โครงงาน...สเปรย์สมุนไพรปรบั อากาศ คณะผู้จดั ทา น.ส.พชั รภรณ์ อดุ พรม ชัน้ ม.5/3 เลขท่ี 6 น.ส.เกศณิ ี จิตอารีย์ ช้นั ม.5/3 เลขที่ 12 น.ส.ภัทราวดี จติ อารี ชั้น ม.5/3 เลขที่ 18 น.ส.ณิชารยี ์ อนิ ต๊ะกนั ช้นั ม.5/3 เลขท่ี 22 น.ส.ภัณฑิรา ยะแสง ชน้ั ม.5/3 เลขที่ 39 ครูท่ปี รกึ ษา ครูดารงค์ คันธะเรศย์ เอกสารฉบับนี้เปน็ สว่ นหน่ึงของการศกึ ษาค้นควา้ และสรา้ งองคค์ วามรู้ (IS1) โรงเรยี นปวั อาเภอปัว จังหวัดน่าน สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 37 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563
โครงงาน...สเปรย์สมุนไพรปรับอากาศ คณะผู้จัดทา น.ส.พชั รภรณ์ อุดพรม ชั้น ม.5/3 เลขที่ 6 น.ส.เกศิณี จิตอารีย์ ชั้น ม.5/3 เลขท่ี 12 น.ส.ภัทราวดี จิตอารี ช้นั ม.5/3 เลขท่ี 18 น.ส.ณชิ ารยี ์ อนิ ต๊ะกนั ชั้น ม.5/3 เลขที่ 22 น.ส.ภณั ฑริ า ยะแสง ชัน้ ม.5/3 เลขท่ี 39 ครูที่ปรึกษา ครดู ารงค์ คันธะเรศย์ เอกสารฉบับนี้เปน็ สว่ นหน่ึงของการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (IS1) โรงเรียนปัว อาเภอปัว จังหวัดน่าน สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 37 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563
สารบัญ กติ ติกรรมประกาศ บทคดั ย่อ บทนาที่มาและความสาคญั -จุดมุง่ หมายของการศึกษาค้นคว้า -ตัวแปร -ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า -ประโยชนท์ ่ีคาดว่าจะได้รบั เอกสารทเ่ี กยี่ วข้อง -เอกสารที่เกีย่ วข้อง วสั ดอุ ปุ กรณ์ และวิธีการทดลองอุปกรณแ์ ละสารเคมี -อปุ กรณ์ -วธิ ีการทดลอง -ผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง -สรปุ ผลการทดลอง -อภปิ รายผลจากการวิเคราะห์ -ข้อเสนอแนะ อา้ งองิ
กิตตกิ รรมประกาศ โครงงานวทิ ยาศาสตร์เรื่อง สเปรยส์ มนุ ไพรปรับอากาศ เพือ่ ทดลองประสิทธิภาพของสมนุ ไพรในดัวย กลิ่นเหม็นอบั ต่างๆ โดยได้รับคาปรกึ ษาจาก ครดู ารงค์ คันธะเรศย์ ท่ีไดใ้ หค้ าปรึกษาในการทาโครงงานและ การทารูปเล่มโครงงาน คณะผู้จดั ทา ขอขอบคุณทกุ ท่านดงั ทไ่ี ด้กล่าวมาขา้ งต้นและที่ไม่ไดก้ ลา่ วถงึ ไว้ ณ ท่นี ้เี ป็นอย่างสูง คณะผจู้ ัดทา
บทคดั ย่อ โครงงาน...สเปรยส์ มนุ ไพรปรบั อากาศ ปัจจบุ นั สภาวะแวดลอ้ มมีกล่นิ เปน็ มลพษิ ต่อระบบหายใจหากเรา ซ้อื นา้ ยาดบั กล่นิ ตามท้องตลาดมาใชน้ ้นั จะมรี าคาแพงซ่ึงส่วนใหญ่จะผลติ จากสารเคมีทาใหเ้ กิดอันตรายต่อ สภาพแวดลอ้ มมากข้ึน คณะผจู้ ัดทาจงึ ศกึ ษาสมนุ ไพรทีห่ างา่ ยในท้องถิน่ และเปน็ สมนุ ไพรที่มีกลนิ่ หอม เช่น ใบเตย ผวิ มะกูด ใบตะไคร้ มาทดลองสกดั คลอโรฟลิ ล์เพ่อื เปรียบเทียบปรมิ ารท่ีเหมาะสมและชนดิ ของ สมนุ ไพรทสี่ ามารถกาจัดกลนิ่ ในสถานทต่ี า่ ง ๆเชน่ ห้องน้า สถานที่ ท่มี กี ล่ินอบั จากการศึกษาพบว่าสารสกดั จากสมุนไพรในปรมิ าณที่เหมาะสมสามารถกาจัดกลิ่นไดด้ ีคอื อัตราส่วน ระหว่างสมนุ ไพร 20 กรมั ต่อ แอลกอฮอล์ 200 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร และสมนุ ไพรทกี่ าจดั กลิ่นได้ดีที่สดุ คือ สารสกัดจากผวิ มะกดู
บทท่ี 1 บทนาที่มาและความสาคัญ “เศรษฐกิจพอเพยี ง”เป็นปรัชญาทพี่ ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวทรงมีเพื่อชี้แนะแนวทางดาเนินชวี ติ แกพ่ สกนิกรชาวไทย ทรงเน้นยา้ แนวทางการพฒั นาท่ีอยู่บนพน้ื ฐานของการพง่ึ ตนเอง ความพอมี พอใช้ การ รจู้ ักพอประมาณการคานงึ ถึงความมเี หตผุ ล ส่งเสริมความประหยดั ในครัวเรือนจากแนวพระราชดารใิ น พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว การซ้ือน้ายาดบั กลน่ิ ห้องนา้ ตามท้องตลาดมาใชน้ น้ั จะมีราคาแพงซ่ึงส่วนใหญ่จะ ผลิตจากสารเคมที าใหเ้ กดิ อันตรายต่อสภาพแวดล้อม คณะผ้จู ดั ทาจึงศึกษาสมุนไพรทหี่ าง่ายในท้องถ่ินและเปน็ สมนุ ไพรทีม่ กี ลนิ่ หอมเชน่ ใบเตย ผวิ มะกูด ใบตะไคร้ มาทดลองสกดั คลอโรฟลิ ล์เพื่อเปรยี บเทียบปรมิ าณที่ เหมาะสมและชนิดของสมุนไพรทสี่ ามารถกาจัดกลน่ิ ในสถานที่ตา่ ง ๆเชน่ หอ้ งนา้ สถานที่ ท่มี ีกลนิ่ อบั จากการศึกษาพบวา่ สารสกัดจากสมนุ ไพรในปริมาณทีเ่ หมาะสมสามารถกาจัดกลน่ิ ได้ดีคือ อตั ราสว่ นระหวา่ ง สมุนไพร 20 กรัม ต่อ แอลกอฮอล์ 200 มลิ ลลิ ติ ร และสมุนไพรท่ีกาจัดกลน่ิ ไดด้ ีทีส่ ดุ คือสารสกัดจากผิวมะกดู จดุ ม่งุ หมายของการศกึ ษาค้นคว้า 1. เพื่อเปรยี บเทียบความสามารถในการกาจดั กล่ินของสารสกัด ใบเตย ผิวมะกูด และใบตะไครห้ อม ใน อตั ราสว่ นที่แตกตา่ ง 2. เพื่อสารวจความคดิ เหน็ เกี่ยวกับความสามารถในการกาจดั กลนิ่ ของสารสกดั จากใบเตย ผิวมะกูดและใบ ตะไคร้ 3. เพือ่ เพ่มิ คณุ คา่ ของสมนุ ไพรในท้องถิ่น ตัวแปร ตัวแปรตน้ สารสกดั จากสมนุ ไพร ตัวแปรตาม ความสามารถในการกาจดั กลิ่น ตัวแปรควบคุม ปรมิ าณของสมุนไพร และแอลกอฮอล์ ขอบเขตการศกึ ษาค้นควา้ 1. เพอ่ื ศึกษาการทาสเปรยป์ รบั อากาศสมุนไพร 2. เพื่อศกึ ษาประสทิ ธิภาพของสมนุ ไพรในการดับกลน่ิ อับ ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะได้รับ 1. การเพมิ่ คุณค่าใหก้ บั สมนุ ไพรในทอ้ งถนิ่ 2. การลดมลพษิ ใหก้ ับสง่ิ แวดลอ้ ม 3. การใชภ้ มู ปิ ญั ญาท้องถิน่ กับวิทยาศาสตร์ให้เกิดประโยชน์
บทท่ี 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง เอกสารที่เก่ียวข้อง 1.ตน้ ตะไคร้ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cymbopogon nardus Rendle วงศ์ POACEAE (GRAMINEAE) ชอ่ื ทอ้ งถิ่น ตะไครแ้ ดง จะไคมะขดู ตะไคร้มะขูด ลักษณะพืช พชื ลม้ ลกุ อายุหลายปี มีเหงา้ ลาตน้ ต้ังตรง สูง 2 เมตร ออกเปน็ กอ ใบเกลี้ยง รปู ยาวแคบ กว้าง 5- 20 มม. ยาวไดถ้ งึ 1 เมตร มกี ลน่ิ หอม ตรงรอยต่อระหว่างใบกบั กาบ มีแผน่ รูปไขป่ ลายตัดยนื่ ออกมา ยาว ประมาณ 2 มม. มีขนกาบหุม้ ตดิ ทน กาบล่างสดุ เกยซอ้ นกัน เมื่อแห้งจะม้วนขึ้น ดอกออกเปน็ ช่อขนาดใหญ่ ยาวไดถ้ ึง 80 ซม. มีใบประดบั ลกั ษณะคลา้ ยกาบ ยาวประมาณ 25 มม. รองรับอยู่ ช่อดอกแยกเป็นหลาย แขนง แต่ละแขนงมีช่อย่อย 4-5 ชอ่ ผลแหง้ ไม่แตก ตะไคร้หอมมีลกั ษณะสว่ นใหญค่ ลา้ ยกบั ตะไคร้กอ ตา่ งกนั ท่กี ลิ่น ตน้ และใบยาวกว่าตะไคร้กอมาก แผ่นใบกว้างยาวและนิ่มกว่าเลก็ นอ้ ย 2.ต้นใบเตย ช่ือวทิ ยาศาสตร์ pandans tectorins ลักษณะ เป็นไม้กงิ่ พมุ่ ก้านใบเดยี ว มรี างนา้ มสี นี วล 3.ตน้ มะกูด ช่อื ทางพฤกษศาสตร์ : Citrus Hystrix วงศ์ : RUTACEAE ชื่อท่เี รยี ก : ในไทยทั่วไปเรียก มะกูด ภาคใต้เรียก ส้มม่วั ผี ทางภาคอสี านเรยี ก มะหูด ทางภาคกลางเรียก สม้ มะกรดู ลกั ษณะ : ตน้ มะกรดู เป็นไม้ยืนต้นขนาดย่อม ใบเขียวหนา มีคอดกว่ิ ที่กลางใบ เป็นตอนๆ ดอกสีขาว เกสรมีสเี หลอื ง กลิน่ หอมเล็กนอ้ ย ผลคล้ายผล สม้ ซ่า ผิวหนาเป็นรอ่ งขรขุ ระทั้งลูก มขี วั้ จกุ สงู ตามต้นและกง่ิ มีหนาม ยาวเล็กน้อย นา้ ในลูกมรี สเปรีย้ ว การเจริญเติบโต : ปลกู ได้ไมต่ อ้ งเลือกดิน มีปลกู กันตามบ้านเรือกส 4.การปลูก ใชห้ น่อหรือเหง้าชอบขึ้นในดินรว่ นซยุ น้าไม่ขัง ชอบแดดมาก
ส่วนท่ใี ชเ้ ป็นยา ใบและกาบใบ สรรพคุณ ต้นแก้รดิ สดี วงในปาก (คอื ปากแตกระแหง เป็น ยาไทย แผลในปาก) สตรมี คี รรภ์รับประทาน ทาให้แทง้ บีบรดั มดลูก ขบั ลมในลาใส้ แก้แนน่ ตะไคร้หอมไดถ้ ูกนามาใช้ไล่แมลง อย่างแพร่หลายนานมาแลว้ โดยละลายน้ามันตะไคร้หอม 7 สว่ น ผสมใน แอลกอฮอล์ (70%) 93 ส่วน ฉีดพ่นหรือตาใบสดหมกั ในแอลกอฮอล์ใน อัตราสว่ น 1:1 ทาตรงขอบประตู ท่ี ปดิ เปิดเสมอ หรือชบุ สาลแี ขวนเอาไว้หน้าประตเู ข้าออก หรอื ใช้ใบตะไครห้ อม มดั แล้วทบุ ให้ช้าวางใว้ตาม มมุ ห้องหรือใต้เตียง 5.สรรพคณุ รากแก้ปสั สวะแดง ใบแก้ทอ้ งเสีย วนไร่นา 6 .พันธุ์ไดด้ ว้ ยการเพาะเมลด็ การตอนกิ่งกไ็ ด้ ประโยชน์ : ใบนามาปรุงกับอาหารดบั กลิน่ คาว นา้ ในผลใช้ในการยอ้ มผา้ ทาน้า ยาสระผมได้ สรรพคุณ : ราก กระทงุ้ พษิ ถอดพษิ สาแดง แกล้ มจุกเสียด แกพ้ ษิ ฝภี ายใน แก้ เสมหะเปน็ โทษ ลกู มะกรดู นามามกั ดองทาเป็นยาดองเปรยี้ วเค็ม รับประทานเปน็ ยา ฟอกลา้ งและบารงุ โลหติ ลกู มะกรดู นีถ้ ้าเอามาเผาไฟ ก่อนเผาคว้าน เอาไส้ในออก แล้วเอามหาหงิ คุ์ใส่ในกลางผล สุมไฟให้เกรียมจนกรอบ บดเป็นผงละเอียด ละลายกับนา้ ผึง้ ป้ายลิ้นเด็กทค่ี ลอดใหม่ขบั ผายลม ดนี กั แกป้ วดท้อง ผิวของลกู มะกรูด ปรงุ เป็นยาลม ขบั ลมในลาไส้ ขบั ระดู
บทที่ 3 วัสดอุ ปุ กรณ์ และวิธกี ารทดลอง อปุ กรณแ์ ละสารเคมี อุปกรณ์ 1. หม้อ 2. กรวย 3. ขวดสเปรย์ 4. ภาชนะตวง วสั ดแุ ละสารเคมี 1. ตะไคร้ 30 กรมั 2. ใบมะกรดู 30 กรัม 3. ใบเตย 30 กรมั 4. . แอลกอฮอร์ 600 มลิ ลิลติ ร (เจือจาง 70%) วิธีการทดลอง 1.นาใบเตย ตะไคร้ ใบมะกรูดมาหั่นเป็นช้ินเลก็ ๆเพ่อื ให้สมนุ ไพรสามารถออกกลน่ิ ได้เรว็ กวา่ การท่ีต้มโดยไมห่นั ใบเตย ตะไคร้ ใบมะกรูด
2.ตม้ แอลกอฮอร์แลว้ นาสมุนไพรทงั้ 3 ชนิดลงไปตม้ ตม้ ใบเตยกับแอลกอฮอร์ ต้มตะไคร้กบั แอลกฮอร์ ตม้ ใบมะกรดู กบั แอลกอฮอร์ 3. ทง้ิ ไว้ให้เยน็ แล้วกรองกากสมุนไพรออก จากน้ันสามารถบรรจุลงขวดสเปรยไ์ ด้ทนั ที
บทท่ี 4 ผลการทดลอง จากการทดลองเรื่อง สเปรย์สมนุ ไพรปรบั อากาศทาให้คณะผจู้ ดั ทาได้สารวจประสิทธภิ าพของ สเปรยส์ มุนไพรปรบั อากาศ จากการเปรียบเทียบประสิทธิภาพจะเห็นได้ดังน้ี ชนิดของสมนุ ไพร ครัง้ ที่ 1 ผลการทดลอง ครง้ั ท่ี 3 มกี ลิ่นเลก็ นอ้ ย คร้ังที่ 2 ไมม่ กี ลนิ่ 1.ใบเตย มกี ลนิ่ เลก็ น้อย 2.ใบมะกรดู ไมม่ กี ลิน่ มีกลนิ่ เลก็ นอ้ ย ไมม่ ีกลน่ิ 3.ตะไคร้ มกี ล่นิ เล็กน้อย มกี ลน่ิ เลก็ น้อย มีกลิ่นเลก็ น้อย จากการทดลองสรุปได้ว่า สเปรยป์ รบั อากาศกลิ่นตะไครส้ ามารถดับกลิน่ ไดต้ งั้ แต่ครั้งแรกทีฉ่ ดี สเปรย์ เพราะขณะสกดั สารคลอโรฟลิ ล์จากมะกรดู มะกรูดใชร้ ะยะเวลาทส่ี ั้นกวา่ สมนุ ไพรทั้ง 2 ชนดิ แลว้ ยังมีกลิ่นที่มปี ระสิทธิภาพในการดับกลน่ิ กว่าสมนุ ไพรทัง้ 2 ชนิด
บทท่ี 5 สรุปผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง สรปุ ไดว้ า่ สารสกดั สมุนไพรจากผิวมะกรดู ในปรมิ าณ 20 กรมั ตอ่ 200 ลูกบาศกเ์ วนตเิ มตร กาจัดกลิ่น ห้องนา้ ได้ดีทีส่ ุด อภิปรายผลจากการวเิ คราะห์ จากการทดพบว่าสารสกัดสมุนไพรจากผิวมะกรูดในปริมาณ 20 กรมั ต่อ 200 ลุกบาศกเ์ ซนติเมตรกาจัดกลิ่น หอ้ งน้าได้และสามารถนาไปใช้ในสถานทีท่ ีม่ ีกล่ินอับทาใหอ้ ากาศสดช่ืนกาจัดกลนิ่ เหม็นได้ เพราะความ เข้มขน้ ของสารมากจะกาจัดกล่นิ ได้มา ข้อเสนอแนะ - การทดลองในครง้ั น้ีเปน็ การทดลองเปรยี บเทยี บ ควรมีการทดลองเปรยี บเทียบในอัตราส่วนอื่นๆ และควร ศึกษาสมนุ ไพรชนิดอนื่ ๆ ด้วย - ในการสกดั คลอโรฟิลล์ควรระมดั ระวังการใชแ้ อลกอฮอล์เพราะเปน็ สารตดิ ไฟไดง้ า่ ย
อ้างอิง นายสราวุธ สุธรี วงศ์.//2558/07/10//.ออนไลน/์ /http://www.krusarawut.net/wp/?page_id=38 waruneee.//2555/09/16//.ออนไลน/์ /http://waruneee202.blogspot.com/ supat dapan.//2557/11/23//.ออนไลน/์ /http://mysupatsupat1.blogspot.com/
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: