ระบบขับถา่ ย/กาจดั ของเสีย Excretory System ครเู สกสรรค์ สุวรรณสุข โรงเรยี นแกน่ นครวิทยาลัย www.kruseksan.com
จุดประสงค์การเรียนรู้ เมอ่ื เรยี นจบหัวข้อนแี้ ลว้ นกั เรยี นควรจะสามารถ 1. ระบอุ วัยวะทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับการกาจดั ของเสียทางไต 2. อธิบายกระบวนการทางานของไต 3. สรปุ ความสาคญั ของไตและตระหนกั ถงึ การดูแลรกั ษาไต 4. ระบุโครงสรา้ งทใ่ี ช้ในการขบั ถ่ายของเสียของสตั วบ์ างชนิด
ของเสีย (Waste) คอื สิง่ ทรี่ ่างกายขบั ออกมาหรอื ของส่วนเกินต่าง ๆ ทีเ่ กิดจาก กระบวนการเมแทบอลซิ มึ ทร่ี ่างกายไมต่ อ้ งการใชแ้ ล้ว และไมม่ ี ประโยชน์จึงขับออกไปนอกร่างกาย นอกจากแก๊ส CO2 จากระบบ หายใจ เหงือ่ จากทางผวิ หนัง และอจุ จาระจากระบบยอ่ ยอาหารแล้ว ยังมีของเสียในรูปไนโตรเจน (N) เป็นองค์ประกอบหลัง ท่ีเรียกวา่ Nitrogen waste
ประเภทของของเสยี ในสิ่งมชี วี ติ Nitrogen waste ความเป็ น สถานะ พลงั งานทีใ่ ช้ใน สิ่งมชี ีวติ พษิ การขบั แอมโมเนยี (NH3) สงู มาก ก๊าซ ปานกลาง สัตว์ชันต้า, ปลา กรดยรู กิ ละลายนา้ ไดด้ ี ,สัตวค์ รงึ บกครึง (Uric acid) ตา้ สูงทีสดุ ยเู รีย (Urea) ของแขง็ น้อยทีสุด นา้ ปานกลาง ไมล่ ะลายนา้ ของเหลว สตั วเ์ ลือยคลาน, แมลง ,นก คน, สัตว์เลยี ง ลกู ดว้ ยนม
อวัยวะทใ่ี ชใ้ นการขบั ถ่ายของสงิ่ มีชีวติ สิ่งมชี ีวติ โครงสร้างทใ่ี ช้ อะมีบา พารามีเซียม (ส่ิงมชี ีวติ เซลล์เดยี ว) เยอ่ื หุ้มเซลล์, Contractile vaccuole เพอ่ื ขบั นา้ ส่วนกนิ ฟองนา้ , ไฮดรา แพร่โดยตรงเข้าเซลล์ หนอนตวั แบน Flame cell ไส้เดอื นดนิ Nephridia แมลง Mulphighian Tubule สัตว์มีกระดูกสันหลงั , คน Kidney (ไต)
ปจั จัยทม่ี ผี ลต่อการดารงชวี ิตของมนุษย์ มนุษยเ์ ป็นสิ่งมีชวี ติ หลายเซลล์ ส่ิงแวดล้อมภายนอกร่างกาย ส่ิงแวดลอ้ มภายในรา่ งกาย > 70% นา้ อุณหภมู ิ ความเป็นกรด - เบส อืน่ ๆ
การรักษาสมดลุ ร่างกาย (Homeostasis) สง่ิ มีชีวติ ตา่ ง ๆ (ระบบขบั ถ่าย) สารที่รา่ งกายจาเป็นต้องกาจดั ออก เรียกวา่ ของเสีย 1. การรักษาสมดลุ ของของเหลวในรา่ งกาย (Regulation of body fluid) - สมดุลเกลือและนา้ - สมดลุ กรด ดา่ งในเลือดและของเหลวนอกเซลล์ - สมดุลของสารละลายในเลือดและของเหลวในร่างกาย 2. การรักษาอณุ หภมู ิของรา่ งกาย (Thermoregulation)
การรักษาสมดุลร่างกาย (Homeostasis) การรักษาสมดุลของเหลวในรา่ งกายของสตั ว์นา้ จืดและสตั ว์น้าเคม็ H2O (osmosis) Hypertonic นา้ เข้มขน้ มากกวา่ ของเหลวในปลา Hypotonic นา้ เข้มข้นน้อยกว่าของเหลวในปลา นา้ เค็ม นา้ จืด การปรับตัวตวั ด่มื นา้ นอ้ ย เหงอื กดดู เกลอื แร่ ด่มื น้ามาก เหงอื กกา้ จดั แร่ธาตุสว่ นเกนิ ออก (active transport) ปัสสาวะน้อยเขม้ ขน้ ปสั สาวะบ่อยเจือจาง
ผวิ หนงั / เกลด็ ปอ้ งกนั แร่ธาตุ H2O สาร > นา้ กลุม่ เซลลข์ ับ ปสั สาวะน้อยและมีความเข้มขน้ สูง / แร่ธาตุส่วนเกิน กา้ จดั ทางทวารหนกั Hypertonic sol H2O ผวิ หนงั / เกลด็ ปอ้ งกนั น้า Active transport Hypotonic sol> กลุ่มเซลลด์ ดู แร่ธาตกุ ลับ สาร น้า ปัสสาวะบอ่ ยและคอ่ นขา้ ง มีความเจอื จาง
อวยั วะในการรักษาสมดุลของสงิ่ มชี วี ิตบางชนิด 1. Contractile Vacuole [contract= บีบตัว] พบ ในสงิ่ มีชีวติ เซลล์เดยี ว เชน่ อะมีบา พารามเี ซียม นอกจากนี้ยงั ใชเ้ ย่ือหุ้มเซลลใ์ นการขบั สารด้วย
อวัยวะในการรกั ษาสมดุลของส่งิ มชี วี ติ บางชนดิ Contractile Vacuole [contract= บีบตัว] ทาหน้าท่ี ขับนา้ ท่ีมากเกินไปออกจากเซลล์ เพื่อรกั ษาปริมาณน้าภายในเซลล์ ใหพ้ อเหมาะ (Osmoregulation)
อวยั วะในการรกั ษาสมดลุ ของสง่ิ มชี วี ิตบางชนิด 2. Cell membrane พบในสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ เชน่ ฟองนา้ และกล่มุ ไฮดรา เปน็ ตน้
อวัยวะในการรกั ษาสมดลุ ของสิ่งมชี ีวติ บางชนดิ 1. โพรโทซัวนา้ จืด จะกา้ จัด - แอมโมเนยี และ CO2 ด้วยการแพร่ผา่ นเยื่อหุ้มเซลล์โดยตรง เพราะแอมโมเนีย และ CO2 มีขนาดเล็ก - น้าทม่ี ากเกิน จะใชค้ อนแทรก็ ไทล์แวคิวโอล ควบคุมแรงดัน Osmoregulator ทา้ หนา้ ที่ คล้ายไต 2. โพรโทซวั น้าเคม็ ไม่มคี อนแทร็กไทลแ์ วควิ โอล เพราะแรงดนั ของน้าทะเลสูงกว่าของรา่ งกาย ท้าใหม้ โี อกาสสูญเสียนา้
อวัยวะในการรกั ษาสมดลุ ของสง่ิ มีชวี ติ บางชนดิ 3. Flame cell พบในสง่ิ มชี วี ติ เช่น พลานาเรีย ท่อขบั ถ่าย Flame cell พลานาเรยี
อวยั วะในการรกั ษาสมดลุ ของสิง่ มีชวี ติ บางชนิด 4. Nephridium พบในสง่ิ มชี วี ติ เชน่ ไส้เดอื นดิน ปอ้ งละ1 คู่ เน่ืองจากมโี ครงสร้างรา่ งกายท่ีซับซ้อนมากย่ิงข้นึ หลักการทางาน คล้ายไต Nephriopore Nephriostome
อวัยวะในการรกั ษาสมดลุ ของสง่ิ มีชีวิตบางชนิด 5. Malpighian tubule พบในสงิ่ มีชีวติ เช่น แมลง ทอ่ มลั พเิ กยี ล ทวารหนัก
6. Salt gland ต่อมเกลือ เชน่ นกทะเล เตา่ ทะเล ทาหนา้ ที่ ขับแร่ธาตุส่วนเกนิ ออก (Nasal gland) เต่าทะเล นกทะเล
www.vcharkarn.com/vcafe/8273
อวัยวะในการรักษาสมดุลของมนุษย์ การขบั ถา่ ยของสัตว์ สัตวน์ า้ เลีย้ งลูกดว้ ยน้านม สตั ว์ปกี /สัตว์เลอื้ ยคลาน แอมโมเนีย ยเู รีย ยรู กิ ปลา, คร่ึงบกครึง่ น้า สุนัข, มนุษย์ นก, ไก,่ จิง้ จก, งู
เร่ืองของ ขจี้ งิ้ จก... กบั ....คนขสี้ งสัย (จากคาถามหน่ึง นาไปสู่ความรู้มากมาย)
\"ขจี้ งิ้ จกหนึ่งก้อน มีสองสีคอื สีดา กบั สีขาว ทอ่ี กี ปลายน้ันน่ะ สีดาคอื อุจจาระ ส่วนสีขาวคอื ปัสสาวะ โดยเวลามันถ่ายจะถ่ายออกมาพร้อมกนั ทางช่องทวารเดยี วกนั สัตว์เลอื้ ยคลานและสัตว์ปี กจะขบั ถ่ายเช่นนี้ เช่น ขตี้ ุ๊กแก จงิ้ เหลน ขนี้ ก ซึ่งแตกต่างจากสัตว์เลยี้ งลูกด้วยนมอย่างเรา ๆ \" \"แล้วทาไม ปลายจุดถึงมีสขี าว ทาไมขี้คนไมม่ สี ีขาว\"
อวยั วะในการรกั ษาสมดลุ ของสิง่ มชี วี ติ บางชนดิ Kidney พบในสง่ิ มีชวี ิตหลายชนดิ ท่ีมโี ครงสรา้ งคอ่ นข้าง ซับซอ้ น เช่น หอย หมกึ สัตว์มีกระดกู สันหลงั ไตเกิดจากการ รวมตัวของ Nephridium Renal cortex Renal medulla Renal pelvis ท่อไต
การรกั ษาดลุ ยภาพของนา้ และสารในรา่ งกายคน ถา้ ปริมาณนา้ ทรี่ บั เขา้ และขบั ออกไม่สมดุลกนั จะเกิดปัญหาแกร่ า่ งกาย อย่างไร Renal cortex Renal medulla Renal pelvis ท่อไต
สตั วม์ ีกระดกู สันหลังอนื่ ๆ ทั้งคนมีระบบควบคมุ ดุลยภาพนา้ ประกอบดว้ ยไต (Kidney) ท่อไต (Ureter) และกระเพาะ ปัสสาวะ (Urinary bladder) และขบั ออกทาง ทอ่ ปัสสาวะ (Urethra)
ของเหลวทีร่างกายรบั เขา้ ของเหลวทรี ่างกายขบั ออก เครอื งดมื 1,200 cm3 ปสั สาวะ 1,500 cm3 อาหาร 1,000 cm3 เหงือ 500 cm3 กระบวนการหายใจ 300 cm3 หายใจออก 350 cm3 อจุ จาระ 150 cm3 รวม 2,500 cm3 รวม 2,500 cm3
นา้ ในร่างกายคนเรา ถกู แบง่ ด้วยเยือห้มุ เซลลอ์ อกเปน็ 3 สว่ น คอื 1. น้านอกเซลล์ (Extracellular) คอื น้าในรา่ งกายอยู่ ภายนอกเซลล์ หนา้ ที่ รักษาสภาพแวดลอ้ มนอกเซลลใ์ ห้คงท่ี ไดแ้ ก่ พลาสมาหมุนเวียนในเลือด สว่ นอยรู่ ะหว่างเซลล์ และ น้าเหลอื ง (Lymph) 2. น้าขา้ มเซลล์ (Transcellular) คือ ส่วนนา้ นอกเซลลท์ ่ี ลักษณะพเิ ศษ ทถี่ ูกหลง่ั จากเซลลเ์ ยอื่ บุ (Epithelium) ดว้ ย วิธีแอกทีฟทรานสปอรต์ มาหลอ่ เลย้ี งตามชอ่ งเฉพาะของร่างกาย ไดแ้ ก่ นา้ ไขสนั หลงั 3. นา้ ในเซลล์ (Intracellular) คอื ส่วนท่ีอยภู่ ายในเซลล์ เปน็ แหล่งเกดิ กระบวนการเมตาบอลิซึมในเซลล์ มีปริมาณกวา่ ครงึ่ ของน้าทั้งหมดในรา่ งกาย
อวัยวะในการรักษาดลุ ยภาพของนา้ ในร่างกายมนุษย์ การควบคมุ การทา้ งานของไต เหง่ือ (Sweal) หรือหายใจทางปอด กระหาย ดม่ื นา้ ลดความ เขม้ ขน้ เลอื ด ตัวรับความ เขม้ ข้นเลอื ด เลอื ดความเขม้ ข้นเพ่ิม แรงดันออสโมตกิ สูง ADH ทาให้ท่อหน่วยไต (convoluted tubule) เพิ่มการดดู น้ากลบั ขับถ่ายปสั สาวน้อยลง ADH (antidiuretic hormone) ฮอรโ์ มนแอนตไิ ดยเู รติก
Kidney ควบคุมสมดลุ นา้ และอเิ ลก็ โทรไลต์ของร่างกาย ควบคุมความเป็ นกรดเบสของของเหลวในร่างกาย ขบั ถ่ายของเสีย ซ่ึงเกดิ จากเมแทบอลซิ ึมของร่างกาย เกดิ สารบางอย่างทเี่ ป็ นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น กลูโคส ขบั ถ่ายสารแปลกปลอมทร่ี ่างกายรับมา เช่น ยารักษาโรค สร้างสารบางชนิดที่เป็ นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ฮอร์โมนเรนนิ (renin)
การรกั ษาดุลยภาพของน้าในร่างกายมนษุ ย์ สมองสว่ นไฮโพทาลามสั Renal artery Kidney Renal vein กรองและก้าจดั Ureter (ทอ่ ไต) ต่อมหมวกไต Urinary bladder Urethra (กระเพาะปัสสาวะ) Urine
Kidney ช่องท้องค่อนไปทางด้านหลงั 2 ข้างระดบั เอวตามแนวกระดูกสันหลงั คล้ายเมลด็ ถวั่ แดง กรองของเสียออกจากเลอื ด หน้าท่ี รักษาดุลยภาพของนา้ + แร่ธาตุ
โกลเมอรูลัส Glomerulus สว่ นประกอบของหนว่ ยไตเปน็ เส้นเลือดฝอยภายในกระเปาะโบวแ์ มนแคปซูล กรองของเสียออกจากเลือด ของเหลวทไ่ี ต หนว่ ยไต Nephron องคป์ ระกอบของไต รีนัลคอรเ์ ท็กซ์ (เนอื้ ไตสว่ นนอก) รนี ัลเมดลั ลา (เนอ้ื ไตส่วนใน) กรองของเสียออกจากเลอื ด และรักษาดลุ ยภาพของนาและแรธ่ าตุ นาปัสสาวะ
ปริมาณของสารต่างๆ ในน้าเลือด / ในของเหลวทไี่ ต / ในน้าปสั สาวะ ผ่านโกลเมอรูลสั ผ่านท่อหน่วยไต สาร ในนา้ เลอื ด ในของเหลวทไ่ี ต ในนา้ ปัสสาวะ ( g / 100cm3 ) ( g / 100cm3 ) ( g / 100cm3 ) นา้ 90 90 95 โปรตนี 8 - - ยูเรีย 0.03 0.03 1.8 กรดยูริก 0.004 0.004 0.05 กลูโคส 0.1 0.1 - กรดอะมโิ น 0.05 0.05 - ไอออนต่างๆ (Na+ , Cl-) 0.9 0.9 < 0.9-3.6
ไต (Kidney) และโครงสรา้ งหนว่ ยไต Kidney หรือ ไต เป็นอวยั วะขบั ถ่ายทสี่ าคญั ของมนุษยแ์ ละสัตว์ เลี้ยงลูกดว้ ยนา้ นมทั่วไป ไต เป็นอวัยวะครู่ ปู ร่างเหมือนเมล็ดถั่ว เปน็ อวัยวะท่มี ีเลือดมาเลีย้ งถึง 20% ของการบบี ตวั ของหวั ใจ หนง่ึ ครงั้ หน้าท่ีของไต คอื กรองของเสยี ออกจากเลือด Renal cortex ช่วยกาจดั สารบางอย่าง ไตส่วนในสรา้ งฮอรโ์ มน Erithropoietin ช่วยกระตุ้นไขสันหลัง Renal medulla ให้สรา้ งเมด็ เลอื ดแดง ไต มีหนว่ ยยอ่ ยสุดคือ Nephron หรอื หน่วยไต และมเี นอ้ื เยือ่ 2 ชั้นคอื Renal cortex (ชัน้ นอก) Renal medulla (ช้นั ใน)
โครงสรา้ งไต 1. ไต มขี นาดยาวประมาณ 10-13 cm กว้าง 6 cm และหนา 3 cm ผนัง ช่องกลวง คอื เนื้อไต ช่องในไต เรียกว่า กรวยไต (Pelvis) ก้านของ กรวย คอื ท่อไต (Ureter) จากนั้น นาของเหลวไปรวมกนั ในกระเพาะ ปัสสาวะ (Bladder) 2. เน้ือไต แบ่งเป็ น 2 ชั้น ชั้นนอก คอื Cortex ช้ันใน คือ Medulla และภายใน เนื้อไต ประกอบด้วยหน่วยไต (Nephron) จานวนมากมาย ไตแต่ละข้างมี หน่วยไตประมาณ 1 ล้านหน่วย www.medindia.net/.../Images/kidney.gif
รายละเอยี ดโครงสร้างเนอื ไต 1. Cortex เป็ นเน้ือไตช้ันนอก ประกอบด้วย โครงสร้างส่วนใหญ่ของหน่วยไต (Nephron) ซึ่งได้ Bowman Capsule ท่อของหน่วยไต ตอนต้น หรือท่อขดส่วนต้น หรือ พรอกซิมอล คอนโวลเู ตด ทวิ บูล (Proximal convoluted tubule) ท่อของหน่วยไตตอนปลาย ดสิ ตอล คอนโวลเู ตด ทวิ บูล (Distal convoluted tubule) 2. Medulla เป็ นเน้ือไตชั้นใน ตรงกลางมีช่องของกรวยไต (Pelvis) ต่อกบั ท่อไต (Ureter) ซ่ึงเป็ นก้านกรวย ภายในเน้ือไตช้ันเมดลั ลา ยงั ประกอบด้วย ห่วงเฮนเล (Loop of Henle หรือ Henle loop) มีลกั ษณะเป็ นห่วงรูปตัวยู www.medindia.net/.../Images/kidney.gif
Capsule Cut Section of Kidney Cortex Medulla Calyx Renal artery Renal papilla Renal vein Fat in renal Renal pelvis Renal pyramid in sinus renal medulla Ureter Renal sinus www.medindia.net/.../Images/kidney.gif
อวยั วะในการรักษาสมดุลของมนษุ ย์ การท้างานของไต หลอดเลอื ด นาเลอื ดไปกรองท่ไี ต เป็ นระบบเลอื ดทมี่ อี อกซิเจนสูง คอื หลอดเลอื ดแดง (renal artery) ตอนปลาย ของรีนัลอาร์เทอรี แตกแขนงเป็ นกล่มุ ขณะผา่ นไตมกี ารกรอง หลอดเลือดฝอย เรียกว่า Glomerulus ท่ี โบร์แมนแคปซูลหุ้มรอบก่อน แล้วแตก แขนงเป็ นร่างแหพนั รอบส่วนต่าง ๆ ของ นา้ ปสั สาวะ ท่อของหน่วยไต ตรงบริเวณโค้งรูปตัวยู ของห่วงเฮนเลน และวาซาเรกตา (Vasa recta) ทางานเป็ น ระบบเรียกว่า Counter current multiplier กรองของเหลวมีความเข้มข้นสูง
อวัยวะในการรกั ษาสมดลุ ของมนษุ ย์ การท้างานของไต ภายหลงั เลือดไปเลยี้ งส่วนต่าง ๆ ของท่อ หน่วยไตแล้ว เลอื ดทมี่ อี อกซิเจนต่าจะเข้าสู่ รีนัลเวน (Renal vein) และไหลออกจากไต ไป ขณะผา่ นไตมกี ารกรอง น้าปัสสาวะ
อวัยวะในการรักษาสมดลุ ของมนษุ ย์ การทา้ งานของไต Cortex Nephron Medulla ท่อหน่วยไต (convoluted tubule) แบ่งเป็ น 3 ส่วน 1. ท่อหน่วยไตตอนต้น หรือ Proximal convoluted tubule ดูดสารมีประโยชน์ 2. ห่วงเฮนเลน หรือ Henle loop หลอดโค้งตัวยู 3. ท่อหน่วยไตตอนท้าย หรือ Distal convolud tubule มี ADH
อวัยวะในการรกั ษาสมดุลของมนษุ ย์ การท้างานของไต Bowman’s capsule DCT PCT Loop of Henle Collector duct น้าปสั สาวะ
การดูดสารกลบั ทท่ี ่อหน่วยไต (Tubular reabsorption) การท้าให้น้าปสั สาวะเข้มข้น โดยการดดู กลบั NaCl และ นา้ 300 mmOsm/L กรอง 100 300 mmOsm/L HCO-3 H+ 200 300 NH3 400 NaCl H2O 600 NaCl 1200 H2O 400 K+ NaCl สารอาหาร H2O NaCl 700 H2O 400 mmOsm/L ดดู กลบั NaCl 600 mmOsm/L NaCl Urea 900 mmOsm/L H2O NaCl 1200 mmOsm/L H2O 1200 H2O Active trans. Passive trans.
ในกระบวนการดดู สารกลบั ของทอ่ หนว่ ยไตใช้การลาเลยี งสาร แบบไมใ่ ช้พลงั งานของเซลล์ แบบใช้พลงั งานของ เซลล์(Active transport) (Passive transport) น้า , ยูเรีย , Cl- , HCO-3 กลูโคส , กรดอะมโิ น , Na+ , K+ สมองส่วนใดของรา่ งกายทค่ี วบคมุ สมดุลของปรมิ าณนา้ ในเลือด ไฮโพทาลามัส Hypothalamus ปลายประสาทในต่อมใต้สมองส่ วนท้ าย ADH = Anti – Diuretic Hormone
เลอื ดทม่ี ีความเขม้ ขน้ มาก ปริมาณปัสสาวะมาก เลือดทม่ี ปี ริมาณน้าในเลอื ดนอ้ ย ปรมิ าณปัสสาวะน้อย ยบั ยัง ไฮโพทาลามสั ปรมิ าณนา้ ในเลอื ดมาก ไต ดูดนากลับ กระตุ้นใหห้ ล่ัง ADH ต่อมใต้สมองส่ วนท้าย ยบั ยังการหลงั่ ADH ดม่ื นา้ กระหายนา้
อวยั วะในการรักษาสมดุลของมนษุ ย์ การกรองสารชนดิ ตา่ งๆ ในหนว่ ยไต
การขับถ่ายปัสสาวะ (Micturition) เม่อื ของเหลวที่กรองได้ผา่ นหน่วยไตมาแล้ว และของเหลวไหลมาถงึ ทอ่ รวม หรือ คอลเลกตงิ ทิวบลู จะเรยี กวา่ น้าปสั สาวะ ต่อจากนน้ั ส่งไปเก็บไวท้ ี่ กระเพาะปัสสาวะ การขับปัสสาวะอาศัยหลกั 3 อย่าง 1. ปสั สาวะเพ่มิ มากขึน้ จนความตงึ ในกระเพาะปสั สาวะสูง ถึงระดับกล้ัน (Threshold) 2. เกิดรีเฟลกซ์การถ่ายปัสสาวะ ทา้ ใหก้ ระเพาะปัสสาวะบบี ตัว 3. ย่ิงเพ่ิมความดนั ในกระเพาะปสั สาวะมากข้นึ กจ็ ะทา้ ให้มีความรสู้ ึกอยากถา่ ย ปัสสาวะ
อาการผดิ ปกติเกยี่ วกบั การขบั ถ่ายโดยไต 1. เบาหวาน (Diabetes mellitus) เกิดจากตบั ออ่ นไมส่ ามารถสรา้ งฮอร์โมน Insulin ได้มากพอมาควบคุม ระดบั น้าตาลในเลอื ดให้ปกติ ทอ่ หน่วยไตตอนต้น PCT ไมส่ ามารถดูดน้าตาลกบั คนื เขา้ สู่เลือด จึงมนี า้ ตาลกลูโคสปนออกมากับปสั สาวะ 2. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis) เกิดจากการตดิ เชื้อแบคทเี รีย ซง่ึ ปนเปอื้ นจากอจุ จาระ จะปัสสาวะบ่อย 3. โรคนิ่ว ทัง้ นิ่วในไต หรือทอ่ ไต และนิว่ ในกระเพาะปัสสาวะ เกดิ จากตะกอนขางแร่ ธาตตุ า่ ง ๆ ในปัสสาวะไมล่ ะลายแต่รวมตวั กันเปน็ ก้อน ไปอุดตามทางเดนิ ปสั สาวะ รักษา ใช้ยา หรอื การผ่าตัด หรือการสลายนิว่ 4. โรคไตวาย (Renal failure) เป็นภาวะทไ่ี ตสูญเสยี หนา้ ทกี่ ารท้างาน มีการสะสมของเสยี รักษาต้องใชย้ า หรือฟอกเลือด หรือใชไ้ ตเทียม
อาการผิดปกติเก่ียวกบั การขบั ถ่ายโดยไต 5. เบาจืด (Diabetes insipidus) ต่อมใต้สมองหล่ังฮอร์โมน ADH น้อยเกินไปท้าให้มีการดดู ท่อกลบั คืนท่อ ขด ส่วนทา้ ยน้อย ปัสสาวะจงึ มนี ้ามากกว่าปกติ 6. Uremia ผลติ ภณั ฑ์ของเมแมบอลิซมึ ของโปรตนี ไปสะสมในเลือดมาก เชน่ ยูเรยี เกิด อาการชอ็ ค 7. Renal glucosuria เปน็ ความผดิ ปกติของท่อหน่วยไตไม่ดูดกลับกลูโคสได้ ท้าใหพ้ บกลโู คสในนา้ ปสั สาวะ เป็นโรคเบาหวาน
ไตเทียม (Artificial Kidney) เป็นเครอ่ื งมือท้าหนา้ ทแี่ ทนไต มชี ่อื เรยี กทางวทิ ยาศาสตร์ วา่ “เคร่อื งเฮโมไดอาไลเซอร์ (Hemodialyzer)” อยนู่ อกรา่ งกาย ใชเ้ ปน็ คร้งั คราวเทา่ นัน้ ประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง คร้ังละ 3 ชวั่ โมง โดยเอา หลอดเลือดอารเ์ ทอรี และหลอดเลือดเวน ต่อเข้ากบั ทอ่ ของเคร่ือง
3. การรักษาดลุ ยภาพของความเป็ นกรด – เบสภายในร่างกาย ในคนปกติ pH อยรู่ ะหว่าง 7.35 – 7.45 ถา้ เลอื ดมี pH ต้่ากวา่ 7.35 หมายความว่า เลอื ดของบคุ คลนัน้ เปน็ กรด มากกว่าปกติ เรียกว่า Acidosis ถ้า pH สงู กวา่ 7.45 หมายความวา่ เลือดของบุคคลนน้ั เปน็ ดา่ งมากกว่าปกติ เรยี ก Alkalosis Acidosis ตา่ กว่า 7.35 ปกติ (7.35-7.45) Alkalosis สูงกว่า 7.45 สมการรักษาดลุ ยภาพกรด - เบสในเลือด CO2 + H2O H2CO3 H+ + HCO3- กรดคารบ์ อนกิ ไฮโดรเจนไอออน ไอโดรเจน คารบ์ อเนต ไอออน
3. การรักษาดุลยภาพของความเป็ นกรด – เบสภายในร่างกาย สมการรกั ษาดุลยภาพกรด - เบสในเลือด CO2 + H2O H2CO3 H+ + HCO3- กรดคารบ์ อนิก ไฮโดรเจนไอออน ไอโดรเจน คารบ์ อเนต ไอออน ร่างกายรักษาดุลยภาพของกรด – เบส ในเลือดโดยการรกั ษาดลุ ยภาพของไฮโดรเจน ไอออน H+ ทเี่ กิดจากกระบวนการเมแทบอลิซึม กระบวนการหลกั คอื กระบวนการ หายใจระดับเซลล์ ซึง่ มี CO2 เป็นผลผลติ รวมตัวกบั น้าในเซลลเ์ มด็ เลอื ดแดง เปน็ กรดคารบ์ อนกิ แตกตวั จะได้ H+ และ HCO3- ร่างกายมีเมแทบอลิซึมสงู จะมี CO2 เกดิ ข้ึนมาก ส่งผลให้ H+ สูง ไตมบี ทบาทในการรักษาความเป็นกรด – เบส ของเลอื ด เมอ่ื pH ของเลือดตา่้ หน่วยไตขบั สารท่มี ีส่วนประกอบของ Na+ และ NH4 ออกจากเลอื ด และดูดกลับ ไอออนบางประเภท ซง่ึ ลดความเปน็ กรด ไดแ้ ก่ Na+ และ HCO3-
Search