Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษาไทย

ภาษาไทย

Published by somkiatjainak, 2019-02-24 03:54:41

Description: ภาษาไทย

Search

Read the Text Version

1 (วชิ าภาษาไทย) ระดบั ประถมศึกษา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย จงั หวดั สุโขทยั

2 คานา หนงั สือน้ีจดั ทำข้ึนเพื่อเป็ นส่วนหน่ึงของวชิ ำภำษำไทยช้นั ประถมศึกษำเพือ่ ใหไ้ ดศ้ ึกษำหำควำมรู้ใน เร่ืองแผนกำรเรียนรู้และไดศ้ ึกษำอยำ่ งเขำ้ ใจเพือ่ เป็นประโยชนก์ บั กำรเรียน ผจู้ ดั ทำหวงั วำ่ รำยงำนเล่มน้ีจะเป็นประโยชนก์ บั ผอู้ ำ่ น หรือนกั เรียน นกั ศึกษำ ที่กำลงั หำขอ้ มูลเร่ืองน้ี อยู่ หำกมีขอ้ แนะนำหรือขอ้ ผิดพลำดประกำรใด ผูจ้ ดั ทำขอนอ้ มรับไวแ้ ละขออภยั มำ ณ ท่ีน้ีดว้ ย ผจู้ ดั ทำ วนั ที่…………….

สำรบญั 3 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้รำยสปั ดำห์ ระดบั ประถมศึกษำ หนำ้ ใบควำมรู้เร่ือง โครงสร้ำงหลกั สูตรตำมหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีกำรจดั กำรศึกษำนอกโรงเรียน วธิ ีกำรจดั กำรศึกษำนอกโรงเรียน 4 แบบประเมินผลกำรปฐมนิเทศผเู้ รียน 8 แบบทดสอบก่อนเรียน 9 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้รำยสัปดำห์ ระดบั ประถมศึกษำ 13 แบบทดสอบหลงั เรียน 18 สรุป 22 บรรณำนุกรม 25 ประวตั ิผจู้ ดั ทำ 29 30 31

4 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้รำยสัปดำห์ ระดบั ประถมศึกษำ หมวดวชิ ำภำษำไทย ระดบั ประถมศึกษำ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี 1 (เวลำ 3 ชว่ั โมง/สัปดำห์) เรื่อง ปฐมนิเทศ วนั ท่ี....................เดือน................................พ.ศ. .................. ผสู้ อน ........................................................ ...................ศูนยก์ ำรเรียนชุมชน......................................................... ................................................................................................................................................................................. 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มำตรฐำน ท 1.1 ใชก้ ระบวนกำรอ่ำนสร้ำงควำมรู้และควำมคิดไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหำและ สร้ำงวสิ ยั ทศั น์ในกำรดำเนินชีวติ และมีนิสยั รักกำรอำ่ น มำตรฐำน ท 2.1 ใชก้ ระบวนกำรเขียน เขียนส่ือสำร เขียนเรียงควำม ยอ่ ควำม และเขียน เรื่องรำวในรูปแบบต่ำง ๆ เขียนรำยงำนขอ้ มูลสำนสนเทศและรำยงำน กำรศึกษำคน้ ควำ้ อยำ่ งมีประสิทธิภำพ มำตรฐำน ท 3.1 สำมำรถเลือกฟังและดูอยำ่ งมีวจิ ำรณญำณ และพูดแสดงควำมรู้ ควำมคิด ควำมรู้สึกในโอกำสต่ำงๆ อยำ่ งมีวจิ ำรณญำณและสร้ำงสรรค์ มำตรฐำน ท 4.1 เขำ้ ใจธรรมชำติของภำษำและหลกั ภำษำไทย กำรเปล่ียนแปลงของภำษำและพลงั ของภำษำ ภูมิปัญญำทำงภำษำ และรักษำภำษำไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชำติ มำตรฐำน ท 5.1 เขำ้ ใจและแสดงควำมคิดเห็น วจิ ำรณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยำ่ งเห็น คุณคำ่ และนำมำประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง 2. ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั 1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนเขำ้ ใจโครงสร้ำงหลกั สูตรกำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำน พทุ ธศกั รำช 2544 ตำมหลกั เกณฑแ์ ละ วธิ ีกำรจดั กำรศึกษำนอกโรงเรียน โครงสร้ำงหมวดวชิ ำภำษำไทยและแนวทำงกำรจดั กระบวนกำร เรียนรู้ 2. เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนสำมำรถปฏิบตั ิตำมบทบำทหนำ้ ท่ีของผเู้ รียนทีดี 3. สาระการเรียนรู้ - ช้ีแจงโครงสร้ำงหลกั สูตรกำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำน พุทธศกั รำช 2544 ตำมหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีกำรจดั กำรศึกษำนอกโรงเรียน ระดบั ประถมศึกษำ - โครงสร้ำงหมวดวชิ ำภำษำไทย - กำรจดั กระบวนกำรเรียนรู้ กำรพบกลุ่ม กำรเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต.) กำรสอนเสริม กำร เรียนรู้กำรทำโครงงำน กิจกรรม กพช. - กำรวดั /ประเมินผลกำรเรียนรู้ - เกณฑก์ ำรเรียนและกำรจบหลกั สูตร

5 - กำรปฏิบตั ิตนตำมบทบำทหนำ้ ที่ของผเู้ รียนท่ีดี - ช้ีแจงเรื่องอื่น ๆ เช่น มำรยำทในกำรแต่งกำย กำรพูด ฯลฯ - ฝึกกระบวนกำรกลุ่ม อภิปรำยแลกเปล่ียนควำมคิดเห็น - วำงแผนกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ ตำมโครงสร้ำงหมวดวชิ ำ - มอบหมำยงำนในผเู้ รียนเรียนรู้ต่อเนื่อง เร่ืองกำรอ่ำน 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ - ผเู้รียนปฏิบตั ิตำมหลกั เกณฑข์ องสถำนศึกษำได้ - ผเู้ รียนมีควำมเขำ้ ใจ เรียนรู้ตำมโครงสร้ำงหลกั สูตรและกระบวนกำรเรียนรู้ได้ - ผเู้ รียนสำมำรถปฏิบตั ิตำมแผนกำรจดั กระบวนกำรเรียนรู้มีควำมสอดคลอ้ งกบั ผเู้ รียนได้ - ผเู้ รียนรู้หลกั กำรอ่ำนออกเสียงได้ 5. บันทกึ ก่อนการจัดกจิ กรรม ครูและผเู้ รียนมีกำรพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบกำรณ์และแสดงควำมคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองกำรเรียน กศน. 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 เตรียมความพร้อม - สถำนที่จดั ปฐมนิเทศ - เอกสำร แผน่ พบั - คูม่ ือนกั ศึกษำ - วสั ดุ อุปกรณ์อ่ืน ๆ ท่ีจะตอ้ งใช้ เช่น ปำกกำ กระดำษ เคร่ืองเสียง - หนงั สือเรียนวชิ ำภำษำไทย - แบบประเมินผลกำรปฐมนิเทศผเู้ รียน - แผนกำรจดั กระบวนกำรเรียนรู้ ข้นั ท่ี 2 อุ่นเคร่ือง - ผเู้ รียนทุกคนเขำ้ รับกำรปฐมนิเทศตำมสถำนที่ที่ไดน้ ดั หมำยไว้ - ผบู้ ริหำรสถำนศึกษำกล่ำวใหโ้ อวำท พร้อมท้งั ช้ีแจงนโยบำยกำรจดั กำรศึกษำนอกโรงเรียน ตำม หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีกำรจดั กำรศึกษำนอกโรงเรียน ตำมหลกั สูตร กำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำน พุทธศกั รำช 2544 - ครูช้ีแจงโครงสร้ำงหลกั สูตร แผนกำรจดั กระบวนกำรเรียนรู้ ข้นั ที่ 3 เร่ืองรายบุคคล - ครูซกั ถำมควำมรู้เก่ียวกบั กำรเรียน กศน. และทดสอบควำมรู้พ้ืนฐำนของผูเ้ รียน - ครูเปิ ดโอกำสใหผ้ เู้ รียนไดซ้ กั ถำมเกี่ยวกบั งำน กศน. ทุก ๆ ดำ้ น - ใหน้ กั ศึกษำกรอกขอ้ มูลในแบบบนั ทึกประวตั ิของผเู้ รียน ข้นั ท่ี 4 รวมพลช่วยกนั สร้างสรรค์ผลงาน - ผเู้ รียนร่วมกนั วเิ ครำะห์พร้อมท้งั ปรับปรุงแกไ้ ขกระบวนกำรเรียนรู้ใหส้ อดคลอ้ งกบั ควำมตอ้ งกำรของ ผเู้ รียน ข้นั ที่ 5 สื่อสารวธิ ี

6 - ครูมอบหมำยงำนใหผ้ เู้รียนไปคน้ ควำ้ หำควำมรู้ในหวั ขอ้ เร่ือง หลกั กำรอ่ำนออกเสียงและนำมำอภิปรำย แลกเปล่ียนควำมรู้ร่วมกนั ในสัปดำห์ท่ี 2 ข้นั ท่ี 6 มากมีวธิ ีการ - ครูสรุปควำมรู้องคร์ วมใหก้ บั ผเู้ รียน ก่อนจบกำรปฐมนิเทศ ข้นั ที่ 7 สืบสานรายบุคคล - ใหผ้ เู้ รียนสรุปควำมรู้ท่ีไดจ้ ำกกำรปฐมนิเทศ - แจกแบบประเมินผลกำรปฐมนิเทศผเู้ รียน ข้นั ที่ 8 สรุปผล กศน. ดำ้ นควำมรู้ - แบบประเมินผลกำรปฐมนิเทศผเู้ รียน ดำ้ นทกั ษะ - ประเมินจำกกำรสงั เกตกำรทำกิจกรรมของผูเ้ รียน ดำ้ นคุณธรรม จริยธรรม และคำ่ นิยม - ประเมินจำกควำมรับผดิ ชอบงำนที่ไดร้ ับมอบหมำย - ประเมินโดยกำรสังเกตพฤติกรรมในกำรร่วมกิจกรรม วธิ ีวดั ผล ส่ิงท่ีตอ้ งกำรวดั เครื่องมือวดั ผล เกณฑก์ ำรประเมิลผล 1.ผลงำนกิจกรรม 1.ควำมรู้ 1. แบบประเมินผล เกณฑผ์ ำ่ นร้อยละ 80 2.ผลกำรเรียนรู้ - คิดอยำ่ งมีเหตุผลและเป็น กำรปฐมนิเทศผเู้ รียน 3.ควำมร่วมมือของผเู้ รียน ระบบ 2. แบบประเมินจำ 4. ควำมต้งั ใจ ควำมเสียสละ - กำรจบั ประเด็นสำคญั กำรสังเกต และควำมสนใจในกำรเขำ้ 2.ทกั ษะ 3. แบบประเมิน ร่วมกิจกรรม - ทำงภำษำ - กำรใชภ้ ำษำไทย -กำรใชภ้ ำษำในกำรพฒั นำตน - วเิ ครำะห์สรุปควำมได้ 3.เจตคติ - นิสยั รักกำรอ่ำน - กำรแสวงหำควำมรู้ - คุณธรรม จริยธรรม 7. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................

7 8. ข้อเสนอแนะของหวั หน้าสถานศึกษาหรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ 9. บนั ทกึ ผลหลงั การจัดกจิ กรรม - ผลกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. - ปัญหำและอุปสรรค ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. - ขอ้ เสนอแนะและแนวทำงแกไ้ ข ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................

8 ใบความรู้ เร่ือง โครงสร้างหลกั สูตรตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการจัดการศึกษานอกโรงเรียน โครงสร้างหลกั สูตรตามหลกั เกณฑ์ สาระการเรียนรู้ ประถม รหัสวชิ า ม. ปลาย การจัดกระบวนการเรียนรู้ ม. ต้น TH30(7) กลุ่มหมวดวชิ าพืน้ ฐาน TH10(5) MA30(7) กำรจดั กำรเรียนรู้โดยกำรพบกลุ่ม 1. ภำษำไทย MA10(5) TH20(6) SC30(7) ( 3 ชวั่ โมง ต่อสัปดำห์) 2. คณิตศำสตร์ SC10(5) MA20(6) EN30(7) 3. วทิ ยำศำสตร์ SC20(6) กำรเรียนรู้ต่อเน่ือง (กรต.) EN20 (6) CO30(12) (ในช่วงเวลำระหวำ่ งสปั ดำห์ท่ี 4. ภำษำต่ำงประเทศ EN10(5) (ภำษำองั กฤษ ฝรั่งเศส ญ่ีป่ ุน) CO20 (8) LH30(12) จะมีกำรพบกลุ่ม) กลุ่มหมวดวชิ าประสบการณ์ CO10(7) LA30(12) 5. พฒั นำสังคมและชุมชน LH20(8) WO30(12) กำรทำโครงงำน (คง.) (สังคมศึกษำ ศำสนำและ LH10 (7) (1 หมวดวชิ ำ ต่อ 1 โครงงำน) วฒั นธรรม) LA10 (7) LA20(8) 6. พฒั นำทกั ษะชีวติ 1 WO10 (7) WO20(8) กำรสอนเสริม (สุขศึกษำและพลศึกษำ) (นอกเหนือจำกเวลำกำรพบกลุ่ม) 7. พฒั นำทกั ษะชีวติ 2 (ศิลปะ) กำรจดั กำรเรียนรู้โดยกำรทำ 8. พฒั นำอำชีพ กิจกรรมพฒั นำคุณภำพชีวิต (กำรงำนอำชีพและเทคโนโลย)ี (กพช.) ไมน่ อ้ ยกวำ่ 100 ชว่ั โมง 1 ภำคเรียน ทำกิจกรรม กพช. ไมน่ อ้ ยกวำ่ 25 ชวั่ โมง

9 วธิ ีการจัดการศึกษานอกโรงเรียน ผเู้ รียนตอ้ งเรียนกลุ่มวชิ ำพ้นื ฐำน 4 หมวดวชิ ำ ประกอบดว้ ย ภำษำไทย คณิตศำสตร์ วทิ ยำศำสตร์ และ ภำษำต่ำงประเทศ รวม 20 หน่วยกิต และกลุ่มหมวดวชิ ำประสบกำรณ์ 4 หมวดวชิ ำ ประกอบดว้ ย พฒั นำสงั คม และชุมชน พฒั นำทกั ษะชีวติ 1 พฒั นำทกั ษะชีวติ 2 และพฒั นำทกั ษะอำชีพ รวม 28 หน่วยกิต รวมตลอด หลกั สูตรไม่นอ้ ยกวำ่ 48 หน่วยกิต และตอ้ งทำกิจกรรมพฒั นำคุณภำพชีวิต(กพช.) ไมน่ อ้ ยกวำ่ 100 ชวั่ โมง การขนึ้ ทะเบยี น ผทู้ ่ีประสงคจ์ ะสมคั รเป็นนกั ศึกษำนอกโรงเรียนตอ้ งข้ึนทะเบียนเป็นนกั ศึกษำ โดยสถำนศึกษำมีหนำ้ ท่ี เปิ ดรับข้ึนทะเบียนเป็ นนกั ศึกษำตลอดปี กำรศึกษำ โดยดำเนินกำรดงั น้ี การลงทะเบียนเรียน ใหด้ ำเนินกำรดงั น้ี 1) ระดบั ประถมศึกษำและมธั ยมศึกษำตอนตน้ นกั ศึกษำสำมำรถลงทะเบียนเรียนได้ ภำคเรียนละ 2 หมวดวชิ ำ โดยลงทะเบียนเรียนในกลุ่มวชิ ำพ้ืนฐำน 1 หมวด และกลุ่มหมวดวชิ ำปะสบกำรณ์ 1 หมวด รวม ท้งั หมดวชิ ำที่ได้ “0” ดว้ ย เม่ือนบั รวมกนั แลว้ ตอ้ งไม่เกิน 2 หมวด โดยยกเวน้ วชิ ำท่ีนำมำเทียบโอนผลกำรเรียน 2) ระดบั มธั ยมศึกษำตอนปลำย นกั ศึกษำสำมำรถลงทะเบียนได้ ภำคเรียนละ 2 หมวด โดย ลงทะเบียนในกลุ่มหมวดวชิ ำพ้นื ฐำน 1 หมวด และกลุ่มหมวดวชิ ำประสบกำรณ์ 1 หมวด และสำมำรถ ลงทะเบียนวชิ ำท่ีสอบตกไดอ้ ีก 1 หมวด รวมเป็น 3 หมวด การพ้นสภาพการเป็ นนักศึกษา 1. สำเร็จกำรศึกษำ 2. ลำออก 3. ตำย 4. ออกตำมระเบียบกระทรวงศึกษำธิกำรวำ่ ดว้ ยกำรลงโทษนกั เรียนหรือนกั ศึกษำ 5. ไม่ลงทะเบียนเพือ่ รักษำสภำพกำรเป็นนกั ศึกษำเป็นเวลำ 6 ภำคเรียนติดต่อกนั 6. ขำดคุณสมบตั ิเป็ นนกั ศึกษำสำนกั บริหำรงำนกำรศึกษำนอกโรงเรียน รูปแบบการจัดการเรียนรู้ กำรจดั กำรศึกษำนอกโรงเรียนไดก้ ำหนดรูปแบบกำรจดั กำรศึกษำออกเป็ น 2 ลกั ษณะ คือ 1. จัดการศึกษาโดยการพบกล่มุ จะเนน้ หนกั กำรศึกษำเรียนรู้ดว้ ยตนเองเป็ นหลกั มีกำรพบกลุ่มเพ่อื นำสิ่งท่ีได้ ไปศึกษำคน้ ควำ้ ดว้ ยตนเองมำนำเสนอ อภิปรำยและสรุปร่วมกนั ในลกั ษณะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกนั 2. การจัดการศึกษาโดยการศึกษาทางไกล เป็นวธิ ีกำรท่ีผเู้ รียน เรียนรู้ผำ่ นสื่อกำรศึกษำทำงไกล ไดแ้ ก่ วทิ ยุ โทรทศั น์ อินเตอร์เน็ต เป็นตน้ วธิ ีการเรียนโดยการพบกลุ่ม 1. การจัดการเรียนรู้โดยการพบกล่มุ ในแตล่ ะหมวดวชิ ำ(มีคะแนนร้อยละ 60 ของคะแนนท้งั หมด) การพบกลุ่ม โดยดำเนินกำรจดั กิจกรรมกำรเรียน(กำรเรียนกำรสอน) เนน้ กระบวนกำรใหน้ กั ศึกษำสร้ำง ควำมรู้ ควำมคิดไดด้ ว้ ยตนเอง นกั ศึกษำตอ้ งใหค้ วำมสำคญั และร่วมกิจกรรมทุกคร้ัง เนื่องจำกมีกำรประเมินผล ร่วมอยดู่ ว้ ยทุกกิจกรรมกำรเรียนรู้ โดยกำหนดใหน้ กั ศึกษำตอ้ งมำพบกลุ่ม เรียนรู้จำกกระบวนกำรพบกลุ่ม เวลำประมำณ 3-5 ชว่ั โมงต่อสัปดำห์ มีข้นั ตอนกำรดำเนินงำนดงั น้ี

10 1. กิจกรรม Home room โดยกำรที่ครูจะตอ้ งใหก้ ำรแนะแนว แกไ้ ขปัญหำ กำรเรียนรู้ของนกั ศึกษำและ ติดตำมปัญหำของนกั ศึกษำเป็นรำยบุคคล ในกำรไปเรียนรู้ตลอดสัปดำห์ที่ผำ่ นมำ 2. ใหน้ กั ศึกษำนำเสนอผลงำนหรือผลกำรศึกษำคน้ ควำ้ จำกกิจกรรมกำรเรียนรู้ตอ่ เน่ืองตลอดสัปดำห์ที่ผำ่ น มำซ่ึงเป็นกิจกรรมกำรเรียนรู้ตอ่ เนื่องที่ครูไดม้ อบหมำยในกำรพบกลุ่มคร้ังผำ่ นมำ หรือโครงงำนท่ี ไดร้ ับมอบหมำยหรือวำงแผนกำรเรียนรู้ร่วมกนั ครูโดยจะเป็นงำนกลุ่มหรือรำยบุคคลก็ได้ ซ่ึงจะมี คะแนนสะสมระหวำ่ งเรียน 3. ครูจดั กำรเรียนกำรสอนเพิ่มเติมในเน้ือหำที่ยำกปำนกลำง ซ่ึงนกั ศึกษำกบั ครูไดร้ ่วมกนั วำงแผนกำร เรียนรู้ไวล้ ่วงหนำ้ 4. ทดสอบควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ สำระเน้ือหำหรือทดสอบยอ่ ย ในลกั ษณะ ถำม-ตอบ (Quiz) นกั ศึกษำตอ้ งเขำ้ ทดสอบทุกคร้ังของกำรพบกลุ่ม เป็นกำรวดั ผลระหวำ่ งเรียนมีคะแนนสะสม 5. ครูมอบหมำยกิจกรรมกำรเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต.) ในเน้ือหำที่ง่ำย ซ่ึงนกั ศึกษำสำมำรถเรียนรู้ไดด้ ว้ ย ตนเองจำกส่ือผรู้ ู้ และแหล่งเรียนรู้ โดยมีเวลำทำกิจกรรมกำรเรียนรู้ตลอดสปั ดำห์ไม่นอ้ ยกวำ่ 15 ชว่ั โมง และจะตอ้ งมีผลกำรเรียนรู้หรือชิ้นงำนนำเสนอต่อกลุ่มในกำรพบกลุ่มคร้ังต่อไป 6. กิจกรรมกำรเรียนรู้จำกโครงงำน นกั ศึกษำร่วมกนั วำงแผนจดั ทำโครงงำน โดยมีครูเป็ นที่ปรึกษำและมี กำรรำยงำนควำมกำ้ วหนำ้ ของกำรทำโครงงำนทุกสปั ดำห์หลงั จำกกำรพบกลุ่ม ซ่ึงมีคะแนนสะสมทุก คร้ังโดยมีกำรบูรณำกำรเน้ือหำสำระของหมวดวชิ ำท้งั หมดที่ลงทะเบียนเรียนในภำคเรียนน้นั ไมน่ อ้ ย กวำ่ ภำคเรียนละ 1 โครงงำน 7. กำรเรียนรู้โดยกำรทำกิจกรรมพฒั นำคุณภำพชีวติ (กพช.) เป็นกระบวนกำรเรียนรู้ที่ใชก้ ระบวนกำรกลุ่ม เนน้ กำรมีส่วนร่วมนำควำมรู้และประสบกำรณ์ไปใชเ้ พื่อพฒั นำตนเอง ครอบครัว สังคม ชุมชน และ สิ่งแวดลอ้ ม ตลอดจนกำรปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ระเบียบวนิ ยั ควำมรับผดิ ชอบ กำรอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยำ่ งมีควำมสุข ซ่ึงเป็นเง่ือนไขของกำรจบหลกั สูตรทุกระดบั จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต.) นกั ศึกษำไดเ้ รียนรู้ดว้ ยตนเองตอ่ เนื่องจำกกำรพบกลุ่ม ซ่ึงไปศึกษำคน้ ควำ้ ท่ีแหล่งเรียนรู้ ผรู้ ู้ ภูมิปัญญำ และจำกสิ่งอื่นๆ แลว้ นำควำมรู้ควำมเขำ้ ใจไปนำเสนอกบั กลุ่มนกั ศึกษำเพือ่ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซ่ึงกนั และกนั ใน กำรพบกลุ่มคร้ังต่อไป โดยสำมำรถดำเนินกำรเป็ นกลุ่ม หรือรำยบุคคลไดต้ ำมควำมเหมำะสมในแตล่ ะเน้ือหำ สำระ กิจกรรมดงั กล่ำว นกั ศึกษำจะตอ้ งดำเนินกำรต่อเนื่องตลอดเวลำทุกวนั นอกเหนือจำกกำรพบกลุ่ม ซ่ึงอำจ ใชเ้ วลำวนั ละประมำณ 3-4 ชวั่ โมง ดาเนินการให้มีการจัดทาโครงงาน (คง.) นกั ศึกษำร่วมกนั วำงแผน และดำเนินกำรจดั ทำโครงงำนทุกหมวดวชิ ำท่ีลงทะเบียนแตล่ ะภำคเรียน โดย บูรณำกำรกบั กำรดำรงชีวติ ประกอบอำชีพ เนน้ กำรทำโครงงำนท่ีเป็นสภำพจริง เพ่ือใหเ้ กิดกำรแกป้ ัญหำหรือกำร พฒั นำ เช่น โครงงำนเกี่ยวกบั กองทุนหมูบ่ ำ้ น เก่ียวกบั ปัญหำยำเสพติด เกี่ยวกบั กำรประกอบอำชีพและเก่ียวกบั กำรฝึกทกั ษะอำชีพ เป็นตน้

11 การเรียนรู้ด้วยการสอนเสริม มีควำมจำเป็นสำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้เพรำะจะช่วยใหน้ กั ศึกษำมีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจเกี่ยวกบั สำระกำร เรียนรู้มำกข้ึน เนื่องจำกมีสำระกำรเรียนรู้ที่ยำกและซบั ซอ้ นและระยะเวลำเรียนท่ีค่อยขำ้ งจำกดั ทำใหน้ กั ศึกษำ ไมส่ ำมำรถเขำ้ ใจไดจ้ ึงมีควำมจำเป็นจะตอ้ งสอนเสริมในบำงหมวดวชิ ำและบำงสำระกำรเรียนรู้ท่ีมีควำมยำกและ ซบั ซอ้ น ไดแ้ ก่ วชิ ำวทิ ยำศำสตร์ คณิตศำสตร์ ภำษำต่ำงประเทศ หมวดวชิ ำละไมเ่ กิน 12 ชว่ั โมง โดยท้งั นกั ศึกษำและครูร่วมกนั วำงแผนกำรสอนเสริม โดยเชิญวทิ ยำกรซ่ึงเป็นภูมิปัญญำชำวบำ้ น ผรู้ ู้ ผชู้ ำนำญใน เน้ือหำน้นั เช่น ครูอำจำรยท์ ่ีเกษียณอำยแุ ลว้ หรือใชส้ ่ือวดี ิทศั นป์ ระกอบกำรสอน ร่วมปฏิบตั ิกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชีวติ (กพช.) ทุกภาคเรียน นกั ศึกษำร่วมกนั ทำกิจกรรมโดยร่วมคิด ร่วมตดั สินใจ วำงแผน ร่วมปฏิบตั ิงำนร่วมประเมินผลใน กิจกรรมที่ทำทุกภำคเรียน จนครบ 100 ชวั่ โมง (4 เทอม) 2. การสอบปลายภาค ในแตล่ ะหมวดวชิ ำ/รำยวชิ ำน้นั ๆ นกั ศึกษำตอ้ งเขำ้ สอบปลำยภำคทุกคน และตอ้ งสอบ ใหไ้ ดไ้ มน้ อ้ ยกวำ่ ร้อยละ 50 ของคะแนนเตม็ ปลำยภำคเรียนจึงจะสอบผำ่ น การสอบแก้ตวั หำกนกั ศึกษำไม่ผำ่ นกำรประเมินหมวดวชิ ำใด ใหส้ อบซ่อมเสริม แลว้ สอบแกต้ วั ในหมวดวชิ ำ น้นั โดยใชเ้ ครื่องมือที่เหมำะสมในกำรดำเนินกำรหำกไม่ผำ่ นตำมมำตรฐำน จึงใหผ้ ลกำรเรียนเป็น “0” ซ่ึง จะตอ้ งดำเนินกำรใหแ้ ลว้ เสร็จก่อนนดั ลงทะเบียนเรียนในภำคเรียนถดั ไป ถำ้ สอบซ่อม ผำ่ น ใหค้ ่ำคะแนนผล กำรเรียนเป็น “1” ถำ้ สอบซ่อมไม่ผำ่ น ใหน้ กั ศึกษำลงทะเบียนเรียนซ้ำในหมวดวชิ ำน้นั การเปิ ด-ปิ ด ภาคเรียน ภำคเรียนที่ 1 วนั เปิ ดภำคเรียน 16 พฤษภำคม ของทุกปี วนั ปิ ดภำคเรียน 11 ตุลำคม ของทุกปี ภำคเรียนที่ 2 วนั เปิ ดภำคเรียน 1 พฤศจิกำยน ของทุกปี วนั ปิ ดภำคเรียน 1 เมษำยน ของทุกปี การผ่านระดบั การศึกษาและการจบหลกั สูตร ผูเ้ รียนท้ังระดับประถมศึกษำ มธั ยมศึกษำตอนต้น และระดับมธั ยมศึกษำตอนปลำย สำมำรถจบ กำรศึกษำได้ 2 ช่วง คือ จบระดบั มธั ยมศึกษำตอนตน้ และระดบั มธั ยมศึกษำตอนปลำย โดยมีเกณฑ์กำรผ่ำน ระดบั กำรศึกษำ และจบหลกั สูตรใน แต่ละระดบั กำรศึกษำ ดงั น้ี 1. ผำ่ นเกณฑก์ ำรประเมินตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้ในแต่ละระดบั กำรศึกษำ ตำมที่สถำนศึกษำกำหนด ดงั น้ี 1.1 ระดบั ประถมศึกษา กลุ่มหมวดวชิ ำพ้นื ฐำน 20 หน่วยกิต และกลุ่มหมวดวชิ ำประสบกำรณ์ 28 หน่วยกิต รวมตลอดหลกั สูตรไม่นอ้ ยกวำ่ 48 หน่วยกิต 1.2 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มหมวดวชิ ำพ้นื ฐำน 24 หน่วยกิต และกลุ่มหมวดวชิ ำ ประสบกำรณ์ 32 หน่วยกิต รวมตลอดหลกั สูตรไม่นอ้ ยกวำ่ 56 หน่วยกิต 1.3 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มหมวดวชิ ำพ้นื ฐำน 28 หน่วยกิต และกลุ่มหมวดวชิ ำ ประสบกำรณ์ 48 หน่วยกิต รวมตลอดหลกั สูตรไมน่ อ้ ยกวำ่ 76 หน่วยกิต

12 2. ผำ่ นเกณฑก์ ำรประเมินกิจกรรมพฒั นำคุณภำพชีวติ (กพช.) ตำมท่ีกำหนดไวใ้ นหลกั เกณฑ์ และวธิ ีกำร จดั กำรศึกษำนอกโรงเรียน 3. ผำ่ นกระบวนกำรประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคต์ ำมเกณฑท์ ี่สถำนศึกษำกำหนด 4. ผำ่ นเกณฑก์ ำรประเมินกำรอ่ำน คิด วเิ ครำะห์ และเขียน ตำมเกณฑท์ ี่สถำนศึกษำกำหนด การวดั ผลประเมินผลการเรียนหมวดวชิ า (100 ส่วน) กำรประเมินผลก่อนเรียน การประเมินระหว่างเรียน (60 ส่วน)  การเมนิ ผลการปฏิบัติกจิ กรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง (20 ส่วน) - ประเมินผลจำกหลกั ฐำนชิ้นงำนที่นกั ศึกษำไปศึกษำคน้ ควำ้ - ประเมินจำกกำรนำเสนอผลงำน - กำรร่วมอภิปรำยในกลุ่ม  การทดสอบย่อย (10 ส่วน)  การประเมินโครงงาน (30 ส่วน) - เอกสำรโครงงำน - กระบวนกำรทำงำน - ผลงำน/รำยงำน การประเมินผลปลายภาคเรียน (40 ส่วน)  อตั นยั (20 ส่วน)  ปรนยั (20 ส่วน) การประเมินผล 80-100 % 4 75-79 % 3.5 70-74 % 3 65-69 % 2.5 60-64 % 2 55-59 % 1.5 50-54 % 1 0-49 % 0

13 แบบประเมินผลการปฐมนิเทศผู้เรียน การปฐมนิเทศนักศึกษาศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอ................................... คาชี้แจง โปรดอำ่ นขอ้ ควำมท่ีตรงกบั ควำมจริงท่ีเกี่ยวกบั ตวั ทำ่ น โดยใชเ้ คร่ืองหมำย  ตอนที่ 1 ขอ้ มูลเบ้ืองตน้ ผตู้ อบแบบสำรวจ เพศ  ชำย  หญิง อำยุ  ต่ำกวำ่ 20 ปี  20-30 ปี  31-40 ปี  41-50 ปี  50 ปี ข้ึนไป กำรศึกษำ  ประถมศึกษำ  มธั ยมศึกษำตอนตน้  มธั ยมศึกษำตอนปลำย อำชีพ  ไมม่ ีอำชีพ  รับจำ้ ง  รับรำชกำร  เกษตร  คำ้ ขำย  นกั เรียน/นกั ศึกษำ สถำนภำพ  ประชำชน  นกั ศึกษำ กศน. ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจทม่ี ีต่อการปฐมนิเทศของ กศน. ท่ี ประเดน็ การปฐมนิเทศ น้อยทส่ี ุด น้อย ปานกลาง มาก มากทสี่ ุด 1 ท่านมีความเข้าใจมากเพยี งใดจากเรื่อง ต่อไปนี้ 1.1 โครงสร้ำงหลกั สูตร 1.2 เกณฑก์ ำรจบหลกั สูตร 1.3 กิจกรรมพฒั นำคุณภำพชีวติ 1.4 กำรเทียบโอนอำชีพ 1.5 กำรเทียบโอนสำมญั 1.6 กำรวดั และประเมินผล 1.7 กำรทำ กรต. 1.8 กำรทำโครงงำน 1.9 กำรขอจบหลกั สูตร 2 ท่านมคี วามพงึ พอใจเกยี่ วกบั 2.1 วทิ ยำกร 2.2 เอกสำรประกอบกำรปฐมนิเทศ 2.3 แสง-เสียง 2.4 สถำนที่จดั ประชุม รวม ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะเพมิ่ เติม ควำมพงึ พอใจโดยภำพรวม  มำกที่สุด  มำก  ปำนกลำง  นอ้ ย  นอ้ ยที่สุด ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................

14 ................................................................................................................................................................................. แผนกำรจดั กำรเรียนรู้บูรณำกำรรำยสปั ดำห์ ระดบั ประถมศึกษำ หมวดวชิ ำภำษำไทย ระดบั ประถมศึกษำ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 2 (เวลำ 3 ชวั่ โมง/สัปดำห์) สำระกำรเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง กำรอำ่ น วนั ท่ี................เดือน............................พ.ศ. .............. ผสู้ อน....................................................................ศูนยก์ ำรเรียนชุมชน....................................................... ............................................................................................................................................................. 1. มาตรฐานการเรียนรู้ - ใชก้ ระบวนกำรอำ่ น สร้ำงควำมรู้และควำมคิดไปใชต้ ดั สินใจแกป้ ัญหำและสร้ำงวสิ ัยทศั นใ์ นกำร ดำรงชีวติ และมีนิสยั รักกำรอ่ำน 2. ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั 1. ผเู้ รียนสำมำรถอ่ำนไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ งและอ่ำนไดเ้ ร็ว เขำ้ ใจควำมหมำยของคำ สำนวน โวหำร กำร บรรยำย กำรพรรณนำ กำรเปรียบเทียบ กำรใชบ้ ริบท เขำ้ ใจควำมหมำยของถอ้ ยคำ สำนวนและเน้ือ เรื่องและใชแ้ หล่งควำมรู้พฒั นำควำมสำมำรถกำรอำ่ น 2. ผเู้ รียนสำมำรถแยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็น วเิ ครำะห์ควำม ตีควำม สรุปควำม หำคำสำคญั เร่ืองที่ อำ่ นและใชแ้ ผนภำพคิด พฒั นำควำมสำมำรถกำรอำ่ น นำควำมรู้ ควำมคิดจำกกำรอำ่ นไปใชแ้ กป้ ัญหำ ตดั สินใจคำดกำรณ์ และใชก้ ำรอ่ำนเป็นเครื่องมือในกำรพฒั นำตนกำรตรวจสอบควำมรู้และคน้ ควำ้ เพมิ่ เติม 3. ผเู้ รียนสำมำรถอำ่ นในใจและอ่ำนออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองไดถ้ ูกตอ้ งและรวดเร็วตำม ลกั ษณะคำประพนั ธ์และอกั ขรวธิ ี และจำบทร้อยกรองที่มีคุณคำ่ ทำงควำมคิด และควำมงดงำมทำงภำษำ สำมำรถอธิบำยควำมหมำยและคุณค่ำนำไปใชอ้ ำ้ งอิง 4. ผเู้ รียนสำมำรถเลือกอ่ำนหนงั สือและสื่อสำรสนเทศท้งั ส่ือสิ่งพมิ พแ์ ละส่ืออิเล็กทรอนิคส์ ตำม จุดประสงคไ์ ดอ้ ยำ่ งกวำ้ งขวำงและมีประสิทธิภำพ มีมำรยำทและนิสัยรักกำรอำ่ น 3. สาระการเรียนรู้ 1. วธิ ีกำรอำ่ นออกเสียง 1.1 อ่ำนข่ำว 1.2 อำ่ นประกำศ 1.3 อำ่ นขอ้ ควำม 1.4 อำ่ นบทสนทนำ 2. วธิ ีกำรอ่ำนทำนองเสนำะ 3. วธิ ีกำรอ่ำนบทกลอน 4. หลกั กำรอำ่ นในใจ 5. หลกั กำรวเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์และสรุปใจควำมสำคญั เรื่องท่ีอ่ำน

15 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ผเู้ รียนสำมำรถอำ่ นไดค้ ล่องและอำ่ นไดเ้ ร็ว 2. ผเู้ รียนมีควำมเขำ้ ใจควำมหมำยของคำ และหนำ้ ท่ีของคำ กลุ่มคำและประโยค 3. ผเู้ รียนเขำ้ ใจควำมหมำยของสำนวน โวหำร สุภำษิต เปรียบเทียบ จบั ประเด็จสำคญั แยกขอ้ เทจ็ จริง และขอ้ คิดเห็น วเิ ครำะห์ควำม ตีควำม สรุปควำมได้ 4. ผเู้ รียนนำควำมรู้ท่ีไดจ้ ำกกำรอำ่ นไปใชแ้ กป้ ัญหำ ตดั สินใจ คำดกำรณ์ และใชก้ ำรอ่ำนเป็นเครื่องมือใน กำรพฒั นำตนได้ 5. ผเู้ รียนเลือกอำ่ นหนงั สือ สื่อสำรสนเทศที่มีประโยชน์จำกแหล่งควำมรู้ต่ำงๆ ได้ 6. ผเู้ รียนมีมำรยำทในกำรอ่ำนและมีนิสัยรักกำรอ่ำน 5. บนั ทกึ ก่อนการจัดกจิ กรรม ครูและผเู้ รียนมีกำรพดู คุยแลกเปล่ียนประสบกำรณ์ในกำรดำเนินชีวติ ในปัจจุบนั 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 เตรียมความพร้อม - เอกสำรประกอบกำรสอน หนงั สือพิมพ์ - หนงั สือแบบเรียนวชิ ำภำษำไทย - หนงั สืออำ่ นนอกเวลำ - วสั ดุอุปกรณ์ และเครื่องมืออื่น ๆ เช่น ปำกกำ ท่ีลบกระดำน กระดำษ - ใบควำมรู้ - ใบงำน แบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน ข้นั ท่ี 2 อุ่นเคร่ือง - ครูและผเู้ รียนแนะนำตนเอง - ครูเปิ ดเทปเสียงเกี่ยวกบั กำรอ่ำนประเภทตำ่ งๆ ท้งั ร้อยแกว้ และร้อยกรองใหผ้ เู้ รียนฟัง ข้นั ที่ 3 เร่ืองรายบุคคล - สอบถำมควำมรู้และทดสอบควำมรู้ก่อนเรียน - เปิ ดโอกำสใหผ้ เู้ รียนท่ีมีควำมรู้ไดแ้ ลกเปลี่ยนควำมรู้ในเรื่องกำรอ่ำนประเภทต่ำง ๆ ใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟัง ข้นั ที่ 4 รวมพลช่วยกนั สร้างสรรค์ผลงาน - แบง่ กลุ่มนกั ศึกษำโดยใหผ้ เู้ รียน เลือกกลุ่มตำมสมคั รใจจำนวน 3-4 คน - ใหผ้ เู้ รียนอ่ำนหนงั สือพมิ พร์ ำยวนั แลว้ ใหผ้ เู้ รียนวเิ ครำะห์ สรุปควำมสำคญั ของเรื่องท่ีอ่ำน - ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเลือกหนงั สืออ่ำนนอกเวลำเร่ืองส้ัน 1 เล่ม อำ่ นยอ่ เร่ืองและวจิ ำรณ์ตวั ละคร ข้นั ท่ี 5 สื่อสารวธิ ี - มอบหมำยงำน ในกลุ่มและตวั แทนกลุ่มนำเสนอหนำ้ ช้นั เรียน เวลำกลุ่ม 5-7 นำที ข้นั ที่ 6 มากมวี ธิ ีการ - ครูสรุปหลงั จำกทุกกลุ่มนำเสนอกิจกรรมหนำ้ ช้นั เรียน

16 - ครูใหค้ วำมรู้เพม่ิ เติมในส่วนท่ีนกั ศึกษำขำดหำย ข้นั ท่ี 7 สืบสานรายบุคคล - แจกใบงำนใหท้ ดสอบควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ - ทดสอบกำรอ่ำนเป็ นรำยบุคคล อำ่ นขอ้ ควำมท่ีครูเตรียมไว้ ข้นั ท่ี 8 สรุปผล กศน. ดำ้ นควำมรู้ - ประเมินจำกใบงำน ดำ้ นทกั ษะ - ประเมินจำกงำนกลุ่ม - สังเกตจำกกำรอ่ำน ดำ้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่ำนิยม - ประเมินจำกควำมรับผดิ ชอบงำนที่ไดร้ ับมอบหมำย - ประเมินโดยกำรสังเกตพฤติกรรมในกำรร่วมกิจกรรม วธิ ีวดั ผล ส่ิงท่ีตอ้ งกำรวดั เครื่องมือวดั ผล เกณฑก์ ำรประเมิลผล 1.ผลงำนกิจกรรม เกณฑผ์ ำ่ นร้อยละ 80 2.ผลกำรเรียนรู้ 1.ควำมรู้ 1.ใบงำน 3.ผลกำรอ่ำน 4.ควำมร่วมมือของงำนกลุ่ม - กำรอำ่ น 2.แบบทดสอบ 5.ควำมต้งั ใจ ควำมเสียสละ และควำมสนใจในกำร - กำรวจิ ำรณ์ 3.แบบประเมิน ทำงำน - กำรยอ่ เรื่อง - กำรจบั ประเดน็ สำคญั 2.ทกั ษะ -วเิ ครำะห์สรุปควำมผลและ จบั ประเด็นได้ 3.เจตคติ - คุณธรรม จริยธรรม - คุณลกั ษณะ อนั พ่งึ ประสงค์ 7. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................

17 8. ข้อเสนอแนะของหวั หน้าสถานศึกษาหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ 9. บนั ทกึ ผลหลงั การจัดกจิ กรรม - ผลกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. - ปัญหำและอุปสรรค ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. - ขอ้ เสนอแนะและแนวทำงแกไ้ ข ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................

18 แบบทดสอบก่อนเรียน หมวดวชิ ำภำษำไทย ระดบั ประถมศึกษำ สำระกำรเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง กำรอำ่ น วนั ที่................เดือน............................พ.ศ. .............. …………………………………………………………………………………….………………….. คำช้ีแจง จงเลือกคำตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว 1. คำใดมีเสียงวรรณยกุ ตเ์ หมือนกบั คำวำ่ 6. คำในขอ้ ใดที่อำ่ นออกเสียงตวั สะกดแมก่ น “บำ้ น” ทุกคำ ก. พร้ำ ก. ศีล กำล มรรค ข. พลำด ข. พจน์ ลำภ พล ค. เจำ้ ค. รส สณฑ์ สูญ ง. เคก้ ง. ธำร กล กณั ฑ์ 2. ขอ้ ใดมีเสียงพยญั ชนะควบกล้ำท้งั สองคำ 7. คำในขอ้ ใดท่ีอำ่ นออกเสียงตวั สะกดแมก่ ด ก. ขลงั พรำก ทุกคำ ข. กล้ำ ดรุณ ก. บตั ร รหสั พรรณ ค. จรัล ตลบ ข. สรรพ ผล พรต ง. ปลำย กรณี ค. เขต ทิศ โกรธ 3. ขอ้ ใดมีเสียงวรรณยกุ ตไ์ มต่ รงกบั รูปทุกคำ ง. เภสชั โชติ พร ก. ยำ้ ย คำ่ 8. ปำกกำดำ้ มน้ีเขียนดี คำวำ่ “ดำ้ ม” เป็น ข. แกว้ เก้ือ นำมชนิดใด ค. ป่ ำว แป้ง ก. อำกำรนำม ง. ส่วน ร่ำย ข. สำมำนยนำม 4. “คมนำคม” มีกี่พยำงค์ ค. ลกั ษณนำม ก. 1 พยำงค์ ง. สมุหนำม ข. 2 พยำงค์ 9. เม่ือนกั เรียนชำยพูดกบั พระภิกษุ ควรใช้ ค. 3 พยำงค์ สรรพนำมแทนตวั เองวำ่ อยำ่ งไร ง. 4 พยำงค์ ก. กระผม 5. คำในขอ้ ใดมี 3 พยำงค์ ข. เอ่ยช่ือตวั เอง ก. ไพรสัณฑ์ ค. อำตมำ ข. พรรณรำย ง. ฉนั ค. เปรียญ 10. ขอ้ ใดเป็นประโยค ง. พยหุ บำตร ก. เขำโปรดปรำนมำก ข. ดอกไมม่ ีกล่ินหอม ค. นกกินหนอน

ง. เส้ือตวั ใหม่ 19 11. ประโยคใดต่ำงจำกพวก ข. บ ป ฝ พ ภ ค. ศ ส ษ ห ฬ ก. ดำและแดงซ้ือดอกไม้ ง. ฌ ญ ฎ ฏ ฐ 18. ผอู้ ่ำนไดร้ ับอะไรจำกกำรอำ่ น ข. แดงและดำซ้ือดอกไม้ ก. ควำมรู้ ข. ควำมคิด ค. ดำหรือแดงซ้ือดอกไม้ ค. ควำมเพลิดเพลิน ง. ถูกทุกขอ้ ง. ดำกบั แดงซ้ือดอกไม้ 19. ควรเติมคำบุพบทใดในช่องวำ่ ง “แมน่ ้ำสำย น้ีไหลมำ......ภูเขำ” 12. ขอ้ ใดเป็นประโยคคำถำม ก. ถึง ข. กบั ค. แต่ ง. จำก ก. เธอไปเที่ยวกบั ใคร 20. กำรอ่ำนในลกั ษณะใดที่แสดงถึงควำมเป็น คนไม่มีวฒั นธรรม ข. เขำไปเที่ยวกบั เธอ ก. อ่ำนบนรถประจำทำง ข. อำ่ นงำนเขียนของคนอ่ืน ค. เธอบอกจะไปเท่ียวกบั เขำ ค. อำ่ นบนั ทึกที่เจำ้ ของไม่อนุญำต ง. อ่ำนจดหมำย ง. เขำและเธอไปเที่ยวดว้ ยกนั 21. สถำนที่ใดท่ีไมค่ วรเขียน ก. สมุดส่วนตวั 13. ขอ้ ใดเป็นคำไทยแท้ ข. กระดำษร่ำง ค. หอ้ งนอนส่วนตวั ก. ฉบบั ง. กำแพงร้ัวโรงเรียน 22. ขอ้ ใดเป็นวรรณกรรมพ้นื บำ้ นท้งั หมด ข. น้ำใจ ก. เพลงพ้นื บำ้ น เพลงกล่อมเดก็ ข. นิทำนพ้ืนบำ้ น เร่ืองส้นั ค. กุหลำบ ค. เพลงกล่อมเดก็ เรื่องส้ัน ง. เพลงลูกทุง่ ปริศนำคำทำย ง. เกำ้ อ้ี 23. หนงั สือท่ีมีวรรณศิลป์ ไดร้ ับกำรยกยอ่ งจำก บุคคลทว่ั ไป เป็นหนงั สือประเภทใด 14. ขอ้ ใดไมใ่ ช่อกั ษรยอ่ ช่ือยศทหำร ตำรวจ ก. ตำรำวชิ ำกำร ข. วทิ ยำศำสตร์ ก. น.ต. ข. ร.อ. ค. วรรณคดี ง. วรรณกรรม ค. จ.ป.ร. ง. จ.ส.ต. 15. ตวั อยำ่ งที่แสดงกำรใชร้ ำชำศพั ทอ์ ยำ่ ง ถูกตอ้ งจะศึกษำไดจ้ ำกท่ีใดดีที่สุด ก. แบบฝึกหดั วชิ ำภำษำไทย ข. กำรรำยงำนขำ่ วของส่ือมวลชน ค. ประกำศของสำนกั พระรำชวงั ง. บทละครโทรทศั น์ 16. วนั เกิดสำหรับพระมหำกษตั ริยม์ ีคำรำชำ ศพั ท์ ใชอ้ ยำ่ งไร ก. วนั ประสูติ ข. วนั พระบรมรำชสมภพ ค. วนั พระรำชสมภพ ง. วนั เฉลิมพระชนมพรรษำ 17. ขอ้ ใดเรียงลำดบั พยญั ชนะไดถ้ ูกตอ้ งตำม หลกั พจนำนุกรม ก. ด ต ถ ธ ท

20 24. หนงั สือนิยำย เร่ืองส้ัน สำรคดี และบท 31. “นอ้ งชำยของเธอเล่นฟุตบอลเก่งมำก” ร้อยกรองทวั่ ไป ท่ีพบในปัจจุบนั ก. เล่น ข. พช่ี ำย ส่วนมำกจดั เป็นหนงั สือประเภทใด ค. นอ้ งชำย ง. เก่งมำก ก. วรรณกรรม 32. คำใดคือคำพอ้ งรูป ข. วรรณคดี ก. กำนนั - กำนลั ค. วรรณกรรมพ้นื บำ้ น ข. กำล - กำรณ์ ง. ควำมบนั เทิง ค. จนั ทร์ - จนั ทน์ 25. จดหมำยต่อไปน้ีขอ้ ใดไม่ใช่จดหมำยธุรกิจ ง. เขมำ - เขมำ ก. จดหมำยสมคั รงำน 33. คำวำ่ “หฤหรรษ”์ อ่ำนวำ่ อยำ่ งไร ข. จดหมำยส่ังซ้ือหนงั สือ ก. หะ - ริน - หนั ค. จดหมำยขอบคุณ ข. หะ - รึน-หนั ง. จดหมำยถึงเพื่อน ค. หะ - รึ - หนั 26. จดหมำยขอบคุณใชใ้ นกรณีใดบำ้ ง ง. หะ - ริ - หนั ก. ลูกคำ้ สัง่ ซ้ือสินคำ้ มำก 34. “จะทำบุญวนั เกิดตอ้ งนิมนตพ์ ระ 9 รูป” ข. ผจู้ ดั กำรรับจดหมำยจำกผสู้ มคั รงำน คำวำ่ รูปเป็ นคำชนิดใด ค. ครูขอให้นกั ศึกษำมำเรียน ก. ลกั ษณะนำม ง. สง่ั ซ้ือสินคำ้ คร้ังแรก ข. อำกำรนำม 27. สระไอ คือเสียงสระอะประสมกบั ค. สำมำนยนำม พยญั ชนะอะไร ง. สมุหนำม ก. ม ข. ย 35. คำใดเขียนถูกตอ้ ง ค. ว ง. อ ก. โอกำส 28. ะ มีช่ือเรียกวำ่ อยำ่ งไร ข. ทสั นศิลป์ ก. ไมไ้ ตค่ ู้ ค. อธั ยำสัย ข. ลำกขำ้ ง ง. สำตรำวธุ ค. วสิ รรชนีย์ 36. ขอ้ ใดอ่ำนถูกตอ้ ง ง. ไมห้ นั อำกำศ ก. ศตั รู อำ่ นวำ่ สตั – ตะ – รู 29. ขอ้ ใดใชส้ ระไอ ไมถ่ ูกตอ้ ง ข. ขะมกั เขมน้ อ่ำนวำ่ ขะ - มกั - ขะ- เมน่ ก. น้ำใส ข. ไฟฟ้ำ ค. เกษตร อ่ำนวำ่ กระ – เสด ค. ห่ำงไกล ง. มือไว ง. กิจกรรม อำ่ นวำ่ กิจ – จะ - กำ 30. คำในขอ้ ใดไมม่ ีตวั สะกดอยใู่ นมำตรำ 37. ขอ้ ใดเขียนผิด แม่กด ก. บรรทดั ก. สจั จะ ข. ซื่อสตั ย์ ข. บนั เทำ ค. โอกำส ง. ทรัพยส์ ิน ค. บนั เทิง ง. บรรยำย

21 38. ขอ้ ใดแตกตำ่ งจำกขอ้ อ่ืน 44. ขลุ่ย......น้ีมีเสียงไพเรำะดี ก. อำ่ นนวนิยำย ข. อ่ำนประกำศ ก. อนั ข. เลำ ค. อำ่ นตำรำวชิ ำกำร ง. อ่ำนขำ่ ว ค. กระบอก ง. ป้ื น 39. หวั ใจของกำรอำ่ นสำรคดี คืออะไร 45. บวั เกิด......ตม ก. สำมำรถต้งั คำถำมได้ ข. สำมำรถจบั ใจควำมได้ ก. ใน ข. กบั ค. สำมำรถบอกแง่คิดได้ ง. สำมำรถบนั ทึกไวไ้ ด้ ค. แต่ ง. ขอ้ ก และ ค 40. ขอ้ ใด ไม่ใช่ กำรทำเพ่ือเพิ่มพนู ควำมรู้ 46. คำใดมีเสียงวรรณยกุ ตโ์ ท ก. ฟังดว้ ยควำมเคำรพ ข. ฟังอยำ่ งมีอำรมณ์คลอ้ ยตำม ก. หมุบหมบั ข. หยบุ หยบิ ค. ฟังอยำ่ งต้งั ใจ ง. ฟังแกก้ ลุม้ ค. ต้ึกต้กั ง. เหนอะหนะ 41. ถำ้ นกั ศึกษำนง่ั สนทนำ 2 คน กบั เพอ่ื น 47. คำวำ่ จดหมำย สำหรับพระภิกษุใชว้ ำ่ นกั ศึกษำจะเลือกหวั ขอ้ ใดมำสนทนำ ก. สนทนำแต่เร่ืองของตนเอง อยำ่ งไร ข. สนทนำในเรื่องท่ีเพ่ือนสนใจ ค. สนทนำในเรื่องของเพ่ือน ก. สำร ข. ลิขิต ง. สนทนำในเร่ืองของคนอ่ืน ค. สำส์น ง. บนั ทึก 42. มนุษยส์ ัมพนั ธ์ดี หมำยถึงขอ้ ใด ก. มีอธั ยำศยั ท่ีดีกบั คนทวั่ ไป 48. เมื่อผจู้ ดั กำรแถลงนโยบำยกบั พนกั งำน ข. พูดจำดี ค. เป็นผใู้ ชภ้ ำษำท่ีดี บริษทั ควรใชว้ ธิ ีใด ง. เป็นผใู้ ชภ้ ำษำไทยดี ก. ประชุม ข. อภิปรำย 43. ขอ้ ใดถือวำ่ เป็นศิลปะกำรพดู ก. พูดไดถ้ ูกตอ้ ง ข. พดู ไดถ้ ูกใจ ค. สมั มนำ ง. ประกำศ ค. พดู ไดถ้ ูกเวลำ ง. ถูกทุกขอ้ 49. ขอ้ ใดเป็นรูปแบบกำรพูดต่อหนำ้ ชุมชน ก. กำรแนะนำตวั กบั เพ่ือน ข. กำรสนทนำกบั เพื่อน ค. กำรพดู โทรศพั ทก์ บั เพอ่ื น ง. กำรซกั ถำมคุณครูต่อหนำ้ เพื่อน 50. ขอ้ ใดเขียนถูกตอ้ ง ก. บนั ดำล ข. บนั ทึก ค. บรรได ง. บนั ทุก

22 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้รำยสัปดำห์ ระดบั ประถมศึกษำ หมวดวชิ ำภำษำไทย ระดบั ประถมศึกษำ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี 3 (เวลำ 3 ชวั่ โมง/สปั ดำห์) สำระกำรเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง หลกั กำรเขียนเบ้ืองตน้ กำรเขียนจดหมำย กำรเขียนรำยงำน วนั ที่................เดือน..................................พ.ศ. .............. ผสู้ อน...................................................................... ศูนยก์ ำรเรียนชุมชน....................................................... ............................................................................................................................................................ 1 มาตรฐานการเรียนรู้ เขียนยอ่ ควำม เขียนอธิบำย ช้ีแจง้ ควำมคิดเห็น แสดงกำรโตแ้ ยง้ กำรเขียนรำยงำน เขียนเชิง สร้ำงสรรค์ เขียนจดหมำยรำชกำร จดหมำยธุรกิจ เขียนแสดงควำมคิดเห็น กำรเขียนศำลคดี กำรเขียน โครงกำร 2 ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั - ผเู้ รียนมีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจหลกั กำรเขียนเบ้ืองตน้ - ผเู้ รียนมีมรรยำทในกำรเขียน - ผเู้ รียนรู้หลกั กำรเขียนและกำรคน้ ควำ้ ขอ้ มูล - ผเู้ รียนใชภ้ ำษำในกำรเขียนไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ งและเหมำะสม - ผเู้ รียนมีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจและเกิดทกั ษะกำรเขียนจดหมำยประเภทตำ่ งๆ 3 สาระการเรียนรู้ 1. กำรเขียนจดหมำยประเภทตำ่ งๆ 2. หลกั กำรเขียนเบ้ืองตน้ 3. กำรเขียนรำยงำน 4 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ผเู้ รียนมีควำมเขำ้ ใจหลกั กำรเขียนเบ้ืองตน้ 2. ผเู้ รียนมีเขำ้ ใจมรรยำทในกำรเขียน 3. ผเู้ รียนเขำ้ ใจหลกั กำรเขียนและกำรคน้ ควำ้ ขอ้ มูล 4. ผเู้ รียนสำมำรถใชภ้ ำษำในกำรเขียนไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ งและเหมำะสม 5. ผเู้ รียนสำมำรถเขียนจดหมำยประเภทตำ่ งๆ 5 บนั ทกึ ก่อนการจัดกจิ กรรม ครูและผเู้ รียนมีกำรพดู คุยแลกเปล่ียนประสบกำรณ์ในกำรดำเนินชีวติ ในปัจจุบนั 6 กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 เตรียมความพร้อม - เอกสำรประกอบกำรสอน ตวั อยำ่ ง กำรเขียนจดหมำยประเภทตำ่ งๆ กำรเขียนรำยงำน หนงั สือพมิ พ์ - หนงั สือแบบเรียนวชิ ำภำษำไทย - วสั ดุ อุปกรณ์อ่ืน ๆ เช่น ปำกกำไวทบ์ อร์ด กระดำษ เอ 4

23 ข้นั ที่ 2 อุ่นเครื่อง - ครูบรรยำยเร่ืองกำรเขียนจดหมำยในรูปแบบต่ำง ๆ - ครูนำจดหมำยตวั อยำ่ ง ประเภทต่ำงๆ แสดงให้ ผเู้ รียนดูพร้อมอธิบำยรำยละเอียด - ครูอธิบำยข้นั ตอนกำรเขียนรำยงำน และดูตวั อยำ่ งที่ถูกตอ้ ง ข้นั ที่ 3 เร่ืองรายบุคคล - ครูสอบถำมควำมรู้เดิมและทดสอบควำมรู้โดยกำรซกั ถำม - ครูเปิ ดโอกำสใหผ้ เู้ รียนแลกเปล่ียนควำมรู้ ในเร่ืองกำรเขียนรำยงำน กำรเขียนจดหมำยประเภทตำ่ งๆ ข้นั ที่ 4 รวมพลงั ช่วยกันสร้างสรรค์ผลงาน - ครูใหผ้ เู้ รียนฝึกเขียนจดหมำยประเภทต่ำงๆ - ครูใหผ้ เู้ รียนรวมกลุ่ม 3-5 คน ทำรำยงำนขำ่ วเหตุกำรณ์ต่ำงๆ โดยกำรคน้ ควำ้ จำกหนงั สือพิมพ์ ที่ครู จดั เตรียมมำให้ ข้นั ที่ 5 สื่อสารวธิ ี - ครูสุ่มเลือกผเู้ รียนนำเสนอจดหมำยของตวั เองเป็นกำรยกตวั อยำ่ งใหก้ บั เพ่ือนๆดู - ใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมำนำเสนอรำยงำนต่อกลุ่มใหญ่ - ครูช่วยเพมิ่ เติมรำยละเอียดที่ขำดหำยไปใหค้ รบกบั ประเภทของจดหมำยที่แตล่ ะกลุ่มนำเสนอ ข้นั ท่ี 6 มากมวี ชิ าการ - ครูสรุปองคร์ วมควำมรู้เรื่องจดหมำยประเภทตำ่ งๆ - ครูสรุปวจิ ำรณ์กำรรำยงำน ของแต่ละกลุ่ม ข้นั ที่ 7 สืบสานรายคน - ครูมอบหมำยใหท้ ำรำยงำนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง - ใหก้ ลุ่มผเู้ รียน สรุปรำยงำนของกลุ่ม - ผเู้ รียนสรุปกำรเขียนในจดหมำยแต่ละประเภทๆ นำเสนอตอ่ กลุ่มใหญ่ โดยกำรสุ่มคดั ตวั แทนนำเสนอ เทำ่ กบั ประเภทของจดหมำย ข้นั ที่ 8 สรุปผล กศน. ดำ้ นควำมรู้ - ประเมินจำกผลงำนกำรเขียนจดหมำย - ประเมินจำกกำรทำรำยงำน ดำ้ นทกั ษะ - ประเมินจำกกำรนำเสนอรำยงำน - ประเมินจำกกำรสรุปกำรเขียนจดหมำย ดำ้ นคุณธรรม จริยธรรม และคำ่ นิยม - ประเมินจำกควำมรับผดิ ชอบ - ประเมินจำกกำรสงั เกต -

วธิ ีวดั ผล ส่ิงที่ตอ้ งกำรวดั เครื่องมือวดั ผล 24 1.ผลงำนกิจกรรม 2.ผลกำรเรียนรู้ 1.ควำมรู้ 1.ใบงำน เกณฑก์ ำรประเมิลผล 3.ผลกำรอ่ำน เกณฑผ์ ำ่ นร้อยละ 80 4.ควำมร่วมมือของงำนกลุ่ม 5.ควำมต้งั ใจ ควำมเสียสละ - กำรอำ่ น 2.แบบทดสอบ และควำมสนใจในกำร ทำงำน - กำรวจิ ำรณ์ 3.แบบประเมิน - กำรยอ่ เรื่อง - กำรจบั ประเดน็ สำคญั 2.ทกั ษะ -วเิ ครำะห์สรุปควำมผลและ จบั ประเด็นได้ 3.เจตคติ - คุณธรรม จริยธรรม - คุณลกั ษณะ อนั พ่ึงประสงค์ 7 กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. 8 ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... 9 บนั ทกึ ผลหลงั การจัดกจิ กรรม - ผลกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. - ปัญหำและอุปสรรค ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. - ขอ้ เสนอแนะและแนวทำงแกไ้ ข ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

25 แบบทดสอบหลงั เรียน หมวดวชิ ำภำษำไทย ระดบั ประถมศึกษำ สำระกำรเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง กำรอำ่ น วนั ท่ี................เดือน............................พ.ศ. .............. …………………………………………………………………………………….………………….. คำช้ีแจง จงเลือกคำตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งขอ้ เดียว 1. คำใดมีเสียงวรรณยกุ ตเ์ หมือนกบั คำวำ่ 6. คำในขอ้ ใดที่อำ่ นออกเสียงตวั สะกดแมก่ น “บำ้ น” ทุกคำ ก. พร้ำ ก. ศีล กำล มรรค ข. พลำด ข. พจน์ ลำภ พล ค. เจำ้ ค. รส สณฑ์ สูญ ง. เคก้ ง. ธำร กล กณั ฑ์ 2. ขอ้ ใดมีเสียงพยญั ชนะควบกล้ำท้งั สองคำ 7. คำในขอ้ ใดที่อำ่ นออกเสียงตวั สะกดแมก่ ด ก. ขลงั พรำก ทุกคำ ข. กล้ำ ดรุณ ก. บตั ร รหสั พรรณ ค. จรัล ตลบ ข. สรรพ ผล พรต ง. ปลำย กรณี ค. เขต ทิศ โกรธ 3. ขอ้ ใดมีเสียงวรรณยกุ ตไ์ มต่ รงกบั รูปทุกคำ ง. เภสชั โชติ พร ก. ยำ้ ย คำ่ 8. ปำกกำดำ้ มน้ีเขียนดี คำวำ่ “ดำ้ ม” เป็น ข. แกว้ เก้ือ นำมชนิดใด ค. ป่ ำว แป้ง ก. อำกำรนำม ง. ส่วน ร่ำย ข. สำมำนยนำม 4. “คมนำคม” มีกี่พยำงค์ ค. ลกั ษณนำม ก. 1 พยำงค์ ง. สมุหนำม ข. 2 พยำงค์ 9. เมื่อนกั เรียนชำยพูดกบั พระภิกษุ ควรใช้ ค. 3 พยำงค์ สรรพนำมแทนตวั เองวำ่ อยำ่ งไร ง. 4 พยำงค์ ก. กระผม 5. คำในขอ้ ใดมี 3 พยำงค์ ข. เอย่ ช่ือตวั เอง ก. ไพรสัณฑ์ ค. อำตมำ ข. พรรณรำย ง. ฉนั ค. เปรียญ 10. ขอ้ ใดเป็นประโยค ง. พยหุ บำตร ก. เขำโปรดปรำนมำก ข. ดอกไมม่ ีกล่ินหอม ค. นกกินหนอน

ง. เส้ือตวั ใหม่ 26 11. ประโยคใดต่ำงจำกพวก ข. บ ป ฝ พ ภ ค. ศ ส ษ ห ฬ ก. ดำและแดงซ้ือดอกไม้ ง. ฌ ญ ฎ ฏ ฐ 18. ผอู้ ่ำนไดร้ ับอะไรจำกกำรอำ่ น ข. แดงและดำซ้ือดอกไม้ ก. ควำมรู้ ข. ควำมคิด ค. ดำหรือแดงซ้ือดอกไม้ ค. ควำมเพลิดเพลิน ง. ถูกทุกขอ้ ง. ดำกบั แดงซ้ือดอกไม้ 19. ควรเติมคำบุพบทใดในช่องวำ่ ง “แมน่ ้ำสำย น้ีไหลมำ......ภูเขำ” 12. ขอ้ ใดเป็นประโยคคำถำม ก. ถึง ข. กบั ค. แต่ ง. จำก ก. เธอไปเที่ยวกบั ใคร 20. กำรอ่ำนในลกั ษณะใดท่ีแสดงถึงควำมเป็น คนไม่มีวฒั นธรรม ข. เขำไปเที่ยวกบั เธอ ก. อำ่ นบนรถประจำทำง ข. อำ่ นงำนเขียนของคนอ่ืน ค. เธอบอกจะไปเท่ียวกบั เขำ ค. อำ่ นบนั ทึกที่เจำ้ ของไม่อนุญำต ง. อ่ำนจดหมำย ง. เขำและเธอไปเที่ยวดว้ ยกนั 21. สถำนท่ีใดที่ไมค่ วรเขียน ก. สมุดส่วนตวั 13. ขอ้ ใดเป็นคำไทยแท้ ข. กระดำษร่ำง ค. หอ้ งนอนส่วนตวั ก. ฉบบั ง. กำแพงร้ัวโรงเรียน 22. ขอ้ ใดเป็นวรรณกรรมพ้นื บำ้ นท้งั หมด ข. น้ำใจ ก. เพลงพ้นื บำ้ น เพลงกล่อมเดก็ ข. นิทำนพ้ืนบำ้ น เร่ืองส้นั ค. กุหลำบ ค. เพลงกล่อมเดก็ เรื่องส้ัน ง. เพลงลูกทุง่ ปริศนำคำทำย ง. เกำ้ อ้ี 23. หนงั สือท่ีมีวรรณศิลป์ ไดร้ ับกำรยกยอ่ งจำก บุคคลทว่ั ไป เป็นหนงั สือประเภทใด 14. ขอ้ ใดไมใ่ ช่อกั ษรยอ่ ช่ือยศทหำร ตำรวจ ก. ตำรำวชิ ำกำร ข. วทิ ยำศำสตร์ ก. น.ต. ข. ร.อ. ค. วรรณคดี ง. วรรณกรรม ค. จ.ป.ร. ง. จ.ส.ต. 15. ตวั อยำ่ งที่แสดงกำรใชร้ ำชำศพั ทอ์ ยำ่ ง ถูกตอ้ งจะศึกษำไดจ้ ำกท่ีใดดีที่สุด ก. แบบฝึกหดั วชิ ำภำษำไทย ข. กำรรำยงำนขำ่ วของส่ือมวลชน ค. ประกำศของสำนกั พระรำชวงั ง. บทละครโทรทศั น์ 16. วนั เกิดสำหรับพระมหำกษตั ริยม์ ีคำรำชำ ศพั ท์ ใชอ้ ยำ่ งไร ก. วนั ประสูติ ข. วนั พระบรมรำชสมภพ ค. วนั พระรำชสมภพ ง. วนั เฉลิมพระชนมพรรษำ 17. ขอ้ ใดเรียงลำดบั พยญั ชนะไดถ้ ูกตอ้ งตำม หลกั พจนำนุกรม ก. ด ต ถ ธ ท

27 24. หนงั สือนิยำย เร่ืองส้ัน สำรคดี และบท 31. “นอ้ งชำยของเธอเล่นฟุตบอลเก่งมำก” ร้อยกรองทวั่ ไป ท่ีพบในปัจจุบนั ก. เล่น ข. พช่ี ำย ส่วนมำกจดั เป็นหนงั สือประเภทใด ค. นอ้ งชำย ง. เก่งมำก ก. วรรณกรรม 32. คำใดคือคำพอ้ งรูป ข. วรรณคดี ก. กำนนั - กำนลั ค. วรรณกรรมพ้นื บำ้ น ข. กำล - กำรณ์ ง. ควำมบนั เทิง ค. จนั ทร์ - จนั ทน์ 25. จดหมำยต่อไปน้ีขอ้ ใดไม่ใช่จดหมำยธุรกิจ ง. เขมำ - เขมำ ก. จดหมำยสมคั รงำน 33. คำวำ่ “หฤหรรษ”์ อ่ำนวำ่ อยำ่ งไร ข. จดหมำยส่ังซ้ือหนงั สือ ก. หะ - ริน - หนั ค. จดหมำยขอบคุณ ข. หะ - รึน-หนั ง. จดหมำยถึงเพื่อน ค. หะ - รึ - หนั 26. จดหมำยขอบคุณใชใ้ นกรณีใดบำ้ ง ง. หะ - ริ - หนั ก. ลูกคำ้ สัง่ ซ้ือสินคำ้ มำก 34. “จะทำบุญวนั เกิดตอ้ งนิมนตพ์ ระ 9 รูป” ข. ผจู้ ดั กำรรับจดหมำยจำกผสู้ มคั รงำน คำวำ่ รูปเป็ นคำชนิดใด ค. ครูขอให้นกั ศึกษำมำเรียน ก. ลกั ษณะนำม ง. สั่งซ้ือสินคำ้ คร้ังแรก ข. อำกำรนำม 27. สระไอ คือเสียงสระอะประสมกบั ค. สำมำนยนำม พยญั ชนะอะไร ง. สมุหนำม ก. ม ข. ย 35. คำใดเขียนถูกตอ้ ง ค. ว ง. อ ก. โอกำส 28. ะ มีชื่อเรียกวำ่ อยำ่ งไร ข. ทสั นศิลป์ ก. ไมไ้ ตค่ ู้ ค. อธั ยำสัย ข. ลำกขำ้ ง ง. สำตรำวธุ ค. วสิ รรชนีย์ 36. ขอ้ ใดอ่ำนถูกตอ้ ง ง. ไมห้ นั อำกำศ ก. ศตั รู อำ่ นวำ่ สตั – ตะ – รู 29. ขอ้ ใดใชส้ ระไอ ไมถ่ ูกตอ้ ง ข. ขะมกั เขมน้ อ่ำนวำ่ ขะ - มกั - ขะ- เมน่ ก. น้ำใส ข. ไฟฟ้ำ ค. เกษตร อ่ำนวำ่ กระ – เสด ค. ห่ำงไกล ง. มือไว ง. กิจกรรม อำ่ นวำ่ กิจ – จะ - กำ 30. คำในขอ้ ใดไมม่ ีตวั สะกดอยใู่ นมำตรำ 37. ขอ้ ใดเขียนผิด แม่กด ก. บรรทดั ก. สัจจะ ข. ซื่อสตั ย์ ข. บนั เทำ ค. โอกำส ง. ทรัพยส์ ิน ค. บนั เทิง ง. บรรยำย

28 38. ขอ้ ใดแตกตำ่ งจำกขอ้ อื่น 44. ขลุ่ย......น้ีมีเสียงไพเรำะดี ก. อ่ำนนวนิยำย ข. อ่ำนประกำศ ก. อนั ข. เลำ ค. อ่ำนตำรำวชิ ำกำร ง. อำ่ นขำ่ ว ค. กระบอก ง. ป้ื น 39. หวั ใจของกำรอ่ำนสำรคดี คืออะไร 45. บวั เกิด......ตม ก. สำมำรถต้งั คำถำมได้ ข. สำมำรถจบั ใจควำมได้ ก. ใน ข. กบั ค. สำมำรถบอกแง่คิดได้ ง. สำมำรถบนั ทึกไวไ้ ด้ ค. แต่ ง. ขอ้ ก และ ค 40. ขอ้ ใด ไม่ใช่ กำรทำเพอ่ื เพิ่มพนู ควำมรู้ 46. คำใดมีเสียงวรรณยกุ ตโ์ ท ก. ฟังดว้ ยควำมเคำรพ ข. ฟังอยำ่ งมีอำรมณ์คลอ้ ยตำม ก. หมุบหมบั ข. หยบุ หยบิ ค. ฟังอยำ่ งต้งั ใจ ง. ฟังแกก้ ลุม้ ค. ต้ึกต้กั ง. เหนอะหนะ 41. ถำ้ นกั ศึกษำนงั่ สนทนำ 2 คน กบั เพ่ือน 47. คำวำ่ จดหมำย สำหรับพระภิกษุใชว้ ำ่ นกั ศึกษำจะเลือกหวั ขอ้ ใดมำสนทนำ ก. สนทนำแต่เร่ืองของตนเอง อยำ่ งไร ข. สนทนำในเรื่องท่ีเพื่อนสนใจ ค. สนทนำในเร่ืองของเพื่อน ก. สำร ข. ลิขิต ง. สนทนำในเร่ืองของคนอื่น ค. สำส์น ง. บนั ทึก 42. มนุษยส์ ัมพนั ธ์ดี หมำยถึงขอ้ ใด ก. มีอธั ยำศยั ที่ดีกบั คนทว่ั ไป 48. เม่ือผจู้ ดั กำรแถลงนโยบำยกบั พนกั งำน ข. พูดจำดี ค. เป็นผใู้ ชภ้ ำษำท่ีดี บริษทั ควรใชว้ ธิ ีใด ง. เป็นผใู้ ชภ้ ำษำไทยดี ก. ประชุม ข. อภิปรำย 43. ขอ้ ใดถือวำ่ เป็นศิลปะกำรพูด ก. พดู ไดถ้ ูกตอ้ ง ข. พดู ไดถ้ ูกใจ ค. สมั มนำ ง. ประกำศ ค. พดู ไดถ้ ูกเวลำ ง. ถูกทุกขอ้ 49. ขอ้ ใดเป็นรูปแบบกำรพูดต่อหนำ้ ชุมชน สรุป ก. กำรแนะนำตวั กบั เพือ่ น ข. กำรสนทนำกบั เพอื่ น ค. กำรพดู โทรศพั ทก์ บั เพื่อน ง. กำรซกั ถำมคุณครูต่อหนำ้ เพ่อื น 50. ขอ้ ใดเขียนถูกตอ้ ง ก. บนั ดำล ข. บนั ทึก ค. บรรได ง. บนั ทุก โชคดใี น การสอบ คร้ังนีน้ ะ ครับ

29 สรุป 1. เพ่ือใหผ้ เู้ รียนเขำ้ ใจโครงสร้ำงหลกั สูตรกำรศึกษำข้นั พ้นื ฐำน พทุ ธศกั รำช 2551 ตำมหลกั เกณฑแ์ ละ วธิ ีกำรจดั กำรศึกษำนอกโรงเรียน โครงสร้ำงหมวดวชิ ำภำษำไทยและแนวทำงกำรจดั กระบวนกำร เรียนรู้ 2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนสำมำรถปฏิบตั ิตำมบทบำทหนำ้ ที่ของผเู้ รียนที่ดี

30 บรรณำนุกรม สำนกั งำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั จงั หวดั สุโขทยั

31 ช่ือ ประวตั ิผจู้ ดั ทำ ช่ือเล่น เพศ นำยสมเกียรติ ใจหนกั สถำนะ เกียรติ วนั เดือน ปี ชำย อำยุ สมรส ท่ีอยู่ วนั ท่ี 19 มกรำคม พ.ศ. 2525 37 ปี เบอร์โทรศพั ท์ บำ้ นเลขท่ี 27/1 ซอย 3 ถนนประชำรำษฏร์ ตำบลเมืองสวรรคโลก อำเภอสวรรคโลก กำรศึกษำ จงั หวดั สุโขทยั รหสั 64110 086-2114078 ปริญญำตรี คณะบริหำรธุรกิจ จำกมหำวทิ ยำลยั รำชภฏั สวนดุสิต


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook