พระคุณตวงเพียบพื้น ภูวดล เต็มตรลอดแหล่งบน บอ่ นใต้ พระเกิดพระก่อชนม์ ชบุ ชีพ มานา เกรงบ่ทนั ลกู ได้ กลบั เตา้ ตอบสนอง พระมหาอุปราชารําพึงถึงพระคุณของพระบิดานั้นว่ามากเท่าผืนดิน เต็มไปตลอดทั้ง เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม เบื้องบนและเบื้องล่าง พระองค์คือผู้ให้ชีวิต ให้การเลี้ยงดูตลอดชีพ เกรงว่าลูกจะไม่ได้ กลับไปทดแทนพระคณุ
ฝ่ังพระนเรศวรและพระเอกาทศรถ ไดย้ กพลข้นึ บกและประทบั คา้ งคืนทปี่ ากโมก เทวัญแสดงเหตุให้ สังหรณ์ เหน็ แฮ เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม เห็นกระแสสาคร หลง่ั ลน้ ไหลลบวนาดอน แดนตก ทิศนา พระแตเ่ พง่ ฤพ้น ท่ีนา้ํ หนองสาย สมเด็จพระนเรศวรทรงสุบินนิมิต พระองค์ทรงเห็นกระแสนํ้าป่าท่วมสูงมาจาก ทิศตะวันตก ทรงเพ่งมองน้าํ ป่านนั้ จนสุดสายพระเนตร
พระกรายกรย่างเยอ้ื ง จรลี เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ลุยมหาวารี เรยี่ วกวา้ ง พอพานพะกุมภลี ์ หนง่ึ ใหญ่ ไสร้นา โถมปะทะเจ้าช้าง จักเคย้ี วขบองค์ กบั กร พระทรงแสงดาบแกว้ เฟ่ืองน้าํ โจมประจักฟันฟอน ราญชพี กันแฮ ต่างฤทธติ์ า่ งรบรอบ ท่งท้องชลธี สระท้านทกุ ถ่ินทา่ ถํา้ สมเด็จพระนเรศวรทรงลุยกระแสนํ้าอันกว้างใหญ่นั้น ได้มีจระเข้ตัวใหญ่กระโจนโถมจะ กัดพระองค์ พระองค์จึงทรงดาบต่อสู้กับจระเข้ ทรงต่อสู้จนนํ้าฟุ้งกระจายกันไปทั้ง สองฝั่งและต่อสู้อย่างสุดกําลังเพื่อหวังเอาชีวิตของอีกฝ่าย เกิดเสียงดังไปทั่วแผ่นนํ้าใน บรเิ วณนนั้
นฤบดีโถมถบี สู้ ศกึ ธาร ฟอนฟาดสุงสุมาร มอดม้วย สายสินธุซ์ ึ่งนองพนานต์ หายเหอื ด แหง้ แฮ พระเร่งปรดี าด้วย เผด็จเส้ยี นเศิกกษยั สมเด็จพระนเรศวรทรงต่อสู้กับจระเข้ในแผ่นนํ้า และสังหารจระเข้นั้นจนตาย ทันใดนั้น เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม นํ้าที่ท่วมป่าก็เหือดแห้งไปทันที พระองค์ทรงดีพระทัยคิดว่านี่ต้องเป็นนิมิตที่ดี จะ สามารถเอาชนะศตั รูได้
ทนั ใดดลิ กเจ้า จอมถวัลย์ เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม สรา่ งผทมถวิลฝนั หอ่ นรู้ พระหาพระโหรพลัน พลางบอก ฝันนา เร็วเร่งทายโดยกระทู้ ท่ถี ้อยตูแถลง ในมูล ฝันแฮ พระโหรเหน็ แจ้งจบ แดไ่ ท้ ถวายพยากรณ์ทลู ฝันใฝ่ น้นั ฤ สุบนิ บดนิ ทร์สูร ธริ าชร้เู ปน็ กล หากเทพสงั หรให้ ทันทีที่พระองค์ทรงตื่น เมื่อทรงทราบพระองค์ว่าเมื่อคืนมีนิมิตฝัน จึงรับสั่งให้เรียกหา โหรมาทํานายฝันที่พระองค์จะเล่า เมื่อโหรทรงรับฟังพระสุบิน ก็เข้าใจมูลเหตุพระสุบิน จึง ถวายคําทํานายว่าพระสุบินนั้นเป็นเทพสังหรณ์ คือ เทวดามาดลใจให้ฝันเพื่อบอก เหตกุ ารณ์อะไรบางอยา่ งใหพ้ ระองค์ทรงทราบ
นุสนธิซ์ งึ่ น่านนํา้ นองพนา สณฑ์เฮย เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม หนปจั ฉิมทศิ า ทว่ มไซร้ คอื ทัพอรริ า- มญั หมู่ นี้นา สมดง่ั ลกั ษณฝ์ ันไท้ ธเรศนั้นอยา่ แหนง ภัยชลา เหตแุ สดงแหง่ ราชพอ้ ง เชษฐ์ผู้ ไดแ้ ก่อปุ ราชา น้ีใหญ่ หลวงแฮ สงครามซึง่ เสดจ็ ครา ศกึ ช้างสองชน แทจ้ ักถงึ ยุทธ์สู้ โหรทํานายต่อว่านํ้าที่ไหลท่วมป่าจากทิศตะวันตกนั้นคือทัพข้าศึกพม่า เป็นจริงตามท่ี พระองค์ทรงพระสุบินเป็นแน่ ส่วนจระเข้ก็คือสมเด็จพระมหาอุปราชาผู้เป็นพี่ชาย สงคราม ครั้งนี้จะเป็นสงครามครั้งใหญ่หลวง เพราะพระองค์จะต้องกระทํายุทธหัตถีกับสมเด็จ พระมหาอปุ ราชา
ซงึ่ ผจญอริราชดว้ ย เดชะ เพื่อพระเดโชชนะ ศกึ น้าํ คอื องคอ์ มิตรพระ จักมอด เมือเฮย เพราะพระหตั ถ์หากหา้ํ หน่ั ด้วยขอคม เบอ้ื งบรมขัตติยท์ อ่ งทอ้ ง แถวธาร พระจกั ไล่ลยุ ลาญ เศิกไสร้ ริปูบร่ อราญ ฤทธ์ริ าช เลยพ่อ พระจกั ชาญชเยศได้ ด่ังท้าวใฝ่ฝัน เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม โหรทํานายต่อว่าพระสุบินที่พระองค์ฆ่าจระเข้ได้ก็คือพระองค์จะสามารถเอาชนะ พระมหาอุปราชาได้ พระองค์ทรงใช้พระแสงของ้าวสังหารพระมหาอุปราชา ส่วนพระสุบิน ที่ว่าพระองค์ทรงฝ่ากระแสนํ้าท่วมไปได้ นั่นคือพระองค์จะไล่รุกข้าศึกจนแตกพ่ายไป ขา้ ศึกไม่สามารถส้พู ระบรมเดชานภุ าพได้ พระองคจ์ ะไดร้ บั ชัยชนะตามที่พระสบุ นิ นมิ ิต
ครัน้ บดินทรด์ าลได้ สดับพยากรณ์ไท้ เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ธริ าชแผ้วพูนเกษม เปรมปรดี ์ปิ ราโมทย์แท้ เพราะพระโหรหากแก้ กลา่ วตอ้ งตามฝัน พระพลันทรงเครื่องตน้ งามประเสริฐเลิศล้น แหล่งหลา้ ควรชม ชืน่ นา สมเดจ็ อนชุ นอ้ งแก้ว ทรงสภุ าภรณ์แพรว้ เพรศิ พรอ้ มเพราตา ยิง่ แฮ เมื่อสมเด็จพระนเรศวรทรงฟังคําพยากรณ์แล้วก็ทรงเบิกบานพระทัยมาก ทรงยินดี มากหากเป็นไปดังคําทํานาย จากนั้นก็ทรงเครื่องแต่งกายอย่างงดงามน่าชื่นชม ส่วน สมเดจ็ พระเอกาทศรถกแ็ ตง่ พระวรกายงดงามเช่นกัน
สองขตั ยิ ายรุ ยาตรา ยงั เกยราชหอทัพ ขนุ คชขับช้างเทยี บ ทวยหาญเพยี บแผ่นภู เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ดูมหิมาดาดาษ สระพราศพรอ้ มโดยขบวน องค์อดศิ วรสองกษัตริย์ คอยนฤขัตรพชิ ัย บัดเด๋ยี วไททฤษฎี พระศรีสารรี กิ บรมธาตุ ไขโอภาสโศภิต ช่วงชวลิตพา่ งยล ส้มเกลี้ยงกลลกุ อ่ ง ฟอ่ งฟ้าฝา่ ยทักษิณ ผินแวดวงตรงทัพ นับ คํารบสามครา เปน็ ทกั ษิณาวรรตเวยี น ว่ายฉวัดเฉวียนอัมพร ผ่านไปอุดรโดยด้าว พลางบพิตรโททา้ ว ท่านตั้งสดดุ ี อยู่นา กษัตริย์ทั้งสองพระองค์คือสมเด็จพระนเรศวรและพระเอกาทศรถ เสด็จฯไปหอเกยเพื่อ ทรงช้าง ขุนคชขับช้างมาเทียบ พร้อมด้วยทหารเต็มแผ่นดินอย่างพร้อมเพรียงเป็นขบวน ทั้งสองพระองค์ทรงคอยพิชัยฤกษ์ แต่ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นพระบรมสารีริกธาตุท่ี ส่องแสงสุกใส ลอยมาจากทิศใต้ หมุนขวาสามรอบเหนือกองทัพแล้วลอยขึ้นไปทาง ทิศเหนอื กษัตรยิ ์ทั้งสองพระองค์ทรงนมัสการและอธิษฐานให้ชนะสงคราม
เคลอ่ื นพลตามเกล็ดนาค ตามเต็มทง่ แถวเถือ่ น เกลื่อนกลน่ แสนยาทพั เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ถบั ปะทะไพรนิ ทร์ ส่วนหัสดินอุภัย เจา้ พระยาไชยานภุ าพ เจ้าพระยาปราบไตรจกั ร ตรบั ตระหนกั สําเนียง เสยี งฆ้องกลองปืนศึก อกึ เอิกกอ้ งกาหลง เร่งคํารนเรยี กมัน ชนั หชู หู างแล่น แปรน้ แปรแ๋ ลคะไขว่ บาทย่างใหญ่ดมุ่ ด่วน ปว่ นกิรยิ ารา่ เริง บาํ เทิงมันครนั่ ครกึ เขา้ สู้ศึกโรมราญ ควาญคัดท้ายบมิอยู่ ววู่ างวง่ิ ฉบั ฉวิ ปลวิ ประเล่ห์ลมพาน กษัตริย์ทั้งสองเคลื่อนทัพตามเกล็ดนาคในตําราพิชัยสงคราม ซึ่งช้างพระที่นั่งทั้งสอง คือ เจ้าพระยาไชยานุภาพและเจ้าพระยาปราบไตรจักรได้ยินเสียงฆ้อง กลอง ปืน ก็ร้อง ขึ้นด้วยความคึกคะนองเพราะตกมัน กางหู ชูหาง ร้องแปร้นแปร๋ วิ่งเข้าสู่ข้าศึกด้วย อาการร่าเรงิ โดยที่ควาญชา้ งบงั คบั ไมอ่ ยู่ ช้างทงั้ สองช้างว่งิ ฉบั ฉิวไปอยา่ งเร็ว
สาํ่ แสะสารแสนยา ขวาซา้ ยแซงหนา้ หลัง ทั้งทวยพลตนขุน เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ถว้ นทกุ มลุ มวลมาตย์ ยาตรบทนั โททา้ ว ดา้ วศึกสู้สองสาร ราญศกึ สู้สองไท้ ไรพ้ ริ ยิ ะแห่หอ้ ม พร้อมแต่กลางควาญคช กําหนดสีโ่ ดยเสรจ็ เหจ็ เขา้ ใกลก้ องหนา้ ข้าศึกดดู าษเดียร ธระเมยี รหมดู่ ัสกร มอญพม่าดาดื่น เดินดจุ คลืน่ คลาฟอง นองนา่ นในอรรณเวศ ตรสั ทอดพระเนตรเนืองบร โล่โรมรอนทวยสยาม หลามเหลือหลั่งค่ังคับ ซบั ซ้อนแทรกสบั สน ยลบเป็นทพั เปน็ กอง ทหารในกองทัพตามทั้งสองช้างไม่ทัน มีเพียงควาญช้าง ท้ายช้าง และกลางช้างที่ โดยเสด็จไป จนทั้งสองช้างเข้าใกล้ถึงทัพหน้าของศัตรู สมเด็จพระนเรศวรและ พระเอกาทศรถ ทอดพระเนตรเห็นข้าศึกที่มีจํานวนมากราวกับคลื่นฟองในนํ้า มีทหารยืน แทรกด้วยอาวธุ เปน็ ทพั เป็นกอง
จ่ึงไทเทเวศอา้ ง สมมุติ เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม มงิ่ มหศิ วรมกุฎ เกศหล้า เถลิงภพแผน่ อยุธย- ยายง่ิ ยศแฮ แสดงพระเดชฟ้งุ ฟา้ เฟื่องด้าวดินไหว โชยงการ ภูวไนยผายโอษฐ์อน้ื ฉช้ัน แกเ่ ทพทกุ ถน่ิ สถาน กมลาสน์ แลนา โสฬสพรหมพมิ าน สดบั ถอ้ ยตแู ถลง เชิญชว่ ยชุมโสตซ้นั สมเด็จพระนเรศวรผู้เป็นดังสมมติเทพ เป็นมิ่งขวัญของประชาชน ขึ้นเป็นกษัตริย์ ของกรุงศรีอยุธยา พระเกียรติยศปรากฏทั่วแผ่นดิน สมเด็จพระนเรศวรได้ทรงอันเชิญ เทพบนสวรรคท์ ง้ั 6 ชั้น และเชิญพระพรหมในพรหมโลก 16 ชั้น ให้มาฟังถ้อยแถลงของ พระองค์
ซงึ่ แสรง้ รงั สฤษฏ์ให้ มาอุบตั ิ เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ในประยูรเศวตฉตั ร สบื เช้ือ หวังผดุงบวรรตั น ตรสั เยศ ยืนนา ทํานกุ พระศาสนเ์ กอ้ื กอ่ สร้างแสวงผล นภา ดลฤ กลใดไป่ชว่ ยแผ้ว มดื ม้วย ใสสรว่างธมุ า ทวยเศิก สมรแฮ มลักเลง็ เหลา่ พาธา ดัง่ นแี้ หนงฉงาย เห็นตระหนกั เนตรดว้ ย การที่เทวดาได้ให้พระองค์มาเกิดในเชื้อกษัตริย์เพื่อให้คํ้าจุนพระรัตนตรัยและ พระพุทธศาสนาให้เจริญยิ่งขึ้น เหตุใดเทวดาทั้งหลายจึงไม่บันดาลให้ท้องฟ้าสว่าง เพื่อใหเ้ หน็ ข้าศึกไดช้ ัดเจน
พอถวายวรวากย์อ้าง โอษฐพ์ ระ เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ดาลมหาวาตะ ต่นื ฟา้ ทรหงึ ทรหวลพะ- พานพดั หาวแฮ หอบธมุ างค์จางเจา้ จรสั ดา้ วแดนสมร ธํารง สารแฮ ภธู รเมลิ อมิตรไท้ เทริดเกล้า ครบสบิ หกฉัตรทรง อุปราช แลฤ บ่จวนบจ่ วบองค์ แต่ตง้ั ตาแสวง พลางเร่งขับคชเตา้ เมื่อสิ้นพระราชดํารัสของพระนเรศวร ก็ได้เกิดพายุพัดเอาฝุ่นและหมอกที่มีหายไป ท้องฟ้า พลันสว่างแจ้งทําให้พระองค์มองเห็นสนามรบได้แจ่มชัด พระนเรศวร ทอดพระเนตรข้าศึก เห็นมีช้างทรง 16 ช้าง แต่กลับไปพบพระมหาอุปราชา จึงทรงไสช้าง ตามหาพระมหาอุปราชา
โดนแขวงขวาทศิ ท้าว ทฤษฎี แลนา เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม บดั ธ เหน็ ขุนกรี หน่ึงไสร้ เถลิงฉตั รจัตรุ พริ ยี ์ เรียงคง่ั ขเู ฮย หนแหง่ ฉายาไม้ ขอ่ ยช้ีเณอนาม คะเนนึก อยนู่ า ปิ่นสยามยลแทท้ า่ น นกั โนน้ ถวลิ ว่าขุนศึกสํา- แลหลาก หลายแฮ ทวยทพั เทยี บพนั ลึก เพง่ เพย้ี งพศิ วง ครบเครอ่ื งอุปโภคโพ้น พระองค์ทรงสังเกตเห็นช้างช้างหนึ่งมีฉัตร 5 ชั้น ต่างจากช้างอื่น ก็ทรงทราบว่า พระมหาอุปราชาประทับนั่งหลังช้างที่อยู่ใต้ต้นข่อย พระนเรศวรทอดพระเนตรเห็น พระมหาอุปราชาห้อมล้อมไปด้วยทหารมากมาย และมีเครื่องสูงครบครัน ดูแตกต่าง กวา่ ชา้ งอื่น
สองสรุ ยิ พงศ์ผ่านหล้า ขับคเชนทรบ์ า่ ยหนา้ แขกเจา้ จอมตะเลง แลนา พักตร์ท่านผ่องฤเศรา้ โซรมปืนไฟไป่ตอ้ ง ไป่เกรงประภาพเท่าเผา้ สู้เสีย้ นไปห่ นี หนา้ นา ไพรีเร่งสาดซอ้ ง ตน่ื เต้าแตกฉาน ผ้านนา สมเด็จพระนเรศวรและพระเอกาทศรถจึงทรงไสช้างพระที่นั่งไปหาพระมหาอุปราชา ทั้ง เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม สองพระองค์ไม่เกรงกลัวสิ่งใด มีพระพักตร์ที่ผ่องใสไม่โศกเศร้า ไม่หนีข้าศึก แม้ศักตรูจะ โหมยงิ ปนื ไฟ กไ็ ม่เกรงกลัว
นฤบาลบพติ รเผา้ ภวู นา ยกแฮ เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ผายสหิ นาทกถา ทา่ นพรอ้ ง ไพเราะราชสภุ า- ษิตส่อื สารนา เสนอบม่ ีข้อข้อง ขนุ่ แคน้ คาํ ไข แหลง่ ตะเลง โลกฤ อ้าไทภธู เรศหล้า ยา่ นแกลว้ เผยพระยศยนิ เยง หวั่นเดช ทา่ นนา สิบทิศท่วั ลือละเวง เผอื ดกล้าแกลนหนี ไป่เร่มิ รอฤทธ์แิ ผ้ว สมเด็จพระนเรศวรได้ตรัสต่อพระมหาอุปราช่ด้วยถ้อยคําที่ไพเราะ สื่อสารด้วยเสียงท่ี ไม่มีความขุ่นแค้นว่า กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดินมอญ มีเกียรติยศไปไกลสิบทิศ ใครได้ยนิ ก็กลวั พระเดช ไมก่ ล้าร่วมรบดว้ ยและหนไี ป
พระพีพ่ ระผผู้ ่าน ภพอุต- ดมเอย เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ไป่ชอบเชษฐย์ นื หยดุ ร่มไม้ เชิญราชรว่ มคชยุทธิ์ เผยยอเกียรติ ไวแ้ ฮ สืบกว่าสองเราไสร้ สดุ สนิ้ ฤมี อวสาน น้นี า หสั ดีรณเรศอา้ ง ห่อนพอ้ ง นับอนาคตกาล คชคู่ กนั แฮ ขตั ติยายุทธ์บรรหาร ตราบฟา้ ดนิ กษัย คงแต่เผือพนี่ ้อง พระพี่ผู้ปกครองแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ควรที่จะยืนหยุดอยู่ใต้ร่มไม้ ขอเชิญ พระองค์มาทํายุทธหัตถีร่วมกัน ให้เป็นเกียรติยศศักดิ์ศรีไว้ ต่อไปจะไม่มีการรบนี้อีกแล้ว การชนช้างในการรบนี้จะสิ้นสุดลงคราวนี้ นับแต่นี้ไปจะไม่เห็นการทํายุทธหัตถีกันของ กษตั รยิ ์อีก คงจะมแี ค่เราสองพ่ีน้อง ตราบฟ้าดนิ สลาย
ไวเ้ ป็นมหรสพซอ้ ง สขุ ศานติ์ เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม สาํ หรับราชสําราญ เริม่ รงั้ บําเทิงหฤทยั บาน ประดยิ ุทธ์ น้ันนา เสนอเนตรมนษุ ยต์ ั้ง แตห่ ล้าเลอสรวง พรหมมาน ปวงไท้เทเวศท้งั ท่ีนี้ เชญิ ประชมุ ในสถาน ตูตอ่ กนั แฮ ชมชื่นคชบําราญ ชเยศอ้างอวยเฉลิม ใครเช่ียวใครชาญช้ี การกระทํายุทธหัตถีเป็นเหมือนมหรสพเล่นเพื่อความสนุกสนานสําราญของกษัตริย์ เพื่อให้เป็นขวัญตาให้กับเหล่ามนุษย์จนไปถึงเทวดา พระนเรศวรจึงกล่าวทูลเชิญเทวดา และพรหมทั้งหลายให้มาประชุมกันที่นี่เพื่อชมยุทธหัตถี ใครเชี่ยวชาญกว่าขอให้เทวดา ทง้ั หลายอวยพรให้ผ้นู ั้นได้รบั ชนะ
หวงั เริ่มคุณเกยี รติกอ้ ง กลางรงค์ ยืนพระยศอยคู่ ง คู่หลา้ สงครามกษตั ริยท์ รง ภพแผน่ สองฤ สองราชรอนฤทธ์ิรา้ เรอื่ งรู้สรเสริญ ดาํ เนนิ พจน์พากย์พรอ้ ง พรรณนา องคอ์ ัครอุปราชา ท่านแจ้ง กอบเกิดขัตตยิ มา- นะนึก หาญเฮย ขับคชเขา้ ยุทธแ์ ย้ง ดว่ นด้วยโดยถวลิ เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม สมเด็จพระนเรศวรหวังว่า เกียรติยศในการรบนี้จะยืนยงอยู่คู่โลกว่าสองกษัตริย์ได้ทํา สงครามกัน ผู้ใดรู้เรื่องราวก็จะสรรเสริญ เมื่อสมเด็จพระนเรศวรตรัสพรรณนาดังนั้น พระมหาอปุ ราชากท็ รงเหน็ ด้วย ทาํ ใหเ้ กดิ ขตั ติยะมานะอันกล้าหาญ จงึ ขับช้างเขา้ สู้รบ
สองโจมสองจู่จ้วง บาํ รู เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม สองขัตติยสองขอชู เชิดด้ํา กระลึงกระลอกดู ไวว่อง นักนา ควาญขับคชแขง่ คาํ้ เขน่ เข้ียวในสนาม เลอพิศ นาพอ่ งามสองสุริยราชล้าํ ศึกสร้าง พ่างพชั รินทรไพจติ ร รบราพณ์ แลฤ ฤรามเรม่ิ รณฤทธิ์ อ่ืนไทไ้ ปเ่ ทยี ม ทุกเทศทกุ ทศิ อ้าง กษัตริย์ทั้งสองพระองค์สู้รบกันอย่างเต็มความสามารถ รุกกันไปมาอย่างว่องไว ควาญช้างก็ขับช้างทั้งสองเข้าชนกัน กษัตริย์ทั้งสองพระองค์ต่อสู้กันราวกับ พระอินทร์สู้กับไพจิตรสูร หรือราวกับพระรามทําสงครามกับทศกัณฐ์ ไม่มีกษัตริย์ ในประเทศใดจะเทียบได้เลย
ขนุ เสียมสามรรถตา้ น ขุนตะเลง ขุนต่อขุนไปเ่ ยง หย่อนหา้ ว ยอหตั ถ์เทิดลบองเลบง องั กุศ ไกวแฮ งามเรง่ งามโททา้ ว ทา่ นสู้ศึกสาร สมเด็จพระนเรศวรสามารถต้านพระมหาอุปราชาได้ ทั้งสองทรงไม่ได้เกรงกลัวกัน เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม สมเด็จพระนเรศวรใช้พระหัตถย์ กพระแสงของา้ วกวดั ไกวไปมา เพื่อสู้กบั ข้าศกึ
คชยานขตั ติเยศเบื้อง ออกถวลั ย์ โถมปะทะไปท่ ัน เหยยี บยั้ง สารทรงราชรามญั ลงลา่ ง แลนา เสยส่ายทา้ ยทนั ตท์ งั้ คคู้ ้าํ คางเขนิ ดาํ เนนิ หนนุ ถนดั ได้ เชงิ ชิด หน่อนเรนทรทศิ ตกดา้ ว เสดจ็ วราฤทธ์ิ รํารอ่ น ขอแฮ ฟอนฟาดแสงของา้ ว อยู่เพยี้ งจกั รผนั เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ช้างทรงของสมเด็จพระนเรศวรเข้าปะทะไม่ทัน ได้ตั้งหลักให้มั่นคง ตอนนั้นช้างทรง ของพระมหาอุปราชาได้ทีเสยล่าง จึงดันงาและคางช้างทรงของสมเด็จพระนเรศวรเงยขึ้น พระมหาอุปราชาเห็นเป็นโอกาส จึงเงื้อพระแสงของ้าวขึ้นฟันใส่สมเด็จพระนเรศวรอย่าง แรงและเรว็ ราวกบั จกั รหมนุ
เบ้อื งนั้นนฤนาถผู้ สยามนิ ทร์ เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม เบย่ี งพระมาลาผนิ หอ่ นพอ้ ง ศสั ตราวุธอรินทร์ ฤถกู องค์เอย เพราะพระหตั ถ์หากปอ้ ง ปดั ด้วยขอทรง ทวารัติ บดั มงคลพา่ ห์ไท้ สะบดั ตกใต้ แว้งเหว่ยี งเบย่ี งเศียร คอคช เศิกแฮ อุกคลุกพลุกเงยงดั ทว่ งท้อทีถอย เบนบา่ ยหงายแหงนให้ ในขณะนั้นสมเด็จพระนเรศวรทรงเบี่ยงพระมาลาหลบได้ทัน จากนั้นก็ใช้ พระแสงของ้าวปัดป้องออก ทําให้อาวุธของพระมหาอุปราชาไม่โดนพระองค์ ทันใดนั้น ช้างทรงของสมเด็จพระนเรศวรได้แว้งเบี่ยงเศียรสะบัดจนได้อยู่ล่างแล้วใช้งางัดช้างทรง ของพระมหาอปุ ราชาเงยขน้ึ บ้าง
พลอยพลา้ํ เพลียกถา้ ทา่ น ในรณ บดั ราชฟาดแสงพล- พ่ายฟอ้ น พระเดชพระแสดงดล เผดจ็ คู่ เข็ญแฮ ถนัดพระอังสาข้อน ขาดดา้ วโดยขวา อุรารานร้าวแยก ยลสยบ เอนพระองคล์ งทบ ท่าวดิน้ เหนอื คอคชซอนซบ สังเวช วายชวิ าตม์สดุ ส้ิน ส่ฟู ้าเสวยสวรรค์ เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ช้างทรงของพระมหาอุปราชาเสียท่าในการรบ จึงทําให้สมเด็จพระนเรศวรทรงเงื้อ พระแสงของ้าวที่ชื่อว่าพระแสงพลพ่ายฟาดไปที่พระมหาอุปราชา จนถูกที่พระอังสาขาด สะพายแล่ง พระอุระของพระมหาอุปราชาถูกพระแสงของ้าวฟันจนเป็นรอยแผลแยก เอนพระองค์ซบลงบนคอช้างอยา่ งนา่ สงั เวช และสน้ิ พระชนม์ทันทีในสนามรบ
พลอยพลา้ํ เพลียกถา้ ทา่ น ในรณ บดั ราชฟาดแสงพล- พ่ายฟอ้ น พระเดชพระแสดงดล เผดจ็ คู่ เข็ญแฮ ถนัดพระอังสาข้อน ขาดดา้ วโดยขวา อุรารานร้าวแยก ยลสยบ เอนพระองคล์ งทบ ท่าวดิน้ เหนอื คอคชซอนซบ สังเวช วายชวิ าตม์สดุ ส้ิน ส่ฟู ้าเสวยสวรรค์ เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ช้างทรงของพระมหาอุปราชาเสียท่าในการรบ จึงทําให้สมเด็จพระนเรศวรทรงเงื้อ พระแสงของ้าวที่ชื่อว่าพระแสงพลพ่ายฟาดไปที่พระมหาอุปราชา จนถูกที่พระอังสาขาด สะพายแล่ง พระอุระของพระมหาอุปราชาถูกพระแสงของ้าวฟันจนเป็นรอยแผลแยก เอนพระองค์ซบลงบนคอช้างอยา่ งนา่ สงั เวช และสน้ิ พระชนม์ทันทีในสนามรบ
เมื่อทหารพม่าสิ้นแม่ทัพก็หมดกําลังใจพากันถอยหนี กองทัพไทยจึงไล่ลาไปจนถึง เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม นอกเมืองกาญจนบุรี ส่วนสมเด็จพระนเรศวรทรงให้สร้างสถูปสวมพระศพพระมหาอุปราชาไว้ และให้นํา ข่าวการสิ้นพระชนม์ไปแจ้งแก่กรุงหงสาวดีแล้วสมเด็จพระนเรศวรก็ยกทัพกลับอยุธยา พระองค์พระราชทานบําเหน็จความชอบให้ทหารที่ตามพระองค์ทัน ในขณะเดียวกันก็ทรง ลงโทษแม่ทัพที่ตามพระองค์และพระเอกาทศรถไม่ทัน แต่สมเด็จพระวันรัตนั้นได้มาทูล ขอพระราชทานอภัยโทษให้ แสดงใหเ้ ห็นเดน่ ชัดว่าพระองค์ชนะศกึ ครงั้ นด้ี ้วยพระองค์เอง
พระตรโี ลกนาถแผว้ เผด็จมาร เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม เฉกพระราชสมภาร พ่ีน้อง เสดจ็ ไร้พิริยะราญ อรินาศ ลงนา เสนอพระยศยิ่งยินก้อง เกียรติทา้ วทกุ ภาย โรมรอน ผวิ หลายพยหุ ยทุ ธร์ า้ มัว่ มล้าง ชนะอมิตรมวลมอญ เจรญิ ฤทธิ์ พระนา พระเดชบด่ าลขจร เอิกฟ้าดินไหว ไปทัว่ ธเรศออกอ้าง พระพุทธเจ้าผู้สามารถปราบพญามารได้ เฉกเช่นกับสมเด็จพระนเรศวรและ พระเอกาทศรถ ที่ทรงสามารถปราบข้าศึกได้ ทําให้พระเกียรติยศขจรไปทั่ว แม้ว่าจะมี ศัตรูมากมายมารุกราน พระองค์ก็สามารถชนะศัตรูทั้งหลายได้หมด พระองค์ทรงมี พระเดชานุภาพรํ่าลือไปท่ัวทกุ ถ่ินไป
การวเิ คราะหค์ ุณคา่ วรรณคดี เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ลลิ ิตตะเลงพ่าย
คุณค่าด้านวรรณศิลป์ 1. การสรรคํา คือ การเลอื กคาํ ได้เหมาะสม 1.1 การใชค้ าํ ทเี่ หมาะกบั เน้ือเรื่องและบคุ คล เบื้องนน้ั นฤนาถผู้ สยามนิ ทร์ เบยี่ งพระมาลาผนิ หอ่ นพอ้ ง เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ศสั ตราวธุ อรนิ ทร์ ฤถกู องคเ์ อย เพราะพระหัตถ์หากปอ้ ง ปัดดว้ ยขอทรง (การใช้คําราชาศัพทก์ บั ตัวละครท่ีเป็นพระมหากษตั รยิ )์
1.2 การใช้คําทไ่ี มซ่ ้ํากนั แตค่ วามหมายเดียวกนั (ตอ่ ) พระเปรมปราโมทย์น้อม วนั ทนา เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม พลางพระทรงไอยรา ฤทธิ์แกล้ว พระคเชนทรช์ ่ือไชยา- นุภาพ พน้ แฮ อาจเข่นคชศึกแผว้ แผกแพ้ทกุ ภาย เอิกฤทธ์ิ พลายปราบไตรจกั รอา้ ง ทั่วไซร้ อาจปราบคชทุกทิศ วรเสด็จ ทรงนา เอกาทศรถอศิ - ธริ าชเจา้ จอมสยาม นําคเชนทเรศไท้ (ไอยรา คเชนทร์ คช เคชน หมายถงึ ช้าง)
1.2 การใชค้ าํ ทไ่ี มซ่ า้ํ กันแต่ความหมายเดียวกัน (ตอ่ ) พระทรงแสงดาบแก้ว กับกร เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม โจมประจักฟนั ฟอน เฟ่อื งนา้ํ ตา่ งฤทธติ์ ่างรบรอบ ราญชีพ กันแฮ สะท้านทกุ ถิ่นทา่ ถ้ํา ท่งทอ้ งชลธี ศกึ ธาร นฤบดีโถมถบี สู้ มอดมว้ ย ฟอนฟาดสุงสมุ าร หายเหือด แห้งแฮ สายสินธ์ุซึง่ นองพนานต์ เผด็จเส้ยี นเศิกกษัย พระเร่งปรีดาด้วย (ชลธี ธาร สนิ ธ์ุ หมายถงึ นํา้ )
2. การเลน่ เสยี งสมั ผสั >> เสยี งพยญั ชนะ เสียงสระ เสียงวรรณยุกต์ พยัญชนะต้นเสียงเดยี วกัน สระเสยี งเดยี วกัน วรรณยุกตเ์ สียงเรียงกัน กรตระกองกอดแก้ว เรยี มจักรา้ งรสแคล้ว คลาดเคล้าคลาสมร อยู่แม่อยา่ ละหอ้ ย จําใจจรจําจากสรอ้ ย เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ห่อนชา้ คืนสมแม่แล เสียงพยัญชนะ /ก/ - กร กอง กอด แกว้ /ร/ - เรียม รา้ ง รส /คล/ - คลาด เคล้า คลา /จ/ - จํา ใจ จร จาก /อย/ - อยู่ อยา่
3. การใช้โวหาร : การทาํ ใหค้ ําเกดิ ความชดั เจนและเกิดจนิ ตภาพ 3.1 อุปมา >> การเปรยี บสง่ิ หน่งึ เหมือนส่ิงหนึ่ง บญุ เจ้าจอมภพขึน้ แผน่ สยาม แสยงพระยศยินขาม ขาดแกล้ว พระฤทธด์ิ ่งั ฤทธิ์ราม รอนราพณ์ แลฤ ราญอริราชแผว้ แผกแพท้ กุ ภาย -------- พระตรีโลกนาถแผ้ว เผดจ็ มาร เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม เฉกพระราชสมภาร พ่ีน้อง เสด็จไรพ้ ิริยะราญ อรินาศ ลงนา เสนอพระยศยินกอ้ ง เกียรตทิ ้าวทุกพาย ฯ
3.2 อปุ ลกั ษณ์ >> การเปรียบส่งิ หน่ึงเป็นสงิ่ หน่ึง หัสดินปิ่นธเรศไท้ โททรง คือสมิทธมิ าตงค์ หนงึ่ อ้าง หนึง่ คือศิรเิ มขลม์ ง คลอาสน์ มารเอย เศียรส่ายหงายงาคว้าง ไขว่แควง้ แทงโถม 3.3 สัทพจน์ >> การใช้คาํ เลียนเสียงธรรมชาติ เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ชนั หชู หู างแลน่ แปร้นแปรแ๋ ลคะไขว่ บาทย่างใหญ่ดมุ่ ดว่ น
3.4 การใชค้ ําใหเ้ กิดจินตภาพ : รปู รส กล่นิ เสียง สัมผสั การเคล่อื นไหว ปว่ นกิรยิ าร่าเรงิ บาํ เทงิ มันคร่นั ครึก เข้าส้ศู กึ โรมราญ จินตภาพ ควาญคดั ท้ายบมิอยู่ ววู่ างวิง่ ฉับฉวิ ปลวิ ประเลห่ ์ลมพาน การเคล่อื นไหว ส่ําแสะสารแสนยา ขวาซา้ ยแซงหนา้ หลงั เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม
คณุ ค่าด้านเนื้อหา เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม 1. รูปแบบคําประพนั ธ์ : “ลลิ ติ ” (ร่ายสุภาพ+โคลงสุภาพ) 2. องค์ประกอบของเรอื่ ง 2.1 สาระของเรื่อง “การยอพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรในดา้ นการรบ” 2.2 โครงเร่อื ง “เป็นวรรณคดเี ฉลิมพระเกียรติ ซึ่งนาํ มาจากประวัตศิ าสตร์ ในสมยั ของสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช มขี อบเขตกาํ หนด เนือ้ หาไวเ้ พียงเรือ่ งการทําสงครามยุทธหตั ถี”
2.3 ตัวละคร - มคี วามเป็นนกั ปกครองท่ีดี สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช - มีความเปน็ นักรบ - มพี ระปฏภิ าณไหวพริบ พระพพ่ี ระผผู้ ่าน ภพอุต ดมเอย เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ไปช่ อบเชษฐ์ยนื หยดุ รม่ ไม้ เชิญราชรว่ มคชยทุ ธ์ เผยอเกียรติ ไว้แฮ สบื กวา่ สองเราไสร้ สุดสิน้ ฤมี ฯ (ไหวพริบในการใชค้ าํ โน้มนา้ วใจ ให้พระมหาอปุ ราชามาทําศกึ )
2.3 ตวั ละคร อา้ จอมจักรพรรดิผู้ เพญ็ ยศ พระมหาอปุ ราชา แม้พระเสยี เอารส แกเ่ สย้ี น จกั เจบ็ อรุ ะระทด ทุกข์ใหญ่ หลวงนา - มีความเปน็ ลูกกตญั ญู ถนดั ด่งั พาหาเห้ยี น หน่ั กลงิ้ ไกลองค์ ฯ - เปน็ คนมีพระหทยั ออ่ นไหว (พระมหาอปุ ราชาทรงเป็นหว่ งพระบดิ า) กรตระกองกอดแก้ว เรยี มจักร้างรสแคล้ว เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม คลาศเคล้าคลาสมร ฯ จาํ ใจจรจากสร้อย อยู่แม่อยา่ ละหอ้ ย ห่อนช้าคนื สม แม่แล ฯ (พระมหาอุปราชาราํ พงึ รําพนั กับนางสนม)
2.4 ฉากและบรรยากาศ : “ฉากสนามรบ” สองคชชนชาญเชี่ยว เร่ียวรณรงค์เริงแรง แทงถบี ฉัดตะลมุ บอน พมา่ มอญตายกลาด ขา้ ศกึ สาดปนื โซรม โรมกทุ ณั ฑ์ธนู ดูดงั่ พรรษาซ้อง ไป่ตกต้องตนสาร ธมุ าการเกิดกระลบ อบอลเวงฟากฟ้า ดูบร่ ้จู กั หน้า หนงึ่ สน้ิ แสงไถง แลนา ฯ สองโจมสองจ่จู ้วง บํารู เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม สองขตั ตยิ สองขอชู เชดิ ดํา้ กระลงึ กระลอกดู ไววอ่ ง นกั นา ควาญขับคชแข่งคํ้า เข่นเขีย้ วในสนาม ฯ
คุณค่าดา้ นสังคม เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม 1. สะทอ้ นใหเ้ ห็นธรรมชาติของมนุษย์ - มนุษยใ์ ช้การพูดเพ่ือโน้มน้าวใจใหผ้ ู้อ่ืนเห็นด้วยและทําตาม พระพพี่ ระผู้ผ่าน ภพอตุ ดมเอย ไป่ชอบเชษฐ์ยนื หยดุ ร่มไม้ เชญิ ราชร่วมคชยทุ ธ์ เผยอเกยี รติ ไว้แฮ สบื กว่าสองเราไสร้ สุดสิน้ ฤมี ฯ (การใช้คําโน้มน้าวใจ ใหพ้ ระมหาอุปราชามาทําศกึ )
1. สะท้อนให้เห็นธรรมชาติของมนุษย์ - มนษุ ยม์ คี วามเช่ือ องค์อดศิ วรสองกษัตริย์ คอยนฤขตั รพชิ ยั บัดเดย๋ี วไททฤษฎี พระศรสี ารีริกบรมธาตุ ไขโอภาสโศภิต ชว่ งชวลิตพา่ งผล สม้ เกลี้ยงกลกกุ ่อง ฟ่องฟา้ ฝา่ ยทักษณิ ผินแวดวงตรงทพั นบั คาํ รบสามครา เปน็ ทักษิณาวรรตเวยี น ว่ายฉวดั เฉวยี นอมั พร - มนษุ ยม์ ีความกลวั เสยี วดวง แดเอย เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ตกต้อง พระพลนั เหน็ เหตไุ ซร้ สัน่ ซีด พักตร์นา ถนดั ดง่ั ภผู าหลวง เรยี กใหโ้ หรทาย ฯ กระหมา่ กระเหมน่ ทรวง หนกั หฤทัยทา่ นร้อง
2. สะทอ้ นธรรมเนยี มและประเพณใี นการออกรบ เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ฝา่ ยชีพอ่ ทวชิ าชาติ ราชปรุ โิ สดม พรหมพิทยาจารย์ เบกิ โขลนทวารโดย กระทรวง ปวงละว้าเซน่ ไก่ ไขวส่ รวงพลผี สี าง พลาง ธ สง่ แสงอาชญา แต่หลวงมหาวชิ ยั ใจทระนงองอาจ ยาตรตัดไมข้ ม่ นาม ตามตาํ รับไสยเพท 2.1 โขลนทวาร เป็นพิธบี าํ รงุ ขวญั ทหารเมอื่ ยกทัพออกจากเมืองโดยทําซ้มุ ประตูใหท้ หาร ลอดสองขา้ งประตทู าํ เปน็ ร้านนัง่ ใหพ้ ราหมณป์ ระพรมนํ้ามนต์ขณะท่ีทหารลอดซมุ้ ประตู และมพี ระสงฆส์ วดชยนั โตเพ่อื เป็นสิริมงคลและให้กําลงั ใจทหารที่ออกรบ
2.2 ตัดไม้ข่มนาม เป็นพิธีบํารุงขวัญทหารก่อนทัพไปปราบศัตรูโดยจัดตั้งโรงพิธี นํา เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ดินเหนียวมาปั้นเป็นรูปคน สมมติเป็นข้าศึก เขียนชื่อ ลงยันต์กํากับ นําไปติดกับต้นไม้ ที่มีชื่อพ้องหรือใกล้เคียง กับชื่อข้าศึก นําต้นไม้ไปปักลงหลุมในโรงพิธี พอได้ฤกษ์ผู้ท่ี ได้รับมอบอํานาจจากพระมหากษัตริย์จะเชิญพระแสงดาบ ฟันไม้และรูปปั้นข้าศึก แล้ว กลับไปทลู กษัตริย์วา่ ไดเ้ อาชนะข้าศึกตามพระกระแสรับส่งั แล้ว 2.3 ละว้าเซ่นไก่ เป็นพิธีบํารุงขวัญทหารอีกพิธีหนึ่ง พิธีนี้เป็นพิธีบวงสรวงเทวดาและ เจ้าป่าของชาวละว้า ผู้ทําพิธีจะตั้งเครื่องสังเวย บวงสรวงเทวดา ขอให้งานสําเร็จลุล่วง แล้วเสี่ยงทายโดยถอดกระดูกคางไก่ที่ใช้เป็นเครื่องเซ่น ถ้ากระดูกยาวเรียว มีข้อถี่ถือ เป็นนิมติ ดี
3. สะท้อนความเชื่อของสงั คมไทย 3.1 ความเช่อื เรอ่ื งลางบอกเหตุ เกดิ เป็นหมอกมดื หอ้ ง เวหา หนเฮย ลมชอ่ื เวรัมภา พดั คลมุ้ หวนหอบหกั ฉตั รา คชขาด ลงแฮ แลธลุ ีกลดั กลมุ้ เกล่ือนเพย้ี งจกั รผัน ลมเวรมั ภาเปน็ ลมร้าย ซ่ึงพดั ฉัตรพระมหาอปุ ราชาหักเป็นลางบอกเหตทุ ี่ไมด่ ี เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม
3.2 ความเชื่อเรือ่ งความฝัน เทวญั แสดงเหตุให้ สังหรณ์ เห็นแฮ เห็นกระแสสาคร หลั่งล้น ไหลลบวนาดอน แดนตก ทศิ นา พระแตเ่ พ่งฤพน้ ทนี่ ํ้านองสาย พระนเรศวรทรงพระสุบนิ ว่ามีนาํ้ ปา่ มาจากทางทศิ ตะวนั ตกและมจี ระเข้หมายจะทําร้าย เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม พระองค์ ซ่งึ ฝันคร้งั นีเ้ ป็นฝันประเภท เทพสงั หรณ์ [เทวโตปสังหรณ]์ คอื ความฝันทเี่ ทวดานาํ ข่าวมาบอก
4. คติธรรมทใ่ี ช้ในการดาํ เนินชีวิต 1. ความกตัญญขู องพระมหาอปุ ราชา 2. ความกล้าหาญของสมเดจ็ พระนเรศวร 3. ความมีปฏิภาณไหวพริบของพระนเรศวร เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม
เพจภาษาไทยไมจ่ ๊กั เดยี ม ิล ิลตตะเลง ่พาย
Search