เมาส์ เมาส์ (อังกฤษ: mouse) คืออุปกรณ์ท่ีใช้ในการควบคุมตัวชี้บนจอคอมพิวเตอร์ mouse pointerเปน็ อุปกรณส์ าคญั ในการใช้งานคอมพิวเตอรช์ ้ินหนึง่ ซ่ึงปัจจุบันถูกออกแบบ มาให้มีรูปร่าง ลักษณะ สีสัน ต่างๆกัน บางรุ่นมีไฟประดับให้สวยงาม เพ่ือให้เมาะสมกับ การใช้งานในแตล่ ะประเภทและความช่ืนชอบของผู้ใช้ เช่นมีขนาดเล็ก มีส่วนโค้งและส่วน เวา้ เข้ากับองุ้ มอื ของผูใ้ ช้ มีรูปร่างสีสนั แปลกตาไปจากรุ่นท่ัวๆไป หรือเป็นรูปตัวการ์ตูน และ ล่าสุดได้มีการพัฒนา เมาส์อากาศ Air Mouse ซึ่งสามารถใช้งานเมาส์โดยถือข้ึนมาเอียง ไปมาในอากาศโดยไม่จาเป็นตอ้ งใช้แผน่ รอง กส็ ามารถควบคมุ ตวั ชี้ได้เช่นกัน ลักษณะการทางานของเมาส์ 1: เมอ่ื เคลอื่ นเมาส์ ลกู บอลดา้ นล่างจะหมนุ 2: จานหมุนสองแนว จับการเคลื่อนไหวของลกู บอล 3: เมื่อจานหมุนทาการหมุน รบู ริเวณขอบจานหมนุ หมนุ ตาม 4: แสงอินฟราเรด ส่งผ่านรจู านหมนุ 5: เซนเซอรอ์ า่ นค่า และส่งเปน็ คา่ ของความเรว็ การเคลอ่ื นไหวในแนวแกน X และแกน Y
แป้นพิมพ์ แป้นสาหรับพิมพ์ (ตัวอักษรและตัวเลข) แป้นเหล่าน้ีประกอบด้วยตัวอักษร หมายเลข เครื่องหมายวรรคตอน และแปน้ สัญลกั ษณแ์ บบเดียวกบั ทม่ี ีอยู่บนเคร่อื งพิมพ์ดดี แบบเกา่ แป้นควบคุม แป้นเหล่าน้ใี ช้แป้นเดยี วหรือใชร้ ่วมกับแปน้ อน่ื เพื่อดาเนินการบางอย่าง แป้นควบคุมที่ใช้บ่อยที่สุดคือ Ctrl, Alt แป้นโลโก้ Windows รูปภาพของแปน้ โลโก้ Windows และ Escแป้นฟังก์ชัน แป้นฟังก์ชัน ใช้สาหรับการทางานบางอย่าง แป้นเหล่านี้มีช่ือกากับตั้งแต่ F1, F2, F3 ไปจนถึง F12 ฟังก์ชันการ ทางานของแป้นเหล่านีแ้ ตกต่างกนั ออกไปในแต่ละโปรแกรมแป้นนาทาง แป้นเหล่านี้จะใช้เพ่ือเลื่อนไป ตามตาแหน่งต่างๆ ของเอกสารหรือเว็บเพจ รวมถึงแก้ไขข้อความได้ ซ่ึงได้แก่ แป้นลูกศร, Home, End, Page Up, Page Down, Delete และ Insertแป้นพิมพ์ตัวเลข แป้นตัวเลขมีประโยชน์เม่ือ ตอ้ งการป้อนหมายเลขอย่างรวดเรว็ แป้นเหลา่ นี้จดั ไว้เป็นบลอ็ กเดยี วกนั แบบเดียวกับเครือ่ งคดิ เลขที่ใช้ กนั ปกตหิ รือเครอ่ื งบวกเลข
หนา้ จอ จอภาพ เป็นอุปกรณท์ ี่รบั สญั ญาณจากการ์ดแสดงผล มาแสดงเป็นภาพบน จอภาพ ซ่ึง เทคโนโลยจี อภาพในปัจจุบันคงจะเป็น จอภาพแบบ Trinitron และ Flat Screen(จอ แบน) ไม่ว่าจะเป็น CRT(moniter ท่ัวไป) หรือ LCD (จอท่ีมีลักษณะแบนเรียบทั้ง ตวั เครื่อง)จอแบนจะมีประสิทธิภาพ ในการแสดงผลมากกว่าจอปกติ เพราะสามารถลด แสดงสะท้อนไดด้ ี กวา่ ทาให้ไม่เกิดอาการเมื่อยล้า และปวดตาเม่ือต้องทางานนาน ๆ แต่ ราคาของจอแบนยังมีราคาสูงกว่า จอปกติพอสมควรทาให้ยังไม่เป็น ที่นิยมมากนัก แต่ ในอนาคตอันใกล้จอแบนคงจะมีราคาท่ีถูกกว่านี้และเป็นมาตรฐานของจอภาพ คอมพวิ เตอรใ์ นอนาคต
เคส (Case) มีลกั ษณะเป็นเหมอื นกลอ่ งทรงสีเ่ หลีย่ มทาดว้ ยโลหะหรอื พลาสตกิ ชนดิ แข็ง เคสเปน็ อุปกรณท์ ี่ใช้บรรจุ ชิ้นสว่ นอปุ กรณ์ตา่ งๆ ของเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น เมนบอร์ด(Mainboard) แรม(RAM) ซีพียู(CPU) การ์ดจอ(Graphic Card) ฮาร์ดดิสก์(Harddisk)และอื่นๆ โดยทั่วไปเคสจะมี 2 แบบ คือแบบวางแนวนอนหรือแบบเดสท็อป(Desktop) และแบบวางแนวต้ังหรือแบบ (Tower)สาหรับแบบทาวเวอร์น้ันยังแบ่งออกได้อีกเป็น 3 ขนาด คือ ขนาดเล็กที่เรียกว่า มินิทาว เวอร์(Mini Tower)ขนาดกลางหรือมีเดียมทาวเวอร์(Medium Tower) และขนาดใหญ่หรือฟลู ทาวเวอร(์ Full Tower) เครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ ่ีใชง้ านตามบ้านหรอื สานักงานส่วนใหญ่จะเป็นแบบมินิ ทาวเวอร์และมเี ดียวทาวเวอร์ส่วนขนาดใหญ่นนั้ มักพบในเครอ่ื งเซิฟเวอร์ขนาดเลก็
หูฟงั หูฟังมีตน้ กาเนดิ มาจาก นาทาเนยี ล บอลดว์ นิ (อังกฤษ: Nathaniel Baldwin) นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เป็นผปู้ ระดิษฐ์ชดุ หฟู ังวิทยคุ นแรก แรกเริ่มการคดิ คน้ ยงั ไมไ่ ดร้ ับความสนใจจากนักธุรกิจเท่าไหร่ จนกระท่งั ช่วงตน้ สงครามโลกครง้ั ที่หนง่ึ กองทัพเรือสหรัฐอเมริกาไดส้ งั่ ซ้ือชุดหฟู งั 100 ชุด ทาให้วงการ ชดุ หฟู ังเปน็ ทีร่ จู้ ักมากขน้ึ หลังจากนนั้ นักบนิ สองคนซงึ่ เป็นผู้ก่อต้ังบรษิ ทั แพนทรอนกิ ส์ (องั กฤษ: Plantronics) ไดเ้ ร่มิ ผลิตชุดหฟู งั ทม่ี นี ้าหนกั เบาเหมาะสาหรบั การสวมใส่ โดยทดลองใช้ในเครอ่ื งบนิ เปน็ คร้งั แรก เพื่อแกป้ ญั หาความยากลาบากท่ไี ด้รบั จากการใช้ หูฟงั ขนาดใหญ่ ทาให้หฟู งั เป็นอปุ กรณท์ ีไ่ ด้รับความนิยมมาจนถึงปจั จุบันเพราะช่างโดม รวมท้ังพัฒนาใหม้ ีการใช้งานไร้สายหรอื ทีเ่ รยี กกนั วา่ บลทู ูธ
หลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอรเ์ ปน็ อุปกรณท์ ่มี นุษย์ประดิษฐม์ าเพื่ออานวยความสะดวกในด้านตา่ งๆ ไมว่ ่าจะ เปน็ ด้านการคานวนการเกบ็ ขอ้ มูล การตดั สินใจ และอ่ืนๆในอดีตคอมพิวเตอร์ถกู นามาใชใ้ นงานดา้ น วิทยาศาสตร์เป็นสว่ นใหญ่ แตป่ จั จุบันคอมพวิ เตอรถ์ ูกพัฒนาขดี ความสามารสูงข้ึน มกี ารนาไป ประยุกตใ์ ชใ้ นหน่วยงานต่างๆมากมาย เชน่ ราชการ ธุรกจิ การแพทย์ การทหาร เปน็ ต้น ซง่ึ การเรยี นรู้ ข้นั ตอนการทางานของคอมพิวเตอรท์ าใหเ้ ราสามารถเลือกซ้อื คอมพวิ เตอร์ไดต้ รงตามความต้องการ โดยหลักการทางานของคอมพวิ เตอรจ์ ะเปน็ ตามทีโ่ ปรแกรมกาหนดไว้ โดยตัวเครอ่ื ง หรอื ทเ่ี รียกว่า ฮารด์ แวร(์ Hardware) จะมสี ่วนประกอบทีส่ าคญั พน้ื ฐาน 5 หน่วย คอื 1. หน่วยรบั ข้อมูล (input unit) 2. หน่วยประมวลผลกลาง (central processing unit) 3. หน่วยความจาหลกั (main memory unit) 4. หน่วยความจารอง (secondary storage) 5. หนว่ ยแสดงผล (output unit)
1. หน่วยรับข้อมูล (input unit) เป็นหนว่ ยท่ที าหน้าทร่ี บั ข้อมลู จากผู้ใช้เขา้ สู่คอมพิวเตอร์ เชน่ ตัวอักษร ตวั เลข สัญลักษณ์ เปน็ ตน้ โดยจะแปลงขอ้ มลู ใหอ้ ยู่ในรปู ของสญั ญาณไฟฟ้าทคี อมพิวเตอรส์ ามารถเขา้ ใจได้ โดยนามา จัดเกบ็ ไว้ท่ีหนว่ ยความจาหลัก และใชป้ ระมวลผลได้ อปุ กรณ์หน่วยรับขอ้ มูลท่นี ิยมใชใ้ นปัจจุบนั
2. หน่วยประมวลผลกลาง (central processing unit) ซีพยี ู (CPU) หรอื Central Processing Unit หมายถึง “หนว่ ยประมวลผลกลาง” หรือเรียกอีกชือ่ หนึ่งว่า “ไมโครโพรเซสเซอร์ (Microprocessor)” เปน็ อปุ กรณอ์ เิ ลค็ ทรอนิคสท์ ใ่ี ช้ ในการประมวลผลขอ้ มูล ตามชุดคาส่งั ท่ีมาจากซอฟต์แวร์ ตัวของซีพยี นู นั้ มลี ักษณะเป็นชปิ (Chip) ตวั เลก็ ๆ ซึง่ ภายในบรรจุทรานซิสเตอรจ์ านวนหลายล้านตัว ตอ่ เขา้ เปน็ วงจรอเิ ล็คทรอนิคส์ จานวนมหาศาล มีหนา้ ท่คี านวณตัวเลขจากชุดคาสัง่ ที่ผใู้ ชป้ ้อนโปรแกรมเข้าไป โดยซีพยี ูจะทาการ อา่ นชดุ คาส่งั มาแปลความหมาย และทาการคานวณ เมอ่ื ไดผ้ ลลัพธ์กจ็ ะสง่ ผลลพั ธอ์ อกไปแสดงผล ทางหน้าจอ ซีพยี ู จึงเปรียบไดก้ ับ “สมอง”ของคอมพวิ เตอร์ ทาหนา้ ทคี่ วบคุมการปฏิบัติงานหลัก ของเคร่ือง ทาหนา้ ทใ่ี นการคานวณ ประมวลผล และควบคุมอุปกรณอ์ น่ื ๆ ในระบบ ประกอบดว้ ย หน่วยคณติ ศาสตรแ์ ละตรรกะหรอื หน่วยคานวณทาหนา้ ทป่ี ระมวลผลขอ้ มลู ทางคณติ ศาสตรแ์ ละ ทางตรรกะ และหนว่ ยควบคุม ทาหน้าท่ีควบคุมการทางานของอุปกรณ์ตา่ งๆ ในระบบทง้ั หมด ให้ ทางานอย่างถกู ตอ้ ง อกี ทง้ั ยังควบคุมการทางานของอุปกรณอ์ น่ื ๆ ในระบบอีกดว้ ย
3. หนว่ ยความจาหลัก (main memory unit) หนว่ ยความจาหลัก เป็นอุแกรร์ทใ่ี ช้ในการเกบ็ ขอ้ มูลและคาส่ังทีอ่ ยู่ระหวา่ งการ ประมวลผลของคอมพิวเตอรห์ รอื ในขณะทเ่ี ปดิ เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ บางคร้งั อาจเรียกวา่ หนว่ ยเก็บขอ้ มลู หลกั (primary storage) หนว่ ยความจาจะทางานควบคูไ่ ปกบั CPU และช่วยให้การทางานของ CPU มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึน้ โดยวงรอบการทางาน ของซพี ยี ูนั้นเร็วมาก หากไม่มที ่เี ก็บขอ้ มูลหรอื ท่ีพกั ขอ้ มลู และความเร็วในการเข้าถึง ข้อมลู ท่ีไม่มขี นาดเพยี งพอจะทาให้การประมวลผลช้าลง
1. หนว่ ยความจาแรม (RAM : Random Access Memory) แรม เป็นหน่วยความจาหลักทจ่ี าเปน็ สามารถเก็บข้อมลู ได้เฉพาะเวลาทม่ี กี ระแสไฟฟา้ หล่อเลี้ยงเทา่ นั้น หาก ไมม่ กี ระแสไฟฟ้ามาเลี้ยงขอ้ มูลทเ่ี กบ็ ไว้จะหายไปทันที หน่วยความจาแรม ทาหน้าท่เี ก็บชดุ คาสงั่ และข้อมูลที่ระบบ คอมพิวเตอร์ทางานอยู่ แรมหลายชนดิ ข้อมูลจะหายไปหากปดิ เคร่ือง แตป่ ัจจบุ นั มกั เกบ็ ข้อมลู บติ ในรปู ของประจไุ ฟฟ้าใน ตัวเก็บประจุ 2. หนว่ ยความจารอม (ROM : Read-only Memory) ROM ย่อมาจาก Read-only Memory คอื หน่วยความจาถาวร ท่เี ราสามารถเขยี นหรือลบโปรแกรมตา่ งๆได้ แต่ก็มี ROM บางชนิดไม่สามารถทจี่ ะลบข้อมูลในรอมได้เหมือนกนั ซ่ึงROM เป็นหน่วยความจาทไ่ี มต่ ้องการไฟเลย้ี ง แม้ ไมม่ ีไฟเลยี้ งขอ้ มูลทอี่ ยใู่ นรอมก็จะไม่หายหรอื ถูกลบออกจากหนว่ ยความจาถาวร
4. หน่วยความจารอง (secondary storage) หนว่ ยความจารอง เปน็ หน่วยความจาทใี่ ชเ้ ก็บข้อมูล และโปรแกรมที่ต้องการใช้งานในคราว ตอ่ ไปได้ ซงึ่ สามารถบรรจขุ ้อมูลและโปรแกรมไดเ้ ป็นจานวนมาก เปน็ หนว่ ยเกบ็ ขอ้ มลู ถาวรท่ีผู้ใช้ สามารถยา้ ยขอ้ มลู และคาสง่ั ทอ่ี ยู่ในหน่วยความจาแรม ขณะทเี่ ครอ่ื งคอมพิวเตอร์ทางานมาจัดเก็บไว้ได้ ด้วยคาส่ังบันทึกของโปรแกรมประยุกต์ ทาใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถเรยี กขอ้ มลู และคาส่งั มาใชใ้ นภายหลัง ซึง่ หนว่ ยความจารองมีความจุข้อมูลมากกวา่ หนว่ ยความจาหลักและมรี าคาถูกกว่า แต่เขา้ ถงึ ข้อมลู ได้ช้า กวา่ หนว่ ยความจาแรม
5. หน่วยแสดงผล (output unit) เป็นหน่วยท่ที าหนา้ ทแ่ี สดงผลท่ไี ดจ้ ากการประมวลผลขอ้ มลู ท่เี ตรยี มไวใ้ น หนว่ ยความจาหลัก เพื่อสง่ ขอ้ มูลหรือส่ือสารกับผู้รับโดยมีฮารด์ แวรท์ าหน้าทีเ่ ปน็ ส่วน แสดงผลหรือสง่ ข้อมูลทไ่ี ดจ้ ากการประมวลผลจากซีพียูมายังผู้รบั ท้งั ในรปู แบบภาพ เสียง และสิง่ พิมพ์ ฮารด์ แวร์ทีทาหน้าทใี่ นหนว่ ยนีม้ หี ลายประเภทดว้ ยกนั ตวั อย่างเช่น จอภาพหรือมอนิเตอร์ ลาโพง หฟู งั เครอื่ งพิมพ์ และเคร่อื งแอลซดี ีโพรเจคเตอร์ แต่ละ ประเภทจะมลี กั ษณะและการนาเสนอขอ้ มูลท่ีแตกตา่ งกนั
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: