51 ออรแกเนลลก ลมุ ทไ่ี มมเี ยอ่ื หมุ Non-membranous organelles ไรโบโซม (Ribosome) ยอ : RER ไรโบโซมทเี่ กาะกับเยื่อหมุ Endoplasmic reticulum
52 ออรแกเนลลก ลมุ ทไี่ มมเี ยอื่ หมุ ไซโทสเกเลตอน (Cytoskeleton) เสนใยโปรตีนซึ่งมีบทบาท สําคัญในการทําใหเกิดรูปรางเซลล การ เคลื่อนที่ทั้งของเซลลและออรแกเนล ภายในเซลล การแบงเซลล มี 3 ชนดิ 13 2
53 ออรแกเนลลก ลมุ ทไ่ี มมเี ยอ่ื หมุ ไซโทสเกเลตอน (Cytoskeleton) 1. Microfilament ทําหนา ทใ่ี นการหด ตัวของเซลลก ลา มเนอ้ื 2. Microtubule ทาํ หนา ทยี่ ดึ เกาะและ ลาํ เลยี งออรแ กเนลล เปนโครงสรา ง เสน ใยสปน เดลิ 3. Intermediate filament ทําหนา ท่ี เปน โครงรา งคาํ จนุ
54 ออรแกเนลลก ลมุ ทไี่ มมเี ยอ่ื หมุ เซนทริโอล (Centriole) ประกอบดว ยไมโครทบู ลู (Microtubule) อยูก นั เปน กลมุ กลมุ ละ 3 อัน จํานวน 9 กลมุ เซนทรโิ อลสองอนั วางตง้ั ฉากกนั เรยี กวา เซนโทรโซม (Centrosome)
55 ออรแกเนลลก ลมุ ทไ่ี มมเี ยอื่ หมุ เซนทริโอล (Centriole) หนา ท่ีของเซนทรโิ อล คอื ชว ยในการเคลื่อนท่ขี องโครโมโซมในขณะที่มีการแยกตัวของเซลล
56 ออรแกเนลลก ลมุ ทไ่ี มมเี ยอ่ื หมุ เซนทริโอล (Centriole) เซนโทรโซม (Centrosome) ทาํ หนา ท่สี รา งเสน ใยสปน เดลิ (Spindle fiber) เพอ่ื ยดึ และดงึ โครโมโซม พบในเซลลส ตั ว โปรโตซวั ราบางชนดิ แตไมพ บในพชื ขน้ั สงู
57 ออรแกเนลลก ลมุ ทม่ี ีเยอ่ื หมุ 1 ชน้ั เอนโดพลาสมคิ เรติคูลมั (Endoplasmic Reticulum) Endoplasmic = ภายในไซโทพลาสซึม Reticulum = รางแห โดยกระจายเปนรางแหอยใู นไซโทพลาสซมึ และอาจเช่อื มตอ กบั เย่ือหุมนวิ เคลียสหรอื เยอื่ หมุ เซลล แบงเปน 2 ชนดิ คือ
58 ออรแกเนลลก ลมุ ทม่ี ีเยอ่ื หมุ 1 ชั้น เอนโดพลาสมคิ เรติคูลัม (Endoplasmic Reticulum) 1. ชนิดขรุขระ (Rough Endoplasmic Reticulum-RER) มีไรโบโซมเกาะบนเยือ่ หมุ ทําหนา ที่ การสังเคราะหโปรตีน ของไรโบโซมท่เี กาะอยู โดยมีกอลจิบอดี (golgi body) เปน ตวั สะสม หรือทาํ ใหมีขนาดพอเหมาะท่ีสง ออก นอกเซลล
59 ออรแกเนลลก ลมุ ทมี่ ีเยอื่ หมุ 1 ชน้ั เอนโดพลาสมิค เรติคูลัม (Endoplasmic Reticulum) 2. ชนดิ เรียบ (Smooth Endoplasmic Reticulum-SER) ไมมไี รโบโซมเกาะบนเยื่อหุม พบมากในเซลลท ม่ี หี นาท่ีกาํ จดั สารพิษ และสรา งสาร สเตอรอยด จึงพบในเซลลท ีต่ อ มหมวกไต และยงั ทาํ หนาท่ี คือ ลําเลียงสารตา ง ๆ
60 ออรแกเนลลก ลมุ ทม่ี ีเยอื่ หมุ 1 ช้นั เอนโดพลาสมิค เรติคูลมั (Endoplasmic Reticulum) มลี กั ษณะเปนทอ แบนใหญ บางบรเิ วณโปง ออกเปนถุง เรยี งขนานและซอ นกนั เปน ชั้น ๆ ภายในมีของเหลวบรรจุอยู และตอ กันเปนรางแหอยูลอ มรอบนวิ เคลียส
61 ออรแกเนลลก ลมุ ทม่ี ีเยอื่ หมุ 1 ชั้น กอลจคิ อมเพลก็ ซ (Golgi Complex) เรียกอีกชื่อวา Golgi body หรอื Golgi apparatus มีลักษณะเปน ถุงแบนเรยี งซอ นกนั เปนช้ัน ๆ มีหนาที่เกี่ยวของกับการหลง่ั สาร (Secretion) ซึง่ เปนสารที่สรา งจาก ER และมีการเปลีย่ นแปลงเพอ่ื ใหเ หมาะสมพรอ มทีจ่ ะ ปลอ ยออกนอกเซลล ดวยวิธี Exocytosis
62 ออรแกเนลลก ลมุ ทมี่ ีเยอ่ื หมุ 1 ช้นั กอลจคิ อมเพลก็ ซ (Golgi Complex) ปลอ ยออกนอกเซลล ดว ยวธิ ี Exocytosis
63 ออรแกเนลลก ลมุ ทม่ี ีเยอ่ื หมุ 1 ช้นั กอลจคิ อมเพลก็ ซ (Golgi Complex) กอลจบิ อดี มีรปู รา งเปนลกั ษณะคลา ยชามซึง่ เรยี กวา ซิสเทอรนา ( cisterna หรอื flattened sac)
64 ออรแกเนลลก ลมุ ทม่ี ีเยอื่ หมุ 1 ชน้ั ไลโซโซม (Lysosome) ลักษณะเปนถุงมีเยื่อหุมชั้นเดียวภายในบรรจุเอนไซม ยอยโปรตีน คารโบไฮเดรต ไขมนั กรดนิวคลีอคิ (พบเอนไซมประมาณ 60 ชนิด) ทาํ งานไดด ที ส่ี ภาพเปนกรด
65 ออรแกเนลลก ลมุ ทมี่ ีเยอื่ หมุ 1 ชน้ั ไลโซโซม (Lysosome) ทําหนาท่ียอยสารประกอบภายในเซลล อาหาร เช้ือโรคที่เขาสูเซลล ออรแกเนลลท่ี อายุมาก (Autophagy) และยอ ยเซลลต ัวเอง (Autolysis)
66 ออรแกเนลลก ลมุ ทม่ี ีเยอ่ื หมุ 1 ช้นั ไลโซโซม (Lysosome)
67 ออรแกเนลลก ลมุ ทมี่ ีเยอื่ หมุ 1 ชั้น เพอรอ็ กซโิ ซม (Peroxisome) หรือ ไมโครบอดี (microbodies) เปน ออรแกเนลลขนาดเลก็ เปนถงุ กลม รปู ไข รูปรางคลายไลโซโซม ภายในบรรจุเอนไซมท ี่เกี่ยวของกบั เมแทบอลิซมึ เชน Oxidase, Catalase พบในเซลลพ ชื ตับ และไต
68 ออรแกเนลลก ลมุ ทมี่ ีเยอื่ หมุ 1 ช้นั เพอร็อกซโิ ซม (Peroxisome) หรอื ไมโครบอดี (microbodies)
69 ออรแกเนลลก ลมุ ทมี่ ีเยอื่ หมุ 1 ช้นั แวควิ โอล (Vacuole) แวคิวโอลในสัตวมักเล็กกวาในพืช แวคิวโอลสามารถทําหนาท่ีเปนท่ีเก็บ หล่ัง และถายของเหลวภายในเซลล มีลักษณะเปนถุง เรียกวาเยื่อหุมวา Tonoplast แวคิวโอลเกดิ จากการหลดุ ขาดของ ER หรอื Golgi Complex
70 ออรแกเนลลก ลมุ ทมี่ ีเยอ่ื หมุ 1 ช้ัน สามารถแบงออกได 3 ประเภท คือ 1. คอนแทรก็ ไทลแวควิ โอล (contractile vacuole) ทาํ หนา ทีร่ ักษาดุลยภาพของ น้ํา เชน พบในอะมบี า พารามีเซยี ม
71 ออรแกเนลลก ลมุ ทมี่ ีเยอื่ หมุ 1 ช้นั 2. ฟูดแวควิ โอล (food vacuole) ทําหนาทรี่ ับสารทีม่ าจากภายนอกเซลล พบในเซลลเมด็ เลือดขาวบางชนดิ
72 ออรแกเนลลก ลมุ ทม่ี ีเยอื่ หมุ 1 ชน้ั 3. แซบแวคิวโอล (sap vacuole) มักพบในเซลลพชื ทําหนา ทีเ่ กยี่ วกบั ความ เตง ของเซลลพืช
73 ออรแกเนลลก ลมุ ทม่ี ีเยอ่ื หมุ 2 ชั้น ไมโตคอนเดรีย (Mitochondria) เยือ่ หมุ ชน้ั ในยนื่ เขาไปเรียกวา Cristae ในชองวางภายในไมโตคอนเดรียซ่ึง มีของเหลวอยู เรียกวา Matrix ซ่งึ บรรจุเอนไซมส ําหรบั การหายใจระดบั เซลล
74 ออรแกเนลลก ลมุ ทม่ี ีเยอื่ หมุ 2 ชัน้ ไมโตคอนเดรีย (Mitochondria) ไมโตคอนเดรียทาํ หนา ท่ีสรางและ สะสมสารพลงั งานสูง (ATP = Adenosine triphosphate)
75 ออรแกเนลลก ลมุ ทมี่ ีเยอ่ื หมุ 2 ช้นั ไมโตคอนเดรีย (Mitochondria) ทาํ หนา ท่ีเสมือนโรงงานแปรรปู อาหารหรอื เรียกวา กระบวนการเผาผลาญ
76 ออรแกเนลลก ลมุ ทมี่ ีเยอ่ื หมุ 2 ช้นั พลาสตดิ (Plastids) มี 3 ชนิด 1. Chloroplast พลาสตดิ สเี ขยี ว มรี งควัตถุ (Pigment) ซ่งึ สามารถจบั พลังงานแสงและ เปลย่ี นเปนพลังงานเคมไี ด ทาํ หนาท่ีในกระบวนการสังเคราะหดวยแสง (Photosynthesis)
77 ออรแกเนลลก ลมุ ทมี่ ีเยอื่ หมุ 2 ชน้ั คลอโรพลาสต (Chloroplast) เปนออรแกแนลที่พบในพืช เปนพลาสติด ท่ีมีสีเขียว พบเฉพาะในเซลลพืช และ สาหราย เกอื บทกุ ชนดิ ภายในโครงสรางพลาสติด เรียกวา คลอโรฟล ล (chlorophyll)
78 ออรแกเนลลก ลมุ ทม่ี ีเยอ่ื หมุ 2 ชน้ั พลาสติด (Plastids) 2. Chromoplast เปนพลาสตดิ สอี น่ื ๆ เชน สแี ดงในพริก มะเขือเทศ
79 ออรแกเนลลก ลมุ ทม่ี ีเยอ่ื หมุ 1 ชัน้ พลาสตดิ (Plastids) 3. Leucoplast เปน พลาสติดสขี าว ทาํ หนา ทเี่ ก็บแปงทไ่ี ดจ ากกระบวนการ สงั เคราะหด วยแสง พบในเซลลในสว นที่ใชส ะสมอาหาร เชน มนั ฝรั่ง มนั เทศ
80 ออรแกเนลลก ลมุ ทม่ี ีเยอ่ื หมุ 2 ช้นั คลอโรพลาสต (Chloroplast) คลอโรพลาสต (Chloroplast) พบเฉพาะในเซลลพชื
81 ความแตกตางของเซลลพ ชื และสตั ว เซลลพชื เซลลส ัตว 1. เซลลพ ืชมรี ปู รางเปน เหล่ยี ม 1. เซลลส ัตวมีรปู รา งกลม หรือรี 2. มีผนังเซลลอยูดา นนอก 2. ไมมผี นงั เซลล แตม ีสารเคลอื บเซลล อยดู า นนอก 3. มคี ลอโรพลาสตภายในเซลล 3. ไมมคี ลอโรพลาสต 4. ไมม ีเซนทริโอล 4. มเี ซนทริโอลใชในการแบง เซลล 5. แวคควิ โอลมีขนาดใหญ มองเหน็ ได 5. แวคคิวโอลมขี นาดเลก็ มองเหน็ ไดไ ม ชดั เจน ชัดเจน 6. ไมมีไลโซโซม 6. มีไลโซโซม
82 การลาํ เลยี งสารเขา และออกจากเซลล การลาํ เลยี งสารเขา และออกจากเซลล ผา นเยอื่ หมุ เซลล โดยการสรา งถงุ จากเยอ่ื หมุ เซลล แบบไมใ ชพ ลงั งาน แบบใชพ ลงั งาน Endocytosis Exocytosis Osmosis Active transport Phagocytosis Simple Diffusion Pinocytosis Facilitated Diffusion Receptor-mediated
83 การลาํ เลยี งสารเขา และออกผา นเยอ่ื หุมเซลล การแพรแบบธรรมดา (Simple Diffusion) การแพร (Diffusion) เปนการเคล่ือนท่ีของอนุภาค ของสารจากบริเวณท่ีมีความ เขมขนของสาร สูง ไป ตํา่ #ไมใ ชพลังงาน
84 การลําเลยี งสารเขา และออกผา นเยอื่ หุม เซลล ออสโมซิส (Osmosis) #ไมใชพลังงาน ถา สารละลายระหวา งภายนอกกบั ภายในเซลลมคี วามเขมขน ตา งกนั นํ้าจะแพรจากดานทมี่ ีความเขม ขน ของสารละลายตํ่า ไป สูงหรือน้ํามาก ไป นํ้านอ ย
85 การลาํ เลยี งสารเขา และออกผา นเยอื่ หมุ เซลล ออสโมซสิ (Osmosis) #ไมใชพลงั งาน
86 การลาํ เลยี งสารเขา และออกผา นเยอื่ หมุ เซลล
87 การลําเลยี งสารเขา และออกผา นเยอื่ หุมเซลล การแพรแบบฟาซลิ เิ ทต (Facilitated diffusion) ไมส ามารถแพรผ า นเยอ่ื หุม เซลลไ ดโดยตรง เคลอื่ นผา นชองโปรตีนหรอื โปรตีนตวั พาภายในเย่อื หุมเซลล เชน ไอออน กลีเซอรอล กลโู คส และกรดอะมโิ น ไมตอ งใชพลงั งาน เคล่อื นท่ีจากดานท่มี คี วามเขมขนสงู ไป ตาํ่
88 การลําเลยี งสารเขา และออกผา นเยอ่ื หุมเซลล การแพรแบบฟาซิลเิ ทต (Facilitated diffusion) #ไมใชพลังงาน
89 การลาํ เลยี งสารเขา และออกผา นเยอ่ื หุมเซลล การลําเลยี งแบบใชพลังงาน (Active transport) การลําเลียงสารผา นเยือ่ หุมเซลล เคล่ือนท่จี ากบริเวณทมี่ คี วามเขม ขนตํา่ ไปสงู ตองอาศัยพลงั งานจากการสลายพลงั งาน เคลือ่ นผา นชอ งโปรตีนหรอื โปรตีนตัวพาภายในเยอื่ หุม เซลล เชนเดียวกบั การแพรแบบฟาซลิ ิเทต
90 การลําเลยี งสารเขา และออกผา นเยอ่ื หมุ เซลล การลาํ เลยี งแบบใชพ ลงั งาน (Active transport)
91 การลําเลยี งสารเขา และออกผา นเยอ่ื หุมเซลล สรุปการลาํ เลยี งสารเขา และออกผา นเยอ่ื หมุ เซลล
92 การลาํ เลยี งสารโดยการสรา งถงุ จากเยอ่ื หมุ เซลล เอกโซไซโทซสิ (Exocytosis) 3 2 1
93 การลาํ เลยี งสารโดยการสรางถงุ จากเยอ่ื หมุ เซลล เอกโซไซโทซสิ (Exocytosis) การลําเลียงสาร ขนาดใหญ ออกจาก เซลล เชน การหลั่ง เอนไซมจากเยื่อบุผนัง กระเพาะอาหาร
94 การลาํ เลยี งสารโดยการสรางถงุ จากเยอื่ หมุ เซลล เอนโดไซโทซสิ (Endocytosis) การลาํ เลยี งสารขนาดใหญ เขา สเู ซลล ซ่ึงมีชอ่ื เรียกแตกตา งกนั ไปตาม กลไกการลาํ เลียงแบง ได 3 แบบ ดังน้ี 1. ฟาโกไซโทซิส (Phagocytosis) ยื่ น ไ ซ โ ท พ ล า ส ซึ ม ม า ล อ ม อ นุ ภ า ค ของแข็ง นําเขาสูเซลลในรูปของเวสิเคิล **การกนิ ของเซลล (cell eating)
95 การลาํ เลยี งสารโดยการสรางถงุ จากเยอ่ื หมุ เซลล เอนโดไซโทซสิ (Endocytosis) อะมบี า
96 การลาํ เลยี งสารโดยการสรา งถงุ จากเยอ่ื หมุ เซลล เอนโดไซโทซสิ (Endocytosis) Macrophages จะรับเอาเช้อื โรคหรือสิ่งแปลกปลอมเขา ไปในเซลล หลังจากน้นั จงึ เกิดกระบวนการยอย
97 การลาํ เลยี งสารโดยการสรา งถงุ จากเยอ่ื หมุ เซลล เม็ดเลอื ดขาวกาํ ลงั สกู บั พยาธิ กลไกการทําลายเชื้อโรคของมนษุ ย
98 การลาํ เลยี งสารโดยการสรา งถงุ จากเยอ่ื หมุ เซลล เอนโดไซโทซสิ (Endocytosis) 2. พโิ นไซโทซสิ (Pinocytosis) เปน การนําอนุภาคของสารทีอ่ ยูในรูปสารละลายเขา สเู ซลล โดยการเวา ของเยื่อหมุ เซลลเ กิดเปน ถงุ เวสิเคลิ เชน เซลลบุผนังหลอดเลือด **การดม่ื ของเซลล (Cell drinking)
99 การลาํ เลยี งสารโดยการสรา งถงุ จากเยอ่ื หมุ เซลล การนาํ สารเขา สเู ซลลโ ดยอาศัยตวั รบั (Receptor-mediated endocytosis) เกิดข้ึนโดยมีโปรตีน ตัวรับบนเยื่อหุมเซลล ซึ่งสาร จะตองมีความจําเพาะในการ จับกับโปรตีน เชน การนํา คอเลสเตอรอลเขาสเู ซลลต บั
100 การลาํ เลยี งสารโดยการสรางถงุ จากเยอ่ื หมุ เซลล สรปุ การลาํ เลยี งสารโดยการสรา งถงุ จากเยอื่ หมุ เซลล
Search