คำที่มีความหมายชัดเจนในตัวเอง มีพยางคเ์ ดียวหรือหลายพยางคก์ ไ็ ด้ เช่น บ้าน ฟ้า น้ำ เวลา สะพาน คำมลู เปน็ คำไทย หรอื คำท่มี าจากภาษาอืน่ ก็ได้ เชน่ สบู่ (โปรตเุ กส) กระบือ (เขมร) สไตล์ (องั กฤษ) คำมูลแยกพยางคไ์ มไ่ ด้ ถา้ แยกจะมีความหมายไม่ครบทุกพยางค์ หรอื ถ้ามีความหมาย ความหมายของ พยางค์กไ็ มเ่ ก่ียวข้องกับความหมายของคำ เชน่ อาหาร กะลาสี สีกา นา ฬิ กา มีความหมาย ไมม่ ีความหมาย มคี วามหมาย นาฬิกา เปน็ คำมลู เพราะแยกแล้วมคี วามหมายไม่ครบทกุ พยางค์ อา หาร มคี วามหมาย มีความหมาย อาหาร เปน็ คำมลู ถึงแมแ้ ยกแล้วจะมีความหมายท้งั 2 พยางค์ แต่ความหมายของคำไม่มเี คา้ ของความหมายแตล่ ะพยางค์
คำที่เกดิ จากการนำคำมูลทม่ี คี วามหมายต่างกนั มาประสมกันและเกดิ เป็นคำใหม่ เชน่ ตู้ + เย็น = ตเู้ ยน็ เช่น ปาก + หวาน = ปากหวาน คำประสมแยกคำแล้วมคี วามหมาย แตต่ ้องระวงั คำประสมที่เกดิ จากคำมลู หลายพยางค์ เชน่ สะพานลอย เปน็ คำประสม เกดิ จากคำวา่ สะพาน + ลอย คำที่ขึน้ ต้นด้วย เครือ่ ง ของ ชาว ช่าง นกั ท่ี เปน็ คำประสม เช่น เคร่อื งบนิ ของเลน่ นักเรียน ชาวนา
คำซ้อน แบ่งออกเป็น 2 ชนดิ ดังนี้ 1 คำซ้อนเพอื่ ความหมาย คือ การนำคำมูลทมี่ คี วามหมายเหมอื นกนั ใกล้เคียงกันหรือ ตรงขา้ มกนั มาซ้อนกนั ทำใหเ้ กดิ คำใหม่ เหมอื นกนั เชน่ เสอื่ สาด บ้านเรือน น่ิงเฉย ใกล้เคียงกัน เชน่ ลูกหลาน แหลมคม ทุบตี ตรงข้ามกนั เชน่ สูงต่ำ เท็จจรงิ คิดหน้าคิดหลงั 2 คำซ้อนเพ่อื เสียง เกิดจากคำทมี่ ีเสียงใกล้เคียงกนั มาซอ้ นกนั โดยท่ี ไม่คำนงึ ถึงความหมาย เช่น สสู ี เตาะแตะ วัดวาอาราม
คำซ้ำ คอื คำทเี่ กิดจากการซ้ำเสยี งเดยี วกนั เชน่ กล้วยๆ เด็กๆ ชน้ิ ๆ หนุม่ ๆ สาวๆ การเขียนคำซ้ำในบทประพนั ธ์ไมใ่ ช้ไม้ยมก (ๆ) เช่น เรื่อยเรือ่ ยมาเรยี งเรยี ง นกบินเฉยี งไปทั้งหมู่ ตัวเดียวมาพลัดคู่ เหมือนพี่อยูผ่ ้เู ดียวดาย คำท่ีเขยี นเหมอื นกนั แตไ่ ม่ใชค่ ำซ้ำ เช่น พ่อไปซ้อื ทที่ ่ชี ลบุรี เป็นคำนาม เป็นคำบุพบท ไมส่ ามารถใช้ “ๆ” ได้และไม่ถอื ว่าเปน็ คำซ้ำ
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: