกั ษณะเชน เดยี วกนั กบั ยาปลอม ตามมาตรา 73(5) หรือยาผิดมาตรฐาน ตามมาตรา 74
มาตรา 75 ทว*ิ หา มมิใหผใู ดขายยาบรรจเุ สร็จหลายขนานโดยจดั เปนชดุ ในคราวเดยี วกนั โดยมี เจตนาใหผ ูซื้อใชร วมกนั เพอ่ื บําบดั บรรเทารักษา หรือปองกนั โรค หรืออาการของโรคใดโรคหน่งึ โดยเฉพาะ ความในวรรคหนงึ่ ไมใ ชบ งั คับแกเภสชั กรช้นั หนง่ึ ผปู ระกอบวชิ าชีพเวชกรรม หรือผูป ระกอบ โรคศลิ ปะในสาขาทันตกรรมซึ่งขายเฉพาะสําหรับคนไขข องตน และผปู ระกอบการบําบัดโรคสัตวซึง่ ขาย สําหรบั สัตวซ่งึ ตนบําบัด *[มาตรา 75 ทวิ เพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ิยา (ฉบบั ท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] หมวด 9 การประกาศเกย่ี วกบั ยา ------------------------ มาตรา 76* ใหร ฐั มนตรีมีอาํ นาจประกาศในราชกจิ จานุเบกษา ระบุ (1) ตํารายา (2) วตั ถทุ ีเ่ ปน ยา (3) ยาที่เปน อนั ตราย (4) ยาทเี่ ปนยาควบคุมพิเศษ (5) ยาท่เี ปนยาสามัญประจําบาน (6) ยาทีเ่ ปน ยาแผนโบราณ (7) ยาท่ีตองแจง กําหนดสนิ้ อายุไวใ นฉลาก (8) อายกุ ารใชข องยาบางชนดิ (9) ยาที่ตอ งแจง คําเตือนการใชยาไวใ นฉลากและทีเ่ อกสารกํากบั ยาและขอ ความของคําเตอื น ในกรณที ร่ี ฐั มนตรีไดประกาศกาํ หนดอายกุ ารใชของยาชนิดใดไว ตาม (8) หากผรู บั อนุญาตราย ใดสามารถพิสจู นหรอื ทดสอบโดยมีหลกั ฐานแจง ชดั จากการวิจยั วายาชนดิ นน้ั ของตนอาจมอี ายกุ ารใชไ ดเ กนิ กวา อายุการใชทร่ี ฐั มนตรีประกาศกาํ หนด ก็ใหร ฐั มนตรีโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการมีอาํ นาจขยายอายุการ ใชของยาชนดิ น้ันใหแกผูรบั อนญุ าตท่ีนาํ พสิ ูจนหรอื ทดสอบไดนน้ั เปนการเฉพาะรายไดโดยประกาศในราช กจิ จานเุ บกษา *[มาตรา 76 แกไขโดยพระราชบญั ญตั ยิ า (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 77 ใหร ฐั มนตรมี อี ํานาจประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาระบโุ รคหรอื อาการของโรคท่ีหาม โฆษณายาวา สามารถใชบ ําบัด บรรเทา รกั ษาหรอื ปอ งกนั โรคหรืออาการของโรคนัน้ ได มาตรา 77 ทว*ิ เพ่อื ประโยชนแหง การคุม ครองสวัสดิภาพของประชาชน รฐั มนตรโี ดย คาํ แนะนําของคณะกรรมการมอี ํานาจกาํ หนดจาํ นวนสถานท่ขี ายยาทจ่ี ะอนญุ าตใหต งั้ ในทอ งทีใ่ ดทอ งทห่ี นง่ึ ได โดยประกาศในราชกจิ จานุเบกษา *[มาตรา 77 ทวิ เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตยิ า (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)]
มาตรา 77 ตรี* เพือ่ ประโยชนในการควบคุมยาทีน่ ําหรอื สงั่ เขามาในราชอาณาจกั ร รฐั มนตรมี ี อํานาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากาํ หนดดานนาํ เขาได *[มาตรา 77 ตรี เพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญตั ยิ า (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 78 ประกาศของรัฐมนตรตี ามหมวดนี้ ใหก ระทาํ ไดเมือ่ ไดร บั คาํ แนะนําจาก คณะกรรมการ หมวด 10 การขึ้นทะเบยี นตาํ รบั ยา --------- มาตรา 79* ผูรับอนุญาตผลติ ยา หรอื ผูร บั อนญุ าตใหน าํ หรือส่งั ยาเขามาในราชอาณาจกั ร ผใู ด ประสงคจ ะผลติ หรือนาํ หรอื สง่ั เขา มาในราชอาณาจกั รซ่งึ ยาแผนปจจุบนั หรือยาแผนโบราณ ตองนาํ ตาํ รบั ยาน้ัน มาขอขน้ึ ทะเบยี นตอ พนักงานเจาหนาท่ี และเมื่อไดรับใบสาํ คญั การขึ้นทะเบยี นตาํ รบั ยา แลวจงึ จะผลติ ยา หรือนาํ หรือสง่ั ยานน้ั เขามาในราชอาณาจักรได *[มาตรา 79 แกไขโดยพระราชบัญญตั ิยา (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 79 ทว*ิ บทบัญญัตมิ าตรา 79 ไมใชบ งั คับแก (1) ยาทเี่ ปนเภสัชเคมีภัณฑ หรอื เภสัชเคมภี ณั ฑก ่ึงสําเรจ็ รปู ซงึ่ มิใชย าบรรจุเสรจ็ (2) ยาสมนุ ไพร (3) ยาตัวอยา งท่ีไดรบั อนญุ าตใหผ ลิต หรือนําหรอื ส่งั เขามาในราชอาณาจกั รเพ่ือขอขนึ้ ทะเบยี น ตํารับยา ตามหลักเกณฑ วธิ กี าร และเงือ่ นไขท่กี าํ หนดในกฎกระทรวง (4)* ยาทไ่ี ดรบั อนุญาตใหนาํ หรือส่ังเขา มาในราชอาณาจกั รตามหลกั เกณฑ วธิ ีการ และเงื่อนไข ที่รฐั มนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกาศกําหนดในราชกจิ จานเุ บกษา *[มาตรา 79 ทวิ เพิม่ เติมโดยพระราชบัญญัตยิ า (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.) และ ความใน (4) แกไ ขโดยพระราชบัญญัติยา (ฉบบั ที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 80 การขอขนึ้ ทะเบียนตาํ รับยาตามมาตรา 79 ตอ งแจงรายละเอยี ดดังตอไปน้ี (1) ชอ่ื ยา (2) ชื่อและปรมิ าณของวตั ถอุ ันเปน สว นประกอบของยา (3) ขนาดบรรจุ (4) วธิ วี ิเคราะหมาตรฐานของยาแผนปจจบุ นั ในกรณที ่ใี ชว ธิ วี เิ คราะหนอกตํารายาท่รี ฐั มนตรี ประกาศ (5) ฉลาก (6) เอกสารกํากบั ยา (7) รายการอ่นื ตามทกี่ ําหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 81 การแกรายการทะเบยี นตํารบั ยา จะกระทําไดเ มือ่ ไดรับอนุญาตจากพนกั งานเจา หนา ท่ี มาตรา 82 การขอขนึ้ ทะเบยี นหรอื แกร ายการทะเบยี นตาํ รับยา และการออกใบสําคัญการขึน้ ทะเบยี นหรอื แกรายการทะเบยี นตํารับยาใหเ ปน ไปตามหลกั เกณฑ วิธกี ารและเงอ่ื นไขทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง มาตรา 83* หา มมิใหพ นักงานเจา หนา ทร่ี ับขนึ้ ทะเบยี นตาํ รบั ยาเมอ่ื คณะกรรมการเห็นวา (1) เปนยาท่รี ะบใุ นมาตรา 72 (1) หรือ (6) (2) การขอขน้ึ ทะเบียนตาํ รบั ยาไมเ ปน ไปตามมาตรา 80 และมาตรา 82 (3) ยาทีข่ อขึ้นทะเบียนตามตาํ รับยาน้ัน ไมส ามารถเชอื่ ถือในสรรพคณุ ได หรืออาจไมป ลอดภยั แกผูใช (4) เปนยาท่ใี ชช ื่อไปในทาํ นองโออ วด ไมส ุภาพ หรอื อาจทําใหเขา ใจผดิ จากความจรงิ (5) ยาทใ่ี ชชอ่ื ไมเ หมาะสมกบั วัฒนธรรมอนั ดีงามของไทย หรอื สอไปในทางทาํ ลายคณุ คา ของ ภาษาไทย คําสัง่ ไมร ับขึ้นทะเบยี นตาํ รบั ยาของพนักงานเจาหนา ที่ใหเ ปนท่ีสดุ *[มาตรา 83 แกไ ขโดยพระราชบญั ญตั ยิ า (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 84 บทบัญญตั มิ าตรา 83 ใหใ ชบงั คบั แกการแกร ายการทะเบยี นตํารับยาโดยอนุโลม มาตรา 85* ใหผ รู ับอนญุ าตผลติ ยา หรือผรู บั อนุญาตนาํ หรือสั่งยาเขา มาในราชอาณาจกั รสง รายงานประจาํ ปเ กยี่ วกับการผลติ หรือนําหรือสงั่ ยาเขามาในราชอาณาจกั รซ่งึ ยาทีไ่ ดขน้ึ ทะเบยี นตํารบั ยาไวแ ตละ ตํารับ ตามแบบทก่ี าํ หนดในกฎกระทรวง ภายในวนั ท่ี 31 มนี าคม ของปถ ดั ไป ยาที่ไดข้นึ ทะเบียนตํารับยาไวแลวตาํ รบั ใดมิไดมีการผลิต หรือนําหรือส่งั เขา มาในราชอาณาจกั ร เปนเวลาสองปต ิดตอ กัน ใหท ะเบยี นตํารบั ยาน้นั เปน อนั ยกเลกิ *[มาตรา 85 แกไ ขโดยพระราชบญั ญัตยิ า (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 86* ยาใดทีไ่ ดขนึ้ ทะเบยี นตาํ รับยาไวแ ลว หากภายหลังปรากฏวายาน้นั ไมม ีสรรพคณุ ตามท่ีข้นึ ทะเบียนไว หรืออาจไมปลอดภยั แกผูใ ช หรอื เปนยาปลอมตามมาตรา 72 (1) หรือยานน้ั ไดเ ปลยี่ นไป เปนวตั ถุทมี่ ุงหมายสําหรับใชเ ปน อาหารหรือเคร่ืองสําอาง โดยไดรับใบอนญุ าตผลิตเพือ่ จาํ หนา ยซงึ่ อาหารที่ ควบคมุ เฉพาะหรือไดรับใบสาํ คญั การข้นึ ทะเบยี นเครอื่ งสําอางตามกฎหมายวาดว ยการนน้ั ใหรัฐมนตรโี ดย คาํ แนะนําของคณะกรรมการมีอาํ นาจสั่งใหเ พิกถอนทะเบยี นตาํ รบั ยานนั้ ได การเพกิ ถอนใหก ระทาํ โดยประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา คาํ สง่ั ของรัฐมนตรีใหเ ปน ทสี่ ุด *[มาตรา 86 แกไขโดยพระราชบัญญตั ยิ า (ฉบบั ท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 86 ทว*ิ เพอื่ คุมครองความปลอดภยั ของผูใ ชย า ใหร ัฐมนตรีโดยคาํ แนะนําของ คณะกรรมการมอี ํานาจสัง่ แกไ ขทะเบยี นตํารบั ยาทไ่ี ดข ้นึ ทะเบยี นไวแ ลว ไดตามทเี่ หน็ สมควรหรือตามความ จาํ เปน *[มาตรา 86 ทวิ เพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญตั ิยา (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)]
มาตรา 87 ในกรณใี บสาํ คัญการข้นึ ทะเบยี นตํารบั ยาสญู หายหรอื ถกู ทําลายในสาระสาํ คัญ ให ผูร ับอนุญาตแจงตอ พนักงานเจา หนาท่ีและย่นื คาํ ขอรบั ใบแทนใบสําคญั การขนึ้ ทะเบยี นตาํ รับยาภายในสิบหา วัน นับแตว ันที่ไดท ราบถึงการสูญหายหรือถูกทาํ ลายดงั กลา ว การขอรับใบแทนใบสําคัญการข้นึ ทะเบยี นตาํ รบั ยาและการออกใบแทนใบสําคญั ใหเ ปน ไปตาม หลกั เกณฑ วธิ ีการ และเงือ่ นไขท่ีกําหนดในกฎกระทรวง หมวด 11 การโฆษณา --------- มาตรา 88 การโฆษณาขายยาจะตอง (1) ไมเปน การโออ วดสรรพคณุ ยาหรือวัตถอุ นั เปน สวนประกอบของยาวาสามารถบําบดั บรรเทา รกั ษาหรือปองกนั โรคหรอื ความเจบ็ ปว ยไดอยางศักดสิ์ ิทธหิ์ รือหายขาด หรือใชถอ ยคาํ อืน่ ใดท่มี ี ความหมายทาํ นองเดียวกนั (2) ไมแสดงสรรพคณุ ยาอนั เปนเทจ็ หรอื เกนิ ความจรงิ (3) ไมทําใหเขา ใจวา มวี ัตถุใดเปนตวั ยาหรอื เปน สวนประกอบของยา ซงึ่ ความจริงไมมีวัตถุหรอื สว นประกอบน้นั ในยา หรือมแี ตไมเ ทาทีท่ าํ ใหเ ขาใจ (4) ไมทาํ ใหเ ขา ใจวาเปนยาทาํ ใหแ ทงลกู หรอื ยาขับระดอู ยา งแรง (5) ไมท ําใหเ ขา ใจวาเปนยาบาํ รงุ กามหรอื ยาคุมกาํ เนดิ (6) ไมแสดงสรรพคณุ ยาอันตรายหรอื ยาควบคมุ พิเศษ (7) ไมมีการรบั รองหรือยกยอ งสรรพคณุ ยาโดยบคุ คลอนื่ (8) ไมแ สดงสรรพคณุ ยาวา สามารถบาํ บัด บรรเทา รกั ษาหรือปองกนั โรค หรอื อาการของโรคที่ รฐั มนตรีประกาศตามมาตรา 77 *ความใน (5) และ (6) ไมใ ชบ งั คับแกขอ ความในฉลากหรือเอกสารกาํ กบั ยาและความใน (1) (4) (5) (6) (7) และ (8) ไมใ ชบ งั คบั แกการโฆษณาซ่ึงกระทําโดยตรงตอ ผปู ระกอบโรคศลิ ปะ ผปู ระกอบวชิ าชีพ เวชกรรมหรอื ผปู ระกอบการบาํ บดั โรคสัตว *[ความในวรรคทา ยของมาตรา 88 แกไ ขโดยพระราชบญั ญตั ิยา (ฉบบั ท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก. 2530/278/1 พ.)] มาตรา 88 ทว*ิ การโฆษณาขายยาทางวิทยุกระจายเสยี ง เครือ่ งขยายเสยี ง วทิ ยโุ ทรทศั น ทางฉาย ภาพหรอื ภาพยนตร หรือทางสิ่งพมิ พจะตอ ง (1) ไดรบั อนุมตั ิขอ ความ เสียง หรอื ภาพทีใ่ ชในการโฆษณาจากผูอนญุ าต (2) ปฏิบตั ติ ามเงอ่ื นไขทผี่ อู นญุ าตกําหนด *[มาตรา 88 ทวิ เพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญตั ิยา (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)]
มาตรา 89 หา มมใิ หโฆษณาขายยาโดยไมส ภุ าพ หรือโดยการรอ งราํ ทําเพลง หรือแสดงความ ทุกขท รมานของผูปว ย มาตรา 90 หา มมิใหโฆษณาขายยาโดยวธิ แี ถมพกหรอื ออกสลากรางวลั มาตรา 90 ทว*ิ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยามอี ํานาจส่งั เปน หนงั สอื ใหร ะงบั การ โฆษณาขายยาที่เห็นวา เปน การโฆษณาโดยฝาฝน พระราชบัญญตั ินไี้ ด *[มาตรา 90 ทวิ เพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญัตยิ า (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] หมวด 12 พนกั งานเจาหนา ท่ี --------- มาตรา 91* ในการปฏิบัตหิ นา ท่ี ใหพ นักงานเจา หนาที่มอี ํานาจ ดงั น้ี (1) เขา ไปในสถานท่ีผลิตยา สถานทข่ี ายยา สถานท่นี ําหรือสงั่ ยาเขามาในราชอาณาจกั ร หรอื สถานที่เก็บยา ในระหวางเวลาทําการ เพอื่ ตรวจสอบควบคมุ ใหการเปน ไปตามพระราชบัญญัติน้ี (2) นาํ ยาในปรมิ าณพอสมควรไปเปน ตวั อยา งเพือ่ ตรวจสอบหรือวเิ คราะห (3) ในกรณที ม่ี เี หตอุ ันควรสงสยั วา มีการกระทาํ ความผดิ ตามพระราชบัญญตั ินอ้ี าจเขา ไปใน สถานทีใ่ ด ๆ เพื่อตรวจสอบยาและอาจยดึ หรอื อายดั ยา และเครอื่ งมอื เครือ่ งใชท่ีเกีย่ วของกบั การกระทําความผิด ตลอดจนภาชนะหรือหบี หอบรรจุยา และเอกสารท่เี กีย่ วกับยาดงั กลา วได (4) ประกาศผลการตรวจสอบหรือวิเคราะหคุณภาพของยา ท่นี ําไป ตรวจสอบหรือวเิ คราะหตาม (2) ใหป ระชาชนทราบ โดยไดรบั ความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการ ทั้งน้ี เพ่อื ประโยชนแ กก ารคุม ครองความ ปลอดภัยของผูใ ชยา (5) ในกรณีทป่ี รากฏตอ พนกั งานเจา หนา ที่วา ยาใดเปน ยาท่ีไมปลอดภัยแกผ ูใชย า หรืออาจเปน อนั ตรายตอผใู ชย า ใหพนกั งานเจาหนาที่มอี ํานาจเรียกเกบ็ หรอื สง่ั ใหผูรับอนญุ าตผลิตยา ผรู ับอนญุ าตขายยา หรอื ผูรบั อนุญาตนาํ หรือสั่งยาเขามาในราชอาณาจกั ร จดั เก็บยาดังกลาวของตนคืนภายในระยะเวลาท่ีพนกั งาน เจาหนา ทกี่ ําหนด และมอี ํานาจทําลายยาดงั กลาวเสยี ได ทั้งน้ี ตามหลกั เกณฑแ ละวิธีการทกี่ ําหนดในกฎกระทรวง ในการปฏิบตั กิ ารของพนักงานเจาหนาทต่ี ามวรรคหนึ่ง ใหผ รู ับอนุญาตและบรรดาผมู ีหนา ที่ เกีย่ วขอ งกบั การผลิตยา การขายยา หรอื การนําหรอื ส่งั ยาเขามาในราชอาณาจักรในสถานที่ดงั กลา วอาํ นวยความ สะดวกใหต ามควรแกก รณี *[มาตรา 91 แกไขโดยพระราชบญั ญตั ิยา (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 92 ในการปฏิบัตกิ ารตามหนาท่พี นกั งานเจา หนา ทีต่ องแสดงบตั รประจําตัวเมื่อบุคคลซง่ึ เกี่ยวขอ งรองขอ บตั รประจําตวั พนกั งานเจา หนาท่ใี หเปนไปตามแบบท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง
มาตรา 93 ยารวมท้งั ภาชนะหรอื หีบหอ บรรจยุ าและเอกสารทไ่ี ดย ึดไวต ามมาตรา 91 ถาไม ปรากฏเจาของ หรอื พนักงานอัยการสั่งเด็ดขาดไมฟองคดี หรือศาลไมพ พิ ากษาใหรบิ และผูเ ปน เจา ของหรอื ผู ครอบครองมไิ ดรองขอรบั คนื ภายในเกาสบิ วนั นบั แตว ันที่ยึด หรือวนั ทที่ ราบคาํ สั่งเดด็ ขาดไมฟ องคดี หรือวันที่ ศาลพพิ ากษาถงึ ทส่ี ดุ แลว แตก รณี ใหตกเปน ของกระทรวงสาธารณสขุ ถา ส่งิ ทยี่ ดึ ไวน นั้ เปน ของเสยี งา ย หรอื ถาหนว งชา ไวจะเปน การเสย่ี งความเสยี หาย หรือจะเสีย คาใชจ า ยในการเกบ็ รกั ษาเกนิ ราคาตลาดของยา พนกั งานเจา หนา ที่จะจัดการขายทอดตลาด ยานั้นรวมท้งั ภาชนะ หรือหบี หอ บรรจยุ าและเอกสารเสยี กอ นถึงกาํ หนดก็ได ไดเงนิ จํานวนสุทธิเทา ใดใหย ดึ เงินนัน้ ไวแ ทน มาตรา 94 ในการปฏิบตั กิ ารตามพระราชบญั ญตั ินี้ ใหพ นกั งานเจาหนา ที่เปน เจาพนักงานตาม ประมวลกฎหมายอาญา หมวด 13 การพกั ใชใ บอนญุ าตและการเพกิ ถอนใบอนุญาต --------- มาตรา 95 เมือ่ ปรากฏตอ ผูอ นุญาตวา ผรู บั อนญุ าตผูใดไมป ฏบิ ัตติ ามพระราชบญั ญตั นิ ีห้ รอื กฎกระทรวงทอ่ี อกตามพระราชบญั ญัติน้ี ผูอนุญาตโดยคาํ แนะนําของคณะกรรมการมอี ํานาจสง่ั พกั ใชใบอนญุ าต ไดโดยมกี ําหนดครั้งละไมเกนิ หนึ่งรอ ยยส่ี ิบวนั หรอื ในกรณมี กี ารฟองผูร บั อนุญาตตอศาลวา ไดก ระทาํ ความผิด ตามพระราชบญั ญัติน้ี จะสงั่ พกั ใชใบอนุญาตไวรอคําพพิ ากษาอันถงึ ทส่ี ุดก็ได ผูรับอนญุ าตซึ่งถูกสั่งพกั ใชใ บอนุญาตตองหยดุ การผลติ ยา การขายยาหรอื การนาํ หรอื สั่งยาเขา มาในราชอาณาจักร แลว แตก รณี และระหวางถกู สงั่ พกั ใชใบอนญุ าตนน้ั จะขอรับใบอนุญาตใด ๆ ตาม พระราชบญั ญัตนิ ีอ้ ีกไมได มาตรา 96 เม่อื ปรากฏตอ ผอู นญุ าตวาผูรบั อนญุ าตขาดคณุ สมบตั ิตามมาตรา 14 หรือมาตรา 48 ผู อนุญาตโดยคําแนะนาํ ของคณะกรรมการมอี าํ นาจส่งั เพกิ ถอนใบอนญุ าตได ผูร บั อนญุ าตซ่ึงถูกเพกิ ถอนใบอนญุ าตตองหยุดการผลิตยา การขายยาหรือการนําหรือสงั่ ยาเขา มาในราชอาณาจักร แลว แตก รณี และจะขอรบั ใบอนญุ าตใด ๆ ตามพระราชบญั ญัติน้ีอีกไมไดจ นกวาจะพน สองป นับแตว นั ทถี่ กู เพกิ ถอนใบอนญุ าตและผูอนุญาตจะออกใบอนญุ าตใหห รือไมก ็ได สุดแตจะพิจารณาเหน็ สมควร มาตรา 97 คาํ ส่งั พกั ใชใ บอนญุ าตและคาํ ส่ังเพกิ ถอนใบอนุญาตใหท ําเปนหนังสอื แจง ใหผ ูรบั อนุญาตทราบ และในกรณไี มพ บตัวผูถูกส่งั หรือผูถกู สั่งไมย อมรับคําส่งั ดังกลาว ใหปด คาํ สัง่ ไว ณ ทเ่ี ปด เผยเห็น ไดงา ยทสี่ ถานทผ่ี ลิตยา สถานท่ขี ายยา หรอื สถานทนี่ าํ หรือส่ังยาเขา มาในราชอาณาจกั ร และใหถ อื วาผูรับอนุญาต ไดทราบคาํ สงั่ นนั้ แลว ตั้งแตว นั ที่ปด คาํ ส่ัง คาํ สั่งพกั ใชใ บอนญุ าตและคาํ ส่งั เพกิ ถอนใบอนุญาตจะโฆษณาในหนงั สือพมิ พ หรอื โดยวธิ อี ่ืน อกี ดวยกไ็ ด
มาตรา 98 ผอู นุญาตโดยคําแนะนาํ ของคณะกรรมการมอี าํ นาจสง่ั ถอนคําสง่ั พักใชใบอนญุ าต กอนกําหนดเวลาได เมือ่ เปน ทีพ่ อใจวา ผรู บั อนุญาต ซง่ึ ถกู ส่ังพักใชใบอนุญาตไดปฏิบตั กิ ารตามพระราชบญั ญตั ิ นี้ หรอื กฎกระทรวง ซ่งึ ออกตามพระราชบญั ญัตินีแ้ ลว มาตรา 99 ผูรับอนุญาตซึง่ ถกู สั่งพักใชใ บอนญุ าตหรอื เพิกถอนใบอนญุ าตมีสทิ ธิอุทธรณตอ รัฐมนตรภี ายในสามสิบวนั นบั แตวนั ทที่ ราบคาํ ส่ังรฐั มนตรีมอี ํานาจส่งั ใหยกอุทธรณห รือใหแ กไขคําส่งั ของผู อนุญาตในทางทีเ่ ปนคุณแกผ ูอุทธรณไ ด คําวินิจฉยั ของรัฐมนตรีใหเปน ที่สุด การอทุ ธรณตามวรรคหนึ่งยอ มไมเปน การทเุ ลาการบงั คบั ตามคาํ สั่งพักใชใ บอนุญาตหรือคําสัง่ เพกิ ถอนใบอนญุ าต มาตรา 100 ผถู ูกเพกิ ถอนใบอนญุ าตจะขายยาของตนที่เหลืออยูแกผ รู ับอนุญาตอ่นื หรอื แกผ ซู ่งึ ผอู นุญาตเหน็ สมควรไดภายในหกสิบวันนบั แตวนั ทไ่ี ดทราบคําสั่งเพิกถอนใบอนุญาตหรือวันทไี่ ดท ราบคํา วินจิ ฉยั ของรฐั มนตรี เวนแตผ ูอนญุ าตจะผอ นผันขยายระยะเวลาดงั กลาวให หมวด 14 บทกาํ หนดโทษ -------- มาตรา 101 ผูใดฝาฝนมาตรา 12 ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหาปแ ละปรับไมเกนิ หนึ่งหม่ืนบาท มาตรา 102* ผรู ับอนุญาตผูใ ดฝาฝน มาตรา 19 หรอื มาตรา 30 ตอ งระวางโทษปรบั ตงั้ แตสองพนั บาทถึงหา พันบาท *[มาตรา 102 แกไขโดยพระราชบญั ญตั ิยา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 103* ผรู ับอนญุ าตผใู ดไมปฏบิ ตั ิตามมาตรา 20 มาตรา 21 มาตรา 21 ทวิ มาตรา 22 มาตรา 23 หรอื มาตรา 24 ตองระวางโทษจาํ คุกไมเ กนิ สามเดอื น หรอื ปรบั ไมเ กินหาพันบาท หรอื ทั้งจาํ ทั้ง ปรับ และใหป รบั เปน รายวนั อกี วนั ละหา รอ ยบาทจนกวา จะปฏบิ ตั ใิ หถูกตอ ง *[มาตรา 103 แกไ ขโดยพระราชบัญญตั ยิ า (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 104* ผรู บั อนญุ าตผใู ดผลติ ยาหรือขายยา หรอื นาํ หรอื ส่งั ยาเขา มาในราชอาณาจกั ร ภายหลังที่ใบอนุญาตสิน้ อายแุ ลว โดยมไิ ดย น่ื คาํ ขอตออายใุ บอนุญาตตอ งระวางโทษปรบั เปนรายวนั วนั ละหน่งึ รอ ยบาทตลอดเวลาท่ีใบอนญุ าตขาดอายุ *[มาตรา 104 แกไ ขโดยพระราชบญั ญัติยา (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 105* ผรู ับอนญุ าตผูใดไมป ฏบิ ตั ิตามมาตรา 25 มาตรา 26 มาตรา 26 ทวิ หรือมาตรา 27 ตองระวางโทษปรับตงั้ แตส องพนั บาทถึงหนึ่งหมนื่ บาท *[มาตรา 105 แกไขโดยพระราชบัญญัตยิ า (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)]
มาตรา 105 ทวิ ผใู ดไมป ฏบิ ตั ติ ามมาตรา 27 ทวิ หรอื มาตรา 59 ทวิ ตองระวางโทษปรบั ต้งั แต สองพันบาทถึงหนึ่งหมนื่ บาท *[มาตรา 105 ทวิ เพิม่ เติมโดยพระราชบัญญัตยิ า (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 106 ผูรับอนญุ าตผใู ดไมปฏิบัติตามมาตรา 28 มาตรา 29 มาตรา 33 มาตรา 35 มาตรา 60 มาตรา 61 มาตรา 63 มาตรา 65 มาตรา 81 หรอื มาตรา 87 ตอ งระวางโทษปรับไมเกนิ หน่งึ พนั บาท มาตรา 107 ผใู ดฝา ฝน มาตรา 31 หรือมาตรา 32 ตองระวางโทษปรบั ตั้งแตห นึ่งพนั บาทถงึ หา พัน บาท มาตรา 107 ทวิ* ผรู บั อนญุ าตผใู ดไมแจง การจดั ใหม ผี ูป ฏบิ ัติการแทน ผมู หี นาที่ปฏบิ ัติการตาม มาตรา 33 ทวิ ตอ งระวางโทษปรับไมเกนิ หารอยบาท *[มาตรา 107 ทวิ เพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัตยิ า (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 108 ผมู หี นาทป่ี ฏิบัตกิ ารผใู ดไมปฏบิ ตั ติ ามมาตรา 34 หรอื มาตรา 64 ตอ งระวางโทษ ปรบั ไมเกินหารอ ยบาท มาตรา 109* ผูมหี นา ทป่ี ฏบิ ัตกิ ารผใู ดไมปฏบิ ตั ติ ามมาตรา 38 มาตรา 39 มาตรา 40 มาตรา 40 ทวิ มาตรา 41 มาตรา 42 มาตรา 43 หรือมาตรา 44 ตองระวางโทษปรบั ตงั้ แตห นึ่งพนั บาทถงึ หาพนั บาท *[มาตรา 109 เพ่ิมเตมิ โดยพระราชบญั ญตั ยิ า (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 110* ผใู ดฝาฝน มาตรา 45 ตอ งระวางโทษปรับต้งั แตหนง่ึ พันบาทถึงหา พนั บาท *[มาตรา 110 แกไ ขโดยพระราชบญั ญัติยา (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 111 ผใู ดฝาฝน มาตรา 46 ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเกนิ สามป และปรบั ไมเ กินหา พันบาท มาตรา 112* ผรู ับอนุญาตผใู ดฝา ฝน มาตรา 53 หรอื มาตรา 62 ตอ งระวางโทษปรบั ตงั้ แตหนึง่ พนั บาทถงึ สามพนั บาท *[มาตรา 112 แกไขโดยพระราชบญั ญัติยา (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 113* ผรู บั อนญุ าตผูใ ดไมป ฏิบตั ติ ามมาตรา 54 มาตรา 55 หรือมาตรา 56 ตองระวางโทษ จําคกุ ไมเกินหนึ่งเดือน หรือปรบั ไมเกินสองพนั บาท หรอื ท้ังจาํ ท้ังปรบั และใหปรับเปน รายวนั อกี วนั ละหนึ่งรอย บาทจนกวาจะปฏบิ ตั ิใหถ ูกตอ ง *[มาตรา 113 แกไ ขโดยพระราชบญั ญัตยิ า (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 113 ทวิ* ผูร บั อนญุ าตผใู ดไมป ฏบิ ตั ิตามมาตรา 54 ทวิ ตองระวางโทษปรับไมเ กินหา พนั บาท *[มาตรา 113 ทวิ เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 114 ผรู ับอนญุ าตผใู ดไมปฏิบัตติ ามมาตรา 57 มาตรา 58 หรอื มาตรา 59 ตองระวางโทษ ปรับต้งั แตหนง่ึ พนั บาทถึงหา พันบาท
มาตรา 114 ทวิ* ผรู บั อนุญาตผใู ดไมแจง การจดั ใหมผี ูปฏิบตั กิ ารแทน ผมู หี นาท่ปี ฏบิ ตั กิ ารตาม มาตรา 63 ทวิ ตอ งระวางโทษปรับไมเ กนิ หา รอ ยบาท *[มาตรา 114 ทวิ เพิม่ เติมโดยพระราชบัญญัตยิ า (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 115 ผปู ระกอบโรคศลิ ปะแผนโบราณผูใ ดไมป ฏบิ ัติตามมาตรา 68 มาตรา 69 หรอื มาตรา 70 ตอ งระวางโทษปรบั ตั้งแตหา รอ ยบาทถงึ สองพันบาท มาตรา 116* ผปู ระกอบโรคศิลปะแผนโบราณผูใดฝาฝนมาตรา 71 ตองระวางโทษปรบั ต้งั แต หารอ ยบาทถึงสองพนั หารอยบาท *[มาตรา 116 แกไ ขโดยพระราชบัญญตั ิยา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 117 ผใู ดผลิตยาปลอมอันเปนการฝา ฝนมาตรา 72 (1) ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตั้งแตสามป ถึงตลอดชวี ติ และปรบั ตง้ั แตหนึ่งหมน่ื บาทถงึ หาหม่นื บาท *การผลิตยาปลอมที่มีลกั ษณะตามมาตรา 73 (2) (3) หรอื (4) อันเปน การฝาฝนมาตรา 72 (1) ถา ผูผลติ สามารถพสิ จู นไ ดว ายานน้ั ไมถงึ กับเปนอนั ตรายแกผ ใู ชย าตองระวางโทษจําคกุ ไมเ กนิ หา ป และปรับไมเ กนิ สองหม่ืนบาท *[ความในวรรคสองของมาตรา 117 แกไขโดยพระราชบญั ญตั ิยา (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก. 2530/278/1 พ.)] มาตรา 118* ผูใดผลติ ยาผิดมาตรฐานหรอื ยาท่รี ฐั มนตรีส่งั เพิกถอนทะเบยี นตํารบั ยาอนั เปน การ ฝา ฝนมาตรา 72 (2) หรอื (6) ตองระวางโทษจําคกุ ตั้งแตส องปถ ึงหา ป และปรับต้งั แตส ่ีพนั บาทถงึ สองหมนื่ บาท ผูใ ดผลติ ยาท่ที ะเบียนตาํ รบั ยาถูกยกเลิกอนั เปนการฝา ฝน มาตรา 72 (5) ตอ งระวางโทษจาํ คุกไม เกินสองปห รือปรบั ไมเกินสองหมืน่ บาท หรอื ท้งั จาํ ทง้ั ปรับ *[มาตรา 118 แกไขโดยพระราชบัญญัติยา (ฉบบั ที่ 5) พ.ศ. 2530 รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 119 ผใู ดขาย หรือนาํ หรอื สัง่ เขา มาในราชอาณาจกั รซึง่ ยาปลอมอันเปน การฝาฝน มาตรา 72 (1) ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตัง้ แตหน่งึ ปถ ึงยส่ี บิ ป และปรับต้งั แตส องพันบาทถึงหน่ึงหมนื่ บาท ถา ผูกระทําการตามวรรคหนง่ึ กระทาํ โดยไมร ูวาเปนยาปลอม ตองระวางโทษปรับต้ังแตห น่ึงพนั บาทถึงหาพนั บาท มาตรา 120* ผใู ดขาย หรอื นาํ หรือสั่งเขา มาในราชอาณาจกั รซ่ึงยาผดิ มาตรฐานหรอื ยาที่ รัฐมนตรีสง่ั เพิกถอนทะเบยี นตาํ รับยาอนั เปนการฝาฝนมาตรา 72 (2) หรือ (6) ตองระวางโทษจําคกุ ไมเ กนิ สามป และปรับไมเกนิ หาพันบาท ผูใดขาย หรือนาํ หรือสั่งเขามาในราชอาณาจกั รซ่ึงยาท่ีทะเบยี นตํารับยาถูกยกเลิกอนั เปนการฝา ฝนมาตรา 72 (5) ตองระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ หนึง่ ป หรือปรับไมเกินหนึ่งหมนื่ บาท หรือทงั้ จาํ ทั้งปรับ ถา ผูกระทําตามวรรคหน่งึ และวรรคสองกระทําโดยไมร วู า เปน ยาผดิ มาตรฐานยาที่รฐั มนตรีส่ัง เพกิ ถอนทะเบยี นตาํ รับยา หรือยาท่ีทะเบยี นตํารับยาถกู ยกเลิก ตองระวางโทษปรบั ไมเ กนิ หาพนั บาท *[มาตรา 120 แกไ ขโดยพระราชบัญญตั ยิ า (ฉบบั ท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)]
มาตรา 121 ผูใดขาย หรอื นําหรือส่ังเขามาในราชอาณาจกั รซง่ึ ยาเสอื่ มคณุ ภาพอนั เปนการฝาฝน มาตรา 72 (3) ตอ งระวางโทษจําคกุ ไมเ กนิ หนงึ่ ปหรอื ปรบั ไมเกนิ สามพนั บาท หรือทง้ั จาํ ทงั้ ปรบั ถา ผูกระทาํ การตามวรรคหนง่ึ กระทาํ โดยไมรวู าเปน ยาเส่อื มคณุ ภาพ ตอ งระวางโทษปรับไมเ กนิ สามพนั บาท มาตรา 122 ผใู ดผลติ ขาย หรอื นาํ หรอื ส่งั เขามาในราชอาณาจักร ซง่ึ ยาทีม่ ไิ ดข ึน้ ทะเบียนตํารบั ยาอันเปนการฝา ฝนมาตรา 72 (4) ตองระวางโทษจาํ คกุ ไมเกินสามปห รอื ปรบั ไมเกนิ หา พันบาท หรือทัง้ จําท้งั ปรบั มาตรา 122 ทว*ิ ผูใดฝาฝน มาตรา 75 ทวิ ตองระวางโทษจําคุกไมเ กินหาปหรือปรับไมเ กนิ หา หมนื่ บาท หรอื ทง้ั จาํ ท้ังปรบั *[มาตรา 122 ทวิ เพิม่ เติมโดยพระราชบญั ญัตยิ า (ฉบบั ที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 123 ผรู ับอนญุ าตผใู ดไมป ฏิบตั ติ ามมาตรา 79 ตอ งระวางโทษจําคกุ ไมเ กนิ สามปห รือ ปรับไมเกนิ หาพนั บาท หรอื ทัง้ จาํ ทัง้ ปรับ มาตรา 123 ทว*ิ ผูรับอนญุ าตผูใดไมปฏิบตั ติ ามมาตรา 85 วรรคหน่ึง ตอ งระวางโทษปรบั ต้ังแต หนึง่ พันบาทถงึ หา พันบาท และใหปรบั เปน รายวนั อกี วนั ละรอ ยบาทจนกวา จะปฏบิ ตั ิใหถ กู ตอง *[มาตรา 123 ทวิ แกไ ขโดยพระราชบัญญัติยา (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 123 ตร*ี ผูร ับอนุญาตผใู ดสงรายงานประจาํ ปเ กยี่ วกบั การผลติ หรือนําหรือสง่ั ยาเขา มาใน ราชอาณาจักรตามมาตรา 85 วรรคหนึง่ อันเปน เทจ็ ตองระวางโทษจาํ คกุ ไมเกนิ สามเดอื นหรือปรับไมเกินหา พัน บาท หรอื ทัง้ จาํ ท้ังปรับ *[มาตรา 123 ตรี เพิม่ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ิยา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 124* ผใู ดโฆษณาขายยาโดยฝาฝน มาตรา 88 มาตรา 88 ทวิ มาตรา 89 หรอื มาตรา 90 ตอ งระวางโทษปรับไมเกนิ หนง่ึ แสนบาท *[มาตรา 124 แกไ ขโดยพระราชบญั ญตั ิยา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (รก.2530/278/1 พ.)] มาตรา 124 ทว*ิ ผใู ดฝา ฝน คําส่ังใหระงับการโฆษณาขายยาของเลขาธกิ ารคณะกรรมการอาหาร และยา ซง่ึ ส่งั ตามมาตรา 90 ทวิ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กินสามเดอื นหรือปรบั ไมเกนิ หาพนั บาท หรือทัง้ จําท้ัง ปรบั และใหปรับเปนรายวนั อกี วนั ละหารอ ยบาท จนกวา จะปฏิบตั ิตามคําสงั่ ดังกลาว *[มาตรา 124 ทวิ เพิ่มเตมิ โดยพระราชบญั ญัติยา (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 125* ผูใ ดขัดขวางหรอื ไมใ หความสะดวกแกพนกั งานเจา หนา ทซ่ี งึ่ ปฏิบตั กิ ารตามหนาที่ หรอื ไมปฏบิ ตั ติ ามคําสัง่ ของพนักงานเจา หนา ทตี่ ามมาตรา 91 ตอ งระวางโทษจาํ คุกไมเ กนิ หน่ึงเดอื นหรือปรบั ไม เกนิ หนึ่งพนั บาท หรือท้งั จาํ ท้ังปรับ *[มาตรา 125 แกไ ขโดยพระราชบญั ญตั ยิ า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)]
มาตรา 125 ทวิ* ผรู ับอนุญาตผใู ดดาํ เนินการผลิตยา ขายยา หรอื นาํ หรอื ส่งั ยาเขามาใน ราชอาณาจกั รระหวา งทใี่ บอนญุ าตใหผ ลิตยา ขายยา หรอื นําหรอื สัง่ ยาเขา มาในราชอาณาจกั ร แลว แตก รณี ของ ตนถูกสง่ั พกั ใชต ามมาตรา 95 ตองระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ หาป และปรับไมเ กินหน่งึ หมนื่ บาท *[มาตรา 125 ทวิ เพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญตั ิยา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.)] มาตรา 126 เมือ่ มีการลงโทษตามมาตรา 101 มาตรา 111 มาตรา 117 มาตรา 118 มาตรา 119 มาตรา 120 มาตรา 121 หรือมาตรา 122 ใหร ิบยา เครือ่ งมือและอุปกรณท ีใ่ ชในการผลิตยารวมทง้ั ภาชนะหรือหีบ หอบรรจยุ าท่ีเกี่ยวเน่ืองกับความผดิ ในคดใี หแกก ระทรวงสาธารณสขุ เพ่ือทําลายเสียหรอื จัดการตามที่เห็นสมควร มาตรา 126 ทวิ* บรรดาความผิดตามพระราชบญั ญตั นิ ท้ี มี่ โี ทษปรับสถานเดยี ว ใหเ ลขาธกิ าร คณะกรรมการอาหารและยาหรือผูซ งึ่ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยามอบหมายมีอํานาจเปรยี บเทยี บปรับ ได *ในกรณีมีการยึดยา ภาชนะหรอื หบี หอบรรจยุ า และเอกสารทีเ่ ก่ียวขอ งกบั การกระทาํ ความผิด ไว เลขาธกิ ารคณะกรรมการอาหารและยาหรือผซู งึ่ เลขาธกิ ารคณะกรรมการอาหารและยามอบหมายจะ เปรียบเทียบปรบั ไดต อเมอื่ ผกู ระทาํ ความผดิ ยินยอมใหสง่ิ ทยี่ ดึ ไวตกเปน ของกระทรวงสาธารณสุข *[มาตรา 126 ทวิ เพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญัติยา (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.) และ ความในวรรคสอง เพ่มิ เตมิ โดยพระราชบญั ญัติยา (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530(รก.2530/278/1 พ.)] บทเฉพาะกาล --------- มาตรา 127 ใบอนญุ าตประกอบธุรกิจการขายยาตามกฎหมายวาดว ยการขายยากอนวันท่ี พระราชบญั ญตั นิ ้ีใชบ งั คับ ใหค งใชไ ดต อ ไปจนกวา จะส้ินอายุ ถา ผไู ดร บั ใบอนญุ าตดงั กลาวประสงคจ ะผลติ ยา ขายยาหรือนาํ หรอื สง่ั ยาเขา มาในราชอาณาจักรตอไป และไดย น่ื คาํ ขอรับใบอนญุ าตตามพระราชบญั ญตั ินี้แลวให ดาํ เนินกิจการทไี่ ดรบั อนญุ าตตามใบอนญุ าตเดมิ ตอไปไดจนกวาจะไดร ับใบอนญุ าตใหมห รือผอู นญุ าตไดแจง ให ทราบถงึ การไมอ นญุ าต และในกรณีไดรับใบอนญุ าตใหมใหด าํ เนินการใหถ ูกตอ งตามพระราชบญั ญตั นิ ้ีใหแ ลว เสร็จภายในหนึ่งรอยย่สี ิบวนั นบั แตว นั ทไ่ี ดรับใบอนุญาต ถาผูไ ดร ับอนุญาตประกอบธรุ กจิ การขายยาตามวรรคหน่ึงไมป ระสงคจะประกอบธุรกิจน้นั ตอไป หรอื ไดย ื่นคําขอรับอนุญาตตามพระราชบญั ญัตนิ แ้ี ลว แตผ อู นญุ าตไมอ นุญาต จะขายยาของตนทเี่ หลอื อยู แกผ ูรบั อนญุ าตอน่ื หรือแกผซู ง่ึ ผอู นญุ าตเหน็ สมควรไดภ ายในเกา สิบวนั นับแตว นั ทใ่ี บอนญุ าตเดิมส้ินอายุ หรอื วันทผ่ี อู นญุ าตแจงใหทราบวา ไมอนญุ าต แลวแตกรณี เวน แตผ ูอนญุ าตจะผอ นผันขยายระยะเวลาดงั กลา วให มาตรา 128 ใบสาํ คัญการข้นึ ทะเบยี นตํารบั ยาที่ไดออกใหตามกฎหมายวาดวยการขายยากอน วนั ทพี่ ระราชบญั ญัตนิ ี้ใชบงั คบั ใหมอี ายดุ งั ตอ ไปนี้ (1) ใบสําคัญการข้นึ ทะเบยี นตาํ รบั ยาท่ขี ึน้ ทะเบียนไวใน พ.ศ. 2505 และ พ.ศ. 2506 ใหม อี ายถุ ึง วันท่ี 31 ธันวาคม พ.ศ. 2512
(2) ใบสําคัญการขึน้ ทะเบยี นตํารับยาท่ขี ึ้นทะเบยี นไวใ น พ.ศ. 2507 และ พ.ศ. 2508 ใหม ีอายุถงึ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม พ.ศ. 2513 (3) ใบสาํ คญั การขนึ้ ทะเบยี นตาํ รบั ยาทขี่ นึ้ ทะเบียนไวภายหลัง พ.ศ. 2508 ใหม ีอายถุ ึง วันท่ี 31 ธันวาคม พ.ศ. 2514 มาตรา 129 ภายในสามปน บั แตว นั ทพ่ี ระราชบญั ญัตินใ้ี ชบ ังคับบรรดายาที่ผลติ ขาย หรือนํา หรือส่ังเขา มาในราชอาณาจกั รโดยชอบตามกฎหมายวา ดว ยการขายยากอ นวันทพ่ี ระราชบญั ญตั นิ ีใ้ ชบ ังคบั ให ไดรบั ยกเวน การปฏบิ ตั ิเกย่ี วกบั ฉลากตามท่ีกาํ หนดไวใ นมาตรา 25 (3) มาตรา 26 (5) มาตรา 27 (3) มาตรา 57 (2) มาตรา 58 (2) และมาตรา 59 (2) แหงพระราชบัญญตั ิน้ี ผรู บั สนองพระบรมราชโองการ จอมพล ถนอม กติ ตขิ จร นายกรัฐมนตรี อัตราคา ธรรมเนียม* --------- ก. ประเภทยาแผนปจ จบุ นั (1) ใบอนญุ าตผลิตยาแผนปจ จุบนั ฉบับละ 10,000 บาท (2) ใบอนุญาตขายยาแผนปจจบุ ัน ฉบับละ 3,000 บาท (2 ทวิ)*ใบอนญุ าตขายสง ยาแผนปจจุบนั ฉบับละ 3,000 บาท (3) ใบอนญุ าตขายยาแผนปจ จบุ นั เฉพาะยาบรรจเุ สร็จทมี่ ใิ ชยาอันตรายหรือยาควบคมุ พเิ ศษ ฉบบั ละ 2,000 บาท (4) ใบอนญุ าตขายยาแผนปจจบุ นั เฉพาะยาบรรจเุ สรจ็ สําหรบั สตั ว ฉบบั ละ 2,000 บาท (5) ใบอนญุ าตนาํ หรือสั่งยาแผนปจ จบุ ันเขา มาในราชอาณาจักร ฉบบั ละ 20,000 บาท (6) การพสิ จู นห รือวเิ คราะหย าตามตํารับยาทีข่ อขน้ึ ทะเบยี น คร้ังละ 1,000 บาท (7) ใบสาํ คญั การขึ้นทะเบียนตํารบั ยาแผนปจ จุบนั ฉบบั ละ 3,000 บาท (8) ใบแทนใบอนุญาต ฉบบั ละ 100 บาท (9) ใบแทนใบสาํ คญั การขน้ึ ทะเบียนตาํ รบั ยาแผนปจจุบนั ฉบบั ละ 100 บาท ข. ประเภทยาแผนโบราณ (1) ใบอนุญาตผลิตยาแผนโบราณ ฉบบั ละ 5,000 บาท (2) ใบอนุญาตขายยาแผนโบราณ ฉบบั ละ 1,500 บาท (3) ใบอนญุ าตนาํ หรอื สง่ั ยาแผนโบราณเขามาในราชอาณาจักร ฉบบั ละ 10,000 บาท (4) การพิสูจนห รือวเิ คราะหย าตามตํารับยาท่ีขอข้ึนทะเบยี น ครง้ั ละ 500 บาท
(5) ใบสาํ คัญในการขึน้ ทะเบยี นตํารับยาแผนโบราณ ฉบบั ละ 1,500 บาท (6) ใบแทนใบอนญุ าต ฉบบั ละ 100 บาท (7) ใบแทนใบสาํ คัญการขึ้นทะเบยี นตาํ รบั ยาแผนโบราณ ฉบับละ 100 บาท ค. อน่ื ๆ (1) การตอ อายใุ บอนญุ าตคร้ังละเทากับคา ธรรมเนยี มสําหรบั ใบอนญุ าตประเภทนั้น ๆ แตละ ฉบับ (2) การตออายใุ บสําคัญการขนึ้ ทะเบยี นตาํ รบั ยาครั้งละเทา กับคา ธรรมเนียมสําหรับใบสาํ คัญ การขน้ึ ทะเบยี นตํารบั ยาแตล ะประเภท *[อัตราคาธรรมนียมทาย แกไ ขโดยพระราชบัญญัติยา (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 (รก.2522/79/29 พ.) และขอ 2 ทวิ ใน ก.ประเภทยาแผนปจจบุ ัน เพิม่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ยิ า (ฉบบั ท่ี 5) พ.ศ. 2530 (รก. 2530/278/1 พ.)] ------------------------------------------------------ หมายเหต:ุ - เหตุผลในการประกาศใชพ ระราชบัญญตั ฉิ บบั นี้ คือ เนือ่ งจากกฎหมายวา ดว ยการขายยาซ่งึ ใชบ งั คบั อยูในขณะนี้ ยงั มีการควบคุมกิจการเกีย่ วกบั การผลิตยา ขายยา และนําหรือสั่งยาเขา มาในราชอาณาจักร ตลอดจน การควบคมุ ใหม ีเภสชั กรรับผดิ ชอบเก่ียวกบั การขายยาอนั ตราย และสว นอืน่ ๆ อกี ทยี่ งั ไมรดั กุมและเหมาะสมแก ภาวการณในปจ จบุ ัน จงึ เปนการสมควรทจ่ี ะปรบั ปรงุ กฎหมายวาดว ยการขายยา ทั้งน้ี เพ่อื ความปลอดภัยและ สวสั ดภิ าพของประชาชน ---------------------- ประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบับท่ี 321 โดยทพี่ ระราชบญั ญัตยิ า พ.ศ.2510 ไดบญั ญตั ใิ หปลดั กระทรวงสาธารณสขุ เปน ผอู นญุ าตการ ผลติ ยา การนาํ หรอื สงั่ ยาเขา มาในราชอาณาจักร และการขายยาในนครหลวงกรงุ เทพธนบุรี บดั น้ีเหน็ สมควรโอน ใหเ ปนอํานาจหนา ท่ีของอธิบดีกรมสงเสริมสาธารณสุข หัวหนา คณะปฏวิ ตั จิ งึ มีคําส่ังดังตอไปนี้ บทเฉพาะกาล ---------------------- ขอ 2 ประกาศของคณะปฏิวตั ิฉบับนี้ไมก ระทบกระท่ังใบอนญุ าตที่ปลดั กระทรวงสาธารณสุข ไดออกใหตามพระราชบัญญตั ิยา พ.ศ.2510 [รก.2515/190พ./92/13 ธันวาคม 2515] ---------------------- พระราชบญั ญตั ิยา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2518 หมายเหตุ:- เหตผุ ลในการประกาศใชพ ระราชบัญญัติฉบบั นี้ คือ เนอ่ื งจากมาตรา 3 แหงพระราชบญั ญตั แิ กไ ข เพิ่มเตมิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 216 ลงวนั ที่ 29 กนั ยายน พ.ศ. 2515 (ฉบบั ท่ี 3 ) พ.ศ. 2517 ไดป รบั ปรงุ
สว นราชการระดับกรมสังกดั กระทรวงสาธารณสขุ ใหม และมาตรา 15 แหงพระราชบัญญัตโิ อนอาํ นาจหนา ที่ กิจการ ทรัพยส นิ หนี้ ขาราชการ ลกู จาง และเงนิ งบประมาณของกรมการแพทยแ ละอนามัย และกรมสงเสรมิ สาธารณสุขไปเปน ของสํานักงานปลัดกระทรวง กรมการแพทย กรมควบคุมโรคติดตอกรมอนามัย และ สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสขุ พ.ศ. 2517 ไดโ อนอาํ นาจและหนาที่เกย่ี วกบั ราชการของกรมสง เสรมิ สาธารณสุขและอํานาจหนา ทข่ี องเจาหนาทกี่ รมสงเสริมสาธารณสุข เฉพาะในสวนท่ี เกยี่ วกบั กองควบคมุ อาหารและยา ไปเปน ของสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรอื ของเจา หนา ท่ีสาํ นักงาน คณะกรรมการอาหารและยาแลว แตก รณี ทาํ ใหเกดิ ปญหาเกี่ยวกบั อาํ นาจหนาทผ่ี ูอนญุ าตตามพระราชบัญญัตยิ า พ.ศ. 2510 ซ่งึ แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยประกาศของคณะปฏบิ ตั ิ ฉบบั ที่ 321 ลงวันท่ี 13 ธันวาคม พ.ศ. 2515 ในการน้ี จําตองแกไ ขบทนยิ ามคําวา \"ผูอนุญาต\" เสียใหมใ หตรงตามหนาที่ของสว นราชการในกระทรวงสาธารณสุขที่ได มีการปรับปรงุ ใหมจงึ จาํ เปน ตอ งตราพระราชบัญญตั ินีข้ ้ึน [รก.2518/42/6พ./20 กุมภาพนั ธ 2518] ---------------------- พระราชบัญญตั ยิ า (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 (มาตรา 45) มาตรา 45 ภายในสามปนับแตวนั ที่พระราชบญั ญัตนิ ี้ใชบ งั คับบรรดายาทม่ี ชี ื่อหรอื ตํารบั ยาอยู ในตาํ รับยาท่รี ฐั มนตรปี ระกาศตามมาตรา 76 (1) ใหผรู บั อนญุ าตดาํ เนนิ การผลติ ขาย หรือนําหรอื สง่ั เขา มาใน ราชอาณาจกั รตอไปได โดยใหไดร บั ยกเวน การปฏิบัติตามมาตรา 79 แหงพระราชบญั ญัตยิ า พ.ศ. 2510 ซ่งึ แกไข เพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญัตนิ ้ี และมใิ หถือวา เปนการฝา ฝนมาตรา 72 (4) แหงพระราชบญั ญัติยา พ.ศ. 2510 ซง่ึ แกไขเพมิ่ เติมโดยพระราชบญั ญตั ิน้ี [รก.2522/79/29พ./13 พฤษภาคม 2522] ---------------------- พระราชบญั ญตั ิยา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 (มาตรา 46) มาตรา 46 ใบสําคญั การข้ึนทะเบียนตาํ รบั ยาทีไ่ ดออกใหก อนวนั ทพี่ ระราชบัญญัตินี้ใช บงั คับ ใหใชไ ดต อไปจนกวา จะสิน้ อายทุ ก่ี าํ หนดไวใ นใบสําคัญการข้ึนทะเบยี นตาํ รบั ยานน้ั ในกรณที ผี่ รู ับอนญุ าตประสงคจะขอขน้ึ ทะเบยี นตํารบั ยาทเี่ คยไดร บั ใบสําคญั การขน้ึ ทะเบยี น ตํารบั ยาตามวรรคหน่งึ จะตอ งยื่นคําขอกอ นใบสาํ คัญการข้ึนทะเบยี นตาํ รับยาสิ้นอายุ เมอื่ ไดย น่ื คาํ ขอดังกลา ว แลว จะประกอบกิจการตอ ไปกไ็ ดจนกวาพนกั งานเจาหนาท่จี ะส่ังไมร บั ข้ึนทะเบยี นตํารบั ยาน้ัน [รก.2522/79/29พ./13 พฤษภาคม 2522] ---------------------- พระราชบัญญัติยา (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 (มาตรา 47)
มาตรา 47 ในระหวางระยะเวลาหา ปนับแตวนั ท่พี ระราชบัญญตั นิ ี้ ใชบงั คับในกรณีท่ีผรู ับอนญุ าตขายยาแผนปจจุบันหรือผรู บั อนุญาตขายยาแผนปจ จบุ ัน เฉพาะยาบรรจุเสรจ็ ที่ไมใ ชยาอันตรายหรอื ยาควบคมุ พิเศษซ่ึงไดร บั อนุญาตอยแู ลว กอนวนั ท่พี ระราชบัญญตั ินใ้ี ชบ งั คบั รายใด ยังไมอาจจดั หาบคุ คลตามมาตรา 21 หรือมาตรา 22 แหงพระราชบญั ญัตยิ า พ.ศ. 2510 ซง่ึ แกไ ขเพ่ิมเตมิ โดยพระราช บญั ญัตนิ ี้ แลวแตก รณี เปนผมู ีหนาท่ีปฏิบัตกิ ารประจําอยู ณ สถานท่ีขายยาตลอด เวลาที่เปดทาํ การไดใ หผ รู บั อนุญาตขายยาดังกลาวปฏิบตั ิดงั ตอไปน้ี (1) สาํ หรับผรู บั อนุญาตขายยาแผนปจ จุบัน ใหจดั ใหมีเภสชั กรตามที่ กําหนดไวใ นมาตรา 21 แหง พระราชบญั ญตั ิยา พ.ศ. 2510 ซ่ึงแกไ ขเพิม่ เติม โดยพระราชบญั ญัติน้ี ประจําอยู ณ สถานท่ขี ายยาวันละไมน อยกวาสามชว่ั โมง ตดิ ตอกันในเวลาเปด ทําการ (2) สําหรบั ผอู นญุ าตขายยาแผนปจจบุ นั เฉพาะยาบรรจุเสรจ็ ทีไ่ มใ ช ยาอนั ตรายหรือยาควบคมุ พเิ ศษ ใหจ ัดใหม ผี ปู ฏิบตั ิการตามมาตรา 22 แหง พระราชบัญญตั ยิ า พ.ศ. 2510 ซง่ึ แกไ ขเพมิ่ เติมโดยพระราชบญั ญตั นิ ี้ประจาํ อยู ณ สถานท่ีขายยาวันละไมน อ ยกวา สามช่วั โมงติดตอ กนั ในเวลาเปด ทําการ [รก.2522/79/29พ./13 พฤษภาคม 2522] ---------------------- พระราชบญั ญัตยิ า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 (มาตรา 48) มาตรา 48 ในกรณที ่ีผรู ับอนญุ าตขายยาแผนปจจุบันเฉพาะยาบรรจเุ สรจ็ ที่ไมใชย าอนั ตราย หรือยาควบคมุ พเิ ศษ ซ่ึงไดร บั ใบอนุญาตอยูแลว กอนวนั ทพ่ี ระราชบญั ญตั ินใ้ี ชบ ังคับรายใดยงั ไมอ าจจัดหาบคุ คล ตามมาตรา 22 แหงพระราชบญั ญตั ิยา พ.ศ. 2510 ซงึ่ แกไ ขเพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญัตินีม้ าเปนผมู ีหนา ท่ี ปฏิบัตกิ ารประจาํ อยู ณ สถานทข่ี ายยาตลอดเวลาท่ีเปดทาํ การได ใหผ ูร บั อนญุ าตขายยาดงั กลา วเขารับการอบรม หรอื มอบหมายใหบคุ คลอนื่ เขารบั การอบรมจากกระทรวงสาธารณสขุ และเม่ือไดรบั การอบรมเสรจ็ สิ้นแลว ให ผูสาํ เร็จหลักสูตรการอบรมดังกลาวประจาํ อยูเฉพาะสถานที่ขายยาแผนปจ จุบัน เฉพาะยาบรรจเุ สรจ็ ทไ่ี มใชยา อนั ตรายหรอื ยาควบคุมพิเศษของตนหรือของผูร ับอนญุ าตขายยาทไี่ ดม อบหมายใหผนู น้ั เขา รับการอบรม เทานัน้ โดยใหเ ปน ผมู หี นา ที่ปฏิบัตกิ ารตามมาตรา 41 แหงพระราชบญั ญัติยา พ.ศ. 2510 ซ่ึงแกไขเพมิ่ เตมิ โดย พระราชบัญญัตนิ ี้ การจดั อบรมตามวรรคหนึ่ง ใหกระทาํ ใหเสรจ็ สิ้นภายในหาปนบั แตวนั ท่ีพระราชบญั ญัตนิ ้ีใช บงั คบั
หลักสูตรการอบรม คุณสมบตั ขิ องผูเขา รับการอบรม และคา ใชจายทผี่ ูเ ขารบั การอบรมตอง เสีย ใหเ ปน ไปตามระเบียบทรี่ ฐั มนตรีกําหนด [รก.2522/79/29 พ./13 พฤษภาคม 2522] ---------------------- พระราชบญั ญตั ิยา (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 หมายเหต:ุ - เหตผุ ลในการประกาศใชพ ระราชบัญญัตฉิ บับนี้ คอื โดยทีบ่ ทบัญญตั ใิ นพระราชบัญญัตยิ า พ.ศ. 2510 ในสวนที่เกย่ี วกับการใหความคมุ ครองแกประชาชนผใู ชยา ทงั้ ในดานผูรับอนุญาต อํานาจของ พนกั งานเจาหนา ที่ และในสว นทเี่ กีย่ วกับคณุ ภาพของยารวมท้งั วิธีการควบคุมคุณภาพ และการโฆษณาขายยา ยงั ไมเ หมาะสมแกสี ถานการณในอนั ทจี่ ะคมุ ครองและใหความปลอดภัยแกประชาชนผใู ชย าอยา งพอเพยี ง สมควรแกไ ขเพม่ิ เตมิ ใหเ หมาะสมยิ่งขน้ึ จงึ จําเปนตองตราพระราชบัญญตั นิ ้ี [รก.2522/79/29 พ./13 พฤษภาคม 2522] ---------------------- พระราชบญั ญตั ิยา (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ. 2527 (มาตรา 3) มาตรา 3 ใหขยายระยะเวลาการใชบ งั คับมาตรา 47 (1) แหง พระราชบญั ญัติยา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 ในสว นท่เี ก่ียวกบั การผอ นผนั ใหผ ูรับอนญุ าตขายยาแผนปจจุบนั ซงึ่ ไดร ับอนญุ าตอยแู ลวกอ นวนั ท่ี พระราชบญั ญัตยิ า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 ใชบงั คบั ตอ งจัดใหม ีเภสชั กรตามมาตรา 21 เปน ผูมหี นาทปี่ ฏิบัตกิ าร อยู ณ สถานที่ขายยาวันละไมนอยกวาสามช่ัวโมงตดิ ตอ กนั ในเวลาเปด ทําการ ออกไปอีกจนถงึ วนั ท่ี 30 กนั ยายน พ.ศ. 2529 ในระหวางการขยายระยะเวลาการใชบงั คับตามวรรคหน่งึ ถา รฐั มนตรีวา การกระทรวง สาธารณสุขโดยคําแนะนาํ ของคณะกรรมการยาเหน็ วา ในทอ งทใ่ี ดมคี วามสมควรท่จี ะใหผ ูรับอนญุ าตขายยาแผน ปจ จุบันตามวรรคหน่ึงตอ งจดั ใหม ีเภสัชกรประจําอยตู ลอดเวลาท่เี ปดทาํ การตามมาตรา 21 ใหร ฐั มนตรีวาการ กระทรวงสาธารณสขุ มีอาํ นาจประกาศในราชกจิ จานุเบกษา กําหนดทอ งทีน่ ้ันเปน ทอ งทท่ี ีต่ อ งจดั ใหม ีเภสัชกร ประจําอยูตลอดเวลาทีเ่ ปด ทาํ การตามมาตรา 21 ไดโ ดยใหม ผี ลใชบ ังคับในวนั ท่ีระบไุ วใ นประกาศดังกลา ว แตจ ะ ใชบ ังคับกอนเกา สิบวนั นับแตวนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาไมได [รก.2527/85/41/3 กรกฎาคม 2527] ---------------------- พระราชบญั ญัติยา (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2527 หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใชพ ระราชบญั ญัติฉบบั นี้ คอื โดยที่ระยะเวลาใชบ งั คบั บทเฉพาะกาลตาม มาตรา 47 แหง พระราชบญั ญัติยา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 ทีบ่ ญั ญัติผอ นผันใหผูรบั อนญุ าตขายยาแผนปจจุบนั ซ่งึ ไดร ับอนญุ าตอยแู ลวกอนวนั ท่พี ระราชบัญญตั ิยา (ฉบบั ท่ี 3) ฯ ใชบ ังคบั ทย่ี ังไมอาจจดั หาเภสัชกรเปนผมู ี หนาท่ีปฏบิ ัตกิ ารประจาํ อยู ณ สถานท่ขี ายยาตลอดเวลาทเี่ ปด ทําการไดตามทีก่ ําหนดไวต ามมาตรา 21 แตตอ งจดั
ใหม ีเภสชั กรประจําสถานทข่ี ายยาวันละไมน อ ยกวา สามชว่ั โมงตดิ ตอ กนั ในเวลาเปด ทําการน้ัน จะสน้ิ สดุ ลงใน วันท่ี 13 พฤษภาคม 2527 แตส ภาพการณใ นปจจบุ นั จํานวนเภสชั กรทีม่ ีอยูยงั ไมเ พยี งพอ ทาํ ใหผูร บั อนุญาต ขายยาแผนปจ จบุ ันซึ่งไดร บั อนุญาตอยแู ลว กอ นวันทีพ่ ระราชบญั ญัตยิ า (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 ใชบ ังคบั จาํ นวน มาก ไมอาจจดั หาเภสัชกรประจาํ อยตู ลอดเวลาท่เี ปดทําการตามมาตรา 21 แหง พระราชบญั ญตั ิดงั กลา วได สมควรขยายระยะเวลาการใชบ ังคับบทเฉพาะกาลในสว นท่ีเกยี่ วกบั การใหผูรับอนุญาตขายยา แผนปจ จบุ นั ตอ งจดั ใหม ีเภสชั กรตามมาตรา 21 ปฏบิ ตั ิการอยู ณ สถานทข่ี ายยาวันละไมน อ ยกวาสามชว่ั โมง ตดิ ตอ กนั ในเวลาเปดทาํ การออกไปอีกะยะหนึง่ ถารัฐมนตรีวา การกระทรวงสาธารณสขุ เหน็ วาทอ งทใ่ี ดมีเภสชั กรเพยี งพอทจ่ี ะกําหนดใหผ รู บั อนญุ าตขายยาแผนปจจบุ นั ตอ งจัดใหม ีเภสัชกรประจาํ อยตู ลอดเวลาทเ่ี ปด ทาํ การ ตามมาตรา 21 ได กใ็ หรัฐมนตรี ฯ มีอํานาจกําหนดทองทน่ี ้ันโดยประกาศในราชกิจจานเุ บกษาได จงึ จําเปนตอ ง ตราพระราชบัญญตั ิน้ี [รก.2527/85/41/3 กรกฎาคม 2527] ---------------------- พระราชบญั ญตั ิยา (ฉบบั ท่ี 5) พ.ศ. 2530 (มาตรา 45) มาตรา 45 ผูรับอนญุ าตขายยาแผนปจ จบุ นั เฉพาะยาบรรจเุ สรจ็ ท่ไี มใชย าอนั ตรายหรอื ยา ควบคุมพเิ ศษ ถายงั ไมอาจจดั หาบคุ คลตามมาตรา 22 แหงพระราชบญั ญัตยิ า พ.ศ. 2510 มาเปน ผมู หี นาที่ ปฏิบตั กิ ารประจาํ อยู ณ สถานทขี่ ายยาตลอดเวลาทเี่ ปด ทาํ การได ใหผรู บั อนญุ าตดังกลา วมสี ิทธิเขารับการ อบรม หรือมอบหมาย ใหบคุ คลอืน่ เขารับการอบรมจากกระทรวงสาธารณสขุ เมือ่ ไดร บั การอบรมแลว ให ผูสําเรจ็ หลกั สตู รการอบรมดังกลาวประจําอยู เฉพาะสถานท่ีขายยาแผนปจ จบุ นั เฉพาะยาบรรจุเสรจ็ ท่ีไมใชย า อนั ตรายหรือยาควบคมุ พิเศษของตนหรือของผูรบั อนุญาตท่ไี ดมอบหมายใหผ นู ้ันเขารับการอบรมเทาน้ัน โดยให เปนผูมหี นาทป่ี ฏิบตั ิการตามมาตรา 41 แหง พระราชบญั ญตั ิยา พ.ศ. 2510 การจดั อบรมตามวรรคหนึง่ ใหก ระทาํ ใหเ สร็จสนิ้ ภายในหาปน บั แตว ันท่ีพระราชบัญญัตนิ ใี้ ช บงั คบั เม่ือพนกําหนดดังกลา วจะจดั อบรมอกี ไมไ ดห ลักสตู รการอบรม คุณสมบัตขิ องผเู ขาอบรม และคา ใชจายที่ ผูเขาอบรมตองเสยี ใหเ ปน ไปตามระเบยี บที่รัฐมนตรกี ําหนดในกรณีผรู บั อนุญาตขายยาแผนปจจุบนั เฉพาะยา บรรจเุ สร็จทีไ่ มใชย าอันตรายหรือยาควบคมุ พเิ ศษ ซ่ึงมผี ูสาํ เรจ็ หลกั สตู รการอบรมเปนผมู หี นา ทีป่ ฏบิ ตั ิ การตามวรรคหนงึ่ ยา ยทต่ี ้ังสถานท่ีขายยา หรือในกรณีทผ่ี รู บั อนญุ าตขายยาแผนปจ จบุ ันเฉพาะ บรรจเุ สรจ็ ที่ไมใ ชยาอันตรายหรือยาควบคมุ พเิ ศษมหี ลักฐานแสดงไดวา เปน ผูประกอบกจิ การขายยา สืบตอ จากผรู บั อนญุ าตขายยาแผนปจ จบุ ันเฉพาะยาบรรจเุ สร็จทไ่ี มใ ชย าอนั ตรายหรือยาควบคมุ พิเศษเดมิ ซึง่ มีผสู ําเร็จ หลักสตู รการอบรมเปนผูม ีหนาปฏิบัตกิ ารตามวรรคหนงึ่ ใหถ ือวาสถานทขี่ ายยาทย่ี ายที่ตงั้ หรอื สถานท่ขี ายยาที่ ผรู บั อนุญาตมหี ลกั ฐานแสดงไดดังกลา ว เปนสถานที่ขายยาทใ่ี หผสู าํ เร็จหลักสูตรการอบรมประจําอยูตามวรรค หนง่ึ ตอไปได เพ่อื คมุ ครองสวัสดภิ าพของประชาชน รัฐมนตรมี อี าํ นาจประกาศกําหนดใหผ เู ขา รบั การอบรม แลว ตามมาตรา 48 แหง พระราชบัญญตั ิยา (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2522 และตามพระราชบญั ญัตนิ ้ีเขารับการอบรม เพม่ิ พูนความรูไดอ กี เปน คร้งั คราวตามที่เหน็ สมควร
[รก.2530/278/1 พ./31 ธนั วาคม 2530] -------------------- พระราชบัญญตั ิยา (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2530 (มาตรา 46) มาตรา 46 ใหน ํามาตรา 29 แหงพระราชบญั ญตั ยิ า พ.ศ. 2510 มาใชบงั คับแกผรู บั อนญุ าตขาย ยาแผนปจจุบนั เฉพาะยาบรรจเุ สรจ็ ท่ไี มใชย าอนั ตรายหรือยาควบคุมพเิ ศษ ซึง่ มีผูสําเร็จหลกั สูตรการอบรมตาม มาตรา 48 แหง พระราชบัญญัติยา (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 หรอื ตามมาตรา 45 แหงพระราชบัญญตั นิ ี้ เปน ผมู หี นา ที่ ปฏบิ ัตกิ ารตามมาตรา 41 แหงพระราชบญั ญตั ิยา พ.ศ. 2510 ในการแสดงหลกั ฐานของผูสาํ เร็จหลกั สูตรการอบรม น้ันตดิ ไว ณ สถานท่ขี ายยาโดยอนโุ ลม [รก.2530/278/1 พ./31 ธันวาคม 2530] ---------------------- พระราชบัญญตั ิยา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2530 (มาตรา 47) มาตรา 47 ใหน าํ มาตรา 45 แหง พระราชบญั ญัตยิ า พ.ศ. 2510 มาใชบงั คับแกผสู าํ เร็จหลกั สูตร การอบรมตามมาตรา 48 แหง พระราชบญั ญตั ิยา (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2522 หรือตามมาตรา 45 แหงพระราชบัญญัติ น้ี ในการปฏิบตั ิหนา ทผ่ี มู ีหนา ทีป่ ฏบิ ตั ิการในสถานทขี่ ายยาแผนปจ จบุ นั เฉพาะยาบรรจุเสร็จทีไ่ มใชยาอนั ตราย หรอื ยาควบคมุ พิเศษโดยอนโุ ลม [รก.2530/278/1 พ./31 ธนั วาคม 2530] ---------------------- พระราชบญั ญัตยิ า (ฉบบั ท่ี 5) พ.ศ. 2530 หมายเหต:ุ - เหตผุ ลในประกาศใชพ ระราชบัญญัติฉบบั นี้ คือ เนอ่ื งจากพระราชบัญญัตคิ วบคมุ มาตรฐานชีวะ วัตถุ พุทธศักราช 2483 มีบทบัญญตั ซิ ํ้าซอนกบั กฎหมายวาดว ยยา สมควรยกเลิกพระราชบัญญตั ดิ ังกลาว และโดย ที่กฎหมายวา ดว ยยายงั ไมม บี ทบญั ญัติทจ่ี ะใหค วามคุมครองแกประชาชนผใู ชยาเพยี งพอ เชน ไมมีบทบัญญตั หิ า ม การขายยาชดุ ไมม กี ารควบคมุ การผลิตยาแผนโบราณทใ่ี ชเทคโนโลยีสมยั ใหม เปน ตน และบทบัญญตั ิในสวนท่ี เกย่ี วกบั การอนญุ าตและการควบคมุ การผลิต การขาย การนาํ หรอื สง่ั ยาเขามาในราชอาณาจกั รยงั ไม เหมาะสม สมควรแกไขเพมิ่ เติมใหเหมาะสมยงิ่ ขึน้ จงึ จําเปน ตอ งตราพระราชบญั ญตั ิน้ี [รก.2530/278/1 พ./31 ธันวาคม 2530]
Search
Read the Text Version
- 1 - 43
Pages: