วจิ ารณ์วรรณคดี เร่ืองขุนช้างขุนแผน ตอน กาเนิดพลายงาม โดย นางสาวอมี าน ดือราโอะ รหัส 5906510136 TH.1
ประวตั ผิ ้แู ต่ง พระสุนทรโวหาร นามเดิม ภู่ หรือที่เรียกกนั ทวั่ ไปวา่ สุนทรภู่ เกิดในรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระพทุ ธ ยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช เม่ือวนั ท่ี 26 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2329 ถงึ แกก่ รรมเมื่อ พ.ศ. 2398 สนุ ทรภ่ไู ด้เลา่ เรียนหนงั สือ ในสานกั วดั ชีปะขาว ซงึ่ ปัจจบุ นั เรียกว่า วดั ศรีสดุ าราม ตอ่ มาได้เข้ารับราชการเป็นเสมียน ในกรมพระคลงั สวน พ.ศ. 2359 ในรัชกาลท่ี 2 สนุ ทรภเู่ ข้ารับราชการในกรมอาลกั ษณ์ได้เป็นขุนสุนทรโวหาร พ.ศ. 2394 สนุ ทรภ่ไู ด้เป็นเจ้ากรมอาลกั ษณ์ฝ่ายพระราชวงั บวร มีบรรดาศกั ดิ์ เป็น พระสุนทรโวหาร สนุ ทรภ่เู ป็นกวีท่ีมีความชานาญทางด้านกลอน ได้สร้างขนบการประพนั ธ์กลอนนิทานและกลอนนิราศขนึ ้ ใหม่ จนกลายเป็นท่ีนิยมอยา่ งกว้างขวางสืบเน่ืองมาจนกระทงั่ ถงึ ปัจจบุ นั ผลงานท่ีมีชื่อเสียงของสนุ ทรภมู่ ีมากมาย หลายเรื่อง เชน่ นิราศภเู ขาทอง นิราศสพุ รรณ เพลงยาวถวายโอวาท กาพย์พระไชยสรุ ิยา และ พระอภยั มณี เป็นต้น
เร่ืองย่อ ขนุ ช้างขนุ แผน ตอน กาเนิดพลายงาม 1. กาเนิดพลายงาม 2. ขนุ ช้างหลอกพลายงามไปฆา่ 3. นางวนั ทองตามหาพลายงาม 4. พลายงามไปอยกู่ บั นางทองประศรี 5. พลายงามพบขนุ แผนครัง้ แรก 6. พลายงามได้เป็นมหาดเล็ก
ลกั ษณะเด่นของตวั ละครหลกั 1. ขุนแผน รูปร่างหน้าตางดงามคมสนั สตปิ ัญญาเฉลียวฉลาด มีความกล้าหาญ เสียสละ แตเ่ จ้าชู้ รวมทงั้ มีอาคม มีวชิ าไสยศาสตร์ มีของวิเศษ 3 อยา่ ง คอื ดาบฟา้ ฟื น้ กมุ ารทอง และม้าสีหมอก 2. ขุนช้าง ตวั ดา หวั ล้าน นสิ ยั เจ้าเลห์ใจคอเราะร้าย มีฐานะร่ารวย แตร่ ักเดยี วใจเดียว ซื่อสตั ว์กบั ความรัก 3. นางวันทอง เป็นหญิงรูปงาม แตป่ ากจดั เป็นคนซื่อ ไมค่ อ่ ยฉลาดมากนกั 4. พลายงาม เป็นลกู ของขนุ แผนกบั นางวนั ทอง และมีนิสยั ความสามารถเหมือนขนุ แผน 5. นางทองประศรี เป็นแมข่ องขนุ แผน เป็นหญิงที่มีนา้ ใจเดด็ เดี่ยว ทรหดอดทน 6. จม่ืนศรีสาวรักษ์ หรือ หม่ืนศรี เป็นขนุ นางชนั้ ผ้ใู หญ่ของสมเดจ็ พระพนั วษา
วถิ ีชีวติ ของสังคมไทยในวรรณคดีไทย 1. การศกึ ษาเล่าเรียนของลกู ผ้ชู าย ลกู ผ้ชู ายจะต้องเรียนวิชาคาถาอาคม อนั เป็นประโยชน์ตามความนิยมในสงั คมไทย สมยั ก่อน ซงึ่ สอดคล้องกบั งานวิจยั เรื่อง ปฏิสมั พนั ธ์ระหว่างปัจจยั ทางจิตและปัจจยั ทางสงั คมที่มีผลตอ่ พฤติกรรมใฝ่รู้ใฝ่ดขี องพลายงาม ในวรรณคดไี ทยเรื่องขนุ ช้างขนุ แผน ของ ชมพนู ทุ เมฆเมืองทอง (2558 : 39) กลา่ ววา่ พลายงามได้ศกึ ษาเลา่ เรียนกบั ยายคือนาง ทองประศรีด้วยความยินดีและเตม็ ใจทงั้ ตาราไทย ตาราขอม คมั ภีร์ทางด้านความเชื่อทางด้านศาสนา เวทมนต์คาถา ดังตอนท่วี ่า “ทงั้ ขอมไทยได้สนิ ้ ก็ยินดี เรียนคมั ภีร์พทุ ธเพทพระเวทมนตร์” และ “หนงึ่ ได้ศกึ ษาวิชาชาญ เป็นแก่นสารคือคณุ อดุ หนนุ ตวั ” 2. ประเพณีการเกดิ ในสมยั โบราณวิทยาการด้านการแพทย์ยงั ไมเ่ จริญเหมอื นปัจจบุ นั ฉะนนั้ อนั ตรายจากการเกิดจงึ มมี าก ด้วย เหตนุ ีจ้ งึ เกิดประเพณีและความเชื่อกนั มากมายเพ่ือปอ้ งกนั เหตรุ ้าย อาจเกิดขนึ ้ แก่หญิงมคี รรภ์จงึ มหี มอตาแยเพื่อชว่ ยทาคลอด ดังตอนท่วี ่า “ นางวนั ทองร้องเสอื กกลงิ ้ เกลือกไป ขนุ ช้างได้หมอนรองประคองคอ เรียกหาข้าคนอลหมา่ น บนนอกชานพวกผ้หู ญิงออกวงิ่ สอ ให้ไปรับยายสายกบั ยายยอ แตล่ ้วนหมอตาแยแซ็งแซม่ า เข้าถือท้องต้องถกู วา่ ลกู ตา่ เอาหน้าคว่าไขวข่ วางไปข้างหน้า...” ( เสภาเร่ือขนุ ช้างขนุ แผน หน้า 396 )
วถิ ีชีวติ ของสังคมไทยในวรรณคดไี ทย (ต่อ) 3. พธิ ีโกนจุก เป็นพธิ ีกรรมและประเพณีที่มีมาแตโ่ บราณ เมื่อเดก็ อายเุ ข้าสวู่ ยั รุ่น คือ ชายอาย1ุ 3 ปี หญิงอายุ 11 ปี พอ่ แมก่ จ็ ะจดั พธิ ีโกนจกุ เพ่ือเป็นการปอ้ งกนั โรคภยั ไข้เจ็บ และเป็นการแสดงวา่ เข้าสวู่ ยั รุ่น ในเสภาขนุ ช้างขนุ แผน กลา่ วถงึ โกนจกุ พลายงาม ดังตอนท่ีว่า “ ทองประศรีดีใจไลฤ่ กษ์ยาม ได้สิบสามปีแล้วหลานแก้วกู จะโกนจกุ สกุ ดบิ ขนึ ้ สิบค่า แกทานา้ ยาจีนต้มตีนหม”ู ( เสภาเร่ืองขนุ ช้างขนุ แผน หน้า 398 ) 4. ความเช่ือการทาขวัญคน การทาขวญั จะมหี มอทาขวญั ซง่ึ เป็นผ้มู ีวิชาความรู้ทางด้านเรียกขวญั เป็นผ้กู ลา่ วคา เชิญขวญั ให้มีเนือ้ ความตรงกบั สิ่งที่กาลงั ทาพธิ ีอยู่ ดงั ตอนท่ีว่า “ ขวญั พอ่ พลายงามทรามสวาดิ มาชมภาชนะทองอนั ผอ่ งใส ล้วนของขวญั จนั ทน์จวงพวงมาลยั ขวญั อยา่ ไปป่าเขาลาเนาเนนิ เหน็ แตเ่ นือ้ เสือสงิ ห์ฝงู ลิงค่าง จะอ้างว้างเวียนวกระหกระเหิน ขวญั มาหายา่ เถิดอยา่ เพลดิ เพลนิ จงเจริญร้อยปีอยา่ มีภยั ” ( เสภาเรื่องขนุ ช้างขนุ แผน หน้า 398 )
วถิ ชี ีวติ ของสังคมในวรรณคดีไทย (ต่อ) 5. คุณธรรมจริยธรรมด้านความกตญั ญูต่อบดิ ามารดา เป็นตอนทีพ่ ลายงามต้องการชว่ ยเหลอื ให้บิดาพ้นโทษ ซง่ึ สอดคล้องกบั งานวิจยั เร่ือง ปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งปัจจยั ทางจิตและปัจจยั ทางสงั คมท่ีมีผลต่อพฤติกรรมใฝ่รู้ใฝ่ดขี องพลายงาม ในวรรณคดีไทยเร่ืองขนุ ช้างขนุ แผน ของ ชมพนู ทุ เมฆเมืองทอง (2558 : 41) กลา่ วในตอนท่ี พลายงามต้องการอยกู่ บั ขนุ แผนในคกุ เน่ืองจากสง่ สารอยากชว่ ยเหลอื ดแู ลขนุ แผน ดังตอนท่วี ่า “เจ้าพลายงามความแสนสง่ สารพอ่ นาตาคลอตกซกซกไหล รับประคาร่าวา่ ประสาใจ ฉนั จะใคร่อยดู่ ้วยชว่ ยบิดา ได้ตกั นา้ ตาข้าวทกุ เช้าค่า ที่พอทาฟืนผกั จะหกั หา ให้พอ่ พ้นทนทกุ ข์แล้วลกู ยา จะอตุ สาห์เลา่ เรียนคอ่ ยเพียรไป ฯ” และตอนทพ่ี ลายงามต้องการศกึ ษาเลา่ เรียนให้มคี วามรู้จะให้ได้รับราชการถวายตวั แก่กษัตริย์ซง่ึ จะเป็นโอกาสทดแทน บญุ คณุ บดิ าด้วยการทลู ขออภยั โทษให้กบั ขนุ แผน ดังตอนท่วี ่า “ครัน้ รุ่งเช้าเจ้าพลายงามก็โกนจกุ เป็นพ้นทกุ ข์พ้นร้อนนอนหลบั ใหล จนผมยาวเจ้าได้ตดั มหดั ไทย คิดจะใคร่เป็นข้าฝ่าธลุ ี เดชะบญุ ทลู ขอพ่อพ้นโทษ เหมือนได้โปรดบิดาเป็นราศ”ี
วถิ ีชีวติ ของสังคมในวรรณคดไี ทย (ต่อ) 6. ความเช่ือเร่ืองความฝัน ตอนท่ีนางวนั ทองฝันเหน็ พลายงามถกู ขนุ ช้างเอาขอนทบั ซงึ่ สอดคล้องกบั เหตกุ ารณ์ที่ขนุ ช้างลวงพลายงาม ดังตอนท่วี ่า “พอมอ่ ยหลบั คลบั คล้ายเหน็ พลายน้อย ขนุ ช้างถอ่ ยทบั ด้วยไม้ขอน ผวาฟื น้ ต่ืนตาให้อาวรณ์ สะอืน้ ออ่ นในอกตกตะลงึ ” ( เสภาเรื่องขนุ ช้างขนุ แผน หน้า 398 ) 7. ความเช่อื เร่ืองลางสงั หรณ์ ตอนที่นางวนั ทองเหน็ แมงมมุ อ้มุ ไข่ตอี ก ซงึ่ คนโบราณถือวา่ จะมเี หตรุ ้ายเกิดขนึ ้ ในบ้าน หรือคนใน บ้าน อาจจะถึงกบั เสยี ชีวิต ดังตอนท่วี ่า “พอแมงมมุ อ้มุ ไข่ไตต่ ีอก นางผงกเงี่ยฟังดงั ผงึ ผงึ ประหลาดลางงหมางจิตรคิดคะนึง ราลกึ ถึงลกู ชายเจ้าพลายงาม” ( เสภาเรื่องขนุ ช้างขนุ แผน หน้า 398 ) ความเช่ือเร่ืองลางสังหรณ์ ตอนที่นางวนั ทองเขมน่ ควิ ้ ตงั้ แต่กลางวนั ถือวา่ จะเกิดเหตรุ ้ายเชน่ กนั ดงั ตอนท่วี ่า “ครานนั้ วนั ทองผอ่ งโสภา เมอ่ื ลกู แก้วแววตาจะอาสญั ควิ ้ กระเหมน่ เป็นลางแตก่ ลางวนั ให้หวน่ั หวน่ั หวิวหววิ หิวหาวนอน” ( เสภาเร่ืองขนุ ช้างขนุ แผน หน้า 398 )
แนวคดิ ที่ได้รับ 1. การศึกษาเล่าเรียนเพ่ือทดแทนบุณคุณ จะเห็นได้ว่าสงั คมไทยปัจจบุ นั ทุกคนจะเรียน หนังสือเพ่ือได้ใบปริญญาหรือเพ่ือทดแทนคุณของบุพการี นับเป็นค่านิยมอย่างหนึ่งของ สงั คมไทย ซง่ึ สอดคล้องกบั งานวิจยั เรื่อง ปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งปัจจยั ทางจิตและปัจจยั ทางสงั คมท่ี มีผลต่อพฤติกรรมใฝ่ รู้ใฝ่ดีของพลายงามในวรรณคดีไทยเร่ืองขนุ ช้างขนุ แผน ของ ชมพนู ทุ เมฆ เมืองทอง (2558 :41) คอื การท่ีพลายงามเชื่อฟังบดิ ารับคาตงั้ มน่ั วา่ จะตงั้ ใจเรียนให้มีวิชาความรู้ เพื่อให้ได้รับราชการและสามารถทลู ขออภยั โทษตอ่ บดิ าของตน ดงั ตอนท่วี ่า “เจ้าจงคอ่ ยร่าเรียนเขียนคาถา รู้ส่งิ ไรไมส่ ้รู ู้วชิ า ไปเบอื ้ งหน้าเตบิ ใหญ่จะให้คณุ ”
แนวคดิ ทไ่ี ด้รับ 2. ครอบครัว เรื่องพอ่ เลยี ้ งกบั ลกู เลยี ้ ง จะเหน็ ได้วา่ สงั คมปัจจบุ นั ปัญหาพอ่ เลยี ้ งกับลกู เลีย้ งมีอยใู่ ห้เหน็ นนั้ มีมาก ไมว่ า่ จะเป็นเรื่องพอ่ เลีย้ งขม่ เหงลกู เลยี ้ ง ทาร้ายร่างกาย แม้กระทง่ั เกดิ การฆา่ กนั เพียงเหตเุ พราะไม่ ชอบใจ เกลียดชงั หรือ เกิดจากอารมณ์ชว่ั วบู เป็นต้น ดงั ตอนท่วี ่า “พลายงามดนิ ้ สนิ ้ เสยี งสาเนียงร้อง ยกแตส่ องมือไหว้หายใจฝ่อ มนั ห้ามวา่ อยา่ ร้องกต็ ้องรอ เรียกหมอ่ มพอ่ เจ้าขาอยา่ ฆา่ เลย จงเหน็ แก่แมว่ นั ทองของลกู บ้าง พอ่ ขนุ ช้างใจบญุ เจ้าคณุ เอย๋ ช่วยฝังปลกู ลกู ไว้ใช้เช่นเคย ผงกเงยมนั กท็ บุ หงบุ ลงไป บีบจมกู จกุ ปากลากกระแทก เสียงแอ๊กแอ๊กออ่ นซบสลบไสล” ( เสภาเร่ืองขนุ ช้างขนุ แผน หน้า 397 )
อ้างอิง ชมพนู ทุ เมฆเมอื งทอง. (2558). ปฏสิ มั พนั ธ์ระหวา่ งปัจจยั ทางจิตและปัจจยั ทางสงั คมท่ีมีผลตอ่ พฤตกิ รรมใฝ่รู้ใฝ่ดีของพลายงามในวรรณคดีไทยเรื่องขนุ ช้างขนุ แผน. มหาวิทยาลยั ราช ภฎั มหาสารคาม.
ขอบคุณค่ะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: