L/O/G/O วิทยาศาสตร์ระดับมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรยี นแกน่ นครวิทยาลยั ครเู สกสรรค์ สุวรรณสุข ระบบไหลเวยี นโลหติ (Circulatory System) www.kruseksan.com
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เมื่อเรียนจบหน่วยการเรยี นรู้น้แี ลว้ นักเรียนควรจะสามารถ 1 ทดลองและอธบิ ายโครงสร้างและการทางานของระบบหมนุ เวียนเลือด 2 อธิบายการทางานที่สัมพันธ์กันของระบบตา่ ง ๆ ท่มี นุษยด์ ารงชีวิตอยู่ได้ปกติ 3 สารวจ วเิ คราะหแ์ ละอธิบายพฤติกรรมบางอยา่ งของมนุษย์ท่ตี อบสนองตอ่ ส่ิงเร้าบางชนดิ 4 สบื ค้นข้อมูลและอธบิ ายผลของสารเสพติดต่อการทางานของระบบตา่ ง ๆ ของร่างกาย
ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวงั นักเรียนมคี วามรู้ ความสามารถ สืบค้นขอ้ มูล วิเคราะห์ ทดลอง และอธบิ ายเกย่ี วกับโครงสรา้ งและ การทางานของระบบ หมนุ เวียนโลหติ และอธบิ ายการทางานท่ีสัมพนั ธก์ นั ของระบบ ตา่ ง ๆ ท่ที าให้มนุษย์มกี ารเจริญเติบโตและนาไปใชป้ ระโยชน์ ในการดารงชวี ติ ได้อยา่ งปกตสิ ุข
ระบบหมุนเวยี นโลหิต (Circulartory System) ระบบหมุนเวียนโลหติ เป็นระบบท่ีเลอื ด ทาหน้าท่ี ลาเลยี งสารต่าง ๆ ไปยงั เซลล์ทั่วร่างกาย เช่น สารอาหาร แกส๊ ต่าง ๆ เกลอื แร่ ฮอร์โมน และ รบั ของเสยี ส่งออกนอกร่างกายโดยลาเลยี งไปตาม เสน้ เลอื ด เชน่ CO2 ยูเรีย ยูรกิ แอมโมเนีย
ระบบหมนุ เวียนโลหติ มี 2 แบบ หลงั จากท่ีอาหารถกู ย่อยจนเล็กทส่ี ดุ แล้ว จะแพรเ่ ขา้ สูผ่ นังลาไส้เล็ก ผา่ นเข้าสหู่ ลอดเลือด เคลือ่ นท่ีไปส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายพร้อมกับเลือด อวัยวะสาคญั 3 ส่วน ดงั น้ี หัวใจ (heart) , หลอดเลือด (blood vassel) และเลือด (blood) แบบวงจรปดิ แบบวงจรเปิด เลือดไหลเวียนในหลอดเลอื ดและหัวใจ เลอื ดไหลจากหลอดเลอื ด เขา้ สชู่ อ่ งว่างในลาตัว เลือด ไมอ่ อกจากหลอดเลือด สมั ผสั กบั เนือ้ เยอ่ื เลอื ดไม่สมั ผัสกบั เนอื้ เยื่อ มกี ารแลกเปล่ียนสารตา่ ง ๆ โดยตรง • ได้แก่ คน และสัตวม์ ีกระดูกสนั หลงั ทังหมด ไส้เดอื นดิน ปลาหมึก ได้แก่ แมลง ก้งุ ปู เป็นต้น (close circulatory system) (open circulatory system)
สว่ นประกอบและหน้าท่ขี องเลือด สว่ นทเ่ี ป็นของเหลว 55 % เรยี กวา่ พลาสมา (plasma) หรือน้าเลอื ด ประกอบด้วย น้า 91 % สว่ นประกอบของเลอื ด สารตา่ ง ๆ เอนไซม์ ฮอร์โมน แกส๊ ของเสีย ได้แก่ ยเู รยี CO2 ส่วนทเ่ี ปน็ ของแข็ง 45 % เม็ดเลือดแดง(Red blood cell ) เม็ดเลือดขาว (White blood cell ) เกล็ดเลอื ด (Platelet)
ระบบหมนุ เวยี นโลหติ (Circulartory System) เซลลเ์ ม็ดเลือดแดง (Red blood cell) เปน็ สารประกอบโปรตนี ลักษณะค่อนขา้ งกลม มสี แี ดง ตรงกลางเว้า เมอ่ื โตเตม็ ท่ี ไมม่ นี วิ เคลยี ส มีสารสแี ดง เรยี กว่า ฮีโมโกลบิน มธี าตเุ หลก็ เป็นองค์ประกอบ มอี ายุ 110 - 120 วัน สรา้ งท่ี ไขกระดูก ทาลายที่ ตับ ในเดก็ สรา้ งท่ี ตับ ม้าม และไขกระดูก หน้าที่ ของเซลลเ์ มด็ เลอื ดแดง ลาเลยี ง O2 เซลล์ ลาเลยี ง CO2 ปอด ฮีโมโกลบนิ + O2 ออกซฮี ีโมโกลบิน (Oxyhemoglobin) 1 mm3 มเี ซลลเ์ มด็ เลือดแดงประมาณ 5 ล้านเม็ด รูป เซลลเ์ มด็ เลอื ดแดง
ระบบหมนุ เวียนโลหติ (Circulartory System) เซลล์เมด็ เลือดขาว (White blood cell ) ลกั ษณะ กลม ไม่มสี ี มีนิวเคลยี ส ขนาดใหญ่กวา่ รปู เซลล์เมด็ เลอื ดขาว เมด็ เลอื ดแดงสรา้ งที่ ไขกระดูก มา้ ม และ ตอ่ มน้าเลือง อายุ 7 - 14 วัน เม็ดเลือดขาว ทาหน้าที่ ทาลายเชอื้ โรค และสิง่ แปลกปลอม หรือการสรา้ งโปรตีน ท่เี รยี กวา่ antibody มาทาลาย เช้ือโรค 1 mm3 มีเซลล์เม็ดเลอื ดขาวประมาณ 4,000- 10,000 เม็ด
ระบบหมุนเวียนโลหติ (Circulartory System) เซลลเ์ มด็ เลือดขาว (White blood cell ) เพิ่มเติม มนี ิวเคลยี ส และมโี ครโมโซม ใช้ในการตรวจ รปู เซลล์เม็ดเลอื ดขาว DNA และแบง่ เปน็ 2 ชนดิ ตามหน้าท่ี 1. ฟาโกไซต์ (phagocyte) : มวี ธิ ีการทาลายเชอื้ โรค หรอื ส่งิ แปลกปลอมแบบเขมือบ (phagocytosis) 2. ลมิ โฟไซต์ (Lymphocyte) : สรา้ งภมู ิคุ้มกนั (Immunity) โดยหลัง Antibody ตอ่ สู้กับเชื้อโรค โรคลิวคเี มีย (Leukemai) หรอื โรคมะเรง็ เซลล์เม็ดเลือดขาว คือ โรคท่เี กดิ จากการสร้างเซลลเ์ ม็ดเลอื ดขาวของไขกระดกู ผิดปกติ ทาให้ผปู้ ่วยเกิดอาการผิดปกติตามแต่ชนิดของเซลล์มะเร็ง และอาจตายได้
ระบบหมุนเวยี นโลหติ (Circulartory System) เพลตเลต (Platelet) เพลตเลต หรอื เศษเม็ดเลือด เกล็ดเลือด แผน่ เลอื ดไมใ่ ชเ่ ซลล์ เป็น ช้ินส่วนของเซลล์ ไมม่ สี ี ไม่มี นวิ เคลียสมรี ปู ร่างไม่แน่นอนขนาดเลก็ กวา่ เม็ดเลือดแดงเกือบ 4 เท่า มีอายุ 4 วนั ทาหนา้ ท่ี ชว่ ยในการแข็งตัวของ เลือด ในขณะทเี่ ส้นเลอื ดฉีก
กระบวนการแข็งตวั ของเลอื ด (blood clotting) กระบวนการแข็งตวั ของเลอื ด (blood clotting) มี 2 ข้นั ตอน คอื การเกาะกลุ่มของเกลด็ เลอื ด และการสร้างไฟบรินเพือ่ ประสานเกลด็ เลอื ดทม่ี ารวมกลมุ่ กนั โดยมีวิตามิน K และ Ca ชว่ ยดว้ ย เกล็ดเลือดและเนือ้ เย่อื รอบ ๆ บาดแผนสร้าง โปรธรอมบนิ ในเลอื ด + แคลเซียม (Ca) ธรอมโบพลาสติน thromoplasm ธรอมบิน (thrombin) (วติ ามนิ K + ตับ) ไฟบริโนเจน (fibrinogen) ไพบรนิ (fibrin) (เสน้ ใยละเอยี ดสานปดิ บาดแผลและ เซลลเ์ มด็ เลอื ดแดงตกตะกอนจบั กนั เอง)
กระบวนการแข็งตัวของเลือด (blood clotting) กระบวนการแขง็ ตัวของเลือด
ระบบหมนุ เวยี นโลหติ (Circulartory System) การหมุนเวียนของเลอื ด ภายในหลอดเลอื ดจะถูกควบคมุ โดย รปู การหมนุ เวยี นของเลอื ด หวั ใจ ซงึ่ ทาหน้าที่ เหมอื นเครื่องสบู ฉีด เพื่อ ทาใหเ้ กดิ แรงดันทีส่ ามารถจะดนั ให้เลอื ดไหล ไปตามหลอดเลือดตา่ ง ๆ ทอี่ ยู่ท่วั ร่างกาย และ สามารถไหลกลับเขา้ สหู่ ัวใจได้ ผ้คู ้นพบเป็น คนแรกได้แก่ นกั วทิ ยาศาสตร์ ชาวองั กฤษ ชื่อ วิลเลีย่ ม ฮารว์ ยี ์
ระบบหมนุ เวยี นโลหิต (Circulartory System) หัวใจ (Heart) หัวใจอย่รู ะหวา่ งปอดท้ัง 2 ขา้ ง ค่อนไปทางซ้ายเลก็ น้อย ทาหน้าทส่ี ูบฉีดเลอื ดให้ ไหล ตามหลอดเลือดไปยงั ส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย แล้วไหลกลบั คนื สู่หวั ใจ หวั ใจประกอบ ด้วยกลา้ มเน้ือพเิ ศษที่เรยี กวา่ โครงสรา้ งภายในของหวั ใจ กล้ามเนอ้ื หัวใจมี 4 หอ้ ง แบง่ ออกเปน็ หอ้ งบน 2 ห้อง เรยี กวา่ เอเตรียม (Atrium) หอ้ งลา่ ง 2 หอ้ ง เรยี กว่า เวนตริเคิล(Ventricle) ระหวา่ งห้องบนซา้ ย-ลา่ งซ้าย จะมลี ิน้ ไบคสั พดิ (bicuspid valve) คั่นอยู่ และห้องบนขวา-ล่างขวา จะมีล้นิ ไตรคัสพดิ (tricuspid valve) คนั่ อยู่ ลิน้ หัวใจทาหนา้ ท่ี ปอ้ งกันไมใ่ ห้เลอื ดไหลย้อนกลับ
ระบบหมุนเวียนโลหิต (Circulartory System) วงจรเลอื ด เลือดจากสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย เอเตรยี มซ้าย ผ่านไบคสั พิด เอเตรยี มขวา ผ่านลน้ิ ไตรคัสพิด เวนตริเคลิ ซา้ ย เวนตรเิ คลิ ขวา ปอด
ระบบหมนุ เวียนโลหิต (Circulartory System) สังเกต การไหลเวียน ของเลือดผ่านหัวใจตาม ลูกศร 1. หัวใจห้องบนขวา (Right Atrium) ภาพเคลอื่ นไหวการไหลเวยี นของเลือด รบั หลอดเลือดดาจากหลอดเลอื ดเวน ขนาดใหญ่ 2 เสน้ คอื Superior vena Cava จากส่วนหวั และแขน และ Inferior vena cava จากสว่ นตัวและขา 2. หัวใจห้องบนขวา (Right Atrium) บบี ตวั นาเลือดเข้าสูห่ ัวใจหอ้ งล่างขวา โดยผ่าน ล้ินไตรคสั ปดิ Tricuspid Valve กันอยู่ระหวา่ งหอ้ งบนขวาและล่างขวา
ระบบหมนุ เวยี นโลหิต (Circulartory System) สังเกต การไหลเวยี น ของเลือดผ่านหวั ใจตาม ลกู ศร 3. หัวใจล่างขวา (Right ventricle) บบี ตัว ภาพเคล่อื นไหวการไหลเวียนของเลอื ด เลือดจะไหลผา่ น Pulmonary semilunar Valve เพอื่ ฉดี ไปยังเสน้ เลือด Pulmonary Artery นาไปแลกเปล่ยี นก๊าซที่ปอด โดย จะปล่อย CO2 ออก รบั O2 เข้าแทน เลือด จะไหลกลับส่หู วั ใจทาง Pulmonary vein เข้าหัวใจหอ้ งบนซ้าย (Left Atrium)
ระบบหมนุ เวยี นโลหิต (Circulartory System) สงั เกต การไหลเวยี น ภาพเคลอื่ นไหวการไหลเวียนของเลอื ด ของเลอื ดผา่ นหวั ใจตาม ลูกศร 4. หวั ใจห้องบนซา้ ย (Left Atrium) บีบตวั นาเลือดเขา้ สู่หวั ใจห้องลา่ งซ้าย (Left Ventricle) ผา่ น Bicuspid valve หรอื เรียก อีกชือ่ Mitral valve ทีก่ น้ั อยู่ระหว่างห้อง บนซา้ ยและล่างซ้าย 5. หวั ใจห้องล่างซ้าย (Left Ventricle)บบี ตวั เลอื ดจะเข้าสู่ Aorta หลอดเลือดแดงขนาด ใหญ่ทส่ี ุดในรา่ งกาย และมีลน้ิ Aortic semilunar valve กนั้ ไม่ให้เลอื ด ไหลย้อนกลบั เข้าหัวใจ
ระบบหมุนเวยี นโลหิต (Circulartory System) สังเกต การไหลเวียน ภาพเคล่อื นไหวการไหลเวียนของเลอื ด ของเลอื ดผา่ นหัวใจตาม ลูกศร 5. Aorta จะมแี ขนงต่าง ๆ คือ หลอดเลอื ด Artery สง่ เลอื ดทฟ่ี อกแล้วไปยงั สว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกาย ขอ้ ควรจา - หวั ใจห้องลา่ งซ้าย เปน็ หอ้ งทผี่ นังหนาท่สี ุด เพราะต้องสูบฉีดเลือดแดงไปท่ัวร่างกาย - หลอดเลือดพลั โมนารีอาร์เทอรี บรรจุเลอื ด ดา เพ่อื ไปฟอกท่ปี อด - หลอดเลือดพัลโมนารีเวน บรรจุเลอื ดแดง ที่ฟอกจากปอดแลว้ เขา้ สูห่ ัวใจ
ระบบหมุนเวยี นโลหิต (Circulartory System) หลอดเลือด (blood vessels) หลอดเลอื ด ทาหน้าทลี่ าเลียงเลอื ดจาก หัวใจไปยังอวัยวะส่วนตา่ ง ๆ ทั่วรา่ งกาย และ เป็นเส้นทางใหเ้ ลอื ดจากอวยั วะตา่ ง ๆ ทวั่ ร่างกายกลบั เขา้ สู่หวั ใจ หลอดเลือดในร่างกายมี 3 ชนดิ ได้แก่ 1. หลอดเลือดแดง (Artery) 2. หลอดเลือดดา (Vein) 3. หลอดเลอื ดฝอย (Capillary)
ระบบหมุนเวยี นโลหติ (Circulartory System) 1. หลอดเลือดแดง (Artery) หลอดเลือดแดง เปน็ หลอดเลอื ดที่นาเลอื ดออกจากหัวใจไปยังเซลลต์ ่าง ๆ ของ ร่างกาย มผี นงั หนาแข็งแรง เพอ่ื ให้มีความทนทานต่อแรงดันเลือดท่ถี กู ฉดี ออกไป ไม่ มีล้นิ กนั้ ภายใน เลือดทอ่ี ยูใ่ นหลอดเลอื ดแดง มปี ริมาณแกส๊ ออกซเิ จนมาก เรียกว่า “ เลอื ดแดง ” ยกเวน้ หลอดเลอื ดแดงที่นาเลอื ดออกจากหวั ใจไปยงั ปอดภายในเปน็ เลอื ดท่ีมปี รมิ าณ แก๊สคารบ์ อนไดออกไซดม์ าก เรียกวา่ “ เลอื ดดา ”
ระบบหมนุ เวยี นโลหิต (Circulartory System) 2. หลอดเลอื ดดา (Vein) หลอดเลอื ดดา เปน็ หลอดเลอื ดที่นาเลือดจากสว่ นต่าง ๆ ของร่างกาย เขา้ สู่หัวใจ หลอดเลือดดามผี นงั บางกวา่ หลอดเลือดแดง มลี ิน้ กน้ั ภายใน เพอ่ื ป้องกนั เลือดไหลย้อนกลบั เลอื ดทไี่ หลอยู่ภายในหลอดเลอื ดมีปรมิ าณ แกส๊ คาร์บอนไดออกไซดม์ าก ยกเว้น หลอดเลือดดาที่นาเลือดจากปอดเขา้ สหู่ ัวใจ จะเปน็ เลือดแดง
ระบบหมนุ เวยี นโลหติ (Circulartory System) รูป โครงสรา้ งของหลอดเลอื ดแดง และหลอดเลือดดา
ระบบหมนุ เวยี นโลหิต (Circulartory System) 3. หลอดเลอื ดฝอย (Capillary) หลอดเลือดฝอย เปน็ หลอดเลือดท่ี รูป หลอดเลือดฝอย เช่ือมตอ่ ระหวา่ งหลอดเลอื ดแดงและ หลอดเลอื ดดา สานเปน็ ร่างแหแทรกอยตู่ าม เน้อื เยื่อต่าง ๆ ของรา่ งกาย มขี นาดเล็ก ละเอยี ด เป็นฝอย มีผนงั บางมา ประกอบด้วยเซลล์เพยี งช้นั เดยี ว เป็นแหลง่ ท่มี ีการแลกเปล่ียนแก๊สและ สารตา่ ง ๆ ระหว่างเลือดกับเซลลข์ อง ร่างกาย
ระบบหมนุ เวยี นโลหติ (Circulartory System) ความดนั เลือด (Blood pressure) คือ ความดันท่ีเกิดจากการบีบตัวและคลายตัวของหัวใจ ขณะหัวใจบบี ตวั เลือดจะถูกดนั ออกไปตามหลอดเลือดแดงด้วยความดนั สูงทาใหเ้ ลือดเคลอื่ นท่ไี ปตาม ส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกาย และในขณะท่ีหวั ใจคลายตวั เลอื ดจะไหลกลับเขา้ สหู่ วั ใจตาม หลอดเลอื ดดาดว้ ยความดนั ต่า ความดันเลือดมหี นว่ ยเปน็ มลิ ลิเมตรของปรอทมีค่า ตัวเลข 2 ค่า เชน่ 120 / 80 มลิ ลิเมตรของปรอท 120 = คา่ ความดันเลือด ขณะหวั ใจบีบตัวให้เลือดออกจากหัวใจ (S1:Systolic pressure) 80 = คา่ ความดนั เลอื ด ขณะหวั ใจคลายตัวรับเลือดเข้าสู่หวั ใจ (S2:Diastolic pressure)
ระบบหมุนเวยี นโลหิต (Circulartory System) ความรเู้ พมิ่ เติม ปกติความดันเลอื ดสงู สดุ ขณะหวั ใจบบี ตวั มีคา่ 100 + อายุ ความดนั เลือด ขณะหัวใจรบั เลอื ดไมค่ วรเกิน 90 มิลลิเมตรของปรอท เคร่ืองมือวดั ความดนั เลือด เรยี กวา่ มาตรความดันเลือด (Sphymonanomiter) ใชค้ ู่กับหฟู ังหรอื สเตทโทสโคป (Stethoscope) วดั ความดันทหี่ ลอดเลือดแดงที่ต้นแขน เครอื่ งมอื วัดความดันเลือด
ปจั จยั ทม่ี ีผลต่อความดันเลือด อายุ สภาพรา่ งกาย เพศ ผู้สงู อายมุ ีความดันเลือดมากกว่า เชน่ หลอดเลือดตีบ ระดับไขมันใน ปกติเพศหญิงมีความดนั เลอื ดตา่ เด็ก เน่ืองจากผนงั หลอดเลอื ดมี เลือดสูงจะทาใหค้ วามดนั กวา่ เพศชาย ยกเว้นหญงิ ทกี่ าลงั จะ เลือดสงู ความยดื หยุ่นลดลง หมดประจาเดือน ปัจจยั ท่มี ีผลต่อ ขนาดของร่างกาย ความดนั เลือด อารมณ์ คนทีร่ ่างกายใหญโ่ ตหรอื คนอว้ นจะ การทางาน คนทีเ่ ครียด วิตกกงั วล โกรธ หรอื มคี วามดนั เลือดสงู กวา่ คนผอม ตกใจ จะมคี วามดนั เลือดสงู กว่าคน ทางานหนกั และการออกกาลงั กาย จะมีความดนั เลือดสูง อารมณป์ กติ
ระบบหมนุ เวยี นโลหติ (Circulartory System) ความรู้เพิม่ เตมิ 1. ความดนั เลอื ดเฉล่ียปกติของหญิงในวัยหนมุ่ สาว คอื 110 / 70 มลิ ลเิ มตรปรอท 2. ความดนั เลือดเฉลีย่ ปกตขิ องชายในวยั หนุ่มสาว คือ 120 / 80 มลิ ลเิ มตรปรอท 3. โรคความดันเลือดสูงจะพบมากในผู้สูงอายุ ผูท้ ่โี กรธง่าย และผู้ทีม่ ีจติ ใจอยู่ใน ภาวะเครียดเปน็ ประจา สาเหตุของโรคท่สี าคัญ คอื การตบี ตนั ของหลอดเลือด 4. อารมณ์ เชน่ ขณะโกรธรา่ งกายจะผลิตสารชนดิ หน่งึ ออกมา ซึง่ สารนี้จะมีผลตอ่ การบบี ตวั ของหวั ใจ
ชีพจร (pulse) รปู การวดั ชพี จรที่ ขอ้ มอื ขอ้ ศอก ชีพจร คือ จงั หวะการบบี ตัวและคลายตัวของ และซอกคอ ผนงั เสน้ เลือดตามจงั หวะการเต้นของหวั ใจ โดยปกติหัวใจเต้นเฉลีย่ ประมาณ 72 คร้งั ต่อ 1 นาที และอัตราการเต้นของชีพจรในเพศชาย จะสูงกว่าเพศหญงิ การวดั ชีพจรจะวัดจาก เส้นเลือดแดงบรเิ วณขอ้ มอื และขอ้ ศอก
ระบบหมุนเวียนโลหติ (Circulartory System) การหมนุ เวียนแกส๊ การหมนุ เวียนของแกส๊ ในรา่ งกายจะเกดิ ควบคู่ กบั การหมนุ เวยี นของเลือด โดยส่วนใหญ่แลว้ เป็นการ หมนุ เวยี นของแก๊สที่สาคัญ 2 ชนดิ คอื แก๊สออกซเิ จน และ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ อวัยวะสาคัญที่เกี่ยวขอ้ งกับการหมุนเวียนของ แกส๊ คือ ปอด โดยปอดจะทาหนา้ ท่ี ในการแลกเปลย่ี นแก๊ส ระหว่างแกส๊ ภายในรา่ งกายกับแก๊สที่อยู่ภายนอกร่างกาย
L/O/G/O Thank You! www.kruseksan.com
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: