เปรียบเทียบข้อแตกต่างร่างรัฐธรรมนูญ พท พปชรใหม่

เปรยี บเทียบข้อแตกต่าง รา่ งรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย แกไ้ ขเพิ่มเตมิ (ฉบับท่ี ..) พทุ ธศกั ราช .... ของพรรคพลงั ประชารฐั (ร่วมรฐั บาล) กบั พรรคเพอ่ื ไทย (ร่วมฝา่ ยคา้ น) (กรณกี ารแกไ้ ขเพิ่มเตมิ มาตรา ๒๕๖) zee rice zee rice ๑๐/๑/๒๐

๑ คำนำ รัฐธรรมนูญส่วนใหญ่ในต่างประเทศได้กำหนดขั้นตอนและกระบวนการในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญไว้เพื่อให้สามารถแก้ไขเพิ่มเติม รฐั ธรรมนญู ให้เหมาะสมกับสภาพสงั คม เศรษฐกจิ และการเมอื งที่เปล่ียนแปลงไปตามกาลเวลา และเพอ่ื ให้การดำเนนิ กจิ กรรมทางการเมืองไมห่ ยุดชะงกั ในกรณี ที่อาจเกิดวกิ ฤตการณท์ างการเมอื ง พร้อมกันน้ี การกำหนดให้รฐั ธรรมนูญสามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ยังช่วยไม่ให้เกิดกระบวนการแกไ้ ขเพ่ิมเติมรัฐธรรมนูญท่ีไมช่ อบ ด้วยวิถีทางประชาธปิ ไตย ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเปรียบเทียบข้อแตกต่างร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... ของพรรค พลังประชารัฐ (ร่วมรัฐบาล) กับพรรคเพื่อไทย (ร่วมฝ่ายค้าน) (กรณีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๒๕๖) ฉบับนี้ จะเป็นเครื่องมือในการศึกษาค้นคว้าในประเด็นท่ี สำคญั เกี่ยวกบั รา่ งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย แก้ไขเพ่มิ เตมิ (ฉบับท่ี ..) พุทธศกั ราช .... และเกิดประโยชน์ต่อทา่ นผูท้ ส่ี นใจไมม่ ากกน็ อ้ ย zee rice ตุลาคม ๒๕๖๓ zee rice

๒ สารบัญ ๑. ตารางเปรียบเทยี บข้อแตกต่างรา่ งรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย แกไ้ ขเพิม่ เตมิ (ฉบบั ที่ ..) พทุ ธศักราช .... ๓ ของพรรคพลงั ประชารฐั กับพรรคเพ่ือไทย (มาตรา ๒๕๖) ……………………………………………………………………………………………………….. ๒๗ ๓๑ ๒. หลักข้อความคดิ เกี่ยวกบั การแกไ้ ขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ………………………………………………………………………………… ๓. การแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. ๒๕๖๐………………………………………………………………… zee rice

๓ เปรียบเทยี บข้อแตกต่าง รา่ งรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย แกไ้ ขเพมิ่ เติม (ฉบบั ท่ี ..) พุทธศกั ราช .... ของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพือ่ ไทย (มาตรา ๒๕๖) ร่างรฐั ธรรมนญู พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพ่ือไทย ข้อสงั เกต ฯ (ร่วมรัฐบาล) (รว่ มฝา่ ยคา้ น) เหมือนกัน เปน็ ไปตามแบบการร่างกฎหมาย ช่อื ร่าง รา่ ง ร่าง รัฐธรรมนูญฯ รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย เหมือนกัน เปน็ ไปตามแบบการรา่ งกฎหมาย แกไ้ ขเพิม่ เติม (ฉบบั ที่ ..) แกไ้ ขเพิม่ เติม (ฉบบั ท่ี ..) พทุ ธศักราช .... พทุ ธศกั ราช .... โดยทีเ่ ปน็ การสมควรแก้ไขเพม่ิ เตมิ รฐั ธรรมนญู แหง่ คำปรารภ โดยท่ีเป็นการสมควรแกไ้ ขเพ่มิ เติมรัฐธรรมนญู ราชอาณาจกั รไทย แหง่ ราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑ มาตรา ๑ รัฐธรรมนูญนเ้ี รยี กวา่ \"รฐั ธรรมนญู แห่ง มาตรา ๑ รัฐธรรมนญู น้ีเรียกวา่ \"รัฐธรรมนญู แหง่ เหมอื นกนั ราชอาณาจกั รไทย แกไ้ ขเพิ่มเตมิ (ฉบับที่ ..) พุทธศกั ราช ....\" ราชอาณาจกั รไทย แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ที่ ..) พุทธศักราช ....\" เปน็ ไปตามแบบการรา่ งกฎหมาย ช่อื ร่าง รัฐธรรมนญู ฯ มาตรา ๒ รฐั ธรรมนูญนีใ้ ห้ใชบ้ ังคับตง้ั แตว่ นั ถัดจากวนั มาตรา ๒ รัฐธรรมนูญนี้ให้ใชบ้ ังคับต้ังแตว่ ันถัดจากวนั เหมือนกนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ต้นไป ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป เป็นไปตามแบบการรา่ งกฎหมาย มาตรา ๒ วนั ที่ใชบ้ งั คับ มาตรา ๓ มาตรา ๓ ให้ยกเลกิ ความในมาตรา ๖ ของรฐั ธรรมนญู มาตรา ๓ ให้ยกเลกิ ความในมาตรา ๖ ของรฐั ธรรมนญู ต่างกนั แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ และให้ใช้ความ - รา่ งพรรคเพอ่ื ไทยมคี ำว่า ยกเลิกความ แหง่ ราชอาณาจกั รไทย และให้ใช้ความต่อไปนแ้ี ทน ตอ่ ไปนีแ้ ทน “พทุ ธศักราช ๒๕๖๐” ตอ่ ท้ายรา่ ง รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในมาตรา ๖ และ ให้ใชค้ วาม ต่อไปนี้แทน zee rice

๔ เปรียบเทียบขอ้ แตกต่าง ร่างรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ที่ ..) พุทธศักราช .... ของพรรคพลังประชารฐั กับพรรคเพอ่ื ไทย (มาตรา ๒๕๖) รา่ งรฐั ธรรมนูญ พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพอ่ื ไทย ข้อสังเกต ฯ (ร่วมรัฐบาล) (ร่วมฝา่ ยค้าน) ตา่ งกัน มาตรา ๒๕๖ - รา่ งพรรคพลงั ประชารฐั หลักเกณฑแ์ ละ \"มาตรา ๒๕๖ ภายใต้บงั คับมาตรา ๒๕๕ การแกไ้ ข \"มาตรา ๒๕๖ ภายใตบ้ ังคบั มาตรา ๒๕๕ การแกไ้ ข ญตั ตขิ อแก้ไขฯ ตอ้ งมาจาก วิธีการแกไ้ ข - ส.ส., ส.ส.และ ส.ว. ไมน่ ้อย เพม่ิ เติม เพม่ิ เตมิ รฐั ธรรมนญู ใหก้ ระทำได้ตามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการ เพ่ิมเติมรัฐธรรมนญู ให้กระทำไดต้ ามหลักเกณฑ์และวิธกี าร กว่า ๑ ใน ๕ รัฐธรรมนูญ - รา่ งพรรคเพ่ือไทย ดังตอ่ ไปน้ี ดังตอ่ ไปนี้ ญัตติขอแก้ไขฯ ต้องมาจาก - ส.ส., ส.ส.และ ส.ว. ไม่นอ้ ย (๑) ญตั ติขอแกไ้ ขเพมิ่ เติมต้องมาจากคณะรัฐมนตรี หรือ (๑) ญัตตขิ อแก้ไขเพ่มิ เติมต้องมาจากคณะรัฐมนตรี กวา่ ๑ ใน ๑๐ จากสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรจำนวนไมน่ ้อยกวา่ หนงึ่ ในห้าของ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรมจี ำนวนไม่นอ้ ยกว่าหนง่ึ ในสิบของ จำนวนสมาชกิ ทง้ั หมดเทา่ ทม่ี อี ยู่ของสภาผแู้ ทนราษฎร หรอื จาก จำนวนสมาชกิ ทงั้ หมดเท่าทมี่ อี ยูข่ องสภาผแู้ ทนราษฎร หรอื จาก สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่นอ้ ยกว่า สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรและสมาชกิ วฒุ ิสภาจำนวนไม่น้อยกว่า หนึง่ ในห้าของจำนวนสมาชกิ ทั้งหมดเทา่ ท่ีมอี ยู่ของทงั้ สองสภา หนึ่งในสบิ ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเทา่ ทีม่ ีอยู่ของท้งั สองสภา หรือจากประชาชนผูม้ ีสิทธเิ ลือกต้ังจำนวนไม่น้อยกวา่ หา้ หมืน่ คน หรอื จากประชาชนผมู้ ีสทิ ธิเลือกตง้ั จำนวนไม่น้อยกว่าหา้ หมนื่ คน ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ตามกฎหมายว่าดว้ ยการเขา้ ช่อื เสนอกฎหมาย การเสนอญตั ติ (๒) ญัตตขิ อแก้ไขเพิม่ เตมิ ตอ้ งเสนอเป็นร่างรฐั ธรรมนญู (๒) ญัตติขอแกไ้ ขเพิ่มเติมตอ้ งเสนอเป็นรา่ งรัฐธรรมนญู เหมือนกัน และการ แก้ไขเพ่ิมเติมตอ่ รฐั สภาและให้รัฐสภาพจิ ารณาเปน็ สามวาระ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ และใหร้ ฐั สภาพิจารณาเปน็ สามวาระ พจิ ารณา วาระท่ีหนงึ่ ขน้ั รบั หลักการ (๓) การออกเสยี งลงคะแนนในวาระทห่ี น่งึ ขนั้ รบั (๓) การออกเสยี งลงคะแนนในวาระที่หนึ่งขัน้ รบั - รา่ งพรรคพลงั ประชารัฐ การออกเสียง หลกั การ ให้ใชว้ ิธีเรียกชอื่ และลงคะแนนโดยเปิดเผย และตอ้ งมี หลกั การใหใ้ ชว้ ิธเี รยี กชอื่ และลงคะแนนโดยเปดิ เผย และตอ้ งมี ไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๕ ลงคะแนนใน คะแนนเสยี งเห็นชอบด้วยในการแกไ้ ขเพ่มิ เติมนัน้ ไมน่ อ้ ยกวา่ คะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการแก้ไขเพมิ่ เตมิ นน้ั ไม่น้อยกว่า - ร่างพรรคเพื่อไทย วาระทห่ี นึ่ง สามในห้าของจำนวนสมาชิกทัง้ หมดเท่าที่มีอยู่ของท้ังสองสภา กงึ่ หนงึ่ ของจำนวนสมาชกิ ท้ังหมดเท่าทม่ี ีอยขู่ องทัง้ สองสภา ไมน่ ้อยกว่าก่ึงหนึง่ ข้ันรับหลักการ zee rice

๕ เปรยี บเทียบข้อแตกต่าง รา่ งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบบั ท่ี ..) พทุ ธศกั ราช .... ของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพอ่ื ไทย (มาตรา ๒๕๖) ร่างรฐั ธรรมนูญ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพ่ือไทย ข้อสังเกต ฯ (ร่วมรฐั บาล) (ร่วมฝ่ายคา้ น) วาระที่สอง ขนั้ พจิ ารณา การออกเสียง (๔) การพจิ ารณาในวาระที่สองขนั้ พิจารณาเรียงลำดับ เรยี งลำดบั มาตรา ลงคะแนนใน มาตราโดยการออกเสียงในวาระท่สี องนี้ให้ถอื เสยี งข้างมากเปน็ (๔) การพิจารณาในวาระทส่ี องขนั้ พจิ ารณาเรยี งลำดับ วาระทส่ี อง ประมาณ แต่ในกรณที ่เี ป็นรา่ งรฐั ธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเตมิ ท่ี มาตราต้องจดั ให้มีการรบั ฟังความคิดเห็นจากประชาชนผ้มู สี ิทธิ - ร่างพรรคพลังประชารฐั ขน้ั พิจารณา ประชาชนเปน็ ผู้เสนอต้องเปิดโอกาสให้ผู้แทนของประชาชนท่ี เลือกตง้ั ทเี่ ขา้ ชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนญู แก้ไขเพมิ่ เติมดว้ ย ให้ถอื เสียงข้างมาก เรยี งลำดับ เขา้ ช่ือกนั ไดแ้ สดงความคดิ เหน็ ดว้ ย - ร่างพรรคเพื่อไทย มาตรา ไมไ่ ด้กำหนดไว้ รอไว้ (๕) เม่ือการพจิ ารณาวาระทีส่ องเสรจ็ ส้ินแลว้ ใหร้ อไว้ (๕) เมื่อการพิจารณาวาระท่ีสองเสร็จสน้ิ แลว้ ใหร้ อไว้ เหมอื นกนั ๑๕ วัน สิบหา้ วนั เมอ่ื พน้ กำหนดนีแ้ ลว้ ใหร้ ัฐสภาพิจารณาในวาระท่ีสาม สบิ หา้ วัน เม่อื พน้ กำหนดน้ันแลว้ ให้รฐั สภาพจิ ารณาในวาระที่สาม ต่อไป ตอ่ ไป การออกเสยี ง (๖) การออกเสยี งลงคะแนนในวาระทส่ี ามข้ันสุดทา้ ย ให้ (๖) การออกเสยี งลงคะแนนในวาระทส่ี ามขั้นสดุ ท้าย ให้ วาระทีส่ าม ขน้ั สดุ ทา้ ย ลงคะแนนใน - รา่ งพรรคพลังประชารฐั วาระท่ีสามข้ัน ใชว้ ธิ ีเรยี กชือ่ และลงคะแนนโดยเปิดเผยและต้องมคี ะแนนเสียง ใชว้ ธิ ีเรียกชือ่ และลงคะแนนโดยเปดิ เผย และตอ้ งมคี ะแนนเสยี ง สดุ ทา้ ย ไมน่ อ้ ยกว่า ๓ ใน ๕ เหน็ ชอบดว้ ยในการทีจ่ ะใหอ้ อกใชเ้ ป็นรฐั ธรรมนูญไม่นอ้ ยกวา่ เห็นชอบดว้ ยในการท่ีจะใหอ้ อกใช้เป็นรัฐธรรมนูญมากกว่า - ร่างพรรคเพอ่ื ไทย การนำรา่ ง สามในห้าของจำนวนสมาชิกทงั้ หมดเทา่ ทม่ี อี ย่ขู องทัง้ สองสภา กง่ึ หนึง่ ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเทา่ ท่ีมีอยขู่ องทั้งสองสภา รัฐธรรมนูญ มากกว่ากง่ึ หน่ึง แก้ไขเพม่ิ เติม ขนึ้ ทลู เกลา้ ฯ (๗) เมอ่ื มกี ารลงมตเิ หน็ ชอบตาม (๖) แล้ว ใหร้ อไวส้ บิ ห้าวนั (๗) เมือ่ การลงมตไิ ดเ้ ปน็ ไปตามทีก่ ล่าวแล้ว ให้นำรา่ ง ต่างกัน แลว้ จงึ นำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพมิ่ เติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหมอ่ ม รัฐธรรมนญู แกไ้ ขเพิ่มเตมิ ขนึ้ ทูลเกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวาย และให้ รา่ ง พปชร. กำหนด ลงมตวิ าระ ๓ แลว้ ให้ไว้ ๑๕ วนั – ร่าง พท. ไมไ่ ด้กำหนด ถวาย และให้นำความในมาตรา ๘๑ มาใชบ้ ังคบั โดยอนโุ ลม นำบทบญั ญัตมิ าตรา ๘๑ วรรคสอง มาใช้บงั คบั โดยอนโุ ลม zee rice

๖ เปรยี บเทียบข้อแตกต่าง รา่ งรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิม่ เตมิ (ฉบบั ท่ี ..) พุทธศักราช .... ของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพ่อื ไทย (มาตรา ๒๕๖) ร่างรฐั ธรรมนญู พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพอื่ ไทย ข้อสงั เกต ฯ (รว่ มรฐั บาล) (ร่วมฝา่ ยค้าน) ตา่ งกนั การแกไ้ ข (๘) ในกรณีร่างรัฐธรรมนญู แก้ไขเพมิ่ เตมิ เป็นการแกไ้ ข - ร่าง พปชร. กำหนดเงอื่ นไข เพม่ิ เติม เพมิ่ เตมิ หมวด ๑ บททั่วไป หมวด ๒ พระมหากษตั รยิ ์ หมวด ๑๕ รัฐธรรมนญู ฯ การแก้ไขเพม่ิ เติมรฐั ธรรมนญู หรือเรอื่ งทเ่ี กี่ยวกับคุณสมบตั ิหรอื เกยี่ วกับการแก้ไขเพิ่มเตมิ ทต่ี ้องทำ ลักษณะต้องหา้ มของผดู้ ำรงตำแหนง่ ตา่ ง ๆ ตามรฐั ธรรมนูญ รฐั ธรรมนญู ฯ ท่ตี อ้ งทำประชามติ ประชามตกิ อ่ น กอ่ น หรือเรอื่ งท่เี กย่ี วกับหนา้ ทีห่ รืออำนาจของศาลหรอื องคก์ รอิสระ – ร่าง พท. ไม่ได้กำหนดไว้ หรือเรอื่ งที่ทำใหศ้ าลหรือองค์กรอิสระไมอ่ าจปฏิบตั ิตามหนา้ ที่ หรืออำนาจได้ กอ่ นดำเนินการตาม (๗) ให้จดั ให้มกี ารออกเสยี ง ประชามตติ ามกฎหมายว่าด้วยการออกสียงประชามติ ถ้าผลการ ออกเสยี งประชามติเห็นชอบดว้ ยกบั ร่างรัฐธรมนญู แก้ไขเพิ่มเตมิ จึงให้ดำเนนิ การตาม (๗) ต่อไป การตรวจสอบ (๙) ก่อนนายกรฐั มนตรนี ำความกราบบังคมทลู เพ่ือ (๘) ก่อนนายกรฐั มนตรนี ำความกราบบังคมทลู เพ่ือ การตรวจสอบความชอบด้วย ความชอบดว้ ย ทรงลงพระปรมาภิไธยตาม (๗) สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร หรือ ทรงลงพระปรมาภไิ ธยตาม (๗) สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร หรือ รัฐธรรมนญู รฐั ธรรมนญู ของร่าง สมาชกิ วุฒิสภา หรอื สมาชกิ ท้ังสองสภารวมกัน มจี ำนวน สมาชกิ วุฒิสภา หรือสมาชิกท้ังสองสภารวมกนั มีจำนวน - รา่ งพรรคพลังประชารัฐ รฐั ธรรมนญู ไมน่ ้อยกว่าหนงึ่ ในสบิ ของสมาชกิ ทง้ั หมดเทา่ ท่ีมีอยขู่ องแต่ละ ไม่นอ้ ยกว่าหน่ึงในห้าของสมาชิกทง้ั หมดเท่าทม่ี ีอยู่ของแต่ละสภา ไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๑๐ แก้ไขเพม่ิ เติมท่ี สภา หรอื ของทั้งสองสภารวมกันแลว้ แต่กรณี มสี ทิ ธเิ ข้าชื่อกนั หรอื ของท้ังสองสภารวมกันแล้วแตก่ รณี มสี ทิ ธิเขา้ ช่ือกนั เสนอ - ร่างพรรคเพ่ือไทย รัฐสภาให้ความ ไมน่ ้อยกวา่ ๑ ใน ๕ เหช็ อบแลว้ เสนอความเห็นต่อประธานแหง่ สภาท่ีตนเป็นสมาชกิ หรอื ประธาน ความเหน็ ต่อประธานแห่สภาทตี่ นเป็นสมาชกิ หรือประธาน รัฐสภาแลว้ แต่กรณี วา่ ร่างรฐั ธรรมนญู ตาม (๗) ขดั ต่อมาตรา รัฐสภาแลว้ แต่กรณี วา่ รา่ งรัฐธรรมนญู ตาม (๗) ขดั ตอ่ มาตรา zee rice

๗ เปรียบเทียบขอ้ แตกต่าง รา่ งรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย แกไ้ ขเพ่ิมเติม (ฉบบั ที่ ..) พุทธศักราช .... ของพรรคพลังประชารฐั กับพรรคเพ่ือไทย (มาตรา ๒๕๖) ร่างรฐั ธรรมนญู พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพือ่ ไทย ข้อสงั เกต ฯ (รว่ มรฐั บาล) (ร่วมฝา่ ยค้าน) ๒๕๕ หรอื มลี กั ษณะตาม (๘) และให้ประธานแห่สภาที่ได้รบั เรื่อง ๒๕๕ และใหป้ ระธานแหง่ สภาที่ได้รบั เรือ่ งดงั กลา่ วส่งความเหน็ ดงั กล่าวส่งความเหน็ ไปยังศาลรัฐธรรมนญู และให้ศาล ไปยังศาลรฐั ธรรมนูญ และใหศ้ าลรัฐธรรมนญู วนิ ิจฉัยให้แลว้ เสร็จ รัฐธรรมนญู วนิ จิ ฉยั ให้แลว้ เสรจ็ ภายในสามสิบวนั นับแต่วันทไ่ี ดร้ ับ ภายในสามสิบวันนับแต่วันทไ่ี ดร้ ับเรื่องในระหวา่ งการพจิ รณา เรอ่ื ง ในระหวา่ งการพจิ ารณาวินจิ ฉยั ของศาลรัฐธรรมนญู ของศาลรฐั ธรรมนูญนายกรฐั มนตรจี ะนำร่งรัฐธรรมนญู แก้ไข นายกรัฐมนตรจี ะนำร่างรฐั ธรรมนูญแก้ไขเพ่ิมเติมดังกลา่ วข้ึน เพ่ิมเตมิ ดังกลา่ วขึน้ ทูลเกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายเพือ่ ทลู เกล้าทูลกระหม่อมถวายเพ่อื พระมหากษัตรยิ ท์ รงลงพระ พระมหากษตั ริยท์ รงลงพระปรมาภิไธยมิได\"้ ปรมาภไิ ธยมไิ ด้\" มาตรา ๔ มาตร ๔ ใหเ้ พิม่ ความต่อไปน้ีเปน็ หมวด ๑๕/๑ การ มาตร ๔ ใหเ้ พิ่มความต่อไปน้ีเป็นหมวด ๑๕/๑ การ ทำนองเดยี วกัน แต่รา่ ง พท. ระบุ เพิม่ หมวด ๑๕/๑ จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มาตรา ๒๕๖/๑ ถึงมาตรา ๒๖๕/๑๙ จัดทำรฐั ธรรมนญู ฉบับใหม่ มาตรา ๒๕๖/๑ ถึงมาตรา ๒๖๕/๑๔ “พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐” ต่อทา้ ย การจัดทำ ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ “รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั ร รัฐธรรมนูญฉบับ ใหม่ ไทย” หมวด ๑๕/ ๑ หมวด ๑๕/ ๑ การจัดทำรัฐธรรมนญู ฉบบั ใหม่ การจดั ทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ zee rice

๘ เปรยี บเทียบข้อแตกต่าง รา่ งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แกไ้ ขเพิ่มเตมิ (ฉบับท่ี ..) พทุ ธศักราช .... ของพรรคพลังประชารฐั กับพรรคเพอื่ ไทย (มาตรา ๒๕๖) ร่างรัฐธรรมนญู พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพ่ือไทย ขอ้ สงั เกต ฯ (ร่วมรฐั บาล) (รว่ มฝา่ ยคา้ น) ทม่ี าและ มาตรา ๒๕๖/๑ ให้มีสภารา่ งรฐั ธรรมนญู ทำหน้าทจี่ ดั ทำ มาตรา ๒๕๖/๑ ใหม้ สี ภารา่ งรัฐธรรมนญู ทำหน้าท่จี ัดทำ รา่ ง ร.ธ.น. พรรครว่ มฝา่ ยค้าน องคป์ ระกอบ - มาตรา มาตรา ๒๕๖/๑ มีหา้ วรรค ของสภาร่าง รา่ งรัฐธรรมนญู ฉบบั ใหม่ตามหมวดน้ี ประกอบด้วยสมาชิก ร่างรัฐธรรมนญู ฉบบั ใหม่ตามหมวดนี้ ประกอบด้วยสมาชกิ - สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนญู รัฐธรรมนูญ จำนวนสองร้อยคน ดงั ตอ่ ไปนี้ จำนวน ๒๐๐ คน ซงึ่ มาจากการเลอื กตงั้ โดยตรงของประชาชนใน จำนวน ๒๐๐ คน แตล่ ะจงั หวดั - เลือกตัง้ โดยตรงของ ประชาชน (๑) สมาชิกซงึ่ มาจากการเลอื กต้งั โดยตรงของประชาชน ในแต่ละจังหวัดจำนวนหน่งึ รอ้ ยหา้ สบิ คน (๒) สมาชกิ ซงึ่ รัฐสภาคัดเลือกจำนวนยส่ี บิ คน ร่าง ร.ธ.น. พรรคร่วมรฐั บาล (๓) สมาชกิ ซ่งึ ท่ปี ระชมุ อธกิ ารบดีแหง่ ประเทศไทยเลือก - มาตรา มาตรา ๒๕๖/๑ มีวรรคเดียว จำนวนยี่สบิ คน โดยคดั เลือกจากผเู้ ชย่ี วชาญสาขากฎหมาย - สมาชกิ สภาร่างรฐั ธรรมนูญ มหาชน สาขารัฐศสตรห์ รือรฐั ประศาสนศาสตร์ จำนวนสบิ คน จำนวน ๒๐๐ คน และจากผมู้ ีประสบการณด์ า้ นการเมือง การบรหิ ารราชการ - เลือกตงั้ โดยตรง จำนวน ๑๕๐ คน แผน่ ดนิ หรือการร่างรฐั ธรรมนูญ จำนวนสบิ คน - รฐั สภาคดั เลอื ก จำนวน ๒๐ คน - ประชมุ อธกิ ารบดี จำนวน ๒๐ คน (๔) สมาชิกซง่ึ คัดเลอื กจากนกั เรยี น นสิ ติ หรอื นกั ศกึ ษา - สมาชิกคัดเลอื ก นกั เรยี น นสิ ติ หรือ จำนวนสบิ คน นกั ศกึ ษา จำนวน ๑๐ คน คุณสมบตั ิ มาตรา ๒๕๖/๒ บคุ คลผมู้ ีคณุ สมบตั ิดังต่อไปน้ี เปน็ ผ้มู ีสทิ ธิ มาตรา ๒๕/๒ บคุ คลผู้มคี ุณสมบัติดังต่อไปนี้ เปน็ ผมู้ ี ผูม้ ีสิทธิสมัครรบั สมัครรบั เลือกตัง้ เป็นสมาชกิ สภาร่างรัฐธรรมนญู ตามมาตรา ๒๕๖/๑ (๑) สิทธิสมัครรบั เลอื กตง้ั เปน็ สมาชิกสภารา่ งรัฐธรรมนูญ เลือกตงั้ เป็น สมาชิกสภารา่ ง (๑) มีสัญชาตไิ ทยโดยการเกิด (๑) มสี ัญชาตไิ ทยโดยการเกิด รฐั ธรรมนูญ (๒) มีอายไุ มต่ ่ำกว่าสบิ แปดปบี รบิ รู ณใ์ นวันเลือกตง้ั (๒) มอี ายุไม่ตำ่ กว่าสบิ แปดปีบรบิ รู ณ์ในวนั เลอื กต้งั zee rice

เปรียบเทยี บขอ้ แตกตา่ ง ๙ รา่ งรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย แกไ้ ขเพม่ิ เติม (ฉบบั ที่ ..) พทุ ธศกั ราช .... ขอ้ สังเกต ของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพอื่ ไทย (มาตรา ๒๕๖) zee rice ร่างรัฐธรรมนูญ พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพื่อไทย ฯ (รว่ มรัฐบาล) (ร่วมฝา่ ยค้าน) (๓) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกต้ัง (๓) มีชือ่ อยู่ในทะเบยี นบา้ นในจังหวัดทส่ี มัครรับเลอื กตงั้ มาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าห้าปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง มาแลว้ เป็นเวลาติดต่อกันไมน่ ้อยกว่าหา้ ปีนับถึงวนั สมคั รรับ หรือเป็นบุคคลที่เกิดในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง หรือเคยศึกษาใน เลอื กต้ังหรือเป็นบุคคลท่ีเกิดในจงั หวัดทีส่ มคั รรับเลอื กตง้ั หรอื สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่ เคยศกึ ษาในสถานศึกษาท่ตี ้งั อยู่ในจังหวดั ท่สี มัครรับเลอื กตัง้ เปน็ น้อยกว่าห้าปีการศึกษา หรือเคยรับราชการหรือปฏิบัติหน้าที่ใน เวลาตดิ ตอ่ กันไมน่ ้อยกว่าหา้ ปีการศึกษา หรือเคยรับราชการหรอื หน่วยงานของรัฐหรือเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับ ปฏบิ ัติหนา้ ทใ่ี นหน่วยงานของรัฐหรอื เคยมชี ื่ออยู่ในทะเบียนบา้ น เลอื กต้ัง แลว้ แตก่ รณี เปน็ เวลาตดิ ตอ่ กนั ไม่นอ้ ยกวา่ ห้าปี ในจังหวัดทีส่ มัครรับเลือกต้ัง แล้วแต่กรณี เปน็ เวลาติดตอ่ กันไม่ นอ้ ยกว่าหา้ ปี ลกั ษณะต้องหา้ ม มาตรา ๒๕๖/๓ บคุ คลผมู้ ลี กั ษณะดังตอ่ ไปน้ี เปน็ บคุ คล มาตรา ๒๕๖/๓ บุคคลผู้มลี กั ษณะดังต่อไปน้ี เป็นบคุ คล มใิ หใ้ ช้สทิ ธิสมัคร ตอ้ งห้ามมิให้ใชส้ ิทธสิ มคั รรบั เลือกตั้งเปน็ สมาชิกสภาร่าง ต้องหา้ มมใิ ห้ใช้สทิ ธิสมัครรับเลือกตงั้ เปน็ สมาชกิ สภารา่ ง รบั เลอื กต้ังเปน็ สมาชิกสภาร่าง รฐั ธรรมนญู ตามมาตรา ๒๕๖/๑ (๑) รัฐธรรมนญู รัฐธรรมนูญ (๑) เป็นบคุ คลซ่ึงมีลักษณะตอ้ งหา้ มมใิ ห้ใชส้ ิทธิสมัครรบั (๑) เปน็ บคุ คลซงึ่ มลี ักษณะตอ้ งห้ามมใี หใ้ ชส้ ิทธิสมัครรับ เลือกตง้ั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร ตามมาตรา ๙๘ (๑) (๒) (๔) เลอื กตง้ั สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร ตาม มาตรา ๙๘ (๑) (๒) (๔) (๕) (๖) (๘) (๙) (๑๐) (๑๑) (๑๒) (๑๓) (๑๕) (๑๖) (๑๗) หรือ (๕) (๖) (๘) (๙) (๑๐) (๑๑) (๑๒) (๑๓) (๑๕) (๑๖) (๑๗) หรอื (๑๘) (๑๘) (๒) เป็นข้าราชการการเมอื ง (๒) เป็นข้าราชการการเมอื ง

๑๐ เปรยี บเทยี บข้อแตกต่าง ร่างรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย แก้ไขเพิม่ เติม (ฉบบั ท่ี ..) พทุ ธศกั ราช .... ของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย (มาตรา ๒๕๖) ร่างรฐั ธรรมนูญ พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพอื่ ไทย ขอ้ สังเกต ฯ (ร่วมรัฐบาล) (ร่วมฝา่ ยคา้ น) ทงั้ ๒ รา่ งฯ ต่างบัญญัตวิ ิธีการ คุณสมบัตแิ ละ คำนวณจำนวนสมาชกิ สภาร่าง ลักษณะตอ้ งห้าม (๓) เปน็ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒสิ ภา หรอื (๓) เป็นสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร สมาชกิ วฒุ สิ ภา หรอื รัฐธรรมนญู ทแ่ี ต่ละจังหวัดจะพึง ของบุคคลซึ่งจะ รฐั มนตรี รฐั มนตรี มีในทำนองเดยี วกนั ดังนี้ ไดร้ บั แตง่ ต้งั เปน็ สมาชกิ สภารา่ ง มาตรา ๒๕๖/๔ บุคคลซงึ่ จะไดร้ บั แตง่ ต้งั เป็นสมาชกิ รฐั ธรรมนญู สภารา่ งรฐั ธรรมนูญตามมาตรา ๒๕๖/๑ (๒) (๓) และ (๔) ต้องมี การคำนวณ จำนวนสมาชิก คณุ สมบัติตามมาตรา ๕๖/๒ (๑) และ (๒) และไม่มลี ักษณะ สภาร่างรฐั ธรรมญทีแ่ ต่ละ ต้องห้ามตามมาตรา ๒๕๖/๓ จังหวดั จะพึงมี (มาตรา ๒๕๖/๑ วรรคสอง) มาตรา ๒๕๖/๕ การกำหนดจำนวนสมาชกิ สภาร่าง การคำนวณจำนวนสมาชิกสภารา่ งรัฐธรรมนญู ท่ีแตล่ ะ รัฐธรรมนญู ตามมาตรา ๒๕๖/๑ (๑) ในแต่ละจงั หวัดจะพึงมใี หใ้ ช้ จังหวัดจะพึงมีใหใ้ ช้จำนวนราษฎรท้งั ประเทศตามหลักฐานการ จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรท่ี ทะเบียนราษฎรทป่ี ระกาศในปสี ดุ ทา้ ยกอ่ นมีการเลือกตงั้ สมาชิก ประกาศในปสี ดุ ท้ายก่อนปีทม่ี กี ารเลือกตง้ั สมาชกิ สภาร่าง สภารา่ งรัฐธรรมนูญเฉล่ยี ด้วยจำนวนสมาชกิ สภารา่ งรฐั ธรรมนูญ รัฐธรรมนญู เฉล่ียด้วยจำนวนสมาชกิ สภารา่ งรัฐธรรมนญู จำนวน จำนวนสองร้อยคน จำนวนทไี่ ดร้ บั ใหถ้ ือวา่ เปน็ จำนวนราษฎรต่อ หนง่ึ ร้อยห้สิบคน จำนวนทีไ่ ด้รับให้ถอื ว่าเปน็ จำนวนราษฎรตอ่ สมาชิกสภารา่ งรฐั ธรรมนูญหน่งึ คน สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนญู หนง่ึ คน (มาตรา ๒๕๖/๑ วรรคสาม) จังหวดั ใดมรี าษฎรไมถ่ ึงเกณฑจ์ ำนวนราษฎรต่อสมาชกิ จังหวดั ใดมีราษฎรไมถ่ งึ เกณฑจ์ ำนวนราษฎรต่อสมาชิก สภาร่างรัฐธรรมนูญหนงึ่ คนตามวรรคหนึ่งให้มสี มาชกิ สภาร่าง สภารา่ งรัฐธรรมนญู หน่งึ คนตามวรรคสอง ให้มีสมาชกิ สภาร่าง รฐั ธรรมนญู ในจังหวดั น้นั ได้หนึ่งคน จงั หวัดใดมรี าษฎรเกิน รฐั ธรรมนญู ในจงั หวดั นนั้ ได้หน่งึ คน จงั หวัดใดมีราษฎรเกิน zee rice

เปรียบเทียบข้อแตกตา่ ง ๑๑ รา่ งรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย แกไ้ ขเพิม่ เติม (ฉบบั ที่ ..) พุทธศกั ราช .... ข้อสงั เกต ของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพอื่ ไทย (มาตรา ๒๕๖) zee rice รา่ งรฐั ธรรมนูญ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย ฯ (รว่ มรัฐบาล) (ร่วมฝา่ ยค้าน) จำนวนราษฎรต่อสมาชกิ สภารา่ งรฐั ธรรมญหน่ึงคน ให้มสี มาชกิ จำนวนราษฎรตอ่ สมาชกิ สภาร่างรัฐธรรมนญู หน่ึงคน ให้มสี มาชกิ สภารา่ งรัฐธรรมนญู ในจังหวัดน้ันเพ่ิมขนึ้ อกี หนึง่ คนทุกจำนวน สภารา่ งรฐั ธรรมนญู ในจงั หวดั น้ันเพมิ่ ข้ึนอีกหนง่ึ คนทุกจำนวน ราษฎรทีถ่ งึ เกณฑ์จำนวนราษฎรตอ่ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนญู ราษฎรทถี่ ึงเกณฑจ์ ำนวนราษฎรต่อสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนญู หนง่ึ คน หนง่ึ คน (มาตรา ๒๕๖/๑ วรรคส่ี) เมอ่ื ได้จำนวนสมาชกิ สภารา่ งรัฐธรรมนูญของแตล่ ะ เม่ือได้จำนวนสมาชิกสภาร่างรฐั ธรรมนญู ของแตล่ ะจงั หวัด จงั หวดั ตามวรรคหนึ่งและวรรคสองแล้วถา้ จำนวนสมาชกิ สภา ตามวรรคสองและวรรคสามแล้ว ถ้าจำนวนสมาชิกสภาร่าง รา่ งรฐั ธรรมนูญยังไม่ครบหนง่ึ รอ้ ยห้าสิบคน จงั หวัดใดมเี ศษที่ รฐั ธรรมนญู ยงั ไมค่ รบสองรอ้ ยคน จังหวัดใดที่มีเศษท่ีเหลอื จากการ เหลอื จากการคำนวณตามวรรคสองมากทีส่ ดุ ใหจ้ งั หวัดน้นั มี คำนวณตามวรรคสองมากท่สี ดุ ให้จังหวดั นั้นมสี มาชิกสภาร่าง สมาชกิ สภารา่ งรัฐธรรมนญู เพิ่มข้นึ อีกหนง่ึ คน และใหเ้ พมิ่ สมาชิก รฐั ธรรมนูญเพ่ิมขึน้ อีกหนึง่ คน และให้เพ่ิมสมาชิกสภารา่ ง สภาร่างรัฐธรรมนูญตามวธิ ีการดงั กล่าวแก่จังหวดั ทม่ี ีเศษที่เหลอื รัฐธรรมนญู ตามวิธกี ารดังกล่าวแกจ่ ังหวัดท่มี เี ศษท่เี หลือจากการ จากการคำนวณนนั้ ในลำดบั รองลงมาตามลำดบั จนครบจำนวน คำนวณนน้ั ในลำดบั รองลงมาตามลำดบั จนครบจำนวนสองรอ้ ยคน หนึ่งรอ้ ยหา้ สิบคน (มาตรา ๒๕๖/๑ วรรคห้า) เขตเลือกต้งั ในการเลือกต้งั สมาชิกสภารา่ งรัฐธรรมนูญใหใ้ ชเ้ ขต ในการเลอื กตัง้ สมาชิกสภารา่ งรัฐธรรมนญู ให้ใชเ้ ขต จังหวดั เป็นเขตเลือกตั้ง จังหวัดเปน็ เขตเลอื กตัง้

๑๒ เปรียบเทียบข้อแตกตา่ ง ร่างรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย แกไ้ ขเพ่ิมเติม (ฉบบั ท่ี ..) พุทธศกั ราช .... ของพรรคพลังประชารฐั กับพรรคเพื่อไทย (มาตรา ๒๕๖) ร่างรัฐธรรมนญู พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพอื่ ไทย ข้อสังเกต ฯ (รว่ มรัฐบาล) (ร่วมฝา่ ยค้าน) - ร่าง ร.ธ.น. พรรครว่ มรฐั บาล การจดั การ ภายใน ๙๐ วนั เลอื กต้ังสมาชิก มาตรา ๒๕๖/๖ ให้คณะกรรมการการเลอื กต้งั จดั ใหม้ ี มาตรา ๒๕๖/๔ ใหค้ ณะกรรมการการเลอื กตั้งจดั ใหม้ ีการ - รา่ ง ร.ธ.น. พรรคร่วมฝา่ ยคา้ น สภารา่ ง การเลอื กต้ังสมาชกิ สภารา่ งรัฐธรรมนญู ตามมาตรา ๒๕๖/๑ (๑) เลือกตงั้ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนญู ใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายในหกสบิ วัน ภายใน ๖๐ วัน รฐั ธรรมนญู ให้แลว้ เสรจ็ ภายในเกา้ สิบวันนบั แตม่ ีเหตุแห่งการจัดทำรา่ ง นบั แตม่ เี หตแุ ห่การจัดทำรา่ งรัฐธรรมฉบับใหมต่ ามหมวดน้ี รฐั ธรรมนญู ฉบบั ใหม่ตามหมวดนี้ การกำหนดวนั เลอื กตั้งตามวรรคหนึ่งให้กระทำโดยตรา การกำหนดวันเลอื กต้ังสมาชิกสภาร่างรฐั ธรรมนญู ตาม เปน็ พระราชกฤษฎกี า ซง่ึ ตอ้ งกำหนดใหเ้ ป็นวันเดยี วกนั ท่ัว วรรคหน่งึ ให้กระทำโดยตราเปน็ พระราชกฤษฎีกาซ่ึงต้อง ราชอาณาจกั ร กำหนดใหเ้ ป็นวันเดยี วกันทวั่ ราชอาณาจักร ให้คณะกรรมการการเลือกตงั้ จัดให้มกี ารแนะนำตัว ให้คณะกรรมการการเลือกตง้ั จัดให้มีการแนะนำตัว ผ้สู มคั รอยา่ งเท่าเทยี มกัน ผสู้ มคั รอย่างเทา่ เทียมกนั การเลือกตง้ั สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนญู ใหใ้ ช้วิธีออก การเลอื กตงั้ สมาชิกสภาร่างรฐั ธรรมนญู ใหใ้ ช้วธิ ีออก เสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ โดยใหผ้ มู้ ีสทิ ธิออกเสียง เสยี งลงคะแนนโดยตรงและลับใหผ้ ู้ทมี่ ีสทิ ธิออกเสียงลงคะแนน ลงคะแนนเลอื กตั้งสมาชิกสภารา่ งรัฐธรรมนญู ไดห้ นง่ึ คน และจะ เลือกต้ังสมาชกิ สภาร่างรัฐธรรมนูญได้หนึ่งคน และจะลง ลงคะแนนเลือกผู้สมคั รผใู้ ดหรือจะลงคะแนนไม่เลือกผใู้ ดเลยกไ็ ด้ คะแนนเลือกผสู้ มคั รผใู้ ดหรือจะลงคะแนนไม่เลือกผใู้ ดเลยก็ได้ ท้งั น้ี ให้นำมาตรา ๙๕ และมาตรา ๙๖ มาใชบ้ งั คับกบั คุณสมบตั ิ คณุ สมบัตแิ ละลักษณะต้องห้ามในการใช้สทิ ธเิ ลือกตั้ง และลกั ษณะต้องห้ามของผู้ทม่ี สี ทิ ธเิ ลือกตงั้ สมาชกิ สภารา่ ง สมาชิกสภาร่างรฐั ธรรมนญู ให้เปน็ ไปตามมาตรา ๙๕ และมาตรา รัฐธรรมนญู ๙๖ ของรฐั ธรรมนญู หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการในการเลือกตง้ั สมาชิกสภาร่าง หลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการในการเลอื กตั้งสมาชกิ สภารา่ ง รฐั ธรรมนญู ใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บทคี่ ณะกรรมการการเลือกตง้ั กำหนด รัฐธรรมนญู ให้เป็นไปตามระเบยี บทค่ี ุณะกรรมการการเลอื กตั้งกำหนด zee rice

๑๓ เปรยี บเทียบข้อแตกต่าง รา่ งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ (ฉบบั ที่ ..) พุทธศักราช .... ของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพอ่ื ไทย (มาตรา ๒๕๖) รา่ งรฐั ธรรมนญู พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพอื่ ไทย ขอ้ สงั เกต ฯ (ร่วมรัฐบาล) (รว่ มฝ่ายคา้ น) กกต. ประกาศรับรองผลการ เลือกตง้ั ให้แลว้ เสรจ็ ภายใน ๑๕ เมื่อได้มีการเลอื กตงั้ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญแลว้ ให้ เมื่อไดม้ ีการเลอื กตงั้ สมาชิกสภาร่างรฐั ธรรมนญู แล้ว ให้ วนั นับแต่วันเลอื กตั้ง คณะกรรมการการเลือกตัง้ ประกาศรบั รองผลการเลอื กตั้งใหแ้ ล้ว คณะกรรมการการเลอื กตั้งประกาศรบั รองผลการเลือกตง้ั ใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายในสบิ ห้าวนั นบั แต่วนั เลอื กต้ัง โดยใหผ้ สู้ มคั รท่ีได้รับ เสร็จภายในสบิ ห้าวันนบั แตว่ ันเลอื กตัง้ โดยใหผ้ ูส้ มัครท่ีไดร้ บั คะแนนสูงสุดเรียงตามลำดับจนครบตามจำนวนสมาชกิ สภาร่าง คะแนนสงู สดุ เรยี งตามลำดบั จนครบตามจำนวนสมาชิกสภารา่ ง รฐั ธรรมนญู ทพี่ ึงมีในแตล่ ะจงั หวดั เปน็ ผูไ้ ด้รับเลอื กตัง้ รัฐธรรมนญู ท่พี ึงมใี นแต่ละจงั หวดั เปน็ ผไู้ ด้รับเลือกตัง้ ใหค้ ณะกรรมการการเลือกตง้ั จัดทำบญั ชีรายชอ่ื ผไู้ ดร้ บั สมาชิกภาพของสมาชกิ สภารา่ งรัฐธรรมนูญ เร่ิมต้งั แต่ เลือกตงั้ เปน็ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนญู ท่แี ต่ละจังหวัดจะพงึ มีสง่ วันเลือกตั้ง ให้ประธานรฐั ภาภายในห้าวันนบั แตว่ นั ท่ปี ระกาศรับรองผลการ เลือกตงั้ มาตรา ๒๕๖/๗ การเลอื กสมาชิกสภาร่างรฐั ธรรมนญู ตามมาตรา ๒๕๖/๑ (๒) ใหร้ ัฐสภาดำเนนิ การคัดเลือกโดยใหม้ ี จำนวนตามหรอื ใกลเ้ คียงกบั อตั ราสว่ นของจำนวน สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรและสมาชิกวุฒสิ ภา ทั้งนี้ ให้นำ ขอ้ บังคบั การประชมุ รฐั สภามาใช้บงั คบั โดยอนุโลม มาตรา ๒๕๖/๘ การเลอื กสมาชกิ สภารา่ งรฐั ธรรมนญู ตามมาตรา ๒๕๖/๑ (๓) ใหท้ ีป่ ระชมุ อธกิ ารบดแี ห่งประเทศไทย zee rice

เปรยี บเทยี บขอ้ แตกตา่ ง ๑๔ ร่างรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเตมิ (ฉบับท่ี ..) พุทธศักราช .... ข้อสงั เกต ของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพอื่ ไทย (มาตรา ๒๕๖) zee rice รา่ งรัฐธรรมนญู พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพอ่ื ไทย ฯ (ร่วมรฐั บาล) (ร่วมฝา่ ยคา้ น) เลือกและจดั ทำบญั ชรี ายช่ือผไู้ ดร้ บั คะแนนสงู สดุ เรียงตามลำดบั ตวั อกั ษรใหไ้ ดจ้ ำนวนท่กี ำหนดในแต่ละประเภท ทั้งน้ี ตาม หลักเกณฑท์ ป่ี ระชุมอธกิ ารบดีแห่งประเทศไทยกำหนด การเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญตามมาตรา ๒๕๖/ ๑ (๔) ใหค้ ณะกรรมการการเลือกต้ังคดั เลอื กนักเรียน นสิ ติ หรือ นักศกึ ษา ให้ไดจ้ ำนวนทีก่ ำหนด ทั้งน้ี หลักเกณฑแ์ ละวธิ กี าร เสนอชอื่ และการคัดเลอื กใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบที่คณะกรรมการ การเลอื กตั้งกำหนด มาตรา ๒๕๖/๙ เมือ่ ไดด้ ำเนินการให้ได้มาซ่งึ สมาชกิ สภาร่างรฐั ธรรมนญู ตามมาตรา ๒๕๖/๗ และมาตรา ๒๕๖/๘ ตามจำนวนท่จี ะพงึ มีในแตล่ ะประเภทแลว้ ใหผ้ ู้ซึง่ รบั ผิดชอบใน การดำเนินการใหไ้ ดม้ าซึ่งสมาชกิ สภาร่างรฐั ธรรมนูญดงั กลา่ ว จัดทำบัญชีรายชอ่ื สง่ ประธานรัฐสภาภายในห้าวันนับแต่ ดำเนนิ การใหไ้ ดม้ าแลว้ เสรจ็ เมื่อประธานรฐั สภาได้รับบญั ชีรายชอ่ื ตามวรรคหนึ่งและ บัญชรี ายชื่อตามมาตรา ๒๕๖/๖ วรรคแปดแล้ว ใหป้ ระกาศ

เปรยี บเทยี บข้อแตกตา่ ง ๑๕ รา่ งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ (ฉบับท่ี ..) พุทธศักราช .... ข้อสงั เกต ของพรรคพลังประชารฐั กับพรรคเพื่อไทย (มาตรา ๒๕๖) zee rice ร่างรัฐธรรมนญู พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพอ่ื ไทย ฯ (ร่วมรฐั บาล) (รว่ มฝา่ ยคา้ น) เหตุสมาชิกภาพ รายช่อื บุคคลซงึ่ เป็นสมาชิกสภารา่ งรฐั ธรรมนูญตามบญั ชีรายชือ่ มาตรา ๒๕๖/๕ สมาชกิ ภาพของสมาชิกสภาร่าง ของสมาชิกสภา รัฐธรรมนญู สน้ิ สดุ ลง เมอื่ ร่างรัฐธรรมนูญ นัน้ ในราชกิจจานุเบกษา (๑) สภาร่างรฐั ธรรมนญู ส้นิ สุด สิ้นสุดลง มาตรา ๒๕๖/๑๐ สมาชิกภาพของสมาชิกสภาร่าง (๒) ตาย (๓) ลาออก รัฐธรรมนญู เรม่ิ ตัง้ แต่วนั ท่ีสมาชกิ ผู้นัน้ ไดร้ บั เลอื กตง้ั แตง่ ตั้ง (๔) ขาดคณุ สมบัติตามมาตรา ๒๕๖/๒ หรือมีลกั ษณะ ตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๒๕๖/๓ หรอื เลอื กเป็นสมาชิกสภาร่างรฐั ธรรมนญู แลว้ แตก่ รณี เมือ่ ตำแหนง่ สมาชกิ สภาร่างรฐั ธรรมนญู ว่างลงเพราะ สมาชิกภาพของสมาชิกสภารา่ งรัฐธรรมนูญสิน้ สุดลง เมอื่ เหตุอนื่ ใดนอกจากท่ีถึงคราวออกตามมาตรา ๒๕๖/๑๓ ให้ คณะกรรมการการเลือกตัง้ ดำเนกิ ารเลื่อนบคุ คลผทู้ ไ่ี ดค้ ะแนนใน (๑) สภาร่างรฐั ธรรมนูญสิ้นสดุ ตามมาตรา ๒๕๖/๑๘ ลำดับต่อไปในการเลือกต้ังสมากสภารา่ งรัฐธรรมนญู ซึง่ เปน็ บุคคลผ้มู ีคุณสมบัติและไมม่ ลี ักษณะต้องหา้ มขึ้นแทนตำแหน่งที่ (๒) ตาย (๓) ลาออก (๔) ขาดคุณสมบตั ิตามมาตรา ๒๕๖/๒ หรือมีลักษณะ ตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๒๕๖/๓ หรือตามมาตรา ๒๕๖/๔ ในกรณี สมาชกิ สภาร่างรฐั ธรรมนูญตามมาตรา ๒๕๖/๑ (๔) หากพ้น สภาพจากการเป็นนักเรยี น นสิ ิต หรือนกั ศกึ ษา เมือ่ ตำแหน่งสมาชิกสภารา่ งรฐั ธรรมนญู ตามมาตรา ๒๕๖/๑ ประเภทใดวา่ งลงเพราะเหตุอื่นใดนอกจากท่ถี งึ คราว ออกตาม (๑) ให้คณะกรรมการการเลือกตัง้ หรอื ผูซ้ ึ่งแต่งตง้ั หรอื เลือกดำเนินการเลอ่ื นบุคคลซึ่งไดค้ ะแนนในลำดับต่อไปในบญั ชี รายชื่อของสมาชิกสภาร่งรฐั ธรรมนญู แตล่ ะประเภททไี่ ดจ้ ัดทำไว้

เปรียบเทยี บขอ้ แตกตา่ ง ๑๖ ร่างรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพม่ิ เตมิ (ฉบับท่ี ..) พุทธศกั ราช .... ขอ้ สังเกต ของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพอ่ื ไทย (มาตรา ๒๕๖) zee rice ร่างรัฐธรรมนูญ พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพอ่ื ไทย ฯ (ร่วมรฐั บาล) (รว่ มฝ่ายค้าน) และยงั เป็นบคุ คลผูม้ ีคุณสมบตั แิ ละไมม่ ีลักษณะตอ้ งห้ามขนึ้ แทน ว่าง ภายในกำหนดเวลาสิบห้าวัน เวน้ แตร่ ะยะเวลาการจดั ทำรา่ ง ตำแหน่งท่วี ่าง ภายในกำหนดเวลาสบิ ห้าวัน เว้นแตไ่ มม่ ีผอู้ ย่ใู น รฐั ธรรมนญู ของสภาร่างรัฐธรรมนญู จะเหลอื ไม่ถึงเกา้ สิบวัน บญั ชีรายชื่อที่จะเลอ่ื นขึ้นมาหรือระยะวลาการจัดทำรา่ ง (มาตรา ๒๕๖/๕ วรรคสาม) รฐั ธรรมนญู ของสภารา่ งรัฐธรรมนูญเหลือไม่ถึงเก้าสิบวนั ในกรณที ี่ตำแหน่งสมาชิกสภาร่างรฐั ธรรมนูญวา่ งลงไม่ ในกรณที ต่ี ำแหน่งสมาชกิ สภาร่างรฐั ธรรมนญู ว่างลงไม่ ว่าด้วยเหตใุ ดและยังไม่มกี ารเลื่อนลำดับขึน้ แทนตำแหน่งท่ีว่าง วา่ ด้วยเหตุใดและยังไม่มีการเล่อื นลำดบั ขึน้ แทนตำแหน่งท่วี า่ ง ตามวรรคสาม หรอื เป็นกรณที ไี่ มม่ ีบคุ คลท่ีจะเลือ่ นลำดับขน้ึ แทน ตามวรรคสอง หรือเป็นกรณที ่ไี ม่มีบคุ คลทจี่ ะเลอ่ื นลำดับข้นึ แทน ตำแหนง่ ทว่ี ่างได้ใหส้ ภาร่างรฐั ธรรมนญู ประกอบดว้ ยสมาชกิ สภา ตำแหนง่ ทวี่ ่างได้ใหส้ ภาร่างรฐั ธรรมนญู ประกอบด้วยสมาชิกสภา รา่ งรฐั ธรรมนญู เท่าท่ีมอี ยู่ แต่ทงั้ น้ีสภารา่ งรัฐธรรมนญู ต้องมี รา่ งรัฐธรรมนญู เท่าทม่ี ีอยู่ แตท่ ั้งนส้ี ภารา่ งรัฐธรรมนญู ตอ้ งมี จำนวนสมาชิกเหลืออยไู่ ม่น้อยกว่าก่งึ หน่งึ ของจำนวนสมาซกิ สภา จำนวนสมาชกิ เหลอื อย่ไู มน่ อ้ ยกว่าก่งึ หน่ึงของจำนวนสมาชิกสภา ร่างรัฐธรรมนูญตามมาตรา ๒๕๖/๑ รา่ งรัฐธรรมนูญตามมาตรา ๒๕๖/๑ ประธานสภา มาตรา ๒๕๖/๑๑ สภาร่างรัฐธรรมนูญมปี ระธานสภาคนหนึ่ง มาตรา ๒๕๖/๖ สภาร่างรฐั ธรรมนูญมีประธานสภาคนหนึ่ง และรองประธานสภาคนหนึง่ หรือสองคนซงึ่ พระมหากษตั รยิ ์ และรอง และรองประธานสภาคนหนึ่งหรือสองคนซึ่งพระมหากษัตรยิ ์ ทรงแตง่ ตัง้ จากสมาชิกแห่งสภาร่างรัฐธรรมนูญตามมติของสภา ประธานสภารา่ ง ทรงแตง่ ต้ังจากสมาชกิ แหง่ สภารา่ งรฐั ธรรมนูญตามมติของสภา ร่างรฐั ธรรมนญู และให้ประธานรฐั สภาเป็นผลู้ งนามรบั สนอง รัฐธรรมนญู พระบรมราชโองการ ร่างรัฐธรรมนญู และใหป้ ระธานรัฐสภาเปน็ ผ้ลู งนามรบั สนอง พระบรมราชโองการ

๑๗ เปรยี บเทยี บข้อแตกตา่ ง ร่างรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี ..) พทุ ธศกั ราช .... ของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพ่ือไทย (มาตรา ๒๕๖) รา่ งรฐั ธรรมนญู พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพอ่ื ไทย ขอ้ สังเกต ฯ (รว่ มรฐั บาล) (รว่ มฝา่ ยคา้ น) ประธานสภาร่างรฐั ธรรมนญู มหี น้าทแ่ี ละอำนาจดำเนิน ประธานสภาร่างรฐั ธรรมนญู มหี นา้ ท่ีและอำนาจดำเนนิ กจิ การของสภารา่ งรัฐธรรมนูญตามหมวดน้ี รองประธานสภาร่าง กจิ การของสภาร่างรฐั ธรรมนญู ตามหมวดน้ี รองประธานสภาร่าง รฐั ธรรมนญู มีหนา้ ท่ีและอำนาจตามที่ประธานสภารา่ ง รฐั ธรรมนญู มหี นา้ ทแ่ี ละอำนาจตามทีป่ ระธานสภาร่าง รฐั ธรรมนญู มอบหมายและปฏิบัตหิ นา้ ทแี่ ทนประธานสภาร่าง รัฐธรรมนญู มอบหมาย และปฏบิ ัติหนา้ ที่แทนประธานสภาร่าง รัฐธรรมนญู ในกรณที ีป่ ระธานสภารา่ งรัฐธรรมนูญไม่อยู่หรอื ไม่ รัฐธรรมนญู ในกรณที ป่ี ระธานสภาร่างรฐั ธรรมนญู ไม่อย่หู รอื ไม่ สามารถปฏิบตั หิ น้าทไี่ ด้ สามารถปฏบิ ตั หิ น้าท่ไี ด้ กรณีประธานสภาร่างรฐั ธรรมนูญไม่อย่หู รอื ไมส่ ามารถ กรณปี ระธานสภาร่างรฐั ธรรมนูญไมอ่ ยู่หรือไมส่ ามารถ ปฏิบตั ิหน้าท่ไี ด้ และไมม่ ีรองประธานสภารา่ งรฐั ธรรมนูญปฏิบตั ิ ปฏิบตั หิ น้าทีไ่ ดแ้ ละไม่มรี องประธานสภาร่างรัฐธรรมนญู ปฏบิ ัติ หน้าทแี่ ทนตามวรรคสอง ใหท้ ่ีประชุมสภารา่ งรฐั ธรรมนญู เลอื ก หน้าทแ่ี ทนตามวรรคสอง ใหท้ ี่ประชุมสภารา่ งรัฐธรรมนูญเลอื ก สมาชกิ สภารา่ งรฐั ธรรมญคนหนงึ่ ทำหนา้ ทีเ่ ป็นประธานการ สมาชกิ สภารา่ งรัฐธรรมนญู คนหน่งึ ทำหน้าท่ีเปน็ ประธานการ ประชุมในคราวนน้ั เพอ่ื ดำเนินการประชุมตอ่ ไปได้ ประชมุ ในคราวน้ัน เพอ่ื ดำเนินการประชุมต่อไปได้ คณะกรรมาธกิ าร มาตรา ๒๕๖/๗ ใหส้ ภารา่ งรัฐธรรมนญู แตง่ ต้ัง ตา่ งกนั ยกรา่ ง คณะกรรมาธิการยกรา่ งรัฐธรรมนญู ขึ้นคณะหนงึ่ ทำหน้าทย่ี กร่าง คณะกรรมาธกิ ารยกร่าง รัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนญู ตามแนวทางท่สี ภาร่างรฐั ธรรมนญู กำหนด เพือ่ เสนอต่อ รัฐธรรมนูญ สภารา่ งรฐั ธรรมนูญประกอบด้วยกรรมาธกิ ารจำนวนสีส่ ิบหา้ คน ซง่ึ แต่งต้ังจากสมาชิกสภารา่ งรัฐธรรมนูญจำนวนสามสบิ คน จาก - รา่ งพรรคพลังประชารัฐ ไมไ่ ด้กำหนด ผู้เชย่ี วชาญด้านกฎหมายมหาชนจำนวนห้าคน ผเู้ ชี่ยวชาญสาขา - รา่ งพรรคเพอ่ื ไทย กำหนดไว้ จำนวน ๔๕ คน zee rice

๑๘ เปรียบเทยี บข้อแตกต่าง รา่ งรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบบั ที่ ..) พุทธศกั ราช .... ของพรรคพลังประชารฐั กับพรรคเพ่อื ไทย (มาตรา ๒๕๖) รา่ งรัฐธรรมนญู พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพือ่ ไทย ข้อสังเกต ฯ (ร่วมรัฐบาล) (ร่วมฝ่ายคา้ น) รัฐศาสตรห์ รือรฐั ประศาสนศาสตร์ จำนวนหา้ คน และจากผมู้ ี ประสบการณด์ า้ นการเมอื ง การบริหารราชการแผ่นดิน และการร่างรฐั ธรรมนญู หา้ คน การแต่งตัง้ กรรมาธิการยกรา่ งรัฐธรรมนญู ในสว่ นของ สมาชกิ สภารา่ งรัฐธรรมนญู ให้คำนงึ ถงึ สมาชกิ สภารา่ ง รัฐธรรมนญู ในภมู ิภาคตา่ ง ๆ อยา่ งเป็นธรรม เงินประจำ มาตรา ๒๕๖/๑๒ เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ มาตรา ๒๕๖/๘ เงนิ ประจำตำแหน่งและประโยชน์ ตำแหนง่ และ ตอบแทนอยา่ งอน่ื ของประธานและรองประธานสภาร่าง ตอบแทนอย่างอ่นื ของประธานและรองประธานสภาร่าง ประโยชน์ตอบ รัฐธรรมนญู สมาชกิ สภาร่างรฐั ธรรมนญู และกรรมาธกิ ารท่ีสภา รัฐธรรมนญู สมาชกิ สภารา่ งรฐั ธรรมนญู และกรรมาธิการท่ีสภา แทนอยา่ งอนื่ ร่างรฐั ธรรมนญู แตง่ ตง้ั ใหเ้ ป็นไปตามท่กี ำหนดไวใ้ นพระราช รา่ งรฐั ธรรมนญู แต่งตง้ั ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในพระราช กฤษฎีกา กฤษฎกี า กรอบระยะเวลา มาตรา ๒๕๖/๑๓ สภารา่ งรฐั ธรรมนญู ตอ้ งจดั ทำรา่ ง มาตรา ๒๕/๙ สภาร่างรัฐธรรมนูญตอ้ งจัดทำรา่ ง กรอบระยะเวลาการจัดทำรา่ ง การจดั ทำร่าง รฐั ธรรมนูญให้แลว้ เสร็จ รฐั ธรรมนญู ให้ รฐั ธรรมนญู ให้แล้วเสรจ็ ภายในกำหนดเวลาสองรอ้ ยส่สี บิ วนั นบั แต่ รฐั ธรรมนญู ใหแ้ ล้วเสรจ็ ภายในกำหนดเวลาหนง่ึ ร้อยย่ีสิบวัน - ร่างพรรคพลังประชารัฐ ๒๔๐ วนั แลว้ เสร็จ - รา่ งพรรคเพ่อื ไทย ๑๒๐ วนั วนั ท่มี ีการประชุมสภารา่ งรฐั ธรรมนญู ครั้งแรก ซง่ึ ต้องจัดใหม้ ขี นึ้ ไม่ช้า นับแตว่ นั ท่มี กี ารประชมุ สภาร่างรัฐธรรมนูญครัง้ แรก ซงึ่ ตอ้ งจัด zee rice กว่าสามสิบวนั นับแต่วนั ที่มสี มาชิกสภาร่างรฐั ธรรมญทกุ ประเภทตาม ใหม้ ีข้นึ ไม่ช้ากวา่ สามสบิ วนั นบั แตว่ ันทค่ี ณะกรรมการการเลอื กตัง้ มาตรา ๒๕๖/๑ ซง่ึ มีจำนวนรวมกนั ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละเกา้ สิบของ ประกาศรบั รองผลการเลือกต้ังสมาชกิ สภารา่ งรัฐธรรมนญู

เปรยี บเทยี บขอ้ แตกตา่ ง ๑๙ รา่ งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพมิ่ เตมิ (ฉบับที่ ..) พทุ ธศกั ราช .... ข้อสงั เกต ของพรรคพลังประชารฐั กับพรรคเพ่ือไทย (มาตรา ๒๕๖) zee rice ร่างรัฐธรรมนญู พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพ่อื ไทย ฯ (รว่ มรฐั บาล) (ร่วมฝ่ายคา้ น) จำนวนสมาชกิ สภาร่างรฐั ธรรมนญู ท้ังหมด แล้วใหด้ ำเนนิ การใหไ้ ด้มา ซึ่งสมาชกิ สภารา่ งรัฐธรรมนญู ส่วนทเ่ี หลอื โดยเรว็ การท่ีอายขุ องสภาผแู้ ทนราษฎรสน้ิ สดุ ลงหรอื มกี าร การทสี่ ภาผแู้ ทนราษฎรสิ้นอายหุ รือมกี ารยุบสภา ยุบสภาผูแ้ ทนราษฎรไม่เปน็ เหตกุ ระทบกระเทอื นต่อการปฏิบตั ิ ผู้แทนราษฎรไม่เป็นเหตกุ ระทบกระเทือนการปฏบิ ัติหนา้ ทข่ี อง หนา้ ท่ขี องสภาร่างรฐั ธรรมนญู ตามวรรคหนงึ่ สภาร่างรฐั ธรรมนญู ตามวรรคหนงึ่ ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ใหส้ ภารา่ งรัฐธรรมนูญจัด ในการจัดทำรา่ งรัฐธรรมนูญใหส้ ภาร่างรัฐธรรมนูญจัดให้ ให้มีการรบั ฟังความคดิ เห็นของประชาชนทวั่ ไป และประชาชน มกี ารรบั ฟังความคดิ เห็นของประชาชนทั่วไป และประชาชนใน ในทุกจงั หวัดอยา่ งทว่ั ถึง โดยใหส้ ภาร่างรัฐธรรมนญู ทุกจหั วัดอย่างทว่ั ถึง โดยให้สภารา่ งรัฐธรรมนญู คณะรฐั มนตรี คณะรฐั มนตรี และหน่วยงานของรฐั ท่เี กีย่ วข้อง จัดให้มกี าร และหน่วยงานของรฐั ทีเ่ ก่ียวขอ้ ง จัดให้มีการผยแพร่เนอื้ หาสาระ เผยแพร่เนื้อหาสาระและความคืบหน้าในการร่างรฐั ธรรมนญู ผา่ น และความคืบหน้าในการร่างรัฐธรรมนูญผา่ นส่อื มวลชนและเวที ส่ือมวลชนและเวทีแสดงความคดิ เห็นต่าง ๆ แสดงความคิดเห็นต่างๆ ในระหวา่ งการจัดทำรา่ งรฐั ธรรมนูญ ใหส้ ภารา่ ง รัฐธรรมนญู แจ้งให้คณะรัฐมนตรีสภาผู้แทนราษฎร วุฒสิ ภา องค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐท่เี กี่ยวข้อง เพอ่ื แสดงความคิดเหน็ หรือมีขอ้ เสนอแนะอืน่ ใดในการจดั ทำรา่ ง รฐั ธรรมนญู ทงั้ น้ี ตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และภายใน กำหนดเวลาที่สภาร่างรฐั ธรรมนูญกำหนด

๒๐ เปรยี บเทียบขอ้ แตกตา่ ง รา่ งรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพ่ิมเตมิ (ฉบบั ท่ี ..) พุทธศกั ราช .... ของพรรคพลังประชารฐั กับพรรคเพ่ือไทย (มาตรา ๒๕๖) ร่างรฐั ธรรมนูญ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพือ่ ไทย ข้อสงั เกต ฯ (ร่วมรัฐบาล) (ร่วมฝ่ายคา้ น) ห้ามแกไ้ ข การจดั ทำร่างรัฐธรรมนญู ทมี่ ีผลเป็นการแก้ไขเพ่มิ เตมิ การจัดทำร่างรฐั ธรรมนูญท่ีมีผลปน็ การแกไ้ ขเพ่ิมเติมหมวด ทำนองเดียวกัน เพ่ิมเติมหมวด ๑ และหมวด ๒ หมวด ๑ บททว่ั ไป และหมวด ๒ พระมหากษัตริย์ ของ ๑ และหมวด ๒ ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย จะกระทำมไิ ด้ รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย จะกระทำมิได้ กรณที รี่ ฐั สภาวินิจฉัยว่าร่างรฐั ธรรมนญู มีลกั ษณะตาม กรณีทีร่ ัฐสภาวนิ จิ ฉยั ว่าร่างรฐั ธรรมนญู มลี กั ษณะตาม วรรคสใี่ ห้ร่างรฐั ธรรมนูญเป็นอันตกไป วรรคห้า ให้รา่ งรฐั ธรรมนูญเป็นอันตกไป การพิจรณาและ มาตร ๒๕๖/๑๔ การพิจรณาและจดั ทำรา่ งรัฐธรรมนญู มาตรา ๒๕๖/๑๐ การพิจารณาและจดั ทำรา่ ง จัดทำรา่ ง การประชมุ การสงมติ การแตง่ ตั้งกรรมาธกิ ารและการ รัฐธรรมนญู การประชมุ การลงมติ การแต่งตั้งกรรมาธกิ าร และ รฐั ธรรมนญู ดำเนนิ การของกรรมาธิการ การรักษาระเบยี บและความ การดำเนนิ การของกรรมาธกิ าร การรักษาระเบียบและความ เรียบรอ้ ย และกจิ การอ่นื เพือ่ ดำเนินการตามหมวดน้ี ใหน้ ำ เรียบร้อย และกจิ การอนื่ เพือ่ ดำเนนิ การตามหมวดนี้ ให้นำ ข้อบังคับการประชมุ รัฐสภามาใชบ้ งั คับโดยอนุโลม ข้อบงั คับการประชมุ รฐั สภามาใช้บังคับโดยอนโุ ลม ให้นำความในมาตรา ๑๒๐ มาตรา ๑๒๔ และมาตรา ให้นำบทบัญญตั มิ าตรา ๑๒๐ มาตรา ๑๒๔ และมาตรา ๑๒๕ มาใช้บงั คับกับการประชมุ สภารา่ งรฐั ธรรมนแู ละการ ๑๒๕ มาใชบ้ ังคบั กับการประชุมสภาร่างรฐั ธรรมนญู และการ ประชุมของคณะกรรมาธกิ ารโดยอนุโลม ประชุมของคณะกรรมาธกิ ารยกรา่ งรัฐธรรมนูญโดยอนุโลม zee rice

๒๑ เปรียบเทยี บข้อแตกตา่ ง ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ที่ ..) พทุ ธศักราช .... ของพรรคพลังประชารฐั กับพรรคเพื่อไทย (มาตรา ๒๕๖) รา่ งรัฐธรรมนญู พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพอ่ื ไทย ขอ้ สงั เกต ฯ (รว่ มรัฐบาล) (ร่วมฝ่ายคา้ น) เมื่อสภารา่ งรัฐธรรมนญู จัดทำ กระบวนการ มาตรา ๒๕๖/๑๕ เมอื่ สภารา่ งรัฐธรรมนูญจัดทำรา่ ง มาตรา ๒๕๖/๑๑ เมือ่ สภารา่ งรัฐธรรมนญู จดั ทำรา่ ง ร่างรฐั ธรรมนญู เสรจ็ แลว้ ภายหลังสภารา่ ง รัฐธรรมนญู เสรจ็ แล้ว ให้นำเสนอตอ่ รฐั สภา รฐั ธรรมนญู เสร็จแลว้ ให้นำเสนอต่อประธานรัฐสภาและเมอ่ื รฐั ธรรมนูญ ประธานรฐั สภาไดร้ ับรา่ งรัฐธรรมนูญแล้วให้ส่งรา่ งรฐั ธรรมนญู - รา่ งพรรคพลังประชารัฐ จดั ทำร่าง ให้รัฐสภาพิจารณาเพ่อื ให้ความเหน็ ชอบรา่ งรัฐธรรมนญู ดังกล่าวไปยังคณะกรรมการการเลือกตง้ั ภายในเจ็ดวันนับแต่ - ให้นำเสนอต่อรฐั สภาเพ่อื ให้ รัฐธรรมนูญเสร็จ ทง้ั ฉบับ โดยจะมกี ารแก้ไขเพ่ิมเตมิ เปน็ ประการใดมไิ ด้ วันทร่ี ฐั สภาไดร้ ับร่างรฐั ธรรมนูญนั้นจากสภารา่ งรฐั ธรมนญู แล้ว ความเห็นชอบ การลงมตใิ ห้ใชว้ ิธเี รียกชอ่ื และลงคะแนนโดยเปิดเผย - เห็นชอบ ให้ประธานรฐั สภานำ และตอ้ งมีคะแนนเสียงให้ความเห็นชอบในการที่จะออกใช้เป็น เพื่อใหค้ ณะกรรมการการเลือกต้งั ดำเนินการจดั ใหม้ กี ารออก รา่ งรฐั ธรรมนญู ขึน้ ทลู เกลา้ - ไม่เห็นชอบ ใหด้ ำเนินการจัดให้ รัฐธรรมนญู มากกว่ากึ่งหนงึ่ ของจำนวนสมาชกิ ท้ังหมดเทา่ ทม่ี ีอยู่ เสียงประชามติของประชาชนวา่ จะเห็นชอบกบั รา่ งรัฐธรรมนูญ มกี รประชามติ ของทั้งสองสภาเม่ือรัฐสภาลงมตใิ ห้ความเหน็ ชอบรา่ งรฐั ธรรมนูญ หรือไม่ - ร่างพรรคเพ่ือไทย แล้ว ใหป้ ระธานรฐั สภานำร่างรัฐธรรมนญู ขนึ้ ทูลเกลา้ ในกรณีไม่มผี ู้ดำงตำแหนง่ ประธานรฐั สภา ให้ - ให้นำเสนอต่อประธานรฐั สภา เพ่อื ใหส้ ่งรา่ งรัฐธรรมนูญดังกล่าว ทูลกระหมอ่ มถวาย และใหน้ ำความในมาตรา ๘๑ วรรคสอง ประธานสภาร่างรัฐธรรมนญู ส่งร่างรฐั ธรรมนูญไปยงั ไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง ภายใน ๗ วัน เพอ่ื ใหด้ ำเนินการจดั และมาตรา ๑๔๖ มาใชบ้ ังคบั โดยอนโุ ลมและใหป้ ระธานรฐั สภา คณะกรรมการการเลือกตัง้ เพ่ือดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ใหม้ กี ารออกเสียงประชามติ เปน็ ผ้ลู งนามรบั สนองพระบรมราชโองการ ในกรณีทม่ี คี ะแนนเสียงให้ความเหน็ ชอบไม่ถงึ กึง่ หนึง่ ของจำนวนสมาชิกท้งั หมดเท่าท่ีมีอยูข่ องทง้ั สองสภา ให้ ดำเนินการจัดให้มกี รประชามตเิ พอ่ื ใหป้ ระชาชนออกเสียง ลงคะแนนวา่ จะเหน็ ชอบหรือไม่ห็นชอบกับรา่ งรัฐธรรมนูญท่สี ภา รา่ งรฐั ธรรมนญู เสนอ zee rice

เปรียบเทยี บข้อแตกต่าง ๒๒ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ (ฉบับท่ี ..) พุทธศกั ราช .... ขอ้ สังเกต ของพรรคพลังประชารฐั กับพรรคเพอื่ ไทย (มาตรา ๒๕๖) zee rice รา่ งรฐั ธรรมนูญ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพอื่ ไทย ฯ (ร่วมรัฐบาล) (รว่ มฝา่ ยคา้ น) มาตรา ๒๕๖/๑๖ ในกรณีทจ่ี ะต้องดำเนินการให้ ประชาชนออกเสยี งประชามติตามมาตรา ๒๕๖/๑๕ ใหป้ ระธาน รฐั สภาสง่ รา่ งรัฐธรรมนญู ดงั กล่าวไปยังคณะกรรมการการ เลอื กตงั้ ภายในเจ็ดวันนับแตว่ ันที่รัฐภามีมตไิ มห่ น็ ชอบรา่ ง รัฐธรรมนญู ทีส่ ภารา่ งรัฐธรรมนญู เสนอ เพื่อใหค้ ณะกรรมการการ เลือกต้งั ดำเนินการจัดใหม้ กี รออกเสยี งประชามตขิ องประชาชน วา่ จะเห็นชอบกบั รา่ งรัฐธรรมนูญหรือไม่ (มาตรา ๒๕๖/๑๑ วรรคสาม) การประกาศ ใหค้ ณะกรรมการการเลือกตัง้ ประกาศกำหนดวนั ออก ใหค้ ณะกรมการการเลอื กตั้งประกาศกำหนดวันออก เสียงประชามติซ่ึงต้องไม่เกินหกสิบวนั แตไ่ มน่ อ้ ยกวา่ ส่สี ิบหา้ วัน กำหนดวันออก เสยี งประชามตซิ ึ่งตอ้ งไม่เกินหกสบิ วนั แตไ่ มน่ อ้ ยกว่าสสี่ ิบห้าวนั นบั แต่วนั ทไ่ี ดร้ บั ร่างรัฐธรรมนูญจากรฐั สภา หรอื จากสภาร่าง เสยี งประชามติ นบั แต่วนั ที่ได้รับร่างรัฐธรรมนญู จากรฐั สภา และวนั ออกเสียง ประชามติใหก้ ำหนดเป็นวันเดียวกันทัว่ ราชอาณาจกั ร โดยเร่ิม รัฐธรรมนญู แลว้ แตก่ รณี วันออกเสยี งประชามตใิ หก้ ำหนดเปน็ ตั้งแตเ่ วลาแปดนาฬกิ าจนถงึ เวลาสิบเจด็ นาฬิกา วนั เดียวกันท่วั ราชอาณาจกั รต้ังแต่เวลาแปดนาฬิกาจนถงึ เวลา หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการออกเสียงประชามติให้เป็นไปตาม สบิ เจ็ดนาฬิกา สำหรบั หลักเกณฑ์และวธิ ีการออกเสยี งประชามติ กฎหมายว่าด้วยการนนั้ เท่าทไ่ี ม่ขัดหรือแยง้ ตอ่ รฐั ธรรมนูญนี้ ให้เปน็ ไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นเทา่ ท่ีไม่ขดั หรือแยงั ต่อ รฐั ธรรมนญู นี้

เปรียบเทยี บขอ้ แตกต่าง ๒๓ ร่างรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย แกไ้ ขเพมิ่ เติม (ฉบบั ท่ี ..) พทุ ธศกั ราช .... ข้อสงั เกต ของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพ่อื ไทย (มาตรา ๒๕๖) zee rice รา่ งรฐั ธรรมนูญ พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพือ่ ไทย ฯ (รว่ มรฐั บาล) (รว่ มฝ่ายคา้ น) (มาตรา ๒๕๖/๑๑ วรรคส)่ี ให้คณะกรรมการการเลอื กตัง้ คณะรฐั มนตรี และ ใหค้ ณะกรรมการการเลอื กตงั้ คณะรฐั มนตรี และ หนว่ ยงานของรฐั ทเ่ี กย่ี วข้องจดั ใหม้ ีกำหนดวนั ออกเสียงประชามติ หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวขอ้ งจดั ให้มีการเผยแพร่เน้ือหาของร่าง ใหป้ ระชาชนรบั ทราบเป็นการทั่วไปผ่านช่องทางต่าง ๆ และให้นำ รัฐธรรมนญู ใหป้ ระชาชนรับทราบเปน็ การท่ัวไปผ่านสอื่ มวลชน เทคโนโลยกี ารสอื่ สารมาสนับสนุนเพอ่ื อำนวยความสะดวกในการ เวทแี สดงความคิดเห็น และสอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ สท์ กุ ประเภท โดยให้ เผยแพร่ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงสิทธิและความเสมอภาคในการแสดง ผูท้ เ่ี ห็นด้วยและไม่เห็นดว้ ยกับร่างรัฐธรรมนูญไดแ้ สดงความ ความคดิ เหน็ กับรา่ งรฐั ธรรมนญู ภายใตก้ รอบของกฎหมาย คดิ เห็นโดยเสรีภายใตก้ รอบของกฎหมาย เมือ่ การออกเสยี งประชามตเิ สรจ็ ส้นิ ใหค้ ณะกรรมการ การเลอื กต้งั ประกาศผลการออกเสยี งประชามติให้แล้วเสร็จ เมอ่ื การออกเสียงประชามติเสรจ็ ส้ินแลว้ ให้ ภายในสิบห้าวนั นับแตว่ ันออกสียงประชามติ หากคะแนนการ คณะกรรมการการเลือกตง้ั ประกาศผลการออกเสียงประชามติให้ ออกเสยี งประชามตเิ หน็ ชอบกับร่างรฐั ธรรมนญู ใหด้ ำเนินการตาม แลว้ เสร็จภายในสบิ ห้าวันนับแต่วันออกสยี งประชามติ หาก มาตรา ๒๕๖/๑๗ ต่อไป แตห่ ากคะแนนการออกเสยี งประชามติ คะแนนการออกเสียงประชามติเหน็ ชอบกบั รา่ งรัฐธรรมนญู ให้ ไม่เห็นชอบกบั ร่างรัฐธรรมนูญหรือผ้มู สี ิทธอิ อกเสียงมาออกเสยี ง ดำเนนิ การตามมาตรา ๒๕๖/๑๒ ตอ่ ไป แตห่ ากคะแนนการออก ลงคะแนนไม่ถงึ หน่งึ ในหา้ ของจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงให้ร่าง เสียงประชามติไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ ให้รา่ งรฐั ธรรมนูญ รัฐธรรมนญู น้ันเปน็ อันตกไป และให้แจ้งผลการออกเสยี ง นน้ั เปน็ อนั ตกไป และใหแ้ จ้งผลการออกเสยี งประชามตใิ ห้ ประชามตใิ ห้ประธานรัฐสภาและประธานสภาร่างรฐั ธรรมนญู ประธานรัฐสภาหรือประธานสภาร่างรัฐธรรมนญู แล้วแต่กรณี ทราบโดยเร็ว ทราบโดยเรว็

๒๔ เปรียบเทียบขอ้ แตกต่าง ร่างรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย แก้ไขเพมิ่ เตมิ (ฉบับที่ ..) พทุ ธศกั ราช .... ของพรรคพลังประชารฐั กับพรรคเพื่อไทย (มาตรา ๒๕๖) รา่ งรัฐธรรมนูญ พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพ่อื ไทย ข้อสงั เกต ฯ (รว่ มรฐั บาล) (รว่ มฝ่ายค้าน) ผลการออกเสียง มาตรา ๒๕๖/๑๗ เมือ่ ผลการออกเสียงประชามติ มาตรา ๒๕๖/๑๒ เมอ่ื ผลการออกเสียงประชามตเิ ห็นชอบ ด้วยกับร่างรฐั ธรรมนูญ ใหป้ ระธานรัฐสภาหรือประธานสภาร่าง ประชามติ เหน็ ชอบดว้ ยกับร่างรัฐธรรมนญู ให้ประธานรฐั สภานำรา่ ง รัฐธรรมนญู ข้ึนทลู เกลา้ ทลู กระหม่อมถวาย และให้นำความใน รัฐธรรมนญู แลว้ แต่กรณี นำร่างรฐั ธรรมนญู ขนึ้ ทลู เกลา้ มาตรา ๘๑ วรรคสองและมาตรา ๑๔๖ มาใช้บังคบั โดยอนโุ ลม ทูลกระหมอ่ มถวายและใหน้ ำบทบญั ตมิ าตรา ๘๑ วรรคสอง และ และให้ประธานรัฐสภาเปน็ ผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ มาตรา ๑๔๖ มาใช้บังคบั โดยอนุโลมและให้ประธานรัฐสภาหรอื ประธานสภาร่างรัฐธรรมนญู แล้วแตก่ รณี เปน็ ผู้ลงนามรบั สนอง พระบรมราชโองการ เหตุทที่ ำใหส้ ภา มาตรา ๒๕๖/๑๘ สภาร่างรัฐธรรมนูญสิ้นสุดลงในกรณี มาตรา ๒๕๖/๑๓ สภาร่างรฐั ธรรมนูญสิ้นสดุ ลงในกรณี ทั้ง ๒ ร่างฯ บญั ญตั ิไวใ้ นทำนอง ร่างรัฐธรรมนูญ ดงั ต่อไปนี้ เดียวกัน เพียงแตร่ า่ ง ร.ธ.น. พรรค ส้นิ สุดลง ดังตอ่ ไปนี้ (๑) สภาร่างรัฐธรรมนญู มจี ำนวนสมาชิกเหลอื อยไู่ ม่ถึง (๑) สภาร่างรัฐธรรมนูญมจี ำนวนสมาชกิ เหลืออยูไ่ มถ่ ึง รว่ มรฐั บาล มาตรา ๒๕๖/๑๘ มี กงึ่ หนง่ึ ก่งึ หนึง่ สองวรรค โดยกำหนดให้ (๒) สภารา่ งรัฐธรรมนูญจดั ทำรา่ งรัฐธรรมนูญไมแ่ ล้ว (๒) สภารา่ งรัฐธรรมนูญจัดทำร่างรฐั ธรรมนญู ไมแ่ ล้ว ดำเนนิ การจัดใหม้ สี มาชกิ สภารา่ ง เสรจ็ ภายในกำหนดระยะเวลาตามมาตรา ๒๕๖/๑๓ วรรคหน่ึง เสรจ็ ภายในกำหนตระยะเวลาตามมาตรา ๒๕๖/๙ วรรคหนึง่ รฐั ธรรมนญู ขึ้นใหม่ภายใน ๙๐ วนั (๓) เม่ือร่างรฐั ธรรมนญู ตกไปตามมาตรา ๒๕๖/๙ วรรค (๓) เมอื่ รา่ งรฐั ธรรมนญู ตกไปตามมาตรา ๒๕๖/๑๓ วรรคหก หรอื มาตรา ๒๕๖/๑๖ วรรคหา้ หา้ หรือมาตรา ๒๕๖/๑๑ วรรคห้า (๔) เมือ่ ร่างรฐั ธรรมนญู ไดป้ ระกาศใชบ้ งั คับเป็น (๔) เมอื่ ร่างรฐั ธรรมนญู ได้ประกาศใชบ้ งั คับเป็น รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทยแลว้ zee rice

๒๕ เปรยี บเทยี บข้อแตกต่าง ร่างรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย แกไ้ ขเพิม่ เติม (ฉบับที่ ..) พทุ ธศักราช .... ของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย (มาตรา ๒๕๖) รา่ งรัฐธรรมนูญ พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพือ่ ไทย ข้อสงั เกต ฯ (รว่ มรฐั บาล) (รว่ มฝ่ายค้าน) ในกรณที ี่สภารา่ งรัฐธรรมนูญส้ินสุดลงตาม (๒) ให้ ดำเนินการจดั ใหม้ ีสมาชกิ สภารา่ งรัฐธรรมนญู ขึ้นใหม่ตามหมวดน้ี ภายในเก้าสบิ วนั นับแตว่ ันสิ้นสุดระยะเวลาตามมาตรา ๒๕๖/๑๓ วรรคหนึ่ง ท้งั น้ี บุคคลซง่ึ เคยเปน็ สมาชิกสภาร่างรฐั ธรรมนูญชดุ เดมิ จะเป็นสมาชิกสภาร่างรฐั ธรรมนูญอีกไมไ่ ด้ มาตร ๒๕๖/๑๙ ในกรณรี า่ งรัฐธรรมนูญท่ีจดั ทำขึน้ ตาม มาตรา ๒๕๖/๑๔ ถา้ รา่ งรฐั ธรรมนญู ท่ีจดั ทำขน้ึ ตาม ท้ัง ๒ ร่าง ฯ บญั ญัตไิ วใ้ นทำนอง เดียวกนั หมวดนตี้ กไป คณะรฐั มนตรี หรือสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร หมวดนี้ตกไป คณะรัฐมนตรี หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวนไม่น้อยกวา่ หนึง่ ในห้าของจำนวนสมาชกิ ทง้ั หมดเทา่ ทม่ี อี ยู่ จำนวนไม่นอ้ ยกวา่ หนึ่งในห้าของจำนวนสมาชกิ ท้งั หมดเท่าท่ีมอี ยู่ ของสภาผ้แู ทนราษฎรหรือสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรและสมาซกิ ของสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎรและสมาชกิ วุฒิสภามจี ำนวนไม่น้อยกว่าหนงึ่ ในห้าของจำนวนสมาชิกท้งั หมด วุฒิสภามจี ำนวนไมน่ ้อยกว่าหนึง่ ในห้าของจำนวนสมาชกิ ทง้ั หมด เท่าท่ีมีอย่ขู องท้ังสองสภา มีสทิ ธิเสนอญตั ตติ อ่ รัฐสภา เพื่อให้ เทา่ ที่มีอยขู่ องทั้งสองสภามสี ทิ ธิเสนอญัตตติ อ่ รฐั สภาเพอื่ ให้ รัฐสภามมี ติใหม้ ีการจดั ทำร่างรฐั ธรรมนูญฉบับใหม่ตามหมวดนี้ รัฐสภามีมตใิ หม้ กี ารจัดทำร่างรฐั ธรรมนูญฉบับใหม่ตามหมวดน้ี อีกได้ การออกเสยี งลงคะแนนใหค้ วามเหน็ ชอบของรฐั สภาต้อง อีกได้ การออกเสียงลงคะแนนใหค้ วามเห็นชอบของรฐั สภาตอ้ ง ได้เสียงไม่นอ้ ยกว่าสองในสามของสมาชิกทง้ั หมดเทา่ ทีม่ อี ยขู่ อง ได้เสียงมากกวา่ ก่ึงหน่ึงของสมาชิกทัง้ หมดเท่าทม่ี อี ย่ขู องทง้ั สอง ทัง้ สองสภา ทั้งนี้ บุคคลผู้ท่ีเคยเปน็ สมาชกิ สภาร่างรัฐธรรมนญู จะ สภา ท้ังนบ้ี ุคคลผทู้ เี่ คยเปน็ สมาชิกสภารา่ งรฐั ธรมนูญจะเป็น เปน็ สมาชิกสภารา่ งรัฐธรรมนญู อกี มิได้ สมาชกิ สภารา่ งรฐั ธรรมนญู อีกมิได้ zee rice

๒๖ เปรยี บเทยี บข้อแตกตา่ ง รา่ งรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย แก้ไขเพ่มิ เตมิ (ฉบับท่ี ..) พุทธศักราช .... ของพรรคพลังประชารฐั กับพรรคเพือ่ ไทย (มาตรา ๒๕๖) ร่างรฐั ธรรมนญู พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพ่ือไทย ข้อสงั เกต ฯ (รว่ มรัฐบาล) (ร่วมฝา่ ยคา้ น) การตราพระราชกฤษฎกี า กรณรี ่าง กำหนดให้มกี ารรับสมัครเลือกตงั้ รฐั ธรรมนูญ เมอื่ รฐั สภามีมตอิ ย่างหนึ่งอย่างใดตามวรรคหนึ่งแล้ว จะ เม่อื รัฐสภามมี ตอิ ยา่ งหน่ึงอย่างใดตามวรรคหน่ึงแลว้ จะ - รา่ ง ร.ธ.น. พรรคร่วมรฐั บาล ตกไป ภายใน ๓๐ วัน และใหแ้ ลว้ มกี ารเสนอญตั ตติ ามวรรคหนึง่ อกี มไิ ด้เวน้ แต่จะมีการเลือกตง้ั มกี ารเสนอญัตติตามวรรคหนง่ึ อีกมไิ ด้เวน้ แต่จะมกี ารเลอื กต้งั เสร็จภายในเกา้ สบิ วนั นับแต่วันท่ี มาตรา ๕ รฐั ธรรมนญู น้ีใชบ้ ังคับ ทั่วไปครั้งใหมแ่ ล้ว\" ทว่ั ไปคร้งั ใหมแ่ ลว้ \" - ร่าง ร.ธ.น. พรรครว่ มฝา่ ยค้าน บทเฉพะกาล ภายใน ๓๐ วนั มาตรา ๕ ในวาระเรม่ิ แรก ให้ตราพระราชกฤษฎีกา มาตรา ๕ ในวาระเรม่ิ แรกใหต้ ราพระราชกฤษฎีกา กำหนดใหม้ ีการรบั สมัครเลอื กต้ังเป็นสมาชิกสภารา่ งรฐั ธรรมนญู กำหนดใหม้ กี ารรบั สมัครเลือกตัง้ เปน็ สมาชิกสภารา่ งรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา ๒๕๖/๑ (๑) ของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย ภายในสามสบิ วันนับแต่วนั ทีร่ ฐั ธรรมนญู นี้ใช้บงั คับ ซึ่งแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ โดยรฐั ธรรมนูญนี้ ภายในสามสบิ วนั นับแตว่ นั ที่ รฐั ธรรมนญู นใ้ี ช้บงั คบั และใหด้ ำเนนิ การตามมาตรา ๒๕๖/๖ ของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย ซง่ึ แก้ไขเพิม่ เตมิ โดย รัฐธรรมนญู น้ี ให้แลว้ เสร็จภายในเกา้ สิบวันนับแตว่ นั ท่ี รัฐธรรมนญู น้ีใช้บงั คบั เมอื่ ไดม้ พี ระราชกฤษฎกี าตามวรรคหนงึ่ แล้ว ใหเ้ ร่มิ ดำเนินการให้ได้มาซึ่งสมาชิกสภารา่ งรฐั ธรรมนูญตามมาตรา ๒๕๖/๑ (๒) (๓) และ (๔) ของรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักร ไทย ซ่งึ แก้ไขเพม่ิ เติมโดยรฐั ธรรมนูญนี้ ใหแ้ ล้วเสรจ็ ภายในเกา้ สบิ วนั นบั แตว่ ันทร่ี ฐั ธรรมนญู นใ้ี ชบ้ งั คับ zee rice

เปรียบเทียบข้อแตกต่าง ๒๗ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย แก้ไขเพิม่ เตมิ (ฉบับที่ ..) พทุ ธศกั ราช .... ขอ้ สังเกต ของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพือ่ ไทย (มาตรา ๒๕๖) รา่ งรฐั ธรรมนูญ พรรคพลงั ประชารัฐ พรรคเพอื่ ไทย ฯ (ร่วมรัฐบาล) (รว่ มฝ่ายค้าน) นายกรัฐมนตรี นายกรฐั มนตรี ผรู้ บั สนองพระ บรมราชโองการ ๑. หลกั ข้อความคดิ เกยี่ วกับการแก้ไขเพมิ่ เติมรฐั ธรรมนญู รัฐธรรมนูญส่วนใหญ่ในต่างประเทศได้กำหนดขั้นตอนและกระบวนการในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญไว้เพื่อให้สามารถแก้ไขเพิ่มเติม รฐั ธรรมนญู ให้เหมาะสมกบั สภาพสังคม เศรษฐกจิ และการเมอื งท่ีเปล่ียนแปลงไปตามกาลเวลา และเพื่อใหก้ ารดำเนินกิจกรรมทางการเมืองไมห่ ยุดชะงัก ในกรณี ทอี่ าจเกิดวกิ ฤตการณ์ทางการเมือง พรอ้ มกนั นี้ การกำหนดให้รัฐธรรมนูญสามารถแกไ้ ขเพิ่มเตมิ ได้ยงั ช่วยไม่ให้เกิดกระบวนการแก้ไขเพ่ิมเติมรัฐธรรมนูญที่ไมช่ อบ ด้วยวิถีทางประชาธิปไตย เช่น การปฏิวัติหรือรัฐประหาร ในกรณีที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมไว้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญก็จะต้องเป็นไปตาม วธิ ีการทีบ่ ญั ญตั ิไวใ้ นรัฐธรรมนูญ ซง่ึ กระบวนการในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนญู สามารถแบง่ ไดเ้ ปน็ ๓ ส่วน คอื 1 ก. การริเรมิ่ ให้มีการแกไ้ ข โดยปกติการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะต้องกระทำได้ยากกว่ากฎหมายธรรมดา ดังนั้น รัฐธรรมนูญจึ งอาจกำหนดให้บุคคลบาง ประเภทเป็นผู้มีสิทธิริเริ่มในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เช่น รัฐธรรมนูญญี่ปุ่น ค.ศ. ๑๘๘๙ มาตรา ๗๓ หรือรัฐธรรมนูญโรมาเนีย ค.ศ. ๑๙๓๘ มาตรา ๙๗ กำหนดให้กษัตริย์แต่เพียงพระองค์เดียวที่ทรงมีสิทธิริเริ่มเสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หรือรัฐธรรมนูญฝร่ังเศส ฉบับลงวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ 1 ศาสตราจารย์ ดร.เกรยี งไกร เจรญิ ธนาวัฒน์, หลกั พ้ืนฐานกฎหมายมหาชน, พมิ พค์ รัง้ ที่ ๕ (กรงุ เทพมหานคร : วญิ ญูชน, ๒๕๖๒) หนา้ ๒๐๙ - ๒๑๔ zee rice

๒๘ ค.ศ, ๑๘๗๕ มาตรา ๘ กำหนดให้ประธานาธิบดี แต่เพียงผู้เดียวมีสิทธิริเริ่มเสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญอีกหลายประเทศ ส่วนใหญ่ได้ให้อำนาจฝ้ายบริหารหรือคณะรัฐมนตรี หรือสมาชิกสภานิติบัญญัติหรือสมาชิกรัฐสภา เป็นผู้มีสิทธิริเริ่มเสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ แต่อาจจะต้องกำหนดให้มีจำนวนสมาชิกที่ให้ความเห็นชอบมากกว่าการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายธรรมดา เช่น จะต้องให้ความเห็นชอบไม่น้อยกว่าสามในสี่ของ จำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ของท้ังสองสภา แต่มีรัฐธรรมนูญบางประเทศที่ให้ประชาชนเป็นผู้มีสิทธิริเริ่มเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ แต่จะต้องกำหนด จำนวนประชาชนทีร่ เิ ร่ิมเสนอขอแกไ้ ขเพิม่ เติมรัฐธรรมนูญมากพอสมควร เชน่ รฐั ธรรมนูญสวติ เซอร์แลนด์ ค.ศ. ๑๙๙๙ มาตรา ๑๓๘ กำหนดใหป้ ระชาชนจำนวน หน่ึงแสนคนมสี ทิ ธิริเริ่มเสนอให้มีการแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ รฐั ธรรมนูญ ข. การตกลงใจที่จะแกไ้ ข รัฐธรรมนูญบางประเทศกำหนดให้รัฐสภาเปน็ ผู้ลงมติว่าควรจะใหม้ ีการแกไ้ ขเพิม่ เตมิ ตามท่ีเสนอมาหรือไม่ เช่น รัฐธรรมนูญเบลเยียม ค.ศ. ๑๘๓๑ มาตรา ๑๓๑ กำหนดให้ฝ่ายนิติบัญญัติมีสิทธิลงมติว่าสมควรจะให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามที่เสนอมาหรือไม่ หรือในกรณีที่รัฐธรรมนูญ กำหนดให้ประชาชนเป็นผู้มีสิทธิริเริ่มเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ประชาชนก็จะเป็นผู้ตกลงใจว่าสมควรจะให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยวิธีการออกเสียงลงประชามติ การที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีการตกลงใจที่จะแก้ไขนี้ มีผลทำให้เมื่อได้ตกลงใจหรือลงมติว่าสมควรให้มีการแก้ไขแล้วจะต้อง แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ ไปตามที่ได้มกี ารตกลงใจและหา้ มมิใหน้ ำเรอื่ งที่ยงั ไม่ได้มีการตกลงใจท่ีจะแก้ไขเพิ่มเติมมาแกไ้ ขนอกเหนอื ไปจากที่ไดต้ กลงใจไว้น้ัน ค. วิธีปฏิบตั ใิ นการแก้ไข สามารถกระทำได้ ๓ วิธี คือ น้อี าจดำเนนิ การแกไ้ ขโดยได้รฐั สภาเปน็ ผดู้ ำเนนิ การแก้ไขเพม่ิ เติมรัฐธรรมนญู เช่น รฐั ธรรมนญู วิธีแรก การให้รัฐสภาเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ กรณีเบลเยี่ยม ค.ศ. ๑๘๓๑ มาตร ๑๓๑ กำหนดให้สภาสูงและสภา ล่างเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขโดยความเห็นชอบของพระมหากษัตริย์ เช่นเดียวกับการแก้ไขกฎหมายธรรมดา แต่ภายหลังจากที่ได้ตกลงใจที่จะแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญโดยได้รับความเห็นชอบจากพระมหากษัตริย์แล้ว สภาทั้งสองจะต้องถูกยุบไปในตัวและให้สภาชุดใหม่ซึ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามาทำหน้าที่แก้ไข เพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามที่สภาชุดเดิมที่ถูกยุบไปได้ตกลงใจไว้ โดยในการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะต้องมีสมาชิกอย่างน้อย ๒ ใน ๓ ของแต่ละสภามา ประชุม ส่วนขั้นตอนการลงมติจะต้องให้สมาชิกสภาลงคะแนนเห็นชอบด้วยอย่างน้อย ๒ ใน ๓ ของคะแนนเสียงที่ออกจึงจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้หรือตาม รัฐธรรมนูญสเปน ค.ศ. ๑๙๓๑ มาตรา ๑๒๕ กำหนดว่าเมื่อมีการเสนอขอให้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแล้วก็จะต้องมีการลงมติ เช่นเดียวกับการแก้ไขกฎหมาย ธรรมดา แต่ต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วย ๒ ใน ๓ ของจำนวนสมาชิกสภาที่อยู่ในตำแหน่งในกรณีมีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญภายใน ๔ ปีแรกของการใช้ รัฐธรรมนูญ หรือต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาที่อยู่ในตำแหน่งในกรณีมีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญภายหลัง ๔ ปีแรกของ zee rice

๒๙ การใช้รัฐธรรมนูญ ถือว่าสภาได้ตกลงใจที่จะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นสภาจะต้องถูกยุบไปทันทีและต้องมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน ๖ วัน เมื่อได้สภา ใหม่มาแล้วสภาใหม่ก็จะทำหน้าที่สภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อลงมติในการแก้ไขเพ่ิมเติมรัฐธรรมนูญตามที่สภาชุดก่อนได้ตกลงใจไว้แล้ว เมื่อพิจารณาเสร็จแล้วสภา ร่างรฐั ธรรมนญู กจ็ ะกลายเป็นสภานิติบญั ญัติธรรมดาตอ่ ไป วิธีที่สอง การให้องค์กรพิเศษซึ่งได้รับเลือกตั้งขึ้นมาทำหน้าที่ในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งองค์กรพิเศษเพื่อทำหน้าที่ ในการแกไ้ ขเพ่ิมเติมรัฐธรรมนญู เชน่ การเลือกต้ังสภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อทำหน้าท่ีในการแกไ้ ขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญดังเชน่ กรณขี องประเทศสหรัฐอเมริกา ในกรณี ที่รัฐสภาได้ตกลงใจที่จะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญและสมาชิกสภานิติบัญญัติของมลรัฐต่าง ๆ จำนวน ๒ ใน ๓ ร้องขอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะต้องมี การเลือกตั้งสภารา่ งรัฐธรรมนูญขึน้ เพื่อทำหน้าที่ในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เมื่อสภาร่างรัฐธรรมนูญไดด้ ำเนินการแก้ไขเพ่ิมเติมรฐั ธรรมนูญแล้วจะต้องนำไป ให้สภานิติบัญญัติของมลรัฐต่าง ๆ ลงมติให้ความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า ๓ ใน ๔ ของมลรัฐทั้งหมดก็ถือว่ารัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้นเป็นอันใช้ บงั คบั ได้ วธิ ีทส่ี าม การให้ประชาชนดำเนินการแกไ้ ขเพิ่มเติมรัฐธรรมนญู วิธีการดังกลา่ วนี้พอแบ่งออกได้สองแนวทาง แนวทางแรก ประชาชนเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะมีได้ในประเทศที่มีการปกครองแบบผสมระหว่างการปกครอง แบบประชาธิปไตยทางตรงและการปกครองแบบประชาธิปไตยแบบผู้แทนซ่ึงเป็นไปตามหลักอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน แต่วิธีการนี้ในหลายประเทศมักใช้ วิธีการให้ประชาชนออกเสียงลงประชามติ เช่น กรณีของประเทศฝรั่งเศสให้สิทธิแก่ประชาชนในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยให้ประชาชนออกเสียง ลงประชามติว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมนั้น หากประชาชนให้ความเห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญก็จะมีผลใช้บังคับได้ หรือกรณีของประเทศญี่ปุ่น เมื่อร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้วจะต้องเสนอให้ประชาชน ออกเสียงลงประชามติ เม่อื ประชาชนส่วนใหญ่ออกเสยี งลงประชามติใหค้ วามเหน็ ชอบแล้วก็มีผลใช้บังคบั ได้ แนวทางที่สอง ประชาชนเป็นผู้ริเริ่มในการเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ (Initiative) ซึ่งอาจจะเป็นการเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญโดยตรง โดยการให้ประชาชนจำนวนหนึ่งเข้าชื่อกันเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยให้ประชาชนออกเสียงลงคะแนนโดยตรงว่าจะยอมรับหรือ ปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยไม่ต้องผ่านผู้แทนของตนหรือการเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยอ้อม โดยการให้ประชาชนจำนวนหนึ่งเสนอขอ แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญก่อนการประชุมสภาสมัยสามัญเพื่อให้สภานิติบัญญัติได้พิจารณา ซึ่งหากการเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญไม่ผ่านการพิจารณาของ สภานิติบัญญัติ หรือสภานิติบัญญัติได้แก้ไขเพิ่มเติมข้อเสนอที่ประชาชนได้เสนอมา ก็จะต้องมีการนำมาให้ประชาชนออกเสียงลงประชามติว่าจะยอมรับหรื อ ปฏิเสธตามข้อเสนอที่สภานิติบัญญัติได้แก้ไขหรือไม่ ซึ่งวิธีการที่ให้ประชาชนเป็นผู้ริเริ่มเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศ zee rice

๓๐ สวิตเซอร์แลนด์และบางมลรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเหตุผลที่ประชาชนควรจะเป็นผู้มอี ำนาจในการแกไ้ ขเพิม่ เติมรัฐธรรมนูญมากกว่าการให้สภานิติบัญญัติ หรอื รัฐสภาเปน็ ผูด้ ำเนินการแกไ้ ขเพิม่ เตมิ รฐั ธรรมนญู เนอ่ื งจาก ๑. สภานิติบัญญัติเป็นองค์กรที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดยรัฐธรรมนูญจึงเป็นองค์กรที่ได้รับมอบอำนาจมาจากรัฐธรรมนูญ (Pouvoir constitué) มิใช่เป็นองค์กรที่มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงองคก์ รท่ีไดร้ ับมอบมาจากอำนาจในการกอ่ ตง้ั องค์กร (Pouvoir constituant dérivé) สภานิติบัญญัติจึงเป็นองค์กร ที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เมื่อเป็นองค์กรที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญโดยหลักการจึงไม่สามารถแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่ก่อตั้งตัวเองขึ้นมาได้ เพราะหากยอมให้สภา นิติบัญญัติแก้ไขกฎหมายที่ให้กำเนิดตัวเองได้ เท่ากับยอมให้สภานิติบัญญัติมีอำนาจเดียวกับอำนาจในการก่อตั้งองค์กรทางการเมือง (pouvoir constituant) ซึ่งเป็นอำนาจที่อยู่สูงกว่ารัฐธรรมนูญและเป็นการขยายอำนาจของตนเองได้อันเป็นการทำลายดุลยภาพขององค์กรที่รัฐธรรมนูญก่อตั้งขึ้นและอ ำนาจที่ รัฐธรรมนูญตั้งขึ้น หรือกล่าวโดยง่ายว่าทำให้สภานิติบญั ญัติมีอำนาจมากกว่ารัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายทีใ่ ห้กำเนิดตนและทำให้สภานิติบัญญัตมิ ีอำนาจมากกว่า องค์กรอื่นในลำดับเดียวกันที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ยกเว้น กรณีที่รัฐธรรมนูญได้มอบใหส้ ภานิติบัญญตั มิ ีอำนาจในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้โดยการบัญญตั ิ เอาไว้อย่างชัดเจนในรัฐธรรมนูญ กรณีเช่นนี้สภานิติบัญญัติจึงจะมีอำนาจในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ แต่กรณีดังกล่วการใช้อำนาจของสภานิติบัญญัติย่อมมี อำนาจจำกดั เพียงเท่าทร่ี ัฐธรรมญมอบอำนาจใหเ้ ท่านนั้ ไม่อาจใช้อำนาจในทางทีข่ ดั กบั รฐั ธรรมนญู หรือใช้อำนาจเกินเลยไปจากทรี่ ฐั ธรรมนูญมอบอำนาจให้ ๒. ประชาชนในฐานะผู้มีอำนาจในการกอ่ ต้งั องค์กรทางการเมอื ง (pouvoir constituant) ซง่ึ มีอำนาจในการจัดใหม้ รี ัฐธรรมนญู รวมถึง อำนาจในการจัดทำรัฐธรรมนูญและกำหนดตัวบุคคลในการจัดทำรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ประชาชนจึงไม่ใช่องค์กรที่ได้รับมอบอำนาจมาจากรัฐธรรมนูญ (Pouvoir constitué) ดังเช่นองค์กรนิติบัญญัติ องค์กรบริหาร องค์กรตุลาการและองค์กรตามรัฐธรรมนูญอื่นๆ ซึ่งเป็นองค์กรที่เกิดขึ้นมาจากรัฐธรรมนูญและเป็นองค์กรท่ี ได้รับมอบอำนาจมาจากรัฐธรรมนูญ (Pouvoir constitué) และจากอำนาจสูงสุดในการก่อตั้งองค์กรทางการเมือง (pouvoir constituant) ซึ่งก็คือ ประชาชน ผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ประชาชนจึงเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในทางการเมือง เพียงแต่ประชาชนไม่ได้เป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยด้วยตนเองโดยตรง แต่ประชาชน เป็นผู้เลือกตัวแทนในการใช้อำนาจอธิปไตยอนั เป็นการผสมผสานระหว่างประชาธิปไตยทางตรงและประชาธิปไตยแบบผู้แทนเข้าด้วยกัน เมื่อประชาชนไม่ได้เปน็ ผู้ใช้อำนาจอธิปไตย ประชาชนจึงควรมีส่วนร่วมในการกำหนดความต้องการของตนเองโดยการเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธ รรมนูญ เพราะ รฐั ธรรมนญู ทีเ่ ป็นผลพวงมาจากการมีสว่ นร่วมของประชาชนกจ็ ะนำมาใชบ้ งั คับกับประชาชนด้วยกันเอง ๓. การใช้อำนาจของสภานิติบัญญัติอาจขัดกับผลประโยชน์ของประชาชน เนื่องจากสภานิติบัญญัติเป็นองค์กรที่ประกอบไปด้วย นักการเมือง แม้จะมาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองส่วนมากมักจะมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องและผลประโยชน์เข้ามา เกี่ยวข้องมักจะขัดกับผลประโยชน์ของประชาชนเป็นส่วนใหญ่ดังที่เราได้เห็นกันอยู่ทั่วไปว่านักการเมืองมักเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้องอยู่เสมอ หาก จะให้สภานิติบัญญัติมีอำนาจในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญก็ยอ่ มไม่พ้นที่จะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพือ่ ให้ตนองและพวกพ้องได้รบั ประโยชน์ โดยผลเสียก็จะ zee rice

๓๑ ตกอยู่กับประชาชนหรือประชาชนไม่ได้รับประโยชน์อันใดจากการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยสภานิติบัญญัติ ตัวอย่างเช่น รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ก็จะมีประเด็นที่สภานิติบัญญัติจะแก้ไขเพิ่มเติมในประเด็นการยุบพรรคการเมือง ตามมาตรา ๒๓๗ ซึ่งประเด็นดังกล่าวประโยชน์ที่จะได้รับ จากการแก้ไขก็คือพรรคการเมืองและนักการเมืองที่สามารถคงไว้ซึ่งพรรคการเมืองหากหัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีส่วนรู้ เห็น ทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมโดยไม่จำต้องยุบพรรคการเมือง ซ่ึ งประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญดังกล่าวประชาชนหาได้รับ ประโยชน์จากการแกไ้ ขแต่อยา่ งใดไม่ ๔. ในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หากจะให้บุคคลอื่นดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ข้อความหรือเจตนารมณ์อาจไม่ตรงกับความ ต้องการที่แท้จริงของประชาชน เนื่องจากเหตุผลในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญอาจไม่ได้มาจากพื้นฐานความต้องการที่แท้จริงของประชาชนส่วนใหญ่ แต่มาจาก ความต้องการของกลุ่มคนเพียงกลุ่มหนึ่งที่ต้องการแก้ไขเนื้อหาสาระให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของบุคคลกลุ่มน้ันโดยไม่คำนึงถึงความต้องการของประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาอำนาจในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นของฝ่ายนิติบัญญัติหรือฝ่ายบริหาร ดังนั้น เหตุผลในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรมนูญจึงไม่เป็นไปตาม เจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งหากให้โอกาสประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญก็จะตรงกับความต้องการหรือตรงกับเจตนารมณ์ของ ประชาชนมากกว่าที่จะให้บุคคลอื่นไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนิติบัญญัติหรือฝ่ายบริหารเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญใน ส่วนของการคุ้มครองสิทธิและเสรีภพของประชาชน เพราะหากประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพมากเพียงใด อำนาจของรัฐก็จะลดน้อยลงเพียงน้ัน ในทางกลับกัน หาก อำนาจของรัฐมีมากเพียงใด สิทธิและเสรีภาพของประชาชนก็ย่อมจะถูกลิดรอนมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น การให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ นอกจากจะเป็นการปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของประชาชนด้วยกันเองแล้ว การให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญยังจะตรงกับ เจตนารมณห์ รือความตอ้ งการของประชาชนมากกว่าอกี ท้งั ยงั เป็นการตรวจสอบถ่วงดลุ การใชอ้ ำนาจรฐั อกี ทางหนึง่ ดว้ ย ๒. การแก้ไขเพ่ิมเตมิ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ สำหรับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕๖ ได้เปิดโอกาสให้มีผู้มีสิทธิเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ได้แก่ คณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวนไม่น้อยกว่าหน่ึงในห้าของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ สมาชิกวุฒิสภา จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าทีม่ ีอยู่ของท้ังสองสภา หรือประชาชนผู้มีสิทธิเลอื กตั้งจำนวนไม่น้อยไปกว่าหา้ หมื่นคน ตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย บุคคลท้ังหมดมีสิทธิเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับดังกล่ าวนี้ มี เจตนารมณ์ท่ีดีเปิดโอกาสใหป้ ระชาชนมสี ่วนรว่ มในการแก้ไขเพมิ่ เติมรัฐธรรมนูญท้ังโดยผ่านผ้แู ทนของประชาชนในรัฐสภาหรือประชาชนโดยตรงแต่กระบวนการ และขั้นตอนวิธีการต่างๆ ที่กำหนดไว้ในมาตราดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ไขได้ยากไม่ว่าจะเป็นในวาระที่หนึ่งขั้นรับหลักการ zee rice

๓๒ ที่กำหนดให้ต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ของสมาชิกทั้งสองสภาซึ่งในจำนวนนี้ต้องมี สมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่ า หน่ึงในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ของวฒุ ิสภา ดังนั้น ถึงแม้สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรทั้งหมดหรือส่วนใหญ่เห็นชอบกับการ แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแต่ถ้าสมาชิกวุฒิสภา เห็นชอบด้วยไม่ถึงหนึ่งในสาม ร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมก็ตกไปในวาระแรก หรือในกรณี ตามมาตรา ๒๕๖ (๘) หากกรณกี ารแก้ไขเพ่ิมเติม รัฐธรรมนูญนั้น เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมในเรื่อง ต่อไปนี้ ๑) หมวด ๑ บททั่วไป ๒) หมวด ๒ พระมหากษัตริย์ ๓) หมวด ๑๕ การแกไ้ ขเพ่ิมเติม รัฐธรรมนูญ ๔) เรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติหรือ ลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ตามรัฐธรรมนูญ และ ๕) เรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่ หรืออำนาจของศาล หรือองค์กรอิสระ หรือ เรื่องที่ทำให้ศาลหรือองค์กรอิสระไม่อาจปฏิบัติ ตามหน้าที่หรืออำนาจได้ ต้องจัดให้มีการ ออกเสียงประชามติด้วย ซึ่งสอดคล้องกับ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ ๑๘ – ๒๒/๒๕๕๕ zee rice

๓๓ ความตอนหนึ่งว่า “อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของประชาชนอันเป็นที่มาโดยตรงในการให้กำเนิดรัฐธรรมนูญ โดยถือว่ามีอำนาจเหนือ รัฐธรรมนูญที่ก่อตั้งระบบกฎหมายและองค์กรทั้งหลายในการใช้อำนาจทางการเมืองการปกครอง เมื่อองค์กรที่ถูกจัดตั้งมีเพียงอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญให้ ไว้และอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้องค์กรนั้นใช้อำนาจที่ได้รับมอบมาจากรัฐธรรมนูญนั้นเองกลับไปแก้ไขรัฐธรรมนูญน้ั นเหมือนการใช้ อำนาจแก้ไขกฎหมายธรรมดา แม้การแก้ไขเพ่ิมเติมรฐั ธรรมนูญจะเป็นอำนาจของรฐั สภาก็ตาม แตก่ ารแก้ไขเพ่ิมเตมิ รัฐธรรมนูญโดยการยกร่างใหม่ท้ังฉบับ ยังไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของมาตรา ๒๙๑ ของรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทยฯ เนื่องจากรัฐธรรมนญู ฉบับปัจจุบนั ได้มาโดยการลงประชามติของ ประชาชนก็ควรจะใหป้ ระชาชนไดล้ งประชามติเสียกอ่ นว่าสมควรจะมรี ัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ หรอื รัฐสภาจะใชอ้ ำนาจในการแก้ไขเพ่ิมเติมรัฐธรรมนูญ เปน็ รายมาตรากเ็ ป็นความเหมาะสมและเป็นอำนาจของรฐั สภาทจี่ ะดำเนนิ การดงั กล่าวได้2 หลักการน้ีเป็นหลักการใหม่ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ๖๐ แตกต่างจากรัฐธรรมนูญ ๔๐ และรัฐธรรมนูญ ๕๐ และกรณีการแก้ไขตามมาตรา ๒๕๖ (๙) เมื่อร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมผ่านพ้นทั้งสามวาระแต่ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อลงพระปรมาภิไธย ปรากฏว่ามีสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรหรือสมาชิกวฒุ ิสภาหรือท้ังสองสภารวมกันเข้าช่ือจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกเทา่ ทีม่ ีอยู่ของแตล่ ะสภาหรือของทัง้ สองสภารวมกันเห็น ว่า ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขัดต่อมาตรา ๒๕๕ หรือเข้าลักษณะตามมาตรา ๒๕๖ (๘) สามารถส่งความเห็นของตนไปยังประธานสภาที่ตนเองเป็นสมาชิกหรื ประธานแห่งรัฐสภาแล้วแตก่ รณีเพ่อื ให้ส่งต่อไปยงั ศาลรัฐธรรมนูญเพอ่ื วินิจฉัย บทบญั ญตั ิดังกลา่ วใหอ้ ำนาจแก่ศาลรัฐธรรมนญู ไวอ้ ย่างกว้างขวางในการวินิจฉัยว่า เรื่องใดที่แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้และเรื่องใดไม่ได้เท่ากับให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้กำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะเสนอในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ แม้เร่ืองการขอแก้ไขเพ่ิมเติมรัฐธรรมนญู ไดผ้ ่านการออกเสยี งประชามติมาจากประชาชนแล้วก็ตาม กลา่ วโดยสรปุ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... ทั้งของพรรคพลังประชารัฐ (ร่วมรัฐบาล) กับพรรคเพื่อไทย (ร่วมฝา่ ยคา้ น) ตา่ งก็มหี ลกั การท่ีมีความมุง่ หมายไปในทำนองเดยี วกนั คือ การแก้ไขเพ่ิมเตมิ รฐั ธรรมนญู มาตรา ๒๕๖ ทง้ั ในเรอื่ งของหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญ รวมทงั้ การเพิม่ เติมหมวด ๑๕/๑ การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกำหนดให้มสี ภาร่างรฐั ธรรมนูญทำหน้าที่ในการจดั ทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จำนวน ๒๐๐ คน จะแตกต่างก็แต่เพยี งทมี่ าของสมาชกิ สภาร่างรัฐธรรมนญู และหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิม่ เตมิ รัฐธรรมนญู ในบางประเดน็ รวมทงั้ กระบวนการจัดทำ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งการจัดทำรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ทั้งฉบับ โดยการกำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่น้ัน 2 คำวินจิ ฉัยศาลรัฐธรรมนูญท่ี ๑๘ – ๒๒/๒๕๕๕ zee rice

๓๔ ในอดีตที่ผ่านมา นับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ได้ก่อให้เกิดพัฒนาการด้านการเมืองการปกครองของประเทศไทย โดยการกำหนดให้มี สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ซง่ึ มที ม่ี าทง้ั จากการแต่งต้งั และจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนเพือ่ ทำหนา้ ที่ในการรา่ งรัฐธรรมนญู ฉบับใหม่ขนึ้ ท้ังฉบบั และนบั จากอดีต จนถงึ ปจั จุบัน ประเทศไทยได้มีการจดั ตงั้ สภาร่างรฐั ธรรมนญู ข้นึ มาร่างรฐั ธรรมนูญแล้ว จำนวน 4 คร้ัง ดงั น้ี3 คร้ังแรก สภารา่ งรฐั ธรรมนูญ 2491 เปน็ สภาร่างรฐั ธรรมนญู ที่จัดทำรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย 2492 ครง้ั ทส่ี อง สภารา่ งรฐั ธรรมนูญ 2502 เปน็ สภาร่างรัฐธรรมนญู ที่จัดทำรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย 2511 ครง้ั ทส่ี าม สภารา่ งรัฐธรรมนูญ 2539 เป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญที่จัดทำรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย 2540 ครง้ั ทส่ี ่ี สภารา่ งรฐั ธรรมนญู 2549 เป็นสภาร่างรฐั ธรรมนูญที่จดั ทำรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย 2550 3 วีกิพเี ดยี สารานกุ รมเสรี “รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2492 zee rice