หวั ข้อประเมิน 5 180 ดา้ นผสู้ อน ระดบั ความพงึ พอใจ 5. เปิดโอกาสให้นักศกึ ษาได้แสดงความคิดเห็น ประชมุ /พูดคยุ 4321 6. ใหค้ าปรึกษาแนะนาท่เี ปน็ ประโยชนก์ บั นักศึกษา 7. จัดกจิ กรรมการเรยี นร้ทู ีห่ ลากหลายเพ่อื ส่งเสริมให้เกดิ การคิด วิเคราะห์ 8. การจัดบรรยากาศในห้องเรียนใหเ้ อ้ือตอ่ การเรียนรู้ 9. ให้เวลาแก่นักศึกษาในการเขา้ พบขอคาปรึกษาแนะนา ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอน 10. กจิ กรรมแนะนากลุ่มโดยใหส้ มาชกิ ในกลุ่มทุกคนได้มีการ เคลื่อนไหวรา่ งกายชว่ ยกระตุ้นใหน้ ักศึกษาเตรยี มพร้อมเพ่ือการเรียนรู้ 11. กรณศี ึกษาที่นามาใชเ้ ร้าหรือกระตุ้นนักศึกษาเกิดความสนใจและ อยากรู้ 12. กรณศี ึกษาทนี่ ามาใชใ้ นการวิเคราะหเ์ หมาะสมกบั เน้ือหา ในแตล่ ะระบบ 13. กิจกรรมทีเ่ นน้ ทักษะกระบวนการคิดแตล่ ะขนั้ ตอนช่วยส่งเสริมให้ นักศึกษาเกิดทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ 14. การตง้ั คาถามและหาคาตอบดว้ ยตนเองเป็นวธิ ีการที่ทาให้นกั ศกึ ษา ได้คดิ วิเคราะห์อย่างมเี หตผุ ล 15. การถ่ายทอดความรใู้ หเ้ พ่ือนในกลุ่มเขา้ ใจในเรอ่ื งที่แตล่ ะคน ไปคน้ คว้ามา ทาให้มกี ารแลกเปลีย่ นความรู้ 16. การเรยี นรู้ดว้ ยกนั เป็นกลมุ่ ทาให้นกั ศึกษาไดร้ บั ความรู้และเขา้ ใจ เรอ่ื งทีเ่ รียนไดง้ ่ายขน้ึ 17. การเชอ่ื มโยงกรณศี ึกษาเข้ากับเนอ้ื หาวิชาพยาธสิ รีรวทิ ยาในแตล่ ะ ระบบด้วยผังความคิดรวบยอดชว่ ยส่งเสริมนักศึกษาเกิดการคดิ วเิ คราะห์ หัวข้อประเมนิ 5 ระดับความพึงพอใจ 1 432 18. นักศกึ ษารสู้ ึกสนกุ และมีความสุขเม่ือเรยี นด้วยกิจกรรมทเ่ี นน้ ทกั ษะการคดิ วเิ คราะหแ์ ละกระบวนการกลุ่ม
181 ด้านผเู้ รียน 19. นักศึกษามีความเข้าใจวธิ ีการคิดวิเคราะห์มากข้นึ 20. นักศกึ ษามีความรู้ในเน้ือหาวชิ าพยาธิสรีรวิทยาแตล่ ะระบบไดด้ ขี ้ึน จากการเรยี นรู้ดว้ ยกระบวนการคิดวเิ คราะห์ 21. นักศึกษามีความเข้าใจกระบวนการคดิ วเิ คราะห์ 22. นกั ศกึ ษามีความสขุ สนกุ กับการหาคาตอบดว้ ยตนเอง 23. นักศึกษารูส้ ึกภมู ิใจที่สามารถสรปุ และถ่ายทอดการคิดวเิ คราะห์ให้ เพื่อนเขา้ ใจได้ 24. ความรู้และทักษะทน่ี ักศึกษาได้รับจากการจดั การเรียนการสอน ด้านการสนับสนนุ แหล่งเรยี นรู้ 25. มหี นังสือในห้องสมดุ เพียงพอสาหรบั การสืบคน้ ข้อมูล 26. ส่ือ/เอกสารและอปุ กรณ์การเรียนการสอนมีความชดั เจนและเข้าใจ ง่าย 27. ความทันสมัยของหนังสือ/ส่ือสิ่งพิมพ์ทใี่ หบ้ ริการของหอ้ งสมดุ 28. ความเหมาะสมของวัสดทุ ี่สนับสนนุ การเรียนการสอน 29. ความเหมาะสมของห้องเรยี นที่ใชแ้ บง่ กลุ่มสาหรบั ทากจิ กรรม 30. ความสะดวกในการใชง้ านอินเทอร์เน็ตภายในวิทยาลยั ตอนที่ 3 คาถามปลายเปดิ สามารถแสดงความคิดเหน็ ได้อสิ ระตามความคดิ เหน็ ของนักศึกษา 1. ทา่ นต้องการให้อาจารยป์ รบั ปรงุ การสอนในเร่ืองใด 1)…………………………………………………………………………………………………………………............................. 2)…………………………………………………………………………………………………………………............................. 3)………………………………………………………………………………………………………………….............................
182 แบบสนทนากลุม่ ภายหลงั การใช้รปู แบบการเรยี นการสอนท่เี นน้ ทักษะกระบวนการเพอ่ื พัฒนาความสามารถดา้ นการคิดวเิ คราะห์ วนั ที่...............เดอื น......................พ.ศ.................. 1. ท่านมคี วามรู้สึกอยา่ งไรบ้างต่อกจิ กรรมการพัฒนาการคิดวิเคราะห์ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. ................................ 2. สภาพการจดั กจิ กรรมเมื่อเปรียบเทยี บกบั ก่อนการพัฒนาการคิดวิเคราะห์เป็นอย่างไร ............................................................................................................................. ................................ .................................................................................................. ........................................................... ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................. 3. ทา่ นพึงพอใจเกยี่ วกับความสามารถในการคดิ วเิ คราะหห์ ลังจากการจัดกิจกรรมหรือไม่ อยา่ งไร ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. ................................ ........................................................................................ ..................................................................... 4. ทา่ นคิดว่ากิจกรรมท่ีจดั ขนึ้ ช่วยพฒั นาการคิดวเิ คราะหไ์ ด้หรอื ไม่ อยา่ งไร ................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ 5. ท่านคิดวา่ มีแนวทางในการพัฒนาการคดิ วเิ คราะห์อ่นื ๆ อีกหรือไม่ อยา่ งไร ............................................................................................................................. ................................ ................................................................................................................................................ ............. ..................................................................................................................... ........................................ ............................................................................................................................. ................................
ภาคผนวก จ การตรวจสอบคณุ ภาพของเครอ่ื งมอื ที่ใช้ในการวจิ ยั
184 ตารางแสดง ผลการวิเคราะห์คา่ ดัชนคี วามสอดคลอ้ งขององคป์ ระกอบในรูปแบบการเรยี น ผ้เู ชีย่ วชาญ องคป์ ระกอบของรูปแบบ คนที่ คนท่ี คนที่ ̅X S.D. ความหมาย 123 1. หลักการของรปู แบบการจัดการ 4.11 0.00 เหมาะสมระดบั มาก 1.1 มีความเป็นไปได้ 4 3 4 3.67 0.58 เหมาะสมระดบั มาก 1.2 การนาไปใช้จริง 4 4 5 4.33 0.58 เหมาะสมระดบั มาก 1.3 แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน 5 4 4 4.33 0.58 เหมาะสมระดับมาก 2. วตั ถุประสงคข์ องรปู แบบการจดั การเรยี น 4.44 0.00 เหมาะสมระดบั มาก การสอน 2.1 มคี วามชัดเจน 4 5 4 4.33 0.58 เหมาะสมระดับมาก 2.2 มีความเป็นไปได้ 5 4 5 4.67 0.58 เหมาะสมระดบั มากที่สดุ 2.3 เหมาะสมกบั ผเู้ รียน 4 4 5 4.33 0.58 เหมาะสมระดับมาก 3. กระบวนการจดั การเรียนการสอน 4.42 0.29 เหมาะสมระดบั มาก 3.1 มคี วามชดั เจน 4 4 4 4.00 0.00 เหมาะสมระดบั มาก 3.2 เรียงตามลาดบั ข้นั ตอน 5 5 4 4.67 0.58 เหมาะสมระดบั มากที่สดุ 3.3 มคี วามเปน็ ไปได้ 4 4 5 4.33 0.58 เหมาะสมระดับมาก 3.4 เหมาะสมกบั ผเู้ รียน 4 5 5 4.67 0.58 เหมาะสมระดับมากที่สุด 4. การวดั และประเมินผลรปู แบบ 4.1 ตรวจสอบวตั ถุประสงค์ของรูปแบบได้ 5 4 5 4.67 0.58 เหมาะสมระดบั มากที่สุด 4.2 ครอบคลมุ สง่ิ ท่ีต้องการประเมนิ 4 4 5 4.33 0.58 เหมาะสมระดบั มาก 4.3 มคี วามเป็นไปได้ 5 4 5 4.67 0.58 เหมาะสมระดับมากทส่ี ุด
185 ตารางแสดง ผลการวิเคราะห์ความเหมาะสมของแผนสอน รายการประเมนิ ผู้เช่ียวชาญ X̅ S.D. ความหมาย คนที่ 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 3.67 0.58 เหมาะสมระดบั มาก 4.33 0.58 เหมาะสมระดบั มาก 1. แนวคิดสอดคล้องกับจุดประสงค์ 4 4 3 4.00 0.00 เหมาะสมระดบั มาก เชงิ พฤติกรรมและเนอื้ หา 4.00 1.00 เหมาะสมระดบั มาก 2. วตั ถุประสงค์ครอบคลมุ พฤตกิ รรม 4 5 4 4.33 0.58 เหมาะสมระดับมาก 3.33 0.58 เหมาะสมระดับมาก การเรยี นรู้ด้านพุทธพิสยั ทกั ษะพิสัย 4.33 0.58 เหมาะสมระดับมาก และจิตพิสยั 4.00 0.00 เหมาะสมระดับมาก 4.00 1.00 เหมาะสมระดบั มาก 3. กจิ กรรมการเรียนรสู้ อดคล้องกบั 4 4 4 4.33 0.58 เหมาะสมระดบั มาก 4.03 0.34 เหมาะสมระดับมาก จุดประสงค์และเนอื้ หาสาระ 4. กิจกรรมการเรียนร้สู ่งเสรมิ 34 5 กระบวนการคดิ วิเคราะหข์ อง นักศึกษา 5. กาหนดเนื้อหาเหมาะสมกับเวลา 4 4 5 6. ส่อื การเรียนร้มู ีความเหมาะสม 33 4 สอดคล้องกบั กจิ กรรมการเรียนการ สอน 7. สื่อการเรยี นรเู้ หมาะสมกับ 45 4 ความสามารถของผเู้ รียน 8. มีการวัดและประเมนิ ผลที่ 44 4 สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 9. การใชภ้ าษาไดใ้ จความ ไม่สับสน 4 3 5 10. มเี กณฑ์การวดั และประเมินผลที่ 5 4 4 ชัดเจน เขา้ ใจงา่ ย รวม
186 ตารางแสดง ผลการวเิ คราะห์ดชั นีความสอดคล้อง (IOC) ของแบบทดสอบ ตามแนวคดิ ของ Marzano ขอ้ คะแนนความคิดเหน็ ของผเู้ ช่ยี วชาญ IOC ความหมาย คนที่ 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 1 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 2 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 3 +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 4 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 5 +1 0 +1 0.67 สอดคล้อง 6 +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 7 +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 8 +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 9 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 10 +1 +1 0 0.67 สอดคล้อง 11 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 12 +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 13 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 14 +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 15 +1 +1 0 0.67 สอดคลอ้ ง 16 +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 17 +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 18 +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 19 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 20 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 21 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 22 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 23 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 24 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง
187 ตารางแสดง ผลการวิเคราะห์ดชั นคี วามสอดคล้อง (IOC) ของแบบทดสอบ ตามแนวคดิ ของMarzano (ตอ่ ) ขอ้ คะแนนความคดิ เหน็ ของผเู้ ชย่ี วชาญ IOC ความหมาย คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนท่ี 3 25 +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 26 +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 27 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 28 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 29 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 30 +1 +1 0 0.67 สอดคล้อง 31 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 32 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 33 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 34 +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 35 +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 36 +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 37 +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 38 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 39 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 40 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 41 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 42 +1 +1 +1 1 สอดคล้อง
188 ตารางแสดง ผลการวิเคราะห์คา่ ความยากง่าย (p) ค่าอานาจจาแนกรายข้อ (r) และคา่ ความ เชื่อมนั่ ท้งั ฉบบั ของแบบทดสอบวัดความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ วชิ าพยาธสิ รีรวิทยา สาหรับ นักศกึ ษาพยาบาลศาสตร ชัน้ ปีที่ 2 ปีการศึกษา ขอ้ ที่ ค่าความยากงา่ ย ค่าอานาจจาแนก ข้อท่ี ค่าความยากงา่ ย ค่าอานาจจาแนก (p) รายขอ้ (r) (p) รายข้อ (r) 1 0.70 0.80 22 0.63 0.54 2 0.66 0.62 23 0.48 0.34 3 0.63 0.56 24 0.50 0.30 4 0.65 0.62 25 0.52 0.55 5 0.50 0.25 26 0.69 0.50 6 0.72 0.45 27 0.62 0.42 7 0.78 0.52 28 0.67 0.52 8 0.58 0.35 29 0.58 0.40 9 0.60 0.43 30 0.58 0.33 10 0.28 0.42 31 0.62 0.28 11 0.66 0.23 32 0.58 0.36 12 0.68 0.44 33 0.53 0.28 13 0.54 0.30 34 0.38 0.42 14 0.62 0.40 35 0.50 0.50 15 0.53 0.45 36 0.43 0.28 16 0.78 0.24 37 0.40 0.44 17 0.63 0.34 38 0.31 0.20 18 0.58 0.30 39 0.41 0.55 19 0.55 0.43 40 0.40 0.51 20 0.53 0.44 41 0.37 0.62 21 0.67 0.35 42 0.23 0.43
189 ตารางแสดง ผลการวิเคราะห์ค่าดัชนีความสอดคลอ้ งของแบบสังเกตพฤติกรรมการคิดวิเคราะห์และการ ทากลุ่ม รายการประเมิน คะแนนความคดิ เหน็ ของผู้เช่ยี วชาญ IOC ความหมาย คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 0.67 สอดคล้อง 1. การจาแนกแยกแยะรายละเอยี ดของ +1 +1 0 1 สอดคล้อง สว่ นประกอบต่างๆ ของสถานการณท์ ี่ 0.67 สอดคล้อง วิเคราะห์ตามเกณฑ์ที่กาหนด 1 สอดคลอ้ ง 2. การจดั หมวดหม่ขู ้อมลู ตามเกณฑ์ท่ี +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง กาหนด 1 สอดคลอ้ ง 0.67 สอดคล้อง 3. มีการตงั้ คาถามอยา่ งสรา้ งสรรค์ +1 0 +1 1 สอดคล้อง สอดคลอ้ งกบั เน้ือหา 1 สอดคล้อง 1 สอดคลอ้ ง 4. มกี ารตอบคาถามได้ถกู ต้อง มีเหตุผล +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 1 สอดคล้อง มาสนบั สนนุ ชัดเจนสอดคล้องกบั กรณี ตวั อยา่ งที่กาหนด 5. เชอื่ มโยงให้เห็นถึงสาเหตหุ รือผลที่เกิดจาก +1 +1 +1 สถานการณต์ ่างในกรณตี วั อย่าง 6. การสรปุ ความ +1 +1 +1 7. การประยุกต์ +1 0 +1 8. การถา่ ยทอดความคดิ ทผ่ี า่ นการ +1 +1 +1 วเิ คราะหเ์ ชอ่ื มโยง 9. ความกระตือรือรน้ ในการทากจิ กรรม +1 +1 +1 10. การมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็ +1 +1 +1 11. การยอมรับความคิดเห็นของผู้อนื่ +1 +1 +1 12. ความรบั ผิดชอบในหน้าที่ +1 +1 +1
190 ตารางแสดง ผลการวเิ คราะห์ค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบสอบถามความพึงพอใจของนกั ศึกษาต่อการ เรียนการสอนโดยใชร้ ูปแบบการเรียนการสอนทเี่ นน้ ทักษะกระบวนการ รายการประเมิน คะแนนความคิดเห็นของผู้เช่ียวชาญ IOC ความหมาย คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 1 สอดคลอ้ ง 1. ความชดั เจนของการแนะนาจุดประสงค์ การเรียนรู้ กิจกรรมการจดั การเรยี นการสอน +1 +1 +1 1 สอดคล้อง และเกณฑ์การประเมินผล 1 สอดคล้อง 2. อธิบายใหน้ ักศึกษาเขา้ ใจวิธีการคิด +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง วเิ คราะหแ์ ละกระบวนการกลุ่ม +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง 3. ส่งเสรมิ ใหน้ ักศกึ ษาไดศ้ ึกษา/เรยี นร้จู าก +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง กรณีศึกษา +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 4. สง่ เสรมิ ใหน้ กั ศกึ ษาฝกึ การคดิ วเิ คราะห์ การใช้ +1 +1 +1 1 สอดคล้อง ความคดิ เพือ่ หาเหตผุ ล +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 5. เปดิ โอกาสใหน้ ักศกึ ษาได้แสดงความ +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง คดิ เห็น ประชมุ /พดู คยุ +1 +1 +1 6. ใหค้ าปรึกษาแนะนาท่เี ปน็ ประโยชนก์ ับ +1 +1 +1 นกั ศกึ ษา 7. จดั กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีหลากหลายเพ่ือ สง่ เสริมให้เกดิ การคดิ วิเคราะห์ 8. การจดั บรรยากาศในหอ้ งเรียนให้เอ้อื ต่อ การเรยี นรู้ 9. ให้เวลาแก่นกั ศึกษาในการเข้าพบขอ คาปรกึ ษาแนะนา 10. กิจกรรมแนะนากลุ่มโดยให้สมาชกิ ใน กลุม่ ทุกคนได้มกี ารเคล่ือนไหวร่างกายชว่ ย กระตุน้ ให้นักศึกษาเตรยี มพร้อมเพื่อการ เรียนรู้
191 ตารางแสดง ผลการวิเคราะห์คา่ ดัชนคี วามสอดคลอ้ งของแบบสอบถามความพงึ พอใจของนักศึกษาต่อการ เรยี นการสอนโดยใชร้ ูปแบบการเรียนการสอนท่ีเน้นทกั ษะกระบวนการ (ตอ่ ) รายการประเมิน คะแนนความคดิ เหน็ ของผ้เู ช่ยี วชาญ IOC ความหมาย คนท่ี 1 คนที่ 2 คนท่ี 3 1 สอดคล้อง 1 สอดคลอ้ ง 11. กรณีศึกษาทนี่ ามาใช้เรา้ หรือกระตุ้นนักศึกษา +1 +1 +1 1 สอดคล้อง เกิดความสนใจและอยากรู้ 1 สอดคล้อง 12. กรณศี ึกษาท่ีนามาใช้ในการวิเคราะห์ +1 +1 +1 1 สอดคลอ้ ง เหมาะสมกบั เนอ้ื หาในแต่ละระบบ 1 สอดคลอ้ ง 1 สอดคลอ้ ง 13. กจิ กรรมท่ีเน้นทักษะกระบวนการคิดแตล่ ะ +1 +1 +1 1 สอดคล้อง ขัน้ ตอนชว่ ยสง่ เสรมิ ให้นักศึกษาเกิดทกั ษะการ 1 สอดคล้อง คิดวิเคราะห์ 1 สอดคล้อง 14. การต้ังคาถามและหาคาตอบดว้ ยตนเองเปน็ +1 +1 +1 วธิ กี ารทที่ าให้นกั ศึกษาได้คดิ วิเคราะหอ์ ยา่ งมี เหตผุ ล 15. การถ่ายทอดความรใู้ หเ้ พื่อนในกลุม่ เข้าใจใน +1 +1 +1 เรือ่ งทแ่ี ต่ละคนไปค้นคว้ามา ทาใหม้ ีการ แลกเปลยี่ นความรู้ 16. การเรียนร้ดู ้วยกันเป็นกลุ่มทาให้นักศึกษา +1 +1 +1 ไดร้ ับความรู้และเข้าใจเรื่องที่เรียนได้ง่ายข้นึ 17. การเชอื่ มโยงกรณศี ึกษาเขา้ กบั เนือ้ หาวิชาพยาธิ +1 +1 +1 สรีรวทิ ยาในแตล่ ะระบบดว้ ยผงั ความคิดรวบยอดชว่ ย ส่งเสรมิ นักศกึ ษาเกิดการคิดวเิ คราะห์ 18. นกั ศกึ ษารู้สกึ สนุกและมีความสขุ เม่ือเรียน +1 +1 +1 ดว้ ยกิจกรรมทเี่ นน้ ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์และ กระบวนการกลมุ่ 19. นักศึกษามีความเข้าใจวิธีการคิดวเิ คราะห์มากขึ้น +1 +1 +1 20. นกั ศึกษามีความรใู้ นเนื้อหาวชิ าพยาธิ สรรี วทิ ยา +1 +1 +1 แต่ละระบบไดด้ ีขนึ้ จากการเรียนรดู้ ้วยกระบวนการ คิดวิเคราะห์
192 ตารางแสดง ผลการวเิ คราะห์ค่าดชั นีความสอดคลอ้ งของแบบสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการ เรยี นการสอนโดยใช้รปู แบบการเรียนการสอนที่เนน้ ทักษะกระบวนการ (ตอ่ ) รายการประเมนิ คะแนนความคดิ เห็นของผูเ้ ช่ียวชาญ IOC ความหมาย คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 1 สอดคลอ้ ง 1 สอดคล้อง 21. นกั ศกึ ษามีความเขา้ ใจกระบวนการคดิ +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 1 สอดคล้อง วเิ คราะห์ 1 สอดคลอ้ ง 1 สอดคล้อง 22. นักศกึ ษามีความสุข สนุกกับการหาคาตอบ +1 +1 +1 1 สอดคล้อง 1 สอดคลอ้ ง ด้วยตนเอง 1 สอดคล้อง 1 สอดคลอ้ ง 23. นกั ศึกษารสู้ กึ ภมู ใิ จท่สี ามารถสรุปและ +1 +1 +1 ถ่ายทอดการคดิ วเิ คราะหใ์ ห้เพ่อื นเขา้ ใจได้ 24. ความรแู้ ละทักษะท่ีนักศึกษาได้รับจากการ +1 +1 +1 จัดการเรยี นการสอน 25. มีหนังสอื ในห้องสมดุ เพยี งพอสาหรบั การ +1 +1 +1 สบื คน้ ข้อมูล 26. ส่ือ/เอกสารและอุปกรณ์การเรียนการสอนมี +1 +1 +1 ความชัดเจนและเข้าใจง่าย 27. ความทันสมัยของหนงั สือ/ส่ือสง่ิ พมิ พ์ท่ี +1 +1 +1 ให้บริการของหอ้ งสมุด 28. ความเหมาะสมของวสั ดุท่ีสนับสนุนการเรยี น +1 +1 +1 การสอน 29. ความเหมาะสมของหอ้ งเรียนท่ใี ชแ้ บง่ กล่มุ +1 +1 +1 สาหรบั ทากจิ กรรม 30. ความสะดวกในการใชง้ านอนิ เทอร์เน็ต +1 +1 +1 ภายในวทิ ยาลยั
193 ประวตั ยิ ่อของผูว้ ิจยั ช่อื -สกุล นางลดั ดา เหลืองรตั นมาศ วัน เดอื น ปี เกิด 1 กมุ ภาพนั ธ์ 2509 สถานทเ่ี กดิ จังหวัดชลบรุ ี สถานที่อยปู่ จั จุบนั 96/1 หม่บู ้านสามมุขธานี ถนนบางแสน-อา่ งศิลา ตาบลแสนสขุ อาเภอเมือง จังหวัดชฃลรุ ี 20130 ประวตั กิ ารศึกษา พ.ศ. 2531 ประกาศนียบัตรพยาบาลศาสตรแ์ ละผดุงครรภ์ ชนั้ สูง (เกยี รตินิยมอันดบั 2) วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี พ.ศ. 2541 วทิ ยาศาสตรมหาบณั ฑติ (สรีรวทิ ยา) มหาวิทยาลยั มหดิ ล พ.ศ. 2556 ปรชั ญาดุษฎีบัณฑติ (การวจิ ยั และสถิติทางวิทยาการปัญญา) มหาวทิ ยาลัยบรู พา ผลงานทางวิชาการ ลัดดา เหลืองรัตนมาศ และ เสรี ชัดแชม้ . (2553). ความสมั พันธ์ระหว่างเชาวนป์ ัญญาเชงิ เล่อื นไหล และ ความจาขณะคิด.วารสารวทิ ยาการวจิ ัยและวิทยาการปัญญา. 7 (2), 1-18. ลดั ดา เหลอื งรตั นมาศ. (2557). ปจั จยั ท่ีมีอิทธพิ ลตอ่ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น ของนักศึกษาพยาบาล หลกั สตู ร พยาบาลศาสตรบัณฑิต วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี. ในเอกสารการประชมุ วชิ าการระดับชาติ ประจาปี 2558: Diversity in Health and Well- being. ลัดดา เหลอื งรตั นมาศ, สมพร รกั ความสขุ , สรวงทพิ ย์ ภู่กฤษณา, สุนทรี รักความสุข, ณฎั ฐา วรรธนะวิโรจน.์ (2558). ปัจจัยตามแบบแผนการดแู ลอยา่ งต่อเนือ่ งในการควบคุมระดบั นา้ ตาลในเลือดของกลมุ่ เสย่ี ง ลดั ดา เหลืองรัตนมาศ, วรพนิต ศุกระแพทย์. (2559). พัฒนารปู แบบการจดั การเรียนการสอนที่เนน้ กระบวนการเพื่อส่งเสรมิ ความสามารถดา้ นการคดิ วเิ คราะหข์ องนักศกึ ษาพยาบาล วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบรุ ี. วารสารวิจัยทางวทิ ยาศาสตร์สขุ ภาพ. 10. (2). ลดั ดา เหลอื งรัตนมาศ, เสรี ชัดแชม้ . (2559). ผลของการออกกาลังกายบนล่วู ิ่งไฟฟ้าท่ีมีตอ่ เชาว์ปญั ญาเชิงเลื่อนไหลในผู้ใหญ่ตอนตน้ : การศึกษาคลืน่ ไฟฟ้าสมองทีส่ ัมพนั ธ์กบั เหตกุ ารณ์. วารสารคณะพลศึกษา. 19 (2), 96-111
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214