Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สาระสำคัญร่างรัฐธรรมนูญฯ (ฉบับ ปชช. เป็นผู้เสนอ)

สาระสำคัญร่างรัฐธรรมนูญฯ (ฉบับ ปชช. เป็นผู้เสนอ)

Published by zeenate7, 2021-11-14 14:37:02

Description: สาระสำคัญร่างรัฐธรรมนูญฯ (ฉบับ ปชช. เป็นผู้เสนอ)

Search

Read the Text Version

สำนกั งานประธานวุฒสิ ภา Office of the president of the senate (ฉบับท่เี สนอโดยประชาชน จำนวน ๑๓๕,๒๔๗ คน) - รา่ งรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบบั ที่ ..) พุทธศักราช .... ยทุ ธนากรณ์ ผมหอม นติ ิกรชำนาญการพิเศษ

๒ สารบัญ หนา้ ๑. ร่างรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย แก้ไขเพิ่มเตมิ (ฉบบั ท่ี ..) ๓ พุทธศักราช .... ๑.๑ ผูเ้ สนอ ๓ ๑.๒ หลักการและเหตผุ ล ๓ ๑.๓ สาระสำคัญรา่ งรฐั ธรรมนูญฯ ๓ ๖ ๒. สรุปข้อเสนอของประชาชนตามร่างรฐั ธรรมนญู ฯ ๗ ๓. กระบวนการแกไ้ ขเพ่ิมเตมิ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ๑๓ พุทธศักราช ๒๕๖๐ ๔. แผนภูมแิ สดงขน้ั ตอนกระบวนการแกไ้ ขรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ กลุ่มงานรองประธานวุฒสิ ภา คนที่หนึ่ง สำนกั งานรองประธานวุฒิสภา สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา zee rice

๓ ๑. รา่ งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพม่ิ เตมิ (ฉบับท่ี ..) พทุ ธศักราช .... (มที งั้ หมด ๒๓ มาตรา) ๑.๑ ผู้เสนอ นายพริษฐ์ วชั รสินธุ กับประชาชนผ้มู สี ทิ ธิเลือกตงั้ จำนวน ๑๓๕,๒๔๗ คน ๑.๒ หลักการและเหตผุ ล หลักการ แกไ้ ขเพิ่มเตมิ รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย เพ่ือยกเลกิ มาตร่า ๖๕ เพือ่ ยกเลิกบทบัญญตั ิ ในหมวด ๗ รัฐสภา (มาตรา ๗๙ ถึงมาตรา ๑๕๗) และเพิ่มบทบัญญัติใหม่เป็นหมวด ๗ สภาผู้แทนราษฎร (มาตรา ๗๙ ถึงมาตรา ๑๔๑) แทน เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๑๕๙ เพื่อเพิ่มเติม มาตรา ๑๙๙/๑ มาตรา ๑๙๓/๒ เพื่อยกเลิกหมวด ๑๑ ศาลรัฐธรรมนูญ (มาตรา ๒๐๐ ถึงมาตรา ๒๑๔) และเพิ่มบทบัญญัติใหม่เป็นหมวด ๑๑ ศาลรัฐธรรมนูญ (มาตรา ๒๐๐ ถึงมาตรา ๒๑๕) แทน เพือ่ ยกเลิกหมวด ๑๒ องคก์ รอิสระ (มาตรา ๒๑๕ ถงึ มาตรา ๒๔๗) และเพิม่ บทบัญญัติใหมเ่ ป็นหมวด ๑๒ องค์กรอิสระ (มาตรา ๒๑๖ ถึงมาตรา ๒๔๗/๓๒) แทน เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๒๕๖ เพื่อยกเลิก หมวด ๑๖ การปฏิรูปประเทศ (มาตรา ๒๕๗ ถึงมาตรา ๒๖๑) เพื่อเพิ่มเติมหมวด ๑๖ การลบล้าง ผลพวงรัฐประหารเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และการป้องกันและการต่อต้าน รัฐประหาร (มาตรา ๒๕๗ ถึงมาตรา ๒๖๑) เพื่อยกเลิกมาตรา ๒๖๙ มาตรา ๒๗๐ มาตรา๒๗๓ มาตรา ๒๗๒ และมาตรา ๒๗๙ เหตผุ ล โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มีบทบัญญัติหลายมาตราที่ไม่สอดคล้องกับหลกั การ ประชาธิปไตย หลักการแบ่งแยกอำนาจให้ได้ดุลยภาพ ไม่ทันสมัย ไม่สอดคล้องกับหลักการสากลท่ี นานาอารยะประเทศให้การยอมรับ เป็นกลไกในการสีบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ประชาชนไมย่ อมรับนับถือ จนอาจกอ่ ให้เกดิ ปญั หาวกิ ฤตทางรฐั ธรรมนูญ และกระทบต่อการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ระบบรัฐสภา ตลอดจนปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ ชีวติ ประจำวนั ของประชาชน ฯลฯ ๑.๓ สาระสำคญั ร่างรัฐธรรมนญู ฯ ร่างรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพมิ่ เตมิ (ฉบบั ที่ ..) พทุ ธศักราช .... เปน็ การ แกไ้ ขเพิ่มเตมิ รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย มีสาระสำคัญ ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑) ยกเลกิ มาตรา ๖๕ เรื่อง การให้รัฐพงึ จดั ใหม้ ียทุ ธศาสตรช์ าติ (รา่ งมาตรา ๓) zee rice

๔ ๒) ยกเลิกบทบัญญัติในหมวด ๗ รัฐสภา มาตรา ๗๙ ถึงมาตรา ๑๕๗ และเพิ่มบทบัญญัติใหม่ เป็นหมวด ๗ สภาผู้แทนราษฎร มาตรา ๗๙ ถึงมาตรา ๑๔๑ แทน โดยใช้ระบบสภาเดียว ยกเลิก วฒุ ิสภาคงเหลือแตเ่ พียงสภาผแู้ ทนราษฎร เม่อื ใช้ระบบสภาเดยี วแล้ว จำเป็นต้องเพิม่ ระบบตรวจสอบ เสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร จึงกำหนดให้ตำแหน่งสำคัญ เช่น รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานคณะกรรมาธิการที่มีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน ต้องเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองที่สมาชิกมีได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหรือประธานสภา ผู้แทนราษฎร (ร่างมาตรา ๔) กำหนดให้มีคณะผู้ตรวจการกองทัพ ประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ฝา่ ยรฐั บาลเสียงขา้ งมากและฝา่ ยค้านเสียงขา้ งน้อยฝ่ายละ ๕ คน มีหน้าทีแ่ ละอำนาจตรวจสอบการใช้ จ่ายงบประมาณรายได้และโครงการจัดซื้อจัดจ้างกองทัพ ประกันหลักการรัฐบาลพลเรือนมีอำนาจ เหนือกองทัพ พิจารณาเรื่องร้องเรียนของข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ นักเรียนในสังกัด กระทรวงกลาโหม และบุคคลที่ถูกเรียกเข้ารับราชการทหารตามกฎหมาย จากการถูกปฏิบัติอย่าง ไม่เป็นธรรมหรือละเมิดสิทธิมนุษยชนจากผู้บังคับบัญชา จัดทำรายงานและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการ ปรับปรุงหรือปฏิรูปกองทัพให้ทันสมัยและสอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยและหลักการรัฐบาล พลเรอื นมีอำนาจเหนอื กองทพั เพื่อเสนอต่อสภาผ้แู ทนราษฎร (ร่างมาตรา ๔) ๓) แก้ไขคำว่า \"รัฐสภา\" และ \"วุฒิสภา\" เป็นคำว่า \"สภาผู้แทนราษฎร\" โอนหน้าที่ และอำนาจตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่าง ๆ ที่เป็นของรัฐสภาและวุฒิสภาให้เป็นหน้าที่และ อำนาจของสภาผู้แทนราษฎร โอนหน้าที่และอำนาจ กิจการ ทรัพย์สิน งบประมาณ หนี้สิน ภาระ ผูกพัน และบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาให้เป็นของสำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สอดคล้องกับการคงเหลือสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียว (ร่างมาตรา ๕ ถงึ ร่างมาตรา ๘) ๔) แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๑๕๙ วรรคแรก ให้บุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็น นายกรฐั มนตรมี าจากบุคคลซง่ึ เป็นสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร (รา่ งมาตรา ๙) ๕) เพิ่มเติมมาตรา ๑๙๓/๑ มาตรา ๑๙๓/๒ เพื่อกำหนดให้มีการถอดถอนประธาน ศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้พิพากษา ศาลฎกี า ตุลาการศาลปกครองสงู สุด ออกจากตำแหน่งได้ (รา่ งมาตรา ๑๐) ๖) ยกเลิกหมวด ๑๑ ศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่มาตรา ๒๐๐ ถึงมาตรา ๒๑๔ ยกเลิกหมวด ๑๒ องค์กรอิสระ ตั้งแต่มาตรา ๒๑๕ ถึงมาตรา ๒๔๗ และเพิ่มบทบัญญัติใหม่เป็นหมวด ๑๑ ศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่มาตรา ๒๐๐ ถึงมาตรา ๒๑๕ และหมวด ๑๒ องค์กรอิสระ ตั้งแต่มาตรา ๒๑๖ ถึงมาตรา ๒๔๗/๓๒ เพื่อปฏิรูปกระบวนการได้มา หน้าที่และอำนาจ ระบบการตรวจสอบ ของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอสิ ระ (รา่ งมาตรา ๑๑ ถึง รา่ งมาตรา ๑๘) zee rice

๕ ๗) แกไ้ ขเพมิ่ เติมหลกั เกณฑ์และวิธกี ารแก้ไขเพิม่ เตมิ รฐั ธรรมนูญในมาตรา ๒๕๖ เสยี ใหม่ ให้สอดรับกับระบบสภาเดียว โดยกำหนดให้ต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญ ไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ทั้งในวาระหน่ึงและวาระสามและในกรณีร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหมวด ๑ บททั่วไป หมวด ๒ พระมหากษัตริย์หรือหมวด ๑๕ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หรือในกรณี ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อนำไปสู่การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทั้งฉบับ ต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติตามกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ก่อนนำข้ึน ทูลเกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวาย (รา่ งมาตรา ๑๙) ๘) ยกเลิกหมวด ๑๖ การปฏิรูปประเทศ ตั้งแต่มาตรา ๒๕๗ ถึงมาตรา ๒๖๑ เพื่อให้ อำนาจในการกำหนดทิศทางของประเทศรวมถึงนโยบายต่าง ๆ เป็นของรัฐบาลท่ีมาจากการเลือกตั้ง ของประชาชน (ร่างมาตรา ๒๐) ๙) เพิ่มเติมหมวด ๑๖ การลบล้างผลพวงรัฐประหารเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และการป้องกันและการต่อต้านรัฐประหาร มาตรา ๒๕๗ ถึงมาตรา ๒๖๑ โดยกำหนดให้การนิรโทษกรรมให้แก่การรัฐประหารเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เป็นโมฆะ ปวงชนชาวไทยมีสิทธิและหน้าที่ในการต่อต้านรัฐประหารด้วยวิธีการใด ๆ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ของรัฐมีหน้าที่ในการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะที่ก่อการรัฐประหาร ห้ามศาลวินิจฉัยหรือพิพากษา รับรองความสำเร็จสมบูรณข์ องการรัฐประหาร ในกรณที ีม่ ีการรัฐประหารเกดิ ขนึ้ และภายหลังอำนาจ สูงสุดกลับมาเป็นของปวงชนชาวไทย ให้ดำเนินคดีต่อคณะผู้ก่อการรัฐประหารทันที โดยปราศจาก อายุความ และให้บทบัญญัติในหมวดนี้มีสถานะเป็นหลักการพื้นฐานของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจกั รไทย มผี ลใชบ้ งั คับโดยตลอดแม้รฐั ธรรมนญู นจี้ ะสิ้นผลไป (รา่ งมาตรา ๒๑) ๑๐) ยกเลิกมาตรา ๒๖๙ มาตรา ๒๗๐ มาตรา ๒๙๑ มาตรา ๒๗๒ เพื่อยกเลิกอำนาจ ของวุฒิสภาตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย (รา่ งมาตรา ๒๒) ๑๑) ยกเลิกมาตรา ๒๗๙ ที่รับรองความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของประกาศ คำสั่ง และ การกระทำของคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ใช้บังคับ อยูใ่ นวันกอ่ นวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทยหรือที่ออกใช้บังคับตอ่ มา ตลอดจนการ ปฏิบัติตามประกาศ คำสั่ง การกระทำนั้น รวมทั้งรับรองว่าบรรดาการใด ๆ ที่ได้รับรองว่าชอบด้วย รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) และที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว เป็นอันชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดโอกาสให้มี การโตแ้ ย้งว่าประกาศ คำสงั่ และการกระทำเหลา่ น้ีขดั หรอื แย้งต่อรัฐธรรมนญู ได้ (รา่ งมาตรา ๒๓) zee rice

๖ ๒. สรุปข้อเสนอของประชาชนตามร่างรัฐธรรมนูญฯ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... ที่จะนำเข้าสู่ท่ี ประชมุ ร่วมรัฐสภาวาระแรก ในวนั ท่ี ๑๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ทมี่ ปี ระชาชนเข้าช่ือเสนอขอแกไ้ ข จำนวน ๑๓๕,๒๔๗ คน โดยมขี อ้ เสนอตามหลักการและเหตุผลท่ภี าคประชาชนขอแกไ้ ข ๖ ประเดน็ ดงั นี้ ๒.๑ การปรับเปลีย่ นโครงสร้างของรฐั สภาในหมวดที่ ๗ ว่าด้วยเรอ่ื งรฐั สภา จากเดมิ มี ๒ สภา ไดแ้ ก่ ๑) สภาผู้แทนราษฎรและ ๒) วฒุ สิ ภา ร่างรฐั ธรรมนญู ฯ กำหนดให้เหลือสภาผู้แทนราษฎรเพียง สภาเดียว โดยให้เหตุผลวุฒิสภาเป็นกลไกสืบทอดอำนจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเพิ่มบทบาทให้สภาผู้แทนราษฎรและโดยเฉพาะฝ่ายค้านในสภาทำหน้าที่ในการตรวจสอบควบคุม การบรหิ ารราชการแผน่ ดินของฝ่ายบริหารแทน ๒.๒ การปรับโครงสร้างของตลุ าการศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรฐั ธรรมนญู มีผลผูกพันทุกองค์กร มีผลต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจ เป็นผู้ชี้เป็นชี้ตายทางรัฐธรรมนูญทั้งหมด จนกลายสภาพเป็นองค์กรที่อยู่เหนอื รัฐธรรมนญู และมีการใชศ้ าลรัฐธรรมนูญเป็นเคร่ืองมอื กำจัดฝ่าย ตรงข้ามทางเมือง โดยเสนอแก้ไขให้มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ๙ คน มีที่มาจากการเสนอชื่อของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาล จำนวน ๓ คน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้าน จำนวน ๓ คน และทีป่ ระชุมใหญ่ศาลฎีกาหรือศาลปกครองสูงสุด จำนวน ๓ คน ให้สภาผู้แทนราษฎรเลือก และห้าม ศาลรัฐธรรมนูญกระทำการอนั มีผลขัดขวางการแก้ไขรฐั ธรรมนูญ ๒.๓ การใหอ้ งคก์ รอิสระต้องพน้ จากตำแหนง่ ทนั ที หากรฐั ธรรมนญู ฉบับนี้มผี ลบงั คับใช้ ๒.๔ การยกเลิกรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕๖ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยแก้ไขให้การแก้ รัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง ๓ วาระ ไม่มี ส.ว.เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยวาระที่หนึ่ง และ วาระทีสาม ใช้เสยี งสภาผูแ้ ทนราษฎรเหน็ ชอบ ๒ ใน ๓ ส่วนการแกไ้ ขในวาระ ๒ ใชเ้ สยี งข้างมาก ในสภาผูแ้ ทนราษฎร ๒.๕ การยกเลิกรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕๗ - ๒๖๑ ที่เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป ประเทศ ๒.๖ การเพิ่มหมวดเรื่องการลบล้างผลพวงการรัฐประหาร วันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ โดย ให้คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีผล เป็นโมฆะทั้งหมด รวมถึงการให้ปวงชนชาวไทยมีสิทธิและหน้าที่ต่อต้านการรัฐประหารล้มล้าง รัฐธรรมนูญ โดยให้ข้าราชการและเจา้ หน้าที่รฐั มีสทิ ธิไม่ปฏิบัติตามคำส่ังของผู้ก่อการรัฐประหาร และ ห้ามศาลรัฐธรรมนูญและศาลทั้งปวงรับรองความสมบูร ณ์ของการรัฐประหารหรือความสมบูรณ์ กฎหมายแก่ผกู้ ่อการรัฐประหาร zee rice

๗ ๓. กระบวนการแกไ้ ขเพ่ิมเติมรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ สำหรบั กระบวนการแกไ้ ขเพ่ิมเติมรฐั ธรรมนูญรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ที่มีผลบังคับอยู่ในปัจจุบันได้บัญญัติเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญไว้ในมาตรา ๒๕๖ กำหนดให้ องค์กรที่สามารถริเริ่มการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ ได้แก่ คณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวนไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๕ ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ วุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๕ ของจำนวนสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด หรือประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ น้อยกว่า ๕๐,๐๐๐ คน สามารถริเริ่มการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ โดยการพิจารณาร่างแก้ไข เพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้น ต้องทำเป็น ๓ วาระ คือ ขั้นรับหลักการ ขั้นพิจารณาเรียงลำดับมาตรา และ ขั้นการลงมติ โดยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้นมีกระบวนการอันมีที่มาจากกฎเกณฑ์สำคัญ ๒ ประการ อนั ประกอบดว้ ย (๑) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ หมวด ๑๕ การแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนญู มาตรา ๒๕๖ และ (๒) ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ หมวด ๘ การเสนอและการพิจารณา ร่างรฐั ธรรมนูญแกไขเพ่มิ เติมดงั มีรายละเอยี ดดงั นี้ ๓.๑ การเสนอขอแก้ไขเพ่ิมเติมรัฐธรรมนญู ต่อรัฐสภา การเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ต้องเสนอเป็น “ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติม” โดยผู้มี สทิ ธเิ สนอ1 กลมุ่ หน่ึงกลุม่ ใด ดงั น้ี (๑) คณะรฐั มนตรี หรือ (๒) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวนไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๕ ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด เท่าทม่ี อี ยขู่ องสภาผแู้ ทนราษฎร หรอื (๓) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา จำนวนไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๕ ของ จำนวนสมาชกิ ท้ังหมดเท่าทีม่ ีอยูข่ องทั้งสองสภาหรือ (๔) ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวนไม่น้อยกว่า ๕๐,๐๐๐ คนตามกฎหมายว่าด้วย การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ภายใต้ข้อกำหนดเคร่งครัดที่ “ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เป็นการเปลี่ยนแปลง การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบ ของรฐั จะกระทำมิได้”2 1 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๖ (๑) บัญญัติว่า “ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมต้องมาจาก คณะรัฐมนตรี หรือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร หรือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้ งสองสภา หรือจากประชาชนผู้มีสิทธเิ ลอื กตั้งจำนวนไมน่ ้อยกว่าหา้ หม่ืนคนตามกฎหมายว่าด้วยการเขา้ ชื่อเสนอกฎหมาย” 2 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๕ บัญญัติว่า “การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เป็นการ เปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ จะกระทำมิได้” และ ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๓ ข้อ ๘๗ กำหนดว่า “ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ หรือเปลยี่ นแปลงรปู ของรัฐ จะเสนอมไิ ด” zee rice

๘ ประธานรัฐสภาจะบรรจุร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเข้าระเบียบวาระการประชุมรัฐสภา ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับญัตตินั้นหรือนับแต่วันที่ตรวจสอบเอกสารถูกต้องครบถ้วนหากเป็น ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่เสนอโดยประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง3 เพื่อเข้าสู่การพิจารณาของที่ ประชุมรัฐสภา อันประกอบไปด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาต่อไป4 เปน็ ๓ วาระตามลำดบั 5 ๓.๒ การพจิ ารณาของรัฐสภาในวาระท่หี นงึ่ : ข้ันรับหลกั การ6 การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในวาระที่หนึ่ง รัฐสภาจะพิจารณาและ ลงมติว่า “จะรับหลักการหรือไม่รับหลักการ” แห่งร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมนั้น โดยที่ประชุม วุฒิสภาจะตง้ั คณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาก่อนรับหลกั การกไ็ ด้ เพือ่ ประโยชน์ในการพิจารณา ในกรณีที่มีการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมหลายฉบับมาในคราวเดียวกันและ ที่ประชุมรัฐสภามีมติให้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมหลายฉบับรวมกันแล้วนั้น รัฐสภา จะลงมติรับหลักการหรอื ไม่รับหลกั การแห่งร่างรัฐธรรมนญู แก้ไขเพิ่มเติมแตล่ ะฉบับ หรือทั้งหมดรวมกันก็ได้ ในกรณีนี้ เมื่อที่ประชุมรัฐสภามีมติรับหลักการแล้ว จะลงมติต่อมาว่าจะใช้ร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมฉบับใดเป็น “หลักในการพิจารณา” ในวาระที่สอง ขั้นคณะกรรมาธิการต่อไป การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่หนึ่งขั้นรับหลักการ ให้ใช้วิธี “เรียกชื่อและลงคะแนน โดยเปิดเผย” และ “ต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการแก้ไขเพิ่มเติมนั้น ไม่น้อยกว่า กึ่งหนึ่ง (ร้อยละ ๕๐) ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา” ซึ่งในจำนวนนี้ “ตอ้ งมีสมาชกิ วฒุ ิสภาเหน็ ชอบด้วยไม่นอ้ ยกว่า ๑ ใน ๓ ของจำนวนสมาชกิ ท้ังหมดเทา่ ท่ีมีอยู่ของ วุฒิสภา” หากผลปรากฏว่า มีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการแก้ไขเพิ่มเติมนั้น ไม่น้อยกว่ากึ่งหน่ึง (ร้อยละ ๕๐) ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของท้ัง ๒ สภา ซึ่งในจำนวนนีต้ อ้ งมีสมาชิกวุฒิสภา เห็นชอบด้วยไมน่ ้อยกว่า ๑ ใน ๓ ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าท่มี ีอยู่ของวุฒิสภา ยอ่ มถอื ว่า รัฐสภา 3 ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๑๑๙ กำหนดว่า “ให้ประธานรัฐสภาบรรจุร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเข้า ระเบียบวาระการประชุมรัฐสภาภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับญัตตินั้น กำหนดวันดังกล่าวให้หมายถึงวันในสมัยประชุม เว้นแต่ร่าง รฐั ธรรมนูญแกไ้ ขเพ่ิมเติมท่ีเสนอโดยประชาชนผมู้ ีสิทธเิ ลอื กตง้ั ใหน้ ับแต่วนั ที่ตรวจสอบเอกสารถูกตอ้ งครบถว้ น” 4 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๑๕๖ บญั ญตั วิ า่ “ในกรณตี ่อไปนี้ ใหร้ ฐั สภาประชมุ ร่วมกัน (๑๕) การแก้ไขเพิ่มเตมิ รัฐธรรมนูญตามมาตรา ๒๕๖” 5 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๖ (๒) บัญญัติว่า “ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมต้องเสนอเป็นร่าง รัฐธรรมนูญแก้ไขเพม่ิ เติมต่อรฐั สภาและใหร้ ฐั สภาพิจารณาเป็นสามวาระ” 6 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๖ (๓) บัญญัติว่า “การออกเสียงลงคะแนนในวาระทีห่ นง่ึ ขั้นรับหลักการให้ใช้วิธีเรียกชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผยและต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการแก้ไขเพิ่มเติมนั้น ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ ง ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา ซึ่งในจำนวนนี้ต้องมีสมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวน สมาชกิ ทั้งหมดเท่าทีม่ อี ยู่ของวฒุ สิ ภา” zee rice

๙ มีมติรับหลักการร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว7 ในทางกลับกัน หากที่ประชมุ รัฐสภาลงมติในวาระ ทห่ี นึ่งไมร่ บั หลกั การแล้ว รา่ งรฐั ธรรมนญู แก้ไขเพ่มิ เติมน้ัน ยอ่ มเปน็ อนั ตกไป8 ในทางปฏิบัติ เมื่อที่ประชุมรัฐสภามีมติรับหลักการแล้ว ที่ประชุมรัฐสภาจะมีมติตั้ง “คณะกรรมาธิการ” ขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาในวาระที่สอง จากสมาชิก รัฐสภามีจำนวนไม่เกิน ๔๕ คน ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด9 จากนั้นจะเข้าสู้ขั้นตอนการพิจารณา ในวาระท่สี อง ขั้นพิจารณาเรยี งตามลำดบั มาตราต่อไป ๓.๓ การพิจารณาของรัฐสภาในวาระทส่ี อง : ข้นั พจิ ารณาเรยี งตามลำดับมาตรา การพจิ ารณาของรัฐสภาในวาระท่สี อง จะพจิ ารณาเปน็ ๒ ขนั้ ตอน10 ไดแ้ ก่ ๓.๓.๑ การพิจารณาขัน้ ตงั้ คณะกรรมาธิการ ๓.๓.๒ การพิจารณาขัน้ พิจารณาเรียงตามลำดบั มาตรา โดยท่ปี ระชุมร่วมกนั ของรัฐสภาดัง มีรายละเอยี ดดังนี้ ๑) การพิจารณาข้ันต้ังคณะกรรมาธิการ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาสามารถที่จะเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมได้ การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขั้นคณะกรรมาธิการนี้ หากสมาชิกรัฐสภาผู้ใดประสงค์จะแก้ไข เพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในข้อความหรือประเด็นใดข้อบังคับการประชุมรัฐสภาได้เปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภา เสนอขอแกไ้ ขเพ่มิ เติมดงั ท่เี รียกว่า การเสนอ \"คำแปรญตั ติ\" ซงึ่ ตอ้ งกระทำล่วงหนา้ เปน็ หนังสอื ต่อประธาน คณะกรรมาธิการภายในกำหนดเวลา ๑๕ วันนับแต่วันถัดจากวันที่รัฐสภารับหลักการ เว้นแต่รัฐสภาจะได้ กำหนดเวลาแปรญัตตินั้นไว้เป็นอย่างอื่น11 “การแปรญัตติ” นั้น โดยปกติการต้องแปรเป็นรายมาตรา ทัง้ น้ี การแกไ้ ขเพมิ่ เติมมาตราทไ่ี มเ่ กี่ยวเนือ่ งกับหลักการ หากจะเพ่มิ มาตราข้นึ ใหม่หรอื ตัดทอน หรือแกไ้ ข ข้อความของมาตราที่มีอยู่แล้ว จะกระทำได้เมื่อไม่ขัดกับหลักการแห่งร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่ใช้ 7 ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๑๒๑ วรรคสอง กำหนดว่า “การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่หนึ่งขั้นรับ หลักการให้ใช้วิธีเรียกชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผย และต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการแกไขเพิ่มเติมนั้นไมน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของ จำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าท่ีมีอยู่ของทั้งสองสภา ซึ่งในจำนวนนี้ต้องมีสมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวน สมาชกิ ทัง้ หมดเท่าทีม่ ีอยขู่ องวฒุ ิสภา” 8 ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๑๓๓ กำหนดว่า “ในกรณีที่รัฐสภาลงมติในวาระที่หนึ่งไมรับหลักการแห่งร่าง รัฐธรรมนญู แกไ้ ขเพิ่มเติม หรือลงมตใิ นวาระทส่ี ามไม่เห็นชอบ ใหร้ า่ งรฐั ธรรมนูญแกไ้ ขเพิม่ เติมน้นั เป็นอันตกไป” 9 ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๑๒๓ กำหนดว่า “การพิจารณาในวาระที่สอง ให้ที่ประชุมรัฐสภาตั้ง คณะกรรมาธิการขึ้นคณะหนึ่งจากสมาชิกรัฐสภาเพื่อพิจารณามีจำนวนไมเกินสี่สิบห้าคน และกรรมาธิการที่ตั้งจากผู้ที่เป็นสมาชิกของแต่ ละสภาจะต้องมีจำนวนตามหรือใกล้เคียงกับอัตราส่วนของจำนวนสมาชิกของแต่ละสภา และกรรมาธิการที่ตั้งจากผู้ท่ีเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องมีจำนวนตามหรือใกล้เคียงกับอัตราส่วนของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแต่ละพรรคการเมืองหรือ กล่มุ พรรคการเมืองทมี่ ีอยใู่ นสภาผแู้ ทนราษฎร” 10 คณะกรรมการจัดทำประมวลสรุปสาระสำคัญจากคำอธิปรายของสมาชิกวุฒิสภา ในการพิจารณาร่า งรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... “วุฒิสภากับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ (เจตนารมณ์ที่มาของร่าง รัฐธรรมนูญ)” หนา้ ๘ ,๒๕๕๕ 11 ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๑๒๔ วรรคหนึ่ง กำหนดว่า “การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขั้น คณะกรรมาธิการ สมาชิกรัฐสภาผู้ใดเห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก็ให้เสนอคำแปรญัตติล่วงหน้าเป็นหนังสือต่อ ประธานคณะกรรมาธิการภายในกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันถัดจากวันท่รี ฐั สภารับหลักการแห่งรา่ งรัฐธรรมนญู แก้ไขเพ่ิมเติม เว้นแต่รัฐสภา จะได้กำหนดเวลาแปรญตั ตสิ ำหรับร่างรฐั ธรรมนญู แก้ไขเพิ่มเติมน้นั ไว้เป็นอยา่ งอน่ื ” zee rice

๑๐ เป็นหลักในการพิจารณา12 และเมื่อคณะกรรมาธิการได้พิจารณาเสร็จแล้วจะรายงานต่อประธานรัฐสภา13 มรี ายละเอียด ดงั น้ี (๑) ร่างรัฐธรรมนูญแกไ้ ขเพมิ่ เติมซ่งึ แสดงร่างเดมิ และการแก้ไขเพ่ิมเตมิ (๒) รายงานของคณะกรรมาธิการ ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับ การแก้ไข เพิ่มเตมิ ขอ้ ความในแต่ละมาตรา และมติของคณะกรรมาธกิ ารเก่ยี วดว้ ยคำแปรญตั ติ (หากม)ี ตลอดจนการ ไมเ่ ห็นด้วยกับมติของคณะกรรมาธิการในข้อใด ๆ ในรปู แบบของ \"การสงวนคำแปรญตั ติ\" โดยผแู้ ปรญัตติ\" หรือในรูปแบบของ \"การสงวนความเหน็ \" โดยกรรมาธิการ\" ท้ังนี้ เพอ่ื ขอใหร้ ัฐสภาวนิ ิจฉยั ในขอ้ นน้ั ตอ่ ไป (๓) การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ซึ่งได้เสนอ รา่ งรัฐธรรมนูญแก้ไขเพม่ิ เติม เมื่อประธานรัฐสภาได้รับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมและรายงานของ คณะกรรมาธิการดังกล่าวแล้วจะบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมรัฐสภา ภายใน ๑๕ วัน14 เพื่อเข้าสขู่ นั้ ตอนการพจิ ารณาเรียงลำดับมาตรา โดยทป่ี ระชุมร่วมกนั ของรัฐสภาต่อไป ๒) การพิจารณาข้นั เรยี งตามลำดบั มาตรา โดยทปี่ ระชุมรว่ มกันของรัฐสภา คือ การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว15 เมื่อการ พิจารณาขั้นคณะกรรมาธิการได้เสร็จสนิ้ ลงและรายงานตอ่ ประธานรัฐสภาเพอ่ื บรรจุระเบียบวาระการ ประชุมแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่คณะกรรมาธิการพิจารณา เสร็จแล้วโดยท่ีประชุมร่วมกันของสมาชิกรัฐสภา จะพิจารณาเริ่มต้นด้วย ชื่อร่าง คำปรารภ แล้ว พิจารณาเนื้อหาในแต่ละมาตราเรียงตามลำดับ และในขั้นตอนนี้ สมาชิกรัฐสภาจะอภิปรายชี้แจง แสดงความคิดเหน็ ต่อที่ประชุม โดยเฉพาะในส่วนของถอ้ ยคำหรอื ขอ้ ความทีม่ ีการแกไ้ ขเพ่มิ เติม หรอื ท่ีมี การสงวนคำแปรญัตติหรือที่มีการสงวนความเห็นไว้ ทั้งนี้ เว้นแต่ที่ประชุมรัฐสภาจะลงมติเป็นอย่างอื่น ในการประชุมรัฐสภาพิจารณาเรียงลำดับมาตรานี้ เฉพาะแต่คณะกรรมาธิการหรือบุคคลผู้ที่ได้รับ มอบหมายจากกรรมาธิการและประธานรัฐสภาอนุญาตเท่านั้นที่จะมีสิทธิแถลงตอบชี้แจง หรือแก้ไข เพิ่มเติมในร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมนั้นต่อที่ประชุมได้ ซึ่งอาจเป็นการตอบชี้แจงในประเด็นที่ สมาชิกรัฐสภาในฐานะผู้เสนอคำแปรญัตติซึ่งได้สงวนคำแปรญัตติของตนไว้อภิปรายและแสดงความ 12 ข้อบังคบั การประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ขอ้ ๑๒๔ วรรคสาม กำหนดวา่ “การแปรญัตติเพ่มิ มาตราขึ้นใหม่ หรือตัดทอน หรือแก้ไข มาตราเดิม ต้องไมขัดกบั หลักการแห่งรา่ งรฐั ธรรมนูญแก้ไขเพ่ิมเติม เว้นแตก่ ารแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ มาตราท่ีเก่ียวเนอื่ งกับหลักการน้ัน” 13 ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๑๒๕ กำหนดว่า “เมื่อคณะกรรมาธิการไดพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไข เพิ่มเติมเสร็จแล้ว ให้เสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมนั้น โดยแสดงร่างเดิมและการแก้ไขเพิ่มเติม พร้อมทั้งรายงานต่อประธานรัฐสภา รายงานนั้นอย่างน้อยต้องระบุว่าไดมีหรือไมมีการแก้ไขเพิ่มเติมในมาตราใดบ้าง และถ้ามีการแปรญัตติมติของคณะกรรมาธิการเกี่ยวด้วย คำแปรญัตตินั้นเป็นประการใด หรือมีการสงวนคำแปรญัตติของผู้แปรญัตติ หรือมีการสงวนความเห็นของกรรมาธิการก็ให้ระบุไวใน รายงานด้วย” 14 ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๑๒๖ กำหนดว่า “เมื่อประธานรัฐสภาได้รับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมและ รายงานของคณะกรรมาธิการตามข้อ ๑๒๕ แล้วให้บรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมรัฐสภาภายในสิบห้าวัน กำหนดวันดังกล่าวให้ หมายถงึ วันในสมยั ประชุม” 15 ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๑๒๗ กำหนดว่า “ในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่ คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ให้รัฐสภาพิจารณาเริ่มต้นด้วยชื่อร่าง คำปรารภ แล้วพิจารณาเรียงตามลำดับมาตรา และให้สมาชิก รัฐสภาอภิปรายได้เฉพาะถ้อยคำหรือข้อความที่มีการแก ไขเพิ่มเติม หรือที่มีการสงวนคำแปรญัตติ หรือที่มีการสงวนความเห็นไว้ ทั้งน้ี เว้นแตท่ ีป่ ระชุมรัฐสภาจะลงมตเิ ป็นอย่างอ่ืน” zee rice

๑๑ คิดเห็นในประเด็นนั้น และเมื่อการอภิปรายสิ้นสุดลงในแต่ละมาตรา ที่ประชุมรัฐสภาจะออกเสียง ลงคะแนนในวาระที่สองขั้นพิจารณาเรียงลำดับมาตรา โดยถือเอาเสียงข้างมากเป็นประมาณ นอกจากนี้ การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่เสนอโดยประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ต้องเปิด โอกาสใหผ้ ูแ้ ทนของประชาชนทเี่ ข้าชอื่ กนั ได้แสดงความคดิ เห็นดว้ ย16 เมื่อได้พิจารณาเรียงตามลำดับมาตราจนจบร่างแล้ว ที่ประชุมรัฐสภาจะ พิจารณาทั้งร่างเป็นการสรุปอีกครั้งหนึ่ง และในการพิจารณาครั้งนี้ สมาชิกรัฐสภาอาจขอแก้ไข เพิ่มเติมถ้อยคำ และเนื้อความได้เฉพาะที่เห็นว่ายังขัดแย้งกันอยู่และเมื่อได้พิจารณา ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในวาระที่สองเสร็จสิ้นแล้ว จะรอระยะเวลาไว้มีกำหนด ๑๕ วัน เมอ่ื พน้ กำหนดนแี้ ลว้ รฐั สภาจะพิจารณาวาระทสี่ าม17 เป็นลำดบั ตอ่ ไป ๓.๔ การพิจารณาของรัฐสภาในวาระที่สาม : การเห็นชอบให้มีผลเป็นการแก้ไข รัฐธรรมนูญ การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในวาระที่สามนั้น จะไม่มีการอภิปรายแสดง ความคิดเห็นใด ๆ ที่ประชุมรัฐสภาจะลงมติเพียงว่า \"เห็นชอบ\" หรือ \"ไม่เห็นชอบ\" ในการที่จะให้ออก ใช้เป็นรฐั ธรรมนูญ\" เทา่ น้นั 18 ๓.๔.๑ การออกเสยี งลงคะแนนในวาระทสี่ าม ขนั้ สดุ ท้ายของทป่ี ระชุม การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่สามขั้นสุดท้ายจะใช้วิธีเรียกชื่อและลงคะแนน โดยเปิดเผยและต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการที่จะให้ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญมากกว่ากึ่งหนึ่ง (มากกว่าร้อยละ ๕๐) ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้ง ๒ สภา โดยในจำนวนนี้ต้องมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองที่สมาชิกมิได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภา ผู้แทนราษฎรหรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๐ ของทุกพรรค การเมืองดังกล่าวรวมกัน และมีสมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๓ ของจำนวนสมาชิก ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา19 ในกรณีที่รัฐสภาลงมติในวาระที่สามไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแก้ไข เพมิ่ เตมิ น้นั ยอ่ มตกไป 16 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๖ (๔) บัญญัติว่า “การพิจารณาในวาระที่สองข้ัน พิจารณาเรียงลำดับมาตรา โดยการออกเสียงในวาระที่สองนี้ให้ถือเสียงข้างมากเป็นประมาณ แต่ในกรณีที่เป็นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไข เพ่ิมเตมิ ทปี่ ระชาชนเป็นผู้เสนอตอ้ งเปิดโอกาสให้ผแู้ ทนของประชาชนท่เี ข้าชอื่ กันได้แสดงความคิดเห็นดว้ ย” 17 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๖ (๕) บัญญัติว่า “เมื่อการพิจารณาวาระที่สองเสร็จส้ิน แ ล้ ว ใหร้ อไว้สิบหา้ วัน เมื่อพ้นกำหนดน้แี ล้วใหร้ ฐั สภาพิจารณาในวาระทส่ี ามต่อไป” 18 ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๑๓๒ กำหนดว่า “การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในวาระที่สาม ไม่มกี ารอภิปรายและใหท้ ีป่ ระชุมรัฐสภาลงมตวิ ่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบด้วยในการที่จะใหอ้ อกใช้เปน็ รัฐธรรมนูญ การออกเสียงลงคะแนนในวาระท่ีสามขน้ั สดุ ท้าย ให้ใช้วิธีเรียกช่ือและลงคะแนนโดยเปดิ เผย และต้องมีคะแนนเสยี งเห็นชอบ ด้วยในการที่จะใหอ้ อกใชเ้ ป็นรัฐธรรมนูญมากกวา่ กึ่งหนึง่ ของจำนวนสมาชิกท้ังหมดเทา่ ทมี่ ีอยขู่ องทง้ั สองสภา 19 รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๖ (๖) บัญญัตวิ า่ “การออกเสยี งลงคะแนนในวาระท่ีสาม ขั้นสดุ ทา้ ย ใหใ้ ชว้ ธิ ีเรยี กชอื่ และลงคะแนนโดยเปิดเผยและต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบดว้ ยในการทจ่ี ะให้ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญมากกว่าก่ึง หนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา ซึ่งในจำนวนนี้ต้องมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองที่สมาชิกมิได้ zee rice

๑๒ ๓.๔.๒ การจัดให้มีการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในเรื่องสำคัญบางเรื่อง ตามทร่ี ัฐธรรมนูญกำหนด20 กรณกี ารแกไ้ ขเพิ่มเติมรัฐธรรมนญู ในเรื่องดังตอ่ ไปนี้ (๑) หมวด ๑ บททวั่ ไป (๒) หมวด ๒ พระมหากษตั ริย์ (๓) หมวด ๑๕ การแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ รฐั ธรรมนูญ (๔) เรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ตาม รฐั ธรรมนญู (๕) เรื่องที่เก่ยี วกับหน้าที่หรอื อำนาจของศาล หรือองคก์ รอิสระ หรอื เรอื่ งที่ทำให้ ศาลหรอื องคก์ รอสิ ระไมอ่ าจปฏิบัตติ ามหน้าที่หรืออำนาจได้ ก่อนดำเนินการนำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย ให้จัดให้มีการออกเสียงประชามติตามกฎหมายว่าด้วยการ ออกเสียงประชามติ ถ้าผลการออกเสียงประชามติเห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม จึงให้ นำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระ ปรมาภิไธยต่อไป ๓.๔.๓ การมีผลใชบ้ ังคับ ในขั้นตอนหลังจากที่รัฐสภามีมติเห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว ให้รอไว้สิบห้าวัน ประธานรัฐสภาจะดำเนินการส่งร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้นายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายต่อไป21 ภายใน ๒๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไข เพมิ่ เตมิ นั้นจากรัฐสภา เพอ่ื พระมหากษัตรยิ ์ทรงลงพระปรมาภไิ ธย และในเวลาต่อมาเมื่อได้ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาแล้วย่อมใช้บังคับเป็นกฎหมาย อันมีผลเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญและมี เนอ้ื ความปรากฏในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยสืบไป ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบของทุกพรรค การเมอื งดงั กลา่ วรวมกนั และมีสมาชิกวฒุ สิ ภาเห็นชอบดว้ ยไม่น้อยกวา่ หนง่ึ ในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยขู่ องวุฒิสภา” 20 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๖ (๘) บัญญัติว่า “ในกรณีร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหมวด ๑ บททั่วไป หมวด ๒ พระมหากษัตริย์ หรือหมวด ๑๕ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับ คุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ตามรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่หรืออำนาจของศาล หรือองค์กร อิสระ หรือเรื่องที่ทำให้ศาลหรือองค์กรอิสระไม่อาจปฏิบัติตามหน้าที่หรืออำนาจได้ ก่อนดำเนินการตาม (๗) ให้จัดให้มีการออกเสียง ประชามติตามกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ถ้าผลการออกเสียงประชามติเห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม จึงให้ ดำเนินการตาม (๗) ต่อไป” 21 รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๖ (๗) บัญญตั วิ า่ “เมอื่ มีการลงมติเห็นชอบตาม (๖) แล้ว ให้รอไว้สิบห้าวัน แล้วจึงนำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย และให้นำความในมาตรา ๘๑ มาใช้บังคับโดย อนุโลม” zee rice

๑๓ ๔. แผนภูมิแสดงขน้ั ตอนกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ zee rice

๑๔ กลุม่ งานรองประธานวฒุ ิสภา คนท่ีหนงึ่ สำนักงานรองประธานวุฒิสภา สำนักงานเลขาธิการวฒุ ิสภา zee rice


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook