“เด็ก” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 หมายความว่า บุคคลซ่ึงมีอายุต่ากว่าสิบแปดปีบริบูุรณ์ แต่ไม่รวมถึงผู้ท่ี บรรลุนิภาวะด้วยการสมรส พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มี เนื้อหาสาระในการดูแลเด็กทุกคน โดยก่าหนดให้ผู้ปกครองมีหน้าท่ีในการ อุปการะเล้ียงดู อบรมสงั่ สอน และพฒั นาเดก็ ดังน้ี “ผู้ปกครองตอ้ งใหก้ ารอปุ การะเลีย้ งดู อบรมสงั่ สอนและพฒั นาเดก็ ท่ีอยู่ในความปกครองดูแลของตน ตามสมควรแกข่ นบธรรมเนียมประเพณี และ วัฒนธรรมแห่งท้องถ่ิน แต่ท้ังนี้ต้องไม่ต่ากว่ามาตรฐานขน้ั ต่าตามท่ี ก่าหนดในกฎกระทรวง และต้องคุ้มครองสวัสดภิ าพเด็กที่อยใู่ นความปกครองดแู ลของตนมิให้ตกอยู่ในภาวะอนั น่าจะเกดิ อนั ตรายแกร่ า่ งกายหรือจติ ใจ” ผู้ปกครอง หมายถึง บิดามารดา แต่พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 4 ก่าหนด ความหมายของคา่ ว่า “ผปู้ กครอง” ไว้อย่างกว้างครอบคลุมผ้เู กี่ยวขอ้ งทุกคนทีท่ ่าหน้าทอี่ ุปการะเล้ยี งดูเด็ก ความหมายของเดก็ ที่เสี่ยงต่อการกระท่าความผดิ เด็กท่ีเส่ียงต่อการกระท่าผิด เป็นเด็กท่ีอยู่ในสภาพจ่าต้องได้รับการ คุม้ ครองสวัสดภิ าพ แตใ่ นทางปฏิบัติเดก็ กลุ่มน้ียงั ไม่ได้รับการคุ้มครองสวัสดิ ภาพ เหตุผลเพราะผู้ปฏิบัติงานบางส่วนยังไม่เข้าใจความหมาย หรือขาด ความรู้และทักษะในการท่างานกับเด็กกลุ่มนี้ จึงจ่าเป็นต้องท่าความเข้าใจให้ ชัดเจนว่า เดก็ ท่เี สี่ยงตอ่ การกระท่าความผดิ เปน็ เดก็ กลุ่มไหน “เดก็ ท่ีเสย่ี งตอ่ การกระทา่ ผิด” หมายความวา่ เดก็ ที่ประพฤตติ นไม่สมควร เด็กทป่ี ระกอบอาชีพหรือ คบหาสมาคมกับบุคคลที่น่าจะชักน่าไปในทางกระท่าผิดกฎหมายหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีหรืออยู่ใน สภาพแวดล้อมหรือสถานทีอ่ ันอาจชักนา่ ไปในทางเสียหาย ทั้งน้ี ตามท่กี ่าหนดในกฎกระทรวง
กฎกระทรวง ก่าหนดเดก็ ท่เี สีย่ งตอ่ การกระทา่ ผดิ พ.ศ. 2549 ขอ้ 1 เดก็ ทป่ี ระพฤตติ นไม่สมควร ไดแ้ ก่ เดก็ ทมี่ พี ฤตกิ รรมอย่างหนงึ่ อยา่ งใด ดงั ตอ่ ไปนี้ (1) ประพฤติตนเกเรหรอื ข่มเหงรังแกผู้อ่นื (2) มัว่ สมุ ในลักษณะท่กี ่อความเดอื ดรอ้ นร่าคาญแกผ่ อู้ ่ืน (3) เล่นการพนันหรือม่ัวสุมในวงการพนนั (4) เสพสุรา สูบบหุ รี่ เสพยาเสพตดิ ใหโ้ ทษหรือของมึนเมาอยา่ งอื่น เข้าไปใน สถานท่ีเฉพาะเพอ่ื การจ่าหน่ายหรือดื่มเครื่องดืม่ ท่ีมีแอลกอฮอล์ (5) เข้าไปในสถานบรกิ ารตามกฎหมายว่าด้วยสถานบรกิ าร ขอ้ 2 เดก็ ทปี่ ระกอบอาชพี ทนี่ า่ จะชกั นา่ ไปในทางกระทา่ ผดิ กฎหมายหรอื ขดั ตอ่ ศลี ธรรมอนั ดี ได้แก่ เด็กท่ีประกอบอาชพี ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) ขอทานหรอื กระท่าการส่อไปในทางขอทานโดยลา่ พังหรือโดยมีผบู้ งั คับ ชักนา่ ยุยงหรือส่งเสรมิ หรือ (2) ประกอบอาชีพหรอื กระท่าการใดอนั เป็นการแสวงหาประโยชน์โดย มิชอบดว้ ยกฎหมายหรือขัดต่อศลี ธรรม อนั ดี ขอ้ 3 เดก็ ทค่ี บหาสมาคมกบั บคุ คลท่ีนา่ จะชกั นา่ ไปในทางกระท่าผดิ กฎหมายหรอื ขดั ตอ่ ศลี ธรรมอนั ดี ได้แก่ เด็กท่คี บหาสมาคมกบั บุคคล ดังตอ่ ไปน้ี (1) บคุ คลหรือกล่มุ คนท่รี วมตวั กนั มัว่ สมุ เพอื่ ก่อความเดือดร้อนร่าคาญแก่ผู้อ่นื หรือกระท่าการอนั ขดั ต่อ กฎหมายหรือศลี ธรรมอันดี หรอื (2) บคุ คลท่ีประกอบอาชพี ที่ขัดต่อกฎหมายหรือศลี ธรรมอันดี ขอ้ 4 เดก็ ทอี่ ยใู่ นสภาพแวดลอ้ มหรอื สถานทอี่ นั อาจชกั นา่ ไปในทางเสยี หาย ได้แก่ เดก็ ที่อยู่ในสภาพแวดลอ้ ม หรอื สถานที่ ดงั ต่อไปน้ี (1) อาศยั อยูก่ บั บุคคลที่มพี ฤตกิ รรมเก่ยี วข้องกบั ยาเสพติดใหโ้ ทษ หรอื ให้บรกิ ารทางเพศ (2) เร่ร่อนไปตามสถานทต่ี ่าง ๆ โดยไม่มีทพ่ี ักอาศยั เปน็ หลัก แหลง่ ที่แนน่ อน (3) ถูกทอดทิ้งหรือถกู ปลอ่ ยปละละเลยให้อยูใ่ นสภาพแวดล้อมอนั อาจชกั น่าไปในทางเสียหาย
สทิ ธิเดก็ “เด็กทกุ คนมสี ิทธิเท่าเทยี มกนั และไดร้ ับการปฏบิ ัติที่เหมือนกนั โดยไมค่ ่านงึ ถงึ ความแตกตา่ งทางเพศ สีผวิ เช้ือชาติ ภาษา ฐานะทางเศรษฐกจิ สงั คม ศาสนา และความพกิ าร หรอื ทุพพลภาพ ทงั้ ทางร่างกายและ การเรียนรู้(สตปิ ัญญา)” ทมี่ าของ “สทิ ธเิ ด็ก” สทิ ธิเด็ก คืออะไร สิทธิเด็ก เป็นสิทธิสากล และเป็นสิทธิเด็ดขาด ท่ีต้องได้การรับรองและ คุ้มครอง ด้วยจุดมุ่งหมายมิใช่เพื่อเรียกร้องสิทธิเด็ก แต่เพ่ือการพัฒนาเด็ก ท้งั รา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม สติปญั ญา ให้เจรญิ เติบโตรอบด้านให้เต็ม ศกั ยภาพ และไมเ่ ลือกปฏิบตั ิ ด้วยการผนกึ กา่ ลังรว่ มกันในทุกสถาบนั ทั่วโลก อนสุ ญั ญาว่าด้วยสทิ ธิเด็กมงุ่ คุม้ ครองสทิ ธิ 4 ดังนี้ 1.สทิ ธใิ นการอย่รู อด เป็นสิทธิขั้นพ้ืนฐานที่จะมีชีวิตรอดอยู่เพ่ือเติบโตเป็นผู้ใหญ่ท่ีมีคุณค่าต่อไปโดยได้รับอาหารที่มีคุณค่า และเพียงพอ มีบ้านอยอู่ าศยั และได้รบั บริการสาธารณสขุ รวมถงึ สิทธใิ นการมชี อ่ื และสญั ชาติ 2.สิทธิในการไดร้ บั การปกป้องคุม้ ครอง สทิ ธใิ นการได้รับการปกปอ้ งคุม้ ครองจากการถกู เอาเปรยี บทางเพศ, การใชแ้ รงงานทอี่ าจจะเป็นอันตราย ต่อสุขภาพ หรอื พัฒนาการของรา่ งกาย สมองและจิตใจของเดก็ , การแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ, สทิ ธทิ ่ีจะ ได้รับความยุติธรรมจากรัฐในกรณถี ูกกล่าวหาและการพิจารณาคดี และการปกป้องคุ้มครองเด็กท่ีมีชวี ิตอยู่ในภาะ ยากล่าบาก เชน่ เด็กพกิ าร เดก็ ผู้ล้ภี ัย เดก็ กา่ พรา้ เป็นต้น 3.สิทธิในการพฒั นา สิทธิที่จะได้เล่นและพักผ่อน, สิทธิท่ีจะเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางวัฒนธรรม, สิทธิที่จะได้รับสิทธิ ในการศกึ ษาทกุ ประเภท, สทิ ธทิ จี่ ะคดิ พฒั นาสตปิ ญั ญาและนับถือศาสนา 4.สิทธใิ นการมีสว่ นรว่ ม สิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นและกล่าวถึงชีวิตของตนเอง รวมท้ังโอกาสท่ีจะเข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆของ สงั คม และมีสว่ นรว่ มตัดสนิ ใจในครอบครัว โรงเรียนและชุมชน เด็กคือบุคคลท่อี ายตุ า่ กว่า 18 ปี เด็กทุกคนจะได้รับสิทธิตามอนุสัญญาโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติใดๆ ด้านสัญชาติ เชื้อชาติ ภาษา ศาสนา เพศ วัฒธรรม ความพกิ าร และฐานทางเศรษฐกิจ การใชส้ ทิ ธิเด็กจะตอ้ งค่านงึ ถงึ ประโยชนส์ ูงสุดของเด็กเปน็ สา่ คญั
สรุป “ เด็ก” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 หมายความว่า บุคคลซ่ึงมีอายุต่ากว่าสิบ แปดปบี ริบรู ณ์ แตไ่ ม่รวมถงึ ผทู้ ี่บรรลนุ ติ ภิ าวะดว้ ยการสมรส กฎหมายฉบบั นี้ กา่ หนดหลกั การปฏบิ ตั ติ อ่ เดก็ ไม่ว่ากรณีใดให้ค่านึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นส่าคัญและไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติโด ยไม่เป็นธรรมและ ก่าหนดบทบาทหน้าที่ผู้ปกครองต้องให้การอุปการะเล้ียงดูอบรมส่ังสอนและพัฒนาเด็กท่ีอยู่ในความปกครอง ดูแลของตนตามสมควรแก่ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมแห่งท้องถ่ิน แต่ท้ังน้ีต้องไม่ต่ากว่า มาตรฐานขั้นตา่ ตามทกี่ า่ หนดในกฎกระทรวงและตอ้ งคมุ้ ครองสวสั ดภิ าพเดก็ ที่อยใู่ นความปกครองดแู ลของตนมิ ให้ตกอยใู่ นภาวะอันนา่ จะเกิดอนั ตรายแก่ร่างกายหรอื จิตใจ นอกจากพระราชบญั ญตั ิคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ก่าหนดเด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์ และเด็กท่ีพึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ ซ่ึงมีรายละเอียดอยู่ใน กฎกระทรวงหลายฉบับ ประชาชนท่วั ไปสว่ นมากไมท่ ราบรายละเอยี ดเหลา่ นีส้ ง่ ผลให้เดก็ ไมไ่ ดร้ บั การส่งเสรมิ พัฒนา ไมไ่ ด้รับการสงเคราะห์หรือไมไ่ ดร้ บั การคมุ้ ครองสวัสดภิ าพตามเจตนารมณข์ องกฎหมาย
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: