1 แผนการสอน สอนครง้ั ที่ วิชา โลหะวทิ ยาการเช่อื ม จานวนคาบ รหสั วชิ า 3103-2102 ผู้สอน หนว่ ยที่ 1. หลกั การโลหะวิทยาการเชื่อม ผูเ้ รยี น สาระสาคัญ พ้นื ฐานของโลหะวิทยาการเช่ือม จะมคี วามเก่ียวข้องกับพลังงานไฟฟา้ ทถี่ ูกเปลี่ยนรปู ใหอ้ ยู่ใน ลกั ษณะของความร้อน (Heat) และถา่ ยเทลงสโู่ ลหะงาน ความรอ้ นทาให้เกิดการหลอมละลายพรอ้ ม ๆ กบั ถ่ายเทมวลของนา้ โลหะเหลวจากลวดเตมิ ลงสบู่ ่อหลอมละลาย เพอ่ื เพ่มิ พูนการยึดเหน่ียวของ รอยต่อ จากนั้นความร้อนยงั แผ่กระจายออกไปสดู่ ้านขา้ งของรอยเช่ือมบนโลหะงานไดใ้ นทุก ๆ มิติ ซงึ่ ความร้อนจากส่วนนเ้ี องที่กระทบโดยตรงต่อการเปล่ียนแปลงสมบตั ทิ างกล ในขอบเขตของบริเวณ กระทบร้อน(HAZ) ในสว่ นของโลหะงานนน้ั การท่ีโลหะใดจะรักษาสถานะของความร้อนอย่ใู นตวั เองได้ นานมากน้อยเท่าไรนั้น จะข้นึ อยกู่ ับความสามารถในการถา่ ยเทความร้อนของโลหะงานเอง เนื้อหาสาระ 1. บทนา 2. พนื้ ฐานของความร้อน 3. ประสิทธภิ าพของแหลง่ ความร้อน 4. กลไกการเยน็ ตัวของงานเชื่อม 5. บทสรปุ วัตถุประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นักศึกษาสามารถอธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหว่างความหนาแน่นของพลงั งานความร้อน บริเวณการเชื่อม ต่อ พลังงานความร้อนเขา้ ได้ 2. นักศกึ ษาสามารถคานวณหาค่าอตั ราการให้ความร้อนได้ 3. นกั ศกึ ษาสามารถอธบิ ายวงจรกระแสความรอ้ นของโลหะท่ีมีความสามารถแพร่ หรือ ถา่ ยเทความร้อน ได้ 4. นักศกึ ษาสามารถอธิบายความหมายของประสิทธภิ าพของการเชือ่ ม หรือ ประสิทธิภาพ ของความรอ้ นได้ 5. นกั ศึกษาสามารถปฏบิ ตั งิ านเชอื่ มแผน่ เหล็กกล้าบากหน้างาน 1 G ด้วย SMAW ได้
2 แผนการสอน สอนครงั้ ที่ วชิ า โลหะวทิ ยาการเชื่อม จานวนคาบ รหสั วชิ า 3103-2102 ผู้สอน หนว่ ยที่ 1. หลกั การโลหะวิทยาการเชอ่ื ม ผู้เรียน ขน้ั ตอนการสอน หรือ กจิ กรรมครู ขน้ั ตอนการเรยี น หรอื กจิ กรรมนักเรียน 1. ข้นั การเตรยี ม - เตรยี มพร้อมเรียน - เตรียมเอกสาร - เตรยี มเอกสาร - เตรียมส่ือ - เตรียมขานชือ่ - เรียกชือ่ นกั เรยี น - ฟังการอบรม - ช้ีแจงแนวทางในการปฏิบตั ติ น อบรม - ลงมอื ทาแบบประเมินก่อนเรียน คณุ ธรรม จริยธรรม ความประพฤติ วินยั เคร่อื งแตง่ กาย ฯ - ทาแบบประเมินก่อนเรยี น 2. ข้ันดาเนนิ การ - นาเขา้ สูบ่ ทเรียน - ฟังคาบรรยาย อธบิ าย ตามสาระการเรียนรู้ - บอกจุดประสงค์การเรยี นประจาหน่วย - จดบันทกึ - บรรยาย อธบิ ายเนื้อหาตามเนื้อหาสาระ - ซกั ถามข้อสงสยั เปน็ ระยะหากมีข้อสงสยั ต่อ โดยเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั การบรรยาย หรอื อธิบาย - เปิดโอกาสให้นักเรียนซกั ถาม เปน็ ระยะ ของการบรรยาย หรือ อธิบาย หากมีข้อ สงสยั หรอื ไม่ ครจู ะเปน็ ผ้เู ปิดคาถามตอ่ นักเรยี นเอง 3 ขัน้ สรุป - ครูสรุปสาระสาคัญประมาณ 10-15 นาที - รับฟังการสรุป - ทดสอบหลังเรยี น - ทาแบบทดสอบหลังเรยี น 15 นาที 4 ขน้ั ปฏิบัติงานภาคปฏิบตั ิ - ฟังการอธิบายขน้ั ตอนการปฏิบัติงาน - มอบหมายงานตามใบงาน - ปฏบิ ัติงานตามใบงาน -
3 แผนการสอน สอนคร้ังที่ วิชา โลหะวิทยาการเชื่อม จานวนคาบ รหัสวิชา 3103-2102 ผู้สอน หน่วยที่ 1. หลักการโลหะวทิ ยาการเชื่อม ผเู้ รียน กลวธิ ีการสอน 1. เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ นักเรยี นมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรยี น – การสอนทง้ั รางกาย สติ ปญั หา และอารมณ์ 2. นาวธิ ีการเรยี นรู้แบบตา่ ง ๆ เพอ่ื ประยุกต์ใชก้ บั เนือ้ หาสาระอยา่ งเหมาะสม เชน่ บรรยาย สาธติ หรือ การจดั การเรียนรู้แบบกระบวนการแก้ปัญหา การจดั การเรียนรู้แบบสร้างองค์ความรกู้ าร เรยี นรูแ้ บบส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ฯ ตามเน้ือหาสาระ ตามเอกสารประกอบการเรยี น-การสอน ตามใบงาน และ สอ่ื 3. ทดสอบถาม เพื่อทบทวน เมอ่ื จบแต่ละหวั ข้อ 4. เน้นกระบวนการปฏิบัติควบคไู่ ปกับเนื้อหาสาระ 5. นกั เรยี นเกดิ การเรียนรู้ไดโ้ ดยการค้นพบตนเอง ส่อื การสอน 1. คอมพิวเตอร์สาหรบั อาจารย์ 2. เครอ่ื งขยายเสยี ง 3. เคร่ืองฉายภาพทบึ แสง 4. กระดานไวท์บอรด์ และ ปากกาสาหรบั ไวท์บอรด์ 5. สอ่ื การสอนอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (Power Point) การวดั ผล 1. สงั เกตความสนใจขณะฟังคาอธิบาย และการตอบข้อซกั ถาม (จิตพสิ ยั ) 2. ผลการประเมนิ ก่อนเรียน – หลงั เรียน และ แบบฝกึ หัด 3. ผลการปฏิบตั ิในช่ัวโมงปฏบิ ัติ
4 เรือ่ ง งานเชื่อมแผ่นเหลก็ กล้าบากหน้างาน 1 G ด้วย SMAW ใบงานภาคปฏิบัติ ข้อควรระวงั วัสดุ 1.การบากหน้างาน 1. แผ่นเหลก็ กล้า 6 x 50 x 100 มม. 2.แนวซึมลกึ 2. ลวดเชอื่ ม E - 7016 3.มมุ ลวดเช่ือม ทกั ษะ ลาดับขั้นการปฏิบัติงาน 1.ควบคุมบอ่ หลอมละลายถกู ตอ้ ง 1. ตัดงานตามขนาด 2 ชนิ้ 2.มมุ ลวดเช่ือมถูกต้อง 2. บากหน้างานดว้ ยมุม 30 ˚ 3.ปรับกระแสไฟเชื่อมถูกตอ้ ง 3. ตะไบแตง่ รอยบาก เครอ่ื งมืออปุ กรณ์ 4. ประกบชิ้นงานเชื่อมยึดหัวท้ายดว้ ยแผน่ เหลก็ 1. เคร่ืองเช่อื มไฟฟ้า 5. เคาะแต่งรอยต่อให้แอน่ ลงเล็กน้อย 2. เครอ่ื งบากหนา้ งาน 6. ปรับพารามิเตอร์การเชือ่ ม 3.เครอ่ื งเจียระไนมอื 7. เช่อื มแนวซึมลึกด้วยลวด E – 7016 4.ชุดหนังนิรภยั 8. ทาความสะอาดแนวราก (Root Pass) 5.หนา้ กากเชือ่ ม 9. ปรบั พารามเิ ตอรก์ ารเชอ่ื ม 6.ค้อนเคาะสแลค 10.เช่ือมแนวทับหนา้ (Cover Pass) 7.คีมจับงานร้อน 11.ทาความสะอาดแนวเช่ือม 8.แปรงลวด 9.ตะไบ
5 แบบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน สอนครั้งที่ วชิ า โลหะวิทยาการเช่ือม จานวนคาบ รหัสวชิ า 3103-2102 ผ้สู อน หนว่ ยท่ี 1. หลกั การโลหะวทิ ยาการเชื่อม ผู้เรียน ชอ่ื งาน งานเช่ือมแผน่ เหล็กกล้าบากหนา้ งาน 1 G ดว้ ย SMAW ชื่อ ……………………………………….. ช้นั …………………. กลมุ่ ………… วนั ท่ี ……............ เดือน ……………………………..พ.ศ. ……………………… เวลาเร่มิ ต้น ……………..…เวลาเสร็จงาน ………………… รวมเวลา………..… ลาดบั ขอ้ กาหนด ความสาคัญ คะแนน หมายเหตุ 1 ความกว้าง สงู สมา่ เสมอ ของรอยเช่ือม 20 2 ความกว้าง สูง สม่าเสมอ ของรอยซมึ ลกึ 20 3 รอยกัดแหวง่ ขา้ งรอยเชอ่ื ม 15 4 การบิดงอของงาน 15 5 ความเรียบร้อยของงาน 20 6 จุดเร่ิมตน้ และ จดุ สดุ ทา้ ยของรอยเชื่อม 10 รวม 100 เปอร์เซน็ ต์ = คะแนนท่ีได้ × 100 = ………………… % ความสาคัญ × 10 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………. ...………………………….. ผู้ตรวจ
6 แบบฝึกหัด สอนครงั้ ท่ี วิชา โลหะวิทยาการเชือ่ ม จานวนคาบ รหัสวชิ า 3103-2102 ผสู้ อน หนว่ ยที่ 1. หลักการโลหะวิทยาการเชอื่ ม ผู้เรยี น ตอนท่ี 1 จงตอบคาถามต่อไปนี้ให้ได้ใจความสมบรู ณ์ 1. ถ้าพจิ ารณาถึงความหนาแน่นของกาลงั พลังงานความร้อนบริเวณการเชือ่ ม (Power Density of Heat Source) ต่อพลังงานความร้อนเข้าสู่โลหะงาน (Heat Input to Workpiece) จงอธิบาย ความสัมพนั ธ์ 2. จงอธบิ ายความแตกตา่ งของวงจรกระแสความร้อนของการเช่ือมโลหะทีม่ ีคา่ Kสงู และคา่ K ตา่ 3. ในงานเช่อื มอิทธิพลทางความรอ้ นก่อใหโ้ ลหะงานเกดิ ความเสยี หายได้อยา่ งไรบา้ ง 4. การเปล่ยี นแปลงโครงสรา้ งภายในเกดิ จากความสัมพันธร์ ะหว่างตวั แปรใด 5. จงคานวณ หาค่าพลงั งานความร้อนเขา้ (Heat input) ที่กระแสเชื่อม 150 แอมป์ ความเรว็ ใน การเดนิ ลวดเชือ่ ม 9 นวิ้ / นาที และ ใชแ้ รงเคลอ่ื นไฟฟ้า 35 โวลต์ ตอนท่ี 2 จงทาเครอ่ื งหมายกากบาท (X) หน้าคาตอบทีถ่ ูกที่สุดเพียงข้อเดยี ว 1. แหล่งความรอ้ นท่ีก่อใหเ้ กดิ ความเสยี หายตอ่ งานเช่ือมได้มากที่สุดมาจากแหลง่ ใด ก. ปฏิกิริยาทางเคมีของแก๊ส ข. พลังงานไฟฟา้ ค. ลาแสงของรงั สี ง. ความตา้ นทาน 2. กระบวนการเช่ือมใดให้พลังงานความร้อนเขา้ สู่โลหะงานในปริมาณสงู ก. SMAW ข. GTAW ค. GMAW ง. OAW 3.พลังงานความร้อนเข้าของกระบวนการเช่อื มใดกระทบต่อการเปล่ยี นแปลงโครงสร้างบริเวณ HAZ ได้นอ้ ยท่ีสุด ก. SMAW ข. GTAW ค. LBW ง. OAW
7 แบบฝกึ หดั สอนครั้งท่ี วชิ า โลหะวิทยาการเช่อื ม จานวนคาบ รหสั วชิ า 3103-2102 ผูส้ อน หนว่ ยที่ 1. หลกั การโลหะวทิ ยาการเช่ือม ผู้เรยี น 4. ถา้ เปรียบเทยี บทีป่ ริมาณงานเทา่ กัน คา่ ใชจ้ า่ ยในการดาเนนิ งานเชอ่ื มของเทคโนโลยกี ารเชื่อมใด มีค่าใชจ้ า่ ยสูงสดุ ก. SMAW ข. GTAW ค. LBW ง. OAW 5. ถา้ โลหะงานไดร้ บั พลงั งานความร้อนเขา้ ในปริมาณมาก ๆ จะเปน็ อยา่ งไร ก. ซึมลึกตา่ ข. รอยเชือ่ มนูน ค. โลหะงานเสยี หายมาก ง. บรเิ วณ HAZ แคบ 6. จงคานวณหาค่าพลังงานความร้อนเข้า โดยเป็นการเชอ่ื มดว้ ยลวดเชอ่ื มห้มุ ฟลักซ์ท่ีกระแส 100 Amp ความเรว็ 6 Inch/min แรงเคลอ่ื นไฟฟา้ 25 Volt ก. 24,000 Joules / inch ข. 24,500 Joules / inch ค. 25,000 Joules / inch ง. 25,500 Joules / inch 7. ในสถานการณ์เดยี วกนั แต่ลวดเชอ่ื มโตข้นึ จะมีผลเชน่ ใด ก. พลงั งานความร้อนเข้าเพิ่มข้ึน ข. พลังงานความร้อนเขา้ ลดลง ค. พลังงานความร้อนเขา้ เทา่ เดมิ ง. ไมม่ ีข้อใดถกู 8.เมื่อใชพ้ ลงั งานความร้อนเข้าเท่ากนั ถ้าเป็นโลหะทม่ี คี วามสามารถในการแพร่ความร้อน หรือการ ถา่ ยเทความร้อนไดส้ ูง ขอบเขตของวงจรความร้อนจะเป็น เช่นใด ก. แคบ – กลม ข. แคบ – แหลม ค. กวา้ ง – กลม ง. กวา้ ง – แคบ 9. โลหะใดตอ่ ไปน้ีมคี วามสามารถในการแพรค่ วามรอ้ น หรือการถา่ ยเทความรอ้ นไดส้ งู ท่ีสดุ ก. เหลก็ หล่อ ข. ทองแดง ค. อะลมู เิ นียม ง. เหลก็ กลา้ ไร้สนมิ 10. องค์ประกอบใดท่ีมีผลต่ออัตราการแพร่ความรอ้ น หรือการถา่ ยเทความร้อน ก. ความหนาแน่น ข. ความร้อนจาเพาะ ค. ความสามารถในการเชอื่ ม ง. ความเรว็ ในการเชอื่ ม
8 แบบฝกึ หดั สอนครงั้ ที่ วิชา โลหะวทิ ยาการเช่ือม จานวนคาบ รหสั วิชา 3103-2102 ผ้สู อน หนว่ ยท่ี 1. หลักการโลหะวิทยาการเชอื่ ม ผู้เรียน 11. ประสทิ ธิภาพของการเชอ่ื ม หมายถึงขอ้ ใด ก. ความรอ้ นถูกทาให้โลหะงานเกิดการหลอมลกึ ได้ดี ข. ความสามารถในการถ่ายเทของโลหะงานได้ดี ค. ความเร็วในการเชอื่ มตา่ ง. ถกู ทุกขอ้ 12. กระบวนการเชื่อมใดให้ประสิทธภิ าพทางความร้อนสงู สุด ก. อาร์ค ข. แก๊ส ค. ลาแสงรงั สี ง. ถกู ทุกขอ้
9 ใบเฉลยแบบฝึกหดั สอนคร้งั ท่ี วชิ า โลหะวทิ ยาการเชอ่ื ม จานวนคาบ รหสั วิชา 3103-2102 ผู้สอน หนว่ ยท่ี 1. หลกั การโลหะวิทยาการเช่อื ม ผ้เู รียน ตอนที่ 1 1. ถา้ พจิ ารณาถึงความหนาแนน่ ของกาลงั พลงั งานความร้อนบรเิ วณการเชอ่ื ม (Power Density of Heat Source) ต่อพลงั งานความร้อนเขา้ สูโ่ ลหะงาน (Heat Input to Workpiece) จงอธิบาย ความสัมพนั ธ์ ตอบ การท่ีกระบวนการเช่ือมใดมีการปลดปล่อยพลังงานความร้อนเข้าสู่โลหะงาน (Heat Input to Workpiece) ได้ในปริมาณมาก ๆ จะพบว่าความหนาแน่นของพลังงานความร้อนบริเวณ การเช่ือม (Power Density of Heat Source) จะลดลง ซ่ึงมีผลกระทบต่อโลหะงานในลักษณะ ของการเกิดความเสียหายได้ในขอบเขตท่ีไม่จากัด แต่ในลักษณะที่ตรงกันข้าม เมื่อพิจารณา กระบวนการเช่ือมแบบท่ีใช้ความเร็วสูงของลาแสงรงั สี จะพบว่าพลงั งานความร้อนเข้าท่ีถ่ายเทลงสู่ โลหะงานจะมีปรมิ าณท่ีนอ้ ยมาก 1. จงอธิบายความแตกตา่ งของวงจรกระแสความร้อนของการเชอ่ื มโลหะทมี่ ีคา่ Kสงู และค่าK ตา่ ตอบ การเชื่อมโลหะท่ีมคี วามสามารถในการแพร่ หรือถา่ ยเทความรอ้ นสูง จะใหว้ งจรกระแส ความร้อนกลม เล็ก ส่วนโลหะที่มีความสามารถในการแพร่ หรือถ่ายเทความร้อนตา่ จะให้รปู ร่าง ของวงจรกระแสความร้อน ใหญ่ ลักษณะคลา้ ยวงรี 3. ในงานเช่อื มอิทธิพลทางความรอ้ นกอ่ ให้โลหะงานเกดิ ความเสยี หายได้อย่างไรบา้ ง ตอบ 1. การเปลยี่ นแปลงโครงสร้างทางโลหะวทิ ยา 2. ความเสียหายภายนอก เชน่ การแตกรา้ ว การเสียรูปทรงของโลหะงาน
10 ใบเฉลยแบบฝกึ หัด สอนครัง้ ท่ี วิชา โลหะวิทยาการเชื่อม จานวนคาบ รหัสวชิ า 3103-2102 ผู้สอน หนว่ ยท่ี 1. หลักการโลหะวทิ ยาการเชอื่ ม ผเู้ รยี น 4. การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในเกดิ จากความสมั พนั ธ์ระหว่างตวั แปรใด ตอบ พลงั งานความร้อนเข้า 5. จงคานวณ หาคา่ พลงั งานความร้อนเข้า (Heat input) ทก่ี ระแสเชือ่ ม 150 แอมป์ ความเร็วใน การเดินลวดเชือ่ ม 9 นว้ิ / นาที และ ใช้แรงเคลอื่ นไฟฟา้ 35 โวลต์ ตอบ จากสตู ร H = 60EI S = 60x35x150 9 = 35,000 Joules/ inch ตอนที่ 2 1. ก 2. ง 3. ค 4. ค 5. ค 6. ค 7. ก 8. ก 9. ค 10. ง 11. ก 12. ค
11 แบบประเมินก่อนเรียน สอนครั้งที่ วชิ า โลหะวทิ ยาการเชอื่ ม จานวนคาบ รหสั วชิ า 3103-2102 ผู้สอน หนว่ ยท่ี 1. หลกั การโลหะวทิ ยาการเชือ่ ม ผเู้ รยี น คาส่ัง จงทาเครื่องหมายกากบาท (X) หน้าคาตอบท่ีถกู ที่สดุ เพียงข้อเดยี ว 1. แหลง่ ความรอ้ นท่ีก่อให้เกิดความเสยี หายตอ่ งานเช่ือมได้มากที่สดุ มาจากแหล่งใด ก. ปฏกิ ิรยิ าทางเคมีของแกส๊ ข. พลังงานไฟฟา้ ค. ลาแสงของรงั สี ง. ความตา้ นทาน 2.กระบวนการเช่ือมใดใหพ้ ลังงานความร้อนเขา้ สโู่ ลหะงานในปรมิ าณสงู ก. SMAW ข. GTAW ค. GMAW ง. OAW 3.พลังงานความร้อนเข้าของกระบวนการเชอื่ มใดกระทบต่อการเปล่ยี นแปลงโครงสร้างบริเวณ HAZ ไดน้ ้อยทส่ี ดุ ก. SMAW ข. GTAW ค. LBW ง. OAW 4.ถา้ เปรยี บเทียบทป่ี ริมาณงานเทา่ กัน ค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานเชอ่ื มของเทคโนโลยกี ารเชอื่ มใด มคี า่ ใช้จา่ ยสงู สุด ก. SMAW ข. GTAW ค. LBW ง. OAW 5. ถ้าโลหะงานไดร้ บั พลังงานความร้อนเขา้ ในปรมิ าณมาก ๆ จะเป็นอยา่ งไร ก. ซมึ ลึกตา่ ข. รอยเชื่อมนนู ค. โลหะงานเสยี หายมาก ง. บรเิ วณ HAZ แคบ 6. จงคานวณหาคา่ พลังงานความร้อนเข้า โดยเป็นการเชื่อมดว้ ยลวดเช่ือมหุม้ ฟลักซท์ ี่กระแส 100 Amp ความเรว็ 6 Inch/min แรงเคล่อื นไฟฟา้ 25 Volt ก. 24,000 Joules / inch ข. 24,500 Joules / inch ค. 25,000 Joules / inch ง. 25,500 Joules / inch
12 แบบประเมินก่อนเรยี น สอนครง้ั ท่ี วิชา โลหะวทิ ยาการเชอื่ ม จานวนคาบ รหสั วิชา 3103-2102 ผู้สอน หนว่ ยที่ 1. หลกั การโลหะวทิ ยาการเช่อื ม ผู้เรียน 7. ในสถานการณ์เดยี วกนั แต่ลวดเชื่อมโตข้ึน จะมีผลเชน่ ใด ก. พลังงานความร้อนเข้าเพิ่มข้นึ ข. พลังงานความร้อนเขา้ ลดลง ค. พลังงานความร้อนเข้าเทา่ เดิม ง. ไม่มีข้อใดถกู 8.เมอ่ื ใชพ้ ลงั งานความร้อนเข้าเทา่ กนั ถ้าเปน็ โลหะท่ีมคี วามสามารถในการแพร่ความร้อน หรอื การ ถ่ายเทความร้อนไดส้ งู ขอบเขตของวงจรความรอ้ นจะเปน็ เช่นใด ก. แคบ – กลม ข. แคบ – แหลม ค. กว้าง – กลม ง. กว้าง – แคบ 9.โลหะใดต่อไปนี้มีความสามารถในการแพร่ความรอ้ น หรือการถ่ายเทความร้อนได้สูงท่ีสดุ ก. เหลก็ หล่อ ข. ทองแดง ค. อะลูมิเนียม ง. เหลก็ กลา้ ไรส้ นิม 10. องค์ประกอบใดทีม่ ผี ลตอ่ อตั ราการแพร่ความรอ้ น หรือการถา่ ยเทความร้อน ก. ความหนาแน่น ข. ความร้อนจาเพาะ ค. ความสามารถในการเช่ือม ง. ความเร็วในการเช่ือม 11. ประสทิ ธภิ าพของการเช่อื ม หมายถงึ ขอ้ ใด ก. ความร้อนถูกทาให้โลหะงานเกิดการหลอมลึกได้ดี ข. ความสามารถในการถ่ายเทของโลหะงานไดด้ ี ค. ความเรว็ ในการเชอ่ื มต่า ง. ถกู ทกุ ข้อ 12. กระบวนการเช่ือมใดให้ประสทิ ธภิ าพทางความร้อนสูงสุด ก. อาร์ค ข. แกส๊ ค. ลาแสงรังสี ง. ถกู ทกุ ข้อ
13 แบบประเมนิ หลงั เรยี น สอนคร้ังท่ี วิชา โลหะวิทยาการเช่อื ม จานวนคาบ รหสั วชิ า 3103-2102 ผูส้ อน หน่วยท่ี 1. หลกั การโลหะวิทยาการเชอ่ื ม ผเู้ รยี น คาส่ัง จงทาเครื่องหมายกากบาท (X) หน้าคาตอบท่ีถูกที่สุดเพยี งข้อเดยี ว 1. แหลง่ ความร้อนท่ีกอ่ ให้เกดิ ความเสียหายตอ่ งานเช่ือมได้มากท่ีสุดมาจากแหล่งใด ก. ปฏกิ ริ ิยาทางเคมีของแก๊ส ข. พลังงานไฟฟ้า ค. ลาแสงของรังสี ง. ความต้านทาน 2. กระบวนการเชื่อมใดให้พลังงานความร้อนเข้าสโู่ ลหะงานในปรมิ าณสูง ก. SMAW ข. GTAW ค. GMAW ง. OAW 3. ถา้ โลหะงานได้รับพลงั งานความรอ้ นเข้าในปริมาณมาก ๆ จะเปน็ อย่างไร ก. ซมึ ลกึ ตา่ ข. รอยเชือ่ มนนู ค. โลหะงานเสยี หายมาก ง. บรเิ วณ HAZ แคบ 4. จงคานวณหาคา่ พลังงานความรอ้ นเขา้ โดยเป็นการเชอ่ื มด้วยลวดเชอ่ื มห้มุ ฟลักซท์ ี่กระแส 100 Amp ความเรว็ 6 Inch/min แรงเคลื่อนไฟฟ้า 25 Volt ก. 24,000 Joules / inch ข. 24,500 Joules / inch ค. 25,000 Joules / inch ง. 25,500 Joules / inch 5.พลังงานความร้อนเข้าของกระบวนการเชือ่ มใดกระทบต่อการเปลีย่ นแปลงโครงสรา้ งบริเวณ HAZ ไดน้ อ้ ยท่สี ดุ ก. SMAW ข. GTAW ค. LBW ง. OAW 6.ถา้ เปรยี บเทยี บทป่ี ริมาณงานเท่ากนั คา่ ใช้จา่ ยในการดาเนินงานเชอ่ื มของเทคโนโลยกี ารเชอื่ มใด มีค่าใช้จา่ ยสูงสดุ ก. SMAW ข. GTAW ค. LBW ง. OAW
14 แบบประเมินหลังเรยี น สอนครงั้ ท่ี วิชา โลหะวทิ ยาการเชอ่ื ม จานวนคาบ รหัสวิชา 3103-2102 ผู้สอน หน่วยที่ 1. หลักการโลหะวิทยาการเช่อื ม ผ้เู รยี น 7. ประสิทธิภาพของการเช่ือม หมายถึงข้อใด ก. ความร้อนถูกทาใหโ้ ลหะงานเกดิ การหลอมลกึ ไดด้ ี ข. ความสามารถในการถ่ายเทของโลหะงานไดด้ ี ค. ความเร็วในการเชือ่ มตา่ ง. ถกู ทกุ ขอ้ 8. ในสถานการณเ์ ดียวกัน แต่ลวดเชื่อมโตขน้ึ จะมีผลเช่นใด ก. พลงั งานความร้อนเข้าเพิ่มขน้ึ ข. พลังงานความร้อนเข้าลดลง ค. พลงั งานความร้อนเขา้ เท่าเดมิ ง. ไม่มขี ้อใดถูก 9. เม่ือใช้พลงั งานความร้อนเขา้ เทา่ กัน ถ้าเปน็ โลหะที่มคี วามสามารถในการแพร่ความร้อน หรอื การ ถ่ายเทความร้อนได้สงู ขอบเขตของวงจรความร้อนจะเป็น เชน่ ใด ก. แคบ – กลม ข. แคบ – แหลม ค. กว้าง – กลม ง. กวา้ ง – แคบ 10. กระบวนการเชือ่ มใดให้ประสทิ ธิภาพทางความร้อนสูงสดุ ก. อาร์ค ข. แกส๊ ค. ลาแสงรงั สี ง. ถูกทุกข้อ 11. โลหะใดต่อไปนม้ี ีความสามารถในการแพร่ความร้อน หรือการถ่ายเทความร้อนไดส้ ูงทส่ี ดุ ก. เหลก็ หลอ่ ข. ทองแดง ค. อะลมู เิ นยี ม ง. เหล็กกลา้ ไรส้ นิม 12. องคป์ ระกอบใดท่มี ผี ลต่ออัตราการแพร่ความร้อน หรือการถา่ ยเทความร้อน ก. ความหนาแนน่ ข. ความรอ้ นจาเพาะ ค. ความสามารถในการเชื่อม ง. ความเร็วในการเช่อื ม
15 เฉลยแบบประเมินกอ่ นเรียน-หลงั เรยี น สอนครั้งท่ี วิชา โลหะวิทยาการเชอื่ ม จานวนคาบ รหสั วิชา 3103-2102 ผสู้ อน หน่วยที่ 1. หลกั การโลหะวทิ ยาการเชื่อม ผเู้ รียน เฉลยแบบประเมนิ ก่อนเรยี น 1. ก 11. ก 2. ง 12. ค 3. ค 4. ค 5. ค 6. ค 7. ก 8. ก 9. ค 10. ง เฉลยแบบประเมินหลังเรียน 1. ก 11. ข 2. ง 12. ง 3. ค 4. ค 5. ค 6. ค 7. ก 8. ก 9. ก 10. ค
16 แบบบนั ทกึ หลงั การสอน สอนคร้งั ท่ี วชิ า โลหะวิทยาการเชื่อม จานวนคาบ รหัสวิชา 3103-2102 ผสู้ อน หน่วยท่ี 1. หลกั การโลหะวทิ ยาการเช่อื ม ผูเ้ รียน ผลการใช้แผนการสอน ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก่ไข และข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ผู้สอน .………………………………………… วนั ท่ี ……… เดือน ……….…… พ.ศ. ……… ข้อเสนอแนะของหวั หน้าแผนก ข้อเสนอแนะของผอู้ านวยการ ………………………………………..……………………………… ………………………………………………………………………………… ……………………………. ………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………............ ลงช่ือ ………………………….......... () () วันที่ ……เดือน ………… พ.ศ. …… วนั ที่ …. เดือน ………… พ.ศ. ….… ข้อเสนอแนะของรองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ ………………………………………..……………………………… ……………………………. ลงช่อื …………………………........... () วันท่ี …. เดอื น ………… พ.ศ. ….….
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: