Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คอมช่วยสอน เล่ม

คอมช่วยสอน เล่ม

Published by กุลสิริ อินทร์เปีย, 2020-03-24 15:15:07

Description: คอมช่วยสอน เล่ม

Search

Read the Text Version

ส่ือคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน (Computer-Assisted Instruction : CAI)

ก ส่อื คอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน คำนำ หนงั สือนเี้ ปน็ ส่วนหน่ึงของ วิชำสำรสนเทศและนวัตกรรม กำรสอนสังคมศึกษำ โดยมีจุดประสงค์เพ่ือนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ซ่ึงหนังสือเล่มน้ีมีเน้ือหำเกี่ยวกับ ควำมหมำยของสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ประเภทของส่ือ คอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน กำรออกแบบบทเรียนส่ือคอมพิวเตอร์ ช่วยสอน ประโยชน์และข้อจำกัดของสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และตัวอยำ่ งสอ่ื คอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน ทำงผู้จัดทำขอขอบคุณอำจำรย์ ดร. ธวัช บุญแสง ผู้ให้ควำมรู้และแนวทำงในกำรศึกษำ รวมทั้งให้ควำม ช่วยเหลือมำโดยตลอด ทำให้หนังสือเล่มน้ีสำเร็จลุล่วงไปได้ ด้วยดี หวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำหนังสือเล่มน้ี จะเป็นประโยชน์แก่ ผู้สนใจได้เป็นอย่ำงดี หำกมีข้อผิดพลำดประกำรใดขออภัย ไว้ ณ โอกำสนดี้ ้วย คณะผจู้ ัดทำ

ข ส่อื คอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน สำรบญั หน้ำ เร่ือง ก ข คำนำ 1 สำรบญั 5 ควำมหมำยของส่อื คอมพิวเตอร์ช่วยสอน 12 ประเภทของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน 24 กำรออกแบบบทเรยี นคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน 26 ประโยชนแ์ ละขอ้ จำกดั ของคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน 27 ขอ้ จำกัดของส่ือคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน 33 ตัวอย่ำงคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน บรรณำนกุ รม

1 มำเรียนรสู้ อื่ คอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนกนั เถอะ ประเภทของ 2 กำรออกแบบบทเรียน คอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน คอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน 3 1 ควำมหมำยของ 5 4 สื่อคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน ประโยชนแ์ ละข้อจำกดั ของ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ตัวอยำ่ งคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน

2 ควำมหมำยของสอื่ คอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน ก ำ ร น ำ ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ม ำ เ ป็ น ในโปรแกรมประกอบไปด้วย เคร่ืองมือสร้ำงให้เป็นโปรแกรม - เนอ้ื หำวิชำ คอมพิวเตอร์ เพื่อให้ผู้เรียน - แบบฝกึ หัด นำไปเรียนด้วยตนเอง และเกิด - แบบทดสอบ กำรเรยี นรู้ ลักษณะของกำรนำเสนอ มีทั้ง รวมทั้งกำรแสดงผลกำรเรียนให้ทรำบ เป็นตัวหนังสือ ภำพกรำฟิก สี ทันทีด้วยข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียน ภำพเคลื่อนไหว และเสียง และยังมกี ำรจัดลำดับวิธีกำรสอน หรือ เพื่อดึงดูดให้ผู้เรียนเกิดควำม กิจกรรมต่ำง ๆ เพ่ือให้เหมำะสมกับ สนใจมำกยิง่ ขึน้ ผู้เรียนในแต่ละคน ท้ังนี้จะต้องมีกำร วำงแผนกำรในกำรผลิตอย่ำงเป็น ระบบในกำรนำเสนอเนอ้ื หำในรูปแบบ ทีแ่ ตกต่ำงกนั

3 ประเภทของคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน แบบกำรสอน (Instruction) แบบสรำ้ งสถำนกำรณ์ 01 แบบสอนเสริมหรือทบทวน เพอ่ื ให้ค้นพบ 08 02 (Tutorial) (Discovery) ไพบลู ย์ เกียรตโิ กมล แบบ(Tทeดstส)อบ0077 ได้แบง่ ตำมลักษณะของวธิ กี ำร 03 แบบฝกึ หดั นำเสนอเนื้อหำและกระบวนกำร และฝึกปฏบิ ัติ เรียนกำรสอนเปน็ 8 ประเภท (Drill and ดังนี้ Practice) 06 04 แบบกำรแกป้ ญั หำ 05 แบบสรำ้ งสถำนกำรณ์จำลอง (Problem Solving) (Simulation) แบบสรำ้ งเปน็ เกม (Game)

4 แบบกำรสอน (Instruction) เพ่ือใช้สอนควำมรู้ใหม่แทนครู ซ่ึงจะเป็น กำรพัฒนำแบบ Self Study Package เป็นรูปแบบของ กำรศึกษำด้วยตนเอง จะเป็นชุดกำรสอนท่ีจะต้องใช้ควำม ระมัดระวัง และทักษะในกำรพัฒนำท่ีสูงมำก เพรำะจะยำก เป็นทวีคูณกว่ำกำรพัฒนำชุดกำรสอนแบบโมดูล หรือ แบบโปรแกรมที่เป็นตำรำ ซึ่งคำดว่ำจะมีบทบำทมำก ในอนำคตอันใกล้นี้ โดยเฉพำะ IMMCAI : Interaction Multi Media CAI บน Internet

5 แบบสอนเสรมิ หรอื ทบทวน (Tutorial) เป็นบทเรียนเพื่อทบทวนกำรเรียนจำกห้องเรียน หรือจำกผู้สอนโดยวิธีใด ๆ จำกทำงไกล หรือทำงใกล้ก็ตำม กำรเรียนมักจะไม่ใช่ควำมรู้ใหม่ หำกแต่จะเป็นควำมรู้ท่ีเคย ไดร้ บั มำแล้ว ในรูปแบบอ่ืน ๆ แล้วใช้บทเรียนซ่อมเสริมเพ่ือ ตอกยำ้ ควำมเข้ำใจที่ถูกต้อง และสมบูรณ์ดีข้ึน สำมำรถใช้ท้ัง ในห้องเรียนและนอกหอ้ งเรียน ดังน้ัน CAI ประเภทน้ีจึงไม่สำมำรถนำมำสอน แทนครูได้ท้ังหมด เพียงแตน่ ำมำใช้สอนเสริมหรือใช้ทบทวน ในรำยวิชำที่มีกำรจัดกำรเรียนกำรสอนมำแล้วในชั้นเรียน ปกติ

6 แบบฝกึ หัดและฝกึ ปฏบิ ตั ิ (Drill and Practice) เพ่ือใช้เสริมกำรปฏิบัติหรือเสริมทักษะ กระทำบำงอย่ำง ให้เขำ้ ใจยง่ิ ขน้ึ และเกดิ ทักษะที่ต้องกำรได้ เป็นกำรเสริมประสิทธิผล กำรเรียนของผู้เรยี น สำมำรถใช้ในห้องเรียน เสริมขณะท่ีสอน หรือ นอกหอ้ งเรยี น ณ ทีใ่ ด เวลำใดก็ได้ สำมำรถใช้ฝึกหัดท้ังทำงด้ำน ทักษะกำรแกป้ ัญหำทำงคณติ ศำสตร์ วทิ ยำศำสตร์ รวมท้ังทำงช่ำง อุตสำหกรรมด้วย

7 แบบสรำ้ งสถำนกำรณจ์ ำลอง (Simulation) เพื่อใช้สำหรับกำรเรียนรู้ หรือทดลองจำก สถำนกำรณ์ทจี่ ำลองจำกสถำนกำรณจ์ รงิ ซึ่งอำจจะหำไม่ได้ หรืออยู่ไกล ไม่สำมำรถนำเข้ำมำในห้องเรียนได้ หรือ มีสภำพอันตรำย หรืออำจมีควำมสิ้นเปลืองมำกท่ีต้องใช้ ของจริงซ้ำ ๆ สำมำรถใช้สำธิตประกอบกำรสอน ใช้เสริม กำรสอนในห้องเรียน หรือใช้ซ่อมเสริมภำยหลังกำรเรียน นอกหอ้ งเรยี นทีใ่ ดเวลำใดกไ็ ด้

8 แบบสร้ำงเป็นเกม (Game) กำรเรียนรู้ บำงเร่ือง บำงระดับ บำงครั้ง กำรพัฒนำเป็นลักษณะเกม สำมำรถเสริมกำรเรียนรู้ได้ ดกี วำ่ กำรใชเ้ กมเพ่ือกำรเรียนสำมำรถใช้สำหรับกำรเรียนรู้ ควำมรู้ใหม่ หรือเสริมกำรเรียนในห้องเรียน ก็ได้ รวมทั้ง สำมำรถสอนทดแทนครูในบำงเรื่องได้ด้วย จะเป็นกำร เรยี นร้จู ำกควำมเพลดิ เพลิน เหมำะสำหรบั ผเู้ รยี นท่มี รี ะยะเวลำ ควำมสนใจส้ัน เช่น เด็ก หรือ ในภำวะสภำพแวดล้อมที่ ไม่อำนวย เป็นตน้

9 แบบกำรแกป้ ญั หำ (Problem Solving) เป็นกำรฝกึ กำรคิด กำรตัดสินใจ สำมำรถใช้กับ วิชำกำรต่ำงๆ ที่ต้องกำรให้สำมำรถคิดแก้ปัญหำ ใช้เพ่ือ เสริมกำรสอนในห้องเรียน หรือ ใช้ในกำรฝึกทั่ว ๆ ไป นอกห้องเรียนกไ็ ด้ เปน็ สื่อสำหรบั กำรฝึกผ้บู ริหำรได้ดี

10 แบบทดสอบ (Test) เพื่อใช้สำหรับตรวจวัดควำมสำมำรถของผู้เรียน สำมำรถใช้ประกอบกำรสอนในห้องเรียน หรือใช้ตำมควำม ต้องกำรของครู หรือของผู้เรียนเอง รวมท้ังสำมำรถใช้นอก หอ้ งเรยี น เพ่ือตรวจวดั ควำมสำมำรถของตนเองไดด้ ้วย

11 แบบสร้ำงสถำนกำรณ์เพอ่ื ใหค้ น้ พบ (Discovery) เป็นกำรจัดทำเพ่ือให้ผู้เรียนสำมำรถเรียนรู้จำก ประสบกำรณ์ของตนเอง โดยกำรลองผิดลองถูก หรือเป็นกำร จัดระบบ นำล่องเพื่อชี้นำสู่กำรเรียนรู้ สำมำรถใช้เรียนรู้ควำมรู้ ใหม่หรือเป็นกำรทบทวนควำมรู้เดิม และใช้ ประกอบกำรสอน ในห้องเรียนหรือกำรเรียนนอกห้องเรียน สถำนที่ใด เวลำใด ก็ได้

กำรออกแบบบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน 12 1. ช่วงกำรวเิ ครำะห์ เนื้อหำ 2 . ชว่ งกำรออกแบบ หน่วยกำรเรยี น 3 . ชว่ งกำรพัฒนำ หน่วยกำรเรียน 5 .ชว่ งกำร 4. ช่วงกำรพัฒนำ ประเมินผล เนอื้ หำลงบน บทเรยี น คอมพวิ เตอร์ ทดสอบและปรบั ปรงุ แกไ้ ข

ชว่ งกำรวเิ ครำะหเ์ นื้อหำ 13 (Analysis) ในกำรพัฒนำเน้ือหำกำรเรียนกำรสอนนั้น ผู้พัฒนำจะต้องทำควำมเข้ำใจ กับเนื้อหำสำระ ท่ีจะนำมำใส่ในบทเรียน เพ่ือกำหนดให้ชัดเจนว่ำจะให้ ผู้เรียนเรียนอะไรบ้ำงกำรวิเครำะห์เนื้อหำเป็นข้ันตอนแรกของกำรพัฒนำ บทเรยี น ในกำรวเิ ครำะห์เน้อื หำน้นั มขี นั้ ตอนยอ่ ย ๆ ท่ีจะต้องทำตำมลำดับ 3 ขนั้ ตอน คือ ขั้นท่ี 1 กำรสรำ้ งแผนภมู ริ ะดมสมอง (Brain Storm Creation) ขั้นกำรสร้ำงแผนภูมิระดมสมอง เป็นกำรนำเอำเทคนิค กำร ระดมสมอง (Brain Storm) เข้ำมำประยุกต์ใช้ เพ่ือรวบรวมหัวเรื่องที่ ควรจะมีอยใู่ นบทเรยี น

ชว่ งกำรวเิ ครำะหเ์ นอื้ หำ 14 (Analysis) ขั้นท่ี 2 กำรสรำ้ งแผนภมู หิ วั เรอ่ื งสัมพันธ์ (Concept Chart Creation) โดยนำแผนภูมิระดมสมองมำศึกษำควำมถูกต้อง สอดคล้องของทฤษฎี หลักกำร เหตุผล ควำมสัมพันธ์ และ ควำมต่อเนื่องกันของหัวเรื่องอย่ำงละเอียด อำจมีกำรตัดหรือ เพิม่ หัวเรื่องตำมเหตุผลและควำมเหมำะสม จนสำมำรถอธิบำย และตอบ คำถำมได้

ช่วงกำรวเิ ครำะหเ์ นื้อหำ 15 (Analysis) ขน้ั ที่ 3 กำรสรำ้ งแผนภมู โิ ครงขำ่ ยเนอ้ื หำ (Content Network Chart Creation) นำหัวเรื่องที่ได้จำกแผนภูมิหัวเร่ืองสัมพันธ์ มำจัดลำดับควำมสัมพันธ์ของ เน้ือหำ โดยพิจำรณำลำดับก่อนหลัง หรือคู่ขนำนกันตำมควำมจำเป็นท่ี จะต้องอ้ำงอิงกันตำมหลักกำรเทคนิคโครงข่ำย เนื้อหำบำงอย่ำงเป็น พื้นฐำนที่จำเป็นสำหรับเน้ือหำ เมื่อเขียนเสร็จแล้วทำกำรพิจำรณำ ควำมสมั พนั ธข์ องเนือ้ หำในโครงขำ่ ยนนั้ อกี คร้งั จนสมบรู ณ์

ช่วงกำรออกแบบ 16 หนว่ ยกำรเรยี น (Design) กำรออกแบบหน่วยกำรเรียน นับเป็นหัวใจสำคัญในกำรผลิตบทเรียน คอ ม พิว เ ต อร์ ช่ ว ยส อ น ปร ะ กอ บ ด้วย ขั้ น ตอ น ที่จะ ต้อ งทำ ไ ป ตำมลำดบั 2 ข้ันตอน คอื ขั้นท่ี 4 กำหนดกลวธิ ใี นกำรนำเสนอ และ เขียนวตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมของเนือ้ หำ จัดเน้ือหำท่ีมีให้เป็นหน่วย กำรเรียน เพื่อให้เหมำะสมกับกำรเรียน ของผู้เรียน จำกน้ันจึงสร้ำงแผนภูมิหน่วย กำรเรียนวิชำ แล้วเขียนกำกับในแต่ละ หน่วยกำรเรียนด้วยวัตถุประสงค์เชิง พฤติกรรม ขั้นท่ี 5 กำรออกแบบแผนภูมิกำรนำเสนอในแต่ละ หนว่ ยกำรเรยี น ก ำ ร ใ ห้ ผู้ เ รี ย น เ กิ ด ก ำ ร เ รี ย น รู้ ต ำ ม วตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรมท่ีต้ังไว้ ในกำรออกแบบนั้น จะคำนึงถึงกระบวนกำรนำเสนอท้ังหมด ซ่ึงจะมีกำร นำเข้ำบทเรียน กำรนำเสนอเน้ือหำสำระ กำรทบทวน เสริมควำมเข้ำใจ และกำรสรุปบทเรียน รวมทั้งกำรใช้ เทคนิควิธกี ำรสอน กำรใชส้ ่อื ต่ำงๆที่เหมำะสม

ชว่ งกำรพฒั นำหนว่ ยกำรเรยี น 17 (Development) ขั้นตอนกำรพฒั นำหนว่ ยกำรเรียน เปน็ กำรพัฒนำเน้ือหำหน่วยกำรเรียน ให้สมบูรณ์ก่อนที่จะนำไปเขียนโปรแกรม ประกอบด้วยขั้นตอนย่อยๆ 4 ขนั้ ตอน ข้ันท่ี 6 กำรเขียนรำยละเอียดเนื้อหำลงบน กรอบกำรสอน กำรเขียนรำยละเอียดเนื้อหำ ลงบนกรอบกำรสอน หรือกำรเขียนสคริปต์ หำกเปรียบเทียบกับกำรผลิตรำยกำร โทรทัศน์ กค็ ือ กำรเขยี นบทรำยกำรก่อนที่ จะนำไปถ่ำยทำจรงิ ขัน้ ท่ี 7 กำรจัดลำดบั กรอบกำรสอน ในขั้นตอนนี้ จะเป็นกำรนำกรอบกำร สอนมำตรวจสอบลำดับกำรนำเสนอเนื้อหำ ที่ได้ วำงแผนไว้ว่ำมีควำมต่อเน่ืองกันหรือไม่จะมีกำร ตรวจสอบ 2 ข้นั ตอน คอื 1. กำรตรวจสอบควำมต่อเน่ืองของเนื้อหำในหน่วย กำรเรยี นเดียวกัน 2. กำรตรวจสอบควำมเช่ือมโยงของเนื้อหำในแต่ละ หนว่ ยกำรเรียน

ชว่ งกำรพฒั นำหนว่ ยกำรเรยี น 18 (Development) ขัน้ ที่ 8 กำรตรวจสอบควำมถูกต้องของเน้ือหำ เป็นกำรรับรองคุณภำพของเนื้อหำ ว่ำถูกต้องก่อนท่ีจะนำไปพัฒนำเป็นบทเรียน กำรตรวจสอบน้ัน อำจจะให้ผู้เช่ียวชำญประเมิน ลงในกรอบกำรสอน หรือ ประเมินควบคู่กับ แบบฟอร์มที่เป็นปลำยเปิด นำไปทดลองกับ กลุ่มเป้ำหมำย ท่ีจะเรียนเน้ือหำนั้นๆ เพ่ือ ทดสอบควำมเข้ำใจในกำรเรยี นเน้ือหำ ข้ันที่ 9 กำรเขียนและประเมินคุณภำพของ แบบทดสอบ ในข้ันน้ี จะเร่ิมจำกกำรสร้ำง แ บ บ ท ด ส อ บ ต ำ ม ห ลั ก ก ำ ร พั ฒ น ำ ข้ อ ทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ จำกน้นั นำไปทดลอง กับกลุ่มที่เคยเรียนเนื้อหำน้ันมำแล้ว หลังจำกนำแบบทดสอบไปทดลองแล้วนำ ข้อท่ียังไม่ได้ตำมเกณฑ์ไปปรับปรุงแก้ไข จนกว่ำจะใชไ้ ด้

ชว่ งกำรพฒั นำเนอ้ื หำลงบน 19 คอมพิวเตอร์ ในกำรพัฒนำเนอื้ หำส่โู ปรแกรมนี้ จะประกอบดว้ ย 3 ขัน้ ตอน คือ ขั้นที่ 10 กำรเรียกโปรแกรมที่จะใช้นำเสนอ บทเรียน ในข้ันนี้ จะเป็นกำรคัดเลือก โปรแกรมที่จะใช้ในกำรพัฒนำบทเรียน คอมพิวเตอร์โดยแต่ละโปรแกรม ก็มี ควำมสำมำรถในกำรสร้ำงงำนท่ีแตกต่ำงกัน ดังนั้น ผู้พัฒนำบทเรียนจึงควรเลือก โปรแกรมท่ีจะนำมำสร้ำงโดยพิจำรณำ โปรแกรมทีเ่ หมำะสม ขั้นท่ี 11 กำรพัฒนำและจัดเตรียมสื่อท่จี ะ ใชป้ ระกอบบทเรียน ขั้นตอนนี้ จำเป็นต้อง ใช้ในกำรผลิตบทเรียน สื่อต่ำงๆ ที่ จ ะ ต้ อ ง เ ต รี ย ม ไ ด้ แ ก่ ภ ำ พ นิ่ ง ภำพเคล่อื นไหว เสียง ภำพกรำฟิกต่ำงๆ เม่ือทำกำรผลิตส่ือต่ำงๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ทำกำรบันทึกเป็นไฟล์ไว้ และจัดเก็บ แยกเป็นแฟ้มๆ ไว้ เพ่ือให้สำมำรถ เรยี กใช้ไดส้ ะดวก

ช่วงกำรพฒั นำเนอื้ หำลงบน 20 คอมพวิ เตอร์ ขัน้ ท่ี 12 นำข้อมลู เน้ือหำลงโปรแกรม ในกำรลงโปรแกรมนั้น ผู้ดำเนินกำรจะต้องทำ ด้วยควำมปรำณีต ในระหว่ำงทำควรตรวจสอบส่ือต่ำงๆ และ ลำดับกำรนำเสนอเน้ือหำว่ำถูกต้องตำมกรอบกำรสอนที่ได้ ออกแบบไวร้ วมทัง้ ลำดับกำรเชื่อมโยงของเน้อื หำ

ชว่ งกำรประเมนิ ผล 21 บทเรียน เป็นขน้ั ตอนสุดท้ำยของกำรพัฒนำบทเรยี น นับเป็น ข้นั ตอนทส่ี ำคัญจะประกอบดว้ ย 4 ขน้ั ตอน คอื ขัน้ ที่ 13 กำรตรวจสอบคุณภำพมัลติมีเดีย ของบทเรียน ขั้ น ต อ น นี้ เ ป็ น ก ำ ร ตรวจสอบคุณภำพมัลติมีเดียของบทเรียน คอมพิวเตอร์ท่ีสร้ำงเสร็จแล้ว โดยให้ ผู้ เ ชี่ ย ว ช ำ ญ ท ำ ง ด้ ำ น มั ล ติ มี เ ดี ย เ ป็ น ผู้ ตรวจสอบภำยหลังจำกกำรตรวจสอบ คุณภำพเรียบร้อยแล้ว นำมำปรับปรุงให้ สมบูรณ์ ก็จะได้บทเรียนท่ีพร้อมจะนำไป ทดลองหำประสิทธิภำพต่อไป ขัน้ ที่ 14 กำรทดลองกระบวนกำรกำรทดสอบ หำประสทิ ธภิ ำพ ขนั้ ตอนนี้ เป็นกำรทดลอง ข้นั ตอน หรอื กระบวนกำรในกำรหำ ประสทิ ธภิ ำพก่อนท่จี ะหำประสทิ ธิภำพจรงิ

ชว่ งกำรประเมินผล 22 บทเรยี น ข้ันที่ 15 กำรทดลองหำประสิทธิภำพของ บทเรียนและประสิทธิผลทำงกำรเรียน ข้ันตอนน้ีเป็นกำรทดลองหำประสิทธิภำพ ของบทเรยี น และประสทิ ธผิ ลทำงกำรเรียน ขั้นท่ี 16 จัดทำคู่มือกำรใช้บทเรียน คอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน หลังจำกผลิตบทเรียนเสร็จ แล้ว จะต้องทำคู่มือกำรใช้บทเรียน เพ่ือใช้ ประกอบกำรเรียน หรือหำกมีปัญหำสงสัย ก็สำมำรถท่จี ะเปดิ ดไู ด้จำกคู่มือนี้

ทดสอบและปรบั ปรงุ แกไ้ ข 23 1. นำบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ไปใช้กับกลมุ่ ตัวอย่ำง เพ่ือทดสอบกำร ส่ือควำมหมำยและหำข้อบกพร่องของ บทเรยี นเพื่อนำไปแกไ้ ขปรบั ปรงุ 2. ปรบั ปรงุ แก้ไข เพือ่ ให้มีควำมถูกต้อง และใหเ้ กิดประสิทธิภำพสงู สดุ

24 ประโยชนข์ องสอ่ื คอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน 1. ผู้เรียนสำมำรถศึกษำบทเรียนดว้ ยตัวเองไดโ้ ดย ไมจ่ ำกดั เวลำ โดยไม่ต้องรอครหู รือเขำ้ ชน้ั เรียน 2. ชว่ ยให้ครผู ู้สอนไมต่ อ้ งเสยี เวลำกับกำรงำน ด้ำนกำรใชง้ ำน บรหิ ำร ครผู ู้สอนจะไดม้ ีเวลำไปปรบั ปรุงบทเรยี น ของคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน ให้ทนั สมยั และมเี วลำให้กับนักเรียนมำกข้นึ 3.กำรนำคอมพวิ เตอรม์ ำช่วยในกำรจดั กำรเรยี น กำรสอนจะทำใหค้ รผู สู้ อนสำมำรถวิเครำะห์ ผเู้ รยี นเพื่อออกแบบและพัฒนำระบบกำรสอนได้ อยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ ตรงกับวตั ถปุ ระสงคแ์ ละ ควำมตอ้ งกำรของผู้เรยี น

25 ประโยชนข์ องสอ่ื คอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน 5.ควำมสำมำรถของหน่วยควำมจำของเครื่อง คอมพิวเตอร์ช่วยในกำร บนั ทกึ คะแนนและ ดำ้ นกำรใชง้ ำน พฤตกิ รรมต่ำงๆของผเู้ รยี นไว้เพ่ือใช้ในกำร ของคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน วำงแผนบทเรียนข้ันต่อไปไดอ้ ย่ำงเท่ยี งตรง 6.ควำมสำมำรถในกำรเก็บข้อมูลของเครอ่ื ง ทำให้สำมำรถนำมำใชใ้ นลักษณะของกำรศกึ ษำ รำยบุคคลไดเ้ ป็นอยำ่ งดีโดยสำมำรถกำหนด บทเรยี นให้แก่ผู้เรยี นแต่ละคนและแสดงผล ควำมก้ำวหนำ้ ใหเ้ หน็ ไดท้ นั ที

ข้อจำกดั ของสอื่ คอมพวิ เตอร์ 26 ช่วยสอน 1. สน้ิ เปลอื งค่ำใชจ้ ำ่ ยและเวลำซึ่งจำเป็นต้อง ลงทุนค่ำใช้จ่ำยค่อนขำ้ งสงู ทง้ั ในดำ้ นฮำร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ 2. ลดควำมสัมพนั ธ์ของผเู้ รยี นท่มี ีตอ่ กนั ลง 3. จำเปน็ ตอ้ งติดต่อกับผู้ผลติ ซอฟตแ์ วร์ 4. ขำดโปรแกรมเมอร์ทม่ี ีควำมรู้พื้นฐำน ทำงกำรศึกษำ 5. ตอ้ งใชเ้ วลำในกำรพฒั นำมำก ในด้ำน กำรทดสอบกำรใช้งำน และปรบั ปรุงแกไ้ ข 6. มคี วำมยำกในกำรออกแบบ

27 ตวั อยำ่ งสอ่ื คอมพิวเตอรช์ ่วยสอน

1. หน้ำ Login เข้ำใช้งำน 28 2. หน้ำ ผู้ใชง้ ำน (ยินดีต้อนรบั )

3. หน้ำบทเรยี น (หน้ำหลัก) 29 4. หน้ำจดุ ประสงค์รำยวิชำ

5. ทดสอบกอ่ นเรียน 30 6. เนือ้ หำ

7. VDO ประกอบกำรสอน 31 8. ทดสอบหลังเรียน

9. ผ้จู ัดทำ 32

บรรณำนกุ รม 33 กำรสร้ำงส่ือเพื่อกำรเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6. (2557). ประเภทของ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน. สืบค้นเม่ือ 27 มกรำคม 2563, จำก https://iamkru.wordpress.com. นิรำมัย ไชยรัตน์. (2559). คอมพิวเตอร์ช่วยสอน. สืบค้นเมื่อ 27 มกรำคม 2563, จำก http://thanawatbaimai.blogspot. com/2016/11/computer-assisted-instruction.html. วิชัย จันทร์ส่อง. (2555). ประโยชน์และข้อจำกัดของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน. สืบค้นเม่ือ 28 มกรำคม 2563, จำก https://www.gotokn ow.org/posts/212078. GOOGLE SITES. (ม.ป.ป.). ข้ันตอนกำรสร้ำงบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน. สืบคน้ เมือ่ 28 มกรำคม 2563, จำก https://sites.google. com/site/tanyapornparakornwatthana/cai/khan Sornram Deeruksa. (2559). บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชำ ประวัติศำสตร์ เร่ือง พัฒนำกำรของอำณำจักรอยุธยำ. สืบค้นเมื่อ 29 มกรำคม 2563, จำก https://www.youtube.com/wa tch?v=F3i DzwPhQ6E&t=8s.

ผู้จัดทำ น.ส.เกศกนก สวัสดิฤกษ์ รหสั นกั ศกึ ษำ 6015107001006 น.ส.กุลสริ ิ อนิ ทร์เปยี รหัสนักศึกษำ 6015107001029 กล่มุ เรยี น 60013.151 สังคมศึกษำ คณะครศุ ำสตร์ มหำวทิ ยำลยั รำชภฏั สรุ ำษฎร์ธำนี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook