ปรัชญาการศึกษาพิพัฒนการนิยม

ปรชั ญาการศกึ ษาพพิ ฒั นาการนิยม (Progressivism) ผนู ้ าเสนอ พระสมุหส์ ถาพร สฐุ านวฑุ ฒฺ ี (ป่ มุ เป้ า) รหสั 62061627 สาขาวชิ าภาษาไทย พระอมร พฒนฺ จาโร (ธนาชยั กาจร) รหสั 62061676 สาขาวชิ าภาษาองั กฤษ

ความหมาย พพิ ฒั นาการ หรือ Progressivism หมายถึง การเปลี่ยนแปลงไมห่ ยุดนิ่ง การจดั การศึกษาตอ้ งปรบั ปรุงใหส้ อดคลอ้ งกบั ความเปลี่ยนแปลง จงึ ไดช้ ื่อว่า แนวทางแห่งความมีอสิ ระเสรที จ่ี ะนาไปสูก่ ารเปลยี่ นแปลง ปรบั ปรุง วฒั นธรรม และสงั คม

ความเป็ นมา เกดิ จากการตอ่ ต้าน แนวการศึกษาน้ไี ด้ วงการศกึ ษาไทยร้จู ัก การศึกษาแนวเดมิ พฒั นามาจากปรชั ญา กันในนาม - เน้นเนื้อหา - การท่องจา ปฏบิ ัตินิยม “การศกึ ษาแผนใหม่” - ไมค่ านึงถงึ ความ โดยจอหน์ ดิวอ้ี สนใจของเด็ก

แนวคดิ พนื้ ฐาน เชอื่ วา่ ชวี ติ เป็ นสงิ่ ทเี่ ปลยี่ นแปลงไดเ้ สมอตามกาลเวลาและสงิ่ แวดลอ้ ม องคป์ ระกอบทมี่ อี ทิ ธพิ ลสงู สดุ ในการกาหนดรปู แบบของวฒั นธรรมและสงั คม คอื การคน้ ควา้ ทดลอง และประสบการณข์ องมนุษยท์ ไี่ ดเ้ ห็นประจกั ษ ์ มนุษยเ์ ป็ นผูก้ าหนดอนาคตและโชคชะตาของตนเอง มนุษยค์ วรใหค้ วามสาคญั และคณุ คา่ ของแตล่ ะบุคคลใหม้ าก

วชิ าทจี่ ดั การเรยี นการสอน เน้นประสบการณข์ องผเู้ รียนเป็ นสาคญั เป็ นหลกั สตู ร Child-centered Curriculum หรอื Activity- centered Curriculum เน้ ือหาเป็ นสว่ นประกอบหลกั สตู รที่ทาใหเ้ ขา้ ใจตวั เอง สงั คม และประเมิน ประสบการณข์ องตวั เองใหด้ ีข้ นึ โดยเน้ ือหาท่ีสาขาน้ ีไดใ้ หค้ วามสนใจมากที่สุดคือวชิ าสงั คมศึกษา วชิ าการส่ือ ความหมายเพือ่ ประโยชน์ในชีวติ ประจาวนั (ภาษา) วทิ ยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์

เนน้ ผเู้ รียนเป็ นสาคญั ๑. การเรยี นการสอนเน้นความสนใจและความถนดั ของผเู้ รียน ๒. การเรียนการสอนควรเน้นใหเ้ ดก็ มสี ว่ นร่วมในการวางแผน ๓. ครเู ปน็ ผจู้ ดั สิ่งแวดลอ้ มให้นกั เรยี นเกิดการเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง ๔. เดก็ ควรได้รับประสบการณโ์ ดยตรงในเรอ่ื งที่ศกึ ษา ๕. เด็กควรไดร้ ับประสบการณ์ทเี่ ปน็ จูงใจ เช่น ใช้ภาพยนตร์ สไลด์ การเชญิ วิทยากร เปน็ ตน้ ๖. ผู้เรยี นควรไดร้ ับความชว่ ยเหลอื ให้รูจ้ กั วิเคราะหป์ ัญหาเพือ่ แก้ปญั หา วเิ คราะหข์ อ้ มูล ตา่ งๆ ๗. ผู้เรียนควรรู้จกั การวางโครงการ ดาเนินโครงการ วเิ คราะห์และประเมนิ โครงการตา่ งๆ ได้อยา่ งเหมาะสม ๘. ส่งเสริมประชาธปิ ไตยและความรว่ มมอื ในการเรยี นการสอน ๙. การเรยี นควรเป็นการบวนการตอ่ เนื่องเกีย่ วพันกันตลอดเวลา

ความหมายของการศกึ ษา การศึกษา คอื ชวี ติ ไมใ่ ช่เป็ นการเตรยี มตวั เพ่ือชวี ติ ร่างกาย อารมณ์ สตปิ ญั ญา สงั คม

ความมงุ่ หมายของการศกึ ษา • มุ่งให้ผเู้ รยี นพฒั นาทางดา้ นร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาไปพร้อม ๆ กนั • มงุ่ ใหผ้ ู้เรียนร้จู กั ปรับตัวเองเขา้ กบั สงั คมไดอ้ ย่างมีความสุข • ม่งุ ใหผ้ เู้ รียนได้เรยี นตามความถนดั ความสนใจ และตามความสามารถของผูเ้ รียน • ส่งเสรมิ ประชาธปิ ไตยท้งั ในและนอกหอ้ งเรียน • มุ่งใหผ้ เู้ รยี นรูจ้ ักศกึ ษาคน้ คว้าดว้ ยตนเอง • มุ่งใหผ้ ู้เรยี นมปี ระสบการณ์ในการดารงชีวติ เปน็ หม่คู ณะ และรูจ้ กั ปกครองตนเอง

ธรรมชาตขิ องมนุษย ์ ความ อปุ นิสยั ฉลาด ต่างๆ คนดี + ความว่างเปล่า

ญานวทิ ยา เชื่อวา่ ความรูท้ ี่ตายตวั แน่นอนอนั เป็ นความจริงสงู สุดน้ัน ไมม่ คี วามรูม้ ีววิ ฒั นาการอยเู่ สมอ ความรูม้ ีหนา้ ท่ีช่วยมนุษยแ์ กป้ ัญหา และเป็ นประโยชน์ต่อสว่ นรวมมากที่สุด ความรตู้ อ้ งนาไปใชไ้ ดผ้ ลจริง ๆ

กระบวนการของการศกึ ษา ถือวา่ ประสบการณแ์ ละการทดลองมีความสาคญั ที่สุดของการเรียนรู้ และการเรียนรูเ้ ป็ นเร่ืองของการกระทา (Doing) มากกวา่ รู้ (Knowing) และจะตอ้ งใหผ้ ูเ้ รียนไดร้ จู้ กั ท่ีจะแกไ้ ขปัญหาของตนเองและสงั คมได้ และจะตอ้ งคานึงถึงความแตกตา่ งระหวา่ ง บุคคลดว้ ย

จดุ ม่งุ เนน้ การเรยี นการสอน สถานศึกษา ผบู้ ริหาร ผสู้ อน สถานศึกษาคือแบบจาลองทด่ี งี าม ดาเนนิ งานไปตามข้อตกลงหรอื จะตอ้ งมบี คุ ลกิ ท่ีดี เหน็ อกเหน็ ใจ มติของคณะกรรมการของ และเข้าใจความแตกต่างระหว่าง ของชวี ติ และสังคม จดั ประสบการณ์ใหส้ อดคลอ้ งกบั สถาบนั การศึกษา บคุ คลของเดก็ สภาพสงั คมและการดาเนินชวี ติ เปน็ นกั ประชาธิปไตย เปน็ ผกู้ ระตุน้ ให้ผเู้ รียนไดส้ นใจด้วย ส่งเสรมิ การสร้างความร่วมมือ ตนเอง ทาหน้าท่ใี หค้ าปรกึ ษาแนะแนวทาง ระหวา่ งผเู้ รียน สร้างบรรยากาศเปน็ ประชาธิปไตย ให้กับนกั เรยี น

จดุ ม่งุ เนน้ การเรยี นการสอน ผเู้ รียน หลักสตู ร วิธีการสอน ผเู้ รียนเปน็ ศูนย์กลางของการเรยี น หลกั สูตรแบบประสบการณ์ มงุ่ ใหผ้ เู้ รียนรวมกลุ่มทากิจกรรม การสอน หรือหลักสูตรแบบกิจกรรม ใชว้ ิธีการสอนแบบ แก้ปญั หา ผู้เรียนได้มปี ระสบการณ์ตรงหรอื ลง เน้นในเรือ่ งการสาธติ การอภิปราย มอื กระทาด้วยตนเอง เนน้ การดารงชวี ติ อยใู่ นสงั คมได้ อยา่ งมคี วามสขุ การค้นควา้ การรายงาน การประชุม (Leaning By Doing) ผเู้ รียนมอี สิ ระท่ีจะเลอื กตดั สินใจ เน้นวชิ าทีเ่ สริมสร้างประสบการณ์ การวางแผน ดว้ ยตนเอง ทสี่ มั พันธก์ บั สงั คม คานึงถึงความแตกตา่ งระหว่างบุคคล มุ่งไปท่ีการเรยี นรู้ทุกชนดิ ทจี่ ะชว่ ย ศกั ยภาพของผเู้ รียน ให้ผเู้ รียนพฒั นาในทุกดา้ น

การวดั และประเมนิ ผล เช่ือวา่ ความรู้เปน็ เพยี งเคร่อื งมือที่จะช่วยมนษุ ย์ในการแกป้ ัญหาเท่าน้นั การทจ่ี ะ ได้มาซึง่ ความรู้ใช้วธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์ การวดั ผลและประเมินผลจะต้องดูวา่ เนื้อหาวิชาเหลา่ น้นั สามารถพฒั นาผเู้ รยี นให้มีความสามารถในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้มากนอ้ ยเพียงใด

จบการนาเสนอ